11/JUIY/2017บทท่ี 9 ระบบสารสนเทศ วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษานครราชสีมา PANITSUPA.
เทคโนโลยีสารสนเทศ 109บทท่ี 10 ระบบสารสนเทศ ในปัจจุบนั ระบบสารสนเทศมีความสาคญั และความจาเป็นอยา่ งยิง่ ในการดาเนินงานของหน่วยงานต่างๆ ไมว่ า่ จะเป็น หน่วยงานรัฐบาลหรือเอกชน โดยอาศยั กระบวนขอ้ มูลข่าวสารที่มีอยู่ กระบวนที่ทาใหเ้ กิดสารสนเทศน้ีเรียกวา่ การประมวลผลสารสนเทศ (Information Technology) และเรียกวธิ ีการประมวลผลสารสนเทศดว้ ยเครื่องมือทางอิเลก็ ทรอนิกส์ น้ีวา่ เทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยีสารสนเทศ มากจากคา 2 คา นนั่ คือ เทคโนโลยี และ สารสนเทศเทคโนโลยี หมายถึง การนาเอาความรู้ทางดา้ นวทิ ยาศาสตร์มาประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ กิดประโยชน์สารสนเทศ หมายถึง ขอ้ มูลที่ผ่านการประมวลผลแลว้ การประมวลผลท่ีวา่ น้ี เช่น การวเิ คราะห์ การจดั ลาดบัการเรียงขอ้ มูล เป็นตน้10.1 ความรู้เบื้องต้นเกย่ี วกับระบบสารสนเทศ 10.1.1 ความหมายของระบบสารสนเทศ ระบบสารสนเทศ (Information System ) หมายถึง ระบบท่ีมีการนาคอมพิวเตอร์ มาช่วยในการรวบรวม จดั เกบ็ หรือจดั การกบั ขอ้ มูลข่าวสารเพ่ือใหข้ อ้ มูลน้นั กลายเป็นสารสนเทศท่ีดี สามารถนาไปใชใ้ นการประกอบการตดั สินใจไดใ้ นเวลาอนั รวดเร็วและถูกตอ้ ง ระบบสารสนเทศประกอบดว้ ยองคป์ ระกอบดงั น้ี 1. Hardware หมายถึงอุปกรณ์ท่ีเกี่ยวขอ้ งในการจดั กระทากบั ขอ้ มูล ท้งั ที่เป็นอปุ กรณ์คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อ่ืน ๆ เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ เคร่ืองคิดเลข 2. Software หมายถึง ชุดคาสงั่ หรือเรียกใหเ้ ขา้ ง่ายวา่ โปรแกรม ท่ีสามารถ สง่ั การใหค้ อมพิวเตอร์ทางานในลกั ษณะที่ตอ้ งการภายใตข้ อบเขตความสามารถที่เครื่องคอมพิวเตอร์ หรือโปรแกรมน้นั ๆ สามารถทาได้ ซอร์ฟแวร์แบ่งออกเป็น ซอร์ฟแวร์ระบบ และ ซอร์ฟแวร์ประยกุ ต์ 3. User หมายถึง กลุ่มผคุ้ นท่ีทางานหรือเกี่ยวขอ้ งกบั ระบบสารสนเทศ 4. Data หมายถึง ขอ้ เทจ็ จริงต่าง ๆ ท่ีอาจอยใู่ นรูปแบบต่าง ๆ ไม่วา่ จะเป็น ตวั หนงั สือ แสง สีเสียง สญั ญาณอิเลก็ ทรอนิกส์ ภาพ วตั ถุ หรือ หลาย ๆ อย่างผสมผสานกนั ซ่ึงขอ้ มูลที่ดีจะตอ้ งตรงกบั ความตอ้ งการของผใู้ ช้ 5. Procedure หมายถึง ข้นั ตอน กระบวนการต่าง ๆ ในการปฏิบตั ิงานในระบบสารสนเทศ 6. Network หมายถึง ระบบเครือข่าย ท่ีมีการเช่ือมโยงคอมพิวเตอร์ต่างๆ เขา้ หากนั เพื่อใหเ้ กิดโอนถา่ ยและแลกเปล่ียนขอ้ มูลระหวา่ งกนั เม่ือท้งั 6 ส่วนดงั กล่าวขา้ งตน้ ทางานประสานกนั ส่งผลใหข้ อ้ มูลเกิดการประมวลผลและนาไปใชป้ ระโยชน์ นนั่ กค็ ือ สารสนเทศนน่ั เอง ซ่ึงสารเสนทศน้ีจะเป็นสารสนเทศที่ดี จะตอ้ งเป็นสารสนเทศที่มี
ระบบสารสนเทศ 110ความถกู ตอ้ งตรงกบั ความตอ้ งการของผใู้ ชแ้ ละทนั เวลาในการใชง้ าน กลา่ วโดยสรุปก็คือ กระบวนการสารสนเทศเป็นกระบวนการที่ทาใหเ้ กิดสารเสนเทศข้ึนมานน่ั เอง 10.1.2 เป้าหมายของระบบสารสนเทศ เพมิ่ ประสิทธิภาพในการทางาน (Increase Work Efficiency) องคก์ รสามารถนาระบบสารสนเทศมาช่วยในการเพ่ิมประสิทธิภาพการทางานภายใตส้ ภาวะที่มีกาลงั คนและกาลงั การผลิตที่เท่าเดิม แต่ปริมารงานที่ทามีมากข้ึน การนาระบบสารสนเทศมาใชจ้ ะช่วยทาใหท้ างานสะดวก รวดเร็ว และมีความถกู ตอ้ งมากข้ึน เพม่ิ ผลติ ให้แกองค์กร (Increase Productivity) ตวั อยา่ งเช่นมีการนาระบบควบคุมการผลิตมาใช้ ทาใหอ้ งคก์ รสามารถผลิตสินคา้ หรือบริการไดม้ ากข้ึนเพียงพอต่อความตอ้ งการของตลาดเป็นตน้ เพม่ิ คุณภาพในการบริการลูกค้า (Increase service Quality) ระบบสารสนเทศถกู นามาใช้พฒั นาการใหบ้ ริการลูกคา้ เพ่ือเพิ่มความพึงพอใจในการใชบ้ ริการของลกู คา้ เช่น ระบบสอบถามและจองตว๋ัเคร่ืองบินผา่ นอินเตอร์เน็ต โดยที่ไมต่ อ้ งเดินทางมาเอง เป็นตน้ เพมิ่ ความได้เปรียบในการแข่งขัน (Increase Competitive Advantage) ขอ้ มูลนบั วา่ มีความสาคญั มาก ในทางธุรกิจ ดงั น้นั จึงจาเป็นที่จะตอ้ งมีการบริหารจดั การขอ้ มลู ที่ดี เพื่อนาเอาขอ้ มลู เหล่าน้นั มาใชใ้ นการสนบั สนุนการตดั สินใจ เพ่ือ นามาพฒั นา ปรับปรุงองคก์ ร 10.1.3 ประเภทระบบสารสนเทศมีงานหลายงานทางธุรกิจท่ีตอ้ งการใหเ้ กิดการทางานที่เป็นอตั โนมตั ิ ระบบสารสนเทศจึงเป็นส่ิงท่ีมีความจาเป็นมากข้ึน ระบบสารสนเทศที่นามาใชเ้ พื่อช่วยในการทางานน้นั มีหลายระบบ บางระบบอาจออกแบบมาเพ่ือช่วยใหส้ ามารถรวบรวมขอ้ มลู ไดร้ วดเร็ว บางระบบอาจถูกออกแบบมาเพ่ือช่วยในวเิ คราะหแ์ ละตดั สินใจ ระบบสารสนเทศเหล่าน้ีสามารถทางานไดเ้ สร็จภายในระบบยอ่ ยเพียงระบบเดียว หรือสามารถทางานร่วมกนั ในหลาย ๆ ระบบสาหรับองคก์ รที่มีขนาดใหญ่ระบบสารสนเทศสามารถแยกตามหนา้ ที่ที่แตกต่างกนั ไดด้ งั น้ี1. ระบบประมวลผลรายการประจาวนั (Transaction Processing System หรือ TPS)2. ระบบสานกั งานอตั โนมตั ิ (Office Automatic System หรือ OAS )3. ระบบสารสนเทศเพื่อการจดั การ (Management Information System หรือ MIS )4. ระบบสนบั สนุนการตดั สินใจ (Decision Support System หรือ DSS)5. ระบบสารสนเทศเพ่ือผบู้ ริหารระดบั สูง (Executive Information System หรือ EIS )6. ระบบผเู้ ช่ียวชาญ (Expert System หรือ ES )7. ระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ (Geographic Information System : GIS)8. ระบบสนบั สนุนการตดั สินใจแบบกลุ่ม (Group Decision Support System : GDSS)
เทคโนโลยีสารสนเทศ 11110.2 ระบบประมวลผลรายการประจาวนั (Transaction Processing System หรือ TPS) เป็นระบบสารสนเทศที่เก่ียวกบั การบนั ทึกและประมวลขอ้ มูลที่เกิดจากธุรกรรมหรือการปฏิบตั ิงานประจาหรืองานข้นั พ้ืนฐานขององคก์ าร เช่น การซ้ือขายสินคา้ การบนั ทึกจานวนวสั ดุคงคลงั เม่ือใดกต็ ามที่มีการทาธุรกรรมหรือปฏิบตั ิงานในลกั ษณะดงั กลา่ วขอ้ มูลท่ีเก่ียวขอ้ งจะเกิดข้ึนทนั ที เช่น ทุกคร้ังท่ีมีการขายสินคา้ขอ้ มูลที่เกิดข้ึนกค็ ือ ชื่อลูกคา้ ประเภทของลูกคา้ จานวนและราคาของสินคา้ ท่ีขายไป รวมท้งั วิธีการชาระเงินของลูกคา้ หน้าทข่ี อง TPS หนา้ ที่ของ TPS มีดงั น้ี (Haag et al.,2000:50) 1) การจดั กลุ่มของขอ้ มูล (Classification) คือ การจดั กลุ่มขอ้ มูลลกั ษณะเหมือนกนั ไวด้ ว้ ยกนั 2) การคิดคานวณ (Calculation) การคิดคานวณโดยใชว้ ิธีการคณิตศาสตร์ เช่น บวก ลบ คูณ หารเพ่ือใหไ้ ดผ้ ลลพั ธท์ ่ีเป็นประโยชน์ เช่น การคานวณภาษีขายท้งั หมดที่ตอ้ งจ่ายในช่วง 3 ปี ท่ีผา่ นมา 3) การเรียงลาดบั ขอ้ มูล (Sorting) การจดั เรียงขอ้ มลู เพื่อทาใหก้ ารประมวลผลง่ายข้ึน เช่น การจดั เรียงinvoices ตามรหสั ไปรษณียเ์ พื่อใหก้ ารจดั ส่งเร็วย่ิงข้ึน 4) การสรุปขอ้ มูล (Summarizing) เป็นการลดขนาดของขอ้ มูลใหเ้ ลก็ หรือกะทดั รัดข้ึน เช่น การคานวณเกรดเฉล่ียของนกั ศึกษาแต่ละคน 5) การเกบ็ (Storage) การบนั ทึกเหตุการณ์ท่ีมีผลต่อการปฏิบตั ิงาน อาจจาเป็นตอ้ งเกบ็ รักษาขอ้ มลู ไว้โดยเฉพาะขอ้ มูลบางประเภทที่จาเป็นตอ้ งเก็บรักษาไวต้ ามกฎหมาย ที่จริงแลว้ TPS เก่ียวขอ้ งกบั งานทุกระดบัในองคก์ าร แต่งานส่วนใหญ่ของ TPS จะเกิดข้ึนในระดบั ปฏิบตั ิการมากกวา่ แมว้ า่ TPS จะจาเป็นในการปฏิบตั ิงานในองคก์ ารแต่ระบบ TPS กไ็ ม่เพียงพอในการสนบั สนุนในการตดั สินใจของผบู้ ริหาร ดงั น้นั องคก์ ารจึงจาเป็นตอ้ งมีระบบอื่นสาหรับช่วยผบู้ ริหารดว้ ย ดงั จะกล่าวต่อไป ลกั ษณะสาคญั ของระบบสารสนเทศแบบ TPS ลกั ษณะท่ีสาคญั ของระบบ TPS มีดงั น้ี (Turban et al.,2001:277) • มีการประมวลผลขอ้ มลู จานวนมาก • แหลง่ ขอ้ มูลส่วนใหญ่มาจากภายในและผลท่ีไดเ้ พ่ือตอบสนองต่อผใู้ ชภ้ ายในองคก์ ารเป็นหลกัอยา่ งไรกต็ ามในปัจจุบนั หุน้ ส่วนทางการคา้ อาจจะมีส่วนในการป้อนขอ้ มูลและอนุญาตใหห้ น่วยงานท่ีเป็นหุน้ ส่วนใชผ้ ลท่ีไดจ้ าก TPS โดยตรง • กระบวนการประมวลผลขอ้ มูลมีการดาเนินการเป็นประจา เช่น ทุกวนั ทุกสัปดาห์ ทุกสองสัปดาห์ • มีความสามารถในการเกบ็ ฐานขอ้ มลู จานวนมาก • มีการประมวลผลขอ้ มูลท่ีรวดเร็ว เนื่องจากมีปริมาณขอ้ มลู จานวนมาก • TPS จะคอยติดตามและรวบรวมขอ้ มูลภายหลงั ท่ีผลิตขอ้ มลู ออกมาแลว้ • ขอ้ มลู ที่ป้อนเขา้ ไปและที่ผลิตออกมามีลกั ษณะมีโครงสร้างที่ชดั เจน (structured data) • ความซบั ซอ้ นในการคิดคานวณมีนอ้ ย
ระบบสารสนเทศ 112• มีความแม่นยาค่อนขา้ งสูง การรักษาความปลอดภยั ตลอดจนการรักษาขอ้ มูลส่วนบุคคลมี ความสาคญั เกี่ยวขอ้ งโดยตรงกบั TPS• ตอ้ งมีการประมวลผลท่ีมีความน่าเชื่อถือสูง Customer Integrated Systems (CIS) เป็นระบบสารสนเทศซ่ึงพฒั นามาจาก TPS โดยลกู คา้ สามารถป้อนขอ้ มูลและทาการประมวลผลดว้ ยตนเองได้ เช่น ATM (Automated teller machines) ซ่ึงช่วยใหล้ ูกคา้ สามารถติดต่อกบั ธนาคารไดท้ ุกท่ีและทุกเวลา ATM ทาใหล้ ูกคา้ มีความคล่องตวั ในการเขา้ ถึง มากข้ึน และทาใหธ้ นาคารไมจ่ าเป็นตอ้ งจา้ งพนกั งานจานวนมากอีกต่อไป ซ่ึงช่วยใหธ้ นาคารประหยดั เงินไดจ้ านวนหลายลา้ นบาทต่อปี ดงั น้นั บางธนาคารจึงได้ส่งเสริมใหล้ ูกคา้ ในการใช้ ATM โดยการคิดค่าธรรมเนียมหากลูกคา้ ติดต่อกบั พนกั งานในการเบิกถอนเงินในลกั ษณะที่สามารถเบิกถอนไดก้ บั เคร่ือง ATM (Haag et al.,2000) นอกจากงานของธนาคารแลว้ ในปัจจุบนั มหาวิทยาลยั ต่างๆ ไดน้ าระบบ CIS มาใชเ้ พ่ือใหน้ กั ศึกษาสามารถลงทะเบียน โดยผา่ นเครื่องโทรศพั ท์ นอกจากน้ี CIS ยงั ช่วยใหป้ ระชาชนสามารถจ่ายค่าน้าค่าไปจากคอมพิวเตอร์ที่บา้ นกไ็ ด้10.3 ระบบสานักงานอตั โนมตั ิ (Office Automatic System หรือ OAS ) สานกั งานอตั โนมตั ิ (Office Automation หรือ OA) เป็นแนวคิดในการนาเอาระบบเครือข่ายมาใช้เชื่อมโยงคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สานกั งานต่าง ๆ และผนวกดว้ ยซอฟตแ์ วร์สาหรับช่วยงานในสานกั งาน โดยมีวตั ถุประสงคเ์ พื่อตอ้ งการใหเ้ ป็นสานกั งานไร้กระดาษ โดยใหท้ างานต่อไปน้ี ส่ือสารระหวา่ งผปู้ ฏิบตั ิงานโดยใชไ้ ปรษณียอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์ จดั พิมพเ์ อกสารต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว ถูกตอ้ ง และมีคุณภาพ การออกแบบส่ิงพิมพแ์ ละเอกสาร โดยโปรแกรมที่ไดร้ ับความนิยมค่อนขา้ งมากในขณะน้ีกค็ ือโปรแกรม PageMaker รับขอ้ ความจากผโู้ ทรศพั ทเ์ ขา้ มาติดต่อแลว้ บนั ทึกเสียงน้นั ไวห้ ากผรู้ ับไม่อยใู่ นสานกั งาน บนั ทึกภาพลกั ษณ์ (Inage) ของเอกสารต่าง ๆ ไวใ้ นระบบประมวลภาพลกั ษณ์ (Image ProcessingSystem) มีระบบประชุมทางไกล (Video Teleconference) เป็นระบบที่ใชค้ อมพิวเตอร์ควบคุมอปุ กรณ์ส่ือสาร และกลอ้ งวีดิทศั น์ ทาใหผ้ บู้ ริหารหน่วยงานสามารถประชุมปรึกษาหารือกบั ผบู้ ริหารที่อยคู่ นละสถานที่โดยไม่ตอ้ งเสียเวลาเดินทางไปประชุมดว้ ยกนั มีระบบช่วยงานผปู้ ฏิบตั ิงานต่าง ๆ ไดแ้ ก่ การบนั ทึกนดั หมาย การบนั ทึกขอ้ ความส่วนตวั การนดัประชุม การคานวณ การตดั สินใจ ฯลฯ10.4 ระบบสารสนเทศเพ่ือการจดั การ (Management Information Systems MIS) ในการใชก้ ารประมวลผลรายการทาใหก้ ารประมวลผลการดาเนินการดา้ นธุรกิจทาไดร้ วดเร็วข้ึนและลด ค่าใชจ้ ่ายในการควบคุมงานลงได้ แต่จะเห็นไดช้ ดั วา่ ขอ้ มูลท่ีเก็บไดจ้ ากการประมวลผลรายการ สามารถช่วย
เทคโนโลยีสารสนเทศ 113ใหผ้ บู้ ริหารนามาใชใ้ นการตดั สินใจในการดาเนินงานไดด้ ีข้ึน จึงจาเป็นตอ้ งพฒั นาระบบสารสนเทศเพื่อช่วยสนบั สนุนการทางานดา้ นการจดั การของผบู้ ริหารข้ึนเรียกวา่ ระบบสารสนเทศเพื่อการจดั การ ระบบสารสนเทศเพื่อการจดั การ หมายถึง กลุ่มของบุคคล, ขบวนการ, ซอฟตแ์ วร์, ฐานขอ้ มลู และอปุ กรณ์ต่างๆ ที่ถูกจดั การเพ่ือใชใ้ นการจดั การสารสนเทศท่ีเกิดข้ึนเป็นประจาใหแ้ ก่ผบู้ ริหารหรือผทู้ าการตดั สินใจ จุดประสงคห์ ลกั ของระบบสารสนเทศเพื่อการจดั การ อยทู่ ี่การดาเนินการอยา่ งมีประสิทธิภาพในดา้ นการตลาด, การผลิต, การเงิน และส่วนงานอ่ืนๆ โดยใชแ้ ละจดั เกบ็ ขอ้ มลู ลงในฐานขอ้ มลู ดงั รูป การใชข้ อ้ มลู จากระบบการประมวลผลรายการของระบบสารสนเทศเพื่อการจดั การดา้ นต่างๆ ระบบสารสนเทศเพ่ือการจดั การเป็นระบบสารสนเทศที่ใชใ้ นการผลิตรายงานดา้ นการจดั การ ซ่ึงจะใช้ในการสนบั สนุนการตดั สินใจในระดบั ปฏิบตั ิงาน, ระดบั ยทุ ธวธิ ี และระดบั กลยทุ ธ์ โดยรายงานท่ีเกิดข้ึนมีหลายรูปแบบข้ึนอยู่กบั ระดบั ของการจดั การในองคก์ ร แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลกั คือรายงานตามตารางเวลา(Scheduled Report), รายงานกรณียกเวน้ (Exception Report) และรายงานตามคาขอ (Demand Report) 1. รายงานตามตารางเวลา แสดงขอ้ มูลการดาเนินงานขององค์กรท่ีเกิดข้ึนตาม ช่วงเวลา อาจจะเป็นช่วงรายวนั , รายสปั ดาห์ รายเดือน หรือรายปี มีลกั ษณะคลา้ ยกบั ขอ้ มลู ตน้ ฉบบั ที่ผา่ นการประมวลผลมาจากหน่วยงานต่างๆ แต่เพิ่มการจดั กลุ่มขอ้ มลู และการสรุปขอ้ มลู ลงไป เพ่ือช่วยใหผ้ จู้ ดั การในระดบัล่างสามารถตดั สินใจในการ ดาเนินงานใหบ้ รรลุวตั ถปุ ระสงคข์ องผจู้ ดั การระดบั สูงกวา่ ได้ ตวั อยา่ งเช่นผจู้ ดั การ ดา้ นการผลิตตอ้ งการรายงานรายวนั ของสินคา้ ที่มีตาหนิจากฝ่ ายการผลิตและรายงาน รายสปั ดาหข์ องจานวนชว่ั โมงการทางานลว่ งเวลาท่ีเกิดข้ึนในสปั ดาหน์ ้นั 2. รายงานกรณียกเวน้ เป็นรายงานที่เกิดข้ึนตามเงื่อนไขบางอยา่ ง ซ่ึงมกั จะไมป่ กติ จึงจาเป็นจะตอ้ งมีรายงานออกมา โดยในรายงานจะมีขอ้ มูลที่จาเป็นต่อผจู้ ดั การใน การตรวจสอบหาสาเหตุของขอ้ ผิดพลาดที่เกิดข้ึนเท่าน้นั เช่น ระบบสารสนเทศเพ่ือ การจดั การทาการผลิตรายงานกรณียกเวน้ เมื่อมีการทางานล่วงเวลามากกวา่ 10% ของเวลาการทางานรวมท้งั หมด เม่ือผจู้ ดั การฝ่ ายผลิตไดร้ ับรายงาน จะทาการหา สาเหตุท่ีมีการทางานล่วงเวลาเกินกวา่ ที่กาหนด ซ่ึงอาจมีสาเหตุมาจากมีงานการ ผลิตมากหรือเกิดจากการวางแผนงานไม่ดี ถา้ เกิดข้ึนจากการวางแผนไมด่ ีแลว้ จะได้ ทาการปรับปรุงแกไ้ ขแผนงานต่อไป 3. รายงานตามคาขอ เกิดข้ึนตามคาขอของผจู้ ดั การในหวั ขอ้ ท่ีตอ้ งการ ซ่ึงรายงาน อาจจะถูกกาหนดมาก่อนแลว้ แต่ไมท่ าการผลิตออกมาหรืออาจเป็นรายงานที่มีผลมา จากเหตุการณ์ท่ีไมเ่ คยคาดคิดมาก่อน
ระบบสารสนเทศ 114ใน รายงานอ่ืน หรือจากขอ้ มูลภายนอก เช่น ถา้ ผจู้ ดั การฝ่ ายผลิตเห็นการทางานลว่ งเวลามากเกินกาหนดจากรายงานกรณียกเวน้ อาจจะทาการร้องขอรายงานที่แสดงถึงสาเหตุที่เป็นไปไดใ้ นการทาใหเ้ กิดการ ทางานลว่ งเวลาเกินกาหนด อาจจะไดแ้ ก่รายงานท่ีแสดงงานในดา้ นการผลิตท้งั หมด , จานวนชว่ั โมงท่ีตอ้ งการในการทางานแต่ละงาน, และจานวนการทางานล่วงเวลา ของแต่ละงาน จะเห็นวา่ รายงานน้ีจะตอ้ งใชข้ อ้ มูลท่ีรวบรวมอยใู่ นฐานขอ้ มูล เพ่ือ นาเสนอขอ้ มูลที่จาเป็นต่อผจู้ ดั การต่อไป ประโยชน์ของ MIS 1. ช่วยใหไ้ ดข้ อ้ มลู ท่ีตอ้ งการ ไดท้ นั เหตุการณ์ 2. ช่วยใหก้ าหนดกลยทุ ธ์ และวางแผนปฏิบตั ิการได้ 3. ช่วยใหต้ รวจสอบผลการดาเนินงานได้ 4. ช่วยใหศ้ ึกษา และวเิ คราะหส์ าเหตุของปัญหา 5. ช่วยใหส้ ามารถวิเคราะหป์ ัญหา หรืออุปสรรค เพ่ือหาวิธีแกไ้ ข 6. ช่วยลดค่าใชจ้ ่าย10.5 ระบบสารสนเทศเพ่ือสนับสนุนการตัดสินใจ (Decision Support Systems-DSS) ระบบสารสนเทศแบบ DSS เป็นระบบสารสนเทศท่ีช่วยในการตดั สินใจ ซ่ึงมีลกั ษณะมีโครงสร้างไม่ชดั เจน โดยนาขอ้ มูลมาจากหลายแหล่งช่วยในการนาเสนอและมีลกั ษณะยืดหยุ่นตามความตอ้ งการ ลกั ษณะของ DSS 1) ระบบสารสนเทศที่ใชส้ าหรับการสนบั สนุนผตู้ ดั สินใจทางการบริหารท้งั ที่เป็นตวั บุคคลหรือกลมุ่โดยการตดั สินใจน้นั จะเก่ียวขอ้ งกบั สถานการณ์ที่มีลกั ษณะเป็นแบบ ไมม่ ีโครงสร้าง (unstructured situations)โดยจะมีการนาวิจารณญาณของมนุษยก์ บั ขอ้ มูล จากคอมพิวเตอร์มาใชป้ ระกอบในการตดั สินใจ 2) ระบบ DSS ช่วยในการตอบสนองความตอ้ งการที่ไม่ไดค้ าดการณ์มาก่อนโดยผใู้ ชส้ ามารถปรับขอ้ มูลใน DSS ไดต้ ลอดเวลาเพ่ือจดั การกบั เงื่อนไขต่างๆ ท่ีเปลี่ยนแปลงไป โดยใชก้ ารวิเคราะหท์ ี่เรียกวา่Sensitivity Analysis 3) ช่วยในการตดั สินใจที่ตอ้ งการความรวดเร็วสูง เพ่ือใชป้ ระกอบในการกาหนดกลยทุ ธใ์ นการแข่งขนัดงั น้นั DSS จึงมีลกั ษณะการโตต้ อบได้ (interactive) 4) เสนอทางวเิ คราะห์ในทางเลือกต่างๆ ในสถานการณ์ท่ีมีความซบั ซอ้ น 5) จดั การเกบ็ ขอ้ มูลซ่ึงมาจากหลายแหลง่ ได้ ท้งั ภายในและภายนอกหน่วยงาน 6) นาเสนอไดท้ ้งั รายงานที่เป็นขอ้ ความและกราฟฟิ ค
เทคโนโลยีสารสนเทศ 115 การจดั การกบั ความรู้ (User Interface) การจดั การข้อมูล การจดั การโมเดล ส่วนประกอบและโครงสร้างของ DSS 1. การจดั การขอ้ มูล (Data Management) มีระบบฐานขอ้ มูล 2. การจดั การกบั ความรู้(Knowledge management) เป็นระบบที่ช่วยป้อนความรู้ เพื่อช่วยแกป้ ัญหาเฉพาะ 3. การจดั การโมเดล(Model management) ลกั ษณะโมเดล (Model คือ การประยกุ ตใ์ ชค้ ณิตศาสตร์มา จดั การระบบจริง ) โมเดลในระบบฐานขอ้ มลู DSS ใชข้ อ้ มูล TPS MIS และขอ้ มลู ภายนอก 4. การติดต่อระหวา่ งผใู้ ชแ้ ละคอมพิวเตอร์(User Interface) 5. ผใู้ ช้10.6 ระบบสารสนเทศสาหรับผ้บู ริหาร (Executive Support System : ESS) ระบบสารสนเทศสาหรับผ้บู ริหาร ( Executive Information Systems ) หรือท่ีเรียกวา่ EIS หมายถึงระบบสารสนเทศท่ีถูกพฒั นาข้ึนโดยเฉพาะ เพ่ือใหส้ อดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการ ทกั ษะ และความสามารถในการเขา้ ถึงสารสนเทศสาหรับ ผบู้ ริหารเน่ืองจากผบู้ ริหารเป็นกลุ่มบุคคลท่ีตอ้ งการขอ้ มูลท่ีมีลกั ษณะเฉพาะโดยเฉพาะดา้ นระยะเวลาในการเขา้ ถึงและทาความเขา้ ใจกบั ขอ้ มูล และการเปล่ียนแปลงและการแข่งขนั ทางธุรกิจท่ีเกิดข้ึนและปรับตวั อยา่ งรวดเร็วในปัจจุบนั ไดส้ ร้างแรงกดดนั ให้ ผบู้ ริหารตอ้ งตดั สินใจภายใตข้ อ้ จากดัของทรัพยากรทางการจดั การระยะเวลา ขอ้ มลู และการดาเนินงานของคู่แข่งขนั นอกจากน้ีผูบ้ ริหารหลายคนยงัมีความรู้เกี่ยวกบั เทคโนโลยีสารสนเทศที่จากดั โดยเฉพาะผบู้ ริหารระดบั สูงท่ีมีอายมุ ากและไม่มีโอกาสได้พฒั นาความรู้ ความเขา้ ใจ และทกั ษะดา้ นการใชง้ านสารสนเทศ ดงั น้นั จึงมีความจาเป็นท่ีจะตอ้ งพฒั นาและออกแบบระบบสารสนเทศที่สามารถช่วยใหผ้ บู้ ริหารปฏิบตั ิงานอยา่ งมีประสิทธิภาพ ระบบขอ้ มูลสาหรับผบู้ ริหารตอ้ งมีพฒั นาการอยา่ งต่อเน่ือง
ระบบสารสนเทศ 116 แหล่งข้อมูลสาหรับผ้บู ริหาร ผบู้ ริหารตอ้ งการการตอบสนองของขอ้ มูลที่ รวดเร็ว ชดั เจน ทนั สมยั สมบูรณ์ ถูกตอ้ งและเช่ือได้ เทคโนโลยสี ารสนเทศถูกนามาใชเ้ ป็นเคร่ืองเชิงกลยทุ ธ์ เพื่อสร้างความไดเ้ ปรียบในการแข่งขนั ใหก้ บัองคก์ าร โดยเทคโนโลยสี ารสนเทศถูนามาประยกุ ต์ เพื่อใหก้ ารปฏิบตั ิงานและการตดั สินใจของผบู้ ริหารมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด การเขา้ ถึงแหล่งขอ้ มูลเป็นปัจจยั สาคญั ในการจดั การสารเสนเทศสาหรับใหผ้ บู้ ริหาร เขา้ ใจง่าย และรวดเร็ว โดยทว่ั ไปแลว้ จะไดร้ ับขอ้ มูลจาก 3 แหลง่ ดงั ต่อไปน้ี 1. ข้อมลู ที่ได้จากกระบวนการดาเนินงาน (Transaction Processing Data) เป็นขอ้ มูลที่แสดงผลการ ปฏิบตั ิงานขององคก์ าร หน่วยงาน หรือระบบท่ีสนใจ ขอ้ มลู จากการดาเนินงานช่วยสร้างความเขา้ ใจ และสะทอ้ นปัญหาที่เกิดข้ึนจากการดาเนินงานที่ผา่ นในอดีต โดยขอ้ มลู ที่ไดจ้ ะเป็นประโยชนต์ ่อการ ตรวจสอบ การควบคุม และการแกป้ ัญหาการดาเนินงานโดยทว่ั ไป ตลอดจนสามารถนามา ประกอบการวางแผนท้งั ในระยะส้นั และระยะยาว 2. ข้อมลู จากภายในองค์การ (Internal Data) เป็นขอ้ มูลท่ีจดั ทาข้ึนภายในองคก์ าร เพ่ือแสดงใหเ้ ห็นถึง เป้าหมายหรือผลการดาเนินงานของกิจกรรม และ/หรือโครงการในดา้ นต่าง ๆ ขององคก์ ารไดแ้ ก่ งบประมาณ แผนรายจ่าย การคาดการณ์ยอดขายและรายได้ และแผนทางการเงิน เป็นตน้ ซ่ึงขอ้ มูล ส่วนใหญ่จะครอบคลุมช่วงเวลาต้งั แต่ 6 เดือนจนถึงหลายปี โดยขอ้ มลู จะแสดงอดีต ปัจจุบนั และ ทิศทางในอนาคตขององคก์ าร เพ่ือกาหนดแนวทางและจดั ส่วนผสมของทรัพยากรในการดาเนินงาน อยา่ งมีประสิทธิภาพ 3. ข้อมลู จากภายนอกองค์การ (External Data) ปัจจยั ภายนอกมีผลกระทบต่อองคก์ ารโดยเฉพาะใน สถานการณ์ปัจจุบนั ที่การเปลี่ยนแปลงปัจจยั ทางเศรษฐกิจ การเมือง สงั คม แลวทิ ยาการในประเทศ หน่ึงจะมีเกี่ยวเน่ืองไปทวั่ โลก ผบู้ ริหารระดบั สูงมกั ใชข้ อ้ มูลท่ีมาจากแหลง่ ภายนอกมาประกอบในการ ตดั สินใจของผบู้ ริหารในดา้ นต่าง ๆ เช่น การวางแผนกลยทุ ธ์ การแกป้ ัญหาเฉพาะหนา้ หรือการ ตดั สินใจท่ีจะดาเนินธุรกิจหรือลม้ เลิก เป็นตน้
เทคโนโลยีสารสนเทศ 117 คุณสมบัตขิ อง EIS ระบบสารสนเทศเพ่ือการจดั การถูกนามาประยกุ ตเ์ พ่ือเพิ่มศกั ยภาพในการดาเนินงานของธุรกิจ แต่ระบบสารสนเทศมิใช่แกว้ สารพดั นึกท่ีรวบรวมขอ้ มูลทุกประเภทท่ีผใู้ ชส้ ามารถนามาใชง้ านไดต้ ลอดเวลาเน่ืองจากขอ้ จากดั ของเทคโนโลยีและตน้ ทุนการพฒั นา ดงั น้นั การพฒั นาระบบสารสนเทศแต่ละชนิดจะตอ้ งเขา้ใจความตอ้ งการของผใู้ ช้ เพื่อกาหนดคุณสมบตั ิของสารสนเทศแต่ละรูปแบบอยา่ งเหมาะสม เพ่ือใหก้ ารใชง้ านเกิดประโยชนส์ ูงสุด โดยท่ี EIS มีคุณสมบตั ิท่ีสาคญั 5 ประการ ดงั ต่อไปน้ี 1. สนบั สนุนการวางแผนกลยทุ ธ์ (Strategic Planning Support ) ผบู้ ริหารระดบั สูงส่วนใหญ่มกั จะให้ความสาคญั ต่อการวางแผนกลยทุ ธข์ ององคก์ าร ดงั น้นั ผพู้ ฒั นา EIS สมควรจะมีความรู้ในเรื่องกลยทุ ธธ์ ุรกิจ(Business Strategy ) และปัจจยั สาคญั ในการวางแผนกลยทุ ธ์ (Strategic Factors) เพ่ือใหส้ ามารถประยกุ ตใ์ ช้เทคโนโลยสี ารสนเทศในการช่วยเพ่ิมประสิทธิภาพในการกาหนดแผนทางกลยทุ ธ์ท่ีสมบูรณ์ 2. เช่ือมโยงกบั ส่ิงแวดลอ้ มภายนอกองคก์ าร ( External Environment Focus ) ปกติสิ่งที่ผบู้ ริหารตอ้ งการจากระบบสารสนเทศคือ การที่จะสามารถเรียกสารสนเทศที่ตอ้ งการและจาเป็นต่อการตดั สินใจออกมาจากฐานขอ้ มูลขององคก์ ารไดอ้ ยา่ งรวดเร็วโดยเฉพาะขอ้ มูลและข่าวสารที่เกิดข้ึนกบั ส่ิงแวดลอ้ มภายนอกองคก์ ารเป็นส่ิงที่ผบู้ ริหารตอ้ งการประกอบการตดั สินใจ โดยส่วนมาก EIS จะถูกออกแบบใหส้ ามารถเชื่อมโยงกบัแหลง่ ขอ้ มูลที่มาจากภายนอกองคก์ าร เพ่ือใหไ้ ดม้ าซ่ึงขอ้ มูลที่สาคญั ท่ีจาเป็นต่อการตดั สินใจของผบู้ ริหาร 3. มีความสามารถในการคานวณภาพกวา้ ง (Broad- based Computing Capabilities ) การตดั สินใจของผบู้ ริหารส่วนใหญเ่ กี่ยวขอ้ งกบั ปัญหาที่มีโครงสร้างไม่แน่นอนและขาดความชดั เจน โดยส่วนใหญ่จะมองถึงภาพโดยรวมของระบบแบบกวา้ งๆ ไมล่ งลึกในรายละเอียด ดงั น้นั การคานวณท่ีผบู้ ริหารตอ้ งการจึงเป็นลกั ษณะง่าย ๆ ชดั เจน เป็นรูปธรรม และไมซ่ บั ซอ้ นมาก เช่น การเรียกขอ้ มลู กลบั ดู การใชก้ ราฟ การใชแ้ บบจาลองแสดงภาพเหตุการณ์ท่ีเกิดข้ึน เป็นตน้ 4. ง่ายต่อการเรียนรู้และใชง้ าน (Exceptional Ease of Learning and Use ) เนื่องจากผบู้ ริหารจะมีกิจกรรมท่ีหลากหลายท้งั ภายในและภายนอกองคก์ าร ผบู้ ริหารจึงมีเวลาในการตดั สินใจในแต่ละงานนอ้ ยหรือกลา่ วไดว้ า่เวลาของผบู้ ริหารมีค่ามาก ดงั น้นั การพฒั นา EIS ควรที่จะเลือกรูปแบบการแสดงผล หรือการตอบโตก้ บั ผใู้ ชใ้ นแนวทางที่ง่ายต่อการใชง้ านในเวลาที่ส้นั เช่น ตารางแสดงผล กราฟ ภาษาท่ีง่าย และการตอบโตท้ ี่รวดเร็ว เป็นตน้ 5. พฒั นาเฉพาะสาหรับผบู้ ริหาร (Customization ) การตดั สินใจของผบู้ ริหารส่วนใหญ่จะมีความสมั พนั ธ์ต่อพนกั งานอ่ืนและต่อการดาเนินธุรกิจขององคก์ าร ซ่ึงเป็นส่ิงท่ีนกั วิเคราะหแ์ ละออกแบบระบบ (SystemAnalyst and Designer ) ตอ้ งคานึงถึงในการพฒั นา EIS เพ่ือใหส้ ามารถพฒั นา EI S ท่ีมีศกั ยภาพสูงมีประสิทธิภาพดีเหมาะสมกบั การใชง้ านและเป็นแบบเฉพาะสาหรับผบู้ ริหารท่ีจะเขา้ ถึงขอ้ มูลไดต้ ามตอ้ งการเช่น ขอ้ มลู ใดท่ีเป็นท่ีตอ้ งการของผบู้ ริหารอยา่ งมาก หรือมีการเรียกมาใชบ้ ่อยควรออกแบบใหม้ ีข้นั ตอนการเขา้ ถึงที่ง่าย สะดวก และรวดเร็ว เช่น โดยการกดป่ ุมบนแป้นพิมพเ์ พียงไม่ก่ีป่ ุม หรือการเคล่ือนที่และการใชง้ านเมาส์ (Mouse )บนจอภาพ หรือการสงั่ งานดว้ ยเสียงพดู ซ่ึงต่างจากนระบบสารสนเทศสาหรับบุคลากรระดบั อ่ืนในองคก์ ารที่ตอ้ งมีข้นั ตอนที่ซบั ซอ้ นมากกวา่ ในการเขา้ ถึงขอ้ มลู ลกั ษณะเดียวกนั เป็นตน้
ระบบสารสนเทศ 11810.7 ระบบผู้เชี่ยวชาญและปัญญาประดษิ ฐ์ ระบบผู้เช่ียวชาญ (expert system) ปัจจุบนั การพฒั นาระบบผเู้ ช่ียวชาญ Expert System ในแต่ละสาขามีวตั ถุประสงคท์ ี่จะใชง้ านตามหนา้ ท่ีเป็นสาคญั แต่หลงั จากการนาระบบ ผเู้ ชี่ยวชาญ Expert System มาใชง้ านเราสามารถ สรุปประโยชนท์ ่ีธุรกิจจะไดร้ ับจากระบบผเู้ ชี่ยวชาญ Expert System ประโยชน์ 1. ป้องกนั และรักษาความรู้ซ่ึงอาจสูญหายไปขณะทาการเรียกขอ้ มลู หรือการยกเลิกการใชข้ อ้ มูล การใช้ขอ้ มูล ตลอดจนการสูญหาย เน่ืองจากขาดการเก็บรักษาความรู้ อยา่ งเป็นระบบ และเป็นระเบียบ แบบแผน 2. ระบบผเู้ ช่ียวชาญ Expert System จะจดั เตรียมขอ้ มูลใหอ้ ยใู่ นลกั ษณะท่ีพร้อมสาหรับนาไปใชง้ าน และมกั จะถกู พฒั นาใหส้ ามารถตอบสนอง ต่อปัญหาในทนั ทีที่เกิดความตอ้ งการ 3. การออกแบบระบบผเู้ ช่ียวชาญ Expert System มกั จะคานึงถึงการบนั ทึกความรู้ในแต่ละสาขาให้เพียงพอและเหมาะสมกบั การใชง้ าน ซ่ึงจะทาให้ ระบบสามารถปฏิบตั ิงานแทนผเู้ ช่ียวชาญ อยา่ งมีประสิทธิภาพ 4. ระบบผเู้ ช่ียวชาญ Expert System จะสามารถตดั สินปัญหาอยา่ แน่นอ น เน่ืองจากระบบถูกพฒั นาให้สามารถปฏิบตั ิงานโดยปราศ จากผล กระทบ ทางร่างกายและอารมณ์ท่ีมีอยใู่ นตวั มนุษยเ์ ช่น ความเครียด ความเจบ็ ป่ วย เป็นตน้ องค์ประกอบของระบบผู้เช่ียวชาญ 1. ฐานความรู้ (Knowledge base) 2. เครื่องมือในการการอนุมาน (Inference Engine) 3. อุปกรณ์ช่วยในการอธิบาย (Explanation facility) 4. อปุ กรณ์ในการหาความรู้ (Knowledge acquisition facility) 5. การติดต่อกบั ผใู้ ช(้ User Interface) ตวั อย่าง ระบบวนิ ิจฉัยโรค
เทคโนโลยีสารสนเทศ 11910.8 ระบบสารสนเทศทางภูมศิ าสตร์ ระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ หรือ GIS เป็นการนาเอาระบบคอมพิวเตอร์มาใชใ้ นการรวบรวมขอ้ มลู ซ่ึงกระจายอยใู่ นรูปต่าง ๆ เช่น แผนท่ี สถิติ - ตาราง และคาบรรยายมาจดั เกบ็ ไวใ้ หเ้ ป็นหมวดหม่ใู นระบบท่ีอา้ งอิงพิกดั ภูมิศาสตร์ เพ่ือสะดวกในการแสดงผลและเรียกคน้ ขอ้ มูลไดร้ วดเร็วถูกตอ้ งง่ายต่อการประมวลผล ตลอดจนการวเิ คราะหเ์ พ่ือท่ีจะนาไปใชใ้ นการวางแผนหรือแกไ้ ขปัญหาต่าง ๆ ตามวตั ถปุ ระสงค์ของผใู้ ชต้ ่อไปเรานา GIS ไปใช้ทาอะไรบ้าง 1. Location เป็นการสอบถามขอ้ มูลจากแผนที่ เช่น อยากรู้วา่ ใครเป็นเจา้ ของบา้ นหลงั น้ี เป็นตน้ หรือ คน้ หาตาแหน่งท่ีตอ้ งการ เช่น อยากรู้วา่ บา้ นนายสมชายอยทู่ ่ีไหน เป็นตน้ 2. Condition เป็นการคน้ หาขอ้ มูลในระดบั ท่ีสูงข้ึนมาโดยการใหเ้ งื่อนไขในการคน้ หาขอ้ มูล เช่น หาวา่ แปลงที่ดินแปลงใดบา้ งในจงั หวดั นนทบุรีที่มีพ้ืนท่ีมากกวา่ 20 ไร่ เป็นตน้ 3. Trends เป็นการวิเคราะห์รูปแบบการเปลี่ยนแปลงทางพ้ืนท่ี ณ เวลาต่างๆ เช่น เปรียบเทียบการขยายตวั ของเขตเมืองระหวา่ งปี 2520 ถึง 2540 เป็นตน้ 4. Patterns เป็นการวิเคราะหเ์ พ่ือดูรูปแบบทางพ้ืนที่ของเหตุการณ์ท่ีสนใจ เช่น รูปแบบการกระจายของ โรคพืช เป็นตน้ 5. Modeling เป็นการวเิ คราะห์เพื่อใหไ้ ดค้ าตอบวา่ \"จะเกิดอะไร ถา้ ....\" เช่น การหาพ้ืนที่ที่เหมาะสมใน การ...... โดยกาหนดตาม criteria น้นั ๆ เป็นตน้10.9 ระบบสนบั สนุนการตดั สินใจแบบกลุ่ม ระบบสนับสนุนการตดั สินใจแบบกลุ่ม หมายถึง ระบบท่ีมีการปฏิสมั พนั ธด์ ว้ ยคอมพิวเตอร์ ซ่ึงจะอานวยความสะดวกใหก้ ลุ่มคนในเรื่องการตดั สินใจแกป้ ัญหาที่ไม่มีโครงสร้าง ดงั น้นั องคป์ ระกอบของระบบสนบั สนุนการตดั สินใจแบบกลุ่ม จึงตอ้ งประกอบดว้ ย ซอฟตแ์ วร์ ฮารดแ์ วร์ ผใู้ ช้ และกระบวนการที่ใช้สนบั สนุนการดาเนินการประชุม จนสามารถทาใหก้ ารประชุมเป็นไปไดด้ ว้ ยดี ลกั ษณะของระบบสนับสนุนการตดั สินใจแบบกลุ่ม • เป็นระบบสารสนเทศที่ถูกออกแบบ และสร้างข้ึนโดยเฉพาะ
ระบบสารสนเทศ 120• ออกแบบข้ึนมาเพื่อปรับปรุงกระบวนการตดั สินใจขององคป์ ระชุม• ง่ายต่อการเรียนรู้ และใชง้ านไดส้ ะดวก และใหค้ วามหลากหลายกบั ผใู้ ชใ้ นแต่ละระดบั• มีกลไกท่ีใหผ้ ลในเร่ืองของการปรับปรุงจุดบกพร่องท่ีเกิดจากพฤติกรรมของผเู้ ขา้ ร่วมประชุม เช่น การทาใหผ้ เู้ ขา้ ร่วมประชุมเขา้ ใจในความหมายต่าง ๆ ตรงกนั• ตอ้ งออกแบบใหร้ ะบบสามารถกระตุน้ ใหเ้ กิดกิจกรรมต่าง ๆ เช่น กระตุน้ ใหเ้ กิดความคิด สร้างสรรค์ แนวความคิดที่แตกต่าง และ การมีอิสระทางความคิด เป็นตน้
Search
Read the Text Version
- 1 - 13
Pages: