ไวยกรณ์จนี น่ารู้ (有趣的汉语语法)
คานา หนงั สือเล่มน้ีเปน็ ส่วนหนงึ่ ของเรอ่ื งไวยกรณ์จนี น่ารู้ (有趣的汉语语法) ซึง่ เนอื้ หาในหนังสือเล่มนปี้ ระกอบไปด้วยไวยกรณ์จีนต่างๆ ความหมายของไว ยกรณ์ วิธีการใชไ้ วยกรณ์ ตวั อยา่ งประกอบเพอ่ื ให้เหน็ และเขา้ ใจไดอ้ ยา่ ง ชัดเจน ผู้จัดทาหวังว่าเอกสารประกอบการเรียนนีจ้ ะเกิดประโยชน์แกผ่ ูศ้ ึกษาเปน็ อยา่ งมากและสามารถนาไปเปน็ แนวทางในการเรียนรู้ด้วยตนเองของผศู้ กึ ษา หากมขี อ้ ผดิ พลาดประการใดผู้จดั ทาจึงขออภัยมา ณ ที่นี้ ผู้จัดทา นางสาวฐานติ า มานันชยั
สารบญั หนา้ เรอื่ ง 1 4 การบอกจานวนเงิน 5 แบบฝึกหดั 10 การบอกวัน เดอื น ปี สปั ดาห์ 11 แบบฝึกหัด 17 18 比 21 22 แบบฝึกหัด 25 像 แบบฝกึ หดั 有 แบบฝกึ หดั
1 การบอกจานวนเงนิ หนว่ ยสกลุ เงนิ ต่างๆมีคาเรยี กในภาษาจีนทีแ่ ตกตา่ งกนั เช่นหน่วยเงนิ ของจนี แผ่นดินใหญ่ คือ สกุลเงนิ 人民币 (Rénmínbì) มหี น่วยนับเป็น 元 (Yuán) (หรอื 快(Kuài)ในภาษาพูด ) 角(Jiǎo)(หรอื 毛(Máo)ในภาษาพดู ) และ 分(Fēn) ยกตัวอย่าง 25.53 元 อ่านวา่ 二十五元五毛三分 หรือ 二十五块五毛三分 (èrshíwǔ yuán wǔmáo sān fēn) หรอื (èrshíwǔ kuài wǔmáo sān fēn) 46.40 元 อา่ นว่า 四十六元四角 หรือ 四十六快四(毛) (sìshíliù yuán sì jiǎo) หรอื (sìshíliù kuài sì(máo))
2 158.80 元 อา่ นว่า 一百五十元八角 หรือ 一百五十快八 (毛) (yībǎi wǔshí yuán bājiǎo)หรอื (yībǎi wǔshí kuài bā(máo)) หากตัวเลขมีเลข 0 ตรงกลาง ต้องออกเสียงเลข 0 นน้ั ดว้ ย เปรยี บเทียบการ บอกจานวนเงินต่อไปน้ี ยกตัวอยา่ ง 105.50 元 อ่านว่า 一百零五元五角 หรอื 一百零五块(毛) (yībǎi líng wǔ yuán wǔjiǎo) หรือ (yībǎi líng wǔ kuài(máo)) 150.50 元 อา่ นวา่ 一百五十元五角 หรือ 一百五(十)快五(毛) (yībǎi wǔshí yuán wǔjiǎo) หรือ (yībǎi wǔ (shí) kuài wǔ(máo))
3 หากหน่วยเงินมเี พียงหนว่ ยใดหนว่ ยหนง่ึ เพียงหน่วยเดียวในภาษา พดู มักลงท้ายดว้ ยคาว่า 钱 (qián) ยกตวั อยา่ ง 10.00 元 อ่านว่า 十元 หรือ 十块(钱) (shí yuan) หรือ (shí kuài(qián)) 0.50 元 อ่านว่า 五角 หรือ 五毛(钱) (wǔjiǎo) หรอื (wǔmáo(qián)) 0.08 元 อา่ นวา่ 八分(钱) (bā fēn(qián))
4 แบบฝึกหัด ใหน้ กั เรยี นบอกจานวนเงินเป็นภาษาจนี จานวน 5 ขอ้ 1. 203.53 元 =..................................................................................................................................... ........................................................................................................................................ 2. 56.05 元 =..................................................................................................................................... ........................................................................................................................................ 3. 0.30 元 =..................................................................................................................................... ........................................................................................................................................ 4. 143.40 元 =..................................................................................................................................... ....................................................................................................................................... 5. 0.03 元 =..................................................................................................................................... .......................................................................................................................................
5 การบอกวัน เดอื น ปี สปั ดาห์ การอา่ นวันท่ีและเดอื นในภาษาจนี อ่านเป็นตวั เลขบอกลาดบั เชน่ 15 日 อา่ นวา่ 十五日 shíwǔ rì 28 日 อ่านว่า 二十八日 èrshíbā rì 11 月 อ่านวา่ 十一月 shíyī yuè 12 月 อา่ นว่า 十二月 shí'èr yuè ท้ังนี้วันท่ีในภาษาจีนยงั สามารถใช้คาวา่ 号(hào)ได้ แต่มักนิยมใช้ใน ภาษาพดุ มากกวา่ เช่น 我 12 号去中国。 (Wǒ shí'èr hào qù zhōngguó.) ฉันไปประเทศจนี วันที่ 12
6 การอ่านปีในภาษาจีน นิยมบอกแบบตัวเลขเรียงตัว เชน่ 2004 年 อ่านวา่ 二零零四年 èr líng líng sì nián 1995 年 อ่านวา่ 一九九五年 yījiǔjiǔwǔ nián การบอกวนั เดอื นปใี นภาษาจีน จะใชว้ ิธกี ารเรียงเปน็ ปี เดือน วันท่ี วัน คอื เรียงจากหลกั ใหญ่มาหลกั ย่อยนนั่ เอง ยกตวั อยา่ ง 今天是 2014 年 9 月 21 日星期日。 Jīntiān shì èr líng yīsì nián jiǔ yuè èrshíyī rì xīngqírì. วนั นีเ้ ปน็ วนั อาทติ ยท์ ่ี 21 เดือนกนั ยายน ปี ค.ศ. 2014
7 每年 4 月是泰国宋干节。 Měinián sì yuè shì Tàiguó Sònggànjié. วนั ท่ี 13 เดอื นเมษายนของทุกปี เปน็ วันสงกรานต์ของไทย โดยปกติ 星期 (xīngqí) แปลวา่ “สัปดาห์” มีความหมายเหมือนคาวา่ 礼拜 (lǐbài) และ 周 (zhōu) ตา่ งกนั ทีเ่ วลาบอกสัปดาห์ 星期 และ 礼拜 มกั ใชค้ า ลักษณนาม 个 ค่นั ในขณะที่ 周 จะไม่ใชค้ าลกั ษณนามคนั่
8 ตารางแสดงตวั อยา่ งการบอกสัปดาห์ สปั ดาห์ท่ีแลว้ สัปดาหน์ ี้ สปั ดาห์หน้า สัปดาห์ท่หี นงึ่ สัปดาหท์ สี่ อง 上个星期 这个星期 下个星期 第一个星期 第二个星期 shàng gè zhège xīngqí xià gè xīngqí dì yī gè dì èr gè xīngqí xīngqí xīngqí 上个礼拜 这个礼拜 下个礼拜 第一个礼拜 第二个礼拜 shàng gè zhège lǐbài xià gè lǐbài dì yī gè dì èr gè lǐbài lǐbài lǐbài 上周 这周 下周 第一周 第二周 shàng zhōu zhè zhōu xià zhōu dì yī zhōu dì èr zhōu
9 สาหรบั การบอกวันในสปั ดาห์ คือ วันจันทร์ถึงอาทติ ย์ ก็จะใช้ 3 คาข้างต้นในการ บอกเช่นกนั โดยตั้งแตว่ นั จนั ทร์ถึงวนั เสาร์ จะใชห้ มายเลข 1-6 ในการบอก ส่วน วันอาทติ ย์ จะไม่ใช้เลข 7 แต่ใช้คาว่า 天 (tiān) และ 日 (rì) ในการบอกแทน ดัง ตารางต่อไปนี้ ตารางแสดงบอกวนั ในสัปดาห์ วนั จนั ทร์ วันอังคาร วันพธุ วัน วนั ศกุ ร์ วนั เสาร์ วันอาทิตย์ พฤหัสบดี 星期一 星期二 星期三 星期四 星期五 星期六 星期天,星 xīngqí yī xīngqí'èr xīngqísān xīngqísì xīngqíwǔ xīngqíliù 期日 xīngqítiān, xīngqírì 礼拜一 礼拜二 礼拜三 礼拜四 礼拜五 礼拜六 礼拜天,礼 lǐbài yī lǐbài èr lǐbài sān lǐbài sì ǐbài wǔ lǐbài liù 拜日 lǐbài tiān, lǐbài rì 周一 周二 周三 周四 周五 周六 周日(*ไมม่ ี zhōuyī zhōu sì zhōu wǔ zhōu liù 周天) zhōu'èr zhōusān zhōu rì
10 แบบฝึกหัด แตง่ ประโยคที่กาหนดให้ตอ่ ไปนี้เปน็ ภาษาจีน จานวน 5 ข้อ 1. พวกเราไปเชียงใหมว่ ันอาทิตยท์ ่ี15เดือนมิถนุ ายน =…………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………… 2. พ่อกลับบ้านสปั ดาหห์ นา้ =…………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………… 3. เขาไปเทยี่ วประเทศญปี่ ุ่นสัปดาห์น้ี =…………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………… 4. ฉนั กับเพอื่ นจะไปดูหนังวันพธุ =…………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………… 5. พ่สี าวฉันไม่ไปทางานทกุ วนั เสาร์ =…………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………
11 比 ประโยค 比 ใชเ้ ปรยี บเทยี บสองสง่ิ ทมี่ คี วามแตกตา่ งกันในด้านใดด้าน หนึง่ โครงสร้าง : A 比 B + ภาคแสดง(คาคุณศพั ท์หรอื คณุ ศัพท์วล/ี คากรยิ าหรือ กริยาวลี) 1.) กรณที ่ภี าคแสดงเป็นคาคณุ ศัพท์ จะมีโครงสรา้ งประโยคดงั ตอ่ ไปนี้ 1.1 A 比 B + คาคุณศัพท์ + ส่วนเสรมิ ของจานวน 我比你高五厘米。 Wǒ bǐ nǐ gāo wǔ límǐ. ฉนั สงู กวา่ เธอห้าเซนตเิ มตร 这个教室比那个教室宽一倍。 Zhège jiàoshì bǐ nàgè jiàoshì kuān yī bèi. หอ้ งเรยี นห้องนกี้ ว้างกวา่ ห้องเรียนหอ้ งน้นั เท่า หนง่ึ
12 1.2 A 比 B + คาคุณศัพท์ + (得) + ส่วนเสรมิ บอกระดบั (了) 这件衣服比那件好看得多。 Zhè jiàn yīfú bǐ nà jiàn hǎokàn dé duō. เส้ือตัวนด้ี ดู ีกวา่ ตัวน้ันต้งั เยอะ A แทน “สงิ่ หน่งึ ”ท่ีใช้เปรียบเทยี บกบั B ซง่ึ แทน”อีกสิ่งหนง่ึ ” 这件衣服比那件好看多了。 Zhè jiàn yīfú bǐ nà jiàn hǎokàn duōle. เสอื้ ตัวน้ีดูดกี ว่าตวั นัน้ เยอะเลย
13 ทั้งนใี้ นโครงสร้างประโยคทใ่ี ช้ 比 คาคุณศัพทส์ ามารถอยู่โดดๆ โดยไม่ตอ้ งมคี าตอ่ ท้ายก็ได้ ส่วนขา้ งหนา้ คาคุณศพั ท์ไมส่ ามารถมี คาวิเศษณ์ใดๆมาขยายได้ นอกจากคาวา่ 更 (gèng) และ 还 (hái) ดังน้ี 弟弟比我高。 弟弟比我更高。 Dìdì bǐ wǒ gāo. Dìdì bǐ wǒ gèng น้องชายสูงกว่าฉนั gāo. นอ้ งชายสงู ยงิ่ กว่าฉัน 弟弟比我还高。 * ไม่สามารถใชค้ าวา่ 很,最, Dìdì bǐ wǒ hái 非常 ขยายได้ gāo. นอ้ งชายยังสงู กวา่ ฉัน อีก
14 2) กรณีทภี่ าคแสดงเป็นคากริยา จะมรี ูปประโยคดงั นี้ 2.1 A 比 B + 早 (zǎo),晚(wǎn),先(xiān),后(hòu),多 (duō),少(shǎo),难(nán),好(hǎo) + คากริยา + (ส่วน เสริมบอกจานวน) 妈妈比我们早起一个小时。 Māmā bǐ wǒmen zǎoqǐ yīgè xiǎoshí. แม่ตนื่ เชา้ กว่าพวกเราหนงึ่ ช่วั โมง 2.2 “A 比 B + คากริยา + 得 + ส่วนเสริมบอกสภาพ” หรอื “A + คากริยา + 得 + 比 B + ส่วนเสรมิ บอกสภาพ” 她比你说得好。 她说得比你好。 Tā bǐ nǐ shuō dé หรือ Tā shuō dé bǐ nǐ hǎo. hǎo. หลอ่ นพดู ได้ดกี วา่ เธอ
老虎比人跑得快。 หรอื 15 Lǎohǔ bǐ rén pǎo dé 老虎跑得比人快。 kuài. Lǎohǔ pǎo dé bǐ rén kuài. เสอื ว่งิ ได้เร็วกว่าคน 2.3 A 比 B + คากริยาชว่ ย + คากรยิ า 他比我能吃辣。 Tā bǐ wǒ néng chī là. เขากินเผ็ดเกง่ กว่าฉนั
16 2.4 A 比 B + 有 + คานานที่เป็นนามธรรม 他太太比他有能力。 Tā tàitài bǐ tā yǒu nénglì. ภรรยาของเขามคี วามสามารถมากกว่าเขา 3) รูปปฏิเสธของการใช้ 比 คือใช้ 没有 แทน 比 รูปประโยคบอกเลา่ : 他比我能吃。 Tā bǐ wǒ néng chī. เขากนิ เก่งกวา่ ฉนั รูปประโยคปฏเิ สธ : 他没有我能吃。 Tā méiyǒu wǒ néng chī. เขากนิ เก่งสูฉ้ นั ไม่ได้ รปู ประโยคบอกเล่า : 他比我做得多。 Tā bǐ wǒ zuò dé duō. เขาทาไดเ้ ยอะกวา่ ฉนั รปู ประโยคปฏเิ สธ : 他没有我做得多。 Tā méiyǒu wǒ zuò dé duō. เขาทาไดเ้ ยอะสู้ฉันไมไ่ ด้
17 แบบฝกึ หัด นารปู ประโยคบอกเลา่ ต่อไปนท้ี าให้อยู่ในรปู ประโยคปฏิเสธ จานวน 2 ขอ้ 1) 爸爸比妈妈能吃火锅。 ................................................................... ................................................................... ................................................................... 2) 他比我唱歌很好的。 ................................................................... ................................................................... ...................................................................
18 像 ประโยคทีใ่ ช้เปรยี บเทียบสองส่งิ วา่ มีคณุ สมบตั ดิ ้านใดดา้ นหนงึ่ ท่ี เหมอื นกนั 1)โครงสร้างที่พบบอ่ ย : A 像 B + 这么,那么 + ภาคแสดง(คาศัพท์หรือ คณุ ศพั ท์วลี/คากรยิ าหรอื กริยาวลี) 他像篮球运动员那么高。 Tā xiàng lánqiú yùndòngyuán nàme gāo. เขาสูงเหมือนอย่างนกั กบี าสเกตบอล 我像你这么爱听中文歌。 Wǒ xiàng nǐ zhème ài tīng zhōngwén gē. ฉันชอบฟงั เพลงจนี เหมือนเอแบบนี้
19 2) รปู ปฏเิ สธของการใช้ 像 คอื เตมิ 不 ไวห้ นา้ 像 我不像他那么努力。 Wǒ bù xiàng tā nàme nǔlì. ฉันไมข่ ยันทมุ่ เทเหมือนเขา 那双鞋不像这双鞋这么好看。 Nà shuāng xié bù xiàng zhè shuāng xié zhème hǎokàn. รองเท้าคู่นน้ั ไม่ดูดเี หมือนอยา่ งรองเทา้ คนู่ ี้
20 อนึง่ รูปปฏเิ สธน้สี ามารถละภาคแสดงได้ แต่ภาคแสดงนั้น จะปรากฏไว้ประโยคหลงั เชน่ 我不像他,他很会说话。 Wǒ bù xiàng tā, tā hěn huì shuōhuà. ฉนั ไม่เหมอื นเขา เขารูจ้ กั พดู มาก 山竹不像红毛丹,红毛丹比较甜。 Shānzhú bù xiàng hóng máo dān, hóng máo dān bǐjiào tián. มังคดุ ไม่เหมือนกบั เงาะ เงาะคอ่ นข้างหวาน
21 แบบฝึกหัด แต่งประโยคโดยการนา 像 มาใช้ จานวน 5 ขอ้ 1. ..................................................................................................................................... ..................................................................................................................................... ..................................................................................................................................... 2. ..................................................................................................................................... ..................................................................................................................................... ..................................................................................................................................... 3. ..................................................................................................................................... ..................................................................................................................................... ..................................................................................................................................... 4. ..................................................................................................................................... ..................................................................................................................................... ..................................................................................................................................... 5. ..................................................................................................................................... ..................................................................................................................................... .....................................................................................................................................
22 有 เพื่อเปรียบเทียบวา่ สงิ่ หน่ึงมอี ะไรในระดับทเ่ี ทา่ เทยี มกับอีกสิ่งหน่ึง มักใช้ในประโยคคาถาม 1) โครงสรา้ ง : A 有 B + ภาคแสดง สาหรับโครงสร้างประโยคแบบน้ี ส่วนท่ที าหน้าทเ่ี ปน็ ภาคแสดงได้ มที ัง้ “คาคุณศัพท์เด่ียวๆ” “这么,那么 + คาคุณศัพท”์ “คากรยิ าชว่ ย + คากรยิ า(หรือกริยาวลี)” “คากรยิ า + 得 + สว่ นเสริมบอกสภาพ” เป็นตน้ 她有你好看吗? 他太极拳有你打得好吗。 Tā yǒu nǐ hǎokàn ma? Tā tàijí quán yǒu nǐ dǎ dé หล่อนสวยเท่าเธอไหม hǎo ma. เขาราไทเกก๊ ไดด้ เี ทา่ เธอหรือเปล่า 这个牌子有名牌那么贵吗? Zhège páizi yǒu míngpái nàme guì ma? ยห่ี อ้ น้แี พงเท่าย่หี ้อดัง(แบรนดแ์ นม)หรอื เปลา่
23 2) รปู ปฏเิ สธของการใช้ 有 ในประโยคเปรยี บเทยี บ คอื การ เตมิ 没 ไวห้ น้า เชน่ รูปคาถามบอกเล่า : 今天有昨天热吗? Jīntiān yǒu zuótiān rè ma? วนั นรี้ ้อนเทา่ เมือ่ วานไหม? รูปปฏิเสธ : 今天没有昨天热。 Jīntiān méiyǒu zuótiān rè. วันน้ีไม่รอ้ นเทา่ เมื่อวาน รูปคาถามปฏเิ สธ : 在国外没有在家舒服吗? Zài guówài méiyǒu zàijiā shūfú ma? รปู ปฏิเสธ อยู่ต่างประเทศไม่สบายเทา่ อยบู่ ้านหรือ? : 在国外没有在家舒服。 Zài guówài méiyǒu zàijiā shūfú. อยู่ตา่ งประเทศไม่สบายเทา่ อยู่บา้ น
24 อนั ทจ่ี ริงแลว้ รูปปฏิเสธข้างตน้ เปน็ โครงสร้างเดียวกนั กับรูปปฏิเสธของประโยค “ A 比 B + ภาคแสดง” 今天没有昨天热。 Jīntiān méiyǒu zuótiān rè. วนั นี้ไม่ร้อนเทา่ เมื่อวาน เปน็ รูปปฏิเสธของประโยค 今天有昨天热。(Jīntiān yǒu zuótiān rè.) วนั นีร้ อ้ นเท่าเมอ่ื วาน หรือ ประโยค 今天比昨天热。 (Jīntiān bǐ zuótiān rè.) วนั นีร้ อ้ นกว่าเมือ่ วาน กไ็ ด้
25 แบบฝึกหดั แตง่ ประโยคโดยการนา 有 จากตัวอยา่ งขา้ งต้นมาใช้ จานวน 3 ขอ้ 1) .................................................................................................................. .................................................................................................................. .................................................................................................................. .................................................................................................................. 2) .................................................................................................................. .................................................................................................................. .................................................................................................................. .................................................................................................................. 3) .................................................................................................................. .................................................................................................................. .................................................................................................................. ..................................................................................................................
บรรณณานุกรม พรรณิกา ชนนาทนสุ รณ.์ (2562).ภาษาจนี 360 องศา.Life Balance
Search
Read the Text Version
- 1 - 30
Pages: