หน่วยที่ 1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการบัญชี

หน่วยท่ี 1 ความรู้เบื้องต้นเกย่ี วกบั การบัญชี สาระการเรียนรู้ 1. ประวตั ิและความเป็ นมาของการบญั ชี 2. ความหมายของการบญั ชี 3. วตั ถุประสงคข์ องการบญั ชี 4. ประโยชนข์ องการบญั ชี 5. ขอ้ สมมติฐานตามแมบ่ ทการบญั ชี 6. ขอ้ แนะนาในการเรียนวชิ าการบญั ชี 7. จรรยาบรรณของผปู้ ระกอบวชิ าชีพบญั ชี สาระสาคัญ ในปัจจุบนั หน่วยงานทางธุรกิจท่ีแสวงหาผลกาไร และหน่วยงานที่มิไดแ้ สงหาผลกาไรตอ้ งมี ขอ้ มูลพ้นื ฐานสาหรับการวางแผน การควบคุมและการตดั สินใจในการดาเนินงาน การบญั ชีนบั วา่ มี ความสาคญั อยา่ งยงิ่ เพราะขอ้ มูลทางการบญั ชีจะแสดงอยใู่ นรูปของตวั เลขทางการเงินท่ีสะทอ้ นถึง เหตุการณ์ที่เกิดข้ึน รวมท้งั กิจกรรมการดาเนินงานตา่ งๆ ของกิจการ ดงั น้นั การบญั ชีจึงมีบทบาทสาคญั เพราะเป็นเคร่ืองมือในการวดั ความสาเร็จหรือความลม้ เหลวของกิจการ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกประวตั ิและความเป็นมาของการบญั ชีได้ 2. บอกความหมายของการบญั ชีได้ 3. บอกวตั ถุประสงคข์ องการบญั ชีได้ 4. บอกประโยชน์ของการบญั ชีได้ 5. อธิบายขอ้ สมมติตามแม่บทการบญั ชีได้ 6. บอกขอ้ แนะนาในการเรียนวชิ าการบญั ชีไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 7. บอกจรรยาบรรณของผปู้ ระกอบวชิ าชีพไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง

แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ก่อนเรียน หน่วยที่ 1 จงเลือกคาตอบทถ่ี ูกต้องทส่ี ุดเพยี งข้อเดียว 1. บิดาแห่งการบญั ชีคือใคร ก. ลูกา ปาซิโอลิ ข. พระยาไชยยศสมบตั ิ ค. หลวงดาริ อิศรานุวรรต ง. ศาสตราจารย์ W.A. Paton 2. ขอ้ ใดคือความหมายของการบญั ชี ก. การจดั หมวดหมูท่ างบญั ชีใหเ้ ป็นระบบตามลาดบั ก่อน-หลงั ข. การเก็บรวบรวม บนั ทึก และสรุปผลเพอ่ื จดั ทารายงานทางการเงิน ค. ศิลปะของการเก็บรวบรวม จดบนั ทึก จาแนก และสรุปขอ้ มูลในรูปตวั เงิน ง. การสรุปขอ้ มูลทางการเงินของกิจการใหผ้ บู้ ริหารใชใ้ นการวางแผนและตดั สินใจ 3. ขอ้ ใดคือวตั ถุประสงคข์ องการบญั ชี ก. เพอ่ื ตรวจสอบการดาเนินงานของกิจการ ข. เพอ่ื รวบรวมหลกั ฐานทางการเงินของกิจการ ค. เพื่อจดบนั ทึกรายการท่ีเกิดข้ึนตามลาดบั ก่อน-หลงั ง. เพอ่ื ควบคุมการดาเนินงานใหบ้ รรลุวตั ถุประสงคท์ ่ีต้งั ไว้ 4. นายเดชตอ้ งการที่จะลงทุนซ้ือหุน้ ของบริษทั มารวยจากดั ก่อนตดั สินใจนายเดชไดศ้ ึกษาขอ้ มูลของ บริษทั จากงบการเงินของบริษทั ก่อนตดั สินใจซ้ือ การกระทาเช่นน้ีถือวา่ นายเดชใชป้ ระโยชนข์ องการ บญั ชีในขอ้ ใด ก. ใชเ้ ป็นเคร่ืองมือของฝ่ ายบริหาร ข. ใชเ้ ป็นเคร่ืองมือควบคุมในการปฏิบตั ิงาน ค. ใชเ้ ป็นเคร่ืองมือวดั ความสาเร็จของกิจการ ง. ใชเ้ ป็นขอ้ มูลสาหรับการตดั สินใจของบุคคลภายนอก

5. ขอ้ ใดคือขอ้ สมมติตามแม่บทการบญั ชี ก. การสรุปผลขอ้ มูลทางการเงิน ข. ดาเนินงานต่อเนื่องและระมดั ระวงั ค. เกณฑค์ งคา้ งและการดาเนินงานตอ่ เนื่อง ง. งบแสดงฐานะการเงินและงบกาไรขาดทุน 6. การเขียนตวั เลขจานวนบาทลงในช่องจานวนเงินตามหลกั การบนั ทึกบญั ชี ตอ้ งปฏิบตั ิตามขอ้ ใด ก. เขียนหลกั หน่วยเรียงจากซา้ ยไปขวา ข. เขียนหลกั หน่วยเรียงจากขวาไปซา้ ย ค. เขียนหลกั หน่วยชิดเส้นแบ่งช่องบาทและวนั ที่ ง. เขียนหลกั หน่วยชิดเส้นแบง่ ช่องบาทและสตางค์ 7. เม่ือตอ้ งการแกไ้ ขตวั เลขที่ผดิ ควรปฏิบตั ิตามขอ้ ใดจึงจะถูกหลกั วชิ าการ ก. ลบดว้ ยยางลบปากกา ข. ลบดว้ ยน้ายาปากกาลบคาผดิ ค. ขีดฆ่าดว้ ยปากกาเนน้ ขอ้ ความสีแดง แลว้ เขียนตวั เลขที่ถูกตอ้ งไวเ้ หนือตวั ท่ีผดิ และเซ็นกากบั ช่ือ ง. ขีดฆา่ ดว้ ยปากกาสีเดียวกนั แลว้ เขียนตวั เลขที่ถูกตอ้ งไวเ้ หนือตวั เลขที่ผดิ เขียนช่ือผแู้ กไ้ ขกากบั ไว้ 8. ผปู้ ระกอบการวชิ าชีพบญั ชีตอ้ งประกอบวชิ าชีพโดยมีความสามารถเพยี งพอท่ีจะปฏิบตั ิงานใหส้ าเร็จ ไดเ้ ป็นจรรยาบรรณของผปู้ ระกอบวชิ าชีพบญั ชีตามขอ้ ใด ก. การรักษาความลบั ข. ความรู้ความสามารถ ค. ความรับผดิ ชอบต่อผรู้ ับบริการ ง. ความรับผดิ ชอบต่อเพ่ือนร่วมวชิ าชีพ 9. ขอ้ ใดคือการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล ก. Classifying ข. Collecting

ค. Recording ง. Summarizing 10. ขอ้ ใดถือเป็ นการจาแนกขอ้ มูล ก. การจดั ทางบการเงิน ข. การเกบ็ ขอ้ มูลหลกั ฐานท่ีเกิดข้ึน ค. การบนั ทึกขอ้ มูลจากหลกั ฐานที่เกิดข้ึน ง. การจดั ขอ้ มูลที่บนั ทึกไวใ้ หเ้ ป็นหมวดหมู่

1. ประวตั แิ ละความเป็ นมาของการบญั ชี บิดาแห่งวชิ าการบญั ชี ลูกา ปาซิโอลิ (Luca Pacioli) พอ่ คา้ ชาวอิตาเลี่ยน ไดเ้ ขียนหนงั สือเชิงคณิตศาสตร์ช่ือ Summa de Arithmetica Geometrica Pro (ortionalita) ในปี ค.ศ.1494 โดยได้ กาหนดศพั ทท์ ี่ใชใ้ นการบนั ทึก รายการตามหลกั บญั ชีคู่ คือ “Debito” (Debit) หมายถึง “เป็ นหน่ึง” และ “Credito” (Credit) หมายถึง “เชื่อถือ” ซ่ึงเป็นท่ียอมรับและถือปฎิบตั ิจนถึง ปัจจุบนั ประเทศไทยผเู้ ผยแพร่ความรู้ทางดา้ นการบญั ชีในระยะแรก คือ พระยาไชยยศ สมบตั ิ (เสริม กฤษณามระ) และหลวงดาริอิศรานุวรรต (ม.ล.ดาริ อิศรางกูร ณ อยธุ ยา) ไดท้ าหลกั สูตรการสอนวชิ าการบญั ชีเพ่ือเผยแพร่ใหค้ นไทยมีความรู้ ทางดา้ นการบญั ชี โดยมี พรบ.การบญั ชี พ.ศ.2482 ใชเ้ พื่อจดั เก็บภาษีเงินได้ บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลในสมยั น้นั 2. ความหมายของการบญั ชี (Accounting) สมาคมนกั บญั ชีและผตู้ รวจสอบบญั ชีรับอนุญาตในสหรัฐอเมริกา (The American Institute of Certified Public Accountants–AICPA) ไดใ้ หค้ วามหมายของการบญั ชีไวว้ า่ “การบญั ชีเป็นศิลปะของ

การจดบนั ทึกรายการหรือเหตุการณ์ที่เกี่ยวขอ้ งกบั การเงินไวใ้ นรูปของเงินตรา การจดั หมวดหมูข่ อง รายการท่ีบนั ทึก การสรุปผลและการวเิ คราะห์ความหมายของรายการท่ีไดจ้ ดบนั ทึกไว้ โดยจดั ทาในรูป ของรายงานทางการเงิน” สมาคมนกั บญั ชีและผสู้ อบบญั ชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทย ซ่ึงเรียกยอ่ วา่ ส.บช. (The Institute of Ceritfied Accountants and Auditor of Thailand : ICAAT) ไดใ้ หค้ วามหมายของการบญั ชีไวด้ งั น้ี “การ บญั ชี (Accounting) หมายถึง ศิลปะของการเก็บรวบรวม บนั ทึก จาแนก และทาสรุปขอ้ มูลอนั เก่ียวกบั เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจในรูปตวั เงิน ผลงานข้นั สุดทา้ ยของการบญั ชีก็ คือการใหข้ อ้ มูลทางการเงิน ซ่ึง เป็นประโยชนแ์ ก่บุคคลหลายฝ่ าย และผทู้ ี่สนใจในกิจกรรมของกิจการ” ศาสตราจารย์ W.A. Paton แห่งมหาวทิ ยาลยั มิชิแกน ไดใ้ หค้ าจากดั ความ “การบญั ชี” (Accounting) วา่ การบญั ชี คือ “การช่วยอานวยใหก้ ารบริหารงานเศรษฐกิจของธุรกิจดาเนินไปไดอ้ ยา่ ง ราบรื่น” นกั บญั ชีจึงมีหนา้ ท่ีบนั ทึกรายการ ซ่ึงเกิดข้ึนกบั หน่วยธุรกิจเฉพาะที่สามารถตีคา่ เป็นตวั เงินได้ รวมท้งั เรียบเรียง จดั แยกประเภท วเิ คราะห์และรายงานผลสรุปของรายการท่ีเกิดข้ึน จากความหมายขา้ งตน้ จึงสรุปไดว้ า่ การบญั ชีจึง หมายถึง การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล จดบนั ทึกและสรุป ขอ้ มูลเกี่ยวกบั เหตุการณ์ที่มีมูลค่าเป็นตวั เงิน โดยจาแนกไวเ้ ป็นหมวดหมูต่ ามลาดบั ก่อน- หลงั เพือ่ ประโยชน์แก่ผทู้ ่ีเกี่ยวขอ้ ง สรุปเป็นข้นั ตอนไดด้ งั น้ี 2.1 การเกบ็ รวบรวม (Collecting) หมายถึง การเก็บขอ้ มูลจากหลกั ฐานที่เกิดข้ึนประจาวนั ของธุรกิจ เช่น หลกั ฐานที่เกิดจากการซ้ือ ขาย การรับเงิน และจา่ ยเงิน เป็นตน้ 2.2 การจดบนั ทึก (Recording) หมายถึง การบนั ทึกขอ้ มูลจากหลกั ฐานท่ีเกิดข้ึนประจาวนั ในสมุด หรือแบบฟอร์มที่กิจการกาหนดข้ึน โดยเรียงเหตุการณ์ท่ีเกิดข้ึนตามลาดบั ก่อนหลงั 2.3 การจาแนก (Classifying) หมายถึง การจดั แยกขอ้ มูลที่บนั ทึกไวใ้ หเ้ ป็นกลุ่มเดียวกนั มาแยกเป็น หมวดหมู่ เพื่อประโยชนใ์ นการอา้ งอิงและใชง้ าน 2.4 การสรุปผลขอ้ มูล (Summarizing) หมายถึง การนาขอ้ มูลท่ีจดั แยกไวเ้ ป็นหมวดหมู่มา สรุปผล เพอ่ื ทาใหท้ ราบผลการดาเนินงาน (กาไร/ขาดทุน) และฐานะทางการเงิน (สินทรัพย์ หน้ีสิน ทุน) 3. วตั ถุประสงค์ของการบัญชี

เป้าหมายสาคญั ของการดาเนินธุรกิจ คือ การดาเนินงานที่มีผลกาไรสูงท่ีสุด มีฐานะการเงินท่ีมนั่ คง ซ่ึงเครื่องมือท่ีสามารถทาให้ธุรกิจทราบผลการดาเนินงานและฐานะของกิจการ คือ การจดั ทาบญั ชีที่ ถูกตอ้ ง ชดั เจน และเชื่อถือได้ ซ่ึงการจดั ทาบญั ชีมีวตั ถุประสงคด์ งั น้ี 3.1 เพอื่ จดบนั ทึกรายการคา้ ที่เกิดข้ึนตามลาดบั ก่อนหลงั ใหเ้ ป็นหมวดหมูเ่ ดียวกนั 3.2 เพ่อื ใหท้ ราบผลการดาเนินงาน และฐานะทางการเงินของกิจการ 3.3 เพอื่ ใชใ้ นการวางแผน และตดั สินใจของผทู้ ่ีเก่ียวขอ้ ง 3.4 เพื่อใชใ้ นการอา้ งอิงตามกฎหมาย 4. ประโยชน์ของการบัญชี การบญั ชีเป็ นการจดบนั ทึกและจาแนกหมวดหมูข่ องรายการคา้ ที่เกิดข้ึนประจาวนั ซ่ึงการบนั ทึก บญั ชีท่ีเป็นน่าเช่ือถือและเป็นปัจจุบนั จะมีประโยชน์ดงั น้ี 4.1 ช่วยใหท้ ราบผลการดาเนินงานของกิจการ ณ ช่วงเวลาใดเวลาหน่ึง วา่ มีกาไรหรือขาดทุนเป็น จานวนเทา่ ใด 4.2 ช่วยใหท้ ราบฐานะทางการเงิน ซ่ึงประกอบดว้ ย จานวนสินทรัพย์ หน้ีสิน และทุนของกิจการ ณ วนั ใดวนั หน่ึง วา่ มีจานวนเทา่ ใด 4.3 ช่วยใหผ้ เู้ กี่ยวขอ้ งมีขอ้ มูลในการวางแผนและตดั สินใจ เช่น เจา้ ของกิจการ ผบู้ ริหาร เจา้ หน้ี หน่วยงานรัฐบาล นกั ลงทุน เป็นตน้ 4.4 ใชใ้ นการควบคุมดูแลรักษาสินทรัพยข์ องกิจการ

5. ข้อสมมติฐานตามแม่บทการบัญชี (Accounting Framework) คณะกรรมการกาหนดมาตรฐานการบญั ชี สภาวชิ าชีพบญั ชี ไดก้ าหนดแม่บทการบญั ชีข้ึนเพ่ือวาง แนวคิดพ้นื ฐานในการจดั ทาและนาเสนองบการเงินแก่ผใู้ ชง้ บการเงิน ซ่ึงผใู้ ชง้ บการเงินควรรู้และเขา้ ใจ เหตุผลในการจดบนั ทึกรายการตา่ ง ๆ ทางการบญั ชีและในการเสนอขอ้ มูลเหล่าน้นั ในรูปแบบของงบ การเงินโดยมีขอ้ สมมติฐานตามแม่บทการบญั ชี ดงั น้ี 5.1 เกณฑค์ งคา้ ง (Accrual Basis) เป็นเกณฑว์ ดั ผลการดาเนินงาน โดยการบนั ทึกบญั ชีรายไดแ้ ละ ค่าใชจ้ ่ายดว้ ยการยดึ หลกั วา่ รายไดแ้ ละค่าใชจ้ า่ ยที่เกิดข้ึนในงวดบญั ชีใด ใหถ้ ือเป็ นรายไดแ้ ละค่าใชจ้ า่ ย ของงวดบญั ชีน้นั ๆ ไมว่ า่ จะรับหรือจ่ายเป็นเงินสดหรือไม่กต็ าม งบการเงินท่ีจดั ทาข้ึนตามเกณฑค์ งคา้ ง จะช่วยวดั ผลการดาเนินงานท่ีถูกตอ้ งและตรงกบั ความเป็นจริงท่ีเกิดข้ึนมากที่สุด เพราะจะบนั ทึก รายการตา่ งๆ และแสดงในงบการเงินตามงวดบญั ชีน้นั ๆ 5.2 การดาเนินงานตอ่ เน่ือง (Going Concern) เป็นขอ้ สมมติท่ีกล่าวถึงกิจการที่จดั ต้งั ตามวตั ถุประสงค์ ท่ีจะดาเนินงานอยา่ งต่อเนื่องและดารงอยตู่ ่อไปในอนาคต หากกิจการมีเจตนาหรือความจาเป็นที่จะเลิก กิจการของการดาเนินงานอยา่ งมีนยั สาคญั งบการเงินตอ้ งจดั ทาข้ึนโดยใชเ้ กณฑอ์ ื่นและตอ้ งเปิ ดเผย หลกั เกณฑท์ ี่ใชใ้ นงบการเงินน้นั ๆ 6. ข้อแนะนาในการเรียนวชิ าการบัญชี 6.1 ควรอา่ นหนงั สือวชิ าการบญั ชีอยา่ งนอ้ ย 2 รอบ เมื่ออา่ นแลว้ ไม่เขา้ ใจหรือมีปัญหาให้ ถามครูผสู้ อนหรือผรู้ ู้ 6.2 ควรทาแบบฝึกหดั ดว้ ยตนเองอยา่ งสม่าเสมอ รวดเร็วและถูกตอ้ ง 6.3 การเขียนตวั หนงั สือและตวั เลขใหช้ ดั เจน อา่ นง่าย สะอาด และเป็นระเบียบ 6.4 การเขียนตวั เลขทางบญั ชี ควรปฏิบตั ิ ดงั น้ี 6.4.1 การเขียนตวั เลขใหต้ รงหลกั เสมอ เช่น หลกั หน่วยเขียนใหต้ รงกบั หลกั หน่วย หลกั สิบเขียนใหต้ รงกบั หลกั สิบ เป็นตน้

6.4.2 ตวั เลข 3 ตวั ข้ึนไป ใหใ้ ชเ้ ครื่องหมายจุลภาค ( , ) คนั่ ตวั เลข โดยนบั จากหลกั หน่วยไปทางซา้ ยมือทุก 3 ตวั 6.4.3 ถา้ ไมม่ ีเศษสตางคใ์ หใ้ ชเ้ คร่ืองหมาย “ – ” ตวั อยา่ ง เช่น 45,230.- 34,200.25 27,800.75 6.4.4 การเขียนตวั เลขในช่องจานวนเงินใหเ้ ขียนชิดเส้นดา้ นขวามือเสมอ ตวั อยา่ งเช่น จานวนเงิน บาท สต. 25,000 25 20,525 - 50,285 50 6.4.5 การเขียนตวั เลขในทางบญั ชี หากเขียนตวั เลขผดิ ไม่ควรขดู ลบหรือขีดฆ่า หรือ เขียนซ้าตวั เลขเดิมใหแ้ กไ้ ขโดยขีดเส้นขวางทบั ตวั เลขท่ีผิดดว้ ยหมึกสีเดียวกนั แลว้ เขียนตวั เลขใหมท่ ่ี ถูกตอ้ งไวเ้ หนือตวั เลขที่เขียนผดิ เขียนช่ือผแู้ กไ้ ขกากบั ไว้ และการแกไ้ ขตวั เลขที่เขียนผิดตอ้ งแกท้ ้งั จานวน ตวั อยา่ งเช่น 53,230.- 52,320.- ดวงพร 40,500.- ดวงพร 45,200.- 7. จรรยาบรรณของผู้ประกอบวชิ าชีพบญั ชี ขอ้ บงั คบั น้ี มีความสาคญั ต่อผปู้ ระกอบวชิ าชีพบญั ชีเป็นอยา่ งมากในการช่วยส่งเสริม พฒั นาและ กากบั ดูแลการปฏิบตั ิงานของผปู้ ระกอบวชิ าชีพบญั ชีใหถ้ ูกตอ้ งตามจรรยาบรรณแห่งวชิ าชีพบญั ชี โดย บงั คบั ดงั กล่าวจะครอบคลุมเน้ือหาตามขอ้ บญั ญตั ิแห่งพระราชบญั ญตั ิวชิ าชีพบญั ชี พ.ศ.2547 และมี ความสอดคลอ้ งกบั ขอ้ กาหนดจรรยาบรรณ ท่ีกาหนดโดย IFAC ประกอบดว้ ยขอ้ กาหนดจรรยาบรรณ (Fundamental Principle) 7.1 Integrity Objectivity

7.1.1 ความโปร่งใส 7.1.2 ความเป็นอิสระ 7.1.3 ความเท่ียงธรรม 7.1.4 ความซื่อสัตยส์ ุจริต 7.2 Professional Competence and Due Care 7.2.1 ความรู้ความสามารถ 7.2.2 มาตรฐานในการปฏิบตั ิงาน 7.3 Confidentiality 7.3.1 การรักษาความลบั 7.4 Professional Behavior 7.4.1 ความรับผดิ ชอบต่อผูร้ ับบริการ 7.4.2 ความรับผดิ ชอบต่อผถู้ ือหุน้ ผูเ้ ป็นหุ้นส่วน บุคคล หรือนิติบุคคลท่ีผปู้ ระกอบวชิ าชีพ ปฏิบตั ิหนา้ ท่ีให้ 7.4.3 ความรับผดิ ชอบต่อเพื่อนร่วมวชิ าชีพและจรรยาบรรณทว่ั ไป สรุปความรู้เบื้องต้นเกย่ี วกบั การบญั ชี การบญั ชี หมายถึง การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล จดบนั ทึกและสรุปขอ้ มูลเก่ียวกบั เหตุการณ์ที่มีมูลค่า เป็นตวั เงิน โดยจาแนกไวเ้ ป็นหมวดหมู่ตามลาดบั ก่อน หลงั เพอื่ ประโยชนแ์ ก่ผทู้ ่ีเก่ียวขอ้ ง โดยมี วตั ถุประสงค์ ดงั น้ี 1. เพื่อจดบนั ทึกรายการคา้ ท่ีเกิดข้ึนตามลาดบั ก่อนหลงั ใหเ้ ป็นหมวดหมู่เดียวกนั

2. เพ่ือใหท้ ราบผลการดาเนินงาน และฐานะทางการเงินของกิจการ 3. เพ่อื ใชใ้ นการวางแผน และตดั สินใจของผทู้ ี่เก่ียวขอ้ ง 4. เพือ่ ใชใ้ นการอา้ งอิงตามกฎหมาย แมบ่ ทการบญั ชี กาหนดข้ึนเพ่ือวางแนวคิดพ้ืนฐานในการจดั ทาและนาเสนองบการเงินแก่ผใู้ ชง้ บ การเงิน ซ่ึงผใู้ ชง้ บการเงินควรรู้และเขา้ ใจเหตุผลในการจดบนั ทึกรายการต่างๆ ทางการบญั ชีและในการ เสนอขอ้ มูลเหล่าน้นั ในรูปแบบของงบการเงินโดยมีขอ้ สมมติฐาน ดงั น้ี 1. เกณฑค์ งคา้ ง (Accrual basis) 2. การดาเนินงานต่อเน่ือง (Going concern) ศัพท์บัญชี ศัพท์บัญชี การบญั ชี การเก็บรวบรวม ศัพท์ภาษาองั กฤษ การจดบนั ทึก Accounting การจาแนก Collecting การสรุปผลขอ้ มูล Recording แมบ่ ทการบญั ชี Classifying เกณฑค์ งคา้ ง Summarizing การดาเนินงานตอ่ เนื่อง Accounting Framework Accrual Basis Going Concern คาถามท้ายหน่วยที่ 1 เรื่อง ความรู้เบือ้ งต้นเกี่ยวกับการบญั ชี คาชี้แจง จงตอบคาถามต่อไปน้ี

1. อธิบายความหมายของการบญั ชี ……………………………………………………………… ……………………………………………………………………… ……………………………………………………………………… ……………………………………………………………………… …… ……………………………………………………………………… ………………………………..…………………………………… …………………………………………………………………..… ……………………………………………………………………… ………… ……………………………………………………………..……… ……………………………………………………………………… …… 2. จงบอกวัตถปุ ระสงคข์ องการบัญชี ……………………………………………………………… ……………………………………………………………………… ……………………………………………………………………… ……………………………………………………………………… …… ……………………………………………………………………… ………………………………..……………………………………

…………………………………………………………………..… ……………………………………………………………………… ………… ……………………………………………………………..……… ……………………………………………………………………… …… 3. จงบอกประโยชนข์ องการบญั ชี ……………………………………………………………… ……………………………………………………………………… ……………………………………………………………………… ……………………………………………………………………… …… ……………………………………………………………………… ………………………………..…………………………………… …………………………………………………………………..… ……………………………………………………………………… ………… ……………………………………………………………..……… ……………………………………………………………………… …… 4. ข้อสมมติฐานตามแม่บทการบัญชี มีอะไรบา้ ง จงอธิบาย

……………………………………………………………… ……………………………………………………………………… ……………………………………………………………………… ……………………………………………………………………… …… ……………………………………………………………………… ………………………………..…………………………………… …………………………………………………………………..… ……………………………………………………………………… ………… ……………………………………………………………..……… ……………………………………………………………………… …… 5. อธิบายขอ้ แนะนาการเรียนบัญชี มาอย่างนอ้ ย 3 ขอ้ ……………………………………………………………… ……………………………………………………………………… ……………………………………………………………………… ……………………………………………………………………… ……

……………………………………………………………..……… ……………………………………………………………………… …… ……………………………………………………………..……… ……………………………………………………………………… …… ……………………………………………………………..……… ……………………………………………………………………… ……

แบบฝกึ หดั หนว่ ยท่ี 1 เรอ่ื ง ความรเู้ บอื้ งตน้ เกย่ี วกบั การบัญชี 1. จงเขยี นจานวนตวั เลขต่อไปนเ้ี ป็นตัวอักษร ลาดบั จานวนเงิน จานวนเงิน (ตวั อักษร) (ตวั เลข) 1. 2. 115.50 3. 2,838.00 4. 13,500.00 321,840.89

5. 6,081,888.25 2.จงเขยี นจานวนเงนิ ตอ่ ไปนเ้ี ปน็ ตวั เลขและหายอดรวม ลาดบั จานวนเงิน (ตัวอักษร) จานวนเงนิ (ตัวเลข) 1. หา้ รอ้ ยสามสบิ หา้ บาทถ้วน 2. สามพันสรี่ ้อยห้าสิบบาทห้าสบิ สตางค์ 3. เจ็ดหม่ืนสามพันส่ีร้อยส่ีสิบหา้ บาทยีส่ บิ หา้ สตางค์ 4. หา้ แสนสามหมนื่ ส่ีพันบาทเจด็ สบิ ห้า สตางค์ 5. หน่งึ ล้านสองหมนื่ บาทถ้วน รวม 3.จงแก้ไขตวั เลขตอ่ ไปนี้

ลาดบั ตัวเลขทผ่ี ิด ตัวเลขท่ี วิธแี กไ้ ข ถูกต้อง ตวั อย่าง 4,500 5,400 8,900 5,400 4,500 วนิดา 1. 10,500 2. 31,000 9,800 3. 119,919 4. 180,000 10,050 5. 13,000 199,919 108,000 4. จงบวกเลขตอ่ ไปนี้ แลว้ เขยี นลงในช่องว่าง โดยใชห้ ลักการ เขยี นตัวเลขทางการบัญชี 1. 321 562 426 763 728 124 2. 120 568 326 739 789 482

3. 45,834 3,529 789,425 548 678,583 6,748 4. 120,100 4,200 14,687 5,432 4,326 285 5. 74,321 5,678 4,785 5,896 5,672 23 4,384 58,643 5. จงหาจานวนเงนิ ในช่องวา่ งและรวมยอดให้ถูกตอ้ ง ลาดั รายการ จานวน หนว่ ย ราคาตอ่ รวมเป็นเงนิ บ หน่วย 1. อิฐ 1,000 ก้อน 5 2. หิน 5 ลบ.ม 800 3. ปูน 30 ถุง 110 4. ทราย 4 ลบ.ม. 450 รวมยอดทัง้ สนิ้ (ตัวเลข)

จานวนเงินเปน็ ตวั อักษร แบบประเมนิ ผลการเรียนรหู้ ลงั เรยี น หนว่ ยที่ 1 จงเลอื กคาตอบทถ่ี กู ตอ้ งทีส่ ดุ เพยี งขอ้ เดยี ว 1. บิดาแห่งการบัญชีคอื ใคร ก. หลวงดาริ อิศรานุวรรต ข. พระยาไชยยศสมบัติ ค. ลกู า ปาซิโอลิ ง. ศาสตราจารย์ W.A. Paton 2. ขอ้ ใดคอื วัตถุประสงคข์ องการบัญชี ก. เพ่ือตรวจสอบการดาเนินงานของกิจการ ข. เพื่อรวบรวมหลกั ฐานทางการเงินของกจิ การ ค. เพื่อควบคมุ การดาเนนิ งานใหบ้ รรลวุ ัตถุประสงค์ทต่ี ง้ั ไว้

ง. เพอ่ื จดบนั ทกึ รายการท่ีเกิดขึ้นตามลาดับก่อน-หลัง 3. ขอ้ ใดคอื ความหมายของการบญั ชี ก. การเกบ็ รวบรวม บนั ทกึ และสรุปผลเพ่ือจัดทารายงานทางการ เงนิ ข. การจัดหมวดหมู่ทางบัญชใี ห้เปน็ ระบบตามลาดับก่อน-หลัง ค. การสรุปข้อมลู ทางการเงนิ ของกิจการใหผ้ ู้บรหิ ารใช้ในการ วางแผนและตัดสนิ ใจ ง. ศิลปะของการเก็บรวบรวม จดบันทึก จาแนก และสรุปขอ้ มูลใน รปู ตัวเงิน 4. ขอ้ ใดคอื ข้อสมมตติ ามแมบ่ ทการบัญชี ก. งบแสดงฐานะการเงินและงบกาไรขาดทนุ ข. การสรุปผลข้อมูลทางการเงนิ ค. ดาเนนิ งานต่อเนื่องและระมัดระวงั ง. เกณฑ์คงคา้ งและการดาเนนิ งานต่อเน่อื ง 5. การเขียนตวั เลขจานวนบาทลงในช่องจานวนเงินตามหลักการ บนั ทกึ บัญชี ตอ้ งปฏบิ ัติตามข้อใด ก. เขียนหลกั หนว่ ยชดิ เส้นแบ่งช่องบาทและสตางค์ ข. เขียนหลกั หน่วยชดิ เส้นแบง่ ชอ่ งบาทและวันที่ ค. เขยี นหลักหนว่ ยเรยี งจากซา้ ยไปขวา ง. เขยี นหลกั หน่วยเรยี งจากขวาไปซา้ ย

6. นายเดชตอ้ งการที่จะลงทุนซ้ือหนุ้ ของบริษทั มารวยจากดั กอ่ น ตัดสนิ ใจนายเดชไดศ้ ึกษาขอ้ มลู ของบริษัทจากงบการเงนิ ของบรษิ ทั ก่อนตัดสินใจซอ้ื การกระทาเชน่ นถ้ี ือว่านายเดชใช้ประโยชน์ของ การบญั ชใี นข้อใด ก. ใชเ้ ป็นเคร่อื งมอื วัดความสาเร็จของกจิ การ ข. ใช้เป็นข้อมูลสาหรับการตัดสนิ ใจของบคุ คลภายนอก ค. ใช้เป็นเครื่องมือของฝา่ ยบรหิ าร ง. ใชเ้ ปน็ เคร่อื งมือควบคุมในการปฏบิ ัติงาน 7. ขอ้ ใดถือเปน็ การจาแนกข้อมูล ก. การบันทึกข้อมลู จากหลักฐานทเ่ี กิดข้นึ ข. การจัดทางบการเงิน ค. การเก็บขอ้ มูลหลกั ฐานทเี่ กิดขึ้น ง. การจัดขอ้ มลู ท่ีบันทกึ ไวใ้ ห้เปน็ หมวดหมู่ 8. ข้อใดคือการเก็บรวบรวมขอ้ มลู ก. Classifying ข. Collecting ค. Summarizing ง. Recording 9. เมื่อต้องการแก้ไขตวั เลขทผี่ ดิ ควรปฏบิ ัติตามข้อใดจงึ จะถกู หลัก วชิ าการ ก. ลบดว้ ยยางลบปากกา ข. ลบดว้ ยนา้ ยาปากกาลบคาผิด ค. ขีดฆา่ ดว้ ยปากกาสีเดยี วกนั แล้วเขียนตัวเลขที่ถกู ตอ้ งไว้เหนอื ตัวเลขทผ่ี ิด เขียนช่ือผ้แู กไ้ ขกากับไว้ ง. ขดี ฆา่ ด้วยปากกาเน้นข้อความสีแดง แล้วเขยี นตวั เลขท่ีถูกต้อง ไวเ้ หนอื ตัวทีผ่ ดิ และเซ็นกากบั ชอื่

10. ผปู้ ระกอบการวิชาชีพบัญชีตอ้ งประกอบวิชาชีพโดยมี ความสามารถเพียงพอท่ีจะปฏิบัติงานใหส้ าเรจ็ ไดเ้ ป็นจรรยาบรรณ ของผปู้ ระกอบวชิ าชีพบญั ชีตามขอ้ ใด ก. ความรคู้ วามสามารถ ข. ความรับผดิ ชอบตอ่ เพอื่ นร่วมวิชาชีพ ค. การรกั ษาความลบั ง. ความรับผดิ ชอบต่อผู้รับบริการ

เฉลยแบบประเมนิ ผลการเรยี นรกู้ อ่ นเรยี น หนว่ ยท่ี 1 ความรเู้ บอ้ื งตน้ เกย่ี วกบั การบัญชี 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. กคค ง ค ง งขขง

เฉลยแบบประเมนิ ผลการเรยี นรหู้ ลงั เรยี น หนว่ ยที่ 1 ความรูเ้ บอื้ งตน้ เกย่ี วกบั การบัญชี 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10.

ค ง ก ง กข ง ขคก