Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ความรู้ PJBL

ความรู้ PJBL

Published by rawissara, 2020-09-12 00:50:32

Description: ความรู้ PJBL

Search

Read the Text Version

การสอนใน ศตวรรษที่ 21 ดษุ ฎี น้อยใจบญุ ศกึ ษานเิ ทศก์ชานาญการพิเศษ หนว่ ยศกึ ษานเิ ทศก์ สอศ.

ยทุ ธศาสตรช์ าติ แผนการศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2579 (national Strategy) พ.ศ. 2560-2579 โดย สานักงานเลขาธกิ ารสภาการศึกษา 20 ปี กระทรวงศึกษาธกิ าร มากาหนด : 1. วสิ ัยทัศน์ 2. วัตถปุ ระสงค์ (จดุ มุ่งหมาย) 4 ขอ้ 3. เป้าหมาย 2 ด้าน 4. ยุทธศาสตร์ 6 ข้อ

กาหนดคณุ ภาพของผ้สู าเรจ็ การศกึ ษา มาตรฐานการศึกษาอาชีพ

พ.ศ. 2556 กรอบคุณวฒุ ิอาชีวศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2562

แผนการจัดการเรียนรู้ : การพิจารณาเนือ้ หารายวิชา หลกั สตู รท่ียดึ โยงกับมาตรฐานอาชพี : 1) กรมแรงงาน/กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน 2) สถาบันคุณวฒุ ิวิชาชีพ (สคช. : TPQI) 3) สมาคมฯ /ชมรมฯ



การวัด และประเมินผลในการจดั การเรียนการสอนวิชาชพี 01 ดา้ นพุทธพิ สิ ัย - องคค์ วามรู้ - หลกั การ 02 ดา้ นจติ พสิ ยั - ความรับผดิ ชอบ - ความละเอียดรอบครอบ 03 ด้านทกั ษะพสิ ัย - ข้ันตอนการเตรยี ม - ขัน้ ตอนการปฏิบตั งิ าน การทางาน และความปลอดภยั สขุ อนามยั - ชนิ้ งานสาเรจ็ คุณภาพของชิ้นงาน

แผนการจดั การเรยี นรู้ : จุดประสงค์การเรียนรู้ (MIAP) ระดับพฤตกิ รรมบุคคล (Taxonomic Level of Human's Behavior) ความสามารถทางสตปิ ัญญา ความสามารถทักษะกล้ามเนือ้ ลักษณะของกจิ นิสัย (Intellectual) (Physical Skill) (Work Habit) ขนั้ ฟื้นคืนความรู้ ขนั้ ทาเลียนแบบ ขนั้ การยอมรบั (Recalled Knowledge) (Imitation) (Receiving) ขนั้ ประยกุ ตค์ วามรู้ ขนั้ ทาโดยถกู ตอ้ ง ขนั้ การตอบสนอง (Applied Knowledge) (Control) (Response) ขนั้ สง่ ถา่ ยความรู้ ขนั้ ทำดว้ ยควำมชำนำญ ขนั้ ลกั ษณะนิสยั Transferred (Automatism) (Internalization) Knowledge)

การประเมินตามสภาพจริง ตอ้ งทาอย่างไรบา้ ง ขน้ั ตอนท่ี 4 ขัน้ ตอนท่ี 3 เก็บรวบรวมขอ้ มูลและ กาหนดกจิ กรรมการเรยี น ข้ันตอนที่ 2 ใช้ผลการประเมนิ เพ่ือ พัฒนาการเรียนการสอน การสอนและสรา้ งเครอื่ งมอื การออกแบบการ ขั้นตอนที่ 1 วดั และประเมินผล วดั และประเมนิ ผล กาหนด การศกึ ษา จุดประสงคก์ าร การศึกษา เรียนรู้ การประเมนิ ตามสภาพจรงิ มี 4 ขนั้ ตอน

แผนการจดั การเรยี นรู้ : การพจิ ารณาเนื้อหารายวชิ า

Project-Based Learning : PjBL

Project- Based Learning คอื อะไร ? การจัดกิจกรรมให้ผู้เรียน เน้นที่ประสบการณ์ตรงในการปฏิบัติงาน ได้เรียนรู้การแก้ปัญหา คิดสร้างสรรค์ วางแผนในการทางานด้วยวิธีการ ทางวทิ ยาศาสตร์ สอื่ สารและร่วมงานกับผูอ้ ื่น ตลอดจนประเมินตนเองได้

ทาไมต้องสอนด้วย PjBL ➢ บทบาทของครู สอนแตใ่ นเนื้อหากไ็ มเ่ พียงพอ “ตอ้ งสอนให้เรยี นรู้ คน้ คว้าหาความรู้” ➢ “สรา้ งนิสยั ของนกั วิจยั ” PjBL เนน้ ทก่ี ารไดล้ งมือทา คณุ ลกั ษณะผเู้ รยี น การสาเร็จการศกึ ษาอย่างเดียว จะไม่รู้ปัญหา ทางานไม่เปน็ การนาตนเอง เนน้ การลงมือทา

คาถามชวนคดิ Project- Based Learning 1 23 45 สอนในวิชา สอนท้งั รายวิชา สอนรายหนว่ ย หรอื สอนเฉพาะ วชิ าสามญั อะไร ใชห่ รอื ไม่ ได้หรอื ไม่ ในรายวิชาโครงงาน สอนอย่างไร

PjBL & PBL ตา่ งกนั อย่างไร Project- Based Learning : PjBL คอื การเรียนร้แู บบโครงงานเปน็ ฐาน Problem-Based Learning : PBL คอื การเรยี นรูแ้ บบปัญหาเป็นฐาน

คาว่า โครงงาน กับ โครงการ โครงงาน เปน็ การทางานร่วมกนั ใหไ้ ดผ้ ลผลติ เป็นชน้ิ งาน ➢ ผลของโครงงานคอื Product โครงการ เป็นการทากจิ กรรมรว่ มกนั เพอ่ื ใหไ้ ดผ้ ลลพั ธ์เปน็ กระบวนการ ทางาน ➢ ผลของโครงการคือ Process กระบวนการทางาน ทัง้ โครงการและโครงงาน เป็น Project- based Learning เหมอื นกนั

ความคาดหวงั ของครู เมื่อเดก็ เรยี นจบ

การจัดการเรียนรู้ แบบโครงงานเป็นฐาน ในระดบั อาชวี ศึกษา

ขน้ั ตอนการจดั การเรยี นรู้แบบโครงงานเป็นฐาน ขน้ั ตอนท่ี 1 1 4 ข้ันตอนท่ี 4 การเตรยี มความพรอ้ ม การปฏิบัตงิ านโครงงาน ขนั้ ตอนที่ 2 2 5 ขั้นตอนที่ 5 การกาหนดและเลอื กหัวขอ้ การนาเสนอผลงาน ขั้นตอนที่ 3 3 6 ขน้ั ตอนท่ี 6 การเขยี นเคา้ โครงของโครงงาน การประเมนิ โครงงาน

ขน้ั ตอนการจดั การเรียนร้แู บบโครงงานเป็นฐาน ขั้นตอนที่ 1 การเตรยี มความพร้อม ครู - เตรยี มขอบเขตโครงงาน แผนการสอน ผเู้ รียน จัดกระบวนการเรยี นรู้ แหลง่ เรียนรู้ แหลง่ ขอ้ มลู - การตง้ั คาถามนา ระบุปญั หาทจ่ี ะนาไปส่โู ครงงาน - ระบุขน้ั ตอนในแผนการสอน ขอ้ ตกลง -การใหอ้ งค์ความรู้ - เตรยี ม รบั ทราบวา่ จะจดั แผนการจดั การเรียนรู้ แบบโครงงาน ผูเ้ รียนเตรยี มความพรอ้ ม แบง่ กลมุ่

ข้ันตอนการจดั การเรยี นรแู้ บบโครงงานเป็นฐาน ข้นั ตอนท่ี 2 การกาหนดและเลือกหัวข้อ ผูเ้ รยี น - รวมกลมุ่ กาหนดหวั ขอ้ ท่จี ะทาโครงงาน ศึกษา ความเปน็ ไปได้ของแตล่ ะหัวข้อ เพอ่ื เลือกโครงงาน ทีจ่ ะจดั ทา นาเสนอผสู้ อนใหค้ วามเห็นชอบ - ผู้เรียนกาหนดหัวขอ้ ผสู้ อน - พจิ ารณาความพร้อมของผู้เรียน และความ เป็นไปไดข้ องโครงการ โดยผูส้ อนให้คาแนะนา

ข้นั ตอนการจัดการเรียนรแู้ บบโครงงานเป็นฐาน ขน้ั ตอนที่ 3 การเขียนเค้าโครงของโครงงาน ผเู้ รยี น - ศกึ ษาขอบเขตของโครงงาน แหลง่ ขอ้ มูล วัตถุประสงค์ ระบกุ ิจกรรม กาหนดบทบาท หน้าทข่ี องสมาชิกกาหนดระยะเวลาการ ดาเนนิ งาน

ขน้ั ตอนการจัดการเรยี นรแู้ บบโครงงานเป็นฐาน ข้นั ตอนท่ี 3 การเขียนเคา้ โครงของโครงงาน (ต่อ) ครู กาหนดแบบฟอรม์ /ตัวอยา่ ง/วางแผน/เขยี นระบขุ ั้นตอน การทาโครงงานมี 2 ลักษณะ 1. ตอ้ งเขยี นเค้าโครงเปน็ 3 บท มแี บบแผนคล้ายงานวจิ ยั หรอื วทิ ยานิพนธ์ 2. Proposal เตม็ รปู แบบ 5 บท

ข้นั ตอนที่ 3 การเขียนเคา้ โครงของโครงงาน (ต่อ) เปน็ การสรา้ งผงั มโนทัศน์ (Conceptual Map) หรือแผนที่ ความคดิ (Mind Map) ท่ีแสดงถึงภาพรวมทัง้ หมดของโครงงานต้งั แตต่ ้นจนจบ ประกอบดว้ ย แนวคิด หลกั การ แผนงาน และข้ันตอนในการทาโครงงาน ช่ือโครงงาน 1 6 สมมติฐานของโครงงาน (ถ้าม)ี ช่ือผจู้ ัดทาโครงงาน /กลุ่ม 2 7 วธิ ีดาเนินงานโครงงาน ช่ือทป่ี รึกษาโครงงาน 3 8 แผนการปฏบิ ตั ิงาน ทม่ี าและความสาคัญ 4 9 ผลทคี่ าดวา่ จะได้รับ วัตถปุ ระสงค์ 5 10 เอกสารอ้างองิ หรอื บรรณานุกรม

ขนั้ ตอนการจัดการเรยี นรแู้ บบโครงงานเป็นฐาน ข้ันตอนที่ 4 การปฏบิ ัตงิ านโครงงาน ผูส้ อน สร้างองค์ความรู้ วางแผนการปฏิบตั งิ านการเขยี นรายงาน โครงงาน ให้คาปรึกษาแนะนา ผู้เรียน สมาชิกในกลมุ่ จะดาเนนิ งานตามแผนและแบ่งบทบาทหนา้ ท่ี ความรบั ผิดชอบ แลกเปลยี่ นประสบการณแ์ ละคน้ หาความรู้ ใหม่ บรู ณาการความรู้ สรา้ งชน้ิ งาน

ขน้ั ตอนการจดั การเรียนรแู้ บบโครงงานเป็นฐาน ข้ันตอนท่ี 5 การนาเสนอผลงาน ผสู้ อน กาหนดกจิ กรรมการวดั และประเมินผล ชแี้ จง/แนะนา/เสนอแนะ ผ้เู รยี น สรปุ ผลการดาเนนิ งาน จัดทารายงาน นาเสนอผลงาน กจิ กรรของโครงการแลกเปล่ยี นเรยี นรู้

ขนั้ ตอนการจัดการเรยี นรแู้ บบโครงงานเป็นฐาน ขน้ั ตอนท่ี 5 แบบประเมินการนาเสนองาน 1 หวั ขอ้ การนาเสนอมีความน่าสนใจ 7 การนาเสนอผลการทดลอง รูปแบบตาราง รปู ภาพ เหมาะสม 2 การใชภ้ าษาถูกต้องตามหลกั วชิ าการ 8 อภปิ รายผล สรุปผล มีเหตผุ ลและ คาควบกล้า ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ มีแหลง่ อา้ งองิ 3 การพดู จับประเดน็ พดู ชดั เจน 9 ตอบคาถามได้ถกู ต้องตามหลักวชิ าการ 4 รปู แบบการใช้ Power point หรอื สอ่ื 10 ประโยชน์ไดร้ ับจาการโครงงาน/นวตั กรรม นาเสนอดี (ขนาดตัวอกั ษร ความชัดเจน) 5 นาเสนอถูกต้องครอบคลุมหัวขอ้ โครงงาน 11 ภาพรวมของการนาเสนอผลงาน และนาเสนอเป็นลาดบั ขอ้ 6 วิธีการทดลองมีความนา่ เชือ่ ถือ 12 บคุ ลิกภาพของผู้นาเสนอ และเหมาะสมต่อการทาหัวขอ้ วิจัย

ขน้ั ตอนการจัดการเรยี นร้แู บบโครงงานเป็นฐาน ข้นั ตอนที่ 6 การประเมินโครงงาน ประเมินผลงานอย่างตอ่ เนอ่ื งด้วยวธิ กี ารและเครอ่ื งมือ ทห่ี ลากหลาย เน้นการประเมินตามสภาพจรงิ ทง้ั ความรู้ กระบวนการ ผลงาน และพฤติกรรมลักษณะนิสยั ของผู้เรยี น

การประเมนิ ตามสภาพจรงิ ต้องทาอยา่ งไรบ้าง ขัน้ ตอนท่ี 4 ขนั้ ตอนที่ 3 เก็บรวบรวมข้อมูลและ กาหนดกิจกรรมการเรียน ขน้ั ตอนท่ี 2 ใชผ้ ลการประเมินเพื่อ พฒั นาการเรยี นการสอน การสอนและสร้างเครอื่ งมือ การออกแบบการ ขั้นตอนที่ 1 วัดและประเมนิ ผล วดั และประเมินผล การศกึ ษา กาหนด การศกึ ษา จดุ ประสงคก์ าร เรยี นรู้ การประเมนิ ตามสภาพจริง มี 4 ข้ันตอน

ตวั อย่างแบบประเมนิ โครงงาน แบบประเมนิ ผลการนาเสนอโครงงาน แบบประเมินโครงงาน

ข้นั ตอนท่ี 6 การประเมนิ โครงงาน (ต่อ) ระยะ 1 ขน้ั ที่ 1 การเตรียมความพรอ้ ม ขัน้ ที่ 2 การเลอื กหวั ขอ้ ขนั้ ที่ 3 การเขยี นเค้าโครงของโครงงาน ระยะที่ 2 ข้นั ที่ 4 การปฏิบัตงิ านโครงงาน เกดิ ชิ้นงาน ระยะ 3 ขั้นท่ี 5 การนาเสนอผลงาน ขั้นท่ี 6 การประเมินโครงงาน/ชนิ้ งาน

10 ประเมนิ ผล 9 นาเสนอ 8 จัดทารปู เล่ม 7 สง่ ช้นิ งาน 6 ปรบั ปรงุ แกไ้ ขชนิ้ งาน 5 ตรวจสอบช้ินงาน 4 ส่งชิ้นงาน 3 ดคู วามก้าวหน้าตามระยะเวลาที่ กาหนด 2 ระยะเวลาดาเนินงาน (ตดิ ตาม) 1 ปฏิทินการดาเนนิ งาน

Model การออกแบบการเรียนรู้ 1 Case study PjBL ผเู้ รียน - A -K เกณฑ์/แบบประเมนิ ผล PjBL - S 4 การบรหิ ารจัดการชัน้ เรยี น PjBL 5 Exam 3 วธิ กี ารกากับติดตาม 2 การเตรยี มความพร้อมของครใู นการสอนแบบ PjBL 2 ปญั หาอปุ สรรค PjBL

สรปุ การเรียนร้แู บบโครงงานเป็นฐาน • PjBL เหมาะกบั การเรยี นรใู้ น ศตวรรษท2ี่ 1 เน้นให้ผเู้ รียนมคี วามคิด สร้างสรรคจ์ ากโครงงาน มคี วามคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณว่ามคี วาม เป็นไปไดห้ รือไม่ อุปกรณ์เคร่อื งมือใชอ้ ย่างไร ผูเ้ รยี นได้สื่อสาร ทางาน กบั ผูอ้ ่ืน เปน็ ทักษะสาคญั ในการดารงชวี ติ ครผู ูส้ อนและผเู้ รียนมโี อกาส เรียนรู้รว่ มกัน • ความสาเร็จที่แท้จรงิ ของโครงงานเป็นฐานคือ ทาให้คนได้เรียนรู้รว่ มกัน และมีผลงานออกมาเป็นรปู ธรรม

จบการนาเสนอ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook