สามคั คีเภทคาฉนั ท์ ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๖
ก คานา หนั งสื อ E-Book เล่ม น้ ี จัดทาข้ ึนเพื่อเป็ นสื่อ ประกอบการเรียนการสอน ในรายวชิ าภาษาไทย ขา้ พเจา้ ได้ รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ เรื่อง สามัคคีเภทคาฉันท์ ช้ัน มธั ยมศึกษาปี ที่๖ โดยมีเน้ ือหาต่อไปน้ ี ความหมาย ผูแ้ ต่ง เร่ืองยอ่ และขอ้ คิด เพื่อใหผ้ ูเ้ รียนไดร้ บั ความรู้ ความเขา้ ใจใน เน้ ือหามากข้ ึน ผู้จัดทาหวังเป็ นอย่างยิ่งว่าหนังสือเล่มน้ ี จะเป็ น ประโยชน์แกน่ ักเรียนและผูส้ นใจ ไมม่ ากก็น้อย ผูจ้ ดั ทา นางสาววรรษมล ชุมขนั ธ์
สารบัญ ข เร่ือง หน้า คานา ก สารบญั ข ความหมาย ๑ ผ้แู ตง่ ๒ เร่ืองยอ่ ๓-๑๒ ข้อคิดที่ได้รับ ๑๓
๑ สามคั คี = การรวมกนั เป็ นหมคู่ ณะ เภท = แตก “ การแตกความสามคั คี ”
ผแู้ ตง่ ๒ นายชติ บรุ ทตั หนงั สือ สามคั คีเภทคาฉนั ท์ ( ฉบบั กระทรวงศึกษาธิการ จัดพิมพ์ เขียนเว้น วรรค เป็ น “ สามคั คีเภท คาฉนั ท”์ ) นี้ นายชิต บุรทัต ไดแ้ ต่งข้ึนเม่ือ พ.ศ. ๒๔๕๗ ในสมัยรัชกาลท่ี ๖ นับเป็ นผลงานท่ีมี ชอ่ื เสยี งอีกชนิ้ หนงึ่ ของกวีผนู้ ้ี
เน้ือเร่ ืองย่อ ๓
๔ ในกาลโบราณมกี ษตั ริยอ์ งคห์ นง่ึ ทรงพระ นามวา่ พระเจา้ อชาตศตั รู ทรงครอบครองแควน้ มคธ มรี าชคฤหเ์ ป็ นเมอื งหลวง
๕ พระองคท์ รงมอี ามาตยท์ สี่ นทิ คนหนงึ่ ชอ่ื ว่า “ วสั สการพราหมณ์ “ เป็ นผฉู้ ลาดและรอบรศู้ ิลปศาสตร์ และเป็ นที่ปรึกษาราชการทวั่ ไป
๖ พระเจา้ อชาตศตั รู มพี ระประสงคจ์ ะปราบแควน้ วัชชี อนั มพี วกกษตริยล์ จิ ฉวีทกุ ๆ พระองคล์ ว้ นแตท่ รงตง้ั มนั่ อย่ใู นธรรมท่ีเรียกวา่ “ อปริหานยิ ธรรม 7 “ คือธรรมอนั เป็ นไป เพอื่ เหตแุ ห่งความเจริญฝ่ ายเดยี ว มที ง้ั หมด 7 ประการ
๗ ดงั นน้ั พระองคจ์ งึ ปรึกษาโดยเฉพาะกบั วสั สการพราหมณ์ วา่ ควรจะกระทา อย่างไร จึงจะหาอบุ ายทาลายเหตแุ ห่งความพรอ้ มเพรียงของพวกกษตั ริยล์ ิจฉวีได้ เมอ่ื ไดต้ กลงนดั แนะกบั วสั สการพราหมณเ์ ป็ นท่ีเรียบรอ้ ยแลว้ วันหน่ึงพระเจา้ อชาตศัตรเู สด็จออกว่าราชการ จึงดารัสเป็ นเชิงหารือกับ พวกอามาตย์ ในเรื่องจะยกทพั ไปรบกบั แควน้ วชั ชี วัสสการพราหมณ์ เพียงผเู้ ดียว ที่กราบทูลเป็ นเชิงทักท้วงและขอให้พระองค์ทรงยับยั้งรอไว้ก่อนเพ่ื อเห็นแก่ มติ รภาพและความสงบ ทง้ั ทานายวา่ ถา้ รบก็จะพา่ ยแพด้ ว้ ย
๘ พระเจา้ อชาตศตั รไู ดท้ รงฟังวสั สการพราหมณก์ ราบทลู เป็ น ถอ้ ยคาหมนิ่ พระบรมเดชานภุ าพเชน่ นน้ั ก็ทรงแสรง้ แสดงพระอาการ พโิ รธ และมพี ระราชโองการสงั่ เจา้ หนา้ ที่ผใู้ หญฝ่ ่ ายนครบาลพรอ้ มดว้ ย ราชบรุ ษุ ใหน้ าตวั วสั สการพราหมณไ์ ปลงโทษตามคาพพิ ากษาในบท พระอยั การ คือ เฆยี่ น โกนผม ประจาน แลว้ ขบั ไลไ่ ปเสยี ไมใ่ หอ้ ยใู่ น พระราชอาณาเขต
๙ วสั สการพราหมณย์ อมทนรบั ราชอาญาดว้ ยทกุ ขเวทนาแสนสาหสั ถึงแกส่ ลบ เมอ่ื ถกู เนรเทศออกจากแควน้ มคธก็เดนิ ทางมงุ่ ตรงไปเมืองเว สาลอี นั เป็ นเมืองหลวงของแควน้ วชั ชแี ละเที่ยวผกู ไมตรีกบั บรรดาชาวเมอื ง จนขา่ วนที้ ราบไปถึงกษตั ริยล์ จิ ฉวี จงึ ไดต้ กี ลองสาคญั ขน้ึ เป็ นสญั ญาณ เชิญกษตั ริยท์ งั้ ปวงมาชมุ นมุ ปรึกษาราชการ เมอื่ กษตั ริยล์ ิจฉวีประชมุ กนั แลว้ ก็ไดต้ กลงกนั วา่ ควรใหพ้ ราหมณผ์ นู้ นั้ เขา้ มาเพ่ือจะไดเ้ ห็นทา่ ทางและฟัง ความดกู อ่ นวา่ จะจริงเท็จอยา่ งไร
๑๐ ภายหลงั ที่วสั สการพราหมณไ์ ดเ้ ขา้ เฝ้ ากษตั ริยล์ จิ ฉวีและกราบทลู ขอ้ ความตา่ ง ๆ ดว้ ยความฉลาดลกึ ซึ้ง ประกอบกบั มรี อยถกู โบยฟกชา้ ใหเ้ ห็น กษตั ริยล์ ิจฉวีทกุ พระองคต์ า่ งก็ทรงหมดความฉงนสนเทห่ ว์ า่ จะ เป็ นกลอบุ าย จึงทรงตงั้ ใหเ้ ป็ นครสู อนศิลปวิทยาแกบ่ รรดาราชกมุ าร และกระทาราชการในตาแหนง่ อามาตยผ์ พู้ จิ ารณาพิพากษาอรรถคดอี ีก ตาแหนง่ หนง่ึ ดว้ ย วสั สการพราหมณไ์ ดป้ ฏิบตั หิ นา้ ท่ีดว้ ยความเต็มใจ และเอาใจใส่ จนเป็ นท่ีไวใ้ จในหมกู่ ษตั ริยล์ ิจฉวี
๑๑ เมอื่ วสั สการพราหมณค์ าดคะเนวา่ พวกกษตั ริยล์ ิจฉวีวางใจตนจนหมด ความสงสยั วสั สการพราหมณจ์ ึงไดด้ าเนนิ อบุ ายเพ่ือทาลายความพรอ้ ม เพรียงเป็ นอนั เดียวกนั ของกษตั ริยล์ ิจฉวี โดยการแตง่ อบุ ายลบั ชวนใหฉ้ งน สนเทห่ ต์ า่ ง ๆ ขนึ้ เป็ นเครื่องยวั่ ยรุ าชกมุ ารทง้ั หลายผเู้ ป็ นศิษยใ์ หแ้ ตกรา้ วกนั และวสั สการพราหมณค์ อยสง่ เสริมเหตแุ หง่ การทะเลาะวิวาทใหบ้ งั เกดิ ขึ้นในหมู่ ราชกมุ ารอยเู่ นอื งนติ ย์ จนกระทงั่ ท่ีสดุ ราชกมุ ารทกุ พระองคก์ ็แตกความ สามคั คีกนั เป็ นเหตใุ หว้ ิวาทกนั ขนึ้
๑๒ และเป็ นเหตใุ หค้ วามสามคั คีในหมู่ กษตั ริยล์ จิ ฉวีถกู ทาลายลง เมอ่ื นนั้ พระเจา้ อชาตศตั รจู งึ ไดก้ รีธาทพั สเู่ มอื งเวสาลี สามารถปราบแควน้ วชั ชลี งไดอ้ ยา่ งงา่ ยดาย โดยวสั สการพราหมณเ์ ป็ นผมู้ าเปิ ดปะตเู มอื ง ใหแ้ กพ่ ระเจา้ อชาตศตั รู
ขอ้ คิด ๑๓ ขอ้ คิดสาคญั ท่ีไดจ้ ากเรื่องนี้ คือ โทษของการแตกความ สามคั คี สว่ นแนวคิดอื่นๆ มดี งั นี้ ๑. การใชป้ ัญญาเอาชนะศตั รโู ดยไมเ่ สยี เลอื ดเนอื้ ๒. การเลือกใชบ้ คุ คลใหเ้ หมาะสมกบั งานจะทาใหง้ านสาเร็จ ไดด้ ว้ ยดี ๓. การใชว้ ิจารณญาณไตรต่ รองกอ่ นทาการใดๆ เป็ นสิ่งที่ ดี ๔. การถือความคิดของตนเป็ นใหญแ่ ละทะนงตนวา่ ดกี วา่ ผอู้ ื่น ยอ่ มทาใหเ้ กดิ ความเสียหายแกส่ ว่ นรวม
ขอบคณุ คะ่ นางสาววรรษมล ชมุ ขนั ธ์ ๖๒๐๖๕๑๐๐๗๘
Search
Read the Text Version
- 1 - 17
Pages: