Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงาน63

รายงาน63

Published by hot lp, 2021-02-24 09:43:55

Description: รายงาน

Search

Read the Text Version

ภาคผนวก ก 1. ดา้ นการจดั การเรยี นการสอน 1.1 การสร้างและหรือพัฒนาหลักสตู ร 1.2 การจัดการเรยี นรู้ 1.2.1 การออกแบบหน่วยการเรยี นรู้ 1.3 คณุ ภาพผ้เู รยี น 1.4 การสร้างและพัฒนาสือ่ นวตั กรรม 1.5 การวดั ผล ประเมินผลการเรียนรู้ 1.6 การศกึ ษาวเิ คราะห์ สังเคราะห์ และหรือวจิ ยั

ลงชือ่ ....................................... (นางธรี ารัตน์ เทือกเถาสาร) โรงเรียนชมุ ชนบา้ นฟอ่ นวิทยา

ลงชือ่ ....................................... (นางธรี ารัตน์ เทือกเถาสาร) โรงเรียนชมุ ชนบา้ นฟอ่ นวิทยา

ลงชือ่ ....................................... (นางธรี ารัตน์ เทือกเถาสาร) โรงเรียนชมุ ชนบา้ นฟอ่ นวิทยา

ลงชือ่ ....................................... (นางธรี ารัตน์ เทือกเถาสาร) โรงเรียนชมุ ชนบา้ นฟอ่ นวิทยา

ลงชือ่ ....................................... (นางธรี ารัตน์ เทือกเถาสาร) โรงเรียนชมุ ชนบา้ นฟอ่ นวิทยา

4 ส่วนท่ี 3 การพัฒนาตนเอง และการประเมินตนเอง 3.1 การประชมุ /อบรม/สัมมนา/การเผยแพรผ่ ลงาน/การเปน็ วทิ ยากร/การแลกเปล่ยี นเรยี นรู้ (1 เมษายน 2563 – 30 กันยายน 2563) คร้งั ที่ วัน เดอื น ปี เร่อื ง สถานท่ี หนว่ ยงานทจ่ี ัด สสวท 1 1 มถิ ุนายน 2563 การจดั การเรยี นรวู้ ิทยาการคานวณ ทบ่ี ้าน เทศบาลเมืองเขลางคน์ คร สาหรับครปู ระถมศึกษาปีท่ี 1-3 มหาวทิ ยาลยั ราชภฎั ลาปาง 2 24 กรกฎาคม 2563 ประชุมเชิงปฎิบัตกิ าร การจดั ทา หอ้ งประชมุ ชมพู เทศบาล สานกั งานป้องกนั ควบคุมโรค ที่ 1เชยี งใหม่ กรมควบคมุ แผน/โครงการกองทุนหลักประกนั เขลางค์นคร โรค กระทรวงสาธารณสขุ มหาวิทยาลยั ราชภฎั ลาปาง สขุ ภาพ ปี 2564 3 29 กรกฎาคม 2563 เข้าร่วมโครงการยกระดบั คณุ ภาพ มหาวทิ ยาลยั ราชภฎั ลาปาง การเรยี นรู้ ด้านการอ่าน การเขยี น และการวเิ คราะห์ของนกั เรยี น ใน ระดบั การจัดการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พ.ศ.2563 4 21 สิงหาคม 2563 การอบรมการเฝา้ ระวัง ป้องกัน ห้องประชมุ ครุ มุ นตรี สพป. ควบคุมโรคและภยั สขุ ภาพใน ลาปางเขต 1 โรงเรียน 5 19 กนั ยายน 2563 เข้ารว่ มงานนทิ รรศการแสดงผลงาน หอ้ งประชุมจันทรผ์ า วชิ าการและการแลกเปลย่ี นเรียนรู้ มหาวทิ ยาลยั ราชภฎั ลาปาง ภายใต้ โครงการยกระดับคณุ ภาพ การเรยี นรู้ ดา้ นการอา่ น การเขยี น และการวเิ คราะห์ของนกั เรียน ใน ระดบั การจดั การศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน พ.ศ.2563 (เอกสารอ้างองิ ภาคผนวก ค )

5 สว่ นท่ี 2 การจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน ตอนท่ี 1 การประเมนิ ประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธผิ ลการปฏบิ ัติงาน 1.ดา้ นการจดั การเรยี นการสอน 1.1 การสรา้ งและหรอื พัฒนาหลกั สูตร ข้าพเจ้ามีความมุ่งม่ันในการปฏิบัติงานในหน้าท่ีให้มีคุณภาพ ครบถ้วนสมบูรณ์ มีความคิดสร้างสรรค์ และมีการพัฒนาผลงานให้มีคุณภาพ เกิดประสิทธิภาพ เมื่อได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าท่ีครูผู้สอนวิชาภาษา ภาษาไทย และวิชาคณิตศาสาตร์ กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุ่มสาระสังคมศึกษา และกลุ่มสาระ ศลิ ปศกึ ษา ระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 2 กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น และกิจกรรมเสรมิ หลักสูตร ซ่ึงเปน็ ระดับช้นั เรียนท่ี ต่อเน่ืองกัน และเป็นวิชาที่มีเน้ือหาสาระที่ต่อเนื่องกัน จึงทาให้ข้าพเจ้าใช้วิธีการสอนแบบบูรณาการในการจัดทา แผนการจัดการเรียนรู้ ใหม้ คี วามตอ่ เนื่องสอดคลอ้ งกนั ตามขั้นตอนดงั น้ี 1) การศกึ ษาหลกั สตู ร ข้าพเจ้าศึกษาเอกสารทางวิชาการ หลักสูตร เอกสารที่เกี่ยวข้องกับแนวคิด ทฤษฎีการศึกษา จิตวิทยาการศึกษา รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 หลกั สูตรสถานศึกษาข้ันพนื้ ฐานโรงเรียน ชมุ ชนบ้านฟ่อนวิทยา คู่มือการจดั สาระการเรยี นรู้กลุม่ สาระการเรยี นรู้ทุกกล่มุ สาระการเรียนรู้ และกิจกรรมพัฒนา ผูเ้ รยี น โดยนาสาระและมาตรฐานการเรียนรู้ของสถานศึกษามาจัดทามาตรฐานช่วงช้ัน มาตรฐานการเรยี นรู้รายปี ในแต่ละชั้น จัดทาตารางวิเคราะห์ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง สาระการเรียนรู้และกิจกรรม และจัดทาคาอธิบาย รายวิชาหลักสูตรของสถานศึกษา สู่แผนการจัดการเรียนรู้ เอกสารประกอบการเรยี นการสอน และผลการเรยี นรู้ที่ คาดหวงั 2) การวิเคราะห์หลกั สูตร ข้าพเจ้าได้ทาการวิเคราะห์มาตรฐานการศึกษาแห่งชาติ และมาตรฐานการเรียนรู้ในหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 และจัดทาหลกั สูตรสถานศึกษาข้นั พืน้ ฐานโรงเรยี นชมุ ชนบ้าน ฟ่อนวิทยา ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ศึกษาหลักสูตรของสถานศึกษา และปรับใช้ให้ สอดคล้องกับผลการเรียนรู้ที่คาดหวังรายวิชา มาตรฐานรายวิชา ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และกิจกรรมพัฒนา ผูเ้ รียน เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของนักเรียน และมุ่งเนน้ การพฒั นาการเรยี นรขู้ องนกั เรียน ข้าพเจ้าได้ศึกษาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และหลักสูตรโรงเรียนชมุ ชน บา้ นฟ่อนวิทยา พุทธศกั ราช 2560 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2561) ในการบรู ณาการการจัดการเรียนรู้ ใหส้ อดคล้อง กับความต้องการของชุมชนและท้องถิ่น โดยใช้แนวคิดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ให้ผู้เรียนมีความรู้และ ทักษะขั้นพ้ืนฐานที่จาเป็นต่อการศึกษาตลอดชีวิต มุ่งเน้นให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตนเองได้เต็มศักยภาพ และ เสริมสร้างสร้างคุณลักษณะอยู่อย่างพอเพียง โดยจัดทาหน่วยการเรียนรู้และแผนการจัดการเรียนรู้เป็นลาดับ ข้ันตอน ดงั น้ี

6 - วิเคราะห์ตัวชีว้ ัดสูม่ าตรฐานการเรียนรู้ - กาหนดสาระสาคัญ วา่ ผ้เู รียนรู้อะไร ทาอะไรได้ - จดั ทาโครงสร้างรายวชิ า - วเิ คราะห์มาตรฐานสสู่ มรรถนะและคุณลักษณะ - วิเคราะห์หลักฐานการเรยี นรู้ - วางแผนกาหนดหลักฐานการเรยี นรู้ - ออกแบบกจิ กรรมการเรยี นรู้ - ตรวจสอบกิจกรรมการเรยี นรู้ - ศึกษาองค์ประกอบของหน่วยการเรียนรู้ มกี ารนาหลักสูตรสถานศึกษาของโรงเรียน ทีม่ ีการบรู ณาการใหส้ อดคล้องกับความต้องการของชุมชนและ ท้องถิ่น โดยใช้แนวคิดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงบูรณาการเข้าสู่การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ มีการจัดทา หน่วยการเรียนรู้ในรายวิชาท่ีสอน และมีแผนการจัดการเรียนรู้ที่ชัดเจน โดยมีการกาหนดสาระสาคัญ ว่าผู้เรียนรู้ อะไร ทาอะไรได้ จดั ทาโครงสร้างรายวชิ า วิเคราะหม์ าตรฐานสสู่ มรรถนะและคุณลักษณะ ออกแบบกจิ กรรมการ เรียนรู้ อยา่ งครบถ้วน 1.2 การจัดการเรียนรู้ 1.2.1 การออกแบบหน่วยการเรียนรู้ ข้าพเจา้ ไดอ้ อกแบบหน่วยการเรยี นรู้ ในรายวิชาภาษาภาษาไทยในระดบั ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 2 โดยใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านฟ่อน วิทยา และหลักสูตรกลมุ่ สาระการเรียนรตู้ า่ ง ๆ ของ โรงเรยี นชมุ ชนบ้านฟ่อนวทิ ยา เปน็ แนวทางและขอ้ สารสนเทศ ในการออกแบบหน่วยการเรียนรู้ การปรับประยุกต์ ให้สอดคล้องกับบรบิ ทของโรงเรียนชมุ ชนบา้ นฟ่อนวทิ ยา และ เหมาะสมกบั ผเู้ รียน ในปกี ารศึกษา 2561 ซึ่งหน่วยการเรียนรู้ท่ีข้าพเจ้าออกแบบขึ้น ทุกหน่วยการเรียนรู้ มีกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยวิธีการปฏิบัติท่ี สอดคล้อง กับธรรมชาติของสาระการเรียนรู้ในทุกกลุม่ สาระการเรยี นรู้ท่ีข้าพเจ้าได้รบั มอบหมายในการสอน และ สามารถนาไปปฏิบัติไดจ้ ริง ตลอดจนมีการประเมินผลการใชห้ นว่ ยการเรียนรู้ทุกหนว่ ยการเรียนรู้ และได้นาผลการ ประเมนิ หน่วยการเรียนร้มู าปรบั ปรงุ ให้มีคณุ ภาพสงู ข้นึ ทุกปีการศึกษา ดังปรากฏหลักฐานรอ่ งรอย คอื 1.หนว่ ยการ เรียนรู้ของรายวิชาท่ีขา้ พเจ้าปฏิบตั ิการสอน 1.2.2 การจัดทาแผนการจัดการเรยี นรู้ การจดั ทาแผนการจัดการเรียนรู้ ข้าพเจ้าไดจ้ ัดทา กาหนดหนว่ ยการเรยี นรู้ สาระสาคัญ ชื่อเรอ่ื ง หัวเร่อื ง จัดทากาหนดการสอน และกาหนดวิธกี ารวดั ผลประเมินผล ดังนี้ 1.2.2.1 ศึกษาสาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ 1.2.2.2 ศึกษาวิเคราะห์คาอธิบายรายวิชา เนื้อหา องค์ประกอบสาคัญ คือ ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง สาระการเรียนรู้ และกิจกรรมการเรยี นการสอน 1.2.2.3 นาสาระการเรียนรู้มาจัดทากรอบเน้ือหา เพื่อแบ่งสาระการเรียนรู้ออกเป็นรายแผนการ จดั การเรยี นรู้ เพอื่ ประโยชนใ์ นการเขียนผลการเรียนรทู้ ี่คาดหวัง

