สวัสดีค่ะ วันน้ีก็มาพบกับการแนะนำตนเอง ในแบบฉบับ ดาริณีไดอารี่กันค่า ก่อนอื่นเลยต้อง สวัสดีอาจารย์และเพอ่ื น ๆ ทีเ่ ข้ามาดูดิฉนั นะคะ ดิฉัน นางสาวดาริณี เพิ่มพนู ช่ือเล่นว่าตัวเล็ก ช่อื ตัวเล็กน้ีมี ทีม่ าวา่ เมอ่ื ตอนเด็ก ๆ ดิฉันเป็นคนขีโ้ รค ผอมโซมาก ไมโ่ ตสักที คนก็เลยเรียกตัวเล็ก ๆ มาเร่อื ย ๆ คะ่ ดิฉันเกิดวันที่ 2 พฤศจิกายน 2540 ปัจจุบันก็ อายไุ ด้ 23 ปแี ล้วค่ะ เฮ้อออ ! ไม่อยากบอกอายุเลยจริง ๆ ……….. 1
สารบัญ 1. ถน่ิ กำเนดิ .....................................................................3 2. ครอบครัว.....................................................................8 3.การศึกษา .................................................................... 14 4.อาชพี ทเี่ คยทำ .............................................................29 5. ยามว่างจากการเรียน .................................................31 7.ชีวติ ครอบครัว .............................................................44 8.ของฝากจากประสบการณช์ วี ติ เรา................................51 2
บา้ นเกิดของดฉิ นั นะคะ อยูท่ ี่ ต.ทา่ แรง้ อ.บา้ นแหลม จ.เพชรบุรี บ้านท่าแร้งนี้เรียก ได้ว่าเป็นตำนานของมุสลิมในเมอื งเพชรบุรี เป็นพื้นที่ ท่ีอุดมด้วยทรัพยากร ธรรมชาติ ที่เป็นตำนานของ มุสลิมในเมอื งเพชรบรุ เี ลยแหละคะ่ และ หมบู่ า้ นนเ้ี อง นะคะ คอื ท่มี าของมัสยดิ กลางจงั หวัดเพชรบรุ ี ซง่ึ มีชื่อ 3
ทางอาหรับว่า มัสยิดยามิอุลอิสลามและตรงข้าง ๆ มัสยิด จะมีลำน้ำไหลผ่านกลางหมู่บ้าน ซึ่งลำคลอง แห่งนี้แยกมาจากแม่นำ้ เพชรบุรี ที่มาจากต้นนำ้ เข่อื น แก่งกระจาน ลำคลองแห่งนี้ ถูกชาวบ้านเรียกว่า คลองท่าแร้ง ซึ่งคลองแห่งนี้ไหลลงสู่อ่าวไทยที่ตำบล บางขุนไทร นั่นเองค่ะ 90 เปอร์เซ็นต์ในหมู่บ้านนี้จะ นับถือศาสนาอิสลาม หมู่บ้านนี้เป็นเหมือนต้นกำเนิด ของชุมชนมุสลิม ที่กระจายอยู่หลายๆพื้นที่ของ จังหวัดเพชรบรุ เี ราเลยแหละค่ะ เหตผุ ลสำคัญประการ หนึ่งเลยที่ทำให้ชุมชนชาวมุสลิมยังคงมีความอบอุ่น และรักใคร่กันอย่างพี่น้อง การที่พวกเค้ายังคง พยายามรักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิม ท่ี ชักชวนผู้คนในชุมชนให้ออกมาทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น การละหมาด ชาวมุสลิมเพชรบุรีส่วนใหญ่จะ อาศัยหนาแน่นอยู่ในตำบลท่าแร้ง ส่วนใหญ่จะ 4
ประกอบอาชีพทำนาท่ีตกทอดกันมาจากบรรพบุรุษ และคงมีวิถีชีวติ ความเป็นอยูท่ ่ีเรยี บงา่ ย มสั ยดิ ยามอิ ุลอิสลาม ต.ท่าแร้ง อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี 5
เทศกาลรื่นเริงของชาวมุสลิมจะมีอยู่ 2 วัน เรียกว่าเทศกาลฮารีรายอ จะเกิดขึ้นในช่วงพิธีออก จากการละศีลอด และ การออกละหมาด ทุก ๆ คน ทุก ๆ บ้านก็จะออกมาร่วมฉลอง และมาร่วมละหมาด ด้วยกัน ต่างคนต่างเอาขนมผลไม้มากินร่วมกันท่ี มัสยิดและเป็นวันพบปะเยีย่ มญาติมิตร เพื่อขอโทษที่ เคยทำอะไรไม่ดีต่อกนั ท้ังกาย วาจา ใจ แตใ่ นปัจจุบัน เน่ืองจากสถานการณโ์ ควิด จึงทำให้ไม่สามารถจัดงาน วันฮารรี ายอได้ 6
และอีก 1 สิ่งความสวยงามของศาสนาอิสลาม ท่ีดิฉันอยากให้ชมน้ันคือ การแต่งงานตามหลักศาสนา อิสลาม หรือทีช่ าวมสุ ลมิ เรยี กกันว่า การนกิ ะห์ การนิกะห์ นั่นคือการแต่งงานในวัฒนธรรม อิสลาม เปรยี บเทยี บอยา่ งเชน่ คนพทุ ธจะมีงานเช้าพิธี รดน้ำสังข์ คนคริสต์ก็จะมีแต่งในโบสต์ต่อหน้า บาทหลวง มุสลิมก็เช่นกัน มีการนิกะห์ ซึ่งคือการ แตง่ งานตามหลกั ศาสนานนั่ เอง 7
น่ีคือครอบครัวของดิฉันเอง นา่ รกั ไหมคะ ? คุณพ่อของดิฉันชื่อ นายยง เพิ่มพูน บ้านเกิด อยู่ที่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมาค่ะปัจจุบันอายุ 62 ปี แล้ว ประกอบอาชีพคา้ ขายอยกู่ ับคณุ แม่ค่ะ 8
ส่วนแม่ของดิฉัน ชื่อ นางมาลี เพิ่มพูน บ้านเกิดอยู่ท่ี ต.ท่าแร้ง อ.บ้านแหลม จ.เพชรบรุ ี ปจั จุบนั อายุ 52 ปี และน้องสาวของดฉิ นั ช่ือ นางสาวลินดา เพิ่มพูน บ้านเกดิ อยู่ท่ี ต.ท่าแร้ง อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี อายุ 17 ปี ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมคึกษาปีท่ี 6 โรงเรียนพรหมานสุ รณ์ จ.เพชรบรุ ี 9
ในทุก ๆ ตอนเช้าเวลาตี 4 พ่อกับแม่ก็จะมา ขายของในตลาดน้ีแห่งนี้ ร้านคุณแม่ดิฉันตั้งอยู่ใน ตลาด18 เมตร ติดกับห้างสุริยะ จะเห็นคุณแม่ดิฉัน โพกผา้ คลุมหัว ตวั เลก็ ๆ น่ารกั ๆ นง่ั ขายอยู่คะ่ ตง้ั แต่ ดิฉนั เกดิ มาจำความได้ ดฉิ ันแทบจะไมเ่ คยเห็นแม่ดิฉัน หยุดขายของเลยสักวัน นอกจากซะว่าพ่อจะพากลับ 10
บ้านเกิดเขา ที่ จ.นครราชสีมาแตก่ ็นานครั้งมาก และ สถานการณ์โควิดที่ในช่วงหนึ่งในตลาดถูกส่ังปิดไมใ่ ห้ ขายของเปน็ เวลาถงึ 2 วนั วนั น้นั ดฉิ ันพ่งึ จะได้เห็นแม่ กับพ่อของดิฉันไดน้ อนหลับกันเต็มอิ่มสักที ในสายตา ดิฉันแล้วแม่หนูเป็นผู้หญิงที่เก่งและแกร่งมากเลยค่ะ จากชว่ งเช้าจะขายอยูใ่ นตลาดใชไ่ หมคะ กจ็ ะมีบางวัน ในช่วงบา่ ยก็จะออกไปขายตามตลาดนัดบา้ ง 11
12
ถ้าวันไหนดิฉันว่าง ๆ ดิฉันก็จะไปขายของกับ แม่ ขายในตลาดนัดกับในตลาดสดเพชรบุรีมันตา่ งกัน มาก ดิฉันเคยไปช่วยแม่ขายของทั้งสองที่นี้ ความ ยุ่งยากวุ่นวายมันต่างกนั อย่างในตลาดเช้าจะมคี วาม วุ่นวายมากกว่าค่ะ เพราะส่วนมากจะเป็นลูกค้าที่มา สั่งของเยอะ ๆ เพื่อจะนำไปประกอบอาหารขาย อาหารตามสั่ง ก้มหน้าหยิบของทำของให้ลูกค้าหัว หมุนเลยทีเดียว เงยหน้าขึ้นมาอีกทีท้องฟ้าสว่างแล้ว ส่วนในตลาดนัดช่วงบ่าย ลูกค้าส่วนมากก็จะมาซื้อ ของไปทำกับข้าวกันอย่างละนิดละหน่อย บอกเลยว่า ถ้าดิฉันไม่เคยได้ลองตื่นแต่เช้ามืดไปขายของกับแม่ ดิฉันก็คงจะไม่สามารถรับรู้ไดว้ ่าพอ่ กับแมเ่ หน่ือยและ ลำบากมากแค่ไหน ที่จะต้องหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว และส่งเสยี เราเรียนต้ังแต่เรายังเด็ก ด้วยการยึดอาชีพ คา้ ขายทกี่ ำไรก็ไมไ่ ดม้ ากมาย แต่เปน็ ความภมู ิใจท่ีเป็น อาชพี ทีส่ ุจริต 13
ดิฉันเรียนอนุบาลและประถมศึกษาท่ีโรงเรียน บ้านทา่ แรง้ ( สหราษฎร์ ) ระดับชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนคงคาราม เรียนใน ระดับช้ันประกาศนยี บัตรวชิ าชพี ข้นั สูงที่ วิทยาลัยการ อาชีพบ้านลาด ปัจจุบันศึกษาอยู่ระดับชั้นปริญญาตรี ปี 2 ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบุรี คณะวิทยาการ จัดการ สาขาบริหารธุรกิจ แขนงการตลาดดจิ ทิ ัล 14
ชีวิตในวัย ม.ต้นของดิฉันนะคะ บอกเลยว่าซน ได้การเอาเลยทีเดียว ก่อนหน้านัน้ ที่จะได้เข้ามาเรียน ในเมือง ดิฉันก็เรยี นอยู่ที่ ต.ท่าแร้ง โรงเรียนแถวบ้าน ตอนนั้นบอกเลยวา่ เวลาวา่ งจะเข้าหอ้ งสมุดชอบไปนั่ง อา่ นหนงั สือนทิ านอะไรไปเรื่อยเป่ือย สมยั นัน้ เน่ียก็ยัง ไม่มีเทคโนโลยีอะไรที่เข้ามาสักเท่าไหร่ แล้วก็ชอบไป 15
ชว่ ยงานอาจารย์ จดั หอ้ ง จดั แฟ้ม ชอบอยูก่ ับอาจารย์ ทีใ่ จดี ทำใหจ้ ติ ใจเราแจ่มใสมาก แต่พอได้มาเข้าเรียน ในเมือง อะไรที่ไม่เคยพบเจอก็ได้เจอ แล้วมันก็ทำให้ เราหลงใหลไปกับสงิ่ ใหม่ ๆ จากทเี่ ราไม่คิดจะแต่งหน้า ทาปากไม่คิดอยากจะซอยผมที่ผิดระเบียบ ตัว ดิฉันเนี่ยคือชอบแหกกฎของโรงเรียนมากในตอน ม. ต้น ดิฉันก็จะมีกลุ่มเพือ่ นที่แบบวา่ ไม่เอาเรียนกันเลย และตัวดิฉันก็ไม่สนใจเรียนมากในตอนนั้น การเรียน ไมต่ อ้ งพูดถงึ ตดิ ศนู ยแ์ ทบทกุ วิชา แต่ก็ยังทำตัวสบาย ๆ ไม่รรู้ อ้ นรหู้ นาวอะไร 16
ห้องปกครองไม่ต้องพูดถึงค่ะ ได้เข้ามันทุกปี โดยเฉพาะเรอ่ื งโดดเรียน ไม่เขา้ ชน้ั เรยี น และเร่ืองทำ ทรงผมผดิ ระเบียบ ก็คือซอยผมน่ันเองค่ะ แต่ไม่เคยมี เรือ่ งทะเลาะวิวาทกบั ใครนะคะ ตลอดเวลาตอนอยู่ ม. ตน้ จะโดนเร่ืองทรงผมแลว้ ก็เร่อื ง โดดเรียนอย่บู อ่ ย ๆ จนเดือดรอ้ นผู้ปกครองต้องมาพบอาจารยอ์ ยู่บ่อยคร้ัง 17
18
และในชีวติ ช่วงอยู่ตอน ม.ปลาย ตอนท่ีดิฉนั ขนึ้ ม. 4 ใหม่ ๆ ดิฉันตง้ั ใจไวว้ ่าจะตัง้ ใจเรียนจะขยันเรียน ให้มาก ๆ แต่สุดท้ายก็วนเข้าสู่ลูปเดิม ๆ ค่ะ เพราะ ความไม่ขยันขันแข็งแล้วก็ไม่สู้ไม่อดทน จนทำให้ไม่ อยากจะเรยี น วชิ าไหนทีไ่ มอ่ ยากเรียนกไ็ ม่เรียน ก็โดด เรียนอีกตามเคย แล้วบวกกบั ในตอนเรียนในโรงเรียน คงคารามนัน้ ดิฉันต้องซ้อมกีฬาไปควบคูก่ ันด้วยมนั ก็ เลยกลายเปน็ ความคิดทวี่ ่าทำไม มนั ปวดหวั จงั เรยี นก็ ปวดหัวแล้วแล้วก็ต้องมาซ้อมกีฬา ยอมรับว่าในตอน นั้นดิฉันไม่เคยคิดที่จะบริหารจัดการเวลาตัวเองให้ดี เลย ทำให้คะแนนผลการเรียนไม่เคยจะออกมาดีเลย สักปี ในช่วงระยะเวลาตอนท่ีอยู่มัธยม แตจ่ ะว่าไปนั้น ดฉิ ันชอบเล่นกฬี า เป็นชวี ิตจติ ใจ มันสนกุ มันไมเ่ ครียด จนเรยี กได้ว่าเรียนไม่เคยมากฬี าไม่เคยขาด............. 19
20
และตอนอยู่ในนั้นดิฉันก็ได้เป็นนักกฬี าตะกร้อ ตัวโรงเรียนแล้วก็เป็นตัวแทนเยาวชนจังหวัดเพชรบุรี ไปแข่งขันระดับภาคด้วยค่ะ ตอนอยู่ที่โรงเรียนคงคา ราม ดิฉันไปแข่งขันกีฬาตะกร้อที่ต่างจังหวัดอยู่บ่อย มาก ตั้งแต่อยู่ ม.ต้นจนไปถึง ม.ปลาย ดิฉันได้ไปแขง่ มาหลายที่ ไม่ว่าจะเป็นระดับจังหวัด ระดับตัวแทน เขต อันนกี้ เ็ ปน็ อีกส่ิงหน่ึงค่ะ ที่ตอนเรยี นอยู่ท่ีน่ัน เรา ก็ยงั ทำประโยชน์ให้กบั โรงเรยี นไดเ้ หมอื นกนั 21
และนี่ก็เป็นประสบการณ์ชีวิตที่เปลี่ยนแปลง ดิฉันไปอย่างมาก ก่อนหน้านี้ดิฉันตั้งใจไว้ว่าถ้าเรียน จบ ม. ปลายแล้ว จะศึกษาต่อในคณะที่เกี่ยวกับการ เล่นกีฬา นั่นก็คือคณะคุรุศาสตร์เอกพละศึกษา นั่นเอง แต่เนอื่ งจากว่าดิฉนั ได้ลงสมัครเรียนไปช้ามาก ทำให้คณะนี้เต็ม จึงไม่สามารถสมัครลงเรียนได้ และ คิดว่าดิฉันก็ยังไม่รู้ตัวเองว่าถ้าไม่ได้เรียนคณะนี้แล้ ว 22
เราจะไปเรียนคณะอะไรต่อไปดี ในตอนนั้นน่ะค่ะ ดิฉันจำได้ว่ามันเหลือแค่คณะเอกศิลป์ และเอกครู ภาษาไทยที่ยังมีลงให้สมัครไว้ได้ แต่ว่ามันไม่ใช่ทาง ของดิฉันเลย ดิฉันก็ไม่ได้ลงเรียนอันไหนไปเลยค่ะ ดิฉันกก็ ลัวว่าจะเสยี เวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ จนมา ปรึกษากับคนที่รู้จักเค้าแนะนำว่าให้ไปเรียนต่อ ใน ระดับชั้น ปวส. นี้ไปก่อน ดิฉันก็เลยไปขอคำแนะนำ จากเพื่อนๆว่า ปวส. มีสาขาอะไรบ้าง ปรากฏว่าใน ตอนนั้นเนี่ยมันมีสาขา การจัดการทั่วไป บัญชี คอม ธุรกิจ การท่องเที่ยวและโรงแรม ไฟฟ้า และช่างยนต์ ตอนนั้นดิฉันก็เลยเลือกเรียนการจัดการทั่วไปเพราะ คิดว่ามันคงจะง่ายที่สุด ดิฉันเลยคิดว่าเรียนๆไปก่อน เพ่ือไมใ่ ห้เสยี เวลาก็เลยมาเรียนตอ่ ในระดับประกาศนี บตั รวชิ าชพี ขัน้ สงู ท่วี ิทยาลยั การอาชพี บ้านลาดคะ่ 23
24
แต่พอเมื่อมาได้เรียนในสาขานี้แล้ว ก็รู้สึกว่า ตัวเองเริ่มมีความสนใจในสาขานี้เหมือนกัน มันเป็น สาขาที่ครอบคลุม เกี่ยวกับจัดการทั่วไปเลย ไม่ว่าจะ เปน็ จดั การตลาด จัดการองคก์ ร จดั การธรุ กิจระหว่าง ประเทศ จัดการโลจิสติกส์ ซพั พลายตา่ งๆ มนั ดูว่ารู้สึก มีอะไรที่น่าค้นหามาก จนกระทั่งเรียนจบ ดิฉันก็หยุด ไว้หนึง่ ปี เพื่อไปทำงานเก็บเงินมาเรียนต่อในในระดบั ปริญญาตรีในปีหน้าก็คือ ปี 2563 เป็นปีที่ดิฉันได้เขา้ มาเรียนเม่ือปีที่แลว้ นัน่ เอง ในระหวา่ งนั้นก่อนใกล้จะ เปิดรับสมัครนักศึกษาอีกรอบหนึ่งในปี 2563 ดิฉันก็ 25
ได้ค้นหาข้อมูลมาพอสมควร ดูคณะที่เค้าเปิดรับว่ามี สาขาอะไรบ้างที่จะเกี่ยวพันกับสาขาที่เราเรียนมา แน่นอนมันมีสาขา จัดการทั่วไปเหมือนกัน แต่เม่ือ ดิฉันลองมาคิดอีกทีในความคิดของดิฉัน สาขาการ จัดการทั่วไปมันเรียนครอบคลุมทุกอย่างก็จริง แต่ว่า ในความคิดของดิฉนั เหมือนรู้เยอะแต่ร้ไู ม่ค่อยเจาะลึก สักเท่าไหร่ ดิฉันจึงมาดูสาขาที่เปิดรับอีกทีว่า ดิฉัน อยากจะเจาะลกึ เข้าไปในสาขาไหนท่ีดิฉันมั่นใจว่า ถ้า เรียนแล้วจะเป็นผลดีกับตัวเองมากที่สุด และตัวเอง ถนัดมากที่สุด ก็คงไม่พ้นสาขาการตลาด เพราะดิฉันก็ เคยขายของออนไลน์กระจุกกระจิกมาบ้างนิดหน่อย แต่ดิฉันรู้ตัวว่าคุณสมบัติของตัวเองก็ยังขาดอีกหลาย ดา้ น ทจี่ ะมาเรยี นในสาขาน้ี โดยเฉพาะเรื่องของการมี ความคิดสร้างสรรค์ ดิฉันมั่นใจและหวังไว้เหมือนกัน วา่ สาขาการตลาดจะนำพาให้ดฉิ ันเก่งขึน้ พฒั นาตัวเอง ขึ้นและมีความมั่นใจในตัวเองสูงมากขึ้น ดิฉันจึงลง 26
เลือกสาขาวิชานี้ แต่เมื่อมาถึงตอนเปิดเรียนจริง ๆ กลับต้องมาเจอกับสถานการณ์ โควิด-19 ทำให้มีวิถี ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป หรือที่เราเรียกกันว่า New Normal จงึ ทำให้ไดร้ บั ประสิทธิภาพในการเรียนได้ไม่ เต็มท่ี ในช่วงแรก ๆ ยังต้องเจอกับ การเรียนใน รูปแบบออนไลน์ การปฐมนิเทศแบบออนไลน์ จึงทำ ให้ไม่ได้พบปะหรือพบเจอกับเพ่ือนๆ ในช่วงแรก ๆ ได้ เลย จึงทำให้ไม่ได้สร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนๆใน ช่วงแรกๆ แต่โชคดีที่ตอนนั้นยังควบคุมการระบาด ของโรคโควิด-19 ทางมหาลยั ในตอนนน้ั จึงมีการเรียน เป็นรูปแบบการเรียนผสมผสาน ก็จะมีการเข้าเรียน ออนไลน์บ้าง บางครั้งก็จะเขา้ ไปเรยี นในมหาวิทยาลัย บ้าง ทำให้ได้เจอเพื่อนๆและสร้างความสัมพันธ์กับ เพื่อน ๆ ได้ 27
Marketing pbru 63. 28
เป็นตัวแทนขายครีมออนไลน์ 29
ตัวแทนขายอินเทอรเ์ น็ตบา้ นของ บริษัท ทรู คอเปอเรช่นั 30
งานอดเิ รกทีเ่ คยทำ ก็จะมีขับ Food Delivery จากบริษัท Grab ออก กำลังกาย ฟังเพลง กอ่ นอ่ืนท่ดี ิฉนั อยากทำงานน้ีนะคะ เพราะเหน็ ว่างานขับ grab food มันเป็นงานที่แบบ Freelance สบาย ๆ ทำงานเหมือนได้ไปเที่ยว ได้ไปส่งอาหาร หลาย ๆ ที่ แล้วกไ็ ด้พบปะผู้คนเยอะแยะมากมาย แต่ ก็เจอปัญหาอุปสรรคหน้างานบ้าง ก็ถือเป็นความท้า ทายในชีวิตเรา อย่างเช่นไปส่งของให้ลูกค้าแล้วก็ไม่ พบเจอลูกค้า เจอแดดที่มันร้อนมาก ๆ บ้าง เจอ รา้ นคา้ ทำอาหารนานบ้าง ร้านปิดแต่ไม่ปิดระบบ เราก็ จะเสยี เวลามารับออเดอรฟ์ รีแต่ก็สนกุ ดีค่ะ ดิฉันจะทำ แค่เฉพาะตอนเวลาที่ว่างจริง ๆ เท่านั้นนะคะ ถ้าเกิด สมมุติว่ามีเรียนมีการบ้านก็จะรีบเคลียร์การบ้ าน ใ ห้ 31
เสร็จก่อนแล้วถึงจะออกไปขับได้ เพื่อความสบายใจ 32
และอกี หนึ่งงานอดิเรกของดิฉันกจ็ ะเป็นการ ออกกำลงั กาย 33
เวลาที่ดิฉันปวดสมองกับการเรียนอย่างเช่น นั่งฟัง อาจารย์ที่สอนวิชาที่เราคิดว่ามันยากแล้วมันไม่รู้สึก Relax เลย ดิฉันก็จะรู้สึกปวดหัวเป็นอย่างมาก หรือ ไปขับ Grab มาเปน็ เวลานาน ๆ เรากจ็ ะรสู้ ึกปวดหลัง ดิฉันจะไม่กลับมา นอนพัก เพราะเคยลองนอนดูแล้วตืน่ ขึ้นมามันย่ิงทำให้เรา งัวเงียอ่อนเพลียไม่อยากจะทำอะไร และทำให้อยากนอน ตอ่ ไปเรือ่ ย ๆ ดิฉันจงึ แกป้ ัญหาโดยการไปออกกำลังกาย เข้า ฟิตเนส วิ่งตามสนามกีฬาบ้าง วิ่งแถวบ้านบ้าง ประมาณ 30 – 60 นาที การที่เราได้ออกกำลงั กายแล้วมีเหงือ่ มันจะ ทำให้เรารู้สึกสดชื่นกระชุ่มกระชวย แล้วก็ทำให้สมองเรา ปลอดโปร่ง คิด จัดระเบียบวางแผนการใช้ชีวิตในวันต่อไป ได้อย่างดี และข้อดีของการออกกำลังกายอีกอย่างหนึ่ง สำหรบั ดฉิ นั นน้ั คือการไดน้ อนหลับอย่างสบายน่ันเองคะ่ 34
นี่ก็จะเป็นภาพงานวิ่งที่ดิฉันไปมานะคะ ดิฉันเคยวิ่ง ระยะไกลมาตั้งแต่เดก็ แล้ว ตอนเด็ก ๆ พอ่ กจ็ ะเปน็ คนพาไป วิ่งตามสนามที่เขาจัดรายการแข่งขัน พอโตมาก็ชอบไป สมัครงานวิ่งลงรายการแข่งขันต่าง ๆ บางทีก็ไปแข่งขันได้ 35
รางวลั มาบา้ ง แลว้ ก็บรรยากาศในงานว่ิงคะ่ ทำใหเ้ ราได้พบ เจอผคู้ นมากมายแล้วกม็ ติ รภาพทมี่ คี วามจริงใจ ไมว่ ่าจะเปน็ รุ่นเดียวกันกับเราหรือว่ารุ่นคุณลุงคุณป้า รุ่นพ่อรุ่นแม่เรา ในมิตรภาพในวงการว่ิงคือมันเป็นอะไรที่รูส้ ึกได้ถึงความรัก ความจริงใจอย่างแท้จริงเลยล่ะค่ะ ฮั่นแน่ !! สนใจอยากไป วิ่งในงานกันใช่ไหมคะ ? ก็ถ้าได้มีโอกาส ลองไปสมัครดูนะ และจะพบวา่ มิตรภาพท่ีดีนนั้ กม็ อี ยใู่ นงานวิง่ คะ่ รางวลั ทเ่ี คยไดร้ บั ในงานวง่ิ 36
37
และเปน็ อกี หน่ึงเปน็ งานอดเิ รก กค็ ือจะไปเล่นกีฬาตะกรอ้ 38
ในบางวันท่ีว่างก็จะไปเล่นตะกร้อกับคุณพอ่ ดิฉันนะคะ แต่ ช่วงนจี้ ะได้เล่นนอ้ ยลงมาก เนื่องจากไม่คอ่ ยมีเวลาไปเล่นค่ะ กีฬาตะกร้อก็เหมือนกับการฝึกสมองอย่างหนึ่ง และยังมี ความสนุกสนานมาก ดิฉันชอบเล่นกีฬาตระกร้อมาตั้งแต่ เด็กแล้ว และก็โชคดีที่พ่อดิฉันสอนเล่นมาตั้งแต่เดก็ ๆ ดิฉัน จะเล่นตะกร้อกับพ่ออย่ปู ระจำแตเ่ ด็กถึงตอนโตเลยแหละค่ะ 39
1. การท่ีเราได้เกิดมามีอวัยวะครบ 32 ถือว่าเป็น เรอื่ งโชคดีแลว้ แตจ่ ะโชคดกี ว่านั้นหากเราสามารถรักษามัน ไว้ได้ตราบจนมันหมดหน้าที่ของมันไป พร้อมกับลมหายใจ ของเรา ยังมคี นอีกมากมายท่เี กดิ มาไมค่ รบ 32 แต่พวกเขาก็ ยงั ต่อสู้กับชวี ิต และมที ศั คตทิ ด่ี ตี ่อโลกใบน้ี 40
2. การมีครอบครัวท่อี ยู่พร้อมหน้าพรอ้ มตากันอย่าง มีความสุข สำหรับดิฉันมันเป็นอะไรที่ดีมาก ๆ อย่างเช่น ครอบครัวดิฉัน ไม่ได้ร่ำรวย แค่พอมีพอกิน แต่ได้อยู่กัน อย่างพรอ้ มหน้าพรอ้ มตา มีเวลากินข้าวพรอ้ มกนั 3. การศึกษาเล่าเรียน ถ้าเรามีโอกาสได้เรียนต้อง เรียนให้เต็มท่ี ยังมีคนอีกมากมายที่อยากเรียนหนังสืออีก มากแต่ไมไ่ ม่มโี อกาสได้เรียน 4. การเข้าใจผูอ้ ่ืนด้วยความจริงใจ อย่างตัวดิฉันเอง เคยมีประสบการณ์ การดูแลคนอื่น อย่างเช่นการดูแล ผู้สูงอายคุ ่ะ ขอยกตัวอย่าง แม่แฟนของดิฉัน ต้องบอกก่อน ว่าแฟนของดฉิ ันคะ่ คบหากนั เป็นเวลา 5 ปีแล้ว แต่ยังไม่ได้ แต่งงานหรือหมั้นกันนะคะ เราผ่านช่วงเวลาการมีความสขุ และความทุกข์ความลำบากด้วยกันมาโดยตลอด อาจเป็น เพราะวา่ เราทง้ั คู่ศีลเสมอกนั เลยคบกนั ได้นาน นั่นก็คือความ ใจเยน็ ของกันและกัน มีอะไรก็จะคอยชว่ ยเหลือกนั มาตลอด ครอบครัวของแฟนดิฉันเหลือแค่แม่เขาแค่คนเดียว แฟน ดิฉนั ก็จะอยู่กับแมข่ องเขาแค่ 2 คนค่ะ ทุก ๆ เช้าแฟนดฉิ นั ก็ 41
จะต้องไปทำงาน ดิฉันกจ็ ะเป็นคนทค่ี อยดูแลแก เมื่อก่อนแม่ แฟนดิฉันแกเป็นเหมือนโรคซึมเศร้า แล้วก็ไม่ค่อยแข็งแรง ทำอะไรไม่ค่อยได้ นอนติดเตียงอยู่ตลอดไม่ลุกไปไหน เค้า จะพูดตัดพ้อชีวิตเขาทุกวัน และเค้าก็คิดว่าตัวเองเนี่ยเป็น ภาระคนอนื่ ดฉิ นั ก็จะพูดใหก้ ำลงั ใจเขาเสมอบวกกับการทำ ให้เค้าเห็นโดยการที่ดิฉันจะดูแลเขาบ่อย ๆ หาข้าวหาปลา ให้เขากินทกุ วัน อยา่ งเชน่ ในทกุ ๆ เชา้ ดิฉันจะไปหาซ้ือข้าว มาให้เขากนิ จะซักผ้าตากผ้าใหเ้ ขาในช่วงท่ีตัวเค้าไม่มีแรงท่ี จะทำอะไร อย่างน้อยเค้าก็ยังรู้สึกได้ว่าในวันที่เขาไม่เหลือ ใคร เขาก็ยังมีเราที่เข้าใจเขาอยู่ข้างๆเขาค่ะ แต่ปัจจุบันแม่ แฟนของดฉิ ันอาการดีขึ้นเยอะมากแลว้ นะคะ 42
น่ีคือแม่ของคนทีด่ ฉิ ันกำลังคบหากันอยคู่ ่ะ ตอนน้ี ทา่ นแข็งแรงข้ึนมาก ๆ แลว้ นะคะ 43
7.ชีวิตครอบครวั ความสัมพันธ์ในครอบครัวของฉัน ครอบครัวของดิฉันรักกันมาก แม่ก็เป็นคนที่น่ารักยิ้มแย้ม แจ่มใสค่ะ ส่วนพ่อก็เป็นคนอารมณ์ดีชอบเล่นกับลูกแต่ อาจจะมีการไม่เข้าใจขึ้นมาบ้างเนือ่ งจากว่าพ่อดิฉันเปน็ คน หัวโบราณหนอ่ ยนึง พ่อกับแม่ดิฉันสอนให้ดฉิ ันประหยัดอด ออมอยตู่ ลอด ดฉิ ันรักครอบครวั น้มี ากทส่ี ุด เปน็ ครอบครัวที่ เรยี บง่าย ทกุ วนั ที่ดฉิ นั ไปเรียนหรอื ทำงานเสร็จกลับมาบ้าน เราก็จะมากินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันทุกวันในตอนค่ำ พ่อกบั แม่จะรอกินข้าวอยู่ตลอดเลยคะ่ นสิ ัยส่วนตัวของคุณ พ่อเน่ยี อาจจะขบ้ี น่ แตล่ กึ ๆ แล้วคอื เคา้ รักและเป็นห่วงดิฉัน มาก อย่างเช่นถ้าดิฉันทำงานเสร็จกลับเข้าบ้านมืดเกินบาง วันเค้าก็จะโทรตามแล้วค่ะ แต่..การเป็นห่วงของเขา เขาจะ ไม่มานั่งบอกว่าเค้าเป็นห่วงคะ่ เค้าไม่ค่อยแสดงออกว่าเค้า เป็นห่วงสักเท่าไหร่เพราะอาจจะแบบเขินด้วยความที่เขา เป็นผู้ชาย แต่อาจจะแสดงออกมาเป็นการบ่น ซึ่งดิฉันก็รู้ดี คะ่ วา่ พอ่ เป็นหว่ งเรามาก 44
45
ในวันนั้นน่ะดิฉันรู้สึกมีความสุขมาก ๆ ที่มี ผ้ใู หญม่ าเชียร์ให้กำลงั ใจเราอย่รู อบๆเส้นชัย 46
ดิฉันชอบรูปภาพนี้มาก เพราะมัน แสดงถึงความที่พ่อเอาใจใส่ต่อเรา เมื่อมีการแข่งขันกีฬา ตะกร้อทุกครั้ง พ่อดิฉันก็จะมาตามดูตลอดไม่ว่าดิฉันจะไป แข่งกีฬาที่ไหนถ้าไม่เปน็ จังหวัดท่ีไกลเกินไปพ่อดฉิ ันจะตาม ไปดูข้างๆสนามตลอด ทำให้ดิฉันสัมผัสได้ถึงความรักและ ความเปน็ ห่วงของเขามันเปน็ ความภมู ใิ จอย่างหน่ึง ในชีวิตท่ี มีพ่อคนนี้ คนที่ไม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่เชื่อว่าพ่อของดิฉันมี ความรักและความจรงิ ใจให้ดิฉันอยา่ งมากท่สี ุด 47
ถ้าดิฉันไม่มี พ่อคนน้ี แน่นอนค่ะดิฉันจะไม่ร้จู กั กบั ความอดทนในชีวิตเลย เพราะว่าในครั้งที่ซ้อมเนี่ยมนั แลกกับความเหนด็ เหนื่อยมา เปน็ อยา่ งมาก 48
Search