โครงสร้ำงหลักสตู ร กศน. พุทธศักรำช 2551 จัดทำโดย นำงณฐั นิธิ อกั ษรวิทย์ ตำแหนง่ ครู กศน.ตำบลโนนขำ่ ศูนยก์ ำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศัยอำเภอพล สำนกั งำนสง่ เสรมิ กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศยั จงั หวัดขอนแก่น
โครงสร้างหลกั สตู ร กศน. กิจกรรมหลกั ในการจดั การศกึ ษา 1. จดั กิจกรรมการศกึ ษาขนั้ พนื ้ ฐาน 2. จดั กิจกรรมการศกึ ษาเพอื่ พฒั นาทกั ษะชีวิต 3. จดั กิจกรรมการศกึ ษาเพอื่ พฒั นาอาชีพ 4. จดั กิจกรรมการศกึ ษาตามหลกั ปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง 5. จดั กิจกรรมการศกึ ษาตามอธั ยาศยั
โครงสรำ้ งหลกั สูตร กศน. กจิ กรรมหลักในการจดั การศึกษา 1. จดั กจิ กรรมการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน 2. จัดกจิ กรรมการศึกษาเพือ่ พัฒนาทักษะชวี ิต 3. จดั กจิ กรรมการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพ 4. จดั กจิ กรรมการศกึ ษาตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 5. จัดกจิ กรรมการศกึ ษาตามอัธยาศัย
สำระกำรเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ ประกอบดว้ ย 5 สาระดงั น้ี 1. สาระทกั ษะการเรียนรู้ เปน็ สาระเกย่ี วกบั การเรยี นรดู้ ้วยตนเอง การใช้แหลง่ เรยี นรู้ การจดั การความรู้ การคิดเป็น และการวจิ ยั อย่างงา่ ย 2. สาระความรพู้ ้ืนฐาน เป็นสาระเกยี่ วกบั ภาษาและการส่ือสาร คณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 3. สาระการประกอบอาชพี เปน็ สาระเก่ยี วกบั การมองเห็น ชอ่ งทางและการตดั สินใจประกอบอาชพี ทักษะในอาชีพ การจัดการ อาชพี อยา่ งมีคุณธรรม และการพัฒนาอาชีพให้มีความมั่นคง 4. สาระทักษะการดาเนินชีวติ เปน็ สาระเกี่ยวกับปรชั ญา เศรษฐกิจพอเพียง สขุ ศึกษา พลศึกษา และศิลปศึกษา 5. สาระการพัฒนาสังคม เปน็ สาระเก่ียวกบั ภูมศิ าสตร์ ประวตั ศิ าสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง การปกครอง ศาสนา วฒั นธรรม ประเพณี หนา้ ท่พี ลเมือง และการพัฒนาตนเอง ครอบครวั ชุมชน สังคม
ระดบั ประถมศกึ ษา
ระดบั มธั ยมศกึ ษำตอนตน้
ระดบั มธั ยมศึกษำตอนปลำย
กำรลงทะเบียนรำยวชิ ำ การลงทะเบยี นเรยี นตามโครงสร้างหลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดับ การศึกษาขัน้ พ้นื ฐานพุทธศกั ราช 2551 ให้ลงทะเบยี นเรยี นเปน็ รายวชิ า และตามจานวนหน่วยกิต ในแตล่ ะภาคเรียนดังนี้ 1. ระดบั ประถมศกึ ษา ลงทะเบียนเรยี นทง้ั หมด ไม่น้อยกว่า 48 หน่วยกิต ใหล้ งทะเบียนเรียนได้ภาคเรียนละไม่เกิน 14 หนว่ ยกติ 2. ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้น ลงทะเบียนเรยี นท้ังหมด ไมน่ ้อยกว่า 56 หนว่ ยกติ ใหล้ งทะเบยี นเรียนได้ภาคเรียนละไม่เกิน 16 หน่วยกิต 3. ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ลงทะเบียนเรยี นทง้ั หมด ไม่นอ้ ยกวา่ 76 หนว่ ยกิต ให้ลงทะเบยี นเรียนไดภ้ าคเรยี นละไม่เกนิ 20 หน่วยกิต วธิ กี ำรจดั กำรเรยี นรู้ วธิ กี ารเรยี นรตู้ ามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษาข้ัน พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 จะมวี ธิ ีเดยี ว คอื “วธิ เี รยี น กศน.” ที่สามารถ จดั การเรียนรไู้ ด้หลายรปู แบบ เชน่ - การเรียนรู้แบบพบกลุ่ม - การเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง - การเรยี นรแู้ บบทางไกล - การเรียนร้แู บบชัน้ เรียน - การเรยี นรู้แบบอนื่ ๆ ซ่งึ ในแตล่ ะรายวชิ า ผู้เรยี นสามารถเลอื กเรยี นรูปแบบใดรปู แบบหน่ึง หรือ หลายรูปแบบกไ็ ด้ แต่ทงั้ นตี้ อ้ งข้ึนอยู่กับความพร้อมของสถานศกึ ษาดว้ ย
กำรจดั กระบวนกำรเรียนรู้ 1. การจัดกระบวนการเรยี นรู้ โดยมคี รู/ผู้รู้/ ผเู้ ช่ยี วชาญในเนื้อหานัน้ ๆ เปน็ ผู้ถา่ ยทอดเนื้อหา ในการถา่ ยทอดเนอ้ื หาของครูต้องเปิดโอกาสใหผ้ ู้เรียน ซกั ถาม แสดงความคิดเหน็ ได้ โดยเพ่ิมการเขียนถาม/ตอบ หลงั การบรรยาย รวมทั้งมกี ารจัดโอกาสใหฝ้ กึ ในห้องปฏบิ ตั ิการ และจดั เวลาการให้คาปรึกษา 2. การจดั กระบวนการปฏิสมั พนั ธ์ระหวา่ งผู้เรยี นกบั ครู และผู้เรยี นกับ ผเู้ รยี น โดยกระตุน้ ให้ผเู้ รียนตอบพรอ้ มกับใช้กจิ กรรมลักษณะทเี่ น้นการ สอื่ สาร เชน่ กิจกรรมคู่ กจิ กรรมกล่มุ และการจดั ทีน่ ง่ั ในชน้ั เรยี นตอ้ ง เหมาะสม เอื้อต่อการดาเนนิ กจิ กรรม 3. การจัดให้มกี ารปรับบทบาทผู้เรียน ใช้การแบง่ ผเู้ รียนเป็นกลมุ่ เลก็ ๆ โดยทแี่ ต่ละกลุ่มจะไดร้ ับมอบหมายงานใหป้ ฏิบัติ ในการจัดการเรียนการสอน ครูจะสอดแทรกกจิ กรรม 3 ลกั ษณะ คอื กิจกรรมทเี่ นน้ การให้ผเู้ รยี นไดร้ ับ ข้อมูล/ขอ้ เท็จจริง กจิ กรรมท่ีใหผ้ ู้เรยี นเรียนร้ดู ว้ ยการไดล้ งมือปฏิบตั ิ/สังเกต และกิจกรรมการสะทอ้ นการเรียนรู้รว่ มกันระหว่างผูเ้ รียนและครู 4. การติดตามและชว่ ยเหลือผู้เรียน โดยอาจใช้กระบวนการติดตาม ชว่ ยเหลอื โดยเพอื่ น/กลมุ่ เพอ่ื น จดั ให้มีการปรึกษาหารอื กนั ระหวา่ งครกู ับ ผ้เู รียน ใช้ผ้ชู ่วยสอน ใชร้ ะบบหัวหนา้ กลุม่ ผเู้ รียน ใชแ้ ฟม้ สะสมผลงาน ใช้การ เรยี นแบบทีม ใช้ e-mail, discussion boards และ internet เป็นต้น การเรยี นรแู้ บบตา่ ง ๆ ดงั กลา่ วขา้ งตน้ สถานศึกษาและผู้เรยี นจะ ร่วมกนั กาหนด โดยในแตล่ ะรายวิชาจะเลอื กการเรยี นรแู้ บบใดแบบหนง่ึ หรือ หลายแบบก็ได้ ข้นึ อยกู่ ับความยากง่ายของเน้ือหาในรายวชิ านั้น ๆ โดยให้ สอดคล้องกับวิถีชวี ิตและการทางานของผู้เรยี น รวมท้ังขน้ึ อยกู่ ับความพรอ้ ม ของสถานศึกษาด้วย และสถานศกึ ษาสามารถจัดให้มีการสอนเสรมิ ไดใ้ นทกุ รปู แบบการเรียนรู้ เพิม่ เติมเต็มความรใู้ หบ้ รรลุมาตรฐานการเรียนรู้
นางณฐั นธิ ิ อักษรวิทย์ ครู กศน.ตาบลโนนขา่ ประชาสัมพนั ธ์รับสมคั รนักศกึ ษา ณ สานักงานควบคมุ ความประพฤติ สาขาพล
สื่อ 3.1 สอื่ วชิ าเลอื กบงั คับกลุม่ พัฒนาการศึกษานอกระบบและ การศกึ ษาตามอธั ยาศยั จดั ทาตน้ ฉบบั 3.2 สอ่ื รายวิชาเลอื กเสรี สถานศกึ ษาจดั ทาหลักสูตรรายวิชาเลือกเสรี แลว้ เสนอใหค้ ณะกรรมการของ สานกั งาน กศน.จังหวดั พจิ ารณา ตรวจสอบสอดคล้องของรายวิชากับโปรแกรมการเรยี น สอดคลอ้ งกับ มาตรฐานของกลมุ่ สาระในแตล่ ะระดับการศึกษา จากนั้น สานักงาน กศน.จงึ ขอรหสั รายวิชาเลอื กจากระบบโปรแกรมรายวชิ าเลอื ก ทั้งนี้ไม่ อนุญาตให้พฒั นารายวชิ าเลือกทีเ่ รยี นได้ทกุ ระดบั การศึกษา 3.3 รปู แบบของส่อื มี 2 รูปแบบ คือ แบบชุดวิชาและแบบเรยี น ปลายเปดิ โดยให้พิจารณาตามธรรมชาติของวชิ า 3.4 การจัดทาส่ือเสริมการเรยี นรู้ กลุ่มพัฒนาการศกึ ษานอระบบและ การศกึ ษาตามอัธยาศยั และศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษา รว่ มกนั ผลิตส่ือ เสรมิ การเรยี นรูใ้ นเน้ือหาท่ยี าก เพือ่ เสริมความรู้ความเขา้ ใจในการเรียน รายวิชาต่าง ๆ
กำรเทียบโอนผลกำรเรยี น การเทียบโอนผลการเรยี นเปน็ เคร่อื งมือในการเชอื่ มโยงผลการเรยี นรู้ ท่ีหน่วยงานต่าง ๆ รว่ มจดั การศกึ ษาและเชือ่ มโยงผลการเรียนรู้จากวิธีการ เรียน ทีห่ ลากหลาย รวมทงั้ จากการประกอบอาชีพและประสบการณต์ า่ งๆ และเปน็ กลไกสาคัญในการสง่ เสริมให้บคุ คลมีการเรียนรอู้ ยา่ งต่อเน่อื งตลอด ชีวติ เม่ือบคุ คลตระหนกั และรบั รูว้ ่าสิง่ ที่ไดเ้ รียนรมู้ านั้น สามารถนามาเพิ่ม คุณคา่ โดยการเทียบโอนเป็นผลการเรียน นบั เป็นผลพลอยได้จากการเรยี นรู้ นอกเหนือจากการนาสิ่งทไ่ี ด้เรยี นรนู้ ั้นไปแก้ไขปัญหาในการประกอบอาชพี พัฒนาการทางานให้ดขี ึน้ หรอื แมก้ ระทง่ั การนาส่ิงทไ่ี ด้เรียนรนู้ น้ั ไปใช้ในการ ดาเนินชีวติ ประจาวัน หลักกำร การเทยี บโอนผลการเรียนมีหลกั การ ดงั น้ี 1. หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 เป็นหลกั สูตรที่เปดิ โอกาสใหผ้ ู้เรยี นสามารถเทียบโอนผล การเรียนได้ 2. การเทียบโอนผลการเรียนตอ้ งสามารถเทยี บโอนผลการเรยี นท่ี ผเู้ รยี นสะสมไว้ ทงั้ จากการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และ การศกึ ษาตามอธั ยาศัย การศกึ ษาอาชีพหรือประสบการณ์การทางาน 3. เปน็ การเชอื่ มโยงการศึกษาท้งั สามรูปแบบ เพือ่ ส่งเสริมใหเ้ กดิ การศกึ ษาตลอดชีวิต 4. เปน็ การกระจายอานาจให้สถานศึกษาในการเทยี บโอนผลการ เรยี น โดยสถานศกึ ษาจะตอ้ งจัดให้บคุ ลากรหรอื เจ้าหน้าที่ ทาหน้าทใ่ี ห้ คาแนะนาและดาเนินการใหม้ กี ารเทยี บโอนผลการเรียน 5. วิธีการและหลักเกณฑก์ ารเทียบโอนผลการเรียนต้องไดม้ าตรฐาน ชดั เจนสมเหตสุ มผลเชอื่ ถอื ไดโ้ ปร่งใสและยตุ ธิ รรม
วัตถุประสงค์ 1. เพอ่ื เปิดโอกาสใหผ้ ู้ที่ออกจากการศึกษาในระบบ หรือนอก ระบบรวมทัง้ ผูท้ เี่ รยี นรูต้ ามอธั ยาศยั สามารถเทยี บโอนผลการเรียนรูเ้ ข้าสู่ หลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาข้ันพนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 2. เพือ่ เปิดโอกาสใหม้ กี ารศึกษาอย่างต่อเนื่อง ท้ังในระดับ การศึกษาเดยี วกนั หรอื ระดบั ทส่ี งู ขน้ึ ขอบขำ่ ยกำรเทียบโอนผลกำรเรยี น แนวทางการเทยี บโอนผลการเรยี น ตามหลักสูตรการศึกษานอก ระบบ ระดับการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 จดั ทาขึน้ เปน็ แนวทางให้สถานศกึ ษาใชใ้ นการเทยี บโอนผลการเรยี น ระหวา่ งรปู แบบ การศกึ ษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ระหวา่ งหลักสตู รของหนว่ ยงานตา่ ง ๆ เข้าสู่ หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบ ระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 มขี อบข่าย ดงั น้ี 1. การเทยี บโอนผลการเรยี นจากหลกั สูตรที่จดั การศึกษาเป็น ระดับประถม มัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลายหรือเทยี บเทา่ เปน็ การเทียบโอนผลการเรียนจากหลักฐานการศึกษา ที่ออกให้ โดยสถานศึกษาของรฐั และเอกชน ที่จดั การศึกษาตามหลักสูตรท่ี กระทรวงศึกษาธกิ ารประกาศใช้ หรอื ใหก้ ารรับรอง และจดั ระดบั การศึกษา เปน็ ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศกึ ษาตอนปลาย หรือเทยี บเทา่ ตามหลกั สูตร ท้ังที่จดั ในรปู แบบการศึกษาในระบบและ การศึกษานอกระบบ
2. การเทยี บโอนผลการเรยี นจากการศึกษาต่อเน่อื ง เปน็ การเทยี บโอนผลการเรียนจากการเรียนในหลกั สูตรระยะสนั้ หรอื หลกั สูตรฝกึ อบรมท่จี ดั ขนึ้ ตามความต้องการของกล่มุ เปา้ หมายตา่ ง ๆ 3. การเทยี บโอนความรูแ้ ละประสบการณ์กลมุ่ เปา้ หมายเฉพาะ เปน็ การเทียบโอนความร้แู ละประสบการณ์จากการเป็นทหารกอง ประจาการ อาสาสมคั รสาธารณสขุ ผนู้ าทอ้ งถิ่น และแรงงานไทยทผ่ี า่ นการ ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแหง่ ชาติและกลุม่ เปา้ หมายอื่น ๆ ทไี่ ด้ทา ขอ้ ตกลงร่วมกนั 4. การเทยี บโอนผลการเรียนจากหลกั สตู รต่างประเทศ เปน็ การเทยี บโอนผลการเรยี นจากการศึกษาหลักสตู รต่างประเทศ ท่มี หี นว่ ยงานท่ีเกย่ี วข้องของประเทศนนั้ ๆ ใหก้ ารรบั รองมาตรฐานการจัด การศกึ ษา หรือผลการเรียนจากหลกั สตู รของโรงเรียนนานาชาติในประเทศ ไทยที่กระทรวงศึกษาธิการประกาศเทียบความรู้ 5. การเทียบโอนผลการเรียนจากการประเมนิ ความรู้และ ประสบการณ์ เปน็ การเทียบโอนผลการเรียน โดยใช้วิธีการประเมนิ ความรูแ้ ละ ประสบการณข์ องผูเ้ รียน ซึ่งมกี ารเรยี นรจู้ ากการศกึ ษาตามอธั ยาศัย การ ประกอบอาชพี การทางาน โดยอาจมีหลกั ฐานเชงิ ประจกั ษจ์ ากการทางาน หลกั ฐานอ่นื ๆทีเ่ กี่ยวขอ้ งหรือไม่มหี ลักฐานก็ได้
คุณสมบัติทัว่ ไปของผ้ขู อเทียบโอนผลกำรเรยี น 1. ตอ้ งไมเ่ ปน็ นกั เรยี นหรอื นกั ศกึ ษา ในระดบั ประถมศึกษาและ ระดบั มธั ยมศกึ ษาหรอื ระดบั ทเี่ ทยี บเทา่ ของสถานศึกษาอื่น 2. ตอ้ งข้ึนทะเบียนเป็นนักศกึ ษาตามหลกั สตู รการศึกษานอกระบบ ระดบั การศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 วิธกี ำรเทยี บโอนผลกำรเรยี น การเทยี บโอนผลการเรียนมี 2 วธิ ี คือ วธิ ีที่ 1 การพิจารณาจากหลกั ฐานการศึกษา 1.1 การพจิ ารณาหลกั ฐานการศกึ ษาจากหลักสตู รท่ีจดั การศึกษาเป็นระดบั เป็นการตรวจสอบหลักสตู รผลการเรยี นในรายละเอียด เก่ยี วกบั ระดับหรอื ชน้ั ปที ่ีเรยี นจบมา รายวิชาทีเ่ รียน ผลการเรียน ความ ถกู ต้องของหลักฐาน โดยหลกั ฐานการศกึ ษาทีน่ ามาเทียบโอนผลการเรียนตอ้ ง เป็นหลกั ฐานทอ่ี อกโดยสถานศกึ ษาของรฐั หรือเอกชนท่ไี ดร้ บั การรับรอง มาตรฐาน หรอื วทิ ยฐานะทางการศึกษา 1.2 การพิจารณาหลกั ฐานจากการศกึ ษาต่อเนอื่ ง เป็นการ ตรวจสอบรายละเอียดเก่ียวกบั หลักสูตร เน้ือหาวิชาท่ีศกึ ษา จานวนชั่วโมง หนว่ ยงานทจ่ี ัด เพอ่ื พจิ ารณาเทียบโอนให้สอดคลอ้ งกบั รายวิชาตามหลกั สูตร ซึ่งต้องไดร้ บั ความเห็นชอบจากคณะกรรมการเทยี บโอนผลการเรียนของ สถานศกึ ษา
วธิ ที ี่ 2 การประเมนิ ความรู้และประสบการณ์ เปน็ การวดั ตรวจสอบและประเมินผลการเรียนรแู้ ละประสบการณข์ องผูเ้ รยี นทเี่ กิด จากการประกอบอาชพี การทางาน จากการเรียนรู้ตามอัธยาศยั โดยใช้ เครอ่ื งมอื ประเมินทหี่ ลากหลาย เช่น แบบทดสอบ แบบสัมภาษณ์ การ ปฏบิ ตั ิจริง เปน็ ต้น กำรเทยี บโอนผลกำรเรยี นจำกหลกั ฐำนกำรศกึ ษำ มีขอบข่ำยดงั นี้ 1. การเทยี บโอนผลการเรียนจากหลักสตู รการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2544 (ในระบบ) เข้าสู่หลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบระดับ การศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 2. การเทียบโอนผลการเรยี นจากหลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการจัด การศึกษานอกโรงเรยี นตามหลักสูตรการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2544 (นอกระบบ) เขา้ สู่หลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 3. การเทียบโอนผลการเรียนจากหลักสูตรประกาศนยี บตั ร วิชาชพี (ปวช.) พทุ ธศกั ราช 2545 เข้าสู่หลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบ ระดับการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 4. การเทยี บโอนผลการเรยี นจากหลกั สูตรอน่ื ๆ ที่ กระทรวงศึกษาธิการประกาศใช้
หลกั เกณฑก์ ารเทียบโอนผลการเรียน จากหลกั ฐานการศึกษาหลกั สูตร
หลกั เกณฑ์กำรเทียบโอนผลกำรเรียนจำกหลกั ฐำนกำรศึกษำหลักสตู รท่จี ดั กำรศึกษำเปน็ ระดบั 1. คณะกรรมการเทียบโอนผลการเรยี นของสถานศกึ ษา ศึกษา วเิ คราะห์ หลกั สูตรของสถานศกึ ษาท่ผี ู้เรยี นนาหลกั ฐานการศึกษามาเทยี บโอนผลการ เรยี น แลว้ จัดทาตารางวเิ คราะห์หลกั สตู รเพ่ือใชใ้ นการเทียบโอนผลการเรียน 2. การพิจารณาเทยี บโอนให้พิจารณาจาก 2.1 ระยะเวลาและระดับชั้นทผ่ี ู้ขอเทยี บโอนเรียนผ่านมา 2.2 รายวชิ า/ หมวดวิชา ผลการเรียนรู้ทีค่ าดหวงั ตัวช้ีวัดของรายวิชา หรอื คาอธบิ ายรายวชิ า ระหว่างรายวิชาท่นี ามาเทียบโอนกบั รายวิชาทีร่ ับเทียบ โอน ตอ้ งมคี วามสอดคลอ้ งกันไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ 60 2.3 จานวนหน่วยกิตของรายวชิ า/หมวดวิชาที่นามาเทียบโอน ตอ้ งไม่ นอ้ ยกว่าจานวนหนว่ ยกติ ในรายวชิ าทรี่ บั เทยี บโอนผลการเรียน หากรายวิชาท่ี นามาเทยี บโอนผลการเรียนมจี านวนหน่วยกิตนอ้ ยกวา่ จานวนหนว่ ยกติ ใน รายวิชาท่รี ับเทยี บโอนผลการเรยี น อาจนารายวิชาอ่นื ทีอ่ ยู่ในสาระและ มาตรฐานเดียวกัน มานบั รวมใหไ้ ด้จานวนหน่วยกติ เทา่ กบั หรอื มากกวา่ จานวนหน่วยกติ ในรายวิชาทีร่ ับเทียบโอนผลการเรยี น 2.4 ไม่รับเทียบโอนรายวิชา/ หมวดวชิ าทีม่ ีค่าระดับผลการเรียนเปน็ 0 ร มส 3. ใหเ้ ทียบโอนผลการเรยี นได้ท้ังรายวชิ าบังคับและรายวิชาเลือก โดย นบั รวมกันแล้วตอ้ งไมเ่ กินจานวนหน่วยกติ ที่กาหนดในแตล่ ะระดับการศึกษา ระดับประถมศกึ ษา เทียบโอนไดไ้ มเ่ กิน 36 หนว่ ยกติ ระดบั มัธยมศึกษาตอนตน้ เทียบโอนได้ไม่เกิน 42 หนว่ ยกติ ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย เทยี บโอนได้ไม่เกิน 57 หนว่ ยกติ
4. การใหค้ า่ ระดบั ผลการเรยี นจากการเทยี บโอน 4.1 ผลกำรเรยี นเป็นรำยวชิ ำ ให้ใช้คา่ ระดบั ผลการเรียนตามท่ี ปรากฏในหลกั ฐานการศกึ ษาทีน่ ามาเทียบโอน ถา้ ผลการเรียนในหลักสูตร เดิมมากกว่า 1 รายวชิ านามาเทยี บโอนกับหลักสตู รการศึกษานอกระบบ ระดับการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ได้ 1 รายวิชา ใหน้ าคา่ ระดบั ผลการเรียนของรายวิชาที่ขอเทยี บโอนมาเฉลี่ยหากมจี ดุ ทศนิยมให้ ปรับทศนยิ มตามหลกั การทางคณติ ศาสตร์ เพื่อบันทึกผลการเรียนตอ่ ไป 4.2 ผลกำรเรยี นเปน็ หมวดวชิ ำ ใหใ้ ช้คา่ ระดับผลการเรยี นของ หมวดวิชาเป็นคา่ ระดับผลการเรยี นในรายวชิ าท่เี ทยี บโอนได้ 5. หวั หนา้ สถานศกึ ษา พิจารณาอนมุ ตั ผิ ลการเทียบโอน แจกตำรำงสอบขอควำมอนุเครำะห์ประชำสัมพนั ธ์เสียงตำมสำย
กำรวดั ผลประเมนิ ผลกำรเรยี น
กำรวดั ผลประเมนิ ผลกำรเรยี น การวัดและประเมินผลการเรยี นตามหลกั สูตรการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 มี 2 ลักษณะไดแ้ ก่ 1. การวดั และประเมนิ ผลรายวชิ า สถานศึกษาดาเนนิ การประเมินผล รายวชิ าดังนี้ 1.1. การวดั และประเมนิ ผลกอ่ นเรียน เปน็ การตรวจสอบ ความรู้ ทกั ษะและความพรอ้ มตา่ ง ๆ ของผเู้ รยี นเพอื่ เปน็ ขอ้ มลู พื้นฐานใน การจัดกระบวนการเรยี นร้ใู หเ้ หมาะสมกับสภาพความพร้อมและความรู้ พืน้ ฐานของผู้เรียน 1.2. การวดั และประเมินผลระหว่างภาคเรยี น สถานศึกษา ดาเนนิ การประเมนิ ผลระหวา่ งภาคเรยี นเพือ่ ทราบความก้าวหน้าทั้งด้าน ความรู้ ทักษะ เจตคติ และพฤตกิ รรมการเรียนการรว่ มกิจกรรมและผลงาน อันเป็นผลมาจากการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ รายละเอยี ดของคะแนน ระหวา่ งภาค ประกอบดว้ ย 1) การใหค้ วามร่วมมอื กบั สถานศึกษา หมายถึง การที่ ผเู้ รียนมสี ว่ นรว่ มใน กิจกรรมตา่ งๆ ของสถานศกึ ษา เชน่ การรว่ มเดนิ รณรงค์ตอ่ ตา้ นยาเสพติด การเข้าร่วมในวันสาคัญ ร่วมกจิ กรรมของสถานศึกษา เปน็ ตน้ 2) ผลงานท่ีกาหนดเปน็ ร่องรอยในแฟ้มสะสมงาน 3) การแสดงออกและการมีสว่ นร่วมในกจิ กรรมการเรียนรู้ หมายถงึ การร่วมอภปิ รายการช่วยงานกลุม่ การตอบคาถาม
1.3. การวัดผลประเมนิ ผลปลายภาคเรยี น มวี ตั ถุประสงค์เพอื่ ทราบผล การเรียนรู้โดยรวมของผูเ้ รยี นในแต่ละรายวิชา โดยใช้เคร่อื งมือ เช่น แบบทดสอบปรนยั แบบทดสอบอัตนัย แบบประเมินการปฏบิ ัติ เปน็ ตน้ การวดั และประเมนิ ผลปลายภาคเรียนนนั้ ผ้เู รยี นทีจ่ ะผา่ นการประเมนิ รายวชิ าใด จะต้องเขา้ สอบปลายภาคเรียนและมีคะแนนปลายภาคเรยี นรวม กับคะแนนระหวา่ งภาคเรียนผ่านเกณฑข์ ั้นต่าตามเกณฑท์ ่สี านักงาน กศน. กาหนด 1.4 การตัดสนิ ผลการเรียนรายวชิ า การตดั สินผลการเรยี นรายวชิ า ให้นาคะแนนระหว่างภาคเรยี นมา รวมกับคะแนนปลายภาคเรยี น และจะต้องได้คะแนนไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ 50 จึงจะถอื วา่ ผ่านการเรยี นในรายวิชานั้น ทงั้ นี้ ผูเ้ รยี นต้องเข้าสอบปลายภาคเรียนดว้ ย แลว้ นาคะแนนไป เปรยี บเทยี บกบั เกณฑ์ทกี่ าหนดโดยให้คา่ ระดบั ผลการเรยี นเป็น 8 ระดบั ดงั น้ี ได้คะแนนรอ้ ยละ 80-100 ให้ระดับ 4 หมายถึง ดเี ยี่ยม ไดค้ ะแนนร้อยละ 75-79 ให้ระดับ 3.5 หมายถงึ ดีมาก ได้คะแนนรอ้ ยละ 70-74 ใหร้ ะดบั 3 หมายถึง ดี ไดค้ ะแนนร้อยละ 65-69 ใหร้ ะดับ 2.5 หมายถึง ค่อนขา้ งดี ไดค้ ะแนนรอ้ ยละ 60-64 ให้ระดบั 2 หมายถงึ ปานกลาง ได้คะแนนร้อยละ 55-59 ให้ระดบั 1.5 หมายถงึ พอใช้ ได้คะแนนร้อยละ 50-54 ใหร้ ะดับ 1 หมายถึง ผ่านเกณฑ์ ขน้ั ตา่ ทกี่ าหนด ได้คะแนนร้อยละ 0-49 ให้ระดับ 0 หมายถึง ตา่ กวา่ เกณฑ์ข้นั ตา่ ทกี่ าหนด
เกณฑก์ ำรจบหลกั สูตรกำรศกึ ษำนอกระบบ ระดับกำรศกึ ษำข้ันพ้ืนฐำน พุทธศกั รำช 2551
เกณฑก์ ำรจบหลกั สูตรกำรศึกษำนอกระบบระดบั กำรศกึ ษำขนั้ พืน้ ฐำน พทุ ธศักรำช 2551 1. ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ การเรียนรรู้ ายวชิ าในแตล่ ะระดับการศกึ ษา ตามโครงสร้างหลกั สูตร 1.1. ระดับประถมศึกษา ไมน่ ้อยกวา่ 48 หนว่ ยกิต 1.2. ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น ไม่นอ้ ยกวา่ 56 หนว่ ยกิต 1.3. ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลายไมน่ ้อยกวา่ 76 หนว่ ยกติ 2. เขา้ รว่ มกิจกรรม และผา่ นกิจกรรมพฒั นาคณุ ภาพชีวิต ( กพช) ไมน่ ้อย กว่า 200 ชั่วโมง 3. ผา่ นการประเมนิ คณุ ธรรม ในระดับพอใช้ขนึ้ ไป 4. เขา้ รบั การประเมนิ คุณภาพการศกึ ษานอกระบบระดบั ชาติ ( สอบ N Net)
Search
Read the Text Version
- 1 - 25
Pages: