1 คลิกเลือกข้อความ คลิก Drop Cab (ตวั อักษรขึ้นตน้ ขนาดใหญ่) ท่ี INSERT (แทรก) 2 คลิก Dropped 3 (หล่น) 4 ปรากฏตัวอักษรขนึ้ ต้นขนาดใหญ่ ภาพท่ี 3.57 ขั้นตอนการสร้างตัวอกั ษรขนึ้ ตน้ ขนาดใหญ่ 3.10 การใสล่ ายน้าลงในกระดาษ เอกสารดว่ นมากหรอื ดว่ นทสี่ ดุ สามารถนามาใส่ขอ้ ความหรอื ใสล่ ายนา้ ลงในกระดาษ เพื่อ เปน็ การเนน้ ความสาคัญให้กบั เอกสาร มขี นั้ ตอนการทาดงั ตอ่ ไปน้ี 1. คลิก Watermark (ลายน้า) ที่ DESIGN (ออกแบบ) 2. คลกิ รูปแบบของ Watermark 3. ปรากฏลายนา้ คลกิ Watermark (ลายน้า) ที่ DESIGN (ออกแบบ) 1 คลกิ รปู แบบของ Watermark 2 3 ปรากฏลายนา้ ภาพที่ 3.58 ข้นั ตอนการใสล่ ายนา้ ลงในกระดาษ
3.11 การแทรกรูปภาพลงในเอกสาร เพอื่ ทาให้เอกสารมีความสวยงามและน่าสนใจ จึงมีการแทรกรปู ภาพลงในเอกสาร มวี ธิ ีการ ทาดงั ตอ่ ไปน้ี 3.11.1 การแทรกรปู ภาพจากแหลง่ ขอ้ มลู มขี ้นั ตอนดงั ตอ่ ไปนี้ 1. คลกิ ตาแหน่งวางรูปภาพ 2. คลิก Pictures (รปู ภาพ) ที่ INSERT (แทรก) 3. ปรากฏหน้าต่าง Insert Picture (แทรกรปู ภาพ) 4. คลิกเลอื กแหลง่ ข้อมูล 5. คลิก รูปภาพ ทต่ี ้องการ 6. คลกิ ปมุ่ Insert (แทรก) 7. ปรากฏรปู ภาพถูกแทรก 2 คลกิ Pictures (รปู ภาพ) ที่ INSERT (แทรก) ปรากฏหนา้ ตา่ ง Insert Picture (แทรกรปู ภาพ) 1 คลกิ ตาแหน่งวางรปู ภาพ 3 4 คลิกเลอื กแหลง่ ขอ้ มลู 5 คลกิ รูปภาพ ทีต่ ้องการ 7 ปรากฏรปู ภาพถกู แทรก คลกิ ปมุ่ Insert (แทรก) 6 ภาพท่ี 3.59 ข้นั ตอนการแทรกรปู ภาพจากแหลง่ ข้อมลู
3.11.2 การแทรกรูปภาพจากรปู ภาพออนไลน์ มขี ้นั ตอนดงั ตอ่ ไปน้ี 1. คลกิ Online Pictures (รปู ภาพออนไลน์) ท่ี INSERT (แทรก) 2. ปรากฏหน้าต่างรปู ภาพออนไลน์ 3. พมิ พค์ าที่ค้นหาแล้วกด Enter 4. ปรากฏรปู ภาพออนไลน์ 5. คลิกเลอื กรปู ภาพ 6. คลกิ ปุ่ม Insert (แทรก) 7. ปรากฏหน้าต่างดาวนโ์ หลดรูปภาพ 8. ปรากฏรปู ภาพ คลกิ Online Pictures (รูปภาพออนไลน)์ ท่ี INSERT (แทรก) 1 2 ปรากฏหนา้ ตา่ งรปู ภาพออนไลน์ พมิ พ์คาที่คน้ หาแล้วกด Enter 3 คลิกเลือกรูปภาพ 5 7 ปรากฏหนา้ ต่างดาวน์โหลดรปู ภาพ คลกิ ปมุ่ Insert (แทรก) 6 ปรากฏรปู ภาพ 8 ภาพท่ี 3.60 ขน้ั ตอนการแทรกรปู ภาพจากรปู ภาพออนไลน์
3.12 การแทรกรูปร่างอัตโนมตั ิ การแทรกรปู ร่างอัตโนมัติ เปน็ การแทรกรปู รา่ งสาเรจ็ รปู ท่ี Microsoft Word ซง่ึ รวมหลาย รูปร่างเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อสร้างรปู ร่างทซี่ บั ซอ้ น ใหพ้ รอ้ มใช้งาน ได้แก่ เส้น สี่เหลย่ี ม รปู รา่ งพ้นื ฐาน ลูกศร รปู รา่ งคณติ ศาสตร์ โฟวช์ ารต์ ดาวและป้าย พรอ้ มทงั้ คาอธบิ ายปา้ ย มขี ั้นตอนดังตอ่ ไปนี้ 1. คลกิ Shapes (รูปร่าง) ท่ี INSERT (แทรก) 2. คลกิ เลอื กรปู รา่ ง 3. คลกิ เมาส์วาดรูปร่าง 4. ปรากฏรปู ร่าง 1 คลิก Shapes (รปู รา่ ง) ที่ INSERT (แทรก) 1 ปรากฏรปู รา่ ง คลกิ เมาส์วาดรปู ร่าง 3 2 คลิกเลือกรูปร่าง ภาพที่ 3.61 ขน้ั ตอนการแทรกรปู ร่างอตั โนมัติ
4. การสร้างตาราง ตาราง มลี กั ษณะเป็นช่องสเี่ หล่ียมหลายช่องตดั กัน โดยส่วนประกอบของตาราง มดี งั ตอ่ ไปน้ี 1. เซลล์ (Cell) มีลักษณะเป็นชอ่ งส่เี หล่ียมทเี่ กิดจากการตัดกันระหว่างแถว และช่องสเี่ หลย่ี ม ภายในตาราง 1. ช่องเรยี กว่า 1. เซลล์ 2. แถว (Row) มลี กั ษณะเปน็ ชอ่ งสเี่ หล่ียมแนวนอน จากซ้ายไปขวา ซ่งึ มชี ือ่ แถวเป็นตัวเลข 3. สดมภ์/คอลมั น์ (Column) มีลกั ษณะเป็นช่องส่เี หลย่ี มแนวตั้งจากบนลงล่าง โดยมีชือ่ คอลัมน์เปน็ ภาษาองั กฤษ ซ่งึ ทนี่ ่ี จะใช้คาวา่ คอลัมน์ ในการสร้างตาราง 3 Column 1 2 Row Cell ภาพที่ 3.62 ลกั ษณะตาราง 4.1 การสร้างตาราง ขนั้ ตอนการสรา้ งตารางมหี ลายขนั้ ตอน สามารถทาไดด้ งั ตอ่ ไปน้ี 4.1.1 การสรา้ งตารางดว้ ยเครอื่ งมอื มีขั้นตอนดังตอ่ ไปนี้ 1. คลิก Table (ตาราง) ที่ INSERT (แทรก) 2. ปรากฏชอ่ งตาราง 3. คลิกคา้ งไวพ้ รอ้ มกบั ลากไปตามชอ่ งตารางเพื่อกาหนดคอลมั นแ์ ละแถว 4. ปรากฏตารางท่ีสรา้ ง คลิก Table (ตาราง) ที่ INSERT (แทรก) 1 2 ปรากฏช่องตาราง 3 คลกิ ค้างไวพ้ รอ้ มกบั ลากไปตามชอ่ งตารางเพอื่ กาหนดคอลมั น์และแถว ปรากฏตารางทส่ี ร้าง 4 ภาพที่ 3.63 ขน้ั ตอนการสรา้ งตารางดว้ ยเครื่องมอื
4.1.2 การสร้างตารางด้วยเมนูคาสง่ั มีข้ันตอนดงั ตอ่ ไปน้ี 1. คลกิ Table (ตาราง) ที่ INSERT (แทรก) 2. คลิก Insert Table… (แทรกตาราง) 3. ปรากฏหน้าต่าง Insert Table 4. กาหนดคอลัมนแ์ ละแถว 5. คลกิ OK (ตกลง) 6. ตารางจะถกู สรา้ งขึน้ 1 คลกิ Table (ตาราง) ท่ี INSERT (แทรก) 3 ปรากฏหน้าตา่ ง Insert Table 6 ตารางจะถกู สรา้ งขึ้น กาหนดคอลมั น์และแถว 4 2 คลกิ Insert Table… (แทรกตาราง) คลิก OK (ตกลง) 5 ภาพที่ 3.64 ขนั้ ตอนการสร้างตารางดว้ ยเมนคู าส่งั 4.1.3 การสร้างตารางด้วยปุม๋ เครอ่ื งมอื วาดตาราง มขี นั้ ตอนการทาดงั ตอ่ ไปน้ี 1. คลกิ Table (ตาราง) ที่ INSERT (แทรก) 2. คลกิ Draw Table (วาดตาราง) 3. ปรากฏดนิ สอ 4. วาดตาราง 5. ปรากฏตารางท่วี าด
1 คลกิ Table (ตาราง) ที่ INSERT (แทรก) 5 ปรากฏตารางท่วี าด 2 คลิก Draw Table (วาดตาราง) วาดตาราง 4 3 ปรากฏดนิ สอ ภาพที่ 3.65 ขน้ั ตอนการสรา้ งตารางด้วยปมุ๋ เครอ่ื งมอื วาดตาราง 4.1.4 การสรา้ งตารางดว้ ยแม่แบบตาราง มขี ้ันตอนการทาดงั ตอ่ ไปนี้ 1. คลิก Table (ตาราง) ที่ INSERT (แทรก) 2. คลิก Quick Table (ตารางด่วน) 3. ปรากฏแมแ่ บบ 4. คลิกแมแ่ บบปฏิทนิ 5. ปรากฏปฏิทิน 1 คลิก Table (ตาราง) ท่ี INSERT (แทรก) ปรากฏแมแ่ บบ) ปรากฏปฏทิ ิน 3 5 คลิก Quick Table (ตารางด่วน) 2 คลิกแมแ่ บบปฏทิ ิน 4 ภาพท่ี 3.66 ขั้นตอนการสร้างตารางดว้ ยแมแ่ บบตาราง
4.2 การเลอื กตาราง ในการปรบั แตง่ ตาราง ตอ้ งมกี ารเลอื กเซลล์ก่อนเป็นพื้นฐานในการปรบั แตง่ ตารางสามารถ ปฏิบัตไิ ด้หลากหลายวธิ ดี ังน้ี 4.2.1 การเลอื กเซลล์ มขี นั้ ตอนดังตอ่ ไปนี้ 1. นาเมาส์วางตาแหนง่ มมุ ล่างดา้ นซ้ายของเซลล์ 2. คลิกค้างแลว้ ลากไปทางดา้ นขวา 3. ปรากฏแถบคาดทบั ตาแหนง่ เซลล์ทเ่ี ลอื ก 1 นาเมาสว์ างตาแหนง่ มมุ ลา่ งดา้ นซา้ ยของเซลล์ 2 นาเมาส์วางตาแหนง่ มมุ ล่างด้านซ้ายของเซลล์ ปรากฏมีแทบ็ สีคาดทบั ตาแหนง่ เซลล์ทเี่ ลอื ก 3 ภาพท่ี 3.67 ขนั้ ตอนการเลอื กเซลล์ 4.2.2 การเลอื กแถวตาราง มขี น้ั ตอนดังตอ่ ไปนี้ 1. วางเมาสต์ าแหนง่ ขอบกระดาษลูกศรชด้ี า้ นขวา 2. คลิกหน่ึงครง้ั เพ่ือทาการเลือกแถว 3. ปรากฏมีแทบ็ สีคาดทบั ทง้ั แถว 1 วางเมาสต์ าแหนง่ ขอบกระดาษลกู ศรชด้ี า้ นขวา 2 คลิกหนงึ่ ครง้ั เพื่อทาการเลอื กแถว 3 ปรากฏมีแทบ็ สีคาดทบั ทงั้ แถว ภาพที่ 3.68 ขั้นตอนการเลือกแถว
4.2.3 การเลอื กคอลัมน์ตาราง มขี นั้ ตอนดังตอ่ ไปนี้ 1. วางเมาสเ์ หนอื ตาราง ปรากฏสญั ลักษณล์ ูกศร 2. คลกิ หนง่ึ ครั้งเพื่อทาการเลอื กคอลัมน์ 1 คอลมั น์ 3. คลิกคา้ งท่คี อลมั น์แรกลากไปคอลัมนส์ ดุ ท้ายเพือ่ เลอื กคอลมั น์ทง้ั หมด 1 วางเมาสเ์ หนอื ตาราง ปรากฏสญั ลกั ษณล์ กู ศร 2 คลิกหนง่ึ ครงั้ เพ่ือทาการเลอื กคอลมั น์ 1 คอลัมน์ คลกิ คา้ งทีค่ อลัมนแ์ รกลากไปยังคอลัมนส์ ดุ ทา้ ย 3 ภาพท่ี 3.69 ขนั้ ตอนการเลือกคอลัมน์ตาราง 4.3 การจดั การเซลล์ในตาราง เพอื่ ใหเ้ ซลลเ์ ป็นไปตามทผ่ี ้ใู ช้ตอ้ งการจึงตอ้ งมกี ารจัดการเซลล์ในตารางตามท่ี ต้องการ มขี ัน้ ตอนดงั ตอ่ ไปน้ี 4.3.1 การปรบั ขนาดตารางด้วยเมาส์ มีข้นั ตอนการทาดงั ตอ่ ไปน้ี 1. วางเมาส์มมุ ล่างของตารางปรากฏลกู ศรให้คลกิ ค้างแลว้ ลากเพอ่ื ปรบั ขนาดทัง้ ตาราง ซึ่งจะปรับทั้งคอลมั นแ์ ละแถว 2. วางเมาส์ในเสน้ แบง่ ของคอลมั นป์ รากฏลูกศรให้คลิกคา้ งไว้พรอ้ มทง้ั ลากเพื่อปรบั ขนาดคอลัมน์ 3. วางเมาสใ์ นเส้นแบง่ ของแถวปรากฏลูกศรให้คลกิ คา้ งไว้พรอ้ มทงั้ ลากเพอื่ ปรับ ขนาดแถว
1 คลิกคา้ งแล้วลากเพอื่ ปรับขนาดท้ังตาราง คลิกค้างแลว้ ลากเพอื่ ปรับขนาดคอลมั น์ 2 3 คลกิ ค้างแลว้ ลากเพอื่ ปรับขนาดแถว ภาพที่ 3.70 ขนั้ ตอนการปรบั ขนาดตารางดว้ ยเมาส์ การคลกิ เมาส์คา้ งไวพ้ รอ้ มลากไปทางดา้ นซา้ ยหรือชิดด้านบน จะเป็นการยอ่ หากลากไปทาง ดา้ นขวาหรือชิดดา้ นล่าง จะเป็นการขยาย 4.3.2. การเพม่ิ แถวมีด้วยกนั หลายวธิ ี ดังนี้ 4.3.2.1. การเพมิ่ แถวดว้ ยคียบ์ อรด์ มีข้ันตอนดงั ตอ่ ไปนี้ 1. คลิกเซลลส์ ดุ ท้าย 2. กดปุ่ม Tab ท่ีแป้นพมิ พ์ 3. ปรากฏแถวเพม่ิ ข้นึ กดป่มุ Tab ท่ีแปน้ พมิ พ์ 2 คลกิ เซลลส์ ดุ ท้าย 1 ปรากฏแถวเพ่มิ ข้ึน 3 ภาพที่ 3.71 ข้ันตอนการเพ่ิมแถวด้วยคีย์บอร์ด
4.3.2.2 การเพ่ิมแถวดว้ ยเมนู มีขั้นตอนดงั ตอ่ ไปนี้ 1. คลกิ ตาแหนง่ แถว 2. คลิก Insert Below (เพมิ่ แถวลา่ ง) ท่ี LAYOUT (เคา้ โครง) Row & Columns (แถวและคอลมั น์) มรี ายละเอยี ดดังนี้ Insert Above หมายถึง แทรกแถวบน Insert Below หมายถงึ แทรกแถวลา่ ง Insert Left หมายถึง แทรกคอลมั น์ซา้ ย Insert Right หมายถงึ แทรกคอลมั น์ขวา 3. ปรากฏแถวเพ่มิ ขน้ึ 2 คลิก Insert Below (เพมิ่ แถวลา่ ง) ที่ LAYOUT (เค้าโครง) 1 คลิกตาแหนง่ แถว ปรากฏแถวเพมิ่ ข้นึ 3 ภาพท่ี 3.72 ขน้ั ตอนการเพม่ิ แถวด้วยเมนู 4.3.2.3. การเพม่ิ แถวดว้ ยเคร่ืองมอื มีขนั้ ตอนดงั ตอ่ ไปนี้ 1. วางเมาสต์ าแหนง่ ระหวา่ งแถว 2. คลกิ ระหว่างแถว 3. ปรากฏแถวเพิม่ ขึน้ 1 วางเมาสต์ าแหนง่ ระหว่างแถว คลิก 2 ระหว่างแถว 3 ปรากฏแถวเพมิ่ ขนึ้ ภาพที่ 3.73 ขนั้ ตอนการเพ่ิมแถวด้วยเครอ่ื งมือ
4.3.3 การเพิ่มคอลัมน์ มดี ้วยกันหลายวิธี ดงั น้ี 4.3.3.1 การเพมิ่ คอลมั น์ดว้ ยเมนูคาสง่ั มขี ้นั ตอนดงั ต่อไปน้ี 1. คลกิ ตาแหนง่ คอลมั น์ 2. คลิก Insert Right (แทรกคอลมั นข์ วา) ท่ี LAYOUT (เค้าโครง) 3. ปรากฏคอลมั น์เพม่ิ ขึน้ 2 คลิก Insert Right (แทรกคอลมั น์ขวา) ที่ LAYOUT (เค้าโครง) 1 คลกิ ตาแหนง่ คอลัมน์ 3 ปรากฏคอลมั น์เพิ่มขึ้น ภาพท่ี 3.74 ขน้ั ตอนการเพิม่ คอลัมน์ด้วยเมนู 4.3.2 การเพิม่ คอลัมน์ด้วยเครือ่ งมือ มีข้ันตอนดงั ต่อไปนี้ 1. วางเมาสต์ าแหนง่ ระหว่างคอลมั น์ 2. คลิก ระหวา่ งคอลมั น์ 3. ปรากฏคอลมั น์เพมิ่ ข้นึ 1 วางเมาส์ตาแหน่งระหว่าง คลกิ ระหวา่ งคอลมั น์ 2 คอลัมน์ 3 ปรากฏคอลมั น์เพิ่มขึ้น ภาพท่ี 3.75 ขั้นตอนการเพม่ิ คอลัมน์ดว้ ยเคร่อื งมอื
4.3.4 การเพมิ่ เซลลใ์ หม่ มขี นั้ ตอนดงั ตอ่ ไปน้ี 1. คลิกเซลลท์ ต่ี ้องการ 2. คลิกปุ่ม กล่มุ Rows & Column ท่ี LAYOUT (เค้าโครง) ตวั เลือกการ Insert Cell (แทรกเซลล)์ มีดังนี้ Shift Cells Right หมายถึง เลื่อนไปทางซา้ ย Shift Cells Down หมายถึง เล่ือนเซลล์ลง Insert entire row หมายถงึ เพ่มิ แถว Insert entire column หมายถึง เพ่ิมคอลัมน์ 3. คลกิ Shift Cells Down (เลอ่ื นเซลลล์ ง) 4. คลิกปุ่ม OK (ตกลง) 5. ปรากฏ เซลล์ใหม่เพ่ิมข้ึน 2 คลกิ ปุ่ม กลมุ่ Rows & Column ท่ี LAYOUT (เค้าโครง) คลกิ Shift Cells Down (เลอ่ื นเซลลล์ ง) 3 4 คลิกเซลล์ทต่ี อ้ งการ 1 คลิกปุม่ OK (ตกลก) ปรากฏ เซลล์ใหมเ่ พม่ิ ขน้ึ 5 ภาพท่ี 3.76 ขน้ั ตอนการเพ่ิมเซลลใ์ หม่ 4.3.5 การลบเซลลแ์ ละตาราง ถา้ มกี ารสร้างเซลลห์ รอื ตารางไว้เกินความต้องการ จงึ ตอ้ งทาการลบเซลล์ หรอื ตารางท่ีไมต่ อ้ งการ สามารถทาการลบได้ดงั นี้ 4.3.5.1 การลบตารางทั้งหมด มีขนั้ ตอนดงั ตอ่ ไปนี้ 1. คลกิ เลอื กตารางท้งั หมด 2. คลกิ Delete Table (ลบตาราง) ที่ LAYOUT (เคา้ โครง) ตัวเลือกการลบตารางมี ดงั นี้ Delete Cells… หมายถึง ลบเซลล์ Delete Rows หมายถึง ลบแถว Delete Columns หมายถึง ลบคอลมั น์
Delete Table หมายถงึ ลบตาราง 3. คลิก Delete Table (ลบตาราง) 4. ตารางทง้ั หมดจะถูกลบไป 2 คลกิ Delete Table (ลบตาราง) ท่ี LAYOUT (เคา้ โครง) 3 คลกิ เลือกตารางทงั้ หมด คลิก Delete Table (ลบตาราง) 1 4 ตารางทง้ั หมดจะถูกลบไป ภาพท่ี 3.77 ขน้ั ตอนการลบตารางทงั้ หมด 4.3.5.2 การลบเซลล์ มีขนั้ ตอนดงั ต่อไปนี้ 1. คลกิ เลอื กเซลล์ 2. คลกิ Delete (ลบ) ที่ LAYOUT (เค้าโครง) 3. คลกิ Delete Cells… (ลบเซลล์) ตัวเลือกลบเซลล์ มีดงั นี้ Shift cells left หมายถึง เล่อื นเซลลไ์ ปทางซา้ ย Shift cells up หมายถึง เล่ือนเซลลไ์ ปขัน้ Delete entire row หมายถึง ลบท้งั แถว Delete entire column หมายถงึ ลบทงั้ คอลมั น์ 4. คลกิ Shift cells left (เลื่อนเซลล์ไปทางซ้าย) 5. คลิกปุม่ OK (ตกลง) 6. เซลลท์ างซา้ ย จะเล่ือนมาแทนที่
2 คลิก Delete (ลบ) ที่ LAYOUT (เคา้ โครง) 3 คลกิ Delete Cells… (ลบเซลล)์ คลิกเลือกเซลล์ 1 4 คลิก Shift cells left (เลอ่ื นเซลลไ์ ปทางซา้ ย) เซลล์ทางซา้ ย จะเลื่อนมาแทนที่ 6 5 คลกิ ปุ่ม OK (ตกลก) ภาพที่ 3.78 ขั้นตอนการลบเซลล์ 4.3.6 การผสานเซลล์ มขี ้นั ตอนดงั ตอ่ ไปน้ี 1. คลิกเซลลท์ ต่ี ้องการผสาน 2. คลกิ Merge Cells (ผสานเซลล)์ ท่ี LAYOUT (เคา้ โครง) 3. เซลล์ทเ่ี ลอื กจะผสานรวมกัน 2 คลิก Merge Cells (ผสานเซลล์) ที่ LAYOUT (เคา้ โครง) คลกิ เซลลท์ ่ตี อ้ งการผสาน 1 3 เซลลท์ เี่ ลอื กจะผสานรวมกนั ภาพที่ 3.79 ขน้ั ตอนการผสานเซลล์
4.3.7 การแยกเซลล์ มขี น้ั ตอนดงั ตอ่ ไปน้ี 1. คลกิ เซลลท์ ่ตี อ้ งการ 2. คลิก Split Cells (แยกเซลล)์ ท่ี LAYOUT (เค้าโครง) 3. กาหนดค่าท่ีหน้าต่าง Split Cells (แยกเซลล)์ สามารถกาหนดค่าหน้าตา่ งแยกเซลลด์ งั นี้ Number of column: หมายถงึ จานวนคอลัมน์ Number of rows: หมายถึง จานวนแถว 4. คลิกปมุ่ OK (ตกลง) 5. เซลล์ทเ่ี ลอื กแยก 2 เซลล์ 2 คลิก Split Cells (แยกเซลล)์ ที่ LAYOUT (เคา้ โครง) คลิกเซลล์ที่ต้องการ 1 3 กาหนดคา่ ท่ีหน้าตา่ ง Split Cells (แยกเซลล)์ 4 คลกิ ปมุ่ OK (ตกลง) 5 เซลล์ทเ่ี ลอื กแยก 2 เซลล์ ภาพท่ี 3.80 ขั้นตอนการแยกเซลล์ 4.3.8 การเปลี่ยนทศิ ทางข้อความ มขี น้ั ตอนดังต่อไปนี้ 1. คลิกเซลลท์ ีต่ ้องการ 2. คลิก Text Direction (ทศิ ทางข้อความ) ที่ LAYOUT (เค้าโครง) 3. ทศิ ทางของขอ้ ความเปลี่ยนเป็นแนวตั้ง 4. ปรากฏข้อความในเซลลเ์ ปน็ แนวตั้ง
2 คลิก Text Direction (ทศิ ทาง ขอ้ ความ) ท่ี LAYOUT (เคา้ โครง) คลกิ เซลลท์ ่ีตอ้ งการ 1 ทิศทางของข้อความเปล่ียนเป็นแนวตั้ง 3 4 ปรากฏขอ้ ความในเซลลเ์ ปน็ แนวต้งั ภาพที่ 3.81 ข้นั ตอนการเปลย่ี นทศิ ทางข้อความในตาราง 4.4 การจดั รปู แบบตาราง ในการจดั รปู แบบตารางหรอื ปรับแตง่ ตาราง สามารถกาหนดได้เอง โดยใช้แทบ็ เครือ่ งมอื ออกแบบจัดรูปแบบตารางสาเรจ็ รปู ให้มคี วามสวยงามและรวดเรว็ มขี ้ันตอนดงั ต่อไปน้ี 1. คลกิ เซลลท์ ต่ี ้องการ 2. คลิกปุ่ม กลมุ่ Table Styles (รูปแบบตาราง) ท่ี DESIGN (ออกแบบ). 3. คลิกรปู แบบตาราง 4. ตารางเปลย่ี นรปู แบบ 2 คลิกปุ่ม กลุม่ Table Styles (รปู แบบตาราง) ที่ DESIGN (ออกแบบ) 1 คลิกเซลล์ท่ตี ้องการ คลกิ รปู แบบตาราง 3 ตารางเปล่ยี นรูปแบบ 4 ภาพท่ี 3.82 ขน้ั ตอนการจดั รปู แบบตาราง
5. การสร้างแผนผงั ลาดบั งาน SmartArt (แผนผงั ลาดบั งาน) เป็นการสรา้ งแผนผงั การทางานเป็นลาดบั ขน้ั ตอนดว้ ยการ แสดงเป็นรปู ภาพหรือสญั ลกั ษณท์ ี่ใช้แทนลาดบั หรอื ขั้นตอนในการทางาน โดยมีแม่แบบสาเรจ็ แยก ตามงาน เช่น ผงั การจดั การองคก์ าร ผงั งาน เป็นตน้ มีวิธกี ารสร้างดังตอ่ ไปนี้ 5.1 การสรา้ งแผนผงั ลาดบั งาน มีขน้ั ตอนดังตอ่ ไปน้ี 1. คลกิ SmartArt (แผนผงั ลาดบั งาน) ท่ี INSERT (แทรก) 2. คลกิ Diverging Radial (รศั มีแผอ่ อกจากศูนยก์ ลาง) 3. คลิกปุ่ม OK (ตกลง) 4. ปรากฏแผนผงั ลาดับงาน 5. พมิ พ์ข้อความลงแผนผงั ลาดบั งาน 1 คลิก SmartArt (แผนผงั ลาดับงาน) ที่ INSERT (แทรก) 2 คลิก Diverging Radial (รัศมีแผ่ออกจากศูนยก์ ลาง) คลกิ ปมุ่ OK (ตกลง) 3 4 ปรากฏแผนผังลาดบั งาน พิมพข์ ้อความลงแผนผงั ลาดบั งาน 5 ภาพท่ี 3.83 ข้ันตอนการสรา้ งแผนผงั ลาดบั งาน
5.2 การปรบั แตง่ แผนผงั ลาดับงาน มีขนั้ ตอนดังตอ่ ไปน้ี 1. คลิก Change Colors (เปลยี่ นส)ี ที่ DESIGN (ออกแบบ) 2. คลิกเลอื กมสี สี นั 3. ปรากฏแผนผังลาดบั งานมสี สี ัน คลิก Change Colors (เปล่ียนส)ี ท่ี DESIGN (ออกแบบ) 1 ปรากฏแผนผงั ลาดบั งานมสี สี นั 3 2 คลกิ เลอื กมสี สี ัน ภาพที่ 3.84 ขัน้ ตอนการปรบั แตง่ แผนผังลาดบั งาน 5.3 การเปล่ียนเคา้ โครงแผนผงั ลาดบั งาน มีขน้ั ตอนดงั ต่อไปน้ี 1. คลกิ More (เพม่ิ เติม) ที่ Layouts (เค้าโครง) 2. ปรากฏเคา้ โครงแผนผงั ลาดบั งานเพม่ิ เติม 3. คลกิ เลอื กเค้าโครงแบบใหม่ 4. ปรากฏเคา้ โครงใหม่
1 2 ปรากฏเค้าโครงแผนผงั ลาดบั งานเพมิ่ เตมิ คลกิ More (เพิ่มเตมิ ) ที่ Layouts (เคา้ โครง) 3 ปรากฏแผนผงั ลาดบั งานมสี ีสัน ปรากฏเค้าโครงใหม่ 4 ภาพท่ี 3.85 ขน้ั ตอนการเปลย่ี นเค้าโครงแผนผังลาดับงาน 5.4 การเพ่ิมรปู ร่างแผนผงั ลาดบั งาน มีข้นั ตอนดังต่อไปน้ี 1. คลิกเลอื กรปู รา่ ง 2. คลิก Add Shape (เพิม่ รูปรา่ ง) ท่ี DESIGN (ออกแบบ) 3. ปรากฏรปู ร่างเพิ่ม 2 คลกิ Add Shape (เพิ่มรปู รา่ ง) ที่ DESIGN (ออกแบบ) ปรากฏรปู รา่ งเพม่ิ 1 คลกิ เลือกรปู รา่ ง 3 ภาพที่ 3.86 ข้นั ตอนการเพ่มิ รปู รา่ งแผนผังลาดบั งาน
6. การสร้างแผนภมู ิ Chart (แผนภมู ิ) เป็นการแสดงผลลพั ธ์ของข้อมลู ในรูปแบบทที่ าให้เข้าใจง่าย ประหยดั เวลา ในการอธบิ าย ทาใหก้ ารนาเสนอนา่ สนใจและจดจามากขนึ้ การสร้างแผนภูมิมวี ิธดี ังน้ี 6.1 การสร้างแผนภมู ิ มขี ้ันตอนดงั ตอ่ ไปน้ี 1. คลกิ Chart (แผนภูม)ิ ท่ี INSERT (แทรก) 2. ปรากฏหนา้ ตา่ งแทรกแผนภมู ิ 3. คลกิ Clustered Column (แผนภูมิคอลมั น์แบบกลุ่ม) 4. คลกิ ปมุ่ OK (ตกลง) 5. พิมพ์ข้อมูลหนา้ ตา่ ง Chart in Microsoft Word 6. ปรากฏแผนภมู ทิ เ่ี ลอื ก 2 ปรากฏหน้าต่างแทรกแผนภมู ิ 1 คลกิ Chart (แผนภูมิ) ท่ี INSERT (แทรก) 3 คลิก Clustered Column (แผนภูมคิ อลัมน์แบบกลุ่ม) คลิกปุ่ม OK (ตกลง) 4 พิมพข์ ้อมลู หน้าต่าง Chart 5 in Microsoft Word ปรากฏแผนภูมทิ ่เี ลือก 6 ภาพท่ี 3.87 ขัน้ ตอนการสร้างแผนภูมิ
6.2 การเปลีย่ นลกั ษณะแผนภมู ิ มีขน้ั ตอนดงั ตอ่ ไปนี้ 1. คลกิ More (เพ่มิ เติม) ท่ี Chart Styles (ลกั ษณะแผนภมู ิ) 2. ปรากฏเคา้ โครงแผนภูมเิ พ่ิมเติม 3. คลิกเลอื กเคา้ โครง 4. ปรากฏลกั ษณะแผนภมู ิใหม่ คลิก More (เพิ่มเติม) ที่ Chart Styles (ลกั ษณะแผนภมู )ิ 1 2 ปรากฏลกั ษณะแผนภูมเิ พม่ิ เติม 3 คลกิ เลือกเคา้ โครง 4 ปรากฏลกั ษณะแผนภูมิใหม่ ภาพท่ี 3.88 ข้ันตอนการปรับแตง่ แผนภูมิ
6.3 การเพ่มิ ป้ายชอื่ แผนภูมิ มขี ้นั ตอนดังตอ่ ไปน้ี 1. พิมพแ์ ก้ไขปา้ ยช่อื แผนภูมิ 2. คลกิ Add Chart Element (เพิม่ สว่ นประกอบแผนภมู )ิ ท่ี DESIGN (ออกแบบ) 3. คลกิ Data Labels (ปา้ ยชอ่ื ขอ้ มูล) 4. คลกิ Outside End (ภายนอกส่วนปลาย) 5. ปรากฏปา้ ยชอ่ื ขอ้ มลู คลิก Add Chart Element (เพม่ิ สว่ นประกอบแผนภูม)ิ ท่ี DESIGN (ออกแบบ) 2 3 คลิก Data Labels (ป้ายช่ือขอ้ มลู ) 1 พิมพแ์ กไ้ ขปา้ ยช่ือแผนภูมิ ปรากฏป้ายช่อื ขอ้ มลู 5 4 คลิก Outside End (ภายนอกสว่ นปลาย) ภาพท่ี 3.89 ขน้ั ตอนการเพ่มิ ปา้ ยชอื่ แผนภูมิ
6.4 การเปลย่ี นชนดิ แผนภูมิ มีขนั้ ตอนดังตอ่ ไปน้ี 1. คลกิ Change Chart Type (เปล่ยี นชนิดแผนภมู )ิ ที่ DESING (ออกแบบ) 2. ปรากฏหนา้ ต่าง Change Chart Type (เปลี่ยนชนิดแผนภมู ิ) 3. คลิก Bar (แท่ง) 4. คลกิ Clustered Bar (แผนภมู ิแท่งแบบกลุม่ ) 5. คลิกปุม่ OK (ตกลง) 6. ปรากฏชนิดแผนภูมิแท่ง คลกิ Change Chart Type (เปล่ยี นชนดิ แผนภูมิ) ที่ DESING (ออกแบบ) 1 2 ปรากฏหนา้ ตา่ ง Change Chart Type (เปลย่ี นชนิดแผนภูม)ิ 4 คลกิ Clustered Bar (แผนภูมแิ ท่งแบบกลุม่ ) 3 คลกิ Bar (แท่ง) 5 คลกิ ปมุ่ OK (ตกลง) ปรากฏชนิดแผนภูมิแทง่ 6 ภาพที่ 3.90 ขั้นตอนการเปลยี่ นชนดิ แผนภูมิ
7. การพมิ พเ์ อกสารออกทางเครอ่ื งพมิ พ์ เม่อื ดาเนนิ การพมิ พเ์ อกสารพร้อมทง้ั ตกแต่งรปู แบบเรียบร้อยแล้ว จึงมีการพิมพเ์ อกสารนนั้ ออกทางเคร่อื งพมิ พ์ แตก่ ่อนท่ีจะพิมพเ์ อกสารน้นั ควรตรวจสอบการตั้งค่าตา่ ง ๆ ก่อนพิมพเ์ อกสาร เพือ่ ตรวจความถูกตอ้ งอกี คร้ังหน่งึ น้นั เอง 7.1 ส่วนประกอบหนา้ ต่างการสัง่ พิมพ์ แบ่งเป็น 3 สว่ นด้วยกนั มรี ายละเอยี ดดังตอ่ ไปนี้ 1 พมิ พ์ 1.2 สาเนา พมิ พ์ 1.1 เครือ่ งพิมพ์ 2.1 2 เคร่ืองพิมพ์ 2.2 คุณสมบตั เิ ครื่องพมิ พ์ 3 การต้งั ค่า พิมพ์หน้าท้ังหมด 3.1 พิมพด์ า้ นเดียว 3.3 3.2 หน้า 3.4 เรียงทีละชดุ การวางแนวในแนวต้ัง 3.5 ระยะขอบกาหนดเอง 3.7 3.6 กระดาษA4 3.8 1หนา้ ต่อหน้ากระดาษ 3.9 ตง้ั คา่ หนา้ กระดาษ ภาพที่ 3.91 ส่วนประกอบหนา้ ตา่ งการสั่งพมิ พ์
ส่วนประกอบหน้าต่างการสั่งพมิ พ์ มีรายละเอยี ดดงั ต่อไปน้ี 1. Print (พิมพ)์ เพือ่ ทาการสง่ั ใหพ้ มิ พห์ ลงั จากกาหนดคา่ ตา่ ง ๆ เรียบร้อย ประกอบด้วย 1.1 Print หมายถงึ สง่ั พมิ พห์ ลังต้ังค่าเสร็จแลว้ 1.2 Copies หมายถงึ กาหนดจานวนสาเนากระดาษ ปกตจิ ะพมิ พ์ 1 ชดุ หากตอ้ งการพมิ พ์มากกว่า 1 ชุด ใหร้ ะบจุ านวนแผน่ ทตี่ ้องการทาสาเนา 2. Printer (เคร่อื งพมิ พ)์ เปน็ ส่วนของการเลอื กเคร่ืองพมิ พส์ าหรบั ทาการพมิ พ์ ขอ้ มูลออกทางกระดาษ 2.1 Printer หมายถึง เลอื กเคร่ืองพิมพ์ทพี่ ว่ งไว้กับเครอื่ งคอมพิวเตอร์ 2.2 Printer Properties หมายถงึ คณุ สมบตั ิเครอื่ งพมิ พ์ เปน็ การกาหนด คณุ สมบตั ิใหก้ บั เคร่อื งพิมพ์ 3. Settings (การต้ังค่า) เพอื่ ทาการต้ังค่าเกีย่ วกับเอกสารกอ่ นการส่งั พมิ พ์ ซึ่งมกี าร ตัง้ ค่าเอกสารเมอ่ื เปดิ มาดงั น้ี 3.1 Print All Pages (พมิ พห์ นา้ ทงั้ หมด) ซง่ึ เป็นค่ามาตรฐานท่ถี ูกกาหนด ไวเ้ หมอื นมกี ารแสดงเอกสารก่อนการส่ังพมิ พ์ โดยมตี ัวเลือกเพ่ิมเตมิ ดงั นี้ Print Selection หมายถงึ พมิ พส์ ่วนทเี่ ลือก Print Current Page หมายถึง พมิ พห์ น้าปัจจุบัน Custom Print หมายถึง พิมพแ์ บบกาหนดเอง) 3.2 Pages (หนา้ ) ให้พมิ พห์ มายเลขหน้าที่ตอ้ งการสง่ั พิมพล์ งไปในช่องว่าง 3.3 Print One Sided (พมิ พ์ด้านเดียว) เปน็ ค่ามาตรฐานทถ่ี กู กาหนดไว้ โดยมตี ัวเลอื กเพม่ิ เติมดงั นี้ Print on Both Sides หมายถงึ พมิ พท์ งั้ สองด้านโดยพลิกหนา้ ใน แนวยาว Print on Both Sides หมายถงึ พมิ พท์ ้ังสองด้านโดยพลิกหนา้ ใน แนวกวา้ ง Manually Print on Both Sides หมายถึง พิมพท์ ้ังสองด้านดว้ ย ตัวเอง 3.4 Collated (เรยี งทีละชดุ ) เป็นค่ามาตรฐานทถ่ี กู กาหนดไว้ โดยมี ตวั เลอื กเพ่มิ เติมดังน้ี Collated หมายถงึ พิมพแ์ ผ่นงานเรียงทลี ะชดุ Uncollated หมายถึง พมิ พโ์ ดยไม่ตอ้ งเรียงแผ่นงานทลี ะชดุ 3.5 Portrait Orientation (การวางแนวในแนวต้งั ) การตง้ั คา่ การวางแนว กระดาษ ซ่งึ การวางแนวในแนวต้งั จะเปน็ ค่ามาตรฐานทถี่ ูกกาหนดไว้ โดยมีตัวเลอื กเพิ่มเติมดงั นี้ Portrait Orientation หมายถึง การวางแนวในแนวตง้ั Landscape Orientation หมายถึง การวางแนวในแนวนอน
3.6 A4 (กระดาษA4) การตง้ั ขนาดกระดาษ ซึ่ง A4 เป็นกระดาษที่ถกู ตั้ง เปน็ คา่ มาตรฐานในการพมิ พเ์ อกสาร โดยมีขนาดกระดาษตา่ ง ๆ ใหเ้ ลอื กตามการใช้งาน 3.7 Custom Margins (ระยะขอบกาหนดเอง) การตง้ั คา่ ระยะ ขอบกระดาษ ซงึ่ ระยะขอบจะถูกตงั้ คา่ ท่ี ปกติจะเป็นค่ามาตรฐานทถ่ี ูกตอ้ งไว้ โดยมีตัวเลือกดงั นี้ Normal หมายถึง ปกติ Narrow หมายถงึ แคบ Moderate หมายถึง ปานกลาง Wide หมายถึง กวา้ ง Mirrored หมายถึง หน้าคู่ 3.8 1 Page Per Sheet (1 หนา้ ต่อหนา้ กระดาษ) การตง้ั คา่ การพิมพ์ ข้อมลู ต่อหนา้ กระดาษ ซงึ่ 1 หน้าตอ่ หน้ากระดาษจะเป็นคา่ มาตรฐานท่ีถกู ตอ้ งไว้ โดยมีตวั เลือก เพม่ิ เตมิ ดังนี้ 2 Page Per Sheet หมายถึง กาหนด 2 หน้าตอ่ หน้ากระดาษ 4 Page per Sheet หมายถงึ กาหนด 4 หน้าต่อหนา้ กระดาษ 6 Page Per Sheet หมายถงึ กาหนด 6 หน้าต่อหน้ากระดาษ 8 Page Per Sheet หมายถึง กาหนด 8 หนา้ ตอ่ หน้ากระดาษ 16 Page Per Sheet หมายถงึ กาหนด 16 หนา้ ต่อหน้ากระดาษ Scale to Paper Size หมายถงึ ปรบั เทา่ ขนาดกระดาษ 3.9 Page Setup (การตงั้ คา่ หนา้ กระดาษ) สาหรบั กาหนดรปู แบบการพมิ พ์ แบบกาหนดเอง 7.2 การตรวจสอบเอกสารกอ่ นสงั่ พิมพ์ ในการแสดงเอกสารก่อนการพิมพเ์ อกสารออกทางเคร่อื งพมิ พ์ เพือ่ ตรวจสอบ เอกสารกอ่ นพมิ พ์ออกมานั้น มวี ิธีการและการตั้งค่าต่าง ๆ มขี ัน้ ตอนดงั ต่อไปน้ี 1. คลิก File (ไฟล์) 2. คลกิ Print (พิมพ์) 3. ปรากฏหน้าตา่ ง Print Preview and Print (แสดงตัวอยา่ งก่อนพิมพ์และพมิ พ)์ 4. คลิก Zoom (ย่อ/ขยาย) เพ่อื ตรวจสอบเอกสาร 5. คลกิ Back (กลบั ) ไปแกไ้ ข
1 คลิก File (ไฟล)์ 3 5 คลิก Back (กลบั ) ไปแก้ไข ปรากฏหนา้ ต่าง Print Preview and Print 2 คลกิ Print (พิมพ์) (แสดงตวั อย่างกอ่ นพิมพ์และพมิ พ)์ คลกิ Zoom (ยอ่ /ขยาย) เพื่อตรวจสอบเอกสาร 4 ภาพท่ี 3.92 ขนั้ ตอนการตรวจสอบเอกสารก่อนสง่ั พิมพ์ 7.3 การส่ังพมิ พเ์ อกสารออกทางเครอื่ งพมิ พ์ เมอ่ื การตรวจสอบเอกสารดว้ ยการแสดงเอกสารกอ่ นการสั่งพมิ พ์เรียบรอ้ ยแลว้ พรอ้ มท่จี ะพิมพเ์ อกสารออกทางเครอ่ื งพมิ พ์ จงึ ตอ้ งมกี ารกาหนดค่าเพ่ือให้สง่ั พมิ พเ์ อกสารออกทาง เครอื่ งพิมพไ์ ด้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ มขี ้นั ตอนดังต่อไปน้ี 1. คลกิ Print (พิมพ์) 2. กาหนดเครือ่ งพมิ พ์ 3. คลกิ ปุ่ม Print (พมิ พ์) คลิก Print (พิมพ์) 1 3 คลกิ ปุ่ม Print (พิมพ์) กาหนดเครื่องพมิ พ์ 2 ภาพที่ 3.93 ขนั้ ตอนการสงั่ พิมพเ์ อกสารออกทางเครอื่ งพมิ พ์
7.4 การยกเลกิ เครื่องพมิ พเ์ มอ่ื ไดส้ งั่ พมิ พ์เอกสารไปแล้ว บางคร้ังเมื่อการสั่งพิมพ์เอกสาร มีปัญหาหรือขัดข้องในขณะสั่งพิมพ์เอกสารออกทาง เครื่องพิมพ์ หรอื เครอื่ งพมิ พ์ไม่พมิ พ์เอกสารออกมาให้ ถ้าสง่ั พมิ พ์ซ้าต่อไปจะมผี ลทาใหเ้ ครอ่ื งพมิ พ์ไม่ ทางาน สามารถทาการยกเลกิ เครอื่ งพิมพ์ทีส่ ่ังพมิ พเ์ อกสารออกไปแล้ว มขี น้ั ตอนการทาดังต่อไปนี้ 1. ดับเบลิ้ คลิกท่ี (เครือ่ งพิมพ)์ ที่ทาสก์บาร์ 2. ปรากฏหนา้ ต่างเคร่อื งพิมพ์ 3. คลกิ ขวาเลอื ก Cancel (ยกเลกิ ) เพ่ือยกเลกิ การสงั่ พมิ พ์ 4. ปรากฏหนา้ ต่างยนื ยนั การยกเลิกการสงั่ พิมพ์ 5. คลิก Yes (ใช่) 6. ไฟลเ์ อกสารจะถูกยกเลิกออกจากหน้าตา่ งเครอ่ื งพมิ พ์ ปรากฏหน้าต่างเครอ่ื งพมิ พ์ 1 ดับเบลิ้ คลกิ ที่ (เครอ่ื งพมิ พ)์ ท่ที าสกบ์ าร์ 2 3 คลิกขวาเลอื ก Cancel (ยกเลกิ ) เพอ่ื ยกเลิกการสงั่ พมิ พ์ ปรากฏหนา้ ต่างยืนยันการยกเลิกการสง่ั พิมพ์ 4 คลกิ Yes (ใช)่ 5 6 ไฟลเ์ อกสารจะถกู ยกเลิกออกจากหน้าตา่ งเครือ่ งพมิ พ์ ภาพที่ 3.94 ขัน้ ตอนการยกเลิกเครอื่ งพมิ พเ์ มอ่ื ไดส้ งั่ พมิ พเ์ อกสารไปแลว้
สรปุ ท้ายหน่วยที่ 3 1. ความหมาย คณุ ลักษณะ และประโยชนของโปรแกรมประมวลผลคา 1.1 ความหมายโปรแกรมประมวลผลคา โปรแกรมประมวลผลคา หมายถึง โปรแกรมท่ีทาหน้าท่ีในการพิมพ์ตัวอักษรแทน เครื่องพิมพ์ดดี และนาตัวอักษรท่ีพิมพ์แต่ละตัวมาเรยี งกันเป็นคาให้อยู่ในรูปแบบท่ีกาหนด สามารถ แก้ไข เปลี่ยนแปลง เพิ่มเติม และลบข้อความได้ตามต้องการ โปรแกรมประมวลผลคา ท่ีใช้ ได้แก่ โปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ด (Microsoft Office Word 2013 เรียกส้ัน ๆ ว่า Word 2013) เป็น โปรแกรมประมวลผลคาแบบพิเศษ ช่วยให้สร้างเอกสารแบบมืออาชีพอย่างมีประสิทธิภาพและ ประหยดั เช่น เหมาะกับงานด้านการพิมพ์เอกสารทุกชนดิ สามารถพิมพ์เอกสารออกมาเปน็ ชดุ ๆ 1.2 คุณลักษณะโปรแกรมประมวลผลคา คุณลักษณะที่ดีของการใชโ้ ปรแกรมประมวลผลคา จะทาใหส้ ามารถทางานได้เร็วขึน้ และงา่ ยข้นึ มีรายละเอยี ดดังนี้ 1.2.1 เรียนร้วู ิธกี ารใชง้ านได้งา่ ย 1.2.2 การจัดรปู แบบของตวั อกั ษรและสญั ลกั ษณ์พเิ ศษต่าง ๆ ได้หลายรปู แบบ 1.2.3 การจดั รปู แบบเอกสารอัตโนมตั ิ 1.2.4 การทางานอตั โนมัติ 1.2.5 การค้นหาและแทนที่คา 1.2.6 จัดการขอ้ มลู อย่างง่ายดาย 1.2.7 การใช้ข้อมลู ร่วมกบั โปรแกรมอนื่ ๆ ได้ 1.2.8 การขอความชว่ ยเหลือ ช่วยให้สามารถเข้าถึงวิธีการใชเ้ ครอื่ งมอื และคาสงั่ ต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งสะดวก รวดเร็วขึ้น 1.3 ประโยชนโ์ ปรแกรมประมวลผลคา มีรายละเอียดดงั น้ี 1.3.1 เหมือนกับการพิมพ์ด้วยเคร่อื งพิมพ์ดีด แต่สามารถบันทึกข้อความเกบ็ ไว้เป็น ไฟล์ข้อมูล 1.3.2 สามารถแก้ไขขอ้ ความทีผ่ ดิ เปลย่ี นแปลงหรอื จัดรปู แบบของเอกสารใหม่ได้ 1.3.3 มีเมนูทงั้ ภาษาไทยและภาษาองั กฤษทช่ี ่วยอานวยความสะดวกในการเรยี กใช้ งาน ตลอดเวลา 1.3.4 บนั ทกึ ข้อมลู เปลี่ยนไดห้ ลากหลายชนดิ 1.3.5 สามารถคานวณหาผลรวมขอ้ มูลเฉพาะขอ้ ความทเ่ี ป็นตวั เลข 1.3.6 สามารถแทรกรปู ภาพ กราฟ หรอื ผงั องค์กรลงในเอกสารได้ 1.3.7 เปน็ โปรแกรมที่ทางานบนวนิ โดว์ 1.3.8 สามารถเรยี กใช้โปรแกรมอนื่ ๆ ทอี่ ยู่ในชดุ โปรแกรม Microsoft Office มาใช่ งานรว่ มกันได้ 1.3.9 สามารถพิมพ์ จดหมายเวยี น
1.3.10 ดูตัวอย่างก่อนพมิ พ์ เพอ่ื ตรวจสอบความถูกตอ้ งและสวยงามก่อนทจ่ี ะสงั่ พมิ พ์ออกมาทางเครื่องพิมพ์ 2. การสรา้ งเอกสารในโปรแกรมประมวลผลคา ในการใชง้ านโปรแกรมประมวลผลคา เพื่อจดั สรา้ งเอกสารนัน้ ต้องรูจ้ กั การเปิดปิดโปรแกรม การบนั ทกึ รวมไปถงึ การทางานของโปรแกรมเบ้อื งตน้ มรี ายละเอยี ดดงั นี้ 2.1 การเรียกใช้โปรแกรม Microsoft Word 2013 2.2 ส่วนประกอบของหนา้ ตา่ งโปรแกรม Microsoft Word 2013 2.3 การเตรียมความพรอ้ มก่อนการใช้งานโปรแกรม Microsoft Word 2013 2.4 การสรา้ งเอกสารใหม่ 2.5 การบันทึกเอกสาร 2.6 การปดิ เอกสาร 2.7 การเปดิ เอกสาร 2.8 การออกจากโปรแกรม Microsoft Word 2013 2.9 การพมิ พ์ข้อความลงในเอกสาร 2.10 การเลือกคาหรือขอ้ ความ 2.11 การคน้ หาและแทนท่ขี อ้ ความ 2.12 การยา้ ย การคดั ลอกและการวาง 3. การจดั การเอกสาร โปรแกรมประมวลผลคา ( Microsoft Word 2013) สามารถทางานตา่ ง ๆ ที่เกยี่ วขอ้ งกับ งานเอกสารได้ มรี ายละเอียดดงั นี้ 3.1 การปรบั ขนาดตวั อกั ษร 3.2 การจัดตาแหนง่ ขอ้ ความ 3.3 การจัดรปู แบบตัวอกั ษร 3.4 การใส่สญั ลกั ษณ์แสดงหัวข้อยอ่ ยและสัญลักษณล์ าดบั เลข 3.5 การแบ่ง Columns (คอลัมน)์ 3.6 การใสเ่ สน้ ขอบหนา้ กระดาษ 3.7 การตรวจการสะกดและแก้ไข 3.8 การสรา้ งและตกแตง่ อกั ษรศลิ ป์ 3.9 การสรา้ งตัวอักษรขน้ึ ตน้ ขนาดใหญ่ 3.10 การใสล่ ายนา้ ลงในกระดาษ 3.11 การแทรกรูปภาพลงในเอกสาร 3.12 การแทรกรปู ร่างอัตโนมตั ิ 4. การสรา้ งตาราง ตาราง มีลกั ษณะเป็นช่องสเี่ หล่ียมหลายช่องตัดกัน โดยสว่ นประกอบของตาราง มดี งั ต่อไปน้ี 1. เซลล์ (Cell) มีลกั ษณะเป็นช่องส่ีเหลี่ยมทเ่ี กดิ จากการตดั กันระหวา่ งแถว และ ช่องส่ีเหลี่ยมภายในตาราง 1. ช่องเรียกว่า 1. เซลล์
2. แถว (Row) มลี กั ษณะเปน็ ช่องสเ่ี หลีย่ มแนวนอน จากซา้ ยไปขวา ซึง่ มชี ่ือแถวเป็น ตวั เลข 3. สดมภ์/คอลมั น์ (Column) มลี กั ษณะเป็นช่องส่เี หลี่ยมแนวต้งั จากบนลงล่าง โดย มชี อ่ื คอลมั นเ์ ป็นภาษาองั กฤษ ซึง่ ทน่ี ่ี จะใช้คาวา่ คอลมั น์ ในการสรา้ งตาราง มีรายละเอยี ดดงั น้ี 4.1 การสรา้ งตาราง 4.2 การเลอื กตาราง 4.3 การจดั การเซลล์ในตาราง 4.4 การจัดรปู แบบตาราง 5. การสร้างแผนผังลาดบั งาน SmartArt (แผนผงั ลาดบั งาน) เปน็ การสร้างแผนผงั การทางานเปน็ ลาดบั ขัน้ ตอนด้วยการ แสดงเปน็ รปู ภาพหรือสญั ลกั ษณ์ทใ่ี ช้แทนลาดบั หรอื ขั้นตอนในการทางาน โดยมีแม่แบบสาเร็จแยก ตามงาน เช่น ผังการจดั การองคก์ าร ผงั งาน เปน็ ต้น มีรายละเอยี ดดงั น้ี 5.1 การสรา้ งแผนผงั ลาดับงาน 5.2 การปรบั แตง่ แผนผังลาดบั งาน 5.3 การเปลี่ยนเคา้ โครงแผนผงั ลาดบั งาน 5.4 การเพิ่มรปู รา่ งแผนผงั ลาดบั งาน 6. การสร้างแผนภูมิ Chart (แผนภูมิ) เปน็ การแสดงผลลพั ธข์ องขอ้ มลู ในรูปแบบทที่ าให้เขา้ ใจง่าย ประหยัดเวลา ในการอธบิ าย ทาให้การนาเสนอน่าสนใจและจดจามากข้นึ มรี ายละเอยี ดดงั นี้ 6.1 การสร้างแผนภมู ิ 6.2 การเปล่ยี นลกั ษณะแผนภมู ิ 6.3 การเพม่ิ ปา้ ยชือ่ แผนภมู ิ 6.4 การเปลย่ี นชนิดแผนภูมิ 7. การพิมพเ์ อกสารออกทางเครอ่ื งพมิ พ์ เมือ่ ดาเนินการพมิ พ์เอกสารพรอ้ มทัง้ ตกแต่งรูปแบบเรยี บร้อยแลว้ จึงมีการพมิ พเ์ อกสารนนั้ ออกทางเคร่ืองพิมพ์ แต่กอ่ นทีจ่ ะพมิ พเ์ อกสารนน้ั ควรตรวจสอบการตง้ั ค่าตา่ ง ๆ กอ่ นพิมพเ์ อกสาร เพ่ือตรวจความถกู ตอ้ งอีกคร้งั หนงึ่ นั้นเอง มรี ายละเอยี ดดงั นี้ 7.1 สว่ นประกอบหนา้ ต่างการสัง่ พิมพ์ 7.2 การตรวจสอบเอกสารกอ่ นสง่ั พมิ พ์ 7.3 การส่ังพิมพเ์ อกสารออกทางเครือ่ งพิมพ์
Search