7 1.2.2.4 นาช่ือเร่ือง และหัวข้อเร่ืองของแผนการจัดการเรียนรู้ โดยพิจารณาจานวนแผนการจัดการ เรียนรู้ ขอบข่าย เนื้อหา และเวลาในการจัดการเรียนการสอนตามที่หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 กาหนดไว้ 1.2.2.5 จดั ทาแผนการจดั การเรยี นรู้ โดยมสี ว่ นประกอบ ดังนี้ 1. เรือ่ ง 2. เวลา 3. สาระสาคญั 4. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ชี้วดั 5. จุดประสงค์การเรียนรู้ 6. เน้อื หาทางภาษา 7. กระบวนการจดั การเรียนรู้ 8. ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้ 9. กิจกรรมทีเ่ สนอแนะ 10. การวดั และประเมนิ ผล 11. ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของผู้บรหิ าร 12. บนั ทึกผลหลงั การสอน 1.2.2.6 เลือกใช้เอกสาร สื่อ ส่ือออนไลน์ วัสดุ อุปกรณ์ในการจัดการเรียนการสอน จัด สภาพแวดลอ้ มและบรรยากาศในห้องเรียนและตามแหล่งการเรยี นรู้ให้เอ้ือต่อการจดั การเรียนการสอน 1.2.2.7 จัดทาเคร่ืองมือวัดผลและประเมินผล ตามแผนการจัดการเรียนรู้ โดยวิธีการสังเกต การใช้แบบทดสอบ และการประเมินผลงานในแผนการจัดการเรียนรู้ แต่ละแผนการจัดการเรียนรู้ ได้นา จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ วธิ กี ารวดั ผลดว้ ยวธิ ีท่หี ลากหลาย มีความเหมาะสมกับเนือ้ หาและกิจกรรมการเรยี นรู้ 1.2.2.8 การสรุปผลการประเมินหลังการเรียนทุกแผนการจดั การเรยี นรู้ เพ่ือนาจุดบกพร่องและจุดท่ี เปน็ ปัญหาตอ่ การเรียนรู้ของนักเรียน แจง้ ให้นักเรียนทราบเพื่อนามาปรบั ปรุงแก้ไขและพัฒนาใหด้ ีขึน้ ผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียนของนักเรียนจึงพัฒนาข้ึนตามลาดับ บรรลุผลสาเร็จตามวัตถุประสงค์การเรียนรู้ ผู้เรียนจึงเกิด ประสิทธภิ าพและประสิทธผิ ล 1.2.2.9 นาผลการประเมินไปปรบั ปรงุ แก้ไข และพฒั นาตอ่ ไป ผลท่ีได้จากการเตรยี มการสอน มีดังน้ี 1. ทาให้ครูมีความม่ันใจในการจัดการเรียนการสอน และสามารถถ่ายทอดความรู้ให้แก่นักเรียน ไดอ้ ยา่ งเต็มทแี่ ละมปี ระสทิ ธภิ าพ 2. สามารถสอนได้ตามลาดับข้ันตอน การสอนดาเนินการไปอย่างราบรื่น ครบทุกกระบวนการ และบรรลตุ ามแผนการจดั การเรยี นรู้ทีต่ ้งั ไว้ 3. นักเรียนมีความตั้งใจเรียน และมีความกระตือรือร้นในการเรียน ตระหนักและมีทัศนคติ ทด่ี ีตอ่ การเรียนทุกรายวิชา ทุกกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ 4. นกั เรียนไม่เกดิ ความเบ่อื หน่ายในการเรยี น 5. ผลสัมฤทธข์ิ องนักเรียนสงู ขึ้น

8 6. สามารถถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ในการจัดทาแผนการจัดการเรียนรู้ แก่ครูผู้สอน คนอ่ืน ๆ ได้อย่างถกู ต้อง 7. เปน็ ตัวอยา่ งทีด่ แี ก่ครูผสู้ อนคนอ่ืน ๆ 8. เกิดผลดีแก่สถานศึกษา คือ คุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาสูงขึ้นเป็นที่ยอมรับ ของผปู้ กครองและชมุ ชน 1.2.3 กลยุทธ์ในการจัดการเรียนรู้ ข้าพเจ้าได้จัดการเรียนรู้ รายวิชาภาษาภาษาไทย คณิตศาสาตร์ กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระ ศิลปะ กลุ่มสาระสังคมศึกษา ในระดับชั้นประถมศึกษาปที ่ี 2 โดยใช้รูปแบบ เทคนิค และวิธีการ ที่เน้นการปฏิบัติ ดังปรากฏหลักฐานร่องรอย ใน แผนการจัดการเรียนรู้ นอกจากน้ี ยังมีความหลากหลายในการใช้ส่ือนวัตกรรม เทคโนโลยีการจัดการเรียนรู้ มกี ารวัดและการประเมินผล ตามแผนการจดั การเรยี นรู้ ทีส่ อดคลอ้ งกบั มาตรฐานการ จัดการเรียนรู้ ตัวชี้วัด จุดประสงค์การเรยี นรู้ และสอดคล้องกับธรรมชาติของผเู้ รียนโรงเรียนชุมชนบ้านฟ่อนวทิ ยา และทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ การเรียนการสอนในยุคปฏิรูปการศึกษาหรือยุคโลกาภิวัฒน์ ครูผู้สอนต้องศึกษา ค้นคว้าหาวิธีการสอนท่ีทันสมัย เพื่อให้ทันต่อเหตุการณ์ของโลก สามารถจัดกิจกรรมการเรียนการสอนไปสู่ เป้าหมายของหลกั สูตรได้ ผ้สู อนไดศ้ ึกษาหาวธิ ีสอนแบบใหม่ๆมาถา่ ยทอดความรู้และประสบการณ์ให้นักเรยี นไดเ้ ข้าใจยิง่ ข้นึ จาก การจดั ทาแผนการจดั การเรียนรู้และส่อื การสอนทเี่ ตรียมไว้ นามาจัดกิจกรรมการเรยี นการสอน เพื่อถา่ ยทอด ความร้ใู หแ้ ก่นักเรยี นไดป้ ฏิบตั ิดังน้ี 1) ศกึ ษาแผนการจดั การเรียนรู้ก่อนนามาจัดกจิ กรรมทกุ ครง้ั 2) นาเขา้ ส่บู ทเรียนด้วยวิธกี ารทหี่ ลากหลายแตกตา่ งกันไป เช่น การสนทนา ซักถาม การสังเกตภาพ การรอ้ งเพลง เป็นต้น เพื่อเร้าความสนใจใหน้ ักเรียนอยากเขา้ ร่วมกิจกรรม 3) แจ้งจดุ ประสงค์ใหน้ ักเรียนทราบ 4) ใช้วิธีการสอนที่เหมาะสมกับเนื้อหาวิชาและวัยของผู้เรียน โดยเน้นกระบวนการกลุ่ม และเนน้ ผู้เรยี นเป็นสาคญั การจดั กิจกรรมการเรียนการสอนไดใ้ ช้วธิ ีการหลาย ๆ วธิ ี เช่น - ทากจิ กรรมนอกสถานที่หรอื นอกหอ้ งเรียน - อาสานักเรียนทสี่ มัครใจ - แบ่งกล่มุ ตามความสมัครใจ - ใชว้ ิธกี ารนาเข้าสบู่ ทเรยี นท่นี กั เรียนสนใจ เช่นการใชเ้ พลงหรือเกมส์ - สนทนาซักถามและตอบปัญหา - การใหน้ ักเรียนมสี ว่ นรว่ มในการแสดงความคิดเหน็ - ศกึ ษาจากเอกสารประกอบการเรยี น - วัดผลและประเมินผลตามเกณฑท์ กี่ าหนดไว้

9 ผลทไี่ ดร้ ับจากการถ่ายทอดความรู้ 1. นักเรยี นสามารถทางานรว่ มกบั ผอู้ ่นื ได้ รู้จกั ชว่ ยเหลือซึ่งกันและกนั 2. นกั เรยี นรูจ้ ักบทบาทหนา้ ท่ขี องตนเองในการเปน็ ผูน้ าและผู้ตาม 3. นกั เรยี นมีความรคู้ วามเขา้ ใจในเน้ือหาทีเ่ รียน สามารถนาความรูไ้ ปใช้ในชีวติ ประจาวันได้ 4. นกั เรียนมีทศั นคติทีด่ ตี ่อการเรียน 5. นักเรยี นผ่านจดุ ประสงค์และมีผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนสูงขึน้ 6. นักเรยี นชอบเรียนในรายวิชามากขนึ้ 7. นักเรียนไดแ้ สดงออกและรว่ มกจิ กรรมและมีความคิดสรา้ งสรรค์มากขึ้น 8. การนาเทคนิควิธีการสอนและนวัตกรรมต่าง ๆ มาใช้ ช่วยแก้ปัญหาในการเรียนรู้ ทแี่ ตกตา่ งกันของนักเรียน 1.2.4 คณุ ภาพผ้เู รยี น 1.2.4.1 ผลสมั ฤทธิ์ทางวชิ าการของผู้เรียน ข้าพเจ้า ได้จัดกิจกรรมการเรียนรสู้ าหรับผู้เรียน โดยได้วิเคราะหห์ ลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน มาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัด แล้วนาไปจัดทาคาอธิบายรายวิชา หน่วยการเรียนรู้ ให้ สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด จนเกิดผลการจัดการเรียนรู้ในรายวิชาภาษาอังกฤษ ชั้น ประถมศึกษาปีท่ี 2 โรงเรียนชุมชนบ้านฟ่อนวิทยา และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนลูกเสือ แนะแนว ชุมนุมรัก ภาษาไทย ตามเอกสารหลักฐานในแบบบนั ทกึ ผลการเรียนรรู้ ายวิชา (ปพ.5) 1.2.4.2 คุณลักษณะอันพงึ ประสงคข์ องผเู้ รียน ข้าพเจ้า ได้จัดกิจกรรมการเรียนรู้สาหรับผู้เรียนใน ทุกรายวิชา ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ โดยได้ วิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัด แล้วนาไปจัดทา คาอธิบายรายวิชา หน่วยการเรียนรู้ ให้สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด จนเกิดผลการจัดการ เรียนรู้ในรายวิชาภาษาไทย และคณิตศาสาตร์ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 2 โรงเรียนชุมชนบ้านฟ่อนวิทยา และ เกิดการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตามเอกสารหลักฐานในแบบบันทึกผลการเรียนรู้รายวิชา (ปพ.5) 1.3 การสร้างและหรือพัฒนาสอื่ นวัตกรรม เทคโนโลยีทางการศึกษาและ แหลง่ เรยี นรู้ ข้าพเจ้าได้มีการสร้างและพัฒนา สื่อนวัตกรรมเทคโนโลยีทางการศึกษาและแหล่งเรียนรู้นาไปใช้ในการ จัดการเรียนรู้เหมาะสมกับผู้เรียนหรอื ผู้เข้ารับการฝึกอบรมสอดคล้องกับเน้ือหาสาระรายวชิ า และจุดประสงค์การ เรียนรู้ประเมินผลการใช้สื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยีทางการศึกษาและแหล่งเรียนรู้ และนาผลการประเมินไป ปรับปรุงพัฒนาให้มีคุณภาพสูงขึ้น สามารถนาส่ือนวัตกรรม เทคโนโลยี ทางการศึกษาและแหล่งเรียนรู้ไปปรับ ประยุกต์ ใช้ในสถานศกึ ษาทม่ี ีบรบิ ทใกล้เคยี ง จัดทาสื่อและการใช้สื่อการสอนจากการจัดทาแผนการจัดการเรียนรู้ไว้ล่วงหน้า ทาให้ทราบว่าแผนการ จัดการเรียนรู้ แต่ละครั้งจะต้องใช้ส่ืออะไรในการสอน ซ่ึงมีทั้งส่ือท่ีผู้สอนผลิตข้ึนเอง และส่ืออิเล็คทรอนิค สื่อ ออนไลน์ และสือ่ ของจริงจากสิง่ ทอ่ี ยู่ใกลต้ ัวในโรงเรียนชุมชนบา้ นฟ่อนวิทยา ในการจัดทา จดั หาและใช้สอ่ื การสอน ได้ดาเนนิ การดงั นี้

10 1) ศึกษาแผนการจดั การเรียนรู้ที่ได้จัดเตรียมไว้ 2) จดั เตรยี มสื่อการเรียนการสอนตามทก่ี าหนดไว้ในแผนการจัดการเรียนรู้ ศกึ ษาวิธใี ช้ เม่ือผู้เรียน นาสื่อการเรียนไปใช้ สามารถทากิจกรรมด้วยตนเองได้อย่างถูกต้อง การทากิจกรรมก็จะสาเร็จ ตามเวลาทก่ี าหนด 3) ผลิตสื่อการสอนที่สามารถผลิตได้ด้วยตนเอง โดยยึดหลักประหยัดมีคุณภาพและตรงกับเน้ือหาที่ เรียนให้มากท่สี ุด เช่น เอกสารประกอบการเรยี นการสอน ใบงาน ใบความรู้ 4) พยายามให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการผลิตส่ือการเรียนการสอนและใช้ส่ือการเรียนการสอน เพื่อช่วย ใหผ้ ู้เรียนได้เขา้ ใจเนอ้ื หาที่เรียนได้ง่ายข้นึ และเรว็ ข้ึน ผลทไ่ี ด้จากการเตรียมและการใชส้ ่อื การเรียนการสอน 1. ผู้เรียนมีความเข้าใจเน้ือหาที่เรียนได้ง่ายข้ึน ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้และได้รับประสบการณ์ตรง จากสอ่ื ต่าง ๆ 2. ผู้เรียนสนใจบทเรียนมากขน้ึ รูจ้ ักการแกป้ ัญหา และเรยี นอย่างมคี วามสุข 3. ผเู้ รียนมคี วามกระตือรอื รน้ ในการเรียน 4. ผู้เรยี นมคี วามภาคภูมใิ จในผลงานของตนเองที่ไดร้ ว่ มผลิตสื่อ และนามาใช้ประโยชน์ 5. สอ่ื การเรียนการสอน เป็นเครือ่ งผอ่ นแรงครูผสู้ อนได้เป็นอย่างดี 6. เปน็ การช่วยเหลอื เพือ่ นครทู ี่ต้องการใช้สอื่ การเรียนการสอนประเภทเดียวกนั 7. ครูผู้สอนเกิดความม่ันใจ สามารถจัดกิจกรรมการเรียนการสอนได้ตามลาดับขั้นตอนอย่าง ตอ่ เน่อื งตามกระบวนการเรียนท่กี าหนดไว้ (เอกสารอ้างองิ ภาคผนวก ก หนา้ - ) 1.4 การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ข้าพเจา้ ได้ดาเนินการวดั ผลและประเมนิ ผล โดยปฏบิ ัตดิ งั น้ี 1) ศึกษาจุดมงุ่ หมายของหลักสตู ร 2) ศกึ ษาจดุ ประสงคก์ ารเรียนรูท้ ุกกลุ่มสาระการเรยี นรู้ 3) ศึกษาระเบยี บกระทรวงศกึ ษาธกิ ารวา่ ด้วยการวดั ผลและการประเมินผล การเรยี น ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ซ่ึงเป็นการวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้ใน ดา้ นพุทธพิ ิสัย จิตพสิ ัย และทกั ษะพิสัย 4) จัดทาเครือ่ งมือวดั ผลและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ซึ่งประกอบดว้ ย - เคร่ืองมือวัดผลเพื่อปรับปรุงการเรียน ประกอบด้วย แบบทดสอบก่ อนเรียน และหลังเรียน แบบทดสอบปลายภาคเรียน - เครอื่ งมอื วัดผลเพอ่ื ประเมนิ ผลการเรยี น - เคร่ืองมือประเมินพฤติกรรมและจิตพิสัยของนักเรียนประกอบด้วย แบบสังเกตพฤติกรรม การเรียน การช่วยกันสรุปเนื้อหาสาระการเรียนรู้ และแบบประเมินการตรวจผลงานการทากิจกรรม ซึ่งเปน็ การประเมินผูเ้ รียนดา้ นจติ พสิ ัย เปน็ รายบุคคล

11 5) ดาเนินการวดั ผลและประเมินผล ดังนี้ ประเมนิ ผลก่อนเรียน ไดท้ าการวัดผลและประเมินผลการเรยี นการสอนทกุ คร้ัง เพื่อตรวจสอบวา่ นักเรยี นมคี วามรู้ พ้ืนฐานเบ้ืองต้น โดยใช้วิธีการสังเกตพฤติกรรมของนักเรียน เช่น การทางานอย่างมีขั้นตอน ปฏิบัติ กิจวัตร ประจาวัน ร่วมกิจกรรมด้วยความร่าเริง รับผิดชอบในงานท่ีได้รับมอบหมาย ใช้เวลาทากิจกรรมท่ีเป็นประโยชน์ ตั้งใจ มีมารยาท ช่วยเหลือและมีน้าใจเป็นนักกีฬา เป็นต้น ใช้วิธีการสัมภาษณ์ การสอบถามเพื่อให้ทราบ ข้อมูลเกี่ยวกับนักเรียนและสามารถจดั กิจกรรมการเรียนการสอนใหส้ อดคล้องกับนักเรียน ประเมินผลระหวา่ งทาการสอน เพือ่ เป็นการปรบั ปรุงการเรยี นการสอน และทาใหท้ ราบว่านักเรียนมคี วามกา้ วหน้าในการเรียน มากน้อยเพียงใด มีความเข้าใจในเร่ืองท่ีสอนไปแล้วมากน้อยเพียงใด นักเรียนพบปัญหาในการเรียนวิชาต่างๆ อยา่ งไร นักเรยี นมีความรู้ ความสามารถ และพฤติกรรมตามทก่ี าหนดหรือไม่ โดยการสังเกตความรบั ผิดชอบในการ ทางานร่วมกัน การทางานทันตามกาหนดเวลา ความสนใจและตั้งใจศึกษาค้นคว้า การแสดงความคิดเห็นและ การยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่น การซักถามความเข้าใจ ความคิดเห็นและเจตคติของนักเรียน ตรวจผลงาน การปฏิบัติงานกิจกรรมต่างๆ และประเมินความเอาใจใส่ต่อการเรียน ความรับผิดชอบในงานท่ีกาหนดให้ทา โดย ถือเกณฑ์ท่นี ักเรยี นผ่านได้คะแนนจากการทากจิ กรรมร้อยละ 80 ขึน้ ไป ในการวัดผลระหว่างเรียนแตล่ ะครั้ง จะ วัดผลครอบคลุมท้ังด้านพุทธิพิสัย ทักษะพิสัย และจิตพิสัย โดยใช้แบบทดสอบวัดรายจุดประสงค์ ตรวจผลงาน ความสนใจและตั้งใจเรียน และเจตคติต่อการเรียน วิชาต่างๆ และรวบรวมผลการประเมินลงในจุดประสงค์ย่อย ปพ.5 ประเมนิ ผลปลายภาคเรยี น ใชแ้ บบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นกล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ - กาหนดอัตราสว่ นของคะแนน กาหนดตามที่หลกั สูตรของโรงเรยี นได้กาหนดไว้ ดังนี้ 1. คะแนนสอบระหว่างภาค - สอบรายจุดประสงค์กอ่ นกลางภาค 40 คะแนน - สอบกลางภาค 10 คะแนน - สอบรายจดุ ประสงค์หลงั กลางภาค 30 คะแนน 2. คะแนนสอบปลายภาค 20 คะแนนน นาคะแนนการสอบที่ได้ระหวา่ งภาคและปลายภาคมารวมกนั เปน็ 100 คะแนน เกณฑต์ ดั สนิ 80 คะแนนข้ึนไป ได้ผลการเรยี น 4 75 - 79 คะแนน ได้ผลการเรยี น 3.5 70 - 74 คะแนน ได้ผลการเรียน 3 65 - 69 คะแนน ไดผ้ ลการเรียน 2.5 60 - 64 คะแนน ได้ผลการเรยี น 2 55 - 59 คะแนน ได้ผลการเรยี น 1.5

12 50 - 54 คะแนน ได้ผลการเรยี น 1 ตา่ กว่า 50 คะแนน ได้ผลการเรยี น 0 ผู้เรียนต้องมีเวลาเรียนไมน่ ้อยกว่าร้อยละ 80 ของเวลาเรียนทั้งหมด ผลทไ่ี ด้รับจากกระบวนการดังกล่าว ปรากฏผลดังนี้ 1. ทาให้การวัดผลมปี ระสทิ ธภิ าพ ตรวจสอบได้ 2. นกั เรยี นช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 2 ทขี่ ้าพเจ้าสอนมผี ลการเรียนเป็นทน่ี า่ พอใจ 3. นักเรยี นมีเจตคตทิ ่ดี ตี อ่ การเรียนทกุ รายวิชา 4. ทาใหก้ ารประเมนิ ผลแต่ละครง้ั มคี ณุ ภาพ นกั เรยี นยอมรบั ผลการเรยี นของตนเอง 5. นักเรียนมีความกระตือรือรน้ อยเู่ สมอ มพี ัฒนาการของตนเอง นักเรียนเกง่ ก็ขยนั เรยี นมากข้นึ ส่วนนักเรยี นออ่ นก็มีกาลังใจพยายามปรับปรงุ ตนเอง 6. ผปู้ กครองทราบผลการเรยี นและความสามารถของนกั เรยี น (เอกสารอา้ งองิ ภาคผนวก ก) 2.ดา้ นการบรหิ ารจัดการชน้ั เรียน 2.1 การบริหารจดั การชัน้ เรยี นและขอ้ มูลสารสนเทศ ความสามารถในการอบรม ปกครอง และดแู ลนกั เรียน 1) การอบรมนอกชัน้ เรียน ไดป้ ฏิบัติดังน้ี 1.1 อบรมคุณธรรม และจริยธรรม การตรงต่อเวลา การมาเข้าแถวหน้าเสาธง ระเบียบแถว ขณะเข้าแถวเคารพธงชาติ การประหยัดอดออม การมีจิตสาธารณะ ชี้แจงเร่ืองการเรียน การแต่งกาย ความ สะอาดของร่างกาย เช่น เล็บ ผม เส้ือผ้า ถุงเท้า รองเท้า เป็นต้น ให้ความรู้ ประชาสัมพันธ์ แจ้งข่าวสาร นักเรยี น โดยใชเ้ วลาชว่ ง 12.30 น.- 13.00 น. ในชว่ งเวลาทอ่ งบทอาขยาน 1.2 ร่วมกับครูหัวหน้าช่วงชน้ั และครูในระดับชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1-6 ท่ีรับผิดชอบงานปกครอง นักเรียนด้านประชาธิปไตยในโรงเรียน ได้ส่งเสริมประชาธิปไตยให้กับนักเรียนในขณะประชุมนักเรียนระดับชั้น ประถมศกึ ษาปที ี่ 1-6 ฝึกฝนใหน้ ักเรียนสามารถปกครองดูแลกันเองได้ ฝกึ การเป็นผู้นา ผู้ตามท่ีดี รู้จกั และปฏบิ ตั ิ ตนตามวถิ ีทางของประชาธิปไตย เปน็ ผู้มีคารวะธรรม ปญั ญาธรรม และสามคั คีธรรม บาเพ็ญตนใหเ้ ปน็ ประโยชน์ ต่อตนเองและสงั คมได้ 1.3 ให้ความรูแ้ ละอบรมนักเรียนเปน็ รายบุคคล เมื่อพบว่านกั เรยี นไม่ปฏิบตั ิตามกฎระเบยี บของ โรงเรียน การแต่งกาย การพูดจา กิริยามารยาทท่ีไม่เหมาะสม การทาความเคารพ การทิ้งขยะไม่เป็นท่ี การ รักษาความสะอาด การประหยัดน้า ไฟฟ้า การรักษาสมบัติของส่วนรวม และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เปน็ ต้น 1.4 ส่งเสรมิ ใหน้ ักเรยี นมีสขุ นิสยั ท่ีดี เช่น การเลือกรบั ประทานอาหารที่มปี ระโยชนต์ ่อร่างกาย การรับประทานอาหารให้ตรงเวลา ออกกาลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอ รู้จักพัฒนาบุคลิกภาพของตนเอง และ ดูแลสขุ ภาพอนามัยของตนเอง

13 1.5 ให้ความรู้และแนะนานักเรียนเก่ียวกับการดูแลระวังตนเองในการป้องกันโรคต่างๆ โดยการ ให้ปฏบิ ัตติ ามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข คือ กินร้อน ชอ้ นกลาง ล้างมอื และใชห้ น้ากากอนามัยปิดจมูก และปากเวลาจาม ไอหรือเมื่อมีไข้หวัด น้ามูกไหล และการระมัดระวังตนเองไม่ให้ถูกยุงกัดท้ังในเวลากลางวัน และกลางคนื 1.6 การสร้างเสริมสุขภาพนักเรียน โดยการสนับสนุนให้นักเรียนรักการออกกาลังกาย เข้าร่วม กจิ กรรมการแข่งกีฬาภายในโรงเรียนชมุ ชนบ้านฟ่อนวิทยา ทาใหผ้ ้เู รยี นมีสุขภาพแข็งแรง มกี ารขาดเรียนน้อยมาก 2) การอบรมในช้ันเรยี นท้ังภาคทฤษฎแี ละภาคปฏบิ ัติ ได้ปฏบิ ัตดิ งั นี้ 2.1 อบรมให้นักเรียนมีคุณธรรมและจริยธรรมอันดีงาม โดยให้นักเรียนปฏิบัติตน ให้มีคุณธรรม 4 ประการ และมีค่านิยมพ้ืนฐาน 5 ประการ อบรมเก่ียวกับประชาธิปไตย เช่น การเลือกตั้ง คณะกรรมการนักเรยี น การปฏิบตั ิตามมตขิ องเพ่ือนรว่ มชั้นและการรู้จกั รับฟังความคิดเห็นของผู้อนื่ 2.2 ขณะสอนในช้นั เรียน ได้สอดแทรกคณุ ธรรมจริยธรรม เชน่ - การใชภ้ าษา ทง้ั การพูดและการเขียนในการตอบคาถาม - การรกั ษาระเบยี บวินยั ของการอยูร่ ่วมกันในชน้ั เรียน ด้วยการไม่ส่งเสียง ดังเปน็ ทรี่ บกวนผู้อื่น - การตรงต่อเวลา เช่น การไมเ่ ข้าห้องชา้ การสง่ งานตามเวลาทีก่ าหนด - ความซ่อื สตั ย์ต่อตนเอง เช่น การตอบคาถามในกจิ กรรม เป็นต้น ความสามารถในการอบรมความประพฤติของนกั เรยี น ไดแ้ ก่ 1) การอบรมให้นักเรียนมีความประพฤติดี สุภาพเรียบร้อย อ่อนน้อมถ่อมตน การพูดจาไพเราะ การ ร้จู ักกาลเทศะ การควรหรือไม่ควรกระทา 2) การปลูกฝังคา่ นิยมพ้นื ฐาน 5 ประการ อันไดแ้ ก่ - การพึง่ ตนเอง ขยันหม่นั เพียร และความรับผดิ ชอบ - การประหยัดและออม - การมรี ะเบยี บวนิ ยั และเคารพกฎหมาย - การปฏบิ ตั ติ ามคณุ ธรรมของศาสนา - ความรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ 3) การอบรมนักเรียนใหม้ คี ุณธรรม 4 ประการ คอื - การรักษาความสัตย์ ความจริงใจตอ่ ตนเองท่ีจะประพฤติปฏบิ ตั ใิ นสง่ิ ทม่ี ปี ระโยชน์ - การรู้จักขม่ ใจตนเองใหป้ ระพฤตอิ ยใู่ นความสัตย์ ความดี - ความอดกลัน้ และอดออม ทง้ั ไมป่ ระพฤตลิ ว่ งความสัตย์ สจุ รติ ไม่วา่ ประการใด - รู้จักละวางความช่ัวความทุจริต และรู้จักสละประโยชน์ส่วนตนเพื่อประโยชน์ส่วนใหญ่ของ บ้านเมอื ง 4) หากพบนักเรียนใช้ถ้อยคา ภาษาที่ไม่สุภาพ กิริยามารยาทไม่เหมาะสม ได้ว่ากล่าวตักเตือน ถา้ ยงั พบวา่ ยงั ไม่แก้ไข ทาผดิ ซ้าอกี กจ็ ะรายงานใหฝ้ ่ายบริหารกิจการนักเรยี นทราบเพ่ือชว่ ยกันแก้ไขตักเตือน

14 5) การอบรมเกี่ยวกับการแตง่ กาย ได้อบรมใหน้ ักเรียนแต่งกายใหถ้ ูกระเบียบของโรงเรียนทั้งเคร่ืองแบบ นักเรียน เครื่องแบบลูกเสือ – เนตรนารี ชุดพละ หากพบนักเรียนท่ีแต่งกายผิดระเบียบ ได้ว่ากล่าวตักเตือนให้ แก้ไข และถา้ ทาผดิ ซ้าอีกกจ็ ะรายงานให้ฝา่ ยบริหารกิจการนักเรียนทราบเพ่ือช่วยกันแก้ไขพฤติกรรมไปในทางท่ีพึง ประสงค์ตอ่ ไป ผลทไ่ี ด้จากการอบรม ปกครอง ดูแลนกั เรยี น 1. นกั เรยี นมสี ัมมาคาราวะ ย้ิม ไหว้ ทักทาย 2. นกั เรียนแตง่ กายถูกต้องตามระเบยี บ มคี วามประพฤตเิ รยี บร้อย 3. นักเรียนมคี วามสามัคคใี นหมู่คณะ ไมม่ ีการทะเลาะววิ าทกนั 4. อาคารเรียน ห้องเรียนและบริเวณโรงเรียนสะอาด มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย มีบรรยากาศร่มรน่ื และมีสง่ิ แวดล้อมทด่ี ี 5. ผปู้ กครอง ชมุ ชน ใหค้ วามเชือ่ ถอื และยกยอ่ งชมเชยนกั เรียนและครู 6. นักเรียนได้ปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ที่ครูกระตุ้นและส่งเสริมด้วยความรู้สึกตระหนักและ รบั ผิดชอบดว้ ยตนเอง ความสามารถในการพฒั นาผู้เรียน ไดป้ ฏบิ ตั ดิ ังนี้ 1) สารวจความต้องการของนักเรียน ผู้ปกครอง เพ่ือนามาเป็นแนวทางในการจัดการเรียน การสอน ให้สอดคล้องและตอบสนองความต้องการของนักเรียน ผู้ปกครอง ชุมชน และท้องถ่ิน ส่งผลให้ นักเรียนได้เรียนรู้อย่างมีความสุข เมื่อนักเรียนมีทุนความรู้เดิมอยู่แล้ว จะส่งผลให้ประสบความสาเร็จใน การเรยี นรูส้ ่งิ ใหม่ ๆ ไดง้ า่ ย 2) ให้คาแนะนาเกี่ยวกับการแก้ปัญหาการเรียน ปัญหาสุขภาพ ปัญหาทางด้านพฤติกรรมของ นักเรียน และช้ีแจงทาความเข้าใจ ขอความร่วมมือจากผู้ปกครอง เพ่ือหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน การสร้างความเข้าใจที่ดีมี ความเป็นกัลยาณมิตร ทาให้ผู้รับบริการมีความม่ันใจ มีกาลังใจในการแก้ปัญหาและ พัฒนาตนเองใหด้ ีขนึ้ มีความสุขในการดารงชีวิตและอยรู่ ่วมกับผอู้ น่ื ในสงั คมไดอ้ ยา่ งราบร่นื สงบสุข 3) แนะนาการใชเ้ วลาว่างให้เป็นประโยชน์ เชน่ - การปรับปรงุ หอ้ งเรียนให้นา่ อยู่ น่าเรียน - การจัดกิจกรรมอิสระ เช่น การทาแบบฝึกหัดแบบเพ่ือนสอนเพื่อน ฝึกการอ่านให้มีนิสัยรัก การอา่ น หรือการทางานทค่ี ้างคาอยู่ให้เสรจ็ สน้ิ เปน็ การฝึกความรับผิดชอบในงานท่ไี ด้รับมอบหมายใหป้ ฏิบตั ิ 4) การปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมให้แก่นักเรียน ในการจัดกิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ทุกครั้ง ได้สอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และมารยาทสังคมที่ดีที่ควรปฏิบัติให้กับนักเรียนอย่างสม่าเสมอ ไม่เคยปล่อยปละละเลยพฤติกรรมท่ีไม่พึงประสงค์ หรือ พฤติกรรมที่บกพร่องของนักเรียน จะตักเตือน แนะนา ด้วยคาพูดที่สุภาพและเปน็ กัลยาณมิตรกับนกั เรียน แล้วหาแนวทางแก้ไขและนาไปปฏบิ ัติให้ถูกต้อง เพื่อลดความ ขัดแย้ง ลดความตึงเครียด ให้นักเรียนได้เรยี นรู้เก่ียวกับการได้รับฟังพระธรรมเทศนาจากพระสงฆ์ การทาบุญ การ ให้สิ่งของเป็นทาน การแบ่งปัน และการลดความอยากของตนลง และเป็นการสืบสาน ทานุบารุงพระพุทธศาสนา ใหเ้ จรญิ รุ่งเรืองและคงอยูส่ ืบไป

15 5) การพัฒนาทักษะชีวิต สุขภาพกาย และสุขภาพจิตของผู้เรยี น นานักเรียนเข้ารบั การอบรม คุณธรรม จริยธรรม ในกิจกรรมชั่วโมงวิถีพุทธ ทุกวันอังคาร เวลา 08.30 น. – 09.30 น. เพ่ือสร้างคนดีให้เป็นศรี สถาบัน เพ่ือสร้างหลักยึดเหนยี่ วท่ีม่นั คงให้เกดิ ขึน้ ในใจของนักเรียน เพื่อพฒั นาทกั ษะการดารงชวี ิตของนักเรยี น มี แนวทางปฏบิ ัตทิ ่ถี ูกต้องอยูใ่ นครอบครัว ในโรงเรียน ในสังคมได้อยา่ งมีความสุข 6) การจัดระบบดูแลช่วยเหลือผเู้ รยี น ไดศ้ กึ ษาขอ้ มูลนักเรียนเป็นรายบุคคล เพือ่ นาขอ้ มูลไปใช้ ในการดแู ลช่วยเหลือนกั เรียนหลายดา้ น ดา้ นการเรยี นจะสานตอ่ การเรยี นรู้ สอนซ่อมเสริม หรอื ทาการวิจัยในชัน้ เรียน ดา้ นความประพฤตกิ ้าวรา้ วให้ความรกั ความเมตตา ดูแลเอาใจใส่เป็นพเิ ศษ ใหก้ าลังใจแนะนาการทาความ เข้าใจตนเอง อบรมกล่อมเกลาจิตใจด้วยความละมุนละม่อม ดูแลเอาใจใส่ให้กาลังใจ แนะนาแนวทางที่ถูกที่ควร อย่างสมา่ เสมอและใกล้ชดิ ผลท่เี กิดกับผู้เรยี น ผลจากการปฏิบัติหน้าที่ในการจัดการเรียนการสอนท่ีมีการเตรียมการ และดาเนินการอย่างมี ขัน้ ตอนส่งผลให้นกั เรยี นประสบความสาเรจ็ ในด้านตา่ ง ๆ ดงั นี้ - ด้านสติปัญญา เป็นผู้มีปัญญาสามารถเรียนรู้ทางานตามที่มอบหมายได้สาเร็จ รู้จัก การวิเคราะหป์ ัญหา แกป้ ญั หาได้และมีผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี นผ่านเกณฑ์ทีก่ าหนดไว้ - ด้านอารมณ์ เป็นผู้ท่ีมีความสามารถในการเรียนรู้ มีสุขภาพทางกาย ทางใจ ยอมรับฟัง ความคดิ เหน็ ของผู้อ่ืน และมคี วามสุขกบั การเรียน - ดา้ นสงั คม เป็นผ้มู ีความสามารถในการปรบั ตวั ให้เข้ากบั เพ่ือน ๆ สามารถร่วมกจิ กรรมกลมุ่ ได้ - ด้านคุณธรรม จริยธรรม เป็นผู้ท่ีมีคุณธรรมและจริยธรรมที่ดีงามสามารถปฏิบัติตนตามแนว วถิ ีพุทธ และศาสนาที่ตนเองนบั ถอื ได้อย่างมีความสุข นอกจากน้ี นักเรียนทุกคนจะถูกปลูกฝังให้มีนิสัยรักความสะอาด รู้จักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ปลูกฝังให้รู้จักใช้/ประหยัดทรัพยากรทางธรรมชาติ เช่น น้า ไฟฟ้า เน้นให้ผู้เรียนนาไปปฏิบัติจริงท่ีบ้าน ตลอดจนการรักษาขนบธรรมเนยี มประเพณี กิริยา มารยาททีด่ ีงามของไทย ผลจากการปฏิบัติงานในด้านต่าง ๆ อย่างเต็มความสามารถ ทาให้นักเรียนในความรับผิดชอบ ของข้าพเจ้า ปฏิบัติตนเป็นคนดี คนเก่ง และเรียนรู้อย่างมีความสุข ซึ่งสอดคล้องกับความมุ่งหวังของ พระราชบัญญัติการศึกษา พุทธศักราช 2542 ที่ว่าเป็นการจัดการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียน เปน็ คนดี คนเกง่ และมคี วามสขุ (เอกสารอ้างอิง ภาคผนวก ข) 2.2 การจัดการระบบดูแลชว่ ยเหลือนักเรยี น - จัดกิจกรรมโฮมรูม ให้ความรู้กับนักเรียนในเร่ืองการอยู่ร่วมกันในโรงเรียน ห้องเรียน ความสมัคร สมานสามคั คี ความมีน้าใจ ความช่วยเหลือซึ่งกนั และกนั ในห้องเรยี น - จัดกิจกรรมประชุมผปู้ กครอง ประชุมชีแ้ จงทาความเข้าใจระหว่างครปู ระจาชน้ั และผู้ปกครอง รายการ พฤติกรรมของนักเรียนใหผ้ ้ปู กครองเป็นรายบุคคลเฉพาะนักเรียนทมี่ ีพฤติกรรมท่นี า่ หว่ งเพื่อช่วยกนั ดแู ลนักเรียนให้ มพี ฤตกิ รรมท่ดี ขี น้ึ

16 - โรงเรยี นจัดให้มีการประชมุ ผปู้ กครองภาคเรยี นละ 1 ครั้ง โดยให้ผู้ปกครองพบครูที่ปรึกษา / ครูประจา ช้ัน และผู้ปกครองได้ทาความรู้จักเป็นกันเองกับครูประจาช้ัน และตัวแทนผู้ปกครองทาความรู้จักกันเพ่ือ ดาเนินการคดั เลอื กผูป้ กครองหรือเสนอชื่อเพื่อคดั เลือกเป็นเครือขา่ ยผปู้ กครองของนักเรียน ไดแ้ ลกเปลี่ยนความคิด และเสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาตา่ ง ๆ ของนกั เรยี น ประจาปีการศึกษา 2562 แก้ปัญหานักเรียนที่ไม่มาปฏิบัติหน้าที่เวรประจาวันของห้องเรียน ไม่รับผิดชอบหน้าท่ีของตนเอง ทา ให้เพ่ือนร่วมห้องต้องเดือดร้อน ด้วยการสร้างแรงจูงใจให้กับนักเรียน ด้วยการให้คาชมเม่ือเวรประจาวันที่ ห้องเรียนในวันน้ีสะอาด เรยี บร้อย โดยครูท่ปี รกึ ษาจะทาหนา้ ท่ตี รวจเวรประจาวนั ของทุกวนั และใหค้ าชมเชยใน ตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น และจะให้คาชมเพื่อเป็นตัวอย่างแก้นักเรียนคนอ่ืน ทาให้นักเรียนมีความภาคภูมิใจและ พรอ้ มท่ีจะทาหน้าทขี่ องตัวเองให้ดีทสี่ ดุ เพราะได้รับคาชมทุกครง้ั แก้ปญั หานักเรยี นทส่ี ่งงานไม่ตรงต่อเวลา โดยให้นกั เรียนทีท่ าการบา้ นในแต่ละวันไม่เสรจ็ ให้นักเรียนอยู่ ทาการบ้านท่ีห้องเรียนให้เสร็จและส่งก่อนเป็นประจาทุกวันก่อนกลับบ้าน โดยได้รับความร่วมมือจากหัวหน้างาน กิจการนักเรียน หัวหน้าห้องรับผิดชอบดูแลแทนครูที่ปรึกษาเป็นประจาและรายงานผลการปฏิบัติงานของตนเอง กับครูทีป่ รึกษาในตอนเชา้ ของวนั รุง่ ข้นึ ผลทเี่ กิดขึน้ กับนกั เรยี น 1. นกั เรียนและผูป้ กครองเกิดความภาคภมู ใิ จ 2. นักเรียนรู้จักหน้าท่ีของตัวเองดีขึ้นกว่าเดิม มีความรับผิดชอบ ส่งงานตรงเวลาและส่งงานครบทุก ช่วั โมง 3. นกั เรยี นมพี ฤติกรรมทด่ี ีขึน้ (เอกสารอา้ งองิ ภาคผนวก ข) 3 ด้านการพัฒนาตนเองและพฒั นาวิชาชพี 3.1 การพฒั นาตนเอง พัฒนาตนเองโดยยึดหลักการประเมินสมรรถนะ ( Competency Based Approach) จะทาให้ ผู้ปฏิบัติงานสามารถรู้จุดเด่น จุดด้อยของความสามารถในการปฏิบัติงานของตน และสามารถพัฒนาตนเองให้ สอดคล้องกับความตอ้ งการจาเปน็ ของของหนว่ ยงาน และของตนเองอย่างแทจ้ รงิ ท้ังน้ี ครูจึงต้องมีการวางแผนการพัฒนาตนเองในการจัดห้องเรียนท่ีมีคุณภาพ (Individual Development Planning : IDP) เพื่อเป็นการพัฒนาที่สนองตอบความต้องการแต่ละบุคคล สนองความสนใจ ในรูปแบบวิธกี ารพัฒนา ก็จะส่งผลตอ่ สมรรถนะในการปฏิบัติหน้าท่ีท่ีมีประสิทธิภาพต่อไป และ เป็นการพัฒนาท่ี ต่อเนื่องจนทาให้การปฏิบัติหน้าท่ีมีความสมบูรณ์ มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล ในการปฏิบัติงาน อัน นาไปสู่การพัฒนาตนเองให้เป็นครูมืออาชีพที่มีมาตรฐานในการปฏิบัติงานอย่างแท้จริงสามารถตรวจสอบได้ และ พฒั นาสู่ความเป็นวิชาชีพต่อไป (เอกสารอ้างองิ ภาคผนวก ค)

17 3.2 การพัฒนาวิชาชีพ ข้าพเจ้าเข้าร่วมกิจกรรมชมุ ชนการเรียนรู้ทางวชิ าชีพ ซึ่งทาให้ 1. เกิดจากการประยกุ ต์แนวคิดองค์กรแห่ง การเรียนรู้สู่โรงเรียนแห่งการเรียนรู้ 2. เป็นนวัตกรรมใหม่ท่ีช่วยให้ครูแสวงหาวิธีการท่ีจะช่วยให้นักเรียนสามารถ เรียนรู้และพัฒนาตนเอง ได้ 3. ครู บุคลากรทางการศึกษา ชุมชนและผู้มีส่วนเก่ียวข้องรวมกลุ่มกัน เรียนรู้ร่วมกัน และสะท้อนการปฏิบัติ อย่างเปน็ ระบบและต่อเน่ือง 4. เป็นการทางานกลมุ่ หรือเปน็ ทีม การแลกเปลี่ยนเรียนรู้จาก ประสบการณ์ตรง 5. เปน็ การรวมตัวกันไปพร้อมกบั การพฒั นาทักษะและการเรียนรเู้ พ่ือปฏบิ ัตหิ นา้ ที่ \"ครเู พือ่ ศิษย์\" 6. เป็นสถานท่ีสาหรับ \"ปฏิสัมพันธ์\" ลดความ \"โดดเดี่ยว\" 7. ส่ิงสาคัญท่ีสุดของ PLC คือ การทางานที่มุ่งไปที่การ เรียนรู้ ของเดก็ แตล่ ะคนเป็นสาคญั 8. PLC ม่งุ การปฏบิ ตั กิ ารสอนและผลสมั ฤทธิ์ของนกั เรยี น (เอกสารอา้ งอิง ภาคผนวก ค) 4.งานอน่ื ๆ ทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย ข้าพเจ้าได้รับมอบหมายให้ทาหน้าท่ี ครูอนามัยโรงเรียน งานประกันอุบัติเหตุนักเรียน ได้มีการจัดทา เอกสารต่างๆ ดังนี้ จดั ทาเอกสารสื่อสาร ประสานงานกับทาง รพ.สต บา้ นฟ่อน จดั ทาเอกสารสง่ เจ้าหนา้ ทีป่ ระกนั อบุ ัติเหตใุ นเวลาทน่ี ักเรยี นได้รบั อบุ ตั ิเหตุ ทะเบยี นคุมน้าหนักสว่ นสูงของนักเรยี น ดแู ลอาหารเสรมิ นมป.1 - 6 (เอกสารอา้ งอิง ภาคผนวก ค)

18 ตอนที่ 2 การประเมินการปฏิบัตติ นในการรกั ษาวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวชิ าชพี 2.1 มีความซื่อสัตย์ สุจริต รักษาประโยชน์ส่วนรวม ไม่อาศัยหรือยินยอมให้ผู้อ่ืนใช้อานาจและหน้าท่ีของตน เพ่อื แสวงหาประโยชน์ ข้าพเจ้ามีวินัยในตนเอง ยอมรับและถือปฏิบัติตามกฎ กติกา มารยาท ขนบธรรมเนียม และแบบแผนอันดีงามของสังคม ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี เป็นผู้นาในการเสริมสร้างการพัฒนาด้านวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพครู ประพฤติปฏิบัติตนเหมาะสม ถูกต้องตามระเบียบวินัยของทาง ราชการ ท้ังในด้านการแต่งกายท่ีเหมาะสมกับกาลเทศะ มีความซ่ือสัตย์สุจริตในวิชาชีพ ตรงต่อเวลา มาปฏิบัติ ราชการก่อนเวลาและกลับหลังเวลาราชการ อุทิศและเสียสละเวลาให้กับทางราชการอย่างเต็มที่ มีความอดทน อดกล้ัน ต่อความเหนื่อยยากขณะปฏิบัติราชการ เอ้ือเฟื้อเผ่ือแผ่และมุ่งมั่นทาประโยชน์เพื่อส่วนรวม ไม่นาเวลา ราชการไปทาประโยชน์ส่วนตัว มีความรักสามัคคีในองค์กร มีความละอาย และเกรงกลัวต่อการกระทาความผิด ไม่ยุ่งเก่ียวกับยาเสพติดและอบายมุขต่างๆ มีระเบียบวินัย เป็นแบบอย่างท่ีดีแก่เพื่อนร่วมงานและนักเรยี น เชิดชู และเคารพสถาบันหลักของชาติ คอื ชาติ ศาสนา และพระมหากษตั ริย์ ข้าพเจ้าซื่อสัตย์สุจริตในการปฏิบัติหน้าที่ รักษาผลประโยชน์ของทางราชการ และไม่มี ผลประโยชน์ทับซ้อน โดยอบรม ส่ังสอน ฝึกฝนและจัดกิจกรรมการเรียนการสอน เพื่อพัฒนานักเรียน อย่างเต็มศักยภาพ รับผิดชอบงานในหน้าที่การสอน และงานหน้าท่ีพิเศษที่ได้รับมอบหมายด้วยความเต็มใจ ไม่แสวงหาผลประโยชน์จากงานราชการ ไม่เอาเวลาราชการไปหาประโยชน์สว่ นตวั รักษาผลประโยชน์ ของโรงเรียน เช่น การประหยัดน้า ประหยัดไฟ หรือใช้กระดาษของทางราชการโดยประหยัด เป็นต้น พร้อมเปน็ แบบอย่างทีด่ ีแกผ่ ูเ้ รยี น ด้วยความซ่อื สตั ย์ สจุ ริต ไม่แสวงหาผลประโยชน์ใดๆ 2.2 การปฏิบัติตามระเบียบ กฎหมาย นโยบาย และคาสัง่ ของผบู้ ังคบั บัญชา ข้าพเจา้ รักษาและเสริมสรา้ งวินัยในตาแหนง่ หน้าที่ราชการ ปฏิบัติตามกฎหมายระเบียบแบบแผน ของทางราชการ ยึดม่ันในคุณธรรมจรยิ ธรรม ศึกษากฎหมายการศึกษา พระราชบัญญตั ิทางการศึกษาและบทบาท หนา้ ท่ีทางราชการของครใู นหมวดท่วี ่าด้วยวินัยทางราชการจนเข้าใจ และไดป้ ฏิบัตติ นตามกฎหมาย และระเบียบ แบบแผนของทางราชการอย่างเคร่งครัด ต้งั ใจปฏิบตั หิ น้าที่ของตนเองใหส้ าเร็จลลุ ่วงอยา่ งดีท่สี ุด การรักษาระเบยี บ วินัยในการมาและกลับในการปฏิบัติราชการที่ตรงเวลา การปฏิบัติตามคาส่ังผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัด มีส่วน ร่วมเสริมสร้างวินัยแก่ผู้อ่ืน ยึดมั่นในคุณธรรม จริยธรรมและเป็นแบบอย่างที่ดีและปฏิบัติตนต ามหลัก พระพุทธศาสนา มีคุณธรรม จริยธรรม ต่อเพ่ือนร่วมงาน และนักเรียน โดยเข้าร่วมกิจกรรม และปฏิบัติงานตามท่ี ได้รบั มอบหมายจากทางโรงเรยี น

19 2.3 มีความวริ ยิ ะ อุตสาหะ ตรงตอ่ เวลา และอทุ ศิ เวลาใหแ้ กท่ างราชการ ข้าพเจ้าตรงต่อเวลา อุทิศเวลาให้แก่ทางราชการ ไม่ละทิ้งหน้าท่ีราชการโดยไม่มีเหตุอันควร ปฏิบัติหน้าท่ีที่ได้รับมอบหมาย และปฏิบัติหน้าที่ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ อย่างเต็มเวลา เต็มความสามารถ โดยไม่เอาเวลาราชการไปหาผลประโยชน์หรือทาธุรกิจส่วนตัว หากได้รับมอบหมายจาก ผู้บังคับบัญชาให้ปฏิบัติหน้าที่ใด ๆ ข้าพเจ้าจะรับผิดชอบและทาให้เสร็จ แม้งานนั้นต้องนาไปทาต่อท่ีบ้านหรืออยู่ ปฏิบัติหน้าท่ีนอกเวลาราชการ หรือได้รับคาสั่งให้ทางานในวันเสาร์และวันอาทิตย์ ข้าพเจ้าไม่เคยหลีกเลี่ยงต่อ หน้าที่ท่ีได้รับมอบหมาย นอกจากการปฏิบัติหน้าท่ีในการสอนตามปกติแล้ว ข้าพเจ้าได้ฝึกซ้อมนักเรียน เพ่ือเป็นตัวแทนของโรงเรียนในการเข้าแข่งขันทักษะวิชาการในระดับเขตพื้นที่การศึกษา ระดับภาคและ ระดับประเทศ และให้คาปรึกษา ชว่ ยเหลือแกน่ ักเรียนที่มปี ัญหาในเรื่องการเรียน ทุกระดับชัน้ ในเวลาพักกลางวัน และหลงั เลิกเรยี น 2.4 การมีจติ สานึกทดี่ ี มุ่งบริหารต่อกลุม่ เปา้ หมายผ้รู ับบริการ โดยไม่เลือกปฏบิ ตั ิ ข้าพเจ้าตั้งใจปฏิบัติหน้าที่การสอนอย่างเต็มความสามารถ เต็มเวลา เต็มหลักสูตร โดยมา ปฏิบัติงานก่อนเวลาและกลับหลังเวลาเลิกทางาน วางแผนการปฏิบัติงานอย่างเป็นระบบ ทาการวิเคราะ ห์ นักเรียนรายบุคคล เพอื่ เป็นแนวทางในการจดั ทาแผนการจดั การเรียนรู้ เพื่อสง่ เสริมให้นกั เรยี นเกิดการเรยี นรู้จาก หลายสถานการณ์ หลากหลายวิธีการเรียนรู้ตามความแตกต่างของนักเรียน ให้นักเรียนเกิดทักษะการเรียนรู้ ทักษะประสบการณ์ ทกั ษะการแก้ปัญหา ตามความสามารถ ไดใ้ ห้กาลังใจ และเสริมสร้างคุณลกั ษณะนสิ ยั ทด่ี ีงาม ให้แก่นักเรียน จัดกิจกรรมโฮมรูม และจัดทางานวิจัยในชั้นเรียน เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนได้พัฒนาตนเองได้อย่าง ถกู ต้อง เหมาะสม จัดกิจกรรมฝกึ ทกั ษะกระบวนการการอยรู่ ่วมกบั ผอู้ ืน่ ได้อยา่ งมีความสขุ ให้กาลังใจในการเรียนรู้ การแข่งขันทักษะวิชาการ และจัดสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ในชั้นเรียนให้น่าเรียน รวมท้ังจัดหาสื่อการเรียนการ สอนท่ีเหมาะสม ส่งเสรมิ การเรยี นรู้ของนักเรียนใหเ้ ต็มตามศักยภาพของแต่ละบุคคล สง่ ผลใหน้ กั เรยี นไดร้ บั รางวัล ในการแข่งขันทักษะวชิ าการ ข้าพเจ้าเอาใจใส่ช่วยเหลือผู้เรียน และผู้รับบริการเต็มความสามารถตามหลักวิชาชีพอย่าง สม่าเสมอ เทา่ เทยี มกัน ให้ความรกั ความเมตตากรุณาต่อนักเรียน ชว่ ยเหลอื และสง่ เสรมิ ให้กาลังใจแก่นักเรียนทุก คนด้วยความบรสิ ทุ ธใ์ิ จ ในฐานะครูทีป่ รกึ ษา ขา้ พเจา้ ได้ออกเยีย่ มบา้ นนักเรียน พบปะพูดคยุ กบั ผูป้ กครองนักเรียน ประชาสัมพนั ธ์ข้อมลู ของโรงเรียนที่จาเป็นต่อนักเรียนและผู้ปกครอง เพือ่ ให้ความช่วยเหลือ สนับสนนุ และสง่ เสริม นักเรยี นได้ตรงจุด ตามความตอ้ งการของทัง้ สองฝ่าย ทาความร้จู กั คนุ้ เคยกบั นักเรยี นเปน็ รายบคุ คล เม่ือเกิดปัญหา จะแกไ้ ขทนั ที มกี ารวางตนเป็นกลาง ไม่ลาเอยี ง และมีความยตุ ธิ รรมให้แกน่ กั เรยี นทกุ คน มีการสังเกตพฤตกิ รรม นกั เรียน สง่ เสรมิ นกั เรียนทมี่ ีพฤติกรรมดี และวา่ กล่าวตกั เตือนนักเรียน ทีม่ ีพฤติกรรม ทไี่ มเ่ หมาะสม พร้อมอธิบาย เหตุผล ให้นักเรียนปรับเปลีย่ นพฤติกรรมของตนเองใหม่ ต้ังใจดูแลอบรมให้นกั เรียนเป็นคนดี มีความประพฤตทิ ีด่ ี งาม เพ่ือให้นกั เรยี นอยู่ร่วมกบั ผ้อู น่ื ในสงั คมได้อยา่ งมคี วามสขุ และสามารถแก้ปัญหาได้ดว้ ยตนเอง ข้าพเจ้าศึกษาค้นคว้า ริเริ่มสร้างสรรค์ความรู้ใหม่ นวัตกรรมในการพัฒนางานในหน้าท่ี อุทิศตนแสวงหาความรู้และเทคนิคใหม่ ๆ โดยการศึกษา ค้นคว้าข้อมูลในสาขาวิชาที่สอนทั้งในหนังสือ ระบบอินเตอรเ์ นต็ บทเรียนสาเรจ็ รปู โปรแกรมส่ือการสอน มาประกอบแผนการจัดการเรยี นรู้ สร้างและพัฒนา

20 สอ่ื การสอนใหเ้ หมาะสม ทาใหก้ ิจกรรมการเรยี นการสอนมคี วามนา่ สนใจมากยง่ิ ข้ึน ผู้เรียนมสี ่วนร่วมในกิจกรรม การเรียนการสอนมากขึ้น รวมท้งั การเขา้ รว่ มอบรม สัมมนา อบรมปฏบิ ตั ิการ เพ่ือพฒั นาตนเอง ศึกษาข้อมลู ความรู้ และประสบการณ์ใหมๆ่ อยู่เสมอ เพื่อพัฒนาการสอนให้หลากหลายมากขึน้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ ต่อการเรียนรู้ของ นกั เรียนมากขนึ้ ข้าพเจ้าปฏิบัติหน้าที่ราชการ ท้ังงานการสอน งานท่ีได้รับมอบหมายตามคาสั่งของโรงเรียน ด้วยความอุตสาหะ ขยัน อดทน มุ่งมั่นและรับผิดชอบงานสอนอย่างเต็มความรู้ ความสามารถ ดูแล เอาใจใส่ นกั เรียนในดา้ นการเรียน และความประพฤติ ให้นกั เรียนเปน็ ผทู้ ่ีมีความรู้ ความประพฤติท่ีดี สามารถอยู่ในสังคมได้ อยา่ งมีความสุข รับผดิ ชอบงานท่ีได้รับมอบหมายอย่างต้งั ใจให้เสรจ็ ทนั เวลา พร้อมทั้งประพฤติปฏิบตั ิตนอยา่ งเรียบ ง่าย และประหยัดโดยใช้ทรัพยากรในหน่วยงานอย่างประหยัดและคุ้มค่า ช่วยลดค่าใช้จ่าย ในโรงเรียนด้วยการ ปิดน้า ปิดไฟ และปิดคอมพิวเตอร์ทุกคร้ังที่ไม่ใช้งาน รวมถึงการรณรงค์และ ปลูกจิตสานึกให้กับนักเรียนในการ ชว่ ยกันประหยดั น้า ประหยดั ไฟฟ้า ปิดไฟทุกครั้งก่อนออกจากห้องเรียน และปิดก๊อกน้าทุกคร้ังหลังเลิกใช้งานแล้ว ทนั ที ข้าพเจ้า นบั ถือศาสนาพุทธ ยึดม่นั ในคุณธรรม จรยิ ธรรม มคี วามศรทั ธาและปฏบิ ัตติ นตามหลกั ศาสนา รักษาศีล 5 อย่างสม่าเสมอ หลีกเลี่ยงอบายมุขทุกชนิด ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีต่อเพ่ือนร่วมงานและ นักเรียน สอดแทรกคุณธรรมจริยธรรมท่ีดี คุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่ดี ให้กับนักเรียนทุกชั่วโมงที่สอน แสดง ความเคารพโดยการไหว้ผู้ท่ีมีอาวุโสกวา่ เป็นแบบอย่างที่ดีแก่นักเรียน และบุคคลท่ัวไป รวมทั้งเข้าร่วมกิจกรรมใน วันสาคญั ทางพระพุทธศาสนา นอกจากนย้ี งั ได้ทาบุญตักบาตรในวนั พระ ไปปฏบิ ตั ิธรรมเมอื่ มีโอกาส แนะนาสั่งสอน ใหน้ กั เรียนไดฝ้ ึกน่ังสมาธิในช่วั โมงโฮมรูม อบรมสั่งสอนให้นักเรียนหลกี เลี่ยงอบายมุขทุกชนดิ ให้เปน็ คนดี มคี า่ นยิ ม ท่ดี ีงาม มคี วามกตัญญูรู้คุณ รู้จักขอโทษ ให้อภัย เสียสละ ไมเ่ หน็ แก่ตัว และรจู้ ักชว่ ยเหลือสงั คม ปฏิบัตติ นอย่าง มีคุณธรรม จริยธรรมต่อเพื่อนร่วมงานและผู้เรียนเสมอ และได้รับมอบหมายจากทางโรงเรียน ให้ร่วมกิจกรรม เกี่ยวกับการอบรมคุณธรรมจรยิ ธรรมแกน่ ักเรยี น ในโอกาสตา่ ง ๆ 2.5 การรกั ษาคณุ ภาพตามมาตรฐานวชิ าชีพและจรรยาบรรณวชิ าชพี ข้าพเจ้าประพฤติตนตามจรรยาบรรณของวิชาชีพ และแบบแผนตามจรรยาบรรณวิชาชีพครู มี เจตคติท่ดี ีต่อวิชาชพี เพอื่ นร่วมวชิ าชีพ และผูร้ ับบรกิ าร มีความรู้ ความเข้าใจในคณุ คา่ และความสาคัญของวิชาชีพ มีพฤติกรรมที่แสดงให้เห็นถึงความรัก ความศรัทธาในวิชาชีพ มีความรู้ความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของวิชาชีพครู และปฏิบัติตนตามบทบาทหน้าท่ีของวิชาชีพ ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ลูกศิษย์ ตั้งใจถ่ายทอดวิชาความรู้ ใหก้ ับนักเรียนทุกคน ข้าพเจา้ ดารงตนเป็นแบบอยา่ งทด่ี ี เหมาะสมกับสถานภาพและตาแหนง่ หน้าท่ี ปฏบิ ตั ติ น เหมาะสมกบั การเปน็ ครู เป็นแบบอยา่ งท่ดี แี กเ่ พ่ือนร่วมงานและนักเรียน โดยประพฤติ ปฏบิ ตั แิ ละวางตน ให้ เหมาะสมทั้งทางกาย วาจา ใจ เช่น แต่งกายสะอาด เหมาะสมกบั กาลเทศะ มีกิริยาวาจาทสี่ ภุ าพเรียบร้อย มีความอ่อนน้อมถ่อมตนและประพฤติปฏิบัติตนเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดขี องศาสนา มีบุคลิกภาพเหมาะสมกับความ เป็นครู มีจิตใจรา่ เริงแจ่มใส ดารงตนเปน็ ผู้นาและผตู้ ามท่ีดี มคี วามรบั ผิดชอบต่องานที่ไดร้ ับมอบหมาย

21 ปฏิบัติการสอนด้วยความตั้งใจ เออ้ื อาทรต่อศิษย์อย่างเสมอภาค มีความซ่ือสัตย์สจุ ริต เออื้ เฟอื้ เผ่อื แผ่ และเสียสละ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมย่ิงกว่าประโยชน์ส่วนตัว มีวินัยในตนเอง ตรงต่อเวลา ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อ่ืน ใช้ถ้อยคาสุภาพ มีน้าเสียงนา่ ฟัง ใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้องท้ังในห้องเรยี น ในท่ีประชุม และชุมชน ส่งเสริมการใช้ ภาษาไทยของนักเรียน ให้คาแนะนา ตักเตือนนักเรียนท่ีพูดจาไม่สุภาพ ช่วยแก้ไขเม่ือนักเรียนใช้ภาษาไทยไม่ ถูกต้องทั้งการเขียนและการพูด เพื่อสร้างนิสัยการใช้ภาษาไทยท่ีถูกต้อง พยายามหลีกเลี่ยงการกระทาที่ก่อให้เกิด ความแตกแยกในหมู่คณะ ซึ่งสามารถเป็นตัวอย่างในการประพฤติปฏิบัติตนจนได้รับความไว้วางใจจากเพื่อน ร่วมงาน ผู้บริหาร และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้อ่ืน นอกจากน้ี ข้าพเจ้าได้เข้าสอนและออกจากห้องสอนตรงเวลา ตามท่ีโรงเรียนกาหนด เอาใจใส่ สนใจและดูแลสถานท่ีทางาน ห้องพักครู ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ให้อยู่ในสภาพท่ี สะอาด เรยี บรอ้ ย 2.6 การรกั ษาภาพลกั ษณ์และความสามคั คใี นองคก์ ร ชุมชน และสังคม ข้าพเจ้ามีความสามัคคี มีน้าใจ เอ้ือเฟื้อเผ่ือแผ่ต่อเพื่อนร่วมงาน มีความเสียสละ เก้ือกูลกัน ประพฤติปฏบิ ัตงิ านอยา่ งกัลยาณมติ รต่อเพอ่ื นร่วมงานด้วยความจริงใจ สุภาพเรยี บร้อย ทางานรว่ มกับผูอ้ น่ื ได้อย่าง ราบรื่นและประสบความสาเร็จจนได้รับการยอมรับจากหน่วยงาน หรือองค์กรท่ีเกี่ยวข้อง เข้าร่วมกิจกรรมและให้ ความช่วยเหลือกับผู้ร่วมงานในโรงเรียน ตลอดจนกิจกรรมสาคัญของหน่วยงาน องค์กรและชุมชนท่ีอยู่ใกล้เคียง อย่างสมา่ เสมอ โดยม่งุ เนน้ การให้บริการ ตดิ ตาม ชว่ ยเหลอื ให้ความสะดวก ให้ความเปน็ ธรรม ใหก้ ารสงเคราะห์ โดยไม่หวังส่ิงตอบแทน ร่วมบริจาคเงินร่วมสมทบทาบุญโอกาสต่างๆ ได้แก่ กฐิน ผ้าป่าสามัคคี บิดามารดา นักเรยี นเสยี ชวี ิต บดิ า มารดาของครใู นโรงเรียนเสียชีวติ ศษิ ยเ์ ก่าเสียชวี ิต ขา้ พเจา้ ได้เสยี สละเวลา และเสียสละเงิน ในการร่วมกิจกรรมของกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ช่วยเหลือเพื่อนครูในด้านการแก้ไขปัญหางาน วิชาการ ใหค้ าแนะนาเพื่อนครูอยา่ งกลั ยาณมติ ร ไดร้ ่วมวางแผน รว่ มปรับปรุง พัฒนาผลงานของหมูค่ ณะทั้งในและ นอกกลุ่มสาระฯ ทุกข้ันตอน ด้วยความเต็มใจ บริสุทธ์ิใจ จนทาให้งานประสบผลสาเร็จบรรลุวัตถุประสงค์ทุก ประการ และได้ร่วมกิจกรรมอ่ืนๆ ในชุมชน ที่อาศัยอยู่ เช่น งานแต่งงาน งานขึ้นบ้านใหม่ งานอุปสมบทและงาน ฌาปนกิจศพ เป็นต้น ข้าพเจ้ารักษาช่ือเสียง ปกป้องศักดิ์ศรีแห่งวิชาชพี และการยกย่องเชดิ ชเู กียรติ ประพฤติปฏิบัติตนเปน็ แบบอย่างท่ีดี และสมศักด์ิศรีของการเป็นครู ซึ่งอาชีพครูจะได้รับการยกย่อง หรือเชิดชูเกียรติหรือไม่ ข้ึนอยู่กับ การประพฤติปฏิบตั ติ นของเรา คนทใ่ี กล้เรามากที่สุด คือนักเรยี น เราต้องปฏบิ ตั ติ นเปน็ แบบอยา่ งที่ดี นกั เรยี นเห็น อย่างไร เขาก็จะไปพูดหรือเล่าให้ผู้ปกครองฟังเช่นน้ัน การเยี่ยมบ้านนักเรียน เพ่ือปรึกษาพูดคุยกับผู้ปกครอง ใน การช่วยเหลือและส่งเสริมนักเรียน ทาให้ผู้ปกครองยกย่อง และเชิดชูเกียรติได้เช่นเดียวกัน ที่เอาใจใส่และดูแล ลกู หลานของเขาอย่างใกลช้ ิด การเข้าร่วมกจิ กรรมของชุมชน กิจกรรมวนั ครู กิจกรรมวันไหวค้ รใู นโรงเรียน เพื่อให้ นกั เรียนไหว้ และบูชาครู ซึ่งแสดงถงึ ความอ่อนน้อม กตัญญู รูค้ ุณ กจิ กรรมยกย่อง เชดิ ชูเกียรตคิ รู และผลจากการ ท่ขี ้าพเจา้ ประพฤตปิ ฏบิ ตั ติ นเปน็ แบบอยา่ งทด่ี ี และสมศกั ดิ์ศรขี องการเป็นครู ข้าพเจ้ามีจติ อาสา จติ สาธารณะ และมงุ่ ประโยชน์สว่ นรวม ให้ความรว่ มมอื ช่วยเหลอื ในกิจกรรม ท่ีเก่ียวกับการพัฒนาศักยภาพของครู ศักยภาพของนักเรียน งานหรือกิจกรรมต่างๆ ท่ีโรงเรียนและหน่วยงานต้น สงั กัดจัดขน้ึ อย่างเตม็ ใจ ปฏิบตั ิงานตามทไี่ ด้รับมอบหมายอย่างเตม็ ความสามารถ ใหส้ าเรจ็ ตามวัตถปุ ระสงค์ ให้

22 การช่วยเหลือผู้รว่ มงาน ตามความเหมาะสมทีเ่ ราจะสามารถชว่ ยได้ โดยไม่ต้องคอยให้เขาขอความชว่ ยเหลือ เห็น ประโยชนส์ ว่ นรวม มากกวา่ ประโยชนส์ ว่ นตัว ร่วมกิจกรรมของชมุ ชนอย่างสมา่ เสมอ ให้ความชว่ ยเหลือและร่วมมือ แก่ชุมชน แก่เพื่อนร่วมงานด้วยความเต็มใจ ทั้งด้านกาลังกาย และกาลังทรัพย์ได้ช่วยเหลือทุนทรัพย์สิ่งของแก่ เพื่อนครูตามโอกาส บริจาคทุนทรัพย์เพ่ือสาธารณประโยชน์ เพื่อช่วยเหลือนักเรียน ให้ความร่วมมือกับชุมชนและ หน่วยงานอ่ืน ให้ความร่วมมือ ช่วยเหลือในกิจกรรม งาน โครงการท่ีโรงเรียน จัดอย่างเต็มใจ ปฏิบัติงานตามที่ ได้รับมอบหมายอย่างเต็มความสามารถ ให้สาเร็จตามวัตถุประสงค์ ช่วยเหลือผู้เรียน ครูและบุคลากรทางการ ศกึ ษา ดว้ ยความเตม็ ใจ และมคี วามสุขที่ได้ชว่ ยเหลือผู้อื่นร่วมกจิ กรรมประเพณีในท้องถ่นิ อย่างสม่าเสมอ อานวย ความสะดวกแก่หน่วยงานราชการอ่ืนๆที่มาขอใช้สถานที่ หรือวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ของโรงเรียน นอกจากนี้ยัง เสียสละเวลาและอุทศิ ตนในการทางานเพ่ือประโยชนส์ งู สุด โดยปฏิบตั ิงานอยา่ งไม่คานงึ ถึงเวลาราชการเทา่ นั้น แต่ จะยดึ ความสาเรจ็ ของส่วนรวมเป็นทีต่ ง้ั ( เอกสารอา้ งอิง ภาคผนวก ง ) ลงชือ่ ..................................................ผู้รายงาน (นางธีรารตั น์ เทอื กเถาสาร) ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะชานาญการ วนั ที่ 24 เดือน กนั ยายน พ.ศ. 2563

23 คารับรองของผูบ้ ังคับบัญชา ขอรบั รองวา่ ข้อมลู การรายงานผลการปฏบิ ัตงิ านของขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา โรงเรียนชมุ ชนบ้านฟอ่ นวทิ ยา เพ่ือประกอบการประเมนิ ประสิทธภิ าพและประสิทธผิ ลของครูผู้สอน และเพื่อประกอบการพิจารณาเล่ือนเงนิ เดือนครง้ั ท่ี 2 (1 กนั ยายน 2563 – 30 กันยายน 2563) ของ นางธีรารตั น์ เทือกเถาสาร ตาแหน่ง ครูชานาญการ ถกู ตอ้ ง และเป็นความจรงิ ทกุ ประการ (ลงชือ่ )....................................................... (นายวนิ ัย แปน้ นอ้ ย) ตาแหนง่ ผอู้ านวยการโรงเรียนชุมชนบา้ นฟอ่ นวทิ ยา วันท่ี เดอื น กนั ยายน พ.ศ. 2563 คารบั รองของผูบ้ งั คบั บญั ชาตามลาดบั ชัน้ เรยี น ผ้ชู ่วยผอู้ านวยการโรงเรยี น การตรวจสอบขอ้ มูลการรายงานผลการปฏิบัติงานของขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โรงเรียนชมุ ชนบ้านฟอ่ นวิทยา เพือ่ ประกอบการประเมินประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธผิ ลของครผู ้สู อนและ เพื่อประกอบการพจิ ารณาเลื่อนเงินเดือนคร้งั ท่ี 2 (1 เมษายน 2563 – 30 กนั ยายน 2563) ของ นางธรี ารัตน์ เทือกเถาสาร ตาแหนง่ ครชู านาญการ ถูกต้อง และเป็นความจรงิ ทุกประการ ได้ตรวจสอบแล้ว  มคี ณุ สมบัติตาม กฎ ก.ค.ศ. กาหนด  ขาดคณุ สมบตั ิ (ระบุ)...................................................................... (ลงช่อื )....................................................... (นางขนษิ ฐา บริสุทธิศ์ รี) ตาแหน่ง ผูช้ ว่ ยผู้อานวยการโรงเรยี น วันที่ เดือน กนั ยายน พ.ศ. 2563

24 ความเหน็ ของผ้อู านวยการโรงเรยี นชมุ ชนบ้านฟ่อนวทิ ยา  เห็นชอบ  ไมเ่ ห็นชอบ (ระบุ).................................................................................... (ลงชอ่ื )....................................................... (นายวนิ ยั แปน้ นอ้ ย) ตาแหน่ง ผู้อานวยการโรงเรยี นชุมชนบา้ นฟ่อนวทิ ยา วนั ที่ เดอื น กันยายน พ.ศ. 2563

ภาคผนวก ก 1. ดา้ นการจดั การเรยี นการสอน 1.1 การสร้างและหรือพัฒนาหลักสตู ร 1.2 การจัดการเรยี นรู้ 1.2.1 การออกแบบหน่วยการเรยี นรู้ 1.3 คณุ ภาพผ้เู รยี น 1.4 การสร้างและพัฒนาสือ่ นวตั กรรม 1.5 การวดั ผล ประเมินผลการเรียนรู้ 1.6 การศกึ ษาวเิ คราะห์ สังเคราะห์ และหรือวจิ ยั

ลงชือ่ ....................................... (นางธรี ารัตน์ เทือกเถาสาร) โรงเรียนชมุ ชนบา้ นฟอ่ นวิทยา

ลงชือ่ ....................................... (นางธรี ารัตน์ เทือกเถาสาร) โรงเรียนชมุ ชนบา้ นฟอ่ นวิทยา

ลงชือ่ ....................................... (นางธรี ารัตน์ เทือกเถาสาร) โรงเรียนชมุ ชนบา้ นฟอ่ นวิทยา

ลงชือ่ ....................................... (นางธรี ารัตน์ เทือกเถาสาร) โรงเรียนชมุ ชนบา้ นฟอ่ นวิทยา

ลงชือ่ ....................................... (นางธรี ารัตน์ เทือกเถาสาร) โรงเรียนชมุ ชนบา้ นฟอ่ นวิทยา

ภาคผนวก ข การบรหิ ารจัดการชั้นเรยี น การจดั ระบบดแู ลชว่ ยเหลือนักเรยี น

ลงชือ่ ....................................... (นางธรี ารัตน์ เทือกเถาสาร) โรงเรียนชมุ ชนบา้ นฟอ่ นวิทยา

ลงชือ่ ....................................... (นางธรี ารัตน์ เทือกเถาสาร) โรงเรียนชมุ ชนบา้ นฟอ่ นวิทยา

ลงชือ่ ....................................... (นางธรี ารัตน์ เทือกเถาสาร) โรงเรียนชมุ ชนบา้ นฟอ่ นวิทยา

ภาคผนวก ค การพฒั นาตนเอง การพฒั นาวชิ าชีพ งานอื่นๆ ทไ่ี ด้รบั มอบหมาย

ลงชือ่ ....................................... (นางธรี ารัตน์ เทือกเถาสาร) โรงเรียนชมุ ชนบา้ นฟอ่ นวิทยา

ลงชือ่ ....................................... (นางธรี ารัตน์ เทือกเถาสาร) โรงเรียนชมุ ชนบา้ นฟอ่ นวิทยา

ลงชือ่ ....................................... (นางธรี ารัตน์ เทือกเถาสาร) โรงเรียนชมุ ชนบา้ นฟอ่ นวิทยา



ลงชือ่ ....................................... (นางธรี ารัตน์ เทือกเถาสาร) โรงเรียนชมุ ชนบา้ นฟอ่ นวิทยา

ภาคผนวก ง ด้านวินัย คุณธรรม จรยิ ธรรม - ความซื่อสัตย์ - การปฏิบัตติ ามกฎ - มีความวริ ิยะ อุตสาหะ ตรงต่อเวลา - การมีจติ สานึก - การรกั ษาคณุ ภาพตามมาตรฐาน - การรักษาภาพลักษณแ์ ละความสามคั คี องศ์กร ชุมชน และสงั คม

ลงชือ่ ....................................... (นางธรี ารัตน์ เทือกเถาสาร) โรงเรียนชมุ ชนบา้ นฟอ่ นวิทยา

ลงชือ่ ....................................... (นางธรี ารัตน์ เทือกเถาสาร) โรงเรียนชมุ ชนบา้ นฟอ่ นวิทยา

ลงชือ่ ....................................... (นางธรี ารัตน์ เทือกเถาสาร) โรงเรียนชมุ ชนบา้ นฟอ่ นวิทยา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook