หน่วย2การใช้งานภาษา PHP ตัวแปร ค่าคงที่ และตัวดำเนินการ

หนว่ ยที่ 2 การใชง้ านภาษา PHP ตัวแปร ค่าคงท่ี และตวั ดาเนินการ

หัวขอ้ ภาษา HTML ภาษา PHP คาส่ัง PHP เบือ้ งตน้ ตัวแปร ค่าคงท่ี ตัวดาเนินการ

ภาษา HTML HTML หรือ Hyper Text Markup Language เปน็ ภาษาคอมพวิ เตอร์ เผยแพรใ่ นระบบเครอื ข่ายอนิ เตอรเ์ น็ต โดยใชค้ าสง่ั แบบ Tag เปน็ ลักษณะเฉพาะของภาษา HTML ใชใ้ นการระบรุ ปู แบบคาสั่ง หรือการลงรหัส คาสงั่ HTML ภายในเครื่องหมาย ( < ) และ( > ) โดย Tag HTML มี 2 รูปแบบ 1. Tag เดยี่ ว เป็น Tag ที่ไมต่ อ้ งมีการปิดรหัส เช่น <P>, <BR> เป็นต้น 2. Tag คู่ เป็น Tag ทปี่ ระกอบดว้ ย Tag เปดิ และ Tag ปิด โดย Tag ปิด จะ มเี ครอ่ื งหมาย slash ( / ) <B>…</B>, <BLINK>…</BLINK> เปน็ ต้น

คาสั่ง HTML การเขียนคาสั่ง HTML

ภาษา PHP PHP : PHP Hypertext Preprocessor ซ่ึงเป็นภาษาประเภท Script Language ทมี่ ีทางานแบบ Server Side Script กระบวนการทางาน จะทางานแบบโปรแกรมแปลคาสง่ั Interpreter คือแปลภาษาทกุ ครงั้ ทม่ี ีคนเรียกสครปิ ต์ PHP Client Server 1:<?php 2:echo “Hi”; 3:echo “Champ”; 4:?>

ภาษา PHP ภาษา PHP จดั อย่ใู นประเภท การเขียนโปรแกรมบนเวบ็ (Web-based Programming) เพราะเราจะเก็บโค้ดคาส่งั หรอื สครปิ ต์ ท้ังหมดทีเ่ ขยี นข้ึนมาไว้บนเคร่อื งเซริ ฟ์ เวอรท์ เ่ี ดยี ว (Web Server) และใหผ้ ใู้ ช้งาน (Client) เรยี กใช้งานโปรแกรมผ่าน PHP เวบ็ เบราเซอรต์ ่างๆ Client Server 1:<?php 2:echo “Hi”; 3:echo “Champ”; 4:?>

ภาษา PHP http://localhost/ Client Server

รูปแบบคาส่ัง PHP การเขียนคาสงั่ PHP มรี ูปแบบการเขยี นคาสงั่ 2 รปู แบบ <?php <script language=\"php\"> print “Hello World”; print “Hello World”; ?> </script>

คาสั่งท่ีใช้ในการแสดงผล การเขยี นคาส่ังทีใ่ ชใ้ นการแสดง PHP มี 3 คาส่ัง print “...”; (ไมส่ ามารถแยกนพิ จนด์ ว้ ยเครื่องหมาย , ได้ แตต่ ้องใช้ . แทน) echo “...”; (สามารถแยกนิพจน์ด้วยเครื่องหมาย , หรือ . ได้) printf (“..”); (สามารถจัดรปู แบบการแสดงผลของข้อมูลได้)

คาสั่ง PHP คาส่งั จดั รูปแบบการแสดงผลของขอ้ มูลดว้ ย สญั ลกั ษณ์ คาอธบิ าย printf (\"สญั ลกั ษณ์\",คา่ ตัวเลข); %d แสดงขอ้ มูลรปู เลขฐาน 10 %b แสดงขอ้ มลู รูปเลขฐาน 2 <?php %c แสดงข้อมลู รูปแบบ ASCII printf “3+2.2 = %.2f”,3+2.2; %f แสดงข้อมูลรปู เลขทศนยิ ม ?> //%.2f คอื การแสดงจุดทศนิยม 2 ตาแหน่ง

คาสั่ง PHP คาสัง่ จัดรปู แบบการแสดงผลของขอ้ มลู ด้วย สญั ลักษณ์ คาอธิบาย printf (\"สญั ลกั ษณ์\",คา่ ตวั เลข); %o แสดงข้อมลู รปู เลขฐาน 8 <?php %s แสดงขอ้ มลู รปู แบบ String printf “3+2.2 = %.2f”,3+2.2; ?> %x แสดงข้อมลู รปู เลขฐาน 16 ตัวพมิ พ์เลก็ //%.2f คอื การแสดงจดุ ทศนิยม 2 ตาแหน่ง %X แสดงข้อมูลรปู เลขฐาน 16 ตัวพิมพ์ใหญ่

คาส่ัง PHP คาสง่ั ทใี่ ช้ในการหมายเหตุในภาษา PHP มี 3 รูปแบบ 1. # <?php 2. // print “Hello World”; 3. /* ……… # Comment 1 Line …………*/ // Comment 1 Line /* Comemet มากกว่า 1บรรทัด */ ?>

คาส่ัง HTML ความหมาย คาส่ังระบุ Title Bar ของ Browser TAG HTML คาสั่งขนาดตวั อกั ษร h1 ใหญ่สดุ h6 เล็กสุด <title> </title> <h1> </h1>ถึง คาสั่งขน้ึ บรรทดั ใหม่เว้น1บรรทัด <h6> </h6> คาส่ังขึ้นบรรทดั ใหม่ <p> <br>

คาส่ัง HTML ความหมาย คาสงั่ สร้าง Bullet TAG HTML คาสงั่ สรา้ งลาดบั ตัวเลข <ul> <li></li> </ul> <ol> <li></li> </ol>

คาส่ัง HTML TAG HTML ความหมาย <b> </b> ตวั อักษรหนา <i> </i> ตัวอกั ษรเอียง <u> </u> ตัวอักษรขดี เสน้ ใต้ <center> </center> คาสง่ั จัดกลาง <a href= ‘’> </a> คาสง่ั การสร้าง link

คาส่ัง HTML ความหมาย สรา้ งตาราง TAG HTML <table> <tr> <td> </td> <td> </td> </tr> </table>

ใบงานที่ 1 การแสดงผลใบงานท่ี 1 คาส่ัง PHP เบอื้ งตน้ ใช้เขียนคาสั่งการใช้ Tag TITLE และTag H โดย Tag TITLE ระบุข้อความ “ตัวอย่างการ ใช้ TGA HTML” และ Tag H1 ระบุข้อความ “ตัวอย่างท่ี 1” และ Tag H2 ระบุข้อความ “การใช้ Tag TITLE และ Tag H” และตั้งช่ือ file work1_01.php

ใบงานที่ 2 การแสดงผลใบงานท่ี 2 คาส่ัง PHP เบอื้ งต้น ใชเ้ ขยี นคาสงั่ PHP ตอ่ ไปนี้ 1.ใช้คาส่ังแสดงผลแสดงข้อความ “ทดสอบการใช้งานTag FONT Tag P และ Tag BR” 2.ใช้คาส่ัง BR และระบุข้อความ “คาส่ัง BR เป็นคาสั่งขึ้น บรรทดั ใหม่” 3.ใช้คาสั่ง P และระบุข้อความ “คาส่ัง P เป็นคาสั่งขึ้น บรรทดั ใหมแ่ ละเวน้ อีก 1 บรรทดั ” 4.ใช้คาสั่ง Font และระบุข้อความ “คาสั่ง font เป็นคาสั่ง จัดการข้อความ” โดยใส่คาส่ัง <font color=red>และต้ังช่ือ file work1_02.php

ใบงานที่ 3 คาส่ัง PHP เบอ้ื งตน้ ใช้เขียนคาส่งั PHP ตอ่ ไปนี้ 1.ใช้คาส่ัง center และระบุข้อความ “ทดสอบการใช้งาน Tag Center Tag B Tag I และ Tag U” 2.ใช้คาสัง่ B และระบขุ ้อความ “คาสงั่ B เป็นคาส่งั ตัวหนา” 3.ใช้คาสัง่ I และระบุข้อความ “คาสงั่ I เปน็ คาสัง่ ตวั เอยี ง” 4.ใช้คาส่ัง U และระบุข้อความ “คาสั่ง U เป็นคาสั่งขีดเส้น ใต”้ และตงั้ ชอ่ื file work1_03.php การแสดงผลใบงานที่ 3

ใบงานที่ 4 การแสดงผลใบงานที่ 1 คาส่ัง PHP เบ้ืองตน้ ใชเ้ ขยี นคาส่ัง PHP ตอ่ ไปน้ี 1.ใช้คาส่ังแสดงข้อความ “ทดสอบการใช้งาน Bullet ด้วย Tag UL Tag OL Tag LI และสร้างล้งิ Tag A HREF” 2.ใชค้ าสั่ง UL และแสดง Bullet “หัวขอ้ ท่ี A” “หัวข้อท่ี B” “หัวข้อที่ C” 3.ใช้คาสงั่ OL และแสดง Bullet “เพ่อื นคนที่ 1” “เพอ่ื นคนท่ี 2” “เพอ่ื นคนที่ 3” พรอ้ มทั้งสรง้ ลิ้งคลิดแล้วจะปรากฏรปู 4.ใช้คาส่ัง U และระบุข้อความ “คาส่ัง U เป็นคาสั่งขีดเส้น ใต”้ และตง้ั ช่ือ file work1_04.php

ใบงานท่ี 5 คาส่ัง PHP เบือ้ งตน้ ใชเ้ ขียนคาส่ัง PHP ตอ่ ไปน้ี 1.ใช้คาสั่งแสดงผลแสดงข้อความ “ทดสอบการสร้าง ตารางด้วย Tag TABLE Tag TR และ Tag TD” 2.ให้แสดงผลตามตัวอย่างใบงานที่ 5 และตั้งชื่อfile work1_05.php การแสดงผลใบงานท่ี 5

ตัวแปร ตัวแปร (Variables) เป็นช่ือที่สร้างข้นึ มาแทนสิ่งใดสิ่งหน่ึงและสามารถ จดั เกบ็ ขอ้ มูลใด ๆ กไ็ ด้โดยมีลกั ษณะดงั น้ี 1. คา่ ท่ีถกู จัดเก็บเม่ือปดิ โปรแกรมข้อมลู จะถูกลบทิ้ง 2. ตวั แปรสามารถเปล่ียนแปลงค่าท่ีจดั เกบ็ ได้ 100 200

การประกาศตัวแปร ตวั แปรเป็นช่ือท่ีตง้ั ข้ึนมาอ้างอิงถงึ ข้อมลู ในหนว่ ยความจาโดยมีหลักการ ตัง้ ชื่อตัวแปรต่อไปน้ี 1. ขึ้นตน้ ดว้ ย $ เสมอ 2. ชื่อตัวแรกของตัวแปรต้องเปน็ ตวั อกั ษร หรือ _ (underscore) 3. ช่ือตวั แปรสามารถผสมตวั เลข ตัวอกั ษร และ_ (underscore) ได้ 4. ชื่อตวั แปรเปน็ แบบ case-sensitive ตัวพมิ พ์เล็กกับตัวพิมพ์ใหญ่ คนละตวั กัน

การประกาศตัวแปร <?php $num1 = 20+5; <?php $num2=40-12; $Name = “champ”; $result =$num1+$num2; $name = “pornchai”; echo $result; echo $name.$Name; ?> ?> 53 pornchaichamp

ชนิดของตัวแปร ข้อมลู จานวนทศนยิ ม (Float) <?php ขอ้ มลู จานวนเต็ม (Interger) $num3 = 10.25; <?php $num4 = 20.231; $num1 = 10; ?> $num2 = 20; ?>

ชนิดของตัวแปร ขอ้ มลู ตรรกะ (Booolean) <?php ขอ้ มลู ตวั อักษร (String) $num5 = 10<5; <?php $num6 = 1==1; $text1 = “เตพ้ ระราม7”; ?> $text2 = “แชมปบ์ างแวก”; ?> #ขอ้ มูลตรรกะ มี 2 คา่ คอื จริง (True) กับเท็จ (False)

ใบงานที่ 6 การสรา้ งตวั แปร ใชเ้ ขียนคาสั่ง PHP สร้างตัวแปรดังตอ่ ไปน้ีตอ่ ไปนี้ 1.ตวั แปร name ใส่ชื่อ-สกุลนักศกึ ษา 2.ตวั แปร age ใส่อายนุ ักศกึ ษา 3.ตวั แปร Grade ใส่เกรดเฉล่ยี 4 ภาคเรียนนักศกึ ษา ปวส. 4.ตัวแปร sex โดยใหใ้ ส่เป็น “เพศนักศึกษา”==“ชาย” 5 . ใ ห้ แ ส ด ง ผ ล ต า ม ใ บ ง า น ที่ 6 แ ล ะ บั น ทึ ก ชื่ อ ไ ฟ ล์ work1_06.php การแสดงผลใบงานที่ 6

ตวั แปรอาร์เรย์ Arrary การเก็บขอ้ มลู ในรูปแบบอาร์เรย์เปน็ การเกบ็ ข้อมลู ใหอ้ ย่ใู นรปู แบบชุด ของตวั แปรเพยี งชอื่ เดียวโดยพน้ื ทีใ่ นการเกบ็ ข้อมลู จาเปน็ ต้องมี Index ใน การอา้ งอิงตาแหนง่ ทอ่ี ยู่ของข้อมูล การเขียนคาสั่งในรูปแบบ Array สามารถเขยี นไดใ้ น 3 รูปแบบ

ตวั แปรอารเ์ รย์ Arrary รปู แบบที่ 2 ชือ่ ตวั แปร=array(ขอ้ มลู ท1่ี ,ข้อมูลท2ี่ ,.....); รูปแบบที่ 1 ชื่อตวั แปร[ตาแหนง่ ]=ข้อมลู ; <?php $score=array(10,20,30); <?php echo \"score 1 = $score[1]\"; $score[1]= 20; echo \"score 2 = $score[2]\"; $score[2]= 60; echo \"score 3 = $score[3]\"; echo \"score [1] = $score[1]\"; ?> echo \"score [2] = $score[2]\"; ?>

ตัวแปรอารเ์ รย์ Arrary รปู แบบท่ี 3 ช่ือตวั แปร=array(‘Index1’=>ข้อมลู ท1ี่ ,‘Index2’=>ข้อมลู ท2ี่ ,......); <?php <?php $score=array(‘std1’=>10,’std2’=>40); $score=array(10,‘Boy’,3.55); echo \"score 1 = $score[std1]\"; echo \"Array score [0] = $score[0] <br>\"; echo \"score 2 = $score[std2]\"; echo \"Array score [1] = $score[1] <br>\"; ?> echo \"Array score [2] = $score[2] <br>\"; ?>

ใบงานท่ี 7 การสรา้ งตวั แปร Array ใชเ้ ขียนคาส่งั PHP สรา้ งแปรดงั ตอ่ ไปนีต้ ่อไปนี้ 1.ให้สร้างตัวแปร Array ช่ือ score โดยกาหนด index ชื่อ student1 ถึง student5 และเกบ็ ขอ้ มูล 85,68,78,60,57 2.ใ ห้ แ ส ด ง ผ ล ต า ม ใ บ ง า น ที่ 7 แ ล ะ บั น ทึ ก ช่ื อ ไ ฟ ล์ work1_07.php การแสดงผลใบงานที่ 7

ฟังกช์ นั ท่ีเก่ียวข้องกบั ตวั แปร gettype(ตวั แปร) เปน็ ฟงั กช์ นั ในการตรวจสอบชนดิ ของตัวแปร ชนิดตวั แปร คาอธิบาย ชนดิ ตวั แปร คาอธิบาย Integer ขอ้ มลู ตวั เลขจานวนเต็ม object ข้อมูลแบบออบเจ็กต์ double ข้อมูลตวั เลขทศนิยม class ขอ้ มลู แบบคลาส string ข้อมูลตัวอักษร unknown type ไมส่ ามารถระบุข้อมูลได้ array ขอ้ มลู แบบอาร์เรย์ echo gettype($num1);

ฟังกช์ ันที่เก่ียวขอ้ งกบั ตวั แปร empty(ตวั แปร) เปน็ ฟงั ก์ชันในการตรวจสอบมตี วั แปรแต่ไม่มกี ารเก็บค่า ขอ้ มูลในตัวแปรหรอื ไม่ 1.มตี ัวแปรและมีค่าข้อมลู จะแสดงค่าเท็จ <?php 2.มีตวั แปรและไม่มคี ่าข้อมูลจะแสดงค่าจรงิ $num1 ; echo empty($num1); ?>

ฟังกช์ นั ที่เกี่ยวข้องกบั ตวั แปร isset(ตวั แปร) เป็นฟังกช์ ันในการตรวจสอบมีตัวแปรและมีคา่ ข้อมลู หรอื ไม่ 1.มีตัวแปรและมีคา่ ขอ้ มูลจะแสดงค่าจรงิ 2.มีตวั แปรและไม่มคี ่าขอ้ มลู จะแสดงค่าเท็จ <?php $num1 =10; echo isset($num1); ?>

ฟงั ก์ชนั ที่เกี่ยวข้องกับตวั แปร unset(ตัวแปร) เปน็ ฟังก์ชันในการทาลายตัวแปรและคนื พน้ื ที่ใน หน่วยความจาคืนระบบ <?php $num1 =10; echo unset($num1); ?>

ใบงานที่ 8 คาสั่งตรวจสอบตัวแปร ใช้เขียนคาส่ัง PHP สร้างแปรดงั ต่อไปนต้ี ่อไปนี้ $data1=“ช่อื เล่น”; $data2=เลขที่; $data3=8.50; $data4; 1.ให้ทาการตรวจสอบชนิดข้อมูล ด้วยคาส่ัง gettype empty isset 2.ใ ห้ แ ส ด ง ผ ล ต า ม ใ บ ง า น ที่ 8 แ ล ะ บั น ทึ ก ชื่ อ ไ ฟ ล์ work1_08.php การแสดงผลใบงานที่ 8

คา่ คงท่ี (Constant) คา่ คงที่ (Constant) เปน็ การกาหนดชื่อคา่ คงท่ีขน้ึ มาเพ่อื เก็บคา่ ใดๆ ทไี่ ม่ คอ่ ยมีการเปลี่ยนแปลงข้อมลู <?php define (\"vet\",0.07); define (“ช่อื ค่าคงท”ี่ ,ขอ้ มูล) echo 100*vet; ?>

ใบงานท่ี 9 การแสดงผลใบงานที่ 9 การสร้างตวั แปร ใชเ้ ขียนคาส่ัง PHP ดงั ตอ่ ไปน้ีตอ่ ไปน้ี 1.ใหก้ าหนดคา่ คงที่ใช้ช่อื sale มคี ่า 30 2.สร้างตัวแปร money มีค่า 5000 3.ใหท้ าการคานวณคา่ คงทเี่ ปน็ ส่วนลด 4. ให้แสดงผลตามใบงานที่ 9 และบันทกึ ชื่อไฟล์ work1_09.php

ตวั ดาเนินการ ตวั ดาเนนิ การ (Operator) คอื เครื่องหมายหรือสัญลกั ษณท์ ก่ี าหนดขึ้น สาหรบั ใช้ในการคานวณทางคณติ ศาสตร์ หรือเปรยี บเทียบ ตวั นาเนิน การแบง่ ออกเป็น 5 ประเภท ตวั ดาเนินการทางคณติ ศาสตร์ (Arithmetic operators) ตัวดาเนนิ การเปรยี บเทียบ (Comparison Operators) ตัวดาเนินการตรรกศาสตร์ (Logical operators) ตัวดาเนินการกาหนดคา่ (Assignment operator) ตัวดาเนนิ การระดบั บิต (Bitwise operators)

ตวั ดาเนินการทางคณติ ศาสตร์ ตัวดาเนินการในการหา สัญลกั ษณ์ ตัวดาเนนิ การ ตัวอยา่ ง ผลลัพธ์จากการกระทา + บวก $c = $a + $b ทางคณิตศาสตร์ เช่น - ลบ $c = $a - $b การบวก การลบ การคณู * คูณ $c = $a * $b แ ล ะ ห า ร ห า ร แ ล ะ จ ะ ไ ด้ / หาร $c = $a / $b ผลลัพธ์สุดท้ายออกมา % หารเอาเศษ $c = $a % $b คา่ เดียว ++ เพ่มิ ค่าขนึ่ 1 $a++ -- ลดคา่ ลง1 $b--

ตวั ดาเนนิ การเปรยี บเทียบ ตัวดาเนินการท่ี สญั ลักษณ์ ตวั ดาเนนิ การ ตัวอย่าง ใ ช้ ส า ห รั บ == เปรียบเทียบระหว่าง !=, <> เทา่ กับ $a == $b เป็นจรงิ ถา้ a เทา่ กับ b ไมเ่ ช่นน้นั เปน็ เทจ็ ค่าสองค่า ผลลัพธ์ ของการเปรียบเทยี บ < ไมเ่ ท่ากับ $a != $b เปน็ จรงิ ถา้ a ไมเ่ ทา่ กบั b ไมเ่ ชน่ นัน้ เป็น จะได้เป็น Boolean ท่ี <= เทจ็ มีค่าเป็นเพียง True หรือ False เท่านั้น > น้อยกวา่ $a < $b เป็นจริง ถ้า a นอ้ ยกวา่ b ไมเ่ ชน่ นั้นเปน็ เทจ็ >= น้อยกวา่ หรอื เท่ากับ $a <= $b เปน็ จริง ถา้ a น้อยกวา่ หรอื เทา่ กับ b ไม่เช่นน้นั เป็นเทจ็ มากกวา่ $a > $b เป็นจรงิ ถา้ a มากกว่า b ไมเ่ ชน่ นั้นเปน็ เทจ็ มากกว่าหรือเทา่ กบั $a >= $b เปน็ จริง ถา้ a มากกว่าหรอื เท่ากับ b ไม่เช่นน้ันเป็นเทจ็

ตัวดาเนินการตรรกศาสตร์ ตั ว ด า เ นิ น ก า ร สัญลักษณ์ ตัวดาเนนิ การ ตัวอยา่ ง ส า ห รั บ ส ร้ า ง && หรือ and และ (and) Expression จ า ก || หรอื or หรือ (or) $expr1 and $expr2 เป็นจริงถ้าหาก Expression ย่ อ ย ๆ ! หรือ not นเิ สธ (Not) Expression ทั้งสองเปน็ จรงิ ไมเ่ ชน่ น้นั เป็นเทจ็ โดยผลลัพธ์ท่ีได้จะ ^ หรอื xor xor เป็น Boolean ท่ีมีค่า $expr1 or $expr2 เป็นจริงถา้ หากอย่างน้อย True หรือ False หน่ึง Expression เปน็ จรงิ ไม่เชน่ นน้ั เปน็ เท็จ not $expr1 เป็นจริงถา้ หาก Expression เปน็ เท็จ และเป็นเทจ็ ถ้าหาก Expression เปน็ จริง $expr1 xor $expr2 เป็นจรงิ ถ้าหาก Expression ทั้งสองมคี ่าท่ีตา่ งกนั ไม่เชน่ นั้น เป็นเท็จ

ตัวดาเนนิ การกาหนดคา่ ตัวดาเนินการที่ใช้สาหรับกาหนดค่าให้กับตัวแปรหรือค่าคงท่ี เคร่อื งหมายเท่ากับ = <?php $x = 1; $y = $x + 5; $text = \"PHP language\"; ?>

ตัวดาเนนิ การระดับบิต ดาเนินการทม่ี ีการกระทากันในระดบั บติ ของข้อมูลซึง่ มีแค่ 1 และ 0 สัญลักษณ์ ตวั ดาเนนิ การ ตวั อยา่ ง <?php $a = 14; << Shift left $a << 2 echo $a <<2; echo $a >>2; >> Shift right $a >> 2 ?>

ใบงานที่ 10 การแสดงผลใบงานที่ 10 ตัวดาเนนิ การ ใชเ้ ขยี นคาสง่ั PHP ดงั ตอ่ ไปน้ีตอ่ ไปนี้ $num1=5; $num2=2; $num3=3; 1.ให้ทาการคานวณ และแสดงผลลพั ท์ $num1+ $num3* $num2 2.ให้ทาการเปรยี บเทยี บ $num1* $num1 มากกว่า $num1* $num2 3.ใหแ้ สดงผลตามใบงานท่ี 10 และบันทกึ ชอ่ื ไฟล์ work1_10.php

คาถาม