ตวั ชี้ตวั วิเคราะหค์ วามสาคญั และความจาเป็ นที่ตอ้ งธารงรกั ษา ไว้ซ่ึงการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย อันมี พระมหากษตั รยิ ท์ รงเป็ นประมุข (ส 2.2 ม.4-6/3)
ระบอบประชาธปิ ไตย • อานาจอธปิ ไตยเป็นอานาจสงู สุดในการปกครองประเทศ เปน็ อานาจทม่ี าจากปวงชน ผู้ปกครองต้อง ไดร้ ับความยินยอมจากประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศ • รัฐบาลต้องเคารพสิทธิและเสรีภาพข้ันพน้ื ฐานของประชาชน ตอ้ งไมล่ ะเมดิ สทิ ธิ เวน้ แตเ่ พ่อื รักษาความม่นั คงของชาติ • ประชาชนมีสิทธเิ สมอภาคกันทจ่ี ะได้รบั การบริการจากภาครฐั • รฐั บาลยดึ หลกั นติ ิรฐั เป็นบรรทัดฐานในการปกครองประเทศ และในการแก้ไขประเทศ ไมอ่ อกกฎหมายทม่ี ีผล เป็นการลงโทษบุคคลยอ้ นหลัง
ระบอบเผด็จการ • มีผนู้ าหรอื พรรคการเมอื งเพยี งกลุ่มเดยี ว มีอานาจสงู สดุ ในการปกครองประเทศ • การรกั ษาความมั่นคงของผนู้ าสาคัญกว่าการคุ้มครองสิทธิของประชาชน • ผู้นาหรือคณะผู้นาสามารถทจี่ ะอยู่ในอานาจได้ตลอดชวี ติ หรือนานเท่าที่กลุ่มผรู้ ว่ มงานหรือกองทัพใหก้ าร สนบั สนุน ประชาชนทั่วไปไม่มีสิทธทิ ่จี ะเปลี่ยนผู้นาได้ • รัฐธรรมนูญและการเลอื กตง้ั ไมส่ าคัญต่อกระบวนการปกครอง โดยรัฐธรรมนูญ เปน็ เพียงแคร่ ากฐานรองรับอานาจของผู้นาหรอื คณะผูน้ าเท่าน้นั
รปู แบบของรฐั รปู แบบของรัฐแบ่งไดเ้ ปน็ ๒ รปู แบบ เอกรฐั หรือรฐั เด่ียว สหพันธรฐั หรอื รัฐรวม
เอกรฐั หรือรฐั เดย่ี ว • รฐั ทมี่ ีรฐั บาลกลางเพยี งรฐั เดยี วใช้อานาจอธปิ ไตย ประเทศท่ีมรี ปู แบบของรัฐเดยี่ ว เชน่ ปกครองดินแดนท้ังหมด อาจมกี ารกระจาย อานาจให้ทอ้ งถน่ิ ได้บรหิ ารกิจการของทอ้ งถ่นิ ได้ • ราชอาณาจักรสเปน ตามทีร่ ฐั บาลเหน็ สมควร • ญีป่ ่นุ • สาธารณรฐั สงิ คโปร์ • ผลดีทเ่ี กิดจากการปกครองรูปแบบน้ี คือ • ราชอาณาจักรไทย มคี วามเปน็ เอกภาพสูง มีความเป็นปึกแผ่นม่ันคง และประหยัดงบประมาณในการบรหิ ารประเทศ
สหพนั ธรฐั หรือรัฐรวม • รฐั ที่มีรัฐบาลสองระดบั คือ รัฐบาลกลางและรัฐบาล ประเทศท่ีมีรูปแบบของรัฐรวม เชน่ ท้องถ่นิ ของแต่ละมลรัฐ รัฐบาลแตล่ ะระดบั จะใช้ อานาจอธปิ ไตยปกครองตามทร่ี ัฐธรรมนญู กาหนดไว้ • สหรฐั อเมรกิ า • สหพันธรัฐรสั เซีย • ผลดจี ากการปกครองรูปแบบนี้ คือ ทาใหก้ ารปกครอง • มาเลเซีย ส่วนท้องถ่ินเปน็ ไปอย่างทว่ั ถึงสามารถแกป้ ญั หาตา่ งๆ ไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ ประเทศมคี วามเจรญิ ก้าวหน้า
การปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ ์ทรงเปน็ ประมุข • ประมขุ ของประเทศในระบอบประชาธปิ ไตย มรี ูปแบบสาคัญ ๒ รปู แบบ คอื พระมหากษัตรยิ ์ทรงเปน็ ประมขุ และประธานาธิบดี เปน็ ประมุข โดยท้งั ๒ รูปแบบน้ี ประมขุ จะใช้อานาจตามท่รี ฐั ธรรมนูญกาหนดไว้ โดยประเทศท่มี พี ระมหากษตั รยิ ์ทรงเป็นประมขุ พระองคจ์ ะทรงใชอ้ านาจอธิปไตยผ่านสถาบนั การปกครอง ได้แก่ รฐั สภา คณะรฐั มนตรี และศาล โดยมนี ายกรฐั มนตรีเปน็ หัวหนา้ รฐั บาลหรือฝา่ ยบรหิ าร • สถาบันพระมหากษัตริยม์ บี ทบาทสาคัญตอ่ การเมืองการปกครองระบอบประชาธิปไตยในฐานะทีเ่ ป็นสถาบนั ใหค้ วามชอบธรรมแก่ สถาบนั การปกครองอนื่ เป็นสถาบนั ท่อี ยใู่ นฐานะสงู สุดที่จะใหค้ าแนะนาตักเตอื นรัฐบาล อยู่ในฐานะสูงสดุ ในการทจี่ ะแก้ไข วิกฤตการณ์ทางการเมอื งให้ลดความรุนแรงลงหรอื ขจดั ให้หมดไปได้
อานาจนิตบิ ญั ญัติ การใชอ้ านาจอธิปไตย รัฐสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒสิ ภา อานาจหน้าที่ อานาจหน้าท่ี • เสนอและพิจารณากฎหมาย • พิจารณารา่ งพระราชบัญญัติ • ควบคุมการบริหารราชการแผน่ ดนิ • ควบคุมการบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ • มสี ทิ ธเิ ขา้ ชอ่ื เพ่อื ถอดถอนผดู้ ารงตาแหน่งทางการเมอื ง • ควบคมุ การตรากฎหมายท่ขี ดั ต่อรฐั ธรรมนูญ • ควบคุมการตรากฎหมายท่ีขัดหรือแยง้ ต่อรัฐธรรมนญู • มอี านาจในการถอดถอนผดู้ ารงตาแหนง่ ทางการเมอื ง
อานาจบริหาร คณะรัฐมนตรี อานาจหนา้ ท่ี • กาหนดนโยบายการบริหารราชการแผน่ ดินให้มคี วามเปน็ ระเบียบเรยี บรอ้ ย • รกั ษากฎหมายและความสงบเรยี บรอ้ ยเพ่ือใหป้ ระชาชนปลอดภยั ในการดาเนินชีวิต • ควบคุมข้าราชการประจาให้นานโยบายไปปฏิบตั แิ ละประสานงานกบั กระทรวงตา่ งๆ ใหเ้ ป็นไปในทางเดยี วกนั • ออกมตติ ่างๆ เพ่อื ใหก้ ระทรวง กรมตา่ งๆ ถอื ปฏบิ ตั ิและเป็นแนวทางในการบรหิ ารจดั การ • เสนอกฎหมาย พระราชบัญญัติ พระราชบัญญัตปิ ระกอบรฐั ธรรมนูญ รวมท้ังออกพระราชกาหนดใหใ้ ชบ้ งั คับ ดงั เชน่ พระราชบัญญตั ิ ในกรณฉี ุกเฉินรีบด่วนมีความจา เปน็ อันมิอาจหลกี เลย่ี งได้ในอนั ทจ่ี ะรกั ษาความปลอดภยั ของประเทศ ให้ประเทศมีความม่ันคง
อานาจตุลาการ ศาลรฐั ธรรมนูญ • พิจารณาร่างพระราชบัญญตั ิที่ผ่านการเห็นชอบจากรัฐสภา ศาล ศาลยตุ ธิ รรม • พจิ ารณาวนิ ิจฉัยบทบญั ญัตแิ หง่ กฎหมาย • พจิ ารณาปัญหาหนา้ ทข่ี ององคก์ รต่างๆ • พจิ ารณาพพิ ากษาคดที ้ังปวง • พจิ ารณาคดีแพง่ และคดอี าญาทมี่ ีการอุทธรณ์ • พิจารณาคดตี ามทก่ี ฎหมายบัญญัติ ศาลปกครอง • พิจารณาคดที ี่เกีย่ วกับการใช้อานาจทางการปกครองตาม กฎหมายตามทกี่ ฎหมายบัญญัติ ศาลทหาร • พิจารณาคดีอาญาซึ่งผู้กระทาผดิ เปน็ บคุ คลที่อยใู่ น อานาจศาลทหาร
ฐานะและพระราชอานาจของพระมหากษัตรยิ ์ รฐั ธรรมนูญบัญญัตวิ ่า “ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธปิ ไตย อันมีพระมหากษตั รยิ ท์ รงเปน็ ประมขุ ” และ “อานาจอธิปไตยเปน็ ของปวงชนชาวไทย พระมหากษตั ริยผ์ ู้ทรงเปน็ ประมขุ ทรงใช้อานาจน้ันทางรฐั สภา คณะรฐั มนตรี และศาลตามบทบญั ญตั ิแห่งรฐั ธรรมนญู นี้” พระมหากษตั รยิ ข์ องประเทศไทยทรงอย่เู หนือการเมอื ง และทรงมีฐานะและพระราชอานาจตามรฐั ธรรมนูญ ดงั น้ี ๑ ทรงอยู่ในฐานะประมขุ ของประเทศ ๒ ทรงเปน็ กลางและทรงอยเู่ หนือการเมือง ๓ ทรงดารงอยใู่ นฐานะอนั เปน็ ทเ่ี คารพสกั การะ ๔ ทรงเปน็ ตัวแทนของปวงชนชาวไทย ๕ ทรงเปน็ เอกลักษณแ์ ละศนู ย์รวมแห่งความสามัคคี
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: