ขันตอนการปฏิบตั งิ าน แนวทาง / เอกสารที่เกย่ี วข้อง จดุ เร่ิมต้น ➢ การติดตามประเมินสถานการณ์ที่เก่ียวข้อง ด าเนิ น การโด ย ก ลุ่ ม ภ ารกิ จ ห รือบุ ค ค ล ที่ ติดตามเฝ้าระวังแนวโน้มทีจ่ ะเกดิ ภาวะฉกุ เฉนิ รับผิดชอบระบบเฝ้าระวังข้อมูล โดยมีการ วิ เค ร า ะ ห์ ข้ อ มู ล เพ่ื อ พิ จ าร ณ า ว่ า เห ตุ ก า ร ณ์ ท่ี จดั ประชมุ ประเมินสถานการณ์ และรายงาน เกิดข้ึนเป็นภาวะฉุกเฉิน หรือเป็นข้อส่ังการตาม ผบู้ ญั ชาการเหตกุ ารณ์ นโยบายท่เี ข้าเกณฑเ์ ปิดศนู ย์ EOC หรือไม่ ➢ เอ ก ส า ร ที่ เก่ี ย ว ข้ อ ง ได้ แ ก่ ส รุ ป ร า ย งา น สถานการณ์ รายงานการวิเคราะห์ความเสี่ยง เป็นตน้ พจิ ารณาขอ้ มลู ทีไ่ ดร้ ับ เพ่ือเปดิ ศนู ย์ ปฏบิ ัตกิ ารภาวะฉุกเฉนิ เปดิ ศนู ย์ ไมเ่ ข้าขา่ ย ➢ ในกรณีพจิ ารณาแล้วเข้าเกณฑก์ ารเปดิ ศนู ย์ EOC ภาวะฉกุ เฉนิ ก่อน การจัด ตั้ งศู น ย์ EOC จ ะต้ องกาห น ด EOC วัตถุประสงค์ว่าจะดาเนินการในด้านใดบ้าง และ ดาเนนิ งาน ดาเนนิ การเพ่ืออะไร ตามปกติ ➢ หลังจากได้วัตถุประสงค์แล้ว ให้กาหนดกลุ่ม ประชุมคณะทางานตามคาสง่ั ตรวจสอบความ ภารกิจท่ีเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานเพ่ือตอบ พรอ้ มของทรัพยากร วัตถุประสงค์ หลังจากนั้นจัดทาเป็นโครงสร้าง ตามระบบบัญชาการเหตุการณ์ ประสานหน่วยงานทเี่ กยี่ วข้อง ➢ เม่ือมีโครงสรา้ งศูนย์ EOC และมีบุคลากรแล้วส่ิง สาคัญที่สุดคือการประชุมคณะทางานเพื่อทา ความเข้าใจในหน้าที่ และรูปแบบการดาเนินงาน พร้อมทั้งจดั ทาแผนการปฏบิ ัตงิ านทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง 1 ภาพท่ี 26 แผนผงั ขน้ั ขตนัอตนอกนากราเปรปดิ ศฏูนบิ ยตั ป์ ิงฏานบิ ตั ิการภาวะฉุกเฉนิ เอกสารที่เก่ียวข้อง 45Package ตน้ แบบการขับเคล่อื นกลไกปอ้ งกนั ควบคมุ โรคและภัยสขุ ภาพ เครือขา่ ยพัฒนาคุณภาพชวี ติ ระดบั อำ�เภอ ส�ำ นกั งานป้องกันควบคมุ โรคท่ี 8 จงั หวดั อุดรธานี
ขนั ตอนการปฏบิ ัติงาน แนวทาง / เอกสารท่ีเกีย่ วขอ้ ง - แผนตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน จุด1เร่ิมตน้ ➢- กากราตริจดัดตทาามแปผรนะขเอมงินบสปถราะนมกาณารชณ่วง์ทก่ีเากรี่ยตวอขบ้อโตง้ ตตอดิ บตโาตม้สเฝถ้าารนตะกอวาบังรแโณตนฉ์ภ้วุกโานเวฉม้ะินฉทกุจ่ีแเะลฉเะนิกทิดบภทาววะนฉแกุ ผเนฉนิ ด าภเานวิะนฉกุ เาฉรินโด ย ก ลุ่ ม ภ ารกิ จ ห รือบุ ค ค ล ที่ จดั ประชุมประเมนิ สถานการณ์ และรายงาน - รับกผาิรดเชตอรียบมรดะ้าบนบเวเฝช้าภรัณะฑวัง์ วขัส้อดมุอูลุปโกดรยณม์ ีแกลาะร ผ้บู ัญชาการเหตกุ ารณ์ วิเสคารราเคะมหชี ์ขว่ ้องกมาูลรเตพอ่ือบพโติจภ้ าารวณะฉากุ วเ่าฉเินหตุการณ์ที่ ติดตามประเมินสถานการณ์ - เกกิดาขรึ้นเเฝป้า็นรภะาววังะปฉุ้กอเงฉกินันหครวือบเปค็นุมขโ้อรคสั่งกแาลระตภาัมย นโสยขุ บภาายพทชเ่ี ขว่ ้างกเกาณรตฑอเ์ บปโดิ ตศภ้ ูนายว์ ะEฉOุกCเฉหนิ รอื ไม่ ➢- เอกการสสา่ือรสทา่ีรเแกล่ี ยะวปขร้ อะชงาไสดัม้ แพกัน่ ธส์ ใรนุ ปช่วรงาตยองบาโนต้ สถภานวะกฉากุรเณฉนิ์ รายงานการวิเคราะห์ความเส่ียง - เปเ็นกตณ้นฑก์ ารประเมนิ สถานการณ์ รภวาบรรกวิจมตขา่ ้องๆมูลปแพผฏลจิเลิบหาะกตัรตเรพกิณาาุกราอื่ยาารดเขงรปภา้อาณิดาเมนวนศ์ลูะในูินหทฉยง่ไี้ผกุ ์าดู้เบน้รฉบัญัจนิ าชกากกลารุ่ม เปดิ ศนู ย์ พจิ ารณาสถานการณ์ ไม่เขา้ ข่าย ➢ ในกรณพี ิจารณาแล้วเข้าเกณฑก์ ารเปิดศูนย์ EOC และให้ข้อเสนอแนะ ภาวะฉกุ เฉิน ก่อน การจัด ตั้ งศู น ย์ EOC จ ะต้ องกาห น ด EOC วัตถุประสงค์ว่าจะดาเนินการในด้านใดบ้าง และ ดาเนนิ งาน ดาเนินการเพอื่ อะไร ตามปกติ ➢ หลังจากได้วัตถุประสงค์แล้ว ให้กาหนดกลุ่ม สถานการณ์ ภารกิจท่ีเก่ียวข้องกับการปฏิบัติงานเพื่อตอบ ยงั ไมป่ กติ วัตถุประสงค์ หลังจากน้ันจัดทาเป็นโครงสร้าง ตามระบบบัญชาการเหตุการณ์ ประชุมคณะทางานตามคาสั่ง ตรวจสอบความ เสนอผบู้ ัญพชรา้อกมารขเอหงตทุกราัพรยณา์ปกิดร EOC ➢ เมื่อมีโครงสรา้ งศูนย์ EOC และมีบุคลากรแล้วสิ่ง สาคัญท่ีสุดคือการประชุมคณะทางานเพ่ือทา สง่ มอบงาน และสัง่ ปิด EOC ความเข้าใจในหน้าที่ และรูปแบบการดาเนินงาน ประสานหน่วยงานท่เี กี่ยวข้อง พรอ้ มทัง้ จดั ทาแผนการปฏิบัตงิ านทเ่ี กี่ยวข้อง จุดส้ินสดุ ภาพท่ี 26 แผนผงั ขั้นตอน การเปดิ ศนู ยป์ ฏิบตั ิการภาวะฉุกเฉนิ (ตอ่ ) 46 Package ต้นแบบการขับเคลือ่ นกลไกปอ้ งกันควบคมุ โรคและภยั สขุ ภาพ เครอื ขา่ ยพฒั นาคุณภาพชวี ิตระดบั อ�ำ เภอ ส�ำ นักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 8 จงั หวดั อุดรธานี
ภาพ ่ีท 27 ัตวอ ่ยางกลุ่มภารกิจใน ูศน ์ยป ิฏ ับติการภาวะ ุฉกเฉิน ตามโครงส ้รางระบบบัญชาการเห ุตการณ์ พร้อมบทบาทห ้นา ่ีท 47Package ต้นแบบการขับเคลอ่ื นกลไกป้องกนั ควบคุมโรคและภัยสขุ ภาพ เครอื ขา่ ยพฒั นาคุณภาพชีวิตระดับอ�ำ เภอ สำ�นกั งานป้องกันควบคุมโรคท่ี 8 จงั หวัดอุดรธานี
ความเช่อื มโยงระหวา่ ง EOC จงั หวัด (เขตเมอื ง) และ EOC พืนที่ โดยปกติแล้ว ในกรณีท่ีเกิดเหตุการณ์สาธารณภัย หรือหตุการภาวะฉุกเฉินขนาดเล็ก ท่ีอยู่ในระดับ ท้องถิ่นน้ันๆรับมือได้เอง ผู้มีอานาจส่ังการ หรือผู้บัญชาการณ์เหตุการณ์จะเป็นผู้บริหารในพื้นที่น้ันๆ และ อาจจะเป็นผู้บริหารของหน่วยงานย่อยในพื้นที่ซึ่งได้รับการมอบหมาย เช่น ในกรณีเกิดการระบาดของโรคติด เช้ือไวรัสซิกา ในพื้นท่ีอาเภอแห่งหนึ่ง ผู้บัญชาการเหตุการณ์อาจจะเป็นนายอาเภอ ซึ่งเป็นผู้สั่งการหลัก และ จะมีหลายหน่วยงานเข้าไปเก่ียวข้อง ซึ่งแต่ละหน่วยงานจะรับคาส่ังจากนายอาเภอ และไปปฏิบัติตามใน บทบาทหน้าที่ทต่ี นเองเก่ยี วขอ้ ง ในรูปแบบต่างๆ หรือ นายอาเภออาจมอบอานาจให้สาธารณสขุ อาเภอ ซ่ึงเป็น ผดู้ แู ลด้านโรคตดิ ตอ่ เปน็ ผบู้ ญั ชาการเหตุการณ์ในเหตกุ ารณท์ ี่เกดิ ขน้ึ ก็สามารถทาได้ ในกรณีที่เกิดเหตกุ ารณ์สาธารณภัย หรือภาวะฉกุ เฉินในระดับทที่ ้องถิ่น หรอื พนื้ ท่ีไมส่ ามารถจัดการได้ ผู้ที่จะเข้ามาดาเนินการเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์คือผู้บริหารในระดับจังหวัด เช่น ผู้ว่าราชการจังหวัด จะมี หน่วยงานในระดับจังหวัดหลายหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องเข้ามาร่วมปฏิบัติการในศูนย์ ซ่ึงเป็นการบัญชาการณ์ ระดับจังหวัด โดยผู้บริหารหน่วยงานในระดับพื้นที่จะร่วมอยู่ในคณ ะทางานด้วยเพ่ือรับคาส่ัง หรือข้อสั่งการ หลังจากน้ันผู้บัญชาการเหตุการณ์ในระดับพ้ืนท่ีจะนาข้อส่ังการมาปฏิบัติซ่ึงอาจใช้วิธีการเปิด ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินในระดับท้องถิ่นอีกหน่ึงศูนย์เพ่ือปฏิบตั ิตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ทั้งนี้ท้ังศูนยป์ ฏิบัติ การภาวะฉุกเฉินของจังหวัด และศูนย์ปฏิบัตกิ ารภาวะฉุกเฉนิ ของทอ้ งถน่ิ จะตอ้ งมกี ลุ่มภารกิจที่ประสานงานกัน ทั้งด้านการบริหารจัดการ และสิ่งสาคัญที่สุดมนการปฏิบัติงานอีกอย่างหนึ่งคือ การประสานงานด้านข้อมูล ข่าวสารการดาเนนิ งาน ภาพที่ 28 ความเชื่อมโยงระหว่าง EOC จังหวัด (เขตเมอื ง) และ EOC พน้ื ที่ 48 Package ต้นแบบการขับเคลอ่ื นกลไกปอ้ งกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพ เครอื ขา่ ยพฒั นาคุณภาพชีวติ ระดบั อ�ำ เภอ สำ�นกั งานป้องกันควบคุมโรคท่ี 8 จังหวัดอดุ รธานี
เอกสารและคู่มอื การดาเนนิ งานที่เกยี่ วข้อง กรอบแนวทางการพฒั นาศนู ย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน และระบบบญั ชาการเหตุการณใ์ นภาวะฉุกเฉิน ทางสาธารณสขุ กรมควบคุมโรค พ.ศ. 2559 - 2564 Download : คมู่ ือระบบบญั ชาการเหตุการณ์ทางด้านการแพทย์ และสาธารณสขุ สาหรับการจัดการสาธารณภัย/ภัยพิบตั ิ Download : ภาพท่ี 29 เอกสารคมู่ อื การดาเนนิ งานทเี่ กย่ี วข้อง สอบถามข้อมลู เพ่ิมเตมิ ได้ที่ กลุม่ ปฏบิ ตั ิการควบคุมโรคและตอบโตภ้ าวะฉุกเฉนิ ทางดา้ นสาธารณสุข สานกั งานป้องกนั ควบคุมโรคท่ี 8 จงั หวัดอุดรธานี @Contact us 042 – 295 717 กล่มุ ปฏิบัตกิ ารควบคุมโรคและตอบโต้ภาวะฉุกเฉนิ ทางดา้ นสาธารณสุข สคร.8 อดุ รธานี 49Package ตน้ แบบการขบั เคลอื่ นกลไกปอ้ งกันควบคุมโรคและภยั สุขภาพ เครือขา่ ยพฒั นาคุณภาพชวี ิตระดบั อ�ำ เภอ ส�ำ นกั งานป้องกันควบคมุ โรคที่ 8 จงั หวดั อุดรธานี
50 Package ตน้ แบบการขบั เคล่อื นกลไกป้องกันควบคุมโรคและภยั สขุ ภาพ เครอื ข่ายพฒั นาคุณภาพชีวติ ระดับอ�ำ เภอ สำ�นกั งานปอ้ งกนั ควบคมุ โรคที่ 8 จงั หวดั อดุ รธานี
การวิเคราะหข์ อ้ มูลทางระบาดวิทยา การศึกษาระบาดวิทยาเชิงพรรณนา เป็นการศึกษาเกี่ยวกับการกระจายของโรคในกลุ่มประชากร โดยแปลผลข้อมูลพื้นฐานของสุขภาพ โรค การตาย ออกมาอย่างเป็นระบบ และเป็นเหตุเป็นผล เพ่ือประเมิน แนวโน้มของภาวะสุขภาพ เปรียบเทียบกันภายในและระหว่างประเทศ เป็นพ้ืนฐานสาหรับการวางแ ผน การจัดหาบริการทางสาธารณสุข สามารถบ่งช้ีปัญหาหรือต้ังสมมติฐาน นาไปสู่การศึกษาระบาดวิทยาเชิง วเิ คราะห์ การหาแนวทางในการป้องกันควบคุมโรคนั้น ต้องทราบก่อนว่าโรคหรือภัยสุขภาพนั้นๆ มีลักษณะ อย่างไร คาถามท่ีต้องมีมาเสมอ คือ เกิดอะไร เกิดกับใคร เกิดที่ไหน เกิดเมื่อไหร่ และอย่างไร จากน้ันค่อยหา วิธีการจดั การกับโรคหรือภยั สุขภาพตอ่ ไป ดังน้ัน การศึกษาระบาดวิทยาเชิงพรรณนา จึงเป็นการพยายามที่จะอธิบายปัญ หาให้ชัด ในด้านสาธารณสุขที่เก่ียวกับการเกิดและการกระจายของโรคในแง่ของบุคคล เวลา และสถานท่ี โดยมุ่งหวังท่ี จะทราบสาเหตุและการแพร่กระจายของโรคในประชากร เพ่ือนาไปสู่การควบคุมปอ้ งกันโรคและภัยสขุ ภาพให้ เหมาะสมตอ่ บรบิ ทของพืน้ ทที่ งั้ ในพื้นท่เี ขตเมือง และไมใ่ ชเ่ ขตเมอื งไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพ บคุ คล (Person) ตัวแปรเกี่ยวกับบุคคลมีหลากหลายตัวแปร แต่ในทางปฏิบัตินั้นขึ้นอยู่ กับวัตถุประสงค์ และ แหล่งข้อมูลในแต่ละการศึกษานัน้ ๆ ส่วนใหญ่ในทางระบาดวิทยาจะกล่าวถึงตัวแปร อายุ เพศ อาชีพ เชื้อชาติ ฐานะทางสังคม และสถานะการสมรส (demographic variables) โดยมีรายละเอยี ดดังตอ่ ไปนี้ 1. อายุ (age) เป็นตัวแปรท่ีสาคัญท่ีสุด มีอัตราป่วย อัตราตายในหลายๆโรคที่เก่ียวกับอายุ เช่น เด็กเล็กและคนชรา มักป่วยด้วยโรคติดเช้ือระบบทางเดินหายใจได้บ่อยกว่าคนหนุ่มสาว หรือโอกาสการเป็นโรคมะเร็ง เช่น โรคมะเรง็ ปอด มะเร็งตบั สงู ขนึ้ ตามอายุทเ่ี พมิ่ ข้นึ หรือเด็กป่วยเปน็ โรคหดั ได้งา่ ยกว่าผ้ใู หญ่ เป็นต้น นอกจากอายุจะเกี่ยวข้องกับการเจ็บป่วยแล้ว ยังเก่ียวข้องกับความรุนแรง (severity) ตัวอย่างเช่น เด็กและคนชรา เป็นโรคติดเช้ือ Pneumococcosis หรือ Salmonellosis จะมีอาการรุนแรงมากกว่า คนหนมุ่ สาว เปน็ ต้น อายุ สัมพันธ์กบั การเกิดโรคไร้เชื้อหรือโรคไม่ติดต่อ เช่น วยั หนุ่มสาวจะเสยี ชีวิตหรือไดร้ ับการบาดเจ็บ จากสาเหตุของอุบัติเหตทุ างถนนมากกว่าคนวยั อ่ืน เป็นตน้ ตัวอยา่ งการนาเสนอ ตัวแปรอายุ ตาราง 1 ตัวแปร (one-variable table) ตารางที่แสดงค่าหรือแจกแจงความถี่ครั้งละ 1 ตัวแปร ในเวลาเดยี วกัน 51Package ต้นแบบการขบั เคล่ือนกลไกปอ้ งกนั ควบคุมโรคและภัยสุขภาพ เครอื ขา่ ยพฒั นาคุณภาพชีวิตระดับอำ�เภอ ส�ำ นกั งานป้องกนั ควบคุมโรคที่ 8 จงั หวดั อดุ รธานี
ตารางท่ี 20 จานวนและรอ้ ยละผปู้ ว่ ยโรคคอตบี แยกกลมุ่ อายุ กลุ่มอายุ จานวน ร้อยละ รอ้ ยละสะสม 0-5 14 23 23 6-11 24 40 63 12-20 13 22 85 มากกวา่ 21 9 15 100 รวม 60 100 - ตาราง 2 ตัวแปร (two-variable table) ตารางที่แสดงค่าหรือแจกแจงความถ่ีครั้งละ 2 ตัวแปร ในเวลาเดยี วกัน ตารางที่ 21 จานวนและร้อยละผู้ป่วยโรคคอตีบแยกตามกลุม่ อายแุ ละเพศ กลมุ่ อายุ จานวน (รอ้ ยละ) ชาย หญิง 0-5 8 (27) 6 (20) 6-11 12 (40) 12 (40) 12-20 6 (20) 7 (23) มากกว่า 21 4 (13) 5 (17) รวม 30 (100) 30 (100) ตัวอย่างตาราง 3 ตัวแปร (three-variable table) ตารางท่ีแสดงค่าหรือแจกแจงความถี่คร้ังละ 3 ตวั แปร ในเวลาเดียวกัน ตารางท่ี 22 จานวนผู้ป่วยโรคคอตีบแยกตามกลุ่มอายุ เพศ และเชื้อชาติ จานวน (รอ้ ยละ) กลุ่มอายุ ชาย หญิง ไทย ต่างชาติ ไทย ตา่ งชาติ 0-5 3 5 3 3 6-11 4 8 5 7 12-20 4 2 2 5 มากกว่า 21 1 3 23 รวม 12 18 12 18 52 Package ต้นแบบการขบั เคลอ่ื นกลไกป้องกนั ควบคมุ โรคและภัยสขุ ภาพ เครือขา่ ยพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ ระดบั อ�ำ เภอ สำ�นกั งานป้องกนั ควบคุมโรคที่ 8 จังหวัดอดุ รธานี
ตวั อยา่ ง การแจกแจงความถี่ของขอ้ มลู ครั้งละ 1 ตวั แปร อตั ร8าปว่ ย/แสน 6 4 2 0 65 +กลุ่มอายุ (ปี) 0 - 4 5 - 9 10 - 14 15 - 24 25 - 34 35 - 44 45 - 54 55 - 64 ภาพท่ี 30 จานวนผู้ปว่ ยโรคไขห้ วดั ใหญแ่ ยกตามกลมุ่ อายุ จังหวัดหนองคาย พ.ศ.2561 (จานวนผูป้ ่วย 3,740 ราย) ทม่ี า: สานักงานปอ้ งกนั ควบคมุ โรคท่ี 8 จังหวัดอดุ รธานี กรมควบคมุ โรค ตัวอย่าง แผนภูมิแสดงความถี่ย่อยตามค่าของตัวแปรท่ี 1 (ตัวแปรหลัก) และค่าตัวแปรที่ 2 (ตัวแปรรอง) ในเวลาเดยี วกนั เชน่ ตัวแปรหลัก คอื กลุ่มอายุ ตัวแปรรอง คอื เพศ 30.00 25.00 25.00 25.00 20.00 17.86 21.4230.00 ร้อยละ 15.00 15.00 10.00 10.71 ชาย 15.00 7.14 7.14 3.57 5.00 หญงิ 10.00 5.00 3.57 5.00 3.575.00 0.00 0.00 0 - 4 5 - 9 10 - 14 15 - 24 25 - 34 35 - 44 45 - 54 55 - 64 65 + กลุ่มอายุ (ป)ี ภาพท่ี 31 ร้อยละของผู้ป่วยโรคไขห้ วัดใหญ่แยกตามกลมุ่ อายแุ ละเพศ จงั หวดั หนองคาย พ.ศ.2561 (จานวนผูป้ ว่ ย 3,740ราย) ทีม่ า: สานักงานปอ้ งกนั ควบคมุ โรคท่ี 8 จังหวัดอุดรธานี กรมควบคุมโรค 2. เพศ (sex) เพศ เป็นตัวแปรท่ีสัมพันธ์กับการเกิดโรค ท้ังโรคติดเชื้อและโรคไร้เชอื้ อาจเน่ืองจากเร่ืองของฮอร์โมน สภาพแวดลอ้ ม และนิสัย บางโรคอัตราป่วยจะสูงในเพศหญงิ บางโรคอัตราตายจะสูงนเพศชาย เช่น การศึกษา 53Package ตน้ แบบการขับเคล่อื นกลไกปอ้ งกนั ควบคุมโรคและภัยสุขภาพ เครอื ขา่ ยพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ ระดบั อำ�เภอ ส�ำ นักงานปอ้ งกนั ควบคมุ โรคท่ี 8 จังหวัดอุดรธานี
ของ Eaton และ Kessler ในปี ค.ศ.1981 พบว่า อัตราโรคซึมเศร้าพบในเพศหญิงเป็น 2 เท่าของผู้ชาย และ อัตราการพยายามฆ่าตัวตายในเพศหญงิ สูงกว่าในผู้ชาย 3. เช้อื ชาติ (race) ส่วนใหญ่ ตัวแปรเชื้อชาติมักจะใช้อธิบายการอพยพย้ายถ่ินของชนชาติต่างๆ ไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ ต่างจากเดขมิ องซEึ่งaมtักoจnะแสลัมะพKันesธsก์ leับrกในารปปี ค่ว.ศย.ก1า9ร8ต1าพยบวเช่า่นอัตพรบาโผรคู้ปซว่ ึมยเโศรรค้าพลบเี จในียเนพแศนหรญ์ใิงนเปช็นาว2ตเ่าทง่าชขาอตงผมิ ู้ชาากยกแวล่าะคนไทย กเกลิดบั โพรบควม4่าะตอ.รตั่าเฐนุ่รงราจ็างลนากกูกกาะรหเรทส3ดะพล.่วมิาเยานเพงชาซนใสย้อืา่ึหงนงัาชมะญคมั้นาักอ่ฆตมจมตาิ่าะอี(ัวหต(rสแSaตััวัมาcปoตรพรeราcาม)นัยเกiชaธีใอาื้นอlก์ ัตรชเับsพเราtกกศตaาาิดหิมสtรโuญปักูงรs่วจิงใค)ยสะนลกูงใคชกดา้วอรนลา่ตธงญใิาบนยซ่ีาปผยง่ึเูชุ้่นชกบา่นทายง่ รบี่อพออาบพศกผยู้ปัถยพว่ึงยใยปน้าโยจัปรถคจริ่นลัยะขีเทจเอทียางนงชศดแนญนา้ชน่ีรปา์ใตสุ่นนิต่งิช่าแแางววตๆตด่เ่าไลมงปอ้ช่ืออมาอยตู่ใพิมนายสก่ิงพกแวมว่าดาคลอน้อยไมทู่อทยเ่ีมริกา โดเกยิดทโรั่วคไมปะมเรัก็งจกะรคะเาพนาึงะถอึงาห3ารเมรื่ีออัตงใรหาสญูง่ๆในคคนือญอี่ปิทุ่นธทิพ่ีอลาศคัยวในาปมรมะั่นเทคศงญแี่ปลุ่นะอแตา่นเมา่ือจอพซย่ึงพมมักาจอะยเู่ อปเ็นมรไิกปาในทาง เดียวกัน ทกล้ังบั 3พบเรว่าือรงนุ่ ลตกู ัวหแลปานรนทัน้ ี่นมาีอมตั ราาใกชา้มรีเหกลิดโารยคตลดัวลแงปซรง่ึ บเช่งบ่นอกอถางึ ชปีพัจจัยกทาารงศดึก้านษสา่งิ แสวดถลาอ้นมที่อยู่อาศัย รายได้ และ ลกั ษณะการใช้ชวี 4ิต. เฐปานน็ ะตทน้ างสังคม (Social status) ขปอัจงจตัยนเรเอื่อองลเงาดนเกั ทีงย้อษินวิเณยชกแก่นะันลกวโอ้วทาค่าดาร้ัยงวทยใดทาชิเ3ังว้ชั่มช้วม่ยนเไีวยรปีเปิต่ืรอคามญัื่องกวเักปางจหตจ็นมกนัวะายตาแคเา้นรรมปากอ่ืไนีผรจปงึงทนลเถใี่นลตชึงมาี้ย่อี้ผบ3มงกลราปเตาใิกรชา่อร่ือาก้มกเงรขเาีใหทลห้ารลเีย้ถญี่นขางึงย้่้อาๆทบถตยคึง้อรัวกบือิแกงวรสปาอิ่กาารริทาคทแรธเชัญทิาพร่นงางลมงกจอากคาูงกาาวรใรชกาจแแีพมวจพพม่าะกทท่ันเายขยคร์ด้ง์าดศ้วหึก้วแยษยาลเหบะาเหตอรสุผตาิกถลนุผาาหาลนรจลทหทาซี่อยาล่ึงๆยงามกู่อยักปาาๆจรศระะัยแปเกปพารร็นราะทไยกนปยไอาดใ์เนรพก้ แทจ่ือนลาาสกอะงุขกภจาาพก 5ป. ัจอจาัยชเรพี ื่อง(Oเงินccแuล้วpaยtังiมoีเnร่ือ)งการไปใช้บริการท่ีน้อยกว่า แรงจูงใจจะเข้าหาบริการทางการแพทย์เพ่ือสุขภาพ เวขลองาตในเชอ่วงนงชอ้ ยีวกิตวขา่ อดง้วคยนปสญั ่วหนาเใรห่อื ญงเ่ลน้ยี น้ั งขปน้ึากอเยล้ียู่กงับทก้อางสราทคาญั งมาานกกดวัง่านัน้ การป่วยตายในหลายๆ โรค จึงมักจะมี ความสัมพันธ์กับก5.าอราปชรพี ะก(Oอcบcuอpาaชtีiพonห) รือเกิดจากการประกอบอาชีพ อิทธิพลท่ีมีผลต่อการเกิดโรคมีมากมาย เเกชชาน่่นรปคอรรุะณู กสหกเคอาชาวธภบ่นราาูอมปมรอาิรสณุสะชณัมกสีพเาพหวอุขรันลภบเเธาชูเอมคใ์กป่นาินมับสช็นชีกีพคาต่วเารงนสน้รเเชชคีปงยีว่นามริตงนะีขคเกฝกอนสอุ่่องนีงยบคาสงนนอกรฝากส้าลชุ่่อ่นวงี่ิพนนสหกรใรหหา้ลหืองรญิ่นหืรอค่นรืเอนหก้ันอื คิดงรขคืาอจว้ึนนนาคาองกาเวยมหนกาู่กเาเมมับคหรเือกมปรคางืีอยรรรมะงียดทมกีโดาอจีโองอจกาบากานากอากสาสกกดชเเาังาสสีพนรร่ียีย่ ท้ันองทงตกิาทตาอ่างธ่องรากิพาปกนาลนร่วาทเเยรกปตี่มเเดิ็นกปาีผอยิดตล็นบุ ใ้ตนอนัตต่อบุหิเ้ตนหกัตลัวาตาิเรอมุตหยเยาักๆวตก่าิดอมุโกงโรยขวราค่าคอ่กาอมจงกงาโีึมงขวชรมา่าอีพคักกออจงจมาื่นโะาาชรกมๆยีพคี จอ่นืากๆ ตเัวชอ่นยคา่ รงู กสาาธรานรณาเสสขุ นเอปน็ ตตัว้นแปรอาชพี ใช้แผนภตูมัวิแอทย่งาง(กcาhรนarาtเส) นใอชต้นัวาแเปสรนออาขชีพ้อมูลของตวั แปรจัดกล่มุ (เช่น เช้ือชาติ อาชพี ) หรือตัวแปรที่ไม่ได้ เป็นคา่ ต่อเนื่องเปน็ คทห่าาตรอ่,ใตชเานร้แว่อื ผจทงนหาภร,ตมู า0คิแร%ปวรทจู0ระ%ง่ มง(อc20่ืนค%h%ปรๆูa0ระ%rมเtลง)อ2้ีย0น่ื%ง%ๆสใชตั เวลน้ ์้ยี0าง%นสเกัตั0สบว%์นวอนชปไอักาม0ก1บชข%่ท1ควีพ้อร%อรชปไ/าามอมก1ใบชท่นง1คพีลูร%ร/าอขใบนงอเงก1ตบ0ษเ%ก1คุตวั บ0ษลรแ%ุคตาลรปการรกร0บัสรร%0จบัสาจ%าธจ้าัดธ1้าาง1างกร2,ร2ก,ขณก%ขณ%ลรา้ร้าสรสรรรมุ่ 11มมขุาขุา%%ชกชกกร(กรเาาชรร่น เชือ้ ชาติ ออาาชชีพีพอพาิเ)ศชษีพหรอื ตัวแปรทีไ่ มไ่ ด้ 0% 0% พิเศษ0% 0% คา้2คข%าา้2ยข%าย งานงบาน้านบ้าน 1%1% นกั เรียนน6ัก1เร%ียน 61% ภาพท่ี 32 ร้อยละของผู้ปว่ ยโรคไขห้ วดั ใหญแ่ ยกตามอาชพี จังหวัดหนองคาย พ.ศ.2561 (จานวนผูป้ ่วย 3,740 ราย) ภาพท่ี 32 ทร้อมี่ าย:ละสขาอนงักผงาูป้ น่วปยอ้ โงรกคันไคขว้หบวคัดมุ ใโรหคญท่ี่แ8ยจกงั ตหาวมดั ออุดารชธพี านจี กงั รหมวคัดวหบคนุมอโงรคคาย พ.ศ.2561 (จานวนผปู้ ว่ ย 3,740 ราย) ทีม่ า: สานกั งานปอ้ งกันควบคมุ โรคท่ี 8 จังหวดั อุดรธานี กรมควบคุมโรค 54 Package ต้นแบบการขบั เคลือ่ นกลไกป้องกนั ควบคมุ โรคและภัยสขุ ภาพ เครือขา่ ยพฒั นาคณุ ภาพชวี ิตระดบั อ�ำ เภอ สำ�นกั งานป้องกันควบคุมโรคที่ 8 จังหวัดอุดรธานี
6. ตวั แปรอื่นๆ 6.1 กลุ่มเลือด บางรายงานพบว่าโรคบางโรคสัมพันธ์กับกลุ่มเลือด เช่น sickle cell trait นั้น มโี อกาสเส่ียงต่อโรคมาลาเรยี ชนิด plasmodium falciparum ลดลง 6.2 พันธุกรรม โรคที่เกิดจากความผิดปกติในพันธุกรรม หรือเกิดข้ึนในโครโมโซม ซ่ึงสามารถ ถ่ายทอดภายในครอบครัวจากรุ่นสู่รุ่นได้ และก่อให้เกิดความผิดปกติตั้งแต่กาเนิด ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษา ให้หายได้ ทาได้เพียงรักษาตามอาการและติดตามผลเป็นระยะเท่าน้ัน เช่น โรคถุงน้าในไต โรคเม็ดเลือดแดง รูปเคียว โรคซีสติกไฟโบรซสี โรคประสาทชักกระตกุ โรคธาลัสซีเมยี โรคฮีโมฟีเลีย ดาวนซ์ นิ โดรม โรคตาบอดสี 6.3 โรคประจาตัว หมายถึง โรคเร้ือรังที่ผู้ป่วยเจ็บป่วยอยู่แล้ว เช่น โรคเบาหวาน โรคความดัน โลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง โรคอ้วน แล้วตอ่ มา ผู้ป่วยเกิดเจบ็ ป่วยด้วยโรคอนื่ ๆหรือที่เรียกว่าโรคในปัจจุบัน เช่น ผปู้ ่วยโรคมะเร็ง(โรคปจั จบุ นั ) ท่ีมโี รคประจาตวั (โรคพน้ื เดมิ /โรคเบือ้ งหลัง) คอื โรคเบาหวาน เป็นตน้ สถานท่ี (Place) 1. สถานที่ทแี่ บ่งตามธรรมชาติ การจะเข้าใจการเกิดโรคได้ดีนั้น มักจะแบ่งสถานท่ีออกตามลักษณะภูมิประเทศมากกว่าเขต การปกครอง เน่ืองจากสภาวะส่ิงแวดล้อม ดินฟ้าอากาศ อุณหภูมิ ความช้ืน ฤดูกาล แหล่งน้า แร่ธาตุ ฯลฯ มีผลต่อเช้ือโรค หรือสภาวะที่ก่อให้เกิดโรค นอกจากนี้ลักษณะทางธรรมชาติ เช่น ภูเขา แม่น้ายังแบ่ง ชนเผ่าต่างๆ ออกจากกันด้วย เช่น โรคชิคุนกุนยา (Chikungunya) หรือโรคไข้ปวดข้อยุงลาย มักจะพบ ในบริเวณภาคใต้ ของผู้ประกอบอาชีพสวนยางพารา มียุงลายสวนเป็นพาหะนาโรค โรคไข้มาลาเรีย มักจะพบ ในบรเิ วณป่าเขา มียงุ ก้นปล่องเป็นพาหะนาโรค เป็นต้น นอกจากโรคติดต่อแล้ว ตัวอย่างโรคไม่ติดต่อท่ีเห็นได้ชัด คือ มะเร็งผิวหนัง malignant melanoma ทีเ่ กดิ มากในออสเตรเลีย หรอื แถบทางใตข้ องอเมริกาท่ีมแี สงแดดมาก 2. สถานที่แบง่ ตามเขตการปกครองหรือการเมือง ปัจจัยทางการปกครองหรือการเมือง ส่งผลให้มีการพัฒนาหรือการเก็บข้อมูลทางสุขภาพ การสารวจต่างๆ แตกต่างกนั ไป หรือมีผลต่อการแพรพ่ ันธข์ุ องพาหะนาโรค เช่น เขตเทศบาลหรือเทศบาลนคร (เขตเมือง) หรือนอกเทศบาล (ชนบท) มีผลต่อการแพร่พันธุ์ของยุงและแมลงวันที่เป็นพาหะนาโรคต่างๆ เช่น ไข้เลือดออก โรคชิคุนกุนยา ไข้มาลาเรีย อุจจาระร่วง และอาหารเป็นพิษ เป็นต้น ท้ังนี้ กรณีของ โรคไมต่ ดิ ต่อ เช่น อบุ ตั ิเหตุทางถนน มักจะพบอัตราการบาดเจบ็ และเสยี ชวี ติ สงู ในพื้นท่เี ขตเมอื ง เปน็ ต้น ก า ร ศึ ก ษ า ปั จ จั ย ด้ า น สิ่ ง แ ว ด ล้ อ ม มี ค ว า ม ส า คั ญ ม า ก ใน ก า ร ศึ ก ษ า ร ะ บ า ด วิ ท ย า เชิ ง พ ร ร ณ น า การวิเคราะห์การกระจายของผู้ป่วยในแผนที่จะช่วยให้ในการสืบค้นและตั้งสมมติ ฐานของการเกิดโรคได้เป็น อย่างดี เหมือนที่ John snow (บิดาแห่งระบาดวิทยา) ได้แสดงไว้ชัดเจนถึงเร่ืองการเกิดโรคอหิวาต์และ แหล่งน้าที่มีเชื้อโรคที่เป็นสาเหตุ ในการแจกแจงผู้ป่วยลงในแผนที่ ซ่ึงอาจแจกแจงตามท่ีอยู่ สถานท่ีทางาน สถานที่จดั งานเลย้ี ง แยก ทางโคง้ ของถนน ขน้ึ อยกู่ บั ลักษณะของโรคหรือภยั สุขภาพน้ันๆ 55Package ตน้ แบบการขับเคล่อื นกลไกปอ้ งกันควบคมุ โรคและภยั สขุ ภาพ เครอื ขา่ ยพัฒนาคณุ ภาพชีวิตระดบั อำ�เภอ สำ�นกั งานป้องกันควบคมุ โรคท่ี 8 จงั หวัดอดุ รธานี
บางครั้ง การแจกแจงแนวโน้มของอัตราป่วยหรืออัตราตายของโรคตามลักษณะในเขตเมือง และ ชนบทจะช่วยไดม้ าก เพราะอัตราป่วยบางโรคมีผลมาจากความแออดั มลพิษทางอากาศ หรอื การอพยพยา้ ยถิ่น เข้ามาในเขตเมอื ง เป็นตน้ 3. การอพยพยา้ ยถนิ่ การอพยพย้ายถ่ิน เป็นการพยายามแยกปัจจัยทางพันธุกรรมออกจากปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม โดย เปรียบเทยี อัตราการเกิดโรคและอัตราการตายในกลุ่มผ้ทู ่อี พยพมาจากถนิ่ ใหมเ่ ทยี บกบั กล่มุ ผู้ที่ยังอยู่ในถนิ่ เดิม ตวั อยา่ งการนาเสนอ ตัวแปรสถานท่ี Spot map แผนทแ่ี สดงพิกัดทางภูมศิ าสตร์ ภาพท่ี 33 แผนที่แสดงท่ีอยขู่ องผปู้ ว่ ยโรคไขเ้ ลือดออก แยกตาบล อาเภออากาศอานวย จังหวัดสกลนคร พ.ศ.2558 (จานวนผูป้ ่วย 46 ราย) ทม่ี า: สานักงานปอ้ งกันควบคุมโรคที่ 8 จงั หวดั อุดรธานี กรมควบคมุ โรค 2) แผนท่ีแสดงปริมาณ ความถี่ หรือสดั สว่ นของสิ่งทเี่ ราสนใจในแตล่ ะพนื้ ที่ ภาพที่ 34 แผนทแ่ี สดงอตั ราปว่ ยโรคไข้เลอื ดออกตอ่ ประชากรแสนคน แยกรายอาเภอ เขตสุขภาพท่ี 8 พ.ศ.2561 (จานวนผู้ปว่ ย 2,239 ราย) ทีม่ า: สานกั งานป้องกนั ควบคุมโรคท่ี 8 จงั หวัดอุดรธานี กรมควบคมุ โรค 56 Package ต้นแบบการขับเคลื่อนกลไกปอ้ งกันควบคุมโรคและภยั สขุ ภาพ เครือข่ายพัฒนาคุณภาพชวี ติ ระดับอ�ำ เภอ ส�ำ นกั งานปอ้ งกันควบคุมโรคที่ 8 จังหวดั อดุ รธานี
เวลา (time) การศึกษาการเกิดโรคตามระยะเวลาถือเป็นส่ิงพ้ืนฐานทางระบาดวิทยา ซ่ึงนอกจากจะนาไปใช้ วางแผนทางด้านสาธารณสุขแล้วยังช่วยพยากรณ์โรคได้อีกด้วย ลักษณะของเวลาแบ่งออกเป็น 3 แบบใหญ่ๆ ดงั น้ี 1) แนวโน้มระยะยาว (secular trends) หมายถึง การเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลาในช่วงระยะเวลาทย่ี าวนาน เช่น ปี ศตวรรษ เป็นต้น การประเมินเรื่องการตาย พึงคานึงด้วยว่าอะไรมผี ลต่ออุบัติการณ์ของการเกดิ โรค อะไรท่ีมีผลต่อ การรอดชีวิต อัตราตายจะคู่ขนานไปกับอุบัติการณ์ของโรค ถ้าโรคน้ันเป็นแล้วตายอย่างรวดเร็ว และการตาย น้ันเกิดข้ึนหลงั จากวินิจฉยั โรคไดไ้ มน่ านนัก เช่น มะเร็งตบั เปน็ ตน้ การเกิดโรคระยะยาวของอัตราป่วยและอัตราตายในบางโรค อาจเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลง ด้านความสนใจของแพทย์ วิธีการรายงานโรค และการสารวจสามะโนประชากรก็เป็นได้ ย่ิงสังเกตเห็นความ แตกต่างของแนวโน้มของโรคมากเท่าไหร่ โอกาสท่ีจะพบว่าไม่ใช่เรื่องจริงยิ่งมากข้ึน ผลพวงอันหน่ึงของ แนวโน้มระยะยาวคือ การท่มี ผี ลของอายขุ องผปู้ ่วยทเ่ี ป็นโรคนั้นๆ ในชว่ งระยะเวลาใดเวลาหน่งึ เข้ามาเกี่ยวขอ้ ง การวิเคราะหแ์ บบ birth cohorts จะช่วยใหเ้ ราเข้าใจโรคมากย่ิงข้ึน 2) วัฏจกั ร (cyclic) หมายถึง การเกิดโรคท่ีเป็นวงจร อาจตามฤ ดูกาลในปีหนึ่งๆ (seasonal variation) หรือ ทุกๆ 2-3 ปี เปน็ ตน้ ตัวอย่างเชน่ ไข้เลอื ดออกของไทยแตเ่ ดมิ จะมีการระบาดแบบปเี ว้น 2 ปี การวิเคราะห์การเกิดโรคท่ีมีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลนั้น มีประโยชน์มากในโรคท่ีมีแมลง เป็นพาหะนาโรค เน่ืองจากอุณหภูมิและความชื้นเป็นปัจจัยที่มีผลต่อการแพร่พันธ์ุและแพร่เช้ือโรค นอกจากน้ี seasonal variation ของโรคติดเชื้อยังสัมพันธ์กับกิจกรรมหรือการประกอบอาชีพของคนด้วย เช่น ช่วงฤดู หนาวของไทยมีอากาศหนาวเย็นมาก ทาให้คนอยู่ในบ้านมากกว่านอกบ้าน ทาให้แพร่เช้ือไข้หวัดได้ง่ายกว่า ฤดูกาลอน่ื ๆ โดยเฉพาะในเดก็ เลก็ การนาเสนอรูป (figure) สามารถนาเสนอข้อมูลด้วยรูปได้หลายลักษณะ โดยที่พบบ่อยในงานระบาด วทิ ยา ได้แก่ กราฟ (graph) ใชน้ าเสนอขอ้ มูลของตวั แปรทเ่ี ป็นคา่ ต่อเนอื่ ง เช่น เวลา วันเรมิ่ ปว่ ย อายุ ฯลฯ - กราฟเส้น (line graph) เป็นการนาเสนอข้อมูลโดยใช้เส้นลากเช่ือมต่อจุดต่างๆ เพื่อแสดงให้เห็นถึง การเปล่ียนแปลงข้ึนลง (fluctuation) หรือแนวโน้ม (trend) ของความถ่ี (จานวนหรืออัตรา) ตามช่วงเวลา หรืออายุทีเ่ ปล่ยี นแปลงไป (ตวั แปรเป็นตัวเลขทเ่ี ปน็ ค่าตอ่ เน่ือง) โดยแกนนอน (X) แสดงเวลาหรืออายุ เวลาที่รวบรวมข้อมูล เวลาท่ีรายงานข้อมูล ส่วนแกนตั้ง (Y) แสดงความถี่ จานวน อัตรา หรือสดั ส่วน ตวั อย่างการนาเสนอ กราฟเสน้ 1 ตวั แปร 57Package ตน้ แบบการขบั เคลือ่ นกลไกปอ้ งกนั ควบคุมโรคและภัยสุขภาพ เครอื ขา่ ยพัฒนาคุณภาพชวี ิตระดบั อ�ำ เภอ สำ�นักงานป้องกันควบคมุ โรคท่ี 8 จังหวัดอุดรธานี
1) กราฟเสน้ รายสัปดาห์ 8จ0านวนผู้ป่วย(ราย) 60 40 20 0 1 3 5 7 9 11 13 15 17 19 21 23 25 27 29 31 33 35 37 39 41 43 45 47 49 51 ภาพที่ 35 จานวนผปู้ ว่ ยโรคไข้หวดั ใหญ่ แยกตามสปั ดาห์เริ่มปว่ ย จงั หวัดหนองคาย พ.ศ.2561 สปั ดาห์ (จานวนผู้ปว่ ย 3,740 ราย) ท่มี า: สานกั งานป้องกันควบคุมโรคที่ 8 จงั หวัดอดุ รธานี กรมควบคุมโรค 2) กราฟเส้น รายเดอื น ปี 40 30 20 10 0 Jan Jun Nov Apr Sep Feb Jul DecMay Oct Mar Aug Jan Jun Nov Apr Sep Feb Jul DecMay Oct Mar Aug Jan Jun Nov Apr Sep ป5ี 0 ป5ี 1 ปี52 ปี53 ปี54 ป5ี 5 ป5ี 6 ปี57 ปี58 ป5ี 9 ป6ี 0 ปี61 ภาพที่ 36 จานวนผปู้ ่วยโรคไขเ้ ลอื ดออก แยกตามเดอื นที่เร่มิ ป่วย อาเภอบ้านดงุ จงั หวัดอดุ รธานี พ.ศ.2550 - 2561 (จานวนผ้ปู ว่ ย 221 ราย) ทม่ี า: สานกั งานปอ้ งกันควบคมุ โรคท่ี 8 จังหวัดอุดรธานี กรมควบคุมโรค ตัวอย่างการนาเสนอ กราฟเสน้ แบบหลายตัวแปร ภาพที่ 37 อัตราปว่ ยโรคไขเ้ ลือดออก เปรยี บเทยี บกบั อัตราป่วยตาย แยกตามปี พ.ศ.2549 – 2558 เขตสุขภาพที่ 1 ท่มี า : สานักงานป้องกนั ควบคมุ โรคที่ 1 จงั หวดั เชียงใหม่ กรมควบคมุ โรค 58 Package ตน้ แบบการขบั เคล่อื นกลไกป้องกันควบคมุ โรคและภยั สขุ ภาพ เครอื ขา่ ยพัฒนาคณุ ภาพชีวติ ระดบั อ�ำ เภอ ส�ำ นักงานปอ้ งกนั ควบคมุ โรคที่ 8 จงั หวดั อุดรธานี
จานวน (ราย)131212211222060882446082640000000000000000000000000000000000000000000000 D.H.F. D.H.F.shock syndrome Dengue fever ป4ี 9 ปี50 ป5ี 1 ป5ี 2 ปี53 ปี ปี54 ป5ี 5 ปี56 ปี57 ป5ี 8 ภาพท่ี 38 จานวนผู้ปว่ ยโรคไขเ้ ดงก่ี (DF) เปรียบเทียบกับโรคไขเ้ ลอื ดออก (DHF) และไขเ้ ลอื ดออกชอ็ ก (DSS) แยกตาม ปี พ.ศ.2549 – 2558 เขตสขุ ภาพที่ 1 ทม่ี า: สานักงานป้องกนั ควบคมุ โรคท่ี 1 จงั หวัดเชียงใหม่ กรมควบคุมโรค 3) กลุ่มก้อนในชว่ งเวลาและสถานที่ (cluster in time and place) การท่ีมีกลุ่มโรคเกิดที่ใดท่ีหน่ึง เฉพาะเวลาใดเวลาหน่ึง กรณีนี้ค่อนข้างยากที่จะหาว่าปัจจัยใด เป็นสาเหตุของโรคน้ันๆ ในสถานท่ีและเวลาดังกล่าว อาทิเช่น การเกิดกอ้ นเนื้องอกในสมองของเด็กทอ่ี าศัยอยู่ ใกล้เสาส่งไฟฟ้าแรงสูง หรือการตายเฉียบพลันไม่ทราบสาเหตุในชาวจีนท่ียากจนซ่ึงอาศัยอยู่บนภูเขาสูงเหนือ ระดับน้าทะเลราว 2,000 – 2,500 เมตร ในมณฑลยูนนาน ประเทศจีน ช่วงเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม ของทกุ ปี เป็นต้น สอบถามข้อมลู เพ่ิมเติมได้ที่ @Contact us กล่มุ ระบาดวิทยาและข่าวกรอง สานกั งานป้องกนั ควบคุมโรคท่ี 8 จังหวดั อดุ รธานี 042 – 295 717 กลมุ่ ระบาดวทิ ยาและข่าวกรอง สคร.8 อดุ รธานี 59Package ต้นแบบการขับเคลือ่ นกลไกปอ้ งกนั ควบคุมโรคและภัยสุขภาพ เครือข่ายพัฒนาคณุ ภาพชีวิตระดบั อ�ำ เภอ ส�ำ นักงานป้องกันควบคมุ โรคท่ี 8 จังหวัดอดุ รธานี
(รองปกหลัง) ทป่ี รึกษา นางสาวรพพี รรณ เดชพิชยั ผอู าํ นวยการสํานกั งานปองกันควบคุมโรคท่ี 8 จงั หวดั อุดรธานี นางศมิ าลกั ษณ ดิถีสวสั ดิ์เวทย รองผูอํานวยการสาํ นักงานปอ งกนั ควบคมุ โรคที่ 8 จังหวดั อุดรธานี นายสทิ ธิพร นามมา นกั วชิ าการสาธารณสขุ ชาํ นาญการพิเศษ คณะผูจดั ทาํ นายไสว โพธิมล นกั วชิ าการสาธารณสุขชาํ นาญการพิเศษ นายบญุ เทยี น อาสารนิ ทร นักวิชาการสาธารณสขุ ชํานาญการ นายวนั ชัย พรหมศรี นกั สงั คมสงเคราะหชาํ นาญการ นางสาวกานตญ าณี เกียรติพนมแพ นักวชิ าการสาธารณสขุ ชาํ นาญการ นางสพุ ิชญน ันท อนวุ รรณ นกั วชิ าการสาธารณสุขชํานาญการ นางสาววริ ลั พชั ร ดิษฐาพนั ธ นกั วิชาการสาธารณสขุ ชํานาญการ นางสาวจฬุ ารตั น นามเพ็ง นกั วิเคราะหน โยบายและแผนชํานาญการ นายจักรี ศรีแสง นกั วิชาการสาธารณสุขชาํ นาญการ นายกฤษณะ สกุ าวงค นักวิชาการสาธารณสขุ ชํานาญการ นายธวัชชยั รักษานนท นักวชิ าการสาธารณสขุ ชาํ นาญการ นายอดุลย ทองแกว นกั จัดการงานทั่วไปชํานาญการ นายเกยี รตยิ ศ สุวรรณพศิ ุทธ์ิ นิติกรปฏิบัตกิ าร นายวรวัตต ชาญวิรัตน นักวิชาการสาธารณสขุ ปฏิบัติการ นางสาวกติ ติยา พิมพาเรือ นกั วิชาการสาธารณสขุ ปฏบิ ัติการ นายทรงเกียรติ ยุระศรี นกั วชิ าการสาธารณสขุ นางสาวจิตรลดา ออ นสรุ ะทมุ นกั วชิ าการสาธารณสุขปฏบิ ตั ิการ นางสาวอจั ฉรา ทุเครอื นักวชิ าการสาธารณสขุ ปฏบิ ตั ิการ นายจาํ รัส ทองคาํ นกั วิชาการสาธารณสขุ ปฏิบัติการ 60 Package ต้นแบบการขับเคลอื่ นกลไกปอ้ งกนั ควบคุมโรคและภยั สขุ ภาพ เครอื ข่ายพัฒนาคณุ ภาพชวี ิตระดบั อ�ำ เภอ สำ�นกั งานปอ้ งกนั ควบคมุ โรคที่ 8 จงั หวัดอดุ รธานี
Search