Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วย6_สิทธิมนุษยชน

หน่วย6_สิทธิมนุษยชน

Published by koojeeza, 2020-06-15 06:57:55

Description: หน่วย6_สิทธิมนุษยชน

Search

Read the Text Version

สทิ ธิมนุษยชนใน ความหมาย ความสาคญั แนวคิด สงั คมไทยและ และหลกั การของสทิ ธมิ นุษยชน สงั คมโลก ป ฏิ ญ ญ า ส า ก ล ว่ า ด้ว ย สิ ท ธิ มนุษยชนแห่งสหประชาชาติ บทบาทขององคก์ ารระหว่างประเทศใน เวทีโลกท่ีมีผลตอ่ ประเทศไทย บทบญั ญตั ขิ องรฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศกั ราช 2560 เกี่ยวกบั สิทธิมนุษยชน ปั ญหาสิทธิมนุษยชนในประเทศและ แนวทางแกป้ ัญหาและพฒั นา

ความหมายและความสาคัญของสทิ ธมิ นษุ ยชน • พระราชบัญญตั ิคณะกรรมการสทิ ธิมนษุ ยชนแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ ไดใ้ ห้ความหมายของสิทธมิ นษุ ยชนว่า หมายถึง ศักด์ศิ รีความเปน็ มนษุ ย์ สิทธิ เสรีภาพและความเสมอภาคของบคุ คลท่ีได้รับการรบั รองหรอื คุ้มครองตามรัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย หรือตามกฎหมายไทย หรือตามสนธสิ ญั ญาที่ประเทศไทยมีพันธกรณีทจ่ี ะตอ้ งปฏิบัติตาม ซงึ่ มคี วามสาคัญ คือ ๑ มนษุ ย์ทกุ คนมีสทิ ธิ เสรภี าพในชีวิต สามารถปกป้องตนเองไดอ้ ย่างมีศกั ดิศ์ รี มอี านาจในการตดั สนิ ใจโดยอยู่ บนพน้ื ฐานของความถูกต้องและเปน็ ธรรม ๒ มนษุ ยท์ ุกคนมอี สิ ระทางความคดิ สรา้ งสรรคผ์ ลงาน ประดิษฐค์ ิดคน้ เทคโนโลยีทท่ี นั สมยั รวมทง้ั พัฒนา ศักยภาพของตนเองได้อย่างเสรี โดยไม่ละเมดิ สิทธขิ องบคุ คลอน่ื ๓ มนุษย์ทุกคนมีคุณคา่ ในตนเอง มเี กยี รติภมู ทิ ่ีเกดิ เปน็ มนษุ ย์ ยอมรับความเปน็ มนุษย์ ศักดศ์ิ รี ชาติกาเนิด สิทธติ า่ งๆ ทม่ี พี น้ื ฐานมาจากความชอบธรรม ตามสิทธทิ ีไ่ ดม้ าตง้ั แตก่ าเนดิ

แนวคิดและหลกั การของสทิ ธมิ นุษยชน • คณะกรรมการสทิ ธิมนษุ ยชนแห่งชาติ เปน็ องคก์ รในการทาหนา้ ทด่ี แู ลดา้ นสทิ ธมิ นษุ ยชนในประเทศไทย โดยพระราชบัญญัติ คณะกรรมการสทิ ธมิ นุษยชนแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ ไดก้ าหนดใหม้ ีหน้าที่ในการส่งเสริมการเคารพ และการปฏิบตั ติ ามหลักสิทธิ มนษุ ยชนท้งั ในระดับประเทศและระหว่างประเทศ ดแู ลและตรวจสอบการกระทา หรอื การละเลยการกระทา อันเป็นการละเมดิ สิทธิมนษุ ยชน หรือที่ไมเ่ ป็นไปตามพันธกรณรี ะหวา่ งประเทศเกย่ี วกบั สิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยเข้ารว่ มเป็นภาคี • นอกจากนปี้ ระเทศไทยเป็นประเทศภาคีช้ันแนวหน้าขององค์การสหประชาชาตทิ รี่ ับรองหลกั การค้มุ ครองสิทธิมนษุ ยชน ท่สี มชั ชาใหญข่ ององค์การสหประชาชาตไิ ด้ประกาศไวใ้ น “ปฏิญญาสากลวา่ ดว้ ยสิทธิมนุษยชนแหง่ สหประชาชาติ” ตัง้ แต่เม่อื วันท่ี ๑๐ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๔๙๑ เพื่อเปน็ แนวทางใหป้ ระเทศสมาชิกใชเ้ ป็นแนวทางในการปฏิบัติตอ่ พลเมืองของตน และชาวตา่ งชาติที่อาศยั อยู่ในประเทศของตน

ปฏญิ ญาสากลว่าดว้ ยสทิ ธิมนุษยชนแหง่ สหประชาชาติ ความเปน็ มา • ปฏิญญาสากลว่าดว้ ยสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เปน็ ขอ้ ตกลงท่ีองค์การสหประชาชาติไดก้ าหนดขน้ึ ในการวางกรอบ เบอ้ื งต้นเก่ยี วกบั สทิ ธมิ นุษยชนและเป็นเอกสารหลกั ดา้ นสิทธิมนษุ ยชนฉบับแรก ซงึ่ ที่ประชมุ สมัชชาใหญแ่ หง่ สหประชาชาติ ใหก้ ารรับรอง เพื่อให้ประเทศสมาชกิ ท้ังหลายใช้เปน็ แนวทางใน การคุ้มครองดแู ลสทิ ธแิ ละเสรีภาพของพลเมอื งในประเทศ ของตน

สาระสาคัญ • ปฏญิ ญาสากลว่าด้วยสทิ ธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติมวี ตั ถปุ ระสงค์และหลักการทวั่ ไปเก่ียวกบั มาตรฐานดา้ นสทิ ธิมนุษยชน แตไ่ ม่มีพันธะผูกพันในแง่ของกฎหมายระหว่างประเทศประกอบด้วยการรบั รองสทิ ธิมนษุ ยชนในดา้ นต่างๆ จานวน ๓๐ ข้อ สามารถนามาจัดกลมุ่ ได้ เป็น ๔ กลุ่ม คือ ๑ สิทธมิ นุษยชนเบื้องตน้ (ขอ้ ท่ี ๑-๓) ๒ สิทธิพลเมอื งและสทิ ธทิ างการเมือง (ข้อท่ี ๔-๒๓) ๓ สิทธิทางเศรษฐกจิ สงั คม และวฒั นธรรม (ขอ้ ที่ ๒๔-๒๗) ๔ หน้าที่และความรบั ผดิ ชอบของทกุ คนตอ่ ระเบยี บสงั คม และการรับรองสิทธิมนุษยชนและเสรภี าพพนื้ ฐาน ระหวา่ งประเทศ (ข้อที่ ๒๘-๓๐)

บทบัญญตั ขิ องรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทยเก่ียวกับสิทธิมนุษยชน • ในรฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย ฉบบั ปจั จบุ นั ได้ใหค้ วามคุม้ ครองและสง่ เสริมสทิ ธิและเสรีภาพของประชาชนที่เปน็ รูปธรรม มกี ารบัญญตั เิ กยี่ วกับคณะกรรมการสิทธมิ นษุ ยชนแห่งชาติไว้ในหมวด ๑๒ องคก์ รอิสระ ส่วนท่ี ๖ วา่ ดว้ ยคณะกรรมาธิการสิทธิ มนุษยชนแห่งชาติ ตามรัฐธรรมนญู มาตรา ๒๔๖ - ๒๔๗ โดยมีรายละเอียด ดังน้ี คณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชนแห่งชาติ ประกอบด้วยกรรมการ ๗ คน พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งตามคาแนะนา ของวุฒิสภา จากผู้ซึ่งไดร้ ับการสรรหาทมี่ คี วามรหู้ รือประสบการณ์ด้านการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน เปน็ ทีป่ ระจักษ์ เป็นกลางทางการเมือง และซ่ือสัตย์สจุ ริต คณุ สมบตั ิ ลกั ษณะตอ้ งหา้ ม และการพ้นจากตาแหน่งของคณะกรรมการสิทธิมนษุ ยชนแห่งชาติ ใหเ้ ปน็ ไปตาม พระราชบัญญัตปิ ระกอบรัฐธรรมนญู ว่าดว้ ยคณะกรรมการสิทธิมนษุ ยชน กรรมการสิทธิมนุษยชนแหง่ ชาติมวี าระการดารงตาแหนง่ ๗ ปี นับแต่วนั ทพี่ ระมหากษตั รยิ ท์ รงแตง่ ตงั้ และให้ ดารงตาแหนง่ ได้เพยี งวาระเดยี ว สานกั งานคณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชนแหง่ ชาติเป็นหนว่ ยงานทเี่ ป็นอสิ ระในการบรหิ ารงานบุคคล การงบประมาณ และการดาเนินการอ่ืน ท้ังนี้ตามทีก่ ฎหมายบัญญตั ิ

บทบาทขององค์การระหว่างประเทศในเวทโี ลกที่มผี ลต่อประเทศไทย สานักงานขา้ หลวงใหญ่ผ้ลู ี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) บทบาทหนา้ ที่ • ปกปอ้ งและสนบั สนนุ ในกิจการที่เกยี่ วขอ้ งกบั ผู้ล้ภี ยั ทวั่ โลก ตามขอ้ เรยี กร้องของรัฐบาลในแตล่ ะประเทศ • เปน็ ผนู้ าและประสานงานในการรวบรวมความช่วยเหลือจากนานาประเทศ เพอื่ แกไ้ ขปญั หาของผลู้ ้ีภยั ท่วั โลก • ให้ความชว่ ยเหลือตามหลกั มนษุ ยธรรมแกผ่ แู้ สวงหาท่พี ักพิงและบุคคลไรร้ ฐั

องคก์ ารแอมเนสตี อินเตอรเ์ นชนั แนล (AI) บทบาทหนา้ ท่ี • เปน็ อาสาสมคั รระหว่างประเทศทีท่ างานดา้ นสทิ ธิมนษุ ยชน • มีบทบาทในการเผยแพร่และสนบั สนนุ ให้คนตระหนักถงึ การเคารพหลกั สทิ ธิมนษุ ยชน • ให้ความร่วมมือกบั องคก์ ารสหประชาชาติ องค์กรรัฐบาล และองคก์ รเอกชนระหว่างประเทศ เพอ่ื สนบั สนุนเร่ือง สิทธิมนุษยชน

องคก์ ารแรงงานระหวา่ งประเทศ (ILO) บทบาทหน้าท่ี • ช่วยเหลือผู้ใชแ้ รงงานทวั่ โลกให้ได้รับความยุติธรรมจากสงั คม • ช่วยให้ผูใ้ ช้แรงงานมีคุณภาพชวี ติ ความเปน็ อยู่ การศึกษา สาธารณสขุ และการประกอบอาชีพทีด่ ีขึ้น • ขจัดความยากจนและจดั ใหผ้ ้ใู ช้แรงงานมีงานทา • สง่ เสรมิ การฝึกอบรมผใู้ ชแ้ รงงานใหม้ ีประสทิ ธภิ าพ • ดแู ลผู้ใช้แรงงานให้ไดร้ ับความปลอดภัยจากการทางาน • สรา้ งเสรมิ ประชาธปิ ไตยและคมุ้ ครองสทิ ธมิ นุษยชนของผู้ใชแ้ รงงาน

ปญั หาสิทธมิ นุษยชนในประเทศและแนวทางแกไ้ ขปญั หาและพฒั นา ปญั หาการละเมิดสิทธแิ รงงานขา้ มชาติ สาเหตุของปญั หา • การลักลอบเข้ามาทางานในประเทศไทยโดยผดิ กฎหมาย • เกดิ ชมุ ชนแออดั ในเมอื งหลวงและเขตอตุ สาหกรรม • เกิดการแพรก่ ระจายของโรคตดิ ต่อจากกลุ่มผใู้ ชแ้ รงงาน • เกิดปญั หาอาชญากรรมและความรนุ แรง แนวทางการแกไ้ ข • กาหนดนโยบายให้มีการจดทะเบยี นแรงงานขา้ มชาตไิ ดต้ ลอดทั้งปี • ภาครฐั จะต้องจดั ทากลไกคุม้ ครองสทิ ธิของผู้ใช้แรงงานตามกฎหมายทีแ่ รงงานสามารถเขา้ ถงึ ได้จรงิ • มีมาตรการลงโทษทชี่ ัดเจนกบั นายจ้างท่ฝี า่ ฝืนกฎหมาย

ปัญหาการละเมดิ สิทธเิ ด็กและเยาวชน สาเหตขุ องปญั หา • เด็กไมไ่ ด้รับการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐานจากภาครฐั เช่น เดก็ พกิ าร เดก็ ยากจน • เดก็ ถกู ปล่อยปละละเลยไมไ่ ดร้ บั การดูแลเอาใจใส่จากครอบครวั • เด็กถูกกระทาทารณุ กรรมจากบคุ คลในครอบครวั หรือบคุ คลภายนอก แนวทางการแก้ไข • ภาครฐั ควรมนี โยบายจดั กิจกรรมเผยแพร่ความร้แู ละส่งเสริมสทิ ธิเด็ก • ประชาสมั พนั ธข์ ้อมูลข่าวสารเก่ยี วกับสทิ ธเิ ดก็ ออกส่สู าธารณะ • ประสานความร่วมมอื ของทกุ ฝา่ ยในครอบครวั และสงั คมในการแกไ้ ขปญั หาสทิ ธเิ ด็ก

ปญั หาการละเมดิ สทิ ธสิ ตรี สาเหตุของปัญหา • การเลอื กปฏบิ ตั ิทไ่ี มเ่ ปน็ ธรรม • การถูกเอาเปรยี บในการจ้างงานและสวสั ดกิ ารต่างๆ • ความเข้าใจทค่ี ลาดเคล่ือนเก่ยี วกับสทิ ธิของผชู้ ายและผ้หู ญงิ แนวทางการแกไ้ ข • สง่ เสรมิ ความเสมอภาคเทา่ เทียมกนั ของผชู้ ายและผหู้ ญิง • ร่วมกนั รณรงค์ให้คนในสงั คมตระหนักถงึ คณุ ค่าของเพศสตรใี ห้มากขึ้น • มมี าตรการคุ้มครองสิทธิสตรีอย่างเปน็ ระบบและมปี ระสทิ ธิภาพ

อปุ สรรคและการพฒั นาสทิ ธิมนุษยชนในประเทศไทย ภาคเอกชน ภาครัฐ • ส่งเสริมและสนบั สนุนกระบวนการเรียนรสู้ ทิ ธมิ นุษยชนศกึ ษา • สร้างความตระหนกั และจิตสานึกของประชาชนตามหลักสิทธมิ นษุ ยชน • เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนในสังคมมีส่วนรว่ มในการปกปอ้ งคุ้มครองสิทธิ • ผลักดนั กฎหมายให้เกิดการคมุ้ ครองและพิทักษ์สิทธิอย่างเป็นรปู ธรรมมนุษยชน • เผยแพรค่ วามรู้เก่ียวกับเรือ่ งสทิ ธมิ นษุ ยชนให้กับสมาชิกในสังคม • สรา้ งความเขา้ ใจและสง่ เสรมิ แนวคิดสทิ ธิมนุษยชนใหแ้ กค่ นท่วั ไป • รณรงค์ใหป้ ระชาชนตระหนกั ถึงความสาคัญของสิทธิมนุษยชน • ให้ความรว่ มมอื กับหนว่ ยงานของรัฐในเรือ่ งสิทธิมนษุ ยชน ทั้งด้านข้อมูล เน้ือหา และการจัดกจิ กรรม ท่สี ง่ เสรมิ ดา้ นสทิ ธิมนษุ ยชน ภาคประชาชน • ปฏิบตั ิตามกฎหมายอย่างเครง่ ครดั ใชส้ ทิ ธิและเสรภี าพตามท่ีกฎหมายกาหนด • ไมล่ ะเมดิ สิทธิและเสรภี าพของบคุ คลอ่นื • เคารพในความเสมอภาคเท่าเทียมกันของมนุษย์ • ให้ความรว่ มมอื กบั ภาครฐั และภาคเอกชนในการสง่ เสริมสิทธมิ นุษยชน

ขอ้ ตกลงระหวา่ งประเทศ ความหมายของข้อตกลงระหว่างประเทศ ขอ้ ตกลงระหวา่ งประเทศหรอื สนธิสัญญามีความหมายตามทีย่ อมรบั กันทว่ั ไป ดงั นี้ เป็นความตกลงระหว่างรฐั หรือรัฐบาล หมายความวา่ สนธสิ ัญญาน้ันเกิดจากการเห็นพ้องตอ้ งกนั โดยหากเปน็ ขอ้ ตกลง ๑ ของสองฝ่ายจะเรียกวา่ “ข้อตกลงทวิภาค”ี ถ้ามผี ู้เขา้ ตกลงมากกว่าสองฝา่ ยขึ้นไปจะเรียกว่า “ขอ้ ตกลงพหุภาคี” ตาม หลักกฎหมายระหว่างประเทศข้อตกลงระหว่างประเทศจะทาเปน็ ลายลกั ษณ์อักษรหรือไม่กไ็ ด้ ๒ ทาข้นึ ตามกฎหมายระหวา่ งประเทศ ไมใ่ ชต่ ามกฎหมายภายในประเทศของรฐั ใดรัฐหน่งึ ๓ ม่งุ ใหเ้ กิดผลผูกพนั หรอื พนั ธกรณตี ามกฎหมายระหวา่ งประเทศ เชน่ กอ่ ให้เกิดพนั ธกรณีทตี่ อ้ งสง่ ผ้รู ้ายขา้ มแดนใหแ้ กก่ ัน หรอื ตอ้ งนาข้อพพิ าทเสนอตอ่ องคก์ รระหว่างประเทศเพือ่ วินจิ ฉัย เป็นตน้

ความสาคัญของข้อตกลงระหวา่ งประเทศ ขอ้ ตกลงระหวา่ งประเทศเปน็ ประโยชน์และมคี วามสาคัญ ต่อความสัมพนั ธ์ระหวา่ งรัฐตา่ งๆ อยา่ งหลากหลาย ดังนี้ ๑ สามารถรว่ มกันสรา้ งกฎเกณฑใ์ หมข่ องกฎหมาย ให้ทนั กับความตอ้ งการได้โดยไมต่ อ้ งรอใหใ้ ชเ้ วลาพฒั นาจนเกดิ เปน็ จารตี ประเพณเี สยี ก่อน ๒ กดิ การรว่ มมอื กนั ทากจิ การตา่ งๆ ทีร่ ฐั ไม่สามารถทาตามลาพังได้ เช่น ร่วมกันจัดตั้งองค์การสหประชาชาติ หรอื ในระดับภมู ิภาค เชน่ สมาคมอาเซยี น เพ่อื รว่ มกนั ทากจิ การระดบั โลก ๓ ชว่ ยระงับขอ้ พิพาทท่มี ีตอ่ กัน โดยตกลงแลกเปล่ยี นผลประโยชนก์ ัน หรอื หากมขี ้อขดั แยง้ จนไม่สามารถตกลงกนั ได้ กอ็ าจร่วมกันแสวงหาทางระงบั ขอ้ พิพาทโดยสันตวิ ิธี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook