Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผน

แผน

Published by peasocial, 2021-04-08 02:38:58

Description: แผน

Search

Read the Text Version

3) ปรากฏการณ์จากอทุ กภาค 4) ปรากฏการณจ์ ากชีวภาค 4. นักเรยี นแตล่ ะกลุม่ ร่วมกันศึกษาความรู้เกยี่ วกับปรากฏการณท์ ่ีเก่ยี วข้องกับสว่ นต่างๆ ของโลก ในขอ้ 3 เพิ่มเติม โดยศึกษาความรจู้ ากหนงั สอื เรยี น หรอื หนังสือคน้ ควา้ เพม่ิ เตมิ หรือแหลง่ ข้อมูล สารสนเทศ ตามความ เหมาะสม แล้วนำมาอภิปรายร่วมกันในหวั ขอ้ ท่สี ำคญั 5. นักเรียนแต่ละกลมุ่ รว่ มกันทำใบงานท่ี 1.2 เร่อื ง ปฏสิ ัมพันธ์เชิงภมู ิศาสตรข์ องโลก โดยแบง่ หนา้ ที่กัน ทำงาน ดงั น้ี 1) สมาชกิ แต่ละกลมุ่ เรม่ิ ทำใบงาน จากคำถามข้อ 1 โดยให้สมาชิกแต่ละคนปฏบิ ตั ิ ดังนี้ สมาชกิ คนท่ี 1 มหี น้าที่อา่ นคำถาม และแยกแยะส่งิ ทีเ่ ปน็ ประเด็นสำคัญของคำถาม สมาชกิ คนท่ี 2 วเิ คราะห์หาแนวตอบทางคำถาม อธบิ ายใหไ้ ด้มาซึ่งแนวคำตอบ หรือ อธิบายให้ได้มาซ่ึงคำตอบ สมาชกิ คนท่ี 3 รวบรวมขอ้ มูล และเขยี นคำตอบ สมาชิกคนท่ี 4 สรุปขั้นตอนทงั้ หมด ตรวจคำตอบ 2) เม่อื ถงึ คำถามข้อ 2 ก็ให้สมาชิกคนท่ี 2 เลอ่ื นข้ึนมาทำหน้าท่ีแทนคนที่ 1 สมาชกิ คนท่ี 3 เลื่อน ข้นึ มา ทำหนา้ ทแ่ี ทนคนท่ี 2 สมาชิกคนที่ 4 เล่ือนข้นึ มาทำหน้าทแ่ี ทนคนท่ี 3 สมาชิกคนท่ี 1 เลอื่ นข้ึนมาทำหนา้ ทีแ่ ทนคนท่ี 4 จะหมุนเวียนเปลย่ี นหน้าทีก่ ันไปเรื่อยๆ จนครบคำถาม ซง่ึ รวมแลว้ สมาชกิ ทกุ คนจะไดท้ ำหนา้ ที่ทกุ บทบาท สมาชิกทุกคน ร่วมมอื กนั ตอบคำถามทีก่ ำหนดไวจ้ นเสรจ็ เรียบรอ้ ย มีการพงึ่ พาอาศยั กัน ชว่ ยเหลือกนั และมกี ารอธิบายใหก้ ันฟงั จน เขา้ ใจ จนสมาชกิ ทกุ คนสามารถทำแบบฝกึ หดั ไดค้ รบทกุ ข้อ แล้วจงึ มีการดำเนินกิจกรรมขน้ั ตอ่ ไป คือ มีการแขง่ ขันกัน ตอบปัญหา ชวั่ โมงที่ 4 1. การเตรยี มแขง่ ขนั มกี ารจดั โต๊ะแขง่ ขันทมี่ ีตัวแทนแตล่ ะกลมุ่ ซ่งึ มที งั้ เก่ง ปานกลาง (ค่อนข้างเกง่ ) ปานกลาง (คอ่ นขา้ งออ่ น) และออ่ น ครูจัดโต๊ะแข่งขัน โดยกำหนดใหน้ ักเรียนแต่ละกลมุ่ ซ่ึงมคี วามสามารถแตกต่างกนั ไป แยกยา้ ยกัน ไปแขง่ ขันในโต๊ะท่ีจดั ไว้ตามความสามารถ ตัวอย่างเช่น - นักเรยี นท่มี ีความสามารถอย่ใู นระดับเก่งของแตล่ ะกลมุ่ จะไปแขง่ ขนั ในโตะ๊ ทจ่ี ัดไว้สำหรับคนท่ีมี ความสามารถอยูใ่ นระดบั เกง่ - นักเรียนท่มี ีความสามารถอยู่ในระดบั ปานกลางคอ่ นข้างเก่งของแตล่ ะกลุม่ ก็จะไปแขง่ ขนั ในโต๊ะที่จดั ไว้สำหรับคนท่มี ีความสามารถระดบั ปานกลางค่อนข้างเก่ง - นกั เรยี นทมี่ คี วามสามารถอยใู่ นระดับปานกลางค่อนข้างอ่อนของแต่ละกล่มุ กจ็ ะไปแข่งขนั ในโตะ๊ ทจี่ ดั ไวส้ ำหรบั คนทม่ี ีความสามารถระดบั ปานกลางค่อนข้างออ่ น - นกั เรยี นทม่ี ีความสามารถอยูใ่ นระดบั ออ่ นของแตล่ ะกลุ่มกจ็ ะไปแข่งขันในโตะ๊ ท่ีจัดไว้สำหรบั คนที่มี ความสามารถระดับออ่ น

2. ทมี แข่งขนั จะมแี ผนผัง ดังน้ี - โตะ๊ หมายเลข 1 เป็นโตะ๊ แขง่ ขันสำหรับนกั เรยี นทีม่ ีความสามารถในระดบั เกง่ - โตะ๊ หมายเลข 2 เป็นโตะ๊ แขง่ ขนั สำหรบั นกั เรยี นทมี่ คี วามสามารถในระดับปานกลาง คอ่ นขา้ งเก่ง - โต๊ะหมายเลข 3เป็นโต๊ะแขง่ ขนั สำหรบั นกั เรยี นทม่ี ีความสามารถในระดบั ปานกลาง ค่อนขา้ งอ่อน - โตะ๊ หมายเลข 4 เปน็ โต๊ะแขง่ ขนั สำหรบั นกั เรยี นท่มี ีความสามารถในระดบั ออ่ น ในกรณีท่มี ีนักเรียนจำนวนมาก โต๊ะหมายเลข 1, 2, 3, 4 อาจจะซำ้ กนั หลายโตะ๊ เพอื่ ให้นกั เรยี นทกุ คนได้มี โอกาสแขง่ ขัน แผนผังการจัดโต๊ะ 12 34 เก่ง ปานกลาง ปานกลาง อ่อน (คอ่ นข้างเก่ง) (คอ่ นข้างออ่ น) 1234 เก่ง ปานกลาง ปานกลาง อ่อน (ค่อนข้างเก่ง) (คอ่ นข้างออ่ น) 1234 เกง่ ปานกลาง ปานกลาง ออ่ น (ค่อนขา้ งเก่ง) (ค่อนขา้ งอ่อน) 3. การดำเนนิ การแขง่ ขัน 1) ครูแจกซองคำถามให้ทุกโต๊ะ ซ่ึงมีคำถามเท่ากับจำนวนนักเรยี น ซง่ึ ถา้ มีเวลามากอาจจะมีคำถาม เป็น 2 หรือ 3 เทา่ ของจำนวนนกั เรียน โดยตอบเปน็ 2 หรือ 3 รอบก็ได้ ครคู วรชีแ้ จงให้นกั เรียนทราบว่า ทกุ คนผลดั กัน เป็นผู้อา่ นคำถาม ขอให้อา่ นชา้ ๆ ชดั ๆ ผอู้ า่ นคำถามมีหนา้ ที่อ่านคำเฉลยและใหค้ ะแนนผู้ที่ตอบถูกตามลำดับ ดงั นน้ั ครู จะตอ้ งมีคำเฉลยที่ชดั เจนใส่ซองให้นักเรียนควบคู่ไปกับคำถาม อาจเรม่ิ จากคำถามงา่ ยๆ ไปถงึ ยากกไ็ ด้ คำถามแต่ละข้อนั้น ผู้สอนควรเป็นผกู้ ำหนดเวลาต่อข้อก็ได้ 2) เรม่ิ การแข่งขัน (1) นักเรียนคนที่ 1 หยิบซองคำถาม 1 ซอง เปิดซองอ่านคำถาม แลว้ วางลงกลางโต๊ะ (2) นกั เรียนอกี 3 คน แขง่ ขันกนั ตอบคำถาม โดยเขยี นคำตอบลงในกระดาษคำตอบของตน สง่ ให้คนอ่านที่ 1 (3) คนท่อี ่านคำถามทำหน้าที่ใหค้ ะแนนตามลำดบั คนท่ีสง่ กอ่ นหลงั - ผู้ที่ตอบถกู คนแรกได้ 2 คะแนน - ผู้ท่ีตอบถกู คนต่อมาได้ 1 คะแนน (4) สมาชิกในทมี แข่งขนั ผลัดกันทำหนา้ ทีอ่ า่ นคำถามจนหมด โดยใหท้ ุกคนไดต้ อบคำถาม จำนวนเทา่ กัน (5) ให้ทุกคนรวมคะแนนของตนเอง โดยมีสมาชิกทกุ คนในกลุม่ รบั รองรว่ มกนั วา่ ถกู ตอ้ ง

อาจจะให้เซน็ ช่อื รับรองดว้ ยก็ได้ และมีการคิดคะแนนในรูปแบบโบนสั ได้ เช่น - ผู้ที่ได้คะแนนสงู สดุ ในแต่ละโต๊ะจะได้โบนัส 10 คะแนน - ผทู้ ี่ได้คะแนนรองอนั ดับ 1 ได้โบนัส 8 คะแนน - ผู้ทไ่ี ด้คะแนนรองอนั ดับ 2 ไดโ้ บนัส 6 คะแนน - ผทู้ ไ่ี ด้คะแนนรองอนั ดับ 3 ได้โบนสั 4 คะแนน (ครูผสู้ อนอาจออกแบบการแข่งขันเปน็ อย่างอื่น) 4. การให้คะแนนทีมผ้ชู นะ ผู้ทไ่ี ปทำการแขง่ ขนั จะกลบั เข้ากลุ่มเดมิ นำคะแนนการแข่งขันแต่ละคนมารวมกนั เป็นคะแนนของทีม ทมี ทีไ่ ด้คะแนนสงู สดุ จะได้รบั รางวัล คอื คำชมเชย หรือการประกาศ ชมเชยบนปา้ ยนิเทศ 5. ครูและนกั เรียนชว่ ยกันสรุปสาระสำคญั เก่ียวกับปฏสิ มั พันธ์เชงิ ภูมศิ าสตรข์ องโลก 6. ครใู หน้ กั เรียนแตล่ ะคนสืบค้นขอ้ มูลขา่ วสารโดยใช้เครื่องมอื ทางภมู ศิ าสตร์เกี่ยวกบั เร่อื งตอ่ ไปนี้ มาลว่ งหน้า เพือ่ ใช้ในการเรียนในชว่ั โมงเรยี นถัดไป 1) ปรากฏการณท์ ี่สง่ ผลให้เกดิ การเปล่ยี นแปลงของภมู อิ ากาศทำให้เกดิ ภัยพบิ ตั ิต่าง ๆ 2) ปรากฏการณจ์ ากธรรมชาติท่เี กิดจากการเคลื่อนตวั ของเปลอื กโลก ช่ัวโมงท่ี 5 1. ครสู นทนาซกั ถามนกั เรยี นเกยี่ วกบั ความพร้อมของการหาขอ้ มลู ข่าวสารท่ีครูให้หามาล่วงหน้า และใหแ้ ต่ละ กลุ่มนำเสนอประเด็นหวั ขอ้ ข่าวสารทห่ี ามาวา่ เหมาะสมเพียงไร 2. สมาชิกในแตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั พจิ ารณาขอ้ มูลที่หามา แล้วนำมาวิเคราะห์ร่วมกันตามหัวข้อทกี่ ำหนดในใบงาน ที่ 1.3 เรื่อง ปรากฏการณท์ างธรรมชาติ 3. สมาชกิ แต่ละกลุม่ รว่ มกันตรวจสอบความถกู ตอ้ งของใบงาน แล้วนำเสนอผลงานทห่ี น้าช้ันเรยี น โดยมีกลุ่ม อน่ื ซึง่ เปน็ ผูฟ้ งั ทำหน้าที่แสดงความคดิ เหน็ เพมิ่ เติม ดงั นี้ - กลมุ่ ท่ี 1 นำเสนอผลงาน กลมุ่ ท่ี 2 แสดงความคดิ เหน็ เพิ่มเตมิ - กลุม่ ที่ 2 นำเสนอผลงาน กลมุ่ ที่ 3 แสดงความคิดเหน็ เพมิ่ เติม - กลุ่มท่ี 3 นำเสนอผลงาน กลุ่มท่ี 4 แสดงความคดิ เห็นเพม่ิ เติม - กลมุ่ ที่ 4 นำเสนอผลงาน กลุ่มที่ 5 แสดงความคดิ เหน็ เพิ่มเติม - กลมุ่ ที่ 5 นำเสนอผลงาน กลุ่มที่ 1 แสดงความคดิ เหน็ เพ่มิ เตมิ 4. ครแู ละนกั เรียนช่วยกันสรปุ สาระสำคัญของผลกระทบจากปรากฏการณ์การเปลีย่ นแปลงของภูมิอากาศและ การเคล่ือนตวั ของเปลือกโลก ชั่วโมงท่ี 6 1. ครูให้นกั เรียนออกมาช้แี ผนท่โี ลกบรเิ วณที่เป็นแหลง่ น้ำสำคัญของโลก ท้ังทเี่ ปน็ สว่ นนำ้ จืด และน้ำท่อี ย่ใู น ทะเลและมหาสมุทร และอธิบายความสำคญั ของแหลง่ นำ้ ดงั กลา่ วตอ่ การดำเนนิ ชวี ิตของมนษุ ย์ 2. ครอู ธิบายความร้ใู หน้ กั เรียนเขา้ ใจเก่ียวกบั ปรากฏการณ์จากอุทกภาคในหวั ข้อต่อไปนี้ 1) วัฏจกั รทางอุทกวทิ ยา 2) การไหลเวียนของกระแสน้ำมหาสมุทร 3) ปฏิสมั พนั ธ์ท่ีเกดิ จากอิทธพิ ลของกระแสนำ้ มหาสมุทร 4) ปฏสิ มั พนั ธ์ท่เี กิดจากนำ้ ขนึ้ -น้ำลง และน้ำเกิด-นำ้ ตาย

5) ปฏสิ ัมพันธ์ของมนุษยก์ ับแหลง่ น้ำจืด 6) ปฏิสัมพนั ธข์ องมนษุ ย์กับทะเลและมหาสมทุ ร 3. ครใู ห้นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มจับคกู่ นั เปน็ 2 คู่ ใหแ้ ต่ละคู่ศึกษาความรู้เรือ่ ง ปรากฏการณ์จากชีวภาคจากหนงั สือ เรยี น หรือหนังสอื คน้ ควา้ เพ่ิมเติม ตามความเหมาะสม ในหวั ข้อที่กำหนดให้ ดงั น้ี - คูท่ ี่ 1 ศกึ ษาความรู้ เรอื่ ง ปรากฏการณ์ทางชวี ภาคของพชื - คทู่ ี่ 2 ศึกษาความรู้ เรื่อง ปรากฏการณ์ทางชีวภาคของสัตว์ 4. นกั เรียนแตล่ ะค่ผู ลัดกนั เล่าเร่ืองทไี่ ด้ศกึ ษามาส่กู ันฟงั และผลดั กนั ซกั ถามข้อสงสัยจนมคี วามกระจา่ งชัดเจน ครู ส่มุ นักเรยี นออกไปนำเสนอข้อมูลความรู้ทไ่ี ด้ศกึ ษามาประมาณ 2-4 กลุ่ม 5. ครูและนักเรียนร่วมกนั สรุปสาระสำคญั เกีย่ วกับความสัมพันธ์ระหว่างบรรยากาศอุทกภาค ธรณภี าค และชวี ภาคในพืน้ ทต่ี ่างๆ ของโลก ส่ือ อปุ กรณแ์ ละแหล่งการเรยี นรู้ 1. ส่ือการเรยี นรู้ 1) หนังสือเรียน ภมู ิศาสตร์ ม.4-ม.6 2) หนังสือคน้ คว้าเพม่ิ เตมิ (1) ทรพั ยากรธรณี, กรม. การลดความเสี่ยงจากกรณพี ิบตั ิภยั คลน่ื ยักษส์ นึ ามิ. มปท, 2548. (2) ทรัพยากรธรณี, กรม. แผน่ ดินไหว ภยั ใกลต้ วั . กรงุ เทพฯ : แนกซอส อนิ ฟนิ ติ ี้, 2548. (3) ประสิทธิ์ ทฆี พฒุ ิ และศภุ ฤกษ์ ตนั ศรีรตั นว์ งศ.์ คมู่ อื เตือนภยั พิบตั ิทางธรรมชาต.ิ กรุงเทพฯ : ดอกหญา้ , มปป. (4) วรรณี พุทธาวฒุ ไิ กร. ภูมิศาสตรป์ ระเทศไทย . กรุงเทพฯ : โอ. เอส. พริน้ ตง้ิ เฮ้าส์, 2546. 3) เคร่ืองมอื ทางภมู ศิ าสตร์ ไดแ้ ก่ ภาพถา่ ยทางอากาศ ภาพจากดาวเทยี ม แผนทโ่ี ลก และลกู โลก 4) ตัวอยา่ งสื่อประกอบการสอน 5) ใบงานที่ 1.1 เรอ่ื ง ความรู้ทัว่ ไปเกีย่ วกบั โลก 6) ใบงานท่ี 1.2 เรอ่ื ง ปฏสิ มั พนั ธเ์ ชิงภูมศิ าสตรข์ องโลก 7) ใบงานท่ี 1.3 เร่ือง ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ 2. แหลง่ การเรียนรู้ 1) ห้องสมุด 2) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ http://th.wikipedia.org/wiki/โลก http://th.wikipedia.org/wiki/ปรากฏการณท์ างธรรมชาติ http://www.trueplookpanya.com/true/knowledge_detail.php?... http://th.wikipedia.org/wiki/หมวดหมู่ : ภูมิศาสตรไ์ ทย http://tkc.go.th/pageconfig/.../viewcontent1.asp?pageid

การวดั และการประเมินผล เครือ่ งมือ เกณฑ์ วิธกี าร ใบงานที่ 1.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 1.1 ใบงานท่ี 1.2 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 1.2 ใบงานที่ 1.3 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 1.3 แบบประเมินการนำเสนอผลงาน ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ประเมินการนำเสนอผลงาน แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม

บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรียนรู้ รายวิชา สังคมศกึ ษา รหัสวิชา ส31103 ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2563 แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่……..เร่ือง………………….…….……………..…………..……………..เวลา ……คาบ 1. จำนวนนกั เรียนทใ่ี ช้สอน ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่.ี ..........................จำนวน.................คน 2. ผลการสอน 2.1) ความเหมาะสมของระยะเวลา  ดีมาก  ดี  พอใช้  ต้องปรบั ปรงุ 2.2) ความเหมาะสมของเนอื้ หา  ดีมาก  ดี  พอใช้  ต้องปรับปรงุ 2.3) ความเหมาะสมของกจิ กรรมการเรียนการสอน  ดีมาก  ดี  พอใช้  ต้องปรบั ปรุง 2.4) ความเหมาะสมของสื่อการสอนทใี่ ช้  ดีมาก  ดี  พอใช้  ตอ้ งปรบั ปรุง 2.5) พฤตกิ รรม/การมีสว่ นรว่ มของนกั เรียน  ดีมาก  ดี  พอใช้  ตอ้ งปรบั ปรุง 2.6) ผลการปฏิบัติกิจกรรม/ใบกิจกรรม การทดสอบกอ่ นเรียนและหลังเรยี น 2.6.1) การประเมนิ ด้านความรูค้ วามเขา้ ใจโดยใช้แบบประเมินสรปุ ความคิดรวบยอดพบว่ามนี ักเรียนร้อยละ ..……….. ผา่ นเกณฑ์การประเมิน และมีนกั เรยี นรอ้ ยละ ……….....ไมผ่ า่ นเกณฑ์การประเมนิ 2.6.2) การประเมนิ ดา้ นทักษะกระบวนการของผู้เรียนผลการประเมินโดยใชแ้ บบสงั เกตพฤติกรรมการ ทำงานพบว่ามีนักเรียนรอ้ ยละ..….….. ผ่านเกณฑ์การประเมิน และมีนกั เรยี นรอ้ ยละ …...……ไม่ผา่ นเกณฑ์การ ประเมนิ 2.6.3) การประเมินด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ผลการประเมินโดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมพบว่ามี นักเรยี นร้อยละ ..……….. ผ่านเกณฑก์ ารประเมิน และมีนกั เรยี นร้อยละ ……....…ไม่ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน 3. ปัญหาและอปุ สรรค …………………………………………………………………………………………………………………….................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………...…………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………...………………………………………… 4. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข ……………………………………………………………………………………………………………………...………………………………………… …………………………………………………………………………................................................................................................. ……………………………………………………………………………………………………………………...………………………………………… ลงชือ่ ………..…………………. ผู้สอน/ผบู้ นั ทกึ ลงช่อื .....................................ผ้บู ริหาร ( นายเจษฎา กนั ทวงค์ ) ( นายศฤงคาร ใจปนั ทา ) ครผู ู้ช่วย ผ้อู ำนวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 21 …………/…………./………… …………/…………./…………

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ ลำดับ ชื่อ – ความรว่ มมอื การแสดง การรับฟัง การต้ังใจ การร่วม รวม ท่ี สกลุ 4321 ความคิดเห็น ความคิดเหน็ ทำงาน ปรับปรุง 20 ของผรู้ บั ผลงานกลมุ่ คะแนน การ 4321 4321 4321 4321 ประเมิน เกณฑก์ ารให้คะแนน 4 ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมิน ดีมาก = 3 ............../.................../................ ดี = 2 พอใช้ = 1 หมายเหตุ ครอู าจใช้วธิ ีการมอบหมายใหห้ ัวหน้ากลุ่ม ปรับปรงุ = เป็นผู้ประเมิน หรอื ให้ตวั แทนกลุ่มผลัดกนั ประเมนิ หรือใหม้ กี ารประเมินโดยเพ่อื น โดยตัวนกั เรยี นเอง เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ตามความเหมาะสมก็ได้ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ 17 – 20 ดีมาก 13 – 16 ดี 9 – 12 พอใช้ 5–8 ปรบั ปรงุ

แผนการจัดการเรยี นรู้ สาระท่ี 5 ภูมศิ าสตร์ จำนวน 3 ช่ัวโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ผสู้ อน นายเจษฎา กนั ทวงค์ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 5 ปฏิสมั พันธ์เชงิ ภมู ศิ าสตร์ เร่อื ง ปฏสิ มั พันธ์เชิงภูมศิ าสตรใ์ นประเทศไทย ช้ัน มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ส 5.1 เข้าใจลกั ษณะของโลกทางกายภาพ และความสัมพนั ธข์ องสรรพส่งิ ซง่ึ มผี ลต่อ กันและกันในระบบของธรรมชาติ ใชแ้ ผนท่แี ละเคร่ืองมือทางภมู ศิ าสตร์ ในการคน้ หาวิเคราะห์สรปุ และใช้ขอ้ มูลภูมิ สารสนเทศอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ตัวชีว้ ัด ส 5.1 ม.4-6/1 ใชเ้ คร่ืองมือทางภมู ศิ าสตรใ์ นการรวบรวม วเิ คราะห์ และนำเสนอขอ้ มลู ภูมิสารสนเทศอยา่ งมี ประสทิ ธิภาพ ม.4-6/3 วิเคราะห์การเปล่ยี นแปลงของพ้ืนท่ซี ึ่งไดร้ ับอทิ ธิพลจากปัจจยั ทางภูมิศาสตรใ์ นประเทศไทย และทวีปตา่ งๆ สาระการเรยี นรู้ 1) เคร่อื งมือทางภูมิศาสตร์ท่ีให้ข้อมูลและขา่ วสารภูมิลักษณ์ ภูมิอากาศ และภมู สิ งั คมของไทย และภูมภิ าค ต่างๆ ของโลก 2) การเปลี่ยนแปลงของพน้ื ทซี่ ึง่ ไดร้ ับอทิ ธิพลจากปัจจัยทางภมู ิศาสตร์ในประเทศไทยและทวปี ต่างๆ เชน่ การเคลื่อนตัวของแผน่ เปลือกโลก สาระสำคัญ อทิ ธิพลจากปัจจัยทางภูมศิ าสตร์สง่ ผลต่อการเปลี่ยนแปลงพน้ื ที่ในประเทศไทย และทวีปต่างๆ ของโลก ซงึ่ มี ผลตอ่ วิถีการดำรงชีวติ ของมนุษย์ จุดประสงค์ 1. วิเคราะหป์ รากฏการณ์อนั เก่ยี วข้องกบั พ้นื ท่ีประเทศไทย ซึง่ มผี ลกระทบตอ่ วถิ กี ารดำรงชีวิตของมนษุ ยไ์ ด้ สมรรถนะสำคญั - ทักษะการจัดกลมุ่ 1. ความสามารถในการส่อื สาร - ทักษะการสรปุ ลงความเหน็ 2. ความสามารถในการคดิ 1) ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ - ทักษะการใหเ้ หตุผล 2) ทักษะกระบวนการคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณ - ทักษะการรวบรวมข้อมลู - ทักษะการเชือ่ มโยง 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 1) กระบวนการปฏบิ ัติ 2) กระบวนการทำงานกลมุ่ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ใฝเ่ รียนรู้ 2. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน 3. มวี ินัย

กิจกรรมการเรียนรู้ ชัว่ โมงท่ี 1-2 1. ครูนำภาพลกั ษณะภูมปิ ระเทศในภาคต่างๆ ของประเทศไทย มาให้นักเรยี นชว่ ยกนั ทายว่า ภาพต่างๆ ดังกล่าวนน้ั อยใู่ นภาคใด พร้อมอธิบายเหตุผล ตวั อย่างภาพ เชน่ - ภาพป่าไม้หนาแนน่ ต้นสงู ๆ - ภาพปา่ โปร่ง - ภาพทีร่ าบแคบๆ ชายฝ่งั ทะเล - ภาพบรเิ วณทรี่ าบลมุ่ แม่น้ำ - ภาพที่ราบเชิงเขา - ภาพที่เนินแบบลูกฟกู - ภาพหม่เู กาะ - ภาพคาบสมทุ ร - ภาพอาคารบา้ นเรอื นริมฝ่งั แม่นำ้ - ภาพการปลูกพชื แบบขัน้ บันได - ภาพเรือประมงชายฝัง่ ทะเล - ภาพสัตวป์ ่า 2. ครแู บ่งนักเรยี นเปน็ กลมุ่ กล่มุ ละ 3 คน คละกนั ตามความสามารถ เรยี กกลุ่มน้ีว่า กลมุ่ บา้ น (Home Groups) ใหแ้ ต่ละคนมหี มายเลขประจำตวั ตง้ั แต่หมายเลข 1-3 ตามลำดบั สมาชกิ แตล่ ะคนในกลุ่มแยกย้ายกันไปเขา้ กล่มุ ใหม่ โดยใหน้ กั เรยี นท่มี ีหมายเลขตรงกันมาอยู่ดว้ ยกัน เรียกกลมุ่ นี้วา่ กลุ่มผเู้ ชยี่ วชาญ (Expert Groups) 3. นักเรียนแตล่ ะหมายเลขร่วมกนั ศกึ ษาความรู้ จากหนงั สอื เรยี น หรือหนงั สอื คน้ ควา้ เพม่ิ เตมิ ตาม ความเหมาะสม ในหวั ขอ้ ท่กี ำหนดให้ ดงั นี้ - กลุม่ หมายเลข 1 ศกึ ษาความรเู้ ร่ือง ปฏสิ ัมพนั ธข์ องมนุษย์กบั ลกั ษณะธรณีสัณฐานในประเทศไทย - กลุ่มหมายเลข 2 ศึกษาความรูเ้ ร่ือง ปฏิสัมพันธ์ของมนษุ ย์กบั ลักษณะอุทกภาคในประเทศไทย - กลมุ่ หมายเลข 3 ศกึ ษาความรู้เรื่อง ปฏสิ มั พันธ์ของมนษุ ย์กบั ลกั ษณะชวี ภาคในประเทศไทย 4. สมาชิกกลมุ่ ผู้เช่ียวชาญช่วยกันสรุปประเด็นสำคัญของเร่อื งทศ่ี ึกษาจนมีความเข้าใจกระจา่ งชัดเจนแลว้ แยก ยา้ ยกนั กลับเขา้ สูก่ ล่มุ บา้ น 5. สมาชกิ แตล่ ะหมายเลขของทกุ กลมุ่ ในกลุ่มบ้าน ผลัดกันเลา่ เร่ืองที่ตนได้ศึกษามาใหส้ มาชกิ คนอน่ื ฟัง โดยให้ ผูฟ้ ังจดบันทกึ ขอ้ ความสำคญั และซักถามผูเ้ ลา่ จนมีความเขา้ ใจกระจ่างชดั เจน 6. ครูสุ่มตวั แทนกลุ่ม ออกมาสรปุ ประเด็นสำคญั ในแตล่ ะเรื่องใหเ้ พื่อนฟังที่หน้าชนั้ เรียน และใหก้ ลมุ่ ผูฟ้ งั ช่วย เสนอแนะเพมิ่ เตมิ 7. ครูให้นักเรยี นแต่ละคนหาภาพ ข่าว หรอื ข้อมลู ทแ่ี สดงถึงปฏิสมั พันธ์ของมนุษยก์ บั ลกั ษณะธรณสี ัณฐาน หรอื ลักษณะอุทกภาค หรอื ลักษณะชวี ภาคในประเทศไทยมาลว่ งหน้า คนละ 1 เรือ่ งเพือ่ ใชใ้ นชว่ั โมงเรียนตอ่ ไป ชั่วโมงที่ 3 1. สมาชิกในกลมุ่ แต่ละกลุ่มนำภาพ ข่าว หรอื ขอ้ มูลท่ีแสดงถึงปฏิสมั พนั ธ์ของมนษุ ย์กับลกั ษณะสณั ฐาน หรอื ลกั ษณะอทุ กภาค หรือลกั ษณะชวี ภาคในประเทศไทยมานำเสนอ โดยเลา่ ประเดน็ สำคญั ให้สมาชิกในกลุม่ ฟัง 2. สมาชกิ ในแตล่ ะกลมุ่ ช่วยกนั เลอื กข้อมูลในขอ้ 1 ทม่ี สี าระครอบคลุมตามประเด็นที่กำหนดในใบงานที่ 2.1 เรือ่ ง ปฏิสัมพันธ์เชงิ ภมู ิศาสตร์ในประเทศไทย 3. สมาชิกในแตล่ ะกลมุ่ ช่วยกันตอบคำถามในใบงานท่ี 2.1 แลว้ ช่วยกนั ตรวจสอบความถูกต้องของคำตอบในใบ งาน 4. ครูให้นักเรียนแตล่ ะกลุ่มสง่ ตัวแทนออกมานำเสนอผลงานท่ีหนา้ ช้นั เรียน และใหก้ ล่มุ ผฟู้ งั มีหน้าที่แสดงความ คิดเหน็ และให้ขอ้ เสนอแนะ

5. ครแู ละนักเรียนช่วยกันสรุปสาระสำคญั เกย่ี วกับปฏสิ มั พนั ธข์ องมนษุ ย์กับลักษณะธรณสี ณั ฐานในประเทศ ไทย ปฏสิ ัมพนั ธ์ของมนษุ ยก์ บั ลกั ษณะอทุ กภาคในประเทศไทย และปฏิสมั พันธ์ของมนษุ ย์กบั ลักษณะชวี ภาคในประเทศ ไทย 6. ครูใหน้ กั เรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกนั ทำบทความวิเคราะห์ เรื่อง ปฏิสมั พันธเ์ ชงิ ภมู ิศาสตร์ โดยให้ครอบคลุม ประเด็นสำคัญต่อไปน้ี 1) การวิเคราะหก์ ารเปลย่ี นแปลงของพน้ื ทีท่ ไ่ี ดร้ บั อิทธิพลจากปัจจัยทางภมู ิศาสตร์ในทวปี ต่างๆ 2) การวิเคราะหก์ ารเปลีย่ นแปลงของพนื้ ทที่ ไี่ ด้รับอิทธพิ ลจากปัจจยั ทางภูมศิ าสตรใ์ นประเทศไทย 3) การวิเคราะห์การดำเนินชีวติ ของมนุษย์ ซง่ึ เกิดจากอิทธพิ ลจากปัจจยั ทางภมู ิศาสตร์ ส่ือ อปุ กรณแ์ ละแหลง่ การเรียนรู้ 1. ส่อื การเรียนรู้ 1) หนังสอื เรยี น ภมู ิศาสตร์ ม.4-ม.6 2) หนังสอื ค้นควา้ เพม่ิ เตมิ (1) ทรัพยากรธรณี, กรม. การลดความเส่ียงจากกรณพี บิ ัติภัยคลนื่ ยกั ษ์สึนาม.ิ มปท, 2548. (2) ทรพั ยากรธรณี, กรม. แผ่นดนิ ไหว ภัยใกล้ตวั . กรงุ เทพฯ : แนกซอส อนิ ฟินติ ี้, 2548. (3) ประสทิ ธิ์ ทีฆพฒุ ิ และศุภฤกษ์ ตันศรรี ตั นว์ งศ์. คมู่ อื เตือนภัยพิบัติทางธรรมชาต.ิ กรงุ เทพฯ : ดอกหญ้า, มปป. (4) วรรณี พทุ ธาวฒุ ิไกร. ภูมิศาสตร์ประเทศไทย . กรุงเทพฯ : โอ. เอส. พร้ินติ้งเฮา้ ส์, 2546. 3) เครื่องมือทางภมู ศิ าสตร์ ได้แก่ ภาพถ่ายทางอากาศ ภาพจากดาวเทยี ม แผนท่โี ลก และลูกโลก 4) ตวั อยา่ งสอื่ ประกอบการสอน 5) ใบงานท่ี 1.1 เร่อื ง ความรู้ท่วั ไปเกี่ยวกบั โลก 6) ใบงานที่ 1.2 เรอ่ื ง ปฏิสมั พนั ธ์เชิงภูมศิ าสตรข์ องโลก 7) ใบงานท่ี 1.3 เร่อื ง ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ 2. แหล่งการเรยี นรู้ 1) ห้องสมดุ 2) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ http://th.wikipedia.org/wiki/โลก http://th.wikipedia.org/wiki/ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ http://www.trueplookpanya.com/true/knowledge_detail.php?... http://th.wikipedia.org/wiki/หมวดหมู่ : ภูมิศาสตรไ์ ทย http://tkc.go.th/pageconfig/.../viewcontent1.asp?pageid

การวัดและการประเมนิ ผล เคร่อื งมอื เกณฑ์ วิธีการ ใบงานที่ 2.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 2.1 ประเมนิ บทความวเิ คราะห์ เรือ่ ง ปฏิสมั พนั ธ์เชิง แบบประเมินบทความวเิ คราะห์ เรอ่ื ง ปฏสิ ัมพนั ธ์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ภูมิศาสตร์ ประเมนิ การนำเสนอผลงาน เชงิ ภมู ิศาสตร์ สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ รายวิชา สังคมศกึ ษา รหัสวิชา ส31103 ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่……..เร่ือง………………….…….……………..…………..……………..เวลา ……คาบ 1. จำนวนนกั เรียนที่ใช้สอน ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่.ี ..........................จำนวน.................คน 2. ผลการสอน 2.1) ความเหมาะสมของระยะเวลา  ดีมาก  ดี  พอใช้  ต้องปรบั ปรงุ 2.2) ความเหมาะสมของเนอื้ หา  ดีมาก  ดี  พอใช้  ต้องปรับปรงุ 2.3) ความเหมาะสมของกจิ กรรมการเรียนการสอน  ดีมาก  ดี  พอใช้  ต้องปรบั ปรุง 2.4) ความเหมาะสมของสื่อการสอนทใี่ ช้  ดีมาก  ดี  พอใช้  ต้องปรับปรุง 2.5) พฤตกิ รรม/การมีสว่ นรว่ มของนกั เรียน  ดีมาก  ดี  พอใช้  ตอ้ งปรบั ปรุง 2.6) ผลการปฏบิ ัติกิจกรรม/ใบกิจกรรม การทดสอบกอ่ นเรียนและหลังเรยี น 2.6.1) การประเมนิ ดา้ นความรูค้ วามเขา้ ใจโดยใช้แบบประเมินสรปุ ความคิดรวบยอดพบว่ามนี ักเรียนร้อยละ ..……….. ผา่ นเกณฑ์การประเมิน และมีนกั เรยี นรอ้ ยละ ……….....ไมผ่ า่ นเกณฑ์การประเมนิ 2.6.2) การประเมนิ ดา้ นทักษะกระบวนการของผู้เรียนผลการประเมนิ โดยใชแ้ บบสงั เกตพฤติกรรมการ ทำงานพบวา่ มีนักเรยี นรอ้ ยละ..….….. ผ่านเกณฑ์การประเมิน และมีนกั เรยี นรอ้ ยละ …...……ไม่ผา่ นเกณฑก์ าร ประเมนิ 2.6.3) การประเมินด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ผลการประเมินโดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมพบว่ามี นักเรยี นร้อยละ ..……….. ผ่านเกณฑก์ ารประเมิน และมีนกั เรยี นร้อยละ ……....…ไม่ผ่านเกณฑก์ ารประเมิน 3. ปัญหาและอปุ สรรค …………………………………………………………………………………………………………………….................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………...…………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………...………………………………………… 4. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข ……………………………………………………………………………………………………………………...………………………………………… …………………………………………………………………………................................................................................................. ……………………………………………………………………………………………………………………...………………………………………… ลงชือ่ ………..…………………. ผู้สอน/ผบู้ นั ทกึ ลงช่ือ .....................................ผ้บู รหิ าร ( นายเจษฎา กนั ทวงค์ ) ( นายศฤงคาร ใจปนั ทา ) ครผู ู้ช่วย ผ้อู ำนวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 21 …………/…………./………… …………/…………./…………

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ ลำดับ ชื่อ – ความรว่ มมอื การแสดง การรับฟัง การต้ังใจ การร่วม รวม ท่ี สกลุ 4321 ความคิดเห็น ความคิดเหน็ ทำงาน ปรับปรุง 20 ของผรู้ บั ผลงานกลมุ่ คะแนน การ 4321 4321 4321 4321 ประเมิน เกณฑก์ ารให้คะแนน 4 ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมิน ดีมาก = 3 ............../.................../................ ดี = 2 พอใช้ = 1 หมายเหตุ ครอู าจใช้วธิ ีการมอบหมายใหห้ ัวหน้ากลุ่ม ปรับปรงุ = เป็นผู้ประเมิน หรอื ให้ตวั แทนกลุ่มผลัดกนั ประเมนิ หรือใหม้ กี ารประเมินโดยเพ่อื น โดยตัวนกั เรยี นเอง เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ตามความเหมาะสมก็ได้ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ 17 – 20 ดีมาก 13 – 16 ดี 9 – 12 พอใช้ 5–8 ปรบั ปรงุ

แผนการจัดการเรียนรู้ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม สาระที่ 5 ภูมิศาสตร์ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 6 ภยั พบิ ัติทางธรรมชาติ และการเปลย่ี นแปลงทางธรรมชาตใิ นโลก จำนวน 4 ชัว่ โมง เรื่อง ภัยพบิ ตั ิทางธรรมชาติ ช้ัน มัธยมศึกษาปีท่ี 4 ผู้สอน นายเจษฎา กนั ทวงค์ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ส 5.1 เข้าใจลกั ษณะของโลกทางกายภาพ และความสมั พันธข์ องสรรพส่งิ ซงึ่ มีผลตอ่ กันและกนั ในระบบของธรรมชาติ ใชแ้ ผนท่ีและเครื่องมอื ทางภูมศิ าสตร์ ในการค้นหาวิเคราะห์สรุป และใช้ข้อมูลภมู ิ สารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ตวั ช้ีวัด ส 5.1 ม.4-6/1 ใช้เคร่ืองมือทางภมู ศิ าสตรใ์ นการรวบรวม วิเคราะห์ และนำเสนอขอ้ มลู ภูมิสารสนเทศอยา่ งมี ประสิทธภิ าพ ม.4-6/2 วเิ คราะห์อทิ ธิพลของสภาพภูมศิ าสตร์ซ่ึงทำให้เกิดปญั หาทางกายภาพ หรอื ภัยพบิ ัตทิ าง ธรรมชาติในประเทศไทย และภมู ภิ าคต่างๆ ของโลก สาระการเรยี นรู้ 1) เครื่องมอื ทางภูมศิ าสตรท์ ี่ใหข้ ้อมลู และขา่ วสารภมู ิลกั ษณ์ ภูมิอากาศ และภมู ิสังคมของไทย และภมู ิภาค ต่างๆ ของโลก 2) ปัญหาทางกายภาพหรือภัยพบิ ัติทางธรรมชาติในประเทศไทย และภูมภิ าคตา่ งๆ ของโลก 3) การเปลีย่ นแปลงลักษณะทางกายภาพในส่วนต่างๆ ของโลก 4) การเกดิ ภมู สิ ังคมใหม่ของโลก สาระสำคัญ ภัยพบิ ัติทางธรรมชาตใิ นประเทศไทย และภมู ิภาคตา่ งๆ ของโลกส่งผลตอ่ การสญู เสียชีวติ และทรัพย์สิน จุดประสงค์ 1. วเิ คราะหส์ าเหตุของการเกิดภยั ทางธรรมชาติ และเสนอแนวทางการปอ้ งกันและแกไ้ ขได้ สมรรถนะสำคัญ - ทกั ษะการจัดกลมุ่ 1. ความสามารถในการสื่อสาร - ทกั ษะการสรุปลงความเห็น 2. ความสามารถในการคดิ 1) ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ - ทกั ษะการให้เหตุผล 2) ทกั ษะกระบวนการคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณ - ทกั ษะการรวบรวมข้อมูล - ทกั ษะการเช่ือมโยง 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต 1) กระบวนการปฏิบัติ 2) กระบวนการทำงานกลุ่ม คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มุ่งมัน่ ในการทำงาน 3. มีวนิ ยั

กจิ กรรมการเรียนรู้ ชวั่ โมงท่ี 1-2 1. ครูใหน้ กั เรยี นดภู าพ หรอื วีดิทัศน์เกยี่ วกับภยั ธรรมชาตหิ ลายๆ ประเภท เชน่ - ภูเขาไฟระเบดิ - การเกดิ สึนามิ - อุทกภัย - ไฟปา่ 2. นกั เรยี นร่วมกนั อภปิ รายถึงความเสียหายที่เกิดจากภัยธรรมชาตใิ นข้อ 1 ที่มผี ลต่อชวี ิตมนุษย์ และทรพั ยส์ นิ 3. ครูอธิบายใหน้ ักเรยี นเข้าใจว่า ภยั พิบัติทางธรรมชาติเปน็ เหตุการณท์ ี่เกิดข้นึ ตามธรรมชาติ เมอ่ื เกิดขึ้นแลว้ จะ สง่ ผลให้เกดิ อนั ตรายและเกิดความสูญเสยี ท้ังชวี ิตและทรพั ยส์ นิ ต่างๆ ภยั ธรรมชาตเิ กิดข้นึ ใน 3 ลักษณะ คอื 1) ภยั พิบตั ิท่ีเกดิ ขน้ึ เน่ืองจากสาเหตภุ ายในโลก 2) ภยั พบิ ตั ิท่ีเกิดข้นึ บนผวิ โลก 3) ภยั พิบตั ทิ ่ีเกดิ ขึ้นในบรรยากาศ 4. ครูแบ่งนักเรยี นเป็นกล่มุ กล่มุ ละ 4 คน คละกนั ตามความสามารถ คือ เกง่ ปานกลางคอ่ นขา้ งเกง่ ปานกลาง ค่อนขา้ งอ่อน และออ่ น ให้นกั เรยี นแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาจับสลาก เพอื่ ศกึ ษาความรูเ้ กีย่ วกับภัยพิบตั ิทาง ธรรมชาติ จากหนงั สอื เรียน หนังสอื คน้ คว้าเพิ่มเติม ตามความเหมาะสม และทำใบงานตามท่ีกำหนด ดงั น้ี - กลุ่มที่ 1 ทำใบงานที่ 1.1 เร่ือง แผน่ ดินไหว - กลุม่ ท่ี 2 ทำใบงานที่ 1.2 เร่อื ง ภูเขาไฟปะทุ - กลุ่มที่ 3 ทำใบงานที่ 1.3 เรอ่ื ง สึนามิ - กลุ่มที่ 4 ทำใบงานที่ 1.4 เรือ่ ง อุทกภยั - กลมุ่ ท่ี 5 ทำใบงานที่ 1.5 เร่ือง แผน่ ดินถล่ม - กลุ่มท่ี 6 ทำใบงานท่ี 1.6 เรอ่ื ง การกัดเซาะชายฝ่งั - กลุ่มท่ี 7 ทำใบงานท่ี 1.7 เร่ือง วาตภัย - กลุ่มท่ี 8 ทำใบงานท่ี 1.8 เรื่อง ไฟป่า 5. สมาชิกแต่ละกลุม่ ร่วมกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง และปรับปรงุ ใบงานทต่ี นรับผิดชอบ แลว้ เตรียมเสนอ ผลงานในช่วั โมงเรียนต่อไป ชว่ั โมงท่ี 3 1. ครสู นทนากับนักเรยี นถงึ ความพร้อมในการนำเสนอผลงาน และใหน้ ักเรียนส่งตัวแทนกลมุ่ ออกมาจบั สลาก ลำดับในการนำเสนอผลงานทหี่ น้าชัน้ เรียน ครกู ำหนดให้สมาชกิ กลมุ่ อน่ื ซึง่ เปน็ ผ้ฟู ังมหี น้าทซี่ ักถามข้อสงสยั จนมีความ กระจ่างชัดเจน 2. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ สง่ ตวั แทนออกมานำเสนอผลงานทีห่ นา้ ชนั้ เรียนตามลำดับหมายเลขท่จี บั สลากได้ กลุ่ม ผ้ฟู งั มีหนา้ ทีจ่ ดบนั ทกึ และตั้งคำถามตามกลมุ่ ที่รายงาน เพอ่ื เปน็ การสร้างความมนั่ ใจในความรู้ที่ได้รับ 3. ครแู ละนักเรยี นช่วยกันสรปุ ความรเู้ ก่ยี วกบั ภยั พบิ ัติทางธรรมชาติในประเดน็ ตอ่ ไปนี้ 1) ปจั จยั ท่ที ำให้เกดิ ภยั พบิ ตั ทิ างธรรมชาติ 2) บรเิ วณทเ่ี กิดภยั พิบัติทางธรรมชาติ 3) ผลกระทบที่เกิดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ 4) การรว่ มมอื กนั ปอ้ งกนั

4. ครูมอบหมายให้นักเรยี นแตล่ ะคนไปสืบคน้ ขอ้ มูลเกีย่ วกับภัยพิบัติทางธรรมชาติทเ่ี กิดขึ้นในบรเิ วณต่างๆ ใน โลก ตามความสนใจมาคนละ 1 เรื่อง โดยศกึ ษาจากแหลง่ การเรยี นรู้ต่างๆ เช่น หนงั สอื เรยี น หนงั สอื คน้ คว้าเพิ่มเตมิ หนังสอื พิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ หรือแหล่งข้อมูลสารสนเทศ ชวั่ โมงที่ 4 1. สมาชิกแตล่ ะคนในกลุ่มนำข้อมูลทคี่ น้ คว้าเกี่ยวกบั ภัยพิบตั ิทางธรรมชาติ มาเล่าสู่กนั ฟังในกลมุ่ ตามหัวขอ้ ต่อไปนี้ 1) ชื่อของภยั พบิ ัตทิ างธรรมชาติ 2) บรเิ วณทเ่ี กดิ ภยั พิบัติทางธรรมชาติ 3) ผลจากการเกิดภัยพบิ ตั ทิ างธรรมชาติตอ่ ชมุ ชน ประเทศชาติ 4) การรว่ มมอื กนั ระหวา่ งประเทศในการปอ้ งกันภยั พบิ ตั ทิ างธรรมชาติ 2. สมาชกิ แตล่ ะกลมุ่ นำขอ้ มูลท่ีค้นคว้ามาเลา่ ให้สมาชิกคนอืน่ ในกลุ่มฟัง โดยให้เล่าเรอ่ื งตามลำดับหมายเลข สมาชกิ ในกลมุ่ ตัง้ แตห่ มายเลข 1-4 3. สมาชิกในกลมุ่ รว่ มกันเลือกข่าวเก่ียวกบั ภยั พิบัติทางธรรมชาตทิ ี่สมาชกิ นำมาเล่าส่กู นั ฟงั โดยเลือกขา่ วท่เี ป็น ปัญหาสำคัญ หรอื ปญั หาที่มีผลกระทบตอ่ ชีวติ และทรพั ยส์ นิ มากที่สุด 4. นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานำเสนอผลงานขา่ วเกย่ี วกับภัยพิบตั ิทางธรรมชาติ โดยปฏบิ ัตดิ ังนี้ - กล่มุ หมายเลข 1 นำเสนอผลงาน กลมุ่ หมายเลข 2 เสนอแนะเพม่ิ เตมิ - กลมุ่ หมายเลข 2 นำเสนอผลงาน กลมุ่ หมายเลข 3 เสนอแนะเพมิ่ เติม - กลมุ่ หมายเลข 3 นำเสนอผลงาน กลุ่มหมายเลข 4 เสนอแนะเพิม่ เติม - กลุม่ หมายเลข 4 นำเสนอผลงาน กลมุ่ หมายเลข 5 เสนอแนะเพิ่มเตมิ - กลุ่มหมายเลข 5 นำเสนอผลงาน กลมุ่ หมายเลข 1 เสนอแนะเพิ่มเตมิ 5. ครแู ละนักเรยี นช่วยกนั สรุปลกั ษณะของภัยพิบตั ทิ างธรรมชาติ ผลกระทบต่อชีวิตและทรพั ยส์ ิน และแนวทาง การป้องกนั และแก้ไข สอื่ อปุ กรณแ์ ละแหล่งการเรียนรู้ 1. สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสอื เรยี น ภมู ศิ าสตร์ ม.4-ม.6 2) หนงั สือคน้ ควา้ เพ่มิ เตมิ - ประสิทธ์ิ ทีฆพุฒิ และศุภฤกษ์ ตันศรีรตั นวงศ์. ค่มู ือเตอื นภัยพบิ ตั ิทางธรรมชาต.ิ กรุงเทพฯ : ดอกหญา้ , มปป. 3) ตัวอยา่ งส่ือประกอบการสอน 4) ใบงานที่ 1.1 เรื่อง แผน่ ดินไหว 5) ใบงานท่ี 1.2 เร่ือง ภเู ขาไฟปะทุ 6) ใบงานที่ 1.3 เรือ่ ง สึนามิ 7) ใบงานท่ี 1.4 เร่อื ง อทุ กภยั 8) ใบงานที่ 1.5 เร่อื ง แผน่ ดินถลม่

9) ใบงานท่ี 1.6 เร่ือง การกดั เซาะชายฝัง่ 10) ใบงานที่ 1.7 เรื่อง วาตภยั 11) ใบงานท่ี 1.8 เร่ือง ไฟปา่ 2.แหล่งการเรียนรู้ 1) หอ้ งสมุด 2) แหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ http://www.en.wikipedia.org/wiki/Natural_disaster http://environment.nationalgeographic.com/environment/natural-disasters/ การวัดและการประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์ ใบงานท่ี 1.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ วิธีการ ใบงานท่ี 1.2 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 1.1 ตรวจใบงานท่ี 1.2 ใบงานท่ี 1.3 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 1.3 ใบงานที่ 1.4 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 1.4 ตรวจใบงานท่ี 1.5 ใบงานท่ี 1.5 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 1.6 ใบงานท่ี 1.6 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 1.7 ใบงานที่ 1.7 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 1.8 ใบงานท่ี 1.8 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ประเมินการนำเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกล่มุ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรียนรู้ รายวิชา สังคมศกึ ษา รหัสวิชา ส31103 ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2563 แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่……..เร่ือง………………….…….……………..…………..……………..เวลา ……คาบ 1. จำนวนนกั เรียนทใ่ี ช้สอน ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่.ี ..........................จำนวน.................คน 2. ผลการสอน 2.1) ความเหมาะสมของระยะเวลา  ดีมาก  ดี  พอใช้  ต้องปรบั ปรงุ 2.2) ความเหมาะสมของเนอื้ หา  ดีมาก  ดี  พอใช้  ต้องปรบั ปรุง 2.3) ความเหมาะสมของกจิ กรรมการเรียนการสอน  ดีมาก  ดี  พอใช้  ต้องปรบั ปรุง 2.4) ความเหมาะสมของสื่อการสอนทใี่ ช้  ดีมาก  ดี  พอใช้  ตอ้ งปรบั ปรุง 2.5) พฤตกิ รรม/การมีสว่ นรว่ มของนกั เรียน  ดีมาก  ดี  พอใช้  ตอ้ งปรบั ปรงุ 2.6) ผลการปฏิบัติกิจกรรม/ใบกิจกรรม การทดสอบกอ่ นเรียนและหลังเรยี น 2.6.1) การประเมนิ ด้านความรูค้ วามเขา้ ใจโดยใช้แบบประเมินสรปุ ความคิดรวบยอดพบว่ามีนกั เรยี นร้อยละ ..……….. ผา่ นเกณฑ์การประเมิน และมีนกั เรยี นรอ้ ยละ ……….....ไมผ่ า่ นเกณฑ์การประเมนิ 2.6.2) การประเมนิ ดา้ นทักษะกระบวนการของผู้เรียนผลการประเมินโดยใชแ้ บบสงั เกตพฤตกิ รรมการ ทำงานพบว่ามีนักเรียนรอ้ ยละ..….….. ผ่านเกณฑ์การประเมิน และมีนกั เรยี นรอ้ ยละ …...……ไม่ผา่ นเกณฑ์การ ประเมนิ 2.6.3) การประเมินด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ผลการประเมินโดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมพบว่ามี นักเรยี นร้อยละ ..……….. ผ่านเกณฑก์ ารประเมิน และมีนกั เรยี นร้อยละ ……....…ไม่ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน 3. ปัญหาและอปุ สรรค …………………………………………………………………………………………………………………….................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………...…………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………...………………………………………… 4. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข ……………………………………………………………………………………………………………………...………………………………………… …………………………………………………………………………................................................................................................. ……………………………………………………………………………………………………………………...………………………………………… ลงชือ่ ………..…………………. ผู้สอน/ผบู้ นั ทกึ ลงช่อื .....................................ผู้บรหิ าร ( นายเจษฎา กนั ทวงค์ ) ( นายศฤงคาร ใจปนั ทา ) ครผู ู้ช่วย ผ้อู ำนวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 21 …………/…………./………… …………/…………./…………

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ ลำดับ ชื่อ – ความรว่ มมอื การแสดง การรับฟัง การต้ังใจ การร่วม รวม ท่ี สกลุ 4321 ความคิดเห็น ความคิดเหน็ ทำงาน ปรับปรุง 20 ของผรู้ บั ผลงานกลมุ่ คะแนน การ 4321 4321 4321 4321 ประเมิน เกณฑก์ ารให้คะแนน 4 ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมิน ดีมาก = 3 ............../.................../................ ดี = 2 พอใช้ = 1 หมายเหตุ ครอู าจใช้วธิ ีการมอบหมายใหห้ ัวหน้ากลุ่ม ปรับปรงุ = เป็นผู้ประเมิน หรอื ให้ตวั แทนกลุ่มผลัดกนั ประเมนิ หรือใหม้ กี ารประเมินโดยเพ่อื น โดยตัวนกั เรยี นเอง เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ตามความเหมาะสมก็ได้ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ 17 – 20 ดีมาก 13 – 16 ดี 9 – 12 พอใช้ 5–8 ปรบั ปรงุ

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สาระที่ 5 ภมู ิศาสตร์ หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 6 ภยั พบิ ตั ิทางธรรมชาติ และการเปล่ียนแปลงทางธรรมชาตใิ นโลก จำนวน 4 ชวั่ โมง เร่ือง การเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติในโลก ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 4 ผูส้ อน นายเจษฎา กนั ทวงค์ มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ส 5.1 เข้าใจลกั ษณะของโลกทางกายภาพ และความสมั พนั ธข์ องสรรพสิ่งซงึ่ มีผลตอ่ กันและกันในระบบของธรรมชาติ ใชแ้ ผนท่แี ละเคร่อื งมอื ทางภูมิศาสตร์ ในการค้นหาวิเคราะหส์ รปุ และใช้ข้อมูลภมู ิ สารสนเทศอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ ตวั ชว้ี ัด ม.4-6/1 ใชเ้ คร่อื งมอื ทางภูมศิ าสตร์ในการรวบรวม วิเคราะห์ และนำเสนอขอ้ มลู ภูมสิ ารสนเทศอย่างมี ส 5.1 ประสทิ ธภิ าพ ม.4-6/2 วเิ คราะห์อทิ ธพิ ลของสภาพภูมิศาสตรซ์ ึ่งทำใหเ้ กิดปญั หาทางกายภาพ หรือภัยพิบัติทาง ธรรมชาตใิ นประเทศไทย และภูมภิ าคต่างๆ ของโลก ม.4-6/4 ประเมนิ การเปล่ยี นแปลงธรรมชาติในโลกว่า เป็นผลมาจากการกระทำของมนุษย์ และหรือ ธรรมชาติ สาระการเรยี นรู้ 1) เครื่องมอื ทางภมู ิศาสตรท์ ่ีให้ข้อมูล และข่าวสารภูมิลักษณ์ ภมู อิ ากาศ และภมู สิ ังคมของไทย และภูมภิ าค ต่างๆ ของโลก 2) ปญั หาทางกายภาพหรอื ภยั พิบตั ิทางธรรมชาตใิ นประเทศไทย และภูมภิ าคตา่ งๆ ของโลก 3) การเปลยี่ นแปลงลกั ษณะทางกายภาพในสว่ นต่างๆ ของโลก 4) การเกดิ ภูมสิ งั คมใหมข่ องโลก 5) การเปลีย่ นแปลงธรรมชาติในโลก เชน่ ภาวะโลกรอ้ น ความแหง้ แลง้ สภาพอากาศแปรปรวน สาระสำคัญ การเปลีย่ นแปลงทางธรรมชาตใิ นโลก มีผลกระทบโดยตรงและโดยอ้อมตอ่ วิถีการดำเนินชีวิตของมนษุ ย์ ซึง่ ทกุ คนควรรว่ มมือกนั ป้องกันและแกไ้ ข จดุ ประสงค์ 1. วิเคราะหส์ าเหตขุ องการเปลีย่ นแปลงทางธรรมชาตใิ นโลก และเสนอแนวทางการป้องกนั และแกไ้ ขได้ สมรรถนะสำคัญ - ทกั ษะการจดั กล่มุ - ทักษะการสรุปลงความเหน็ 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 2. ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการคิดวิเคราะห์ - ทักษะการใหเ้ หตุผล 2) ทกั ษะกระบวนการคิดอยา่ งมีวิจารณญาณ - ทกั ษะการรวบรวมขอ้ มูล - ทกั ษะการเช่ือมโยง 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ 1) กระบวนการปฏบิ ัติ 2) กระบวนการทำงานกลุ่ม

คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ใฝเ่ รียนรู้ 2. มุง่ ม่นั ในการทำงาน 3. มีวินยั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชว่ั โมงที่ 1-2 1.ครนู ำภาพต่างๆ ท่ีแสดงถึงการเปล่ยี นแปลงทางธรรมชาติ มาให้นกั เรยี นดู เช่น - ภาพน้ำแข็งขัว้ โลกละลาย - ภาพนำ้ ทว่ ม - ภาพพายฝุ นพดั กระหนำ่ - ภาพต้นไม้แห้งตาย - ภาพภูเขาปราศจากต้นไม้ 2. ครูใหน้ กั เรียนชว่ ยกันคิดวิเคราะห์ประเดน็ คำถามต่อไปนี้ 1) ภาพทงั้ หมดนน้ั มลี ักษณะสำคัญอยา่ งไร 2) ภาพดังกลา่ ว มีผลกระทบต่อชีวติ มนุษย์อย่างไร 3) ปญั หาสำคัญของภาพดงั กล่าว คอื อะไร 3. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปปัญหาสำคัญในการเปล่ียนแปลงทางธรรมชาติในโลก ได้แก่ 1) ภาวะโลกร้อน 2) การเปลี่ยนแปลงภมู อิ ากาศ 3) ความแหง้ แล้ง ฯลฯ 4. นักเรียนแบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ 5-7 คน ตามความสมคั รใจ แล้วให้แตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยกันเลอื กปัญหาทสี่ มาชิกในกล่มุ สนใจวา่ เปน็ ปญั หาสำคัญที่ควรรีบดำเนินการแก้ไข 5. สมาชิกแต่ละคนในกลมุ่ ชว่ ยกันสืบคน้ ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ปัญหาทก่ี ลุม่ เลือก แล้วนำมาเปน็ พน้ื ฐานในการตอบ คำถามในใบงานที่ 2.1 เรอื่ ง ปญั หาการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาตใิ นโลก โดยสบื ค้นข้อมูลและเก็บขอ้ มลู จากแหลง่ ตา่ งๆ ดงั น้ี - หนงั สอื เรยี น - หนังสือค้นคว้าเพิ่มเติมในห้องสมดุ - หนงั สอื พิมพร์ ายวนั หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ - ขา่ วจากวทิ ยุ โทรทัศน์ - แหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ - ภาพถ่ายจากดาวเทียม - สัมภาษณ์ผ้รู ู้หรือผูเ้ ชี่ยวชาญ ฯลฯ 6. สมาชกิ แต่ละกลมุ่ นำข้อมูลในใบงานท่ี 2.1 มาผลดั กนั เลา่ ประเดน็ สำคัญของข้อมูล จากน้ันช่วยกันวเิ คราะห์ ขอ้ มูลและตรวจสอบขอ้ มลู ดงั กลา่ วว่ามคี วามนา่ เชื่อถอื หรือไม่ ประการใด 7. สมาชิกทุกคนในกลมุ่ รว่ มมือกันสรปุ ผลเก่ียวกับปัญหาทีก่ ลุม่ ของตนเลอื กมา ดงั น้ี - สงิ่ ที่เปน็ ปญั หา คืออะไร - ปญั หาดังกลา่ ว มสี าเหตุจากอะไร - แนวทางแก้ไข ควรปฏิบัติอยา่ งไร 8. สมาชิกในกลุ่มช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง และเตรยี มนำเสนอผลงานในช่วั โมงเรยี นต่อไป

ชวั่ โมงที่ 3 1. ครูสนทนากับนกั เรียนถงึ ความพรอ้ มของการนำเสนอผลงานของแตล่ ะกล่มุ และให้แต่ละกล่มุ ส่งตัวแทน ออกมาจบั สลากลำดบั ในการนำเสนอผลงาน 2. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มสง่ ตวั แทนออกมานำเสนอผลงานด้วยวิธกี ารทหี่ ลากหลาย เช่น - การบรรยายประกอบภาพ - การสนทนา - การแสดงบทบาทสมมุติ - การบรรยายประกอบเพลง ฯลฯ 3. สมาชกิ กลุ่มผ้ฟู งั มหี นา้ ที่แสดงความคิดเห็นในการนำเสนอผลงาน และให้ข้อเสนอแนะ ดงั น้ี - กลุ่มที่ 1 นำเสนอผลงาน กลมุ่ ที่ 2 ให้ขอ้ เสนอแนะเพิม่ เติม - กล่มุ ท่ี 2 นำเสนอผลงาน กลุ่มท่ี 3 ใหข้ ้อเสนอแนะเพ่ิมเตมิ - กลมุ่ ท่ี 3 นำเสนอผลงาน กลุ่มท่ี 4 ใหข้ อ้ เสนอแนะเพ่ิมเตมิ - กลุ่มท่ี 4 นำเสนอผลงาน กลุ่มที่ 5 ใหข้ ้อเสนอแนะเพิม่ เติม - กลุ่มท่ี 5 นำเสนอผลงาน กล่มุ ท่ี 1 ให้ขอ้ เสนอแนะเพิ่มเตมิ 4. ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรปุ ประเดน็ สำคญั เกย่ี วกับการเปล่ียนแปลงทางธรรมชาติของโลก ปัญหา และ แนวทางแกไ้ ข ชั่วโมงท่ี 4 1. ครทู บทวนความรเู้ ดมิ ของนกั เรียน เร่อื ง ภยั พบิ ตั ทิ างธรรมชาติ และการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาตใิ นโลก โดยการตง้ั คำถามให้นกั เรยี นตอบ ดังน้ี 1) ภยั พบิ ตั ิทางธรรมชาติท่ีส่งผลกระทบต่อสภาพความเปน็ อยู่ของมนษุ ยเ์ ป็นอย่างมากน้นั ไดแ้ ก่ อะไรบ้าง และสง่ ผลสำคัญอย่างไร 2) การเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาตใิ นโลกปัจจุบนั คอื อะไร มีผลกระทบต่อสิ่งใดบา้ ง อธิบายเหตผุ ล 2. ครูให้นกั เรียนแต่ละกล่มุ (กลมุ่ เดิม) จากช่วั โมงที่ 3 ร่วมกันทำแผน่ พับ เร่ือง ภยั พิบัติทางธรรมชาติและการ เปลย่ี นแปลงทางธรรมชาติในโลก โดยใหค้ รอบคลุมประเด็นสำคัญตอ่ ไปน้ี 1) การวเิ คราะห์อทิ ธพิ ลของสภาพภมู ิศาสตรท์ ำใหเ้ กิดภยั พบิ ตั ทิ างธรรมชาติในประเทศไทย 2) การวเิ คราะหอ์ ทิ ธพิ ลของสภาพภมู ิศาสตรท์ ำให้เกดิ ภัยพิบตั ิทางธรรมชาติในภมู ภิ าคต่างๆ ของโลก 3) การวเิ คราะห์การเปล่ยี นแปลงทางธรรมชาติในโลกมีผลมาจากการกระทำของมนุษย์ 4) ความคิดรเิ ร่มิ สร้างสรรค์ในการจัดข้อมูลในแผ่นพับ 3. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมมือตรวจสอบความถูกต้องของการจดั ทำแผน่ พบั และชว่ ยกันตกแต่งผลงานให้ สวยงาม 4. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ออกมานำเสนอผลงานท่ีหน้าชั้นเรยี น และนำผลงานมาติดป้ายนเิ ทศ 5. ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสรปุ บทเรียนเกย่ี วกับภัยพิบตั ทิ างธรรมชาติ และการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาตใิ น โลก

สือ่ อุปกรณแ์ ละแหล่งการเรียนรู้ 1. สอ่ื การเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน ภูมิศาสตร์ ม.4-ม.6 2) ประสิทธิ์ ทฆี พุฒิ และศภุ ฤกษ์ ตันศรีรตั นวงศ.์ คู่มอื เตอื นภยั พิบตั ทิ างธรรมชาติ. กรุงเทพฯ : ดอกหญา้ , มปป. 3) ตัวอย่างส่ือประกอบการสอน 4) ตวั อยา่ งขา่ ว 5) ใบงานท่ี 2.1 เร่ือง ปญั หาการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาตใิ นโลก 2. แหล่งการเรยี นรู้ 1) ห้องสมดุ 2) แหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ http://en.wikipedia.org/wiki/Natural_ environment http://whc.unesco.org/documents/public_wh_paper_22_en.pdf การวัดและการประเมนิ ผล วธิ กี าร เครอ่ื งมอื เกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 2.1 ใบงานท่ี 2.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ประเมินแผ่นพบั เรือ่ ง ภยั พิบตั ทิ างธรรมชาติ และ แบบประเมินแผน่ พบั เร่อื ง ภัยพบิ ตั ทิ างธรรมชาติ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ การเปลย่ี นแปลงทางธรรมชาติในโลก และการเปล่ยี นแปลงทางธรรมชาติในโลก ประเมนิ การนำเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรียนรู้ รายวิชา สังคมศกึ ษา รหัสวิชา ส31103 ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2563 แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่……..เร่ือง………………….…….……………..…………..……………..เวลา ……คาบ 1. จำนวนนกั เรียนทใ่ี ช้สอน ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่.ี ..........................จำนวน.................คน 2. ผลการสอน 2.1) ความเหมาะสมของระยะเวลา  ดีมาก  ดี  พอใช้  ต้องปรบั ปรงุ 2.2) ความเหมาะสมของเนอื้ หา  ดีมาก  ดี  พอใช้  ต้องปรบั ปรุง 2.3) ความเหมาะสมของกจิ กรรมการเรียนการสอน  ดีมาก  ดี  พอใช้  ต้องปรบั ปรุง 2.4) ความเหมาะสมของสื่อการสอนทใี่ ช้  ดีมาก  ดี  พอใช้  ตอ้ งปรบั ปรุง 2.5) พฤตกิ รรม/การมีสว่ นรว่ มของนกั เรียน  ดีมาก  ดี  พอใช้  ตอ้ งปรบั ปรงุ 2.6) ผลการปฏิบัติกิจกรรม/ใบกิจกรรม การทดสอบกอ่ นเรียนและหลังเรยี น 2.6.1) การประเมนิ ด้านความรูค้ วามเขา้ ใจโดยใช้แบบประเมินสรปุ ความคิดรวบยอดพบว่ามีนกั เรยี นร้อยละ ..……….. ผา่ นเกณฑ์การประเมิน และมีนกั เรยี นรอ้ ยละ ……….....ไมผ่ า่ นเกณฑ์การประเมนิ 2.6.2) การประเมนิ ดา้ นทักษะกระบวนการของผู้เรียนผลการประเมินโดยใชแ้ บบสงั เกตพฤติกรรมการ ทำงานพบว่ามีนักเรียนรอ้ ยละ..….….. ผ่านเกณฑ์การประเมิน และมีนกั เรยี นรอ้ ยละ …...……ไม่ผา่ นเกณฑ์การ ประเมนิ 2.6.3) การประเมินด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ผลการประเมินโดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมพบว่ามี นักเรยี นร้อยละ ..……….. ผ่านเกณฑก์ ารประเมิน และมีนกั เรยี นร้อยละ ……....…ไม่ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน 3. ปัญหาและอปุ สรรค …………………………………………………………………………………………………………………….................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………...…………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………...………………………………………… 4. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข ……………………………………………………………………………………………………………………...………………………………………… …………………………………………………………………………................................................................................................. ……………………………………………………………………………………………………………………...………………………………………… ลงชือ่ ………..…………………. ผู้สอน/ผบู้ นั ทกึ ลงช่อื .....................................ผู้บรหิ าร ( นายเจษฎา กนั ทวงค์ ) ( นายศฤงคาร ใจปนั ทา ) ครผู ู้ช่วย ผ้อู ำนวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 21 …………/…………./………… …………/…………./…………

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ ลำดับ ชื่อ – ความรว่ มมอื การแสดง การรับฟัง การต้ังใจ การร่วม รวม ท่ี สกลุ 4321 ความคิดเห็น ความคิดเหน็ ทำงาน ปรับปรุง 20 ของผรู้ บั ผลงานกลมุ่ คะแนน การ 4321 4321 4321 4321 ประเมิน เกณฑก์ ารให้คะแนน 4 ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมิน ดีมาก = 3 ............../.................../................ ดี = 2 พอใช้ = 1 หมายเหตุ ครอู าจใช้วธิ ีการมอบหมายใหห้ ัวหน้ากลุ่ม ปรับปรงุ = เป็นผู้ประเมิน หรอื ให้ตวั แทนกลุ่มผลัดกนั ประเมนิ หรือใหม้ กี ารประเมินโดยเพ่อื น โดยตัวนกั เรยี นเอง เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ตามความเหมาะสมก็ได้ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ 17 – 20 ดีมาก 13 – 16 ดี 9 – 12 พอใช้ 5–8 ปรบั ปรงุ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook