NHSRSUS คมู่ อื ปฏิบตั ิงาน การตั้งค่าระบบเวบ็ ไซต์ วารสารวชิ าการ ThaiJO คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์มหาวทิ ยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ ว่าท่รี ้อยตรีอนุ คุ้มเพชร นักวิชาการคอมพิวเตอร์
คูม่ ือการปฏบิ ตั ิงาน การตั้งคา่ ระบบเวบ็ ไซต์วารสารวิชาการคณะมนุษยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั นครสวรรค์ (ThaiJo) อนุ คมุ้ เพชร นกั วชิ าการคอมพวิ เตอร์ ปฏิบตั ิการ สำนักงานคณบดี คณะมนุษยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั นครสวรรค์ 2565
ก คำนำ วารสารวิชาการ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ ได้เริ่มก่อตั้งขึ้นในปีพุทธศักราช 2557 โดยได้รับทุนสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ โดยมีเป้าประสงค์ เพื่อเป็นพื้นที่ทางวิชาการให้แก่คณาจารย์ นักวิชาการ และผู้สนใจ ได้นำเสนอ และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์สู่สาธารณชนรวมถึงแวดวงวิชาการ กองบรรณาธิการมีความคาดหวังว่าจะพัฒนาวารสารนี้ให้มีคุณภาพและเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง อย่างแพร่หลาย จนกระทั่งเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2561 วารสารวิชาการ คณะมนุษยศาสตร์ และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ ได้รับผลการประเมนิ คณุ ภาพวารสารวิชาการท่อี ยู่ ในฐานขอ้ มูล TCI กลุ่ม 1 สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ นบั ต้ังแต่ปีพทุ ธศักราช 2563 - ปัจจุบัน วารสารได้รับผลการประเมินคุณภาพวารสารวิชาการที่อยู่ในฐานข้อมูล TCI กลุ่ม 2 สาขามนุษยศาสตร์ และสังคมศาสตร์ ผู้จัดทำจงึ จดั ทำคู่มือในการตั้งค่าเว็บไซตร์ ะบบระบบ ThaiJO หวังเปน็ อย่างย่ิงว่า คู่มือฉบับน้ี จะเปน็ ประโยชนแ์ กผ่ ้ปู ฏิบตั ิงานทสี่ นใจหรือไดร้ บั มอบหมาย เพอ่ื ช่วยในการปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง ตามข้นั ตอนท่ีกำหนดและเป็นไปอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ อนุ คมุ้ เพชร พฤษภาคม 2565
ข สารบญั หนา้ ก คำนำ ข สารบญั ง สารบญั ภาพ ช สารบัญตาราง 1 บทท่ี 1 บทนำ 1 ความเป็นมา 1 วัตถุประสงค์ 1 ประโยชน์ของคู่มือปฏบิ ัตงิ าน 1 ขอบเขตของคู่มือปฏบิ ตั ิงาน 2 นยิ ามศพั ทเ์ ฉพาะ 4 บทที่ 2 บทบาทหน้าท่ีความรับผดิ ชอบและการบริหารจดั การ ประวตั กิ ารก่อตง้ั คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏ 4 นครสวรรค์ 5 ปรัชญา วสิ ยั ทศั น์ พันธกิจ 6 บทบาทหน้าท่ีความรบั ผิดชอบของตำแหนง่ 8 ลักษณะงานที่ปฏบิ ตั ิ 10 โครงสรา้ งการบริหารจดั การ 10 โครงสร้างขององคก์ ร (Organization Chart) 11 โครงสรา้ งการบรหิ าร (Administration Chart) 11 โครงสรา้ งการปฏิบัติงาน (Activity Chart) 12 บทท่ี 3 หลกั เกณฑ์และวิธีการปฏบิ ัติ 12 หลักเกณฑ์การปฏิบตั ิงาน 14 วธิ กี ารปฏิบตั ิงาน 68 สิ่งทีค่ วรคำนงึ ในการปฏบิ ัติ 71 กรณีศึกษา
สารบัญ (ตอ่ ) ค บทที่ 4 เทคนิคในการปฏิบัติงาน หน้า แผนกลยทุ ธใ์ นการปฏิบตั ิงาน 73 ขน้ั ตอนการปฏบิ ัตงิ าน (Flow chart) 73 วิธกี ารติดตามและประเมนิ ผลการปฏิบตั งิ าน 73 จรรยาบรรณในการปฏิบตั งิ าน 75 75 บทท่ี 5 ปญั หา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข และการพัฒนางาน ปญั หาอุปสรรคในการปฏบิ ัติงาน 76 แนวทางแก้ไขและการพัฒนา 76 ข้อเสนอแนะ 76 77 บรรณานุกรม ภาคผนวก 78 ประวตั ิผู้เขียน 79 86
ง สารบญั ภาพ ภาพท่ี โครงสรา้ งการบรหิ ารคณะมนุษยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั หน้า 2.1 ราชภฏั นครสวรรค์ โครงสร้างการบริหารสำนักงานคณบดีคณะมนุษยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ 10 2.2 มหาวิทยาลยั ราชภัฏนครสวรรค์ โครงสร้างการปฏิบตั ิงานของกลมุ่ งานส่งเสรมิ วิชาการคณบดีคณะมนุษยศาสตร์ 11 2.3 และสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั นครสวรรค์ 11 หนา้ เวบ็ ไซต์วารสารวิชาการคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลยั 3.1 ราชภฏั นครสวรรค์ 14 วารสารเล่มปจั จบุ นั 15 3.2 หน้าสมัครสมาชิกวารสาร 15 3.3 หน้า login เข้าสรู่ ะบบวารสารวิชาการ 16 3.4 หนา้ แผงควบคุมต้ังค่าวารสาร 16 3.5 ต้งั ค่าข้อมูลพ้ืนฐานของวารสาร 18 3.6 ตั้งข้อมูลตดิ ต่อวารสาร 18 3.7 ตั้งค่าประเภทของบทความ 19 3.8 เพิ่มประเภทของบทความ 19 3.9 ตง้ั ค่าสาขาของบทความ 20 3.10 เพ่ิมข้อมูลสาขาบทความ 20 3.11 ตั้งค่ารปู แบบเวบ็ ไซต์ 21 3.12 ตั้งค่ารปู แบบเวบ็ ไซตว์ ารสาร 23 3.13 ตง้ั ค่ารปู แบบเวบ็ ไซต์วารสารข้ันสูง 24 3.14 ผลลัพธห์ นา้ เว็บไซตว์ ารสาร 25 3.15 ตง้ั ค่าข้อมูลทั่วไปของวารสาร 26 3.16 ตั้งค่าภาษาของวารสาร 27 3.17 ตั้งค่าแถบเมนูของเวบ็ ไซต์วารสาร 27 3.18 ประกาศขา่ วท่หี น้าเวบ็ วารสาร 28 3.19 ตง้ั ค่าจำนวนหน้าเวบ็ ไซต์วารสาร 28 3.20
สารบัญภาพ (ต่อ) จ ภาพท่ี หน้า 3.21 ต้งั ค่านโยบายข้อมลู ส่วนบุคคล 29 3.22 รูปแบบวันและเวลาของวารสาร 29 3.23 ปลกั๊ อนิ ที่ใชง้ านในวารสาร 30 3.24 ตงั้ ค่าการการอ้างองิ บทความ 31 3.25 การตง้ั คา่ การสร้างเมนู Custom Block 33 3.26 การตง้ั คา่ ธมี ของวารสาร 34 3.27 การตง้ั คา่ กระบวนการของบทความ 34 3.28 ตั้งค่าข้อมูลบทความ Metadata 37 3.29 การตง้ั คา่ ประเภทของไฟล์ 38 3.30 การสร้างประเภทไฟล์ส่วนประกอบของบทความ 39 3.31 การตั้งค่าข้อตกลงการส่งบทความ 40 3.32 การตั้งค่าคำแนะนําผู้แต่ง 41 3.33 การตั้งค่าประเมินบทความ 42 3.34 การตง้ั คา่ คำแนะนําผ้ปู ระเมนิ 43 3.35 การตั้งคา่ แบบประเมินบทความ 44 3.36 การสร้างแบบประเมินบทความ 47 3.37 ประเภทของคําตอบของแบบประเมิน 48 3.38 การสรา้ งคาํ ถามแบบอัตนยั 49 3.39 การสรา้ งคำถามแบบปรนยั 50 3.40 การเปดิ ใชง้ านแบบประเมินบทความ 51 3.41 การตง้ั ค่าใชง้ านกับประเภทบทความ 52 3.42 การตง้ั คา่ คลงั เกบ็ ไฟล์ 53 3.43 การตง้ั คา่ อีเมล 53 3.44 ตงั้ ค่าเทมเพลตอีเมล 54 3.45 การแก้ไขเน้ือหา Email 55
สารบญั ภาพ (ตอ่ ) ฉ ภาพที่ หน้า 3.46 การตงั้ คา่ การเผยแพร่บทความ 56 3.47 การจัดทำดัชนี 57 3.48 การชำระเงนิ ระบบสมาชิก 57 3.49 การตัง้ คา่ การเข้าถึงวารสาร 58 3.50 การจัดการสมาชิก 59 3.51 การสรา้ งสมาชกิ 62 3.52 การคน้ หาสมาชิก 63 3.53 การค้นหาสมาชิกจากในวารสาร 64 3.54 การค้นหาสมาชิกจากนอกวารสาร 65 3.55 การตง้ั คา่ ตำแหน่งในวารสาร 66 3.56 การแกไ้ ขไม่ให้ User เป็นตำแหน่ง Reviewer ได้เอง 67 3.57 การเข้าถึงเว็บไซต์ 68 3.58 การตั้งค่ารหัสผ่านใหม่เพ่ือเขา้ สรู่ ะบบ 71
สารบัญตาราง ช ตารางที่ ระยะเวลาในการปฏบิ ัตงิ านโดยระบุตามประเภทของงาน หน้า 1.1 Flow Chart ขั้นตอนการปฏิบัตงิ านการต้งั ค่าระบบ ThaiJO 2 4.1 ปญั หา/อุปสรรค และแนวทางแกไ้ ข 74 5.1 76
บทที่ 1 บทนำ ความเป็นมา วารสารวิชาการ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ ใช้เวบ็ ไซต์ระบบ Thai Journal Online หรอื ThaiJO ได้รับการพัฒนาและปรบั ปรงุ มาจากซอฟต์แวร์ โอเพนซอร์ซ (Open source software) ชื่อว่า “Open Journal System (OJS)” ซึ่งเป็นระบบ การจัดการวารสารและการตีพิมพ์ในรูปแบบ Electronic journal หรือ e-journals พัฒนาขึ้นโดย The Public Knowledge Project (PKP) จึงมีระบบหลังบา้ นให้แต่ละเว็บไซต์ของหนว่ ยงานที่ใชง้ าน ระบบ ThaiJO ต้องมีการตั้งค่าเว็บไซต์ในเป็นหน้าเพจของหน่วยงานรวมไปถึงกระบวนการในการ รบั บทความ ดังนั้น การจัดทำคู่มือเล่มนี้เพื่อเป็นวิธีการต้ังค่าระบบ วารสารวิชาการ คณะมนุษยศาสตร์ และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ เพื่อให้พร้อมบริการในการรับตีพิมพ์บทความ วิชาการและบทความวิจยั ของผสู้ นใจเป็นไปตามกระบวนการตีพมิ พ์บทความวิชาการและบทความวิจยั วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพื่อให้บุคลากรสามารถปฏิบัติงานเก่ียวกับการตั้งค่าเว็บไซต์วารสารวิชาการ คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั นครสวรรค์ แทนกนั ได้ 2. เพื่อให้ผู้ที่สนใจตีพิมพ์บทความวิชาการและบทความวิจัย ส่งบทความผ่านระบบของ Thai Journal Online เปน็ ไปตามกระบวนการ ประโยชนข์ องค่มู ือปฏบิ ัตงิ าน ผู้ปฏิบัตงิ านเกี่ยวกับการต้ังค่าเว็บไซต์วารสารวิชาการ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ เพื่อทราบขั้นตอน วิธีการปฏิบัติ รวมไปถึงสามารถใช้คู่มือเพื่อเป็น แนวทางในการศึกษาสำหรับผู้ที่ได้รับมอบหมายภาระงานใหม่ให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้ อง มีประสทิ ธภิ าพและเปน็ ไปตามกระบวนการตพี มิ พบ์ ทความวชิ าการและบทความวิจยั ขอบเขตของคู่มอื ปฏิบัตงิ าน คู่มือฉบับนี้จัดทำในส่วนของขั้นตอนการดำเนินงานการตั้งค่าเว็บไซต์วารสารวิชาการ คณะมนษุ ยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภัฏนครสวรรค์ ทต่ี อ้ งการความถูกต้องและเป็นการ ตามกระบวนการการรับส่งบทความที่ถูกต้องตามกระบวนการของระบบ Thai Journal Online โดยระบุตามประเภทของตามตารางท่ี 1.1
2 ตารางที่ 1.1 ระยะเวลาในการปฏบิ ัติงานโดยระบุตามประเภทของงาน รายละเอียดงาน หน่วยนบั ระยะเวลา 1. ตัง้ คา่ วารสาร Thai Journal Online ครง้ั 2 ช่วั โมง 2. ตง้ั ค่าเวบ็ ไซต์ Thai Journal Online ครัง้ 2 วนั 3. ตง้ั ค่ากระบวนการส่งบทความ ครงั้ 1 วัน 4. สอนอาจารย์คณะกรรมการบริหารวารสาร ให้เข้าใจใน ครง้ั 3 ชัว่ โมง กระบวนการ โ ด ย กา ร ต ั ้ ง ค่ า จ ะ เ ป ็ น ก า ร ต ั ้ ง ค่ า ขอ ง ผ ู ้ ด ู แ ล ร ะ บ บ ว า ร ส า ร ว ิ ช า กา ร ค ณ ะม น ุ ษย ศ า ส ต ร์ และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ เป็นผู้ดำเนินการตั้งค่าระบบ โดยวิธีการปฏิบัติ ที่เกี่ยวข้องจะเป็นไปตามระบบการส่งบทความวิชาการและบทความวิจัยของระบบ Thai Journal Online นยิ ามศพั ทเ์ ฉพาะ มหาวิทยาลยั หมายถึง มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ คณะ หมายถงึ คณะมนษุ ยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ Thaijo หมายถึง Thai Journals Online (ThaiJO) เป็นระบบฐานข้อมูลวารสาร อเิ ล็กทรอนิกสก์ ลางของประเทศไทย เป็นแหล่งรวมวารสารวิชาการทผี่ ลิตในประเทศไทยทุกสาขาวิชา ทั้งสาขาวิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี และมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ThaiJO ได้รับการสนับสนุน จากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) และศูนยด์ ัชนีการอา้ งอิงวารสารไทย (Thai-Journal Citation Index Centre : TCI) วารสารวิชาการไทย ที่ปรากฎใน ThaiJO จะพัฒนาอยู่บนระบบ OJS (Online Journal System) เดียวกัน ซึ่งพัฒนาโดย Public Knowledge Project (PKP) บทความวิชาการ หมายถึง บทความวิชาการ คือ งานเขียนทางวิชาการซึ่งมีการกำหนด ประเด็นที่ต้องการอธิบายหรือวิเคราะห์อย่างชัดเจน ทั้งนี้ มีการวิเคราะห์ประเด็นดังกล่าวตามหลัก วิชาการจนสามารถสรุปผลการวิเคราะห์ในประเด็นนั้นได้ อาจเป็นการนำความรู้จากแหล่งต่าง ๆ มาประมวลร้อยเรียงเพอ่ื วิเคราะหอ์ ยา่ งเปน็ ระบบ โดยที่ผูเ้ ขยี นแสดงทศั นะทางวิชาการของตนไว้อย่าง ชดั เจน
3 บทความวิจัย หมายถึง บทความวิจัย (Research article) เป็นบทความ หรืองานเขียน ที่นำข้อมูลมาจากรายงานการวิจัยมาประมวล หรือสรุปออกมาเป็นองค์ความรู้ในรูปแบบที่นำเสนอ ให้ผู้อ่านเข้าใจประเด็นต่าง ๆ เช่น ปัญหาวิจัย วิธีการที่นักวิจัยดำเนินการวิจัย สิ่งที่ค้นพบ และความหมายของข้อค้นพบ โดยการเผยแพร่อาจนำเสนอในที่ประชุมทางวิชาการในรูปแบบ การบรรยาย (oral) หรือรูปแบบโปสเตอร์ (poster) ซึ่งแหล่งสำหรับเผยแพร่ผลงานวิจัย ได้แก่ การประชุมวิชาการระดับชาติ (national conference) การประชุมวิชาการระดับนานาชาติ (international conference) วารสารวิชาการระดับชาติ (national journal) วารสารวิชาการระดบั นานาชาติ (international journal) ซึ่งผลงานวิจัยอาจรวมเป็นเอกสารจากการประชุมวิชาการ (proceeding) หรือการตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารทางวิชาการ (journal) โดยการตีพิมพ์เผยแพร่ บทความวิจัยต้องผ่านการตรวจสอบ เนื้อหาสาระ และรูปแบบการจัดพิมพ์ให้ได้ตามเกณฑ์มาตรฐาน ของวารสาร หรอื คณะกรรมการประเมนิ
บทที่ 2 บทบาทหน้าทค่ี วามรับผดิ ชอบและการบรหิ ารจัดการ ช่ือคณะ คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั นครสวรรค์ ที่ตงั้ 398 หมู่ 9 ถ.สวรรค์วถิ ี ต.นครสวรรคต์ ก อ.เมือง จ.นครสวรรค์ 60000 สีประจำคณะ ส้ม – แสด ดอกไม้ประจำคณะ แคแสด ประวัตกิ ารกอ่ ตัง้ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั นครสวรรค์ คณะมนษุ ยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ จัดต้งั ขึ้นเมอ่ื พ.ศ. 2518 โดยมวี ตั ถุประสงค์ของการจัดตั้งคณะวชิ ามนษุ ยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ วทิ ยาลยั ครนู ครสวรรค์ คอื 1. ให้การศึกษาขั้นพื้นฐานหมวดศิลปศาสตร์และวัฒนธรรมแก่นักศึกษาของสถาบัน เพอื่ ใหไ้ ด้บณั ฑติ ทม่ี ีคุณสมบัตทิ ส่ี ังคมพึงประสงค์ 2. ผลิตบัณฑิตในสาขาวิชาสังกัดคณะวิชามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ในระดับ อนุปริญญาและปริญญาตรี เพื่อสนองตอบความต้องการกำลังคนในสังคม และเพื่อเสริมสร้างคุณค่า ของมนษุ ยใ์ ห้สูงส่ง ในการดำเนนิ ชวี ติ และสร้างความเจริญใหแ้ ก่สังคมที่อาศยั 3. เป็นแหล่งในการค้นคว้าวิจัย และพัฒนาวิชาการด้านมนุษยศาสตร์เชิงวิชาการ ให้แก่ชุมชน ในเขตจังหวดั นครสวรรค์ อุทยั ธานี และชยั นาท (สถาบันราชภัฏนครสวรรค์, 2536 : 25) การพัฒนาของคณะวิชามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มุ่งเน้นใน 3 ประเด็น คือ “พัฒนาคน พฒั นาวชิ าการ และพฒั นากายภาพ” 1. การพัฒนาคน หมายถึง การพัฒนาคณาจารย์ เจ้าหน้าที่บุคลากร และนักศึกษา ใหม้ ีศกั ยภาพตามแนวทางและหนา้ ที่ของตน 2. การพฒั นาวิชาการ ได้แก่ การพัฒนาหลักสูตร การพฒั นางานวจิ ยั การสรา้ งผลงาน ทางวิชาการ รวมถงึ การบริการวิชาการแกช่ ุมชน และงานทำนบุ ำรุงศลิ ปวัฒนธรรม 3. การพัฒนากายภาพ หมายถึง การจัดหาอาคารสถานท่ี และเครือ่ งมือประกอบการ ปฏบิ ัตกิ ารของทกุ สาขาวิชาใหเ้ พยี งพอ งบประมาณและกิจกรรมในแต่ละปีการศึกษาได้ถูกกำหนดโดยแนวทางข้างต้น เพื่อให้เกิด การพัฒนาทุกด้านในสัดส่วนที่เหมาะสม ทั้งน้ี เพื่อให้ผู้ที่เรียนจบจากคณะวิชามนุษยศาสตร์ และสังคมศาสตร์ เป็นผูท้ ่ีคิดเป็น ทำเป็น แกป้ ัญหาเป็น
5 ปรัชญา วิสยั ทัศน์ พนั ธกจิ ปรัชญา จดั การศึกษาเพอื่ พัฒนาคน ส่กู ารพฒั นาชาติ ด้วยศาสตร์และศิลป์ ธำรงภูมิปัญญา แหง่ แผ่นดนิ พฒั นาทอ้ งถ่นิ อย่างย่งั ยนื วสิ ยั ทศั น์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มคี วามเปน็ เลิศในการผลติ บัณฑิตท่ีมีศักยภาพ มีความรู้คู่คุณธรรม สร้างสรรค์งานวิจัยและนวัตกรรมเชิงบูรณาการ ธำรงภาษา ศิลปวัฒนธรรม เพื่อการพัฒนาท้องถ่นิ ให้ย่ังยืนรว่ มกนั ภายใต้ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง และเตรยี มความพร้อมสสู่ ากล พันธกจิ คณะมนุษยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ มพี ันธกจิ ในการพัฒนาคณะ ดงั นี้ 1. ผลติ บณั ฑิตระดับอุดมศกึ ษา 2. สรา้ งสรรคง์ านวิจัย นวัตกรรม และงานวิชาการ 3. ให้บริการวิชาการแก่สังคม 4. บริหารจดั การองค์กรตามหลักธรรมมาภิบาล 5. สง่ เสริม พฒั นา อนรุ ักษ์ ฟ้ืนฟู ศิลปวัฒนธรรม นโยบาย คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มีภารกิจในการขับเคลื่อนปรัชญา วิสัยทัศน์ และพันธกจิ ให้ลุลว่ งไปได้ดว้ ยดี มีประสิทธิภาพและประสิทธผิ ล มมี าตรฐานภายใต้นโยบาย ดังต่อไปนี้ 1. นโยบายด้านการจัดการเรียนการสอน : ส่งเสริมให้มีบรรยากาศการเรียนการสอน หรือสิ่งแวดล้อมในการเรียนรู้ของนักศึกษา ความพร้อมของห้องเรียน หลักสูตรมีความทันสมัย เข้ากับสภาวการณ์ปัจจุบัน สนับสนุนกิจกรรมและบริการแก่ผู้เรียนสู่ความเป็นเลิศทางวิชาการ โดยนำกระบวนการประกันคุณภาพการศึกษาเป็นกลไกในการบริหารที่เอื้อประโยชน์ต่อการพัฒ นา การเรียนการสอน ส่งเสริมการใช้เทคนิคการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง (Active Learning) รวมถึงแนวทางการจัดการส่งเสริม Cooperative and work Integrated Education : CWIE มีการบูรณาการศิลปวฒั นธรรม งานวจิ ัย และการบรกิ ารวชิ าการสู่การเรยี นการสอน 2. นโยบายด้านกิจกรรมการพัฒนานักศึกษาสู่ความเป็นเลิศ : ส่งเสริมและสนับสนุน การจัดกิจกรรมช่วยเสริมทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เพื่อสร้างประสบการณ์และพัฒนา ให้นักศึกษามีความพร้อมด้วยคุณลักษณะของบัณฑิตที่พึงประสงค์ โดยบูรณาการศิลปวัฒนธรรม กับกิจกรรมนักศึกษา ส่งเสริมการสร้างเครือข่ายในการทำกิจกรรมทางวิชาการให้กับนักศึกษา ทั้งภายใน สถาบันและระหว่างสถาบัน และส่งเสริมการจัดกิจกรรมให้บริการข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์แก่ นักศกึ ษาและศษิ ย์เกา่ 3. นโยบายด้านการวิจัย : ส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาคุณภาพมาตรฐาน การวิจัยเชิงพื้นท่ี (Area based) และสืบสานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยสนับสนนุ ทุนวิจยั สำหรับนักวจิ ัยรุ่นใหม่ และพัฒนาศักยภาพนักวจิ ยั ใหไ้ ด้รับทนุ วิจัยจากแหล่งทุนวิจยั ภายนอกสถาบัน
6 และมีความสามารถทำวิจัยที่มีผลกระทบและประโยชน์แก่สังคม วิถีวัฒนธรรม และเศรษฐกิจ ตลอดจนสนับสนุนการเผยแพร่ผลงานวิจัยสู่สาธารณชน รวมถึงปริมาณผลงานวิจัย การอ้างอิง ผลงานวิจัย รายได้จากการวิจัย และชื่อเสียงของคณะซึ่งประกอบด้วย ช่ือเสียงด้านการวิจัย จำนวนผลงานตีพิมพต์ ่ออาจารย์และนักศกึ ษา ในระดบั ชาติและนานาชาติ 4. นโยบายด้านการบริการวิชาการสู่สังคม : ส่งเสริมการบริการทางวิชาการ การถ่ายทอดองค์ความรู้สู่ชุมชนสังคมที่ตอบสนองความต้องการของสังคม และส่งเสริมการสร้าง เครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกทั้งในและต่างประเทศ ในการจัดทำบริการวิชาการ แก่สังคม เพื่อให้ก่อเกิดรายได้ของคณะที่ได้รับการสนับสนุนทุนวิจัย และทุนการบริการวิชาการ จากหน่วยงานท้งั ภายในและภายนอก 5. นโยบายด้านการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม : ส่งเสริมการอนุรักษ์ ฟื้นฟู สืบสาน ศิลปวฒั นธรรมและภูมปิ ัญญาทอ้ งถน่ิ เชงิ พื้นท่ี ส่งเสรมิ การพัฒนาศลิ ปวัฒนธรรมบนพืน้ ฐานภูมิปัญญา ที่บ่งบอกถึงความหลากหลายและวัฒนธรรมไทยสู่การสร้างนวัตกรรมด้านศิลปวัฒนธรรมในมิติ หลากหลายที่ตอบสนองความต้องการของท้องถิ่นและสังคม และส่งเสริมการเผยแพร่ศิลปวัฒธรรม ต่อสาธารณชน 6. นโยบายดา้ นการพฒั นาศักยภาพบคุ ลากร : ส่งเสริม สนบั สนนุ พัฒนาคุณภาพ มาตรฐานอาจารย์และบุคคลากรสายสนับสนุนให้ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ มีศักยภาพทางดา้ นวิชาชพี และตำแหนง่ ทางวชิ าการ และมีสมรรถนะไดม้ าตรฐานวิชาชีพตามสายงาน 7. นโยบายด้านการบริหาร : มีการสร้างวัฒนธรรมและยกระดับคุณภาพองค์กร การจัดระบบการบริหารที่ดี ให้มีคุณภาพได้มาตรฐาน โปร่งใส มีแนวทางการบริหารงานที่ชัดเจน มีความเป็นธรรมาภิบาล มีการจัดการความรู้เพื่อพัฒนาองค์กร และดำเนินงานโดยการมุ่งเน้น ประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธิผลที่ให้ความสำคญั กบั ผลประโยชน์ของส่วนรวม 8. นโยบายด้านการประกันคุณภาพการศึกษา : ส่งเสริม สนับสนุน พัฒนาให้ บุคลากรและนักศึกษามีศักยภาพทั้งตระหนักถึงความสำคัญ และมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพ และมาตรฐานการศึกษาสร้างวฒั นธรรมคณุ ภาพใหเ้ ปน็ วฒั นธรรมขององค์กร บทบาทหน้าท่ีความรับผดิ ชอบของตำแหน่ง นักวิชาการคอมพิวเตอร์ ปฏบิ ตั กิ าร ปฏิบัติงานในฐานะผู้ปฏิบัติงานระดับต้น ที่ต้องใช้ความรู้ ความสามารถทางวิชาการ ในการทำงาน ปฏิบัติงานเกี่ยวกับ วิทยาการคอมพิวเตอร์ ภายใต้การกำกับ แนะนำ ตรวจสอบ และ ปฏบิ ัตงิ านอ่ืนตามทีไ่ ด้รับมอบหมาย
7 ปฏิบัติงานในฐานะหัวหน้างาน ซึ่งต้องกำกับ แนะนำ ตรวจสอบการปฏิบัติงาน ของผู้ร่วมปฏิบัติงาน โดยใช้ความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ และความชำนาญงานสูงในด้าน วิชาการคอมพิวเตอร์ ปฏิบัติงานที่ต้องตัดสินใจหรือแก้ปัญหาที่ยาก และปฏิบัติงานอื่นตามที่ ได้รับมอบหมาย หรือปฏิบัติงานในฐานะผู้ปฏิบัติงานที่มีประสบการณ์ โดยใช้ความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ และความชำนาญงานสูงในด้านวิชาการคอมพิวเตอร์ ปฏิบัติงานที่ต้องตัดสินใจ หรอื แก้ปัญหาทย่ี าก และปฏบิ ัตงิ านอื่นตามทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย 1. ด้านการปฏิบัตกิ าร 1.1 ศึกษาวิเคราะห์ กำหนดคุณลักษณะเฉพาะของเครื่องคอมพิวเตอร์และ อปุ กรณ์ ระบบเครอื ข่าย ระบบงานประยุกตแ์ ละระบบสารสนเทศ การจดั การระบบการทำงานเครื่อง การติดตั้งระบบเครื่อง เพื่อให้ได้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน และตรงตาม ความต้องการ ลักษณะการใชง้ านของคณะเทคโนโลยสี ารสนเทศ 1.2 กำหนดแนวทางการทดสอบคุณสมบัติด้านเทคนิคของระบบ เพื่อให้ระบบ มีคุณสมบัติท่ถี กู ต้อง ตรงตามความต้องการใช้ของหน่วยงาน 1.3 เขียนชุดคำสั่งตามข้อกำหนดของระบบงานประยกุ ต์ และระบบข้อมูลที่ยาก และซับซ้อนที่ไดว้ างแผนไว้ เพื่อสนับสนุนการปฏิบตั ิงานเทคโนโลยีสารสนเทศ ให้ดำเนินไปได้อยา่ งมี ประสิทธภิ าพ 1.4 ศึกษาวิเคราะห์ และกำหนดความต้องการของหน่วยงาน เพื่อออกแบบ ระบบงาน ระบบการประมวลผลข้อมูล ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ และระบบฐานข้อมูล เพื่อสนอง ต่อความต้องการของผ้ใู ช้ในหน่วยงาน 1.5 รวบรวมข้อมูลประกอบการเสนอแนะนโยบายและแผนการพัฒนา ระบบคอมพิวเตอร์ ระบบสารสนเทศที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพัฒนานโยบาย ดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศให้ทันสมัย 1.6 ให้คำปรึกษา แนะนำ เพื่อปรับปรุงแก้ไขข้อขัดข้องในการปฏิบัติงานของ เจา้ หน้าทรี่ ะดบั รองลงมา 1.7 กำหนดคุณลักษณะเฉพาะของเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ ระบบเครือข่าย ระบบงานประยุกต์และระบบสารสนเทศ การจัดการระบบการทำงานเครื่อง การติดตั้งระบบเครื่อง เพื่อให้ได้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ท่ีเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งหน่วยงาน และตรงตามความต้องการใช้ ของหน่วยงาน 1.8 ตรวจสอบ สืบค้น การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศที่เข้าข่ายไม่เหมาะสม ขัดต่อกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับที่กำหนด หรือไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากล เพื่อความมั่นคง ปลอดภัยของข้อมลู หรอื ระบบ
8 2. ด้านการวางแผน วางแผนหรือร่วมดำเนินการวางแผนการทำงานตามแผนงาน หรือโครงการ ของหน่วยงาน และแก้ปัญหาในการปฏิบัติงาน เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายและ ผลสัมฤทธ์ิทีก่ ำหนด 3. ดา้ นการประสานงาน 3.1 ประสานการทำงานร่วมกันโดยมีบทบาทในการให้ความเห็นและคำแนะนำ เบอ้ื งตน้ แก่สมาชกิ ในทีมงานหรือหนว่ ยงานอืน่ เพ่อื ให้เกดิ ความรว่ มมือ และผลสัมฤทธิ์ตามขอ้ กำหนด 3.2. ให้ข้อคิดเห็นหรือคำแนะนำเบื้องต้นเกี่ยวกับข้อมูล ข้อเท็จจริง แก่บุคคล หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพ่ือสร้างความเข้าใจหรือความร่วมมือในการดำเนินงานตามที่ได้รับ มอบหมาย 4. ดา้ นการบรกิ าร 4.1 จัดทำสื่อในการให้บริการเผยแพร่ข้อมูลด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ แก่หน่วยงาน จัดทำคู่มือระบบและคู่มือผู้ใช้ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ให้สามารถใช้งาน คอมพิวเตอรไ์ ด้ดว้ ยตนเอง 4.2 ฝึกอบรมหรือถ่ายทอดความรู้ สนบั สนุนการใช้ระบบงานท่ีพัฒนาแก่เจ้าหน้าที่ และอาจารย์ในคณะ 4.3 ให้คำแนะนำ ช่วยเหลือผู้ใช้หากมีปัญหาหรือข้อสงสัยในการใช้งาน เครื่องคอมพิวเตอร์ และปฏบิ ัตงิ านอื่นที่เกี่ยวขอ้ งตามท่ีไดร้ บั มอบหมาย ลกั ษณะงานที่ปฏิบัติ 1. ด้านการปฏิบัตกิ าร 1.1 ติดตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและอุปกรณ์เกี่ยวข้อง ระบบเครือข่าย คอมพิวเตอร์ ทดสอบคุณสมบัติด้านเทคนิคของระบบ ติดตั้งชุดคำส่ังระบบปฏิบัติการ ชุดคำสั่ง สำเร็จรูป เพื่ออำนวยการให้งานเทคโนโลยีสารสนเทศในความรับผิดชอบ ดำเนินไปได้อย่างราบร่ืน และสอดคล้องกบั ความตอ้ งการของหน่วยงาน 1.2 ควบคุม ดแู ล ติดตง้ั บำรุงรกั ษา ซอ่ มแซม และตรวจสอบการทำงาน แกไ้ ขปัญหา การใช้งานของระบบเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง ระบบเครือข่ายสื่อสาร รวมทั้งระบบ สนบั สนุนต่าง ๆ เพื่อใหร้ ะบบงานตา่ ง ๆ สามารถใช้งานไดต้ ่อเน่ืองและมปี ระสิทธภิ าพ 1.3 ปฏบิ ตั ิงานเกีย่ วข้องกบั การประมวลผลข้อมูล ปรับปรุง ดูแล รักษาความปลอดภยั จดั เกบ็ สำรองก้คู นื ข้อมูล เพื่อสนับสนนุ การใชป้ ระโยชนข์ ้อมลู และป้องกนั การสูญหายของข้อมูล
9 1.4 จัดทำทะเบียน รวบรวม และเก็บข้อมูลทางสถิตขิ องการใช้งาน เพื่อการวางแผน บำรงุ รักษา 1.5 ปฏิบัตหิ นา้ ทีใ่ นฐานะผูเ้ ชย่ี วชาญด้านคอมพิวเตอร์ พฒั นาและประยุกตใ์ ช้ความรู้ ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ วิธีการ และเทคนิคต่าง ๆ เพื่อพัฒนาระบบ และมาตรฐานในการทำงาน 1.6 ให้บริการวิชาการด้านต่าง ๆ เช่น ให้คำปรึกษา แนะนำ ในการปฏิบัติงาน แก่เจ้าหน้าที่ระดับรองลงมา และแก่นักศึกษาที่มาฝึกปฏิบัติงาน ตอบปัญหาและชี้แจงเรื่องต่าง ๆ เกี่ยวกับงานในหน้าที่ เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพ และปฏิบัติหน้าท่ี ที่เกยี่ วข้อง 2. ดา้ นการวางแผน วางแผนการทำงานที่รับผิดชอบ ร่วมประชุมวางแผนการทำงานของหน่วยงาน หรอื โครงการ เพอ่ื ให้การดำเนนิ งานบรรลตุ ามเปา้ หมาย 3. ด้านการประสานงาน 3.1 ประสานงานการทำงานรว่ มกันระหว่างทมี งานหรือหน่วยงานทั้งภายใน และภายนอก เพอ่ื ให้เกิดความร่วมมอื และผลสัมฤทธ์ติ ามที่กำหนดไว้ 3.2 ชี้แจงและให้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูล ข้อเท็จจริง แก่บุคคลหรือหน่วยงาน ท่ีเกี่ยวขอ้ ง เพื่อสร้างความเข้าใจ หรอื ความร่วมมอื ในการดำเนินงานที่ไดร้ บั มอบหมาย 4. ด้านการบริการ 4.1 ให้คำปรึกษา แนะนำ เบื้องต้น เผยแพร่ ถ่ายทอดความรู้ ทางด้านคอมพิวเตอร์ รวมทั้งตอบปัญหาและชี้แจงเรื่องต่าง ๆ เกี่ยวกับงานในหน้าที่ เพื่อให้ผู้บริการได้รับทราบข้อมูล ความร้ตู ่าง ๆ ที่เปน็ ประโยชน์ 4.2 ให้บริการข้อมลู ทางวิชาการ เก่ียวกบั ดา้ นคอมพิวเตอร์ เพ่ือใหบ้ ุคลากรท้ังภายใน และภายนอกหน่วยงาน นักศึกษา ตลอดจนผู้รับบริการได้ทราบข้อมูลและความรู้ต่าง ๆ ท่ีเป็นประโยชน์ สอดคล้อง และสนับสนนุ ภารกิจของหน่วยงานและใช้ประกอบการพิจารณากำหนดนโยบาย แผนงาน หลักเกณฑ์ มาตรการต่าง ๆ
10 โครงสรา้ งการบริหารการจัดการ 1. โครงสร้างขององค์กร (Organization Chart) ตามโครงสร้างของคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ ได้แบ่งการบริหารงานออกเป็น 3 หน่วยงาน คือ สำนักงานคณบดี สาขาวิชา และศูนย์ภาษา ซึ่งมี รายละเอียดดงั ภาพที่ 2.1 ภาพท่ี 2.1 โครงสร้างการบริหารคณะมนษุ ยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั นครสวรรค์
11 2. โครงสร้างการบริหาร (Administration Chart) ภาพที่ 2.2 โครงสร้างการบริหารสำนกั งานคณบดีคณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั นครสวรรค์ 3. โครงสร้างการปฏิบตั ิงาน (Activity Chart) ภาพท่ี 2.3 โครงสร้างการปฏิบัติงานของกลุ่มงานส่งเสริมวิชาการคณบดีคณะมนุษยศาสตร์และ สงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั นครสวรรค์
บทที่ 3 หลักเกณฑ์และวธิ กี ารปฏบิ ตั ิ รายละเอียดในบทนี้เป็นการอธิบายเกี่ยวกับการตั้งค่าระบบ Thai Journals Online (ThaiJO) และวธิ ีปฏบิ ตั ทิ เี่ กย่ี วขอ้ งกับการปฏิบัตงิ าน หลักเกณฑ์การปฏิบัติงาน โปรแกรมและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ใช้งานในการตั้งค่าระบบ Thai Journals Online (ThaiJO) รายละเอียด ดงั นี้ 1. โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ระบบ Thai Journals Online (ThaiJO) ทำงานผ่านเว็บเบราว์เซอร์ โปรแกรมท่ี ใช้ในการเข้าถึงข้อมูลและติดต่อสื่อสารในรูปแบบ Webpage (เว็บเพจ) โดยโปรแกรมจะแปลง ภาษาคอมพิวเตอร์ HTML ให้เป็นภาษาทีค่ นทว่ั ไปสามารถอ่านและเขา้ ใจได้บนหนา้ เวบ็ การใช้งาน Web Browser ในการเข้าชมเว็บไซต์นั้น ผู้ใช้งานจะต้องกรอก Domain Name (โดเมนเนม) ลงไปเวลาต้องการเข้าไปยังเว็บไซต์ต่าง ๆ โดย Domain Name จะนำมาใชแ้ ทน IP Address (ไอพี แอดเดรส) หรือท่อี ยขู่ องเวบ็ ไซต์ทเ่ี ป็นตัวเลขซ่งึ จดจำไดย้ าก เวบ็ เบราวเ์ ซอร์ทใี่ ช้งานระบบ Thai Journals Online (ThaiJO) 1. Google Chrome 2. Safari 3. Microsoft Edge 4. Internet Explorer 5. Moziila Firefox 2. อปุ กรณ์คอมพวิ เตอร์ คอมพิวเตอร์สว่ นบุคคล (Personal computer) คือ เครอ่ื งคอมพิวเตอร์ใช้สำหรับ สว่ นบคุ คลทีใ่ ชส้ ว่ นตัว หรือในครอบครวั เครื่องพีซีอาจเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ประจำบ้าน (home computer) หรอื อาจพบใช้ในงานสำนักงานที่มักจะเช่ือมต่อกันเปน็ ระบบเครือขา่ ยท้องถน่ิ (local area network) ลักษณะเด่นจะเป็นเครื่องที่ถูกใช้งานโดยคนเพียงคนเดียว ซึ่งต่างจากระบบประมวลผลแบบ batch processing หรอื time-sharing ท่มี คี วามซบั ซอ้ น ราคาแพง มกี ารใชง้ านจากคนหมู่มากพร้อม ๆ กัน หรอื ระบบประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ที่ตอ้ งการทีมทำงานเต็มเวลาคอยควบคุมการทำงาน
13 ผใู้ ช้ \"PC\" ในยคุ แรกต้องเขียนโปรแกรมขึ้นใช้งานเอง แต่มาในปจั จบุ ัน ผูใ้ ช้มโี ปรแกรม ให้เลอื กใช้ที่หลากหลายทั้งแบบท่ีซ้อื ขายเชงิ พาณิชย์และไม่เชิงพาณชิ ย์ ซ่งึ ลว้ นแล้วแตต่ ดิ ตง้ั ไดง้ ่าย คำว่า \"คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล\" เริ่มมีใช้ตั้งแต่ พ.ศ. 2515 (ค.ศ. 1972) สำหรับ กล่าวถึงเครื่อง Xerox PARC ของบริษัท Xerox Alto อย่างไรก็ตามจากความประสบความสำเร็จ ของไอบีเอ็มพซี ี ทำให้การใชค้ ำวา่ คอมพวิ เตอร์ส่วนบคุ คลหมายถงึ เครอ่ื งไอบเี อม็ พซี ี 1. เดสก์ท๊อปคอมพิวเตอร์ (desktop computer) คือ คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ เป็นคอมพวิ เตอร์ท่ีออกแบบมาเพ่ือใชง้ านบนโต๊ะ ทีใ่ ชต้ ามบ้านหรือสำนักงานทัว่ ไป มกี ารแยกชิ้นส่วน ประกอบเป็น ซพี ียู จอภาพ และแป้นพมิ พ์ เช่น คอมพิวเตอรส์ ่วนบคุ คล (PC Computer) เปน็ ตน้ 2. แล็ปท๊อปคอมพิวเตอร์ (laptop computer) คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ ที่ถูกออกแบบมาให้มีขนาดเล็ก สามารถขนย้ายหรือพกพาได้สะดวก โดยปกติจะมีน้ำหนักอยู่ท่ี ประมาณ 1-3 กก. การทำงานของแล็ปท็อปจะใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี และในขณะเดียวกัน ก็ยงั สามารถใชพ้ ลงั งานไฟฟา้ ได้โดยตรงจากการเสยี บปล๊ักไฟ ประสิทธภิ าพของแลป็ ท็อปโดยทั่วไปนั้น เทยี บเท่ากบั คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะแบบปกติ ในขณะที่ราคาของแล็ปทอ็ ปจะสงู กว่า 3. แทบ็ เลต็ คอมพวิ เตอร์ (tablet computer) คือ เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์สว่ นบุคคล ที่สามารถพกพาได้และใช้หน้าจอสัมผัสในการทำงานเป็นอันดับแรก ออกแบบให้สามารถทำงานได้ ด้วยตัวมันเอง แท็บเล็ตไม่เหมอื นกับคอมตั้งโต๊ะ หรือแล็ปท๊อป ตรงที่อาจไม่มีแป้นพมิ พ์ในการใชง้ าน แต่ใช้แป้นพิมพ์ที่ปรากฏบนหน้าจอแทนโดยใชก้ ารสัมผัสในการพิมพ์แทน หรืออาจใช้ ปากกาสไตลัส ปากกาดจิ ติ อล เป็นอปุ กรณอ์ ินพุตพ้นื ฐาน แทนการใชค้ ยี ์บอรด์ และเมาส์ 4. โมบายดีไวซ์ คือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ควบรวมระหว่างคอมพิวเตอร์ และสมาร์ตโฟนเข้าไว้ด้วยกัน โดยมีความสามารถในการติดต่อสื่อสารสองทาง ส่งข้อความ ปฏิทิน นาฬกิ าปลุก ตารางนัดหมาย เกม การใช้งานอินเทอร์เน็ต กล้องถ่ายภาพ วทิ ยุ โทรทัศน์ เคร่ืองเล่นเพลง เครือ่ งเล่นภาพยนตร์ จีพีเอส คอมพิวเตอร์ บตั รเดบิต บตั รเครดติ บตั รประชาชน สว่ นประกอบของคอมพิวเตอร์ส่วนบคุ คล เครื่องคอมพิวเตอร์จะแบ่งออกเป็น ส่วนของฮาร์ดแวร์ (Hardware) และซอฟตแ์ วร์ (Software) ซง่ึ ส่วนของ Hardware จะประกอบด้วย 1. CPU หรอื หน่วยประมวลผลกลาง 2. ซอ็ กเกต็ ซพี ยี ู (CPU Socket) 3. ชปิ เซต (Chip Set) 4. เมนบอรด์ (mainboard) หรอื มาเธอร์บอร์ด (motherboard) 5. หน่วยความจำหลัก (Memory) แบ่งออกเป็น รอม (Read-Only Memory, ROM) และ แรม (Random-Access Memory, RAM)
14 6. หน่วยความจำสำรอง (Harddisk) (Solid state drive) 7. Compact Disc (CD) แผน่ ซีดี (ซดี ี) 8. การ์ดแสดงผล (Display Card) 9. การด์ เสยี ง (Sound Card) 10. จอภาพ (Monitor) 11. เคส (Case) 12. เมาส์ (Mouse) 13. แปน้ พมิ พ์ (Keyboard) วิธีการปฏิบตั ิงาน แนะนำเว็บไซต์เบอื้ งตน้ เวบ็ ไซตว์ ารสารวิชาการคณะมนุษยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั นครสวรรค์ จะสามารถเขา้ สู่เวบ็ ไซต์ไดท้ ี่ URL : https://so05.tci-thaijo.org/index.php/hssnsru หน้าเวบ็ ยงั ไมเ่ ข้าส่รู ะบบ สมัครสมาชกิ เขา้ สรู่ ะบบ เมนูขอ้ มลู ของวารสาร คน้ หาขอ้ มูลในวารสาร กลมุ่ ฐานของวารสาร ภาพที่ 3.1 หน้าเวบ็ ไซตว์ ารสารวชิ าการคณะมนษุ ยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั นครสวรรค์
15 วารสารฉบบั ปจั จุบัน วารสารฉบบั ปจั จุบนั ภาพท่ี 3.2 วารสารเลม่ ปัจจุบัน สมคั รสมาชกิ ของวารสาร ภาพที่ 3.3 หน้าสมัครสมาชกิ วารสาร
16 เข้าส่รู ะบบของวารสาร ภาพท่ี 3.4 หน้า login เขา้ สู่ระบบวารสารวชิ าการ แผงควบคุมของระบบวารสาร ภาพที่ 3.5 หนา้ แผงควบคุมต้ังคา่ วารสาร
17 ตงั้ ค่าข้อมูลวารสาร ตัง้ ค่าระบบข้อมูลวารสาร ช่อื วารสาร ช่ือย่อในระบบ Thaijo ช่อื วารสารสำหรบั การอ้างอิงวารสาร ชื่อเจา้ ของวารสาร ISSN ออนไลน์ ISSN ตัวเล่ม ข้อมลู เบ้ืองตน้ ของวารสาร รายชอ่ื บรรณาธิการ/กองบรรณาธิการวารสาร
18 ขอ้ มูลต่างๆของวารสาร ภาพที่ 3.6 ตงั้ คา่ ข้อมลู พ้ืนฐานของวารสาร ตัง้ ค่าขอ้ มูลตดิ ต่อวารสาร ช่ือบรรณาธกิ าร Email เบอรโ์ ทรศัพท์ สังกดั ของบรรณาธกิ าร ท่อี ยตู่ ิดต่อวารสาร ข้อมูลผทู้ ส่ี ามารถติดต่อชว่ ยเหลือผูแ้ ตง่ หรอื ผู้ประเมินบทความได้ ภาพที่ 3.7 ตั้งคา่ ข้อมลู ติดตอ่ วารสาร
19 ตัง้ ค่าประเภทของบทความ การสร้าง : คลกิ ลงิ ก์ สรา้ งบทความ การแกไ้ ข : คลิกสัญลักษณ์ >> แกไ้ ข การเรียงลำดับ : Order >> สลับตำแหน่ง >> Done การปิด : คลิก ทีค่ อลมั น์ Inactive ภาพที่ 3.8 ตั้งคา่ ประเภทของบทความ การสรา้ งประเภทบทความ / Section ภาพที่ 3.9 เพิ่มประเภทของบทความ
20 ต้งั ค่าสาขาของบทความ/Categories การสร้าง : คลิก Add Categories การเรียงลำดบั : Order >> สลบั ตำแหนง่ >> Done ภาพท่ี 3.10 ตั้งคา่ สาขาของบทความ การสรา้ งสาขาของบทความ/Categories ภาพท่ี 3.11 เพิ่มข้อมลู สาขาของบทความ
21 การตง้ั คา่ เว็บไซตข์ องวารสาร รูปรา่ งเว็บไซต์/Appearance ธมี /Theme เปิดใชง้ านธีม (Theme) เพมิ่ เตมิ ทเ่ี มนู Plugins >> Theme Plugins หนา้ 35 จงึ จะมธี มี (Theme) อื่น ๆ ใหเ้ ลอื ก หมายเหตุ* การตัง้ ค่าธมี (Theme) จะขน้ึ อยกู่ บั การเลอื กใชธ้ ีม (Theme) นัน้ ๆ ธมี (Theme) จากรปู ใช้ Manuscript (Default child theme) สีของหวั เว็บไซต์ แสดงขอ้ มลู เบ้อื งตน้ (Journal Summary) ทห่ี น้าแรกของเว็บไซต์ สีเส้นของเวบ็ ไซต์ ภาพท่ี 3.12 ต้งั คา่ รปู แบบเว็บไซต์
22 การต้งั ค่า/Setup รูปโลโก้ หรอื รปู header วารสาร รูปภาพแสดงการค้นหาบทความ หน้าแรกของเว็บไซต์ Thaijo
23 รปู ภาพหนา้ แรกของเว็บไซต์ ส่วนทา้ ยของทุหน้าเว็บไซต์ แถบดา้ นข้างของเวบ็ ไซต์ ภาพที่ 3.13 ตงั้ ค่ารูปแบบเว็บไซต์วารสาร
24 การต้งั ค่าขัน้ สูง/Advanced ไฟล์ .css สาํ หรับนกั พฒั นาเว็บไซต์ (ถา้ มี) รูปภาพแสดงบนแท็บของเวบ็ บราวเซอร์ ข้อความเพิ่มเตมิ ท่ีจะแสดงหน้าแรกของเวบ็ ไซต์ (ถา้ ม)ี ภาพที่ 3.14 ต้ังค่ารูปแบบเว็บไซตว์ ารสารขนั้ สงู
ผลลัพธก์ ารตั้งค่ารปู ร่างเวบ็ ไซต์ 25 โลโก้ เมนูบาร์ รปู ภาพหน้าหลัก ประกาศขา่ ววารสาร วารสารเลม่ ปจั จบุ ัน สว่ นท้ายวารสาร ภาพท่ี 3.15 ผลลัพธ์หนา้ เวบ็ ไซตว์ ารสาร
26 ต้งั คา่ ข้อมูล/Information ขอ้ มูลสาํ หรบั ผ้อู ่านท่ัวไป (Readers) ข้อมูลสําหรบั ผแู้ ต่ง (Authors) ข้อมลู สําหรบั บรรณารักษ์ (Librarians) ภาพท่ี 3.16 ต้ังคา่ ข้อมูลทว่ั ไปของวารสาร
27 ตั้งคา่ ภาษา/Languages Settings > Website > Setup > Languages Primary locale : ภาษาหลักของหนา้ เว็บไซต์ UI : ภาษาท่ตี ้องการให้แสดงผลของเว็บไซต์ Forms : ช่องภาษาสำหรบั การกรอกข้อมลู ต่าง ๆ ของเว็บไซต์ Submissions : ภาษาของบทความท่ีรบั ตพี ิมพ์ หมายเหตุ* การต้งั คา่ ให้แสดงผลทั้งภาษาอังกฤษ และภาษาไทยของเว็บไซต์ จะตอ้ งเลอื กตามรูปน้ี ถา้ เป็นวารสารภาษาองั กฤษ ให้เลือกเฉพาะแถว English เทา่ น้ัน ภาพที่ 3.17 ตงั้ คา่ ภาษาของวารสาร เมนูของเว็บไซต์/Navigation เมนูหลกั รายการของเมนู ภาพที่ 3.18 ต้งั ค่าแถบเมนูของเวบ็ ไซตว์ ารสาร
28 ข่าวประกาศ/Announcements เพื่อเปดิ การแสดงผลของข่าว ประกาศ ขอ้ ความที่ต้องการใหแ้ สดงท่ีหนา้ เวบ็ ของข่าวประกาศ (ถ้ามี) จํานวนขา่ วประกาศทต่ี ้องการให้แสดงผลทห่ี นา้ แรกของเว็บไซต์ ภาพที่ 3.19 ประกาศข่าวที่หนา้ เว็บวารสาร จํานวนลงิ ก์ /Lists จาํ นวนลงิ ก์ จาํ นวนรายการหน้าถัดไป ภาพท่ี 3.20 ตงั้ คา่ จำนวนหน้าของเว็บไซต์วารสาร
29 นโยบายข้อมลู ส่วนบคุ คล/Privacy Statement นโยบายเกยี่ วกบั การค้มุ ครองขอ้ มูลสว่ นบคุ คล ภาพท่ี 3.21 ต้งั ค่านโยบายข้อมลู ส่วนบคุ คล วันและเวลา | Date & Time รปู แบบการแสดงผลวันท่ีและเวลา รปู แบบวันทแ่ี ละเวลา ภาพท่ี 3.22 รปู แบบวนั และเวลาของวารสาร
30 โปรแกรมเสรมิ /Plugins ปล๊กั อนิ ท่แี นะนาํ มดี ังน้ี - Citation Style Language : การแสดงตัวอย่างการอ้างอิงบทความ - Custom Block Manager : เพือ่ สรา้ งเมนดู ้านข้างของเว็บไซต์ - Theme Plugins : ธีมของวารสาร ภาพที่ 3.23 ปล๊กั อินที่ใชง้ านในวารสาร
31 การแสดงตัวอย่างการอา้ งอิงบทความ / Citation Style Language Settings >> Website >> Plugins >> Citation Style Language ขน้ั ตอนที่ 1 : เปดิ ใช้งาน เพ่อื เปดิ ใชง้ าน ขัน้ ตอนที่ 2 : ตั้งคา่ ภาพที่ 3.24 ตั้งค่าการการอ้างอิงบทความ
32 เมนู Custom Block Settings >> Website >> Plugins >> Custom Block Manager ข้ันตอนท่ี 1 : เปดิ ใชง้ าน ขน้ั ตอนที่ 2 : สร้างเมนู Custom Block
33 ขน้ั ตอนท่ี 3 : เรียกใชง้ าน Custom Block Settings >> Website >> Appearance >> Setup >> Sidebar หมายเหตุ* ถ้าเมนู Custom Block ไม่แสดง ให้กด SHIFT+ F5 หรือ CTRL+ F5 หรือ CTRL+ SHIFT+R ภาพท่ี 3.25 การตัง้ คา่ การสร้างเมนู Custom Block
34 ธีมของวารสาร/Theme Plugins เลือก เพอ่ื เปิดธมี (Theme) ทีต่ อ้ งการ เมื่อเปดิ แล้วสามารถเลอื กใชไ้ ด้ท่ี Setting >> Website >>Appearance >> Theme ภาพท่ี 3.26 การต้ังค่าธมี ของวารสาร การตง้ั ค่ากระบวนการของบทความ /Setting >> Workflow การส่งบทความ/Submission การปิดรบั บทความ/Disable Submissions ภาพท่ี 3.27 การตั้งค่ากระบวนการของบทความ
35 ขอ้ มูลบทความ/Metadata
36
37 ภาพที่ 3.28 ตงั้ คา่ ขอ้ มูลบทความ Metadata หมายเหตุ* • Enable...Metadata คอื การเปิดระบบ • Do not request... คือ ไม่แสดงช่องให้ผู้แต่งกรอกข้อมูลในขั้นตอนการส่ง บทความแตต่ าํ แหน่ง Journal Editor สามารถกรอกข้อมูลไดท้ ี่ Metadata ของบทความ • Ask the author... คือ แสดงช่องใหผ้ ู้แต่งกรอกข้อมูลในขั้นตอนการส่งบทความ • Require the author… คือ แสดงช่องและบงั คับให้ผู้แต่งกรอกข้อมูลในขัน้ ตอน การสง่ บทความ
38 ประเภทของไฟล์ /Components การเรยี งลำดบั : Order >> สลับตำแหนง่ >> Done การสร้าง : Add a Component การกลับสู่คา่ เริ่มตน้ : Restore defaults ข้อเสนอแนะ* ลบใหเ้ หลือแต่ “Article Text” และ “Other” เพื่อไมใ่ หเ้ กิดความสบั สน ในการอปั โหลดไฟล์ ภาพที่ 3.29 การตัง้ คา่ ประเภทของไฟล์
39 การสรา้ งประเภทไฟลส์ ่วนประกอบของบทความ ภาพที่ 3.30 การสร้างประเภทไฟลส์ ว่ นประกอบของบทความ
40 ข้อตกลงการสง่ บทความ /Checklists ขอ้ ตกลงและเง่อื นไขวารสารเพ่อื ให้ผู้แตง่ ยืนยนั ก่อนการสง่ บทความ การเรยี งลาํ ดบั : Order >> สลบั ตําแหน่ง >> Done การเพิ่ม : Add Item การแก้ไข : คลกิ สญั ลกั ษณ์ >> Edit ภาพท่ี 3.31 การต้งั ค่าข้อตกลงการส่งบทความ
41 คำแนะนําผูแ้ ตง่ / Author Guidelines ภาพที่ 3.32 การตั้งค่าคำแนะนําผู้แตง่
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110