วิจยั ในช้ันเรยี น การพัฒนาการจดั การเรียนการสอนแบบออนไลน์โดยใช้ระบบ หอ้ งเรียนออนไลน์ google Classsroom ระดบั ชน้ั ปวช.คท.2 และ คท.รร.2 เรือ่ ง ความร้เู กี่ยวกับหลกั การประกอบอาหาร ครอบครัว โดย นางสาวอาริยา นยิ มชาติ ครูผชู้ ่วย ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 แผนกวชิ าอาหารและโภชนาการ วทิ ยาลัยอาชีวศึกษาฉะเชงิ เทรา สถาบนั การอาชวี ศกึ ษาภาคกลาง 3 สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา
ข กิตตกิ รรมประกาศ วจิ ยั เร่อื ง การพฒั นาการจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์โดยใช้ระบบห้องเรียนออนไลน์ google Classsroom ระดับชั้นปวช.คท.2 และ คท.รร.2 เร่ือง ความรู้เก่ียวกับหลักการประกอบอาหารครอบครัว แผนกวิชา คหกรรม วิทยาลัยอาชีวศึกษาฉะเชิงเทรา ภาคเรียนที่ 1ปีการศึกษา 2564 สาเร็จลุล่วงได้ด้วย ความกรณุ า และการอนุเคราะห์จากบคุ คลต่างๆ ดงั นี้ ขอขอบพระคุณ ผู้อานวยการ รองผู้อานวยการ หัวหน้าแผนกวิชา คณะครูและนักเรียน วิทยาลัย อาชีวศึกษาฉะเชิงเทรา ท่ีให้คาแนะนา และความช่วยเหลือในการทางานรวมถึงการให้ข้อมูล เก็บรวบรวม ขอ้ มูลงานวิจยั จนสาเรจ็ ลุลว่ งไปได้ดว้ ยดี สุดทา้ ยนี้ ผู้วจิ ัยหวงั ว่าการศกึ ษาคน้ ควา้ รายงานวจิ ัยเลม่ น้ี จะสามารถใช้เป็นข้อมูลท่ีเป็นประโยชน์ต่อ ผู้ศึกษาค้นคว้า ได้นาไปเป็นตัวอย่างในการทาวิจัยครั้งต่อไป รวมถึงสามารถนาไปศึกษาเพ่ิมเติม เพ่ือเพ่ิม รายละเอียดท่ีถูกต้อง และสมบูรณ์มากย่ิงข้ึนในโอกาสต่อไป หากเกิดข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ โอกาสน้ีดว้ ย อารยิ า นยิ มชาติ
สารบัญ ค บทที่ 1 บทนำ หนา้ บทที่ 2 เอกสำรและงำนวจิ ยั ที่เกยี่ วข้อง บทที่ 3 วิธดี ำเนินกำรวิจัย 1-3 บทที่ 4 ผลกำรวิเครำะห์ข้อมูล 4-24 บทที่ 5 สรุปผลกำรวิจัย อภปิ รำยผล และข้อเสนอแนะ 25-26 บรรณำนกุ รม 27-30 31-32
ชือ่ ผลงาน : การพัฒนาการจดั การเรยี นการสอนแบบออนไลนโ์ ดยใช้ระบบหอ้ งเรยี นออนไลน์ google Classsroom ระดบั ชั้นระดบั ช้ันปวช.คท.2 และ คท.รร.2 เรอ่ื ง ความรูเ้ กี่ยวกับหลกั การประกอบอาหารครอบครวั ผจู้ ดั ทา : นางสาวอาริยา นิยมชาติ สาขาวชิ า : อาหารและโภชนาการ ปีการศกึ ษา : 1/2564 บทคดั ยอ่ การวจิ ยั ครงั้ นีม้ วี ัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบออนไลน์ โดยใช้ ระบบห้องเรียน ออนไลน์ Google Classsroom 2) เพ่ือประเมินความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการ จัดการเรียนการสอนแบบ ออนไลน์ 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนที่เรียนจาก การจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ โดยใช้ระบบห้องเรียนออนไลน์ Google Classsroom โดย กลุ่มตัวอย่างในคร้ังน้ีคือ นักเรียนช้ันประกาศนียบัตร วิชาชีพ ปีที่ 2 แผนกวิชาคหกรรม จานวน 29 คน และเคร่ืองมือท่ีใช้ในการวิจัย คร้ังน้ีคือ การจัดการเรียนการสอน แบบออนไลน์ โดยใชร้ ะบบหอ้ งเรียนออนไลน์ Google Classsroom รายวชิ าหลักการประกอบอาหารครอบครวั เรื่อง ความรู้เกี่ยวกับหลักการประกอบอาหารครอบครัว แบบทดสอบเพื่อ วัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน และ แบบประเมิน ความพึงพอใจของผ้เู รียนท่ีมีต่อ การจัดกิจกรรมการ เรียนรู้แบบออนไลน์ และผลการวิจัยใน ครั้งนี้พบว่า ผลการหา ประสทิ ธภิ าพของสอ่ื ทีพ่ ัฒนาจาก แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรูแ้ บบออนไลนม์ ีคา่ ความเช่อื มัน่ เท่ากบั 0.90 ซง่ึ อยู่ใน เกณฑ์ที่มีความ เชื่อมั่นสูง และจากการวิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียน ระหว่างเรียนและหลังเรียน แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อการจัด กิจกรรมการ เรียนรู้แบบ ออนไลนใ์ นระดบั มาก เพราะผเู้ รียนสามารถศึกษาบทเรียนได้ด้วยตนเองในชว่ งเวลาที่ ต้องการ
บทท่ี 1 บทนำ ควำมเป็นมำและควำมสำคัญของปญั หำ ปัจจุบันการจัดการศึกษาของประเทศไทยมีแนวโน้มการพัฒนาที่ดีขึ้น มีหลากหลายรูปแบบ ซ่ึงเกิด จาก ความกา้ วหน้าทางดา้ นเทคโนโลยกี ารสื่อสารท่ี เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว เป็นการส่ือสารท่ี ไร้พรมแดน ซึ่ง เราทุกคน สามารถติดต่อ พูดคุย สืบค้นข้อมูลข่าวสารผ่าน ช่องทางต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ ยูทูป อีเมล หรือผ่านการ ส่ือสารแบบ สงั คมออนไลน์ที่ทกุ คนเรยี กว่า “social”` เช่น เฟซบุ๊ก ไลน์ ต่างๆ ทงั้ น้ใี นกระบวนการจัดการศึกษากเ็ ช่นเดยี วกนั ได้มี การนาคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยในการ จัดการเรียนการสอน โดยมหาวิทยาลัยต่างๆ ได้นาเอา ระบบคอมพิวเตอร์มา ช่วยในดา้ นการ บริหารงานใน โรงเรยี น การพัฒนาสื่อการสอนเพ่ือนามาใช้ในการเรียน การสอนในห้องเรียน การใช้ ห้องเรียนออนไลน์ ซึ่งใน ปัจจุบันมีหลากหลายช่องทางสาหรับการจัดการเรียนรู้แบบออนไลน์ เช่น Google Classsroom ระบบห้องเรียนออนไลน์ ที่ให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศทางออนไลน์ เพื่อ การเรียนการสอนใน ระดับประเทศของไทย มีคุณสมบัติเป็นระบบชั้นเรียนออนไลน์ (LMS = Learning Management System) ที่ได้รับ การพัฒนาข้ึนเพื่อรองรับรูปแบบจัดการการเรียนการสอน แบบห้องเรียนกลับทาง (Flipped Classroom) และมุ่ง ส่งเสริมกระบวนการเรยี นรู้ ทเ่ี นน้ ผู้เรยี นเปน็ สาคัญ ผู้สอนสามารถออกแบบการเรียนการสอน ท่ีมีความยืดหยุ่นเพ่ือ ตอบสนองตอ่ ความต้องการ ของผ้เู รียนได้อย่างสะดวก ซง่ึ ได้รบั ผลตอบรบั อย่างดีจาก ผู้เรียน แต่อย่างไรก็ตาม ระบบ การศึกษา ของไทยก็ยังคงมีจุดอ่อนในด้านการจัดการเรียนรู้ ซึ่งในการพัฒนา ระบบการศึกษานั้น รัฐบาลหรือ ผู้บริหารสถานศกึ ษา จาเป็นท่ีจะตอ้ งมุ่งสง่ เสริมให้ผเู้ รยี นมีความพรอ้ มในด้านความรู้ และทักษะต่างๆ ท่ีจาเป็นในการ ดารงชีวิต เช่น ทักษะการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 เช่น ทักษะ ด้านภาษา ทักษะ การใช้เทคโนโลยีนวัตกรรม และทกั ษะ ชวี ติ ซ่งึ จาเปน็ จะต้องใหผ้ ู้เรยี นสามารถนามาประยุกต์ใช้ใน การดาเนินชีวิตได้ รวมถึงกระตุ้นให้ผู้เรียนได้ แสดงออก ซึ่งความคิดสร้างสรรค์ในการเรียนรู้เพ่ือให้เป็น มนุษย์ท่ี สมบูรณ์ ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์และสังคม ซึง่ ในการปรบั กระบวนการ เรียนการสอนใหเ้ อื้อต่อการพัฒนาขีดความสามารถของผู้เรียนได้แสดง ศักยภาพของตนตาม จุดประสงค์การเรียนรู้แต่ละระดับ โดยยึดหลักว่าผู้เรียนมีความสาคัญที่สุด เทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ได้ มีบทบาทโดยตรงกับการจัดการศึกษาใน ปัจจุบัน โดยสามารถแสดงข้อมูลข่าวสารได้ท้ังในรูปแบบ ของ เสียง ข้อมูล ภาพ ภาพเคลื่อนไหว และวิดีโอ ทาให้การเรียนรู้ในยุคใหม่ประสบความสาเร็จอย่าง รวดเร็ว (ยืน และสมชาย, 2546) และการจัดการเรียนรู้ใน ปัจจุบัน นอกจากครูจะเป็นผู้บรรยายในชั้น เรียนแล้ว ก็มีกิจกรรมอีก หลากหลายรูปแบบที่ได้นามาจัดการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับทักษะการ เรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 ซ่ึง เน้นให้ผู้เรียนเป็น สาคัญ โดยใหผ้ ้เู รยี นเปน็ ผทู้ ากจิ กรรม และครูเป็นเพียงท่ี ปรึกษา เช่น การจดั การเรยี นการสอนออนไลน์ โดยใช้ระบบ ห้องเรยี นออนไลน์ Google Classsroom กเ็ ปน็ อีกหนึ่งแนวทางของการ จัดการเรียนการสอนแบบใหม่ โดยให้ผู้เรียน
“เรียนท่ี บ้าน ทาการบ้าน ที่โรงเรียน” ซ่ึงเป็นการนาสิ่งเดิมท่ีเคย ทาในช้ันเรียนไปทาที่บ้าน และนาสิ่งท่ีได้รับ มอบหมาย ให้ทาที่ บ้านมาทาที่ห้องเรียนหรือโรงเรียนแทน โดยไม่ เน้นให้ครูอยู่ในชั้นเรียนเพื่อสอนเน้ือหาต่างๆ เพราะ ผู้เรยี นสามารถศกึ ษาเนือ้ หาน้ันๆ ด้วยตนเอง วตั ถุประสงคข์ องกำรวิจยั 1. เพอื่ พฒั นาการจัดกจิ กรรมการเรยี นรแู้ บบออนไลน์ โดยใช้ระบบห้องเรียนออนไลน์ Google Classsroom 2. เพ่อื ประเมินความพงึ พอใจของผูเ้ รยี นท่มี ีต่อ การจดั กิจกรรมการเรียนร้แู บบออนไลน์ 3. เพือ่ เปรียบเทียบผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี นของผู้เรียนที่เรียนจากการจัดการเรียนการสอน แบบออนไลน์ โดยใช้ ระบบห้องเรยี นออนไลน์ Google Classsroom ขอบเขตของกำรวิจยั ขั้นที่ 1 ผู้สอนสร้างห้องเรียนออนไลน์โดยใช้ระบบห้องเรียนออนไลน์ Google Classsroom และ ให้นักเรียน ผู้เรยี นลงทะเบียนเขา้ มาเรยี นได้ ขั้นท่ี 2 ผู้สอนพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบออนไลน์เรื่องความรู้เก่ียวกับหลักการประกอบอาหาร ครอบครวั เชน่ การทาแนบไฟล์ ใบความรู้ ทาข้อสอบ ทาใบงาน เป็นต้น แสดงไว้ใน ห้องเรียน ออนไลน์ ซึ่งนักเรียน สามารถมาศกึ ษาขอ้ มลู ไดด้ ้วยตนเองได้ ขั้นที่ 3 เม่ือผู้เรียนได้เข้ามาศึกษาเนื้อหาและ แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบออนไลน์แล้ว ผู้สอนจะให้ นกั เรียนทาแบบทดสอบ และใบงานออนไลน์ เพือ่ เกบ็ คะแนนนกั เรยี นในแต่ละหน่วยยอ่ ย พรอ้ มท้งั บอกคะแนนทันที ขน้ั ท่ี 4 หากนักเรียนทาแบบทดสอบไมผ่ า่ น นกั เรยี นสามารถทบทวนบทเรยี นได้ ตวั แปร 1. ตวั แปรท่ีใชใ้ นการวจิ ัยคร้ังนี้ ประกอบดว้ ย 1.1 ตวั แปรตน้ ระบบหอ้ งเรยี นออนไลน์ Google Classsroom เร่ือง ความรู้เก่ียวกับหลักการประกอบอาหาร ครอบครัว 1.2 ตัวแปรตาม ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของ ผู้เรียนที่เรียนด้วยการจัดการเรียนการสอนแบบ ออนไลน์ดีขึ้น และมีพึงพอใจต่อการเรียนการสอนแบบออนไลน์
คำจำกดั ควำมที่ใช้ในกำรวิจัย Google Classroom เปน็ หนึง่ ใน Google Apps ที่รวบรวมบรกิ ารทีส่ าคัญต่างๆ เข้าด้วยกัน เพ่ือสนับสนุนธุรกิจ โรงเรียน และสถาบันต่างๆ ให้ใช้ผลิตภัณฑ์ของ Google ได้อย่างหลากหลาย Google Classroom ถูกออกแบบมา เพ่ือช่วยให้ครูสร้างและลดกระดาษในการจัดเก็บ รวมท้ังคุณสมบัติท่ีช่วยประหยัดเวลา เช่น ความสามารถในการ สาเนาเอกสาร Google ให้กับนักเรียน แต่ละคน นอกจากน้ียังสร้างโฟลเดอร์สาหรับแต่ละบุคคลที่ได้รับมอบหมาย นักเรียนสามารถติดตาม งาน ท่ีได้จากการกาหนดบนหน้าและเริ่มต้นการทางาน ด้วยเพียงไม่กี่คลิก ครูสามารถ ตดิ ตามการ ทางานว่าใครยังไมเ่ สรจ็ ใหต้ รงตามเวลา ยงั สามารถแสดงความคิดเห็นแบบเรียลไทม์ และผลการเรียน ใน ช้ันเรยี น บทเรยี นออนไลน์ คือ บทเรียนทีใ่ ช้คอมพิวเตอรใ์ นการนาเสนอเนื้อหาในรูปแบบบทเรียน ออนไลน์ท่ีใช้นาเสนอ ข้อมูลประเภทต่าง ๆ เช่น ภาพน่ิง ภาพเคล่ือนไหว ตัวอักษรและเสียงในลักษณะ ของสื่อหลายมิติ โดยผู้ใช้มีการ โต้ตอบกบั ส่อื โดยตรง ประโยชน์ทค่ี ำดว่ำจะไดร้ ับ 1. การจดั การเรยี นการสอนแบบออนไลน์ ด้านชว่ ยให้ผูเ้ รยี นพฒั นาสอ่ื การเรียนรทู้ ่ีมี ประสิทธภิ าพ ยิ่งขนึ้ 2. การจัดการเรยี นการสอนแบบออนไลน์ ทาใหผ้ เู้ รียนสามารถใช้เวลาในการเรียนรู้ได้ไม่ จากัด
บทที่ 2 เอกสำรและงำนวิจัยทเี่ กีย่ วขอ้ ง ในการวิจัยในครัง้ นี้ ผวู้ จิ ยั ได้ศกึ ษาเอกสารและงานวจิ ัยทเี่ ก่ียวขอ้ ง ซึง่ จะไดน้ าเสนอตาม หัวข้อต่อไปน้ี 1. Google Classsroom 2. ความหมายของบทเรียนออนไลน์ 3. แนวคิดทฤษฎีท่ีเก่ยี วขอ้ งกับการจัดการเรยี นการสอนในศตวรรษท่ี 21 eLearning 1. Google Classsroom Google Classroom เป็นหนึ่งใน Google Apps ท่ีรวบรวมบริการที่สาคัญต่างๆ เข้าด้วยกัน เพื่อสนับสนุน ธรุ กจิ โรงเรียน และสถาบันต่างๆ ให้ใช้ผลิตภัณฑ์ของ Google ได้อย่างหลากหลาย Classroom ผสานรวม Google เอกสาร,ไดรฟ์และ gmail ไว้ด้วยกัน เพ่ือให้ครูสามารถสร้างและ รวบรวมงานโดยไม่ส้ินเปลืองกระดาษ ภายใน Classroom ครูสามารถสรา้ งงาน ใช้งานนั้นในชั้น เรียนต่างๆ ได้ และเลอื กวา่ จะให้นักเรียนทาอย่างไร (เช่น นักเรียน แตล่ ะคนจะรบั สาเนาของตนเอง หรือนักเรียนทกุ คนจะทางานในสาเนาเดียวกัน) ครูสามารถติดตามว่านักเรียนคนใด ทางานเสร็จแล้ว บ้าง และใครยังทางานไม่เสร็จ ตลอดจนแสดงความคิดเห็นกับนักเรียนแต่ละคนได้ ดังรูป ตัวอย่าง การทางานระหว่างครแู ละนกั เรียน “Google Classroom ถูกออกแบบมาเพ่ือช่วยให้ครูสร้างและลดกระดาษในการ จัดเก็บ รวมท้งั คุณสมบตั ิที่ช่วยประหยัดเวลา เช่น ความสามารถในการสาเนาเอกสาร Google ให้กับนักเรียน แต่ละ คน นอกจากน้ียังสร้างโฟลเดอร์สาหรับแต่ละบุคคลท่ีได้รับมอบหมาย นักเรียนสามารถติดตาม งาน ที่ได้จากการ กาหนดบนหนา้ และเร่ิมต้นการทางาน ด้วยเพียงไม่กี่คลิก ครูสามารถติดตามการ ทางานว่าใครยังไม่เสร็จให้ตรงตาม เวลา ยังสามารถแสดงความคิดเหน็ แบบเรียลไทม์ และผลการเรยี น ในช้ันเรียน” รปู ท่ี 1 กระบวนการทางานของ Google Classroom
ผู้สอนสามารถใช้ Google Classroom เพอ่ื จดั การชน้ั เรียนได้ ดงั ตวั อย่างตอ่ ไปน้ี 1.เพิ่มผูเ้ รียน หรอื แจง้ รหัสเพ่อื ให้ผ้เู รยี นเข้าชั้นเรียนได้ 2.สรา้ ง ตรวจ และให้คะแนนงาน 3.ตรวจสอบกาหนดการสง่ งาน สถานะการสง่ งานและคะแนน 4.เน้อื หาท่อี ย่ใู นช้นั เรียนจะถูกจดั เกบ็ อยู่ใน Google Drive 5.ส่งประกาศ แชรแ์ หล่งข้อมลู พดู คุยหรือตอบคาถามตามหัวข้อท่ีผ้สู อนกาหนดให้ 6.เพมิ่ ผู้สอนไดม้ ากกวา่ หน่ึงคนในรายวชิ าเดยี วกนั 7.ใช้ผา่ นอปุ กรณ์ไดห้ ลายชนดิ เช่น คอมพวิ เตอร์ แทบ็ เล็ต สมารท์ โฟน ข้อดีของ Google Classroom 1. ต้ังค่าง่าย ครูสามารถสร้างชั้นเรียน เชิญนักเรียน และผู้สอนร่วม จากนั้นครูจะสามารถ แชร์ข้อมูลต่างๆ ไดแ้ ก่ งาน ประกาศ และคาถามในสตรีมของชนั้ เรียนได้ 2. ประหยดั เวลาและกระดาษ ครูสามารถสร้างช้ันเรียน แจกจ่ายงาน ส่ือสาร และจัดรายการ ต่างๆ ให้เป็น ระเบียบอยูเ่ สมอไดใ้ นทีเ่ ดียว 3. จดั ระเบียบไดด้ ีข้นึ นักเรียนสามารถดูงานได้ในหน้าสิ่งที่ต้องทา ในสตรีมของชั้นเรียน หรือ ในปฏิทินของ ชน้ั เรยี น โดยเนื้อหาประกอบทั้งหมดของช้ันเรียนจะเกบ็ ไว้ในโฟลเดอร์ Google ไดรฟ์ โดยอัตโนมตั ิ 4. การสื่อสารและการแสดงความคิดเห็นที่ปรับปรุงข้ึน ครูสามารถสร้างงาน ส่งประกาศ และ เริ่มการ อภปิ รายในช้นั เรยี นไดท้ ันที นักเรียนก็สามารถแบ่งปันแหล่งข้อมูลร่วมกับเพื่อนๆ และโต้ตอบ กันได้ในสตรีมของช้ัน เรยี นหรอื ผ่านทางอีเมล ครูสามารถดูได้อย่างรวดเรว็ วา่ ใครทางานเสรจ็ หรอื ไม่ เสร็จบ้าง ตลอดจนสามารถแสดงความ คดิ เหน็ และใหค้ ะแนนโดยตรงไดแ้ บบเรยี ลไทม์ 5. ใชไ้ ด้กับแอปที่คณุ ใชอ้ ยู่ Classroom ใช้ไดก้ บั Google เอกสาร, ปฏทิ ิน, Gmail, ไดรฟ์ และฟอร์ม 6. ประหยดั และปลอดภยั Classroom ใหค้ ณุ ใช้งานฟรี ไมม่ ีโฆษณา และไมใ่ ช้เนื้อหาของคุณ หรือข้อมูลของ นักเรียนเพอื่ การโฆษณา
รูปท่ี 2 ตวั อยา่ งกระบวนการทางานของ Google Classroom ผศ.ดร.ภาสกร เรืองรอง (2558) ได้กลา่ วไวใ้ นบทความเร่ือง การใช้เทคโนโลยี Google Apps ใน การพัฒนา นวัตกรรมการเรียน การสอน The use of Google Apps in the development of innovative teaching ไว้ว่า การจดั การเรียนการสอนในห้องเรยี น จงึ มคี วาม จาเปน็ อยา่ งมากที่จะตอ้ งมีการนาเคร่ืองมือหรือเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้า มาใชใ้ นการจัดระบบการเรียน การสอนเพ่ือชว่ ยอานวยความสะดวกในหลายๆ ดา้ น เครอ่ื งมือท่ีน่าสนใจในการจัดการ เรียนการสอน ปัจจุบัน คือ Google Apps for Education ทีจ่ ัดได้ว่าเป็นเคร่ืองมือท่ีช่วยตอบสนองปัญหาต่างๆ ของ การเรียนการสอนในห้องเรียนได้อย่างหลากหลาย และมีประสิทธิภาพอีกเครื่องมือหน่ึงในการ จัดการเรียนการสอน ของไทย ดังนั้นจะเห็นได้ว่า Google Apps for Education สามารถตอบโจทย์ การศึกษายุคใหม่ได้อย่างมี ประสิทธิภาพ จึงได้ช่ือว่าเป็นการสร้างตานานแห่งโลกการศึกษายุคใหม่ เพราะได้ทาให้รูปแบบการจัดการเรียนการ สอน การตดิ ต่อส่ือสาร การมีปฏิสัมพันธ์ แปรเปล่ียนไป จากอดีตอย่างส้ินเชิง แนวทางการจัดการเรียนการสอนด้วย Google Classroom การนา Google Classroom มาใชใ้ นการจัดการเรียนการสอน สถานศึกษาจัดเตรียม Google Account ใหก้ ับผเู้ รยี นและผู้สอน ซึ่งสามารถนามาใชจ้ ดั การเรียนรไู้ ดท้ กุ กล่มุ สาระการ เรียนรู้ รวมท้ังกิจกรรมพัฒนา ผเู้ รียน ตัวอย่างการจดั การวิชาตา่ ง ๆ ในช้ันเรียนด้วย Google Classroom ดงั รูปท่ี 3 และ 4
รูปท่ี 3 ตวั อยา่ งช้ันเรียนใน Google Classroom ผา่ นเว็บบราวเซอร์ รปู ที่ 4 ตวั อยา่ งชน้ั เรยี นใน Google Classroom ผา่ นสมารท์ โฟน App
ส่วนที่ 2 การสร้างชนั้ เรียน สาหรบั การใชง้ าน Google Classroom ในบทบาทของผู้สอนนัน้ สามารถทาไดด้ งั นี้ 1. สรา้ งชัน้ เรียนออนไลน์สาหรบั รายวชิ าน้นั ๆ ได้ 2. เพิม่ รายช่อื ผเู้ รยี นจากบญั ชีของ Google เข้ามาอยู่ในชัน้ เรียนได้ 3. สามารถกาหนดรหสั ผ่านใหผ้ ูเ้ รียนนาไปใชเ้ พอ่ื เขา้ ชั้นเรียนเองได้ 4. สามารถตั้งโจทย์ มอบหมายการบา้ นให้ผเู้ รียนทา โดยสามารถแนบไฟล์และกาหนดวันทส่ี ่งการบา้ นได้ 5. ผู้เรียนเข้ามาทาการบ้านใน Google Docs และส่งเข้า Google Drive ของผู้สอนโดยจะจดั เก็บไฟล์งานให้ อย่างเปน็ ระบบภายใต้ Folder “Classroom” 6. สามารถเข้ามาดูจานวนผเู้ รียนที่สง่ การบ้านภายในกาหนดและยงั ไมไ่ ด้ส่งได้ 7. ตรวจการบา้ นของผูเ้ รียนแต่ละคน พรอ้ มทง้ั ให้คะแนนและคาแนะนาได้ 8. สามารถเชิญผสู้ อนท่านอน่ื เขา้ รว่ มในชนั้ เรยี นเพื่อร่วมกันจดั การเรียนการสอนได้ 9. ปรับแตง่ รปู แบบของชั้นเรยี นตามธมี หรอื จากภาพสว่ นตัวได้ 10. สามารถใช้งานบนมอื ถอื ท้ังระบบปฏบิ ตั กิ าร Android และ iOS ได้ สาหรบั Google Classroom ผ้สู อนไม่จาเปน็ ตอ้ งรู้วธิ ีการเขียนโค้ดหรอื สร้างเว็บไซตห์ รือสบั สนกับขน้ั ตอน มากมายท่ีตอ้ งใชใ้ นการสรา้ งช้ันเรียน สา หรับ Google Classroom เป็นเรอื่ งงา่ ยในการสรา้ งช้ันเรยี นเพียงแค่คลิกท่ปี ุ่ม และการเพ่ิมขอ้ ความบางส่วน ข้นั ตอน กำรสรำ้ งชน้ั เรยี น 1. เขา้ สรู่ ะบบของ Google Classroom ที่ URL https://classroom.google.com/ โดยใช้บัญชี Gmail หรือ เมลขององค์กร รปู ที่ 5 ตัวอย่างการเขา้ ส่รู ะบบของ Google Classroom
2. สาหรับการใช้งาน Google Classroom ในครัง้ แรก เม่อื เข้าสู่ระบบแล้ว จาเปน็ ต้องเลือกบทบาทในการใช้ งาน โดยสามารถคลิกเลือก “เขา้ รว่ มชั้นเรียน” หรอื “สรา้ งชน้ั เรยี น” 3. กรณเี ป็นผูส้ อนหรอื ผู้สรา้ งรายวชิ า คลิกเลือก “สรา้ งชั้นเรยี น” ดงั ภาพ รปู ท่ี 6 ตวั อย่างการสรา้ งชนั้ เรยี นของ Google Classroom 4. จะแสดงหน้าจอสาหรับการกรอกขอ้ มลู รายวิชา “สรา้ งชั้นเรียน” มีดังนี้ - ช่ือช้ันเรียน กรอกช่ือชั้นเรียน - ห้อง : ให้กรอกรายละเอียดสั้นๆ ลงในห้อง ยกตัวอย่างเช่น ช้ันเรียน ระดับชั้นปี หรือเวลาเรียน - เร่ือง (ถ้ามี) : สามารถกาหนดเรื่องท่ีต้องการส่ือให้กับผู้เรียนได้รับทราบ - ห้อง : สถานท่ีสาหรับผู้เรียนเข้าไปร่วมเรียนในช้ันเรียน เม่ือกรอกข้อมลู เสรจ็ ให้คลกิ เลือกทปี่ ุ่ม “สรา้ ง” รปู ที่ 7 ตวั อย่างการกาหนดช่ือชน้ั เรียนของ Google Classroom
5. จะปรากฏหน้าต่างของ Google Classroom ดงั ภาพ รปู ท่ี 8 ตวั อย่างชนั้ เรยี นของ Google Classroom กำรเพ่ิมผ้เู รียนเข้ำรว่ มชนั้ เรยี น ผู้สอนสามารถเพ่ิมผู้เรยี นได้ ดว้ ยการเชญิ ผู้เรียนเขา้ ช้นั เรยี นผา่ น e-mail ทเ่ี ป็น @pks.ac.th และการใช้รหสั ใน การเขา้ ช้ันเรียน เพอื่ ความสะดวกและรวดเร็วในการเขา้ ใช้งานจะใช้รหัสในการเข้าชั้นเรียน สามารถเขา้ ร่วมได้ 2 วธิ ี โดยมขี ้ันตอน ดงั นี้ วธิ ีที่ 1 เขา้ ร่วมดว้ ยรหัสของชนั้ เรยี น รปู ท่ี 8 ตัวอย่างเขา้ ร่วมดว้ ยรหสั ของช้ันเรียนช้ันเรยี นของ Google Classroom
วิธที ี่ 2 ผสู้ อนเชญิ ผเู้ รยี นเข้าร่วม มีข้ันตอน ดังน้ี 1. คลิกเมนู “ผู้คน” แล้ว คลิกไอคอน ของผู้นักเรยี น 2. คน้ หารายชือ่ ผเู้ รียน เพือ่ ทาการเชญิ ในชนั้ เรยี น ดังภาพ รูปที่ 9 ตวั อย่างเขา้ รว่ มด้วยการเชิญผ่านอีเมลของชั้นเรยี นชนั้ เรียนของ Google Classroom สว่ นท่ี 3 กำรจดั กำรรำยวชิ ำ ผู้สอนสามารถจัดกิจกรรมต่าง ๆ ใน Google Classroom ในการประกาศประชาสัมพันธ์ มอบหมายงาน การแทรก Video เข้ามาประกอบการสอน เพ่ือให้ผู้เรียนได้ทาการศึกษาทบทวน พร้อมกับ แสดงความคดิ เหน็ ได้ รวมไป ถงึ สามารถส่งงานผา่ น Google Classroom ได้อยา่ งไม่จากดั การลงประกาศ/ประชาสัมพันธ์ การประกาศหรือการประชาสัมพันธ์ในรายวิชาบน Google Classroom มขี นั้ ตอนการดาเนนิ การดงั นี้ 1. ในรายวชิ าท่ีตอ้ งการจดั กจิ กรรม 2. คลิกเลอื กเมนู “งานของชนั้ เรยี น” > คลิกเลอื กป่มุ “สรา้ ง” > คลิกเลอื ก “เน้อื หา” ดังภาพ
รปู ที่ 10 ตัวอย่างขน้ั ตอนการประกาศหรอื การประชาสัมพนั ธ์ในรายวชิ าบน Google Classroom 3. จะแสดงหน้าจอสาหรับกรอกรายละเอยี ดการประกาศ/ประชาสมั พนั ธ์ ดงั ภาพ รูปท่ี 11 ตวั อย่างการประกาศหรือการประชาสัมพันธใ์ นรายวิชาบน Google Classroom
4. ชื่อ: บอกชื่อวิชาท่ีจะประกาศ หากมีวิชาเดียวกันแต่ละสอนคนๆ ละกลุ่ม ใช้เนื้อหาเดียวกัน ผู้สอนสามารถ เลอื กอีกกลุม่ ไดจ้ ากส่วนนี้ เพ่ือประกาศพร้อมกันในครั้งเดียว โดยไม่ตอ้ งเสียเวลาประกาศทีละ กล่มุ 5. อธิบาย (ถา้ มี): พมิ พข์ ้อความท่ตี อ้ งการประกาศ 6. : เป็นปุ่มสาหรบั ไฟล์จาก Google Drive, แทรกลงิ ก์ (URL Link), แทรกไฟล์รูปภาพ และ แทรกไฟล์ VDO จาก YouTube ลงไปในประกาศไดด้ ้วย 7. : เป็นปุ่มสาหรับสร้างเอกสารจาก Google App ที่ตอ้ งการ เช่น Google เอกสาร, Google สไลด์, Google ชีต, Google วาดเขยี น และ Google ฟอร์ม กำรมอบหมำยงำน/กำรบ้ำน การมอบหมายงานหรือการสั่งการบ้านในรายวิชา Google Classroom มีขั้นตอนการดาเนินการ ดังน้ี 1. ในรายวิชาท่ีต้องการจัดกจิ กรรมการมอบหมายงาน/การบา้ น 2. คลิกเลือก “งานของชั้นเรียน” > คลกิ ปุ่ม “สร้าง” > คลิกเลือก “งาน” ดงั ภาพ รปู ท่ี 12 ตัวอยา่ งขั้นตอนการมอบหมายงานหรือการส่ังการบา้ นในรายวิชา Google Classroom 3. จะแสดงหน้าจอสาหรบั กรอกรายละเอยี ดการมอบหมายงานหรอื การบ้าน ดังภาพ
รูปท่ี 13 การมอบหมายงานหรอื การสัง่ การบ้านในรายวิชา Google Classroom 1. ช่อื : บอกชอ่ื วชิ าท่ีจะประกาศ หากมีวิชาเดยี วกันแตล่ ะสอนคนๆ ละกล่มุ ใช้เนือ้ หาเดียวกนั ผูส้ อนสามารถ เลอื กอกี กล่มุ ได้จากส่วนนี้ เพอ่ื ประกาศพร้อมกันในครั้งเดยี ว โดยไม่ต้องเสยี เวลาประกาศทลี ะ กลมุ่ 2. อธิบาย (ถ้ามี) : พิมพข์ ้อความที่ตอ้ งการประกาศ 3. : เป็นปมุ่ สาหรับเพมิ่ ไฟลจ์ าก Google Drive, แทรกลงิ ก์ (URL Link), แทรกไฟล์ รูปภาพ และ แทรกไฟล์ VDO จาก YouTube ลงไปในประกาศไดด้ ว้ ย 4. : เปน็ ป่มุ สาหรบั สร้างเอกสารจาก Google App ทตี่ ้องการ เชน่ Google เอกสาร, Google สไลด์, Google ชตี , Google วาดเขยี น และ Google ฟอรม์ 5. การกาหนดนกั เรียนสาหรับงานทีม่ อบหมาย 6. สว่ นของการกาหนดคะแนน 7. การกาหนดเวลาท่มี อบหมายงาน 8. หวั ขอ้ ทเี่ กย่ี วข้องกับงานทีม่ อบหมาย 9. เกณฑ์การให้คะแนนสาหรับงานท่มี อบหมาย
กำรสรำ้ งคำถำม การสร้างคาถามในรายวิชาบน Google Classroom จะสามารถสร้างได้ทีล่ ะคาถาม ไม่สามารถ จดั เป็นกล่มุ ของคาถามได้ มีข้นั ตอนการดาเนนิ การ ดงั นี้ 1. ในรายวิชาที่ต้องการจดั กิจกรรมสร้างคาถาม 2. คลกิ เลอื ก “งานของช้นั เรียน” > คลิกป่มุ “สรา้ ง” > คลิกเลอื ก “คาถาม” ดงั ภาพ รปู ที่ 14 ตวั อยา่ งขั้นตอนการสร้างคาถามในรายวิชาบน Google Classroom รปู ที่ 15 ตวั อยา่ งการสรา้ งคาถามในรายวชิ าบน Google Classroom
1. คาถาม : ป้อนคาถามและคาสง่ั 2. อธิบาย (ถ้ามี): พิมพ์ข้อความที่ต้องการประกาศ 3. : เปน็ ปุ่มสาหรบั เพม่ิ ไฟล์จาก Google Drive, แทรกลิงก์ (URL Link), แทรกไฟล์รปู ภาพ และ แทรกไฟล์ VDO จาก YouTube ลงไปในคาถามได้ด้วย 4. : เปน็ ปุ่มสาหรับสร้างเอกสารจาก Google App ท่ตี ้องการ เชน่ Google เอกสาร, Google สไลด์ , Google ชตี , Google วาดเขยี น และ Google ฟอร์ม 5. เลือกนักเรียนท่ีตอ้ งการ 6. กาหนดคะแนน 7. กาหนดเวลา 8. เลือกหัวขอ้ ที่เก่ียวข้องกับคาถาม 9. เปน็ สว่ นของการกาหนดใหน้ ักเรียนตอบกลบั เพ่ือน หรือแก้นักเรยี นแกไ้ ขคาตอบได้หลังจากตอบ แลว้ 10. ดาเนินการสรา้ งคาถามในช้ันเรียนสามารถดาเนนิ การได้ 2 วธิ ี ดงั นี้ วิธีที่ 1 สรา้ งคาถาม “แบบคาตอบส้ันๆ” รปู ที่ 16 ตัวอย่างการสร้างคาถาม “แบบคาตอบส้ันๆบน Google Classroom วธิ ที ่ี 2 สร้างคาถาม “แบบปรนัย”
รูปที่ 17 ตัวอยา่ งการสร้างคาถาม “แบบแบบปรนยั บน Google Classroom กำรสรำ้ งงำนแบบทดสอบ 1. ในรายวิชาในชน้ั เรยี นที่ตอ้ งการสร้างงานแบบทดสอบ 2. คลกิ เลอื ก “งานของชัน้ เรยี น” > คลกิ ปมุ่ “สรา้ ง” > คลกิ เลือก “งานแบบทดสอบ” ดังภาพ รูปท่ี 18 ตัวอย่างสร้างงานแบบทดสอบ บน Google Classroom 3. แสดงหน้าจอกาหนดรายละเอยี ดงานแบบทดสอบ ด้วย Google Form (อตั โนมตั ิ) ดงั ภาพ
รูปที่ 19 ตวั อยา่ งสรา้ งงานกาหนดรายละเอียดงานแบบทดสอบ ด้วย Google Form (อตั โนมัติ) 1. ชอ่ื : บอกชอ่ื งานแบบทดสอบ 2. อธิบาย (ถา้ มี): พมิ พ์ขอ้ ความทีต่ ้องการให้ผู้เรยี นทราบและดาเนนิ การ 3. : เปน็ ปมุ่ สาหรับเพ่มิ ไฟลจ์ าก Google Drive, แทรกลงิ ก์ (URL Link), แทรกไฟล์รูปภาพ และแทรกไฟล์ VDO จาก YouTube ลงไปในคาถามไดด้ ้วย 4. : เป็นปุ่มสาหรับสร้างเอกสารจาก Google App ที่ตอ้ งการ เช่น Google เอกสาร, Google สไลด์, Google ชตี , Google วาดเขยี น และ Google ฟอร์ม 5. คลกิ ท่ี “Blank Quiz” เพือ่ แสดงหนา้ ของ Google Form ทางานแบบทดสอบ ดังภาพ
รูปท่ี 20 ตัวอย่างสร้างแบบทดสอบ Google Form 2. ควำมหมำยของบทเรยี นออนไลน์ ถนอมพร เลาหจรสั แสง (2545: 4-5) ไดก้ ล่าวถึงความหมายของบทเรียนออนไลน์ออกเป็น 2 ลักษณะ ได้แก่ ความหมายโดยทั่ว ๆ ไป จะหมายถงึ การเรียนในลกั ษณะใดก็ไดซ้ ่ึงการถ่ายทอดเน้ือหา ผ่านทางอปุ กรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไมว่ ่าจะเปน็ คอมพวิ เตอร์ เครือข่ายอินเทอร์เน็ต อินทราเนต็ สัญญาณ โทรทัศน์หรือสัญญาณดาวเทียมอีกความหมาย หน่ึงคือ ความหมายเฉพาะ การเรียนเนื้อหาหรือ สารสนเทศสาหรับการสอนหรือการอบรม ซ่ึงใช้การนาเสนอด้วย ตัวอักษร ภาพนิ่ง ผสมผสานกับการ ใช้ภาพเคลื่อนไหว วีดิทัศน์และเสียง โดยอาศัยเทคโนโลยีของเครือข่ายในการ ถ่ายทอดเน้ือหา รวมทั้ง การจัดให้มีระบบบันทึกติดตามตรวจสอบ และประเมินผลการเรียน โดยผู้เรียนท่ีเรียนจาก บทเรียน ออนไลนน์ ี้ สว่ นใหญ่แล้วจะศึกษาเนอ้ื หาในลกั ษณะออนไลนซ์ ่ึงหมายถงึ จากเคร่ืองที่มีการเชื่อมต่อกับ ระบบ ลักษณะสาคัญของบทเรียนออนไลน์ ถนอมพร เลาหจรัสแสง (2545, หน้า, 21-22) ได้กล่าวว่า บทเรียนออนไลน์ที่ดี ประกอบไปด้วยลักษณะสาคัญ ดังนี้ (1) ทุกที่ ทุกเวลา(everywhere everytime)หมายถึง บทเรียนออนไลน์ ที่ สามารถชว่ ยขยายโอกาสในการเขา้ ถงึ ขอ้ มูล และเน้ือหาการ เรียนรู้ของผู้เรียนได้จริง ในท่ีนี้หมายรวมถึงการที่ผู้เรียน สามารถเรียกดูเน้ือหาไดต้ ามความสะดวกของ ผเู้ รียน (2) มัลตมิ ีเดีย (multimedia) หมายถึง บทเรียนออนไลน์ต้องมี ผสมผสานส่ือต่างๆท่ีใช้สาหรับ การนาเสนอเนื้อหาโดยใช้ประโยชน์จากสื่อประสม เพ่ือช่วยในการประมวลผล สารสนเทศของผู้เรียน ให้เกิดความคงทนในการเรียนรู้ได้ดีข้ึน (3) ไม่ใช่เส้นตรง (non-linear) หมายถึง บทเรียน ออนไลน์ สาหรับการเรียนรู้แบบที่ควรต้องมีการนาเสนอเน้ือหาในลักษณะท่ีไม่เป็นเชิงเส้นตรงกล่าวคือ ผู้เรียน สามารถเข้าถึงเนือ้ หาตามความต้องการในแต่ละบทเรียนออนไลน์จะต้องจัดหาการเช่ือมโยงที่ยืดหยุ่น แก่ผู้เรียน (4) ปฏสิ ัมพนั ธ์ (interaction) หมายถึง บทเรียนออนไลน์ต้องมีการเปดิ โอกาสใหผ้ ู้เรียนได้ มปี ฏิสมั พนั ธ์กับเน้ือหา หรือผู้ที่ มคี วามต้องการเขา้ ถึงขอ้ มูลอ่ืนไดก้ ล่าวคอื บทเรียนออนไลน์ควรต้องมี การออกแบบกิจกรรมซึ่งผู้เรียนสามารถโต้ตอบ กบั เน้อื หา รวมทงั้ มกี ารจดั เตรียมแบบฝึกหัด และ แบบทดสอบให้ผู้เรียนสามารถตรวจสอบความเข้าใจด้วยตนเองได้
บทเรียนออนไลน์ควรต้องมีการ จัดทาเคร่ืองมือในการให้ช่องทางแก่ผู้เรียนในการติดต่อสื่อสารเพ่ือการปรึกษา สนทนา อภิปราย ซักถามแสดงความคิดเห็นกับผู้สอน วิทยากร ผู้เช่ียวชาญ หรือเพื่อน ๆได้เป็นอย่างดี (5) การ ตอบสนองแบบทันทีทันใด (immediate response) หมายถึง บทเรียนออนไลน์ควรต้องมีการ ออกแบบให้มีการ ทดสอบ การวัดผลและการประเมินผล ซึ่งให้ผลตอบกลับโดยทันทีแก่ผู้เรียนไม่ว่าจะ อยู่ในลักษณะของแบบทดสอบ ก่อนเรยี น (pre-test) หรอื แบบทดสอบหลังเรยี น(post-test) เปน็ ต้น องคป์ ระกอบของบทเรียนออนไลน์ สุนันท์ สังข์ อ่อง (2549, หน้า, 7-8) กล่าวถึงบทเรียนออนไลน์ว่ามี องค์ประกอบหลาย ๆ ด้านได้แก่ (1)วิธีสอน (pedagogy) หมายถึง วธิ ีการนาเสนอการให้ผู้เรยี นมีส่วน ร่วมการเรียนการใช้แรงเสริม แรงจูงใจ การจัดระบบการมอบหมายงาน การใหข้ ้อมลู ป้อนกลับ การ วัดผล และการบูรณาการกบั หลักสตู ร (2) การประเมนิ ผล (assessment) ถ้าเป็นการสอน ปกติครจู ะ เกบ็ ขอ้ มูลจากการวดั ผลด้วยคะแนนหรอื จากวธิ ีการสงั เกต เพอื่ ตดั สนิ ว่าผเู้ รียนมีพัฒนาการอยา่ งไร ใน การ เรียนแบบบทเรยี นออนไลน์ จะใชว้ ธิ ปี ระเมนิ แบบไม่เปน็ ทางการไมไ่ ด้เนอื่ งจากยากทีจ่ ะวดั ได้การ ประเมินผลจะต้องมี การวางแผนอย่างรัดกมุ ชดั เจนเพื่อมุง่ วัดสมรรถภาพที่เกิดข้ึน มีการให้ข้อมูล ป้อนกลับ และมีการตัดสินคะแนน การ ประเมินผลในบทเรียนออนไลนม์ ีความจาเปน็ มากกว่าการสอน ปกติ เน่ืองจากผู้เรียนและผู้สอนไม่ได้พบกันแบบหน้า ตอ่ หนา้ การประเมินแบบไม่เป็นทางการ เช่น การสังเกต การซักถาม จึงทาไม่ได้ในบทเรียนออนไลน์ดังนั้นจึงต้องมี การประเมนิ บอ่ ย ๆ และประเมนิ ทุกขณะของการเรียนรู้ (3) เน้ือหา (content) ตามทฤษฎีเนื้อหาควรสัมพันธ์กับวิธี สอนหรือวิธีเรียนจึง ยังคงมีคาถามท่ีต้องวิจัยว่าเนื้อหาที่ใช้สอนในบทเรียนออนไลน์ให้ประสบความสาเร็จควรมี ลกั ษณะ เชน่ ไร (4) การนาเสนอเน้ือหา (instruction delivery)วิธีการท่ีใช้ในการนาเสนอการเรียนแบบ ออนไลน์ มี ความสาคัญย่ิงในการเรยี นแบบบทเรียนออนไลน์(5) การบริหารการเรียนการสอน (instructional management) มี สิ่งสาคัญ 2 อย่างคือ แหล่งความรู้(resource) และระบบ (systems) หมายถึง การจัดแหล่งความรู้ การให้ข้อมูล ป้อนกลบั การจัดเก็บข้อมูลการประเมิน และ การสนับสนุนเกี่ยวกับสมรรถภาพผู้เรียน แหล่งความรู้ ข้อมูลระหว่าง เรียนการออกแบบการเรียนงาน มอบหมาย และบันทึกระเบียบพัฒนาการ (6 )มาตรฐานและเป้าหมาย(standard and policies) หมายถึง ความสามารถเข้าถึงได้(accessibility) ความยืดหยุ่น (flexibity) การเรียนตามอัธยาศัย (asynchronous) บทเรียนออนไลน์และการจัดองค์ประกอบของบทเรียนออนไลน์ต้องเป็นไปตาม มาตรฐานและ เป้าหมายปัจจุบัน (7) รูปแบบบทเรียนออนไลน์ที่ใช้กันอยู่นั้นยังไม่มีข้อมูลเชิงวิจัย สนับสนุนว่าแบบใดจะมี ประสิทธิภาพดีท่ีสุด ดังนั้นจึงควรมีการศึกษาวิจัยเพ่ือใช้เป็นข้อมูลพ้ืนฐานใน การทาให้บทเรียนออนไลน์เกิด ประสิทธิภาพมากที่สุดรูปแบบการเรียนการสอนแบบออนไลน์ รูปแบบ การเรียนการสอนที่นาระบบเทคโนโลยี สารสนเทศมาประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอน โดยแบ่งการ เรียนการสอนเป็นแบบซิงโครนัส(synchronous learning) และอะซิงโครนัส(asynchronous learning) ที่การเรียนการสอนในยุคสมัยใหม่ไม่ต้องอาศัยตาราเพียง อย่างเดียว ผู้เรียนทุกคนในช้ัน เรียนไม่ใช้ตาราจากที่กาหนดโดยอาจารย์ผู้สอนเท่าน้ัน แต่สามารถแสวงหาแหล่ง ความรู้อื่นได้อีก มากมาย เช่น ห้องสมุดแบบดิจิทัล ท่ีเรียกว่าขุมความรู้โลก บทบาทการสอนของอาจารย์จะเปลี่ยน
จากการใชช้ อลก์ และกระดานดามาเปน็ การช้นี า เพราะยนื เคยี งข้างผู้เรียน เพื่อใหผ้ ้เู รยี นได้แสวงหา ความรู้และเรียนรู้ ตามการชีแ้ นะเปน็ ตัวของตวั เองในการแสวงหาความรู้ มีความคิดรเิ รมิ่ ในการเรยี นรู้ สิง่ ใหม่ ต้องเปล่ยี นสภาพการเรียน แบบนัง่ เรยี นมาเปน็ แบบการเรียนรู้ท่ีมีการใช้ปฏิสัมพันธ์โต้ตอบ มี การใช้เทคโนโลยีประกอบการเรียนรู้ยังต้องสร้าง บทบาททใ่ี หเ้ รียนรดู้ ว้ ยตนเองแบบอะซงิ โครนสั ได้ และทส่ี าคัญการวัดการเรยี นรคู้ งไม่อย่ทู ี่ผลของคะแนนสอบแต่เพียง อย่างเดยี ว ตอ้ งเปลยี่ นสภาพการ เรยี นการสอนแบบเดิมมาสู่กระบวนการสร้างและสังเคราะห์ความรู้ได้ รูปแบบของ การเรยี นการสอน แบบออนไลนส์ ามารถแบ่งออกเป็น 3รปู แบบคือ (1) การเรียนดว้ ยตนเอง (self-directed) (2) แบบ ผสมผสาน (asynchronous) ที่มีการผสมผสานทง้ั การเรียนดว้ ยตนเองกับการเรียนในชั้นเรียนมาไว้ บนเครือข่ายหรือ บนอินเทอรเ์ น็ตเหมาะสาหรับการอภปิ ราย ถกปัญหาเป็นทีม ซ่ึงลดข้อจากัดเรื่อง เวลา สถานท่ี สามารถเรียนรู้ได้ทุก เวลา ซงึ่ เปน็ การเรียนการสอนผา่ นทางเวบ็ มีการสร้างโฮมเพจ รายวชิ า ท่ีให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ตามอัธยาศัย (3) การเรยี นแบบหอ้ งเรยี นเสมือนจริง (synchronous) มีข้อจากัดท่ีต้องกาหนดการเรียน การสอนตามตารางสอนมีการ ใช้หอ้ งเรียนและตอ้ งนดั เวลาเรียน และมกี ารจาลองสถานการณ์จริงของ ห้องเรียนมาไว้บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตโดย ใช้ศกั ยภาพของเครอื ขา่ ยและเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือนา บทเรียนท่ีสอนบรรจุไว้บนเครื่องแม่ข่าย สามารถผลิตสื่อ การสอนด้วยระบบมัลติมีเดีย ภาพและเสียง ครบครัน รองรับการส่ือสารในช้ันเรียนได้อย่างเต็มท่ี นอกจากนั้นยัง สามารถจดั การเกย่ี วกบั การสง่ ต่อ องคค์ วามรู้ และการจดั การความรู้ได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพซง่ึ จะสามารถนาให้บริการ ในการเรียน การ สอนแบบด้วยตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพข้อดีของบทเรียนออนไลน์ ข้อดีจากการเรียนการสอน แบบ บทเรียนออนไลน์ มีดังต่อไปน้ี(ถนอมพร เลาหจรัสแสง, 2545, หน้า, 18-20) (1) ช่วยให้การจัดการ เรียนการ สอนมปี ระสทิ ธิภาพมากย่งิ ข้ึน เพ่อื การถา่ ยทอดเนอื้ หาผ่านทางมัลตมิ เี ดยี สามารถทาให้ ผเู้ รียนเกิดการเรียนรู้ได้ดีกว่า การเรียนจากสอ่ื ขอ้ ความเพยี งอยา่ งเดยี ว หรือจากการสอน โดยช่วยให้ ผู้เรียนเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพในเวลาท่ี เร็วกว่า (2)ช่วยทาให้ผู้สอนสามารถตรวจสอบ ความก้าวหน้าพฤติกรรมการเรียนของผู้เรียนได้อย่างละเอียดและ ตลอดเวลา โดยมีการจัดหาระบบ การจัดการรายวิชา (3) ช่วยให้ผู้เรียนสามารถควบคุมการเรียนของตนเองได้ เนือ่ งจากการนาเอา เทคโนโลยีผสมผสานระหว่างส่ือหลาย ๆ ชนิด (hypermedia) มาประยุกต์ใช้ ซึ่งมีลักษณะการ เช่ือมโยงข้อมูลท่ีเก่ยี วเนอื่ งกันเขา้ ไว้ด้วยกันในลักษณะที่ไม่เป็นเชิงเส้นตรง (non-linear)ดังนั้นผู้เรียน สามารถเข้าถึง ข้อมูลใดก่อนหลังก็ได้โดยไม่ต้องเรียงตามลาดับและเพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงของ ผู้เรียน (4) ช่วยให้ผู้เรียน สามารถเรียนรู้ได้ตามจังหวะของตน (self-paced learning) ผู้เรียนสามารถ ควบคุมการเรียนรู้ของตนในด้านของ ลาดับการเรียนได้ (sequence) ตามพ้ืนฐานความรู้ความถนัด และความสนใจของตน(5) ช่วยทาให้เกิดปฏิสัมพันธ์ ระหว่างผเู้ รยี นกับครูผูส้ อน และกบั เพ่อื น ๆได้ เนือ่ งจากมีเครื่องมือที่เอ้ือต่อการโต้ตอบที่หลากหลาย เช่น การพูดคุย กระดานสนทนา จดหมาย อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น (6) ช่วยส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ รวมท้ังเนื้อหาที่มี ความทันสมัย และตอบสนองต่อเรื่องราวต่าง ๆ ในปัจจุบันได้อย่างทันที (7) ทาให้เกิดรูปแบบการเรียนที่สามารถ
จัดการเรียนการสอนให้แก่ผู้เรียนในวงกว้างขึ้นเนื่องจากไม่มีข้อจากัดด้านเวลาและสถานที่ จึงสามารถ นาไปใช้เพื่อ การเรียนรตู้ ลอดชวี ิต 3. แนวคดิ ทฤษฎีที่เกี่ยวขอ้ งกบั กำรจดั กำรเรียนกำรสอนในศตวรรษท่ี 21 eLearning การพัฒนาของโลกในยุคปัจจุบันมุ่งสู่ทิศทางของสังคมแห่งการเรียนรู้ วิธีการเรียนรู้ของ มนุษย์จึงต้องมีการ ปรับเปลี่ยนให้ทนั ยคุ ทนั สมัยและเข้ากันไดก้ ับส่ิงแวดล้อมและทรัพยากรในปัจจุบัน ซ่ึงในขณะน้ีเป็นช่วงยุคดิจิตอลใน ศตวรรษที่ 21 หรือท่ีเรียกอีกอย่างหนึ่งว่ายุคสังคมสารสนเทศ ดังนั้น สื่ออิเล็กทรอนิกส์จึงถือว่ามีบทบาทสาคัญเป็น อย่างมากในการถ่ายทอดความรู้ด้วยกระบวนต่าง ๆ ที่ หลากหลาย ไปสู่กลุ่มเป้าหมายที่มีความต้องการต่างกัน นบั ตัง้ แต่มกี ารพฒั นาอินเทอรเ์ นต็ การ ติดต่อสื่อสารระหว่างมนุษย์ก็เป็นไปด้วยความสะดวกรวดเร็วมากข้ึน รวมทั้ง การเรียนการสอนและ การศึกษาหาความรู้ก็สามารถทาได้อย่างไร้พรมแดนทาให้เกิดคาว่า E-Learningหรือ Electronic Learning เปน็ ท่ีรจู้ ักกันไปทว่ั โลก (ศนู ยเ์ ทคโนโลยีทางการศึกษา ; 8 มกราคม 2550)1. ความหมาย ของ E-learning E-learning คอื อะไร ได้มนี กั วิชาการหลายท่านได้ให้คานิยามคาวา่ ไวม้ ากมาย เกย่ี วกับความหมายของ E- learning โดยขอสรุปว่า “E-Learning คอื กระบวนการ การเรียน การสอนผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร (ICT) และส่อื อเิ ล็กทรอนิกส์ อื่นๆทีเ่ หมาะสม ซ่ึงช่วยลดข้อจากัดด้านเวลาและสถานทร่ี ะหวา่ งผู้เรียนและผู้สอนช่วยให้ ผู้เรียน สามารถเรียนได้ตามความต้องการและความจาเป็นของตนได้อย่างต่อเน่ืองตลอดเวลา”2. ประเภท ของ การศึกษาพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มาตรา 15 การจัดการศึกษามี 3 รูปแบบ คือการศึกษาใน ระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย (1) การศึกษาในระบบ เป็นการศึกษาที่กาหนดจุดมุ่งหมาย วิธกี ารศึกษา หลักสูตร ระยะเวลา ของการศกึ ษา การวัดและการประเมนิ ผล ซ่ึงเปน็ เงอ่ื นไขของการสาเร็จการศึกษาที่ แน่นอนศกึ ษา โดย มีการศึกษาระดับปฐมวยั ประถมศกึ ษา มัธยมศึกษาและระดับการศึกษาอุดมศึกษา (2) การศึกษา นอกระบบ เป็นการศึกษาที่มีความยืดหยุ่นในการกาหนดจุดมุ่งหมาย รูปแบบ วิธีการจัดการศึกษา ระยะเวลาของ การศึกษา การวัดและประเมินผล โดยเน้ือหาและหลักสูตรจะต้อง มีความเหมาะสมสอดคล้องกับสภาพปัญหาและ ความต้องการของบุคคลแต่ละกลุ่ม (3) การศึกษาตามอัธยาศัย เป็นการศึกษาท่ีให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเองตาม ความสนใจ ศักยภาพ ความพร้อมและโอกาส โดยศึกษาจากบุคคล ประสบการณ์ สภาพแวดล้อม สังคม ส่ือหรือ แหล่งความรู้อื่นๆ ในท่ีนี้จะขอกล่าวถึงการใช้ e-learning ที่เข้ามามีบทบาทกับการศึกษาไทย ซึ่งจะ กล่าวถึง การศึกษาในระบบ เพราะจะเห็นพัฒนาการเปลี่ยนแปลงที่เด่นชัดท่ีสุด E-learning กับการศึกษาในประเทศไทย ประเทศไทยมีการนาสื่ออิเล็กทรอนิกส์มาใช้ สนับสนุนการศึกษาอย่างเป็นทางการต้ังแต่พ.ศ. 2498 เมื่อ กระทรวงศึกษาธิการได้ก่อตั้งสถานี วิทยุกระจายเสียงเพ่ือการศึกษาขึ้นมาเป็นครั้งแรกหลังจากน้ันไม่นานเมื่อมีการ จัดต้ังสถานีวิทยุ โทรทัศน์ข้ึน กระทรวง ศึกษาธิการก็มีโอกาสผลิตรายการเพ่ือการศึกษาออกอากาศไปสู่ประชาชน ทั่วไปอีกช่องทางหนึ่ง วิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์จึงเป็นสื่ออิเล็กทรอนิกส์ท่ีมีบทบาทในการ สนับสนุน
การศกึ ษามาเปน็ เวลานาน จนกระท่ังมีการก่อตั้งสถานีวิทยุโทรทัศน์เพื่อการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการขึ้นใน พ.ศ. 2537 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการศึกษาในประเทศไทย เริ่มต้นในระดับอุดมศึกษาการใช้คอมพิวเตอร์เพ่ือ การศึกษาในระยะแรกเป็นการใช้ในรูปแบบของ คอมพิวเตอร์ช่วยสอน(Computer-Assisted Instruction: CAI) ต่อมาเม่ือมีเทคโนโลยีเครือข่ายและ อินเทอร์เน็ตเกิดข้ึน จึงพัฒนาไปสู่การเรียนการสอนออนไลน์หรือWeb-Based Instruction (WBI)eLearning ในประเทศไทยเร่มิ ดาเนนิ การในปี พ.ศ. 2538 โดยรัฐบาลได้เปิดเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เพ่ือ โรงเรยี นไทย เพ่อื ตอ้ งการจะเชือ่ มโยงโรงเรียนตา่ ง ๆ ในประเทศเข้าด้วยกนั โดยผ่านเทคโนโลยี อินเทอร์เน็ต เพ่ือ ส่งเสริมการเรียนรู้ ตลอดจนการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารทางการศึกษาร่วมกันบน เครือข่าย ต่อมาคณะรัฐมนตรีได้ ให้ความเห็นชอบเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2542 ให้ขยายเครือขา่ ยให้ ครอบคลมุ โรงเรียนในระดับประถมศึกษามัธยมศึกษา และอาชีวศึกษาทั่วประเทศโดยความรับผิดชอบ ของเนคเทค ปัจจุบันเนคเทคได้ดาเนินกิจกรรมบนเครือข่ายหลาย อย่าง ประกอบดว้ ยการจดั ทา เวบ็ ไซตข์ องโครงการเพื่อเป็นสื่อกลางในการแลกเปล่ยี นความรู้และเรียนรู้ (เยาวลักษณ์ พิพฒั น์จาเริญ กลุ ;11 กุมภาพันธ์ 2555)กระทรวงศึกษาได้มีการรับรองการศึกษาทางไกลผ่านอินเทอร์เน็ตอย่างเป็น ทางการตง้ั แต่ต้นปี 2549 จงึ ทาใหก้ ารเตบิ โตของหลักสูตร E-learning มีอัตราการเติบโตเป็นเท่าตัว เพราะการศึกษา ทางไกลไม่เพยี งจะอานวยความสะดวกและเออื้ ประโยชนต์ อ่ ผเู้ รยี นแล้วยังอานวย ประโยชน์ใหก้ ับสถาบันการศึกษาใน แงข่ องการบริหารจัดการอกี ดว้ ย คอื ทาให้ตน้ ทุนในการจดั การ หลักสูตรต่าลงด้วยรูปแบบการเรียนการสอนในระบบ ทางไกลท่ีนักศึกษาไม่ต้องเดินทางมาเข้าช้ันเรียน และสามารถรองรับนักศึกษาได้อย่างไม่จากัด เป็นช่องทางในการ สร้างและขยายโอกาสทางการศึกษา ให้เข้าถึงผู้ท่ีมีความต้องการในวงกว้างข้ึน โดยเฉพาะนักศึกษาท่ีอาศัยใน ตา่ งจงั หวดั ดังน้ัน e-Learning จึงเป็นช่องทาง โอกาสและทางเลอื กไม่เพยี งแต่นักศึกษาเท่านั้นมหาวิทยาลัยทั้งภาครัฐ และ ภาคเอกชนยังได้ใหค้ วามสาคัญด้วยเชน่ กนั โดยในชว่ ง 2 ปีท่ีผ่านมามหาวิทยาลัยท้ังภาครัฐและ ภาคเอกชนได้มี การเปิดหลักสูตร e-Learning กันมากมาย เช่น หลักสูตรวิทยาศาสตร์บัณฑิต สาขา การพัฒนาซอฟต์แวร์คณะ วิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิตสาขาการ ท่องเท่ียว มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวทิ ยาลัย หลกั สูตรศิลปศาสตรม์ หาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการ ความรู้ คณะศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยศิลปากร เกดิ ข้ึนอีกอย่างตอ่ เน่ือง จะเหน็ ได้วา่ จากการขยายตัว ของหลักสตู รต่างๆ ที่เกดิ ขน้ึ น้ันได้สะท้อนให้เห็นแนวโน้มของe- Learning ที่เข้ามามีบทบาทสาคัญใน งานการศึกษา (อรวรรณ รักรู้ ; 6 กรกฎาคม 2550)ต่อมาเม่ือเทคโนโลยีการ สือ่ สารแบบไร้สาย (wireless) ไดเ้ ร่มิ เขา้ มามีบทบาทและเตบิ โตอย่างมากในช่วงเวลา 2-3 ปีท่ีผ่านมา อุปกรณ์แบบไร้ สาย ต่างๆ ได้เข้ามาแทนที่อุปกรณ์แบบมีสาย (wired)ที่เราเห็นได้ชัดเจนคือ โทรศัพท์มือถือ เมื่อมีการ พัฒนาอย่าง รวดเร็วของเทคโนโลยีแบบไร้สายเทคโนโลยีสาหรับอุปกรณ์ไร้สายต่างๆ ก็ถูกพัฒนาตาม ขึ้นไปด้วย ซ่ึงได้แก่ Bluetooth, WAP(Wireless Application Protocol) และ GRPS (General Packet Radio System) เมื่อ เทคโนโลยีได้ก้าวหน้าไป วิธีการศึกษาหาความรู้ก็ถูกพัฒนาตามไปด้วย จึงเกิดขึ้น m-Learning ย่อมาจาก mobile learning ซ่งึ เป็นการพฒั นาอกี ขัน้ ของ e-Learning เป็น การผสมผสานท่ีลงตัวของการพัฒนาการศึกษาเรียนรู้ โดยใช้
เทคโนโลยที ี่ทนั สมัยเขา้ มาช่วย เทคโนโลยที ี่กลา่ วถึงนกี้ ็คอื เทคโนโลยีการส่ือสารแบบไร้สาย เราเรียกการเรียนแบบน้ี วา่ Wireless Learning , Mobile Learning หรือ m-Learning ดงั นนั้ m-learning คือ การศึกษาทางไกลผ่าน ทาง อปุ กรณเ์ คลื่อนท่ีแบบไร้สายต่างๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ , PDA ,laptop computer,ipad, tablet เป็นต้น (ชนะ ศึก โพธิ์นอก ; 8 กันยายน 2554)ซึ่งในขณะนี้ในหลายๆ สถาบันก็ได้มีการมีการสอน แบบ e-learning ผ่านส่ือ m- learning เช่น ipad, tablet เหตุผลเน่ืองจากสะดวกแก่การเรียนการ สอน เพราะ ในมหาวิทยาลัยก็มีระบบ wifi อย่างท่ัวถึง ทาให้การเรียนผ่าน ipad, tablet ทาให้การ เรียนแบบ e-learning เป็นจริงและได้ผลมากขึ้น เช่นไม่ เพียงแต่อาจารย์สามารถทาตาราเรียนเป็น Power point ให้นักศึกษาดาวน์โหลดมาเรียนได้ แต่ยังเพ่ิมความ สนุกสนานในการเรียนมากข้ึนอีก ด้วย VDO Clip และ interactive ทาให้การเรียนมีชีวิตชีวามากข้ึน การใช้ชีวิตใน การเรียนไม่น่าเบ่ือ สรุปดังจะเห็นได้ว่า การเรียนการสอนแบบ e-learning นั้นได้เข้ามาเป็นส่วนหน่ึงของการศึกษา ไทย เป็นเวลาช้านาน และ e-learning กไ็ ดม้ กี ารเปล่ยี นแปลงไปตามยุคสมัยของเทคโนโลยีท่ีเปลี่ยนไป ท้ังน้ีก็เพ่ือจะ ตอบสนองความตอ้ งการในการเรียนรู้ของผ้เู รียนและเพ่ือตอบสนองนโยบายการเรียนรู้ เนอื่ งจากบุคลากรถือได้ว่าเป็น กาลังสาคัญในการขบั เคลอื่ นองค์กรใหก้ า้ วไปในทิศทางทถ่ี ูกต้อง เพ่ือ พัฒนาประเทศให้เกิดการแข่งขันได้กับประเทศ อ่ืน ๆ จึงต้องการบุคลากรท่ีมีคุณภาพ โดยได้รับ การศึกษาท่ีเป็นระบบ มีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับ ความสามารถของแต่ละคน ประกอบกับ วิวัฒนาการของเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เปล่ียนไปในทางที่ดีข้ึน เร็วขึ้น ดังน้ัน ระบบการเรยี นการสอน ทางไกลโดยใช้เครอื ข่ายอินเตอร์เน็ตในลักษณะของ e-Learning จึงเกิดขึ้น เพื่อใช้สนับสนุน การศกึ ษา และการฝกึ อบรมให้บคุ ลากรได้รับการศกึ ษาอยา่ งตอ่ เนือ่ งตลอดชีวติ อนั เปน็ แนวทางทีส่ าคญั ในการ พัฒนา ประเทศ
บทท่ี 3 กำรดำเนนิ กำรวจิ ัย การวิจยั คร้ังนี้เป็นการวิจัยในช้ันเรียนการพฒั นาการจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์โดยใช้ระบบห้องเรียน ออนไลน์ google Classsroom ระดับชั้นปวช.คท.2 และ คท.รร.2 เร่ือง ความรู้เกี่ยวกับหลักการประกอบอาหาร ครอบครัว มรี ายละเอียดการดาเนนิ การวจิ ยั ดังนี้ 1. กลุ่มเป้าหมาย กลมุ่ เป้าหมายท่ใี ชใ้ นการวจิ ัยครง้ั น้ี คอื นกั เรียนช้นั ปวช.คท.2 และ คท.รร.2 จานวน 29 คน 2. เคร่อื งมือทีใ่ ชใ้ นการวจิ ยั เครอ่ื งมือทใี่ ช้ในการวจิ ยั ได้แก่ บทเรยี นออนไลน์ โดยใช้ระบบห้องเรียนออนไลน์ Google Classsroom และ แบบทดสอบก่อนเรยี นและหลังเรียน 1. บทเรียนออนไลน์ บทเรยี นออนไลนป์ ระกอบไปด้วย เน้ือหา ข้อสอบ และใบงาน เรอื่ งองคป์ ระกอบของระบบ คอมพิวเตอร์ 2. ข้ันตอนกำรดำเนนิ กำรวจิ ยั การวิจัยครัง้ นี้เป็นการพฒั นาการจดั การเรียนการสอนแบบออนไลน์ โดยใชร้ ะบบ หอ้ งเรยี นออนไลน์ Google Classsroom มีขั้นตอนการดาเนินการวิจยั ดงั น้ี ข้ันที่ 1 ผู้สอนสร้างห้องเรียนออนไลน์โดยใช้ ระบบห้องเรียนออนไลน์ Google Classsroom และ ให้ นกั เรียนผู้เรยี นลงทะเบียนเข้ามาเรยี นได้ ขั้นท่ี 2 ผสู้ อนพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบออนไลน์ เรื่องหลักการทางานของโปรแกรมตารางงาน เชน่ การทาแนบไฟล์ ใบความรู้ ทาข้อสอบ ทาใบงาน เป็นต้น แสดงไว้ใน ห้องเรียนออนไลน์ ซ่ึงนักเรียนสามารถมา ศกึ ษาข้อมูลได้ดว้ ยตนเองได้ ขัน้ ท่ี 3 เมอื่ ผเู้ รียนไดเ้ ข้ามาศกึ ษาเนอ้ื หาและ แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ ออนไลน์แล้ว ผู้สอนจะให้ นักเรียนทาแบบทดสอบ และใบงานออนไลน์ เพ่ือเก็บคะแนน นักเรยี นในแตล่ ะหน่วยยอ่ ย พรอ้ มท้ังบอกคะแนนทนั ที ขน้ั ที่ 4 หากนกั เรยี นทาแบบทดสอบไมผ่ ่าน นกั เรยี นสามารถทบทวนบทเรียนได้การ 3. วเิ ครำะหข์ อ้ มูล การวิเคราะหข์ อ้ มูล มีการดาเนนิ การ ดงั นี้ 1. วเิ คราะห์ขอ้ มลู โดยการหาประสิทธภิ าพของบทเรียนออนไลน์ 75/75 โดยใช้สถิติ ค่าเฉล่ีย และค่าร้อยละ ซึ่งดาเนินการดงั นี้ คานวณหาประสิทธิภาพของบทเรียนออนไลน์โดยใช้สตู ร E1 / E2
2. ข้อมูลจากแบบทดสอบก่อนและหลังเรียนออนไลน์โดยการใช้สถิติค่าเฉลี่ย และค่าร้อยละ ซึ่งดาเนินการ ดังนี้ 2.1 หาค่าเฉลย่ี แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนการสอนแบบออนไลน์ 2.2 หาคะแนนความก้าวหนา้ หรอื คะแนนท่ีเพ่ิมขนึ้ 2.3 หาคา่ รอ้ ยละของความกา้ วหนา้ ของผลสัมฤทธิท์ างการเรยี นโดยใชส้ ูตรรอ้ ยละ ของความกา้ วหน้า
บทที่ 4 ผลกำรวเิ ครำะห์ขอ้ มูล สาหรับการวิเคราะห์ข้อมูลในงานวิจัยน้ีจะแบ่งออกเป็น 3 ด้าน คือ ด้านการหาประสิทธิภาพของ บทเรียน ออนไลน์ด้านการวิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนที่เรียนแบบออนไลน์โดยใช้ระบบ ห้องเรียนออนไลน์ Google Classsroom และดา้ นการวิเคราะห์ความพงึ พอใจของผ้เู รียนที่มตี ่อการ เรียนแบบออนไลนด์ งั แสดงในตาราง ท่ี 1 ดังน้ี 1. สญั ลักษณ์ทีใ่ ช้ในการเสนอผลการวิเคราะหข์ อ้ มูล 2. ลาดบั ขนั้ ตอนในการเสนอผลการวเิ คราะห์ขอ้ มลู 3. ผลการวิเคราะห์ข้อมูล สัญลักษณ์ที่ใช้ในการเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล ผู้ศึกษาค้นคว้าได้กาหนด ความหมายของสญั ลกั ษณท์ ใ่ี ช้ในการวเิ คราะห์ข้อมลู ดงั นี้ เมอ่ื E1 แทน ประสทิ ธภิ าพของกระบวนการ X แทน คะแนนรวมของขอ้ สอบ A แทน คะแนนเตม็ ของขอ้ สอบ N แทน จานวนผเู้ รยี น E2 แทน ประสทิ ธิภาพของผลลัพธ์ F แทน คะแนนรวมหลังการการเรียนออนไลน์ B แทน คะแนนเตม็ ของการสอบหลังการเรียนออนไลน์ X1 แทน คะแนนเฉลีย่ ก่อนการเรยี นออนไลน์ X2 แทน คะแนนเฉล่ยี หลังการการเรียนออนไลน์ 1. ลำดบั ข้ันตอนในกำรเสนอผลกำรวิเครำะห์ขอ้ มลู ผศู้ ึกษาค้นคว้า ได้วเิ คราะหข์ อ้ มลู ตามลาดบั ข้นั ตอนดงั นี้ ตอนที่ 1 วิเคราะหห์ าประสิทธภิ าพของบทเรยี นออนไลน์ชั้นปวช.คท.2 และ คท.รร.2 ที่มี ประสิทธิภาพตาม เกณฑ์ 75/75 ตอนที่ 2 เปรยี บเทยี บผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนกั เรยี นระหว่างกอ่ นและหลงั เรียนบทเรยี น ออนไลน์ ตอนที่ 3 ความพึงพอใจนักเรียนท่ีมตี ่อบทเรียนออนไลน์
2. ผลกำรวเิ ครำะหข์ ้อมลู ตารางท่ี 1 วิเคราะหห์ าประสิทธภิ าพของบทเรียนออนไลนช์ ้ันปวช.คท.2 และ คท.รร.2 ท่ีมีประสิทธิภาพ ตาม เกณฑ์ 75/75 ตาราง 4 - 1 แสดงคา่ คะแนนเฉล่ีย จากการเรยี นออนไลน์ ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 2 (N= 41) ลำดับท่ี ชอื่ -สกุล ก่อนเรียน หลังเรยี น 1 นางสาวกัญญานัฐ แชเ่ ฮง้ 78 2 นายคีตกวี ศิลาพิพฒั น์ 89 3 นางสาวเครือฟ้า ป้องถาวร 7 9 4 นายญาณพัฒน์ ใยเย่ียม 69 5 นายศกั ด์ิดา ยังโหมด 6 10 6 นางสาวศริ พชั ร จ่นุ เจริญ 57 7 นางสาวกนกพร ดวงโสภา 5 8 8 นางสาวจติ ติมา ศริ วิ รรณ 57 9 นางสาวชนสิ า ช่ือตรง 68 10 นางสาวชไมพร ชอบดี 79 11 นางสาวชลธชิ า ศรีษะเสือ 6 9 12 นางสาวชลติ ตา แจ้งใจ 58 13 นางสาวชลติ า เดชพทิ กั ษ์ 6 8 14 นางสาวฐายกิ า ภมุ มาลี 37 15 นางสาวณัชปภา เกรยี งมงคล 3 8 16 นางสาวตรีศิริ เกตุกลู ทรัพย์ 3 7 17 นางสาวนัทฌา ดาวใส 7 10 18 นายพงศธร ถว่ั ทอง 79 19 นางสาวแพรวา นิม่ อนงค์ 68 20 นางสาวภัทรา วหิ กเหิร 59 21 นางสาวมณฑกานต์ สรสวัสด์ิ 5 7 22 นางสาวมนทกานติ ส้ินสว่างพลู วัตถุ 5 8 23 นางสาวรุง่ นภา ปนิ่ คลา้ ย 6 8 24 นางสาววันวสิ า โพธ์ิสุวรรณ์ 5 8 25 นางสาวศริ ินทรา เนียมผาสกุ 6 9
26 นางสาวสจุ ิตรา กรเกษม 16 27 นางสาวสุภาณี เปยี สงั ข์ 69 28 นางสาวอรดี เทพมงคล 48 29 นางสาวอิชยา จนั ดา 7 10 158 240 รวม 5.45 8.27 x จากขอ้ มูลในตารางคานวณหาค่า E1และ E2 ได้ดงั นี้ E1 = (158 / 29) X 100 = 54.48 10 E2 = (240 / 29) X 100 = 82.76 10 จากตาราง 4 - 1 พบว่า เม่ือนักเรียนทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน 10 คะแนน ได้คะแนนระหว่าง ระหว่างเรียน ได้ค่าเฉล่ีย 5.45 คิดเป็นร้อยละ 54.48 และผลการทดสอบหลังเรียนออนไลน์ได้ ค่าเฉลี่ย 8.27 จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน คิดเปน็ ร้อยละ 82.76 ตอนท่ี 2 ผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจต่อการเรียนบทเรียนออนไลน์โดยใช้ระบบห้องเรียนออนไลน์ Google Classsroom ของนักเรียนชนั้ ปวช.คท.2 และ คท.รร.2 รำยกำร ระดบั ควำมพึงพอใจ รวม X แปรผล 54321 1. น่าสนใจดงึ ดูดใจกระตุ้น ใหเ้ กดิ ความ สนใจ 19 10 135 4.65 ดมี าก 2. ช่วยเสริมสรา้ งความเข้าใจในบทเรียน 20 5 4 139 4.79 ดมี าก 3. มกี ารอพั เดตขอ้ มูลท่ีทันสมยั 18 6 5 122 4.20 ดี 4. สามารถเข้าใชง้ านได้ตลอดเวลา 21 8 137 4.72 ดมี าก 5. ภาพ/ ภาพเคล่อื นไหว/ เสยี ง ทใี่ ช้ เหมาะสม 15 10 4 127 4.37 ดี กบั การเรียนรู้ไดด้ ี 6. ส่อื มปี ฏิสมั พันธก์ บั ผู้เรยี นอย่าง เหมาะสม 10 15 4 122 4.20 ดี 7. ให้ผลป้อนกลับ เสริมแรงและให้ ความ 13 14 2 127 4.37 ดี ช่วยเหลอื เหมาะสม
8. สนองตอบตอ่ ความแตกต่างระหวา่ ง บคุ คล 18 9 2 132 4.55 ดีมาก 9. บทเรียนมคี วามยดื หยุน่ มีเมน/ู ปุ่ม ให้ผู้เรียน 20 9 136 4.68 ดีมาก ควบคมุ บทเรียนไดส้ ะดวก 10.การใช้งานงา่ ยไม่ซับซ้อน สะดวกต่อ การใช้ 22 7 138 4.75 ดมี าก งาน 4.53 ดีมาก เฉลย่ี รวม จากตารางพบว่าผู้ประเมนิ มีความคิดเห็นต่อบทเรียนออนไลน์อยู่ในระดับดีมาก 6 รายการ น่าสนใจดึงดูดใจ กระตุ้น ให้เกิดความ สนใจ (x = 4.65 ) ช่วยเสริมสร้างความเข้าใจในบทเรียน (x=4.79) สามารถเข้าใช้งานได้ ตลอดเวลา (x=4.72) บทเรยี นมีความยืดหยุน่ มเี มนู/ ปุ่ม ใหผ้ ้เู รียนควบคุมบทเรียนได้สะดวก(x=4.68) การใช้งานง่าย ไม่ซบั ซ้อน สะดวกตอ่ การใช้งาน(x =4.75 ) และ สนองตอบต่อความแตกตา่ งระหว่าง บุคคล(x=4.55)อยู่ในระดับดี 4 รายการ คอื มกี ารอัพเดตข้อมลู ทท่ี ันสมยั (x = 4.20) ภาพ/ ภาพเคล่ือนไหว/ เสียง ท่ีใช้ เหมาะสมกับการเรียนรู้ได้ดี (x=4.37) สื่อมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียนอย่าง เหมาะสม(x=4.20) และ ให้ผลป้อนกลับ เสริมแรงและให้ ความช่วยเหลือ เหมาะสม(x=4.37)
บทที่ 5 สรุป อภิปรำยผลและข้อเสนอแนะ การวิจยั ครัง้ นี้เปน็ การศกึ ษาพฒั นาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบออนไลน์ โดยใช้ระบบ ห้องเรียนออนไลน์ Google Classsroom โดยมีวัตถุประสงค์การวิจัยเพื่อพัฒนาการจัดการเรียนการสอน ซึ่งกลุ่มเป้าหมายท่ีใช้ในการ วิจัย ได้แก่ นักเรียนช้ันปวช.คท.2 และ คท.รร.2 จานวน 29 คน เคร่ืองมือท่ีใช้ในการวิจัย ได้แก่ บทเรียนออนไลน์, แบบฝกึ หัดก่อนเรยี นและหลงั ใช้เวลาในการจัดการ เรียนรู้ จานวน 5 ช่ัวโมงตามแผนการจดั การเรียนรู้จานวน 1 แผน ได้แก่ แผนการสอนวิชาหลักการประกอบอาหารครอบครัว การประเมินผลการ พัฒนา วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ การหาค่าเฉลยี่ รอ้ ยละ สรปุ ผลการวิจยั อภิปรายผลและข้อเสนอแนะมี รายละเอียดดังนี้ 1. สรปุ ผลกำรวิจยั ผลการเปรยี บเทยี บก่อนและหลงั เรยี นออนไลน์ของนกั เรยี นชนั้ ปวช.คท.2 และ คท.รร.2 พบว่า 1. ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนักเรียนระหว่างก่อนและหลังเรียนบทเรียนออนไลน์มี ประสิทธิภาพ 54.48/82.76 ซ่งึ สูงกว่าเกณฑ์ทต่ี ั้งไว้ 2. ความพึงพอใจของผู้เรียนท่ีมีต่อการจัด กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนแบบห้องเรียนกลับด้าน ผ่าน Google classroom 2. อภิปรำยผลกำรวจิ ยั นักเรยี นท่ที าคะแนนก่อนและหลังเรยี นออนไลน์เมือ่ ได้เรียนออนไลน์แล้ว จากการเปรยี บเทียบ ผลการบันทึก คะแนนจากเกณฑ์ท่ีวัดและหาค่าเฉลี่ยของความก้าวหน้าในการเรียนออนไลน์จะเห็นได้ว่า คะแนนหลังเรียนสูงกว่า ก่อนเรียนแสดงว่าบทเรียนออนไลน์ทาให้นักเรียนมีพัฒนาการท่ีดีข้ึน เป็นเครื่องชี้ ชัดว่า บทเรียนออนไลน์มีความ เหมาะสม และกระตนุ้ ใหน้ ักเรยี นอยากเรยี นมากขนึ้ 3. ข้อเสนอแนะ 3.1 ผูส้ อนต้องศึกษาขัน้ ตอนของการจัด กิจกรรมเพื่อพัฒนาการเรียนรู้แบบออนไลน์ อย่าง ละเอียดเพ่ือให้เข้าใจ บทบาทของตนเอง และ บทบาทของผู้เรียน เพื่อให้สามารถนาไปใช้ในการ จัดการ เรียนรู้ได้อย่างถูกต้องและมี ประสทิ ธภิ าพ ผู้สอนควรใหผ้ ู้เรียนได้มอี ิสระทางความคดิ ในการ รงั สรรคช์ ิ้นงาน 3.2 การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้แบบออนไลน์ ควรให้ผู้เรียนได้มีบทบาทในการทางานของ ตนเองมากที่สุด ผู้สอน ควรส่งเสริมใหผ้ ู้เรียนทางาน รว่ มกนั เปน็ ทีมได้ ทางานด้วยตนเองได้ 3.3 ผ้สู อนควรมสี ่อื ทห่ี ลากหลายเพ่อื กระตุ้นใหผ้ เู้ รียนเกดิ ความสนใจและสนองตอบความ แตกต่างระหว่างบุคคล ได้
บรรณำนุกรม นชิ าภา บุรีกาญจน.์ (2556). ผลการจัดการเรียนรู้วิชาสุขศึกษาโดยใช้แนวคิดแบบห้องเรียนกลับ ด้านที่มีต่อ ความรับผิดชอบและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนมัธยมศึกษา ตอนต้น. สาขาวิชาสุขศึกษาและพลศึกษา ภาควิชาหลกั สูตรและการสอน คณะครศุ าสตร์ จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลยั . สุจติ รา ยอดเสนห่ า. (2555). เสน้ ทางการพัฒนาหอ้ งเรียนออนไลน์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราช มงคลธัญบุรี. รายงาน. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี สานักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ. (2553). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พุทธศักราช 2553. กรุงเทพฯ : โรงพิมพค์ ุรุสภา ลาดพร้าว. อพัชชา ช้างขวัญยืน และทิพรัตน์ สิทธิวงศ์. (2559). การจัดการเรียนการสอนแบบห้องเรียนกลับ ด้าน รว่ มกับการเรยี นรแู้ บบโครงงานรายวชิ าคอมพวิ เตอรส์ ารสนเทศข้ันพนื้ ฐาน สาหรับนิสิตปริญญาตรี. นเรศวรวิจัย คร้ัง ท่ี 12: วจิ ัยและนวตั กรรมกับการพัฒนาประเทศ. มหาวิทยาลัยนเรศวร. หน้า 1344-1353 Google. ศูน ย์ช่ว ยเหลือของ Google Classroom, [ออน ไลน์]. เข้าถึง จาก https://support.google.com/edu/classroom/?hl=th#topic=6020277 [2016,Jan 25] Google. ทาความเข้าใจเก่ียวกับงานของ Classroom, [ออนไ ลน์]. เข้าถึงจาก https://support.google.com/edu/classroom/answer/6020260?hl=th&ref_topic=602027 7 [2016,Jan 25] สสวท. แนวทางการจัดการเรียนการสอนด้วย GOOGLE CLASSROOM, [ออนไลน์] เข้าถึงจาก http://oho.ipst.ac.th/google-classroom-learning-approach/ [2018, Feb 23]
ภาคผนวก
ภาพ ชั้นเรยี น Google classroom
ภาพแบทดสอบกอ่ นเรยี น
ภาพแบบทดสอบหลงั เรยี น
ภาพบรรยากาศการเรียนการสอนออนไลน์
Search
Read the Text Version
- 1 - 41
Pages: