Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ประวัติอำเภอวิเชียรบุรี

ประวัติอำเภอวิเชียรบุรี

Published by 金星, 2020-09-28 03:36:04

Description: ประวัติอำเภอวิเชียรบุรี

Search

Read the Text Version

ประวตั ิอำเภอวเิ ชยี รบรุ ี อำเภอวิเชียรบรุ ี เดิมช่ือว่ำ \"เมืองท่ำโรง\" ตอ่ มำสมยั พระบำทสมเดจ็ พระนัง่ เกล้ำเจำ้ อยู่หวั ทรงโปรดเกล้ำ ใหเ้ ปลี่ยนชอ่ื เป็นเมอื งวเิ ชียรบรุ ี เรียกฐำนะเปน็ เมืองตรี ไดร้ วบรวมเมอื งชัยบำดำลและเมอื งบวั ชุม ขึ้นตรงต่อเมอื งวเิ ชียรบรุ ี จนกระท่ังเมื่อตง้ั มณฑลเพชรบูรณใ์ นสมัย สมเด็จพระจุลจอมเกล้ำเจำ้ อยหู่ วั จงึ ได้มีกำรเปล่ยี นแปลง โดยยก ฐำนะเมืองวิเชยี รบุรีเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดเพชรบรู ณ์ เมอื่ ปี พ.ศ. 2444 ตอ่ มำมพี ระรำชกฤษฎกี ำ ลงวนั ท่ี 17 เมษำยน 2482 เปลีย่ นชือ่ อำเภอวเิ ชียรบรุ ีเปน็ อำเภอท่ำโรง จนกระทง่ั เมื่อวันท่ี 2 พฤศจกิ ำยน 2487 จึงได้กลบั มำใชช้ อ่ื อำเภอวเิ ชียรบรุ ี จนมำถงึ ทกุ วนั น้ี เมอ่ื นับถงึ ปปี ัจจุบนั อำเภอวเิ ชยี รบรุ ีได้รับกำรยกฐำนะเปน็ อำเภอมำเป็นเวลำรวม 111 ปี อำเภอวเิ ชียรบุรี มสี ถำนท่ศี ักด์สิ ิทธิ์ เปน็ ท่ีสกั กำระของประชำชนชำวอำเภอวิเชียรบุรี และอำเภอใกลเ้ คียง คือสมเด็จพระนเรศวรมหำรำช โดยมปี ระวตั ิวำ่ เมอ่ื คร้งั สมเด็จพระ นเรศวรมหำรำชดำรงพระอสิ ริยศเป็นสมเด็จพระอปุ รำชครองเมือง พษิ ณโุ ลก เมอ่ื ปี พ.ศ. 2125 ได้เสด็จกรีฑำทัพมำปรำบกบฏพระ ยำละแวก พระองคท์ รงใหพ้ ระยำศรถี มอรัตน์เจำ้ เมอื งวิเชยี รบุรี และ พระยำชยั บำดำลเจำ้ เมอื งชัยบำดำล เป็นทัพหน้ำตีทัพกบฏพระยำ ละแวก สำหรบั ทัพหลวงสมเดจ็ พระนเรศวรมหำรำช ไดเ้ สดจ็ มำย้งั ทพั ทเ่ี มอื งวเิ ชยี รบรุ ี ณ สถำนทก่ี อ่ สรำ้ งศำลสมเดจ็ พระนเรศวร มหำรำช อำเภอวิเชยี รบุรใี นปัจจบุ นั

ทตี ั้งอำณเขต อำเภอวเิ ชยี รบุรตี ั้งอย่ทู ำงตอนใตข้ องจงั หวดั มอี ำณำเขตติดต่อกับ อำเภอขำ้ งเคียง ดงั นี้ ทิศเหนอื ติดตอ่ กบั อำเภอบึงสำมพัน มีคลองจังหันและแมน่ ้ำปำ่ สกั เปน็ เส้นแบ่งเขต ทศิ ตะวนั ออก ติดต่อกับอำเภอภักดชี พุ ล (จังหวัดชยั ภูมิ) และ อำเภอลำสนธิ (จังหวัดลพบุรี) ทิศใต้ ตดิ ตอ่ กับอำเภอศรีเทพ และอำเภอโคกเจรญิ (จังหวดั ลพบรุ )ี มีห้วยลำตะคอ้ และแม่น้ำปำ่ สัก เป็นเส้นแบ่งเขต ทศิ ตะวันตก ตดิ ต่อกบั อำเภอไพศำลี (จังหวัดนครสวรรค)์

ประเพณอี ำเภอวิเชยี รบรุ ี ช่วงปลำยอยธุ ยำ รำวสมัยรุ่นปขู่ องพระยำประเสริฐ สงครำม(ใจ ณ วิเชยี ร)เจำ้ เมืองวิเชยี รบุรีในอดตี เหน็ ว่ำบ้ำนเมืองในระยะนีเ้ กดิ สงครำมสมัยสงครำมคร้ัง ใหญ่ จงึ คิดอุบำยเพื่อร่วมใจชำวเมืองมกี ำลังใจ เขม้ แข็ง จดั ทำพิธีอมุ้ พระสรงน้ำข้นึ ในวนั ส้นิ เดอื น10 ซ่งึ ตรงกับวันสำรทไทย โยใช้บริเวร บังกะโห้ เป็น สถำนท่กี ระทำพิธี ในปี2558 เทสบำลเมอื งวเิ ชียรบรุ นี ำโยดำบตำรวจ วฒั นพงศ์ เกดิ พลู นำยกเทศมนตรีอำเภอวิเชยี รบุรี จัด งำนโดยวนั ท1ี่ 1-12 จดั ใหม้ ีขบวนแหพ่ ระพทุ ธรลู ำ้ นชำ้ ง ปำงมำรวชิ ยั อำยุ700ปี จำกวดั วเิ ชียรบำรงุ (วัดท่ำนำ้ ) วนั ท1ี่ 2 เริม่ พืธีบวงสรวงอนั เชิญเทวดำ และจดั พธิ อี มุ้ พระดำน้ำเป็นรำยกำรถัดไป

จุดเด่นอำเภอวเิ ชยี รบุรี \"เพชรบรู ณ\"์ ทุกคนคงร้จู กั กันดใี นเรอ่ื งของสถำนทท่ี อ่ งเท่ยี ว โบรำณสถำน วดั วำอำรำม และท่ีเดด็ ของเพชรบรู ณน์ ั้นกค็ ือ \"ไกย่ ำ่ งวเิ ชยี รบุร\"ี ทีใ่ ครแวะผำ่ นมำกต็ อ้ งมำชิม ดว้ ยควำมเป็นเอกลกั ษณ์ของ รสชำตทิ ี่แตกตำ่ งจำกทกุ ที่ และควำมลงตวั ของนำ้ จมิ้ เมอ่ื มำ กนิ กบั ไกย่ ำ่ งจะลงตวั กนั เปน็ อยำ่ งดี ไกย่ ่ำงวเิ ชยี รบรุ ี ต้งั อยรู่ มิ ถนนสำยหลัก อ.วเิ ชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ แตเ่ ดมิ น้ันเปน็ จุด แวะพกั สำหรบั คนเดนิ ทำง เน่ืองจำกมตี ้นไม้รม่ รนื่ พ้ืนที่ เหมำะสำหรบั กำรพกั จงึ ทำให้มชี ำวบ้ำนมำยำ่ งไก่ ตำส้มตำ และนึ่งขำ้ วเหนยี วเพอื่ ขำยใหก้ ับผทู้ ี่สัญจรผำ่ นไปมำ ซง่ึ เมนู หลักๆ ที่ผู้คนชืน่ ชอบก็คือ ไก่ยำ่ ง ซ้งึ ควำมพเิ ศษของไก่ย่ำง วเิ ชยี รบุรี คอื หนงั ไก่จะแห้งกรอบ สว่ นเน้ือจะนมุ่ กลน่ิ หอม รสชำตเิ คม็ มนั พอดี รบั ประทำนได้โดยไม่ตอ้ งจ้มิ นำ้ จม้ิ กไ็ ด้ แตก่ ็ยังมนี ำ้ จิ้มทถี่ อื วำ่ เปน็ เอกลักษณข์ องทีน่ ่ี ก็คอื นำ้ จ้มิ มะขำม และนำ้ จ้มิ สูตรกระเทียมดอง ซึ่งเปน็ สตู รของ จ. เพชรบรู ณ์ ด้วยช่อื เสียงและควำมนยิ มในไกย่ ำ่ งวิเชยี รบรุ ี ทำ ให้เกดิ อำชพี ที่เอือ้ กันต่อมำ เปน็ ของฝำกที่เปน็ เอกลกั ษณข์ อง จงั หวัดเพชรบูรณ์

ประวัตไิ กย่ ่ำง คุณยำยนวล ป้ำกมิ หลี และตำแป๊ะ เป็นคนกลุ่มแรก ท่ไี ด้ทำไก่ ยำ่ ง ส้มตำ ข้ำวเหนียว และขนมมำขำยให้กับชำวบ้ำนทว่ั ไป ทง้ั ท่ี สญั จรไปมำและชำวบำ้ นในบรเิ วณใกลเ้ คยี งได้ซือ้ หำรบั ประทำนกนั โดยไก่ย่ำงของรำ้ นน้ีจะมีรสชำตทิ ี่อร่อยมำก เพรำะมเี คลด็ ลบั อยทู่ ่ี น้ำจิ้มรสเด็ด ซึ่งจะไม่เหมือนน้ำจ้มิ ไกท่ ี่อนื่ คอื เป็นน้ำจ้ิมน้ำ มะขำม และน้ำจม้ิ สตู รกระเทยี มดอง โดยเป็นสูตรเฉพำะของคน จังหวัดเพชรบูรณ์เท่ำนั้น ตอ่ มำ “แมช่ อ้ ยนำงรำ” จำกหนังสือพิมพ์ ไทยรฐั ได้มำเท่ยี วจงั หวัดเพชรบูรณ์ และมีโอกำสจอดรถเพ่อื รบั ประทำนอำหำรท่รี ำ้ นไก่ย่ำงของตำแปะ๊ ซึง่ เปน็ เจ้ำของสูตร กระเทยี มดอง จงึ ได้สอบถำมข้อมูลเรื่องรำวของไกย่ ำ่ งวเิ ชียรบุรี แล้ว นำไปเขียนลงในหนงั สอื พมิ พ์ไทยรฐั ซ่ึงต่อมำได้มอบใบประกำศ เกียรติคณุ ให้ ทำใหผ้ ูค้ นทไี่ ด้อำ่ นจำกทว่ั ประเทศรูจ้ กั “ไกย่ ำ่ งวิเชยี ร บรุ ี” มำกยงิ่ ข้ึน ซ่งึ คนท่ีมโี อกำสเดินทำงผำ่ นมำกจ็ ะแวะรบั ประทำน กนั พอรวู้ ำ่ รสชำตอิ รอ่ ยสมตำมทร่ี ่ำลอื จึงได้บอกต่อๆ กัน จนทำให้ ร้ำนไกย่ ่ำงของตำแปะ๊ มีชอ่ื เสยี งโด่งดังมำจนถงึ ทกุ วนั น้ี รำ้ นขำยไก่ยำ่ ง สูตรตน้ ตำหรับของแท้ของตำแปะหลำยรำ้ นทย่ี งั คงเปิดขำยอยใู่ น ปัจจุบนั ได้แก่ รำ้ นตำแป๊ะ1 ร้ำนตำแปะ๊ 2 และรำ้ นบวั ตอง รวมถึง ร้ำนไก่ยำ่ งบริเวณริมทำงท่เี ป็นแผงเลก็ ๆ แตก่ ม็ ีรสชำตอิ ร่อยเช่นกัน ดว้ ยช่ือเสียงและควำมนยิ มในไก่ยำ่ งวเิ ชียรบุรี ทำให้เกิดอำชีพทเี่ ออื้ กันตอ่ มำ เชน่ กำรเล้ียงไก่ กำรรบั จ้ำงถอนขนไก่ และสิง่ ท่เี ป็น

เอกลัษษณพ์ ิเศษของไก่ย่ำงสำมแยกวเิ ชยี รบุรี คือ หนงั ไกจ่ ะแหง้ กรอบ สว่ นเนอื้ จะนมุ่ กลนิ่ หอม รสชำตเิ คม็ มนั พอดี รับประทำนไดโ้ ดยไมต่ อ้ งจม้ิ น้ำจ้ิมไก่กไ็ ด้

วัดป่ำเรไรทอง  วัดปำ่ เรไรทอง ตง้ั อย่หู มู่ที่ ๓ ตำบลท่ำโรง อำเภอวเิ ชยี รบรุ ี จังหวดั เพชรบรู ณ์ สรำ้ งขึ้นสมยั รัชกำลที่ ๑ ( สมเด็จพระพทุ ธ ยอดฟำ้ จฬุ ำโลกมหำรำช ) สร้ำงเม่ือวนั ที่ ๒๕ พฤศจิกำยน ๒๓๔๐ ผกู พัทธสีมำเมื่อวันท่ี ๑ มถิ ุนำยน ๒๓๔๕ วดั ป่ำเรไร ทองเป็นวดั พัฒนำตัวอย่ำงตำมประกำศของกรมกำรศำสนำ ปี ๒๕๒๘ มเี จำ้ อำวำสองค์ปัจจุบนั คอื พระครูโสภณวชริ ำภรณ์ เจำ้ คณะอำเภอวิเชียรบรุ ี วัดวเิ ชียรบำรุง วดั เก่ำแกอ่ กี แห่งหนงึ่ ของเพชรบรู ณ์ เดมิ มชี ื่อวำ่ “วัดท่ำนำ้ ” สร้ำง ขึน้ ใน พ.ศ. 2471 อุโบสถของวดั สรำ้ งข้ึนปี พ.ศ. 2496 และมี กำแพงแกว้ ล้อมรอบ ภำยในวัดประดษิ ฐำนพระนอนสีทององคใ์ หญ่ ตง้ั อยกู่ ลำงแจ้งนำมว่ำ “พระพุทธไสยำสน์วเิ ชยี รบุรศี รรี ตั นม่ิง มงคล” ควำมยำวประมำณ 50 เมตร สูง 5 เมตร หันพระพักตร์ ไปทำงทศิ ตะวันออก องค์พระหล่อดว้ ยปูนทำสที อง ภำยในองค์พระ เป็นทบ่ี รรจพุ ระบรมสำรีรกิ ธำตสุ ว่ นพระรำกขวญั (ไหปลำรำ้ ) ดำ้ นหลังองค์พระมพี ระบรมรำชำนุสำวรยี ส์ มเดจ็ พระนเรศวรมหำรำช พระสุพรรณกลั ยำ และสมเดจ็ พระเอกำทศรถ

 คุณจะได้พบกบั \"ขอนมำดโบรำณ\" หรอื \"เรือมำด\" (เรอื ขุดทม่ี ี ประทุน) ซึ่งขุดแต่งจำกไมต้ ะเคยี นทง้ั ตน้ มีอำยรุ ำวสมัยอยธุ ยำ ถูก ค้นพบในแมน่ ้ำปำ่ สัก อำเภอวเิ ชยี รบุรี และนำมำจดั วำงไวภ้ ำยใน วดั วิเชยี รบำรุง ตำมตำนำนเลำ่ วำ่ ในสมยั กรุงศรอี ยธุ ยำ มีใบบอกให้ หวั เมอื งหำไม้มำทำเรอื พระท่ีนัง่ หัวเมอื งเพชรบูรณส์ มัยนั้น ให้แก่ นครเดิด จนคนคน้ พบไมต้ ะเคียน (ไมม้ ำด) ต้นตดั โกรนและลอ่ ง มำตำมลำน้ำปำ่ สกั ต้นไมเ้ กดิ จมลงในดนิ หลม่ กวำ่ จะพบอีกทที ี่ สักงอยเป็นเวลำ 6 เดอื น แลว้ ล่องผำ่ นนครเดดิ ไปจนถึงสำวไห้ จงั หวัดสระบรุ ี จึงร้วู ำ่ พระเจ้ำแผน่ ดนิ ไดเ้ รือจำกหัวเมืองทำงเหนือซึ่ง มำจำกลำน้ำน่ำนแลว้ ตำนำนเล่ำวำ่ เรอื มำดเรียกอีกอยำ่ งวำ่ “นำง มำด” โดยขอนมำดตน้ น้องไดจ้ มลง ส่วนขอนมำดต้นพีล่ อยทวน น้ำป่ำสกั หวังจะกลับวงั บำล แตถ่ งึ วิเชียรบรุ กี จ็ มลงในทำ่ น้ำทำงทิศ ใตข้ องวดั ทำ่ น้ำ หรอื วดั วิเชียรบำรงุ ในปจั จุบนั

สถำนที่ท่องเทย่ี ว สุสำนหอยลำ้ นปี สสุ ำนหอยแห่งนีถ้ กู ค้นพบโดยชำวบำ้ นทีเ่ ขำ้ มำถำงป่ำเมอ่ื ปี พ.ศ.2520 กอ่ นจะพัฒนำเปน็ แหล่งท่องเท่ียวของ อ.วเิ ชียรบุรใี นปี พ.ศ.2535 ถึงหอยจะมีคนแกะออกมำเปน็ ตวั ๆ แตท่ งั้ หอยท้งั หินก็ไมม่ ใี ครกลำ้ เอำกลบั บำ้ นเพรำะเช่ือกันวำ่ สสุ ำนหอยแห่งน้ีเปน็ สถำนทีศ่ กั ด์สิ ทิ ธ์ิ หำกใครเอำของ ออกไปโดยไม่บอกล่ำว จะประสบเรอ่ื งไม่ดี ตอ้ งนำหอยกลับมำคนื ท่ีเดมิ (เหมอื นเกำะหนิ งำมเลย) ถึงจะไม่เช่อื ก็ไม่ควรเอำไปบำ้ นหรอกครบั ปลอ่ ยมนั อย่กู บั เพื่อนๆของมันที่ อยดู่ ้วยกนั มำ 13 ลำ้ นปี

ผลไม้อำเภอวเิ ชยี รบรุ ี

สมาชิก ด.ญ.ณฏั ฐนิช มหาหิงษ์ ด.ช.ธีรภทั ร วงษจ์ ารัส เลขท่ี 22 เลขท่ี 16 ด.ญ.เพชรลดา นิล ด.ญ.ชชั ฎาภรณ์ ขาว กระจา่ ง เลขท่ี 31 ฉลาด เลขท่ี20 ด.ญ.ณฐั ติมาพร บุญขนั ธ์ เลขท่ ี23


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook