Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ป.3 วิทยาศาสตร์ มาตรฐานที่ 2

ป.3 วิทยาศาสตร์ มาตรฐานที่ 2

Published by Kru Sirilax Poonkerd, 2021-10-02 08:42:01

Description: ป.3 วิทยาศาสตร์ มาตรฐานที่ 2

Search

Read the Text Version

ว 2.1 ป.3/1 วตั ถทุ ที่ าจากชน้ิ สว่ นยอ่ ย ชนดิ เดยี วกนั ประกอบกนั ตอกหรอื ไมไ้ ผ่ ตัวรองเทา้ ทาจาก ................ ตะกรา้ ไมไ้ ผ่ พ้ืนรองเท้า ทาจาก ................. เด็กๆ สังเกตภาพของเล่น ของใช้ แล้วร่วมกนั ทบทวนประสบการณ์เดิมเก่ยี วกบั วัสดุทใี่ ช้ ทาวัตถุ ดงั น้ี ...................................... ...................................... ...................................... ...................................... ทาจากวัสด.ุ .................. ทาจากวสั ดุ................... ทาจากวัสดุ................... ทาจากวสั ด.ุ .................. ...................................... ...................................... ...................................... ...................................... ทาจากวัสดุ................... ทาจากวสั ดุ................... ทาจากวสั ดุ................... ทาจากวัสด.ุ .................. ส่ิงของบางชนดิ เกิดจากการนาวสั ดหุ ลายชนดิ มาประกอบกนั เชน่ โครงสรา้ งรถทาจากโลหะ และพลาสติก ลอ้ ทาจากโลหะและยาง รองเท้ากฬี า รถจักรยานยนต์ T AUN Class

ว 2.1 ป.3/1 วัตถทุ ที่ าจากชน้ิ สว่ นย่อย ชนดิ เดยี วกนั ประกอบกนั ตอกหรอื ไมไ้ ผ่ ตัวรองเท้าทาจาก ผ้า ตะกรา้ ไมไ้ ผ่ พ้นื รองเทา้ ทาจาก ยาง เดก็ ๆ สงั เกตภาพของเล่น ของใช้ แล้วร่วมกนั ทบทวนประสบการณ์เดิมเก่ียวกับวัสดุที่ใช้ ทาวัตถุ ดังน้ี ............กระเปา๋ รดู ......... ........รถของเล่น......... ..............หมอ้ ............. ...........เกา้ อ.ี้ ......... ทาจากวัสด.ุ .....ผา้ ..... ทาจากวัสดุ พลาสตกิ ทาจากวสั ดุ....โลหะ. ทาจากวัสดุ พลาสติก ......ยางรถยนต์...... .........ชน้ั วางของ......... ...........ตกุ๊ ตา........... ............แก้วน้า........... ทาจากวัสด.ุ ...ยาง..... ทาจากวัสด.ุ ....ไม้..... ทาจากวัสดุ......ผา้ ..... ทาจากวสั ดแุ กว้ ,ทราย สิ่งของบางชนดิ เกิดจากการนาวัสดุหลายชนิดมาประกอบกนั เช่น โครงสรา้ งรถทาจากโลหะ และพลาสติก ลอ้ ทาจากโลหะและยาง รองเทา้ กีฬา รถจกั รยานยนต์ T AUN Class

ว 2.1 ป.3/1 วตั ถบุ างชนดิ อาจทาจากช้นิ สว่ นย่อย ๆ ท่ีมลี กั ษณะเหมอื นกนั มาประกอบเขา้ ด้วยกัน กาแพงบา้ นที่มกี ้อนอฐิ หลาย ๆ กอ้ น กอ้ นอฐิ จากกาแพงบา้ น ประกอบเขา้ ด้วยกัน ประกอบเปน็ พ้ืนทางเดินได้ ถ้าบา้ นไมถ้ ูกร้ือถอน สามารถนาไม้จากบา้ นมาทาส่งิ ของอ่ืนอกี ได้หรือไม่ ยกตวั อย่าง 5 ชนิด เขียนเปน็ แผนภาพความคดิ สงิ่ ของท่ีทาจากไมท้ นี่ ามา ประกอบใหม่ T AUN Class

ว 2.1 ป.3/1 วตั ถุบางชนดิ อาจทาจากชน้ิ ส่วนยอ่ ย ๆ ทีม่ ลี กั ษณะเหมือนกันมาประกอบเข้าดว้ ยกนั กาแพงบา้ นท่มี กี อ้ นอิฐหลาย ๆ ก้อน ก้อนอิฐจากกาแพงบ้าน ประกอบเข้าด้วยกัน ประกอบเปน็ พื้นทางเดนิ ได้ ถา้ บ้านไมถ้ ูกร้อื ถอน สามารถนาไมจ้ ากบา้ นมาทาส่งิ ของอ่ืนอกี ไดห้ รอื ไม่ ยกตัวอย่าง 5 ชนิด เขียนเปน็ แผนภาพความคิด เก้าอ้ไี ม้ ชัน้ วางของจากไม้ เตยี งไม้ สิ่งของท่ที าจากไม้ที่นามา ประกอบใหม่ ลังไม้ สะพานไม้ T AUN Class

ว 2.1 ป.3/2 การเปลยี่ นแปลงของวสั ดุเมอ่ื ทาใหร้ อ้ นหรอื เยน็ นกั เรยี นหลายคนคงชอบรบั ประทานชอ็ กโกแลต เพราะชอ็ กโกแลต มีรสหวาน และอรอ่ ย แตช่ อ็ กโกแลตมกั จะหลอมเหลวไดง้ า่ ย นกั เรยี นคดิ ว่าสิง่ ใดทที่ าใหช้ ็อกโกแลตเกิดการหลอมเหลว .............................................................................................................. 1. วธิ กี ารขอ้ ใดทาใหแ้ ทง่ ชอ็ กโกแลตเกดิ การหลอมเหลว เกบ็ ในถงั ที่ใสน่ ้าแข็ง เกบ็ ในตู้กับขา้ ว เกบ็ ในตแู้ ช่แข็ง เก็บในตเู้ ย็น 2. ถ้าตอ้ งการหลอ่ เทยี นรปู ดอกไมค้ วรปฏบิ ตั ิตามขอ้ ใดจงึ จะเหมาะสม นาเทียนมาตัดเปน็ ทอ่ นเลก็ ๆ แลว้ ใส่ลงในแม่พมิ พ์รปู ดอกไม้ นาเทียนมาใหค้ วามรอ้ น แล้วใสล่ งในแมพ่ มิ พ์รูปดอกไม้ นาเทยี นมามัดเป็นก้อน แล้วใสล่ งในแม่พิมพ์รูปดอกไม้ นาเทียนมาแชน่ า้ เยน็ แล้วใสล่ งในแม่พมิ พร์ ูปดอกไม้ 3. ขอ้ ใดเปน็ การเปลยี่ นแปลงของวสั ดทุ เี่ กดิ จากการใหค้ วามเยน็ นา้ ตาล นา้ เช่อื ม กล้วย กลว้ ยทอด น้าผลไม้ ไอศกรีมหลอด ไม้ ถ่านไม้ 4. การเปลย่ี นแปลงของวสั ดใุ นขอ้ ใดเกดิ จากการใหค้ วามรอ้ นแกว่ สั ดุ T AUN Class

ว 2.1 ป.3/2 การเปลย่ี นแปลงของวสั ดเุ มอ่ื ทาใหร้ อ้ นหรือเยน็ นักเรยี นหลายคนคงชอบรับประทานช็อกโกแลต เพราะชอ็ กโกแลต มรี สหวาน และอร่อย แต่ชอ็ กโกแลตมกั จะหลอมเหลวได้งา่ ย นักเรยี นคิดวา่ สิ่งใดท่ที าให้ช็อกโกแลตเกดิ การหลอมเหลว ความร้อนจากอากาศ 1. วธิ กี ารขอ้ ใดทาใหแ้ ทง่ ชอ็ กโกแลตเกดิ การหลอมเหลว เก็บในถังท่ใี ส่นา้ แขง็ เกบ็ ในตกู้ บั ข้าว เก็บในตู้แชแ่ ขง็ เกบ็ ในตเู้ ย็น 2. ถ้าตอ้ งการหลอ่ เทยี นรปู ดอกไมค้ วรปฏบิ ตั ิตามขอ้ ใดจงึ จะเหมาะสม นาเทยี นมาตดั เป็นท่อนเล็ก ๆ แลว้ ใสล่ งในแมพ่ มิ พ์รูปดอกไม้ นาเทียนมาใหค้ วามร้อน แล้วใส่ลงในแม่พมิ พร์ ูปดอกไม้ นาเทยี นมามัดเปน็ ก้อน แล้วใสล่ งในแมพ่ มิ พร์ ูปดอกไม้ นาเทียนมาแช่นา้ เยน็ แลว้ ใส่ลงในแม่พมิ พ์รปู ดอกไม้ 3. ขอ้ ใดเปน็ การเปลยี่ นแปลงของวสั ดทุ เี่ กดิ จากการใหค้ วามเยน็ นา้ ตาล น้าเชอ่ื ม กลว้ ย กลว้ ยทอด น้าผลไม้ ไอศกรมี หลอด ไม้ ถา่ นไม้ 4. การเปลย่ี นแปลงของวสั ดใุ นขอ้ ใดเกดิ จากการใหค้ วามรอ้ นแกว่ สั ดุ T AUN Class

ว 2.1 ป.3/2 การเปลย่ี นแปลงของวสั ดเุ มอ่ื ทาใหร้ ้อนหรอื เยน็ เมอ่ื ให้ความ รอ้ น หรอื ทาให้ วสั ดุ ร้อน ขึน้ วัสดุบางชนดิ อาจจะเกดิ การเปลย่ี นสีได้ เช่น ไข่ เม่ือ ลดความร้อน หรอื ทาให้วสั ดุ เยน็ ลง วสั ดบุ างชนิดจะเกดิ การ เปลี่ยนแปลงได้ เช่น ไอศกรีม หลอด 1. ไม้ เมอื่ โดนความเยน็ จะเปน็ อยา่ งไร เผาไหม้ อ่อนตวั คงสภาพ คงสภาพ 2. กระดาษ เมอื่ โดนนา้ จะมลี กั ษณะอยา่ งไร แข็งตัว คงสภาพ เปอื่ ยและขาด อ่อนตวั ไมข่ าด 3. ผา้ เมอื่ โดนความรอ้ นจะเปน็ อยา่ งไร อ่อนตัว เผาไหม้ 4. เหลก็ เมอ่ื ไดร้ บั ความรอ้ นจะมลี กั ษณะอย่างไร ละลาย ออ่ นตัว T AUN Class

ว 2.1 ป.3/2 การเปลย่ี นแปลงของวสั ดเุ มอ่ื ทาใหร้ ้อนหรอื เยน็ เมอ่ื ให้ความ รอ้ น หรอื ทาให้ วสั ดุ ร้อน ขึน้ วัสดุบางชนดิ อาจจะเกดิ การเปลย่ี นสีได้ เช่น ไข่ เม่ือ ลดความร้อน หรอื ทาให้วสั ดุ เยน็ ลง วสั ดบุ างชนิดจะเกดิ การ เปลี่ยนแปลงได้ เช่น ไอศกรีม หลอด 1. ไม้ เมอื่ โดนความเยน็ จะเปน็ อยา่ งไร เผาไหม้ อ่อนตวั คงสภาพ คงสภาพ 2. กระดาษ เมอื่ โดนนา้ จะมลี กั ษณะอยา่ งไร แข็งตัว คงสภาพ เปอื่ ยและขาด อ่อนตวั ไมข่ าด 3. ผา้ เมอื่ โดนความรอ้ นจะเปน็ อยา่ งไร อ่อนตัว เผาไหม้ 4. เหลก็ เมอ่ื ไดร้ บั ความรอ้ นจะมลี กั ษณะอย่างไร ละลาย ออ่ นตัว T AUN Class

แรงกบั การเคลอื่ นทขี่ องวัตถุ ว 2.2 ป.3/1 1. ผลของแรงตอ่ การเปลย่ี นแปลงการเคลอื่ นทขี่ องวตั ถุ 15คะแนนทไี่ ด้ คะแนนเตม็ เดก็ ๆ ทานายสถานการณ์ กอ่ นปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ลงมอื ปฏบิ ตั ิ และบนั ทกึ ผลกจิ กรรมการเคลอ่ื นทข่ี องวตั ถุ กจิ กรรม กอ่ นทา หลงั ทา ออกแรงดึง ออกแรงผลกั ออกแรงดงึ ออกแรงผลกั 1. ฉดุ เพอ่ื นใหล้ กุ จากเก้าอี้ 2. จดั โตะ๊ นักเรยี นให้ตรงแถว 3. ปิดประตูหอ้ งเรยี น 4. ถอื สมดุ ทางานไปวางบนโตะ๊ ครู 5. โยนลกู บอลใหเ้ พอื่ น 6. พลักชิงช้า 7. เปดิ ลิน้ ชกั ตู้ 8. ปิดล้ินชักตู้ 9. ยกถงั นา้ 10. ตลี ูกแบตมนิ ตนั สรปุ กจิ กรรม : แรงดงึ และแรงผลกั มผี ลตอ่ การเคล่ือนท่ีของวัตถุ เดก็ ๆวเิ คราะหส์ ถานการณ์ ใสเ่ ครอื่ งหมาย  ตรงขอ้ ความทถี่ กู และใสเ่ ครอ่ื งหมาย ตรงขอ้ ความทผี่ ดิ 1. ____การแกว่งชงิ ช้า เปน็ แรงท่ที าให้วัตถุเกดิ การเคลื่อนท่ี 2. ____การกอ่ กกองทราย เป็นแรงทท่ี าใหว้ ตั ถุเกดิ การเคล่อื นท่ี 3. ____การป้ันดนิ น้ามนั ไม่ทาใหว้ ัตถเุ คลอ่ื นที่ 4. ____เดก็ หญงิ A ออกแรงเตะตะกรอ้ สง่ ให้เพอื่ น เป็นการทาใหว้ ัตถหุ ยุดนง่ิ 5. ____เด็กชาย B ออกแรงรบั ลกู ฟุตบอลทเี่ พือ่ นเตะมา เปน็ การทาให้วตั ถุหยดุ นงิ่ T AUN Class

แรงกบั การเคลอื่ นทข่ี องวัตถุ เฉลย 1. ผลของแรงตอ่ การเปลยี่ นแปลงการเคลอื่ นทขี่ องวตั ถุ 15คะแนนทไ่ี ด้ คะแนนเตม็ เดก็ ๆ ทานายสถานการณ์ กอ่ นปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ลงมอื ปฏบิ ตั ิ และบนั ทกึ ผลกจิ กรรมการเคลอื่ นทขี่ องวตั ถุ กจิ กรรม กอ่ นทา หลงั ทา ออกแรงดงึ ออกแรงผลกั ออกแรงดงึ ออกแรงผลกั 1. ฉดุ เพือ่ นใหล้ กุ จากเกา้ อี้  2. จัดโตะ๊ นักเรียนให้ตรงแถว  3. ปดิ ประตหู ้องเรยี น  4. ถอื สมดุ ทางานไปวางบนโต๊ะครู 5. โยนลกู บอลให้เพ่ือน  6. พลักชิงช้า  7. เปิดลนิ้ ชักตู้  8. ปดิ ล้ินชกั ตู้  9. ยกถังน้า  10. ตลี กู แบตมนิ ตัน   สรุปกจิ กรรม : แรงดงึ และแรงผลักมผี ลตอ่ การเคลื่อนทีข่ องวัตถุ เดก็ ๆวเิ คราะหส์ ถานการณ์ ใสเ่ ครอื่ งหมาย  ตรงขอ้ ความทถี่ กู และใสเ่ ครอื่ งหมาย ตรงขอ้ ความทผ่ี ดิ 1. ____การแกว่งชิงช้า เป็นแรงทท่ี าใหว้ ตั ถเุ กดิ การเคลอ่ื นที่ 2. ____การก่อกกองทราย เปน็ แรงท่ีทาใหว้ ัตถเุ กดิ การเคลื่อนที่ 3. ____การปั้นดนิ น้ามนั ไมท่ าให้วัตถเุ คลอื่ นท่ี 4. ____เด็กหญิง A ออกแรงเตะตะกร้อสง่ ให้เพอื่ น เป็นการทาให้วัตถุหยุดนงิ่ 5. ____เด็กชาย B ออกแรงรบั ลูกฟตุ บอลทเ่ี พื่อนเตะมา เปน็ การทาให้วัตถุหยดุ น่ิง T AUN Class

แรงกบั การเคลอ่ื นทข่ี องวัตถุ ว 2.2 ป.3/2 2. แรงสมั ผสั และแรงไมส่ มั ผสั ทมี่ ผี ลตอ่ การเคลอ่ื นทข่ี องวตั ถุ 15คะแนนท่ไี ด้ คะแนนเต็ม เดก็ ๆ สงั เกตภาพแรงทกี่ ระทาตอ่ วตั ถุ และบอกวา่ เป็นแรงสมั ผสั หรอื แรงทไ่ี มส่ มั ผสั กบั วตั ถุ แรงทที่ าใหว้ ตั ถเุ คลอื่ นท่ี แรงสมั ผสั แรงไมส่ มั ผสั 1. ผลกั กลอ่ งลงั ไปขา้ งหนา้ 2. ลากดึงกล่องลงั 3. แอปเปลิ้ หลน่ 4. คนส่งของผลักรถเข็น 5. การดงึ ดูดของแม่เหลก็ เด็กๆ เตมิ ขอ้ ความแรงสมั ผสั และแรงไมส่ ัมผสั ให้ตรงกบั การเคลอ่ื นท่ขี องวัตถุ 1. ถีบจักรยาน .................................... 6. ยกกระเป๋านกั เรียน .................................. 2. มะมว่ งร่วงจากตน้ .................................... 7. แมเ่ หลก็ ผลักระหว่างแมเ่ หล็ก ........................ 3. กอ่ กองทราย .................................... 8. ลกู บอลหล่นจากโต๊ะ ................................... 4. เตะลูกฟตุ บอล .................................... 9. ใบไมป้ ลิว ................................... 5. การเปิดหน้าต่าง .................................. 10. จงู สุนัข ................................... T AUN Class

แรงกบั การเคลอื่ นทข่ี องวตั ถุ เฉลย 2. แรงสมั ผสั และแรงไมส่ มั ผสั ทมี่ ผี ลตอ่ การเคลอ่ื นทขี่ องวตั ถุ 15คะแนนท่ไี ด้ คะแนนเต็ม เดก็ ๆ สงั เกตภาพแรงทกี่ ระทาตอ่ วตั ถุ และบอกวา่ เป็นแรงสมั ผสั หรอื แรงทไี่ มส่ มั ผสั กบั วตั ถุ แรงทที่ าใหว้ ตั ถเุ คลอ่ื นท่ี แรงสมั ผสั แรงไมส่ มั ผสั 1. ผลกั กล่องลงั ไปขา้ งหน้า  2. ลากดึงกล่องลัง  3. แอปเปิล้ หล่น  4. คนสง่ ของผลกั รถเข็น  5. การดงึ ดูดของแมเ่ หลก็  เด็กๆ เตมิ ขอ้ ความแรงสัมผัสและแรงไมส่ ัมผสั ใหต้ รงกับการเคลอื่ นที่ของวัตถุ 1. ถบี จกั รยาน แรงสัมผสั 6. ยกกระเป๋านักเรียน แรงสัมผสั 2. มะม่วงร่วงจากต้น แรงไม่สมั ผัส 3. ก่อกองทราย แรงสมั ผสั 7. แมเ่ หล็กผลักระหวา่ งแม่เหล็ก แรงไม่สัมผสั 4. เตะลูกฟตุ บอล แรงสัมผสั 5. การเปิดหนา้ ต่าง แรงสมั ผสั 8. ลกู บอลหลน่ จากโต๊ะ แรงไม่สมั ผัส 9. ใบไม้ปลิว แรงไมส่ ัมผัส 10. จงู สนุ ขั แรงสมั ผสั T AUN Class

แรงกบั การเคลอื่ นทขี่ องวัตถุ ว 2.2 ป.3/3 3. แมเ่ หลก็ และสมบตั ขิ องแมเ่ หลก็ 25คะแนนทไี่ ด้ คะแนนเต็ม แกว้ นา้ ตะปู แกว้ พลาสตกิ กระจก กระดาษแข็ง เขม็ ใบไม้ ลวดเยบ็ กระดาษ ลูกแกว้ คลิปหนบี กระดาษ ค้อนตอกตะปู ยางลบ ดินสอสี เข็มกลดั แม่กุญแจ ลูกกญุ แจ เสน้ ด้าย เสน้ ลวด ชามเซรามกิ น๊อต ผ้าเช็ดหน้า กรรไกร แปรงสีฟนั ไม้จิม้ ฟัน ไขควง วตั ถทุ เี่ ปน็ สารแมเ่ หลก็ .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... วตั ถทุ ไ่ี มเ่ ปน็ สารแมเ่ หลก็ .................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................... แมเ่ หล็กมแี รงดงึ ดูดวตั ถุบางชนิดได้ เราเรียกวตั ถทุ แี่ ม่เหล็กออกแรงดงึ ดดู ได้วา่ สารแมเ่ หลก็ สารแมเ่ หล็กจะเป็นโลหะ ได้แก่ เหล็ก นิกเกลิ และโคบอลต์ T AUN Class

แรงกบั การเคลอื่ นทขี่ องวัตถุ เฉลย 3. แมเ่ หลก็ และสมบตั ขิ องแมเ่ หลก็ 25คะแนนที่ได้ คะแนนเตม็ แก้วน้า ตะปู แก้วพลาสติก กระจก กระดาษแข็ง เข็ม ใบไม้ ลวดเย็บกระดาษ ลกู แกว้ คลปิ หนบี กระดาษ คอ้ นตอกตะปู ยางลบ ดนิ สอสี เขม็ กลดั แม่กญุ แจ ลกู กุญแจ เสน้ ดา้ ย เส้นลวด ชามเซรามิก น๊อต ผา้ เช็ดหนา้ กรรไกร แปรงสีฟัน ไมจ้ ม้ิ ฟนั ไขควง วตั ถทุ เ่ี ปน็ สารแมเ่ หลก็ คลิปหนบี กระดาษ ตะปู กรรไกร เข็ม ไขควง ลวดเย็บกระดาษ ลกู กุญแจ เขม็ กลัด แม่กุญแจ เสน้ ลวด คอ้ นตอกตะปู น๊อต วตั ถทุ ไ่ี มเ่ ปน็ สารแมเ่ หลก็ แกว้ น้า แกว้ พลาสตกิ กระจก กระดาษแข็ง ใบไม้ ลกู แก้ว ยางลบ ดินสอสี เสน้ ด้าย ชามเซรามกิ ผ้าเชด็ หนา้ แปรงสฟี นั ไมจ้ ิ้มฟัน แมเ่ หลก็ มีแรงดงึ ดดู วตั ถุบางชนิดได้ เราเรยี กวัตถุท่ีแม่เหล็กออกแรงดึงดดู ไดว้ า่ สารแมเ่ หลก็ สารแม่เหลก็ จะเป็นโลหะ ไดแ้ ก่ เหล็ก นกิ เกิล และโคบอลต์ T AUN Class

แรงกบั การเคลอ่ื นทข่ี องวตั ถุ ว 2.2 ป.3/4 3. แมเ่ หลก็ และสมบตั ขิ องแมเ่ หลก็ 10คะแนนทไ่ี ด้ คะแนนเต็ม แรงแม่เหลก็ เป็นแรงทเ่ี กดิ ขน้ึ ระหวา่ งแม่เหล็ก กับสารแมเ่ หล็ก หรือแม่เหลก็ กบั แม่เหล็ก แมเ่ หลก็ มี 2 ข้ัว คือ ขัว้ เหนือ (N) และขว้ั ใต้ (S) ข้วั แมเ่ หล็กชนดิ เดียวกนั จะ ผลักกัน ตา่ งชนดิ กันจะดึงดดู กนั เดก็ ๆ วเิ คราะหส์ ถานการณ์ ใสเ่ ครอื่ งหมาย  ตรงขอ้ ความทถี่ กู และใสเ่ ครอื่ งหมาย ตรงขอ้ ความทผี่ ดิ 1. ____เหลก็ ดงึ ดูดสารแม่เหลก็ ได้ 2. ____แม่เหล็ก ดงึ ดดู วตั ถุได้ทกุ ชนิด 3. ____แม่เหล็ก ขัว้ ต่างชนดิ กันจะผลักกัน 4. ____แม่เหลก็ ขั้วชนิดเดียวกันจะผลักกัน 5. ____เขม็ ทศิ และกระด่ิงไฟฟ้า เปน็ อุปกรณ์ท่ีใชห้ ลักการของแม่เหลก็ 6. ____แม่เหล็ก จะดงึ ดดู สรอ้ ยทองคา 7. ____แมเ่ หลก็ สามารถนาไปใชใ้ นการแยกโลหะจาพวกเหลก็ ออกจากวัสดอุ ่ืนได้ เดก็ ๆ วิเคราะหส์ ถานการณ์ และเลอื กตวั เลอื กทถี่ กู ตอ้ ง สามารถเลอื กไดห้ ลายตวั เลอื ก AB C 8. จากภาพ ถา้ แบ่งแท่งแมเ่ หลก็ 1 แท่งเปน็ 3 ส่วน ขั้วแม่เหล็กจะอยู่บรเิ วณส่วนใดของแท่งแมเ่ หลก็ A และ B B และ C A และ C B เท่านน้ั ABC D 9. เมือ่ นาแท่งแมเ่ หล็ก 2 แท่งมาวางใกลก้ ัน จะไดผ้ ลดังภาพ ข้อใดกลา่ วถกู ตอ้ ง A และ D เป็นขว้ั ใต้ A และ C เปน็ ขว้ั เหนอื B และ D เปน็ ขัว้ ใต้ T AUN Class

แรงกบั การเคลอ่ื นทขี่ องวตั ถุ เฉลย 3. แมเ่ หลก็ และสมบตั ขิ องแมเ่ หลก็ 10คะแนนท่ีได้ คะแนนเต็ม แรงแม่เหล็กเป็นแรงท่ีเกดิ ขึ้น ระหวา่ งแมเ่ หล็ก กับสารแม่เหล็ก หรือแมเ่ หล็กกบั แม่เหล็ก แมเ่ หลก็ มี 2 ข้วั คอื ขั้วเหนือ (N) และขั้ว ใต้ (S) ขัว้ แมเ่ หลก็ ชนดิ เดยี วกันจะ ผลักกัน ต่างชนิดกันจะดงึ ดดู กัน เดก็ ๆ วเิ คราะหส์ ถานการณ์ ใสเ่ ครอื่ งหมาย  ตรงขอ้ ความทถี่ กู และใสเ่ ครอ่ื งหมาย ตรงขอ้ ความทผ่ี ดิ 1. ____เหล็ก ดงึ ดดู สารแม่เหล็กได้ 2. ____แม่เหลก็ ดึงดูดวตั ถุไดท้ กุ ชนิด 3. ____แมเ่ หล็ก ขั้วต่างชนิดกันจะผลักกัน 4. ____แมเ่ หลก็ ขว้ั ชนดิ เดียวกันจะผลักกัน 5. ____เขม็ ทิศและกระด่ิงไฟฟา้ เป็นอปุ กรณ์ท่ีใชห้ ลักการของแม่เหลก็ 6. ____แมเ่ หลก็ จะดงึ ดูดสร้อยทองคา 7. ____แมเ่ หลก็ สามารถนาไปใชใ้ นการแยกโลหะจาพวกเหล็กออกจากวัสดุอนื่ ได้ เดก็ ๆ วิเคราะหส์ ถานการณ์ และเลอื กตวั เลอื กทถ่ี กู ตอ้ ง สามารถเลอื กไดห้ ลายตวั เลอื ก AB C 8. จากภาพ ถ้าแบ่งแทง่ แมเ่ หล็ก 1 แท่งเป็น 3 ส่วน ขว้ั แมเ่ หล็กจะอยู่บรเิ วณสว่ นใดของแทง่ แม่เหลก็ A และ B B และ C A และ C B เทา่ นั้น ABC D 9. เมอื่ นาแท่งแมเ่ หล็ก 2 แทง่ มาวางใกลก้ นั จะได้ผลดงั ภาพ ขอ้ ใดกลา่ วถกู ต้อง A และ D เป็นข้วั ใต้ A และ C เป็นขั้วเหนือ B และ D เป็นขัว้ ใต้ T AUN Class

แรงกบั การเคลอื่ นทข่ี องวัตถุ ว 2.2 ป.3/4 เดก็ ๆ สงั เกตการเปลยี่ นแปลงของแมเ่ หลก็ และบนั ทกึ ผล 10คะแนนท่ไี ด้ คะแนนเตม็ ลกั ษณะการวางแมเ่ หลก็ แรงทเ่ี กิดจากแมเ่ หล็ก 1. แรงดึงดูด แรงผลกั 2. 3. 4. เดก็ ๆ วเิ คราะหข์ อ้ มลู จากตารางและตอบคาถาม 5. นกั เรียนคิดว่าแมเ่ หล็ก 2 แทง่ จะเกดิ แรงดงึ ดูดเม่ือวางแม่เหล็กในลักษณะใด (วาดภาพ) 6. นกั เรยี นคิดว่าแมเ่ หล็ก 2 แท่ง จะเกิดแรงผลกั เมอื่ วางแม่เหล็กในลักษณะใด (วาดภาพ) 7. แม่เหล็กมีก่ีข้ัว อะไรบ้าง 8. เม่อื นาแมเ่ หลก็ 2 แท่ง ที่มีขว้ั เหมือนกันวางใกล้ ................................................... กนั จะมีแรงใดเกดิ ข้นึ .................................................. ................................................... .......................................................................................... 9. เมอ่ื นาแม่เหลก็ 2 แท่ง ทมี่ ีข้วั ต่างกัน 10. นกั เรยี นใชป้ ระโยชน์จากแรงดึงดูดหรือ วางใกล้กัน จะมแี รงใดเกิดขน้ึ ..................... แรงผลักจากแมเ่ หลก็ อย่างไร ........................................................................... ........................................................................... ........................................................................... T AUN Class

แรงกบั การเคลอ่ื นทข่ี องวตั ถุ เฉลย เดก็ ๆ สงั เกตการเปลย่ี นแปลงของแมเ่ หลก็ และบนั ทกึ ผล 10คะแนนที่ได้ คะแนนเต็ม ลกั ษณะการวางแมเ่ หลก็ แรงทีเ่ กิดจากแม่เหล็ก 1. แรงดงึ ดูด แรงผลกั 2. 3.  4.    เดก็ ๆ วเิ คราะหข์ อ้ มลู จากตารางและตอบคาถาม 5. นกั เรียนคดิ วา่ แม่เหลก็ 2 แทง่ จะเกดิ แรงดงึ ดดู เมื่อวางแมเ่ หล็กในลกั ษณะใด (วาดภาพ) 6. นักเรยี นคิดว่าแม่เหล็ก 2 แท่ง จะเกิดแรงผลกั เม่ือวางแม่เหลก็ ในลักษณะใด (วาดภาพ) 7. แม่เหล็กมีกี่ข้ัว อะไรบ้าง 8. เม่ือนาแม่เหลก็ 2 แทง่ ท่ีมขี ั้วเหมือนกนั วางใกล้ 2 ข้วั ไดแ้ ก่ ข้ัวเหนือ และขวั้ ใต้ กนั จะมีแรงใดเกดิ ข้นึ แรงผลัก 9. เมื่อนาแม่เหล็ก 2 แท่ง ทีม่ ขี ั้วตา่ งกนั 10. นักเรยี นใชป้ ระโยชนจ์ ากแรงดงึ ดดู วางใกลก้ ัน จะมีแรงใดเกดิ ขน้ึ แรงดึงดดู หรอื แรงผลักจากแมเ่ หล็กอย่างไร ตวั อย่างคาตอบ แม่เหล็กทข่ี อบประตู ตเู้ ยน็ ดึงดดู กนั ชว่ ยให้ตู้เยน็ ปดิ สนทิ และ ไมใ่ ห้ความรอ้ นเข้าตูเ้ ย็นได้ T AUN Class

แรงกบั การเคลอ่ื นทขี่ องวัตถุ ว 2.2 ป.3/4 เดก็ ๆ นาคาทก่ี าหนดวางลงในชอ่ งวา่ งใหถ้ กู ตอ้ ง ตามแผนภาพความคดิ สรปุ เรอื่ ง แมเ่ หลก็ และสมบตั ิของแมเ่ หลก็ ผา้ ไม้ แกว้ ยาง ผลกั กบั แมเ่ หลก็ ขว้ั ใต้ ดงึ ดดู กบั แมเ่ หลก็ ทม่ี ขี วั้ ขวั้ เหนอื ดงึ ดดู วัตถทุ เ่ี ปน็ สารแมเ่ หลก็ เหลก็ นกิ เกลิ โคบอล ไมด่ งึ ดดู กบั วตั ถทุ ไี่ มม่ สี าร มแี รงดงึ ดดู แมเ่ หลก็ มแี รงผลกั มี ............. ขว้ั T AUN Class

แรงกบั การเคลอ่ื นทขี่ องวัตถุ เฉลย เดก็ ๆ นาคาทก่ี าหนดวางลงในชอ่ งวา่ งใหถ้ กู ตอ้ ง ตามแผนภาพความคดิ สรปุ เรอื่ ง แมเ่ หลก็ และสมบตั ิของแมเ่ หลก็ ผา้ ไม้ แกว้ ยาง ผลกั กบั แมเ่ หลก็ ขว้ั ใต้ ดงึ ดดู กบั แมเ่ หลก็ ทมี่ ขี วั้ ขวั้ เหนอื ดงึ ดดู วตั ถทุ เี่ ปน็ สารแมเ่ หลก็ เหลก็ นกิ เกลิ โคบอล ผา้ ไม้ แกว้ ยาง ไมด่ งึ ดดู กบั วตั ถทุ ไ่ี มม่ สี าร มแี รงดงึ ดดู แมเ่ หล็ก มแี รงผลกั ดงึ ดดู กบั แมเ่ หลก็ ทมี่ ขี วั้ ผลกั กบั แมเ่ หลก็ ดงึ ดดู วัตถทุ เ่ี ปน็ สารแมเ่ หลก็ มี ...2..... ขวั้ เหลก็ นกิ เกลิ โคบอล ขวั้ เหนอื ขวั้ ใต้ T AUN Class

ว 2.3 ป.3/1 แหลง่ พลงั งานและไฟฟา้ เดก็ ๆ โยงเสน้ เชอ่ื มกบั อปุ กรณไ์ ฟฟา้ ทต่ี นเองรจู้ กั พรอ้ มระบายสี อปุ กรณไ์ ฟฟา้ ทเ่ี ดก็ ๆ รจู้ กั มปี ระโยชนอ์ ะไรบา้ ง (1)......................................=....................................................................................................................... (2)......................................=....................................................................................................................... (3)......................................=....................................................................................................................... (4)......................................=....................................................................................................................... (5)......................................=....................................................................................................................... (6)......................................=....................................................................................................................... (7)......................................=....................................................................................................................... T AUN Class

เฉลย แหลง่ พลงั งานและไฟฟา้ เดก็ ๆ โยงเสน้ เชอ่ื มกบั อปุ กรณไ์ ฟฟา้ ทต่ี นเองรจู้ กั พรอ้ มระบายสี อปุ กรณไ์ ฟฟา้ ทเ่ี ดก็ ๆ รจู้ กั มปี ระโยชนอ์ ะไรบ้าง (1) ไดร์เปา่ ผม = ใช้ลมรอ้ นเป่าผมใหแ้ ห้งอย่างรวดเรว็ (2) เตารีด = ใชร้ ีดเสอ้ื ผ้าใหเ้ รียบ (3) หม้อหุงข้าว = ใช้หงุ ข้าวสวยได้รบั ประทาน (4) เครอ่ื งอบอาหาร = ใชท้ าอาหารด้วยการอบ (5) เคร่อื งดดู ฝุน่ = ใชท้ าความสะอาดพน้ื ทดี่ ว้ ยแรงลม (6) พัดลม = ชว่ ยบรรเทาความร้อนจากสภาพภูมิอากาศ (7) ตู้เยน็ = ใช้ถนอมอาหารด้วยความเยน็ T AUN Class

แหลง่ พลงั งานและไฟฟา้ ว 2.3 ป.3/1 10คะแนนทไ่ี ด้ คะแนนเตม็ เดก็ ๆ วิเคราะหภ์ าพการใชป้ ระโยชน์ บอกแหลง่ พลงั งาน และการเปลย่ี นพลังงาน การใชป้ ระโยชน์ การเปลย่ี นพลงั งาน 1. การถมู อื ในฤดหู นาว พลงั งานเดมิ พลงั งานทใี่ ชป้ ระโยชน์ 2. การใชก้ งั หนั ลมผลติ กระแสไฟฟา้ 3. การปลอ่ ยนา้ ออกจากเขอื่ น 4. การใชพ้ ดั ลมใหค้ วามเยน็ 5. การใชเ้ ครอื่ งซกั ผา้ ทาความสะอาด เส้อื ผา้ T AUN Class

ว 2.3 ป.3/1 แหลง่ พลงั งานและไฟฟา้ เดก็ ๆ วิเคราะหภ์ าพและบอกการใชป้ ระโยชน์ แหลง่ พลงั งาน และการเปลยี่ นพลงั งาน การใชป้ ระโยชน์ การเปลยี่ นพลงั งาน 6. การใชเ้ ตาไฟฟา้ พลงั งานเดมิ พลงั งานทใ่ี ชป้ ระโยชน์ 7. การใชเ้ ตารดี 8. การใชห้ มอ้ หงุ ขา้ ว 9. การใชเ้ ตาอบอาหาร 10. การใชห้ ลอดไฟฟา้ T AUN Class

แหลง่ พลงั งานและไฟฟา้ เฉลย 10คะแนนทไ่ี ด้ คะแนนเตม็ เดก็ ๆ วเิ คราะหภ์ าพการใชป้ ระโยชน์ บอกแหลง่ พลงั งาน และการเปลยี่ นพลงั งาน การใชป้ ระโยชน์ การเปลยี่ นพลงั งาน 1. การถมู อื ในฤดหู นาว พลงั งานเดมิ พลงั งานทใ่ี ชป้ ระโยชน์ พลงั งานกลจากมอื พลงั งานความรอ้ น 2. การใชก้ งั หนั ลมผลติ กระแสไฟฟา้ พลงั งานกลของกงั หนั พลงั งานไฟฟา้ 3. การปลอ่ ยนา้ ออกจากเขอื่ น พลงั งานกลหมนุ กงั หนั เครอื่ ง พลงั งานไฟฟา้ 4. การใชพ้ ดั ลมใหค้ วามเยน็ กาเนดิ ไฟฟา้ พลงั งานไฟฟา้ พลงั งานกล 5. การใชเ้ คร่ืองซกั ผา้ ทาความสะอาด เสือ้ ผา้ พลงั งานไฟฟา้ พลงั งานกล T AUN Class

เฉลย แหลง่ พลงั งานและไฟฟา้ เดก็ ๆ วิเคราะหภ์ าพและบอกการใชป้ ระโยชน์ แหลง่ พลงั งาน และการเปลย่ี นพลงั งาน การใชป้ ระโยชน์ การเปลยี่ นพลงั งาน 6. การใชเ้ ตาไฟฟา้ พลงั งานเดมิ พลงั งานทใี่ ชป้ ระโยชน์ พลงั งานไฟฟา้ พลงั งานความรอ้ น 7. การใชเ้ ตารดี พลงั งานไฟฟา้ พลงั งานความรอ้ น 8. การใชห้ มอ้ หงุ ขา้ ว พลงั งานไฟฟา้ พลงั งานความรอ้ น 9. การใชเ้ ตาอบอาหาร พลงั งานไฟฟา้ พลงั งานความรอ้ น 10. การใชห้ ลอดไฟฟา้ พลงั งานไฟฟา้ พลงั งานแสง T AUN Class

ว 2.3 ป.3/1 แหลง่ พลงั งานและไฟฟา้ เดก็ ๆ ตอบคาถาม และเขยี นเครอื่ งหมาย  ใน หนา้ คาตอบทถี่ กู ตอ้ ง 1. พลังงานไฟฟา้ เปลี่ยนไปเปน็ พลงั งานใดไดบ้ ้าง พลังงานแสง พลงั งานกล พลังงานเสยี ง พลงั งานความร้อน อน่ื ๆ ........................................... 2. เดก็ ๆ ยกตัวอย่างการเปล่ยี นพลังงานไฟฟา้ เป็นพลังงานอนื่ ๆ ของเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าชนดิ ตา่ ง ๆ เครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ การเปลยี่ นพลงั งานไฟฟา้ เปน็ 2.1 พลงั งานแสง พลงั งานเสยี ง พลงั งานความรอ้ น พลงั งานกล 2.2 2.3 2.4 2.5 3. เดก็ ๆเขยี นชอื่ เครอื่ งใชไ้ ฟฟ้าทเี่ ปลย่ี นพลงั งานไฟฟา้ เปน็ พลงั งานอนื่ ๆ ในแผนภาพใหถ้ กู ตอ้ ง พลงั งานแสง ............................................................ เครอื่ ง พลังงานเสยี ง ............................................................ ใชไ้ ฟฟา้ พลังงานความรอ้ น ............................................................ พลังงานกล ............................................................ T AUN Class

เฉลย แหลง่ พลงั งานและไฟฟา้ เดก็ ๆ ตอบคาถาม และเขยี นเครอ่ื งหมาย  ใน หนา้ คาตอบทถ่ี กู ตอ้ ง 1. พลงั งานไฟฟา้ เปล่ียนไปเปน็ พลังงานใดได้บ้าง  พลงั งานแสง  พลังงานกล  พลงั งานเสยี ง  พลังงานความ อ่ืนๆ ........................................... 2. เดก็ ๆ ยกตัวอย่างการเปล่ยี นพลังงานไฟฟา้ เป็นพลังงานอื่นๆ ของเครือ่ งใชไ้ ฟฟา้ ชนิดต่าง ๆ (ตัวอย่างคาตอบ) เครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ การเปลย่ี นพลงั งานไฟฟา้ เปน็ พลงั งานแสง พลงั งานเสยี ง พลงั งานความรอ้ น พลงั งานกล 2.1 หลอดไฟ  2.2 เครื่องซักผา้  2.3 หม้อหุงขา้ วไฟฟา้  2.4 โทรทัศน์  2.5 พดั ลม  3. เดก็ ๆเขยี นชอื่ เครอื่ งใชไ้ ฟฟ้าทเ่ี ปลย่ี นพลงั งานไฟฟา้ เปน็ พลงั งานอน่ื ๆ ในแผนภาพใหถ้ กู ตอ้ ง พลังงานแสง หลอดไฟฟา้ เครอ่ื ง พลงั งานเสยี ง วทิ ยุ โทรทศั น์ ใชไ้ ฟฟา้ พลงั งานความร้อน หมอ้ หงุ ขา้ วไฟฟา้ เตารดี พลังงานกล พดั ลม เครอื่ งซกั ผา้ T AUN Class

ว 2.3 ป.3/2 แหลง่ พลงั งานและไฟฟา้ 1. เดก็ ๆ รจู้ กั สงิ่ ทเี่ หน็ ในภาพหรอื ไม่ ลองมาชว่ ยเตมิ ชอื่ สว่ นประกอบกนั นะจะ๊ คนั หมนุ แมเ่ หลก็ กระแสไฟฟา้ ทไ่ี ด้ ขดลวดพันรอบแกน 1.1......................................................... ..................................... 1.2.................................... ................................................. 2. สง่ิ ทเี่ ห็นในภาพเรยี กวา่ ............................................................................................................... 3. ทาหน้าทอี่ ะไร ............................................................................................................................... 4. มกี ารทางานอยา่ งไร ..................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... เครอ่ื งกาเนดิ ไฟฟา้ หรอื ไดนาโม มีสว่ นประกอบสาคัญ 2 ส่วน คอื ขดลวดทีพ่ ันอยรู่ อบแกน และแมเ่ หลก็ 2 แท่ง ที่หันขัว้ ตา่ งกันเข้าหากนั เพื่อให้เกดิ สนามแมเ่ หล็กจากขวั้ เหนอื ไปยงั ขวั้ ใต้ ไดนาโมผลติ กระแสไฟฟา้ ได้ โดยการหมนุ ขดลวดให้ ตดั สนามแมเ่ หลก็ เพอ่ื เหนยี่ วนาให้เกิดกระแสไฟฟา้ ขน้ึ T AUN Class

เฉลย แหลง่ พลงั งานและไฟฟา้ 1. เดก็ ๆ รจู้ กั สงิ่ ทเ่ี หน็ ในภาพหรอื ไม่ ลองมาชว่ ยเตมิ ชอ่ื สว่ นประกอบกนั นะจะ๊ คนั หมนุ แมเ่ หลก็ กระแสไฟฟา้ ทไ่ี ด้ ขดลวดพันรอบแกน 1.1 ขดลวดพนั รอบแกน คนั หมนุ 1.2 แมเ่ หลก็ กระแสไฟฟา้ ทไี่ ด้ 2. สงิ่ ทเี่ ห็นในภาพเรยี กวา่ เครอ่ื งกาเนดิ ไฟฟา้ หรอื ไดนาโม 3. ทาหน้าทอี่ ะไร 4. มกี ารทางานอยา่ งไร ผลิตกระแสไฟฟา้ ไดนาโมผลติ กระแสไฟฟา้ ได้ โดยการหมนุ ขดลวดใหต้ ดั สนามแมเ่ หลก็ เพอื่ เหนย่ี วนาใหเ้ กดิ กระแสไฟฟา้ ข้ึน เครอื่ งกาเนดิ ไฟฟา้ หรอื ไดนาโม มีสว่ นประกอบสาคัญ 2 ส่วน คอื ขดลวดทพี่ นั อยรู่ อบแกน และแมเ่ หล็ก 2 แทง่ ท่ีหนั ข้วั ตา่ งกนั เข้าหากนั เพ่อื ใหเ้ กดิ สนามแมเ่ หลก็ จากขั้วเหนือไปยัง ขัว้ ใต้ ไดนาโมผลิตกระแสไฟฟ้าได้ โดยการหมนุ ขดลวดให้ ตดั สนามแม่เหล็ก เพ่ือเหน่ียวนาให้เกดิ กระแสไฟฟา้ ขน้ึ T AUN Class

ว 2.3 ป.3/2 แหลง่ พลงั งานและไฟฟา้ เดก็ ๆ พจิ ารณาอปุ กรณไ์ ฟฟา้ รอบๆตวั และตอบคาถามชวนคดิ ดงั นี้ 1. หลอดไฟฟ้า สวา่ งได้อยา่ งไร ........................................................... 2. กระแสไฟฟา้ มาจากไหน ................................................................... 3. โรงไฟฟา้ ผลติ กระแสไฟฟ้าได้อยา่ งไร ...................................................................................... 4. พลังงานไฟฟา้ มาจากไหน ......................................................................................................... ............................................................................................................................................................... 5. โรงไฟฟ้าใช้พลงั งานใดในการผลิตกระแสไฟฟา้ ...................................................................... 6. อปุ กรณ์ใดทีใ่ ช้ในการผลติ กระแสไฟฟา้ .................................................................................... 7. อุปกรณน์ มี้ ีสว่ นประกอบอะไรบ้าง ............................................................................................... 8. อุปกรณน์ ี้ทางานอย่างไร เพอ่ื ให้ได้กระแสไฟฟา้ ..................................................................... ................................................................................................................................................................ กระแสไฟฟา้ จะเกดิ ข้นึ มากหรอื น้อยสังเกตไดว้ ่า เมอ่ื หมุน คันหมุนเร็วข้ึน จานวนรอบมากขึน้ หลอดไฟฟ้าสวา่ งมากข้นึ แสดงว่ามกี ระแสไฟฟ้าเพ่มิ ข้ึน T AUN Class

เฉลย แหลง่ พลงั งานและไฟฟา้ เดก็ ๆ พจิ ารณาอปุ กรณไ์ ฟฟา้ รอบๆตวั และตอบคาถามชวนคดิ ดงั นี้ 1. หลอดไฟฟา้ สว่างได้อยา่ งไร มกี ระแสไฟฟา้ ผ่าน 2. กระแสไฟฟา้ มาจากไหน โรงไฟฟ้า 3. โรงไฟฟา้ ผลติ กระแสไฟฟ้าได้อยา่ งไร มเี ครื่องกาเนดิ ไฟฟา้ ขนาดใหญ่ 4. พลงั งานไฟฟ้า มาจากไหน พลังงานไฟฟา้ สว่ นมากมาจากโรงไฟฟ้าทมี่ ีเครอ่ื งกาเนิดไฟฟ้า ขนาดใหญผ่ ลิตกระแสไฟฟา้ 5. โรงไฟฟา้ ใชพ้ ลงั งานใดในการผลิตกระแสไฟฟา้ พลงั งานน้า พลังงานลมและแก๊สธรรมชาติ 6. อปุ กรณใ์ ดทใี่ ชใ้ นการผลติ กระแสไฟฟ้า เครื่องกาเนดิ ไฟฟ้าหรอื ไดนาโม 7. อปุ กรณน์ ้ีมีสว่ นประกอบอะไรบา้ ง ขดลวดพนั รอบแกน และแท่งแมเ่ หล็ก 8. อุปกรณน์ ้ีทางานอย่างไร เพ่อื ให้ได้กระแสไฟฟา้ หมนุ ขดลวดตัดกบั สนามแมเ่ หล็กเปน็ การ เหน่ียวนาใหเ้ กิดกระแสไฟฟา้ กระแสไฟฟา้ จะเกิดขน้ึ มากหรอื น้อยสงั เกตได้วา่ เม่อื หมุน คนั หมนุ เร็วขึ้น จานวนรอบมากขนึ้ หลอดไฟฟา้ สวา่ งมากขึ้น แสดงวา่ มกี ระแสไฟฟ้าเพมิ่ ขนึ้ T AUN Class

แหลง่ พลงั งานและไฟฟา้ ว 2.3 ป.3/2 พลังงานแสงอาทติ ย์ พลังงานน้ามัน พลังงานชวี มวล พลงั งานถา่ นหิน พลงั งานแกส๊ ธรรมชาติ พลงั งานคลื่นน้า พลังงานความรอ้ นใต้พิภพ พลังงานชีวมวล พลังงานลม พลังงานนา้ พลงั งานนา้ ขน้ึ นา้ ลง พลังงานนิวเคลียรจ์ ากแร่ยเู รเนียม พลังงานขยะ พลังงานหมนุ เวยี น พลงั งานจากดั T AUN Class

แหลง่ พลงั งานและไฟฟา้ เฉลย พลังงานแสงอาทติ ย์ พลงั งานน้ามนั พลงั งานชีวมวล พลังงานถา่ นหิน พลังงานแกส๊ ธรรมชาติ พลังงานคลืน่ น้า พลงั งานความรอ้ นใต้พิภพ พลงั งานนา้ พลงั งานลม พลังงานน้าข้นึ น้าลง พลงั งานนวิ เคลยี ร์จากแร่ยูเรเนียม พลงั งานหมุนเวยี น พลงั งานจากัด พลงั งานแสงอาทิตย์ พลังงานน้ามนั พลังงานชวี มวล พลงั งานถ่านหิน พลงั งานคลนื่ น้า พลงั งานแก๊สธรรมชาติ พลงั งานความรอ้ นใตพ้ ภิ พ พลังงานน้า พลังงานลม พลังงานนา้ ขึ้น น้าลง พลังงานนวิ เคลยี รจ์ ากแร่ ยเู รเนยี ม T AUN Class

แหลง่ พลงั งานและไฟฟา้ ว 2.3 ป.3/3 เดก็ ๆ รว่ มกนั สรา้ ง ชิ้นงานทบ่ี อกประโยชน์ โทษ วธิ กี ารใชไ้ ฟฟา้ อย่าง ประหยดั และปลอดภยั กนั นะจะ๊ ทากาวบรเิ วณ ทก่ี าหนดและพบั สลบั กนั เปน็ อนั เสรจ็ เรยี บรอ้ ยจา้ วิธีการใช้ไฟฟา้ อย่างประหยดั ประโยชนข์ องไฟฟ้า โทษของไฟฟา้ ทากาว T AUN Class

แหลง่ พลงั งานและไฟฟา้ ว 2.3 ป.3/3 เดก็ ๆ รว่ มกนั สรา้ ง ชิ้นงานทบ่ี อกประโยชน์ โทษ วธิ กี ารใชไ้ ฟฟา้ อย่าง ประหยดั และปลอดภยั กนั นะจะ๊ ทากาวบรเิ วณ ทก่ี าหนดและพบั สลบั กนั เปน็ อนั เสรจ็ เรยี บรอ้ ยจา้ วิธีการใช้ไฟฟา้ อย่างประหยดั ประโยชนข์ องไฟฟ้า โทษของไฟฟา้ ทากาว T AUN Class

แหลง่ พลงั งานและไฟฟา้ ว 2.3 ป.3/3 เดก็ ๆ รว่ มกนั สรา้ ง ชิ้นงานทบ่ี อกประโยชน์ โทษ วธิ กี ารใชไ้ ฟฟา้ อย่าง ประหยดั และปลอดภยั กนั นะจะ๊ ทากาวบรเิ วณ ทก่ี าหนดและพบั สลบั กนั เปน็ อนั เสรจ็ เรยี บรอ้ ยจา้ วิธีการใช้ไฟฟา้ อย่างประหยดั ประโยชนข์ องไฟฟ้า โทษของไฟฟา้ ทากาว T AUN Class

ประโยชนข์ องไฟฟา้แหล่งพลังงานและไฟฟ้า เฉลยโทษของไฟฟา้ 1. ใหแ้ สงสวา่ ง ให้ความรอ้ นตัวอย่างคาตอบ1. ทาให้ร่างกายได้รบั บาดเจ็บหรือทาให้ 2. ทาให้เกิดแรงหรือพลงั งานกล เสียชีวิต เด็กๆ ร่วมกันสร้าง 2. ทาใหท้ รพั ย์สนิ ในบ้านเสียหาย ใชแ้ ทนแรงงานคนชิ้นงานที่บอกประโยชน์3. เกดิ ปญั หาสิ่งแวดล้อม 3. สามารถใชใ้ นดา้ นการอานวยความโทษ วิธีการใช้ไฟฟ้าอย่าง4. เสยี ค่าใชจ้ า่ ยคา่ ไฟฟา้ เพิ่มข้ึน อานวยความสะดวกในชีวติ ประจาวนัประหยัดและปลอดภัย กันนะจ๊ะ ทากาวบริเวณ ท่ีกาหนดและพับสลับกัน เป็นอันเสร็จเรียบร้อยจ้า ทากาว T AUN Class วิธกี ารใช้ไฟฟา้ อยา่ งประหยัด 1. หม่ันตรวจสอบอปุ กรณไ์ ฟฟา้ เปน็ ประจา 2. ควรปดิ และถอดปลกั๊ อุปกรณ์ไฟฟ้าทุก คร้งั หลงั จากใช้งาน 3. ควรศึกษาค่มู อื กอ่ นการใชง้ าน เพือ่ ปอ้ งกนั อบุ ตั ิเหตุ 4. การเดนิ สายและติดต้ังอุปกรณ์ ควร เป็นไปตามมาตรฐานเพอื่ ความปลอดภยั


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook