56. ในขณะเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมสี ารต้ังต้นจะเปล่ียนไปเป็นสารผลติ ภัณฑห์ ลงั เกดิ ปฏิกริ ิยา ข้อใดกลา่ วถกู ตอ้ ง ก. โครงสรา้ งของเอนไซม์มีการเปลยี่ นแปลงเปลย่ี นไปเป็นสารผลติ ภณั ฑ์ ข. โครงสรา้ งของเอนไซมม์ ีการเปลีย่ นแปลง แต่ยังสามารถกลบั มาเรง่ ปฏิกิริยาไดใ้ หม่ ค. โครงสร้างของเอนไซมไ์ มม่ กี ารเปลี่ยนแปลง และยังสามารถกลับมาเรง่ ปฏกิ ริ ิยาได้ใหม่ ง. โครงสร้างของเอนไซมไ์ ม่มกี ารเปลยี่ นแปลง แตไ่ มย่ งั สามารถกลบั มาเรง่ ปฏิกริ ยิ าไดใ้ หม่
57. ขอ้ ใดไมก่ ล่าวถกู ตอ้ งเกี่ยวกับตัวยบั ยงั้ เอนไซมแ์ บบแขง่ ขนั ก. แยง่ จับกบั บรเิ วณเร่งของเอนไซม์ ข. มลี กั ษณะคล้ายกบั สารต้ังตน้ ของเอนไซม์ ค. ยบั ยัง้ ไมใ่ ห้เอนไซม์จบั กบั สารต้ังตน้ ง. แยง่ จับกับบรเิ วณอน่ื ที่ไม่ใช่บริเวณเร่ง
58. ข้อใด คือ กระบวนการแคแทบอลิซึม ก. การสลายพอลแิ ซก็ คาไรด์ ข. การสังเคราะห์แป้งและไกลโคเจน ค. การสงั เคราะห์ DNA และ RNA ง. การสังเคราะหล์ พิ ิด
59. เอนไซม์ชว่ ยเกดิ ปฏิกิริยาเคมสี ารต้งั ต้นจะเปล่ยี นไปเป็นสารผลติ ภณั ฑ์ ก. เอนไซม์ช่วยเพ่มิ พลังงานกระตุ้น ข. เอนไซม์ช่วยลดพลังงานกระตนุ้ ค. เอนไซม์ช่วยลดการดูดพลงั งาน ง. เอนไซม์ชว่ ยลดการค่ายพลังงาน
60. หากอตั ราการเกิดปฏกิ ริ ิยาถงึ ระดับคงที่ เนื่องจากเอนไซม์ถงึ จุดอิม่ ตัวแล้วนั้น ในเซลล์ ของสงิ่ มีชวี ิตจะมีวธิ ีใดทจ่ี ะสามารถทาใหอ้ ตั ราการเกดิ ปฏกิ ริ ิยาเพม่ิ ขนึ้ ได้ ก. เพิม่ ตวั ยับยัง้ เอนไซม์แบบไม่แขง่ ขนั ข. เพมิ่ ตัวยบั ยง้ั เอนไซม์แบบแข่งขัน ค. เพ่ิมปริมาณของเอนไซม์ ง. ลดปริมาณของเอนไซม์
Search