ชุดการเรียนรู้ทางไกล คร้ังท่ี /18 เร่ือง µ¦ºn°µ¦
o°¤¼¨°¸n วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการจดั การอาชีพ รหสั วชิ า 3001 -2001 สาขาวชิ า เทคโนโลยีสารสนเทศ ประเภทวชิ า เทคโนโลยีสารสนเทศ หลกั สูตรระดบั ประกาศนียบตั รวชิ าชีพช้นั สูง (ปวส.) ตามหลกั สูตร สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา พุทธศกั ราช 2557 ประทีป ผลจนั ทร์งาม เพื่อการจดั ทาเน้ือหาและพฒั นาสื่อการสอนอาชีพและวิชาชีพ สาหรับการศกึ ษาทางไกลหรือเรียนฝึกงานในสถานประกอบการด้วยตนเอง วิทยาลยั เทคนคิ ระยอง สถาบันการอาชวี ศึกษาภาคตะวันออก สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ
สารบญั 1. รายละเอียดหลกั สูตรรายวชิ า 1 2. ใบวเิ คราะห์หวั ขอ้ เร่ือง 4 3. แผนภมู ิปะการัง 6 4. โครงการจดั การเรียนรู้ 8 5. แผนการจดั การเรียนรู้ 12 6. เน้ือหา (ใบความรู้) 19 7. สื่อประกอบการสอน 28 8. แบบทดสอบก่อนเรียน 54 9. แบบทดสอบหลงั เรียน 57 10. เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน 60 11. เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน 62 12. แบบประเมินพฤติกรรมรายบุคคล 64 13. แบบบนั ทึกหลงั การเรียนรู้ 66
1 1.รายละเอียดหลกั สูตรรายวชิ า
2 ช่ือวชิ า.เทคโนโลยสี ารสนเทศเพือ่ การจดั การอาชพี คาอธิบายรายวชิ า รหัสวชิ า300– แผ่นที่ 1 สาขาวชิ า เทคโนโลยีสารสนเทศ คาอธิบายรายวชิ า ( เดมิ ) 1. รหัสและช่ือวชิ า 3000–0203. วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเบอื้ งต้น 2. ระดบั รายวชิ า ระดบั ช้นั ปวส. ปี ท่ี 1 3. เวลาศึกษา 72 ชว่ั โมงตลอด 18 สัปดาห์ ทฤษฎี 2 ชว่ั โมง ปฏิบตั ิ 2 ชว่ั โมงต่อสปั ดาห์ 4. จานวนหน่วยกติ 3 หน่วยกิต 5. จุดประสงค์รายวชิ า 1. เเขา้ ใจเก่ยี วกบั คอมพวิ เตอร์ ระบบเครอื ข่ายคอมพิวเตอร์และสารสนเทศรจดั การสารสนเทศ 2. สามารถสบื ค้น จัดเก็บ คน้ คนื สง่ ผ่าน จดั ดำเนนิ การข้อมูลสารสนเทศ นำเสนอและสือ่ สารข้อมูล ส 3. มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและความรับผิดชอบในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการจดั การอาชพี 6. สมรรถนะรายวชิ า 1. แสดงความรเู้ กี่ยวกบั หลักการและกระบวนการสบื ค้น จัดดำเนนิ การและสอ่ื สารขอ้ มลู ฯ 2. ใชค้ อมพวิ เตอรในการสืบค้นและสอื่ สารขอ้ มลู สารสนเทศผา่ นระบบ เครือข่ายคอมพวิ เตอร์ 3. จัดเก็บ ค้นคนื สง่ ผ่านและจดั ดำเนินการขอ้ มูลสารสนเทศตามลักษณะงานอาชพี 4. นำเสนอและสื่อสารขอ้ มลู สารสนเทศในงานอาชพี โดยประยุกต์ใชโ้ ปรแกรมสำเรจ็ รปู 7. คาอธิบายรายวชิ า ศกึ ษาและปฏิบัติเก่ยี วกบั คอมพวิ เตอรแ์ ละอุปกรณโ์ ทรคมนาคม ระบบเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์ และ สารสนเทศ การสบื ค้นข้อมูลสารสนเทศ การจดั เก็บ คน้ คืน ส่งผ่านและจัดดำเนนิ การขอ้ มูล สารสนเทศ การประยุกตใ์ ชโ้ ปรแกรมสำเรจ็ รปู ในการนำเสนอและสอ่ื สารข้อมลู สารสนเทศ ตามลกั ษณะงานอาชพี
3 ชื่อวชิ า.ทคโนโลยีสารสนเทศเพอ่ื การจดั การอาชีพ คาอธิบายรายวชิ า แผ่นท่ี 2 รหสั วชิ า3001–2001 สาขาวชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศ คาอธิบายรายวชิ า ( เดมิ ) ศกึ ษาและปฏิบัตเิ กย่ี วกบั คอมพิวเตอร์และอปุ กรณ์โทรคมนาคม ระบบเครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์ และ สารสนเทศ การสบื ค้นข้อมูลสารสนเทศ การจัดเก็บ คน้ คนื ส่งผ่านและจัดดำเนินการขอ้ มลู สารสนเทศ การประยกุ ตใ์ ชโ้ ปรแกรมสำเรจ็ รูปในการนำเสนอและสื่อสารข้อมลู สารสนเทศ ขอ้ มลู สารสนเทศเพ่ือพฒั นางานอาชีพดว้ ยคอมพวิ เตอร์ คาอธิบายรายวชิ า ( ปรับปรุง ) ศึกษาเกยี่ วกบั พ้ืนฐานเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร ขอ้ มลู และการจดั การฐานขอ้ มลู การส่ือสารขอ้ มลู เทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์ เทคโนโลยซี อฟตแ์ วร์ ระบบปฏิบตั ิการคอมพวิ เตอร์ ความรู้พ้ืนฐานของเทคโนโลยเี ครือขา่ ย เทคโนโลยสี ารสนเทศกบั อินเตอร์เน็ต การสืบคน้ ขอ้ มูล ตามลักษณะงานอาชีพ ศกึ ษาและปฏิบตั ิเกย่ี วกบั งานทดสอบโปรแกรมการจดั การฐานขอ้ มูล MS-ACCESS งานประกอบ ไมโครคอมพวิ เตอร์PC งานทดสอบโปรแกรม MS-Word งานทดสอบโปรแกรม MS-Power Point งานทดสอบโปรแกรม MS-Excel งานติดต้งั และทดสอบระบบปฏิบตั ิการ Linux งานติดต้งั และ ทดสอบระบบปฏิบตั ิการ Windows XP งานทดสอบระบบเครือขายวนิ โดว์ งานทดสอบสาย UTP งาน ทดสอบสอบ Switching HUB งานทดสอบระบบเครือขายอินเทอร์เน็ต งานทดสอบ IP Address งาน ทดสอบการใชง้ าน Browser งานทดสอบการใช้ e-Mail งานทดสอบการสืบคน้ มูลผา่ นเครือข่าย อินเทอร์เน็ต
4 2. ใบวิเคราะห์หวั ขอ้ เร่ือง
5 ชื่อวชิ า.เทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการจดั การอาชพี ใบวเิ คราะห์หัวข้อเรื่อง รหัสวชิ า300– สาขาวชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศ แผ่นท่ี 1 แหล่งข้อมูล หวั ข้อเรื่อง ( Topic ) ABCDE 1. พ้ืนฐานเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร 2. ขอ้ มูลและการจดั การฐานขอ้ มลู /// / 3. การส่ือสารขอ้ มลู 4. เทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์ / //// 5. เทคโนโลยซี อฟตแ์ วร์ 6. ระบบปฏิบตั ิการคอมพิวเตอร์ / //// 7. ความรู้พ้ืนฐานของเทคโนโลยเี ครือข่าย 8. เทคโนโลยสี ารสนเทศกบั อินเตอร์เน็ต / //// 9. การสืบคน้ ขอ้ มูลสารสนเทศเพอ่ื พฒั นางานอาชีพดว้ ยเครือข่าย อินเตอร์เน็ต / //// / //// / //// / //// / //// หมายเหตุ A : คาอธิบายรายวชิ า B : ประสบการณ์ของผู้สอน C : ผู้เช่ียวชาญ D : ผู้ชานาญงาน E : เอกสาร / ตารา
6 3. แผนภมู ิปะการงั
9.1 การสบคนขอมลสารสนเทศบนอนเทอร์เน็ต 1.1 เทคโนโลยสารสนเทศ 2.1 ขอมลและสารสนเทศ 9.2 เทคนคการสบคนขอมล 1.2 วฒนาการเทคโนโลยสารสนเทศและการสอสาร 2.2 ฐานขอมลและการจดการฐานขอมล 9.3 เวบ็ ไซต์ทเกยวของเพอประโยชน์ในการศกษา 9. การสบคนขอมลสารสนเทศเพอพฒนา 1. พนฐานเทคโนโลย 2. ขอมลและการจดการ 3.1 รปแบบของการสอสารขอมล งานอาชพดวยเครอขายอนเตอรเ์ น็ต สารสนเทศและการสอสาร ฐานขอมล 3.2 ชนดของสญญาณ อเล็กทรอนกส์ 3.3 รหสทใชแทนขอมลในการสอสาร 8. เทคโนโลยสารสนเทศกบ วชา เทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการจดั การอาชพีี 3. การสอสารขอมล 3.4 ระบบการสอสารอเลก็ ทรอนกส์ อนเตอร์เนต็ รหสั 3001–2001สาขาวิชาเทคโนโลยสารสนเทศ 3.5 ทศทางของการสอสารขอมล 3.6 สอและอปกรณร์ บสงขอมล 8.1 เครอขายอนเตอรเ์ นต็ 7. ความรพนฐานของ 4. เทคโนโลยคอมพวเตอร์ 4.1 คอมพวเตอรแ์ ละฮารด์ แวร์ 8.2 การบรการเครอขายอนเตอร์เน็ต เทคโนโลยเครอขาย 5. เทคโนโลยซอฟต์แวร์ 4.2 องคป์ ระกอบพนฐานของเครอง คอมพวเตอร์ 8.3 โพรโตคอล TCP/IP 6. ระบบปฏบตการ (Transmission Control คอมพวเตอร์ 4.3 ประเภทของคอมพวเตอร์ Protocol/Internet Protocol) 4.4 เทคโนโลยคอมพวเตอรส์ วนบคคล 4.5 แนะนาการเลอกซออปกรณ์คอมพวเตอร์ 8.5 การเชอมตอเขากบอนเตอรเ์ นต็ 4.6 คอมพวเตอรก์ บเครอขาย 8.6 การใชงานและบรการตางๆ บนเครอขาย อนเตอรเ์ นต็ Control (MAC) Method) 7.1 เปาหมายของเครอขายคอมพวเตอร์ 5.1 ซอฟตแ์ วรค์ อมพวเตอร์ 7.2 ประเภทระบบเครอขายคอมพวเตอร์ 8.7 การประยกตใ์ ชอนเตอรเ์ นต็ 5.2 ภาษาคอมพวเตอร์ 8.8 เครอขายอนทราเน็ต 7.3 ระบบเครอขายLAN (Local Area Network) 5.3 แนวทางการพฒนาซอฟตแ์ วร์ 7.4 สอทใชในการสงขอมล 6.1 ระบบปฏบตการ 6.2 ระบบปฏบตการ UNIX และ Linux 5.4 ซอฟตแ์ วรป์ ระยกต์ 7.5 อปกรณ์ทใชในการเชอมตอบนระบบเครอขาย 6.3 ระบบปฏบตการวนโดว์ (ตอนท่ 1 การใชงานโปรแกรม MS Word) 7.6 วธควบคมการเขาใชงานสอกลาง (Media Access Control 6.4 ระบบปฏบต Windows mobile 5.4 ซอฟตแ์ วรป์ ระยกต์ (ตอนท่ 2 การใชงานโปรแกรม MS Power Point ) (MAC) Method) 7.7 มาตรฐานระบบเครอขายแบบ LAN ชนดตางๆ 5.4 ซอฟตแ์ วรป์ ระยกต์ 7.8 โปรโตคอลของระบบเครอขาย (Network Protocol) (ตอนท่ 3 การใชงานโปรแกรมไมโครซอฟท์ MS Excel ) 7
8 4. โครงการจดั การเรียนรู้
9 โครงการสอนทางไกล วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่อื การจดั การอาชีพ รหสั วชิ า 3001–2001 สาขาวชิ าเทคโนโลยสี ารสนเทศ หลกั สูตรระดับ ประกาศนียบตั รวชิ าชีพช้นั สูง (ปวส.) ตามหลกั สูตร สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา พทุ ธศกั ราช 2557 สอนคร้ังที่ หน่วยการ รายการสอน หมายเหตุ 1 เรียนท่ี 2 1. พนื้ ฐานเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร 3 1 1.1 เทคโนโลยสี ารสนเทศ 2 1.2 วฒั นาการเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร 4 3 5 2. ข้อมูลและการจัดการฐานข้อมูล 3 2.1 ขอ้ มลู และสารสนเทศ 6 4 2.2 ฐานขอ้ มูลและการจดั การฐานขอ้ มูล 7 4 3. การสื่อสารข้อมูล 5 3.1 รูปแบบของการสื่อสารขอ้ มูล 3.2 ชนิดของสัญญาณ อิเล็กทรอนิกส์ 3.3 รหสั ท่ีใชแ้ ทนขอ้ มลู ในการสื่อสาร 3.4 ระบบการส่ือสารอิเลก็ ทรอนิกส์ 3.5 ทิศทางของการส่ือสารขอ้ มลู 3.6 ส่ือและอุปกรณ์รับส่งขอ้ มลู 4. เทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์ 4.1 คอมพิวเตอร์และฮาร์ดแวร์ 4.2 องคป์ ระกอบพ้ืนฐานของเคร่ืองคอมพิวเตอร์ 4.3 ประเภทของคอมพิวเตอร์ 4.4 เทคโนโลยคี อมพิวเตอร์ส่วนบุคคล 4.5 แนะนาการเลือกซ้ืออุปกรณ์คอมพวิ เตอร์ 4.6 คอมพวิ เตอร์กบั เครือขา่ ย 5. เทคโนโลยซี อฟต์แวร์ 5.1 ซอฟตแ์ วร์คอมพิวเตอร์
10 สอนคร้ังท่ี หน่วยการ รายการสอน หมายเหตุ เรียนที่ 8 5.2 ภาษาคอมพวิ เตอร์ 9 5 5.3 แนวทางการพฒั นาซอฟตแ์ วร์ 10 5 5.4 ซอฟตแ์ วร์ประยกุ ต์ 11 5 (ตอนที่ 1 การใชง้ านโปรแกรม MS Word) 12 6 5.4 ซอฟตแ์ วร์ประยกุ ต์ 13 (ตอนท่ี 2 การใชง้ านโปรแกรม MS Power Point ) 14 6 5.4 ซอฟตแ์ วร์ประยกุ ต์ 6 (ตอนท่ี 3 การใชง้ านโปรแกรมไมโครซอฟท์ MS 15 7 Excel ) 6. ระบบปฏิบตั กิ ารคอมพวิ เตอร์ 16 7 6.1 ระบบปฏิบตั ิการ 6.2 ระบบปฏิบตั ิการ UNIX และ Linux 8 6.3 ระบบปฏิบตั ิการวนิ โดว์ 6.4 ระบบปฏิบตั ิ Windows mobile 7. ความรู้พนื้ ฐานของเทคโนโลยเี ครือข่าย 7.1 เป้ าหมายของเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ 7.2 ประเภทระบบเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ 7.3 ระบบเครือข่ายLAN (Local Area Network) 7.4 สื่อที่ใชใ้ นการส่งขอ้ มูล 7.5 อุปกรณ์ท่ีใชใ้ นการเช่ือมตอ่ บนระบบเครือขา่ ย 7.6 วธิ ีควบคุมการเขา้ ใชง้ านสื่อกลาง (Media Access Control (MAC) Method) 7.7 มาตรฐานระบบเครือข่ายแบบ LAN ชนิดตา่ งๆ 7.8 โปรโตคอลของระบบเครือข่าย (Network Protocol) 8. เทคโนโลยสี ารสนเทศกบั อนิ เตอร์เน็ต 8.1 เครือขา่ ยอินเตอร์เน็ต 8.2 การบริการเครือข่ายอินเตอร์เน็ต 8.3 โพรโตคอล TCP/IP (Transmission Control Protocol/Internet Protocol)
สอนคร้ังท่ี หน่วยการ รายการสอน 11 เรียนที่ 8.4 ระบบชื่อโดเมน (Domain Name System) หมายเหตุ 17 8 8.5 การเช่ือมต่อเขา้ กบั อินเตอร์เน็ต 8.6 การใชง้ านและบริการตา่ งๆ บนเครือข่าย อินเตอร์เน็ตControl (MAC) Method) 8.7 การประยกุ ตใ์ ชอ้ ินเตอร์เน็ต 8.8 เครือขา่ ยอินทราเน็ต 18 9 9. การสืบค้นข้อมูลสารสนเทศเพอื่ พฒั นางานอาชีพด้วย เครือข่ายอินเตอร์เน็ต 9.1 การสืบคน้ ขอ้ มูลสารสนเทศบนอินเทอร์เน็ต 9.2 เทคนิคการสืบคน้ ขอ้ มูล 9.3 เวบ็ ไซตท์ ี่เกี่ยวขอ้ งเพอ่ื ประโยชน์ในการศึกษา
12 5. แผนการจดั การเรียนรู้
13 แผนการจดั การเรียนรู้ คร้ังท่ี 3 วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่ือการจัดการอาชีพ หน่วยที่ 3 ช่ือหน่วย การส่ือสาขอ้ มูล ชั่วโมงรวม 2 ช.ม. ช่ือเร่ือง การสื่อสาข้อมูล ตอนที่ 1 จานวน 2 ช่ัวโมง 1.จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธบิ ายรูปแบบของการส่ือสารขอ้ มลู ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 2. จาแนกชนิดของสญั ญาณ อิเลก็ ทรอนิกส์สารสนไดถ้ กู ตอ้ ง 3. จาแนกรหสั ที่ใชแ้ ทนขอ้ มูลในการส่ือสารไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 4. อธบิ ายทิศทางการส่ือสารขอ้ มลู ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 2. หัวข้อสาระการเรียนรู้ 1. รูปแบบของการส่ือสารขอ้ มูล 2. ชนิดของสัญญาณ อิเลก็ ทรอนิกส์ 3. รหสั ที่ใชแ้ ทนขอ้ มลู ในการสื่อสาร 4. ทิศทางการส่ือสารขอ้ มลู 3. สาระสาคญั การเรียนรู้ การส่อื สารขอ้ มูล จากการท่เี คยเป็นอุปกรณ์ท่นี ามาต่อเช่อื มกนั เปล่ยี นเป็นระบบท่ี ประกอบกนั เขา้ เป็นชน้ิ สว่ นเดยี วกนั ผลการเปลย่ี นแปลง อกี อยา่ งหน่ึง คอื การพฒั นาทเ่ี ป็นระบบ รวมคอื การรบั ส่งขอ้ มลู และการประมวลผลขอ้ มลู ทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นขอ้ มลู ปกติ เสยี ง ภาพ วดิ โี อ และขอ้ มูลสารสนเทศ ทงั้ เทคโนโลยแี ละองค์การกาหนดมาตรฐานกาลงั มุ่งไปส่งระบบ integrated public system โดยทาใหแ้ หล่งขอ้ มลู และสารสนเทศ ทม่ี อี ย่ใู นโลกน้ี สามารถเขา้ ไป ตดิ ต่อไดง้ า่ ยและอยใู่ นรปู แบบมาตรฐาน
14 แผนการจดั การเรียนรู้ คร้ังท่ี 3 วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่อื การจัดการอาชีพ หน่วยท่ี 3 ชื่อหน่วย การส่ือสาขอ้ มูล ชั่วโมงรวม 2 ช.ม. 4. เนือ้ หาสาระ บทที่ 3 การสื่อสารข้อมูล 3.1 รูปแบบของการสื่อสารขอ้ มลู 3.2 ชนิดของสัญญาณ อิเล็กทรอนิกส์ 3.3 รหสั ท่ีใชแ้ ทนขอ้ มูลในการสื่อสาร อา้ งอิงจากเอกสารประกอบการเรียนรู้ของ ประทีป ผลจนั ทร์งาม. วชิ าเทคโนโลยสี ารสนเทศเบอื้ งต้น .เอกสารประกอบการเรียนรู้.อดั สาเนา. เอกสารการพิมพว์ ทิ ยาลยั เทคนิคบา้ นคา่ ย. 2555. 5. กจิ กรรมการเรียนการสอน กจิ กรรมครู กจิ กรรมนักเรียน ข้นั เตรียม ข้นั เตรียม 1. จดั เตรียมส่ือที่ใชป้ ระกอบการเรียนรู้ให้ 1. เตรียมตวั และเอกสาร หรือวสั ดุ เครื่องมือท่ี พร้อม สาหรับการเรียนการสอน ( ตามรายการ จาเป็นตอ้ งใชใ้ นการเรียนรู้ ในหวั ขอ้ ท่ี ส่ือการเรียนรู้ เลือกส่ือการเรียนรู้ได้ 2. ใหค้ วามร่วมมือกบั ครูในการตรวจสอบรายชื่อ ตามความเหมาะสม ) เขา้ เรียน 2. ตรวจสอบรายชื่อนกั เรียนท่ีเขา้ เรียน 3. ถา้ เรียนรู้ผา่ นระบบ e-Learning ใหเ้ ขา้ สู่ระบบ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเรียนรู้ ข้นั สนใจปัญหา (Motivation) ข้นั สนใจปัญหา (Motivation) 1. ใหผ้ เู้ รียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน โดย 1. ทาแบบทดสอบก่อนเรียน 2. ร่วมสนทนาและแสดงความคิดเห็น ใชเ้ วลา 30 นาที และครูตรวจคาตอบหลงั จาก เสร็จสิ้นการทดสอบ เพ่ือแจง้ ผลการทดสอบให้ นกั เรียนทราบหลงั เรียนจบบทเรียน 2. ใชส้ ่ือช่วยสอน นาเขา้ สู่บทเรียนดว้ ยภาพ แบบจาลอง ของตวั อยา่ ง หรือสิ่งที่จะช่วยดึงดูด ความสนใจ หรือคาถาม
15 แผนการจดั การเรียนรู้ คร้ังท่ี 3 วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื การจดั การอาชพี หน่วยที่ 3 ช่ือหน่วย การส่ือสาขอ้ มลู ช่ัวโมงรวม 2 ช.ม. หมายเหตุ หากเรียนรู้จากส่ือวดี ีทศั น์ ทางไกลผา่ นดาวเทียม หรือผา่ นอินเทอร์เน็ต ตอ้ งทาการทดสอบก่อนเรียนใหแ้ ลว้ เสร็จก่อน การเรียนรู้ จากส่ือฯ ที่ทาการออกอากาศ ข้นั ศึกษาข้อมูล (Information) (60 นาท)ี ข้นั ศึกษาข้อมูล (Information) 1. ใหผ้ เู้ รียนเริ่มเรียนรู้เน้ือหา หรือฝึก 1. ผเู้ รียนเร่ิมเรียนรู้เน้ือหา หรือฝึกปฏิบตั ิงาน ปฏิบตั ิงาน จากการฉายวดี ีทศั นใ์ นรูปแบบ จากการฉายวดี ีทศั น์ในรูปแบบ DVD หรือ สื่อวีดี DVD หรือ ส่ือวดี ีทศั นท์ างไกลผา่ นดาวเทียม ทศั นท์ างไกลผา่ นดาวเทียม หรืออินเทอร์เน็ต หรืออินเทอร์เน็ต หรือแบบออฟไลน์ หรือแบบออฟไลน์ 2. ใหผ้ เู้ รียนไดส้ อบถามหรือขอ้ สงสัย จาก 2. ผเู้ รียนไดส้ อบถามหรือขอ้ สงสยั จากการ การเรียนรู้เน้ือหา เรียนรู้เน้ือหา ข้นั พยายาม (Application) (30 นาท)ี ข้นั พยายาม (Application) 1. หลงั การเรียนรู้เน้ือหาเสร็จสิ้น ใหผ้ เู้ รียน 1. หลงั การเรียนรู้เน้ือหาเสร็จสิ้นผเู้ รียนทา ทาแบบทดสอบหลงั เรียนหรือแบบฝึกปฏิบตั ิ แบบทดสอบหลงั เรียนหรือแบบฝึกปฏิบตั ิ 2. หรือใหผ้ เู้ รียนทาแบบทดสอบบน 2. หรือทาแบบทดสอบบนออนไลน์ และ ออนไลน์ และสามารถตรวจคาตอบไดท้ นั ที สามารถตรวจคาตอบทนั ที ข้นั สาเร็จผล (Progress) ข้นั สาเร็จผล (Progress) 1. ประเมินผลการปฏิบตั ิงานหรือ 1. รับผลการทดสอบ แบบทดสอบของผเู้ รียนหลงั ข้นั พยายามโดย 2. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปสาระสาคญั เทียบกบั วตั ถุประสงคก์ ารเรียนที่ต้งั ไว้ 3. นกั เรียนสอบถามขอ้ สงสัย 2. ผสู้ อนแจง้ ผลคะแนนการปฏิบตั ิงานหรือ 4. ฟังและปฏิบตั ิตามท่ีครูแนะนา การทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียนใหผ้ เู้ รียน 5. ผเู้ รียนท่ีมีคะแนนทดสอบหลงั การเรียนท่ีไม่ ทราบ เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน ผา่ นเกณฑ์ข้นั ต่า ปฏิบตั ิตามขอ้ แนะนาตามเกณฑ์ ของตน การประเมินผล และคาแนะนาของครูผสู้ อน 3. ผสู้ อนแจง้ ให้ผเู้ รียนที่มีคะแนนหลงั เรียน ที่ไมผ่ า่ นเกณฑข์ ้นั ต่า ปฏิบตั ิตามขอ้ แนะนาตาม เกณฑก์ ารประเมินผล 4. ผสู้ อนสรุปสาระสาคญั และตอบขอ้ สงสยั
16 แผนการจดั การเรียนรู้ คร้ังท่ี 3 วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื การจดั การอาชพี หน่วยท่ี 3 ช่ัวโมงรวม 2 ช.ม. ช่ือหน่วย การส่ือสาขอ้ มลู พร้อมแนะนาสิ่งที่เกี่ยวขอ้ งในการเรียนรู้คร้ังน้ี และแนะนาการเรียนรู้ในคร้ังต่อไป 6. สื่อการเรียนการสอน สื่อการเรียนรู้ ใหค้ รูผสู้ อนและผเู้ รียนเลือกใชส้ ่ือประกอบการเรียนการสอนตามสภาพความ พร้อมของของตนเอง ดงั น้ี 6.1 สื่อโสตทัศน์ 1) วดี ีทศั น์ในรูปแบบ DVD เร่ือง การสื่อสาขอ้ มูล ตอนท่ี 1 สาหรับผเู้ รียน ที่เรียนรู้จาก การฉายวดี ีทศั น์ 2) วดี ีทศั นท์ างไกลผา่ นดาวเทียม วงั ไกลกงั วล ตามตารางการออกอากาศ เร่ือง การส่ือสา ขอ้ มูล ตอนที่ 1 สาหรับผเู้ รียนที่เรียนรู้ทางไกลผา่ นดาวเทียม 6.2 โสตทศั น์อุปกรณ์ 1) เครื่องเล่น DVD พร้อม TV ที่มีช่องรับสัญญาณ AV (AV IN) สาหรับผเู้ รียน ที่เรียนรู้ จากการฉายวดี ีทศั น์ 2) เครื่องรับสญั ญาณดาวเทียม ที่รับสญั ญาณจากมูลนิธิการศึกษาทางไกลผา่ นดาวเทียม วงั ไกลกงั วล พร้อม TV ท่ีมีช่องรับสญั ญาณ AV (AV IN) สาหรับผเู้ รียนท่ีเรียนรู้ทางไกลผา่ น ดาวเทียม 6.3 ส่ือสิ่งพมิ พ์ 1) สาเนาส่ือโปรแกรมนาเสนอ PowerPoint เร่ือง การส่ือสาขอ้ มูล ตอนที่ 1 2) เอกสารประกอบการเรียนรู้ เช่น ใบความรู้ แบบทดสอบฯลฯ 6.4 สื่อบทเรียนอเิ ลก็ ทรอนิกส์ 1) เครื่องคอมพวิ เตอร์ที่สามารถเชื่อมตอ่ อินเทอร์เน็ตได้ และเขา้ เวบ็ ไซต์ url: http://edltv.vec.go.th 2) เครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมติดต้งั ระบบ edltv เพ่ือพฒั นาอาชีพ แบบออฟไลน์ สามารถเขา้ ใช้ งานและเรียนรู้ไดโ้ ดยตรง
17 แผนการจดั การเรียนรู้ คร้ังท่ี 3 วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื การจัดการอาชพี หน่วยท่ี 3 ช่ือหน่วย การส่ือสาขอ้ มลู ช่ัวโมงรวม 2 ช.ม. 7. การวดั ผลและประเมนิ ผล 7.1 ก่อนเรียนรู้ วธิ ีการวดั ผล - ทดสอบก่อนเรียนรู้ เคร่ืองมือวดั - แบบทดสอบก่อนเรียนรู้ 7.2 ระหว่างเรียนรู้ วธิ ีการวดั ผล - ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล เครื่องมือวดั - แบบประเมินพฤติกรรมรายบุคคล 7.3 หลงั เรียน วธิ ีการวดั ผล - ทดสอบหลงั เรียนรู้ เคร่ืองมือวดั - แบบทดสอบหลงั เรียนรู้ 8. เกณฑ์การประเมนิ ผล 8.1 เกณฑ์การวดั ผลสัมฤทธ์จิ ากแบบทดสอบและใบมอบงานมเี กณฑ์ดงั นี้ ร้อยละ 80-100 หมายถึง ผลการเรียนรู้ดีมาก ร้อยละ 70-79 หมายถึง ผลการเรียนรู้ดี ร้อยละ 60-69 หมายถึง ผลการเรียนรู้ปานกลาง ร้อยละ 50-59 หมายถึง ผลการเรียนรู้ผา่ นเกณฑ์ ข้นั ต่า (ควรปรับปรุงดว้ ยการศึกษาทบทวน) ต่ากวา่ ร้อยละ 50 หมายถึง ผลการเรียนไมผ่ า่ นเกณฑ(์ ตอ้ งปรับปรุงและ เรียนซ่อมเสริมควรทดสอบการประเมินจนกวา่ จะผ่านข้นั ตา่ ) 8.2เกณฑ์การประเมนิ พฤตกิ รรมรายบุคคล 8-10 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมดี 5-7 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมพอใช้ ต่ากวา่ 5 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมที่ตอ้ งปรับปรุง
18 แผนการจดั การเรียนรู้ คร้ังท่ี 3 วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการจัดการอาชพี หน่วยท่ี 3 ชื่อหน่วย การส่ือสาขอ้ มลู ชั่วโมงรวม 2 ช.ม. 8.3 เกณฑ์การตัดสิน 2 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมในระดบั ปฏิบตั ิสม่าเสมอ 1 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมในระดบั ปฏิบตั ิบางคร้ัง 0 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมในระดบั ไมป่ ฏิบตั ิ 8.4 เกณฑ์การประเมนิ 8 - 10 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมดี 5 - 7 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมพอใช้ ต่ากวา่ 5 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมที่ตอ้ งปรับปรุง 9. แหล่งการเรียนรู้เพม่ิ เติม - ประทีป ผลจนั ทร์งาม. วิชาเทคโนโลยสี ารสนเทศเบือ้ งต้น .เอกสารประกอบการเรียนรู้. อดั สาเนา. เอกสารการพมิ พว์ ทิ ยาลยั เทคนิคบา้ นค่าย. 2555. - สืบคน้ ขอ้ มลู จากแหล่งขอ้ มลู อ่ืนๆ ผา่ นเครือขายอินเทอร์เน็ต
19 6. เน้ือหา (ใบความรู้)
20 บทเรยี นท่ี 3 เรอื่ ง พืน้ ฐานการส่ือสารขอ้ มลู จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธบิ ายรปู แบบการสอ่ื สารขอ้ มลู ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 2. แบ่งชนิดของสญั ญาณอเิ ลก็ ทรอนิกสไ์ ดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 3. จาแนกระบบการสอ่ื สารขอ้ มลู ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 4. อธบิ ายระบบการสอ่ื สารแบบอนาลอ็ กและการสอ่ื สารแบบดจิ ติ อลไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 5. จาแนกประเภททศิ ทางการส่อื สารขอ้ มลู ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 6. อธบิ ายการใชง้ านส่อื และอุปกรณ์รบั ส่งขอ้ มลู แต่ละชนิดไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง หวั ข้อเนื้อหา 1. บทนา 2. รปู แบบของการสอ่ื สารขอ้ มลู 3. ชนิดของสญั ญาณ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ 4. รหสั ทใ่ี ชแ้ ทนขอ้ มลู ในการส่อื สาร 5. ระบบการสอ่ื สารอเิ ลก็ ทรอนิกส์ 6. ทศิ ทางของการสอ่ื สารขอ้ มลู 7. ส่อื และอุปกรณ์รบั ส่งขอ้ มลู 8. สรปุ
21 บทเรียนที่ 3 การสื่อสารขอ้ มลู ( Data Communication ) 3.1 บทนา (Introduction) ในยคุ ก่อนทเ่ี ครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอรจ์ ะถอื กาเนิดขน้ึ นัน้ การตดิ ต่อส่งขอ้ มลู สารจะผ่านทาง สอ่ื ต่าง ๆ เช่น ไปรษณยี ์ โทรศพั ท์ วทิ ทยุ หนงั สอื พมิ พ์ ซง่ึ แต่ละส่อื กจ็ ะมขี อ้ ดขี อ้ จากดั ต่าง กนั ไป แต่ในปจั จบุ นั น้สี ่อื ทส่ี รา้ งความเปลย่ี นยแปลงในการสง่ ขอ้ มลู ขา่ วสารมากทส่ี ดุ กค็ อื ระบบการสอ่ื สาร ขอ้ มลู ผ่านเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์ หรอื กล่าวไดว้ า่ ประโยชน์สงู สดุ อยา่ งหน่งึ ของค้ อมพวิ เตอรใ์ นนยคุ แห่งสารสนเทศน้ี กค็ อื การช่ายใหสามารถตดิ ต่อส่อื สารแนละแลกเปลย่ี นขอ้ มลู ไดอ้ ย่างกวา้ งขวาง และรวดเรว็ การส่ือข้อมลู ทางอิเลคทรอนิกส์ คอื การแลกเปลย่ี นขอ้ มลู ระหว่างตน้ ทางและปลายทาง โดยใชอ้ ุปกรณ์ทางอเิ ลกทรอนกิ ส์ ซง่ึ เชอ่ื ต่อกนั อยดู่ ว้ ยสอ่ื กลางชนดิ ใดชนดิ หน่ึง วทิ ยาการดา้ นคอมพวิ เตอร์ และการส่อื สารขอ้ มลู ในอดตี แยกกนั ศกึ ษาวจิ ยั และพฒั นามา นาน แต่มาในระยะหลงั ตงั้ แต่ทศวรรษท่ี 70 และ 80 เป็นตน้ มา วชิ าการทงั้ สองไดร้ วมกนั เขา้ เป็น หน่งึ เดยี วกนั หมายความว่าเมอ่ื มกี ารตดิ ต่อสอ่ื สาร กจ็ ะมคี อมพวิ เตอรเ์ ขา้ มาเกย่ี วขอ้ ง โดยใช้ คอมพวิ เตอรเ์ ป็นอุปกรณ์ประกอบ และในทานองเดยี วกนั เมอ่ื กลา่ วถงึ การประมวลผลบนระบบ คอมพวิ เตอร์ จะมเี รอ่ื งของการส่อื สารหรอื การรบั ส่งขอ้ มลู ระหว่างคอมพวิ เตอรเ์ กดิ ขน้ึ ดว้ ย จงึ เหน็ ไดว้ า่ ในปจั จบุ นั คอมพวิ เตอรก์ บั การส่อื สารขอ้ มลู แยกจากกนั ไมอ่ อก การรวมกนั ของวทิ ยาการทงั้ สองแขนง ทาใหเ้ เกดิ การเปลย่ี นแปลงในหลาย ๆ ดา้ น เช่น เทคโนโลยี หรอื อุปกรณ์ผลติ ภณั ฑต์ ่าง ๆ รวมทงั้ บรษิ ทั ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั คอมพวิ เตอรก์ ม็ กี ารเปลย่ี นแปลงสนิ คา้ นอกจากน้ี การรวมกนั ของ คอมพวิ เตอรแ์ ละการสอ่ื สารขอ้ มลู ทาใหเ้ กดิ ความจรงิ ทว่ี ่า 1. ไมม่ คี วามแตกต่างพน้ื ฐานระหวา่ ง การประมวลผลขอ้ มลู (Data Processing) ซง่ึ เป็น งานของคอมพวิ เตอรโ์ ดยตรง และการสอ่ื สารขอ้ มลู (Transmission equipment) หรอื อุปกรณ์คน้ หาเสน้ ทาง (Switching equipment) 2. การรบั ส่งขอ้ มลู ไมว่ า่ จะเป็นขอ้ มลู ธรรมดา เสยี ง หรอื วดี โี อ ถอื วา่ เป็นขอ้ มลู เหมอื นกนั 3. เกดิ ความแตกต่างทแ่ี ยกกนั ไมอ่ อก ระหวา่ งการประมวลผลทใ่ี ชค้ อมพวิ เตอร์ ซง่ึ มี โปรเซสเซอรต์ วั เดยี ว กบั คอมพวิ เตอรท์ โ่ี ปรเซสเซอรห์ ลายตวั หรอื การแบง่ ระบบ เครอื ขา่ ยออกเป็นเครอื ขา่ ยแบบ LAN (Local Area Network) หรอื WAN (Wide Area Network หรอื Metropolitan Network และ Long-haul Network)
22 Transmission system utilization Addressing Interfacing Routing Signal generation Recovery Synchronization Message formatting Exchange Management Security Error detection and correction Network management Flow control Network management รปู ท่ี 3.1 : ภาระงานของการตดิ ต่อสอ่ื สาร ผลกระทบของแนวโน้มดงั กลา่ วขา้ งตน้ ทาใหเ้ กดิ การเตบิ โต ดา้ นเทคโนโลยแี ละธุรกจิ ท่ี เหล่อื มล้ากนั ระหวา่ งอุตสาหกรรมดา้ นคอมพวิ เตอร์ และดา้ นการสอ่ื สารขอ้ มลู จากการทเ่ี คยเป็น อุปกรณ์ทน่ี ามาต่อเช่อื มกนั เปลย่ี นเป็นระบบทป่ี ระกอบกนั เขา้ เป็นชน้ิ สว่ นเดยี วกนั ผลการ เปลย่ี นแปลง อกี อยา่ งหน่งึ คอื การพฒั นาทเ่ี ป็นระบบรวมคอื การรบั สง่ ขอ้ มลู และการประมวลผล ขอ้ มลู ทุกประเภทไมว่ ่าจะเป็นขอ้ มลู ปกติ เสยี ง ภาพวดิ โี อ และขอ้ มลู สารสนเทศ ทงั้ เทคโนโลยแี ละ องคก์ ารกาหนดมาตรฐานกาลงั มงุ่ ไปส่งระบบ integrated public system โดยทาใหแ้ หล่งขอ้ มลู และ สารสนเทศ ทม่ี อี ยใู่ นโลกน้ี สามารถเขา้ ไปตดิ ต่อไดง้ า่ ยและอยใู่ นรปู แบบมาตรฐาน 3.2 รปู แบบของการสื่อสารข้อมลู (Communications Model) จดุ มงุ่ หมายหลกั ของระบบสอ่ื สารคอื การแลกเปลย่ี นขอ้ มลู ระหว่างสองฝา่ ย โดยฝ่ายหน่ึง อาจรบั ขอ้ มลู หรอื สง่ เพยี งอยา่ งเดยี ว หรอื อาจมที งั้ การรบั และสง่ ไดท้ งั้ สองฝา่ ย จากรปู ท่ี 1.2 แสดง การตดิ ต่อสอ่ื สารกนั ระหว่างเครอ่ื งคอมพวิ เตอรท์ เ่ี ป็น Workstation กบั เครอ่ื ง Server ผ่านระบบ เครอื ขา่ ยโทรศพั ทส์ าธารณะ องคป์ ระกอบพน้ื ฐานของโครงสรา้ งระบบสอ่ื สารประกอบดว้ ย 1. อปุ กรณ์ต้นทาง (Source) อุปกรณ์น้ีทาหน้าทส่ี รา้ งขอ้ มลู ขน้ึ มา ทใ่ี ชใ้ นการกระจายออกไป 2. อปุ กรณ์กระจายข้อมลู (Transmitter) โดยปกตขิ อ้ มลู ทส่ี รา้ งขน้ึ มา จากตน้ ทาง ไม่ สามารถกระจายหรอื ส่งขอ้ มลู ในรปู แบบนนั้ ใหก้ บั ผรู้ บั อ่นื ไดโ้ ดยตรง จาเป็นตอ้ งอาศยั ตวั กระจายขอ้ มลู (Transmitter) ซง่ึ จะทาหน้าทเ่ี ปลย่ี นแปลง รปู แบบขอ้ มลู ใหอ้ ยู่ ในสภาพท่ี เป็นคลน่ื แมเ่ หลก็ ไฟฟ้า (Electromagnetic Signals) แลว้ สง่ ผา่ นเขา้ ไปในระบบรบั สง่ ขอ้ มลู
23 3. ระบบรบั ส่งขอ้ มลู (Transmission System) ตวั อยา่ งเช่นขอ้ มลู ทส่ี รา้ งขน้ึ จากอุปกรณ์ตน้ ทาง (Source) เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ ก่อนทจ่ี ะส่งออกไปจะตอ้ งมโี มเดม็ (Modem) ทาหน้าทแ่ี ปลง สญั ญาณดจิ ติ อล (Digital Bit Stream) ไปเป็นสญั ญาณอนาลอก (Analog Signal) ซง่ึ เป็น สถานะของคล่นื แมเ่ หลก็ ไฟฟ้า สง่ ผา่ นเขา้ ไปในระบบเครอื ขา่ ยโทรศพั ท์ (Telephone Network) 4. อปุ กรณ์รบั สญั ญาณ (Receiver) อุปกรณ์ทเ่ี ป็น receiver จะทาหน้าทร่ี บั สญั ญาณจาก ระบบกระจายสญั ญาณ (transmission system) แลว้ เปลย่ี นแปลงสญั ญาณกลบั เป็นรปู แบบ ทเ่ี หมอื นกบั ต้นฉบบั ก่อนทจ่ี ะสง่ ออกมาจากตน้ ทาง ทาใหอ้ ุปกรณ์ปลายทาง ซง่ึ อาจเป็น เครอ่ื งคอมพวิ เตอรส์ ามารถจดั การกบั ขอ้ มลู ทร่ี บั เขา้ มาได้ เช่น โมเดม็ (Modem) จะเปลย่ี น สญั ญาณอนาลอก (analog) กลบั ไปเป็นสญั ญาณดจิ ติ อล (digital) ใหเ้ ครอ่ื ง คอมพวิ เตอร์ ปลายทางอ่านขอ้ มลู หรอื จดั การกบั ขอ้ มลู ได้ 5. อปุ กรณ์ปลายทาง (Destination) รบั ขอ้ มลู เขา้ มาจาก อุปกรณ์รบั สญั ญาณ (receiver) จากตารางท่ี 1.1 แสดงงานทม่ี อี ยใู่ นการสอ่ื สาร (Communication tasks) รปู ท่ี 3.2: รปู แบบของเครอื ขา่ ยพน้ื ฐาน
24 การใชร้ ะบบรบั สง่ ขอ้ มลู ใหไ้ ดป้ ระโยชน์สงู สดุ (Transmission system utilization) ความ ตอ้ งการใหก้ ารใชเ้ ครอ่ื งอานวยประโยชน์ (facilities) ของการสง่ กระจายขอ้ มลู (transmission) ได้ ประโยชน์สงู สดุ ทงั้ น้เี น่อื งจาก ในระบบการรบั ส่งขอ้ มลู (transmission system) จะใชง้ านโดย อุปกรณ์สอ่ื สารจานวนมาก ดงั นนั้ ตอ้ งอาศยั เทคนคิ หลายอย่างเขา้ ชว่ ยควบคุมการตดิ ขดั (Congession) อนั เน่อื งมาจากมผี ใู้ ชจ้ านวนมาก ในการตดิ ต่อส่อื สารกนั ระหวา่ งอุปกรณ์อย่างหน่งึ กบั ระบบส่อื สาร (communication system) จาเป็นตอ้ งมคี วามสามารถในการเผชญิ หน้า (interface) ใหท้ างานรว่ มกนั ไดอ้ ยา่ ง เหมาะสม ในการตดิ ต่อส่อื สารผ่านตวั กลางต่าง ๆ นนั้ สญั ญาณทส่ี ่งผา่ นไปจะอยใู่ นรปู ของคลน่ื แมเ่ หลก็ ไฟฟ้า (electromagnetic signals) ดงั นนั้ เมอ่ื มกี ารทางานรว่ มกนั กต็ ้องมกี ารสรา้ งสญั ญาณ (signal generation) ขน้ึ มา คุณลกั ษณะของสญั ญาณ (signal) เช่น รปู แบบ (form) ความเขม้ ของสญั ญาณ (intensity) จะตอ้ งมเี พยี งพอทจ่ี ะทางานต่อไปน้ไี ด้ (a) ส่งผา่ นระบบการสอ่ื สารได้ (communication system) (b) ปลายทางสามารถแปลความสญั ญาณ ((Signal) ทส่ี ง่ มาไดว้ ่า สญั ญาณ (signal) ทส่ี ง่ มามคี วามหมายวา่ อยา่ งไร สญั ญาณทส่ี รา้ งขน้ึ มาไมเ่ พยี งแต่จะมี คุณลกั ษณะดงั กล่าวใหส้ อดคลอ้ งกบั ระบบการสอ่ื สาร (communication system) กบั ปลายทางแลว้ จะตอ้ งมกี ารทางานแบบเขา้ จงั หวะ ทเ่ี หมาะสม (synchronization) ระหว่างอุปกรณ์ส่งสญั ญาณ (transmitter) กบั อุปกรณ์รบั สญั ญาณ (receiver) ดว้ ยคอื จะตอ้ งรบั รไู้ ดว้ ่าเมอ่ื ไร อุปกรณ์รบั สญั ญาณ (receiver) จะรบั ขอ้ มลู ได้ หรอื อุปกรณ์สง่ สญั ญาณ (source) จะตอ้ งสง่ ขอ้ มลู ใหมอ่ กี ไดห้ รอื ไม่ หรอื จะไดเ้ มอ่ื ใด นอกเหนือจากเรอ่ื งพน้ื ฐานเกย่ี วกบั การตดั สนิ ใจและชว่ งจงั หวะเวลาสญั ญาณ (signal) ดงั ไดก้ ล่าวไปแลว้ นนั้ ยงั มคี วามตอ้ งการอ่นื ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกนั อกี ระหว่างสองฝา่ ย (Parties) ทอ่ี าจจะตอ้ งมี ระหวา่ งทม่ี กี ารแลกเปลย่ี นขอ้ มลู ภายใตค้ าว่า การจดั การเกย่ี วกบั การแลกเปลย่ี นขอ้ มลู (exchange management) ถา้ ขอ้ มลู มกี ารรบั ส่งสองทาง จาเป็นตอ้ งมคี วามรว่ มมอื กนั ทงั้ สองฝา่ ย (Parties) เช่น ทงั้ สองฝา่ ยคอื ฝา่ ยรบั และส่งขอ้ ความ ตดิ ต่อสนทนากนั ผ่านโทรศพั ท์ ฝา่ ยแรกตอ้ งยกหู หมนุ เบอร์ โทรศพั ท์ ทาใหเ้ กดิ สญั ญาณขน้ึ มาแลว้ ไปทาใหก้ รงิ่ โทรศพั ทอ์ กี ฝา่ ยหน่ึงดงั ขน้ึ ฝา่ ยรบั กย็ ก หโู ทรศพั ท์ แต่สาหรบั อุปกรณ์คอมพวิ เตอร์ (data processing devices) จะมคี วามซบั ซอ้ นมากกวา่ การโทรศพั ทต์ ดิ ต่อกนั เช่น ทงั้ สองฝา่ ยสามารถส่งขอ้ มลู ใหก้ นั พรอ้ ม ๆ กนั ไดห้ รอื ไม่ หรอื จาเป็นตอ้ งผลดั กนั ทา ปรมิ าณของขอ้ มลู ทส่ี ามารถสง่ ไดแ้ ต่ละครงั้ มขี นาดเทา่ ไร รปู แบบของขอ้ มลู เป็นอยา่ งไร และจะตอ้ งทาอยา่ งไรเมอ่ื มปี ญั หาเกดิ ขน้ึ เช่น ในระหวา่ งทม่ี กี ารส่งขอ้ มลู ผ่าน
25 ระบบสอ่ื สาร (communication system) ขอ้ มลู หรอื สญั ญาณอาจมกี ารเปลย่ี นแปลง ก่อนจะถงึ ปลายทาง จงึ จาตอ้ งมกี ารตรวจสอบ ขอ้ ผดิ พลาดของขอ้ มลู (Error Detection) และตอ้ งมกี ารแกไ้ ข ได้ (Correction) ในระดบั หน่ึง เชน่ การถ่ายโอนแฟ้มขอ้ มลู (File Transfer) ระหวา่ งเครอ่ื ง คอมพวิ เตอรส์ องเครอ่ื ง เป็นเรอ่ื งทย่ี อมรบั ไมไ่ ดถ้ า้ ขอ้ มลู ในไฟลท์ ส่ี ง่ ผา่ นระบบสอ่ื สาร มกี าร เปลย่ี นแปลง Flow control จงึ ตอ้ งมคี วามจาเป็นในการจดั การเกย่ี วกบั การถ่ายเทขอ้ มลู ผา่ น เครอ่ื ขา่ ย (network) มกี ารตรวจสอบว่าขอ้ มลู ทส่ี ง่ ไปนนั้ สง่ ไปในระดบั ความเรว็ เท่าไรทป่ี ลายทาง สามารถรบั ขอ้ มลู ได้ Addressing และ Routing มคี วามเก่ยี วขอ้ งกบั เรอ่ื งของการสอ่ื สารขอ้ มลู ในลกั ษณะดงั น้ี เมอ่ื สง่ิ อานวยประโยชน์ในการรรบั ส่งสญั ญาณ (Transmission Facility) เชน่ ตวั กลางทใ่ี ชส้ ่ง สญั ญาณ (transmission system) ตอ้ งระบุปลายทางใหแ้ น่นอนว่า อุปกรณ์ปลายทางเป็นอุปกรณ์ตวั ใด เพอ่ื ใหก้ ารส่งนนั้ ไมผ่ ดิ พลาด การระบุปลายทางทาไดโ้ ดยวธิ กี าหนดหมายเลข ประจาของ อุปกรณ์แต่ละชน้ิ ทไ่ี ม่ซา้ กนั (Addressing) นอกจากน้ใี นระบบสอ่ื สาร (communication system) มี ลกั ษณะเป็นเครอื ข่าย อุปกรณ์ทร่ี บั ขอ้ มลู ดงั กลา่ วอาจมที างผา่ นเขา้ มาไดห้ ลายทาง ดงั นนั้ จะตอ้ งมี การคน้ หาเสน้ ทาง (Rounting) ดว้ ยเสน้ ทางใด จงึ จะไปถงึ ปลายทาางทต่ี อ้ งการได้ Recovery การทา recovery แตกต่างจากเรอ่ื งของการแกไ้ ขความผดิ พลาดดของขอ้ มลู (Error correction) เทคนคิ การทา recovery มคี วามจาเป็นในสถาการณ์ ทก่ี ารแลกเปลย่ี นขอ้ มลู เช่นการถ่ายโอนแฟ้นขอ้ มลู (Transfer file) ถกู แทรกแซง ใหช้ ะงกั การทางาน (interrupts) อนั มี สาเหตุมาจากความผดิ พลาด บางแห่งในระบบส่อื สาร (communication system) จุดมงุ่ หมายของ การทา recovery กเ็ พอ่ื ใหส้ ามารถฟ้ืนเอากจิ กรรมตอนทถ่ี กู แรกแซงมาทางานต่อได้ หรอื อยา่ งน้อย ทส่ี ุดกส็ ามารถฟ้ืนเอาตอนเรมิ่ ตน้ ของงานทก่ี าลงั ทาอยมู่ าทาต่อไปได้ Message formatting เกย่ี วขอ้ งกบั ขอ้ ตกลงกนั ระหวา่ งสองฝา่ ย การทต่ี น้ ทางกบั ปลายทาง สามารถตดิ ต่อแลกเปลย่ี นขอ้ มลู กนั ไดน้ นั้ จาเป็นตอ้ งมรี ปู แบบของขอ้ มลู หรอื ขอ้ ความ (message) ทแ่ี น่นอน ใหท้ งั้ สองฝา่ ยเขา้ ใจตรงกนั นอกจากน้สี ง่ิ สาคญั อกี ประการหน่ึงคอื การรกั ษาความ ปลอดภยั ของขอ้ มลู (security) ขอ้ มลู ทส่ี ง่ ผ่านระบบสอ่ื สาร (communication system) จากตน้ ทาง ตอ้ งมคี วามแน่ใจว่าขอ้ มลู ทส่ี ง่ ผ่านไปใหป้ ลายทางนนั้ จะไปถงึ โดยปลอดภยั และขอ้ มลู ดงั กลา่ วไม่มี การเปลย่ี นแปลงแกไ้ ขระหว่างทาง ระบบอานวยความสะดวกในการส่อื สารขอ้ มลู (data commnucation facility) เป็นระบบท่ี ซบั ซอ้ นไมส่ ามารถสรา้ งขน้ึ มาและทางานไดด้ ว้ ยตวั เอง ตอ้ งอาศยั ระบบการจดั การเครอื ขา่ ย (Network management) เขา้ มาช่วยในเรอ่ื ง การกาหนดการทางานของระบบ (System Configuration), คอยตรวจสอบสถานะของระบบ, มขี นั้ ตอนทางานเมอ่ื ระบบเกดิ การลม้ เหลว (failures) ขน้ึ มา รวมทงั้ การตอบสนองเมอ่ื มกี ารใชง้ านเกนิ ประสทิ ธภิ าพทส่ี ามารถทาได้ (overload), และวางแผนอยา่ งรดั กุม ในการขยายการเจรญิ เตบิ โตในอนาคต
26 Simplified Data Communication Model รปู ท่ี 3.3: แสดงรปู แบบการสอ่ื สารขอ้ มลู พน้ื ฐาน 3.3 ชนิดของสญั ญาณอิเลก็ ทรอนิกส์ สญั ญาณอเิ ลก็ ทรอนกิ สท์ ใ่ี ชใ้ นการส่อื สารสามารถแบ่งไดเ้ ป็น 2 ประเภทคอื สญั ญาณ อนาลอ็ ก และสญั ญาณดจิ ติ อล สญั ญาณอนาลอ็ กไดแ้ ก่สญั ญาณเสยี ง และสญั ญาณในธรรมชาติ ทงั้ หมด ปญั หาทส่ี าคญั ของสญั ญาณ อนาลอ็ กกค็ อื เรอ่ื งสญั ญาณรบกวน ซง่ึ ในบางครงั้ อาจทาให้ ระบบไมส่ ามารถใชง้ านไดเ้ ลย ดงั นนั้ จงึ มกี ารนาสญั ญาณดจิ ติ อลเขา้ มาแทนท่ี 1. สญั ญาณแบบอนาลอ็ ก (Analog Signal) จะเป็นสญั ญาณแบบต่อเน่อื งทท่ี ุกๆ คา่ ท่ี เปลย่ี นแปลงไปของระดบั สญั ญาณจะมคี วามหมาย การสง่ สญั ญาณแบบน้จี ะถูกรบกวนใหม้ กี ารแปล ความหมายผดิ พลาดไดง้ า่ ย เน่อื งจากค่าทกุ คา่ ถกู นามาใชง้ าน ซง่ึ สญั ญาณแบบอนาลอ็ กน้จี ะเป็น สญั ญาณทส่ี อ่ื กลางในการส่อื สารสว่ นมากใชอ้ ยเู่ ช่น สญั ญาณเสยี งในสายโทรศพั ท์ เป็นตน้ 2. สญั ญาณแบบดจิ ติ อล (Digital Signal) จะประกอบขน้ึ จากระดบั สญั ญาณเพยี ง 2 ค่าคอื สญั ญาณระดบั สงู สดุ และสญั ญาณระดบั ต่าสดุ ดงั นนั้ จะมปี ระสทิ ธภิ าพ และความน่าเช่อื ถอื สงู กวา่ แบบอนาลอกเน่อื งจากมกี ารใชง้ านคา่ สองค่า เพอ่ื นามาตคี วามหมายเป็น on/off หรอื 0/1 เท่านนั้ ซง่ึ เป็นสญั ญาณทค่ี อมพวิ เตอรใ์ ชใ้ นการตดิ ต่อสอ่ื สารกนั
27 รปู ท่ี 3.4 สญั ญาณแบบอะนาลอ็ กและดจิ ติ อล 3.4 รหสั ท่ีใช้แทนข้อมลู ในการส่ือสาร การตดิ ต่อส่อื สารแบบใชส้ ญั ญาณทเ่ี ป็นดจิ ติ อลนนั้ สว่ นใหญ่เป็นการตดิ ต่อระหวา่ งอุปกรณ์ อเิ ลก็ ทรอนิกส์ เพอ่ื ใชถ้ ่ายทอดขอ้ มลู บางอยา่ งซง่ึ กนั และกนั ในระบบการส่อื สารขอ้ มลู นนั้ จะตอ้ งเกดิ การสง่ ขอ้ มลู ไมว่ ่าจะเป็นตวั อกั ษร ตวั เลข หรอื สญั ลกั ษณ์พเิ ศษ จากจดุ หน่งึ ไปยงั อกี จดุ หน่งึ แต่ ขา่ วสารแบบน้จี ะถูกเปลย่ี นจากรปู แบบทม่ี นุษยเ์ ขา้ ใจใหก้ ลายเป็นขา่ วสารทเ่ี ครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ จดั เกบ็ ไวไั ด้ รหสั ทใ่ี ชใ้ นการส่อื สารทงั้ หมดจะอยใู่ นรปู แบบของระบบไบนารหี รอื เลขฐานสอง ซง่ึ รหสั มาตรฐานทใ่ี ชใ้ นการส่อื สารขอ้ มลู เช่น รหสั ASCII เป็นตน้ ความเรว็ ในการส่งขอ้ มลู จะมหี น่วย เป็นบติ ต่อวนิ าที (bit per second หรอื bps) รปู ท่ี 3.5 ตวั อยา่ งการส่งรหสั ASCII จากคอมพวิ เตอรไ์ ปยงั เครอ่ื งพมิ พ์
28 7. ส่ือประกอบการสอน
29 ครงั้ ท่ี 3 หน่วยท่ี 3 การส่ือสารขอ้ มลู ตอนที่ 1
30 จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธิบายรปู แบบของการสื่อสารขอ้ มลู ไดอ้ ย่าง ถกู ตอ้ ง 2.จาํ แนกชนิดของสญั ญาณ อิเล็กทรอนิกสไ์ ด้ ถกู ตอ้ ง 3.จําแนกรหสั ท่ีใชแ้ ทนขอ้ มลู ในการส่ือสารไดอ้ ย่าง ถกู ตอ้ ง 4. อธิบายระบบส่ือสารอิเล็กทรอนิกสไ์ ดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง หวั ขอ้ การเรียน 1. รปู แบบของการส่ือสารขอ้ มลู 2. ชนิดของสญั ญาณ อิเล็กทรอนิกส์ 3. รหสั ท่ีใชแ้ ทนขอ้ มูลในการส่ือสาร 4. ระบบส่ือสารอิเล็กทรอนิกส์ 5. ทิศทางการสื่อสารขอ้ มลู
31 ความคิดรวบยอด การสื่อสารขอ้ มลู คือการพฒั นาท่ีเป็ นระบบรวมคือ การรบั ส่งขอ้ มูลและการประมวลผลขอ้ มูลทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็ นขอ้ มูลปกติ เสียง ภาพวิดีโอ และขอ้ มูล สารสนเทศ ท้ังเทคโนโลยี และองค์การกําหนด มาตรฐานกําลงั มุ่งไปส่งระบบ integrated public system โดยทําใหแ้ หล่งขอ้ มูลและสารสนเทศ ท่ีมีอยู่ ในโลกน้ี สามารถเข้าไปติดต่อได้ง่ายและอยู่ใน รปู แบบมาตรฐาน 1. รปู แบบของการสื่อสารขอ้ มลู
32 รปู แบบของการส่ือสารขอ้ มลู รปู แบบของการสื่อสารขอ้ มลู 1.อุปกรณต์ น้ ทาง (Source) อุ ป ก ร ณ์น้ี ทํ า ห น้า ที่ ส ร้า ง ข้อ มู ล ข้ึ น ม า ท่ี ใ ช้ใ น ก า ร กระจายออกไป
33 รปู แบบของการส่ือสารขอ้ มลู 2. อุปกรณก์ ระจายขอ้ มลู (Transmitter) จาํ เป็ นตอ้ งอาศยั ตวั กระจายขอ้ มลู (Transmitter) ซ่ึงจะทาํ หนา้ ท่ีเปล่ียนแปลง รปู แบบขอ้ มลู ให้ อยู่ ในสภาพที่เป็ นคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้ า (Electromagnetic Signals) แลว้ ส่งผ่านเขา้ ไปในระบบรบั ส่งขอ้ มูล (Transmission System) รปู แบบของการส่ือสารขอ้ มลู 3. ระบบการส่งสญั ญาณ (Transmission) จะทาํ หนา้ ท่ีเป็ น ตวั นําพาสญั ญาณจากเคร่ืองส่ง หรืออุปกรณส์ ่งสญั ญาณไปยงั อุปกรณร์ บั สญั ญาณ หรือเรียกอีก อย่างหน่ึงว่าเป็ นส่ือนําสญั ญาณ (media)
34 รปู แบบของการส่ือสารขอ้ มลู 4. อุปกรณร์ บั สญั ญาณ (Receiver) ทําหนา้ ที่รบั สญั ญาณ จากระบบกระจายสญั ญาณ (transmission system) แลว้ เปลี่ยนแปลงสญั ญาณกลบั เป็ น รปู แบบที่เหมือนกบั ตน้ ฉบบั เช่น โมเด็ม (Modem) รปู แบบของการสื่อสารขอ้ มลู 5. อุปกรณป์ ลายทาง (Destination) รบั ขอ้ มลู เขา้ มาจาก อุปกรณ์ รบั สญั ญาณ (receiver)
35 2. ชนิดของสญั ญาณ อิเล็กทรอนิกส์
36 สญั ญาณอิเล็กทรอนิกสท์ ี่ใชใ้ นการ ส่ือสารสามารถแบ่งไดเ้ ป็ น 2 ประเภทคือ 1.สญั ญาณอนาล็อก 2. สญั ญาณดิจิตอล
37 1. สญั ญาณแบบอนาล็อก (Analog Signal) จะเป็ น สญั ญาณแบบต่อเน่ือง ทกุ ๆ ค่า ที่เปล่ียนแปลงไปของ ระดบั สญั ญาณจะมี ความหมาย การส่งสญั ญาณ แบบน้ีจะถกู รบกวนใหม้ ีการ แปลความหมายผิดพลาดได้ ง่าย เนื่องจากค่าทกุ ค่าถกู นํามาใชง้ าน 2. สญั ญาณแบบดิจิตอล (Digital Signal) จะประกอบข้ึนจากระดบั สญั ญาณเพียง 2 ค่าคือ สญั ญาณ ระดบั สงู สดุ และสญั ญาณระดบั ตํา่ สุด ดงั นน้ั จะมีประสิทธิภาพ และความน่าเช่ือถือสงู กว่าแบบ อนาลอกเน่ืองจากมีการใชง้ านค่า สองค่า เพ่ือนํามาตีความหมาย เป็ น on/off หรือ0/1 เท่านนั้
38 3. รหสั ท่ีใชแ้ ทนขอ้ มลู ในการสื่อสาร การติดต่อสื่อสารแบบใชส้ ญั ญาณท่ีเป็ นดิจิตอลนน้ั ส่วนใหญ่เป็ นการติดต่อระหว่างอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใชถ้ ่ายทอดขอ้ มูลบางอย่างซ่ึงกนั และกนั รหสั ท่ีใชใ้ น การส่ือสารทงั้ หมดจะอยู่ในรปู แบบของระบบไบนารีหรือ เลขฐานสอง ซ่ึงรหสั มาตรฐานท่ีใชใ้ นการสื่อสารขอ้ มลู เช่น รหสั ASCII เป็ นตน้ ความเร็วในการส่งขอ้ มลู จะมีหน่วยเป็ น บิตต่อวินาที (bit per second หรือ bps)
39 4. ระบบสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ 4.1 การมอดเู ลต (Modulation) และ ดีมอดเู ลต (Demodulation) 4.2 ระบบสื่อสารอนาล็อก 4.3 ระบบสื่อสารดิจิตอล 4.4 รปู แบบของการส่งผ่านขอ้ มลู ดิจิตอล 4.1 การมอดเู ลต (Modulation) และ ดีมอ ดเู ลต (Demodulation)
40 จากรูปแสดงรูปแบบของการสื่อสารในการ รับส่งสัญญาณอย่างง่าย โดยคล่ืนพาห์ผสม สญั ญาณขอ้ มูลที่ตวั มอดเู ลต (Modulator) แลว้ ส่งไปท่ีเคร่ืองส่ง จากเคร่ืองส่งไปยงั เคร่ืองรบั จะ เป็ นช่องสญั ญาณสําหรบั ลําเลียงสญั ญาณผสมน้ี สญั ญาณผสมจากเคร่ืองรบั จะไปเขา้ ตวั ดีมอดู เลต (Demodulate) เพ่ือแยกสญั ญาณขอ้ มูล ออกมา
41 4.2 ระบบส่ือสารอนาล็อก การสื่อสารอนาล็อก เป็ นระบบท่ีออกแบบใหส้ ่งขอ้ มลู สญั ญาณอนาล็อก เช่น สญั ญาณเสียง ปัญหาสําคญั สําหรบั การส่ือสารอนาล็อกก็คือเรื่องสญั ญาณรบกวน แต่เนื่องจาก สญั ญาณในธรรมชาติทง้ั หมดเป็ นสญั ญาณ อนาล็อก จึง ยงั คงเห็นการพฒั นาของการส่ือสารแบบอนาล็อกในปัจจุบนั เช่น - การมอดเู ลตแอมพลิจดู (Amplitude Modulation หรือ AM) -การมอดเู ลตความถี่(Frequency Modulation หรือ FM)
42 4.3 ระบบสื่อสารดิจิตอล ขอ้ ดีของสญั ญาณแบบดิจิตอลนนั่ เอง เช่น 1. ใหค้ ุณภาพการรบั ส่งขอ้ มลู ท่ีเท่ากนั หรือดีกว่า อนาล็อก 2. ง่ายต่อการบํารงุ รกั ษา 3. เพิ่มเติม ปรบั ปรงุ หรือเปล่ียนแปลง ความสามารถหรือบริการของระบบไดง้ ่าย 4. มีความเร็วในการรบั ส่งขอ้ มลู สงู ทนต่อ สญั ญาณรบกวนไดด้ ี
43 4.4 รปู แบบของการส่งผ่านขอ้ มลู ดิจิตอล 4.4.1 การส่งผ่านขอ้ มลู แบบขนาน (Parallel Transimission) 4.4.2 การส่งผ่านขอ้ มลู แบบอนุกรม (Serial Transimission) 4.4.1 การส่งผ่านขอ้ มลู แบบขนาน (Parallel Transimission)
44 ก า ร ส่ ง ผ่ า น ข้อ มู ล แ บ บ ข น า น ( Parallel Transimission) ในรูปแบบการส่งผ่านขอ้ มูลใน ลกั ษณะน้ีทุกบิตท่ีแทนขอ้ มูลหน่ึงตวั อกั ษร จะถูก ส่งผ่านไปตามสายส่ง หลายๆ สายขนานกนั ไป ดังนั้นทุกบิตจะเดินทางถึงผู้รับพรอ้ มๆ กัน และ จํานวนสายส่งเพ่ือใหเ้ กิดช่องทางการส่งจะตอ้ งมี จํานวนเท่ากบั จํานวนบิตที่เขา้ รหสั แทนตวั อกั ษรใน แต่ละระบบ
45
46
47 การส่ือสารแบบอะซิงโคนสั ที่ไม่ไดใ้ ช้ พารีต้ีบิต การสื่อสารแบบอะซิงโคนสั ที่ใชพ้ ารีต้ีบิต
Search