Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ข้อสอบ o-net ภาษาไทย ป.๖ ชุด ๑

ข้อสอบ o-net ภาษาไทย ป.๖ ชุด ๑

Published by monly099, 2017-08-26 23:32:29

Description: ข้อสอบ o-net ภาษาไทย ป.๖ ชุด ๑

Search

Read the Text Version

ชุดที่ ๑ แบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนเตรียมสอบ O-NET กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๖ส่วนท่ี ๑ : แบบปรนยั ๔ ตวั เลือก แต่ละขอ้ มีคำตอบที่ถูกตอ้ งท่ีสุดเพยี งคำตอบเดียว จำนวน ๒๕ ขอ้ ขอ้ ละ ๑ คะแนน รวม ๒๕ คะแนนอ่านเร่ืองต่อไปนี้ แล้วตอบคาถามข้อ ๑-๕ อำหำรและสุขภำพเป็ นสิ่งที่เก่ียวขอ้ งกนั กำรเกิดโรคบำงชนิดมีสำเหตุส่วนหน่ึงจำกกำรกินอำหำรที่ไม่เหมำะสม หลำยคนเคยหลงรูป รส หรือควำมสะดวกรวดเร็วของอำหำรท่ีแฝงไปดว้ ยพิษภยั อยำ่ งเงียบ ๆ เช่น ฟำสตฟ์ ูด อำหำรสำเร็จรูป เบเกอรี ขนมขบเค้ียว น้ำอดั ลม ฯลฯ ซ่ึงเป็ นวฒั นธรรมกำรกินท่ีผิดและตกยุค ท้งั น้ี ปัจจุบนั คนทว่ั โลกต่ำงใหค้ วำมสนใจและหนั มำใส่ใจสุขภำพกนั มำกข้ึน จนเกิดกระแสรักสุขภำพและกำรกินเพื่อสุขภำพตำมมำ ดงั น้นั จึงขอแนะนำ ๗ เคล็ดลบั กำรกินเพื่อสุขภำพเพือ่ ใหน้ ำไปใชก้ นั ๑. กินอาหารเช้าเป็ นประจา เพรำะม้ือเชำ้ เป็ นม้ือที่สำคญั ท่ีสุดและควรเป็ นม้ือท่ีมีคุณค่ำครบท้งั๕ หมู่ในปริมำณที่เหมำะสม เพรำะนอกจำกจะช่วยเติมพลงั ให้ร่ำงกำยและสมองแลว้ ยงั ช่วยลดระดบัคอเลสเทอรอลในเส้นเลือด ช่วยใหก้ ำรเผำผลำญพลงั งำนดีข้ึน ๒. เลือกอาหารจากธรรมชาติไม่ขัดสี เช่น ขำ้ วกลอ้ ง ขำ้ วบำร์เลย์ (มอลต์) ถวั่ ขำ้ วสำลี (โฮลวีต)เมล็ดทำนตะวนั เป็ นตน้ ซ่ึงอำหำรเหล่ำน้ีมีคุณค่ำทำงโภชนำกำรสูง เป็ นแหล่งรวมของแร่ธำตุ วิตำมินโปรตีนที่ปรำศจำกคอเลสเทอรอลและคำร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน มีสำรแอนติออกซิแดนต์ ใยอำหำรและปัจจยั อื่น ช่วยลดควำมเส่ียงโรคหัวใจ นอกจำกน้ี ยงั ช่วยลดคอเลสเทอรอลและควำมดนั โลหิตได้หรืออำจเลือกอำหำรท่ีมีส่วนผสมของธญั พชื ไม่ขดั สี เช่น ขนมปังโฮลวตี ซีเรียลจำกมอลต์ เป็นตน้ ๓. เพ่มิ ผักผลไม้ในมือ้ อาหารและกินเป็ นประจา เพ่ือเพิ่มวิตำมิน แร่ธำตุ และสำรอ่ืน ๆ ที่จำเป็ นต่อร่ำงกำย ช่วยลดควำมเส่ียงโรคหวั ใจ ช่วยนำคอเลสเทอรอลและสำรก่อมะเร็งบำงชนิดออกจำกร่ำงกำยทำให้ลดกำรสะสมของสำรก่อมะเร็งบำงชนิด และมีกำกใยช่วยในกำรขบั ถ่ำย ช่วยใหก้ ระบวนกำรต่ำง ๆในร่ำงกำยดำเนินกำรไดอ้ ยำ่ งมีประสิทธิภำพ ๔. ลดขนมขบเคี้ยวและขนมอบท่ีมีแต่ไขมัน เกลือ น้าตาล และสารปรุงแต่งอื่น ๆ ท่ีส่งผลเสียต่อสุขภำพ หำกอยำกกินขนมอำจหันมำกินขนมที่มีส่วนผสมของธัญพืชเพื่อเพ่ิมคุณค่ำทำงโภชนำกำรใหก้ บั ขนมท่ีมีประโยชน์นอ้ ย อยำ่ งไรก็ตำม ควรกินในปริมำณท่ีเหมำะสมเท่ำน้นั ๕. กินปลา ไข่ และเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน อำหำรเหล่ำน้ีเป็ นแหล่งโปรตีนท่ีดี ช่วยเสริมสร้ำงร่ำงกำยในผูเ้ ยำว์และซ่อมแซมเน้ือเย่ือที่เสื่อมสลำยในผูส้ ูงอำยุ เป็ นส่วนประกอบของสำรสร้ำงภูมิคุ้มกันโรคติดเช้ือ ช่วยลดควำมเส่ียงของโรคอว้ น ไขมนั ในเส้นเลือดสูง เป็นตน้

๖. ดืม่ เครื่องดื่มเพอ่ื สุขภาพแทนนา้ หวาน นา้ อดั ลม หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซ่ึงมีน้ำตำลสูง กำรด่ืมน้ำผกั ผลไมก้ ็เป็ นทำงเลือกที่ดีเพรำะอุดมไปด้วยคุณค่ำทำงโภชนำกำร ท้งั คำร์โบไฮเดรต โปรตีนวติ ำมินและแร่ธำตุกวำ่ ๕๐ ชนิด เหมำะกบั คนทุกเพศทุกวยั ๗. ด่ืมน้าและนมให้เป็ นนิสัย กำรดื่มน้ำจะช่วยระบบขบั ถ่ำยและมีน้ำหล่อเล้ียงในเซลล์ต่ำง ๆ ของร่ำงกำย และควรดื่มนมอย่ำงน้อยวนั ละ ๑-๒ แกว้ ท้งั ในเด็กและผูใ้ หญ่ เพรำะนมอุดมไปด้วยคุณค่ำโภชนำกำรสูง ช่วยในกำรเจริญเติบโตของเด็ก ๆ ช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง โดยชนิดของนมข้ึนอยกู่ บั วยั หำกเป็ นเด็กที่กำลงั เจริญเติบโตควรเป็ นนมจืดธรรมดำ แต่ในผสู้ ูงอำยคุ วรเป็ นนมพร่องมนั เนยเพอ่ื มีส่วนช่วยลดคอเลสเทอรอล กญั ชลี ทิมำภรณ์ www.newswit.comตวั ชี้วดั • อธิบำยควำมหมำยของคำ ประโยค และสำนวนจำกเรื่องที่อำ่ น (ท ๑.๑ ป. ๔/๒) • สะกดคำและบอกควำมหมำยของคำในบริบทตำ่ ง ๆ (ท ๔.๑ ป. ๔/๑)๑. “๗ เคล็ดลบั กำรกินเพอ่ื สุขภำพ” คำท่ีขีดเส้นใตม้ ีควำมหมำยวำ่ อยำ่ งไร ๑ วธิ ีกำรกินที่นิยม ๒ วธิ ีกำรกินใหอ้ ร่อย ๓ วธิ ีกำรกินอยำ่ งฉลำด ๔ วธิ ีกำรกินท่ีแปลกใหม่ตวั ชี้วดั • ระบุชนิดและหนำ้ ท่ีของคำในประโยค (ท ๔.๑ ป. ๔/๒) • ระบุชนิดและหนำ้ ท่ีของคำในประโยค (ท ๔.๑ ป. ๕/๑) • วเิ ครำะห์ชนิดและหนำ้ ที่ของคำในประโยค (ท ๔.๑ ป. ๖/๑)๒. ขอ้ ใดไมม่ ีคำกริยำ ๑ ธญั พชื ไมข่ ดั สี ๒ นมพร่องมนั เนย ๓ อำหำรสำเร็จรูป ๔ เคร่ืองดื่มเพ่ือสุขภำพ

ตัวชี้วดั • แยกขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ คิดเห็นจำกเรื่องที่อ่ำน (ท ๑.๑ ป. ๔/๔) • แยกขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ คิดเห็นจำกเร่ืองท่ีอ่ำน (ท ๑.๑ ป. ๕/๔) • แยกขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ คิดเห็นจำกเร่ืองท่ีอ่ำน (ท ๑.๑ ป. ๖/๔) • จำแนกขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ คิดเห็นจำกเร่ืองท่ีฟังและดู (ท ๓.๑ ป. ๔/๑)๓. ขอ้ ใดเป็นขอ้ คิดเห็น ๑ อำหำรเชำ้ เป็ นม้ือที่สำคญั ท่ีสุด ๒ ผกั ผลไมม้ ีกำกใยช่วยในกำรขบั ถ่ำย ๓ กำรเกิดโรคบำงชนิดมีสำเหตุส่วนหน่ึงจำกกำรกินอำหำรท่ีไม่เหมำะสม ๔ หำกอยำกกินขนมอำจหนั มำกินขนมท่ีมีส่วนผสมของธญั พชื เพอื่ เพิม่ คุณค่ำทำงโภชนำกำร ใหก้ บั ขนมท่ีมีประโยชน์นอ้ ยตัวชี้วดั • คำดคะเนเหตุกำรณ์จำกเร่ืองที่อ่ำนโดยระบุเหตุผลประกอบ (ท ๑.๑ ป. ๔/๕)๔. ผทู้ ่ีกินอำหำรตำมเคลด็ ลบั น้ี น่ำจะไดร้ ับผลอยำ่ งไร ๑ รูปร่ำงดี มีน้ำหนกั และส่วนสูงตำมเกณฑม์ ำตรฐำน ๒ มีสุขภำพดี ร่ำงกำยมีภูมิคุม้ กนั โรคตำ่ ง ๆ ไดด้ ี ๓ หลบั ง่ำย หลบั สนิท มีจิตใจที่เบิกบำน ๔ ไม่มีโรค ไมม่ ีอำกำรเจบ็ ป่ วยใด ๆตวั ชี้วดั • สรุปควำมรู้และขอ้ คิดจำกเร่ืองท่ีอำ่ นเพ่อื นำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั (ท ๑.๑ ป. ๔/๖) • อธิบำยขอ้ คิดจำกกำรอ่ำนเพ่ือนำไปใชใ้ นชีวติ จริง (ท ๕.๑ ป. ๔/๒)๕. นกั เรียนไดข้ อ้ คิดใดจำกเรื่องน้ี ๑ เลิกกินอำหำรฟำสตฟ์ ูดและอำหำรสำเร็จรูปโดยเด็ดขำด ๒ ในแต่ละวนั ดื่มนมและน้ำผลไมใ้ หม้ ำกท่ีสุดเทำ่ ที่จะดื่มได้ ๓ ควรเลือกกินอำหำรท่ีมีประโยชนใ์ นปริมำณที่เหมำะสมเสมอ ๔ ทุกม้ือตอ้ งกินอำหำรใหค้ รบ ๕ หมู่ ม้ือไหนขำดตอ้ งบวกเพม่ิ ในม้ือถดั ไป

อ่านบทเพลงทก่ี าหนด แล้วตอบคาถามข้อ ๖-๑๐ อยำ่ กลบั คืนคำเมื่อเธอย้ำสญั ญำ อยำ่ เปล่ียนวำจำเมื่อเวลำแปรเปล่ียนไปใหเ้ ธอหมำยมนั่ คง แลว้ อยำ่ หลงไปเช่ือใคร เดินทำงไปอยำ่ หวนั่ ไหวใครกำงก้นั กระจ่ำงครรลองใหใ้ ฝ่ ปองและสร้ำงสรรค์ มีดวงตะวนั ส่องเป็นแสงสีทอง คือรำงวลั แด่ควำมฝันอนั ยงิ่ ใหญ่ ใหเ้ ธอเม่ือดอกไมแ้ ยม้ บำนใหค้ นหำญสู้ไมห่ วนั่ ถำ้ เธอคร้ำมถอยไปฉนั คงเกอ้ เพยี งตวั เธอ ไม่หนีไปเสียก่อน บนทำงเดินท่ีมีขวำกหนำม จะเป็นสะพำนใหเ้ ธอเดินไปแน่นอนฉนั ยงั พร้อมช่วยเธอเสมอ คอยอวยพรให้เธอสมดงั หวงั ได.้ ..นิรันดร์ จะปลอบดวงใจใหเ้ ธอหำยร้ำวรำน จรัล มโนเพช็ ร ประพนั ธ์คำร้องและทำนองจะเป็นสำยน้ำเยน็ ดบั กระหำยยำมโหยอ่อนตัวชี้วดั • อธิบำยควำมหมำยโดยนยั จำกเรื่องที่อ่ำนอยำ่ งหลำกหลำย (ท ๑.๑ ป. ๕/๓)๖. ขวากหนาม ในท่ีน้ีหมำยถึงอะไร ๑ ดอกกหุ ลำบ ๒ อุปสรรค ๓ กอ้ นหิน ๔ ศตั รูตัวชี้วดั • อธิบำยควำมหมำยของคำ ประโยค และขอ้ ควำมท่ีเป็นกำรบรรยำยและกำรพรรณนำ (ท ๑.๑ ป. ๕/๒) • อธิบำยควำมหมำยของคำ ประโยค และขอ้ ควำมที่เป็นโวหำร (ท ๑.๑ ป. ๖/๒)๗. ส่ิงใดคือรำงวลั แด่คนช่ำงฝัน ๑ กำลงั ใจ ๒ โอกำส ๓ กำรใหอ้ ภยั ๔ เงินสนบั สนุน

ตัวชี้วดั • บอกควำมหมำยของสำนวน (ท ๔.๑ ป. ๔/๖) ๘. แนวคิดของบทเพลงน้ีสอดคลอ้ งกบั สำนวนใด ๑ ทอดสะพำน ๒ กลำ้ นกั มกั บ่ิน ๓ ก่อแลว้ ตอ้ งสำน ๔ รำชรถมำเกย ตัวชี้วดั • วเิ ครำะห์และเปรียบเทียบสำนวนที่เป็ นคำพงั เพยและสุภำษิต (ท ๔.๑ ป. ๖/๖) ๙. คำตอบในขอ้ ๘ สัมพนั ธ์กบั สุภำษิตใด ๑ น้ำข้ึนใหร้ ีบตกั ๒ ชำ้ ๆ ไดพ้ ร้ำสองเล่มงำม ๓ รักยำวใหบ้ นั่ รักส้ันให้ตอ่ ๔ ควำมพยำยำมอยทู่ ่ีไหน ควำมสำเร็จอยทู่ ่ีนนั่ตวั ชี้วดั • วเิ ครำะห์และแสดงควำมคิดเห็นเกี่ยวกบั เร่ืองที่อำ่ นเพื่อนำไปใชใ้ นกำรดำเนินชีวติ (ท ๑.๑ ป. ๕/๕) • ระบุควำมรู้และขอ้ คิดจำกกำรอ่ำนวรรณคดีและวรรณกรรมที่สำมำรถนำไปใชใ้ นชีวติ จริง (ท ๕.๑ ป. ๕/๒)๑๐. ใครนำขอ้ คิดจำกบทเพลงน้ีไปใชใ้ นกำรดำเนินชีวติ ๑ จุย้ ขวนขวำยอ่ำนหนงั สือหลำยประเภทเพรำะต้งั ใจจะเป็ นทนำยควำม ๒ ตุย้ เคยทำงำนหลำยอยำ่ งแตไ่ มเ่ อำจริงสักอยำ่ ง จึงเปล่ียนงำนไปเร่ือย ๆ เพอ่ื คน้ หำตนเอง ๓ ป้ ุยรักกำรร้องเพลงและมีเสียงไพเรำะ แต่เม่ือเขำแพก้ ำรประกวดร้องเพลง เขำก็เลิกร้องเพลง ต้งั แต่น้นั มำ ๔ ยยุ้ เลือกเรียนวำดภำพท้งั ท่ีตนเองไมช่ อบและทำไดไ้ ม่ดี แต่ก็เลือกตำมเพอื่ นในกลุ่มจะไดไ้ ปเรียน ดว้ ยกนั

อ่านพระบรมราโชวาท แล้วตอบคาถามข้อ ๑๑-๑๔ “ควำมรู้จกั อดทนและอดกล้นั ไมย่ อมตวั ยอมใจใหว้ วู่ ำมไปตำมเหตุกำรณ์ตำมอคติและอำรมณ์ ท่ีชอบใจ หรือไมช่ อบใจน้นั ทำใหเ้ กิดมีกำรย้งั คิด และธรรมดำคนเรำเม่ือย้งั คิดไดแ้ ลว้ ยอ่ มมีโอกำส ที่จะพิจำรณำเร่ืองท่ีทำ คำที่พดู ทบทวนดูใหม่ไดอ้ ีกคำรบหน่ึง กำรพจิ ำรณำทบทวนเร่ืองใด ๆ ใหม่ ยอ่ มจะช่วยใหม้ องเห็นละเอียดชดั เจนข้ึน ทำใหเ้ กิดควำมเขำ้ ใจอนั กระจำ่ งสวำ่ งไสวข้ึน” ควำมตอนหน่ึงในพระบรมรำโชวำท ในพิธีพระรำชทำนปริญญำบตั รของมหำวทิ ยำลยั ธรรมศำสตร์ วนั ท่ี ๑๔ กนั ยำยน ๒๕๑๖ตวั ชี้วดั • อำ่ นงำนเขียนเชิงอธิบำย คำสง่ั ขอ้ แนะนำ และปฏิบตั ิตำม (ท ๑.๑ ป. ๖/๖) • สรุปเร่ืองจำกวรรณคดีหรือวรรณกรรมที่อ่ำน (ท ๕.๑ ป. ๕/๑)๑๑. พระบรมรำโชวำทองคน์ ้ีสอนใหป้ ฏิบตั ิส่ิงใด ๑ ไมเ่ อำแตใ่ จตนเอง ๒ รู้จกั ใชว้ จิ ำรณญำณ ๓ มีควำมอดทนอดกล้นั ๔ ทบทวนเรื่องที่ทำหรือพดู ไปแลว้ตัวชี้วดั • อธิบำยกำรนำควำมรู้และควำมคิดจำกเรื่องท่ีอ่ำนไปตดั สินใจแกป้ ัญหำในกำรดำเนินชีวิต (ท ๑.๑ ป. ๖/๕)๑๒. นกั เรียนจะนำคำสอนจำกพระบรมรำโชวำทไปใชใ้ นสถำนกำรณ์ใด ๑ เพอ่ื นชวนไปทบทวนบทเรียนก่อนสอบ ๒ เพื่อนช่วยกนั จดั ป้ ำยนิเทศ ๓ เพื่อนหกลม้ ขณะเล่นกีฬำ ๔ เพ่ือนพดู ลอ้ เลียน

ตวั ชี้วดั • อำ่ นหนงั สือตำมควำมสนใจและอธิบำยคุณคำ่ ท่ีไดร้ ับ (ท ๑.๑ ป. ๖/๘) • อธิบำยคุณคำ่ ของวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอ่ำนและนำไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง (ท ๕.๑ ป. ๖/๓)๑๓. พระบรมรำโชวำทองคน์ ้ีมีคุณค่ำดำ้ นใด ๑ คุณค่ำดำ้ นปัญญำ ๒ คุณค่ำดำ้ นอำรมณ์ ๓ คุณคำ่ ดำ้ นวรรณศิลป์ ๔ คุณคำ่ ดำ้ นวฒั นธรรมตวั ชี้วดั • แสดงควำมคิดเห็นจำกวรรณคดีหรือวรรณกรรมท่ีอ่ำน (ท ๕.๑ ป. ๖/๑)๑๔. ถำ้ คนในสงั คมยดึ ถือพระบรมรำโชวำทน้ีในกำรอยรู่ ่วมกนั สังคมจะเป็นอยำ่ งไร ๑ ทุกคนไม่เห็นแก่ตวั เสียสละเพ่ือส่วนรวมไดเ้ สมอ ๒ ทุกคนไมท่ ะเลำะววิ ำททำร้ำยกนั ๓ ทุกคนมีควำมคิดเห็นตรงกนั ท้งั หมด ๔ ทุกคนมีสติปัญญำฉลำดหลกั แหลมตัวชี้วดั • ใชค้ ำรำชำศพั ท์ (ท ๔.๑ ป. ๕/๔) • ใชค้ ำไดเ้ หมำะสมกบั กำลเทศะและบุคคล (ท ๔.๑ ป. ๖/๒)๑๕. นำยเรืองโรจน์ สุขสวสั ด์ิ นำคณะบุคคลเขำ้ เฝ้ ำทูลละอองพระบำทเพ่ือทูลเกลำ้ ฯ ถวำยหนงั สือแด่สมเดจ็ พระเทพรัตนรำชสุดำฯ สยำมบรมรำชกมุ ำรีคำใดนำมำเติมในช่องวำ่ งจึงจะถูกตอ้ ง๑ ขอพระรำชทำนพระบรมรำชำนุญำต๒ ขอพระรำชทำนพระรำชำนุญำต๓ ขอพระรำชทำนพระอนุญำต๔ ขอประทำนพระอนุญำต

ตวั ชี้วดั • ใชพ้ จนำนุกรมคน้ หำควำมหมำยของคำ (ท ๔.๑ ป. ๔/๓) • อ่ำนงำนเขียนเชิงอธิบำย คำสงั่ ขอ้ แนะนำ และปฏิบตั ิตำม (ท ๑.๑ ป. ๕/๖) • อำ่ นงำนเขียนเชิงอธิบำย คำส่ัง ขอ้ แนะนำ และปฏิบตั ิตำม (ท ๑.๑ ป. ๖/๖)๑๖. ศึกษำขอ้ มลู ในพจนำนุกรมต่อไปน้ี แลว้ ตอบคำถำม จินต–, จินต์ [จินตะ–] ก. คิด. (ป., ส.). จินตกวี น. กวีผูม้ ีควำมสำมำรถในกำรแต่งร้อยกรองตำมแนว ควำมคิดและจินตนำกำรของตนเอง. จินต์จล ก. คิด หวนั่ , คิดหวำดหวน่ั , เช่น ใจปรำชญฤ์ ๅเฟื่ องฟ้ื นห่อนได้ จินต์จล. (โลกนิติ). (ป. จินฺต ว่ำ คิด, จล ว่ำหวน่ั ไหว). จินตนาการ น. กำรสร้ำงภำพข้ึนในจิตใจ. (ป. จินฺตน + อำกำร). จินตนิยม น. (ปรัชญำ) ขบวนกำรใน ประวตั ิศำสตร์ของปรัชญำและศิลปะท่ีเนน้ กำรเป็ นตวั ของตวั เอง เป็ นอิสระจำกกฎเกณฑ์และระเบียบกำรที่ ยึดถือกันมำ นักปรัชญำและศิลปิ นของขบวนกำรน้ี ถือว่ำอำรมณ์ ควำมรู้สึกสำคัญกว่ำเหตุผล; (ศิลปะ และวรรณคดี) คตินิยมในกำรสร้ำงสรรค์วรรณกรรม หรือศิลปะซ่ึงแสดงให้เห็นชีวิตและโลกตำมจินตนำกำร หรือมโนภำพ. (อ. romanticism). จินตภาพ น. ภำพท่ี เกิดจำกควำมนึกคิดหรื อที่คิดว่ำควรจะเป็ นเช่นน้ัน, ภำพลกั ษณ์ ก็วำ่ . (อ. image). เม่ือคน้ หำคำวำ่ จินตภำพ ขอ้ มลู ใดถูกตอ้ ง ๑ หมำยถึงภำพที่เกิดจำกควำมนึกคิด ๒ มำจำกคำในภำษำบำลี คือ จินฺตน + อำกำร ๓ ตรงกบั คำในภำษำองั กฤษวำ่ romanticism ๔ หมำยถึงกวผี มู้ ีควำมสำมำรถในกำรแตง่ ร้อยกรองตำมจินตนำกำรของตนเอง

ตวั ชี้วดั • บอกคำภำษำต่ำงประเทศในภำษำไทย (ท ๔.๑ ป. ๕/๕) • รวบรวมและบอกควำมหมำยของคำภำษำตำ่ งประเทศท่ีใชใ้ นภำษำไทย (ท ๔.๑ ป. ๖/๓)๑๗. คำในขอ้ ใดมีท่ีมำจำกภำษำจีนท้งั ๒ คำ๑ ซำลำเปำ ไอศกรีม๒ ลอดช่อง เกำเหลำ๓ เยน็ ตำโฟ เปำะเปี๊ ยะ๔ ตะโก้ เตำ้ ส่วนตวั ชี้วดั • แตง่ ประโยคไดถ้ ูกตอ้ งตำมหลกั ภำษำ (ท ๔.๑ ป. ๔/๔) • จำแนกส่วนประกอบของประโยค (ท ๔.๑ ป. ๕/๒) • ระบุลกั ษณะของประโยค (ท ๔.๑ ป. ๖/๔)๑๘. ๑. เป็นยำมเชำ้ วนั หน่ึงของฤดูใบไมผ้ ลิ ๒. สำยลมออ่ นพดั โชยแผว่ เบำ ๓. พืชพรรณกำลงั ผลิใบใหม่เป็ นสีเขียวออ่ นงดงำม ๔. ชำยตำบอดคนหน่ึงนงั่ ขอทำนบนทำงเทำ้ ๕. ป้ ำยกระดำษขำ้ งหนำ้ ขอทำนเขียนวำ่ “ผมตำบอด”หมำยเลขใดเป็ นวลี๑ หมำยเลข ๒๒ หมำยเลข ๓๓ หมำยเลข ๒ และ ๔๔ หมำยเลข ๑ และ ๕

ตัวชี้วดั • ใชส้ ำนวนไดถ้ ูกตอ้ ง (ท ๔.๑ ป. ๕/๗)๑๙. สำนวน “ปิ ดทองหลงั พระ” จะนำไปใชใ้ นสถำนกำรณ์ใด ๑ นทั เป็นไขห้ วดั แตไ่ ม่กลำ้ บอกแม่วำ่ ไปเล่นกลำงฝนมำ ๒ นิลช่วยเขียนเรียงควำมใหเ้ พื่อนเพื่อใหเ้ ขำไดค้ ะแนนดี ๆ ๓ นนั ทเ์ กบ็ กวำดทำงเดินในชุมชนใหส้ ะอำดอยเู่ สมอดว้ ยควำมสมคั รใจ ๔ นนทแ์ อบหลบั ในหอ้ งเรียนเป็นประจำ แมค้ รูจะตกั เตือนกไ็ ม่เป็นผลตวั ชี้วดั • แต่งบทร้อยกรอง (ท ๔.๑ ป. ๖/๕)๒๐. ที่ร่มไผช่ ำยคลองตรงร่องน้ำ สะแกค้ำกิ่ง มำหอ้ มห่ม ร่มน้ำไหลใสเยน็ เป็นเกลียวกลม หยดุ พกั เหนื่อยนงั่ ชมพอชื่นใจเติมคำใดในช่องวำ่ ง กลอนบทน้ีจึงจะสมบรู ณ์๑ คอ้ ม๒ หอ้ ย๓ กำ้ น๔ แผ่

ตัวชี้วดั • อธิบำยควำมหมำยของขอ้ มลู จำกกำรอ่ำนแผนผงั แผนที่ แผนภมู ิ และกรำฟ (ท ๑.๑ ป. ๖/๗)๒๑. จำนวนเงินที่ร้ำนขำยหนงั สือร้ำนหน่ึงขำยไดต้ ้งั แต่วนั จนั ทร์ถึงวนั ศุกร์ จำกกรำฟ ขอ้ ใดกล่ำวถูกตอ้ ง ๑ วนั องั คำรขำยหนงั สือไดเ้ งินนอ้ ยกวำ่ วนั จนั ทร์ ๒ ทุกวนั ขำยหนงั สือไดเ้ งินมำกกวำ่ ๒,๐๐๐ บำท ๓ ช่วงปลำยสัปดำห์มียอดขำยหนงั สือลดลง ๔ วนั ศุกร์ขำยหนงั สือไดเ้ งินมำกที่สุด

ตวั ชี้วดั • วเิ ครำะห์ควำมน่ำเช่ือถือจำกเร่ืองท่ีฟังและดูอยำ่ งมีเหตุผล (ท ๓.๑ ป. ๕/๓)๒๒. ผจู้ ดั รำยกำรโทรทศั น์ชื่อดงั ตอ้ งกำรเฟ้ นหำดำวฉำยแสงดวงใหม่มำประดบั วงกำรบนั เทิง หนุ่มสำวท่ีมีอำยรุ ะหวำ่ ง ๑๒-๑๕ ปี รูปร่ำงหนำ้ ตำดีและมีควำมฝัน รีบสมคั รเขำ้ มำ โดยส่งรูปถ่ำยพร้อมประวตั ิส่วนตวั มำที่ www.pen.ao.th โอกำสดี ๆ รอคุณอยู่ เร่ืองน้ีน่ำเช่ือถือหรือไม่ เพรำะเหตุใด ๑ น่ำเช่ือถือ เพรำะระบุเวบ็ ไซตท์ ่ีติดต่อได้ ๒ น่ำเชื่อถือ เพรำะระบุวำ่ เป็นผจู้ ดั รำยกำรโทรทศั น์ช่ือดงั ของวงกำรบนั เทิง ๓ ไม่น่ำเชื่อถือ เพรำะไม่ไดแ้ จง้ เกณฑก์ ำรคดั เลือก ๔ ไมน่ ่ำเชื่อถือ เพรำะขอ้ มลู ท่ีใหไ้ ม่ชดั เจนและไม่สำมำรถตรวจสอบได้ ตัวชี้วดั • พดู แสดงควำมรู้ ควำมคิดเห็น และควำมรู้สึกเก่ียวกบั เรื่องที่ฟังและดู (ท ๓.๑ ป. ๔/๓) • พดู แสดงควำมรู้ ควำมคิดเห็น และควำมรู้สึกจำกเร่ืองท่ีฟังและดู (ท ๓.๑ ป. ๕/๑) • พดู แสดงควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจจุดประสงคข์ องเรื่องที่ฟังและดู (ท ๓.๑ ป. ๖/๑)๒๓. กำรพดู ในขอ้ ใดแสดงวำ่ เขำ้ ใจจุดประสงคข์ องเรื่อง ๑ ขออุทิศควำมดีเป็นเคร่ืองบชู ำครูดว้ ยสำนึกในพระคุณ ๒ ครูเป็นผใู้ หค้ วำมรู้และอบรมจิตใจให้รู้ผดิ ชอบชว่ั ดี ๓ พระคุณครูเป็นพระคุณท่ีสำมถดั จำกบิดำมำรดำ ๔ ครูไม่ใช่เรือจำ้ งแตเ่ ป็ นแสงนำทำงชีวติ ตัวชี้วดั • รำยงำนเรื่องหรือประเดน็ ที่ศึกษำคน้ ควำ้ จำกกำรฟัง กำรดู และกำรสนทนำ (ท ๓.๑ ป. ๔/๕) • พดู รำยงำนเรื่องหรือประเด็นท่ีศึกษำคน้ ควำ้ จำกกำรฟัง กำรดู และกำรสนทนำ (ท ๓.๑ ป. ๕/๔) • พดู รำยงำนเรื่องหรือประเด็นท่ีศึกษำคน้ ควำ้ จำกกำรฟัง กำรดู และกำรสนทนำ (ท ๓.๑ ป. ๖/๔)๒๔. เร่ืองใดควรนำมำพดู รำยงำน ๑ ดำรำไทยที่วยั รุ่นช่ืนชอบ ๒ หนำ้ ท่ีของชำยหญิงในยคุ ปัจจุบนั ๓ ขนมไทยช่วยสะทอ้ นควำมเป็นไทย ๔ เทคโนโลยที ่ีเจริญทำใหค้ ุณธรรมเส่ือมถอย

ตัวชี้วดั • พดู โนม้ นำ้ วอยำ่ งมีเหตุผลและน่ำเชื่อถือ (ท ๓.๑ ป. ๖/๕)๒๕. คำพดู ใดโนม้ นำ้ วผฟู้ ังไดม้ ำกท่ีสุด ๑ โปรดทิ้งขยะลงถงั ๒ ละอำยใจบำ้ งไหมเม่ือทิง้ ขยะไมเ่ ป็นที่ ๓ ทิง้ ขยะใหถ้ ูกที่ บำ้ นเมืองของเรำจะสะอำดน่ำมอง ๔ ถงั ขยะอยนู่ ี่ ดูสิเดินเลย ทิง้ ไปแลว้ ทำเฉย เหมือนไม่เคยถือมำส่วนท่ี ๒ : อำ่ นขอ้ ควำมท่ีกำหนดแลว้ เลือกคำตอบท่ีจะใชเ้ ติมในช่องวำ่ งจำกหมวดคำตอบ ก และ ข ใหถ้ ูกตอ้ งท้งั ๒ หมวด หมวดละ ๑ คำตอบ จึงจะไดค้ ะแนน ขอ้ ละ ๒ คะแนน รวม ๑๐ คะแนนตัวชี้วดั • เขียนแสดงควำมรู้สึกและควำมคิดเห็นไดต้ รงตำมเจตนำ (ท ๒.๑ ป. ๕/๖)๒๖. นิทำนเร่ืองน้ีมีโครงเร่ืองน่ำสนใจ เหตุกำรณ์ชวนใหต้ ิดตำมตลอดเรื่อง ตวั ละครหลำกหลำยสะทอ้ นใหเ้ ห็นนิสัยท้งั ดำ้ นดีและดำ้ นไม่ดี กำรใชภ้ ำษำถูกตอ้ งและเหมำะสมกบั ตวั ละครก. แตต่ อนจบของเรื่องควรนำเสนอใหช้ ดั เจนวำ่ ข.ทำดีไดด้ ี ทำชวั่ ไดช้ ว่ัก. ๑ เร่ืองน้ีเขียนไดด้ ีจนไมน่ ่ำเช่ือ ๒ เรื่องน้ีเกือบจะไม่มีที่ติอยแู่ ลว้ ๓ จดั เป็นงำนเขียนที่ดีเร่ืองหน่ึง ๔ น่ำเสียดำยที่เขียนไดด้ ีมำตลอดข. ๑ นิทำนเร่ืองน้ีก็จะเป็นนิทำนที่ดีที่สุด ๒ เร่ืองน้ีจึงลดควำมน่ำสนใจลงไปมำก ๓ ผแู้ ตง่ ควรต้งั ใจเขียนใหม้ ำกกวำ่ น้ี ๔ จะทำใหเ้ ร่ืองน้ีสมบรู ณ์ยงิ่ ข้ึน

ตวั ชี้วดั • เขียนจดหมำยถึงเพื่อนและบิดำมำรดำ (ท ๒.๑ ป. ๔/๕) • เขียนจดหมำยส่วนตวั (ท ๒.๑ ป. ๖/๖)๒๗. ก.เมื่อวำนน้ีเรำพดู ไมด่ ีและแสดงท่ำทำงหงุดหงิดใส่เธอ ท้งั ที่เธอมีน้ำใจไต่ถำม ข.ดว้ ยควำมเป็นห่วงแท้ ๆตอ่ ไปเรำจะไมพ่ ดู แบบน้นั อีกแลว้ รักและคิดถึงก. ๑ ถึง ละไม ๒ สวสั ดี ละไม ๓ ละไม ท่ีแสนดี ๔ ละไม เพื่อนรักข. ๑ เรำกำลงั เป็นไขแ้ ละปวดหวั จึงพล้งั ปำกไป เธอคงไม่ถือสำ ๒ ถำ้ เธอไมเ่ ซำ้ ซ้ีเรำคงไม่อำรมณ์เสีย เรำขอโทษก็ไดน้ ะ ๓ เรำขอโทษนะ และขอบใจสำหรับน้ำใจของเธอ ๔ เรำเป็ นคนนิสยั ไมด่ ีแบบน้ี เธอกร็ ู้ดีน่ีนำ

ตวั ชี้วดั • เขียนส่ือสำรโดยใชค้ ำไดถ้ ูกตอ้ ง ชดั เจน และเหมำะสม (ท ๒.๑ ป. ๕/๒) • เขียนส่ือสำรโดยใชค้ ำไดถ้ ูกตอ้ ง ชดั เจน และเหมำะสม (ท ๒.๑ ป. ๖/๒)๒๘. ใน ก. ข้ึนปี ใหม่ ลูกขออำนำจสิ่งศกั ด์ิสิทธ์ิท้งั หลำยโปรดอำนวยพรใหค้ ุณพอ่ คุณแม่มีควำมสุขท้งั กำยและใจ ไดร้ ับสิ่งท่ีดี ข. แคลว้ คลำดจำกอนั ตรำยและโรคภยั ท้งั ปวง ประสบควำมสำเร็จในกิจกำรท่ีมุง่ หวงั ทุกประกำรก. ๑ ศุภวำรดิถี ๒ ศุภลกั ษณ์ ๓ ศุภฤกษ์ ๔ ศุภชำติข. ๑ สมน้ำสมเน้ือ ๒ สมเหตุสมผล ๓ สมปรำรถนำ ๔ สมพรปำก

ตัวชี้วดั • เขียนยอ่ ควำมจำกเร่ืองที่อำ่ น (ท ๒.๑ ป. ๕/๔) • เขียนยอ่ ควำมจำกเร่ืองที่อำ่ น (ท ๒.๑ ป. ๖/๕)๒๙. ย่อบทละครเร่ือง รำมเกียรต์ิ พระรำชนิพนธ์ในพระบำทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้ ำจุฬำโลกมหำรำชตอน ทศกณั ฐล์ ม้ จำกหนงั สือ วรรณกรรมสมยั รัตนโกสินทร์ บทละครเร่ืองรำมเกียรต์ิ พระรำชนิพนธ์ในรัชกำลที่ ๑ เล่ม ๓ ก. ควำมวำ่ในกำรรบคร้ังสุดทำ้ ยของพระรำมกบั ทศกณั ฐ์ ฝ่ ำยพระรำมจดั ทพั เป็ นรูปครุฑอยำ่ งยิ่งใหญ่ออกมำสู้รบกบั กองทพั ของทศกณั ฐ์ พลยกั ษ์ต่ำงหวำดหวน่ั ครั่นคร้ำมหนีกระเจิดกระเจิงไม่อยู่สู้รบ เหลือแต่ทศกณั ฐก์ บั โลทนั ผขู้ บั รถทรง ทศกณั ฐม์ ีขตั ติยมำนะจึงต่อสู้แต่ผเู้ ดียวฝ่ ำกองทพั วำนรไปจนถึงรถทรงของพระรำม ทศกัณฐ์แผลงศรออกไปแต่กลำยเป็ นข้ำวตอกดอกไม้ พระรำมยกศรข้ึนพำดสำยเล็งไปที่ทศกณั ฐแ์ ต่หลงใหลในรูปทศกณั ฐ์แปลง ข. ก่ อ น สิ้ น ใ จ ท ศ กัณ ฐ์ ร ะ ลึ ก ไ ด้ถึ งควำมผดิ ท้งั หมดของตนเอง ไดส้ ั่งควำมกบั พิเภกฝำกนำงมณโฑและสนมกำนลั ให้พิเภกครองเมืองลงกำดว้ ยคุณธรรม มีเมตตำตอ่ ไพร่พลและรำษฎรก. ๑ รำคำ ๘๐๐ บำท ๒ พิมพเ์ มื่อ พ.ศ. ๒๕๔๐ ๓ จำนวน ๕๙๑ หนำ้ ๔ หนำ้ ๓๙๔-๔๐๐ข. ๑ หนุมำนเห็นวำ่ จะเหมือนคร้ังพระลกั ษมณ์หลงรูปอินทรชิตจึงใหพ้ ระรำมนำ้ วศรพรหมำสตร์รังสรรค์ ๒ หนุมำนทลู วำ่ รูปรสวำจำพำทีดุริยำงคด์ นตรีน้ีหำ้ มนกั พระรำมจึงแผลงศร ๓ ผวิ พกั ตร์ลกั ขณำวลิ ำวณั ย์ เม่ือพระรำมไดส้ ติจึงแผลงศรไปดว้ ยศกั ดำ ๔ พอหนุมำนทลู เตือน พระรำมกไ็ ดส้ ติ จึงแผลงศรตอ้ งทศกณั ฐล์ ม้ ลง

ตวั ชี้วดั • เขียนแผนภำพโครงเร่ืองและแผนภำพควำมคิดเพือ่ ใชพ้ ฒั นำงำนเขียน (ท ๒.๑ ป. ๔/๓) • เขียนแผนภำพโครงเร่ืองและแผนภำพควำมคิดเพอื่ ใชพ้ ฒั นำงำนเขียน (ท ๒.๑ ป. ๕/๓) • เขียนแผนภำพโครงเร่ืองและแผนภำพควำมคิดเพื่อใชพ้ ฒั นำงำนเขียน (ท ๒.๑ ป. ๖/๓) • เขียนเรียงควำม (ท ๒.๑ ป. ๖/๔)๓๐. คำนำ อำรมณ์ตำมธรรมชำติของมนุษย์ ก. อภยั คือน้ำอมฤต สรุป ตน้ เหตุแห่งควำมโกรธ ยำพษิ คือควำมโกรธ โทษของควำมโกรธ วธิ ีระงบั ควำมโกรธ ผลดีของกำรใหอ้ ภยั สังคมที่มีแตก่ ำรใหอ้ ภยั _____________ข__. _____________ก. ๑ ใจควำม ๒ เน้ือเรื่อง ๓ สำระสำคญั ๔ กำรดำเนินเร่ืองข. ๑ แนวทำงท่ีสมำชิกในสังคมควรปฏิบตั ิ ๒ บุคคลที่เป็นตน้ แบบของกำรใหอ้ ภยั ๓ ตวั อยำ่ งเหตุกำรณ์ที่เกิดจำกควำมโกรธ ๔ ตำนำนกำรเกิดน้ำอมฤต

ชุดท่ี ๑เฉลยแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนเตรียมสอบ O-NET กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๖ข้อ เฉลย เหตุผล๑ ๓ เคลด็ ลบั หมำยถึง วธิ ีกำรที่ฉลำด๒ ๔ เครื่องดื่ม และ สุขภำพ เป็นคำนำม เพือ่ เป็นคำบุพบท ส่วนขอ้ ๑ มีคำวำ่ ขดั สี เป็นคำกริยำ ขอ้ ๒ พร่อง เป็นคำกริยำ ขอ้ ๓ สำเร็จรูป เป็นคำกริยำ๓ ๔ เป็นขอ้ คิดเห็น สงั เกตไดจ้ ำกคำวำ่ อำจ ส่วนขอ้ ๑-๓ เป็นขอ้ เทจ็ จริงท่ีมีทฤษฎี รองรับท้งั สิ้น และยอมรับโดยทวั่ กนั๔ ๒ กำรกินอำหำรที่ถูกหลกั โภชนำกำรเป็นส่วนหน่ึงที่ทำให้เรำมีสุขภำพดี ร่ำงกำยก็จะ สร้ำงภมู ิคุม้ กนั ต่อโรคตำ่ ง ๆ ได้ แต่กำรมีส่วนสูงไดม้ ำตรฐำน กำรนอนหลบั จิตใจท่ีเบิกบำน และกำรไม่มีโรค ตอ้ งมีปัจจยั อื่นดว้ ย เช่น พนั ธุกรรม ควำมเครียด กำรออกกำลงั กำย รวมท้งั ปัจจยั จำกสิ่งแวดลอ้ ม ตวั เลือกขอ้ ๑, ๓ และ ๔ จึงไม่สมเหตุสมผล๕ ๓ เป็นควำมคิดหลกั ของเรื่องน้ี๖ ๒ พจิ ำรณำจำกบริบท บนทำงเดินที่มีขวำกหนำม คือ กำรทำงำนที่มีอุปสรรค ขวำกหนำมเป็นสัญลกั ษณ์ หมำยถึง อุปสรรคท่ีมำขดั ขวำง๗ ๑ พจิ ำรณำจำกน้ำเสียงของถอ้ ยคำ เม่ือดอกไมแ้ ยม้ บำนใหค้ นหำญสู้ไม่หวนั่ ฉนั ยงั พร้อมช่วยเธอเสมอ จะปลอบดวงใจ คอยอวยพรให้เธอสมดงั หวงั ซ่ึงแสดงถึงกำรใหก้ ำลงั ใจและกำรอยเู่ คียงขำ้ ง๘ ๓ สำนวนน้ีมีควำมหมำยวำ่ เม่ือทำสิ่งใดแลว้ ตอ้ งทำต่อไปจนสำเร็จ ซ่ึงสอดคลอ้ งกบั แนวคิดของเพลง คือ เม่ือมีควำมฝันหรือต้งั ใจที่จะทำส่ิงใดจงพยำยำมทำจนสำเร็จ๙ ๔ สำนวน ก่อแลว้ ตอ้ งสำน หมำยควำมวำ่ เม่ือทำสิ่งใดแลว้ ตอ้ งทำต่อไปจนสำเร็จ ซ่ึงก่อนท่ีจะประสบควำมสำเร็จ ผทู้ ำตอ้ งมีควำมพยำยำม๑๐ ๑ ขอ้ คิดของบทเพลงน้ี คือ กำรพยำยำมทำตำมควำมฝันของตนเองใหส้ ำเร็จ๑๑ ๓ ควำมอดทนอดกล้นั ทำใหเ้ กิดกำรย้งั คิด เม่ือคิดทบทวนแลว้ ก็จะเขำ้ ใจกระจ่ำง ในที่สุด

ข้อ เฉลย เหตุผล๑๒ ๔ ควำมอดทนอดกล้นั คือ กำรระงบั อำรมณ์ท่ีเกิดข้ึน ซ่ึงเป็ นอำรมณ์ท่ีรุนแรง ในเชิงลบ เช่น อำรมณ์โกรธ เมื่อถูกเพ่อื นพดู ลอ้ เลียน ส่วนขอ้ ๒ และ ๓ ถำ้ ไมช่ ่วย จะเรียกวำ่ น่ิงดูดำย๑๓ ๑ ผอู้ ่ำนไดร้ ับควำมคิดซ่ึงเสริมสร้ำงสติปัญญำใหเ้ ขำ้ ใจหลกั ในกำรดำเนินชีวติ๑๔ ๒ ควำมอดทนอดกล้นั ทำใหใ้ จเยน็ ลง ยบั ย้งั กำรกระทำและคำพดู อนั ไมเ่ หมำะสมได้ จึงไม่เกิดกำรทะเลำะววิ ำท แต่ควำมคิดเห็นเป็นสิทธิและมุมมองของแตล่ ะคน ซ่ึงอำจเหมือนหรือต่ำงกนั ได้ ไม่เก่ียวขอ้ งกบั ควำมอดทนอดกล้นั๑๕ ๒ เป็นคำรำชำศพั ทท์ ่ีใชส้ ำหรับสมเด็จพระบรมรำชินีนำถ สมเด็จพระบรม- โอรสำธิรำช สยำมมกุฎรำชกุมำร สมเด็จพระเทพรัตนรำชสุดำฯ สยำมบรมรำชกุมำรี๑๖ ๑ เป็นควำมหมำยของคำวำ่ จินตภำพ ส่วนขอ้ ๒ คือท่ีมำของคำวำ่ จินตนำกำร ขอ้ ๓ คือคำวำ่ จินตนิยม และขอ้ ๔ เป็นควำมหมำยของคำวำ่ จินตกวี๑๗ ๓ ขอ้ ๑ ไอศกรีม มำจำกภำษำองั กฤษ ขอ้ ๒ ลอดช่อง เป็นคำไทย ขอ้ ๔ ตะโก้ เป็นคำไทย๑๘ ๔ เพรำะท้งั ๒ ขอ้ ควำมมีใจควำมไม่สมบรู ณ์ ส่วนขอ้ ควำมในหมำยเลข ๒, ๓ และ ๔ เป็ นประโยคสำมญั๑๙ ๓ ปิ ดทองหลงั พระ หมำยควำมวำ่ ทำควำมดีแตไ่ มไ่ ดร้ ับกำรยกยอ่ ง เพรำะไมม่ ีใคร เห็นคุณค่ำ๒๐ ๑ คอ้ ม หมำยถึง โนม้ ลง ซ่ึงมีควำมหมำยสมั พนั ธ์กบั บริบทและทำใหเ้ กิดควำมไพเรำะ ดว้ ยสมั ผสั ใน๒๑ ๒ วนั พธุ ที่ขำยหนงั สือไดเ้ งินนอ้ ยที่สุดก็ยงั ไดเ้ งิน ๒,๑๐๐ บำท๒๒ ๔ ไมม่ ีกำรระบุช่ือบุคคลหรือหน่วยงำนใดเลย ขอ้ มูลท่ีใหก้ ไ็ ม่มีรำยละเอียดท่ีชดั เจน และเป็นกำรขอรับขอ้ มูลฝ่ ำยเดียวของผปู้ ระกำศ ไมม่ ีเบอร์โทรศพั ทห์ รือที่อยู่ แน่นอนใหต้ ิดต่อกลบั ได้๒๓ ๑ เพรำะขอ้ ๒, ๓ และ ๔ เพยี งแต่บอกวำ่ ครูคือใคร มีควำมสำคญั อยำ่ งไร มีขอ้ ๑ เพียงขอ้ เดียวท่ีแสดงถึงควำมกตญั ญูตอ่ ครู ซ่ึงเป็นจุดประสงคท์ ่ีแทจ้ ริง๒๔ ๓ กำรพดู รำยงำนมีจุดประสงคเ์ พอื่ นำเสนอควำมรู้ในทำงสร้ำงสรรค์ ไมค่ วรพดู ในเรื่องที่เก่ียวกบั ควำมรู้สึก หรือควำมคิดเห็นท่ีจะนำไปสู่ควำมขดั แยง้๒๕ ๓ กำรพดู โนม้ นำ้ วตอ้ งช้ีใหผ้ ฟู้ ังเห็นควำมสำคญั หรือประโยชน์ที่จะปฏิบตั ิ๒๖ ก. ๓ สื่อควำมหมำยในเชิงสร้ำงสรรค์ ใหก้ ำลงั ใจ และสอดคลอ้ งกบั เน้ือควำมขำ้ งตน้ข. ๔ เป็นถอ้ ยคำท่ีใหก้ ำลงั ใจและไม่เกินจริง

ข้อ เฉลย เหตุผล๒๗ ก. ๔ คำข้ึนตน้ จดหมำยถึงเพอ่ื นให้ระบุชื่อ และตำมดว้ ยคำวำ่ เพ่ือนรักข. ๓ ถอ้ ยคำสุภำพ แสดงควำมสำนึกผดิ และจริงใจ๒๘ ก. ๑ ศุภวำรดิถี แปลวำ่ วนั ท่ีดี วนั ท่ีเจริญ ซ่ึงสอดคลอ้ งกบั บริบทข. ๓ สมปรำรถนำ แปลวำ่ ตำมควำมมุง่ หมำย ตำมท่ีตอ้ งกำร ซ่ึงสอดคลอ้ งกบั บริบท๒๙ ก. ๔ หลงั จำกชื่อหนงั สือตอ้ งระบุหนำ้ ของเน้ือเร่ืองตอนที่นำมำยอ่ ควำมข. ๔ มีใจควำมต่อเนื่องสมั พนั ธ์กบั ขอ้ ควำมอื่น และเป็นสำนวนภำษำร้อยแกว้ ที่ถอดควำม มำแลว้๓๐ ก. ๒ เรียงควำมมีองคป์ ระกอบ ๓ ส่วน คือ คำนำ เน้ือเร่ือง สรุปข. ๑ สอดคลอ้ งกบั โครงเรื่องที่กำหนดไวใ้ นตอนตน้ สัมพนั ธ์กบั ชื่อเรื่อง และมีควำมเหมำะสม


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook