Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การสร้างสรรค์สื่อโทรทัศน์ดิจิทัล

การสร้างสรรค์สื่อโทรทัศน์ดิจิทัล

Published by สมโภช การะเวก, 2019-07-24 13:34:08

Description: หนังสือบทเรียน

Search

Read the Text Version

บทท่ี 3 วทิ ยุโทรทัศนก์ ับการศึกษา 46

47

บทที่ 4 การผลติ รายการ โทรทัศน์ 48

บทที่ 4 การผลิตรายการโทรทัศน์ บทที่ 4 การผลติ รายการโทรทัศน์ โทรทัศน์เป็นสอ่ื ชนดิ หนง่ึ ท่ตี อ้ งใช้ทีมงานของผมู้ ที ักษะและความชำ�นาญในการส่อื ความคดิ สรา้ งสรรคต์ า่ งๆให้ผดู้ ูรบั รูแ้ ละเกิดอารมณค์ ลอ้ ยตาม โทรทัศน์จึงเป็นส่ือกลางในการนำ�ศิลปะของ การ ส่ือสารมาสรา้ งให้เป็นภาพตามความตอ้ งการของผเู้ ขียนเรอื่ งหรือผ้เู ขยี นบทก�ำ หนดใหผ้ ูแ้ สดงมี การ สนทนาพูดคยุ กนั มกี ารเคลือ่ นไหวดว้ ยอิริยาบถลลี าทา่ ทางตา่ งๆ เปน็ การใชง้ านทางด้านกราฟิก ใช้ ศิลปะของการแตง่ หนา้ แตง่ ตวั เพื่อใหเ้ กิดความสวยงามเข้ากับเรื่องราว เป็นการให้แสง สี เงา และ พ้นื ผวิ แกผ่ ้แู สดงและฉากท่อี ยหู่ นา้ กลอ้ งให้ดสู มจรงิ เปน็ การใชเ้ สยี งพดู เสียงบรรยายเสียงดนตรแี ละ เสียงประกอบใหเ้ ข้ากับเรื่อง และทา้ ยสดุ เปน็ เทคนคิ การนำ�เสนอของผูต้ ดั ต่อ ผู้กำ�กบั รายการและ ผู้ ผลิตรายการท่ตี อ้ งการให้รายการออกมาเปน็ รูปแบบใด การผลติ รายการโทรทศั น์มขี น้ั ตอนส าคญั ๆ อยู่ 5 ขั้นตอนคือ การวางแผนการผลิต การ เตรียมการผลิต การผลติ หรอื ถ่ายท ารายการ การตัด ต่อภาพและเสียง และการประเมินผลรายการ ใน แตล่ ะขน้ั ตอนต้องใชบ้ ุคลากรหลายคนท างานกนั เป็นทมี เพ่ือให้ได้ผลงานท่ีดีมีคุณภาพ ในบทนี้จึงได้ กลา่ วถึงขน้ั ตอนการผลติ รายการ บุคลากรผู้ผลติ รายการ สถานท่ผี ลิตรายการ และอปุ กรณท์ ี่ จำ�เปน็ ต้องใชใ้ นการผลติ รายการ รูปแบบการผลติ รายการวิทยโุ ทรทัศน์ 1. การผลติ รายการในห้องจดั รายการ (STUDIO PRODUCTION) 1.1 การผลิตรายการสด (Live Program) 1.2 การบนั ทกึ เทปทลี ะสว่ น 2. การผลติ รายการนอกสถานที่ (ON LOCATION PRODUCTION) 2.1 การใช้กล้องตัวเดยี วอุปกรณ์ ENG 2.2 การใช้กลอ้ งชุดผลติ รายการนอกสถานท่ี EFP โดยใช้ OBVAN (Outside Broadcasting Van) 3. การผลิตรายการแบบประสม (STUDIO&ON LOCATION PRODUCTION) 49

บทที่ 4 การผลติ รายการโทรทัศน์ ข้ันตอนของการผลติ รายการโทรทัศน์ ก่อนท่จี ะเปน็ รายการโทรทศั นใ์ ห้ผู้ชมได้ดจู ะต้องผ่านขน้ั ตอนตา่ งๆ ได้แก่ 1. ข้นั วางแผนการผลิต 2. ขัน้ เตรยี มการผลติ 3. ข้ันด าเนินการผลติ 4. ขั้นตัดตอ่ รายการ 5. ขัน้ ประเมนิ ผลรายการ แต่กไ็ มแ่ น่นอนเสมอไปวา่ รายการโทรทัศนท์ ุกรายการจะต้องผ่านข้นั ตอนทุกข้ันตอนดงั กล่าว หรือใช้เฉพาะข้นั ตอนใดขัน้ หนึ่ง ตัวอยา่ งเช่นการอา่ นขา่ วประจ�ำ วนั ของสถานวี ิทยุโทรทศั นม์ กั เปน็ รายการสด อาจมกี ารเตรยี มเครอ่ื งมือในการถ่ายทำ�กอ่ นออกอากาศบา้ งแตไ่ มม่ ีการตัดต่อภาพ ยกเวน้ สว่ นท่เี ปน็ ภาพเหตกุ ารณท์ ี่ถ่ายท�ำ ไว้ล่วงหนา้ แลว้ แตถ่ า้ เป็นรายการประเภทละครหรือสารคดจี ะต้อง ใช้ทั้ง 5 ขั้นตอนนี้ 1. ข้ันตอนการวางแผนการผลิต บางทีเรยี กขั้น Preproduction เปน็ ขนั้ ตอนทผ่ี ู้ผลิตรายการมีความตอ้ งการผลติ รายการ โทรทศั น์ข้นึ มาจงึ เริ่มตน้ ทีจ่ ะหาแนวความคิดว่าเปน็ รายการเกยี่ วกบั อะไร ถ้าเปน็ รายการทาง การ ศึกษาจะให้ประโยชนอ์ ะไรแกผ่ ู้ดูบา้ ง ต้องใชง้ บประมาณเท่าไร ลกั ษณะของรายการเป็นอยา่ งไร ใช้ เวลาสรา้ งนานเท่าไร ความยาวของรายการก่ีนาทหี รอื ก่ีตอนจบ จึงขอแยกแยะรายละเอียดใน ข้ัน ตอนของการวางแผนดงั น้ี ข้นั ตอนวางแผนการผลติ (Pre-Production) -แสวงหาแนวความคิด -ก�ำ หนดวัตถปุ ระสงค ์ -วเิ คราะห์กลมุ่ ผู้ชมเปา้ หมาย -วเิ คราะห์เนือ้ หา ข้อมูล -เขยี นบท -กำ�หนดรปู แบบฉาก,วสั ดุประกอบฉาก -กำ�หนดรูปแบบงานกราฟิก -กำ�หนดวัสดปุ ระกอบรายการ -กำ�หนดตัวพิธกี ร,ผแู้ สดง -ก�ำ หนดแผนผงั ฉากและไฟ (Floor Plan) -ก�ำ หนดงบประมาณ 50

บทที่ 4 การผลิตรายการโทรทัศน์ 1. การวเิ คราะห์เนื้อหาของรายการ เปน็ กระบวนการหาขอ้ มลู เกีย่ วกับเร่ืองท่ีต้องการท�ำ เป็น รายการโทรทัศนว์ ่ามีข้อเท็จจริงอยา่ งไรบา้ ง ข้อมูลท่ไี ดอ้ าจเปน็ งานวิจยั รายงานของหนว่ ย ราชการ เอกสารต าราหรือการไปศกึ ษาดูงานจากสถานท่ีจรงิ เพื่อให้เกิดความน่าเช่อื ถือ 2. วิเคราะห์ผชู้ มหรือกลุม่ เปา้ หมายว่าเป็นใคร อายเุ ท่าไรอยู่ในวัยใด เพศชายหรือหญงิ การ ศกึ ษาระดับประถม มธั ยม หรืออดุ มศึกษา ประกอบอาชพี อะไร เพ่อื ใหร้ ายการท่ีผลติ ออกไปบรรลุ ตามวัตถปุ ระสงค์มากที่สุด 3. กำ�หนดวตั ถุประสงค์ เปน็ การคาดหมายวา่ เมอื่ ผชู้ มไดด้ ูรายการโทรทัศน์ไปแลว้ จะได้ รับความรูอ้ ะไร ท�ำ อะไรไดบ้ า้ ง และเกิดการเปลย่ี นแปลงความรู้สกึ หรอื คา่ นิยมอย่างไร จงึ สามารถ แบง่ วตั ถุประสงค์ออกเป็น 2 ลกั ษณะคอื วัตถปุ ระสงค์ทวั่ ไปกับวัตถปุ ระสงคเ์ ชงิ พฤติกรรมซึง่ คาด วา่ ใหท้ �ำ ได้อธิบายได้ เปน็ ต้น 4. การเขียนบท เปน็ การมอบหมายให้ผู้เขียนบทไดน้ �ำ เน้ือหาเรอื่ งราว ไป จดั ทำ�เป็นบทโทรทัศน์เพือ่ เรยี งล�ำ ดับภาพกบั เสียงให้มีความตอ่ เนอ่ื งสมั พันธ์กนั และเปน็ ไปตาม วตั ถปุ ระสงค์ทต่ี ้ังไว้ผเู้ ขียนบทจงึ ต้องเป็นผมู้ ีความสามารถทจ่ี ะแปลงเน้อื หาเร่อื งราวออกมาเป็นภาพ และเสยี งใหผ้ ดู้ เู ขา้ ใจได้อยา่ งชดั เจน 5. เตรียมงบประมาณ ผผู้ ลติ รายการจะตอ้ งจัดตง้ั งบประมาณเพ่อื การผลติ รายการไดแ้ ก่ ค่า ผ้กู ากับรายการ ค่าเขยี นบท ค่าผู้แสดง คา่ วทิ ยากร คา่ สถานทแ่ี ละอปุ กรณถ์ า่ ยท ารายการโทรทศั น์ ค่า งานกราฟิก ค่าสรา้ งฉากและอุปกรณ์ประกอบฉาก ค่าเบย้ี เลี้ยงเดินทางและค่าทีพ่ ัก คา่ ตดั ตอ่ ภาพ และ เสียงเปน็ ตน้ กล่าวโดยสรุปแล้วขัน้ วางแผนผลิตรายการโทรทัศน์ประกอบไปด้วย * ประชุมผู้บริหารเพื่อหาแนวคดิ ในการจดั ทำ�รายการโทรทัศน์ * ก�ำ หนดวตั ถุประสงค์ของรายการและกลุ่มเปา้ หมาย * เขยี นบทโทรทศั นแ์ ละเลอื กรปู แบบของรายการ * ประชมุ รว่ มกนั ระหวา่ งผูผ้ ลิตรายการ ผู้ก�ำ กับรายการ ช่างเทคนคิ ชา่ งแสง-เสียง ช่าง ออกแบบฉากและเครือ่ งแตง่ กาย เพื่อใหก้ ารปฏบิ ัติงานเปน็ ไปในแนวทางเดียวกัน 51

บทที่ 4 การผลติ รายการโทรทัศน์ ภาพประชุมวางแผนการผลติ ทมี่ า : https://goo.gl/tRFBrP 2. ข้นั เตรยี มการ (Preparation) เม่อื ไดว้ างแผนงานเรียบรอ้ ยแล้วกอ่ นลงมอื ผลิตรายการจรงิ จะตอ้ งจัดเตรยี มส่งิ ต่างๆ เพ่อื ให้เกิดความพรอ้ มได้แก่ 1. เตรยี มบคุ ลากร ไดแ้ ก่ เจ้าหนา้ ท่ีเทคนคิ ฝ่ายตา่ งๆ ชา่ งกลอ้ ง ชา่ งแสง ชา่ งเสียง 2. เตรียมวสั ดอุ ุปกรณ์ ได้แก่ กล้องโทรทัศน์ เคร่ืองบนั ทกึ เทปโทรทศั น์ โคมไฟแสง สว่าง เครอื่ งเสยี ง และอุปกรณอ์ นื่ ๆ เช่น ฟิล์มภาพยนตร์ ม้วนเทปวดี ที ศั น์ เทปเสียง แผ่นเสียง แผ่น ซีดี ขา ตั้งกลอ้ ง ฯลฯ 3. เตรียมสถานท่ถี า่ ยท า แบ่งออกได้ 2 แห่ง คอื ผลิตรายการในอาคารหรือในหอ้ ง สตดู โิ อ กบั นอกสถานทีห่ รอื สถานท่จี รงิ (On location) เชน่ บา้ นพัก ชายทะเล หรอื สวนสาธารณะ 4. เตรยี มผูแ้ สดงรวมไปถงึ เครื่องแตง่ กาย ท าผม แตง่ หนา้ ของผู้แสดงด้วย 5. เตรียมงานกราฟกิ ทนี่ ามาใชป้ ระกอบรายการ เชน่ รปู ภาพ แผนภูมติ ่างๆ ไตเติล จากเคร่ืองคอมพวิ เตอร์หรือประดิษฐ์ข้นึ เอง 6. เตรยี มฉากและอปุ กรณ์ประกอบฉาก 52

บทที่ 4 การผลติ รายการโทรทศั น์ ภาพเตรยี มฉาก อุปกรณป์ ระกอบฉาก สถานที่ถ่ายทำ� ทีม่ า : บรวิ ตั ร มัชฌิมา ภาพเตรยี มบุคลากร ที่มา : บรวิ ตั ร มชั ฌมิ า ภาพเตรียมงานกราฟกิ ท่ีมา : บริวัตร มชั ฌิมา 53

บทท่ี 4 การผลิตรายการโทรทัศน์ 3.ข้นั ด าเนนิ การผลติ รายการ (Production) แบ่งออกเป็น 2 ขน้ั ตอนไดแ้ กก่ ารซอ้ มและถ่ายท ารายการจรงิ 3.1 การซอ้ ม (Rehearsal) เปน็ การเตรยี มตวั ให้ทุกคนมคี วามพร้อมก่อนที่จะถา่ ย ท�ำ รายการ จรงิ เจ้าหน้าทที่ กุ คนจงึ ตอ้ งเตรยี มทุกส่ิงทกุ อย่างเปน็ อย่างดีไม่ว่าจะเป็นผู้กำ�กับรายการ ผู้ก�ำ กบั เวที ชา่ งกลอ้ ง ชา่ งแสง-เสียง ผู้ก ากบั ฉาก และผ้แู สดงทกุ คน การซ้อมมหี ลายลกั ษณะคือซ้อม แหง้ เปน็ การซ้อมการพดู การแสดงโดยไม่ต้องแต่งหน้าหรอื แตง่ ตัวจริง ซอ้ มผ่านกล้อง ผแู้ สดงจะถกู กล้องทดลองจับภาพการแสดงทกุ ขัน้ ตอนแต่ยงั ไมม่ กี ารบันทึกลงเทป สุดท้ายคือการซอ้ มเหมอื นจริง จะกระท�ำ กอ่ นบันทึกลงเทปหรือออกอากาศจรงิ ผแู้ สดงจะต้องแต่งหนา้ แต่งตวั เขา้ ฉากจรงิ ระยะ เวลา จรงิ และถา่ ยทำ�จริง ในปจั จุบันการผลิตรายการโทรทศั นใ์ ช้วธิ ีบันทึกลงเทปวดี ที ัศน์เพ่อื น�ำ ไปตดั ตอ่ ภายหลงั ดงั นั้นการซ้อมจริงจงึ อาจไม่จำ�เปน็ กไ็ ด้ เนอื่ งจากหากมกี ารผิดพลาดระหวา่ งการถา่ ยท�ำ ก็ สามารถถ่ายใหม่ไดท้ นั ที ภาพการซ้อม ที่มา : วนั วรุณ นาคดี 3.2 ขน้ั การผลติ รายการ โทรทัศนส์ มยั แรกก่อนทจี่ ะมีเทปวดี ีทัศนจ์ ะผลติ เป็น รายการสด ออกอากาศต้ังแต่เริม่ ต้นไปจนจบ ไมส่ ามารถเปล่ียนแปลงแก้ไขสิ่งผิดพลาดได้ เม่ือมกี าร พัฒนาเทป วีดที ศั นข์ นึ้ มาทำ�ใหผ้ ้ผู ลิตรายการและผกู้ ากบั รายการสามารถแก้ปญั หาตา่ งๆทเี่ กดิ ขึ้น ระหว่างกา รถ่ายทได้ ทำ�ใหม้ คี วามยืดหยนุ่ ในการผลิตรายการได้มากขึน้ ขน้ึ ดว้ ยการน�ำ เทปท่ีบันทึกไว้ เปน็ ฉาก เปน็ ตอนมาตดั ต่อใหม้ คี วามต่อเนือ่ งกัน ในทน่ี จี้ ึงแบง่ การผลติ รายการออกเป็น 2 ลกั ษณะคือ ถา่ ยท�ำ รายการสดกบั การถา่ ยท�ำ รายการบนั ทกึ เทปเพ่ือการตัดต่อออกอากาศภายหลงั 54

บทท่ี 4 การผลิตรายการโทรทัศน์ 1)การผลิตรายการถา่ ยทอดสด การแพร่ภาพออกอากาศรายการสดเป็นกระบวนการผลติ รายการข้ันสดุ ท้ายเน่อื งจากรายการจะถกู แพรภ่ าพไปถึงกลุ่มผูช้ มทอี่ ยูท่ างบ้านทนั ที รายการออกอา กาศสดๆ เชน่ รายงานขา่ วประจ�ำ วัน ถา่ ยทอดพิธีเปิดการแข่งขันกีฬา การอภปิ รายสด ทางโทรทศั น์ เป็นตน้ แตบ่ างครั้งรายการสดอาจถกู บันทึกไวก้ ่อนแล้วจงึ คอ่ ยน าไปแพร่ภาพออกอากาศ กไ็ ด้โดยใช้ เวลาบันทกึ เทา่ กบั เวลาทเี่ หตุการณ์เกดิ ข้นึ จรงิ เชน่ เทปการแข่งขันฟตุ บอลของตา่ งประเทศ หรืองาน พระราชพธิ ที ก่ี ระทำ�ตอนกลางวันแตน่ ำ�ไปแพรภ่ าพออกอากาศเวลากลางคืน เปน็ ต้น ภาพการผลิตรายการถา่ ยทอดสด ท่มี า : https://www.google.co.th 2)การผลิตรายการบันทกึ เทป แทนท่ีจะแพรภ่ าพออกอากาศทนั ทีกเ็ ป็นการ บันทึกรายการ ลงเทปวีดีทัศน์เป็นตอนเป็นฉากเกบ็ ไว้เพ่ือน าไปผ่านกระบวนการตัดตอ่ ให้เปน็ รายการท่ี สมบูรณ์ ภายหลงั พรอ้ มกับใสไ่ ตเตลิ ช่อื เร่ือง ชอื่ รายการ เสียงดนตรี และเสยี งประกอบเพือ่ สร้าง อารมณ์ กับบรรยากาศใหด้ ูสมจรงิ ยิ่งขึ้น ขอ้ ดขี องการบันทกึ รายการลงเทปกค็ อื หากมขี อ้ ผิดพลาด เกดิ ข้นึ ระหว่างการถ่ายท�ำ จะสามารถแก้ไขถ่ายทำ�ใหม่ซ�้ำ กี่คร้งั ก็ได้ การผลิตรายการนอกสถานท่ี เช่น ถา่ ย ทำ�ในสถานท่จี ริงจะใช้วธิ ีบนั ทกึ รายการลงเทปวดี ที ศั น์ท้ังสน้ิ 55

บทที่ 4 การผลติ รายการโทรทัศน์ ภาพการผลติ รายการบนั ทึกเทป ทม่ี า : วนั วรุณ นาคดี 4.ขั้นการตัดต่อรายการ หรอื Post Production รายการทถี่ กู บันทึกไว้ในมว้ นเทปวดี ีทัศน์ จะตอ้ งน าไปตัดต่อจงึ จะเป็นรายการทส่ี มบูรณ์ ในชว่ งของการตดั ต่อ ชา่ งตัดต่อจะนำ�ช็อตตา่ งๆท่ี ถ่ายทำ�ไวแ้ ลว้ เลอื กชอ็ ตท่ดี ีท่สี ุดมาประกอบเขา้ ดว้ ยกนั ดว้ ยเครอ่ื งตัดต่อโดยเฉพาะ หรือเคร่ืองตัดตอ่ ทใี่ ชค้ อมพิวเตอรช์ ว่ ยตดั ต่อซ่งึ จะได้เทคนคิ พเิ ศษซับซอ้ นยิง่ ขน้ึ ประโยชนส์ ำ�คัญประการหนึ่งของการตดั ตอ่ กค็ ือผตู้ ดั ตอ่ สามารถเลือกภาพเหตุการณ์ทีด่ ี ทส่ี ุด ดังกลา่ วแล้วยังสามารถใส่งานกราฟิก เช่น ไตเติลชื่อเร่ือง ชอื่ ตอน ช่ือวิทยากร ใส่ภาพจากเทป วีดที ศั น์ จากฟิล์มภาพยนตร์ หรอื สไลด์ สอดแทรกเข้าไปในรายการ นอกจากนย้ี ังใส่เสียงบรรยาย เสยี งดนตรี และเสียงประกอบเขา้ ไปในแถบเสียงของเทปวีดีทัศน์ไดอ้ กี ดว้ ย ภาพการตัดตอ่ รายการด้วยโปรแกรม premiere pro ทม่ี า : บรวิ ตั ร มชั ฌิมา 5.ข้ันการประเมินผลรายการ หลังจากทำ�การตดั ต่อเสรจ็ เรยี บร้อยแลว้ ผกู้ ำ�กบั รายการจะน�ำ ไปใหผ้ ผู้ ลิตรายการดวู ่ามสี ่วนใดเพ่ิมเตมิ หรือแกไ้ ขปรบั ปรงุ บา้ งเก่ียวกับเนอ้ื หาของเรือ่ ง การด�ำ เนิน เร่อื ง ภาพและเสยี ง เพอื่ ให้ สอดคลอ้ งกบั วัตถุประสงค์ทตี่ ั้งไวแ้ ต่แรก การประเมนิ ผลรายการอาจ กระท�ำ หลังจากท่แี พร่ภาพออกอากาศไปแล้วกไ็ ดโ้ ดยประเมนิ 56

บทท่ี 4 การผลติ รายการโทรทัศนฺ์ จากผดู้ ถู ้าเปน็ รายการเกยี่ วกบั ความบันเทงิ ซึง่ มโี ฆษณาอาจดูจากการจ�ำ หนา่ ยสินค้าของ บรษิ ัทท่เี ปน็ สปอนเซอรว์ า่ ยอดจำ�หน่ายสินค้าสงู ขน้ึ หรือไม่ ลักษณะน้เี รียกว่าประเมินแบบไม่เปน็ ทางการ หาก ประเมินอยา่ งเปน็ ทางการจะตอ้ งใชว้ ธิ ีวจิ ยั ด้วยการสุ่มตวั อย่างหาข้อมูลเพ่ือให้ทราบว่า รายการที่ผลิต และเผยแพร่ออกอากาศไปนน้ั ประสบผลส�ำ เร็จเพียงใด บุคลากรผู้ผลติ รายการโทรทศั น์ ผผู้ ลิตรายการโทรทศั นแ์ บง่ ออกเปน็ 2 กล่มุ ใหญๆ่ คอื คณะผ้ผู ลติ รายการกับผ้ดู �ำ เนินการผลิต 1. ผคู้ วบคุมการผลิตรายการ เปน็ กลมุ่ บุคคลทม่ี ีความคดิ ริเรม่ิ สร้างสรรคต์ ้องการจัดทำ�เป็น รายการโทรทศั นข์ ้ึนมา ได้แก่ ผ้ผู ลติ รายการ (Producer) ผู้ก ากบั รายการ (Director) และผ้เู ขียนบท (Script Writer) แตล่ ะคนกอ็ าจมีผู้ชว่ ยคอยชว่ ยเหลือด าเนนิ งานได้อกี 2. กลมุ่ ผดู้ �ำ เนนิ การผลิตรายการ จะรบั ท�ำ งานตอ่ จากคณะบุคคลชดุ แรกมาผลิตเปน็ รายการ โทรทัศน์ข้ึนมาจรงิ ๆ จงึ มีหน้าท่ีควบคุมเคร่อื งมอื และอปุ กรณก์ ารผลติ รายการท้งั หมด ได้แก่ ผู้ กำ�กบั เทคนิค (Technical Director) ช่างควบคุมเสียง (Audio Technician) ช่างกลอ้ ง (Camera Oper- ators) ผกู้ ำ�กบั เวที (Floor Managers) และแต่ละฝา่ ยก็มีผู้ชว่ ยอกี หลายคนเชน่ กันรวมไปถงึ ผู้ แสดง ดว้ ย ความจริงแล้วทง้ั สองกล่มุ นม้ี ิได้แยกกนั ทำ�งานโดยเดด็ ขาดแตจ่ ะคอยดูแลชว่ ยเหลือหรือ ให้ ค�ำ แนะนำ�กนั อยตู่ ลอดเวลา บางคร้งั ผูผ้ ลติ รายการอาจจะเปน็ ผู้กำ�กบั รายการหรือผูก้ �ำ กับเทคนิค เสีย เองดว้ ยกไ็ ด้ เชน่ รายการประเภทสารคดีทางการเกษตรทีไ่ มจ่ �ำ เปน็ ตอ้ งใช้บคุ ลากรมากนกั ผผู้ ลิต รายการอาจเปน็ ผ้กู ากับรายการไปจนถึงผตู้ ดั ตอ่ ภาพและเสยี ง แตถ่ ้าเปน็ รายการใหญป่ ระเภทละคร โทรทศั นต์ ้องใชบ้ คุ ลากรจำ�นวนมากแบง่ งานกนั ท�ำ แต่อยา่ งไรก็ตามผูก้ �ำ กับรายการทด่ี จี ะตอ้ งรู้เรือ่ งดี เกีย่ วกบั สมรรถภาพและข้อจำ�กัดของ อปุ กรณ์ตา่ งๆ ท่ีใชผ้ ลติ รายการ เชน่ กลอ้ ง ไมโครโฟน ระบบ การให้แสง รวมไปถงึ จะต้องมคี วามรู้ เกีย่ วกับการก�ำ กับการแสดง หรอื การเลอื กมมุ กล้องทเ่ี หมาะสม สว่ นช่างกล้องหรอื ผคู้ วบคุมกลอ้ งกไ็ ม่เพยี งแต่ร้จู ักเทคนิคของการใช้กลอ้ งเพียงอย่างเดียว จะตอ้ งมคี วามรู้เกี่ยวกบั การจดั องคป์ ระกอบของภาพและแงม่ ุมของการถ่ายภาพทีด่ เี พ่อื ใหส้ อดคลอ้ ง กับความต้องการของผู้ก�ำ กบั รายการอีกดว้ ย ดังที่กล่าวแลว้ ว่างานโทรทศั นเ์ ปน็ งานท่ีใช้ความคดิ ริเร่ิม สร้างสรรค์ ใชศ้ ิลปะและจนิ ตนาการเพ่อื ใหง้ านประสบความส�ำ เรจ็ เป็นรายการโทรทัศนท์ ีด่ อี อกมา ต่อ ไปน้ีจะเปน็ ภาระงานของบุคลากรผผู้ ลติ รายการโทรทัศน์ทค่ี วรรู้จัก 57

บทท่ี 4 การผลติ รายการโทรทัศน์ -ผผู้ ลิตรายการ (Producer) เป็นผคู้ วบคุมดแู ลการผลิตรายการทั้งหมดต้งั แต่การวางแผน งาน ได้แก ่ หาแนวความคิด เลือกรปู แบบรายการ และเรือ่ งราวที่จะน�ำ มาทำ�เปน็ รายการโทรทศั น์ ติดตอ่ ประสานงานกบั ผ้เู ขียนบท มอบหมายงานใหผ้ ู้กำ�กับรายการทำ� คอยตรวจสอบตดิ ตามงานทีผ่ ู้ กำ�กับรายการมอบหมายงานให้คนอืน่ ทำ�เกีย่ วกบั การออกแบบฉาก แสง เสียง ในช่วงของการซ้อม ผู้ ผลติ รายการต้องเปน็ ผู้ให้คำ�แนะน�ำ การซอ้ ม ชว่ งการถา่ ยท�ำ ต้องดแู ลงานทุกอยา่ งท่ผี ูก้ �ำ กบั รายการ มอบหมายให้คนอ่ืนทำ� ตลอดไปจนถงึ การถ่ายทำ�และตัดตอ่ ท่สี ำ�คญั คือต้องเป็นผจู้ ัดหาเงนิ ทนุ เพื่อ เป็นค่าใชจ้ ่ายตลอดการด�ำ เนินงาน ภาพผู้ก�ำ กับรายการ ท่มี า : https://goo.gl/kXa5wd -ผ้กู ำ�กบั รายการ (Director) เป็นผู้รับมอบหมายงานจากผูผ้ ลติ รายการ ผู้กฎกบั รายการจึง มีหน้าทห่ี ลัก คือ การประสานงานและมอบหมายงานให้บคุ ลากรอ่ืนๆ ทกุ ฝา่ ย เพ่ือใหง้ านดฎเนนิ ไป ในทิศทางเดยี วกัน ในชว่ งของการวางแผนงานจึงเข้าประชุมรว่ มกบั ผูผ้ ลติ รายการเพ่อื ให้ทุกคนเขา้ ใจ งานทท่ี ฎ ชว่ งการซ้อมตอ้ งจดั ให้มกี ารซ้อมกลอ้ ง ซอ้ มผแู้ สดง พร้อมประสานงานกับฝา่ ยตา่ งๆ ช่วง การถ่ายท�ำ และตดั ต่อผกู้ ฎกับรายการจะตอ้ งคอยให้ค�ำ แนะน�ำ อยูต่ ลอดเวลา เม่อื ต้องรบั ภาระงาน มาก จงึ ตอ้ งมผี ู้ชว่ ย เรียกวา่ ผ้ชู ่วยผ้กู �ำ กบั รายการ (Assistant Director) หรอื AD ภาพผชู้ ่วยผู้ผลติ รายการ ทม่ี า : https://goo.gl/JlSq1M 58

บทท่ี 4 การผลติ รายการโทรทศั น์ -ผชู้ ่วยผูผ้ ลติ รายการ (Production Assistant) เรียกชื่อยอ่ วา่ PA มหี น้าทช่ี ่วยผูผ้ ลิต รายการ ผกู้ �ำ กบั รายการและทีมผู้ผลิตรายการฝา่ ยอ่นื ๆ ปกติ PA จะท างานในห้องควบคมุ (Control Room) คอยช่วยผู้ผลิตรายการและผู้ก�ำ กับรายการในช่วงการถ่ายทำ�ใหด้ �ำ เนินไปตามบทหรอื อาจ เปลี่ยนแปลงแกไ้ ขบทบา้ งถ้าจำ�เป็น คอยชว่ ยเหลอื AD ควบคุมเวลา ดแู ลเรื่องเทปบนั ทึกเสียง ฟิล์ม ภาพยนตร์ สไลดแ์ ละอปุ กรณ์อ่นื ๆ ทีใ่ ชร้ ว่ มในรายการ บางคร้ังผูช้ ว่ ยผู้ผลิตรายการจะทำ�งานในหอ้ ง สตดู โิ อหรอื ห้องผลิตรายการ คอยให้ควิ (Cue) การแสดงใหด้ ำ�เนนิ ไปตามบททงั้ ในชว่ งของการซ้อม และถ่ายทำ�จริง ภาพผู้ก�ำ กับเทคนคิ ท่มี า : https://goo.gl/fTurVB -ผ้กู ำ�กับเทคนคิ (Technical Director = TD) บางทีเรยี กว่า สวติ เชอร์ (Switcher) จะ ทำ�งานในห้องควบคมุ ตรงต�ำ แหน่งหนา้ แผง Switcher @SEG รว่ มกับผู้ก ากบั รายการ ผู้กำ�กับเทคนิค จะปฏิบัติตามค�ำ ส่ังของผูก้ ากบั รายการวา่ ประสงคจ์ ะเลอื กภาพจากกลอ้ งตัวใดออกอากาศหรอื บนั ทึก ลงเทปวดี ีทัศน์ โดยกดปุ่มบังคบั ท่แี ผงของเครอ่ื งหรือจะทำ�เปน็ ภาพพเิ ศษกไ็ ด้ด้วยการโยกคานของ เครือ่ ง SEG เพอ่ื ใหเ้ กดิ เปน็ ภาพพิเศษตามท่ผี ู้ก�ำ กับรายการตอ้ งการ ผู้ควบคมุ เสียง ทมี่ า : https://goo.gl/Y79Y6s 59

บทที่ 4 การผลติ รายการโทรทศั น์ -ผคู้ วบคุมเสยี ง (Audio Technician) ท�ำ หน้าทค่ี วบคมุ เสียงทม่ี าจากไมโครโฟนทกุ ตัวใน หอ้ งผลิตรายการ รวมทั้งสญั ญาณเสยี งท่ีมาจากเครือ่ งเสยี งอ่ืนๆ เชน่ แผน่ เสียง ซีดี เทปเสยี ง เม่อื ผู้ กำ�กบั รายการใหต้ ดั หรอื ใส่เสียงใดจะตอ้ งก�ำ หนดให้พอดีกบั ชว่ งของการแสดง คุณสมบัตขิ องผูค้ วบคุม เสียงจึงตอ้ งมีความรู้สึกไวตอ่ รปู แบบของรายการวา่ ควรให้เสียงอะไรและอยา่ งไร ช่างกลอ้ งหรอื ผูค้ วบคมุ กล้อง ท่มี า : gustavosemeghiniblog.com -ชา่ งกลอ้ งหรือผคู้ วบคมุ กลอ้ ง (Camera Operator) มีหนา้ ที่คอยควบคมุ กล้องระหวา่ ง การ ซ้อมการแสดงหรอื การถ่ายท�ำ รายการ จึงต้องคอยจับภาพโดยกำ�หนดต�ำ แหน่ง จดั เฟรมและจัดมมุ กลอ้ งในทิศทางที่ถกู ต้องเพ่อื ให้ไดภ้ าพท่สี วยงามชดั เจน ในช่วงที่กลอ้ งตัวใดตวั หนึ่งกำ�ลังจบั ภาพออก รายการ กล้องตัวอ่นื จะต้องหาภาพหรอื จับภาพตามที่บทกำ�หนดเพื่อเตรียมถา่ ยเป็นช็อตต่อไป ความ กดดันของชา่ งกลอ้ งในหอ้ งผลติ รายการจงึ มีมากกว่าชา่ งกล้องท่ีถ่ายท�ำ รายการนอกสถานที่ เช่น การ ถา่ ยทำ�ขา่ วซ่ึงใช้กล้องเพียงตัวเดียว ปกติช่างกลอ้ งในหอ้ งผลิตรายการจะรับคำ�สัง่ จากผูก้ ากับรายการ โดยใชห้ ูฟัง (Head Set) ติดตอ่ ถงึ กนั ภาพผูก้ �ำ กับเวที ทีม่ า : https://goo.gl/dLlVsT 60

บทท่ี 4 การผลิตรายการโทรทศั น์ -ผชู้ ว่ ยผู้กำ�กับเวที (Assistant Floor Manager) ต�ำ แหนง่ ผูช้ ว่ ยผกู้ �ำ กบั เวทีจ�ำ เปน็ ต้องมี สำ�หรับการผลติ รายการใหญ่ๆ ต้องคอยช่วยผกู้ ำ�กับเวทใี นการตดิ ตงั้ ฉาก คอยเปล่ยี นไตเติลช่อื เรอื่ ง ช่ือตอน ตกแตง่ เคลอ่ื นยา้ ยอุปกรณ์ประกอบฉากเชน่ เฟอรน์ ิเจอรต์ ่างๆ จัดสายไฟของกลอ้ งใหเ้ ป็น ระเบียบและงานอืน่ ๆท่ีจำ�เป็น ภาพผูก้ ำ�กบั ศลิ ป์ ทีม่ า : https://goo.gl/d2kxZb - ผ้กู ำ�กบั ศลิ ป์ (Art Director) มหี น้าท่ีออกแบบฉาก สร้าง และติดต้งั ฉากให้เข้ากบั เนือ้ หา เรอ่ื งราวตามทผ่ี ู้ก�ำ กบั รายการต้องการ ภาพผกู้ ำ�กบั แสง ทม่ี า : https://goo.gl/6TYBOh -ผู้ก�ำ กับแสง (Lighting Director) คอยวางแผนและคอยจดั แสงเพือ่ การถา่ ยท�ำ รายการ ใหม้ ี แสงสว่างเพยี งพอและได้บรรยากาศตามทผี่ ูก้ �ำ กบั รายการตอ้ งการ เป็นผสู้ ั่งการให้เจ้าหนา้ ท่ีฝา่ ย แสง ปรับต�ำ แหน่งโคมไฟและอุปกรณ์ให้ส่องไปยังฉากหรือผแู้ สดงตลอดการถ่ายทำ�รายการ 61

บทท่ี 4 การผลติ รายการโทรทัศน์ ภาพชา่ งควบคุมเทป ท่มี า : https://goo.gl/mpDVvc -ชา่ งควบคุมเทป (Video Technician) ทำ�หนา้ ทคี่ อยปรบั สญั ญาณทไ่ี ดจ้ ากกลอ้ งและ ควบคุมเครือ่ งบนั ทึกเทปวีดีทัศน์เพื่อให้ไดส้ ัญญาณภาพดแี ละสวยงามท่สี ดุ สถานทส่ี ตูดิโอผลิตรายการโทรทัศน์ การผลิตรายการโทรทศั น์ ผผู้ ลติ จะต้องค�ำ นึงถงึ สถานทีซ่ ึ่งใหค้ วามเหมาะสมในด้านการ ควบคุมเสยี งไดแ้ กส่ ามารถกนั เสยี งท่จี ะมารบกวนจากภายนอกและภายในได้ เช่น เสียงรถยนต์ เสยี ง เครอ่ื งบิน เสียงเทา้ คนเดิน เสยี งสะทอ้ นจากฉากหรอื ฝาผนงั ในด้านการควบคมุ แสงสว่างสามารถ จัด บรรยากาศใหเ้ ปน็ กลางวันกลางคนื ได้ นอกจากควบคมุ เสยี งและแสงสว่างได้แล้ว สถานทผ่ี ลิต รายการ โทรทัศน์ยงั ตอ้ งมีขนาดกวา้ งใหญเ่ พยี งพอท่ีจะจัดฉากและติดตงั้ เครอ่ื งมอื อุปกรณ์ตา่ งๆ ได้ สะดวก เช่น กล้องโทรทศั น ์ รวมไปจนถงึ บคุ ลากรผ้ผู ลิตรายการและผ้แู สดง ในทางปฏบิ ตั ิสามารถ แบง่ สถานทีผ่ ลติ รายการโทรทัศน์แบ่งออกเป็น 2 แหง่ คอื ผลิตภายในอาคารหรือในโรงถ่ายโทรทัศน์ กับนอกอาคารหรอื สถานท่จี ริง (On location) สถานทีผ่ ลติ รายการภายในอาคารแบ่งออกเปน็ 2 สว่ นคือ 1. หอ้ งควบคมุ (Control Room) เปน็ ห้องทท่ี างานของผู้ก�ำ กับรายการ ผชู้ ว่ ยผู้ก�ำ กับ รายการ ผ้กู ากับเทคนิค ผู้ควบคมุ เสียง ผู้ควบคุมแสง และผูค้ วบคมุ เครือ่ งบันทึกเทปวีดที ัศนด์ ว้ ย หาก เปน็ สถานที่ผลติ รายการขนาดเล็ก เช่น สถาบนั การศึกษา ในช่วงของการซ้อมหรือถ่ายทำ� รายการ ผผู้ ลิตรายการและผ้ชู ่วยผ้ผู ลิตรายการก็จะอยใู่ นหอ้ งนี้ด้วย โดยท่วั ไปหอ้ งควบคุมมกั จะอยู่ ชดิ กับหอ้ ง ผลติ รายการโดยมีกระจกปดิ กั้นเพ่ือปอ้ งกันเสยี งไมใ่ หไ้ ปถงึ กันได้ ภายในหอ้ งควบคมุ จะตดิ ตัง้ เครอ่ื งมือ อปุ กรณส์ าหรับควบคุมภาพและเสยี งดังต่อไปนี้ 62

บทที่ 4 การผลติ รายการโทรทัศน์ ภาพหอ้ งควบคุม ทม่ี า : https://goo.gl/jyiIur -มอนเิ ตอร์ (Monitors) เปน็ จอโทรทศั น์สขี นาด 20 นว้ิ หรือใหญก่ ว่านต้ี ิดตงั้ เรยี งไวเ้ ป็น แถว เพอ่ื ให้บคุ ลากรที่ทำ�งานในหอ้ งควบคมุ สามารถดภู าพท่ีมาจากหอ้ งผลิตรายการ หรือจากแหล่ง ภา พอืน่ ๆ วา่ เปน็ อย่างไร ตวั อย่างเช่น ถา้ ใชก้ ลอ้ งเพ่อื ถา่ ยทำ�รายการโทรทศั นจ์ �ำ นวน 3 ตัว ภาพที่ ได้ จากกล้องแตล่ ะตวั กจ็ ะไปปรากฏในจอมอนิเตอร์แยกจากกนั ทมี่ อนิเตอรจ์ ะเขยี นคำ�ย่อไวว้ ่า C1 , C2 และ C3 เป็นตน้ หากเป็นมอนเิ ตอรแ์ สดงภาพจากแหลง่ อืน่ เชน่ สไลด์ หรือภาพยนตร์จะใช้ค า ย่อ ว่า T/L (Telecine) มอนิเตอรแ์ สดงภาพก่อนออกรายการหรือกอ่ นบนั ทึกลงเทปวีดที ัศน์ใช้ค าวา่ “Preview” มอนิเตอรแ์ สดงภาพทแ่ี พร่ออกอากาศหรือบันทกึ ลงเทปวดี ที ัศน์ ใช้คำ�วา่ “Line” หรอื “Programme Monitor” และถา้ เปน็ มอนิเตอรแ์ สดงภาพจากเทปวีดที ศั นท์ ี่บนั ทกึ ภาพไวก้ ่อนแล้ว จะ ใชค้ ำ�ว่า VTR เป็นตน้ ภาพมอนเิ ตอร์ ทีม่ า : https://goo.gl/zSPWfk 63

บทที่ 4 การผลติ รายการโทรทศั น์ -แผงควบคุมเพอื่ เลือกภาพและท�ำ ภาพพเิ ศษ บางทเี รียกวา่ Switcher @SEG (Special Ef- fect Generator) ใช้ส าหรับเลอื กภาพและตดั ภาพจากกลอ้ งตวั หนง่ึ ไปยังกล้องอีกตวั หน่งึ หรือเลือก ภาพจากแหล่งภาพอ่นื ๆ เข้าไว้ในรายการดว้ ยการดภู าพจากจอมอนเิ ตอร์ที่อย่ดู า้ นหน้า ในช่วงของ การเปลี่ยนภาพ สามารถใชเ้ ทคนคิ การท�ำ ภาพพิเศษให้มีการกวาดภาพจากซา้ ยไปขวา จากบนลงลา่ ง หรอื ใช้การผสมภาพ (Mix) เขา้ ด้วยกนั เทคนิคต่างๆ เหลา่ นี้ทำ�ไดด้ ้วยเครื่อง SEG ทั้งส้ิน ในชว่ งของ การผลิตรายการผกู้ ำ�กับรายการจะเปน็ คนสงั่ ให้ผ้กู ำ�กับเทคนิคเลอื กภาพและท�ำ ภาพพเิ ศษจากแผง ควบคมุ นี้ ขณะเดยี วกันผู้ก�ำ กับรายการและผชู้ ่วยผกู้ �ำ กบั รายการก็จะสวมหูฟัง ทเ่ี รยี กว่า Intercom คอยบอกหรือสงั่ การไปยงั ผู้ก�ำ กับเวที ช่างกล้อง หรอื บคุ คลอ่ืนๆ เพอื่ ติดต่อพูดคุยกันวา่ ควรจัดภาพ หรอื ให้ผู้แสดงในหอ้ งผลติ รายการำ�าอย่างไร ภาพแผงควบคมุ เพ่ือเลอื กภาพและทำ�ภาพพิเศษ ท่ีมา : https://goo.gl/UwCli7 -แผงควบคุมสญั ญาณภาพ (Video Signal Control) หากเปน็ หอ้ งผลติ รายการขนาด ใหญ่ใช้กล้องหลายตัว จำ�เป็นตอ้ งมีเคร่อื งมือปรบั แตง่ สญั ญาณภาพเพ่อื ใหไ้ ด้ปรมิ าณของแสงสี และ ความชดั เจนเหมอื นกนั ทแ่ี ผงนี้จงึ มมี อนเิ ตอรส์ �ำ หรับดรู ปู รา่ งลกั ษณะของสญั ญาณเรยี กวา่ Wave Form Monitor เพอื่ ให้สญั ญาณที่ไดจ้ ากกล้องทกุ ตวั ถกู ตอ้ ง ภาพแผงควบคมุ สัญญาณภาพ ทมี่ า : https://goo.gl/s8B6KQ 64

บทที่ 4 การผลิตรายการโทรทศั น์ -แผงควบคมุ เสียง (Sound Control) ใช้ควบคุมสัญญาณเสียงจากไมโครโฟนทุกตวั จาก ห้องผลิตรายการ หรอื ควบคุมเสียงจากแหลง่ เสยี งอนื่ เช่นเสียงจากเทปบันทกึ เสยี ง แผ่นเสยี ง ให้ได้ สญั ญาณเทา่ กันออกรายการ ภาพแผงควบคุมเสียง ทมี่ า : https://goo.gl/UUdGDf -ล�ำ โพงมอนเิ ตอร์ ตดิ ตั้งไว้ในห้องควบคมุ เพื่อฟังเสียงที่ออกอากาศ หรือบนั ทึกลงเทปวีดี ทศั น ์ ผู้กำ�กับรายการมกั จะฟงั ว่าระดบั เสยี งจากแหล่งเสียงมีความดงั พอดหี รอื ไม่ โดยการปรบั ทแี่ ผง ควบคุมเสียง ภาพล�ำ โพงมอนิเตอร์ ท่มี า : https://goo.gl/DF7Ddq -แผงควบคมุ แสง (Lighting Control) เป็นชุดดมิ เมอร์หรแี่ สง คอยควบคุมหรือปรับแสง สวา่ งใหม้ ากนอ้ ยตามความต้องการ ท่แี ผงควบคมุ แสงนี้จะมีโคด้ บอกตำ�แหนง่ ของโคมไฟแตล่ ะดวง เมอ่ื ต้องการปรบั แสงสวา่ งจากโคมดวงใดกส็ ามารถดูไดจ้ ากโคด้ นี้ 65

บทที่ 4 การผลิตรายการโทรทัศน์ ภาพแผงควบคมุ แสง ทม่ี า : https://goo.gl/T0D762 -เครื่องมืออุปกรณ์อนื่ ๆ เชน่ เครือ่ งตดิ ต่อภายใน (Intercom) เครื่องฉายภาพพิเศษ ให้ ปรากฏแพทเทินตา่ งๆ บนฉากหลัง (Kaleidoscope) เครือ่ งบนั ทึกเทปวีดที ศั น์ (Video Tape Recorder = VTR) เครื่องบนั ทึกเทปวีดที ัศน์แบบตลับ (Video Cassette Recorder = VCR) เครื่อง เลน่ แผ่นเสยี ง เครื่องเล่นแผ่นซดี ี และเครื่องบนั ทึกเสยี งเพื่อใชบ้ ันทึกรายการโทรทัศนห์ รอื ให้ เสียง ดนตรีประกอบในรายการ 2. หอ้ งถา่ ยทำ�ผลติ รายการ (Studio) บางทเี รียกว่าห้องสตูดิโอจะมขี นาดแตกตา่ งกนั ถ้า เปน็ ห้องผลติ รายการท่ีใชใ้ นสถาบนั การศึกษาอาจดดั แปลงมาจากห้องเรยี นธรรมดาขนาด 80-100 ตารางเมตรกพ็ อ แต่ถา้ เป็นระดับสถานีวทิ ยุโทรทศั นอ์ าจตอ้ งใชพ้ ้นื ทถ่ี งึ 1,000 ตารางเมตร เนอ่ื งจาก ตอ้ งติดตง้ั เครือ่ งมืออปุ กรณส์ �ำ หรับถ่ายทำ�รายการหลายอยา่ ง เช่น กลอ้ งโทรทัศน์ ไมโครโฟน อปุ กรณ์ แสงสว่าง ฉากและอปุ กรณป์ ระกอบฉากรวมไปถึงคณะทำ�งานฝา่ ยต่างๆ และผู้แสดง การมีพืน้ ท่ี มาก ยังท�ำ ให้มคี วามคล่องตวั ในการจัดฉากและติดตงั้ อุปกรณ์ที่ตอ้ งการได้มากขนึ้ ความสงู ของ เพดานก็มสี ว่ นส�ำ คญั เน่อื งจากจะต้องแขวนโคมไฟจำ�นวนมากดวงเพอ่ื ใหไ้ ด้แสงสว่างเพียงพอกับที่ กล้องตอ้ งการ หากเพดานของหอ้ งผลิตรายการไม่สูงพอจะเกดิ ความร้อนมีผลตอ่ คณะท�ำ งานและ เปน็ อนั ตรายแก่อุปกรณ์ ดงั นน้ั ห้องผลติ รายการขนาดใหญ่จึงมีความสงู จากพื้นถงึ เพดานประมาณ 10-12 เมตร หรอื เทยี บกับความสูงของอาคารขนาด 3-4 ชั้นเลยทีเดยี ว เมือ่ เกดิ ความร้อนสูงจึง จ�ำ เป็นต้องติดต้งั เคร่อื งปรับอากาศใหอ้ ุณหภมู ิต่ำ�ลงคณะทำ�งานกจ็ ะทำ�งานไดส้ บายขึน้ 66

บทท่ี 4 การผลติ รายการโทรทศั น์ ห้องถ่ายทำ�ผลติ รายการมเี ครอ่ื งมือและอุปกรณ์ คือ -กล้องโทรทัศน์ เปน็ อปุ กรณ์สำ�หรับถา่ ยภาพของรายการท่ีออกอากาศหรือบันทึกลงเทปวดี ี ทศั น์ ห้องผลติ รายการขนาดเลก็ อาจใชก้ ลอ้ งเพียง 2 ตวั กพ็ อ แต่ถ้าเป็นหอ้ งผลิตรายการขนาดใหญ่ ระดับสถานีอาจต้องใชก้ ลอ้ งถึง 4 ตวั กลอ้ งทุกตัวจะมจี อขนาดเลก็ สำ�หรับมองภาพเรียกวา่ วิวไฟเดอร์ (View finder) ใหช้ า่ งกล้องเหน็ ภาพเหมือนกับทกี่ ล้องเหน็ และสามารถจัดเฟรมของภาพให้ดีท่ีสดุ ตรงสว่ นหัวของกลอ้ งจะมีไฟสีแดงเรยี กว่า Tally lamp ตดิ ต้งั ไว้ด้วย เพือ่ แสดงการท�ำ งานของกล้อง แตล่ ะตัว หมายความว่าถ้ากล้องตัวใดไฟสแี ดงติดสว่างก็แสดงวา่ ผกู้ ำ�กบั เทคนคิ เลือกภาพจากกลอ้ งตวั นั้นออกรายการ กล้องตัวทไี่ ฟสแี ดงดับลงจะต้องหามมุ หรือจับภาพใหม่เพอ่ื รอให้ผู้กำ�กับเทคนคิ เลอื ก ออกรายการต่อไป ภาพกล้องโทรทศั น์ ท่ีมา : https://goo.gl/mT3M32 -ไมโครโฟน เป็นอุปกรณ์เกบ็ เสียงท่เี กดิ ขึ้นในหอ้ งผลติ รายการ ไดแ้ ก ่ เสียงจากพธิ ีกร วทิ ยากร ผรู้ ว่ มรายการหรือเสียงของผแู้ สดง เสยี งทไ่ี ด้จากไมโครโฟนเป็นสัญญาณไฟฟา้ ขนาด เล็ก กอ่ นทจี่ ะนำ�ไปบนั ทกึ เข้าเครอื่ งบนั ทึกเทปวดี ที ัศน์พร้อมกบั สัญญาณภาพจะต้องนำ�ไปขยายให้ สัญญาณมีกำ�ลังแรงเสยี กอ่ น ไมโครโฟนมีอยูห่ ลายชนดิ และหลายรปู แบบของการใชง้ าน เชน่ ชนิด มอื ถือ ชนิดเหนบ็ กระเปา๋ เสอ้ื ชนิดต้ังโตะ๊ ชนิดแขวนหรือไมโครโฟนแบบบูม ชนดิ ไร้สาย ถา้ แบ่งตาม โครงสร้างภายในของไมโครโฟนก ็ ไดแ้ ก่ ชนิดคอนเดนเซอร์ ไดนามกิ รบิ บอน เป็นตน้ รายละเอียด เกย่ี วกับไมโครโฟนจะได้กล่าวถึงโดยเฉพาะตอ่ ไป 67

บทท่ี 4 การผลิตรายการโทรทศั น์ ภาพไมโครโฟน ที่มา : https://goo.gl/Ljjols -อปุ กรณ์ส่ือสารตดิ ต่อภายใน (Intercom) เปน็ ชดุ ของหูฟงั พร้อมกบั ไมโครโฟนตวั เล็กๆ ใช้ ติดต่อสื่อสารกนั ระหวา่ งผ้ผู ลิตรายการและผู้รว่ มงานอน่ื ๆในขณะถา่ ยทำ�รายการ เน่ืองจากขณะ ผลิต รายการจะส่งเสียงพูดกันไม่ไดเ้ พราะเสียงจะเข้าไมโครโฟนจึงตอ้ งพดู หรือสั่งงานทางเคร่ืองติดตอ่ ภายใน ตวั อยา่ งเชน่ ผูก้ �ำ กับรายการซึ่งน่ังอยูใ่ นห้องควบคุมตอ้ งการสั่งให้ผกู้ ากบั เวทหี รือชา่ งกลอ้ งจับ ภาพไปทผี่ ู้แสดงคนใดคนหน่งึ กต็ อ้ งใช้การติดต่อกนั ทางเครอื่ งตดิ ตอ่ ภายในนี้ ในระดับสถานคี ณะผู้ ทำ�งานหลายคนจงึ ตอ้ งมเี ครือ่ งตดิ ตอ่ ภายในครอบไวบ้ นศีรษะและมไี มโครโฟนตวั เล็กๆอยตู่ รงปาก แต่ ละคนสามารถพดู คุยและฟังเสียงจากคนอื่นในเวลาเดียวกัน เครื่องตดิ ต่อภายในบางรนุ่ เปน็ ชนดิ ไรส้ าย เหมอื นกับไมโครโฟนเวลาใช้งานจงึ ไมต่ ้องกงั วลเกยี่ วกบั สายไฟทต่ี อ้ งลากไปมาจึงใช้งานได้ สะดวก สบายยง่ิ ข้นึ ภาพอุปกรณ์สือ่ สารติดตอ่ ภายใน ทมี่ า : https://goo.gl/uFLokA 68

บทท่ี 4 การผลิตรายการโทรทัศน์ -มอนิเตอร์ (Monitor) ในห้องผลิตรายการจะมจี อโทรทัศนส์ ีหรอื มอนิเตอร์ขนาดใหญ่ พอ สมควรติดต้งั ไวป้ ระจ�ำ เพ่อื ให้ผแู้ สดงหรือผทู้ ี่อย่ใู นหอ้ งผลิตรายการเหน็ ภาพท่ีผ้กู ากบั เทคนิคหรอื ผู้ ก�ำ กับรายการเลอื กว่าเป็นภาพอะไร ภาพทป่ี รากฏในจอมอนิเตอรน์ เี้ ป็นภาพเดยี วกับภาพท่ีถกู บนั ทึก ลงเทปวีดที ัศนห์ รอื เปน็ ภาพท่กี าลงั ออกอากาศ ผูแ้ สดงหรอื ช่างกลอ้ งทีอ่ ย่ใู นห้องผลิตรายการจึงรู้ว่า ภาพท่บี นั ทกึ ลงเทปเปน็ อย่างไร ตวั อย่างเชน่ ภาพจากกลอ้ ง 1 ก าลังถกู บันทกึ ชา่ งท่คี ุมกลอ้ ง 2 ก็ จะ ดภู าพจากมอนเิ ตอร์และหามุมอืน่ จับภาพตอ่ ไป เมื่อได้ภาพทดี่ ีแล้วช่างเทคนคิ กจ็ ะกดสวิตซ์เลอื ก เอา ภาพจากกลอ้ ง 2 บันทกึ ลงเทปแทนกลอ้ ง 1 ส่วนผ้แู สดงก็จะเหน็ ภาพของตนเองตลอดเวลา ท า ให้รูว้ ่า ควิ การแสดงต่อไปควรเริ่มเม่อื ไร ภาพมอนิเตอร์ ที่มา : https://goo.gl/Wg78Zq -ระบบแสงสวา่ ง กล้องถ่ายโทรทศั นก์ เ็ หมือนกบั ตาของคนเรา คือ จะมองเห็นภาพได้ก็ ตอ่ เมื่อมีแสงสวา่ งเพียงพอ แสงจะส่องไปยังวตั ถุแล้วสะทอ้ นมายังเลนส์ของกลอ้ ง แล้วเปลีย่ นเปน็ สัญญาณไฟฟ้าอกี ทหี นึง่ โคมไฟแสงสว่างทใ่ี ช้ในห้องผลติ รายการโทรทศั นจ์ ะแขวนติดไว้กับฝา้ เพดาน และส่องลงมายงั ฉากหรือวตั ถุ แตถ่ ้าใช้ถา่ ยท�ำ รายการนอกสถานทจี่ ะมีชุดโคมไฟชนิดกระเป๋าซึง่ มี ขนาดเล็กกะทดั รดั พกพาได้สะดวก มีทง้ั ชนดิ ใหแ้ สงสวา่ งเฉพาะจดุ เรียกว่า สปอตไลท์ (Spot Light) กบั ชนิดให้แสงกระจายเรยี กว่า ฟลดั ไลท์ (Flood Light) รายละเอยี ดเก่ยี วกับระบบการให้แสงของ โทรทศั น์จะไดก้ ล่าวถึงรายละเอยี ดต่อไปนี้ 69

บทท่ี 4 การผลติ รายการโทรทัศน์ ภาพระบบแสงสวา่ ง ที่มา : https://goo.gl/Iov8qr -ฉากและอุปกรณป์ ระกอบฉาก เปน็ ส่วนประกอบที่ส�ำ คญั ในห้องผลติ รายการ เพราะฉาก และส่ิงประกอบฉากเช่นโตะ๊ เกา้ อ้ี ท าให้เร่ืองราวดสู มจริงและสวยงาม ชา่ งออกแบบฉากจงึ ตอ้ ง พิถพี ิถันในเรือ่ งของรูปทรง พนื้ ผวิ สี และแสงทใ่ี ห้กับฉากโดยเฉพาะอยา่ งย่งิ การผลิตรายการใน สถาน ทีย่ ่งิ จำ�เปน็ ตอ้ งตกแต่งฉากและอปุ กรณป์ ระกอบฉากให้เข้ากบั เรอ่ื งราว เวลา และบรรยากาศ เพื่อให้ เกิดความสวยงาม สมจรงิ มากยง่ิ ขึ้น ภาพฉากและอุปกรณ์ประกอบฉาก ทมี่ า : https://goo.gl/2EBPyT 70

บทท่ี 4 การผลติ รายการโทรทัศน์ นอกจากสถานทผี่ ลติ รายการภายในอาคารอาจจะแบ่งออกเปน็ หอ้ งควบคมุ และหอ้ งสตดู โิ อ แลว้ ยังมหี ้องอื่นๆ ได้แก่ หอ้ งผลิตงานศลิ ปกรรม ห้องเกบ็ ฉากและอุปกรณป์ ระกอบฉาก ห้องแตง่ หนา้ แตง่ ตัว หากเป็นสถานทผี่ ลิตรายการระดับสถานโี ทรทศั นจ์ ะมหี ้องตัดต่อภาพ ห้องตัดตอ่ เสยี ง หอ้ ง บนั ทกึ รายการโทรทศั นซ์ ึ่งจะมเี ครอ่ื งบนั ทึกเทปวดี ที ศั นร์ ะบบสมบรู ณแ์ บบแยกออกมาจาก ห้อง ควบคมุ ต่างหาก นอกจากนย้ี งั มหี อ้ งควบคุมสญั ญาณภาพโดยเฉพาะซ่งึ จะมีจอมอนิเตอร์บอก รูป รา่ งลกั ษณะของสญั ญาณภาพวา่ กล้องแตล่ ะตัวใหส้ แี ละความคมชัดของภาพเทา่ กันหรือไม่เพ่อื ให้ได้ สัญญาณภาพทีส่ มบูรณ์ทส่ี ดุ ออกอากาศหรือบันทกึ ลงเทปวดี ีทศั น์ 71

บทท่ี 4 การผลิตรายการโทรทัศน์ 72

73

บทที่ 5 การเขยี นบทโทรทศั น์ 74

บทท่ี 5 การเขียนบทโทรทัศน์ บทท่ี 5 การเขยี นบทโทรทัศน์ บทโทรทัศน์ (Script) เปรียบเสมอื นคมั ภรี ห์ รือแผนที่น�ำ ทางส�ำ หรับก�ำ รถา่ ยยท�ำ รายการ โทรทศั นเ์ น่อื งจากเจำ�้ หน�้ำ ท่ที ุกฝ่ายจะตอ้ งดำ�เนนิ ทางไปตามทบี ทก�ำ หนดไว้ บทโทรทศั น์ชนิดสมบูรณ์ จะประกอบไปด้วยสว่ นที่เปน็ ภาพกบั ส่วนท่เี ปน็ เสียงเพือ่ ก�ำ หนดให้ผู้แสดงปฏบิ ัติและพูดไปตามบท ระบุลักษณะของาพ มุมกล้องและเสียงดนตรไี วเ้ พอ่ื ให้ช�ำ่ งกล้องถ่ายภาพ จดั มุมภาพ ให้เจา้ หน้าท่ี เลอื กภาพ ตดั ตอ่ ภาพหรอื ใสเ่ สยี งดนตรี เสยี งประกบตามทผี่ เู้ ขยี นบทต้องการ ดงั นั้นผเู้ ยนบทจึงนบั ว่า มีความสำ�คญั เป็นอยา่ งย่ิง โดยทั่วไปผูเ้ ขียนบทโทรทัศนจ์ ะต้องมีความรเู้ กี่ยวกบั ค�ำ ศัพท์ ศพั ทท์ ี่ใช้ใน การถ่ายภาพ เชน่ ถา่ ยภาพระยะใกล้ ระยะไกล ร้แู ละเข้าใจเรือ่ งการสับเปล่ยี นภาพจากชอ็ ตหนงึ่ ไปยงั อีกชอ็ ตหน่ึงใหม้ คี วามสมั พันธต์ อ่ เน่อื งกัน เมื่อไรควรจะเปลยี่ นภาพโดนการตดั ภาพ ซ้อนภาพ หรอื เฟดอนิ และเฟดเอาท์ นอกจากจะมคี วามรเู้ ร่ืองเก่ยี วกับเรือ่ งภาพแล้ว เรอ่ื งการใหเ้ สียงดนตรี เสียง ประกอบก็มีส่วนสำ�คัญไมแ่ พก้ นั เพราะเสียงเปน็ สว่ นที่ทำ�ใหภ้ �ำ พท่ีปรากฏมีความสมบรู ณ์ เป็นจริงเปน็ จัง และยังช่วยสร้างอารมณอ์ กี ดว้ ย ในส่วนของคำ�พูดหรอื ค�ำ บรรยายผูเ้ ขียนบทควรใช้ ภาษาท่ีพดู เขา้ ใจงา่ ย ถกู ตอ้ ง สละสลวยและกะทดั รัด การเขียนบทส�ำ หรบั กำ�รผลิตรำ�ยการโทรทัศน์ เพือ่ ก�ำ รเรียนการสอนท่วั ไป จะข้ึนอย่กู ับการวางแผนงานโดนเร่มิ จากการประชุมปรกึ ษาหาความ ร่วมมือจากผวู้ างแฟนหลักสตู ร ครูโทรทัศน์ ครผู ู้สอนประจำ�ในห้องเรียน ผู้บริหารการศกึ ษา ผ้ผู ลิต รายการ ผูเ้ ชยี่ วชำ�ญทางการโทรทัศน์ และ ท�ำ้ ยสุดคือผเู้ ขยี นบทโทรทัศน์ นอกจ�ำ กคณุ สมบตั ขิ องผู้ เขยี นบทดงั กล่ำ�วแลว้ ยงั ต้องเป็นทีย่ มรบั จาก ผเู้ ช่ียวชาญทางการศึกษาซง่ึ มีความรแู้ ละเข�้ำ ใจเกยี่ วกับ วัตถปุ ระสงคแ์ ละเน้ือหาที่จะนำ�มาผลติ รายการดี ผเู้ ชยี นบทควรจะมีจดุ ยนื เกี่ยวกบั วธิ กี ารน�ำ เสนอ เป็นนกั การศกึ ษาที่เข้าใจเร่อื งการใช้ โทรทัศน์เป็นสอื่ ในการสอน รวมถึงเทคนคิ วิธีการสอนแบบต่างๆ เวลาเขยี นบทควรระบใุ หใ้ ชส้ อื่ หลาย อย่างร่วมกันในการสอนมากกวา่ การบรรยายเพยี งอยา่ งเดียว ขน้ั ตอนการเขียนบทวิทยุโทรทัศน์ 1. จดุ ความคดิ (Single Idea) 2. กำ�หนดกลุ่มผู้ชมเปา้ หมาย (Target Audience) 3. กำ�หนดวัตถปุ ระสงค์ของรายการ (Program Objective) 4. ก�ำ หนดความยาวรายการ (Time) 5. ค้นหาและรวบรวมขอ้ มลู (Information Gathering) 75

บทท่ี 5 การเขียนบทโทรทศั น์ 6. ล�ำ ดบั เน้อื หา (Editorial Running Order) 7. กำ�หนดวธิ กี ารนำ�เสนอ (Presentation Technique) 8. ล�ำ ดับภาพ และเสียง (Picture Running Order & Sound) บทนจี้ งึ กล่าวถงึ ค�ำ ศพั ท์เทคนคิ ทใ่ี ชใ้ นการเขียนบทโทรทศั น์ ชนดิ ขอบทโทรทศั น์ ชนิดของบทโททศั น์ และตัวอย่างบทโทรทัศน์ เพ่ือใหส้ ามารถน�ำ ไปเขยี นบทได้ ค�ำ ศัพท์ คำ�ศพั ทเ์ ทคนิคกับการเขยี นบทโทรทัศน์ บทโทรทัศน์มคี ำ�ศพั ทเ์ ทคนิคทใ่ี ช้กันอยู่ 4 ชนดิ คือ คำ�ศัพท์ทใ่ี ชใ้ นก�ำ รเปล่ียนมมุ กล้อง คำ�ศพั ท์ท่ใี ช้บอกระยะของการถ่ายภาพ คำ�ศัพทส์ ำ�หรบั การเปล่ียน ช็อต เชน่ เปล่ยี นฉาก สถานท่ี วัน เวลา และค�ำ ศทั พสำ�หรบั สรา้ งภาพหรือเทคนคิ พิเศษ เช่นการซ้อน ตัวอักษร ท�ำ โครมารค์ ยี ์ ค�ำ ศัพท์ เหลา่ น้ผี ู้เขยี นบทจะต้องศกึ ษาท�ำ ความเขา้ ใจว่าควรจะนำ�มาใชใ้ น โอกาสใดเม่ือใดเพ่อื ให้สอดคลอ้ งเข้า กบั เนื้อหาเรอ่ื งราวและบรรยากาศมากทีส่ ดุ คำ�ศพั ท์ทเ่ี ก่ยี วกับการเปลย่ี นมมุ กลอ้ ง การถา่ นทำ�รายการโทรทศั นจ์ ะมกี ารสบั เปล่ยี นลกั ษณะของ ภาพอย่ตู ลอดเวลา เพ่อื ให้เกิดความต่อเนือ่ งและเหน็ ภาพไดห้ ลายแงม่ ุม ในท�ำ งปฏิบตั ิภำ�พท่ีเรา เห็นจะมีการเปล่ยี นแปลงอยู่ 3 ลักษณะ คือ 1. ระยะท�ำ งระหวำ่�งผู้ดูกับวตั ถุ หมายถงึ ผ้ดู ูจะมองเห็นภาพของวตั ถสุ ิ่งของต่างๆท่ีปรากฏ หนา้ จอว่าอยู่ใกลห้ า่ งไกลออกไป 2. ต�ำ แหน่งของวัตถทุ ่ผี ูด้ ูมองเหน็ ว่ามคี วามสัมพนั ธ์กับผ้ดู ูอยา่ งไร เช่นการภาพท่ผี ู้แสดงก�ำ ลัง พูดคยุ กันอาจใช้การถา่ ยแบบข้ามหัวไหลต่ ดั กลบั ไปกลบั มาจะให้ความรูส้ ึกว่าผู้แสดงก�ำ ลงั พดู คยุ กนั จริง ภาพผูป้ ระกาศข่าวหรอื พิธีกรพูดกบั กล้องด้วยการมองเขา้ หากล้องก็เหมอื นกับวา่ พธิ กี รก�ำ ลังพูด กับผดู้ ู 3. มมุ การมองภาพให้ผ้ดู เู ห็นภาพว่าอยใู่ นลกั ษณะใด เช่นมมุ สงู มมุ ตำ่� หรอื อยใู่ นระดบั เดียวกันกบั วตั ถุ ในบทโทรทัศน์ผูเ้ ขยี นบทจงึ ควรก�ำ หนดลกั ษณะของภาพละการเปลี่ยนภาพจากช็อตหน่ึงไป อีกชอ็ ตหนึ่งไว้ดว้ ย นอกเสยี จากวา่ ช่องกล้องมคี วามช�ำ นาญสามารถจบั ภาพในแงม่ ุมตา่ งๆได้เอง 76

บทที่ 5 การเขยี นบทโทรทัศน์ คำ�ศัพทเ์ ทคนิคทีใ่ ช้ในการเปล่ียนภาพมดี งั นี้ PAN มีท้งั PAN LEFT และ PAN RIGHT คอื การหมุนตวั กล้องไปตามแนวนอนจากซา้ ยไป ขวาหรือจากขวาไปซำ้�ย โดยต�ำ แหน่งของกล้องยังอยูท่ ีเ่ ดมิ การแพนไปทางขวาหมายความว่าหนา้ กลอ้ งจะส่ายไปทางขวามือตามเข็มนาฬกิ ำ�ไมว่ า่ จะตง้ั กลอ้ งไว้บนขาตั้งหรือแกบนบ่ากต็ ำ�มขากลอ้ ง หรือ ชา่ งกลอ้ งยังคงอยใู่ นตำ�แหนง่ เดิมจะหันส่ายเฉพาะตัวกลอ้ งเท่านั้น ประโยชนข์ องการพนกลอ้ ง ก็เพ่ือ ฉายใหเ้ ห็นภาพของฉากหรอื วัตถุในมุมกวา้ งหรือบอกให้ผู้ดรู ้วู า่ มีอะไรอยบู่ า้ ง หากผแู้ สดงหรอื วัตถุมี การเปลยี่ นย้ายต�ำ แหนง่ อาจใช้การแพนกล้องตามดว้ ยกไ็ ด้ สิ่งสำ�คญั สำ�หรับการแพนกล้องจะ ต้อง กระท�ำ อย่างชา้ และนมุ่ นวลกล้องไมส่ ่ันไหว ถ้าเปน็ การถ่ายทำ�รายการนอกสถานท่ีด้วยกล้องตัว เดียว เมื่อส้นิ สดุ ารแพนจะตอ้ งแชภ่ าพไวช้ ่วั ขณะก่อนหยุดบันทึกภาพเพือ่ ท�ำ ใหก้ ารตัดต่อทำ�ได้งา่ ยข้ึน TILT คอื การยกหนา้ กล้องให้เงยสูงขนึ้ หรือก้มต่�ำ ลง TILT UP หมายถงึ การจับภาพส่วนลา่ ง ของวัตถแุ ล้วค่อยๆแหงนหนา้ กลอ้ งขนึ้ ให้เห็นสว่ นบน ส่วน TILT DOWN กล้องจะกม้ ต่�ำ ลงใหเ้ หน็ สว่ นลา่ งของวัตถุ เชน่ อาคาร เจดีย์ บางครงั้ อ�ำ จนำ�ไปใชส้ �ำ หรบั สรา้ งความน่าฉงนให้เกิดกับผดู้ ูแลได้ ดังจะพบได้จากละครหรือภำ�พพยนต์ทเี่ รมิ่ จบั ภาพของผแู้ สดงจากรองเท้าแลว้ เปล่ยี นเปน็ ลำ�ตวั และ ใบหนา้ เปน็ ต้น PEDESTAL คือการยกตัวกลอ้ งใหส้ งู ขนึ้ หรอื ตำ�่ ลง ดว้ ยการปรบั ทีข่ าตงั้ กลอ้ ง CRANE หรือ BOOM คอื การยกตวั กลอ้ งขนึ้ หรอื ลงด้วยรถเครนซึ่งใชก้ บั กล้องผลติ รายการ ขนาดใหญ่ ผลที่ได้คล้าย กันกับ PEDESTAL หรือ PEDESTAL DOWN ท่เี หลอื กว่าคอื จะไดร้ ะยะ ความสูงมากกวา่ และทำ�ได้ คล่องตัวกว่า DOLLY คอื การนำ�กลอ้ งไปเขา้ ใกล้หรอื ถอยห่างออกจากวตั ถใุ นแนวเสน้ ตรง DOLLY IN กล้องจะเขา้ หาวตั ถุ ผู้ดจู ะมองเห็นภาพมีขนาดใหญข่ นึ้ เหมือนกับเข้าไปดุวัตถใุ กลๆ้ DOLLY OUT กลอ้ งถอยหา่ งจากวัตถุจะให้ความรู้สึกเหมอื นกับว่าผ้ดู ูออกหา่ งจากวตั ถเุ ช่นกันและวตั ถุกจ็ ะมีขนาด เลก็ ลง TRUCK หรือ TRACK คอื การเคลอื่ นย้ายท้งั ตวั กล้องและขาต้งั กล้องไปทางซ้ายหรอื ขวา โย กล้องจะจับภาพอยูท่ ี่เดมิ ท�ำ ใหผ้ ู้ดเู ห็นมมุ อ่ืนของภาพ เช่นย้ายจากภาพดา้ นหน้าไปเปน็ ด้านข้าง ถา้ กล้องเคลอ่ื นยา้ ยเปน็ เส้นโค้งเรยี กว่า ARC ZOOM คอื การเปล่ยี นทางยาวโฟกสั ของเลนส์โดยการบงั คับทปี่ ุ่มซมู ขณะทก่ี ล้องกำ�ลงั จับ ภาพอยูน่ ่งิ กับท่ ี การ ZOOM IN หมายถึงการเปล่ยี นเลนส์ไปเปน็ เลนสม์ มุ แคบ จึงดเู หมือนกับการ ดึง ภาพของวตั ถุใหใ้ กลเ้ ข้ามา สว่ นการ ZOOM OUT จะเปลีย่ นเป็นเลนสม์ ุมกวา้ งจงึ เหมือนกบั การ ผลกั ของวัตถุให้ถอยห่างออกไป การซูมมลี กั ษณะคล้ายกับดอลลี่แต่การซมู ตวั กลอ้ งจงึ เหมอื นกบั การ ผลัก 77

บทที่ 5 การเขียนบทโทรทศั น์ ภาพของวัตถุใหถ้ อยห่างไป การซูมมีลกั ษณะคล้ายกบั ดอลลแี่ ต่การซมู ตวั กลอ้ งจะอยกู่ บั สิง่ ที่น่าสังเกต ก็คอื จะให้ความแตกตา่ งทางความรูส้ ึกของผ้ดู ูระหว่างเทคนิคการเปลย่ี นภาพท้งั สองน้ีกล่าวคอื กา รดอลลม่ี ีลักษณะท่ีเข้าไปหาวัตถุหรอื เดินหา่ งออกจากวตั ถแุ ตก่ ารซมู จะเหมอื นกบั ดึงวัตถใุ หใ้ กล้เข้า หาผู้ดูหรอื ผลกั ออกไป ดังนน้ั จงึ ต้องพิจารณาในการเลือกใชง้ านดว้ ย คำ�ศัพท์เกี่ยวกับระยะการถ่าย ภาพ ระยะการถ่ายภาพหมายถงึ การถ่ายใหเ้ หน็ ภาพของวตั ถุวา่ อย่ใู กลห้ รือไกลจากกลอ้ งซง่ึ มีอยู่ 5 ระยะ คอื Extreme Long Shot (XLS หรือ ELS) คอื ภาพท่วี ตั ถุหา่ งไกลจากกล้องมาก น�ำ ไปใชก้ ับการ ถ่ายภาพใหเ้ หน็ บรเิ วณหรือพื้นทโี่ ดยรวม เช่นภาพววิ ทิวทศั น์ ภาพชายทะเล กลุ่มคนจำ�นวนมาก จึง บอกรำ�ยละเอียดของภาพได้น้อย ภาพ Extreme Long Shot ที่มำ�: http://avengerland.theavengers.tv/world/PonteAbril.jpg Long Shot (LS) เปน็ การถ่ายภาพระยะไกล หากเปน็ ภาพบคุ คลก็จะเห็นเต็มตวั ให้ ราย ละเอียดของภาพมากขน้ึ ภาพ Long Shot ทม่ี า: http://artsandcraft1eso.weebly.com/uploads/2/3/9/7/23974887/2731114.jpg Medium Shot (MS) ภาพระยะปานกลาง หรอื บคุ คลคร่งึ ตวั ซ่งึ นยิ มใช้ในการถ่ายท�ำ รายการโทรทัศนท์ ัว่ ไป จะเห็นไดจ้ ากการรายงานข่าวทางโทรทัศน์ท่ัวไป 78

บทท่ี 5 การเขียนบทโทรทศั น์ ภาพ Medium Shot ที่มา: http://acting.codyherring.com/img/mcu.jpg Close – Up (CU) หรอื Close shot เป็นภาพระยะใกล้ เชน่ ภาพเหน็ หัวไหลห่ รือราวนมขึน้ ไป ภาพ Close – Up ที่มา: https://farm3.staticflickr.com/2107/13083277683_7cec69f60c_b.jpg Extreme Close – Up (ECU หรอื XCU) เปน็ ภาพท่ีต้องการเนน้ เฉพาะส่วน เชน่ ใบหนา้ ดวงตา บางคร้งั จะตัดส่วนทีเ่ ปน็ ผมไปบา้ งเพ่อื ให้เห็นต้งั แตป่ ลายคางไปจนถงึ หน้าผากเรยี กว่าภาพ แบบ Cross Shot ภาพจงึ บอกรายละเอียดไดม้ ากแม้กระทง้ั การแสดงออกทางอารมณ์ ภาพ Extreme Close-Up ทม่ี า :https://s-media-cache- ak0.pinimg.com/736x/90/bd/75/90bd754bc28cd48dd1a87801d971bc70.jpg 79

บทท่ี 5 การเขียนบทโทรทศั น์ นอกจากนก้ี ารถา่ ยภาพบุคคลยงั แบง่ ไดอ้ ีก 5 ลกั ษณะได้แก่ 1. Bust Shot คอื ภาพเหนือราวนมข้ึนไป 2. Knee Shot คือการจดั ภาพถา่ ยเหนอื หรือใต้หวั เขา่ 3. Two Shot เป็นภาพของบุคคล 2 คน หรือวตั ถุ 2 ชนิ้ อยู่ในเฟรมเดียวกนั 4. Three Shot หรอื Group Shot เปน็ ภาพคนหรือวัตถตุ ้ังแต่ 3 ช้นิ อย่ใู นเฟรม เดยี วกนั 5 .Over Shoulder (OS) คอื กำ�รจับภาพเหนอื หวั ไหล่ กล้องหรอื ผ้ดู ูจะเห็นภาพ ของอกี คน หนึง่ ซงึ่ เปน็ คสู่ นทนาในลกั ษณะมองขา้ มหวั ไหล่ สิง่ ทค่ี วรระมดั ระวงั ในก�ำ รถำ่�ยภาพบคุ คลกค็ อื ต้องไม่ จับภาพแลว้ ทำ�ให้ดคู อขาด มอื ขาด หรือ เทา้ ขาด ลักษณะของภาพคอขาดกค็ อื จบั ภาพไม่ให้เห็นหัว ไหลจ่ ะเห็นเฉพาะลำ�คอและสว่ นศีรษะ ภาพ มอื ขาดจะจับภาพใหเ้ หน็ ศรี ษะ ลำ�ตวั แขน สว่ นข้อมอื หายไปซ่งึ ไมค่ วรกระท�ำ อยา่ งย่งิ ค�ำ ศพั ทเ์ ก่ยี วกับการเปลี่ยนภาพ การเปลีย่ นภาพในที่น้หี มายถึงการเปลี่ยนจากกลอ้ งหนึ่งไป ยังอกี กลอ้ งหนง่ึ หรอื เปล่ยี น จากช็อตหน่งึ ไปเป็นอกี ชอ็ ตหนงึ่ มีวัตถุประสงคห์ ลักเพอื่ ใหเ้ กิดการเชอ่ื โยงระหว่างภาพต่อภาพ หรือ ระหวา่ งฉากต่อฉากให้มคี วามสมั พันธต์ ่อเนอื่ งกนั จงึ จ�ำ เป็นต้องใชค้ �ำ ศพั ทแ์ ตกตา่ งไปจากที่กลา่ วไป แลว้ ตวั อยา่ งเชน่ เปล่ยี นภาพจากระยะไกลซึ่งเปน็ ภาพของครูกำ�ลงั บรรยายอยู่หน้าช้ันเรียนไปเป็น ภาพระยะใกล้ใหเ้ ห็นหนา้ ของนักเรียนกำ�ลงั สนใจการสอนของครู เปล่ียนจากภาพชายทะเลเป็นภาพ อาคารบา้ นเรือน หรอื ต้องการให้เปลี่ยนวนั เวลาจากเช้าเปน็ สาย จากกลางวันเป็นกลางคนื หรอื เปลีย่ นจากสถานทหี่ นงึ่ เปน็ สถานทหี่ นงึ่ การเปลยี่ นภาพลกั ษณะเหล่า น้ีจำ�เป็นตอ้ งใชอ้ ปุ กรณ์ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์พิเศษชว่ ยการตัดต่อภาพคือ SWITCHER @SEG เพ่อื ใหเ้ กดิ ความตอ่ เนื่องกันขณะถ่าย ท�ำ รายการ หรือใช้วิธตี ัดต่อภายหลงั จากการถ่ายท�ำ นอกสถานท่ีแล้วกไ็ ด้โย เขยี นบทจะตอ้ งก�ำ หนด ค�ำ ศพั ทไ์ ว้ในบทโทรทศั น์ ซง่ึ มใี ชอ้ ย่หู ลายค�ำ ได้แก่ CUT คอื การตัดภาพจากภาพหนงึ่ เป็นอีกภาพหนึ่งในทนั ที ตวั อย่างเช่นจากภาพของวตั ถุ กลายเปน็ ภาพคนไมเ่ หมอื นกนั กบั การแพนหรอื สา่ ยกลอ้ งจากวัตถุไปหาคน การคทั ชว่ ยใหผ้ ู้ดเู หน็ เหตุการณ์ไดอ้ ย่างตอ่ เนอ่ื ง เช่นรายการสัมภาษณ์ ผใู้ หส้ ัมภาษณก์ ำ�ลงั ถอื ชิน้ จากท่ีเขาประดษิ ฐข์ ึ้น กลอ้ งตัวหน่งึ จะจับภาพท้ังคนท้งั ช้ินงานซ่ึงเปน็ ภาพระยะปานกลางแล้ว ตดั ภาพไปท่กี ล้องตวั ท่ีสองซึ่งจับภาพระยะใกลเ้ ฉพาะชนิ้ งานเพอ่ื ใหผ้ ้ชู มเห็นภาพไดช้ ดั เจนขน้ึ การตัด ภาพเหมาะกบั การนำ�เสนอดังตอ่ ไปนี ้ 1. เมื่อตอ้ งการใหเ้ กิดการกระท�ำ ต่อเนือ่ งกัน ถ้ากล้องไม่สามารถตดิ ตามภาพหรือเหตุการณ์ นานๆ ได้ให้ใชก้ ารคทั ก็จะทำ�ใหเ้ รื่องราวดตู ่อเนอ่ื งกนั เอง 80

บทท่ี 5 การเขียนบทโทรทัศน์ 2. เพ่ือแสดงรายละเอียดเหมือนท่กี ลา่ วแลว้ คือถา้ ต้องการให้ผชู้ มเหน็ รายละเอยี ดใหต้ ดั ภาพ จากระยะไกลเป็นระยะใกล้ 3. ใช้เพ่ือเปล่ยี นสถานที่ เชน่ ตัดภาพจากในอาคารไปเป็นท้องถนน ส�ำ หรับเวลานน้ั การคทั จะ ให้ความรสู้ กึ วา่ เหตุการณ์เกดิ ขึ้นในเวลาเดียวกนั 4. การเปลย่ี นภาพจากระยะไกลเปน็ ระยะใกล้ด้วยการตดั ภาพจะท�ำ ใหผ้ ดู้ ูเกดิ ความรูส้ ึกว่า ใกลช้ ิดและมสี ว่ นรว่ มในเหตกุ ารณ์ดว้ ย ในทางตรงกนั ขา้ มการตดั ภาพเรว็ จะท�ำ ให้ดตู นื่ เต้นแตถ่ ้าตัด ภาพช้าๆ จะดูสุขมุ เยอื กเย็น FADE การเฟดมีสองลักษณะคอื Fade in กบั Fade out ลักษณะของเฟดอินคอื เริ่มจากไม่ มภี าพปรากฏบนจอหรอื จอมืดสนทิ แลว้ คอ่ ยๆมภี าพปรากฏข้ึนทีละน้อยจนถึงชดั เจนท่สี ดุ สว่ นเฟด เอาท์เริ่มจากมีภาพบนจอมดื สนิทแลว้ คอ่ ยๆจางหายไปจนมืดสนทิ ก�ำ รน�ำ ไปใช้งานเฟดอินมกั จะท�ำ ไป ใชใ้ นชว่ งของการเรม่ิ รายการและเฟดเอาท์ใชช้ ่วงสน้ิ สดุ หรือจบรายการ นอกจำ�กน้ยี ังนำ�ไปใช้ในชว่ ง สน้ิ สุดหรอื จบรายการ นอกจากนีย้ ังนำ�ไปใชก้ ับการเปล่ยี นฉาก เปลี่ยนสถานท่ี และเปลี่ยนวนั เวลาซ่งึ เหตุการณ์น้ันอาจจะเกิดมากอ่ นแล้วหรือกำ�ลงั เกดิ ข้ึนก็ไดแ้ ตค่ นละสถานท่กี ัน DISSOLVE บางทเี รียกวา่ LAP-DISSOLVE เป็นภาพจางซอ้ นคล้ายเฟดอินและเฟดเอาทท์ ่ี เกดิ ข้ึนอยา่ งตอ่ เน่อื งกันโดยทีภ่ าพสองภาพจะมชี ่วงเวลาซ้อนกนั ในขณะท่กี ารเฟดจะไมเ่ ห็นภาพเดมิ เลย กล่าวคือขณะท่ีภาพเดมิ บนจอค่อยๆจางลงจะปรากฏภาพใหม่ซ้อนขนึ้ มาและชดั ข้ึนๆจนกระท่ัง ชดั เจนท่ีสุด เทคนคิ การดิสโซลฟ์ ท�ำ ให้ภาพดูต่อเนือ่ งราบเรยี บไม่กระโดด ใช้สำ�หรับแสดงความ สมั พนั ธ์ระหวา่ งฉากหรอื เหตุการณ์จากสถานทห่ี นึง่ ไปอกี สถานท่ีหนึ่งซึง่ เหตกุ ารณน์ นั้ เกดิ ขน้ึ ใน เวลา เดียวกันหรอื ใกลเ้ คียงกัน หรือใช้เปล่ยี นระยะเวลากไ็ ดเ้ ชน่ จากเยน็ เป็นค่�ำ จากสามทุ่มเปน็ เทยี่ งคืน ดว้ ยการจบั ภาพทน่ี าฬกิ าใหเ้ ห็นเวลาเป็นต้น SUPERIMPOSE คอื การซ้อนแบบจางมีลกั ษณะคล้ายกันกับการดิสโซลฟ์ แต่ภาพสองภาพ จะ ยังคงปรากฏบนจอในลกั ษณะซ้อนกนั และจางลงคนละครึ่งมักจะน�ำ ไปใชง้ า่ ยท่ใี หว้ ามรู้สกึ แปลก มหัศจรรย์ เชน่ ภาพวญิ ญาณเข้าหรืออกจากร่าง หรือสร้างภาพเกีย่ วกบั ความเพอ้ ฝัน เป็นตน้ MIX คือการผสมภาพ หมายถึงนา้ จอจะมภี าพจากลอ้ งตวั อืน่ รวมอยูด่ ว้ ย เช่นการรายงาน ขา่ วจาก ส่วนภูมภิ าคเราจะเห็นภาพจากการพูดคยุ โต้ตอบกันระหวา่ งผ้รู ายงานขา่ วท่กี รุงเทพกบั ต่างจังหวัด เปน็ ภาพคนละสถานท่ีแยกจากกนั แตป่ รากฏในจอเดียวกนั หรือเป็นภาพการพูดคยุ กนั ทาง โทรศพั ท์ แบ่งครึง่ จอใหเ้ ห็นท้ังสองคนเรียกว่า Split Screens หรอื ใช้วธิ กี ารเจาะภาพเลก็ ๆ ใหผ้ ู้แปล จากคำ� พดู เป็นภาษามือเพ่ือให้คนพกิ ารทางหูไดเ้ ข�้ำ ใจพร้อมคนปกติ 81

บทที่ 5 การเขียนบทโทรทศั น์ WIPE คอื การกวาดภาพ ซ่ึงกค็ ือการเปล่ยี นภาพจากภาพหนงึ่ เป็นอกี ภาพหน่งึ การกวาดภาพ มหี ลำ�ยรปู แบบขึน้ อย่กู บั อุปกรณ์ทใี่ ช้ เช่น จากบนลงลา่ ง จากซ้ำ�ยไปขวา กวาดแบบทแยงมุม การ กวาดภาพจากบนลงล่างภาพล่างจะหำ�ยไปขณะท่ีภาพบนจะเขา้ มาแทนที่ การกวาดภาพจำ�เป็น ต้อง อาศัยเครื่องมืดทางอเิ ล็กทรอนกิ สท์ เี่ รยี กวา่ SEG (Special Effect Generator) ซึ่งมีรูปแบบ หลากหลายลกั ษณะดังรปู 7.9 ปัจจบุ ันกลอ้ งโทรทศั น์หรือกล้องวีดทิ ศั นข์ นาดเล็กได้ออกแบบให้มี กลไกการกวาดภาพไว้ภายในเพอ่ื ใหผ้ ูใ้ ช้ทำ�ผลพเิ ศษทางภาพขณะถ่ายท�ำ ไดด้ ว้ ย การนำ�ไปใช้งานการ กวาดภาพจะใช้เปล่ยี นฉากหรือสถานทีซ่ ่งึ เหตุการณ์น้ันเกดิ ขึ้นในเวลาเดยี วกันและเรอ่ื งราวมคี วาม ต่อเนือ่ งกัน ค�ำ ศพั ท์ที่ให้ผลพิเศษทางภาพ นอกเหนือไปจากค�ำ ศัพทเ์ ทคนิคดงั กล่าวแลว้ เรายงั สามารถ ระบคุ �ำ ศพั ทท์ ่ใี ห้ผลพิเศษของ ภาพไว้ในบทโทรทศั นซ์ ึง่ จะทำ�ใหร้ ายการโทรทศั น์มีความสมบรู ณ์และ นา่ สนใจมากยิง่ ขึน้ ทั้งนก้ี ็ตอ้ ง อาศยั เครื่องมอื ทางอิเลก็ ทรอนิกสเ์ ขา้ ช่วยเชน่ เดยี วกบั เทคนคิ ของการ เปลี่ยนภาพดงั กล่าวแลว้ ที่ควร รู้จกั และน�ำ ไปใชไ้ ด้แก่ Downstream Key (DSK) คือการซ้อนตวั หนังสือทีเ่ ป็นไตเติล หรอื ข้อความลงบนภาพเพ่อื บอกราย ละเอยี ดให้ผชู้ มได้ทราบตวั อย่างทเี่ หน็ ไดจ้ ากรายการวทิ ยโุ ทรทัศนค์ อื ขณะทบ่ี คุ คลส�ำ คญั ก�ำ ลงั ให้ สมั ภาษณ์จะมีช่อื และตำ�แหน่งปรากฏออกมาหนา้ จอด้วย เทคนิค DSK นำ�มาใช้ประโยชนก์ บั การ ผลติ รายการทางการศึกษาไดอ้ ย่างมากเชน่ การสอนภาษาอังกฤษ เมอื่ วิทยากรพดู ถงึ คำ�ศพั ทท์ ี่ ยาก ประโยคหรือขอ้ ความใดกส็ ามารถคียต์ ัวอักษรใหป้ รากฏได้พร้อมๆกนั ท�ำ ให้ผู้เรียนเข้าใจท้งั ค�ำ ความ หมายและการอา่ นออกเสียงในเวลาเดยี วกนั CHROMA KEY เปน็ เทคนิคของการสรา้ งภาพพเิ ศษท่ีใหค้ วามแปลกพิศดารไปอกี แบบหน่งึ ทำ�ให้ คนๆเดียวกลายเป็นสองคนยืนอยู่ในท่ีแห่งเดียวกนั หรอพดู คยุ กนั ได้ ท�ำ ใหผ้ ูร้ ายงานขา่ วนง่ั หรือ ยืนอยู่ ในพน้ื ทซ่ี ึ่งไม่ใชฉ่ ากในหอ้ งส่ง เชน่ ฉากหลังเปน็ อาคาร ถนน เปน็ ทงุ่ นาป่าเขา ทำ�ใหผ้ ู้แสดง สามารถ ขับรถยนต์ ข่จี ักรยานยนตบ์ นถนนซง่ึ แท้จรงิ แล้วจะอยใู่ นหอ้ งผลติ รายการมิได้ขบั ข่บี นถนนแต่ อยา่ ง ใด วธิ กี ารกค็ อื ผแู้ สดงจะต้องยืนหรอื ท�ำ กจิ กรรมซ่ึงมีฉากหลังเปน็ สฟี า้ หรอื สีนำ้�เงินท่เี รียกว่า Blue Screen แล้วใชก้ ล้องถ่านภาพไปซอ้ นกบั ภาพทเี่ ตรียมไว้ล่วงหนา้ กอ่ นแลว้ เชน่ ภาพจากดว้ ยวีดิ ทศั น์ ในที่นี้ตอ้ งการใหผ้ ู้ดเู ห็นภาพคนกำ�ลงั ขับรถยนต์บนทอ้ งถนน จะตอ้ งไปถ่ายภาพของท้องถนนหรอื วิว ทิวทศั น์ไว้ก่อนโดยให้กลอ้ งเคลื่อนทีด่ ว้ ยการถา่ ยภาพววิ ขา้ งถนนจากรถเพื่อใหเ้ ห็นวา่ รถยนตก์ �ำ ลงั ว่ิง ผ่านสถานท่ีต่างๆ จริง ภาพทไ่ี ด้นี้จะถกู บนั ทกึ ไว้ในทว้ นเทปวีดทิ ัศนเ์ ม่ือต้องการทำ�โครมาร์คยี ก์ ใ็ ห้ผู้ แสดงน่ังขับรถยนตอ์ ยู่ในหอ้ ผลิตรายการซึง่ มีฉากหลงั เป็นสฟี ้าหรือสนี ้ำ�เงนิ แลว้ น�ำ ภาพทีเ่ ตรยี มไว้จาก เทปวีดทิ ัศนม์ าซอ้ นกนั กจ็ ะได้ภาพ 82

บทที่ 5 การเขียนบทโทรทศั น์ เหมือนกบั ว่าผแู้ สดงคนน้ีก�ำ ลังขับรถยนต์วง่ิ อยบู่ นทอ้ งถนนแต่ท่ีจริง อยกู่ ับที่ ถา้ ต้องการใหด้ ูสมจริง ยิ่งข้นึ อาจโยกตัวทตี่ ัวรถไปดว้ ยเปน็ ครง้ั คราวเพ่ือใหเ้ หน็ ว่าวิ่งอยู่บน พน้ื ที่ไมร่ าบเรยี บ หรอื ถา้ ต้องการ ใหเ้ หน็ วา่ ก�ำ ลังข่รี ถจักรยานและมลี มพัดผา่ นก็อาจใช้พัดโยกให้เสน้ ผมหรอื ผ้าพล้วิ เปน็ ต้น ตวั อย่างการใชค้ ำ�ศัพท์เทคนิคและระยะการถา่ ยภาพ - Fade in 1.สถานทีช่ ายหาดทราย – พระอาทติ ยข์ น้ึ - Extreme long shot 2.–Pan - ไปตามชายหาดใหเ้ ห็นคลนื่ กระทบชายหาดเปน็ ระยะๆ 3.ชายหาด - LS –ถ่ายใหเ้ ห็นชายหาดระยะไกลเพอื่ แสดงความกวา้ งไกล มนี ำ้�ทะเลขนานไป กบั หาดทราย 4.– Zoom in – อย่างช้าๆ จนกระท่ังเห็นชำ�ยหญงิ คหู่ นงึ่ ท่ีเรากำ�หนดขนึ้ เอง 5.ภาพระยะไกลปานกลาง - MLS –ชายหญิงคนเดิมยืนตรงชายหาดติดริมน�้ำ จับมือพากนั วงิ่ ลงไปในน้ำ�ลึกพอควร ทงั้ สองอายปุ ระมาณ 50 ปี แตถ่ ่ายให้เห็นประกายตาสดใสเสมอื นกบั วา่ อายุยงั ต่ำ�กวา่ นี้อยมู่ าก 6.–MS – ถ่ายภาพชายหาดทั้งสองในมุมอืน่ ๆ - Cut – 7. – Close shot – 8.– Medium close shot – ศรี ษะและใบหน้าของทง้ั สองแนบชิดกันจนเหมือนเปน็ คนๆ เดยี วกัน A: ฉนั ไมเ่ ห็นวา่ เธอสวยเลยเมือ่ ตอนอายุ 20 9.–Close shot – ไปที่ B ใหเ้ ห็นรอยย้ิม B: เมอื่ ตอนอายุ 20 เราไม่ได้รกั กนั อย่างน้ีน่ี -Cut – 10.ภายในบา้ นริมชายหาดเวลาเช้า บานประตูเปิด A และ B จบั มอื กนั แล้วหวั เราะอย่างมคี วามสขุ องค์ประกอบของบทโทรทัศน์ บทโทรทศั น์มอี งคป์ ระกอบ 2 สว่ นคือ สว่ นแสดงรายละเอียดเก่ียวกับการผลิตรายการกบั สว่ นทีเ่ ป็นรายละเอียดเกีย่ วกบั ภาพและเสียง 1. ส่วนรายละเอยี ดเก่ยี วกับการผลติ รายการจะเขยี นไวเ้ ปน็ สว่ นแรกของบทโทรทัศนเ์ พ่อื บอกชอื่ รายการ วัตถุประสงค์ของรายการ หนว่ ยงานทผ่ี ลติ รปู แบบรายการ ความยาวของรายการ กลมุ่ เป้าหมาย ผู้ด�ำ เนินรายการหรอื วทิ ยากร ผูร้ ่วมรายการ สถานทผี่ ลิตรายการ รายละเอียดเก่ียวกบั ฉาก บุคลากรที่รับผิดชอบ ถา้ เป็นรายการแพร่ภาพออกอากาศก็จะก�ำ หนดวนั เวลาที่ผลิตรายการและ วนั เวลาทีอ่ อกอากาศ นอกจากน้ีอาจมเี ค้าโครงเรอ่ื งยอ่ ไว้ด้วยเพ่ือใหม้ องเหน็ ภาพรวมทง้ั หมด 83

บทท่ี 5 การเขียนบทโทรทศั น์ 2. ส่วนท่เี ปน็ รายละเอยี ดเกี่ยวกบั ภาพและเสยี ง สว่ นนี้อาจเป็นแบบเขา้ ตารางหรอื ใช้การ เรยี งล�ำ ดบั ของภาพกับเสียงก็ได้ แต่โดยท่ัวไปนยิ มเขียนบทแบบเขา้ ตำ�รางมากกวา่ เนอ่ื งจากต้องการให้ เหน็ ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งภาพกบั เสยี งอยูต่ ลอดเวลา นอกจากน้ีในตารางยังสามารถระบุค�ำ ศพั ทข์ อง การเปล่ียนภาพ ลักษณะของภาพ ระยะการถ่ายภาพ และรายละเอียดเก่ียวกับเสียงได้สะดวกอกี ด้วย ดงั ตวั อย่างของบทแบบสมบรู ณใ์ นหนา้ ตอ่ ไป สำ�หรบั บทแบบเรียงลำ�ดบั น้ันจะเรยี งไปตามเรือ่ งราว ตงั้ แตเ่ ป็นภาพอะไร กลอ้ งถ่ายภาพลกั ษณะใด และเสยี งหรอื เสยี งบรรยายเป็นอยา่ งไร ตัวอยา่ งขา้ งต้น ถือวา่ เป็นบทแบบเรียงล�ำ ดบั ได้ ข้นั ตอนการเขียนบทโทรทศั น์ การเขียนบทโทรทัศนม์ ีข้ันตอนตามล�ำ ดับดังน้ี 1. ประชมุ ปรึกษากับผ้ผู ลิตรายการหรือเจ้าของรายการผรู้ ว่ มงาน เพอื่ ใหท้ ราบรายละเอยี ด เหมอื นกบั ข้ันตอนการวางแผนงานก่อนการผลติ รายการดงั กลา่ วแลว้ 2. กำ�หนดวตั ถุประสงค์ของรายการว่าต้องการให้ใครเป็นผู้ชมของรายการเรา เมอื่ ดูแลว้ ผชู้ ม จะได้รับความรู้ ความเข้าใจ หรอื เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรบา้ ง 3. วิเคราะหเ์ นื้อหาและแยกแยะออกมาเปน็ ประเด็นยอ่ ย ขณะเดียวกันกต็ ้องคิดไปด้วยวา่ แต่ ละประเด็นควรมคี วามสัมพันธต์ ่อเนอื่ งกนั อย่างไร 4. ก�ำ หนดรปู แบบของรายการและความยาววา่ ต้องนำ�เสนอในรูปแบบใด เช่นเปน็ รายการ ประเภทสารคดี รายการสมั ภาษณ์ รำ�ยการแบบละคร หรอื รายการแบบนติ ยสำ�รซง่ึ น�ำ เอาหล�ำ ยๆ รูป แบบมาท�ำ เปน็ รายการเดียวกัน การน�ำ เสนอรายการหล�ำ ยรปู แบบจะท�ำ ให้เกิดความหลากหลำ�ยไม่ น�ำ่ เบอ่ื แตก่ ็ไมค่ วรใชร้ ปู แบบมากจนเกนิ ความจำ�เป็นและจะท�ำ ใหผ้ ูช้ มสับสน ทง้ั นีผ้ เู้ ขยี นบทจงึ ต้อง คำ�นงึ ถงึ อยูเ่ สมอว่ารูปแบบนั้นท�ำ ให้ผชู้ มสนใจและได้ประโยชน์มากทีส่ ดุ 5. เขียนแผนผงั รายการ (Program Layout) เพือ่ ก�ำ หนดแนวทางการน�ำ เนินเรอื่ งว่าควร จะ น�ำ เสนอประเด็นใดก่อนหลงั การเขียนแผนผงั รายการทำ�ไดห้ ลายแบบ ได้แก่ แบบเทียบเส้นเวลา วธิ ีนี้ ให้ก�ำ หนดว่าแต่ละประเดน็ จะใช้เวลาเทา่ ใดเมือ่ รวมทุกประเด็นแลว้ ใชเ้ วลาเท่าไร หำ�กเกนิ เวลา ก็ สามารถตดั ทอนเวลาของบางช่วงลงได้ ดังตวั อยา่ ง นำ�เสนอไปตามลำ�ดบั หวั ขอ้ เรื่อง การนำ�เสมอ ไป ตามหวั ขอ้ ผเู้ ขียนบทจะต้องพิจารณาว่าหวั ขอ้ หรือประเดน็ ใดควรนะเสนอก่อนหลัง ตัวอยา่ งเช่น รายการเพ่อื การศกึ ษาอาจตอ้ งเรียงล�ำ ดบั จากง่ายไปยากหรือเพ่มิ เนอื้ หาใหส้ ลับซับซอ้ นมากยิง่ ข้ึนๆ จนครบบทเรยี น น�ำ เสนอไปตามลำ�ดับเวลาหรอื เหตุการณท์ ่เี กดิ ขนึ้ เช่นเร่ืองราวทางประวตั ิศาสตร์ 84

บทท่ี 5 การเขียนบทโทรทศั น์ จะต้องบอกผู้ชมว่ามีความเปน็ มาอยา่ งไร รายการทางเกษตรจะตอ้ งให้ผ้ชู มเหน็ ความต่อเน่อื งหรือขึ้น ตอนของการเพาะปลกู พืชจากการขยายพันธวุ์ ธิ ตี า่ งๆ การอนุบาลดูแลรกั ษา ไปจนถงึ ไม้โตให้ผลผลติ และรายการทเ่ี กย่ี วข้องกบั กระบวนการกค็ วรแสดงให้เห็นขั้นตอนตา่ งๆตามลำ�ดบั ขัน้ เป็นต้น 6. ร่างบทและเขยี นบทโทรทศั น์ไปตามรปู แบบรายการที่ไดก้ �ำ หนดไว้ ขน้ั ตอนนี้ ผเู้ ขยี นบท จะตอ้ งใช้จิตนาการและความพยายามเปน็ อยา่ งยง่ิ เพื่อทจี่ ะแปลงเนื้อหาออกมาเป็นภาพกบั เสยี ให้ ผู้ ชมเข้าใจไดด้ ีที่สุด แตล่ ะฉากแตล่ ะตอนระหว่างกับภาพ หรือระหวา่ งภาพกบั เสยี งจะทำ�ใหเ้ กิดความ ตอ่ เน่ืองสมั พนั ธ์กนั จากการใชค้ �ำ ศัพท์เทคนคิ และคำ�เชือ่ มโยงไดอ้ ย่างไร ควรจะใชเ้ สยี งดนตรี เสียง ประกอบอยา่ งไรใหด้ ูสมจรงิ และสร้างอารมณ์ใหผ้ ้ดู ูคลอ้ ยตาม 7. น�ำ บทโทรทัศนท์ ีเ่ ขยี นเสร็จแล้วไปปรบั ปรงุ ด้วยการอ่านทวนด้วยตนเองหรอื ให้คนอ่ืน อ่าน เชน่ ผูเ้ ชย่ี วชาญทางด้านการเขยี นบทโดยตรง นักวชิ าการที่เก่ียวข้องกบั เนอื้ หาเรอื่ งราวหรอื ผู้ ประกอบอาชพี นนั้ ๆ เพ่อื ตรวจสอบความถูกตอ้ งและหาขอ้ บกพร่องก่อนที่จะนำ�ไปผลติ เปน็ รายการ โทรทัศนต์ อ่ ไป ชนิดของบทโทรทศั น ์ บทโทรทัศนม์ ีอยู่หลายชนดิ ท่ีใชก้ นั อย่โู ดยท่วั ไปไดแ้ กบ่ ท แบบสมบรู ณ์ บทแบบกง่ึ สมบรู ณ์ และบทแบบสมบรู ณ์ บทแบบก่ึงสมบูรณ์ และบทแบบเปิด นอกจำ� กนี้ยงั มีบทส�ำ หรับเจ้าหนา้ ทีฝ่ �ำ่ ย ต่างๆ อกี ด้วย เชน่ บทส�ำ หรบั ชา่ งกล่อง ช่างไฟ เพื่อใหไ้ ด้ภาพและ การให้แสงท่สี มบรู ณ์ตามความ ตอ้ งการของผู้กำ�กับรายการ 85

บทท่ี 5 การเขียนบทโทรทศั น์ 86

87

บทท่ี 6 ระบบการส่งสญั ญาณ โทรทศั นผ์ า่ ดาวเทียม 88

บทท่ี 6 ระบบการส่งสญั ญาณโทรทัศนผ์ ่าดาวเทยี ม บทที่ 6 ระบบการสง่ สญั ญาณโทรทศั น์ผ่านดาวเทยี ม โลกยคุ โลกาภวิ ัฒนด์ ูเหมอื นว่าจะแคบลงทกุ ทเี น่ืองจากเทคโนโลยีของการส่อื สาร เจริญ ก้าวหน้าไปอยา่ งไมห่ ยดุ ย้ัง ขา่ วสารเหตุการณ์ตา่ งๆ ไมว่ ่าจะเกดิ ขน้ึ ทใ่ี ดสามารถส่งไปถึงผ้ทู ่ีอย่อู กี มุมหนงึ่ ของโลกไดร้ บั รแู้ ทบจะเป็นเวลาเดยี วกนั กับผ้ทู ่ีอย่ใู กล้เหตุการณ์ ดาวเทยี มกเ็ ปน็ อุปกรณก์ าร ส่อื สารอีกประเภทหนงึ่ ทม่ี ีบทบาทเป็นอยา่ งมาก เน่ืองจากสามารถถ่ายทอดหรอื สง่ ผา่ นสญั ญาณใน รปู แบบของคล่ืนไมโครเวฟทบ่ี รรจุข้อมูลไม่วา่ เป็นภาพ เสียง หรือขอ้ มลู อน่ื ๆ ไปยังสถานทอ่ี กี แหง่ หน่งึ ซ่งึ อยหู่ ่างไกลออกไปคนละซกี โลกได้ ววิ ัฒนาการของดาวเทยี มเร่ิมตน้ มาจากนกั เขยี นนวนยิ าย และ เรื่องราวเกี่ยวกบั วิทยาศาสตรช์ าวองั กฤษคนหนึง่ ช่ือ อาเธอร์ ซี. คล้าก (Arthur C. Clark) ได้ เขียน บทความลงในหนงั สือ Wireless World เมือ่ ปี พ.ศ. 2488 ว่าระบบการสอื่ สารทั่งโลกนา่ จะ ใช้ ดาวเทียมเพียง 3 ดวงเทา่ นนั้ กจ็ ะสามารถถา่ ยทอดสัญญาณได้รอบโลก ดว้ ยการส่งดาวเทยี มข้นึ ไป โคจรโดยให้มคี วามเรว็ เทา่ กบั ความเร็วของโลก ในสมยั น้ันนักวทิ ยาศาสตร์ต่างกก็ ลา่ วว่าเปน็ ไปไม่ ได้ เปน็ เร่อื งเพอ้ ฝัน แตร่ ะยะเวลาต่อมามนษุ ย์กไ็ ดค้ ดิ คน้ พฒั นาหาวิธีท่จี ะสง่ ดาวเทยี มออกไปโคจร นอก โลกและประสบผลส�ำ เร็จในที่สดุ ท�ำ ให้ความฝนั ของคลา้ ยเป็นจริงข้ึนมา กล่าวคอื สามารถทำ�ให้ ดาวเทยี มซง่ึ โคจรอยนู่ อกโลกเหมือนกบั ลอยหยดุ นง่ิ กับท่ีใน 3 ต�ำ แหนง่ โดยมนุษยใ์ ช้ดาวเทียมท้ังสาม ดวงนีเ้ องทำ�การติดตอ่ สอ่ สารกนั ท่ัวโลก ปัจจบุ ันมดี าวเทยี มลอยอยบู่ นฟ้านบั ร้อยดวง เนอ่ื งจากแต่ละ ประเทศกต็ ้องการมีดาวเทยี ม เป็นของตนเองจนกระทั่งเกดิ การแย่งชิงต�ำ แหน่งดาวเทียมบนทอ้ งฟ้ากัน ประเทศไทยมี ดาวเทียมเปน็ ของตนเองเม่อื เร็วๆ น้ี จงึ ควรศึกษาว่าจะใช้ดาวเทยี มที่มอี ย่ทู �ำ ประโยชน์อะไรไดบ้ า้ ง ในบทนี้จะไดก้ ลา่ วถึงประวตั คิ วามเปน็ มาของดาวเทียม วธิ ีการส่งดาวเทียมขง้ึ ไปโคจรใน อวกาศและประโยชนท์ ่ไี ด้รบั จากเทคโนโลยีใหม่นีท้ มี่ ตี ่อการส่ือสาร การสำ�รวจ ธุรกิจ และวงการ ศึกษา โดยเฉพาะการถา่ ยทอดสญั ญาณวทิ ยุโทรทัศน์ผา่ นดาวเทียมไปยังภูมภิ าคตา่ งๆ ทง่ั ประเทศ เพื่อใหผ้ ชู้ มท่ีอยใู่ นสถานที่ตา่ งๆ ได้รบั ข่าวสาร ความรแู้ ละความบนั เทงิ ได้พร้อมกัน ดาวเทียมคืออะไร ดาวเทยี มมาจากค�ำ ว่า SATELLITE ในพจนานุกรมฉบับราชบณั ฑติ ยสถานใหค้ วาม หมายว่า ดาวเทียมเปน็ วัตถุท่มี นุษยส์ รา้ งข้นึ เลียนแบบดาวบริวารของดาวเคราะห์ เพอื่ ให้โคจรรอบ โลกหรือรอบ เทหฟ์ ากฟา้ อ่ืน มอี ุปกรณ์โทรคมนาคมดว้ ย เช่นการถ่ายทอดคลืน่ วิทยแุ ละโทรทัศนข์ ้าม ทวีป จงึ สรุปว่าดาวเทียมเปน็ สิง่ ประดิษฐท์ างกลไกลและอเิ ล็กทรอนิกสท์ ีม่ นุษย์สร้างขึ้นและสง่ ออก ไปใน อวกาศให้โคจรรอบโลกหรอื บงั คับใหอ้ ยกู่ บั ทใ่ี นตำ�แหนง่ ทไ่ี ด้ก�ำ หนดไว้เพอ่ื ใช้ประโยชนใ์ นด้าน ตา่ งๆ 89

บทท่ี 6 ระบบการส่งสญั ญาณโทรทัศนผ์ ่าดาวเทียม ถา้ จะเปรียบเทยี บกับดวงจันทร์แลว้ กเ็ หมอื นกบั ว่าดาวเทียมเปน็ บรวิ ารดวงหนง่ึ ของโลก ท่ีมา http://www.it24hrs.com/wp-content/uploads/2014/01/thaicom6.jpg ทำ�ไมจึงส่งดาวเทียมไปไว้นอกโลก เราทราบมาแล้วว่าการส่งสญั ญาณที่เปน็ คล่ืนวิทยุ (RF) ด้วยความถ่ีตา่ งๆ เชน่ LF หรอื MF คลนื่ จะเดินทางจากเครื่องส่งไปยังเครือ่ งรับไดห้ ลายทาง ได้แก่ เดนิ ทางไปตามพ้ืนดนิ เดนิ ทางเปน็ เสน้ ตรงในอากาศ และเดนิ ทางดว้ ยการสะท้อนระหวา่ งพน้ื ดนิ กับ ช้นั ของบรรยากาศท่ีเรียกว่าไอโอโนส เฟียร์ (Ionosphere) ซง่ึ อยูส่ ูงจากพนื้ ดนิ ประมาณ 50-1500 กโิ ลเมตร กระสะท้อนขึน้ ลงของคลื่น ท าใหค้ ลน่ื สามารถเดินทางไปได้ไกลนับพนั กโิ ลเมตร แต่เมื่อ ใชค้ ล่ืนวิทยทุ ี่ทีความถีส่ งู ขน้ึ เชน VHF หรอื UHF โดยเฉพาะคลน่ื ไมโครเวฟซึ่งมีความถ่สี งู มาก ไม่ สามารถใชบ้ รรยากาศสะทอ้ นคลื่นใหก้ ลบั ลงมาไดเ้ นอ่ื งจากความถ่สี งู ๆ จะทะลุผ่านชั้นบรรยากาศ เลยออกไป ท าอยา่ งไรจึงจะสามารถส่งคลนื่ ความถส่ี ูงใหเ้ ดนิ ทางไปได้ไกลที่สุด คลื่นวทิ ยรุ ะบบ FM และคล่นื วทิ ยุท่ใี ช้ส่งรายการจากสถานีวทิ ยุ โทรทัศน์ช่องต่างๆ เดนิ ทางไปยังเคร่ืองรับในลกั ษณะเสน้ ตรงเช่นกัน จงึ ส่งไปไดไ้ กลสุดไม่เกนิ 100 กโิ ลเมตร เน่อื งจากไปสามารถเดนิ ทางผ่านส่วนโค้งของโลก หรือสว่ นที่เป็นความสงู ของภูเขาและ อาคารได้ วธิ ีการหนงึ่ ก็คือตงั้ เสาอากาศใหส้ งู จนเอาชนะส่วน โคง้ ของโลกไดห้ รอื ใชว้ ิธตี ง้ั สถานถี ่ายทอก สญั ญาณกันเปน็ ทอดๆ จนคลนื่ ไปถึงจุดหมายปลายทาง แต่ก็มีปญั หาตรงทวี่ ่าการตดิ ตง้ั สถานถี า่ ยทอด สิ้นเปลืองคา่ ใชจ้ ่ายมาก จงึ มแี นวคิดทจี่ ะน าอุปกรณ์ การถา่ ยทอดสัญญาณไปไว้นอกโลกให้ทำ�หน้าที่ ทวนสัญญาณ (Repeater) หรอื ถา่ ยทอดสญั ญาณ กลับมายังโลกใหค้ รอบคลุมพนื้ ที่ต้องการและ อุปกรณน์ ี้คอื ดามเทยี ม ประวัตคิ วามเป็นมาของ ดาวเทียม รสั เซยี เปน็ ชาติแรกทไ่ี ดส้ ่งดาวเทียมขนึ้ ไปโคจรในอวกาศชื่อ สปตุ นิก 1 (Sputnik 1) เมือ่ วันท่ี 4 ตลุ าคม พ.ศ. 2500 ระยะแรกเป็นการทดลองสง่ คลื่นวทิ ยุเพอื่ ทดสอบสญั ญาณ พ.ศ. 2505 สหรฐั อเมริกาสง่ ดาวเทยี มเพื่อการสื่อสารดวงแรกช่อื Telstar 1 สามารถใชส้ ่งรายการโทรทศั นท์ ห่ี นงึ่ ไปยังอีกท่ีหนึ่งได้ 90

บทที่ 6 ระบบการส่งสญั ญาณโทรทศั นผ์ ่าดาวเทยี ม พ.ศ. 2507 ไดจ้ ดั ตัง้ องคก์ รการโทรคมนาคมระหวา่ งประเทศผ่านดาวเทียม ใช้ช่ือภาษา องั กฤษว่า INTELSAT (International Telecommunication Satellite Organization) ตงั้ อยู่ท่ี กรงุ วอชิงตนั ดี.ซ.ี สหรฐั อเมรกิ า มีสมาชกิ เริ่มตน้ 11 ประเทศ หลังจากนั้นอกี หนง่ึ ปตี ่อมา องค์การ อินเทลแสตกไ็ ดส้ ่งดาวเทยี มเพ่ือการส่ือสารและการพาณชิ ยด์ วงแรกช่อื Intelsat 1 ขึน้ สู่ ทอ้ งฟ้า เหนอื มหาสมุทรแอตแลนติก ดาวเทยี มดวงนใี้ ช้ถ่ายทอดสญั ญาณโทรศพั ท์ เทเล็กซ์ ขา่ วสาร ตา่ งๆ รวมท้ังรายการโทรทศั นท์ ี่รับมาจากด้านหนงึ่ ของมหาสมุทรแอตแลนตกิ ผา่ นดาวเทยี มแลว้ สง่ ไป ยงั ส่วนต่างๆของประเทศ เพอ่ื ใหก้ ารถ่ายทอดสัญญาณเปน็ ไปไดท้ ั่วโลก องค์การอนิ เทลแสตจึงไดส้ ่ง ดาวเทียมข้นึ ไปโคจรอยู่เหนอื พ้ืนท่ี 3 ต าแหน่งคอื เหนอื มหาสมทุ รแอตแลนติกทเ่ี ส้นรุง้ 335 องศา ตะวันออก เหนอื มหาสมทุ รแปซิฟิกท่ีเสน้ รุง้ 174 องศาตะวนั ออก และเหนอื มหาสมทุ รอินเดยี ท่ีเส้น รุ้ง 60 องศาตะวนั ออก ในแตล่ ะต�ำ แหนง่ จะมดี าวเทยี มอินเทลแสตอยูห่ ลายดวงเพ่ือส ารองไว้เมื่อดวง ทีใ่ ช้ งานเกดิ ขัดข้อง ปัจจุบันดาวเทยี มอนิ เทลแสตท่สี ่งออกไปมีถงึ รุ่น Intelsat VI หลกั การท่ีจ�ำ เป็น ตอ้ งมสี ถานอี วกาศหรือดาวเทียมเพื่อการส่ือสารชนดิ ลอยอยกู่ บั ท่ถี งึ สาม ตำ�แหนง่ กเ็ พ่อื ให้ดาวเทียม แตล่ ะดวงสามารถรบั สง่ สญั ญาณครอบคลมุ พน้ื ที่ได้หน่งึ ในสามของโลก ซึ่ง ดาวเทยี มทั้งสามจะท�ำ ภมุ มกนั 120 องศาเหนือเส้นศูนยส์ ูตร จึงท�ำ ให้ทกุ พ้ืนท่ีบนโลกตดิ ต่อถงึ กนั ได้ สว่ นหลักการทด่ี าวเทยี ม สามารถลอยอยูก่ ับที่ไดก้ ็คือ ทีค่ วามสงู ประมาณ 35,786 กิโลเมตรจากพื้นท่ี โลกเม่ือส่งดาวเทียมออก ไปเข้าส่วู งโคจรดาวเทียมก็จะเคลอื่ นทห่ี รือเดินทางโดยอาศัยแรงดงึ ดูดของ โลกด้วยความเรว็ เท่ากบั ความเร็วของการหมุนของโลกทีห่ มุนรอบตวั เอง ดังน้นั จึงดเู หมอื นกับวา่ ดาวเทียมหยุดนิ่งอยู่กับท่ี ดาวเทียมเพอ่ื การสือ่ สารแบ่งออกได้ 3 ประเภทคอื ดาวเทียมสือ่ สาร ระหวา่ งประเทศ เช่น Intelsat , Inmarsatดาวเทยี มสือ่ สารในภมู ภิ าค เชน่ Eutelsat , Asiasat และดาวเทียมสื่อสารทใี่ ชภ้ ายใน ประเทศ เชน่ Palapa , Thaicom , Koreasat เปน็ ตน้ ประโยชนข์ องดาวเทยี ม ปัจจบุ นั แตล่ ะ ภูมิภาค เชน่ ทวปี ยุโรป เอเชยี หรือหลายๆ ประเทศต่างก็มีดาวเทยี มเปน็ ของ ตนเองทำ�ใหก้ ารสอ่ื สาร ส่งผ่านสัญญาณเป็นไปอยา่ งท่วั ถงึ สามารถน�ำ ดาวเทยี มมาใชป้ ระโยชน์ไดอ้ ย่าง มากมาย ไดแ้ ก่ -ด้านวทิ ยุโทรทศั นส์ ามารถสง่ รายการตา่ งๆ ผ่านดาวเทยี มจากซีกโลกดา้ นหนง่ึ ไปยงั ซีกโลก อกี ด้านหน่งึ หรอื ส่งรายการไปยงั สถานีเครือข่ายยอ่ ยทวนสญั ญาณและแพรภ่ าพไปยงั สว่ นภมู ภิ าค - สามารถรบั สญั ญาณวทิ ยโุ ทรทัศน์จากดาวเทียมโดยตรงด้วยระบบ TVRO (Television Receiver Only) หรอื DTH (Direct To Home) เพื่อใชใ้ นการศึกษาให้ความรแู้ กป่ ระชาชนโดยใช้ อปุ กรณ์ใน ราคาถกู 91

บทที่ 6 ระบบการส่งสัญญาณโทรทัศน์ผ่าดาวเทียม -ใชถ้ ่ายทอดรายการสดได้แก่ขา่ วหรือเหตกุ ารณ์ตา่ ง ผ่านดาวเทยี มด้วยการใชร้ ถถา่ ยทอด เคลื่อนท่ี เชน่ OBVANหรอื SNG (Satellite News Gathering) -ใช้เพื่อการส ารวจทรัพยากรธรรมชาติ ทำ�แผนที่ -ใชเ้ พือ่ อุตุนยิ มวทิ ยาส าหรับการพยากรณ์อากาศให้ทราบสภาพของดนิ ฟา้ อากาศลว่ งหน้า ช่วยให้ลดอุบตั ภิ ยั ทางธรรมชาติ -ใช้ในวงการทหาร ธรุ กจิ การสื่อสาร การแพทย์ -ด้านโทรศัพทส์ ามารถเชอ่ื มโยงเครอื ขา่ ยโทรศพั ท์จากชมุ สายตา่ งๆ เขา้ ด้วยกันท าใหข้ ยาย จ�ำ นวนคสู่ ายได้มากขน้ึ -สามารถสง่ ผา่ นขอ้ มูลไดท้ ัง้ ภาพและเสียงแม้กระทัง่ ข้อมลู จากคอมพิวเตอร์ -ใช้ส�ำ หรบั การสื่อสาร 2 ทาง เชน่ การประชมุ ทางไกล (Video Conference) การศกึ ทาง ไกล (Distance Education) เปน็ ตน้ สว่ นประกอบของระบบดาวเทยี ม(ระดับสถาน)ี ระบบการทำ�งานของดาวเทียมประกอบไปดว้ ยส่วน สำ�คัญ 2 สว่ นคอื ตวั ดาวเทยี มทีล่ อย โคจรอยู่บนท้องฟา้ กับสถานภี าคพ้นื ดนิ แต่ละสว่ นยังประกอบ ไปด้วยอปุ กรณ์ตา่ งๆ 1. ดาวเทียม มีโครงสร้างและสว่ นประกอบ ได้แก่ -อปุ กรณ์ถา่ ยทอดสัญญาณ (Tansponder) -จานหรอื แผงสายอากาศ (Satellite Antenna) -สว่ นบงั คับควบคมุ ดาวเทยี ม (Telemetry Command) -แหล่งกำ�เนดิ และจ่ายกระแสไฟฟ้า (Power Supply) ไดแ้ กแ่ ผงโซลาร์เซลและ แบตเตอรส่ี �ำ รองไฟเมื่อถกู โลกปดิ บังแสงจากดว้ งอาทติ ย ์ 2. สถานภี าคพื้นดนิ (EarthStation) ประกอบไปด้วย - อุปกรณ์รวมและแยกสญั ญาณ (Multiplexand Demultiplex Equipment) -อุปกรณต์ ิดตอ่ ส่ือสารภาคพื้นดนิ (Ground Communication Equipment : Gce) -อุปกรณ์เครือ่ งส่งก�ำ ลงั สูง (Hight Power Amplifying :Hpa) -จานสายอากาศและระบบควบคุม (Antennaand Tracking System) -อปุ กรณ์ขยายสญั ญาณท่มี ีการรบกวนต่ำ� (Low Niose Amplifier : LNA) -ระบบจ่ายกำ�ลังไฟฟา้ (Power System) -อปุ กรณ์ควบคุมดาวเทยี ม (Controland Monitoring System) 92

บทที่ 6 ระบบการสง่ สญั ญาณโทรทัศน์ผา่ ดาวเทียม การสง่ ดาวเทยี มขน้ึ สู่อวกาศ ดาวเทยี มถูกสง่ ออกไปในอวกาศด้วยจรวดหรอื ยานขนส่งอวกาศ หลังจากระยะความสงู ประมาณ 200 กิโลเมตร สถานีบังคบั ภาคพืน้ ดินจะเรม่ิ บังคับทิศทางของดาวเทยี มให้เคลอ่ื นท่หี ่างจาก โลกออกไปเรื่อยๆ จนถงึ ระยะความสงู ประมาณ 35,786 กโิ ลเมตร ดาวเทียมจะอาศัยแรงดงึ ดดู ของ โลกให้เคลื่อนท่ีไปดว้ ยความเร็วเดยี วกบั ความเร็วในการหมุนรอบตัวเองของโลกดังกลา่ วแลว้ และท�ำ ให้ ดูเหมือนกับวา่ ดาวเทยี มนัน้ หยุดน่งิ อยู่กับที่ ดาวเทยี มแตล่ ะดวงมขี นาดและนำ้�หนักแตกต่างกันออกไป มอี ายุการใชง้ านประมาณ 15 ปี เมอื่ หมดอายกุ ารใชง้ านเนอ่ื งจากหมดเชื้อเพลงิ ทใ่ี ชบ้ งั คับดาวเทยี ม สถานภี าคพน้ื ดนิ กจ็ ะจดุ จรวดบงั คบั ใหด้ าวเทียมหลดุ ออกไปจากวงโคจร กลายเป็นขยะอวกาศและส่ง ดาวเทยี มดวงใหม่ขึน้ ไปแทนทตี่ อ่ ไป ความถ่ีท่ใี ช้กบั การสอ่ื สารผา่ นดาวเทียม คล่นื ความถ่ีท่ีใช้กบั การส่อื สารผ่านดาวเทียมมกั เรียกกันว่า ไมโครเวฟ (Microwave) คล่นื ไมโครเวฟเดนิ ทางเปน็ เสน้ ตรงดว้ ยความเร็วเท่ากบั ความเรว็ ของแสงคือ 300,000 กิโลเมตร ต่อวินาที สญั ญาณต่างๆ ทสี่ ง่ ไปยงั ดาวเทียมจะอาศยั คลน่ื ไมโครเวฟนี้เป็นตวั พาไปเหมอื นกบั คล่ืน พาห์ (Carrier Wave) ของเครอื่ งสง่ วทิ ยโุ ทรทศั น์ทีน่ ำ�พาสญั ญาณภาพกบั สัญญาณเสยี งผ่านอวกาศ ไปยังเครื่องรับ ตามบ้านเรอื น เพียงแตค่ ลื่นไมโครเวฟจะมคี วามถ่ีสงู กวา่ มาก หน่วยของความถี่ทใ่ี ช้ วัดจึงใชค้ าวา่ จิกะ เฮิรตซ์ (Giga Hertz หรือ GHz) ความถี่ทีใ่ ช้ส่งคลื่นไมโครเวฟยงั แบ่งออกเป็นยา่ น (Band) ต่างๆ ได้ อีกเชน่ C-band , Ku-band ดว้ ยชอ่ งวา่ งความถี่ดงั กล่าวคล่ืนไมโครเวฟจงึ สามารถ ส่งสญั ญาณวทิ ยุ โทรทัศน์ โทรเลข โทรสาร เทเลก็ ซ์ โทรภาพ รวมไปถึงขอ้ มูลในเครอื่ งคอมพวิ เตอร์ ได้ท้ังสนิ้ โดย สญั ญาณทุกชนดิ จะถกู แปลงให้เปน็ คล่นื ไมโครเวฟแล้วสง่ ขึน้ ไปยงั ดาวเทยี มถ่ายทอด ไปยังจดุ ตา่ งๆ ด้วยวิธีการทเ่ี หมือนกัน การสง่ คล่นื ไมโครเวฟจากสถานภี าคพื้นดนิ ข้นึ ไปยังดาวเทียม เรียกวา่ Uplink Signal ใชค้ วามถี่ 6 GHz ส าหรบั ดาวเทียม เช่น ยา่ น C-band (6/4 GHz) สว่ นชนิด ย่านKu-band (14/11 GHz) ใช้ความถี1่ 4 GHz ท่ดี าวเทยี มมเี ครอ่ื งรบั สง่ คลน่ื ไมโครเวฟโดยใชพ้ ลัง ไฟฟา้ ที่ไดจ้ ากแผงโซลาร์เซลลห์ รือเซลแสงอาทิตย์ซ่งึ จะเปลี่ยนแสงสวา่ งให้เป็นพลังงานไฟฟ้าและยัง มีแบตเตอร่ีสำ�รองไว้ ในชว่ งท่ีแสงอาทติ ยถ์ ูกโลกบงั หรอื ชว่ งท่ีต้องการใชพ้ ลังงานไฟฟา้ มาก เม่ือดาวเทียมไดร้ บั คลน่ื ไมโครเวฟจากสถานภี าคพ้ืนดินกจ็ ะทำ�การขยายสญั ญาณใหแ้ รงขึ้นแล้วแปลง ความถ่ใี หต้ �ำ่ ลง ดาวเทยี มย่าน C-band แปลงเป็นความถี่ 4 GHz และ 12 GHz ส�ำ หรบั ดาวเทียม ย่าน Ku-band จากนน้ั จะสง่ สัญญาณกลับลงมาเรยี กวา่ Downlink Signal การทต่ี อ้ งเปล่ยี นความถ่ี ขาข้นึ กับขาลง มใิ ห้เท่ากันก็เพ่อื ปอ้ งกันมิให้สัญญาณเกิดการรบกวนกนั นน่ั เอง 93

บทที่ 6 ระบบการสง่ สญั ญาณโทรทศั นผ์ ่าดาวเทยี ม ทรานสปอนเดอร์ (Transponder) ทรานสปอนเดอร์หมายถงึ ช่องการรับ-ส่งสัญญาณของดาวเทยี ม แตเ่ ดิมดาวเทียมท่มี ที รานส ปอนเดอร์1 ชุดสามารถรับส่งสัญญาณโทรทศั น์ได้ 1 ช่องหรอื เพียงสถานีเดยี ว และถา้ เป็นสัญญาณ โทรทศั น์ซ่งึ เปน็ ความถข่ี องเสียงจะรับส่งได้ประมาณ 500 คู่สาย แต่ดาวเทยี มรุ่นใหม่สามารถบีบ อดั สญั ญาณในระบบดิจิตอลให้ 1 ทรานสปอนเดอร์สามารถรบั สง่ สญั ญาณโทรทัศนไ์ ด้ถงึ 10 ช่อง (Kuband) และโทรศพั ทไ์ ดน้ บั หม่ืนเลขหมาย ดาวเทียมยา่ นความถ่ี C-band ในปจั จบุ นั มี 12, 20, 24 และ 40 ช่องสัญญาณ ดาวเทยี ม อนิ เทลแสตVI รนุ่ 1986/87 รับสัญญาณโทรทัศน์ได้ 2 ชอ่ ง รวม กับ โทรศพั ท์อกี 36,000 คู่สาย ยา่ น C-band มี 38 ชอ่ ง และ Ku-band 10 ช่อง ส าหรับดาวเทียม ไทย คมใช้ความถย่ี า่ น C-band มี 10 ช่องสัญญาณรวมกบั ยา่ น Ku-band อกี 2 ชอ่ งสัญญาณ พื้นทีบ่ รกิ ารของดาวเทยี ม (Foot Print) หมายถึง อาณาบริเวณทก่ี �ำ ลังแรงและความสามารถ ในการแพร่กระจายคลน่ื ไมโครเวฟของ ดาวเทยี มท่จี ะสง่ คล่นื ลงมาครอบคลมุ พ้ืนทบ่ี นโลกไดก้ ว้าง ไกลขนาดไหน ทง้ั นสี้ ว่ นที่เป็นสายอากาศ ของดาวเทยี มจะท�ำ หนา้ ท่สี ง่ สญั ญาณลงมาใหม้ ีบริเวณ หรือขอบเขตโดยเฉพาะได้ ตัวอยา่ งเชน่ ดาวเทยี มไทยคม C-band จะครอบคลมุ พ้ืนทน่ี อกจาก ประเทศไทยและประเทศใกลเ้ คียงแล้วยังสง่ สัญญาณไปถึงประเทศในแถบอินโดจีนรวมไปถึงเกาหลี และญปี่ นุ่ อีกด้วย สว่ นย่าน Ku-band จะใช้ งานบริเวณเฉพาะประเทศไทยและบรเิ วณประเทศใกล้ เคยี งเทา่ น้นั การถา่ ยทอดสญั ญาณผา่ นดาวเทียม ท าได้ด้วยการส่งสญั ญาณโทรทศั นห์ รอื สญั ญาณอ่นื ๆ ในลักษณะของคลน่ื ไมโครเวฟขน้ึ ไปยงั ดาวเทียม เมื่อดาวเทียมไดร้ บั สัญญาณก็จะท�ำ การขยายสัญญาณให้แรงขึ้นและเปลีย่ นความถ่ที ไ่ี ด้ รบั ให้ตำ�่ ลง จากน้นั จงึ สง่ กลบั มายงั พืน้ โลกในลักษณะแพรก่ ระจายคล่ืนให้ครอบคลมุ ไปทัว่ บริเวณ ที่ ตอ้ งการ ทางภาคพื้นดินจะมจี านรับสัญญาณดาวเทยี มตดิ ตั้งอย่ตู ามสถานทตี่ ่างๆ เชน่ สถานวี ิทยุ โทรทศั น์ สถานีถ่ายทอดสญั ญาณ สถานรี ับสัญญาณท่ีมอี ปุ กรณร์ ับระบบ TVRO หรอื แม้กระท่ัง ตาม อาคารบ้านเรอื นก็สามารถรบั สัญญาณดาวเทียมไดถ้ า้ มีอุปกรณร์ บั สัญญาณระบบ DTH (Direct To Home) จากจานรับสญั ญาณดาวเทียมจะมอี ุปกรณเ์ ปลยี่ นแปลงคลื่นไมโครเวฟใหเ้ ปน็ สญั ญาณ ภาพ กบั สัญญาณเสยี งสง่ ไปเข้าเครอ่ื งรบั โทรทัศนเ์ ปน็ ภาพกบั เสยี งเหมอื นเดมิ แต่ถา้ เปน็ การถา่ ยทอด สด ของสถานีวิทยโุ ทรทัศน์กจ็ ะน�ำ สัญญาณไปเขา้ เคร่อื งสง่ และแพรก่ ระจายภาพออกอากาศเหมือน รายการปกติของสถานโี ทรทัศน์ต่อไป 94

บทที่ 6 ระบบการสง่ สญั ญาณโทรทศั น์ผา่ ดาวเทยี ม ตัวอยา่ ง สมมุตวิ ่าสถานีวทิ ยุโทรทัศน์ไทยทวี ีชอ่ ง 3 ตอ้ งการถ่ายทอดงานพธิ ีส�ำ คัญของ จงั หวดั ภูเก็ต เพ่อื เผยแพร่ไปยงั ผู้ชมทั่วประเทศ รถถ่ายทอดสด OB VAN หรอื SNG ซ่งึ มีอุปกรณ์ สำ�หรบั ถา่ ยทำ� รายการโทรทัศนแ์ ละส่งสัญญาณไมโครเวฟครบชุดก็จะทำ�การถา่ ยทอดภาพและเสียง ของเหตกุ ารณ์ ตา่ งๆ ทีเ่ กดิ ขึน้ เป็นสญั ญาณโทรทศั น์ นำ�สญั ญาณท่ีได้ไปรวมกบั คลืน่ พาหไ์ มโครเวฟซ่งึ มี ความถ่ี 6 GHz ในระบบ C-band แล้วยิงสญั ญาณข้นึ ไปยังดาวเทยี ม เมือ่ ดาวเทยี มได้รับสญั ญาณ จะ ขยายสญั ญาณให้แรงขึน้ ด้วยอุปกรณข์ ยายสัญญาณทมี่ กี ารรบกวนต่�ำ เรียกวา่ LNA จากนน้ั เปล่ยี น ให้ เป็นความถี่ 4 GHz แลว้ ส่งกลบั มายงั จานรบั สัญญาณดาวเทียมซึ่งตดิ ตงั้ อย่ทู ส่ี ถานภี าคพื้นดินเขต หนองแขม เพ่ือเปลีย่ นแปลงความถี่ 4 GHz ดังกล่าวใหเ้ ปน็ สญั ญาณภาพและสญั ญาณเสียง ทำ�การ ตัด ตอ่ ใสภ่ าพผู้ประกาศหรอื คั่นด้วยโฆษณาและแพรภ่ าพจากเสาอากาศไปยังผู้ชมต่อไป ดาวเทยี มไทยคม ดาวเทียมไทยคมมีมลู คา่ ถึง 5,500 ลา้ นบาท เรมิ่ ต้นจากในปี พ.ศ. 2526 รฐั บาลตอ้ งการให้มี ดาวเทยี มเป็นของตนเอง โดยประสงคจ์ ะใหเ้ อกชนเขา้ ร่วมลงทุนในปี พ.ศ.2533 จงึ ได้เปิดโอกาสใหม้ ี การแขง่ ขนั ประกวดราคาว่ารฐั สมควรจะไดป้ ระโยชนอ์ ะไรบา้ งจากดาวเทียม ผลสุดท้ายกระทรวง คมนาคมได้เซน็ สญั ญาอยา่ งเปน็ ทางการให้กับบรษิ ทั ชนิ วตั รคอมพวิ เตอร์แอนด์ คอมมิวนเิ คชน่ั จำ�กัด เป็นผูไ้ ดร้ ับสัมปทานในวันท่ี 6 กันยายน พ.ศ. 2534 โยกระทรวงคมนาคมเปน็ เจา้ ของโครงการตวั ดาวเทียมและสถานคี วบคุมภาคพื้นดนิ รวมถงึ อปุ กรณ์ต่างๆ ที่เปน็ ทรัพยส์ ิน ของรัฐ สว่ นบรษิ ทั ชนิ วัตร คอมพิวเตอร์จะท�ำ หนา้ ท่ใี นการจัดสรา้ งและสง่ ดาวเทียมข้ึนสู่วงโคจร ในอวกาศตลอดจนการบริหาร โครงการ และการให้บรกิ ารวงจรดาวเทยี มโดยมอี ายสุ ัมปทานเปน็ เวลา 30 ปี และตอ้ งจ่ายเงนิ ประกัน รายไดข้ ัน้ ต�ำ่ ใหแ้ กร่ ฐั เปน็ เงนิ 1,415 ลา้ นบาท บรษิ ทั ชินวัตร คอมพิวเตอร์ซึง่ ตอ่ มาไดจ้ ัดตั้งเปน็ บริษัทชนิ วตั รแซทเทลิ ไลท์ ได้ส่ังผลผลิต ดาวเทียมไปเม่ือวันท่ี 8 ตุลาคม พ.ศ. 2534 โดยเลือกดาวเทยี มร่งุ HS-376 จ านวน 2 ดวง เพราะเห็น ว่ามขี นาดเล็กนำ้�หนักเบาและมีประสทิ ธิภาพสงู ทสี่ ุด ผผู้ ลิตคือ บริษทั ฮิวสแ์ อร์ครา๊ ฟ มี ช่องสญั ญาณ ใช้งาน 12 ทรานสปอนเดอร์ แบ่งเปน็ ย่าน C-band 10 ช่อง และ Ku-band 2 ช่อง ดาวเทียมดวงแรก สง่ ข้นึ ไปในอวกาศเมอ่ื วันท่ี 17 ธนั วาคม พ.ศ. 2536 ณ ตำ�แหน่งสงู จากพน้ื ดิน เหนือเสน้ ศูนยส์ ตู ร 35,786 กิโลเมตร ไทยคม 1 ท ามุม 78.5 องศาตะวนั ออก ส่วนไทยคม 2 ท�ำ มมุ 120 องศาตะวันออก 95


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook