Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ชุดการเรียนรู้ทางไกล ครั้งที่ 17/18 เรื่อง การสืบค้นข้อมูลสารสนเทศเพื่อพัฒนางานอาชีพด้วยเครือข่าย

ชุดการเรียนรู้ทางไกล ครั้งที่ 17/18 เรื่อง การสืบค้นข้อมูลสารสนเทศเพื่อพัฒนางานอาชีพด้วยเครือข่าย

Description: วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการอาชีพ รหัสวิชา 3001 -2001 สาขาวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ ประเภทวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ หลักสูตรระดับ ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.)
ตามหลักสูตร สา นักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา พุทธศักราช 2557

Search

Read the Text Version

ชุดการเรียนรู้ทางไกล คร้ังที่ 1/18 เรื่อง „µ¦­º ‡oœ…o°¤¨¼ ­µ¦­œÁš«Á¡°ºn ¡´•œµŠµœ°µ¸¡ —oª¥Á‡¦°º …µn ¥°·œÁ˜°¦Ár œ˜È  ˜°œš¸n   วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่ือการจัดการอาชพี รหัสวชิ า 3001 -2001 สาขาวชิ า เทคโนโลยีสารสนเทศ ประเภทวชิ า เทคโนโลยีสารสนเทศ หลกั สูตรระดบั ประกาศนียบตั รวชิ าชีพช้นั สูง (ปวส.) ตามหลกั สูตร สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา พุทธศกั ราช 2557 ประทีป ผลจันทรง์ าม เพ่ือการจดั ทาเน้ือหาและพฒั นาสื่อการสอนอาชีพและวิชาชีพ สาหรับการศึกษาทางไกลหรอื เรียนฝึกงานในสถานประกอบการด้วยตนเอง วทิ ยาลัยเทคนคิ ระยอง สถาบันการอาชีวศกึ ษาภาคตะวนั ออก สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ



สารบัญ 1. รายละเอียดหลกั สูตรรายวชิ า 1 2. ใบวเิ คราะห์หวั ขอ้ เร่ือง 4 3. แผนภมู ิปะการัง 6 4. โครงการจดั การเรียนรู้ 8 5. แผนการจดั การเรียนรู้ 12 6. เน้ือหา (ใบความรู้) 19 7. สื่อประกอบการสอน 34 8. แบบทดสอบก่อนเรียน 69 9. แบบทดสอบหลงั เรียน 72 10. เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน 75 11. เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน 77 12. แบบประเมินพฤติกรรมรายบุคคล 79 13. แบบบนั ทึกหลงั การเรียนรู้ 81

1 1.รายละเอียดหลกั สูตรรายวชิ า

2 ช่ือวชิ า.เทคโนโลยสี ารสนเทศเพือ่ การจดั การอาชพี คาอธิบายรายวชิ า รหัสวชิ า300– แผ่นที่ 1 สาขาวชิ า เทคโนโลยีสารสนเทศ คาอธิบายรายวชิ า ( เดมิ ) 1. รหัสและช่ือวชิ า 3000–0203. วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเบอื้ งต้น 2. ระดบั รายวชิ า ระดบั ช้นั ปวส. ปี ท่ี 1 3. เวลาศึกษา 72 ชว่ั โมงตลอด 18 สัปดาห์ ทฤษฎี 2 ชว่ั โมง ปฏิบตั ิ 2 ชว่ั โมงต่อสปั ดาห์ 4. จานวนหน่วยกติ 3 หน่วยกิต 5. จุดประสงค์รายวชิ า 1. เเขา้ ใจเก่ยี วกบั คอมพวิ เตอร์ ระบบเครอื ข่ายคอมพิวเตอร์และสารสนเทศรจดั การสารสนเทศ 2. สามารถสบื ค้น จัดเก็บ คน้ คนื สง่ ผ่าน จดั ดำเนนิ การข้อมูลสารสนเทศ นำเสนอและสือ่ สารข้อมูล ส 3. มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและความรับผิดชอบในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการจดั การอาชพี 6. สมรรถนะรายวชิ า 1. แสดงความรเู้ กี่ยวกบั หลักการและกระบวนการสบื ค้น จัดดำเนนิ การและสอ่ื สารขอ้ มลู ฯ 2. ใชค้ อมพวิ เตอรในการสืบค้นและสอื่ สารขอ้ มลู สารสนเทศผา่ นระบบ เครือข่ายคอมพวิ เตอร์ 3. จัดเก็บ ค้นคนื สง่ ผ่านและจดั ดำเนินการขอ้ มูลสารสนเทศตามลักษณะงานอาชพี 4. นำเสนอและสื่อสารขอ้ มลู สารสนเทศในงานอาชพี โดยประยุกต์ใชโ้ ปรแกรมสำเรจ็ รปู 7. คาอธิบายรายวชิ า ศกึ ษาและปฏิบัติเก่ยี วกบั คอมพวิ เตอรแ์ ละอุปกรณโ์ ทรคมนาคม ระบบเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์ และ สารสนเทศ การสบื ค้นข้อมูลสารสนเทศ การจดั เก็บ คน้ คืน ส่งผ่านและจัดดำเนนิ การขอ้ มูล สารสนเทศ การประยุกตใ์ ชโ้ ปรแกรมสำเรจ็ รปู ในการนำเสนอและสอ่ื สารข้อมลู สารสนเทศ ตามลกั ษณะงานอาชพี

3 ชื่อวชิ า.ทคโนโลยีสารสนเทศเพอ่ื การจดั การอาชีพ คาอธิบายรายวชิ า แผ่นท่ี 2 รหสั วชิ า3001–2001 สาขาวชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศ คาอธิบายรายวชิ า ( เดมิ ) ศกึ ษาและปฏิบัตเิ กย่ี วกบั คอมพิวเตอร์และอปุ กรณ์โทรคมนาคม ระบบเครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์ และ สารสนเทศ การสบื ค้นข้อมูลสารสนเทศ การจัดเก็บ คน้ คนื ส่งผ่านและจัดดำเนินการขอ้ มลู สารสนเทศ การประยกุ ตใ์ ชโ้ ปรแกรมสำเรจ็ รูปในการนำเสนอและสื่อสารข้อมลู สารสนเทศ ขอ้ มลู สารสนเทศเพ่ือพฒั นางานอาชีพดว้ ยคอมพวิ เตอร์ คาอธิบายรายวชิ า ( ปรับปรุง ) ศึกษาเกยี่ วกบั พ้ืนฐานเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร ขอ้ มลู และการจดั การฐานขอ้ มลู การส่ือสารขอ้ มลู เทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์ เทคโนโลยซี อฟตแ์ วร์ ระบบปฏิบตั ิการคอมพวิ เตอร์ ความรู้พ้ืนฐานของเทคโนโลยเี ครือขา่ ย เทคโนโลยสี ารสนเทศกบั อินเตอร์เน็ต การสืบคน้ ขอ้ มูล ตามลักษณะงานอาชีพ ศกึ ษาและปฏิบตั ิเกย่ี วกบั งานทดสอบโปรแกรมการจดั การฐานขอ้ มูล MS-ACCESS งานประกอบ ไมโครคอมพวิ เตอร์PC งานทดสอบโปรแกรม MS-Word งานทดสอบโปรแกรม MS-Power Point งานทดสอบโปรแกรม MS-Excel งานติดต้งั และทดสอบระบบปฏิบตั ิการ Linux งานติดต้งั และ ทดสอบระบบปฏิบตั ิการ Windows XP งานทดสอบระบบเครือขายวนิ โดว์ งานทดสอบสาย UTP งาน ทดสอบสอบ Switching HUB งานทดสอบระบบเครือขายอินเทอร์เน็ต งานทดสอบ IP Address งาน ทดสอบการใชง้ าน Browser งานทดสอบการใช้ e-Mail งานทดสอบการสืบคน้ มูลผา่ นเครือข่าย อินเทอร์เน็ต

4 2. ใบวิเคราะห์หวั ขอ้ เร่ือง

5 ชื่อวชิ า.เทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการจดั การอาชพี ใบวเิ คราะห์หัวข้อเรื่อง รหัสวชิ า300– สาขาวชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศ แผ่นท่ี 1 แหล่งข้อมูล หวั ข้อเรื่อง ( Topic ) ABCDE 1. พ้ืนฐานเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร 2. ขอ้ มูลและการจดั การฐานขอ้ มลู /// / 3. การส่ือสารขอ้ มลู 4. เทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์ / //// 5. เทคโนโลยซี อฟตแ์ วร์ 6. ระบบปฏิบตั ิการคอมพิวเตอร์ / //// 7. ความรู้พ้ืนฐานของเทคโนโลยเี ครือข่าย 8. เทคโนโลยสี ารสนเทศกบั อินเตอร์เน็ต / //// 9. การสืบคน้ ขอ้ มูลสารสนเทศเพอ่ื พฒั นางานอาชีพดว้ ยเครือข่าย อินเตอร์เน็ต / //// / //// / //// / //// / //// หมายเหตุ A : คาอธิบายรายวชิ า B : ประสบการณ์ของผู้สอน C : ผู้เช่ียวชาญ D : ผู้ชานาญงาน E : เอกสาร / ตารา

6 3. แผนภมู ิปะการงั

9.1 การสบคนขอมลสารสนเทศบนอนเทอร์เน็ต 1.1 เทคโนโลยสารสนเทศ 2.1 ขอมลและสารสนเทศ 9.2 เทคนคการสบคนขอมล 1.2 วฒนาการเทคโนโลยสารสนเทศและการสอสาร 2.2 ฐานขอมลและการจดการฐานขอมล 9.3 เวบ็ ไซต์ทเกยวของเพอประโยชน์ในการศกษา 9. การสบคนขอมลสารสนเทศเพอพฒนา 1. พนฐานเทคโนโลย 2. ขอมลและการจดการ 3.1 รปแบบของการสอสารขอมล งานอาชพดวยเครอขายอนเตอรเ์ น็ต สารสนเทศและการสอสาร ฐานขอมล 3.2 ชนดของสญญาณ อเล็กทรอนกส์ 3.3 รหสทใชแทนขอมลในการสอสาร 8. เทคโนโลยสารสนเทศกบ วชา เทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการจดั การอาชพีี 3. การสอสารขอมล 3.4 ระบบการสอสารอเลก็ ทรอนกส์ อนเตอร์เนต็ รหสั 3001–2001สาขาวิชาเทคโนโลยสารสนเทศ 3.5 ทศทางของการสอสารขอมล 3.6 สอและอปกรณร์ บสงขอมล 8.1 เครอขายอนเตอรเ์ นต็ 7. ความรพนฐานของ 4. เทคโนโลยคอมพวเตอร์ 4.1 คอมพวเตอรแ์ ละฮารด์ แวร์ 8.2 การบรการเครอขายอนเตอร์เน็ต เทคโนโลยเครอขาย 5. เทคโนโลยซอฟต์แวร์ 4.2 องคป์ ระกอบพนฐานของเครอง คอมพวเตอร์ 8.3 โพรโตคอล TCP/IP 6. ระบบปฏบตการ (Transmission Control คอมพวเตอร์ 4.3 ประเภทของคอมพวเตอร์ Protocol/Internet Protocol) 4.4 เทคโนโลยคอมพวเตอรส์ วนบคคล 4.5 แนะนาการเลอกซออปกรณ์คอมพวเตอร์ 8.5 การเชอมตอเขากบอนเตอรเ์ นต็ 4.6 คอมพวเตอรก์ บเครอขาย 8.6 การใชงานและบรการตางๆ บนเครอขาย อนเตอรเ์ นต็ Control (MAC) Method) 7.1 เปาหมายของเครอขายคอมพวเตอร์ 5.1 ซอฟตแ์ วรค์ อมพวเตอร์ 7.2 ประเภทระบบเครอขายคอมพวเตอร์ 8.7 การประยกตใ์ ชอนเตอรเ์ นต็ 5.2 ภาษาคอมพวเตอร์ 8.8 เครอขายอนทราเน็ต 7.3 ระบบเครอขายLAN (Local Area Network) 5.3 แนวทางการพฒนาซอฟตแ์ วร์ 7.4 สอทใชในการสงขอมล 6.1 ระบบปฏบตการ 6.2 ระบบปฏบตการ UNIX และ Linux 5.4 ซอฟตแ์ วรป์ ระยกต์ 7.5 อปกรณ์ทใชในการเชอมตอบนระบบเครอขาย 6.3 ระบบปฏบตการวนโดว์ (ตอนท่ 1 การใชงานโปรแกรม MS Word) 7.6 วธควบคมการเขาใชงานสอกลาง (Media Access Control 6.4 ระบบปฏบต Windows mobile 5.4 ซอฟตแ์ วรป์ ระยกต์ (ตอนท่ 2 การใชงานโปรแกรม MS Power Point ) (MAC) Method) 7.7 มาตรฐานระบบเครอขายแบบ LAN ชนดตางๆ 5.4 ซอฟตแ์ วรป์ ระยกต์ 7.8 โปรโตคอลของระบบเครอขาย (Network Protocol) (ตอนท่ 3 การใชงานโปรแกรมไมโครซอฟท์ MS Excel ) 7

8 4. โครงการจดั การเรียนรู้

9 โครงการสอนทางไกล วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่อื การจดั การอาชีพ รหสั วชิ า 3001–2001 สาขาวชิ าเทคโนโลยสี ารสนเทศ หลกั สูตรระดับ ประกาศนียบตั รวชิ าชีพช้นั สูง (ปวส.) ตามหลกั สูตร สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา พทุ ธศกั ราช 2557 สอนคร้ังที่ หน่วยการ รายการสอน หมายเหตุ 1 เรียนท่ี 2 1. พนื้ ฐานเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร 3 1 1.1 เทคโนโลยสี ารสนเทศ 2 1.2 วฒั นาการเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร 4 3 5 2. ข้อมูลและการจัดการฐานข้อมูล 3 2.1 ขอ้ มลู และสารสนเทศ 6 4 2.2 ฐานขอ้ มูลและการจดั การฐานขอ้ มูล 7 4 3. การสื่อสารข้อมูล 5 3.1 รูปแบบของการสื่อสารขอ้ มูล 3.2 ชนิดของสัญญาณ อิเล็กทรอนิกส์ 3.3 รหสั ท่ีใชแ้ ทนขอ้ มลู ในการสื่อสาร 3.4 ระบบการส่ือสารอิเลก็ ทรอนิกส์ 3.5 ทิศทางของการส่ือสารขอ้ มลู 3.6 ส่ือและอุปกรณ์รับส่งขอ้ มลู 4. เทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์ 4.1 คอมพิวเตอร์และฮาร์ดแวร์ 4.2 องคป์ ระกอบพ้ืนฐานของเคร่ืองคอมพิวเตอร์ 4.3 ประเภทของคอมพิวเตอร์ 4.4 เทคโนโลยคี อมพิวเตอร์ส่วนบุคคล 4.5 แนะนาการเลือกซ้ืออุปกรณ์คอมพวิ เตอร์ 4.6 คอมพวิ เตอร์กบั เครือขา่ ย 5. เทคโนโลยซี อฟต์แวร์ 5.1 ซอฟตแ์ วร์คอมพิวเตอร์

10 สอนคร้ังท่ี หน่วยการ รายการสอน หมายเหตุ เรียนที่ 8 5.2 ภาษาคอมพวิ เตอร์ 9 5 5.3 แนวทางการพฒั นาซอฟตแ์ วร์ 10 5 5.4 ซอฟตแ์ วร์ประยกุ ต์ 11 5 (ตอนที่ 1 การใชง้ านโปรแกรม MS Word) 12 6 5.4 ซอฟตแ์ วร์ประยกุ ต์ 13 (ตอนท่ี 2 การใชง้ านโปรแกรม MS Power Point ) 14 6 5.4 ซอฟตแ์ วร์ประยกุ ต์ 6 (ตอนท่ี 3 การใชง้ านโปรแกรมไมโครซอฟท์ MS 15 7 Excel ) 6. ระบบปฏิบตั กิ ารคอมพวิ เตอร์ 16 7 6.1 ระบบปฏิบตั ิการ 6.2 ระบบปฏิบตั ิการ UNIX และ Linux 8 6.3 ระบบปฏิบตั ิการวนิ โดว์ 6.4 ระบบปฏิบตั ิ Windows mobile 7. ความรู้พนื้ ฐานของเทคโนโลยเี ครือข่าย 7.1 เป้ าหมายของเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ 7.2 ประเภทระบบเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ 7.3 ระบบเครือข่ายLAN (Local Area Network) 7.4 สื่อที่ใชใ้ นการส่งขอ้ มูล 7.5 อุปกรณ์ท่ีใชใ้ นการเช่ือมตอ่ บนระบบเครือขา่ ย 7.6 วธิ ีควบคุมการเขา้ ใชง้ านสื่อกลาง (Media Access Control (MAC) Method) 7.7 มาตรฐานระบบเครือข่ายแบบ LAN ชนิดตา่ งๆ 7.8 โปรโตคอลของระบบเครือข่าย (Network Protocol) 8. เทคโนโลยสี ารสนเทศกบั อนิ เตอร์เน็ต 8.1 เครือขา่ ยอินเตอร์เน็ต 8.2 การบริการเครือข่ายอินเตอร์เน็ต 8.3 โพรโตคอล TCP/IP (Transmission Control Protocol/Internet Protocol)

สอนคร้ังท่ี หน่วยการ รายการสอน 11 เรียนที่ 8.4 ระบบชื่อโดเมน (Domain Name System) หมายเหตุ 17 8 8.5 การเช่ือมต่อเขา้ กบั อินเตอร์เน็ต 8.6 การใชง้ านและบริการตา่ งๆ บนเครือข่าย อินเตอร์เน็ตControl (MAC) Method) 8.7 การประยกุ ตใ์ ชอ้ ินเตอร์เน็ต 8.8 เครือขา่ ยอินทราเน็ต 18 9 9. การสืบค้นข้อมูลสารสนเทศเพอื่ พฒั นางานอาชีพด้วย เครือข่ายอินเตอร์เน็ต 9.1 การสืบคน้ ขอ้ มูลสารสนเทศบนอินเทอร์เน็ต 9.2 เทคนิคการสืบคน้ ขอ้ มูล 9.3 เวบ็ ไซตท์ ี่เกี่ยวขอ้ งเพอ่ื ประโยชน์ในการศึกษา

12 5. แผนการจดั การเรียนรู้

13 แผนการจดั การเรียนรู้ คร้ังท่ี 17 วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื การจัดการอาชีพ หน่วยที่ 9 ชื่อหน่วย การสืบคน้ ขอ้ มูลสารสนเทศเพื่อพฒั นา ชั่วโมงรวม 2 ช.ม. งานอาชีพดว้ ยเครือขา่ ยอินเตอร์เน็ต ช่ือเร่ือง การสืบคน้ ขอ้ มลู สารสนเทศเพ่ือพฒั นางานอาชีพดว้ ยเครือข่าย จานวน 2 ชั่วโมง อินเตอร์เน็ต ตอนที่ 1 1.จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธบิ ายการสืบคน้ ขอ้ มูลสารสนเทศบนอินเทอร์เน็ตไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 2. อธบิ ายเทคนิคการสืบคน้ ขอ้ มูลไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 2. หวั ข้อสาระการเรียนรู้ 1. การสืบคน้ ขอ้ มูลสารสนเทศบนอินเทอร์เน็ต 2. เทคนิคการสืบคน้ ขอ้ มลู 3. สาระสาคญั การเรียนรู้ การศกึ ษาคน้ ควา้ หาขอ้ มลู ต่างๆ หรอื การวจิ ยั จาเป็นจะต้องมกี ระบวนการแสวงหาความรู้ ความจรงิ อย่างเป็นระบบ มคี วามสาคญั ต่อการพฒั นาความรใู้ นศาสตรต์ ่างๆ ผสู้ บื คน้ ขอ้ มลู หรอื ผวู้ จิ ยั จาเป็นอยา่ งยงิ่ ทจ่ี ะตอ้ งมกี ารคน้ ควา้ สบื คน้ ขอ้ มลู จากแหล่งต่างๆเพ่อื ใชใ้ นการอ้างองิ หรอื ทบทวนวรรณกรรม ซ่ึงปจั จุบนั แหล่งความรู้ท่ีนิยมใช้กนั อย่างแพร่หลาย คือเครอื ข่าย อนิ เทอรเ์ น็ต ทเ่ี ป็นแหล่งรวมของขอ้ มลู ทุกสาขาจากทวั่ ทุกมุมโลก สามารถเขา้ ถงึ แหล่งขอ้ มลู ได้ อย่างรวดเรว็ ทุกเวลาและสถานท่ี การเขา้ ถงึ แหล่งขอ้ มลู ทางเครอื ข่ายอนิ เทอรเ์ น็ตและต้องมี ความรแู้ ละทกั ษะในการสบื คน้ ขอ้ มลู สารสนเทศ เพ่อื ใหส้ ามารถใชเ้ วลาไมน่ านนักและไดข้ อ้ มลู ท่ี มปี ระสทิ ธภิ าพตลอดจนไดผ้ ลทม่ี คี ณุ ภาพอกี ดว้ ยบทน้จี ะกล่าวถงึ การสบื คน้ ขอ้ มลู สารสนเทศทาง เครอื ขา่ ยอนิ เทอรเ์ น็ต เทคนิคการสบื คน้ ขอ้ มลู ความน่าเช่อื ถอื ของแหล่งขอ้ มลู แนะนาเวบ็ ไซต์ ทางการวจิ ยั ทน่ี ่าสนใจ รวมทงั้ ขอ้ ดแี ละขอ้ จากดั ของการสบื คน้ ขอ้ มลู สารสนเทศทางเครอื ข่าย อนิ เทอรเ์ น็ต

14 แผนการจดั การเรียนรู้ คร้ังที่ 17 วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่ือการจดั การอาชพี หน่วยที่ 9 ชื่อหน่วย การสืบคน้ ขอ้ มลู สารสนเทศเพอ่ื พฒั นา ชั่วโมงรวม 2 ช.ม. งานอาชีพดว้ ยเครือข่ายอินเตอร์เน็ต 4. เนือ้ หาสาระ บทที่ 9 การสืบค้นข้อมูลสารสนเทศเพอื่ พฒั นางานอาชีพด้วยเครือข่ายอนิ เตอร์เน็ต 9.1 การสืบคน้ ขอ้ มลู สารสนเทศบนอินเทอร์เน็ต 9.2 เทคนิคการสืบคน้ ขอ้ มูล จากเอกสารประกอบการเรียนรู้ของ ประทีป ผลจนั ทร์งาม. วชิ าเทคโนโลยสี ารสนเทศเบือ้ งต้น .เอกสารประกอบการเรียนรู้.อดั สาเนา. เอกสารการพิมพว์ ทิ ยาลยั เทคนิคบา้ นคา่ ย. 2555. 5. กจิ กรรมการเรียนการสอน กจิ กรรมครู กจิ กรรมนักเรียน ข้นั เตรียม ข้นั เตรียม 1. จดั เตรียมสื่อท่ีใชป้ ระกอบการเรียนรู้ให้ 1. เตรียมตวั และเอกสาร หรือวสั ดุ เคร่ืองมือท่ี พร้อม สาหรับการเรียนการสอน ( ตามรายการ จาเป็นตอ้ งใชใ้ นการเรียนรู้ ในหวั ขอ้ ที่ ส่ือการเรียนรู้ เลือกสื่อการเรียนรู้ได้ 2. ใหค้ วามร่วมมือกบั ครูในการตรวจสอบรายชื่อ ตามความเหมาะสม ) เขา้ เรียน 2. ตรวจสอบรายชื่อนกั เรียนท่ีเขา้ เรียน 3. ถา้ เรียนรู้ผา่ นระบบ e-Learning ใหเ้ ขา้ สู่ระบบ เพอื่ เตรียมความพร้อมในการเรียนรู้ ข้นั สนใจปัญหา (Motivation) ข้นั สนใจปัญหา (Motivation) 1. ใหผ้ เู้ รียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน โดย 1. ทาแบบทดสอบก่อนเรียน ใชเ้ วลา 30 นาที และครูตรวจคาตอบหลงั จาก 2. ร่วมสนทนาและแสดงความคิดเห็น เสร็จสิ้นการทดสอบ เพื่อแจง้ ผลการทดสอบให้ นกั เรียนทราบหลงั เรียนจบบทเรียน 2. ใชส้ ื่อช่วยสอน นาเขา้ สู่บทเรียนดว้ ยภาพ แบบจาลอง ของตวั อยา่ ง หรือสิ่งที่จะช่วยดึงดูด ความสนใจ หรือคาถาม หมายเหตุ หากเรียนรู้จากสื่อวดี ีทศั น์ ทางไกลผา่ นดาวเทียม หรือผา่ นอินเทอร์เน็ต

15 แผนการจดั การเรียนรู้ คร้ังท่ี 17 วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพือ่ การจัดการอาชีพ หน่วยที่ 9 ช่ือหน่วย การสืบคน้ ขอ้ มูลสารสนเทศเพือ่ พฒั นา ชั่วโมงรวม 2 ช.ม. งานอาชีพดว้ ยเครือขา่ ยอินเตอร์เน็ต ตอ้ งทาการทดสอบก่อนเรียนใหแ้ ลว้ เสร็จก่อน การเรียนรู้ จากสื่อฯ ท่ีทาการออกอากาศ ข้ันศึกษาข้อมูล (Information) (60 นาท)ี ข้นั ศึกษาข้อมูล (Information) 1. ใหผ้ เู้ รียนเริ่มเรียนรู้เน้ือหา หรือฝึก 1. ผเู้ รียนเร่ิมเรียนรู้เน้ือหา หรือฝึกปฏิบตั ิงาน ปฏิบตั ิงาน จากการฉายวดี ีทศั น์ในรูปแบบ จากการฉายวดี ีทศั น์ในรูปแบบ DVD หรือ สื่อวีดี DVD หรือ สื่อวีดีทศั น์ทางไกลผา่ นดาวเทียม ทศั น์ทางไกลผา่ นดาวเทียม หรืออินเทอร์เน็ต หรืออินเทอร์เน็ต หรือแบบออฟไลน์ หรือแบบออฟไลน์ 2. ใหผ้ เู้ รียนไดส้ อบถามหรือขอ้ สงสยั จาก 2. ผเู้ รียนไดส้ อบถามหรือขอ้ สงสัย จากการ การเรียนรู้เน้ือหา เรียนรู้เน้ือหา ข้นั พยายาม (Application) (30 นาท)ี ข้นั พยายาม (Application) 1. หลงั การเรียนรู้เน้ือหาเสร็จสิ้น ใหผ้ เู้ รียน 1. หลงั การเรียนรู้เน้ือหาเสร็จสิ้นผเู้ รียนทา ทาแบบทดสอบหลงั เรียนหรือแบบฝึกปฏิบตั ิ แบบทดสอบหลงั เรียนหรือแบบฝึกปฏิบตั ิ 2. หรือใหผ้ เู้ รียนทาแบบทดสอบบน 2. หรือทาแบบทดสอบบนออนไลน์ และ ออนไลน์ และสามารถตรวจคาตอบไดท้ นั ที สามารถตรวจคาตอบทนั ที ข้นั สาเร็จผล (Progress) ข้นั สาเร็จผล (Progress) 1. ประเมินผลการปฏิบตั ิงานหรือ 1. รับผลการทดสอบ แบบทดสอบของผเู้ รียนหลงั ข้นั พยายามโดย 2. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปสาระสาคญั เทียบกบั วตั ถุประสงคก์ ารเรียนที่ต้งั ไว้ 3. นกั เรียนสอบถามขอ้ สงสยั 2. ผสู้ อนแจง้ ผลคะแนนการปฏิบตั ิงานหรือ 4. ฟังและปฏิบตั ิตามท่ีครูแนะนา การทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียนใหผ้ เู้ รียน 5. ผเู้ รียนท่ีมีคะแนนทดสอบหลงั การเรียนที่ไม่ ทราบ เพอื่ เปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน ผา่ นเกณฑ์ข้นั ต่า ปฏิบตั ิตามขอ้ แนะนาตามเกณฑ์ ของตน การประเมินผล และคาแนะนาของครูผสู้ อน 3. ผสู้ อนแจง้ ให้ผเู้ รียนที่มีคะแนนหลงั เรียน ท่ีไมผ่ า่ นเกณฑข์ ้นั ต่า ปฏิบตั ิตามขอ้ แนะนาตาม เกณฑก์ ารประเมินผล

16 แผนการจดั การเรียนรู้ คร้ังท่ี 17 วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการจัดการอาชพี หน่วยท่ี 9 ชื่อหน่วย การสืบคน้ ขอ้ มูลสารสนเทศเพือ่ พฒั นา ชั่วโมงรวม 2 ช.ม. งานอาชีพดว้ ยเครือขา่ ยอินเตอร์เน็ต 4. ผสู้ อนสรุปสาระสาคญั และตอบขอ้ สงสยั พร้อมแนะนาสิ่งท่ีเกี่ยวขอ้ งในการเรียนรู้คร้ังน้ี และแนะนาการเรียนรู้ในคร้ังตอ่ ไป 6. ส่ือการเรียนการสอน สื่อการเรียนรู้ ใหค้ รูผสู้ อนและผเู้ รียนเลือกใชส้ ่ือประกอบการเรียนการสอนตามสภาพความ พร้อมของของตนเอง ดงั น้ี 6.1 สื่อโสตทศั น์ 1) วดี ีทศั นใ์ นรูปแบบ DVD เรื่อง การสืบค้นข้อมูลสารสนเทศเพอ่ื พฒั นางานอาชีพด้วย เครือข่ายอนิ เตอร์เน็ต ตอนที่ 1 สาหรับผเู้ รียน ท่ีเรียนรู้จากการฉายวดี ีทศั น์ 2) วดี ีทศั น์ทางไกลผา่ นดาวเทียม วงั ไกลกงั วล ตามตารางการออกอากาศ เรื่อง การสืบค้น ข้อมูลสารสนเทศเพอ่ื พฒั นางานอาชีพด้วยเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ตอนที่ 1 สาหรับผเู้ รียนท่ีเรียนรู้ ทางไกลผา่ นดาวเทียม 6.2 โสตทศั น์อปุ กรณ์ 1) เคร่ืองเล่น DVD พร้อม TV ท่ีมีช่องรับสญั ญาณ AV (AV IN) สาหรับผเู้ รียน ที่เรียนรู้ จากการฉายวดี ีทศั น์ 2) เคร่ืองรับสญั ญาณดาวเทียม ที่รับสัญญาณจากมลู นิธิการศึกษาทางไกลผา่ นดาวเทียม วงั ไกลกงั วล พร้อม TV ที่มีช่องรับสัญญาณ AV (AV IN) สาหรับผเู้ รียนที่เรียนรู้ทางไกลผา่ น ดาวเทียม 6.3 ส่ือสิ่งพมิ พ์ 1) สาเนาสื่อโปรแกรมนาเสนอ PowerPoint เร่ือง การสืบค้นข้อมูลสารสนเทศเพอ่ื พฒั นา งานอาชีพด้วยเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ตอนที่ 1 2) เอกสารประกอบการเรียนรู้ เช่น ใบความรู้ แบบทดสอบฯลฯ 6.4 ส่ือออนไลน์ 1) เคร่ืองคอมพิวเตอร์ที่สามารถเช่ือมต่ออินเทอร์เน็ตได้ และเขา้ เวบ็ ไซต์ url: http://edltv.vec.go.th 2) เคร่ืองคอมพวิ เตอร์พร้อมติดต้งั ระบบ edltv เพอ่ื พฒั นาอาชีพ แบบออฟไลน์ สามารถเขา้ ใช้ งานและเรียนรู้ไดโ้ ดยตรง

17 แผนการจดั การเรียนรู้ คร้ังที่ 17 วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่ือการจดั การอาชีพ หน่วยท่ี 9 ช่ือหน่วย การสืบคน้ ขอ้ มูลสารสนเทศเพอื่ พฒั นา ช่ัวโมงรวม 2 ช.ม. งานอาชีพดว้ ยเครือขา่ ยอินเตอร์เน็ต 7. การวดั ผลและประเมนิ ผล 7.1 ก่อนเรียนรู้ วธิ ีการวดั ผล - ทดสอบก่อนเรียนรู้ เคร่ืองมือวดั - แบบทดสอบก่อนเรียนรู้ 7.2 ระหว่างเรียนรู้ วธิ ีการวดั ผล - ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล เคร่ืองมือวดั - แบบประเมินพฤติกรรมรายบุคคล 7.3 หลงั เรียน วธิ ีการวดั ผล - ทดสอบหลงั เรียนรู้ เคร่ืองมือวดั - แบบทดสอบหลงั เรียนรู้ 8. เกณฑ์การประเมนิ ผล 8.1 เกณฑ์การวดั ผลสัมฤทธ์จิ ากแบบทดสอบและใบมอบงานมเี กณฑ์ดงั นี้ ร้อยละ 80-100 หมายถึง ผลการเรียนรู้ดีมาก ร้อยละ 70-79 หมายถึง ผลการเรียนรู้ดี ร้อยละ 60-69 หมายถึง ผลการเรียนรู้ปานกลาง ร้อยละ 50-59 หมายถึง ผลการเรียนรู้ผา่ นเกณฑผ์ า่ น ข้นั ต่า ต่ากวา่ ร้อยละ 50 หมายถึง (ควรปรับปรุงดว้ ยการศึกษาทบทวน) ผลการเรียนไมผ่ า่ นเกณฑ(์ ตอ้ งปรับปรุงและ เรียนซ่อมเสริมควรทดสอบการประเมินจนกวา่ จะผ่านข้นั ต่า) 8.2เกณฑ์การประเมนิ พฤตกิ รรมรายบุคคล 8-10 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมดี 5-7 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมพอใช้ ต่ากวา่ 5 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมที่ตอ้ งปรับปรุง

18 แผนการจดั การเรียนรู้ คร้ังท่ี 17 วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการจดั การอาชีพ หน่วยท่ี 9 ชื่อหน่วย การสืบคน้ ขอ้ มูลสารสนเทศเพอื่ พฒั นา ชั่วโมงรวม 2 ช.ม. งานอาชีพดว้ ยเครือข่ายอินเตอร์เน็ต 8.3 เกณฑ์การตดั สิน 2 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมในระดบั ปฏิบตั ิสม่าเสมอ 1 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมในระดบั ปฏิบตั ิบางคร้ัง 0 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมในระดบั ไม่ปฏิบตั ิ 8.4 เกณฑ์การประเมนิ 8 - 10 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมดี 5 - 7 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมพอใช้ ต่ากวา่ 5 คะแนน หมายถึง มีพฤติกรรมที่ตอ้ งปรับปรุง 9. แหล่งการเรียนรู้เพมิ่ เติม - ประทีป ผลจนั ทร์งาม. วชิ าเทคโนโลยสี ารสนเทศเบอื้ งต้น .เอกสารประกอบการเรียนรู้. อดั สาเนา. เอกสารการพมิ พว์ ทิ ยาลยั เทคนิคบา้ นคา่ ย. 2555. - สืบคน้ ขอ้ มูลจากแหล่งขอ้ มูลอื่นๆ ผา่ นเครือขายอินเทอร์เน็ต

19 6. เนือ้ หา (ใบความรู้)

20 บทเรียนที่ 9 เร่อื ง การสืบค้นขอ้ มลู สารสนเทศเพ่ือพฒั นางานอาชีพ ด้วยเครอื ขา่ ยอินเตอรเ์ น็ต จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธบิ ายการสบื คน้ ขอ้ มลู สารสนเทศบนอนิ เทอรเ์ น็ตไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 2. อธบิ ายการเทคนคิ การสบื คน้ ขอ้ มลู ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 3. ยกตวั อยา่ งพรอ้ มอธบิ ายเวบ็ ไซตท์ เ่ี กย่ี วขอ้ งเพอ่ื ประโยชน์ในการศกึ ษาไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง หวั ข้อเนื้อหา 1. การสบื คน้ ขอ้ มลู สารสนเทศบนอนิ เทอรเ์ น็ต 2. เทคนิคการสบื คน้ ขอ้ มลู 3. เวบ็ ไซตท์ เ่ี กย่ี วขอ้ งเพ่อื ประโยชน์ในการศกึ ษา 4. สรปุ

21 บทเรียนที่ 9 การสืบค้นขอ้ มลู สารสนเทศเพอ่ื พฒั นางานอาชีพด้วยเครือข่ายอินเตอรเ์ น็ต การศกึ ษาค้นคว้าหาขอ้ มูลต่างๆ หรอื การวจิ ยั จาเป็นจะต้องมกี ระบวนการแสวงหาความรู้ ความจรงิ อยา่ งเป็นระบบ มคี วามสาคญั ต่อการพฒั นาความรใู้ นศาสตรต์ ่างๆ ผสู้ บื คน้ ขอ้ มลู หรอื ผวู้ จิ ยั จาเป็นอย่างยง่ิ ทจ่ี ะต้องมกี ารคน้ ควา้ สบื คน้ ขอ้ มลู จากแหล่งต่างๆเพ่อื ใชใ้ นการอ้างองิ หรอื ทบทวน วรรณกรรม ซง่ึ ปจั จบุ นั แหล่งความรทู้ น่ี ิยมใชก้ นั อย่างแพร่หลาย คอื เครอื ข่ายอนิ เทอรเ์ น็ต ทเ่ี ป็น แหล่งรวมของขอ้ มลู ทุกสาขาจากทวั่ ทุกมุมโลก สามารถเขา้ ถงึ แหล่งขอ้ มลู ไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ ทุกเวลา และสถานท่ี การเขา้ ถงึ แหล่งขอ้ มลู ทางเครอื ขา่ ยอนิ เทอรเ์ น็ตและตอ้ งมคี วามรแู้ ละทกั ษะในการสบื คน้ ขอ้ มลู สารสนเทศ เพ่อื ใหส้ ามารถใชเ้ วลาไม่นานนักและไดข้ อ้ มูลทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพตลอดจนไดผ้ ลทม่ี ี คุณภาพอกี ดว้ ยบทน้ีจะกล่าวถงึ การสบื คน้ ขอ้ มลู สารสนเทศทางเครอื ข่ายอนิ เทอรเ์ น็ต เทคนิคการ สบื คน้ ขอ้ มลู ความน่าเช่อื ถอื ของแหล่งขอ้ มลู แนะนาเวบ็ ไซตท์ างการวจิ ยั ทน่ี ่าสนใจ รวมทงั้ ขอ้ ดแี ละ ขอ้ จากดั ของการสบื คน้ ขอ้ มลู สารสนเทศทางเครอื ขา่ ยอนิ เทอรเ์ น็ต 9.1 การสืบค้นข้อมลู สารสนเทศบนอินเทอรเ์ น็ต แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศบนอนิ เทอรเ์ น็ตเป็นแหล่งขอ้ มลู ทางอเิ ลก็ ทรอนิกสท์ ส่ี าคญั และใหญ่ ท่สี ุดมกี ารเปล่ยี นแปลงอยู่ตลอดเวลาแทบทุกวินาที ดงั นัน้ ในการสืบค้นข้อมูลสารสนเทศบน อนิ เทอรเ์ น็ตควรดาเนนิ การดงั น้ี 1. กาหนดวตั ถุประสงคก์ ารสบื คน้ ผสู้ บื คน้ ทจ่ี ะนาขอ้ มลู สารสนเทศไปใช้ ควรตงั้ วตั ถุประสงคก์ ารสบื คน้ ทช่ี ดั เจน ทาใหส้ ามารถ กาหนดขอบเขตของแหล่งขอ้ มลู สารสนเทศทจ่ี ะสบื คน้ ใหแ้ คบลง กาหนดประเภทของเครอ่ื งมอื หรอื โปรแกรมสาหรบั การสบื คน้ ทางอนิ เทอรเ์ น็ต ท่เี รยี กว่า Search Engine ใหเ้ หมาะสม กาหนด ชว่ งเวลาทข่ี อ้ มลู สารสนเทศถูกสรา้ งขน้ึ เช่น ชว่ งปีทต่ี พี มิ พข์ องวารสารอเิ ลก็ ทรอนิกส์ ทงั้ น้ีเพ่อื ใหผ้ ล การสบื คน้ มปี รมิ าณไมม่ ากเกนิ ไป มคี วามตรง (Validity) ตามวตั ถุประสงค์ และมคี วามน่าเช่อื ถอื (Reliability) มากทส่ี ุดอกี ทงั้ ยงั สามารถสบื คน้ ไดผ้ ลในเวลาอนั รวดเรว็ 2. ประเภทของขอ้ มลู สารสนเทศทส่ี ามารถสบื คน้ ได้ ขอ้ มลู สารสนเทศทอ่ี ย่บู นอนิ เทอรเ์ น็ตมมี ากมายหลายประเภท มลี กั ษณะเป็นมลั ตมิ เี ดยี คอื มี ทงั้ ท่เี ป็นขอ้ ความ(Text) ภาพวาด (Painting) ภาพเขยี นหรอื ภาพลายเส้น (Drawing) ภาพ ไดอะแกรม(Diagram) ภาพถ่าย (Photograph) เสยี ง(Sound) เสยี งสงั เคราะห์ เช่น เสยี งดนตรี (Midi) ภาพยนตร(์ Movie) ภาพเคล่อื นไหว (Animation) จากเทคโนโลยกี ารสบื คน้ ทม่ี อี ยใู่ นปจั จุบนั การ สบื คน้ ทเ่ี รว็ ทส่ี ุด มปี ระสทิ ธภิ าพทส่ี ุด และแพรห่ ลายทส่ี ุด คอื การสบื คน้ ขอ้ มลู สารสนเทศประเภท

22 ขอ้ ความ สาหรบั การสบื คน้ ขอ้ มลู ทเ่ี ป็นภาพ (Pattern Recognition) และเสยี ง ยงั มขี อ้ จากดั อยมู่ าก ใชเ้ วลานาน และยงั ไม่มปี ระสทิ ธภิ าพ จงึ ยงั ไมม่ กี ารสบื คน้ ขอ้ มลู ประเภทอ่นื ๆ นอกจากประเภท ขอ้ ความในการใหบ้ รกิ ารการสบื คน้ บนอนิ เทอรเ์ น็ต 3. การสบื คน้ ตอ้ งอาศยั อุปกรณ์และความรู้ ก่อนท่ผี ู้สบื ค้นจะสามารถสบื ค้นข้อมูลสารสนเทศทางอนิ เทอร์เน็ตได้ ต้องมกี ารจดั เตรยี ม อุปกรณ์ดงั ต่อไปน้ี คอื เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ อุปกรณ์ต่อเขา้ อนิ เทอรเ์ น็ตซง่ึ อาจเป็น Modem ในกรณที ่ี ใชค้ ่กู บั สายโทรศพั ท์ หรอื แผ่น LAN Card ในกรณีทใ่ี ชค้ ่กู บั ระบบเครอื ข่ายทไ่ี ดร้ บั การตดิ ตงั้ ไวแ้ ลว้ ซอฟต์แวรก์ ารส่อื สาร (Communication Software) เช่น Dial-up Networking ในกรณใี ช้ Modem หรอื มกี ารตดิ ตงั้ Network Protocol ทเ่ี หมาะสมกบั ระบบเครอื ข่ายทเ่ี ครอ่ื งคอมพวิ เตอรน์ นั้ ตดิ ตงั้ อยู่ และตดิ ตงั้ Network Adapter ทเ่ี หมาะสมสาหรบั LAN Card นนั้ ๆ ต้องสมคั รเป็นสมาชกิ ขององคก์ าร หรอื บรษิ ทั ผใู้ หบ้ รกิ ารอนิ เทอรเ์ น็ต (Internet Service Provider หรอื ISP) เพ่อื เป็นช่องทางออกสู่ อนิ เทอรเ์ น็ต นอกจากอุปกรณ์ต่างๆ ดงั กล่าวขา้ งต้นแลว้ ยงั ตอ้ งมคี วามรแู้ ละทกั ษะพน้ื ฐานในการใช้ งานคอมพวิ เตอร(์ Computer Literacy) ความรภู้ าษาองั กฤษเน่ืองจากขอ้ มลู สารสนเทศส่วนใหญ่ใน อนิ เทอรเ์ น็ตเป็นภาษาองั กฤษ และยงั ตอ้ งมกี ารจดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสมอกี ดว้ ย 4. บรกิ ารบนอนิ เทอรเ์ น็ต บรกิ ารบนอนิ เทอรเ์ น็ตทส่ี ามารถใชช้ ่วยในการสบื ค้นขอ้ มลู สารสนเทศมมี ากมายหลายบรกิ าร เช่น บรกิ ารเครอื ขา่ ยใยแมงมมุ โลก หรอื Word-Wide-Web(WWW) บรกิ ารคน้ หาขอ้ มลู Gopher บรกิ ารคน้ หาโปรแกรมใชง้ าน Archie นอกจากน้ี อาจใชบ้ รกิ ารสอบถามผ่านทาง E-mail หรอื Chat กบั ผใู้ ชง้ านอนิ เทอรเ์ น็ตอ่นื ๆ หรอื สอบถามผ่าน News Group หรอื Group/Thread Discussion กไ็ ด้ เม่อื คน้ ได้แหล่งขอ้ มูลแลว้ อาจ download หรอื ถ่ายโอนขอ้ มูลท่สี บื ค้นได้โดยใช้บรกิ ารถ่ายโอน ไฟลข์ อ้ มลู และโปรแกรม (File Transfer Protocol หรอื FTP) โดยทวั่ ไปในปจั จุบนั การสบื ค้นขอ้ มลู สารสนเทศทางอนิ เทอรเ์ น็ต นิยมใชโ้ ปรแกรม Web Browsers เช่น Internet Explorer หรอื Netscape แลว้ เรยี กใชบ้ รกิ าร www ประกอบกบั การใช้ SearchEngine ซง่ึ มอี ยมู่ ากมายบนอนิ เทอรเ์ น็ตในการสบื คน้ เม่อื สบื คน้ ไดแ้ ล้ว โปรแกรม Web Browsers กจ็ ะมบี รกิ าร Download ไดท้ นั ทโี ดยไมต่ อ้ งอาศยั โปรแกรมอ่นื ๆเขา้ ช่วย 5. เครอ่ื งมอื หรอื โปรแกรมสาหรบั การสบื คน้ เครอ่ื งมอื หรอื โปรแกรมสาหรบั การสบื คน้ (Search Engine) มอี ย่มู ากมายและมใี หบ้ รกิ าร อยู่ ตามเวบ็ ไซตต์ ่างๆ ทใ่ี ชบ้ รกิ ารการสบื คน้ ขอ้ มลู โดยเฉพาะ การเลอื กใชน้ นั้ ขน้ึ กบั ประเภทของขอ้ มลู สารสนเทศทต่ี อ้ งการสบื คน้ Search Engine ต่างๆ จะใหข้ อ้ มลู ทม่ี คี วามลกึ ในแงม่ ุมหรอื ศาสตรต์ ่างๆ ไมเ่ ท่ากนั ตวั อย่าง Search Engine ทน่ี ิยมใชม้ ที งั้ เวบ็ ไซต์ทเ่ี ป็นของต่างประเทศ และของไทยเอง ตวั อยา่ งเวบ็ ไซตข์ องต่างประเทศ ไดแ้ ก่

23 http://www.yahoo.com http://www.google.com http://www.infoseek.com http://www.ultraseek.com http://www.lycos.com http://www.excite.com http://www.altavista.digital.com http://www.opentext.com http://www.hotbot.com http://www.webcrawler.com http://www.dejanews.com http://www.elnet.net เป็นตน้ สาหรบั เวบ็ ไซตข์ องไทย ไดแ้ ก่ http://www.sanook.com http://www.siamguru.com เป็นตน้ 9.2 เทคนิคการสืบค้นข้อมลู 9.2.1 เทคนิคเบอ้ื งตน้ ในการสบื คน้ ขอ้ มลู เพ่อื ประหยดั เวลาในการสบื คน้ ไดข้ อ้ มลู ในปรมิ าณไมม่ ากเกนิ ไป และไดผ้ ลการสบื คน้ ทต่ี รง ตามประสงคข์ องผสู้ บื คน้ สามารถใชเ้ ทคนคิ เหล่าน้ี ไดแ้ ก่ 1. เลอื ก Search Engine ทเ่ี หมาะสม 2. เลอื กเวบ็ ไซตท์ อ่ี ยใู่ กลแ้ ละอยใู่ นช่วงเวลาทเ่ี หมาะสม 3. การเลอื กใชค้ าสาคญั (Keyword) หรอื หวั เรอ่ื ง(Subject) ทต่ี รงกบั เรอ่ื งทต่ี อ้ งการ 4. กาหนดขอบเขตของคาคน้ โดยใชต้ วั เชอ่ื มบลู นี (Boolean Operators) เช่น AND OR NOT NEAR BEFORE เป็นตน้ หรอื การคน้ วล(ี Phrase Searching) การตดั คา หรอื การใชค้ าเหมอื น ดงั ต่อไปน้ี 4.1 Boolean Operators 1) AND หรอื เครอ่ื งหมาย + ใชเ้ มอ่ื ต้องการใหค้ น้ เอกสารทม่ี คี าทงั้ สองคาปรากฏ เช่น คน้ หาคาว่า Research AND Thailand ขอ้ มลู ทไ่ี ดจ้ ะมเี ฉพาะคาว่า Research และ Thailand อยใู่ น เอกสาร 2) OR ใชเ้ มอ่ื ต้องการคน้ หน้าเอกสารทม่ี คี าใดคาหน่ึงปรากฏ เช่น Research OR Thailand ขอ้ มลู ทไ่ี ดจ้ ะมคี าใดคาหน่งึ หรอื มที งั้ สองคาปรากฏอยใู่ นเอกสาร 3) NOT หรอื เครอ่ื งหมาย – ใชเ้ ม่อื ต้องการตดั คาทไ่ี ม่ตอ้ งการใหค้ น้ ออก (คาหลงั NOTหรอื เครอ่ื งหมาย -) เช่น Research NOT Thailand ขอ้ มลู ทไ่ี ดจ้ ะมคี าว่า Research แต่จะไม่มี คาว่าThailand อยใู่ นเอกสาร 4) NEAR ใชเ้ ม่อื ต้องการใหค้ าทก่ี าหนดอย่หู ่างจากกนั ไมเ่ กนิ 10 คา ในประโยค เดยี วกนั หรอื ใกลเ้ คยี งกนั (อย่ดู า้ นหน้าหรอื หลงั กไ็ ด้) เช่น Research NEAR Thailand ขอ้ มลู ทไ่ี ดจ้ ะ มคี าว่าResearch และ Thailand ทห่ี ่างกนั ไมเ่ กนิ 10 คา ตวั อยา่ งเช่น Research on the Cost of Transportation in Thailand

24 5) BEFORE ใชเ้ มอ่ื ตอ้ งการกาหนดใหค้ าแรกปรากฏอย่ขู า้ งหน้าคาหลงั ในระยะห่างไม่ เกนิ 8 คา เช่น Research BEFORE Thailand 6) AFTER ใชเ้ มอ่ื ตอ้ งการกาหนดใหค้ าแรกปรากฏอยขู่ า้ งหลงั คาหลงั ในระยะห่างไม่ เกนิ 8 คา เช่น Research AFTER Thailand 7) (parentheses) ใชเ้ มอ่ื ตอ้ งการกาหนดใหท้ าตามคาสงั่ ภายในวงเลบ็ ก่อนคาสงั่ ภายนอก เช่น (Research OR Quantitative) and Thailand 4.2 การคน้ วลี (Phrase searching) เป็นการใชเ้ ครอ่ื งหมายอญั ประกาศ (“ ”) เม่อื ตอ้ งการกาหนดใหค้ น้ เฉพาะหน้าเอกสาร ทม่ี กี ารเรยี งลาดบั คาตามทก่ี าหนดเทา่ นนั้ เช่น “Methodology Research” 4.3 การตดั คา (Word stemming / Truncation) เป็นการใชเ้ ครอ่ื งหมาย asterisk (*) ตามทา้ ยคา 3 คาขน้ึ ไป เพ่อื คน้ หาคาทข่ี น้ึ ต้นดว้ ย ตวั อกั ษรทก่ี าหนด เช่น Research* 4.4 คาพอ้ งความหมาย (Synonym) เป็นการใช้คาเหมอื นท่มี คี วามหมายเดยี วกนั หรอื ใกล้เคยี งกนั เพ่อื ช่วยให้ค้นเร่อื งท่ี ครอบคลมุ เชน่ Ocean Sea Marine 4.5 เขตขอ้ มลู เพ่อื การคน้ (Field Searching) เป็นการกาหนดเขตขอ้ มลู เพ่อื การคน้ เช่น ชนิดของขอ้ มลู หรอื ทอ่ี ยขู่ องขอ้ มลู เป็นต้น เช่น text: “green tea” url: NASA 4.6 ตวั เลก็ ตวั ใหญ่ถอื ว่าต่างกนั (Case sensitive) เป็นการใชต้ วั อกั ษรใหญ่กบั ตวั เลก็ ในความหมายทแ่ี ตกต่างกนั เช่นใชต้ วั อกั ษรใหญ่ ขน้ึ ตน้ ช่อื เฉพาะ เชน่ George W. Bush 4.7 ภาษาธรรมชาติ (Natural Language) เป็นการสบื คน้ จากคาถามทเ่ี ป็นภาษาธรรมชาติ เช่น ใชค้ าถามภาษาองั กฤษง่ายๆท่ี ตอ้ งการให้ Search Engine หาคาตอบให้ เช่น What is Research? 9.2.2 ตวั อยา่ งเทคนิคการสบื คน้ ขอ้ มลู การคน้ หาขอ้ มลู ดว้ ยเวบ็ ไซตค์ น้ หานนั้ เพ่อื ใหข้ อบขา่ ยของการคน้ หาแคบเขา้ สามารถ คน้ หาไดง้ ่ายและรวดเรว็ ขน้ึ จะตอ้ งใชเ้ ทคนิคในการคน้ หาดงั น้ี

25 ตารางท่ี 9.1 แสดงเทคนิคในการสบื คน้ ขอ้ มลู ต่างๆ ผ่าน Search Engine เทคนิ คการสืบค้นข้อมลู คาอธิบายพรอ้ มตวั อย่าง 1.บบี ประเดน็ ให้แคบลง หวั ขอ้ เรอ่ื งทต่ี อ้ งการคน้ หาตอ้ งพยายามบบี ประเดน็ ให้ 2.การใช้คาท่ีใกล้เคียง แคบลง เชน่ หากตอ้ งการคน้ หาขอ้ มลู เกย่ี วกบั 3.การใช้คาหลกั (Keyword) คอมพวิ เตอร์ ซง่ึ อาจจะหาโดยใชค้ าวา่ คอมพิวเตอร์ หรอื Computer น้คี น้ หา เพ่อื ลองดเู น้อื หากวา้ งๆ 4.หลีกเลี่ยงการใช้ตวั เลข เกย่ี วกบั คอมพวิ เตอร์ ว่ามเี ร่อื งใดบา้ ง จากนนั้ กบ็ บี หวั ขอ้ เรอ่ื งลง โดยอาจจะเลอื กจากหวั ขอ้ ทเ่ี วบ็ ไซตน์ นั้ จดั ทา หรอื อาจจะพมิ พข์ อ้ ความเพ่อื คน้ หาอกี ครงั้ ควรคน้ หาคาทม่ี คี วามหมายใกลเ้ คยี งกบั คาทก่ี าลงั คน้ หาดว้ ย เช่น หากตอ้ งการคน้ เรอ่ื งเกย่ี วกบั คอมพวิ เตอร์ Computer คาทเ่ี กย่ี วขอ้ งทส่ี ามารถใช้ คน้ หาได้ คอื technology, IT เป็นตน้ คาหลกั (Keyword) หมายถงึ คาหรอื ขอ้ ความทเ่ี ราจะ นึกถงึ เวบ็ ไซตน์ นั้ เมอ่ื เอ่ยถงึ เช่น สสวท. เรามกั จะนึก ถงึ เวบ็ ไซตข์ องสถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี http://www.ipst.ac.th หรอื schoolnet เราจะนึกถงึ เวบ็ ไซตเ์ ครอื ขา่ ยโรงเรยี นไทย http://www.school.net.th พยายามเลย่ี งการใชค้ าคน้ หาทเ่ี ป็นคาเดย่ี วๆ หรอื เป็น คาทม่ี ตี วั เลขปน แต่ถา้ เลย่ี งไมไ่ ด้ กอ็ ยา่ ลมื ใส่ เครอ่ื งหมายคาพดู (\" \") ลงไปดว้ ย เชน่ \"windows 98\"

26 ตารางท่ี 9.1 (ต่อ) เทคนิ คการสืบค้นข้อมลู คาอธิบายพรอ้ มตวั อย่าง 5.ใช้เครือ่ งหมายบวกและลบช่วย ใชเ้ ครอ่ื งหมาย + และ - เพ่อื ชว่ ยในการคน้ หา โดย + เพอ่ื ใชก้ บั คาทค่ี ุณตอ้ งการใชใ้ นการคน้ หา และ - เพอ่ื ใชก้ บั คาท่ี ไมต่ อ้ งการใชใ้ นการคน้ หา เคร่อื งหมาย \"+\" หมายถงึ การระบุใหผ้ ลลพั ธข์ องการ คน้ หาตอ้ งมคี านนั้ ปรากฏอยใู่ นหน้าเวบ็ เพจ ขอ้ ควรระวงั คอื เราจะตอ้ งใชเ้ ครอ่ื งหมายบวกตดิ กบั คาหลกั นนั้ เสมอ ห้ามมชี ่องว่างระหว่างเครอ่ื งหมายบวกกบั คาหลกั เช่น +เศรษฐกิจ +การเมือง หมายถงึ หน้าเวบ็ เพจทพ่ี บจะตอ้ ง ปรากฏคาว่า \"เศรษฐกจิ \" และ \"การเมอื ง\" อยใู่ นหน้า เดยี วกนั ทงั้ สองคา หรอื +เศรษฐกิจ การเมอื ง สงั เกตเหน็ ว่าทค่ี าวา่ \"การเมอื ง\" ไม่ ปรากฏเครอ่ื งหมายบวก \"+\" อยขู่ า้ งหน้า เหมอื นตวั อยา่ ง บน หมายถงึ การคน้ หาหน้าเอกสารเวบ็ เพจทจ่ี ะตอ้ ง ปรากฏ คาว่า \"เศรษฐกจิ \" โดยในหน้าเอกสารนัน้ อาจจะ ปรากฏหรอื ไมป่ รากฏคาวา่ \"การเมอื ง\" กไ็ ด้ เครื่องหมาย ลบ \"-\" หมายถงึ เป็นการระบุใหผ้ ลลพั ธข์ องการคน้ หาตอ้ ง ไมป่ รากฏคานนั้ อยใู่ นหน้าเวบ็ เพจ เชน่ โรงแรม -รีสอรท์ หมายถงึ หน้าเวบ็ เพจนนั้ ตอ้ งมคี าว่า โรงแรม แต่ตอ้ งไมป่ รากฏคาว่า รสี อรท์ อยู่ โดยการใช้งานต้องอย่ใู นรปู ของ A -B หรือ +A -B โดย A และ B เป็นคาหลกั ที่ต้องการค้นหา ตวั อยา่ ง +มะมว่ ง -มะมว่ งอกร่อง -มะม่วงน้าดอกไม้ หมายถงึ หน้าเวบ็ เพจทพ่ี บจะตอ้ งปรากฏคาว่า \"มะมว่ ง\" แต่ตอ้ งไมป่ รากฏคาว่า \"มะมว่ งอกรอ่ ง\" และ \"มะมว่ ง น้าดอกไม\"้ อยใู่ นหน้าเดยี ว

27 ตารางท่ี 9.1 (ต่อ) เทคนิ คการสืบค้นข้อมลู คาอธิบายพรอ้ มตวั อย่าง 6.หลีกเล่ียงภาษาพดู หลกี เลย่ี งคาประเภท Natural Language หรอื เรยี กงา่ ยๆ ว่า Advanced Search คาหรอื ขอ้ ความทเ่ี ป็นภาษาพดู หรอื เป็นประโยค ควรสรปุ เป็น เพยี งกลุม่ คาหรอื วลี ทม่ี คี วามหมายรวมทงั้ หมดไว้ อยา่ ลมื ทจ่ี ะใช้ Advanced Search เพราะจะมสี ่วนชว่ ยไดม้ าก ในการบบี ประเดน็ หวั ขอ้ ใหแ้ คบลง ซง่ึ จะทาใหไ้ ดร้ ายช่อื เวบ็ ไซต์ ทต่ี รงกบั ความตอ้ งการของมากขน้ึ อยา่ ละเลย Help ซง่ึ ในแต่ละเวบ็ จะมี ปมุ่ help หรอื Site map ไวค้ อยช่วยเหลอื คณุ แต่คนส่วนใหญ่มกั จะมองขา้ ม ซง่ึ help/site map จะมปี ระโยชน์มากในการอธบิ าย option หรอื การใชง้ าน/แผนผงั ปลกี ยอ่ ยของแต่ละเวบ็ ไซต์ = 9.2.3 ตวั อย่างของเครอื่ งมอื หรือโปรแกรมสาหรบั การสืบค้น ปจั จุบนั มเี วบ็ ไซต์ท่เี ป็นเครอ่ื งมอื ช่วยคน้ เกดิ ขน้ึ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นในลกั ษณะ นามานุกรม และแบบดรรชนี ซง่ึ แต่ละเวบ็ ไซตก์ ม็ ขี อ้ ดแี ตกต่างกนั ไป ในทน่ี ้ขี อยกตวั อยา่ งเวบ็ ไซต์ระดบั แนวหน้า ของไทยและต่างประเทศ เช่น ภาพท่ี 9.1 แสดง เวบ็ ไซต์ Yahoo (http://www.yahoo.com)

28 Yahoo (อ่านวา่ ยา-ฮ)ู เป็น Search Engine ทเ่ี ก่าแก่และเรยี กว่ามชี อ่ื เสยี งโด่งดงั ทส่ี ุดตวั หน่งึ ในอาณาจกั รอนิ เทอรเ์ น็ต จดุ เด่นหลกั ของเวบ็ ไซตน์ ้คี งมาจากความสามารถในการคน้ หาขอ้ มลู ทท่ี า ไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ จดุ หน่งึ ทท่ี าให้ Yahoo โดดเด่นเป็นพเิ ศษกค็ อื การแบ่งเวบ็ ไซตท์ เ่ี กบ็ ในฐานขอ้ มลู ออกเป็นหมวดหมแู่ ละยงั มกี ารโยงใยระหว่างกลุ่มยอ่ ยแต่ละกลุ่มเขา้ ดว้ ยกนั อยา่ งเป็นระบบ ภาพท่ี 9.2 แสดงเวบ็ ไซต์ AltaVista (http://www.altavist.com) AltaVista เป็น Search Engine ทม่ี คี ุณสมบตั กิ ารคน้ หาดว้ ยความเรว็ ปานสายฟ้าแลบและ ตรงกบั ความต้องการของผู้ใช้อย่างมาก สามารถสงั่ ให้ค้นหาแบบคาสาคญั หรอื คยี เ์ วริ ด์ ได้อย่าง ชดั เจน อกี ทงั้ ในการใชต้ รรกบลู นี (OR, AND, NOT) จะดมี าก ภาพท่ี 9.3 แสดงเวบ็ ไซต์ Go (http://www. go.com)

29 Go เป็น Search Engine ทม่ี ฐี านขอ้ มลู ขนาดใหญ่และยงั รวมถงึ ฐานขอ้ มลู ของรายช่อื อเี มล์ และนิวสก์ รปุ๊ ได้ เป็น Search Engine ทเ่ี ป็นแบบ นามานุกรมทม่ี คี วามเรว็ ในการคน้ หา อกี ทงั้ หน้าตาเวบ็ ยงั สวยงาม และมลี กู เลน่ ดว้ ย ภาพท่ี 9.4 แสดงเวบ็ ไซต์ Shareware (http://www.shareware.com) Shareware เป็น Search Engine เฉพาะดา้ นซง่ึ จะเกบ็ รวบรวมรายช่อื โปรแกรมทงั้ ฟรแี วร์ (Freeware) (โปรแกรมแจกฟร)ี แชรแ์ วร์ (Shareware)(โปรแกรมใช่ก่อน ถูกใจจ่ายเงนิ ทหี ลงั ) และ โปรแกรมอพั เกรดต่าง ๆ มาทาเป็นฐานขอ้ มลู ไว้ ดงั นนั้ ถา้ คุณตอ้ งการหาโปรแกรมแชรแ์ วรม์ าใช้ สามารถใชเ้ วบ็ ไซตน์ ้คี น้ หาตาแหน่งไดอ้ ย่างดเี ยย่ี ม ภาพที่ 9.5 แสดงเวบ็ ไซต์ Siamguru (http://www.siamguru.com)

30 Siamguru คอื เครอ่ื งมอื ในการคน้ หาเวบ็ ไซต์ ทาหน้าทใ่ี นการใหบ้ รกิ ารคน้ หาขอ้ มลู โดยเน้น เรอ่ื งความสามารถในการคน้ หาขอ้ มลู ภาษาไทยบนอนิ เทอรเ์ น็ต มคี วามสามารถเทยี บเท่า search engine ช่อื ดงั จากต่างประเทศ ภาพที่ 9.6 แสดงเวบ็ ไซต์ Sanook (http://www.sanook.com) Sanook เป็นเว็บไซต์ช่ือดังของไทยท่ีเป็นแหล่งค้นหาข้อมูลของไทยท่ีมีข้อมูลให้ค้นหา มากมายทงั้ ของไทยและทวั่ โลกซง่ึ มที งั้ แบบนามานุกรม และคาคน้ ซง่ึ จะบอกทอ่ี ย่ขู องเวบ็ ไซตแ์ ละมี คาอธบิ ายเวบ็ ทห่ี าอยา่ งเขา้ ใจงา่ ย และยงั สามารถส่งเวบ็ ไซตน์ ้ใี หเ้ พ่อื นๆ ทางอเี มลด์ ว้ ย ภาพท่ี 9.7 แสดงเวบ็ ไซต์ Thaiseek (http://www.thaiseek.com)

31 Thaiseek เป็นเวบ็ ไซต์ Search Engine ทม่ี คี ุณสมบตั ขิ องการคน้ หาไดอ้ ย่างยอดเยย่ี มเวบ็ หน่งึ ของไทย ซง่ึ สามารถคน้ หาไดแ้ บบนามานุกรม และคาสบื คน้ ซง่ึ ผลการสบื คน้ ค่อนขา้ งชดั เจนตรง กบั ความตอ้ งการ ภาพท่ี 9.8 แสดงเวบ็ ไซต์ Thaifind (http://www.thaifind.com) เป็นเว็บไซต์ท่เี ป็นแหล่งค้นหาขอ้ มูลทด่ี อี กี เวบ็ หน่ึงของเมอื งไทย โดยมกี ารจดั จดั อนั ดบั คา สาคญั ในการคน้ หาไวอ้ ยา่ งเป็นระเบยี บ และผลการคน้ เป็นทน่ี ่าพอใจอยา่ งยงิ่ ภาพที่ 9.9 แสดงเวบ็ ไซต์ Google (www.google.com)

32 Google เป็นเวบ็ ไซต์ฐานขอ้ มลู ทใ่ี หญ่มากแห่งหน่ึงของโลก ในอดตี เป็นบรษิ ทั ท่ดี าเนินการ ด้านฐานขอ้ มูลเพ่อื ให้บรกิ ารแก่เวบ็ ไซต์ค้นหาอ่ืนๆ ปจั จุบนั ได้เปิดเว็บไซต์ค้นหาเอง มฐี านข้อมูล มากกว่าสามพนั ล้านเวบ็ ไซต์และเพม่ิ ขน้ึ เร่อื ยๆ ทุกวนั จุดเด่นทเ่ี หนือกว่าผู้ให้บรกิ ารรายอ่ืนๆ คอื เป็นเวบ็ ไซตค์ น้ หาทส่ี นบั สนุนภาษาต่างๆ มากกวา่ 80 ภาษาทวั่ โลก 9.2.4 ข้อดีของการสืบค้นข้อมลู สารสนเทศทางอินเทอรเ์ น็ต การสบื คน้ ขอ้ มลู สารสนเทศทางอเิ ลก็ ทรอนิกสผ์ า่ นทางอนิ เทอรเ์ น็ตมขี อ้ ดหี ลกั ๆ ดงั ต่อไปน้ี 1. ขอบเขตของขอ้ มลู สารสนเทศกวา้ งขวางมาก มคี วามหลากหลาย ไรพ้ รมแดน 2. ขอ้ มูลสารสนเทศท่สี บื คน้ ได้มคี วามทนั สมยั มาก เน่ืองจากผู้สรา้ งขอ้ มูลสามารถแก้ไข ปรบั ปรงุ ไดง้ า่ ยและทาไดต้ ลอดเวลา 3. สะดวกมาก ไมม่ ขี อ้ จากดั ในแงข่ องเวลาและสถานท่ี สามารถสบื คน้ เวลาใดกไ็ ดท้ ใ่ี ดกไ็ ด้ 4. สามารถสบื คน้ ไดง้ า่ ยและรวดเรว็ โดยอาศยั Search Engine 5. การไดม้ าซง่ึ ขอ้ มลู ผ่านอนิ เทอรเ์ น็ตใชเ้ วลาสนั้ มาก เมอ่ื เทยี บกบั การสง่ เอกสารวธิ อี ่นื ๆ 6. การไดม้ าซง่ึ ขอ้ มลู นนั้ ประหยดั ทงั้ เวลาและทรพั ยากร 7. จดั เป็นหอ้ งสมดุ ทใ่ี หญ่ทส่ี ุดในโลก 8. ขอ้ มูลสารสนเทศทส่ี บื ค้นมามปี ระโยชน์มาก สามารถนาไปจดั หมวดหมู่ ทาฐานขอ้ มูล บรรณาธกิ าร และจดั การต่อไดโ้ ดยงา่ ย 9. ส่งเสรมิ การเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง (Self Directed Learning ) และส่งเสรมิ การเรยี นรตู้ ลอดชวี ติ (Life Long Learning) 9.2.5 ข้อจากดั ของการสืบค้นข้อมลู สารสนเทศทางอินเทอรเ์ น็ต ถงึ แมว้ า่ การสบื คน้ ขอ้ มลู สารสนเทศทางอนิ เทอรเ์ น็ตจะมขี อ้ ดอี ยา่ งเหน็ ไดช้ ดั มากมายดงั กล่าว ขา้ งตน้ การสบื คน้ ขอ้ มลู สารสนเทศทางอนิ เทอรเ์ น็ตกม็ ขี อ้ จากดั หรอื ขอ้ เสยี อยบู่ า้ ง ดงั น้ี 1. ขอ้ มลู สารสนเทศทม่ี อี ยใู่ นอนิ เทอรเ์ น็ตมคี วามครอบคลุมกวา้ งขวางมาก มคี วามหลากหลาย ไรพ้ รมแดน จงึ ทาใหผ้ ูใ้ ชท้ ไ่ี มม่ ที กั ษะการสบื คน้ อาจเกดิ ปญั หาเนืองจากไดข้ อ้ มลู สารสนเทศทไ่ี มต่ รง ตามความตอ้ งการเป็นจานวนมากทาใหเ้ สยี เวลา 2. ขอ้ มลู สารสนเทศบนอนิ เทอรเ์ น็ตถูกปรบั ปรงุ แก้ไขไดอ้ ย่างรวดเรว็ ทาใหก้ ารอา้ งองิ เอกสาร ทาไดล้ าบาก เพราะการเขา้ ไปสบื คน้ เอกสารอกี ครงั้ หน่ึงในวนั ขา้ งหน้าเอกสารดงั กล่าวอาจจะไมอ่ ยู่ แลว้ หรอื เน้อื หาขอ้ ความอาจถกู ปรบั เปลย่ี นไปแลว้ กไ็ ด้ 3. ขอ้ มลู สารสนเทศบนอนิ เทอรเ์ น็ตทไ่ี ดม้ าจะต้องตรวจสอบความน่าเช่อื ถอื ของแหล่งขอ้ มลู ท่ี ไดม้ าดว้ ยว่ามคี วามน่าเช่อื ถอื มากแคไ่ หน

33 9.2.5 การประเมินความน่าเชื่อถือของแหล่งข้อมลู เพ่อื เป็นการตรวจสอบความน่าเช่อื ของแหล่งขอ้ มลู สารสนเทศทส่ี บื คน้ มาได้ผูส้ บื คน้ สามารถ ประเมนิ ความน่าเช่อื ถอื ของแหล่งขอ้ มลู ไดจ้ าก 12 องคป์ ระกอบ (สุกญั ญา ประจศุ ลิ ปะและคณะ, 2547) ดงั น้ี 1. บอกวตั ถุประสงคใ์ นการสรา้ งหรอื เผยแพรข่ อ้ มลู ไวใ้ นเวบ็ ไซต์ 2. การเสนอเน้อื หาตรงตามวตั ถุประสงคใ์ นการสรา้ งหรอื เผยแพรข่ อ้ มลู ของเวบ็ ไซต์ 3. เน้อื หาเวบ็ ไซตไ์ มข่ ดั ต่อกฎหมาย ศลี ธรรม และจรยิ ธรรม 4. มกี ารระบุช่อื ผเู้ ขยี นบทความหรอื ผใู้ หข้ อ้ มลู บนเวบ็ ไซต์ 5. มกี ารใหท้ อ่ี ยู่ (e-mail address) ทผ่ี อู้ ่านสามารถตดิ ต่อผดู้ แู ลเวบ็ ไซตไ์ ด้ 6. มกี ารอา้ งองิ หรอื ระบแุ หล่งทม่ี าของขอ้ มลู ของเน้อื หาทป่ี รากฏบนเวบ็ ไซต์ 7. สามารถเช่อื มโยง (link)ไปเวบ็ ไซตอ์ ่นื ทอ่ี า้ งถงึ ได้ 8. มกี ารระบวุ นั เวลาในการเผยแพรข่ อ้ มลู บนเวบ็ ไซต์ 9. มกี ารระบุวนั เวลาในการปรบั ปรุงขอ้ มลู ครงั้ ล่าสดุ 10. มชี ่องทางใหผ้ อู้ ่านแสดงความคดิ เหน็ 11. มขี อ้ ความเตอื นผอู้ ่านใหใ้ ชว้ จิ ารณญาณในการตดั สนิ ใจใชข้ อ้ มลู ทป่ี รากฏบนเวบ็ ไซต์ 12. มกี ารระบุวา่ เป็นเวบ็ ไซตส์ ว่ นตวั หรอื ระบุแหลง่ ทใ่ี หก้ ารสนบั สนุนในการสรา้ งเวบ็ ไซต์

34 7. ส่ือประกอบการสอน

35 ครงั้ ที่ 5 หน่วยที่ 9 การสืบค้นข้อมูลสารสนเทศเพอ่ื พฒั นางานอาชีพด้วย เครือข่ายอนิ เตอร์เน็ต (ตอนที่ 1) AGENDA 1. การสืบค้นข้อมูลสารสนเทศบนอนิ เทอร์เน็ต 2. เทคนิคการสืบค้นข้อมูล

36 Introduction to finding information on the Web - เครือข่าย WWW ได้เปลี่ยนวิถีการดาํ เนิ นงานของ องคก์ รต่างๆ - WWW เป็ นแหล่งทรพั ยากรสารสนเทศที่ใหญ่ท่ีสุด ในโลก - มีเครื่องมือช่วยสืบค้นข้อมูล (Search Engine หรือ Search Tool) เช่น Google, Siamguru, Yahoo, MSN หลกั การเบอื้ งต้นในการสืบค้นข้อมลู สารสนเทศบนเวบ็ ไซต์ 1. รจู้ กั ท่ีอย่ขู อง Website ที่ต้องการค้นหา 2. รจู้ กั วิธีการค้น เช่น การค้นจากบญั ชีหวั เรอ่ื ง (Subject Directory) เช่น Yahoo.com 3. รจู้ กั วิธีการอ่านผลการสืบค้น 4. รจู้ กั วิธีการจดั เกบ็ ผลการสืบค้น 5. รจู้ กั วิธีการเผยแพรก่ ารสืบค้น

37 องคป์ ระกอบของ WWW 1. Web Server 2. WWW Browser หรือ Web Browser เช่น Lynx, IE , Netscape, Firefox 3. HTML (Hypertext Markup Language) 4. URL (Uniform Resource Lacator) เช่น http://www.nesac.or.th/office/index.php ลกั ษณะเนื้อหาบนเวบ็ - Product information - Public Relation Meterials - Library Catalog - Current News - Government Information - Press Release - Selected Article Reprints - Entertainment, Game, TV, Radio, Movie etc.

38 ข้อมลู ท่ีปกติมกั ไมป่ รากฏบน WEB - ความลบั ทางการค้า (Trade Secrets) - ฐานข้อมลู เชิงพาณิชยต์ ่างๆ (Commercial Database) - สิ่งตีพิมพท์ ่ีมีลิขสิทธ์ิ (Copyrighted Published Materials) “ด้วยข้อมลู ท่ีหลากหลายบนเวบ็ ไซต์ ดงั นัน้ ผใู้ ช้ต้องกลนั่ กรองเลือกสรรข้อมลู ท่ีได้รบั ออกมาให้ดี และตดั สินออกมาให้ได้ว่า ข้อมลู ที่ได้รบั ควรแก่การน่าเชื่อถอื มากน้อยเพียงไร”

39 เครอื่ งมือสืบค้นข้อมลู (Search Tools) เครื่องมือสืบค้นข้อมูลบน WWW (WWW Search Engines, Search Tools, Search Services, Search Sites) มีหลายประเภท ทาํ งาน โดยการรวบรวมข้อมูลในแต่ละ Web page ไว้ เป็นฐานข้อมูลอตั โนมตั ิ บางประเภทมีการสร้าง ดชั นี Web page หรือแยกเป็นหมวดหมู่ เครอื่ งมือช่วยค้นอาจแบง่ ได้เป็น 4 ประเภท 1. Keyword Search Engines 2. Subject Directories and Guides 3. Meta Search Engines 4. Subject Specific Search Engines

40 Keyword Search Engines เป็ นเคร่ืองมือช่วยค้นประเภทจดั ทาํ ดชั นีหวั เรื่อง เช่น Infoseek, Alta Vista, Excite เป็นต้น การทาํ งานโดยระบบซอฟต์แวร์ Spider ท่ี คอยอ่านข้อมูลบน Web page จากเวบ็ ไซต์ ต่างๆ แล้วนํามาจดั ทาํ เป็นดชั นีสาํ หรบั สืบค้น Subject Directories and Guides อาจเรยี กว่า Subject Categories หรอื Subject Browsing ทํางานโดยการรวบรวม Web page ข้นึ มาเป็นฐานขอ้ มูล โดยมกี ารจดั เรยี งเน้ือหาของ ขอ้ มลู ใหเ้ ป็นหมวดหมตู่ ามลาํ ดบั ชนั้ เช่น Yahoo , Look Smart

41 Meta Search Engines Pararell Search Engines, Mega Search Engines, Multi-Threaded Search Engines ทํางานโดยทําหน้ าท่ีเป็ นตัวกลางในการส่ง คาํ ถามต่อไปยงั Search Engine ให้ส่งคาํ ตอบ กลบั มาให้ ทาํ ให้การค้นหาเป็ นไปอย่างรวดเรว็ และได้ข้อมลู จากหลายแหล่งข้อมลู เช่น Google Subject Specific Search Engines - สืบค้นข้อมลู WWW ในเนื้อหาเฉพาะหวั เร่ืองใด หวั เร่ืองหนึ่ง (Subject Area) - มุ่งสืบค้นรายละเอียดเชิงลึกในสาขาใดสาขา หนึ่ง i.e. education-world.com, biomednet.com

42 จ ะ เ ห็ น ไ ด้ ว่ า เ ค รื่ อ ง มื อ สื บ ค้ น มี หลากหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทก็มี คุณสมบัติ ที่แตกต่างกันไป ดังนั้น ผู้ใช้ จํา เ ป็ น ต้ อ ง ใ ช้ ใ ห้ เ ห ม า ะ ส ม ใ น แ ต่ ล ะ สถานการณ์ ไม่ยึดติดกบั เคร่ืองมือช่วยค้น เพียงตวั ใดตวั หน่ึงเท่านัน้ ... การวางแผนสืบค้นข้อมลู 1. การตงั้ หรอื กาํ หนดคาํ ถามและขอบเขตของ คาํ ถามนัน้ (Formulate the Question) - หัวข้อ, ลกั ษณะ, ประเภท, วตั ถปุ ระสงค์ และระยะเวลาของสารสนเทศที่ต้องการ เช่น Cloning

43 2. การจาํ แนกแนวคิดในคาํ ถามนัน้ ๆ (Identify the Important Concepts) การจาํ แนกแนวคิดในคาํ ถามนัน้ ๆ ออกมา เป็ นส่วนๆ เช่น ข้อมูลเกี่ยวกบั การส่งออกสินค้า ประเภทอิเลก็ ทรอนิ กส์ของประเทศญี่ป่ ุน จะแยกได้ เป็ น Concept 1 Concept 2 Concept 3 AND AND Japan Export Electronics 3. การกําหนดคําค้น หรือการแปลคําถามท่ี ต้องการสืบค้นออกมาเป็ นคําค้นให้ถูกต้อง (Identify Search Terms) เป็ นจุดสําคญั มากที่จะช่วยให้การสืบค้นได้ผล ลพั ธ์ถกู ต้องในขนั้ แรก ซึ่งเราควรมีการผนั ตาม หลกั ภาษาด้วย เช่น - Synonym คือ คาํ พ้องความหมายเดียวกนั >> Buy – Order, Purchase >> Women – Female >> Alien -- UFO

44 - English dialects คือ ภาษาพดู ในแต่ละท้องถ่ิน >> Color หรอื Colour >> Catalog หรอื Catalogue >> Alien -- UFO - Truncation คือ คาํ รากศพั ทช์ ดุ เดียวกนั แตกต่างกนั ที่ อกั ษรท่ีเชื่อมต่อด้านหลงั เช่น Prevent – Prevention, Prevents, Prevented, Preventing 4. การเชื่อมคาํ (Combining Search Terms) ก า ร ร ะ บุ ใ ห้ ก ลุ่ ม คํา ที่ เ ร า ต้ อ ง ก า ร สื บ ค้ น ใ ห้ มี ความสมั พนั ธก์ นั โดยมีตวั เช่ือมต่างๆ เช่น 4.1 Phrase Searching คือ กล่มุ คาํ หรือวลี - World Health Organization - Real Estate - Fiber Optics

45 4.2 Boolean Searching คือ ตวั เชื่อม AND, OR, NOT เพื่อแสดงความสมั พนั ธข์ องกลุ่มคาํ ที่เรา ต้องการสืบค้น - AND เป็ นการเชื่อมกลุ่มคาํ ท่ีทุกๆ คาํ พ้อง ปรากฏขึ้นมาในเอกสารฉบบั เดียวกนั เป็ นการระบุ การสืบค้นให้แคบลง - OR เป็ นการเช่ือมคาํ ท่ีคาํ ใดคาํ หนึ่ง หรือ ทัง้ หมดปรากฏขึ้นมา เป็ นการขยายการสืบค้นให้ กว้างขึน้ - NOT เป็นการเช่ือมคาํ โดยให้ลบคาํ ที่ระบุหลงั NOT ออกจากเอกสารชดุ นัน้ ตวั อย่าง Children AND Television AND Violence หมายความว่า “ต้องการเอกสารที่เกี่ยวกบั ความรนุ แรงใน โทรทศั น์ท่ีมีผลต่อเดก็ ”

46 5. เลือกใช้ Search Engine ท่ีเหมาะสม 6. ทาํ การสืบค้น และประเมินผลข้อมลู ที่ได้รบั ปกติผลของการค้นหาข้อมูลจะแตกต่างกนั ไป แต่ควรตรวจสอบไม่เกิน 50 อนั ดบั แรกท่ี ส่งมาให้ และอาจทําการสืบค้นใหม่หาก ผลลพั ธไ์ ม่ตรงตามท่ีต้องการ สรปุ การวางแผนการสืบค้น 1. ระบคุ าํ ถามให้ชดั เจน กาํ หนดคาํ ให้มีความเฉพาะเจาะจง 2. แยก Concept ในคาํ ถามออกมาเป็นส่วนๆ 3. คิดคาํ พ้องความหมาย (Synonyms) ในแต่ละ Concept 4. ถ้าจาํ เป็นต้องใช้กล่มุ คาํ ให้ระบอุ อกมา 5. เช่ือมคาํ ท่ีอย่ใู น Concept เดียวกนั ด้วยตวั เชื่อม OR และ เช่ือม Concept ที่ต่างกนั ด้วย AND 6. ประเมินผลลพั ธ์ 50 คาํ ตอบแรก

47 เทคนิ คการสืบค้นข้อมลู 1 . เ ข้ า ต ร ง ถึ ง แ ห ล่ ง ส า ร ส น เ ท ศ จ า ก ผู้ผ ลิ ต สารสนเทศโดยตรง เช่น ข้อมูลพยากรณ์อากาศ – เวบ็ กรมอตุ นุ ิยมวิทยา , มติ ครม.—สลค. 2. การทาย หรือเดา URL 3. การค้นหาจากบญั ชีหวั เร่ือง (Subject Directory) 4. กลยทุ ธก์ ารใช้เครอื่ งมอื ช่วยค้น (Search Engine Strategies) เพื่อให้ได้ผลลพั ธท์ ่ีตรงตามต้องการ 4.1 การใช้คาํ ถามที่เฉพาะเจาะจง (Unique Keyword) เช่น ชื่อคน, ชื่อสินค้า ,ชื่อเฉพาะต่างๆ เป็นต้น 4.2 การใช้กล่มุ คาํ หรอื วลี โดยใช้เคร่อื งหมายคาํ พดู “...” ล้อมกล่มุ คาํ ไว้ 4.3 การค้นโดยใช้เขตข้อมลู (Field Searching) เช่น ช่ือเรอ่ื ง (Title), URL 4.4 การจาํ กดั (Limits) เช่น การระบชุ ่วงเวลา