Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอนการควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้า2/2564

แผนการสอนการควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้า2/2564

Published by supakhet sunsrok, 2021-10-19 05:26:48

Description: แผนการสอนการควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้า2/2564

Search

Read the Text Version

42 /5 ื การควบคมุ มอเตอร์ไฟฟ้า 7-8 ื การควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 1 เฟส 14 ื ื การควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 1 เฟส ำ 14 1. ำ แนวทางในการควบคุมมอเตอรไ์ ฟฟา้ กระแสสลบั 1 เฟส คือ การร้ถู ึงโครงสรา้ งและวธิ ีการต่อใชง้ านท่ี ถูกต้อง ได้แก่ วงจรเร่มิ เดนิ วงจรกลบั ทางหมุน ทง้ั นี้ผูค้ วบคุมจะต้องเขา้ ใจการนำอปุ กรณค์ วบคมุ ต่างๆ มาใช้ ควบคุมอย่างเหมาะสม 2. ำ 1. รเู้ กยี่ วกบั การควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั 1 เฟส 2. เขา้ ใจการนำอุปกรณ์ชนิดตา่ งๆ มาใช้งานเพื่อควบคมุ การเรม่ิ เดนิ และกลบั ทางหมุนมอเตอร์ไฟฟ้า กระแสสลับ 1 เฟส 3. / 1. บอกขั้วมอเตอร์ไฟฟา้ กระแสสลับ 1 เฟสได้ 2. เขียนวงจรขดลวดมอเตอร์ได้ 3. เขียนวงจรเร่ิมเดินและวงจรกลบั ทางหมุนมอเตอร์ดว้ ยอุปกรณช์ นิดตา่ งๆ ได้ 4. บอกการทำงานของวงจรเร่ิมเดินและวงจรกลบั ทางหมุนมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 1 เฟสได้ 5. ปฏบิ ตั ิการต่อวงจรควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 1 เฟสได้ ฤ 1. บอกการทำงานของวงจรเริ่มเดินและวงจรกลบั ทางหมุนมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั 1 เฟสได้ 2. ปฏิบัติการต่อวงจรควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 1 เฟสได้ 4. ื้ / • ( ฤ ฎ) 1. การเร่มิ เดนิ มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 1 เฟส 2. วงจรกลับทางหมนุ มอเตอรไ์ ฟฟา้ กระแสสลบั 1 เฟส • (ฏ ) 1. บอกการทำงานของวงจรเร่ิมเดนิ และวงจรกลบั ทางหมุนมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 1 เฟส 2. ตอ่ วงจรควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 1 เฟส

43 • / 3D / / / 12 เตรียมความพร้อมด้านวสั ดุ อปุ กรณ์ สอดคลอ้ งกับงานและใช้วสั ดุอุปกรณ์อยา่ งคุม้ คา่ ประหยัด ตาม หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ปฏิบัติงานได้ถูกต้องและสำเร็จภายในเวลาที่กำหนดอย่างมีเหตุผล ตาม หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สอนและฝึกหัดให้นักเรียน นักศึกษา รู้จักการทำงานเป็นกลุ่ม การรับฟัง ความคิดเห็นเหตุผลของผู้อื่นและปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ส่งเสริมกิจกรรมที่สร้างความสามัคคี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ช่วยเหลือเกื้อกูล และรักใคร่ปรองดองในสถานศึกษา กระตุ้นและเปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษากล้าที่จะแสดงความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ เช่น กิจกรรมในชั้นเรียน กิจกรรมต่างๆ ของสถานศึกษา และกิจกรรมของชุมชน ปลูกจิตสำนึกให้นักเรียน นักศึกษา มีคุณธรรม จริยธรรม รู้รับผิดชอบชั่วดี มีความ ภูมิใจในความเป็นไทย ให้ความรู้เกี่ยวกับโทษภัยของยาเสพติด และการหลีกเลี่ยงห่างไกลยาเสพติดเพื่อให้มี ภมู ิคมุ้ กันอย่างยง่ั ยืน 5. ื ้ำ ้ ใั 1. ครแู จง้ จุดประสงค์การเรียนรู้ หนว่ ยการเรียน 1. นกั เรียนจดบันทึกจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ้ ฤฎ ้ 2. ครูใหน้ กั เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน 2. นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี น 3. ครบู รรยายเนื้อหาประกอบแผ่นใส/ power point 3. นกั เรยี นฟงั ครูบรรยายและจดบนั ทึก 4. ครใู หน้ กั เรียนศึกษาเน้ือหาการเรยี นรใู้ นหนงั สือ 4. นักเรยี นศึกษาหนว่ ยการเรียนท่ไี ดร้ ับ 5. ซกั ถามนักเรยี นเก่ียวกับเน้ือหาทเี่ รียน มอบหมาย และตอบคำถาม ้ฏ ้ 6. ครใู ห้นักเรยี นศึกษาใบงานการทดลองประจำหนว่ ยการ 6. นกั เรียนศกึ ษาใบงานการทดลองประจำ เรียนรู้ หน่วยการเรยี นรู้ 7. ครูให้นักเรยี นแบง่ กลมุ่ จัดเตรยี มเคร่ืองมือและอปุ กรณ์ตาม 7. นกั เรียนจัดเตรียมเครื่องมือและอุปกรณ์ ใบงานการทดลอง 8. ครสู ังเกตการปฏบิ ตั ิงานและคอยใหค้ ำแนะนำ อยา่ งใกล้ชดิ ้ ้ ำ็ 9. ครูและนักเรียนร่วมกนั สรุปผลการเรียนรู้ 8. นักเรียนชว่ ยกนั สรุปเนอื้ หาท่เี รียนและจด 10. ครูใหน้ กั เรยี นปฏิบตั ิตามใบงานการทดลองประจำหน่วย บันทึก การเรยี นรู้

44 11. ครูคอยสังเกตลำดับข้นั ตอนการทำงานและใหค้ ำแนะนำ 9. นักเรยี นปฏิบตั ิตามใบงานการทดลอง เม่อื พบนกั เรยี นปฏิบัติไม่ถูกต้อง ประจำหนว่ ยการเรียนรู้ เม่ือพบปัญหาให้ 12. ครใู ห้นักเรียนที่ปฏิบัติงานเสรจ็ แล้วส่งตรวจท่ีโตะ๊ ตรวจ สอบถามครผู ูส้ อน งานเพ่ือขอคำแนะนำและและประเมนิ ผล13. ทำแบบทดสอบ 10. นักเรยี นส่งผลการปฏบิ ตั งิ านใหค้ รูตรวจ หลังเรียน 11.นักเรยี นทำแบบทดสอบหลังเรียน 14. ครูแจง้ นโยบายสถานศึกษา 3D ของกระทรวงศึกษา ซ่ึง 12. นักเรยี นช่วยกันสรปุ เนือ้ หาและจดบันทึก เป็นกิจกรรมทีม่ ่งุ สง่ เสรมิ พฒั นาผู้เรียนให้มีคณุ ลักษณะทด่ี ีงาม ประกอบด้วยสาระเกยี่ วกบั เร่ืองท่ีเรยี น 3 ดา้ น คือ 1. ดา้ น 13. นกั เรียนจดบันทกึ นโยบายสถานศกึ ษา ประชาธปิ ไตย (Democracy) 2. ดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม 3 D พร้อมกับอภปิ รายแนวทางนำไปปฏบิ ัติ และความเป็นไทย (Decency) 3. ด้านภูมิคมุ้ กันจากยาเสพ ใช้ในชวี ิตประจำวันและในรายวชิ าทเี่ รียน ตดิ (Drug – Free) 14. นกั เรียนรบั ฟงั และจดบันทกึ หลกั ปรัชญา 15. ครอู ธิบายหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพ่ือบรู ณา ของเศรษฐกจิ พอเพียงโดยมีความรับผดิ ชอบ การเขา้ กับกจิ กรรมการเรยี นการสอน ประกอบด้วย 1. ความ และพยายามสบื ค้นขอ้ มูลและปฏบิ ตั งิ านให้ พอประมาณ 2. ความมีเหตผุ ล 3. การมีภมู ิคุ้มกันในตวั ทด่ี ี สำเร็จอย่างมเี หตุผล 16. ครูซกั ถามนักเรยี นว่ามีขอ้ สงสยั อะไรอีกหรือไม1่ 7. ครใู ห้ 15. นักเรยี นชว่ ยกนั ทำความสะอาดเครอ่ื งมอื นกั เรียนทำความสะอาดห้องเรยี น อปุ กรณ์ จัดห้องเรียนใหเ้ รยี บร้อย ้ ำใ ้ ำใ 18. ครูใหน้ ักเรยี นเขยี นรายงานสรุปผลการเรียนรู้ 16. นกั เรยี นทำแบบสรุปผลการเรยี นรู้ประจำ 19. ครบู ันทึกหลังการสอน หนว่ ยการเรยี น 6. ื 6.1 หนงั สือเรยี นวิชาการควบคุมมอเตอร์ไฟฟา้ 6.2 แผ่นโปสเตอร์ หรอื แผน่ ใสแสดงลักษณะของอปุ กรณ์ควบคุมเคร่ืองกลไฟฟา้ ชนดิ ตา่ งๆ 6.3 อปุ กรณ์ควบคุมเครอ่ื งกลไฟฟา้ ทเ่ี ป็นของจรงิ 6.4 ใบงาน 6.5 แบบทดสอบเพ่อื ประเมินผลหลงั การเรยี นรู้ 6.6 นติ ยสาร วารสารท่เี ก่ียวกบั ไฟฟา้ 6.7 ห้องสมุด 6.8 อินเทอร์เน็ต 7.

45 7.1 ผลการสรุปความรจู้ ากการทำกิจกรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ 7.2 ผลจากการทำใบงาน 7.3 ผลการทำแบบทดสอบเพอื่ ประเมนิ ผลหลังการเรยี นรู้ 8. 8.1เครื่องมอื ประเมิน 1) กิจกรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ 2) แบบประเมินผลใบงาน 3) แบบทดสอบเพ่ือประเมนิ ผลหลังการเรยี นรู้ 8.2 เกณฑ์การประเมิน 1) กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจมีคุณภาพระดบั พอใช้ขน้ึ ไป 2) แบบทดสอบเพ่ือประเมินผลหลงั การเรยี นรู้ ปรนยั และแบบทดสอบพิจารณาข้อถกู และข้อข้อผิด จำนวน 10 ขอ้ ทำถูกต้อง 6 ขอ้ ข้นึ ไป 3) คะแนนใบงานไมต่ ่ำกว่าร้อยละ 60 ข้นึ ไป 9. 9.1 ขอ้ สรปุ หลงั การจัดการเรียนรู้ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… 9.2 ปัญหาท่พี บ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… 9.3 แนวทางแก้ปญั หา ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………

46 51 จงตอบคำถามต่อไปนี้ 1. จงอธิบายการทำงานของสปลิตเฟสมอเตอร์มาพอเข้าใจ สปลิตเฟสมอเตอร์มีขดลวดพันไว้ 2 ชุด คือ ขดลวดชุดรัน และขดลวดชุดสตาร์ต เมื่อจ่ายแรงดันให้กับ ขดลวดทั้งสองชุดและมอเตอร์ไปได้ประมาณ 75% ของความเร็วเต็มพิกัด สวิตช์แรงเหวี่ยงจะตัดวงจรขดลวด ชดุ สตาร์ตออกไป เหลือไว้เฉพาะขดลวดชุดรัน 2. จงอธบิ ายวงจรขดลวดมอเตอร์แบบสปลติ เฟส CS สตาร์ต รัน 3. จงเขียนวงจรเริม่ เดินมอเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสสลับ 1 เฟส ดว้ ย DPST. Switch

47 4. จงเขียนวงจรกลบั ทางหมนุ มอเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสสลบั 1 เฟส ด้วย DPDT. Switch

48 5. จงเขยี นวงจรกลับทางหมนุ (วงจรกำลงั ) โดยใชแ้ มกเนติกคอนแทกเตอร์

49 /6 ื การควบคุมมอเตอร์ไฟฟา้ 9-11 ื การควบคุมมอเตอรไ์ ฟฟา้ กระแสสลับ 3 เฟส 21 ื ื การควบคมุ มอเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟส ำ 21 1. ำ สงิ่ สำคัญในการควบคุมมอเตอร์ไฟฟา้ กระแสสลบั 3 เฟส คือ การใชอ้ ุปกรณ์ตัด-ต่อวงจรขดลวด มอเตอร์ เพ่ือใหม้ อเตอร์หมุนหรือหยดุ หมนุ หรอื หมนุ กลบั ทางอย่างใดอยา่ งหนึ่งตามทผี่ ู้ออกแบบต้องการ ใน หน่วยการเรียนน้จี งึ ได้กลา่ วถึงลกั ษณะการต่อขดลวดแบบสตารแ์ ละแบบเดลตา การเขยี นวงจรควบคุมแบบ ต่างๆ ท่นี ยิ มใช้กนั ทว่ั ไป 2. ำ 1. รูเ้ ก่ยี วกบั การควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟส 2. เขา้ ใจการนำอุปกรณ์ชนดิ ตา่ งๆ มาใช้งานเพ่ือควบคมุ การเร่มิ เดินและกลับทางหมุนมอเตอร์ไฟฟ้า กระแสสลบั 3 เฟส 3. / 1. บอกอักษรกำกับขดลวดแต่ละชุด และขว้ั มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟสได้ 2. อธิบายวิธีการต่อขดลวดภายในมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟสได้ 3. อธิบายวธิ ีการควบคุมมอเตอร์ไฟฟา้ กระแสสลับดว้ ยการเร่ิมเดินโดยตรงและด้วยวิธกี ารลด แรงดันไฟฟ้าได้ 4. อธิบายวิธีการกลับทางหมุนมอเตอร์ได้ 5. เขียนวงจรควบคุมการกลับทางหมนุ ด้วยแมกเนติกคอนแทกเตอร์ได้ 6. ปฏิบัติการต่อวงจรควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟสได้ ฤ 1. เขยี นวงจรควบคุมการกลบั ทางหมุนด้วยแมกเนติกคอนแทกเตอร์ได้ 2. ปฏบิ ัติการต่อวงจรควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟสได้ 4. ื้ / • ( ฤ ฎ) 1. มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟส 2. การตอ่ ขดลวดภายในมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟส

50 3. การเรม่ิ เดนิ มอเตอร์ไฟฟา้ โดยตรง 4. การเริ่มเดินมอเตอร์ไฟฟ้าดว้ ยวิธีการลดแรงดันไฟฟ้า 5. การกลับทางหมนุ มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟส 6. การควบคมุ กลับทางหมุนด้วยแมกเนติกคอนแทกเตอร์ • (ฏ ) 1. เขยี นวงจรควบคุมการกลบั ทางหมุนดว้ ยแมกเนติกคอนแทกเตอร์ได้ 2. ปฏิบัติการต่อวงจรควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟสได้ • / 3D / / / 12 เตรียมความพร้อมดา้ นวัสดุ อปุ กรณ์ สอดคลอ้ งกบั งานและใชว้ สั ดุอุปกรณ์อยา่ งค้มุ ค่า ประหยัด ตาม หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ปฏิบัติงานได้ถูกต้องและสำเร็จภายในเวลาที่กำหนดอย่างมีเหตุผล ตาม หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สอนและฝึกหัดให้นักเรียน นักศึกษา รู้จักการทำงานเป็นกลุ่ม การรับฟัง ความคิดเห็นเหตุผลของผู้อื่นและปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ส่งเสริมกิจกรรมที่สร้างความสามัคคี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ช่วยเหลือเกื้อกูล และรักใคร่ปรองดองในสถานศึกษา กระตุ้นและเปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษากล้าที่จะแสดงความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ เช่น กิจกรรมในชั้นเรียน กิจกรรมต่างๆ ของสถานศึกษา และกิจกรรมของชุมชน ปลูกจิตสำนึกให้นักเรียน นักศึกษา มีคุณธรรม จริยธรรม รู้รับผิดชอบชั่วดี มีความ ภูมิใจในความเป็นไทย ให้ความรู้เกี่ยวกับโทษภัยของยาเสพติด และการหลีกเลี่ยงห่างไกลยาเสพติดเพื่อให้มี ภมู คิ ุ้มกันอยา่ งยัง่ ยืน 5. ื ้ำ ้ ใั 1. ครูแจง้ จุดประสงค์การเรียนรู้ หน่วยการเรียน 1. นกั เรียนจดบนั ทึกจดุ ประสงค์การเรียนรู้ ้ ฤฎ ้ 2. ครใู ห้นักเรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน 2. นกั เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน 3. ครบู รรยายเนือ้ หาประกอบแผน่ ใส/ power point 3. นกั เรียนฟงั ครบู รรยายและจดบนั ทึก 4. ครูให้นกั เรียนศึกษาเน้ือหาการเรียนรู้ในหนงั สือ 4. นักเรยี นศึกษาหน่วยการเรียนทไ่ี ดร้ ับ 5. ซกั ถามนักเรยี นเกยี่ วกบั เนื้อหาท่ีเรยี น มอบหมาย และตอบคำถาม ้ฏ ้ 6. ครูใหน้ กั เรียนศึกษาใบงานการทดลองประจำหนว่ ยการ 6. นกั เรยี นศึกษาใบงานการทดลองประจำ เรียนรู้ หนว่ ยการเรยี นรู้

51 7. ครใู หน้ ักเรียนแบง่ กลมุ่ จัดเตรียมเคร่อื งมือและอุปกรณต์ าม 7. นักเรียนจัดเตรียมเคร่ืองมือและอปุ กรณ์ ใบงานการทดลอง 8. ครูสังเกตการปฏิบัติงานและคอยให้คำแนะนำ อยา่ งใกล้ชดิ ้ ้ ำ็ 9. ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรุปผลการเรียนรู้ 8. นักเรยี นช่วยกนั สรุปเนื้อหาที่เรยี นและจด 10. ครใู หน้ กั เรียนปฏบิ ัติตามใบงานการทดลองประจำหน่วย บนั ทึก การเรยี นรู้ 9. นกั เรียนปฏบิ ตั ิตามใบงานการทดลอง 11. ครคู อยสังเกตลำดับข้ันตอนการทำงานและให้คำแนะนำ ประจำหนว่ ยการเรียนรู้ เม่ือพบปัญหาให้ เม่อื พบนักเรียนปฏิบัติไมถ่ ูกต้อง สอบถามครูผูส้ อน 12. ครูให้นกั เรียนท่ีปฏิบัติงานเสร็จแลว้ สง่ ตรวจทโี่ ต๊ะตรวจ 10. นกั เรยี นส่งผลการปฏิบัติงานให้ครูตรวจ งานเพ่ือขอคำแนะนำและและประเมนิ ผล13. ทำแบบทดสอบ 11.นักเรียนทำแบบทดสอบหลงั เรียน หลังเรียน 12. นักเรียนช่วยกันสรปุ เนื้อหาและจดบันทึก 14. ครแู จ้งนโยบายสถานศึกษา 3D ของกระทรวงศึกษา ซ่ึง ประกอบด้วยสาระเกย่ี วกับเร่ืองท่ีเรยี น เป็นกจิ กรรมท่มี ุ่งสง่ เสริมพฒั นาผู้เรยี นให้มคี ณุ ลักษณะทีด่ ีงาม 13. นักเรยี นจดบนั ทกึ นโยบายสถานศกึ ษา 3 ด้าน คอื 1. ดา้ น 3 D พร้อมกบั อภิปรายแนวทางนำไปปฏบิ ัติ ประชาธปิ ไตย (Democracy) 2. ด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ใชใ้ นชวี ิตประจำวนั และในรายวชิ าท่ีเรียน และความเป็นไทย (Decency) 3. ด้านภูมคิ ุ้มกันจากยาเสพ 14. นกั เรียนรับฟงั และจดบนั ทึกหลักปรัชญา ตดิ (Drug – Free) ของเศรษฐกิจพอเพียงโดยมีความรบั ผิดชอบ 15. ครอู ธบิ ายหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพ่ือบูรณา และพยายามสืบคน้ ขอ้ มลู และปฏิบตั งิ านให้ การเขา้ กบั กจิ กรรมการเรียนการสอน ประกอบดว้ ย 1. ความ สำเร็จอย่างมเี หตผุ ล พอประมาณ 2. ความมีเหตผุ ล 3. การมภี ูมิคมุ้ กนั ในตวั ท่ดี ี 15. นกั เรียนชว่ ยกันทำความสะอาดเคร่อื งมือ 16. ครูซักถามนกั เรียนว่ามีข้อสงสัยอะไรอีกหรือไม1่ 7. ครใู ห้ อุปกรณ์ จัดห้องเรยี นใหเ้ รียบร้อย นักเรียนทำความสะอาดหอ้ งเรยี น ้ ำใ ้ ำใ 18. ครูใหน้ ักเรยี นเขียนรายงานสรปุ ผลการเรียนรู้ 16. นกั เรียนทำแบบสรุปผลการเรยี นรูป้ ระจำ 19. ครบู นั ทกึ หลงั การสอน หน่วยการเรียน 6. ื 6.1 หนังสือเรียนวิชาการควบคมุ มอเตอร์ไฟฟ้า 6.2 แผน่ โปสเตอร์ หรือแผน่ ใสแสดงลกั ษณะของอุปกรณ์ควบคมุ เครื่องกลไฟฟา้ ชนิดต่างๆ

52 6.3 อุปกรณ์ควบคมุ เครือ่ งกลไฟฟา้ ท่ีเปน็ ของจรงิ 6.4 ใบงาน 6.5 แบบทดสอบเพอื่ ประเมินผลหลงั การเรยี นรู้ 6.6 นติ ยสาร วารสารที่เกยี่ วกบั ไฟฟา้ 6.7 หอ้ งสมดุ 6.8 อินเทอรเ์ น็ต 7. 7.1 ผลการสรุปความรู้จากการทำกจิ กรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ 7.2 ผลจากการทำใบงาน 7.3 ผลการทำแบบทดสอบเพื่อประเมนิ ผลหลังการเรียนรู้ 8. 8.1เครอ่ื งมือประเมนิ 1) กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 2) แบบประเมินผลใบงาน 3) แบบทดสอบเพ่ือประเมินผลหลังการเรยี นรู้ 8.2 เกณฑ์การประเมิน 1) กิจกรรมตรวจสอบความเขา้ ใจมคี ุณภาพระดบั พอใชข้ ้นึ ไป 2) แบบทดสอบเพื่อประเมินผลหลงั การเรียนรู้ ปรนัย และแบบทดสอบพิจารณาข้อถกู และข้อขอ้ ผิด จำนวน 10 ข้อ ทำถกู ต้อง 6 ขอ้ ขึน้ ไป 3) คะแนนใบงานไม่ตำ่ กวา่ รอ้ ยละ 60 ขึน้ ไป 9. 9.1 ข้อสรุปหลังการจดั การเรียนรู้ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………… 9.2 ปญั หาท่พี บ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………

53 9.3 แนวทางแก้ปัญหา ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………

6 54 จงตอบคำถามต่อไปนี้ 3 1. จงเขยี นอกั ษรกำกบั ขดลวดมอเตอรไ์ ฟฟา้ กระแสสลบั 3 เฟส 2. จงเขยี นวงจรการตอ่ ขดลวดมอเตอรแ์ บบสตาร์และแบบเดลตา

55 3. จงเขียนวงจรกำลังซึ่งควบคุมด้วยแมกเนติกคอนแทกเตอร์ พรอ้ มกบั อธิบายสว่ นประกอบของวงจร การเขียนวงจรกำลงั - F1 คือ เมนฟิวส์ - F3 คือ โอเวอร์โหลดรเี ลย์ - K1 คือ หน้าสมั ผัสเมน - M3 คือ มอเตอรไ์ ฟฟ้า 3 เฟส และสายไฟฟ้า 4. จงอธบิ ายหลักการกลบั ทางหมนุ มอเตอร์ 3 เฟส การกลับหมุนมอเตอร์ 3 เฟส จะใช้หลักการสลับทิศทางสนามแม่เหล็กหมุน โดยการสลับสายจ่ายไฟเข้า ตัวมอเตอร์ 5. จงอธบิ ายการกลับทางหมุนตอ่ ไปน้ี 5.1 Jogging เป็นการกลับทางหมุนชัว่ ขณะ ถ้าไมก่ ดสวติ ช์มอเตอร์จะไม่หมุน 5.2 Direct Reversing เปน็ การกลับทางหมนุ ทันทที นั ใด 5.3 Reversing After Stop การกลบั ทางหมนุ โดยตอ้ งกดให้หยดุ ก่อน 5.4 Automatic Reversing เป็นการกลบั ทางหมุนอตั โนมัติ

56 /7 ื การควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้า 12-13 ื การเริ่มเดนิ มอเตอร์แบบสตาร์-เดลตา และการเรม่ิ เดินดว้ ย 14 ออโต้ทรานส์ฟอรเ์ มอร์ ื ื การเร่ิมเดินมอเตอรแ์ บบสตาร์-เดลตา และการเริ่มเดนิ ดว้ ยออโต้ทรานส์ฟอร์ ำ 14 เมอร์ 1. ำ การเร่ิมเดินมอเตอร์แบบสตาร์-เดลตา และการเร่ิมเดินด้วยออโต้ทรานฟอรเ์ มอร์ คอื เทคนคิ วธิ ขี อง การลดแรงดันขณะเริม่ เดนิ ต่อมาเมื่อมอเตอร์เรมิ่ หมุนได้บ้างแล้ว กระแสไฟฟ้าเริ่มเดนิ จะมคี ่าลดลง จึงค่อย เปลย่ี นมาเป็นการจา่ ยแรงดนั ไฟฟ้าเท่ากบั แรงดนั ไฟฟา้ เตม็ พกิ ดั ของมอเตอร์ ซ่ึงจะไมม่ ีผลใดๆ ต่อการทำงาน ของมอเตอร์ไฟฟา้ 3 เฟส จะมีกเ็ พียงแตแ่ รงบิดหรือทอร์กลดลงบา้ งเลก็ นอ้ ยเท่านน้ั 2. ำ 1. รเู้ กยี่ วกบั การเร่ิมเดนิ มอเตอรแ์ บบสตาร์-เดลตา และการเรมิ่ เดนิ ดว้ ยออโต้ทรานส์ฟอร์เมอร์ 2. เข้าใจการลดกระแสไฟฟ้าขณะเร่ิมเดินมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟส 3. / 1. บอกเทคนิควธิ ีการเริ่มเดินมอเตอร์แบบสตาร์-เดลตาได้ 2. บอกวธิ ีการเร่ิมเดนิ มอเตอร์ด้วยออโต้ทรานส์ฟอรเ์ มอร์ได้ 3. บอกขั้นตอนการเริ่มเดินมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส แบบสตาร์-เดลตาดว้ ยสวิตช์ 3 ขว้ั สับ 2 ทางได้ถูกต้อง 4. เขียนวงจรกำลังและวงจรควบคุมการเริม่ เดินมอเตอร์แบบสตาร์-เดลตาโดยใช้แมกเนติกคอน แทก-เตอรท์ ี่ควบคุมด้วยมือและควบคุมอัตโนมตั ิได้ 5. เขียนวงจรกำลังและวงจรควบคุมการเรม่ิ เดินมอเตอร์ดว้ ยออโต้ทรานส์ฟอรเ์ มอร์ได้ 6. ปฏบิ ัติการต่อวงจรเร่ิมเดินมอเตอร์แบบสตาร์-เดลตา และด้วยออโต้ทรานส์ฟอร์เมอร์ได้ ฤ 1. เขียนวงจรกำลงั และวงจรควบคุมการเร่ิมเดินมอเตอรด์ ้วยออโต้ทรานส์ฟอรเ์ มอร์ได้ 2. ปฏิบตั ิการต่อวงจรเร่ิมเดินมอเตอร์แบบสตาร์-เดลตา และด้วยออโต้ทรานส์ฟอร์เมอร์ได้ 4. ื้ /

57 • ( ฤ ฎ) 1. การเริ่มเดินมอเตอร์แบบสตาร์-เดลตา 2. การเรมิ่ เดินด้วยออโต้ทรานสฟ์ อร์เมอร์ • (ฏ ) 1. เขียนวงจรกำลงั และวงจรควบคุมการเรม่ิ เดินมอเตอรด์ ว้ ยออโต้ทรานส์ฟอรเ์ มอร์ได้ 2. ปฏบิ ัติการต่อวงจรเริ่มเดินมอเตอร์แบบสตาร์-เดลตา และด้วยออโต้ทรานส์ฟอรเ์ มอร์ได้• / 3D / / / 12 เตรยี มความพรอ้ มด้านวสั ดุ อปุ กรณ์ สอดคลอ้ งกบั งานและใช้วัสดุอุปกรณ์อยา่ งคุม้ คา่ ประหยัด ตาม หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ปฏิบัติงานได้ถูกต้องและสำเร็จภายในเวลาที่กำหนดอย่างมีเหตุผล ตาม หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สอนและฝึกหัดให้นักเรียน นักศึกษา รู้จักการทำงานเป็นกลุ่ม การรับฟัง ความคิดเห็นเหตุผลของผู้อื่นและปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ส่งเสริมกิจกรรมที่สร้างความสามัคคี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ช่วยเหลือเกื้อกูล และรักใคร่ปรองดองในสถานศึกษา กระตุ้นและเปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษากล้าที่จะแสดงความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ เช่น กิจกรรมในชั้นเรียน กิจกรรมต่างๆ ของสถานศึกษา และกิจกรรมของชุมชน ปลูกจิตสำนึกให้นักเรียน นักศึกษา มีคุณธรรม จริยธรรม รู้รับผิดชอบชั่วดี มีความ ภูมิใจในความเป็นไทย ให้ความรู้เกี่ยวกับโทษภัยของยาเสพติด และการหลีกเลี่ยงห่างไกลยาเสพติดเพื่อให้มี ภูมิค้มุ กันอยา่ งยั่งยืน 5. ื ้ำ ้ ใั 1. ครูแจง้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ หน่วยการเรียน 1. นกั เรียนจดบนั ทกึ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ้ ฤฎ ้ 2. ครใู ห้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน 2. นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน 3. ครูบรรยายเนือ้ หาประกอบแผน่ ใส/ power point 3. นักเรยี นฟงั ครูบรรยายและจดบนั ทึก 4. ครใู หน้ กั เรียนศึกษาเน้ือหาการเรียนร้ใู นหนงั สือ 4. นักเรยี นศกึ ษาหน่วยการเรียนท่ีได้รบั 5. ซักถามนักเรียนเก่ยี วกบั เน้ือหาทเี่ รียน มอบหมาย และตอบคำถาม ้ฏ ้ 6. ครใู ห้นักเรียนศึกษาใบงานการทดลองประจำหน่วยการ 6. นักเรยี นศกึ ษาใบงานการทดลองประจำ เรียนรู้ หน่วยการเรยี นรู้ 7. นกั เรียนจัดเตรียมเครื่องมือและอุปกรณ์

58 7. ครใู หน้ ักเรียนแบง่ กลุ่มจดั เตรียมเครื่องมือและอุปกรณต์ าม ใบงานการทดลอง 8. ครสู ังเกตการปฏิบตั งิ านและคอยให้คำแนะนำ อย่างใกล้ชิด ้ ้ ำ็ 9. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรุปผลการเรยี นรู้ 8. นักเรยี นช่วยกันสรุปเนอื้ หาท่เี รยี นและจด 10. ครูให้นักเรยี นปฏิบตั ิตามใบงานการทดลองประจำหน่วย บันทกึ การเรียนรู้ 9. นกั เรียนปฏิบตั ิตามใบงานการทดลอง 11. ครูคอยสงั เกตลำดบั ขน้ั ตอนการทำงานและให้คำแนะนำ ประจำหนว่ ยการเรยี นรู้ เม่ือพบปญั หาให้ เม่อื พบนกั เรียนปฏบิ ัติไม่ถูกต้อง สอบถามครูผูส้ อน 12. ครใู หน้ กั เรยี นทปี่ ฏิบตั งิ านเสร็จแล้วส่งตรวจทีโ่ ตะ๊ ตรวจ 10. นกั เรียนส่งผลการปฏิบัตงิ านใหค้ รตู รวจ งานเพ่ือขอคำแนะนำและและประเมินผล13. ทำแบบทดสอบ 11.นกั เรยี นทำแบบทดสอบหลังเรยี น หลงั เรยี น 12. นกั เรียนช่วยกนั สรปุ เนอื้ หาและจดบนั ทึก 14. ครแู จง้ นโยบายสถานศึกษา 3D ของกระทรวงศกึ ษา ซึ่ง ประกอบดว้ ยสาระเกย่ี วกับเร่ืองที่เรยี น เปน็ กจิ กรรมที่มงุ่ สง่ เสริมพัฒนาผู้เรยี นให้มีคณุ ลักษณะทีด่ ีงาม 13. นักเรียนจดบันทกึ นโยบายสถานศกึ ษา 3 ด้าน คือ 1. ดา้ น 3 D พรอ้ มกับอภิปรายแนวทางนำไปปฏิบตั ิ ประชาธปิ ไตย (Democracy) 2. ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ใชใ้ นชวี ติ ประจำวันและในรายวิชาทเ่ี รยี น และความเป็นไทย (Decency) 3. ด้านภมู คิ ุ้มกนั จากยาเสพ 14. นกั เรียนรับฟังและจดบันทึกหลกั ปรชั ญา ตดิ (Drug – Free) ของเศรษฐกิจพอเพียงโดยมีความรบั ผดิ ชอบ 15. ครูอธิบายหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพ่ือบูรณา และพยายามสบื ค้นข้อมูลและปฏบิ ตั ิงานให้ การเขา้ กบั กิจกรรมการเรียนการสอน ประกอบดว้ ย 1. ความ สำเรจ็ อยา่ งมีเหตผุ ล พอประมาณ 2. ความมีเหตผุ ล 3. การมีภมู ิค้มุ กันในตวั ทีด่ ี 15. นกั เรยี นชว่ ยกนั ทำความสะอาดเครอ่ื งมือ 16. ครูซกั ถามนักเรียนว่ามีข้อสงสยั อะไรอีกหรอื ไม่17. ครูให้ อุปกรณ์ จดั ห้องเรียนให้เรยี บร้อย นักเรยี นทำความสะอาดหอ้ งเรยี น ้ ำใ ้ ำใ 18. ครูให้นกั เรียนเขียนรายงานสรุปผลการเรียนรู้ 16. นักเรียนทำแบบสรุปผลการเรียนรู้ประจำ 19. ครบู ันทึกหลงั การสอน หน่วยการเรียน 6. ื 6.1 หนงั สอื เรียนวชิ าการควบคุมมอเตอร์ไฟฟา้ 6.2 แผ่นโปสเตอร์ หรือแผ่นใสแสดงลักษณะของอปุ กรณ์ควบคุมเครือ่ งกลไฟฟ้าชนดิ ต่างๆ

59 6.3 อุปกรณ์ควบคุมเครือ่ งกลไฟฟ้าท่ีเปน็ ของจรงิ 6.4 ใบงาน 6.5 แบบทดสอบเพอื่ ประเมินผลหลงั การเรยี นรู้ 6.6 นิตยสาร วารสารทเี่ ก่ยี วกับไฟฟา้ 6.7 หอ้ งสมดุ 6.8 อินเทอร์เน็ต 7. 7.1 ผลการสรุปความรจู้ ากการทำกจิ กรรมตรวจสอบความเข้าใจ 7.2 ผลจากการทำใบงาน 7.3 ผลการทำแบบทดสอบเพือ่ ประเมนิ ผลหลังการเรียนรู้ 8. 8.1เครือ่ งมือประเมิน 1) กจิ กรรมตรวจสอบความเข้าใจ 2) แบบประเมนิ ผลใบงาน 3) แบบทดสอบเพ่ือประเมินผลหลังการเรียนรู้ 8.2 เกณฑ์การประเมนิ 1) กจิ กรรมตรวจสอบความเขา้ ใจมีคุณภาพระดบั พอใช้ขึ้นไป 2) แบบทดสอบเพื่อประเมินผลหลงั การเรยี นรู้ ปรนัย และแบบทดสอบพจิ ารณาข้อถกู และข้อขอ้ ผดิ จำนวน 10 ขอ้ ทำถกู ต้อง 6 ขอ้ ข้นึ ไป 3) คะแนนใบงานไม่ต่ำกวา่ ร้อยละ 60 ขน้ึ ไป 9. 9.1 ข้อสรปุ หลงั การจดั การเรียนรู้ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………… 9.2 ปญั หาท่พี บ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………

60 9.3 แนวทางแก้ปัญหา ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………

61 7 - จงตอบคำถามต่อไปน้ี 1. จงอธบิ ายการทำงานของวงจรควบคมุ Manual Star-Delta ดังรูป การทำงานของวงจรควบคุม Manual Star-Delta - เรมิ่ ตน้ จากเม่ือกด S2 แมกเนตกิ คอนแทกเตอร์ K2 และ K1 จะทำงานเรม่ิ หมนุ แบบสตาร์ - พอหมุนได้ประมาณ 75% กด S3 จะตัดแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K2 ออกไป แล้วต่อให้ K3 ทำงาน รว่ มกบั K1 ตลอดไป เปน็ การรนั แบบเดลตา

62 2. จงอธิบายการทำงานของวงจรควบคุม Automatic Star-Delta ดังรปู การทำงานของวงจรควบคุม Automatic Star-Delta - เริ่มตน้ ต้องกด S2 แมกเนติกคอนแทกเตอร์ K2 และ K1 จะทำงานเร่ิมหมุนแบบสตาร์ - พอครบเวลาท่ปี รับตงั้ ไว้ รเี ลยห์ น่วงเวลา K4T จะตัดวงจร K2 ออกไป แล้วตอ่ ให้ K3 ทำงาน .

63 3. จงบอกเง่ือนไขการทำงานของแมกเนติกคอนแทกเตอร์ K1, K2, K3 จากวงจรกำลงั ของการเริ่มเดนิ มอเตอร์ด้วยออโต้ทรานส์ฟอร์เมอร์ ดงั รูป เงอื่ นไขการทำงาน คือ - ตอนแรกตอ้ งให้ K1 ทำงาน ตามด้วย K2 - หลังจากมอเตอร์หมุนได้ประมาณ 80% กด S3 จะตัด K1 และ K2 ออกไปแล้วต่อให้ K3 ทำงานเพื่อ รับแรงดนั เตม็ พกิ ดั ตลอดไป

64 /8 ื การควบคมุ มอเตอร์ไฟฟา้ 14 ื การเริ่มเดินมอเตอร์ดว้ ยความต้านทานและการเริ่มเดนิ 7 มอเตอรแ์ บบวาวด์โรเตอร์ ื ื การเริ่มเดนิ มอเตอรด์ ้วยความตา้ นทานและการเร่มิ เดินมอเตอร์แบบวาวด์โร ำ 7 เตอร์ 1. ำ การเริ่มเดินมอเตอรโ์ ดยใช้ความต้านทาน มจี ดุ ประสงค์เช่นเดยี วกบั การเรมิ่ เดินดว้ ยออโตท้ รานส์ ฟอร์-เมอร์ คือ ลดแรงดันในช่วงสตารต์ ให้ต่ำลง ซ่งึ มีผลทำใหก้ ระแสในชว่ งสตาร์ตมีคา่ ลดลงไปดว้ ย ตอ่ มาเมอ่ื มอเตอร์ทำงานและมคี วามเร็วเพ่ิมสูงข้ึน จึงค่อยๆ ลดค่าความต้านทานให้หมดไปจากวงจรขดลวดของ มอเตอร์ สำหรับการเร่ิมเดินมอเตอร์แบบวาวด์โรเตอร์ จะใชค้ วามต้านทานภายนอกมาต่อเขา้ กบั วงจรของโร เตอร์ เมื่อหมุนได้แลว้ ค่อยตัดความตา้ นทานนี้ออกไป 2. ำ 1. รู้เกี่ยวกบั การเร่มิ เดนิ มอเตอร์ดว้ ยความตา้ นทาน และการเรม่ิ เดินมอเตอร์แบบวาวดโ์ รเตอร์ 2. เข้าใจขนั้ ตอนวิธกี ารเร่ิมเดินมอเตอร์ด้วยความต้านทาน และการเริ่มเดินมอเตอร์แบบวาวด์โร เตอร์ 3. / 1. เขียนวงจรกำลังและวงจรควบคุมการเริ่มเดินมอเตอรด์ ้วยความต้านทานไดถ้ ูกต้อง 2. อธิบายลำดับการทำงานของวงจรกำลังและวงจรควบคุมได้ถกู ต้อง 3. เขียนวงจรกำลังและวงจรควบคุมการเริม่ เดินมอเตอร์แบบวาวดโ์ รเตอร์ได้ 4. อธิบายลำดับการทำงานของการเริ่มเดนิ มอเตอร์แบบวาวด์โรเตอร์ได้ ฤ 1. เขียนวงจรกำลังและวงจรควบคุมการเรมิ่ เดินมอเตอร์แบบวาวดโ์ รเตอร์ได้ 2. อธิบายลำดับการทำงานของการเร่ิมเดินมอเตอร์แบบวาวด์โรเตอร์ได้ 4. ้ื / • ( ฤ ฎ) 1. การเร่มิ เดินมอเตอรด์ ้วยความตา้ นทาน

65 2. การเริ่มเดนิ มอเตอร์แบบวาวดโ์ รเตอร์ • (ฏ ) 1. เขียนวงจรกำลังและวงจรควบคุมการเรมิ่ เดินมอเตอร์แบบวาวดโ์ รเตอร์ได้ 2. อธิบายลำดับการทำงานของการเริ่มเดินมอเตอร์แบบวาวด์โรเตอร์ได้ • / 3D / / / 12 เตรยี มความพร้อมดา้ นวสั ดุ อุปกรณ์ สอดคลอ้ งกบั งานและใชว้ สั ดุอุปกรณ์อยา่ งคุม้ ค่า ประหยัด ตาม หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ปฏิบัติงานได้ถูกต้องและสำเร็จภายในเวลาที่กำหนดอย่างมีเหตุผล ตาม หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สอนและฝึกหัดให้นักเรียน นักศึกษา รู้จักการทำงานเป็นกลุ่ม การรับฟัง ความคิดเห็นเหตุผลของผู้อื่นและปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ส่งเสริมกิจกรรมที่สร้างความสามัคคี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ช่วยเหลือเกื้อกูล และรักใคร่ปรองดองในสถานศึกษา กระตุ้นและเปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษากล้าที่จะแสดงความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ เช่น กิจกรรมในชั้นเรียน กิจกรรมต่างๆ ของสถานศึกษา และกิจกรรมของชุมชน ปลูกจิตสำนึกให้นักเรียน นักศึกษา มีคุณธรรม จริยธรรม รู้รับผิดชอบชั่วดี มีความ ภูมิใจในความเป็นไทย ให้ความรู้เกี่ยวกับโทษภัยของยาเสพติด และการหลีกเลี่ยงห่างไกลยาเสพติดเพื่อให้มี ภมู ิค้มุ กันอยา่ งยงั่ ยืน 5. ื ้ำ ้ ใั 1. ครแู จ้งจดุ ประสงค์การเรียนรู้ หน่วยการเรยี น 1. นักเรียนจดบันทกึ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ้ ฤฎ ้ 2. ครูใหน้ ักเรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรยี น 2. นกั เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน 3. ครบู รรยายเนื้อหาประกอบแผ่นใส/ power point 3. นักเรยี นฟงั ครูบรรยายและจดบนั ทึก 4. ครใู หน้ ักเรียนศึกษาเนื้อหาการเรียนรใู้ นหนังสือ 4. นกั เรียนศกึ ษาหนว่ ยการเรียนท่ไี ดร้ ับ 5. ซักถามนักเรียนเกย่ี วกับเนื้อหาที่เรียน มอบหมาย และตอบคำถาม ้ฏ ้ 6. ครใู ห้นักเรียนศึกษาใบงานการทดลองประจำหน่วยการ 6. นกั เรียนศกึ ษาใบงานการทดลองประจำ เรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ 7. ครใู หน้ ักเรยี นแบง่ กลุ่มจัดเตรยี มเครื่องมือและอุปกรณ์ตาม 7. นักเรียนจดั เตรยี มเคร่ืองมือและอุปกรณ์ ใบงานการทดลอง 8. ครสู ังเกตการปฏิบัติงานและคอยให้คำแนะนำ

66 อยา่ งใกล้ชิด ้ ้ ำ็ 9. ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรุปผลการเรียนรู้ 8. นกั เรยี นช่วยกันสรปุ เนอ้ื หาท่เี รยี นและจด 10. ครูให้นกั เรียนปฏบิ ัติตามใบงานการทดลองประจำหน่วย บนั ทกึ การเรยี นรู้ 9. นักเรยี นปฏิบัติตามใบงานการทดลอง 11. ครูคอยสังเกตลำดับขั้นตอนการทำงานและให้คำแนะนำ ประจำหน่วยการเรยี นรู้ เมื่อพบปัญหาให้ เม่ือพบนกั เรียนปฏิบัติไม่ถูกต้อง สอบถามครผู ู้สอน 12. ครูใหน้ ักเรียนท่ีปฏบิ ตั ิงานเสรจ็ แลว้ ส่งตรวจที่โตะ๊ ตรวจ 10. นกั เรียนส่งผลการปฏิบัตงิ านให้ครตู รวจ งานเพ่ือขอคำแนะนำและและประเมินผล13. ทำแบบทดสอบ 11.นกั เรยี นทำแบบทดสอบหลังเรยี น หลังเรียน 12. นักเรยี นช่วยกนั สรปุ เน้อื หาและจดบันทึก 14. ครแู จง้ นโยบายสถานศึกษา 3D ของกระทรวงศกึ ษา ซึ่ง ประกอบด้วยสาระเก่ยี วกบั เรื่องทเี่ รยี น เปน็ กจิ กรรมท่มี ุ่งส่งเสริมพฒั นาผู้เรยี นให้มคี ุณลักษณะทด่ี ีงาม 13. นกั เรียนจดบนั ทึกนโยบายสถานศกึ ษา 3 ด้าน คอื 1. ด้าน 3 D พรอ้ มกับอภปิ รายแนวทางนำไปปฏบิ ตั ิ ประชาธปิ ไตย (Democracy) 2. ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม ใช้ในชวี ิตประจำวันและในรายวชิ าทเี่ รียน และความเปน็ ไทย (Decency) 3. ดา้ นภมู ิคมุ้ กันจากยาเสพ 14. นกั เรยี นรับฟงั และจดบันทกึ หลกั ปรัชญา ตดิ (Drug – Free) ของเศรษฐกิจพอเพียงโดยมีความรับผดิ ชอบ 15. ครูอธิบายหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งเพื่อบูรณา และพยายามสืบค้นข้อมลู และปฏิบัติงานให้ การเข้ากับกิจกรรมการเรยี นการสอน ประกอบดว้ ย 1. ความ สำเร็จอยา่ งมเี หตผุ ล พอประมาณ 2. ความมีเหตผุ ล 3. การมภี มู คิ ุ้มกันในตวั ทด่ี ี 15. นักเรยี นชว่ ยกันทำความสะอาดเคร่อื งมือ 16. ครซู ักถามนกั เรยี นว่ามีขอ้ สงสัยอะไรอีกหรอื ไม1่ 7. ครใู ห้ อุปกรณ์ จดั ห้องเรยี นให้เรยี บร้อย นกั เรียนทำความสะอาดหอ้ งเรยี น ้ ำใ ้ ำใ 18. ครูให้นักเรยี นเขยี นรายงานสรปุ ผลการเรยี นรู้ 16. นกั เรียนทำแบบสรุปผลการเรยี นรปู้ ระจำ 19. ครูบันทกึ หลงั การสอน หน่วยการเรยี น 6. ื 6.1 หนงั สือเรียนวชิ าการควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้า 6.2 แผ่นโปสเตอร์ หรอื แผ่นใสแสดงลกั ษณะของอปุ กรณค์ วบคมุ เคร่อื งกลไฟฟา้ ชนดิ ตา่ งๆ 6.3 อุปกรณ์ควบคุมเคร่ืองกลไฟฟ้าทเี่ ปน็ ของจรงิ 6.4 ใบงาน 6.5 แบบทดสอบเพื่อประเมินผลหลังการเรยี นรู้

67 6.6 นิตยสาร วารสารท่เี กีย่ วกับไฟฟ้า 6.7 ห้องสมดุ 6.8 อนิ เทอร์เน็ต 7. 7.1 ผลการสรุปความรู้จากการทำกิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 7.2 ผลจากการทำใบงาน 7.3 ผลการทำแบบทดสอบเพอื่ ประเมินผลหลังการเรียนรู้ 8. 8.1เครื่องมือประเมิน 1) กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 2) แบบประเมนิ ผลใบงาน 3) แบบทดสอบเพื่อประเมนิ ผลหลงั การเรยี นรู้ 8.2 เกณฑ์การประเมนิ 1) กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจมคี ุณภาพระดับพอใชข้ ึ้นไป 2) แบบทดสอบเพื่อประเมนิ ผลหลงั การเรยี นรู้ ปรนยั และแบบทดสอบพิจารณาข้อถูกและขอ้ ขอ้ ผิด จำนวน 10 ข้อ ทำถกู ต้อง 6 ขอ้ ขน้ึ ไป 3) คะแนนใบงานไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 ขน้ึ ไป 9. 9.1 ข้อสรุปหลงั การจดั การเรียนรู้ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………… 9.2 ปญั หาทพี่ บ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………… 9.3 แนวทางแกป้ ญั หา ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

68 8 จงตอบคำถามต่อไปน้ี 1. จุดประสงคข์ องการเร่มิ เดินมอเตอร์ดว้ ยความตา้ นทานคืออะไร ตอ้ งการลดคา่ กระแสไฟฟ้าในตอนเร่ิมเดิน 2. จงบอกวิธกี ารเร่มิ เดนิ มอเตอรเ์ หนย่ี วนำ 3 เฟสแบบวาวด์โรเตอร์ วธิ ีการเร่ิมเดนิ มอเตอร์เหน่ียวนำ 3 เฟสแบบวาวด์โรเตอร์ คอื การนำความต้านทานภายนอกมาต่อเข้ากับ วงจรขดลวดโรเตอร์ จากนั้นค่อยจ่ายไฟให้กับขดลวดสเตเตอร์ ต่อมาเมื่อมอเตอร์เริ่มเดินได้แล้วจึงปลดความ ตา้ นทานออกจากวงจรขดลวดโรเตอร์ 3. จงอธิบายหลักการเริ่มเดินมอเตอร์ดว้ ยความต้านทาน วงจรดงั รูป หลังการเริ่มเดินมอเตอร์ด้วยความต้านทาน คือ การนำความต้านทาน R1 มาต่ออนุกรมกับขดลวด สเตเตอร์ (K1 ทำงาน) หลังจากที่มอเตอร์หมุนได้แล้วจะเพิ่มแรงดันที่จ่ายให้มอเตอร์ (ให้ K2 ทำงาน) และให้ K3 ทำงานเพ่อื ลัดวงจร R1 ออกไป

69 4. จงอธบิ ายหลกั การเริม่ เดินมอเตอร์ไฟฟ้าเหน่ยี วนำ 3 เฟสแบบวาวดโ์ รเตอร์ วงจรดงั รปู หลกั การเร่มิ เดนิ มอเตอรเ์ หนีย่ วนำ 3 เฟสแบบวาวด์โรเตอร์ - ตอนแรกจะให้ความตา้ นทาน R2 และ R1 ตอ่ เขา้ กับวงจรโรเตอร์ - เมือ่ มอเตอร์เร่ิมหมนุ ไดแ้ ลว้ ค่อยตดั R2 และ R1 ออกตามลำดับ

70 /9 ื การควบคมุ มอเตอร์ไฟฟ้า 15-16 ื การเริ่มเดนิ มอเตอรแ์ บบเรยี งลำดบั และการควบคมุ 21 มอเตอรส์ องความเร็ว ื ื การเร่ิมเดนิ มอเตอรแ์ บบเรียงลำดบั และการควบคุมมอเตอร์สองความเร็ว ำ 21 1. ำ การเร่ิมเดนิ มอเตอร์ใหท้ ำงานเรยี งลำดบั กันไปน้ัน เปน็ การสร้างเงือ่ นไขให้มอเตอร์ทำงานตามความ จำเป็นของงาน ซึง่ มักพบเห็นท่วั ไปในงานอตุ สาหกรรม สำหรับการควบคุมมอเตอรส์ องความเร็วเป็นการเพิ่ม และลดจำนวนขว้ั แมเ่ หลก็ ภายในมอเตอร์ตัวเดยี ว เพ่ือให้มอเตอร์หมนุ ได้เรว็ ข้ึนกวา่ เดมิ หรือหมนุ ไดช้ ้าลง 2. ำ 1. รู้เก่ยี วกบั การเรมิ่ เดนิ มอเตอรแ์ บบเรยี งลำดับและการควบคมุ มอเตอร์สองความเรว็ 2. เขา้ ใจวิธีการเรมิ่ เดินมอเตอรแ์ บบเรยี งลำดับและการควบคมุ มอเตอร์สองความเร็ว 3. / 1. บอกวิธีการเริ่มเดนิ มอเตอร์แบบเรียงลำดบั ได้ 2. เขียนวงจรและอธิบายการทำงานของวงจรควบคุมการเริ่มเดินมอเตอร์แบบเรียงลำดับได้ 3. สามารถนำรีเลย์หน่วงเวลามาใช้ควบคุมใหว้ งจรทำงานแบบอัตโนมัติได้ 4. เขียนวงจรกำลังและอธิบายการทำงานของวงจรควบคุมมอเตอร์สองความเร็วได้ 5. อธิบายการต่อวงจรขดลวดภายในมอเตอรส์ องความเรว็ ได้ 6. ปฏบิ ัติการควบคุมการเริ่มเดนิ มอเตอร์แบบเรียงลำดบั และการควบคุมมอเตอรส์ องความเร็ว ได้ ฤ 1. ปฏบิ ัตกิ ารควบคุมการเร่ิมเดินมอเตอร์แบบเรียงลำดับและการควบคุมมอเตอร์สองความเรว็ ได้ 2. อธิบายการต่อวงจรขดลวดภายในมอเตอร์สองความเรว็ ได้ 4. ื้ / • ( ฤ ฎ)

71 1. การเรม่ิ เดินมอเตอร์แบบเรียงลำดบั 2. การควบคมุ มอเตอร์สองความเร็ว • (ฏ ) 1. ควบคุมการเร่ิมเดินมอเตอร์แบบเรียงลำดับและการควบคุมมอเตอรส์ องความเรว็ 2. ต่อวงจรขดลวดภายในมอเตอร์สองความเร็วได้ • / 3D / / / 12 เตรยี มความพรอ้ มดา้ นวสั ดุ อปุ กรณ์ สอดคล้องกับงานและใชว้ ัสดุอุปกรณ์อย่างคุ้มคา่ ประหยัด ตาม หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ปฏิบัติงานได้ถูกต้องและสำเร็จภายในเวลาที่กำหนดอย่างมีเหตุผล ตาม หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สอนและฝึกหัดให้นักเรียน นักศึกษา รู้จักการทำงานเป็นกลุ่ม การรับฟัง ความคิดเห็นเหตุผลของผู้อื่นและปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ส่งเสริมกิจกรรมที่สร้างความสามัคคี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ช่วยเหลือเกื้อกูล และรักใคร่ปรองดองในสถานศึกษา กระตุ้นและเปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษากล้าที่จะแสดงความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ เช่น กิจกรรมในชั้นเรียน กิจกรรมต่างๆ ของสถานศึกษา และกิจกรรมของชุมชน ปลูกจิตสำนึกให้นักเรียน นักศึกษา มีคุณธรรม จริยธรรม รู้รับผิดชอบชั่วดี มีความ ภูมิใจในความเป็นไทย ให้ความรู้เกี่ยวกับโทษภัยของยาเสพติด และการหลีกเลี่ยงห่างไกลยาเสพติดเพื่อให้มี ภมู ิคมุ้ กันอยา่ งยัง่ ยืน 5. ื ้ำ ้ ใั 1. ครแู จ้งจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ หนว่ ยการเรยี น 1. นกั เรยี นจดบนั ทกึ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ้ ฤฎ ้ 2. ครใู ห้นักเรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรยี น 2. นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน 3. ครบู รรยายเนื้อหาประกอบแผน่ ใส/ power point 3. นักเรยี นฟงั ครูบรรยายและจดบนั ทกึ 4. ครูให้นักเรยี นศึกษาเน้ือหาการเรยี นรูใ้ นหนังสอื 4. นักเรยี นศึกษาหน่วยการเรียนท่ไี ดร้ ับ 5. ซักถามนักเรียนเกย่ี วกับเนื้อหาทีเ่ รยี น มอบหมาย และตอบคำถาม ้ฏ ้ 6. ครใู ห้นกั เรยี นศึกษาใบงานการทดลองประจำหนว่ ยการ 6. นกั เรยี นศกึ ษาใบงานการทดลองประจำ เรียนรู้ หนว่ ยการเรยี นรู้ 7. ครใู ห้นกั เรยี นแบ่งกลมุ่ จัดเตรยี มเครือ่ งมือและอปุ กรณต์ าม 7. นักเรยี นจดั เตรียมเคร่ืองมือและอปุ กรณ์ ใบงานการทดลอง

72 8. ครสู ังเกตการปฏิบัติงานและคอยให้คำแนะนำ อย่างใกลช้ ดิ ้ ้ ำ็ 9. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันสรปุ ผลการเรยี นรู้ 8. นักเรยี นช่วยกนั สรุปเนอื้ หาทเ่ี รยี นและจด 10. ครใู หน้ ักเรยี นปฏบิ ัติตามใบงานการทดลองประจำหน่วย บนั ทึก การเรียนรู้ 9. นักเรยี นปฏิบตั ติ ามใบงานการทดลอง 11. ครูคอยสงั เกตลำดับขนั้ ตอนการทำงานและให้คำแนะนำ ประจำหน่วยการเรยี นรู้ เมื่อพบปญั หาให้ เมือ่ พบนกั เรยี นปฏิบัติไม่ถูกต้อง สอบถามครผู สู้ อน 12. ครใู ห้นักเรียนท่ปี ฏิบตั ิงานเสร็จแล้วส่งตรวจทโี่ ต๊ะตรวจ 10. นกั เรยี นสง่ ผลการปฏบิ ตั ิงานใหค้ รตู รวจ งานเพื่อขอคำแนะนำและและประเมนิ ผล13. ทำแบบทดสอบ 11.นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน หลังเรียน 12. นกั เรยี นช่วยกนั สรุปเน้ือหาและจดบนั ทึก 14. ครแู จง้ นโยบายสถานศึกษา 3D ของกระทรวงศกึ ษา ซ่ึง ประกอบด้วยสาระเกยี่ วกับเรื่องที่เรียน เป็นกจิ กรรมทม่ี งุ่ สง่ เสริมพัฒนาผู้เรยี นใหม้ คี ณุ ลักษณะที่ดีงาม 13. นักเรยี นจดบนั ทกึ นโยบายสถานศึกษา 3 ด้าน คือ 1. ด้าน 3 D พรอ้ มกับอภปิ รายแนวทางนำไปปฏิบตั ิ ประชาธปิ ไตย (Democracy) 2. ด้านคุณธรรม จริยธรรม ใช้ในชวี ติ ประจำวนั และในรายวชิ าทีเ่ รยี น และความเป็นไทย (Decency) 3. ดา้ นภูมิคมุ้ กันจากยาเสพ 14. นกั เรียนรับฟงั และจดบนั ทกึ หลักปรัชญา ตดิ (Drug – Free) ของเศรษฐกจิ พอเพียงโดยมีความรบั ผดิ ชอบ 15. ครอู ธิบายหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงเพ่ือบูรณา และพยายามสบื คน้ ข้อมูลและปฏบิ ตั ิงานให้ การเข้ากับกิจกรรมการเรียนการสอน ประกอบด้วย 1. ความ สำเรจ็ อยา่ งมีเหตุผล พอประมาณ 2. ความมีเหตผุ ล 3. การมีภูมิคุม้ กันในตวั ท่ีดี 15. นักเรยี นช่วยกันทำความสะอาดเคร่อื งมือ 16. ครูซกั ถามนักเรยี นวา่ มีขอ้ สงสยั อะไรอีกหรอื ไม่17. ครใู ห้ อปุ กรณ์ จดั ห้องเรยี นใหเ้ รยี บร้อย นกั เรียนทำความสะอาดห้องเรียน ้ ำใ ้ ำใ 18. ครูใหน้ ักเรยี นเขียนรายงานสรุปผลการเรยี นรู้ 16. นกั เรียนทำแบบสรุปผลการเรียนรปู้ ระจำ 19. ครบู ันทึกหลังการสอน หนว่ ยการเรยี น 6. ื 6.1 หนังสือเรยี นวิชาการควบคุมมอเตอร์ไฟฟา้ 6.2 แผ่นโปสเตอร์ หรือแผ่นใสแสดงลกั ษณะของอปุ กรณค์ วบคมุ เครอื่ งกลไฟฟ้าชนิดตา่ งๆ 6.3 อุปกรณ์ควบคมุ เคร่ืองกลไฟฟา้ ทีเ่ ปน็ ของจริง 6.4 ใบงาน

73 6.5 แบบทดสอบเพือ่ ประเมินผลหลงั การเรียนรู้ 6.6 นิตยสาร วารสารท่ีเกี่ยวกับไฟฟา้ 6.7 หอ้ งสมดุ 6.8 อนิ เทอรเ์ น็ต 7. 7.1 ผลการสรปุ ความร้จู ากการทำกจิ กรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ 7.2 ผลจากการทำใบงาน 7.3 ผลการทำแบบทดสอบเพอื่ ประเมินผลหลงั การเรียนรู้ 8. 8.1เคร่ืองมือประเมิน 1) กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 2) แบบประเมินผลใบงาน 3) แบบทดสอบเพื่อประเมินผลหลังการเรียนรู้ 8.2 เกณฑ์การประเมนิ 1) กจิ กรรมตรวจสอบความเขา้ ใจมีคุณภาพระดับพอใช้ขึ้นไป 2) แบบทดสอบเพื่อประเมินผลหลงั การเรียนรู้ ปรนยั และแบบทดสอบพจิ ารณาข้อถกู และขอ้ ขอ้ ผดิ จำนวน 10 ข้อ ทำถกู ต้อง 6 ข้อขน้ึ ไป 3) คะแนนใบงานไมต่ ำ่ กว่ารอ้ ยละ 60 ขึ้นไป 9. 9.1 ขอ้ สรปุ หลงั การจัดการเรียนรู้ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 9.2 ปัญหาท่ีพบ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………… 9.3 แนวทางแกป้ ญั หา ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………

74 9ำ ็ จงตอบคำถามต่อไปน้ี 1. เงอื่ นไขการเรมิ่ เดินมอเตอรแ์ บบเรยี งลำดบั คืออะไร ให้มอเตอร์ตวั หนง่ึ ทำงานก่อน แล้วตัวตอ่ ไปคอ่ ยทำงานได้ 2. การเรมิ่ เดินแบบเรียงลำดับมปี ระโยชน์อย่างไร การเริ่มเดินแบบเรียงลำดับมีประโยชน์ในการจัดเรียงมอเตอร์ให้ทำงานต่อเนื่องกันไป เช่น มอเตอร์ตัวที่ สองจะทำงานก่อนตัวที่หนึง่ ไม่ได้ ไมเ่ ชน่ นนั้ แลว้ จะไมต่ รงกับเง่ือนไขทีก่ ำหนดไว้ 3. จงอธิบายวงจรควบคมุ ใหม้ อเตอร์ทำงานเรยี งลำดับ ดงั รูป การทำงานเรียงลำดบั คือ - กดสวิตช์ S2 แมกเนติกคอนแทกเตอร์ K1 ทำงาน มอเตอร์ตัวที่ 1 จะทำงาน (หากกด S3 ก่อน จะไม่มี ผลใด ๆ) - กดสวิตช์ S3 แมกเนติกคอนแทกเตอร์ K2 จะทำงาน มอเตอร์ตัวที่ 2 จะทำงาน ขณะที่มอเตอร์ตัวที่ 1 ยงั คงทำงานตอ่ ไป

75 4. จงอธบิ ายการทำงานของวงจรควบคมุ มอเตอร์สองความเรว็ ดงั รปู มอเตอรส์ องความเร็ว เร่มิ จาก - กดสวิตช์ S2 (กด S3 ก่อน จะไม่มีผลใด ๆ) แมกเนติกคอนแทกเตอร์ K1 จะทำงาน เป็นการจ่ายไฟเข้า ขว้ั 1U, 1V, 1W ขณะนม้ี อเตอร์จะหมนุ ดว้ ยความเร็วต่ำ - กดสวิตช์ S3 แมกเนติกคอนแทกเตอร์ K2 และ K3 จะทำงาน แล้วตัด K1 ออกไป ขณะนี้มอเตอร์จะ หมุนดว้ ยความเรว็ สงู เนื่องจากวงจรภายในมอเตอร์ตอ่ แบบ Parallel Star

/ 76 ื การควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้า 10 ื การใช้งานรเี ลย์ช่วย (Auxiliary Relay) ืื 17 7 ำ7 1. ำ รีเลย์ช่วยหรืออาจเรียกว่ารีเลย์ควบคุม (Control Relay) การทำงานอาศัยอำนาจในการเปิดปิด หน้าสัมผัส เหมอื นกับ หลกั การทำงานของแมคเนติกคอนแทคเตอร์ ต่างกันตรงท่ีรเี ลยช์ ว่ ยจะทนกระแสได้ต่ํา หน้าสัมผัสจะเล็กกว่าหนา้ สัมผสั ของแมคเนติกคอนแทกเตอรล์ ักษณะของหน้าสัมผัสของรีเลย์ช่วยมีสองชนดิ หน้าสัมผัสปกติเปิด (Normally Open : N.O.) และหน้าสัมผัสปกติปิด (Normally Close : N.C.) จำนวน หนา้ สมั ผสั และชนดิ ของหนา้ สัมผัสข้นึ อยูก่ ับบรษิ ทั ผู้ผลติ และการนำไปงาน 2. ำ 1. รู้เกี่ยวกับสว่ นประกอบของ รีเลยช์ ว่ ย (Auxiliary Relay) 2. นำรเี ลย์ชว่ ย (Auxiliary Relay)ไปใช้งานใหว้ งจรทำงานสมบูรณ์ 3. / 1. บอกสว่ นประกอบของรเี ลย์ชว่ ย (Auxiliary Relay)ได้ 2. บอกหน้าที่ของรีเลย์ช่วย (Auxiliary Relay)ได้ 3. สามารถนำรีเลย์ช่วย (Auxiliary Relay)ไปตอ่ ใชง้ านได้ ฤ 1. อธบิ ายสว่ นประกอบต่างๆ ของการใช้งานรีเลยช์ ว่ ย (Auxiliary Relay)ได้ 2. สามารถนำการใช้งานรีเลย์ชว่ ย (Auxiliary Relay)ไปใช้งานทำให้วงจรทำงานสมบรู ณ์มา ย่ิงขึ้นได้ 4. ้ื / • ( ฤ ฎ) 1. โครงสรา้ งและหลักการทำงานของ รีเลยช์ ว่ ย (Auxiliary Relay) 2. วงจรและการนำไปใชง้ านของรเี ลย์ชว่ ย (Auxiliary Relay) • (ฏ )

77 1. ถอด ประกอบเพ่ือศึกษาโครงสร้างของรีเลย์ช่วย (Auxiliary Relay) 2. ต่อวงจรท่นี ำรีเลย์ชว่ ย (Auxiliary Relay)ไปใช้งาน • / 3D / / / 12 เตรยี มความพรอ้ มด้านวสั ดุ อปุ กรณ์ สอดคล้องกบั งานและใชว้ ัสดุอุปกรณ์อยา่ งคุม้ ค่า ประหยัด ตาม หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ปฏิบัติงานได้ถูกต้องและสำเร็จภายในเวลาที่กำหนดอย่างมีเหตุผล ตาม หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สอนและฝึกหัดให้นักเรียน นักศึกษา รู้จักการทำงานเป็นกลุ่ม การรับฟัง ความคิดเห็นเหตุผลของผู้อื่นและปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ส่งเสริมกิจกรรมที่สร้างความสามัคคี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ช่วยเหลือเกื้อกูล และรักใคร่ปรองดองในสถานศึกษา กระตุ้นและเปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษากล้าที่จะแสดงความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ เช่น กิจกรรมในชั้นเรียน กิจกรรมต่างๆ ของสถานศึกษา และกิจกรรมของชุมชน ปลูกจิตสำนึกให้นักเรียน นักศึกษา มีคุณธรรม จริยธรรม รู้รับผิดชอบชั่วดี มีความ ภูมิใจในความเป็นไทย ให้ความรู้เกี่ยวกับโทษภัยของยาเสพติด และการหลีกเลี่ยงห่างไกลยาเสพติดเพื่อให้มี ภมู คิ ้มุ กนั อย่างยง่ั ยนื 5. ื ้ำ ้ ใั 1. ครแู จ้งจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ หน่วยการเรยี น 1. นักเรยี นจดบนั ทึกจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ้ ฤฎ ้ 2. ครูใหน้ กั เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรยี น 2. นักเรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน 3. ครูบรรยายเนือ้ หาประกอบแผ่นใส/ power point 3. นักเรียนฟังครูบรรยายและจดบันทึก 4. ครใู ห้นกั เรียนศึกษาเน้ือหาการเรียนรู้ในหนงั สอื 4. นักเรียนศึกษาหน่วยการเรียนท่ีได้รบั 5. ซกั ถามนักเรยี นเกย่ี วกับเน้ือหาที่เรียน มอบหมาย และตอบคำถาม ้ฏ ้ 6. ครูให้นักเรียนศึกษาใบงานการทดลองประจำหน่วยการ 6. นักเรยี นศึกษาใบงานการทดลองประจำ เรยี นรู้ หน่วยการเรยี นรู้ 7. ครใู หน้ ักเรยี นแบง่ กลุ่มจดั เตรียมเครอื่ งมือและอปุ กรณต์ าม 7. นกั เรยี นจัดเตรยี มเครื่องมือและอปุ กรณ์ ใบงานการทดลอง 8. ครูสังเกตการปฏิบัตงิ านและคอยใหค้ ำแนะนำ อยา่ งใกล้ชดิ

78 ้ ้ ำ็ 9. ครแู ละนักเรียนร่วมกนั สรุปผลการเรียนรู้ 8. นกั เรียนชว่ ยกันสรุปเน้อื หาท่เี รียนและจด 10. ครใู ห้นักเรียนปฏิบตั ิตามใบงานการทดลองประจำหนว่ ย บันทึก การเรียนรู้ 9. นกั เรยี นปฏิบัตติ ามใบงานการทดลอง 11. ครูคอยสังเกตลำดับข้นั ตอนการทำงานและใหค้ ำแนะนำ ประจำหน่วยการเรียนรู้ เมื่อพบปัญหาให้ เม่ือพบนักเรยี นปฏิบตั ิไมถ่ ูกต้อง สอบถามครผู สู้ อน 12. ครูให้นกั เรียนท่ีปฏบิ ัตงิ านเสรจ็ แลว้ สง่ ตรวจทีโ่ ตะ๊ ตรวจ 10. นกั เรยี นส่งผลการปฏิบตั งิ านให้ครตู รวจ งานเพ่ือขอคำแนะนำและและประเมินผล13. ทำแบบทดสอบ 11.นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน หลังเรยี น 12. นกั เรยี นช่วยกนั สรปุ เน้อื หาและจดบนั ทึก 14. ครูแจ้งนโยบายสถานศึกษา 3D ของกระทรวงศกึ ษา ซึ่ง ประกอบดว้ ยสาระเกยี่ วกับเรื่องท่ีเรยี น เป็นกิจกรรมที่มงุ่ สง่ เสริมพฒั นาผู้เรยี นใหม้ คี ุณลักษณะท่ดี ีงาม 13. นกั เรียนจดบนั ทึกนโยบายสถานศกึ ษา 3 ดา้ น คอื 1. ดา้ น 3 D พรอ้ มกบั อภปิ รายแนวทางนำไปปฏบิ ตั ิ ประชาธปิ ไตย (Democracy) 2. ด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ใชใ้ นชีวติ ประจำวนั และในรายวิชาที่เรียน และความเปน็ ไทย (Decency) 3. ดา้ นภูมิคมุ้ กันจากยาเสพ 14. นักเรียนรับฟังและจดบนั ทกึ หลักปรชั ญา ตดิ (Drug – Free) ของเศรษฐกจิ พอเพยี งโดยมีความรบั ผดิ ชอบ 15. ครอู ธบิ ายหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อบรู ณา และพยายามสืบคน้ ข้อมูลและปฏบิ ัติงานให้ การเข้ากับกิจกรรมการเรียนการสอน ประกอบด้วย 1. ความ สำเร็จอยา่ งมีเหตุผล พอประมาณ 2. ความมีเหตผุ ล 3. การมีภมู คิ มุ้ กันในตัวทด่ี ี 15. นักเรยี นชว่ ยกนั ทำความสะอาดเคร่ืองมอื 16. ครซู กั ถามนกั เรียนว่ามีขอ้ สงสยั อะไรอีกหรอื ไม่17. ครใู ห้ อุปกรณ์ จดั ห้องเรยี นให้เรยี บร้อย นกั เรยี นทำความสะอาดห้องเรยี น ้ ำใ ้ ำใ 18. ครูใหน้ ักเรยี นเขียนรายงานสรปุ ผลการเรยี นรู้ 16. นกั เรยี นทำแบบสรปุ ผลการเรยี นรปู้ ระจำ 19. ครูบนั ทึกหลังการสอน หนว่ ยการเรยี น 6. ื 6.1 หนังสอื เรียนวิชาการควบคุมมอเตอร์ไฟฟา้ 6.2 แผ่นโปสเตอร์ หรอื แผน่ ใสแสดงลักษณะของอุปกรณค์ วบคุมเครอื่ งกลไฟฟ้าชนิดต่างๆ 6.3 อุปกรณ์ควบคุมเครอ่ื งกลไฟฟ้าทเี่ ป็นของจรงิ 6.4 ใบงาน 6.5 แบบทดสอบเพอื่ ประเมินผลหลังการเรียนรู้ 6.6 นิตยสาร วารสารทีเ่ กยี่ วกับไฟฟา้

79 6.7 ห้องสมุด 6.8 อนิ เทอร์เนต็ 7. 7.1 ผลการสรปุ ความรู้จากการทำกจิ กรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ 7.2 ผลจากการทำใบงาน 7.3 ผลการทำแบบทดสอบเพื่อประเมนิ ผลหลังการเรียนรู้ 8. 8.1เคร่ืองมือประเมนิ 1) กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 2) แบบประเมินผลใบงาน 3) แบบทดสอบเพ่ือประเมนิ ผลหลังการเรยี นรู้ 8.2 เกณฑ์การประเมนิ 1) กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจมคี ุณภาพระดับพอใชข้ ึ้นไป 2) แบบทดสอบเพ่ือประเมินผลหลงั การเรียนรู้ ปรนยั และแบบทดสอบพิจารณาข้อถูกและข้อข้อผดิ จำนวน 10 ข้อ ทำถกู ต้อง 6 ขอ้ ขึ้นไป 3) คะแนนใบงานไมต่ ำ่ กวา่ รอ้ ยละ 60 ขึ้นไป 9. 9.1 ขอ้ สรปุ หลงั การจัดการเรียนรู้ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………… 9.2 ปญั หาทพี่ บ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………… 9.3 แนวทางแกป้ ญั หา ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………

80 10 (Auxiliary Relay) จงตอบคำถามต่อไปนี้ 1. รีเลย์และคอนแทกเตอรม์ ีหลักการทำงานคล้ายกับสงิ่ ใดต่อไปนี้? ก. ตัวเกบ็ ประจุ ข. ความตา้ นทาน ค. ขดลวดแมเ่ หล็กไฟฟ้า หรือโซลนิ อยด์ ง. ฟิวส์ 2. รีเลย์และคอนแทกเตอรท์ ำหน้าที่อะไร? ก. ปอ้ งกนั การลดั วงจร ข. ทำหนา้ ทต่ี ดั -ต่อวงจรไฟฟ้า หรอื เปน็ สวติ ชแ์ ม่เหล็ก ค. ป้องกนั โหลดเกิน ง. เปน็ แม่เหล็กไฟฟ้าสำหรบั ดดู วัตถุ 3. รีเลย์ขนาดเลก็ ที่ใช้ในงานไฟฟ้าเรยี กวา่ อะไรต่อไปนี้ ก. รีเลยค์ วบคมุ (Control Relay) ข. รีเลย์ตงั้ เวลา (Timer Relay) ค. รเี ลยก์ ำลงั (Power Relay) ง. รีเลยร์ ะยะทาง (Distance Relay) 4. รีเลย์กำลงั เรยี กอีกอย่างหนึ่งว่าอะไร? ก. Power Relay ข. Magnetic Contactor ค. Contactor ง. ถกู ทกุ ขอ้ 5. ขอ้ ใดคือลกั ษณะของการใช้ประโยชนจ์ ากคอนแทกเตอร์ ก. ใชก้ ำลงั ไฟฟา้ จำนวนนอ้ ยเพอื่ ไปควบคุมการตัดต่อกำลังไฟฟ้าจำนวนมาก ข. การควบคุมกำลงั ไฟฟ้าในตำแหน่งอ่นื ๆ ของระบบ ค. ควบคมุ วงจรจากระยะไกล (Remote) ไดซ้ ่ึงทำใหเ้ กิดความปลอดภยั กบั ผู้ปฏบิ ัติงาน ง. ถกู ทุกข้อ 6. ขอ้ ใดเปน็ หน้าท่ขี องหนา้ สัมผัสหลัก (Main Contact) ของคอนแทกเตอร์ ก. ส่งผา่ นกำลังไฟฟา้ จำนวนมากไปยงั โหลด ข. นำไฟกระแสตรง (D.C) ไปยงั คอล์ย ค. ชว่ ยการทำงานของวงจร ง. ป้องกันการลัดวงจร 7. หน้าสัมผัสหลัก (Main Contact) ในสภาวะที่คอล์ยแม่เหล็กยังไม่ทำงาน จะอยู่ในตำแหนง่ ใด ก. ปกตเิ ปดิ (Normally Open) ข. ปกตปิ ดิ (Normally Close) ค. ท้ังปกติเปดิ และปกตปิ ิด ง. ไม่มีข้อใดถูก 8. หนา้ สมั ผสั ปกติเปิด (Normally Open; N.O.) หมายถงึ ขอ้ ใดต่อไปนี้ ก. เมอ่ื อยู่ในสภาวะทยี่ งั ไม่มีการทำงานหน้าสัมผัสจะปิด ข. เม่อื อยู่ในสภาวะท่ียังไม่มีการทำงานหน้าสมั ผสั จะเปิด ค. เม่ืออยู่ในสภาวะท่ีทำงานหน้าสมั ผัสจะปดิ ง. ข้อ ข. และ ค. ถกู 9. อุปกรณท์ ่ีเปน็ สว่ นประกอบของคอนแทกเตอร์ข้อใด ทำหนา้ ท่ีลดการสนั่ ของอารเ์ มเจอรเ์ มื่อใช้กบั ไฟสลบั ก. Coil ข. Spring

81 ค. Shaded Ring ง. Auxiliary Contact 10. ขอ้ ใดเปน็ หมายเลขกำกบั หน้าสมั ผัสช่วยแบบปกตเิ ปิด (N.O.) ของคอนแทกเตอร์ ก. 13-14 ข. 31-32 ค. 11-12 ง. 12-13


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook