แผนการจัดการเรีนรู้ Active Learning สกร.ขอนแก่น2566.docอุ

แผนการจัดการเรียนรู้ เรอ่ื ง พุทธประวัตแิ ละหลักธรรมคำสอนของพุทธศำสนำ เวลา ๖๐ นาที สาระการพฒั นาสงั คม รายวิชาศำสนำและหนำ้ ทพี่ ลเมือง สค ๓๑๐๐๒ ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย จานวน ๒ หน่วยกิต ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๖ สกร.อาเภอพล สานักงาน สกร.จังหวัดขอนแก่น ครผู ้สู อน นายอดุ มทรัพย์ พรมมนั ทา ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ๑. สาระสาคญั ศาสนาต่างๆ ในโลกมีคุณค่าและเป็นประโยชนต์ ่อชาวโลก เพราะก่อให้เกิดจริยธรรม เปนแนวทางการ ดําเนินชีวิต ทําใหมนุษยสามารถปกครองตนเองได้ ชวยใหสังคมดีขึ้น สําหรับประเทศไทยมีผู้นับถือศาสนาพุทธ มากที่สุดรองลงมาคือศาสนาอิสลามศาสนาคริสติ ศาสนาฮินูดูและศาสนาซิกซ แต่ในโลกมีผู้นับถือศาสนาคริสต์ มากที่สุด รองลงมาคือศาสนา อิสลาม ศาสนาฮินดูและศาสนาพุทธ การศึกษาคําสอนศาสนาตางๆ ของศาสนิก ชนเพอ่ื นาํ มาประพฤตสิ งผลใหสงั คมมีความสุข ศาสนาทกุ ศาสนาลวนส่ังสอนใหคนเปนคนดี เพอื่ สังคมเกิดความ ขดั แยงควรรบี หาทางแกไขโดยการนาํ คําสอนทางศาสนามาประพฤติ ปฏบิ ัตจิ ึงจะสงผลใหสังคมเกิดความสงบสุข ตลอดไป ๒. มาตรฐานการเรียนรู้ 1. มีควำมรูควำมเขำใจศำสนำทส่ี ำคัญๆในโลก 2. มคี วำมรูควำมเขำใจในหลักธรรมสำคัญของแตละศำสนำ ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑. ดำ้ นควำมรู้ (Knowledge) 1. นักศกึ ษำมคี วำมรูควำมเขำใจเกี่ยวกบั พทุ ธประวตั ิและหลกั ธรรมคำสอนของพุทธศำสนำได้ ๓.๒. ดำ้ นทกั ษะและกำรปฏิบัติ (Practice) 1. นักศึกษำอธบิ ำยเกี่ยวพทุ ธประวตั ิและหลกั ธรรมคำสอนของพุทธศำสนำได้ ๓.๓. ดำ้ นเจตคติหรอื คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (Attitude) ๑. เห็นควำมสำคัญในกำรอยูรวมกบั ศำสนำอ่ืนอยำงสนั ติสุข 2. นกั ศกึ ษำมีควำมใฝ่เรียนรใู้ นกำรทำงำน 3. นักศกึ ษำ มีควำมรัก ชำติ ศำสนำ พระมหำกษัตริย์ ๔. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 1. ควำมสำมำรถในกำรคิด 2. ควำมสำมำรถในกำรแกป้ ัญหำ 3. ควำมสำมำรถในกำรใชท้ ักษะชีวิต ๕. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ใฝ่รใู้ ฝเ่ รียน ศึกษำใบควำมรู้ จำกแบบเรยี น 2. มีวนิ ัย ทำงำนตำมท่ีครูมอบหมำยไดท้ นั เวลำ 3. ขยนั ม่งุ มน่ั ในกำรทำงำน ทำใบงำน ทำกิจกรรมกลุ่ม 4. มีความสามคั คี มีนาใจ มีควำมรบั ผดิ ชอบ ชว่ ยเหลอื กนั ทำกิจกรรมกลุ่ม

๖. ชินงานหรือภาระงาน ๑. ใบควำมรู้ เรื่อง พทุ ธประวัตแิ ละหลักธรรมคำสอนของพทุ ธศำสนำ ๒. ใบงำนท่ี ๑ บรรยำยภำพเหตกุ ำรณืจำกภำพ ๓. กจิ กรรม/แบบทดสอบ พทุ ธประวตั ิ ๔. ทำแบบกำรทดสอบก่อนเรียน หลงั เรยี น ๗. ขันตอนการจัดกระบวนการเรยี นรู้ ขนั ที่ ๑ ขนั นา ( 10 นาที ) 1. ครแู ละนกั ศกึ ษำร่วมกันสวดมนต์ไหวพ้ ระ และให้นกั ศึกษำน่ังสมำธิ 10 นำที ๒. ครูช้แี จง มำตรฐำนกำรเรียนรู้ สำระสำคญั จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ เนื้อหำ กระบวนกำรกำรจดั กำร เรียนรู้ ส่ือและแหล่งเรียนรู้ กำรวัดผลและประเมินผล และกำรติดตำมผล ในรำยวิชำศำสนำและหน้ำที่พลเมือง สค 3๑๐๐2 ๓. ครใู ห้นักศกึ ษำอธิบำยถงึ หน้ำท่ีของชำวพุทธ 4. ครผู ู้สอนพดู ถงึ กำรนับถอื ศำสนำและศำสดำของชำวพุทธ กำรปฏิบัติตนของชำวพุทธ ขนั ที่ ๒ ขนั สอน ( 30 นาที ) ๑. ครูใหน้ ักศกึ ษำทำแบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) แบบปรนัย จำนวน ๑๐ ขอ้ จำกชดุ แบบทดสอบ โดยเน้นให้นกั ศึกษามีความชื่อสตั ยใ์ นการทาแบบทดสอบ 2. นกั ศึกษำเรยี นรู้พทุ ธประวัติและหลักธรรมคำสอนของพุทธศำสนำ: ส่อื วีดทิ ศั น์ 3. ครแู ละนักศึกษำร่วมกันศึกษำเน้ือหำควำมสำคัญของพุทธประวัตแิ ละหลักธรรมคำสอนของพุทธ ศำสนำได้อย่ำง เหมำะสม 4. ครูใช้คำถำม ยกตัวอย่ำง เพื่อกระตุ้นให้นักศึกษำเกิดกำรคิด วิเครำะห์ นักศึกษำจดบันทึกองค์ ควำมรลู้ งในใบงำนที่ ๑ สรปุ องคค์ วำมรใู้ นหัวขอ้ พุทธประวัติและหลักธรรมคำสอนของพุทธศำสนำโดยนักศึกษำ สำมำรถค้นควำ้ ควำมรู้เพ่ิมเติมเกย่ี วกบั เน้ือหำท่ีเรียนได้จำกหนังสือเรียน เอกสำรพฒั นำทักษะวชิ ำกำรรำยบุคคล ใบควำมรู้ หรือควำมรเู้ พ่ิมเติมจำกอนิ เตอร์เนต็ การใช้คาถาม และยกตัวอย่างในสง่ิ ที่ใกลต้ ัว ทาใหน้ ักศึกษาเกดิ การคิด วเิ คราะห์ นาองค์ความรู้เดิม ที่มีมาสรา้ งเป็นองค์ความรูใ้ หมไ่ ด้ 5. ครูมอบหมำยนักศกึ ษำร่วมกนั ทำกิจกรรมโดยกำรแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3-5 คน ในกำรทำกิจกรรมงำน ดงั ต่อไปนี้ ทำใบกิจกรรมตอนที่ 1 โดยให้ผ้เู รียนแต่ละกลมุ่ แบ่งหน้ำที่และเตรียมอปุ กรณ์ ใหผ้ ้เู รยี นได้เขยี น Mind Mapping ในเรื่องของ พุทธประวัต กำรประสตู ิ ตรสั รู้ ปริณพิ พำน 6. ครใู หน้ ักศึกษำสง่ ตัวแทนกล่มุ ออกมำนำเสนอเพื่อแลกเปลีย่ นควำมคดิ เห็นซงึ่ กนั และกัน รว่ ม ประเมินผลงำนแนวทำงกำรเผยแพร่ สรปุ สิง่ ทไี่ ดเ้ รียนรู้รว่ มกนั การแบ่งกลมุ่ เปน็ การให้นกั ศึกษาเกิดความรับผิดชอบ ในหนา้ ที่ เป็นผนู้ าและผูต้ ามไดอ้ ย่างเหมาะสม มีการใช้เหตุผลในการอภิปราย ยอมรับฟังความคิดเหน็ ของผู้อ่ืนและความสามารถในการแก้ปัญหานักศึกษา นาความร้ทู ่ไี ดจ้ ากการเรยี นร้มู าเป็นแนวทางในการแกป้ ญั หาและการดาเนนิ ชีวติ ในประจาวัน

ขนั ที่ ๓ ขันสรปุ ( 20 นาที ) ๑. ครูและนักศึกษำรว่ มกนั แลกเปลี่ยนเรยี นรู้ สรุปองค์ควำมรู้เกย่ี วพุทธประวตั ิและหลักธรรมคำสอน ของพทุ ธศำสนำและครอู ธิบำยเพมิ่ เตมิ ๒. ครใู ห้นักศกึ ษำทำแบบทดสอบหลงั เรียน (Post-test) แบบปรนัย จำนวน ๑๐ ข้อ จำกชุด แบบทดสอบ พร้อมเฉลยและประเมนิ ผล โดยเนน้ ให้นกั ศึกษำมีควำมชื่อสตั ยใ์ นกำรทำแบบทดสอบ 3. ครูมอบหมำยใบงำน เร่ือง พุทธประวัตแิ ละหลักคำสอนของพระพุทธศำสนำสง่ ในสัปดำหต์ ่อไป ๘. ส่ือและแหล่งเรียนรู้ ๑. หนงั สอื เรียน รำยวชิ ำศำสนำและหน้ำที่พลเมือง รหสั วชิ ำ สค 3๑๐๐2 ๒. เอกสำรพัฒนำทักษะวิชำกำรรำยบคุ คล รำยวิชำศำสนำและหนำ้ ท่ีพลเมือง รหสั วชิ ำ สค 3๑๐๐2 ๓. แบบทดสอบก่อนเรยี น (Pre-test) ๔. แบบทดสอบหลงั เรยี น (Post-test) ๕. ใบควำมรู้ เรือ่ ง พุทธประวตั ิ ๖. ใบงำนท่ี ๑ พุทธประวตั ิและหลกั ธรรมคำสอนของพระพุทธศำสนำ ๗. กจิ กรรม : กำรเขยี น Mind Mapping ๘. วสั ดุ กระดำษ สี 9. การวัดและการประเมินผลการเรยี นรู้ วธิ กี ำรวัดและกำรประเมินผล วธิ ีการวดั เครือ่ งมือ เกณฑก์ ารวดั ประเมนิ ผล ๑. บอกควำมหมำยและ ประเมนิ แบบทดสอบ ประเมินผลจำกจำนวน แบบทดสอบ พทุ ธประวัติและหลักคำ คำตอบทถ่ี ูกตอ้ ง โดยใช้ สอนของพระพุทธศำสนำ เกณฑผ์ ำ่ นร้อยละ ๘๐ (K) ๒ . อธิบำยเกีย่ วกับพทุ ธ ประเมินผลงำน ผ่ำนเกณฑ์ ร้อยละ ๘๐ แบบประเมนิ ผลงำน ประวัติและหลกั ธรรมคำ สอนของพุทธศำสนำได้ ๓. มีควำมใฝ่เรยี นรู้และมี ประเมนิ คุณลักษณะ ผ่ำนเกณฑ์คุณภำพ แบบประเมิน ควำมสุขในกำรทำงำน อันพงึ ประสงค์ ระดับดขี ้นึ ไป คุณลักษณะอันพึง - มคี วำมรกั ชำติ ศำสนำ ประสงค์ พระมหำกษัตรยิ ์และรัก ควำมเป็นไทย (A) - มคี วำมสำมัคคีในหมู่ คณะ ลงชอื่ ……………………………………….ผู้เสนอแผน (………………………………….)

ควำมคดิ เห็น/ข้อเสนอแนะตอ่ แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื ……………………………………………..ผ้อู นมุ ตั แิ ผน (.นำยประสิทธ์ิ พรจันทกึ ) ผอู้ ำนวยกำร กศน.อำเภอพล

แบบบันทึกคะแนนแบบทดสอบก่อน-หลังเรียน เร่ือง พุทธประวตั ิและหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศำสนำ ท่ี ช่อื - สกลุ คะแนน 10 คะแนน ผลกำรประเมิน หมำยเหตุ ก่อนเรยี น หลังเรยี น ผำ่ น ไมผ่ ่ำน ลงช่อื ..................................................... ผปู้ ระเมนิ (..................................................) ครูผ้สู อน หมำยเหตุ : ประเมินผลจำกจำนวนคำตอบที่ถูกต้อง โดยใช้เกณฑ์ผ่ำนร้อยละ ๘๐

แบบประเมินผลงานกล่มุ คุณภาพผลงาน 4321 รายการ 1. ผลงานเปน็ ไปตามวัตถปุ ระสงคท์ กี่ าํ หนด 2. ผลงานเสรจ็ ทันตามกําหนดเวลา 3. ผลงานมคี วามคิดริเริ่มสร้างสรรค์ 4. ผลงานแสดงถงึ การนาํ ความรู้ทไ่ี ดม้ าประยุกตใ์ ช้ 5. ผลงานเป็นระเบียบเรียบร้อย รวม เกณฑ์การใหค้ ะแนน ผลงานสอดคล้องกับรายการประเมนิ สมบรู ณ์ ชดั เจน ให้ 4 คะแนน 3 คะแนน ผลงานสอดคลอ้ งกับรายการประเมินเปน็ ส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน 1 คะแนน ผลงานสอดคลอ้ งกับรายการประเมนิ เป็นบางส่วน ให้ ผลงานไมส่ อดคลอ้ งกบั รายการประเมนิ ให้ เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ 17-20 4 หมายถึง ดีมาก 13-16 3 หมายถึง ดี 9-12 2 หมายถงึ พอใช้ 5-8 1 หมายถงึ ปรับปรุง

แบบประเมนิ การนาเสนอผลงานกลุม่ รายการพฤติกรรม คณุ ภาพการปฏบิ ตั ิ 4321 1. นาํ เสนอเนอ้ื หาของผลงานได้ถูกต้อง 2. การนําเสนอมีความน่าสนใจ 3. มีความเหมาะสมกบั เวลา 4. มคี วามกล้าแสดงออก 5. บุคลิกภาพดี ใช้นํ้าเสียงเหมาะสม รวม เกณฑ์การใหค้ ะแนน การปฏบิ ตั ิสมบูรณ์ ชดั เจน ให้ 4 คะแนน การปฏิบัติยังมีข้อบกพร่องในจุดที่ไม่สาํ คญั ให้ 3 คะแนน การปฏิบตั ยิ งั มขี ้อบกพร่องเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั ไิ ม่ได้เลย ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 17-20 4 หมายถึง ดีมาก 13-16 3 หมายถึง ดี 9-12 2 หมายถึง พอใช้ 5-8 1 หมายถงึ ปรบั ปรงุ

แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานรายบุคคล รายการพฤติกรรม คณุ ภาพการปฏิบัติ 4321 1. มีการวางแผนก่อนการทํางาน 2. ปฏบิ ตั ิงานดว้ ยความต้งั ใจ 3. มีการปฏิบัติงานตามขน้ั ตอน 4. มกี ารให้ความชว่ ยเหลือเพ่ือน 5. ใหค้ าํ แนะนาํ เพื่อนคนอ่นื ได้ รวม เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่าํ เสมอ ให้ 4 คะแนน 3 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ ให้ ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมน้อยครั้งหรือไม่เคยปฏิบตั ิเลย 1คะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 17-20 4 หมายถงึ ดมี าก 13-16 3 หมายถงึ ดี 9-12 2 หมายถึง พอใช้ 5-8 1 หมายถงึ ปรับปรุง ลงช่ือ ..................................................... ผู้รบั ประเมนิ ลงชือ่ ..................................................... ผูป้ ระเมนิ (..................................................) (..................................................) นกั ศกึ ษา ครผู ูส้ อน