Unit 2 Lesson Plan 2

แผนการสอนโรงเรยี นทงุ่ คาวิทยา หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2 Our Lord Buddha รายวชิ า ภาษาองั กฤษ 6 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 รหัสวิชา อ.16101 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ปีการศกึ ษา 2563 แผนที่ 2 เร่ือง Comparative&Superlative เวลาเรยี น 1 ช่วั โมง มาตรฐานการเรยี นร้แู ละตวั ชีว้ ัด สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการส่อื สาร ต 1.1 ป.6/1 ปฏบิ ตั ติ ามคำสั่ง คำขอรอ้ งและคำแนะนำทีฟ่ ังและอา่ น ต 1.2 ป.6/1 พูด/เขยี นโต้ตอบในการสอ่ื สารระหวา่ งบคุ คล ต 1.2 ป.6/4 พูดและเขียนเพ่อื ขอและให้ขอ้ มลู เกีย่ วกับตนเอง เพ่ือน ครอบครัวและเร่อื งใกลต้ วั ต 1.3 ป.6/1 พดู /เขยี นให้ข้อมูลเกีย่ วกับตนเอง เพือ่ น และส่งิ แวดล้อมใกลต้ ัว ต 1.3 ป.6/3 พูด/เขียนแสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกบั เรอ่ื งตา่ ง ๆ ใกลต้ ัว สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม ต 2.1 ป.6/1 ใช้ถอ้ ยคำ นำ้ เสียงและกิรยิ าทา่ ทางอย่างสุภาพเหมาะสมตามมารยาททางสังคม และวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา จุดประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ (Knowledge) 1. นกั เรียนสามารถอา่ นออกเสยี ง สะกด เขียนและบอกความหมายคำศพั ทท์ เ่ี ก่ยี วกบั กจิ กรรมในวัน สำคญั ทางพระพุทธศาสนาได้ 2. นกั เรียนสามารถพดู ขอความคิดเห็น หรือเมือ่ มีผขู้ อความคิดเหน็ กส็ ามารถตอบได้ ด้านกระบวนการ (Process) 6. นกั เรยี นทำงานร่วมกนั เป็นกลุ่มได้ 7. นักเรียนนำข้อมูลทกี่ ำหนดให้มาประยุกตใ์ ช้ในการสนทนาได้ 8. นกั เรยี นสร้างบทสนทนาจากประสบการณแ์ ละการเรยี นรูใ้ นช้ันเรยี นได้ ด้านคุณลักษณะ (Attribute) 9. นักเรียนมีระเบียบวนิ ัยและม่งุ มั่นในการทำงาน 10. นักเรียนมีความใฝร่ ู้โดยหาความรู้เพิม่ เติมจากแหลง่ ตา่ ง ๆ ได้ 11. นกั เรยี นมเี จตคติท่ีดีตอ่ การเรียนและการใชภ้ าษาองั กฤษในการส่อื สาร

สาระสำคัญ นักเรยี นสามารถถามและตอบคำถามเก่ยี วกับการแสดงความคิดเหน็ โดยใช้ประโยคคำถาม What do you think? และการใช้คำคณุ ศัพท์เพ่อื การเปรียบเทียบ (Comparison of Adjectives) สาระการเรยี นรู้ : big/beautiful/small/ useful คำศัพท:์ What do you think? โครงสรา้ งประโยค I think roses are more beautiful than orchids. I don’t think jasmines are more expensive than lotuses. I think orchids are the most beautiful. I don’t think orchids are the most beautiful. สมรรถนะสำคณั ของผูเ้ รียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคดิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง 4. ม่งุ มั่นในการทำงาน ทกั ษะจำเปน็ ในศตวรษที่ 21 1. ทกั ษะการส่อื สาร(Communication Skills) 2. ทักษะการคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณ และคดิ อยา่ งมรี ะบบ (Critical Thinking and Systems Thinking) 3. ทักษะการคดิ อยา่ งสรา้ งสรรค์ (Creativity and Intellectual Curiosity) 4. ทักษะระหว่างบคุ คลและการร่วมมือรว่ มใจ (Interpersonal and Collaborative Skills) กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้นั เตรียมความพรอ้ ม (Warm up) 1. ครูวาดรปู ดอกไม้บทกระดาน โดยใหน้ ักเรียนเดาคำศัพท์ว่าครกู ำลังจะวาดรปู อะไร 2. ครูสนทนากับนกั เรยี นเรื่องดอกไม้ มดี อกอะไรบา้ งทน่ี กั เรียนรูจ้ ัก หรือปลูกท่ีบา้ นของนักเรียน 3. ครทู ดสอบความรูเ้ บอื้ งต้นของนักเรยี นเกย่ี วกบั ชือ่ ของดอกไม้แตล่ ะชนิดแลว้ ใหน้ กั เรียนแต่ละกลมุ่ แขง่ กันตอบ โดยครนู ำบตั รภาพดอกไม้มาแสดง ข้ันดำเนินการสอน (Presentation) 4. ครูนำภาพดอกกล้วยไม้และดอกทานตะวันใหน้ กั เรยี น ถามคำถาม และเขยี นคำตอบลงบนกระดาน T: Which one is bigger?

5. Ss: Sunflowers are bigger than orchids. ครูนำภาพดอกขบาและดอกทิวลปิ ให้นกั เรยี น ถามคำถาม และเขยี นคำตอบลงบนกระดาน 6. บนกระดาน T: Which one is more beautiful? Ss: Tulips are more beautiful than Hibiscus. 7. ครูนำภาพดอกทานตะวนั ดอกลิลล่ี และ ดอกกล้วยไม้ ให้นกั เรียน ถามคำถาม และเขียนคำตอบลง กระดาน T: Which one is the cheapest? Ss: Sunflowers are the cheapest. ครนู ำภาพดอกทวิ ลิป ดอกกหุ ลาบ และดอกบัว ใหน้ กั เรยี น ถามคำถาม และเขยี นคำตอบลงบน T: Which one is the most expensive? Ss:Tulips are the most expensive. 5. ครแู บง่ นักเรยี นออกเป็น 2 กลมุ่ ให้ฝกึ ถามตอบโดยใช้หวั ขอ้ ทใ่ี ห้มาในหนงั สอื (big/ small/ beautiful/ useful/ cheap/expensive) 6. ครสู ่มุ นักเรียน 2-3 คู่ ออกมาสนทนาหน้าชนั้ เรียน ข้ันฝกึ ฝน (Practice) 8. ครูใหน้ กั เรียนจับคกู่ ัน และถามนกั เรียนวา่ นักเรียนและคู่ไดน้ ำดอกไมอ้ ะไรมา และดอกไมท้ ่นี ำมานนั้ มี ขนาด/ราคาเทา่ ไร และให้นกั เรียนตอบชื่อดอกไม้เป็นภาษาองั กฤษ 9. ครเู ดนิ ถามนกั เรยี นแตล่ ะค่วู า่ Which one is bigger/smaller? ให้นักเรียนตอบโดยใชค้ ำคณุ ศพั ท์ เปรยี บ เทียบ T : Which one is bigger? Ss : Sunflower is bigger than jasmine. ขั้นนำไปใช้ (Production) 11. ครใู หน้ กั เรยี นถอื ดอกไมไ้ วใ้ นมอื และให้นกั เรียนเตรยี มกระดาษและปากกาไว้ โดยครูจะใหน้ กั เรยี นจับกล่มุ ตามลกั ษณะดังนี้ 1. big 2. small 3. useful 4. expensive 5. cheap นักเรียนจะต้องกระจายกลุม่ ของตวั เองไป ตามลกั ษณะของหัวข้อและนกั เรียนจะตอ้ งจดชอื่ เพือ่ นในกลุ่มและชื่อดอกไม้ดว้ ยตามลักษณะทีก่ ำหนดให้ 12. ครูเดนิ ถามนักเรียนแตล่ ะกลวุ่ า่ Which one is the biggest” ใหน้ กั เรยี นตอบโดยใช้คำคณุ ศพั ทแ์ สดงขน้ั สงู สุด T : Which one is the biggest? Ss : Sunflower is the biggest. ขั้นสรปุ (Wrap up) 13. ครูและนกั เรยี นร่วมกันสรปุ การใช้ประโยคเปรยี บเทยี บ โดยใชค้ ำคุณศพั ท์ (Adjective) คำคณุ ศัพทพ์ ยางค์เดียว ใชว้ ธิ กี ารเตมิ –er/-estท้ายคำ เช่น small-smaller-mallest คำคุณศพั ทส์ องพยางค์ขึ้นไป ใชว้ ธิ ีการเตมิ more/ the most หนา้ คำศัพท์ เชน่ beautiful-more beautiful- the most beautiful

ส่ือและแหล่งเรยี นรู็ 1. ภาพท่ดี อกไม้ 2. หนงั สือเรยี น New Express English ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 6 3. กระดาษ ปากกา กจิ กรรมเสนอแนะ ครูให้นักเรียนวาดภาพดอกไมท้ ี่นกั เรยี นนำมา ระบายสีให้สวยงามและเขยี นประโยคเปรียบเทียบลักษณะของ ดอกไมท้ ี่นักเรยี นนำมาวา่ มีความแตกตา่ งกันกับกล่มุ ของนกั เรียนอยา่ งไร เช่น ขนาด สี ราคา ฯลฯ ลงในสมุด การวัดและประเมนิ ผล ชิ้นงาน/ วธิ ีประเมิน/เครอื่ งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การแสดงออกของผ้เู รียน สังเกต-ประเมนิ ได้ระดบั 3 ตามเกณฑ์ ดา้ นความรู้ พฤติกรรมการอ่านออกเสยี ง พฤตกิ รรมการอ่านออก การประเมินเชิงคณุ ภาพ (Knowledge) สะกดและบอกความหมาย เสยี ง สะกดและบอก ได้ระดบั 4 ถือวา่ ผ่าน 1. นักเรยี นสามารถอา่ น ของคำศพั ท์ทีก่ ำหนด ความหมายของคำศัพท์ การประเมิน ออกเสียง สะกด เขยี นและ ทก่ี ำหนด บอกความหมายคำศพั ทท์ ี่ เก่ยี วกบั กจิ กรรมในวัน สำคัญทางพระพทุ ธศาสนา ได้ 2. นักเรียนสามารถพดู ขอ พฤติกรรมการพูดโต้ตอบ สงั เกต-ประเมนิ ความคดิ เห็น หรอื เมือ่ มผี ู้ แสดงความคิดเห็น พฤติกรรมการสนทนา ขอความคดิ เหน็ กส็ ามารถ และการโต้ตอบแสดง ตอบได้ การทำงานร่วมกนั ความคิดเห็น ด้านกระบวนการ แบบสงั เกตการทำงาน นกั เรียนวางแผนการ (Process) กลุ่ม ทำงานเปน็ กล่มุ อย่ใู น 3. นักเรียนทำงานรว่ มกนั แบบประเมินผลงาน เกณฑร์ ะดับดี เปน็ กลุ่มได้ นักเรียนสามารถแสดง แบบประเมนิ ผลงาน ความคดิ เห็นไดอ้ ย่างสม 4. นกั เรียนนำข้อมลู ที่ การแสดงความคดิ เห็น เหตุสมผล กำหนดให้มาประยุกตใ์ ชใ้ น การสนทนาได้ นกั เรยี นสามารถนำ เสนอได้ โดยผ่านเกณฑ์ 5. นกั เรียนสรา้ งบทสนทนา การถาม-ตอบ ให้ข้อมูล ระดับดี จากประสบการณแ์ ละการ เรยี นรใู้ นช้ันเรียนได้

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ชิ้นงาน/ วิธีประเมนิ /เคร่อื งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ ด้านคณุ ลักษณะ การแสดงออกของผเู้ รยี น นักเรยี นมพี ฤตกิ รรม (Attribute) ผา่ นเกณฑร์ ะดับดี 6. นกั เรียนมรี ะเบยี บวนิ ยั การประเมนิ พฤตกิ รรม แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรยี นมีพฤตกิ รรม และมุ่งมนั่ ในการทำงาน การประเมนิ พฤตกิ รรม แบบสงั เกตพฤติกรรม ผ่านเกณฑร์ ะดบั ดี 7. นกั เรียนมคี วามใฝ่รโู้ ดย หาความรเู้ พิม่ เตมิ จาก พฤตกิ รรมการเป็นผู้มีเจตคติท่ี สงั เกต-ประเมิน นกั เรยี นมีพฤติกรรม แหล่งตา่ ง ๆ ได้ ผา่ นเกณฑ์ระดบั ดี 8. นกั เรียนมีเจตคติที่ดี ดตี อ่ การเรยี นและการใช้ภาษา พฤตกิ รรมการเปน็ ผมู้ ี ต่อการเรยี นและการใช้ ภาษาอังกฤษในการสอ่ื สาร องั กฤษในการส่อื สาร เจตคตทิ ี่ดตี ่อการเรยี น และการใช้ภาษาอังกฤษ ในการสื่อสาร