ชุดการเรียนรู้ทางไกล ครั้งที่ 4/18 เรื่อง การสื่อสารข้อมูล (ตอนที่ 2)

98 Cellular Radio System ระบบวิทยุเซลลูลาร์ การโทรติดต่อโทรศพั ทร์ ะบบ AMPS เม่ือตรวจกวาดพบแลว้ โทรศพั ทก์ ็จะทราบถึงความถี่ของช่อง เพจจิงและช่องเขา้ ระบบ แลว้ โทรศพั ทก์ ็จะแพร่หมายเลข ประจาํ เคร่ืองและหมายเลขโทรศพั ทข์ องตนออกไป Cellular Radio System ระบบวิทยุเซลลูลาร์ การโทรติดต่อโทรศพั ทร์ ะบบ AMPS เม่ือสถานีฐานของเซลลน์ นั้ ไดร้ บั ขอ้ มลู สถานีฐานก็จะส่งขอ้ มูล ต่อไปยงั MTSO ซ่ึงก็จะส่งขอ้ มูลท่ีระบุว่า โทรศพั ทใ์ ดอยู่ใน บริเวณควบคุมของตนเอง นอกจากนน้ั MTSO ก็จะส่งขอ้ มูล ตําแหน่งของโทรศพั ทเ์ ครื่องนน้ั ใหแ้ ก่ MTSO ฐาน (home MTSO) ของเครื่องนนั้

99 Infrared wave สญั ญาณอินฟาเรด Infrared wave สญั ญาณอินฟาเรด แสงอินฟาเรดเดินทางเป็ นเสน้ ตรง ราคาถูก ง่ายต่อการผลิตใชง้ าน ปลอดภยั จากการ ถกู ลกั ลอบดกั สญั ญาณ ขอ้ เสียไม่สามารถผ่านสิ่งกีดขวางได้ ระยะทางในการรบั ส่งไม่ ไกลนกั ปัจจุบนั ถูกนํามาใช้ ในการสื่อสารระยะใกล้ เช่น รีโมท ควบคมุ โทรทศั น์ รวมทง้ั การนําไปใชใ้ นการส่งขอ้ มูลจากเคร่ือง คอมพิวเตอร์ ไปยงั เครื่องพิมพด์ ว้ ย

100 Bluetooth เทคโนโลยีบลูทธู Bluetooth เทคโนโลยีบลูทธู เป็ นเทคโนโลยี ใหม่ท่ี เกี่ ยวข้องกับ เครือข่าย Network ที่ใชค้ ลื่นวิทยุ กําลงั ตํา่ ที่ใชเ้ ชื่อมต่อกบั อุปกรณ์ อิเล็กทรอนิ กส์หรือการส่ื อสารแบบ ไรส้ ายในระยะที่ไม่ไกล ท่ีจะมาแทนการ ต่ออุปกรณต์ ่าง ๆ ดว้ ยสญั ญาณทวั่ ไป

101 Bluetooth เทคโนโลยีบลูทธู เน่ืองดว้ ยคณุ สมบตั ิที่แข็งแกร่ง ซบั ซอ้ นนอ้ ย ใช้ พลงั งานและราคาก็ตํา่ ดว้ ย การท่ีมนั ถูกดีไซนใ์ ห้ ทํางานในพ้ืนที่ที่มีสญั ญาณรบกวนมาก ๆ ได้ เพราะว่า Bluetooth จะทํางานในระดบั ความถ่ี สาธารณะ ISM 2.4 GHz. และป้ องกนั การรบกวน จากสญั ญาณอ่ืน ๆ โดยการเล่ือนหรือสลบั เปลี่ยน สญั ญาณหลงั จากส่งหรือรบั Packet ขอ้ มูล Bluetooth ไดร้ บั การเปรียบเทียบกบั การส่ือสาร ไรส้ ายระบบอื่นแลว้ พบว่า Bluetooth จะสลบั คลื่น ไดเ้ ร็วและสน้ั Bluetooth เทคโนโลยีบลูทธู โครงสรา้ งทางกายภาพของ Bluetooth ระบบของ Bluetooth ประกอบดว้ ยหน่วย วิทยุ หน่วยควบคุมการเชื่อมต่อและ ห น่ ว ย จัด ก า ร ก า ร เ ช่ื อ ม ต่ อ แ บ บ Terminal บลูทูธโปรโตคอลสแตก๊ สามารถแบ่งไดเ้ ป็ น 4 ชนิด

102 Bluetooth เทคโนโลยีบลูทธู 1. Bluetooth Core Protocols 2. Cable Replacement Protocol 3. Telephony Control Protocols 4. Adopted Protocols ตารางเปรียบเทียบคณุ สมบตั ิสื่อนําขอ้ มลู ส่ือนําขอ้ มลู ราคา ความเร็ว ระยะทาง สญั ญาณรบกวน ความปลอดภยั UTP ถกู 1-100 Mbps ใกล้ สงู ตํา่ ใกล้ ตํา่ STP ปานกลาง 1-150 Mbps ปานกลาง ตํา่ 1 Mbps ปานกลาง ปานกลาง สงู Coaxial ปานกลาง –1 Gbps Optical 10 Mbps ไกล ตํา่ ตํา่ Fiber แพง - 2 Gbps ใกล้ – ไกล สงู ปานกลาง Radio ปานกลาง 1-10 Mbps Wave ไกล สงู แพง 1 Mbps Microwave - 10 Gbps แพง 1 Mbps ไกล สงู ปานกลาง - 10 Gbps Satellite

103 หลกั เกณฑพ์ ิจารณาเลือกสื่อนําขอ้ มูล ราคา ความเร็ว ระยะทาง สญั ญาณรบกวน ระบบความปลอดภยั ของขอ้ มลู

104

105 8. แบบทดสอบก่อนเรียน

106 แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนท่ี 4 เร่ือง การสือสารขอ้ มลู ตอนที่ 2 วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเบ้ืองตน้ (3000 -0203) คาชี้แจง 1. ขอ้ สอบปรนยั 10 ขอ้ 2. ใหน้ กั เรียนกาเคร่ืองหมาย x หนา้ ขอ้ ที่เห็นวา่ ถูกตอ้ งที่สุดเพียงขอ้ เดียว ลงในกระดาษคาตอบ 1. คลน่ื ทเ่ี ป็นกำรผสมสญั ญำณของขอ้ มลู เขำ้ ไปกบั สญั ญำณอกี สญั ญำณหน่งึ เรยี กวำ่ อะไร ก. คลื่นเสียง ข. คล่ืนวทิ ยุ ค. คลนื่ พาห์ ง. คลื่นโทรทศั น์ 2. การส่ือสารอนาลอ็ ก ขอ้ ใดกล่าวไดถ้ ูกตอ้ งที่สุด ก. เป็นระบบรับส่งคลื่นเสียง ข. เป็นระบบท่ีใชส้ าหรับรับส่งสถานีโทรทศั น์ ค. เป็นระบบท่ีใชส้ าหรับรับส่งสถานีวทิ ยุ ง. เป็นระบบท่ีออกแบบให้ส่งข้อมลู สญั ญาณอนาลอ็ ก 3. ขอ้ ใดคือขอ้ ดขี องสญั ญำณแบบดจิ ติ อล ก. ใหค้ ณุ ภำพกำรรบั ส่งขอ้ มลู ทเ่ี ท่ำกนั หรอื ดกี ว่ำอนำลอ็ ก ข. งำ่ ยต่อกำรบำรงุ รกั ษำ ค. เพมิ่ เตมิ ปรบั ปรงุ หรอื เปลย่ี นแปลงควำมสำมำรถหรอื บรกิ ำรของระบบไดง้ ำ่ ย ง. ถกู ทกุ ข้อ

107 4. จากรูปขอ้ ใดกล่าวไดถ้ ูกตอ้ งท่ีสุด ปลำยทำง ตน้ ทำง ก. กำรส่งผ่ำนขอ้ มลู แบบอนุกรม (Serial Transimission) ข. การส่งผา่ นข้อมลู แบบขนาน (Parallel Transimission) ค. กำรสอ่ื สำรแบบอะซงิ โคนสั (Asynchronous Transmission) ง. กำรส่อื สำรแบบซงิ โคนสั (Synchronous Transmission) 5. จากรูปขอ้ ใดกล่าวไดถ้ ูกตอ้ งที่สุด ก. กำรสง่ ผ่ำนขอ้ มลู แบบอนุกรม (Serial Transimission) ข. กำรสง่ ผ่ำนขอ้ มลู แบบขนำน (Parallel Transimission) ค. กำรส่อื สำรแบบอะซงิ โคนสั (Asynchronous Transmission) ง. การส่ือสารแบบซิงโคนัส (Synchronous Transmission)

108 6. จากรูปขอ้ ใดกล่าวไดถ้ ูกตอ้ งท่ีสุด ก. กำรส่งผ่ำนขอ้ มลู แบบอนุกรม (Serial Transimission) ข. กำรสง่ ผ่ำนขอ้ มลู แบบขนำน (Parallel Transimission) ค. การส่ือสารแบบอะซิงโคนัส (Asynchronous Transmission) ง. กำรส่อื สำรแบบซงิ โคนสั (Synchronous Transmission) 7. จากรูปขอ้ ใดกล่าวไดถ้ ูกตอ้ งท่ีสุด ก. การส่งผา่ นข้อมลู แบบอนุกรม (Serial Transimission) ข. กำรส่งผ่ำนขอ้ มลู แบบขนำน (Parallel Transimission) ค. กำรส่อื สำรแบบอะซงิ โคนสั (Asynchronous Transmission) ง. กำรสอ่ื สำรแบบซงิ โคนสั (Synchronous Transmission)

109 8. จากรูปขอ้ ใดกล่าวไดถ้ ูกตอ้ งที่สุด ก. สายค่ตู ีเกลียวแบบไมม่ ีชิลด์ ข. สำยคตู่ เี กลยี วแบบมชี ลิ ด์ (Shielded Twisted-Pair : STP) ค. สำยโคแอกเชยี ล (Coaxial Cable) ง. สำยใยแกว้ นำแสง (Fiber Optic Cable) 9. จากรูปขอ้ ใดกล่าวไดถ้ ูกตอ้ งที่สุด ก. สำยค่ตู เี กลยี วแบบไมม่ ชี ลิ ด์ ข. สำยคตู่ เี กลยี วแบบมชี ลิ ด์ (Shielded Twisted-Pair : STP) ค. สำยโคแอกเชยี ล (Coaxial Cable) ง. สายใยแก้วนาแสง (Fiber Optic Cable)

110 10. จากรูปขอ้ ใดกล่าวไดถ้ ูกตอ้ งท่ีสุด ก. สำยค่ตู เี กลยี วแบบไม่มชี ลิ ด์ ข. สำยค่ตู เี กลยี วแบบมชี ลิ ด์ (Shielded Twisted-Pair : STP) ค. สายโคแอกเชียล (Coaxial Cable) ง. สำยใยแกว้ นำแสง (Fiber Optic Cable)

111 9. แบบทดสอบหลงั เรียน

112 แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนที่ 4 เรื่อง การส่ือสารขอ้ มลู ตอนท่ี 2 วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเบ้ืองตน้ (3000 -0203) คาชี้แจง 1. ขอ้ สอบปรนยั 10 ขอ้ 2. ใหน้ กั เรียนกาเคร่ืองหมาย x หนา้ ขอ้ ที่เห็นวา่ ถูกตอ้ งที่สุดเพยี งขอ้ เดียว ลงในกระดาษคาตอบ 1. จากรูปขอ้ ใดกล่าวไดถ้ ูกตอ้ งท่ีสุด ก. กำรสง่ ผ่ำนขอ้ มลู แบบอนุกรม (Serial Transimission) ข. กำรส่งผ่ำนขอ้ มลู แบบขนำน (Parallel Transimission) ค. การสื่อสารแบบอะซิงโคนัส (Asynchronous Transmission) ง. กำรส่อื สำรแบบซงิ โคนสั (Synchronous Transmission) 2. จากรูปขอ้ ใดกล่าวไดถ้ ูกตอ้ งท่ีสุด

113 ก. การส่งผา่ นข้อมลู แบบอนุกรม (Serial Transimission) ข. กำรส่งผ่ำนขอ้ มลู แบบขนำน (Parallel Transimission) ค. กำรส่อื สำรแบบอะซงิ โคนสั (Asynchronous Transmission) ง. กำรส่อื สำรแบบซงิ โคนสั (Synchronous Transmission) 3. จากรูปขอ้ ใดกล่าวไดถ้ ูกตอ้ งท่ีสุด ก. สายค่ตู ีเกลียวแบบไมม่ ชี ิลด์ ข. สำยค่ตู เี กลยี วแบบมชี ลิ ด์ (Shielded Twisted-Pair : STP) ค. สำยโคแอกเชยี ล (Coaxial Cable) ง. สำยใยแกว้ นำแสง (Fiber Optic Cable) 4. จากรูปขอ้ ใดกล่าวไดถ้ ูกตอ้ งที่สุด ก. สำยค่ตู เี กลยี วแบบไม่มชี ลิ ด์ ข. สำยค่ตู เี กลยี วแบบมชี ลิ ด์ (Shielded Twisted-Pair : STP) ค. สำยโคแอกเชยี ล (Coaxial Cable) ง. สายใยแก้วนาแสง (Fiber Optic Cable)

114 5. จากรูปขอ้ ใดกล่าวไดถ้ ูกตอ้ งที่สุด ก. สำยค่ตู เี กลยี วแบบไมม่ ชี ลิ ด์ ข. สำยค่ตู เี กลยี วแบบมชี ลิ ด์ (Shielded Twisted-Pair : STP) ค. สายโคแอกเชียล (Coaxial Cable) ง. สำยใยแกว้ นำแสง (Fiber Optic Cable) 6. คลน่ื ทเ่ี ป็นกำรผสมสญั ญำณของขอ้ มลู เขำ้ ไปกบั สญั ญำณอกี สญั ญำณหน่งึ เรยี กว่ำอะไร ก. คลื่นเสียง ข. คล่ืนวทิ ยุ ค. คลนื่ พาห์ ง. คลื่นโทรทศั น์ 7. การสื่อสารอนาลอ็ ก ขอ้ ใดกล่าวไดถ้ ูกตอ้ งที่สุด ก. เป็นระบบรับส่งคลื่นเสียง ข. เป็นระบบที่ใชส้ าหรับรับส่งสถานีโทรทศั น์ ค. เป็นระบบที่ใชส้ าหรับรับส่งสถานีวทิ ยุ ง. เป็นระบบที่ออกแบบให้ส่งข้อมลู สญั ญาณอนาลอ็ ก 8. ขอ้ ใดคือขอ้ ดขี องสญั ญำณแบบดจิ ติ อล ก. ใหค้ ณุ ภำพกำรรบั สง่ ขอ้ มลู ทเ่ี ท่ำกนั หรอื ดกี ว่ำอนำลอ็ ก ข. งำ่ ยต่อกำรบำรงุ รกั ษำ ค. เพมิ่ เตมิ ปรบั ปรุง หรอื เปลย่ี นแปลงควำมสำมำรถหรอื บรกิ ำรของระบบไดง้ ่ำย ง. ถกู ทกุ ข้อ

115 9. จากรูปขอ้ ใดกล่าวไดถ้ ูกตอ้ งที่สุด ปลำยทำง ตน้ ทำง ก. กำรสง่ ผ่ำนขอ้ มลู แบบอนุกรม (Serial Transimission) ข. การส่งผา่ นข้อมลู แบบขนาน (Parallel Transimission) ค. กำรส่อื สำรแบบอะซงิ โคนสั (Asynchronous Transmission) ง. กำรสอ่ื สำรแบบซงิ โคนสั (Synchronous Transmission) 10. จากรูปขอ้ ใดกล่าวไดถ้ ูกตอ้ งท่ีสุด ก. กำรส่งผ่ำนขอ้ มลู แบบอนุกรม (Serial Transimission) ข. กำรส่งผ่ำนขอ้ มลู แบบขนำน (Parallel Transimission) ค. กำรสอ่ื สำรแบบอะซงิ โคนสั (Asynchronous Transmission) ง. การสื่อสารแบบซิงโคนัส (Synchronous Transmission)

116 10. เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน

117 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนที่ 4 เร่ือง การสือสารขอ้ มูล ตอนที่ 2 วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเบ้ืองตน้ (3000 -0203) ขอ้ ก ข ค ง จ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 

118 11. เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน

119 เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนท่ี 4 เรื่อง การสือสารขอ้ มลู ตอนที่ 2 วชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเบ้ืองตน้ (3000 -0203) ขอ้ ก ข ค ง จ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 

120 12. แบบประเมินพฤติกรรมรายบุคคล

121 แบบประเมินพฤตกิ รรมรายบุคคล ประเมนิ พฤตกิ รรมรายบุคคล (พฤตกิ รรมทค่ี าดหวงั ) ความมี ความรับ ความเชื่อ ความ ความ เลข ช่ือ – สกุล วนิ ยั ผดิ ชอบ มน่ั ใน อดทน สนใจ ที่ ผรู้ ับการ ตนเอง ใฝ่ รู้ รวม ประเมิน 2 1 0 2 1 0 2 1 0 2 1 0 2 1 0 10 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 ผปู้ ระเมิน…………………………… (…………………………..)

122 13. แบบบนั ทึกหลงั การเรียนรู้

123 แบบบนั ทกึ หลงั การเรียนรู้ บันทกึ หลงั การเรียนรู้ ผลการใช้แผนการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ของนักเรียน ผลการสอนของครู ผปู้ ระเมิน…………………………… (…………………………..)