Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore E-book วงจรการวิเคราะห์ระบบงาน

E-book วงจรการวิเคราะห์ระบบงาน

Published by ครูนวล, 2019-06-27 23:45:15

Description: E-book วงจรการวิเคราะห์ระบบงาน

Keywords: computer

Search

Read the Text Version

บทที่ 2 วงจรการวเิ คราะห์ระบบงาน ในการพฒั นาระบบน้นั ไดม้ ีการกาหนดใหเ้ ป็ นไปในทิศทางเดียวกนั และกาหนดข้ึนตอนท่ีเป็ น แนวทางในนกั วิเคราะห์ระบบปฏิบตั ิงานไดโ้ ดยมีขอ้ บกพร่องนอ้ ยท่ีสุด เพราะงานการวิเคราะห์ระบบใน ปัจจุบนั มีความซับซ้อนของงานมากกว่าสมยั ก่อน นกั วิเคราะห์ระบบจึงตอ้ งการมาตรฐานในการพฒั นา ระบบดงั กล่าว จึงไดม้ ีการคิดคน้ วงจรการพฒั นาระบบงานข้ึนเพื่อตอบสนองความตอ้ งการของนกั วิเคราะห์ ระบบ (System Analysis : SA) วงจรการพฒั นาระบบงานสาหรับระบบงานทว่ั ไป วงจรการพฒั นาระบบงาน (System Development Life Cycle : SDLC) สาหรับระบบทว่ั ไปท่ีไดม้ ี การคิดคน้ ข้ึนมา สามารถแบ่งออกเป็นลาดบั ข้นั ได้ 4 ข้นั ตอน คือ 1. การวิเคราะห์ระบบงาน เป็ นข้ึนตอนของการศึกษาระบบงานเดิมท่ีใช้ในปัจจุบนั (Current System) ปัญหาท่ีเกิดจากระบบงานเดิม ตลอดจนการศึกษาถึงความตอ้ งการของธุรกิจ (Business Needs and Requirements) พร้อมกบั การประเมินเหตุการณ์ต่าง ๆ เพือ่ หาทางเลือกที่เหมาะสมมาแกป้ ัญหา 2. การออกแบบและวางระบบงาน เป็ นข้ึนตอนหลงั จากการวเิ คราะห์ระบบงานซ่ึงเป็ นข้ึนตอนที่ นกั วเิ คราะห์ระบบจะตอ้ งวางโครงสร้างของระบบงาน ในรูปลกั ษณะทว่ั ๆ ไปและในรูปลกั ษณะเฉพาะโดย มีการแจกแจงรายละเอียดท่ีแน่ชดั ของแต่ละงาน หรือระบบงานยอ่ ยของระบบท่ีไดอ้ อกแบบข้ึนจะถูกส่ง ต่อไปให้กบั โปรแกรมเมอร์เพื่อจะได้ทาการเขียนโปรแกรมให้เป็ นระบบที่ปฏิบตั ิงานได้จริงในข้ึนตอน ตอ่ ไป 3. การนาระบบเข้าสู่ธุรกจิ หรือผ้ใู ช้ เป็ นข้ึนตอนท่ีนาเอาระบบงานมาติดต้งั (Install) ให้กบั ผใู้ ช้ และ เพื่อให้แน่ใจวา่ ระบบงานสามารถปฏิบตั ิงานไดต้ รงตามวตั ถุประสงคร์ ะบบงานจะตอ้ งถูกทาการตรวจสอบ มาอยา่ งดี พร้อมกบั การฝึ กอบรม (Education and Training) ให้ผใู้ ชร้ ะบบสามารถใชร้ ะบบงานไดอ้ ยา่ งมี ประสิทธิภาพและถูกตอ้ ง 4. การดาเนินการสนับสนุนภายหลงั การติดต้ังระบบงาน เป็นข้นั ตอนที่ระบบงานใหม่ไดถ้ ูกนามา ติดต้งั แลว้ ผใู้ ชร้ ะบบอาจจะยงั ไมค่ ุน้ เคยกบั การทางานในระบบใหมน่ กั วเิ คราะห์ระบบควรจะใหค้ าแนะนา อยา่ งตอ่ เน่ือง เพือ่ ช่วยเหลือผใู้ ชร้ ะบบในการปฏิบตั ิงานท้งั น้ีรวมถึงความตอ้ งการตา่ ง ๆ ท่ีอาจจะเกิดข้ึนหรือ เปลี่ยนแปลงไปภายหลงั จากระบบไดถ้ ูกติดต้งั ซ่ึงนกั จะเก่ียวขอ้ งกบั การบารุงรักษาระบบงาน(SystemMaintenance) และการปรับปรุงระบบงาน(SystemImprovement)เมื่อความตอ้ งการเปลี่ยนแปลงไปและระบบงานที่กาลงั ปฏิบตั ิอยู่ เป็นประจาจาเป็นตอ้ งปรับปรุงใหม่ นกั วเิ คราะห์ระบบจะตอ้ งกลบั ไปเริ่มตน้ ที่ข้นั ท่ี 1 ใหม่ และจะเป็นเช่นน้ี เรื่อยๆ ไป ถา้ เกิดความเปล่ียนแปลงของระบบ

วงจรการพฒั นาระบบงานสาหรับระบบสารสนเทศ วงจรการพฒั นาระบบงาน (System Development Life Cycle : SDLC) ของระบบสารสนเทศ ไดม้ ี การคิดคน้ ข้ึนมาโดยมีข้ึนตอนท่ีแตกต่างไปจากวงจรการพฒั นาระบบงานสาหรับระบบงานทว่ั ไป ตรงท่ีมี ข้นั ตอนในการพฒั นาระบบงานที่ละเอียดวา่ ถึง 7 ข้นั ตอน ซ่ึงนกั วเิ คราะห์ระบบตอ้ งทาความเขา้ ใจวา่ ในแต่ ละข้นั ตอนวา่ ทาอะไรและทาอยา่ งไร สามารถแบง่ ออกเป็นลาดบั ข้นั ตอนดงั น้ี คือ ภาพที่ 2.1 แสดงวงจรกิจกรรมต่าง ๆ ในแตล่ ะข้นั ตอน ต้งั แตต่ น้ จนเสร็จเป็นระบบงานที่ใชไ้ ด้ 1. คน้ หาปัญหา โอกาสและเป้ าหมาย (Identifying Problems, Opportunity and Objective) 2. ศึกษาความเป็นไปได้ (Feasibility Study) 3. วเิ คราะห์ความตอ้ งการของระบบ (Analyzing System Needs) 4. การออกแบบระบบ (Designing the Recommended System) 5. พฒั นาซอฟตแ์ วร์และจดั ทาเอกสาร (Developing and Documenting Software) 6. ทดสอบและบารุงรักษาระบบ (Testing and Maintaining the System) 7. ดาเนินงานและประเมินผล (Implementing and evaluating the System) 1. ค้นหาปัญหา โอกาสและเป้ าหมาย (Identifying Problems, Opportunity and Objective) ระบบสารสนเทศ จะเกิดข้ึนไดก้ ต็ อ่ เม่ือผบู้ ริหารหรือผใู้ ชต้ ระหนกั วา่ ตอ้ งการระบบสารสนเทศ หรือตอ้ งแกไ้ ขระบบเดิม โดยมี ข้นั ตอนดงั น้ี 1.1 นกั วเิ คราะห์และออกแบบระบบ ตอ้ งศึกษาระบบโดยละเอียด เพ่อื ใหเ้ ขา้ ใจถึงปัญหาที่เกิดข้ึนใน องค์กร ตวั อยา่ งปัญหา เช่น บริษทั ก เปิ ดสาขาเพ่ิมมากข้ึน ระบบเดิมไม่ไดค้ รอบคลุมถึงการขยายตวั ของ บริษทั บริษทั ข เก็บขอ้ มูลผขู้ ายไดเ้ พียง 1,000 ราย แต่ปัจจุบนั ระบบน้ีมีขอ้ มูลผขู้ าย 900 ราย และในอนาคต จะมีเกิน 1,000 ราย

ระบบสารสนเทศในองคก์ รหลายๆ แห่งในปัจจุบนั ท่ีใชม้ านานแลว้ และใชเ้ พื่อติดตามเรื่องการเงินเทา่ น้นั ไมไ่ ดม้ ีจุดประสงคเ์ พ่ือใหเ้ ป็ นสารสนเทศเพื่อตดั สินใจ 1.2 พยายามหาโอกาสในการปรับปรุงวธิ ีการทางานโดยการใชร้ ะบบคอมพวิ เตอร์ 1.3 นกั วิเคราะห์และออกแบบระบบ ตอ้ งมองเป้ าหมายให้ชดั เจน เพื่อจะไดร้ ู้ทิศทางของการทา ระบบใหเ้ ป็นไปตามเป้ าหมายท่ีวางไว้ เช่น ตอ้ งการแข่งขนั กบั คู่แข่งในเรื่องการลดตน้ ทุนในการผลิตสินคา้ โดยการลดจานวนการสตอ็ กวตั ถุดิบ ดงั น้นั นกั วเิ คราะห์และออกแบบระบบ จะเห็นถึงปัญหา โอกาส และ เป้ าหมายในการนาระบบคอมพิวเตอร์เขา้ ไปใช้ในการเก็บขอ้ มูลสต็อกวตั ถุดิบ และประมวลผลการส่ัง วตั ถุดิบ เป็นตน้ 2. ศึกษาความเป็ นไปได้ (Feasibility Study) 2.1 กาหนดวา่ ปัญหาคืออะไร และตดั สินใจวา่ จะพฒั นาสร้างระบบสารสนเทศใหม่หรือการแกไ้ ข ระบบสารสนเทศเดิมมีความเป็นไปไดห้ รือไม่ โดยเสียค่าใชจ้ า่ ยและเวลานอ้ ยท่ีสุด 2.2 นกั วเิ คราะห์และออกแบบระบบ ตอ้ งกาหนดใหไ้ ดว้ า่ การแกป้ ัญหาน้นั 2.2.1 มีความเป็ นไปไดท้ างเทคนิคหรือไม่ เช่น จานวนเคร่ืองคอมพิวเตอร์ที่มีอยเู่ พียงพอ หรือไม่ ซอฟตแ์ วร์แกไ้ ขไดห้ รือไม่ 2.2.2 มีความเป็ นไปไดท้ างบุคลากรหรือไม่ เช่น มีบุคคลท่ีเหมาะสมที่จะพฒั นาและติดต้งั ระบบหรือไม่ ผใู้ ชม้ ีความคิดเห็นอยา่ งไรกบั การเปลี่ยนแปลง 2.2.3 มีความเป็ นไปไดท้ างเศรษฐศาสตร์หรือไม่ เช่น มีเงินลงทุนหรือไม่ค่าใชจ้ ่ายในการ วเิ คราะห์และออกแบบ คา่ ใชจ้ า่ ยในดา้ นเวลาท่ีตอ้ งใชใ้ นการพฒั นาระบบ ดงั น้นั ในการศึกษาความเป็ นไปได้ น้นั สามารถสรุปไดด้ งั ตอ่ ไปน้ี คือ หนา้ ท่ี : กาหนดปัญหาและศึกษาวา่ เป็นไปไดห้ รือไม่ท่ีจะเปล่ียนแปลงระบบ ผลลพั ธ์ : รายงานความเป็นไปได้ เครื่องมือ : เก็บรวบรวมขอ้ มูลของระบบและคาดคะเนความตอ้ งการของระบบ บุคลากรและหนา้ ที่รับผดิ ชอบ :นกั วเิ คราะห์และออกแบบระบบตอ้ งเก็บรวบรวมขอ้ มลู ท้งั หมดที่จาเป็น นกั วิเคราะห์และออกแบบระบบ ตอ้ งคาดคะเนความตอ้ งการของระบบและแนวทางแกไ้ ขปัญหา นกั วเิ คราะห์และออกแบบระบบ กาหนดความตอ้ งการท่ีแน่ชดั เพ่ือใชใ้ นการวเิ คราะห์ระบบ โดยท่ี ผบู้ ริหารจะตดั สินใจวา่ จะดาเนินโครงการต่อไปหรือไมห่ รือยกเลิกโครงการ 3. วเิ คราะห์ความต้องการของระบบ (Analyzing System Needs) 3.1 เร่ิมต้งั แต่ศึกษาการทางานของธุรกิจเดิม วา่ ทางานอยา่ งไร 3.2 กาหนดความตอ้ งการของระบบใหม่ 3.3 เคร่ืองมือ : Data Dictionary, DFD, Process Specification, Data Model, Prototype 3.4 บุคลากรและหนา้ ท่ี : ผใู้ ชต้ อ้ งใหค้ วามร่วมมือ

3.5 นกั วิเคราะห์และออกแบบระบบศึกษาเอกสารที่มีอยู่ และศึกษาระบบเดิมเพื่อให้เขา้ ใจข้นั ตอน การทางานของระบบ 3.6 นกั วเิ คราะห์และออกแบบระบบเตรียมรายงานความตอ้ งการของระบบใหม่ 3.7 นกั วเิ คราะห์และออกแบบระบบเขียนแผนภาพการทางาน (DFD) ของระบบเดิมและระบบใหม่ 3.8 นกั วเิ คราะห์และออกแบบระบบสร้าง Prototype ข้ึนมาก่อน 4. ออกแบบระบบ (Designing the Systems) 4.1 ออกแบบระบบใหมเ่ พื่อใหส้ อดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของผใู้ ชแ้ ละผบู้ ริหาร 4.2 บุคลากรหนา้ ที่ : 4.2.1 นกั วเิ คราะห์และออกแบบระบบตดั สินใจเลือกฮาร์ดแวร์และซอฟตแ์ วร์ 4.2.2 นกั วิเคราะห์และออกแบบระบบออกแบบขอ้ มูล เขา้ รายงานการแสดงผลบนหนา้ จอ ออกแบบฐานขอ้ มลู 4.2.3 นกั วเิ คราะห์และออกแบบระบบกาหนดจานวนบุคลากรในระบบ 5. พฒั นาซอฟต์แวร์และจัดทาเอกสาร (Developing and Documenting Software) 5.1 เขียนโปรแกรม จดั ทาคูม่ ือการใชโ้ ปรแกรม และฝึกอบรมผใู้ ชท้ ่ีเก่ียวขอ้ งในระบบ 5.2 บุคลากรและหนา้ ที่ : 5.2.1 นกั วเิ คราะห์และออกแบบระบบเตรียมสถานที่และการติดต้งั เคร่ืองคอมพิวเตอร์ 5.2.2 นกั วเิ คราะห์และออกแบบระบบวางแผนและดูแลการเขียนโปรแกรม 5.2.3 โปรแกรมเมอร์เขียนโปรแกรม 5.2.4 นกั วเิ คราะห์และออกแบบระบบดูแลการเขียนคูม่ ือการใชโ้ ปรแกรมและการฝึกอบรม 6. ทดสอบและบารุงรักษาระบบ (Testing and Maintaining the System) 6.1 นกั วเิ คราะห์และออกแบบระบบและทีมงานทดสอบโปรแกรม 6.2 ผใู้ ชต้ รวจสอบวา่ โปรแกรมทางานตามท่ีตอ้ งการ 6.3 ถา้ เกิดขอ้ ผดิ พลาดของโปรแกรม ใหป้ รับปรุงแกไ้ ข 6.4 เมื่อทดสอบโปรแกรมแลว้ โปรแกรมไมเ่ ป็นไปตามความตอ้ งการ อาจตอ้ งแกไ้ ขปรับปรุงใหม่ 6.5 การบารุงรักษา ส่วนใหญ่เป็ นการแกไ้ ขโปรแกรมหลงั จากใชง้ านแลว้ เน่ืองจาก มีปัญหาใน โปรแกรม (Bug) ธุรกิจเกิดการเปล่ียนแปลงไป เช่น ธุรกิจขยายตวั ธุรกิจสร้างสินคา้ ตวั ใหม่ความตอ้ งการ ของระบบก็เพ่ิมข้ึน รายงานเพ่ิมข้ึน การเปลี่ยนแปลงทางฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ความตอ้ งการผใู้ ช้มี เพ่ิมข้ึน 40-60 % ของค่าใชจ้ า่ ยในการพฒั นาระบบจะใชใ้ นการบารุงรักษาระบบ 7. ดาเนินงานและประเมิน (Implementing and evaluating the System) 7.1 ติดต้งั ระบบใหพ้ ร้อม 7.2 นาระบบใหมม่ าใชแ้ ทนระบบเดิม

7.3 ใชร้ ะบบใหม่ควบคู่กบั ระบบเดิมสักระยะหน่ึง แลว้ ดูผลลพั ธ์วา่ ตรงกนั หรือไม่ถา้ ใชง้ านดี ก็เลิก ใชร้ ะบบเดิม และใชร้ ะบบใหม่ 7.4 นกั วิเคราะห์และออกแบบระบบทาการประเมินผล เพื่อให้ทราบถึงความพอใจของผใู้ ชร้ ะบบ หรือสิ่งท่ีตอ้ งแกไ้ ขปรับปรุง หรือปัญหาที่พบ หลกั ความสาเร็จของการพฒั นาระบบงาน หลกั การทาให้การพฒั นาระบบงานประสบความสาเร็จ ซ่ึงนักวิเคราะห์ระบบควรรู้ถึงหลกั การ เหล่าน้ีดว้ ย หลกั ความสาเร็จของการพฒั นาระบบ ไดแ้ ก่ 1. ระบบเป็ นของผู้ใช้ นกั วเิ คราะห์ระบบควรระลึกเอาไวเ้ สมอวา่ ระบบเป็ นของผใู้ ช้ ซ่ึงจะเป็ นผทู้ ่ี นาเอาระบบและผลงานที่ไดท้ าการออกแบบไวไ้ ปใชแ้ ละก่อให้เกิดประโยชน์ต่อระบบธุรกิจของเข่า ผใู้ ช้ ระบบจึงมีส่วนสาคญั ท่ีจะผลกั ดนั ให้การพฒั นาระบบงานเป็ นไปอยา่ งถูกตอ้ ง และเพื่อตอบสนองกบั ความ ตอ้ งการที่แทจ้ ริง นกั วเิ คราะห์ระบบจะตอ้ งนาเอาความเห็นของผใู้ ชร้ ะบบมาเกี่ยวขอ้ งในทุกข้นั ตอนของการ พฒั นาระบบ ในวงจรการพฒั นาระบบงานจะตอ้ งมีบทบาทของผใู้ ชร้ ะบบอยู่เสมอทุกข้นั ตอน การมีส่วน ร่วมในการพฒั นาระบบของผูใ้ ช้ระบบ จะทาให้ผูใ้ ช้ระบบรู้สึกเป็ นส่วนหน่ึงของระบบและจะลด แนวความคิดท่ีวา่ ผใู้ ช้ระบบถูกยดั เยียดงานใหม่ท่ีพฒั นาข้ึนโดยอตั โนมตั ิ แรงต่อตา้ นของระบบงานก็จะ ลดลง 2. ทาการจัดต้งั และแบ่งกล่มุ ของระบบออกเป็ นกลุ่มงานย่อย กลุ่มงานยอ่ ย ๆ ซ่ึงแบ่งออกจากระบบ ใหญ่ ตามวงจรการพฒั นาระบบงาน ไดแ้ บง่ ข้นั ตอนของการทางานเป็นกลุ่มยอ่ ย 4 ข้นั ตอน ดงั น้ี ข้นั ตอนการวเิ คราะห์ระบบงาน (System Analysis) ข้นั ตอนการออกแบบและวางระบบงาน (System Analysis) ข้นั ตอนการนาระบบงานเขา้ สู่ธุรกิจเพือ่ ใชป้ ฏิบตั ิงานจริง (System Implementation) ข้นั ตอนการติดตามและดาเนินการภายหลงั การติดต้งั ระบบงาน (System Support) สาเหตุท่ีตอ้ งมีการจดั แบ่งกลุ่มออกเป็ นกลุ่มย่อยๆ น้นั เพื่อที่จะใหผ้ บู้ ริหารโครงการหรือผพู้ ฒั นา ระบบงานสามารถควบคุมความคืบหนา้ ของการพฒั นาระบบไดอ้ ยา่ งใกลช้ ิด และสามารถท่ีจะกาหนดและ ควบคุมระยะเวลาที่ใชใ้ นการพฒั นาระบบไดด้ ีข้ึนอีกดว้ ย 3. ข้ันตอนการพฒั นาระบบงานไม่ใช่แบบอนุกรม (Sequential Process) ข้นั ตอนในการพฒั นาระบบงานท่ีได้ กล่าวมา 2 ขอ้ แรกน้นั สามารถจะทาซ้อนกนั ไดใ้ นลกั ษณะที่ไม่จาเป็ นจะตอ้ งรอใหข้ ้นั ตอนแรกทางานเสร็จ ก่อนจึงจะทางานในข้นั ตอนต่อไป ท้งั น้ีจะตอ้ งข้ึนอยกู่ บั ความเหมาะสมดว้ ย โดยบางข้นั ตอน จะตอ้ งรอให้ การทางานเสร็จ สมบรู ณ์ก่อนจึงจะสามารถทางานในข้นั ตอ่ ไปได้ 4. ระบบงานข้อมูลถือเป็ นการลงทุนอย่างหนึ่ง การพฒั นาระบบงาน ถือเป็ นการลงทุนอยา่ งหน่ึง ซ่ึงไม่ แตกตา่ งจากการลงทุนซ้ือสินคา้ มาทาการขายต่อใหผ้ บู้ ริโภค ส่ิงที่นกั วิเคราะห์ระบบควรจะตอ้ งคานึงถึง คือ ทางเลือกต่างๆ ท่ีจะนาเงินไปลงทุน ซ่ึงควรคิดทางเลือกของการพฒั นาระบบงานในหลายๆ งานและ

พิจารณาถึงความเป็ นไปไดต้ ่างๆ รวมถึงการเปรียบเทียบตน้ ทุนและผลกาไรที่จะเกิดจากระบบงาน ว่า ระบบงานน้นั ๆ คุม้ คา่ ที่จะทาการลงทุนหรือไม่ 5. อย่ากลวั ที่จะต้องยกเลิก ทุกข้นั ตอนของวงจรการพฒั นาระบบงานจะตอ้ งมีการศึกษาถึงความเป็ นไปได้ (Feasibility Study) ของระบบงาน นกั วิเคราะห์ระบบจะมีโอกาสเสมอที่จะตดั สินใจวา่ จะให้ระบบงานน้นั ดาเนินตอ่ ไปหรือยกเลิกระบบที่ไดม้ ีการพฒั นาข้ึน ความรู้สึกของนกั วเิ คราะห์ระบบท่ีจะตอ้ งถูกยกเลิกงานที่ ทามาต้งั แตต่ น้ ซ่ึงไม่ใช่เรื่องง่ายท่ีจะศึกษาวเิ คราะห์ออกแบบจนออกมาเป็ นระบบงานใดงานหน่ึงคงจะเป็ น ความรู้สึกที่ไม่ดีนกั และไม่มีนกั วเิ คราะห์ระบบคนใดท่ีอยากจะเจอกบั เหตุการณ์แบบน้ี แต่เม่ือการพฒั นา ระบบงานไม่สามารถจะทาใหเ้ ป็นไปตามความตอ้ งการของผใู้ ชร้ ะบบได้ การยกเลิกโครงการหรือระบบงาน ก็เป็ นสิ่งที่จาเป็ น ข้อเสียต่อความกลวั ทีจ่ ะต้องยกเลกิ ระบบงาน คือ สุดทา้ ยแลว้ ระบบงานน้นั ก็จะตอ้ งทาการยกเลิกอยดู่ ี เม่ือ พยายามจะ หลีกเลี่ยงการยกเลิกระบบงานการดนั ทุรังใหร้ ะบบงานที่ควรจะยกเลิกให้ทางานต่อไป จะตอ้ งใช้ เงินเป็ นจานวนมากไปลงทุนเพ่ิมในระบบที่ไม่ควรจะลงทุน ใช้เวลาและจานวนคนเพ่ิมมากข้ึน ทาให้ งบประมาณบานปลาย จนไม่สามารถที่จะควบคุมได้ 6. ทุกข้ันตอนของการพัฒนาระบบงานต้องมีการจัดทาเอกสารเพื่อใช้อ้างอิงเสมอ การขาดการทาเอกสาร ประกอบหรือเอกสารอา้ งอิงมกั จะส่งผลให้เกิดขอ้ ผดิ พลาดต่อระบบงานและต่อนกั วิเคราะห์ระบบ เพราะ การจดั ทาเอกสารมกั จะถูกมองขา้ มไป เนื่องจากเห็นวา่ การจดั ทาเอกสารเป็ นส่ิงที่เสียเวลา แมก้ ระทงั่ ในส่วน ของโปรแกรมเอง โปรแกรมเมอร์มกั จะไม่นิยมเขียนคาอธิบายการทางานเล็กๆ นอ้ ยๆ ว่าโปรแกรมส่วน น้นั ๆ ทาอะไร เพื่ออะไร ท้งั น้ีเป็ นการยากลาบากสาหรับการกลบั มาแกไ้ ขโปรแกรมในข้นั ตอนต่าง ๆ ซ่ึงมี ผลทาใหก้ ารบารุงรักษาระบบเป็ นการยากและเสียเวลา บางคร้ังอาจจะไม่สามารแกไ้ ขระบบไดถ้ ึงขนาดที่ จะตอ้ งเร่ิมการศึกษาวเิ คราะห์และออกแบบระบบกนั ใหม่ การจดั ทาเอกสารในที่น้ี หมายรวมถึงการบนั ทึก เหตุการณ์ตา่ งๆ และแนวความคิด รวมท้งั ขอ้ สรุปท่ีเกิดข้ึนในแต่ละข้นั ตอนของการพฒั นาระบบงานดว้ ย

แบบทดสอบและกจิ กรรมการฝึ กทกั ษะ บทท่ี 2 วงจรการวเิ คราะห์ระบบงาน ตอนท่ี 1 อธิบาย (หมายถึง การใหร้ ายละเอียดเพมิ่ เติม ขยายความ ถา้ มีตวั อยา่ งใหย้ กตวั อยา่ งประกอบ) 1.วงจรการพฒั นาระบบงานสาหรับระบบงานทว่ั ไปมีกี่ข้นั ตอน อะไรบา้ ง 2.อธิบายการออกแบบระบบงานสาหรับวงจรการพฒั นาระบบงานทว่ั ไป 3.อธิบายความแตกต่างระหวา่ งวงจรการพฒั นาระบบงานสาหรับระบบงานทว่ั ไปกบั วงจรการพฒั นา ระบบงานสาหรับระบบสารสนเทศ 4.เครื่องมือที่ใชใ้ นข้นั ตอนการวเิ คราะห์ระบบมีอะไรบา้ ง จงอธิบาย 5. อธิบายข้นั ตอนการพฒั นาระบบงานที่ไมใ่ ช่แบบอนุกรม ตอนที่ 2 อธิบายศัพท์ (หมายถึง การใหร้ ายละเอียดเพ่ิมเติม ขยายความ ถา้ มีตวั อยา่ งใหย้ กตวั อยา่ งประกอบ) 1.System Development Life Cycle 2. System Improvement 3.Objective 4.Feasibility Study 5. System Support 6.Bug 7. Identifying Problems 8. System Analysis 9. System Implementation 10. Install

คาศัพท์ บทท่ี 2 วงจรการวเิ คราะห์ระบบงาน System Development Life Cuycle:SDLC วงจรการพฒั นาระบบงาน Business Needs and Requirements ความตอ้ งการของธุรกิจ System Maintenance การบารุงรักษาระบบงาน System Improvement การปรับปรุงระบบงาน Identifying Problems Opportunity ปัญหา Objective โอกาส Feasibility Study เป้ าหมาย Analyzing System Needs ศึกษาความเป็ นไปได้ วเิ คราะห์ความตอ้ งการของระบบ Developing and Documenting Software การพฒั นาซอฟตแ์ วร์และการจดั ทาเอกสาร Testing and Maintaining the System การทดสอบและบารุงรักษาระบบ ปัญหาในโปรแกรม Bug การดาเนินงานและประเมินผล Implementing and Evaluating the System ข้นั ตอนการวเิ คราะห์ระบบงาน ข้นั ตอนการนาระบบงานมาใชจ้ ริง System Analysis ข้นั ตอนการติดตามภายหลงั การติดต้งั ระบบ System Implementation ข้นั ตอนการพฒั นาระบบไม่ใช่แบบอนุกรม System Support Sequential Process


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook