มวี ินยั ใฝร่ ู้ สงู้ านพยาบาลดว้ ยใจ เอกสารประกอบการสอน หวั ข้อ : การอ่านอยา่ งมวี จิ ารณญาณ รายวชิ า การพัฒนากระบวน การคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ ปกี ารศึกษา 1/2562 นักศกึ ษาพยาบาลศาสตร์ ช้นั ปที ่ี 1 คณะพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยเชยี งราย รหัสรายวชิ า 07104 : ชอ่ื วชิ า การพฒั นากระบวนการคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณ หนา้ 1
มีวินยั ใฝร่ ู้ สงู้ านพยาบาลดว้ ยใจ คณะพยาบาลศาสตร์ วิทยาลยั เชียงราย รหัสวชิ า 07104 : ชอื่ วชิ า การพัฒนากระบวนการคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณ ภาคการศึกษาที่ 1 ปีการศึกษา 2562 หวั ข้อ : การอ่านอยา่ งมีวิจารณญาณ อาจารย์ผสู้ อน อ. สกุ ัญญา ทาโสด วัตถปุ ระสงคเ์ ฉพาะ : เมอ่ื สน้ิ สุดการเรียนการสอน ผเู้ รียนสามารถ 1. บอกจุดม่งุ หมายของการอ่านอยา่ งมีวิจารณญาณได้ถูกตอ้ ง 2. บอกระดับของการอ่านอยา่ งมีวจิ ารณญาณได้อย่างถูกต้อง 3. อธบิ ายหลกั การอา่ นอย่างมีวิจารณญาณไดถ้ ูกต้อง 4. อธบิ ายเทคนิคการอ่านอยา่ งมีวิจารณญาณได้ถูกตอ้ ง 5. สามารถอ่านบทอ่านอย่างมีวิจารณญาณได้ถูกตอ้ ง คาศัพท์ Survey การอา่ นอย่างครา่ วๆ Question การตั้งคาถาม Read การอา่ น Record การจดบันทกึ Recite การสรุปใจความสาคัญ Reflect การวิเคราะห์วจิ ารณบ์ ทอ่าน Concept- Oriented Reading Instruction (CORI) การอา่ นแบบเน้นมโนทศั น์ รหัสรายวชิ า 07104 : ชื่อวชิ า การพฒั นากระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ หนา้ 2
มีวนิ ยั ใฝ่รู้ สู้งานพยาบาลดว้ ยใจ การอ่านมีความสาคัญอย่างยิ่ง เพราะทาให้ผู้อ่านมีความเข้าใจในเนื้อหามากยิ่งข้ึนว่าสิ่งที่ผู้เขียน ต้องการสอ่ื คืออะไร การท่ีจะทาความเข้าใจไดอ้ ย่างถูกต้องน้ันจาเป็นตอ้ งมีวธิ ีการและแนวทางในการพิจารณา เร่ืองที่อ่าน การอ่านอย่างมีวิจารณญาณเป็นทักษะการอ่านข้ันสูงท่ีผู้อ่านจาเป็นต้องมีความรู้เก่ียวกับเรื่องท่ี อ่านเพ่ือเป็นพื้นฐานในการวิเคราะห์วิจารณ์ในขั้นสูงต่อไป ทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณเป็นส่ิงที่มีความ จาเปน็ โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงในโลกของขอ้ มลู ขา่ วสาร ในปจั จบุ นั เพราะช่วยให้ผอู้ ่านรู้จักวเิ คราะห์ตรวจสอบ และ เลือกรับข้อมลู ข่าวสารต่าง ๆ ได้อย่างมเี หตผุ ล ซ่ึงเปน็ การอ่านทีต่ ้องใช้สตปิ ัญญาในการใคร่ครวญ พจิ ารณาสิ่ง ที่อ่านอย่างรอบคอบ สรุปสาระสาคัญทั้งเข้าใจความหมายโดยนัยของถ้อยคา อารมณ์จุดประสงค์ของผู้เขียน สามารถแยกแยะข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น เพื่อตัดสินใจ ด้วยเหตุนี้การอ่านอย่างมีวิจารณญาณจึงเป็นทักษะท่ีมี ความสาคัญและมีความจาเป็นที่ต้องฝึกฝนและพัฒนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เรียนในระดับปริญญาตรีซ่ึงเป็น กาลังสาคัญในการพัฒนาประเทศ ดังนั้นในบทนี้จึงได้กล่าวถึงแนวทางท่ีจะพัฒนาตนไปสู่การอ่านอย่างมี วิจารณญาณ จุดม่งุ หมายของการอ่าน การอ่านที่ดีไม่ใช่การอ่านที่ไร้จุดหมาย แต่ต้องรู้ถึงวาระของเรื่องน้ันว่าเก่ียวกับอะไร มีเป้าประสงค์ หรือวัตถุประสงค์อะไร การรู้จุดมุ่งหมายจะเป็นตัวพิจารณาว่าจะอ่านมันอย่างไร หรืออาจกล่าวได้ว่าจะอ่าน ดว้ ยวธิ ีที่แตกต่างกันไปในสถานการณ์ท่ีแตกต่างกันสาหรับจุดมุ่งหมายท่ีแตกต่างกันเพ่ือตีความออกมาให้ได้ว่า ผู้เขียนหมายความว่าอย่างไรในบริบทน้ันที่ผู้เรียนได้แปลงความคิดและประสบการณ์ออกมาเป็นคาพูด จดุ มุง่ หมายของการอ่าน สรปุ ไดด้ ังน้ี 1. การอ่านเพ่อื ความบันเทิง เปน็ การอา่ นทไี่ มต่ ้องใชท้ ักษะมากนัก 2. การอา่ นเพื่อให้รแู้ นวคดิ อย่างง่ายๆ ตอ้ งใช้ทักษะอา่ นอยา่ งครา่ วๆ 3. การอ่านเพอ่ื ให้ได้ข้อมลู เทคนิค ใชท้ ักษะอา่ นอยา่ งครา่ วๆ 4. การอ่านเพอ่ื ใหเ้ กิดความเข้าใจมมุ มองใหม่ ต้องใช้การอ่านอย่างพนิ ิจ 5. การอ่านแบบเรียนรู้วิชาใหม่ๆ ต้องใช้ทักษะการอ่านแบบพินิจและต้องเข้าใจคามหมายอย่างเป็น ระบบ ระดับของการอา่ นอย่างมวี ิจารณญาณ การอา่ นใหไ้ ด้ถงึ ความหมายที่สาคัญของเนอ้ื ความนนั้ จะต้องเปน็ การอ่านอย่างพินิจ สาหรับผ้ทู ่อี ่านได้ อยา่ งไตรตรองแล้ว อาจไม่จาเปน็ ต้องทาตามลาดับขั้นท้งั หมด แตอ่ าจเลือกบางระดับ เพ่อื ใหอ้ ่านไดต้ าม จดุ มุ่งหมาย ซ่งึ การอ่านอย่างมวี จิ ารณญาณมี 5 ระดบั ดังน้ี รหัสรายวชิ า 07104 : ชอื่ วิชา การพฒั นากระบวนการคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณ หน้า 3
มวี ินยั ใฝ่รู้ สู้งานพยาบาลดว้ ยใจ ระดับท่ี 1 การเรียบเรยี งถอ้ ยคาใหม่ เปน็ การเรียบเรยี งถ้อยคาใหม่แบบประโยคต่อประโยค สามารถใช้ถอ้ ยคาของตนเองในการ อธิบายขอ้ ความของประโยคน้ันได้ ระดับที่ 2 การอธบิ ายความ 1. สามารถอธบิ ายความในแตล่ ะย่อหน้าได้โดยสามารถกลา่ วถึงประเดน็ หลกั ในแตล่ ะย่อ หนา้ ไดภ้ ายในหน่ึงหรือสองประโยค 2. สามารถกลา่ วถึงย่อหน้านน้ั ในอีกแบบได้ เชน่ ใช้คาว่า “ในอีกความหมายหนง่ึ ” “กล่าว อีกอยา่ งหนงึ่ ได้วา่ ” เปน็ ตน้ 3. สามารถให้ตัวอย่างของความหมายน้ันได้โดยเชอ่ื มกบั สถานการณจ์ ริงอยา่ งเห็นเปน็ รปู ธรรม โดยใชค้ าว่า ดังตวั อย่างทวี่ า่ .. 4. สามารถใช้การเช่ือมโยงดว้ ยคาอุปมา การเปรียบเทียบ รูปภาพ หรอื แผนภาพในการ เชือ่ มกบั ความหมายท่ีผอู้ า่ นเข้าใจแล้ว ระดบั ท่ี 3 การวเิ คราะห์ การวิเคราะหไ์ ดถ้ ึงตรรกะในส่งิ ทอ่ี า่ น สามารถที่จะพิจารณาถงึ เหตผุ ลของผู้เขียนดว้ ยการใช้ หลกั การขององค์ประกอบของความคดิ ในการชว่ ยถามคาถามเพ่ือทาความเข้าใจ อาจถามดว้ ยองค์ประกอบใด องคป์ ระกอบหนึ่ง (จุดม่งุ หมาย มุมมอง ข้อสมมติฐาน ข้อบ่งช้ี ขอ้ มลู ขา่ วสาร การอนมุ าน แนวคิด และคาถาม) ระดับ 4 การประเมนิ เป็นการประเมินตรรกะในส่งิ ทเ่ี ราอ่าน โดยงานท่ีเขยี นแต่ละช้ินมคี ณุ ภาพไม่เทา่ กัน ในการที่ จะวัดวา่ ขอ้ เขยี นมีคุณภาพมากนอ้ ยเพียงใด อาจใช้หลักเกณฑข์ องมาตรฐานทางปัญญา (ความกระจา่ ง ความ แมน่ ยา ความถูกต้อง ความสอดคล้อง ความสาคัญ ความลึก ความกวา้ ง มีตรรกะ และความเทยี่ งธรรม) เพื่อ เปน็ มาตรวดั ซง่ึ เป็นไปไดว้ า่ ข้อเขียนนัน้ อาจมีหรือไม่มีมาตรฐานดงั กล่าวอย่างครบถ้วน เช่น อาจมีความ กระจ่าง แต่ขาดความแมน่ ยา เปน็ ต้น ในการประเมนิ ตรรกะผู้อา่ นอาจใช้คาถามต่อไปน้ีในการประเมนิ ได้แก่ - ผเู้ ขียนอธิบายได้อย่างชดั เจนในความหมายน้นั หรอื ว่าขอ้ ความกากวม สบั สนหรือไม่ - ผเู้ ขยี นไดก้ ล่าวอา้ งไดอ้ ย่างถูกต้องหรอื ไม่ - ผู้เขยี นได้ให้รายละเอยี ดอย่างเพยี งพอ แมน่ ยาเพียงใด สอดคล้องหรอื ไม่ รหสั รายวชิ า 07104 : ช่ือวิชา การพฒั นากระบวนการคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณ หนา้ 4
มวี นิ ัย ใฝ่รู้ สู้งานพยาบาลด้วยใจ - ผ้เู ขียนไดน้ าไปส่เู ร่อื งท่มี ีความซบั ซอ้ นหรือไม่ หรือเขยี นแบบผวิ เผนิ - ผเู้ ขยี นได้พจิ ารณามุมมองอนื่ ท่ีเกยี่ วข้องหรือไมห่ รือเขียนด้วยมมุ มองที่คบั แคบ - ผูเ้ ขยี นได้แสดงใหเ้ หน็ ถงึ ความเทย่ี งธรรมหรอื เอนเอียงไปทางใดทางหน่ึงหรือไม่ - เนอื้ หาสะท้อนถึงความสาคญั หรอื เขยี นแบบผิวเผนิ ระดับที่ 5 การแสดงบทบาท เป็นการพูดแทนผูเ้ ขียนได้ด้วยบทบาทเหมือนกบั เป็นผู้เขยี นนบั วา่ เป็นการทดสอบความเข้าใจ สูงสุด เป็นการแสดงเหมือนกับการสวมบทบาทเป็นผู้เขียนโดยสามารถพูดแทนได้ อาจตอบคาถามแทนผ้เู ขยี น ได้ ในคาถามท่ีดที ีท่ าให้ผ้อู ่านคิดแทนผ้เู ขยี นไดใ้ นการตอบคาถาม โดยคาดว่าผเู้ ขยี นจะคิดด้วยตรรกะเชน่ นนั้ นบั วา่ เป็นการทดสอบผู้อ่านว่าสามารถเขา้ ใจความหมายที่แท้จริงในเน้ือหาน้ันหรอื ไม่ หลักการอ่านอย่างมีวจิ ารณญาณ เป็นการอ่านอย่างมีการสังเกตในข้อเท็จจริงและรายละเอียดในเนื้อความน้ัน ทั้งน้ีในการสังเกตอาจ ขน้ึ อยกู่ ับเรื่องที่สนใจด้วย ดังนั้นขน้ั ตอนแรกจึงเป็นเร่ืองของการสังเกตในข้ันต่อมาคอื การตีความข้อสงั เกตน้ัน โดยอาจใช้หลักการพื้นฐานการให้เหตุผลท่ีมุ่งสังเกตในข้อเท็จจริงและรายละเอียดเฉพาะท่ีจะนาไปสู่ข้อสรุป หรือการตีความบนฐานของข้อสังเกตนี้ และด้วยการใช้การหาเหตุผลดงั กล่าวจะทาให้การอ่านต้องใช้การพินิจ ทตี่ ้องรวบรวมขอ้ มลู ด้วยความระมัดระวังรวมทั้งการคิดอยา่ งระมดั ระวงั ด้วย แนวทางและวธิ ีการอา่ น ในการอา่ นอยา่ งมวี ิจารณญาณ อาจดาเนินการดังนี้ 1. การหาจุดสาคัญ อาจใชก้ ารขดี เสน้ ใต้ หรือทาให้เห็นเดน่ ชัดในข้อความ ความหมายท่สี าคญั ๆ หรือ ที่ทาให้เราเกิดคาถามตามมาในการที่พยายามหาจุดสาคัญแล้วแสดงเคร่ืองหมาย ที่ช่วยในการกระตุ้นไม่ เพียงแต่จะทาให้สนใจในเร่ืองน้ันอย่างใกล้ชิดเท่านั้นแต่จะทาให้เราเริ่มจะคิดควบคู่ไปกับผู้เขียนและพิจารณา ถงึ หลกั ฐานนับวา่ เป็นข้ันตน้ ของการเคลอ่ื นจากผอู้ า่ นไปสู่มุมมองของผเู้ ขยี น 2. การสังเกต สังเกตดูว่าข้อความที่อ่านมีความซ้าซ้อน ขัดแย้ง หรือมีความเหมือนในด้านต่างๆ อย่างไรบา้ ง ทั้งน้อี าจต้องสังเกตถึงการใชภ้ าษาและดเู นือ้ หา 3. การใชค้ าถาม เพ่อื ท่ีจะได้เห็นเเงม่ มุ รปู แบบตา่ งๆ นบั วา่ เปน็ การพยายามหาคาตอบ คาถามทใ่ี ช้ในการอ่านอยา่ งมวี ิจารณญาณ จะช่วยให้ผ้อู ่านทาความเข้าใจในเนือ้ ความน้นั ไดม้ ากขึ้น คาถามต่อไปน้ีจะช่วยทาความกระจ่างในยาม ท่อี ่านไดม้ ากขึ้น คือ รหสั รายวชิ า 07104 : ชือ่ วิชา การพฒั นากระบวนการคิดอย่างมวี ิจารณญาณ หนา้ 5
มวี นิ ัย ใฝร่ ู้ สงู้ านพยาบาลด้วยใจ 1. ความรู้สึกแรก 1.1 เราสังเกตอะไรได้เป็นอยา่ งแรก 1.2 อยา่ งที่สองทีเ่ ราเห็นคอื อะไร 1.3 สองอย่างนัน้ มสี ่วนเสริมกันหรอื วา่ แย้งกนั 1.4 ข้อความน้ันได้ก่อให้เกดิ ความร้สู ึก อารมณอ์ ย่างไรตอ่ เรา 2. คาศพั ท์ 2.1 คาไหนที่สังเกตได้กอ่ น ทาไม 2.2 คาน้เี ชื่อมกบั คาอืน่ ๆ อยา่ งไร 2.3 มีบางคาที่ใช้แปลกออกไปหรือไม่ ทาไม 2.4 มคี าท่ีมีสองความหมาย มคี วามหมายโดยนยั ตา่ งออกไปหรอื ไม่ 2.5 ลองมองหาคาทีไ่ ม่คนุ้ เคย 3. สังเกตรปู แบบ 3.1 รูปลกั ษณ์เหมอื นกบั ที่เคยเหน็ หรือไม่ 3.2 รปู ลกั ษณเ์ ขา้ ได้กับรูปแบบหนงั สือทงั้ หมดอย่างไร 3.3 ขอ้ ความนน้ั เป็นสญั ลักษณข์ องงานทั้งหมดหรือไม่ หรอื เปน็ ภาพเลก็ 3.4 ลกั ษณะของประโยคเป็นจงั หวะอย่างไร 3.5 ดูวา่ วรรคตอนมอี ะไรแปลกออกไปอย่างไร 3.6 มีการกล่าวย้า ซา้ อะไร และมีผลกระทบออกมาอยา่ งไร 3.7 มรี ูปแบบการเขียนก่แี บบ (บรรยาย โตเ้ ถียง อภปิ ราย) 3.8 สามารถระบหุ ลักแนวคดิ ของผูเ้ ขยี นไดห้ รือไม่ 3.9 มีส่วนไหนท่ีถกู ละเลยไมก่ ลา่ วถึง อะไรท่ีผเู้ ขียนควรกลา่ วแต่หลกี เลย่ี งไป 4. มุมมองและลกั ษณะ 4.1 ขอ้ ความนั้นทาให้ตอ้ งมปี ฏกิ ริ ิยาหรือมคี วามคิดตอ่ เร่ืองนนั้ อยา่ งไร 4.2 มสี ีและมีแสง ลกั ษณะเชิงกายภาพท่ีมผี ลต่อความรู้สกึ ต่อเราหรือไม่ และทาไมเขาจึงใช้สี แสง อย่างน้ัน 4.3 ใครกลา่ วอะไรขอ้ ความน้ัน เขาพูดกบั ใคร ผเู้ ขียนบรรยายมีมมุ มองที่จากัดไปหรอื ไม่ 5. สญั ลักษณ์ (Symbolism) 5.1 มีการใช้คาอปุ มาหรอื ไม่ แบบไหน 5.2 มีคาอปุ มาแตกตา่ งกันหลากหลายแบบหรือไม่ อันไหนทส่ี าคญั 5.3 หากมสี ญั ลักษณ์หลายแบบ เราจะเข้าใจในความหมายท่ีหลากหลายหรอื ไม่ รหัสรายวชิ า 07104 : ชอ่ื วชิ า การพฒั นากระบวนการคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณ หน้า 6
มีวนิ ยั ใฝ่รู้ สู้งานพยาบาลดว้ ยใจ เทคนิคในการอ่านอย่างมวี ิจารณญาณ การอ่านน้ันต้องพบกับเน้ือหาในหลายรูปแบบ ท้ังบทละคร บทกวี นิทาน บทความ วิชาการ หนังสือ ตารา ฯลฯ ในการทม่ี งุ่ สนใจในประเด็นใดเปน็ พิเศษโดยมเี ทคนคิ ท่ีสาคัญ ดงั นี้ เทคนคิ การอา่ นอยา่ งพนิ จิ 1. เรียบเรียงข้อความใหม่ด้วยภาษาที่ง่าย โดยการอ่านเนื้อความนั้นแล้วเรียบเรียงด้วยความ ระมัดระวังทาใหเ้ ป็นภาษาอย่างง่าย จะทาให้เข้าใจแนวคิดของข้อความนั้นได้ง่ายขึ้นอาจต้องถามดูวา่ การเรียบ เรียงใหม่นี้ทาใหค้ วามหมายเปลย่ี นไปหรือไม่ เปลย่ี นแปลงความเขา้ ใจทีม่ ีต่อเนือ้ ความน้นั หรือไม่ 2. ตรรกะของข้อความ ให้คิดเกี่ยวกับตรรกะของข้อความที่เสนอข้อโต้เถียง ข้อความที่เรียบเรียงใหม่ แต่ละจุดแต่ละประเด็นมีการลาดับอย่างล่ืนไหลหรือไม่ ข้อความน้ันมีข้อสมมติฐานประเด็นอะไรท่ีดูเหมือนว่า จะขาดหายไปข้อความกล่าวอะไรแบบว่าซ้าๆ กันหรอื ไม่ ข้อโต้เถียงท่ีหยบิ ยกขึ้นมาของข้อความมีความขัดแย้ง กับส่วนอืน่ ๆ หรอื ไม่ ความขดั แยง้ มีจุดสาคญั คอื อะไร 3. การใช้ภาษา ว่ามีคาสาคัญหรือวลีสาคัญอะไร การพิจารณาดูว่ามีการใช้ภาษาอย่างไร มีการเน้นย้า จดุ สาคัญหรือจุดท่ีไม่สาคัญ หากมีการกล่าวคาซ้าต่างย่อหน้ากันก็อาจแสดงว่าต้องมีการอ่านแบบเชื่อมโยงกัน คาเหล่านม้ี ีการเปล่ียนแปลงความหมายแต่ละขอ้ ความไปหรือไม่ 4. คาซ้า ดูว่ามีการใช้คาซ้าในข้อความเดียวกันหรือไม่ ความหมายมีการเปล่ียนแปลงไปแต่ละคา หรือไม่ ความหมายมีการสับกันได้หรือไม่ ความหมายที่เบี่ยงไปทาให้การเรียบเรียงข้อความใหม่ของเราต่างไป หรอื ไม่ 5. ความหมายแฝง สามารถหาคาท่ีมีความหมายมากกว่าหน่ึงในเน้ือความนั้นได้หรือไม่ คาหนึ่งมี หลายความหมายทแ่ี ตกตา่ งกันหรือไม่ หรือแม้กระทั่งมีความหมายตรงข้ามกัน ความหมายที่แตกตา่ งกันนมี้ ีผล ต่อการเปล่ียนแปลงขอ้ ความทีเ่ รียบเรียงใหม่หรอื ไม่ 6. คาอุปมาและจนิ ตภาพ พิจารณาดูว่ามีคาอุปมาได้หรือไม่ รวมทง้ั พวกรปู ภาพ จาได้หรือไม่วา่ เห็นท่ี ไหนมาก่อน อาจเป็นการใชค้ าหรือวลีซา้ การกล่าวซ้าท้ังอุปมาหรือรูปภาพนับเป็นสัญญาณที่บอกเราว่าเนอ้ื หา ส่วนนี้มคี วามสอดคล้องกบั เนือ้ หาสว่ นอ่ืน 7. รูปแบบ พิจารณาเนื้อความที่มีลักษณะท่ีเป็นรูปแบบหรือเป็นทางการ รูปแบบมีความแตกต่างกัน ไป เช่น ร้อยแก้วกับร้อยกรอง ดังนั้นการอ่านจึงต้องพิจารณาให้สอดคล้องกับรูปแบบของมันในการทาความ เข้าใจ 8. เกิดอะไรข้ึน ถ้าหากว่ามีบางอย่างเกิดข้ึนในเน้ือความน้ัน ขอให้คิดว่าองค์ประกอบส่วนนั้นมีความ เช่ือมโยงหรอื กลา่ วซ้ากบั อนั อืน่ รหสั รายวชิ า 07104 : ช่อื วชิ า การพฒั นากระบวนการคดิ อย่างมวี ิจารณญาณ หน้า 7
มวี ินยั ใฝ่รู้ สู้งานพยาบาลดว้ ยใจ 9. ตรรกะของเหตุการณ์ อะไรที่เกิดขึ้นหรือว่าอะไรที่กล่าวมาก่อนหรือหลังเน้ือความคุณอาจต้องการ ถามคาถามเหมือนกับข้อ 2 ข้างต้น มีอะไรทเ่ี ป็นช่องว่างระหว่างเนอื้ ความกับบริบทของมนั มีความเป็นตรรกะ มากนอ้ ยเพยี งใดในข้อความกับบริบทของมัน 10. ผู้พดู ขอให้คิดวา่ ใครคือผ้ทู ี่กาลงั กล่าวเนอ้ื ความนั้น ผู้พูดไดก้ ลา่ วอย่างแขง็ กร้าว คุณวางใจในผูพ้ ูด หรือไม่แต่อย่าไปเหมาเอาว่าผู้พูดที่ไม่ค่อยดีนักจะพูดอะไรท่ีไม่จริงบางทีคนที่อาจพูดไม่เก่งก็สามารถเสนอ ความจรงิ ได้ เทคนิคการอ่านแบบ SQ4R วิธีการอ่านแบบ SQ4R นั้นปรับปรุงมาจากการสอนอ่านแบบ SQ3R ของฟรานซีส พี.โรบินสัน (Francis P.Robinson) ผู้เช่ียวชาญด้านการอ่าน แห่งมหาวิทยาลัยโอไฮโอ เป็นการอ่านเพ่ือหาจุดสาคัญของ เร่ืองโดยการตอบคาถามทก่ี าหนดไว้ โดยมีข้ันตอนดงั นี้ 1. การอ่านอย่างคร่าวๆ (Survey:S) การอ่านคร่าวๆเพ่ือหาจุดสาคัญของเรื่องที่อ่าน บอกให้ได้ว่า เปน็ เร่ืองเกย่ี วกับอะไร แล้วจบั ใจความสาคญั ไวใ้ นกระดาษ 2. การต้ังคาถาม (Question:Q) การต้ังคาถามจากใจความสาคัญในเน้ือความเพ่ือให้ผู้อ่านอ่าน อย่างมีจุดมุ่งหมาย เพ่ือหาจุดมุ่งหมายของผู้เขียน คาถามจะต้องมีความสัมพันธ์กับเน้ือความที่ อ่าน และควรจะพิจารณาถึงใจความสาคัญทผี่ ูเ้ ขียนตอ้ งการสื่อสาร 3. การอ่านอย่างรอบคอบเพ่ือหาคาตอบ (Read:R1) เม่ือผู้อ่านตั้งประโยคคาถามแล้วให้ผู้อ่าน กลับไปอ่านเน้ือเรื่องอย่างละเอียดเพ่ือหาคาตอบ ตามคาถามท่ีต้ังไว้ ซึ่งเป็นการพิจารณาเร่ืองท่ี อ่านท้งั ทางตรงและทางอ้อม เพอื่ แยกข้อเทจ็ จริงออกจากข้อคิดเห็น 4. การจดบันทึก (Record:R2) ข้ันตอนน้ีเมื่อผู้อ่านอ่านอย่างละเอียดแล้วให้นาคาตอบที่ได้มาเขียน บันทึกโดยมุ่งเน้นตามความเข้าใจของผู้อ่านคาตอบท่ีได้ควรมีข้อความท่ีรัดกุม ในขั้นตอนนี้ผู้อ่าน สามารถจดบันทกึ คาตอบเปน็ ภาษาของตนเองได้ 5. การสรุปใจความสาคัญ (Recite:R3) ข้ันผู้อ่านเขียนสรุปใจความสาคัญ ผู้อ่านเขียนสรุปใจความ เปน็ ภาษาของตนเองหากไม่แนใ่ จหรือไมเ่ ข้าใจในคาตอบสามารถกลับไปอ่านซ้าได้ 6. การวิเคราะห์วิจารณ์บทอ่าน (Reflect:R4) ข้ันตอนน้ีคือข้ันวิเคราะห์เนื้อเรื่องที่อ่าน และแสดง ความคิดเห็นของตนวา่ สอดคล้องหรือไม่สอดคลอ้ งกับเร่ืองที่อา่ น เม่ือผอู้ ่านดาเนินการครบ 5 ข้นั ตอนเบื้องต้นแล้ว ในข้ันตอนสุดท้ายของกระบวนการสอนแบบ SQ4R ผู้อ่านต้องสามารถแสดงความคิดเห็นต่อเร่ืองที่อ่านในเชิงเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย สอดคล้องหรือไม่สอดคล้อง บางครั้งอาจจะขยายความจากสิ่งท่ีอ่านโดยการเช่ือมความคิดจากบทอ่านกับความรู้เดิมโดยใช้ภาษาอย่าง ถกู ต้อง รหัสรายวชิ า 07104 : ชอ่ื วิชา การพฒั นากระบวนการคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณ หนา้ 8
มีวนิ ยั ใฝร่ ู้ ส้งู านพยาบาลด้วยใจ เทคนิคการอา่ นแบบเน้นมโนทัศน์ (CORI) ร่วมกบั กลวิธีอาร์ อี เอ พี การอ่านแบบเน้นมโนทศั น์(Concept- Oriented Reading Instruction (CORI)) ของJohn T.Guthrie ท่พี ัฒนาขน้ึ ในปี ค.ศ. 1993 มาพัฒนาร่วมกบั การกลวิธีอาร์ อี เอ พี (REAP: Read, Encode, Annotate, Ponder) ของ Eanet & ManZo ที่พฒั นาข้ึนในปี 1976 โดยเน้นให้ผู้อา่ นมีทักษะในการอา่ น การคิด และการเขียน เนน้ ความสาคัญของ การใชค้ วามรู้และประสบการณ์เดมิ ของผอู้ ่าน มีขั้นตอน ในการ จดั การเรยี นรู้ 6 ขน้ั ตอน ได้แก่ ข้นั ท่ี 1 สังเกตและสารวจตนเอง ผูอ้ า่ นสงั เกตเนื้อความเพ่ือกาหนดเปา้ หมายในการอ่านและสารวจ ความรเู้ ดิมของตนเองเพ่ือเช่ือมโยง ทาความเข้าใจบทอ่าน โดยอ่านบทอ่าน แลว้ อภปิ รายแสดงความคิดเหน็ และแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ บนั ทึกการอภปิ ราย เพื่อเปน็ การสร้างบรรยากาศการอ่าน ขั้นท่ี 2 ค้นคว้า ผ้อู า่ นคน้ คว้าหาความร้เู พ่ิมเติมจากแหลง่ ตา่ ง ๆ เพ่ือนามาใช้ ทาความเข้าใจ เน้ือความสรา้ งความหลากหลายในระดบั ความยากงา่ ยของเน้อื หาทใ่ี ชใ้ นการอ่าน ขั้นที่ 3 ทาความเขา้ ใจและวเิ คราะห์เน้ือหา ผู้อ่านเรยี นรู้กลวธิ กี ารอา่ นเพ่ือนามาวเิ คราะห์ ตีความ ประเมนิ ค่า เน้ือหาสาระของเนอ้ื ความ แล้วแสดงความรสู้ กึ เก่ียวกบั เนอ้ื ความ โดยใชภ้ าษาของตนเอง ใช้คา 30 คา หรือน้อยกวา่ นน้ั ในการอธบิ ายแสดงความคิดเห็นต่อเนอ้ื ความ แสดงผลการอา่ นตีความและ ฝึกวเิ คราะหใ์ จความสาคัญ ขน้ั ท่ี 4 นาเสนอผลการอ่านในรปู แบบต่าง ๆ ผู้อ่านนาเสนอผลการอา่ นในรปู แบบของการเขยี นที่ใช้ ภาษาเฉพาะตัวถา่ ยทอดความเขา้ ใจของตนเอง โดยการเขียน เพิ่มเติมในรปู แบบต่าง ๆ เพ่ืออธิบายใจความ สาคัญ บนั ทกึ การวิเคราะห์ วิจารณ์เนื้อเรอ่ื ง และถา่ ยทอดแนวคิดที่ผู้แต่งนาเสนอโดยใช้คาพูดของ ตนเอง และให้ตกผลึกเป็นผลลัพธ์ในการเขยี น ขน้ั ท่ี 5 แลกเปลี่ยนเรยี นรู้ ผู้อา่ นนาผลการอ่านมาแลกเปล่ยี นเรยี นรู้กับผูอ้ ืน่ เพื่อสรปุ ประเด็นสาคญั ของเน้ือความ ขั้นท่ี 6 คิดพจิ ารณาผลการอ่าน การพิจารณาสะท้อนผลการอ่าน การอภปิ ราย และเปรียบเทียบการ เชอื่ มโยงข้อมลู โดยผูอ้ า่ นฝึกแสดงความคดิ เห็นและวพิ ากษ์ วิจารณ์อย่างต่อเน่ือง ผ้อู ่านนาเสนอและ บูรณาการความรูจ้ ากการอ่านอยา่ งมี วจิ ารณญาณเพอื่ นาเสนอออกมาในรูปแบบของการสรุปความ รหสั รายวชิ า 07104 : ช่อื วชิ า การพฒั นากระบวนการคดิ อย่างมวี ิจารณญาณ หน้า 9
มวี นิ ัย ใฝ่รู้ สู้งานพยาบาลด้วยใจ สรุป การอ่านอย่างมีวิจารณญาณทาให้ผู้อ่านมีความเข้าใจในเน้ือหามากยิ่งข้ึน เข้าใจส่ิงท่ีผู้เขียนต้องการ ส่ือความหมาย โดยมีจุดมุ่งหมายแตกต่างกันไป การอ่านอย่างมีวิจารณญาณน้ันมีอยู่ 5 ระดับ ดังนี้ เรียบเรียง ถ้อยคาใหม่ อธิบายความได้ การวิเคราะห์ การประเมิน และการแสดงบทบาท ซ่ึงอาศัยหลักการท่ีสาคัญคือ การหาจุดสาคัญ การสังเกต และการใช้คาถาม โดยมีเทคนิคในการอ่านอย่างมีวิจารณญาณที่ผู้อ่านควรฝึกฝน เพ่ือให้สามารถอ่านเนื้อเร่ืองตา่ งๆไดอ้ ยา่ งมวี จิ ารณญาณมากย่งิ ขน้ึ รหสั รายวชิ า 07104 : ชอ่ื วิชา การพฒั นากระบวนการคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณ หน้า 10
มีวนิ ยั ใฝร่ ู้ สู้งานพยาบาลด้วยใจ ใบงาน หวั ข้อ : การอา่ นอย่างมีวิจารณญาณ (1 ช่ัวโมง) คาชแี้ จง ให้นักศึกษาอ่านขา่ วตอ่ ไปนี้และตอบคาถาม โดยใช้เทคนคิ การอา่ นแบบ SQ4R สาเหตสุ งั่ ตาย วินาทโี หด เบือ้ งหลังคดี \"ครูพี่ณฐั \" กับ \"นอ้ งชายแดน\" ตาย เมอ่ื วันท่ี 20 มิ.ย.2562 ผสู้ ่อื ขา่ วรายงานวา่ จากกรณี \"นอ้ งชายแดน\" เสียชวี ติ ปริศนาระหว่างติวสอบ เขา้ เตรยี มทหารในสถาบันเอกชน ต่อมามีการจบั กุม นายณฐั พล ถาวรพิบลู ย์ อายุ 27 ปี เจา้ ของสถาบนั กวดวิชา เตรียมทหาร \"บ้านครพู ่ีณฐั \" พรอ้ มภรรยา และแมย่ าย ในข้อหาร่วมกันทาร้ายผู้อน่ื จนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ คมุ ตัวทั้ง 3 คนฝากขังศาลไปแลว้ นั้น สาหรับเบื้องหลงั การทาร้าย \"น้องชายแดน\" จนตาย มรี ายงานวา่ จากแนวทางการสืบสวนสอบสวน ของเจ้าหน้าที่ วนั เกดิ เหตุ หลังเกดิ เหตทุ าร้ายน้องชายแดน นายณฐั พล ไดน้ าน้องชายแดนขน้ึ รถไปสง่ รักษาตวั ที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ โดยกาชบั ให้เพอ่ื นนักเรยี นแจง้ เป็นเหตเุ ล่นสกรมั แบบรักบ้ี เกิดเปน็ อบุ ัตเิ หตุ ตอ่ มาพ่อของน้องชายแดนสงสัย เน้อื ตัวลูกชายบอบชา้ และผลการชนั สตู รศพพบวา่ อวัยวะภายนอก และภายในบอบช้า ตารวจชดุ สืบสวนลงพืน้ ท่ีตรวจสอบพบวา่ ในชว่ งเกดิ เหตุมเี ดก็ มาสมัครเรยี นในสถาบันบ้านครูพีณ่ ัฐ 8 คน มีนักเรียน 4 คน เหน็ เหตุการณ์ขณะน้องชายแดนถกู ทารา้ ยจนเลือดไหลลงพ้ืน จากน้ันตรวจคน้ ท่ีสถาบนั ฯ เก็บคราบเลือดที่พืน้ และรถยนต์ทีน่ าน้องชายแดนไปส่งโรงพยาบาล นอกจากนัน้ ประกอบกบั มี 1 ในเด็กนกั เรียนนาไปชจี้ ดุ ที่นาถงุ ใสไ่ ม้เบสบอล 8 อนั ไปโยนท้ิงแม่น้าปิง เพื่อทาลายหลกั ฐาน กระท่ังพบไม้เบสบอลท้ังหมด รหัสรายวชิ า 07104 : ชื่อวชิ า การพฒั นากระบวนการคิดอย่างมวี ิจารณญาณ หนา้ 11
มีวินยั ใฝ่รู้ สงู้ านพยาบาลดว้ ยใจ ผสู้ อ่ื ขา่ วรายงานเพ่ิมเตมิ วา่ จากพฤตกิ รรมของครูพี่ณัฐ มักจะใชค้ วามรุนแรงกับนกั เรยี นเปน็ ประจา มีนกั เรียนรุ่นก่อนหนา้ นเ้ี คยถูกทาร้ายเช่นเดียวกัน แต่ไม่มใี ครกล้าไปแจง้ ความดาเนินคดี สาหรับคดีนอ้ งชายแดนนี้ สาเหตคุ าดว่ามาจากนอ้ งชายแดนไปขอโทรศัพท์ ซ่งึ ถูกเก็บไว้ระหว่างติว เพอ่ื ติดตอ่ ทางบ้าน จากทางฝ่ายครูพ่ีณฐั แต่ไม่ได้ จนเกดิ ปากเสยี ง ทาใหท้ างครูพี่ณฐั และผู้เก่ียวข้องไม่พอใจ มี การลงมือทารา้ ย อยา่ งไรกต็ าม จากน้ีตารวจจะเชญิ เด็กนักเรียนรายอนื่ ๆ ที่ถูกทารา้ ยมาสอบสวนประกอบ ขณะเดยี วกนั เตรียม นาศพน้องชายแดนไปตรวจพสิ ูจนห์ าสาเหตุการตายอยา่ งละเอียด ท่ีสถาบันนิตเิ วชวิทยา โรงพยาบาลตารวจ เพ่ือมาประกอบสานวน ลา่ สุด ผู้สอื่ ขา่ วยงั ได้พยายามตรวจสอบข้อมูลขอ้ เท็จจริงจากผู้เกย่ี วข้อง รวมท้ังจากทางครพู ่ีณัฐและ ฝ่ายครพู ่ณี ัฐ หากมีความคืบหน้าจะรายงานต่อไป. ขน้ั ที่ 1 การอา่ นอย่างครา่ วๆ (Survey:S) คำชแ้ี จง นกั เรยี นอ่านสารวจข่าว “สาเหตุสง่ั ตาย วนิ าทีโหด เบอื้ งหลังคดี \"ครูพณี่ ฐั \" กับ \"น้องชายแดน\" ตาย” อยา่ งรวดเร็วแล้วทาเคร่อื งหมาย / หนา้ ขอ้ ที่ถกู และเครอื่ งหมาย X หน้าขอ้ ท่ีผิด …………..ผกู้ ่อเหตุเปน็ ติวเตอร์ที่สอนน้องชายแดน …………..นอ้ งชายแดนถกู นาตวั ไปรักษาที่โรงพยาบาลเชยี งรายประชานุเคราะห์ …………..ปกติผู้กอ่ เหตเุ ปน็ คนทใี จเย็น มักไม่ใชค้ วามรนุ แรง …………..สาเหตทุ ี่น้องชายแดนถูกทาร้ายเพราะไม่ต้ังใจเรยี น เล่นกันในห้อง ขัน้ ที่ 2 การตั้งคาถาม (Question:Q) คำชี้แจง นักศึกษาตั้งคาถามจากขา่ ว ให้ครอบคลุมเน้ือหา โดยใช้คาถามลักษณะ ใคร (Who) ทาอะไร (What) ท่ไี หน (Where) เม่อื ไร (When) อยา่ งไร (How) จานวน 5 คาถาม คาถามที่ 1………………………………………………………………………………………………………………………………………… คาถามท่ี 2………………………………………………………………………………………………………………………………………… คาถามท่ี 3………………………………………………………………………………………………………………………………………… คาถามท่ี 4………………………………………………………………………………………………………………………………………… คาถามท่ี 5………………………………………………………………………………………………………………………………………… รหัสรายวชิ า 07104 : ชือ่ วิชา การพฒั นากระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ หนา้ 12
มวี นิ ยั ใฝ่รู้ สู้งานพยาบาลด้วยใจ ขน้ั ท่ี 3 การอ่านอยา่ งรอบคอบเพอ่ื หาคาตอบ (Read:R1) คำชแ้ี จง ใหน้ ักศึกษาอา่ นเน้ือเรือ่ งอย่างละเอยี ดรอบคอบ แล้วหาคาตอบท่ไี ดต้ ง้ั คาถามไว้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้นั ท่ี 4 การจดบันทึก (Record:R2) คำช้แี จง ให้นกั ศึกษาจดบนั ทกึ ข้อความทส่ี าคญั อย่างย่อของข่าว ตามความเข้าใจของตนเอง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… รหสั รายวชิ า 07104 : ชื่อวชิ า การพฒั นากระบวนการคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณ หนา้ 13
มวี ินัย ใฝ่รู้ สูง้ านพยาบาลด้วยใจ ขั้นท่ี 5 การสรปุ ใจความสาคญั (Recite:R3) คำช้แี จง นักศกึ ษาสรปุ ใจความสาคัญของข่าวเปน็ แผนผังความคิด โดยใชส้ านวนการเขียนของตนเอง สาเหตสุ ง่ั ตาย วินาทีโหด เบื้องหลงั คดี \"ครูพณ่ี ัฐ\" กบั \"นอ้ งชายแดน\" ตาย รหัสรายวชิ า 07104 : ชื่อวชิ า การพฒั นากระบวนการคดิ อย่างมวี ิจารณญาณ หน้า 14
มีวินยั ใฝ่รู้ สงู้ านพยาบาลดว้ ยใจ ขนั้ ท่ี 6 การวเิ คราะหว์ ิจารณบ์ ทอา่ น (Reflect:R4) คำชี้แจง ใหน้ ักศึกษาวิเคราะห์ วิจารณ์ และแสดงความคิดเห็นจากการอ่านขา่ ว ประเดน็ ทก่ี าหนดให้ 1. นักศึกษาร้สู กึ อยา่ งไร เมอื่ อา่ นขอ้ ความ “สาเหตุสงั่ ตาย วินาทโี หด เบือ้ งหลังคดี \"ครูพี่ณัฐ\" กับ \"นอ้ ง ชายแดน\" ตาย” ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. นกั ศึกษาเห็นด้วยหรือไม่ กับการทค่ี รูณฐั ทาร้ายน้องชายแดน พร้อมท้งั บอกเหตผุ ลประกอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. คาว่า “ส่งั ตาย” หมายความว่าอยา่ งไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. หากนกั ศึกษาอยู่ในสถานการณด์ ังกลา่ ว นักศึกษาจะทาอย่างไร จงอธิบายพร้อมทงั้ ยกเหตุผลประกอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… รหัสรายวชิ า 07104 : ชอื่ วิชา การพฒั นากระบวนการคดิ อยา่ งมวี ิจารณญาณ หนา้ 15
มีวนิ ยั ใฝร่ ู้ ส้งู านพยาบาลดว้ ยใจ บรรณานกุ รม บรรจง อมรชวี นิ . (2556). Critical Thinking : การคดิ อย่างมีวิจารณญาณ. กรงุ เทพมหานคร : ภาพพมิ พ์. ปิยธิดา ยะเคียน และจิตติมา กาวีระ. (2661). ผลกระทบของการสอนอ่านแบบ SQ4R ท่ีมีต่อการอ่าน ภาษาอังกฤษเพ่ือความเข้าใจของนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง ชั้นปีท่ี 2แผนกวิชา คอมพิวเตอร์ธุรกิจ วิทยาลัยเทคนิคน่าน. วำรสำรมนุษยศำสตร์และสังคมศำสตร์ มหำวิทยำลัยรำช พฤกษ,์ 4(3), 141-152. สิริพร รัตนมุง และอธิกมาส มากจุ้ย. (2560). การพัฒนาความสามารถการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ ของ นักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3 ท่ีเรียนโดยวิธีสอนแบบ SQ4R. Journal of Paciic Institute of Management Science, 3(2), 196-203. สุรีรัตน์ อักษรกาญจน์. (2561). การอ่านอย่างมีวิจารณญาณ : เทคนิคการอ่านแบบเน้นมโนทัศน์ (CORI) ร่วมกบั กลวิธอี าร์ อี เอ พี. วำรสำรมนษุ ยศำสตร์และสังคมศำสตร์, 10(1), 91-114. รหสั รายวชิ า 07104 : ชอื่ วชิ า การพฒั นากระบวนการคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ หน้า 16
Search
Read the Text Version
- 1 - 16
Pages: