Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ความพึงพอใจของนักเรียนต่อแอปพลิเคชั่น Pua School Digital Library

ความพึงพอใจของนักเรียนต่อแอปพลิเคชั่น Pua School Digital Library

Published by 20891, 2019-09-20 09:48:11

Description: ความพึงพอใจของนักเรียนต่อแอปพลิเคชั่น Pua School Digital Library

Search

Read the Text Version

ความพึงพอใจของนกั เรียนต่อแอปพลิเคชน่ั Pua School Digital Library จดั ทาโดย นางสาว กญั ญาภคั ทรายแหลมทอง เลขที่4 นางสาว ปิ ยธิดา กิตติยงั กลุ เลขที่5 นางสาว มนสั วี วชิราธนกิจ เลขที่6 นางสาว อารยา สนั ติธญั โรจน์ เลขที่7 นางสาว ธญั พิชา แสงดว้ ง เลขท่ี8 นางสาว ธนชั ญา กาปนาท เลขท่ี31 เสนอ ครู ดารงค์ คนั ธะเรย์

บทคดั ยอ่ ถา้ จะพดู ถึงแหล่งความรู้ในโรงเรียนเรากม็ กั จะนึกถึงหอ้ งสมุดเพราะในหอ้ งมุดน้นั เป็นสถานท่ีที่มี หนงั สือหลากหลายรูปแบบซ่ึงนกั เรียนท่ีตอ้ งการศึกษาเก่ียวกบั เรื่องต่างๆสามารถไปหยบิ ยมื ได้ แตป่ ัจจุบนั น้นั หอ้ งสมุดกลบั ถูกละเลยเนื่องจากมีเทคโนโลยที ี่ทนั สมยั และกา้ วหนา้ เขา้ มา รวมท้งั ปัญหาต่างๆจากการ ไปยมื หนงั สือเช่น หนงั สือหาย หนงั สือเกิดการชารุด หรือจะเป็นการท่ีนกั เรียนน้นั ไปยมื หนงั สือแต่นา หนงั สือไปคืนไม่ตรงกบั ระยะเวลาทีสามารถยมื ไดท้ าใหต้ อ้ งเสียค่าปรับ ดว้ ยปัจจยั เหลา่ น้ีทาใหห้ อ้ งสมุดมี จานวนนกั เรียนที่เขา้ ใชบ้ ริการหอ้ งสมุดลดนอ้ ยลง ซ่ึงทางโรงเรียนปัวกไ็ ม่ไดน้ ่ิงนอนใจกบั ปัญหาน้ีและ พฒั นาแอปพลิเคชนั่ Pua School Digital Library เพื่อใหน้ กั เรียนโรงเรียนปัวสามารถไปหยบิ ยมื หนงั สือได้ โดยท่ีไม่ตอ้ งไปถึงหอ้ งสมุดและไม่ตอ้ งกงั วลวา่ จะลืมคืนหนงั สือหรือไม่ ทางคณะผจู้ ดั ทาจึงเกิดความสงสยั และสนใจเกี่ยวกบั แอปพลิเคชน่ั Pua School Digital Libraryเนื่องแอปพลิเคชนั่ น้ีพ่งึ ถูกพฒั นามาไม่นาน ทาง คณะผจู้ ดั ทาจึงตอ้ งการทาการสารวจความพึงพอใจของนกั เรียนที่มีต่อแอปพลิเคชนั่ Pua School Digital Library เพอ่ื ใหท้ ราบความพงึ พอใจของนกั เรียนโรงเรียนปัวต่อแอปพลิเคชน่ั และสามารถนาขอ้ มูลท่ีไดม้ า เป็นแนวทางใหแ้ ก่ผพู้ ฒั นาแอปพลิเคชน่ั ไดพ้ ฒั นาแอปพลิเคชนั่ ใหม้ ีประสิทธิภาพดียง่ิ ข้ึน จากผลการสารวจกลุ่มตวั อยา่ งนกั เรียนจานวน 200 คน โดยเป็นนกั เรียนม.ตน้ 100 คน และนกั เรียนม. ปลาย 100 คน สามารถสรุปไดว้ า่ นกั เรียนส่วนใหญ่มีความพงึ พอใจต่อแอปพลิเคชนั่ Pua Digital Library ดา้ นต่างๆในระดบั พงึ พอใจมากท้งั ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาตอนตน้ และตอนปลาย โดยพจิ ารณาตามหวั ขอ้ ดงั น้ี 1มีหนงั สือ ตารา ผลงานทางวชิ าการครอบคลุมกบั ความตอ้ งการ พบวา่ นกั เรียนระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาตอนตน้ และตอนปลาย มีความพึงพอใจในระดบั มากและมากท่ีสุดตามลาดบั 2มีระยะเวลาในการยมื -คืนท่ีเหมาะสม พบวา่ นกั เรียนระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาตอนตน้ และตอนปลาย มีความพงึ พอใจในระดบั มากท่ีสุดท้งั สอง ระดบั ช้นั 3 มีช่องทางใหผ้ ใู้ ชบ้ ริการแสดงความคิดเห็น / ประเมิณการใหบ้ ริการ พบวา่ นกั เรียนระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาตอนตน้ และตอนปลายมีความพึงพอใจในระดบั มากที่สุดท้งั สองระดบั ช้นั 4 มีความสะดวกในการใชแ้ อปพลิเคชน่ั พบวา่ นกั เรียนระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาตอนตน้ และตอนปลายมีความ พงึ พอใจในระดบั มากและปานกลางตามลาดบั 5 คุณภาพของแอปพลิเคชน่ั พบวา่ นกั เรียนระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาตอนตน้ และตอนปลายมีความพงึ พอใจในระดบั ปานกลางและมากตามลาดบั

กิตติกรรมประกาศ โครงงานสารวจฉบบั น้ีสาเร็จไดด้ ว้ ยความอนุเคราะห์ ของบุคคลหลายท่านซ่ึงไม่อาจจะนามา กล่าวไดท้ ้งั หมด ซ่ึงผมู้ ีพระคุณท่านแรกที่คณะผจู้ ดั ทาใคร่ขอกราบพระคุณ คือ ครู ดารงค์ คนั ธะเรศย์ ครูผสู้ อนท่ีไดใ้ หค้ วามรู้คาแนะนา ตรวจทานและแกไ้ ขขอ้ บกพร่องต่างๆ ดว้ ยความเอา ใจใส่ทุกข้นั ตอน เพือ่ ใหก้ ารเขียนโครงงานฉบบั น้ีสมบูรณ์ที่สุด คณะผจู้ ดั ทาใคร่ขอกราบ ขอบพระคุณเป็นอยา่ งสูงไว้ ณ โอกาสน้ี นอกจากน้ีขอขอบพระคุณ คุณครูโรงเรียนปัวทุกสาขาวิชาที่ไดฝ้ ึกสอนไดใ้ หค้ าแนะนาในการ จดั ทารายงานการศึกษาคน้ ควา้ อิสระฉบบั น้ีที่ไม่ไดก้ ล่าวนาม ขอขอบคุณพอ่ คุณแม่ท่ีอยเู่ บ้ืองหลงั ในความสาเร็จท่ีไดใ้ หค้ วามช่วยเหลือสนบั สนุนและให้ กาลงั ใจตลอดมา คณะผจู้ ดั ทา

สารบญั หนา้ บทคดั ยอ่ ก กิตติกรรมประกาศ บทที่ 1 บทนา ข 1. ความเป็นมาและความสาคญั ของปัญหา 6 2. วตั ถุประสงค์ 3. สมมุติฐาน 6 4. ขอบเขตของการศึกษา 7 5. ผลท่ีคาดวา่ จะไดร้ ับ 7 7 บทที่ 2 เอกสารท่ีเก่ียวขอ้ ง 7 1. ความหมายและประเภทของแอปพลิเคชน่ั 8 2. ความสาคญั ของแอพพลิเคชน่ั 3. ประโยชนข์ องแอพพลิเคชนั่ 8 4. ความหมายของหอ้ งสมุดดิจิตอล 9 5. ความสาคญั ของหอ้ งสมุดดิจิตอลต่อการพฒั นาการเรียนรู้สาหรับเดก็ 10 6. รูปแบบฐานขอ้ มูลสาหรับหอ้ งสมุดดิจิตอล 12 7. รูปแบบการจดั การฐานขอ้ มูลของหอ้ งสมุดดิจิตอล 14 8. ประโยชน์ของหอ้ งสมุดดิจิตอล 15 16 บทที่ 3 วิธีดาเนินการศึกษาคน้ ควา้ 16 1. ระเบียบวธิ ีที่ใชใ้ นการศึกษา 18 2. ประชากร/กลุ่มตวั อยา่ ง 18 3. วิธีดาเนินการศึกษา 18 18

4. เคร่ืองมือที่ใชใ้ นการศึกษา 19 5. การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล 20 6. การวเิ คราะห์ขอ้ มูล 20 7. สถิติท่ีใชใ้ นการศึกษา 20 บทที่ 4 ผลการดาเนินการโครงงาน 21 1. หวั ขอ้ ในการสารวจ 21 2. ผลการสารวจ 21 บทท่ี 5 สรุปผลการดาเนินงานและขอ้ เสนอแนะ 23 1. การดาเนินงานจดั ทาโครงงาน 23 2. สรุปผลการดาเนินงาน 23 3. ขอ้ เสนอแนะ 24 ภาคผนวก 25 บรรณานุกรม 26

บทท่ี 1 บทนา 1. ความเป็ นมาและความสาคญั ของปัญหา ไม่อาจปฏิเสธไดเ้ ลยวา่ สงั คมในยคุ ปัจจุบนั น้ีเทคโนโลยที ี่กา้ วหนา้ มากข้ึนไดม้ ามีบทบาทต่อการใช้ ชีวิตประจาวนั ของคนในสงั คมมากกวา่ ในอดีต โทรศพั ทถ์ ือเป็นหน่ึงในปัจจยั ที่สาคญั ของชีวิตไม่นอ้ ยไป กวา่ ปัจจยั สี่เลยเพราะ โทรศพั ทม์ ือถือสามารถส่งและรับขอ้ ความได้ ส่งผลใหส้ ่ือสารกนั ทาไดส้ ะดวก รวดเร็วมากยง่ิ ข้ึน โทรศพั ทม์ ือถือสามารถเชื่อมต่อกบั เครือขา่ ยต่างๆผา่ นทางอินเตอร์เน็ตทาใหส้ ามารถ คน้ หาขอ้ มูลความรู้ที่ตอ้ งการไดอ้ ยา่ งหลากหลายและกวา้ งขวางสร้างความสะดวกสบายและรวดเร็วต่อการ คน้ หาขอ้ มูล อีกท้งั ยงั สามารถหาความบนั เทิงต่างๆไดจ้ ากโทรศพั ทไ์ ม่วา่ จะเป็นการดูละคร ภาพยนตร์ ฟัง เพลง เล่นเกม หรืออื่นๆ โดยสามารถพบเห็นผใู้ ชโ้ ทรศพั ทม์ ือถือไดท้ ุกท่ีเพราะขนาดกะทดั รัดท่ีพกพาไปได้ ทุกที่อยา่ งง่ายดายและสะดวกสบายของโทรศพั ท์ ทาใหส้ ามารถพบเห็นผทู้ ่ีเล่นโทรศพั ทไ์ ดไ้ ม่วา่ จะเป็นบน รถไฟฟ้า ร้านอาหาร ในโรงเรียน หรือแมก้ ระทง่ั ในหอ้ งน้า นอกจากน้ียงั พบวา่ โทรศพั ทม์ ือถือไม่ไดพ้ บ เฉพาะในหมวู่ ยั รุ่นและผใู้ หญ่แต่ยงั สามารถพบเห็นไดใ้ นเดก็ เลก็ อีกดว้ ย ดงั น้นั จึงกล่าวไดว้ า่ โทรศพั ทม์ ือถือ ถือเป็นส่วนหน่ึงของชีวิตมนุษยใ์ นปัจจุบนั ไปแลว้ หอ้ งสมุด คือแหล่งสารนิเทศ บริการทรัพยากรสารนิเทศในรูปแบบต่าง ๆ เช่น หนงั สือ วารสาร หนงั สือพิมพ์ จุลสาร กฤตภาค วสั ดุเทป และโทรทศั น์ ซีดีรอม วีซีดี ดีวดี ี โดยมีบรรณารักษ์ เป็นผดู้ าเนินงาน และบริหารงานต่าง ๆ ในหอ้ งสมุด โดยจดั ระบบเป็นหมวดหมู่ และระเบียบเรียบร้อย เพ่ือใหผ้ ใู้ ชห้ อ้ งสมุดมี ความสะดวกสืบคน้ ไดง้ ่ายและตรงกบั ความตอ้ งการ แต่เน่ืองดว้ ยความกา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยดี งั ที่กล่าวไป แลว้ ทาใหค้ นในปัจจุบนั ไม่สนใจที่จะเขา้ หอ้ งสมุด เพราะเสียเวลามากกวา่ การคน้ หาดว้ ยโทรศพั ท์ ความ สะดวกนอ้ ยกวา่ อีกท้งั หอ้ งสมุดบางที่ท่ีมีขนาดเลก็ ยงั ไม่มีความหลากหลายของขอ้ มูลมากเท่ากบั โทรศพั ทม์ ือถือ ทาใหห้ อ้ งสมุดไม่เป็นที่นิยมมากเหมือนในอดีตท่ีผา่ นมา ดว้ ยเหตุผลดงั กล่าวโรงเรียนปัวจึง ไดม้ ีแอปพลิเคชนั่ สาหรับยมื คืนหนงั สือและสามารถอ่านหนงั สือออนไลนไ์ ดอ้ ยา่ งหลากหลายและ

สะดวกสบายรวดเร็วข้ึน ไม่ตอ้ งไปหอ้ งสมุดหรือไปคน้ หาขอ้ มูลจากเวบ็ ไซตท์ ่ีไม่อาจมน่ั ใจไดว้ า่ น่าเชื่อถือ เพียงใด คณะผจู้ ดั ทาจึงตอ้ งการทาการสารวจความพงึ พอใจของนกั เรียนที่มีต่อแอปพลิเคชน่ั Pua School Digital Library เพอื่ ใหท้ ราบความพึงพอใจของนกั เรียนโรงเรียนปัวต่อแอปพลิเคชน่ั และสามารถนาขอ้ มูลท่ี ไดม้ าเป็นแนวทางใหแ้ ก่ผพู้ ฒั นาแอปพลิเคชนั่ ไดพ้ ฒั นาแอปพลิเคชนั่ ใหม้ ีประสิทธิภาพดียง่ิ ข้ึน 2. วตั ถุประสงค์ 2.1 เพอ่ื สารวจความพงึ พอใจของนกั เรียนต่อแอปพลิเคชนั่ Pua Digital Library 3. สมมุติฐาน นกั เรียนส่วนใหญ่มีความพึงพอใจต่อแอปพลิเคชนั่ Pua Digital Library 4. ขอบเขตของการศึกษา นกั เรียนโรงเรียนปัว 5.ผลทค่ี าดว่าจะได้รับ 5.1สามารถนาขอ้ มูลท่ีไดม้ าเป็นแนวทางใหก้ บั ผพู้ ฒั นาแอปพลิเคชน่ั ใหพ้ ฒั นาแอปพลิเคชน่ั ใหม้ ี ประสิทธิภาพดียงิ่ ข้ึน

บทท่ี 2 เอกสารที่เก่ียวขอ้ ง ในการจดั ทาโครงงานIndependent Study เรื่องการศึกษาความพงึ พอใจของนกั เรียนต่อแอปพลิเคชน่ั Pua School Digital Library คณะผจู้ ดั ทาโครงงานไดศ้ ึกษาเอกสารและจากเวบ็ ไซตต์ ่างๆที่เก่ียวขอ้ งดงั ต่อไปน้ี 2.1ความหมายและประเภทของแอพพลิเคชนั่ 2.1ความสาคญั ของแอพพลิเคชนั่ 2.3ประโยชน์ของแอพพลิเคชนั่ 2.1 ความหมายและประเภทของแอปพลเิ คช่ัน ความหมายของแอพพลเิ คชั่น Application (แอพพลิเคชนั่ ) หรือท่ีทุกคนเรียกกนั ส้นั ๆ วา่ App (แอพ) คือ โปรแกรมที่อานวยความ สะดวกในดา้ นต่างๆ ท่ีออกแบบมาสาหรับ Mobile (โมบาย) Teblet (แทบ็ เลต็ ) หรืออุปกรณ์เคลื่อนที่ ท่ีเรา รู้จกั กนั ซ่ึงในแต่ละระบบปฏิบตั ิการจะมีผพู้ ฒั นาแอพพลิเคชน่ั ข้ึนมามากมายเพือ่ ใหต้ รงกบั ความตอ้ งการ ของผใู้ ชง้ าน ซ่ึงจะมีใหด้ าวนโ์ หลดท้งั ฟรีและจ่ายเงิน ท้งั ในดา้ นการศึกษา ดา้ นกรส่ือสารหรือแมแ้ ต่ดา้ น ความบนั เทิงตา่ งๆ เป็นตน้ โมบายแอพฯ จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ Native Application, Hybrid Applicationและ Web Application Native App (เนทีฟ แอพ) คือ Application ท่ีถูกพฒั นามาดว้ ย Library (ไลบรารี่) หรือ SDK (เอส ดี เค) เครื่องมือที่เอาไวส้ าหรับพฒั นาโปรแกรมหรือแอพพเิ คชนั่ ของ OS Mobile (โอ เอส โมบาย) น้นั ๆ โดยเฉพาะ อาทิ Android (แอนดรอยด)์ ใช้ Android SDK (แอนดรอยด์ เอส ดี เค), IOS (ไอ โอ เอส) ใช้ Objective c (ออปเจคทีฟ ซี), Windows Phone (วนิ โดว์ โฟน) ใช้ C# (ซีฉาบ) เป็นตน้

Hybrid Application (ไฮบริด แอพพลิเคชน่ั ) คือ Application ที่ถูกพฒั นาข้ึนมาดว้ ยจุดประสงค์ ท่ีตอ้ งการ ใหส้ ามารถ รันบนระบบปฏิบตั ิการไดท้ ุก OS โดยใช้ Framework (เฟรมเวริ ์ก) เขา้ ช่วย เพอื่ ใหส้ ามารถ ทางานไดท้ ุกระบบปฏิบตั ิการ Web Application (เวบ็ แอพพลิเคชน่ั ) คือ Application ที่ถูกเขียนข้ึนมาเพือ่ เป็น Browser (บราวเซอร์) สาหรับการใชง้ านเวบ็ เพจต่างๆ ซ่ึงถูกปรับแต่งใหแ้ สดงผลแต่ส่วนท่ีจาเป็น เพื่อเป็นการลดทรัพยากรในการ ประมวลผล ของตวั เคร่ืองสมาร์ทโฟน หรือ แทบ็ เลต็ ทาใหโ้ หลดหนา้ เวบ็ ไซตไ์ ดเ้ ร็วข้ึน อีกท้งั ผใู้ ชง้ านยงั สามารถใชง้ านผา่ น อินเตอร์เน็ตและอินทราเน็ต ในความเร็วต่าได้ ประเภทของแอพพลเิ คชั่น 1.แอพพลิเคชนั่ ระบบ เป็นส่วนซอฟตแ์ วร์ระบบหรือระบบปฏิบตั ิการ (Operating system) ที่ทาหนา้ ที่ควบคุมการทางานของ อุปกรณ์และรองรับการใชง้ านของแอพพลิเคชน่ั หรือโปรแกรมต่างๆ ท่ีติดต้งั อยภู่ ายในคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่ 2.แอพพลิเคชนั่ ที่ตอบสนองความตอ้ งการของกลุ่มผใู้ ช้ เป็นซอฟตแ์ วร์ประยกุ ตห์ รือโปรแกรมประยกุ ต์ ท่ีทางานภายใตร้ ะบบปฏิบตั ิการ มีวตั ถุประสงคเ์ ฉพาะ อยา่ ง เนื่องจากผใู้ ชม้ ีความตอ้ งการใชแ้ อพพลิเคชน่ั ท่ีแตกต่างกนั จานวนของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เคลื่อนที่มี หลากหลายชนิด ขนาดหนา้ จอที่แตกต่าง จึงมีผผู้ ลิตและพฒั นาแอพพลิเคชนั่ ใหม่ๆ ข้นึ เป็นจานวนมาก เพื่อ รองรับการใชง้ านในทกุ ๆดา้ น 2.2 ความสาคญั ของแอพพลเิ คช่ัน สมาร์ตโฟน คือ ส่ิงท่ีเปล่ียนรูปแบบการใชช้ ีวติ ของทุกคนไปตลอดกาล ระบบประมวลผลช้นั สูงและ เทคโนโลยี 3G 4G ในสมาร์ตโฟนยดุ ใหม่ไดท้ าใหแ้ กด็ เจต็ ชนิดน้ีขาดไม่ไดอ้ ีกต่อไปในการใชช้ ีวติ ประจาวนั ท่ีดีข้ึนของเรา แอพลิเคชน่ั ท่ีช่วยเสริมประสิทธิภาพในการทางานมากมาย เช่น แอพลิเคชนั่ ปฏิทิน แอพลิ เคชนั่ to-do list แอพลิเคชนั่ เตือนความจา แอพลิเคชน่ั คลาวด์ และแอพลิเคชน่ั จดโนต้ ไดท้ าใหช้ ีวิตที่ยงุ่ เหยงิ ของเราจดั การไดง้ ่ายข้ึน และน่ีคือ 10 แอพลิเคชนั่ ท่ีจะช่วยจดั ระเบียบชีวิตการทางานที่ยงุ่ เหยงิ ของคุณ ให้ คุณทางานไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพมากกวา่ ที่เคยเป็นมา

นอกจากแอพพลิเคชน่ั แลว้ การพฒั นาตวั เองกม็ ีความสาคญั ไม่นอ้ ยไปกวา่ กนั เลย คุณอาจจะเริ่มจากการอ่าน หนงั สือดีๆ จากทว่ั โลก หรือใชเ้ วลาหลงั งานใหม้ ีประโยชนด์ ว้ ยการพฒั นาตนเอง ซ่ึงเหล่าแอพพลิเคชนั่ เหล่าน้ี คือส่ิงท่ีถูกสร้างมาเพ่อื ช่วยเหลือคุณ! สาหรับการศึกษากเ็ ป็นส่ิงทาจาเป็นเช่นกนั ที่ตอ้ งมีแอพพลิเคชนั่ ในการช่วย ไมว่ า่ จะเป็นการพฒั นาทางดา้ น ส่ือนวตั กรรมการเรียนการสอน การจดั การเร่ืองภาษา การจดั ระบบทางดา้ นงานเอกสารการทางาน และ รวมถึงดา้ นอ่ืนๆอีกมากมายที่แอพพลิเคชน่ั เหล่าน้ีเขา้ มาในวงการการศึกษาของเราทุกวนั น้ี การมาเขา้ เรียนในแต่ละวนั ครูผสู้ อนตอ้ งพบกบั ปัญหาและความวนุ่ วายต่างๆท้งั ที่เก่ียวขอ้ งกบั เอกสารและตวั ผเู้ รียน และสิ่งท่ีจาเป็นท่ีครูผสู้ อนตอ้ งทาและปฏิบตั ิทุกเชา้ คือ การเช็คชื่อนกั เรียนท่ีมาเรียน และขาดเรียน รวมถึงตอ้ งทราบตารางสอนและงานที่จะตอ้ งทาในแต่ละวนั วา่ มีการประชุม สัมมนาหรือตอ้ งไปราชการที่ ไหนบา้ ง รวมถึงตอ้ งส่งเอกสารหรือสง่ั งานอะไรไวก้ บั ผเู้ รียน ซ่ึงสิ่งเหล่าน้ีกเ็ ป็นปัญหาหรืออุปสรรคอ์ ยา่ ง หน่ึงสาหรับผสู้ อน บางคร้ังกส็ ร้างความราคาญ มีผลต่อสภาพอารมณ์ของตวั ครูและผลกระทบต่อ ผเู้ รียน ท้งั น้ีฉนั คิดวา่ หากเรามีแอพพลิเคชน่ั สร้างแอพพลิเคชนั่ ข้ึนมา เปลี่ยนจากแผน่ กระดาษ มาอยบู่ น โทรศพั ทม์ ือถือแทน กจ็ ะทาใหก้ ารทางานน้นั สะดวกและรวดเร็วข้ึน และสามารถที่จะเตือนความจาสาหรับ ผใู้ ชง้ านได้ 2.3 ประโยชน์ของแอพพลเิ คชั่น ปัจจุบนั Smart Phone และ Tablet มีบทบาทมากข้ึนในการดารงชีวิตของมนุษยม์ ากข้ึน และ Mobile Application คือส่วนสาคญั ท่ีทาใหผ้ ใู้ ชง้ าน Smart Phone และ Tablet เขา้ ถึงสื่อต่างๆไดง้ ่ายข้ึน ซ่ึงปัจจุบนั น้ีผทู้ ่ีประกอบธุรกิจต่างๆไม่วา่ จะขนาดใหญห่ รือขนาดเลก็ ไดใ้ หค้ วามสนใจในการท่ีจะ พฒั นา Mobile Application เพ่อื ใหเ้ ป็นอีกช่องทางหน่ึงในการโฆษณา ประชาสมั พนั ธ์ รวมไปถึงติดต่อกลุ่ม ลูกคา้ ของตน อาทิเช่น - กลุ่มธุรกิจการการเท่องเที่ยวและการเดินทาง มีการจดั Mobile App ระบบแนะนาสถานที่ท่องเที่ยว แนะนาโรงแรมและการจองโรงแรมที่พกั มีระบบการจองตวั๋ รถทวั ร์ จองตวั๋ เคร่ืองบิน รวมไปถึงการเชค็ อิน ไดด้ ว้ ย - กลุ่มธุรกิจเพอื่ การศึกษา มีการโฆษณาประชาสมั พนั ธ์ การซ้ือขายสื่อการเรียนการสอน การ แลกเปลี่ยนความรู้ต่างๆ กลุ่มธุรกิจการคา้ และแฟชน่ั มีระบบการซ้ือขายแลกเปลี่ยนสินคา้ เป็นตน้

ท้งั น้ีกเ็ พือ่ ก่อใหเ้ กิดประโยชน์ต่อผใู้ หบ้ ริการและผบู้ ริโภคดงั ต่อไปน้ี ดา้ นผใู้ หบ้ ริการ - กลุ่มธุรกิจต่างๆ ท้งั ขนาดใหญ่และขนาดเลก็ มีเคร่ืองมือในการประชาสมั พนั ธ์ ธุรกิจของตนเอง ทาให้ เป็นที่รู้จกั ในสงั คมมากยง่ิ ข้ึน - ลดคา่ ใชจ้ ่ายในการผลิตส่ือเพ่ือโฆษณาประชาสมั พนั ธ์ - เพ่ิมภาพพจน์ร้านใหด้ ูดี มีจุดเด่น มีจุดขายท่ีชดั เจน ส่งผลให้ ธุรกิจมียอดขายท่ีเพิ่มข้ึน - มีการบริการลูกคา้ สมั พนั ธท์ ่ีดีข้ึน - ลดข้นั ตอนการทางาน ทาใหก้ ารติดตอ่ งานต่างๆสะดวกมากยงิ่ ข้นึ ดา้ นผบู้ ริโภค - ลดข้นั ตอน และประหยดั เวลา ในการติดต่อธุรกรรมต่างๆ เช่น ตอ้ งการโอนเงินค่าสินคา้ กส็ ามารถ ใช้ Mobile App ทาธุรกรรมทางการเงินไดเ้ ลย เป็นตน้ - มีตวั เลือกท่ีหลากหลาย สามารถเปรียบเทียบ คุณภาพ และราคาได้ โดยท่ีไม่ตอ้ งออกไปสารวจราคา สินคา้ ท่ีเราตอ้ งการใหเ้ สียเวลา - ประหยดั คา่ ใชจ้ ่ายในการออกไปเลือกซ้ือสินคา้ และบริการต่างๆ - ช่วยลดเวลาในการเดินทาง คานวณเวลาได้ คน้ หาเสน้ ทางหรือแนะนาเลี่ยงเสน้ ทางที่มีการจราจร ติดขดั ได้ การใช้ประโยชน์สูงสุดจากแอพพลเิ คช่ัน สมรรถภาพการทางานและประสิทธิภาพของแอพพลิเคชน่ั เป็นส่ิงสาคญั ที่สุดท่ีผดู้ ูแลการบริหาร แอพพลิเคชนั่ คานึงอยา่ งมาก โดยแอพพลิเคชน่ั มีหลากหลายนานาประเภท เช่น เวบ็ เมนเฟรม ระบบบริหาร จดั การลูกคา้ สมั พนั ธ์ และแอพพลิเคชน่ั ขอ้ มูลหลกั สาคญั ๆอีกมากมาย และนอกเหนือจากการรวบรวมโอน ถ่ายขอ้ มูลเขา้ ไปอยใู่ นเซิร์ฟเวอร์ขอ้ มูลเดียวกนั ไดแ้ ลว้ ศนู ยข์ อ้ มูลยงั สามารถรองรับระบบสื่อสารแบบ IP

Communications เช่น เสียง วีดีโอ และ call center ซ่ึงต่างมีขอ้ กาหนดช่องสญั ญาณท่ีแตกต่างกนั และมีความ ตอ้ งการเจาะจงท่ีไม่เหมือนกนั การโอนถ่ายรวบรวมขอ้ มูลน้นั มาพร้อมกบั ความทา้ ทายในการรองรับการเขา้ ไปใชง้ านแอพพลิเคชนั่ ต่างๆ ผา่ นตวั เซิร์ฟเวอร์เพียงหน่ึงเซิร์ฟเวอร์โดยท้งั ผใู้ ชภ้ ายในพ้ืนท่ีเดียวกนั และผใู้ ชท้ ่ีอยหู่ ่างไกลออกไป ดงั น้นั การที่จะลดค่าใชจ้ ่ายแอพพลิเคชนั่ ต่างๆ พร้อมดว้ ยการเพมิ่ ระยะเวลาการตลาดและการ ขยายตวั น้นั องคก์ รจึงจาเป็นตอ้ งใชแ้ อพพลิเคชนั่ ที่มีโครงสร้างพ้นื ฐานอยบู่ นเวบ็ เพอ่ื รองรับโครงสร้างแบบ N-tier โดยในสภาพแวดลอ้ มที่ไดถ้ กู รวบรวมแลว้ น้นั ในการดาเนินการกระบวนการต่างๆ ควรใชไ้ ปกบั แอพพลิเคชน่ั นานาประเภทท่ีมีอยอู่ ยา่ งเตม็ ท่ี และไม่ควรเนน้ ไปกบั งานส่ือสารง่ายๆ เช่น SSL หรือ การ จดั เกบ็ ขอ้ มูลสถิตเพยี งชวั่ คราว โซลูชนั่ ของ Cisco สามารถให:้ เทคโนโลยดี า้ นเวบ็ และแอพพลิเคชน่ั ต่างๆ สามารถถ่ายเทขอ้ มูลไดต้ ้งั แต่ช้นั 4 จนถึงช้นั 7 ไดใ้ นระบบ เครือขา่ ยอจั ฉริยะภายในช้นั ต่างๆของโครงสร้างแอพพลิเคชน่ั ขอ้ มูลสถิตจะถูกบนั ทึกเกบ็ ไวช้ วั่ คราวใน หน่วยความจา รวมถึง connection เพอ่ื ดึงมาใชใ้ นโอกาสหนา้ เพมิ่ สมรรถภาพการทางานของเซิร์ฟเวอร์ผา่ นโซลูชนั่ SSL offload ของ Cisco ซ่ึงจาเป็นตอ้ งมี เพ่ือไดร้ ับ การอนุมตั ิเม่ือถูกตรวจคน้ และขณะทาการถ่ายโอนยา้ ยขอ้ มูลระหวา่ ง SSL-encrypted session ต่างๆ ขยายเชิงธุรกิจโดยการเปลี่ยนแปลงแอพพลิเคชน่ั และเซิร์ฟเวอร์อยา่ งง่ายดาย ปกป้องสมรรถภาพการทางานของแอพพลิเคชนั่ โดยใชก้ ลไกแบบ multicast และ Quality-of-Service (QoS) ขณะที่ขอ้ มูลไหลเวียนจากช่องสญั ญาณเร็วของศนู ยข์ อ้ มูลไปสู่ช่องสญั ญาณเช่ือมโยงชา้ ของผใู้ ช้ แอพพลิเคชน่ั หลกั จะไดร้ ับการบริการช้นั เลิศดว้ ยเทคโนโลยกี ารบริหาร และบนั ทึกเกบ็ ขอ้ มูลชว่ั คราวท่ี ทนั สมยั ที่สุด 2.4 ความหมายของห้องสมุดดจิ ติ อล หอ้ งสมุดดิจิตอล หมายถึง หอ้ งสมุดที่ตอ้ งการเทคโนโลยเี ครือขา่ ยเพ่ือเชื่อมโยงแหล่งสารสนเทศท่ี อยู่ หลายๆ แหล่งและการเช่ือมโยงน้นั ตอ้ งไม่ยงุ่ ยากสาหรับผใู้ ชแ้ ละสามารถเขา้ ถึง ทรัพยากรสารสนเทศ ไดอ้ ยา่ งกวา้ งขวางเป็นสากล คอลเลคชน่ั ท่ีเกบ็ ไม่จากดั เฉพาะเอกสาร แต่ยงั ครอบคลุมถึงวสั ดุดิจิตอลอ่ืน ๆ

ที่สร้างข้ึน ซ่ึงไม่อยใู่ นรูปแบบของส่ิงพิมพ์ องคป์ ระกอบของหอ้ งสมุดดิจิตตอล ไดแ้ ก่ ส่วนเช่ือมต่อ ผใู้ ช้ (User interface) ประกอบดว้ ย 2 ส่วนคือ ส่วนสาหรับผใู้ ชแ้ ละส่วนสาหรับผคู้ วบคุมโดยผใู้ ชส้ ามารถใชเ้ วบ็ บราวเซอร์ในการติดต่อกบั ส่วนบริการผใู้ ชไ้ ด้ ชอง เปี ยเจีย์ (Jean Piaget) นกั จิตวทิ ยาผรู้ ิเร่ิมการปฏิวตั ิวิธีการเรียนรู้ภายใตท้ ฤษฎี Constructivism มีความคิด วา่ “เดก็ ๆ ไม่ใช่ท่อท่ีวา่ งเปล่าท่ีผใู้ หญ่จะเทขอ้ มูลและความรู้ต่างๆ เขา้ ไป เดก็ คือผสู้ ร้างความฉลาดและการ เรียนรู้ ของเขาเอง” นนั่ หมายความวา่ เดก็ ๆ มีความสามารถในการเรียนรู้จากส่ิงแวดลอ้ มรอบๆ ตวั และ สภาวการณ์ต่างๆ ท่ีเดก็ เขา้ ไปเกี่ยวขอ้ งดว้ ย ซ่ึงลว้ นแต่มีอิทธิพลต่อการเรียนรู้ท้งั สิ้น โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ในยคุ ที่เดก็ ตอ้ งเผชิญกบั ส่ิงแวดลอ้ มที่ทรงอิทธิพลอยา่ งอินเทอร์เน็ตและสื่ออิเลก็ ทรอนิกส์ที่ถูกสรรคส์ ร้างข้ึนมา หลากหลายรูปแบบแวดลอ้ มอยอู่ ยา่ งเป็นระบบ บางคร้ังจึงถูกเรียกวา่ ระบบนิเวศนอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์ (Electronicsecosystem) ท้งั น้ีนกั อนาคตศาสตร์ไดค้ าดการณ์ไวว้ า่ ในปี คริสตศกั ราช 2016 ร้อยละ 90 ของคน ทว่ั โลกแมจ้ ะอยใู่ นถิ่นทุรกนั ดารกจ็ ะมีอินเทอร์เน็ตใช้ (จุฬากรณ์มาเสถียรวงศ,์ 2547) ดงั น้นั ส่ิงท่ีผใู้ หญ่ควร ทาคือการสร้างสรรคส์ ิ่งแวดลอ้ มที่ดีและจดั วิธีการเรียนรู้ท่ีเหมาะสมสาหรับเดก็ สาหรับสิ่งแวดลอ้ มของการ เรียนรู้โดยทวั่ ไปประกอบดว้ ย 3 ส่วนที่สาคญั ไดแ้ ก่ ส่วนแรกคือผเู้ รียนซ่ึงเป็นผู้ ที่ตอ้ งการเรียนรู้ เพ่ือบรรลุ เป้าหมายอยา่ งใดอยา่ งหน่ึง เช่น พฒั นาตนเอง พฒั นาวชิ าชีพ เพือ่ ความบนั เทิง เป็นตน้ ส่วนต่อมาคือแหล่ง การเรียนรู้ท่ีจะช่วยใหผ้ เู้ รียนไดเ้ ขา้ ถึงความรู้ เช่น แหล่งธรรมชาติ องคค์ วามรู้ของบุคคล แหล่งท่ีจดั เกบ็ รวบรวมองคค์ วามรู้ไวอ้ ยา่ งเป็นระบบ เป็นตน้ และส่วนสุดทา้ ยคือวธิ ีการเรียนรู้ซ่ึงเป็นกระบวนการที่ทาให้ ผเู้ รียนไดร้ ับประสบการณ์จนก่อใหเ้ กิดการเรียนรู้ข้ึนในตนเองขณะเดียวกนั การพฒั นาทาง เทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ไดส้ ่งผลกระทบต่อการศึกษาเป็นอยา่ งมากโดยเฉพาะการลดขอ้ จากดั ท้งั ดา้ นระยะทางและเวลาทาใหเ้ กิดการเปลี่ยนแปลงวถิ ีของการเรียนรู้ (ยนื ภู่วรวรรณ, 2547) มีแนวโนม้ ท่ี เทคโนโลยเี พอ่ื การเรียนรู้หลายอยา่ งจะถูกผนวกเขา้ ดว้ ยกนั ( Conv er ganc e) อนั จะนาไ ปสู่การพฒั นา นวตั กรรมเพ่อื การเรียนรู้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากยงิ่ ข้ึน (Hasegawa,& Kashihara, 2002; Marshallet al., 2003; He et al., 2004; Jayaprakash, 2006)จึงมีคาาถามสาาคญั วา่ จะบูรณาการเทคโนโลยี อยา่ งไรที่จะนาไปสู่การพฒั นาระบบหอ้ งสมุดดิจิตอลท่ี ส่งเสริมศกั ยภาพในการเรียนรู้ของเดก็ ซ่ึงมีเน้ือหา ดงั น้ี ความหมายและลกั ษณะของหอ้ งสมุดดิจิตอล (Digital library) ในปี ค.ศ. 1999 วทั สเตนและคณะ (Watstein,et al.) คน้ พบวา่ มีคาาศพั ทท์ ่ีมีความหมายเกี่ยวขอ้ งกบั “Digital library” ไดแ้ ก่ Traditional library, Paperlesslibrary, Data warehousing, Library without walls, Library of

the future, Electronic library, Online library,Virtual library, World Wide Web, Digital library,Digital research library และ Digital archive จากการคน้ พบน้ี น้าทิพย์ วภิ าวนิ (2542) อธิบายวา่ “หอ้ งสมุดดิจิตอล (Digital Library)” เป็นคาาท่ีนิยมใชก้ นั อยา่ งแพร่หลายเพราะใหค้ วามหมายท่ีกวา้ งกวา่ คาาวา่ หอ้ งสมุด อิเลก็ ทรอนิกส์ (Electronic Library) และหอ้ งสมุดเสมือนจริง (Virtual Library) เน่ืองจากคาาวา่ อิเลก็ ทรอนิกส์โดยมากเนน้ ที่เทคโนโลยที ี่ใชใ้ นการจดั การกบั สารสนเทศส่วนคาาวา่ เวอร์ชวล (Virtual) เนน้ ท่ีสภาวะเสมือนจริงที่ประกอบกนั ข้ึนมาเป็นรูปแบบใดรูปแบบหน่ึงท่ีไม่ใช่ทางกายภาพ ขณะที่คาาวา่ ดิจิตอล หมายถึง สารสนเทศที่อยใู่ นสื่ออิเลก็ ทรอนิกส์ต่าง ๆ ต่อมา Seadel and Greifeneder (2007) ได้ พยายามอธิบายความหมายของ “หอ้ งสมุดดิจิตอล” ดว้ ยการศึกษาเปรียบเทียบจากหลายท่ีมา ไดผ้ ลการวจิ ยั จาแนกออกเป็น 3 กลุ่ม ไดแ้ ก่ กลุ่มแรกใหค้ วามหมายวา่ หอ้ งสมุดดิจิตอลเกิดจากเอกสารดิจิตอลท่ีตอ้ ง จดั การดว้ ยกระบวนการมาตรฐานของหอ้ งสมุดทว่ั ไป (การรวบรวมการจดั หมวดหมู่ และการเตรียมการ เขา้ ถึง) และสร้างใหเ้ ขา้ ถึงแคทคาลอ็ ก (Catalog) ดว้ ยระบบออนไลน์ กลุ่มถดั มาใหค้ วามหมายวา่ หอ้ งสมุด ดิจิตอลคือ โปรแกรม(Software) ที่บรรจุขอ้ มูลพ้นื ฐาน (Primary data) และจดั เกบ็ ดว้ ยเมทาดาตา้ ที่สร้างหรือ ตรวจทานดว้ ยมือ ขอ้ มูลดงั กล่าวจาตอ้ งมีการรวบรวม จดั ระบบ และบารุงรักษาอยา่ งดี ดว้ ยภาระหนา้ ท่ีหลกั เช่นเดียวกบั หอ้ งสมุดปกติ3 อยา่ ง ไดแ้ ก่ การแคทตาลอ็ ก การจดั เกบ็ เอกสารในระยะยาว และการเขา้ ถึง เอกสาร และกลุ่มท่ีสุดทา้ ยใหค้ วามหมายวา่ หอ้ งสมุดดิจิตอลคือ การจดั หาเอกสารดิจิตอลในการเช่ือมโยง บริการออนไลน์ สร้างข้ึนบนหนา้ ที่หลกั ของหอ้ งสมุดทวั่ ไป โดยใหก้ ารบริการเขา้ ถึงแหล่งรวบรวมผา่ น อินเทอร์เน็ตสาหรับบทความน้ีตอ้ งการความเขา้ ใจท่ีตรงกนั ดว้ ยการปรับปรุงจากความหมายของ Waters (1998)วา่ หอ้ งสมุดดิจิตอล หมายถึง การจดั ระบบท่ีจดั เตรียมทรัพยากร รวมท้งั คณะทางานเช่ียวชาญ การ เลือกสรรการจดั โครงสร้าง การจดั การใหเ้ ขา้ ถึงสารสนเทศอยา่ งชาญฉลาดการแปลความหมายการแพร่ กระจายสารสนเทศการรักษาความสมบูรณ์การรับประกนั การคงอยู่ ขณะที่ทาการรวบรวม และมีความพร้อม ใชใ้ นเชิงเศรษฐศาสตร์สาหรับการใชง้ านท่ีกาหนดโดยผทู้ ่ีเก่ียวขอ้ งกบั การใหก้ ารศึกษาและส่งเสริม ความสามารถในการเรียนรู้ของเด็ก 2.5 ความสาคญั ของห้องสมุดดิจิตอลต่อการพฒั นาการเรียนรู้สาหรับเด็ก กระบวนการเรียนรู้ในวยั เดก็ แตกต่างจากผใู้ หญ่เน่ืองจากทศั นะและการมองโลกแตกต่างกนั ผใู้ หญ่ไม่ ควรใชท้ ศั นะแบบเดียวกนั สาหรับเดก็ เพราะจะส่งผลเสียต่อการพฒั นาการของเดก็ (พร พนั ธุ์โอสถ, 2543) โดยเดก็ ในช่วงเร่ิมตน้ ถึงเจด็ ขวบยงั มีความสามารถพฒั นาการเรียนรู้แบบเชาวป์ ัญญาและนามธรรมไดน้ อ้ ย จึงสนใจที่จะลงมือทาดว้ ยตวั เองหรือปฏิบตั ิผา่ นลกั ษณะท่ี เป็นรูปธรรมมากกวา่ ต่อเม่ือเขา้ สู่ ช่วงวยั 7-14 ปี

เดก็ จึงจะคอ่ ยๆ เขา้ ใจและพฒั นาการเรียนรู้ในสิ่งที่เป็นนามธรรมได้ จากการเรียนรู้ โดยไดล้ งมือกระทาอยา่ ง สม่าเสมอจะนาไปสู่ความเคยชินในการปฏิบตั ิ ดงั น้นั ส่ิงแวดลอ้ มรอบตวั เดก็ ในช่วงวยั น้ีจึงตอ้ งเป็น ส่ิงแวดลอ้ มท่ีดี เพราะจะเป็นพ้ืนฐานสาคญั ต่อการพฒั นาไปสู่ความเป็นมนุษยท์ ่ีสมบูรณ์ต่อไป โดยหอ้ งสมุด ดิจิตอลจะเป็นอีกทางหน่ึงที่จะสร้างสิ่งแวดลอ้ มที่ดี ท่ีส่งเสริมการเรียนรู้ใหแ้ ก่เดก็ สื่ออิเลก็ ทรอนิกส์ใน บริบทของการเรียนรู้ร่วมกนั เช่นหอ้ งสมุดดิจิตอลน้ีมีรากฐานมาจากทฤษฎีการสร้างความรู้ (Constructivism) ของ เพียเจต์ (Piaget) ที่มุ่งศึกษาวา่ ความรู้คืออะไรและความรู้เกิดข้นึ ไดอ้ ยา่ งไร โดยมุ่งความสนใจท่ีการ สร้างความเชื่อมโยงระหวา่ งความรู้เก่ากบั ความรู้ใหม่ดว้ ยการมีปฏิสมั พนั ธก์ บั สิ่งแวดลอ้ มรอบตวั รวมท้งั บุคคลที่มีการส่ือสารกนั ท้งั ต่อหนา้ และผา่ นอินเทอร์เน็ต ต่อมาศาสตราจารยซ์ ีมวั ร์ แพพเพิท(Seymour Papert) แห่ง MIT ไดพ้ ฒั นาทฤษฎีเพ่มิ เติมเป็น Constructionism ท่ีเนน้ ศิลปะการเรียนรู้หรือการเรียนรู้ดว้ ย การสร้างบางสิ่งบางอยา่ งท่ีมีความหมายตอ่ ตนเองข้ึนมา โดยใหค้ วามสาคญั กบั เครื่องมือ สื่อ และบริบทของ การพฒั นามนุษย์ (บุปผชาติ ทฬั หิกรณ์, 2548)ซ่ึงมีส่วนประกอบสาคญั 3 ประการ คือ การมีทางเลือกที่ หลากหลายในการเขา้ ถึงความรู้ การมีความหลากหลายท้งั ในแง่บุคคลและรูปแบบ และการมีความเป็น กนั เองของชุมชนการเรียนรู้ในหอ้ งสมุดดิจิตอล ซ่ึงเฉพาะส่วนประกอบดงั กล่าวน้ียงั คงเป็นประเดน็ ท่ี ตอ้ งการการคน้ หาจากการวจิ ยั และพฒั นาต่อไป หอ้ งสมุดดิจิตอลนอกจากจะเป็นการจดั เตรียมทรัพยากรและ กิจกรรมการเรียนรู้สาหรับเดก็ แลว้ ยงั ตอ้ งคานึงถึงโอกาสในการไดร้ ับประสบการณ์ท่ีสนุกสนานของการ เขา้ ถึงองคค์ วามรู้และตอ้ งประกอบดว้ ยกิจกรรมท่ีส่งเสริมจินตนาการของเดก็ ดว้ ย (IFLA, 2003) โดย หอ้ งสมุดดิจิตอลท่ีช่วยพฒั นาการเรียนรู้สาหรับเดก็ ประกอบดว้ ยลกั ษณะสาคญั 5 ประการ ไดแ้ ก่ ประการ แรกเป็นการนาไอซีทีมาใชเ้ พือ่ สนบั สนุนการเรียนรู้แบบผเู้ รียนเป็นศูนยก์ ลางเพ่อื ใหเ้ ดก็ รู้จกั วิธีการเรียน (Learn how tolearn) อนั จะนาไปสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิต ประการถดั มาเป็นระบบเครือข่ายการเรียนรู้ ท่ีจดั ให้ มีแหล่งความรู้ ที่หลากหลายเพื่อรองรับความตอ้ งการท่ีแตกต่างกนั ประการที่สามเป็นการปรับกระบวนการ เรียนรู้ท่ีเนน้ ใหค้ รูเป็นผอู้ านวยความสะดวกและช้ีแนะโดยใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและระบบเครือข่ายการ เรียนรู้เป็นเครื่องมือประการท่ีสี่เป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมกนั ซ่ึงก่อใหเ้ กิดการสร้างสรรคอ์ งคค์ วามรู้ และประการสุดทา้ ยเป็นการเรียนรู้ดว้ ยสื่ออิเลก็ ทรอนิกส์ท่ีหลากหลายเพ่ือก่อใหเ้ กิดความสนุกสนานในการ เรียนรู้ (น้าทิพย์ วภิ าวนิ , 2542) 2.6 รูปแบบฐานข้อมูลสาหรับห้องสมุดดจิ ติ อล ฐานขอ้ มูลสื่อผสม (Multimedia database) ใชใ้ นการนาเสนอสารสนเทศที่ไม่จาเป็นตอ้ งเรียงลาดบั และ ประกอบดว้ ยสื่อหลาย ๆ แบบ

ฐานขอ้ มูลเตม็ รูปแบบ (Full-text database) เป็นลกั ษณะฐานขอ้ มลู ท่ีบนั ทึกเร่ืองราวท้งั หมดเขา้ เคร่ือง คอมพิวเตอร์ในรูป แบบท่ีเคร่ืองอ่านได้ เมื่อตอ้ งการใชก้ ส็ ามารถเรียกขอ้ มูลข้ึนมาอ่านไดเ้ หมือนกบั การอ่าน หนงั สือ ท้งั เล่ม ฐานขอ้ มูลภาพลกั ษณ์ (Image database) เป็นฐานขอ้ มูลเตม็ รูปชนิดหน่ึงผลิตไดจ้ ากการใชเ้ คร่ือง สแกนเนอร์อ่านเอกสาร หรือสารสนเทศใด ๆ หรือใชก้ ลอ้ งถ่ายรูป หรือวดี ีทศั นภ์ าพถ่ายต่าง ๆ เขา้ สู่ระบบ คอมพวิ เตอร์ 2.7 รูปแบบการจดั การฐานข้อมูลของห้องสมุดดิจติ อล รูปแบบการจดั การฐานขอ้ มูลของหอ้ งสมุดดิจิตอล ประกอบดว้ ย 2 ส่วนคือ ทรัพยากรสารสนเทศท่ีอยู่ ในรูปวสั ดุสิ่งพมิ พแ์ ละทรัพยากรสารสนเทศท่ีอยใู่ น รูปวสั ดุอิเลก็ ทรอนิกส์ ซ่ึงทรัพยากรท้งั 2 ส่วนน้ีอาจมา จากแหล่งภายนอก หรือ มาจากแหล่งภายในของหอ้ งสมุดดิจิตอลเอง ทรัพยากรสารสนเทศท่ีอยใู่ นรูปวสั ดุ สิ่งพมิ พจ์ ะตอ้ งผา่ นกระบวนการแปลง สารสนเทศจากวสั ดุส่ิงพมิ พใ์ หอ้ ยใู่ นรูปของดิจิตอล โดยอาจจะ สแกนแลว้ แปลงเป็นตวั อกั ษรดว้ ยซอฟตแ์ วร์ประเภท Optical Character Recognition เพื่อใหส้ ามารถนา ขอ้ มูลออกมาใชใ้ นลกั ษณะของตวั อกั ษรได้ ส่วนทรัพยากรสารสนเทศท่ีอยใู่ นรูปวสั ดุอิเลก็ ทรอนิกส์ ซ่ึงเป็น สารสนเทศท่ีอยใู่ นรูปดิจิตอลแลว้ แต่อาจมีการจดั เกบ็ ในรูปแบบที่แตกต่างกนั ตอ้ งทาการแปลงวสั ดุ อิเลก็ ทรอนิกส์เหล่าน้ีใหอ้ ยใู่ นรูปแบบที่หอ้ งสมุด ดิจิตอลน้นั ๆ จะสามารถรองรับได้ 2.8 ประโยชน์ของห้องสมุดดจิ ิตอล 1. ลดปัญหาและอุปสรรคในการเขา้ ถึงแหล่งสารสนเทศ ผใู้ ชส้ ามารถเขา้ ถึงสารสนเทศไดส้ ะดวก และ รวดเร็ว 2. ช่วยใหผ้ ใู้ ชส้ ามารถเขา้ ถึงสารสนเทศจาก e-Library อ่ืนๆ นอกเหนือ e-Library ของตน 3. ขยายเวลาการใหบ้ ริการของหอ้ งสมุดเป็นแบบ บริการ 24*7 คือบริการทุกวนั ตลอด 24 ชวั่ โมง 4. ขยายพ้นื ที่การใหบ้ ริการ สามารถบริการใหก้ บั คนทวั่ โลกไม่วา่ ผใู้ ชจ้ ะอยสู่ ่วนไหนของโลก กส็ ามารถ สืบคน้ สารสนเทศท่ีตอ้ งการได้ ดว้ ยความสะดวก และรวดเร็ว เช่นเดียวกบั การดาเนินงานขององคก์ รใน ลกั ษณะ e-office และ e-commerce เป็นตน้

5. ประหยดั พ้นื ท่ีในการจดั เกบ็ ทรัพยากรสารสนเทศ เพราะสารสนเทศของหอ้ งสมุดจะอยใู่ นรูปแบบของ ส่ืออิเลก็ ทรอนิกส์ 6. ประหยดั เวลา และคา่ ใชจ้ ่ายของผใู้ ชบ้ ริการ ผใู้ ชบ้ ริการไม่จาเป็นเดินทางไปสืบคน้ สารสนเทศที่ หอ้ งสมุดกส็ ามารถสืบคน้ ขอ้ มูลได้ 7. มีการใชส้ ารสนเทศท่ีคุม้ ค่า เพราะทุกคนมีโอกาสในการเขา้ ถึงสารสนเทศ โดยไม่มีเวลาและสถานที่เป็น อุปสรรคต์ ่อไป

บทที่ 3 วธิ ีดาเนินการศึกษาคน้ ควา้ ในการศึกษาคร้ังน้ี ผศู้ ึกษาไดท้ าการศึกษา ความพึงพอใจของนกั เรียนต่อแอปพลิเคชนั่ Pua School Digital Library ซ่ึงมีวธิ ีการดงั น้ี 1.ระเบียบวธิ ีท่ใี ช้ในการศึกษา ในการศึกษาใชร้ ูปแบบการสารวจ สืบคน้ ขอ้ มูลจากอินเทอร์เน็ตและตอบแบบสอบถาม 2.ประชากร/กลุ่มตวั อย่าง -กลุ่มตวั อยา่ ง กลุ่มตวั อยา่ งท่ีใชใ้ นการศึกษาคร้ังน้ีไดแ้ ก่นกั เรียนระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 1-6 โรงเรียนปัว ปี การศึกษา 2562 โดยเป็นนกั เรียน ม.ตน้ 100 คน และนกั เรียน ม.ปลาย 100 คน เป็นนกั เรียนท้งั สิ้น 200 คน ไดม้ าโดย สุ่มอยา่ งง่าย เพ่อื ตอบแบบสอบถามท่ีสร้างข้ึน -ระยะเวลาที่ใชใ้ นการศึกษา ระยะเวลาที่ใชใ้ นการศึกษา ในปี การศึกษา 2562 3. วธิ ีดาเนินการศึกษา ผศู้ ึกษาไดด้ าเนินการตามข้นั ตอนดงั น้ี 3.1 กาหนดเร่ืองที่จะศึกษา โดยสมาชิกท้งั 6 คน ประชุมร่วมกนั และร่วมกนั คิดและวางแผนวา่ จะศึกษาเรื่อง ใด 3.2 สารวจปัญหาที่พบในโรงเรียน ซ่ึงมีท้งั ปัญหาดา้ นผเู้ รียน ครูผสู้ อน อาคาร สถานที่ ส่ิงแวดลอ้ มใน โรงเรียน ฯลฯ 3.3 เลือกเรื่องท่ีจะศึกษา โดยเลือกเรื่องท่ีสมาชิกมีความสนใจมากที่สุดเพอ่ื เป็นแรงจูงใจในการคน้ หาคาตอบ 3.5 ต้งั ชื่อเร่ือง

3.6 สมาชิกท้งั 6 คนของกลุ่ม พบครูผสู้ อนเพ่ือปรึกษา วางแผนและรับฟังความคิดเห็น ปรับปรุงแกไ้ ข 3.7 เขียนความสาคญั ความเป็นมาของปัญหา วตั ถุประสงค์ สมมุติฐาน ขอบเขตการวิจยั และประโยชนท์ ่ีคาด วา่ จะไดร้ ับ โดยศึกษาขอ้ มูลจากหนงั สือ วทิ ยานิพนธแ์ ละสืบคน้ ขอ้ มูลจากอินเตอร์เน็ต และจดบนั ทึกใน โครงร่างรายงานเชิงวชิ าการ 3.8 สร้างเคร่ืองมือ ท่ีเป็นแบบสอบถาม จานวน 5 ขอ้ 3.9 นาเครื่องมือท่ีปรับปรุงแลว้ ไปใชก้ บั กลุ่มตวั อยา่ ง 3.10 รวบรวมขอ้ มูล 3.11 วิเคราะห์ขอ้ มูล 3.12 สรุปการศึกษา 4. เคร่ืองมือทใ่ี ช้ในการศึกษา เคร่ืองมือท่ีใชใ้ นการศึกษาคร้ังน้ี คือ แบบสอบถาม 1 ฉบบั ซ่ึงมีรายละเอียดดงั น้ี 4.1 ออกแบบแบบสอบถาม เรื่อง ความพงึ พอใจของนกั เรียนต่อแอปพลิเคชน่ั Pua School Digital Library โดยขอคาแนะนาจากท่ีปรึกษาหรือผสู้ อน โดยเตรียมร่างขอ้ คาถาม มีลกั ษณะเป็นขอ้ คาถามจานวน 5 ขอ้ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณ 5 ระดบั คือ 5 หมายถึง มากท่ีสุด 4 หมายถึง มาก 3 หมายถึง ปานกลาง 2 หมายถึง นอ้ ย 1 หมายถึง นอ้ ยท่ีสุด

การพจิ ารณาคา่ เฉล่ีย จะใชเ้ กณฑด์ งั น้ี คา่ เฉล่ีย 4.51 – 5.00 หมายถึง มากที่สุด ค่าเฉล่ีย 3.51 – 4.50 หมายถึง มาก คา่ เฉล่ีย 2.51 – 3.50 หมายถึง ปานกลาง คา่ เฉล่ีย 1.51 – 2.50 หมายถึง นอ้ ย คา่ เฉลี่ย 1.00 – 1.50 หมายถึง นอ้ ยที่สุด 4.2 สร้างแบบสอบถาม เรื่องโดยขอคาแนะนา ความพึงพอใจของนกั เรียนต่อแอปพลิเคชน่ั Pua School Digital Library จากท่ีปรึกษาหรือผสู้ อน จากน้นั นามาปรับปรุงแกไ้ ข แลว้ นาไปตรวจสอบความเหมาะสม 4.3 นาแบบสอบถามเรื่อง ความพึงพอใจของนกั เรียนต่อแอปพลิเคชนั่ Pua School Digital Library ท่ีแกไ้ ข ปรับปรุงแลว้ ใหก้ ลุ่มตวั อยา่ งประเมิน หลงั จากน้นั นาผลท่ีไดม้ าหาคา่ เฉลี่ย 5. การเกบ็ รวบรวมข้อมูล การศึกษาคร้ังน้ีไดด้ าเนินการโดยนาแบบสอบถามท่ีสร้างข้ึนใหน้ กั เรียนกลุ่มตวั อยา่ งตอบ จานวน 420 คน และเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลจากนกั เรียน ที่เป็นกลุ่มตวั อยา่ ง โดยผศู้ ึกษาท้งั 6 คน ดาเนินการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ดว้ ยตนเอง 6. การวเิ คราะห์ข้อมูล ในการวิเคราะห์ขอ้ มูล ผศู้ ึกษาไดว้ ิเคราะห์ขอ้ มูล ดงั น้ี 6.1 นาแบบสอบถามท้งั หมดท่ีตอบโดยนกั เรียนกลุ่มตวั อยา่ ง มาหาคา่ คะแนนรวม 6.2 นาผลรวมมาคิดค่าร้อยละและการหาคา่ เฉล่ีย 7. สถิตทิ ีใ่ ช้ในการศึกษา สถิติท่ีใชใ้ นการศึกษาคร้ังน้ี คือ ร้อยละและการหาคา่ เฉล่ีย

บทที่4 ผลการดาเนินการโครงงาน 4.1 หัวข้อในการสารวจ มีหวั ขอ้ ในการประเมินดงั น้ี 1 มีหนงั สือ ตารา ผลงานทางวิชาการครอบคลุมกบั ความตอ้ งการ 2 มีระยะเวลาในการยมื -คืนที่เหมาะสม 3 มีช่องทางใหผ้ ใู้ ชบ้ ริการแสดงความคิดเห็น / ประเมินการใหบ้ ริการ 4 มีความสะดวกในการใชแ้ อปพลิเคชนั่ 5 คุณภาพของแอปพลิเคชน่ั 4.2 ผลการสารวจ ผลการสารวจ 1 มีหนงั สือ ตารา ผลงานทางวิชาการครอบคลุมกบั ความตอ้ งการ พบวา่ นกั เรียนระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาตอนตน้ มีความพงึ พอใจในระดบั 4.24 คะแนน ซ่ึงจดั อยใู่ นเกณฑม์ าก พบวา่ นกั เรียนระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาตอนปลายมีความพงึ พอใจในระดบั 4.69 คะแนน ซ่ึงจดั อยใู่ นเกณฑม์ ากท่ีสุด 2 มีระยะเวลาในการยมื -คืนท่ีเหมาะสม พบวา่ นกั เรียนระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาตอนตน้ มีความพงึ พอใจในระดบั 4.81 คะแนน ซ่ึงจดั อยใู่ นเกณฑม์ ากท่ีสุด พบวา่ นกั เรียนระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาตอนปลายมีความพึงพอใจในระดบั 4.67 คะแนน ซ่ึงจดั อยใู่ นเกณฑม์ ากท่ีสุด 3 มีช่องทางใหผ้ ใู้ ชบ้ ริการแสดงความคิดเห็น / ประเมินการใหบ้ ริการ พบวา่ นกั เรียนระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาตอนตน้ มีความพึงพอใจในระดบั 4.81 คะแนน ซ่ึงจดั อยใู่ นเกณฑม์ ากท่ีสุด พบวา่ นกั เรียนระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาตอนปลายมีความพึงพอใจในระดบั 4.58 คะแนน ซ่ึงจดั อยใู่ นเกณฑม์ ากที่สุด 4 มีความสะดวกในการใชแ้ อปพลิเคชน่ั

พบวา่ นกั เรียนระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาตอนตน้ มีความพงึ พอใจในระดบั 3.98 คะแนน ซ่ึงจดั อยใู่ นเกณฑม์ าก พบวา่ นกั เรียนระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาตอนปลายมีความพงึ พอใจในระดบั 3.03 คะแนน ซ่ึงจดั อยใู่ นเกณฑป์ านกลาง 5 คุณภาพของแอปพลิเคชนั่ พบวา่ นกั เรียนระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาตอนตน้ มีความพงึ พอใจในระดบั 3.29คะแนน ซ่ึงจดั อยใู่ นเกณฑป์ านกลาง พบวา่ นกั เรียนระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาตอนปลายมีความพึงพอใจในระดบั 3.77 คะแนน ซ่ึงจดั อยใู่ นเกณฑม์ าก

บทท่ี 5 สรุปผลการดาเนินงานและขอ้ เสนอแนะ 5.1การดาเนินงานจัดทาโครงงาน 5.1.1วตั ถุประสงคข์ องโครงงาน 1 เพ่ือสารวจความพงึ พอใจของนกั เรียนต่อแอปพลิเคชนั่ Pua Digital Library 5.1.2 วสั ดุ อุปกรณ์ เคร่ืองมือหรือโปรแกรมที่ใช้ 1 แบบสารวจความพงึ พอใจของนกั เรียนตอ่ แอปพลิเคชน่ั Pua Digital Library 5.2 สรุปผลการดาเนินงาน จากผลการสารวจกลุ่มตวั อยา่ งนกั เรียนจานวน 200 คน โดยเป็นนกั เรียน ม.ตน้ 100 คน และ นกั เรียน ม.ปลาย 100 คน สามารถสรุปไดว้ า่ นกั เรียนส่วนใหญ่มีความพงึ พอใจต่อแอปพลิเคชน่ั Pua Digital Library ดา้ นตา่ งๆในระดบั พงึ พอใจมากท้งั ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาตอนตน้ และตอนปลาย ระดบั ความพึงพอใจ หวั ขอ้ ในการประเมิน มธั ยมศึกษาตอนตน้ มธั ยมศึกษาตอนปลาย มีหนงั สือ ตารา ผลงานทางวชิ าการครอบคลุมกบั พงึ พอใจมาก พงึ พอใจมากที่สุด ความตอ้ งการ พงึ พอใจมากที่สุด มีระยะเวลาในการยมื -คืนที่เหมาะสม พึงพอใจมากท่ีสุด มีช่องทางใหผ้ ใู้ ชบ้ ริการแสดงความคิดเห็น / พงึ พอใจมากที่สุด พึงพอใจมากท่ีสุด ประเมิณการใหบ้ ริการ

มีความสะดวกในการใชแ้ อปพลิเคชนั่ พึงพอใจมาก พึงพอใจปานกลาง คุณภาพของแอปพลิเคชนั่ พงึ พอใจปานกลาง พึงพอใจมาก 5.3ข้อเสนอแนะ 5.3.1. ขอ้ เสนอแนะทว่ั ไป ในการสารวจคร้ังน้ี กลุ่มของขา้ พเจา้ กพ็ บวา่ การสารวจซ่ึงสุ่มจากกลุ่มตวั อยา่ งนกั เรียน 200 คน ขอ้ มูลที่ ไดม้ าอาจจะยงั ไม่ครอบคลุมเพยี งพอท่ีจะนามาสรุปเลยไดว้ า่ นกั เรียนทุกคนมีความพึงพอใจต่อ Pua Digital Library มากนอ้ ยเพียงใด ดงั น้นั ถา้ มีผใู้ ดอยากต่อยอดโครงงานน้ีกลุ่มของขา้ พเจา้ จึงอยากเสนอใหส้ ารวจจาก กลุ่มตวั อยา่ งท่ีหลากหลายมากกวา่ น้ี เช่น แยกเป็นระดบั ช้นั หรือ แยกเป็น เพศ เป็นตน้ 5.3.2 ปัญหาและอุปสรรคท่ีพบ 1.นกั เรียนอาจจะทาแบบประเมินไมต่ รงตามความเป็นจริง ซ่ึงทาใหผ้ ลการสารวจคลาดเคล่ือน

ภาคผนวก แบบสอบถามความพึงพอใจ โครงงาน เรื่อง ความพึงพอใจของนกั เรียนต่อแอปพลิเคชน่ั Pua School Digital Library แบบสอบถามน้ีมีวตั ถุประสงคเ์ พือ่ สารวจความพงึ พอใจของนกั เรียนต่อแอปพลิเคชนั่ Pua School Digital Library ตอนที่ 1 ขอ้ มูลเก่ียวกบั สถานภาพและขอ้ มูลพ้ืนฐานของผตู้ อบแบบสอบถาม คาช้ีแจง โปรดใหร้ ายละเอียดที่เกี่ยวกบั ตวั ท่าน โดยเขียนเคร่ืองหมาย ลงใน ( ) หนา้ ขอ้ ความตามความเป็นจริง ระดบั ช้นั ( ) ม.ตน้ ( ) ม.ปลาย ตอนที่ 2 การประเมินความพงึ พอใจ คาช้ีแจง เขียนเคร่ืองหมาย ลงในช่องระดบั ความพึงพอใจตามความเป็นจริง หวั ขอ้ ประเมิน มากที่สุด ระดบั ความพงึ พอใจ นอ้ ยท่ีสุด 1 5 มาก ปานกลาง นอ้ ย 432 1.มีหนงั สือ ตารา ผลงานทางวชิ าการครอบคลุมกบั ความตอ้ งการ 2.มีระยะเวลาการยมื - คืน เหมาะสมกบั การ ใหบ้ ริการ 3.มีช่องทางใหผ้ ใู้ ชบ้ ริการแสดงขอ้ คิดเห็น / ประเมินการใหบ้ ริการ 4.มีความสะดวกในการใชแ้ อปพลิเคชน่ั 5.คุณภาพของแอปพลิเคชน่ั ขอ้ เสนอแนะ ……………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………....................’’'

บรรณานุกรม สานกั งานส่งเสริมสงั คมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.). “ ทาความรู้จกั หอ้ งสมุดดิจิตอล.” (ออนไลน์). แหล่งท่ีมา: http://www.qlf.or.th/Home/Contents/616. ๒๙ สิงหาคม ๒๕๖๒. APKpure. “Pua School Digital Library.” (ออนไลน์). แหล่งท่ีมา: https://apkpure.com/ar/pua- school-digital-library/com.ilovelibrary.v3.patch1.pua. ๒๙ สิงหาคม ๒๕๖๒. Education app. “แอปพลิเคชนั่ .”(ออนไลน)์ .แหล่งที่มา : https://sites.google.com/site/psupattar475/khwam- hmay-laea-prapheth-khxng-xaeph-phli-khechan .๒๙ สิงหาคม ๒๕๖๒. Mindphp. “แอพพลิเคชนั่ คืออะไร.” (ออนไลน์). แหล่งที่มา: https://www.mindphp.com/คูม่ ือ/73-คืออะไร/ 3647-application-แอพพลิเคชน่ั -คืออะไร.html. ๒๙ สิงหาคม ๒๕๖๒. Slow Life. “ความสาคญั ของแอพพลิเคชน่ั .” (ออนไลน)์ . แหล่งท่ีมา:https://amphornblog.wordpress.com/ ความสาคญั ของแอพพลิเคชนั /. ๒๙ สิงหาคม ๒๕๖๒.


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook