โครงการ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จัดทำโดย นักศึกษาชั้นปีที่2 สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ วิชาวิถีไทยและปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
คำนำ E-BOOK เล่มนี้ จัดทำเพื่อศึกษาโครงการ ของในกลวงรัชกาล ที่9 โดยการหาข้อมูลจาก เ ว็ ป ไ ซ ต์ ต่ า ง ๆ ที่ มี ค ว า ม เ กี่ ย ว ข้ อ ง กั บ โ ค ร ง ก า ร ผู้จัดทำหวังอย่างยิ่งว่า E-BOOK เล่มนี้จะ เ ป็ น ป ร ะ โ ย ช น์ ต่ อ ผู้ ที่ เ ข้ า ม า ช ม นั ก ศึ ก ษ า ส า ข า เ ท ค โ น โ ล ยี ส า ร ส น เ ท ศ
สารบัญ หน้า ก คำนำ ข-ค สารบัญ 1-5 โครงการที่ 1 แก้มลิง โครงการที่ 2 หน่วยแพทย์พระราชทาน 6-10 โครงการที่ 3 แกล้งดิน 11-14 โครงการที่ 4 การปลูกหญ้าแฝก 15-19
สารบัญ หน้า 20-24 โครงการที่ 5 โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา 25-29 โครงการที่ 6 โครงการกังหันชัยพัฒนา บำบัดน้ำเสีย 30-31 โครงการที่ 7 มูลนิธิอานันทมหิดล
แแกก้้ มมลลิิ งง โ ค ร ง ก า ร ใ น พ ร ะ ร า ช ดำ ริ
ความเป็ นมา สืบเนื่องจาก ปัญหาอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปี พ.ศ. 2538 และพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทอดพระเนตรเห็นว่า ปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นนั้น เรื้อรังกว่า 2 เดือน ในวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2538 จึงมีพระราชดำริโครงการแก้มลิงขึ้นครั้ง แรก เพื่อแก้ปัญหาอุทกภัย พร้อมทั้งช่วยอนุรักษ์ น้ำและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน MONKEY CHEEK MON KEY CHEEK
โครงการแก้ มลิ ง แก้ปัญหาน้ำท่วมขัง โครงการแก้ มลิ ง ช่ วยบรรเทาอุ ทกภั ยให้ กั บ ลักการทางธรรมชาติ สร้ างขึ้ นเพื่ อแก้ พื้ นที่ กรุ งเทพมหานครและ ปั ญหาน้ำท่ วมขั ง โดย ใช้ หลั กการทาง ปริ มณฑลแต่ ยั งช่ วย ธรรมชาติ คื อ กั กเก็ บ ระบายน้ำจากภาคเหนื อลง น้ำฝนเอาไว้ เพื่ อรอ สู่ อ่ าวไทยตามจั งหวะการ เวลาระบายออก ซึ่ ง ลั กษณะการดำเนิ น ขึ้ นลงของระดั บน้ำทะเล งานของแก้ มลิ งจะมี โดยอาศั ยแรงโน้ มถ่ วง ขั้ นตอนดั งต่ อไปนี้ ของโลกและการสู บน้ำที่ เหมาะสม ทั้ งยั งเพิ่ ม ประสิ ทธิ ภาพการระบาย น้ำตามคู คลองธรรมชาติ ในช่ วงฤดู ฝนอี กด้ วย
แก้มลิงขนาดใหญ่ เปรียบได้กับสระ น้ำหรือบึงขนาดใหญ่ เช่น เขื่อน อ่าง เก็บน้ำ ฝาย ทุ่งเกษตรกรรม เป็นต้น โดยแก้มลิงขนาดใหญ่จะคอยรองรับ น้ำฝนจากพื้นที่บริเวณนั้น ๆ และจะ กักเก็บน้ำไว้เป็นระยะเวลาหนึ่งก่อนที่ จะระบายลงสู่ลำน้ำ อย่างไรก็ตาม แก้มลิงขนาดใหญ่อย่างเขื่อน อ่าง เก็บน้ำ ฝาย ทุ่งเกษตรกรรม จะมี วัตถุประสงค์อื่นประกอบด้วย เช่น เพื่อการชลประทานหรือเพื่อการ ประมง เป็นต้น เป็นพื้นที่ชะลอน้ำที่มี แก้มลิงขนาดเล็กมักเป็นพื้นที่ ขนาดเล็กกว่า ก่อสร้าง สาธารณะ เช่น สนามเด็กเล่น ลาน ในระดับลุ่มน้ำ มักเป็น จอดรถ หรือสนามในบ้าน ซึ่งต่อเข้า กับระบบระบายน้ำหรือคลอง ทั้งนี้ พื้นที่ธรรมชาติ เช่น แก้มลิงที่อยู่ในพื้นที่เอกชนจะเรียก หนอง บึง คลอง เป็นต้น ว่า \"แก้มลิงเอกชน\" ส่วนที่อยู่ใน พื้นที่ของราชการและรัฐวิสาหกิจจะ เรียกว่า \"แก้มลิงสาธารณะ\"
คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ
โ ค ร ง ก า ร ใ น พ ร ะ ร า ช ดำ ริ ห น่ ว ย แ พ ท ย์ พ ร ะ ร า ช ท า น
โครงการหน่วยแพทย์พระราชทาน ค ว า ม เ ป็ น ม า ทรงโปรดเกล้าฯให้แพทย์ประจำพระองค์ที่ตามเสด็จฯ ตรวจและรักษาคนไข้ตั้งแต่วันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๑๒ เมื่อเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรโครงการชาวเขา และทรงพบว่าราษฎรที่มารอรับเสด็จป่วยเป็นไข้กันมาก โครงการดังกล่าวประกอบด้วยการบำบัดรักษาจากคณะแพทย์ พระราชทานและอบรมหมอหมู่บ้าน เป็นการช่วยแก้ไขปั ญหา ด้านสุขภาพอนามัยของราษฎรที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลและ มีอุปสรรคที่ระบบปกติยากจะดูแลได้ทั่วถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ราษฎรส่วนใหญ่มีฐานะยากจนและขาดความรู้ในการดูแลตนเอง วั ต ถุ ป ร ะ ส ง ค์ 1. เพื่อตรวจรักษาราษฎรในท้องถิ่นทุรกันดารโดย ไม่คิดมูลค่า 2. โครงการหน่วยแพทย์พระราชทานประกอบด้วย การบำบัดรักษาจากคณะแพทย์พระราชทานและการ อบรมหมอหมู่บ้านเพื่อเป็นการช่วยแก้ไขปั ญหาด้าน สุขภาพอนามัยของราษฎรที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล
ประโยชน์ จากโครงการพระราชดำริ ทางด้านสุขภาพอนามัย ซึ่งเป็นผลที่ ได้รับโดยตรงจะช่วยแก้ไขปั ญหาการ เจ็บป่วย หรือทุพพลภาพได้ปีหนึ่งๆ เป็นจำนวนมาก ราษฎรส่วนมากจะ เป็นชาวบ้านชนบทที่ยากจนที่มีอาชีพ เป็นเกษตรกร ซึ่งเป็นประชาชนส่วน ใหญ่ของประเทศ ทางด้านเศรษฐกิจ การที่ราษฎรเจ็บ ป่วยจะเป็นปั ญหาในการประกอบ อาชีพของราษฎร ซึ่งส่วนใหญ่เป็น เกษตรกรที่จะต้องใช้กำลังกายใน การทำงาน
การให้การบำบัดรักษาโดยการตรวจ จากคณะแพทย์พระราชทาน ซึ่งอาจ แบ่งออกได้ ดังนี้ แพทย์ประจำพระองค์ และแพทย์ตามเสด็จ นำโดยนายแพทย์ประจำ พระองค์จะตามเสด็จ ไปทำการตรวจรักษาราษฎรที่เสด็จ พระราชดำเนินไปเยี่ยมตามหมู่บ้านต่าง ๆ หน่วยแพทย์หลวงของกองแพทย์หลวง สำนักพระราชวังและเจ้า หน้าที่ คณะแพทย์ตามพระราชประสงค์ เป็นแพทย์อาสาที่มาจากหลายสาขา วิชา หลายหน่วยงาน แบ่งได้เป็นดังนี้ คณะแพทย์อาสาจากราชวิทยาลัยศัลยแพทย์แห่งประเทศไทย คณะศัลยแพทย์อาสา จากโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า คณะศัลยแพทย์อาสา จากโรงพยาบาลศิริราช คณะแพทย์ หู คอ จมูก และโรคภูมิแพ้ หน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่ จากกรมแพทย์ทหารบก คณะจักษุแพทย์
จัดทำโดย TECHNOLOGY & INFORMATION น า ง ส า ว จุ ฑ า ม า ศ บุ ญ โ ช ค 6410122113026
โ ค ร ง ก า ร ใ น พ ร ะ ร า ช ดำ ริ โ ค ร ง ก า ร แ ก ล้ ง ดิ น ใ น เ ข ต จั ง ห วั ด น ร า ธิ ว า ส
ป ร ะ วั ติ ค ว า ม เ ป็ น ม า แ ก ล้ ง ดิ น เ ป็ น แ น ว พ ร ะ ร า ช ด า ริ ข อ ง พ ร ะ บ า ท ส ม เ ด็ จ พ ร ะ บ ร ม ช น ก า ธิ เ บ ศ ร ม ห า ภู มิ พ ล อ ดุ ล ย เ ด ช ม ห า ร า ช บ ร ม น า ถ บ พิ ต ร เ กี่ ย ว กั บ ก า ร แ ก้ ปั ญ ห า ดิ น เ ป รี้ ย ว จั ด ห รื อ ดิ น ก ร ด โ ด ย ก า ร ขั ง น้ า ไ ว้ ใ น พื้ น ที่ จ น ก ร ะ ทั่ ง เ กิ ด ป ฏิ กิ ริ ย า เ ค มี ท า ใ ห้ ดิ น เ ป รี้ ย ว จั ด จ น ถึ ง ที่ สุ ด แ ล้ ว จึ ง ร ะ บ า ย น้ า อ อ ก แ ล ะ ป รั บ ส ภ า พ เ พื่ อ ฟื้ น ฟู ดิ น ด้ ว ย ปู น ข า ว จ น ก ร ะ ทั่ ง ดิ น มี ส ภ า พ ดี พ อ ที่ จ ะ ใ ช้ ใ น ก า ร เ พ า ะ ป ลู ก วั ต ถุ ป ร ะ ส ง ค์ เ พื่ อ ทำ ก า ร ศึ ก ษ า ก า ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ท า ง เ ค มี ที่ เ กิ ด ขึ้ น ใ น ดิ น เ ป รี้ ย ว แ ล ะ ห า วิ ธี ก า ร ป รั บ ป รุ ง แ ก้ ไ ข ส ภ า พ ดิ น เ พื่ อ ป รั บ แ ก้ ไ ข ส ภ า พ ดิ น เ ป รี้ ย ว อั น เ กิ ด ม า จ า ก ป่ า พ รุ แ ล ะ ดิ น เ ป รี้ ย ว อื่ น ๆ ใ ห้ ส า ม า ร ถ ป ลู ก พื ช ไ ด้
ก า ร ดำ เ นิ น ง า น ศู น ย์ ศึ ก ษ า ก า ร พั ฒ น า พิ กุ ล ท อ ง อั น เ นื่ อ ง ม า จ า ก พ ร ะ ร า ช ดำ ริ ไ ด้ ศึ ก ษ า วิ จั ย แ ล ะ ป รั บ ป รุ ง ดิ น โ ด ย วิ ธี ก า ร \" แ ก ล้ ง ดิ น \" คื อ ก า ร ทำ ดิ น ใ ห้ เ ป รี้ ย ว จั ด ห รื อ เ ป็ น ก ร ด ม า ก ที่ สุ ด ด้ ว ย ก า ร ทำ ใ ห้ ดิ น เ ปี ย ก แ ล ะ แ ห้ ง ส ลั บ กั น ไ ป โ ด ย ก า ร ท ด น้ำ เ ข้ า แ ป ล ง ท ด ล อ ง ร ะ ย ะ ห นึ่ ง แ ล้ ว ร ะ บ า ย น้ำ อ อ ก เ พื่ อ ทำ ใ ห้ ดิ น แ ห้ ง เ ป็ น ร ะ ย ะ เ ว ล า ห นึ่ ง ส ลั บ กั น เ ท่ า กั บ เ ป็ น ก า ร ก ร ะ ตุ้ น ใ ห้ ดิ น มี ค ว า ม เ ป็ น ก รด แ ก ล้ ง ดิ น ทำ อ ย่ า ง ไ ร วิ ธี ก า ร \" แ ก ล้ ง ดิ น \" คื อ ก า ร ทำ ดิ น ใ ห้ เ ป รี้ ย ว จั ด ห รื อ เ ป็ น ก ร ด ม า ก ที่ สุ ด ด้ ว ย ก า ร ทำ ใ ห้ ดิ น เ ปี ย ก แ ล ะ แ ห้ ง ส ลั บ กั น ไ ป โ ด ย ก า ร ท ด น้ำ เ ข้ า แ ป ล ง ท ด ล อ ง ร ะ ย ะ ห นึ่ ง แ ล้ ว ร ะ บ า ย น้ำ อ อ ก เ พื่ อ ทำ ใ ห้ ดิ น แ ห้ ง เ ป็ น ร ะ ย ะ เ ว ล า ห นึ่ ง ส ลั บ กั น เ ท่ า กั บ เ ป็ น ก า ร ก ร ะ ตุ้ น ใ ห้ ดิ น มี ค ว า ม เ ป็ น ก ร ด ยิ่ ง ขึ้ น โ ด ย อ า ศั ย ห ลั ก ก า ร นี้ ใ น ห ล ว ง ร . 9 จึ ง ท ร ง ใ ห้ เ ลี ย น แ บ บ ส ภ า พ ค ว า ม เ ป็ น ไ ป ใ น ธ ร ร ม ช า ติ ที่ มี ฤ ดู แ ล้ ง แ ล ะ ฤ ดู ฝ น ส ลั บ กั น ไ ป โ ด ย ป ล่ อ ย ใ ห้ ดิ น แ ห้ ง 1 เ ดื อ น แ ล ะ ขั ง น้ำ ใ ห้ ดิ น เ ปี ย ก น า น 2 เ ดื อ น ส ลั บ กั น ไ ป จึ ง เ กิ ด ภ า ว ะ ดิ น แ ห้ ง แ ล ะ ดิ น เ ปี ย ก 4 ร อ บ ใ น 1 ปี เ ส มื อ น กั บ มี ฤ ดู แ ล้ ง แ ล ะ ฤ ดู ฝ น 4 ค รั้ ง ใ น เ ว ล า 1 ปี ห ลั ง จ า ก ที่ เ ส ร็ จ ก ร ะ บ ว น ก า ร นี้ แ ล้ ว จึ ง ห า วิ ธี ก า ร ป รั บ ป รุ ง ดิ น ใ ห้ ดี ขึ้ น
จั ด ทำ โ ด ย I T 0 0 8 ชั ย ย พ ล สี ห์ เ ค รื อ กุ ล
โครงการในพระราชดำริ การปลูกหญ้าแฝก
โครงการ ประวัติความเป็นมา ปลูกหญ้าแฝก ทฤษฎีการป้องกัน พระเจ้าอยู่หัวทรงตระหนักถึง การเสื่อมโทรมและ สภาพปัญหาการชะล้างพัง พังทลายของดิน ทลายของดินและการสูญเสีย จากหญ้าแฝก หน้าดินที่อุดมสมบูรณ์ จึงทรง ศึกษาถึงศักยภาพของ “หญ้า กำแพงที่มีชีวิตในการอนุรักษ์ แฝก” ซึ่งเป็นพืชพื้นบ้านของ และคืนธรรมชาติสู่แผ่นดิน ไทย ที่มีคุณสมบัติพิเศษในการ ช่วยป้องกันการชะล้างพัง จัดทำโดย ทลายของหน้าดินและอนุรักษ์ IT นายเกียรติกมล ศรีไพร ความชุ่มชื้นใต้ดิน ซึ่งมีวิธีการ ปลูกแบบง่าย ๆเกษตรกร สามารถดำเนินการได้เองโดย ไม่ต้องให้การดูแลหลังการปลูก มากนัก ทั้งประหยัดค่าใช้จ่าย กว่าวิธีอื่น ๆ อีกด้วย วันที่ 22 มิถุนายน 2534
โครงการ ลักษณะ หญ้าแฝก ปลูกหญ้าแฝก หญ้าแฝกมีชื่อท้องถิ่นอื่นๆ ว่า ทรงพระราชทาน หญ้าแฝกหอม หรือ แกงหอม หญ้าแฝกเพื่อคืน แท้จริงแล้ว หญ้าแฝก มีอยู่ใน ความอุดมสมบูรณ์ โลกประมาณ 11 – 12 ชนิด แต่ ของผืนแผ่นดิน ในประเทศไทยพบว่า มีอยู่ เพียง 2 ชนิด เท่านั้น คือ หญ้า กำแพงที่มีชีวิตในการอนุรักษ์ แฝกหอม และหญ้าแฝกดอน และคืนธรรมชาติสู่แผ่นดิน ในธรรมชาติเราจะพบหญ้าแฝก ทั้ง 2 ชนิดนี้ได้ทั่ว ๆ ไป ซึ่งถิ่น กำเนิดดั้งเดิมของพืชชนิดนี้ สันนิษฐานว่าอยู่ในประเทศ อินเดีย และหลังจากที่ ธนาคารโลกมีการรณรงค์ให้ใช้ หญ้าแฝกในการแก้ปัญหาหน้า ดินถูกชะล้าง ซึ่งเป็นปัญหา ใหญ่ที่ทำให้ดินขาดความอุดม สมบูรณ์
การใช้ประโยชน์จากหญ้าแฝก วัตถุประสงค์ การปลูกเพื่อแก้ปัญหาการพัง เพื่อศึกษาพัฒนาระบบการ ทลายของดินเป็นร่องน้ำลึก ใช้พืชตระกูลหญ้าโดยเฉพาะ หญ้าแฝก ในการอนุรักษ์ดิน การปลูกเพื่อฟื้นฟูที่ดิน และน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ เสื่อมโทรม เป็นระบบที่ประหยัดค่าใช้จ่าย ในการดำเนินการ อีกทั้งยัง การปลูกเพื่อป้องกันการเสีย ง่ายในการปฏิบัติและบำรุง หายของขั้นบันไดดิน รักษาเป็นระบบที่เหมาะสม สำหรับประเทศในโลกที่สาม ซึ่งอัตคัดทั้งเทคโนโลยี ผู้ เชี่ยวชาญและเงินทุน
จั ด ทำ โ ด ย นายเกียรติกมล ศรีไพร ส า ข า เ ท ค โ น โ ล ยี ส า ร ส น เ ท ศ โครงการ ป ลู ก ห ญ้ า แ ฝ ก
โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา ประวัตฺิความเป็นมา จากการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชฯ เสด็จพระราชดำเนิน ไปทรงเยี่ยมพสกนิกรในพื้ นที่ต่าง ๆ ด้วยมีพระราชประสงค์ที่จะเห็นประชาชน อยู่ดีมีสุขตามสมควรแก่อัตภาพ โดย เฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบอาชีพทางด้าน เกษตรกรรม ซึ่งถือว่าเป็นอาชีพหลักของ ประเทศ จึงทำให้เกิด “โครงการส่วน พระองค์เกี่ยวกับการเกษตร สวน จิตรลดา” ภายในบริเวณพระตำหนัก จิตรลดารโหฐาน อันเป็นราชฐานที่ประทับ ในปีพุ ทธศักราช 2504 โครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา มี วัตถุประสงค์ในการดำเนินงาน เพื่ อศึกษา ทดลองและวิจัยหาวิธีแก้ไขปัญหาเกี่ยว กับงานทางด้านการเกษตรต่างๆ เช่น การปลูกข้าว การเลี้ยงโคนม การเพาะ พั นธุ์ปลานิล และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งผล การศึกษาสามารถนำมาประยุกต์ใช้เป็น แบบอย่างในการนำไปปฏิบัติตาม นอกจากนี้ยังเป็นการดำเนินการโดยไม่ มุ่งหวังผลตอบแทน จึงมีโครงการที่ตั้ง ขึ้นเพื่ อบรรเทาความเดือดร้อนของ ราษฎร เช่น เมื่อเกิดปัญหาน้ำนมดิบล้น ตลาด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างโรง นมผงขึ้น เพื่ อแปรรูปน้ำนมดิบให้เก็บไว้ ได้นาน โดยพระราชทานพระราชทรัพย์ ส่วนพระองค์เป็นทุนในการก่อสร้าง และ ยังมีการตั้งศูนย์รวมนม เพื่ อรับซื้อน้ำนม จากเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมอีกด้วย
โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา วัตถุประสงค์ โครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา มี วัตถุประสงค์หลักในการดำเนินงานอยู่ 3 ประการ คือ 1. เป็นโครงการศึกษาทดลอง 2. เป็นโครงการตัวอย่าง ให้ผู้ที่สนใจ สามารถเข้ามาทำการศึกษา เพื่ อ สามารถนำกลับไปดำเนินการเองได้ 3. เป็นโครงการที่ไม่หวังผลตอบแทน (เชิงธุรกิจ)
โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา การดำเนินงานของโครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา แบ่งออกเป็น 2 ประเภท 1.โครงการไม่ใช่ธุรกิจ ที่ได้รับการ สนับสนุนจากหน่วยงานราชการต่างๆ รวมทั้งหน่วยงานจากเอกชน ที่สนองพระ ราชดำริเกี่ยวกับการพั ฒนาด้าน การเกษตร ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติ โครงการไม่ใช่ธุรกิจ ได้แก่ ป่าไม้สาธิต นาข้าวทดลอง การ เพาะพั นธุ์ปลานิล กังหันลม ระบบผลิต กระแสไฟฟ้าด้วยพลังงานลม บ้าน พลังงานแสงอาทิตย์ ระบบสูบน้ำด้วย พลังงานแสงอาทิตย์ ระบบผลิตน้ำเย็น ด้วยพลังงานความร้อนจากแกลบ โรง กระดาษสา และการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ 2 โครงการกึ่งธุรกิจ ที่มีกระบวนการ แปรรูปวัตถุดิบทางการเกษตร และ จำหน่ายผลิตภัณฑ์ในราคาที่ไม่หวังผล กำไรสูงสุด โดยมุ่งส่งเสริมให้ประชาชน บริโภคสินค้าที่ผลิตได้ภายในประเทศ และ ยังมีการบริหารจัดการเงินอย่างครบ วงจร
โครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา ผู้ จั ด ทำ นายราชวิท คำศักดิ์ สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ
โครงการ กังหันชัยพั ฒนา บำบัดน้ำเสีย
ประวัติความเป็นมา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิ ตร ตระหนักถึงความ รุนแรงของปัญหาที่เกิดขึ้น และทรงห่วงใยต่อพสกนิกรที่ต้องเผชิญในเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2531 ได้พระราชทานพระราชดำริในการแก้ไขปัญหาน้ำเสีย ด้วย การใช้เครื่องกลเติมอากาศ โดยพระราชทานรูปแบบสิ่งประดิษฐ์ที่เรียบง่าย แต่มี ประสิทธิภาพสูงในการบำบัดน้ำเสีย ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ กังหันน้ำชัยพั ฒนา และนำ มาใช้ในการปรับปรุงคุณภาพน้ำตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วทุกภูมิภาค กังหันน้ำชัยพั ฒนา เครื่องกลเติมอากาศที่ผิวน้ำหมุนช้าแบบทุ่นลอย ความเสื่อมโทรมของสภาพแวดล้อมที่ เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ เป็นผลมาจากภาวะมลพิ ษของน้ำเน่าเสียที่มีปริมาณสูงขึ้นจนยากแก่ การแก้ไขให้บรรเทาเบาบางลงได้ ส่งผลต่อสุขภาพอนามัยของพสกนิกรทั้งหลาย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิ ตร ทรงห่วงใยในความ เดือดร้อนทุกข์ยากที่เกิดขึ้นนี้ ได้เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรสภาพน้ำเน่าเสียใพื้ นที่หลายแห่งหลายครั้ง ทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และต่างจังหวัด พร้อม ทั้งพระราชทานพระราชดำริเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียในการนี้ จึงทรงพระ กรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มูลนิธิชัยพั ฒนาสนับสนุนงบประมาณ เพื่ อการศึกษาและวิจัยสิ่ง ประดิษฐ์ใหม่นี้ โดยดำเนินการจัดสร้างเครื่องมือบำบัดน้ำเสียร่วมกับกรมชลประทาน ซึ่ง ได้มีการผลิตเครื่องกลเติมอากาศขึ้นในเวลาต่อมา และรู้จักกันแพร่หลายทั่วประเทศใน ปัจจุบัน คือ “กังหันน้ำชัยพั ฒนา” ในระยะแรกระหว่างปี พ.ศ. 2527-2530 ทรงแนะนำ ให้ใช้น้ำที่มีคุณภาพดีช่วยบรรเทาน้ำเสียและวิธีกรองน้ำเสียด้วยผักตบชวาและพื ชน้ำ ต่าง ๆ มีอัตราแนวโน้มรุนแรงมากยิ่งขึ้น การใช้วิธีธรรมชาติไม่อาจบรรเทาความเน่าเสีย ของน้ำอย่างมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จึงพระราชทาน พระราชดำริให้ประดิษฐ์เครื่องกลเติมอากาศแบบประหยัดค่าใช้จ่าย สามารถผลิตเองได้ ในประเทศ ซึ่งมีรูปแบบ \"ไทยทำไทยใช้\" โดยทรงได้แนวทางจาก \"หลุก\" ซึ่งเป็นอุปกรณ์ วิดน้ำเข้านาอันเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านเป็นจุดคิดค้นเบื้องต้น และทรงมุ่งหวังที่จะช่วย แบ่งเบาภาระของรัฐบาลในการบรรเทาน้ำเน่าเสียอีกทางหนึ่งด้วย
จุดประสงค์ ของการสร้างกังหันน้ำชัยพั ฒนา 1.เพื่ อสนับสนุนการดำเนินงานตามโครงการอันเนื่องมาจาก พระราชดำริและโครงการพั ฒนาอื่นๆ 2.เพื่ อส่งเสริมการพั ฒนาสงเคราะห์และช่วยเหลือประชาชนใน ด้านเศรษฐกิจและสังคมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและให้ สามารถช่วยตัวเองและพึ่ งตนเองได้ 3.ดำเนินการใดๆอันเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติ เป็นส่วนรวม 4.ร่วมมือกับส่วนราชการและองค์กรการกุศลอื่นๆเพื่ อ สาธารณประโยชน์หรือดำเนินการเพื่ อเน้นในการสนับสนุน สาธารณประโยชน์ 5.ไม่ดำเนินการเกี่ยวข้องกับการเมือง
คุณสมบัติ ประโยชน์ กังหันน้ำชัยพั ฒนา หรือ เครื่องกลเติม กังหันชัยพั ฒนา เป็นกังหันบำบัดน้ำเสีย อากาศที่ผิวน้ำหมุนช้าแบบทุ่นลอย \"สิทธิบัตรในพระปรมาภิไธย\" เพื่ อพั ฒนา (Chaipattana Low Surface Aerator) แหล่งน้ำแก่ปวงชนทำงานโดย การหมุน ซึ่งเป็น Model RX-2 หมายถึง Royal ปั่ น เพื่ อเติมอากาศให้น้ำเสียกลายเป็น Experiment แบบที่ 2 มีคุณสมบัติในการ น้ำดี สามารถประยุกต์ใช้บำบัดน้ำเสีย จาก ถ่ายเทออกซิเจนได้สูงถึง 1.2 กิโลกรัมของ การอุปโภคของประชาชน น้ำเสียจาก ออกซิเจน/แรงม้า/ชั่วโมง สามารถนำไปใช้ โรงงานอุตสาหกรรม รวมทั้งเพิ่ ม ในกิจกรรมปรับปรุงคุณภาพน้ำได้อย่าง ออกซิเจน ให้กับบ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ อเนกประสงค์ ติดตั้งง่าย เหมาะสำหรับใช้ ทางการเกษตร ในแหล่งน้ำธรรมชาติ ได้แก่ สระน้ำ หนอง น้ำ คลอง บึง ลำห้วย ฯลฯ ที่มีความลึก ประมาณ 1.00 เมตร และมีความกว้าง มากกว่า 3.00 เมตร
จัดทําโดย IT 6410122113020 นายสิทธิศักดิ์ พิ กุนทอง
มูลนิธิอานันทมหิดล ดทําโดย IT022 นายพันธกานต์ มีสุขอําไพรัศ จั มี
ประวัติความเป็นมา มูลนิธิอานันทมหิดล เป็นมูลนิธิที่พระบาทสมเด็จพระปรมิ นทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรี วั ต ถุ ป ร ะ ส ง ค์ นฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อมให้ตั้งขึ้นด้วยทรงสนพระราชหฤทัยใน 1 ส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาชั้นสูง ด้วยการ พระราชทานทุน ให้ผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญา สวัสดิภาพและความเป็นอยู่ของพสกนิกร ทรงตระหนัก ตรีในประเทศไทย ผู้มีคุณสมบัติดีเด่นทั้งด้าน วิชาการและคุณธรรม ไปศึกษาต่อในสาขาวิชาอันจะ ว่าราชอาณาจักรต้องมีผู้เชี่ยวชาญในวิชาการชั้นสูง จึง เป็นประโยชน์ต่อวงวิชาการ แล้วนำกลับมา ถ่ายทอดแก่ชนรุ่นหลัง เป็นการรับใช้ชาติบ้านเมือง ควรส่งเสริมและสนับสนุนผู้ที่ใผ่ใจในการศึกษา ที่ได้ ตลอดจนช่วยในการพัฒนาประเทศ แสดงความสามารถอย่างยอดเยี่ยมให้ได้มีโอกาสไป 2 พระราชทานทุนช่วยเหลือในการประกอบวิชาชีพ หรือ เพื่ อค้นคว้าแก่ผู้ได้รับพระราชทานทุนที่สำเร็จการศึกษา ศึกษาวิชาการชั้นสูงบางวิชา ณ ต่างประเทศโดยทรงหวัง แล้วกลับมาทำงานในประเทศไทย และได้แสดงความ สามารถดีเยี่ยม มีคุณธรรมและความประพฤติดีเป็น ในพระราชหฤทัยว่า เมื่อสำเร็จการศึกษากลับมาแล้วจะได้ กรณี ๆ ไป ปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในวิชาการที่ศึกษามาด้วย พระราชดำริตามนัยที่กล่าวนี้ จึงทรงพระกรุณาโปรด เกล้าโปรดกระหม่อมให้ทดลองดำเนินการไปก่อน ด้วย“ทุนอานันทมหิดล” เมื่อ พ.ศ. 2498 ต่อมา เมื่อวันที่ 3 จัดตั้งสถาบันค้นคว้าทางวิชาการ เพื่อเปิดโอกาสให้ ผู้ได้รับพระราชทานทุนที่สำเร็จการศึกษาและกลับมา 3 เมษายน พ.ศ. 2502 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ทำงานในประเทศไทย ได้ค้นคว้าทางวิชาการต่อไป ภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้มีพระบรมราช ร่วมมือกับสถาบันอื่ นที่มีวัตถุประสงค์คล้ายคลึง กัน เพื่อให้การสนับสนุนทางวิชาการเป็นไปอย่าง วินิจฉัยให้เปลี่ยนสภาพจาก “ทุน” เป็น “มูลนิธิ” ชื่อว่า 4 มูลนิธิอานันทมหิดล กว้างขวางและทั่วถึงยิ่งขึ้น ประโยชน์ ส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาชั้นสูง ด้วยการพระราชทานทุน ให้ผู้สำเร็จการ ศึกษาระดับปริญญาตรีในประเทศไทย ผู้มี คุณสมบัติดีเด่นทั้งด้านวิชาการและ คุณธรรม ไปศึกษาต่อในสาขาวิชาอันจะ เป็นประโยชน์ต่อวงวิชาการ แล้วนำกลับ มาถ่ายทอดแก่ชนรุ่นหลัง เป็นการรับใช้ ชาติบ้านเมือง ตลอดจนช่วยในการพัฒนา ประเทศ แหล่งอ้ างอิ งจาก WWW.TSDF.NIDA.AC.TH
Search
Read the Text Version
- 1 - 35
Pages: