Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทที่ 6 การพัฒนาระบบการจัดการพลังงาน

บทที่ 6 การพัฒนาระบบการจัดการพลังงาน

Published by Wilawan S, 2021-12-31 15:14:41

Description: คู่มือการอนุรักษ์พลังงาน V.2022
กลุ่มวิจัย EnConLab
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

Keywords: e-book, enconlab, energy, saving

Search

Read the Text Version

บทท่ี 6 การพัฒนาระบบ การจัดการพลังงาน ค่มู อื การอนุรกั ษ์พลงั งาน 6-1 V.2022

เครื่องมอื วดั ดา้ นพลงั บงทาทน่ี 2 เครอ่ื งมือวัดเป็นอุปกรณ์สาคัญในงานตรวจวัดด้านพลังงาน ซึ่งจะมีผลต่อความถูกต้องของการ วิเคราะห์ เคร่ืองมือที่นามาใช้ในงานตรวจวัดจะต้องมีท้ังความถูกต้อง(Accuracy) และความเท่ียงตรง (Precision) โดยเมอ่ื นาไปใช้งานในการวดั ขนาดหรือค่าทีต่ ้องการ ค่าที่แสดงออกมาเป็นตัวเลขบนเครื่องมือ วัดเหล่านี้ต้องมีความเช่ือถือได้ ในบทที่จะกล่าวถึงการใช้งานของเครื่องวัดที่สาคัญในด้านพลังงาน ดังต่อไปนี้ 6-2 กล่มุ วจิ ยั EnConLab มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยพี ระจอมเกล้าธนบุรี

การพฒั นาระบบการจดั การพลบงั ทงทา่ีน6 6.1 การจดั การพลงั งาน คืออะไร ? การจดั การพลังงาน คือ ระบบการดาเนินงานภายในองค์กรซ่ึงประกอบด้วย บุคลากร ทรัพยากร นโยบาย และข้ันตอนการดาเนินการ โดยมีการทางานประสานกันอย่างเป็นระเบียบและแบบแผน เพ่ือ ปฏบิ ตั งิ านที่กาหนดไว้หรอื เพอื่ ใหบ้ รรลุ หรอื รักษาเป้าหมายที่กาหนดไว้ จุดมุ่งหมาย ของระบบการจัดการพลังงาน คือ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายขององค์กรในการลด ปริมาณการใช้พลังงานและลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานลงให้ต่าที่สุดโดยไม่กระทบต่อการผลิต สินค้าหรือ บริการ อย่างเป็นระบบและยัง่ ยืน คูม่ ือการอนุรักษ์พลงั งาน 6-1 V.2022

6.2 สาคญั อย่างไร………….ทาไมต้องทา? พลังงาน เป็นสิ่งจาเป็นของมนุษย์ในปัจจุบันและทวีความสาคัญข้ึน เมื่อโลกยิ่งพัฒนามากย่ิงขึ้น แหล่งพลังงานค่อยๆ เปล่ียนไปเป็นแหล่งพลังงานที่ต้องอาศัยเทคโนโลยีในการผลิตมากย่ิงข้ึน ประเทศไทย มีแหล่งพลังงานหลายประเภทด้วยกัน แต่อาจจะมีในปริมาณค่อนข้างน้อยเม่ือเทียบกับประเทศอื่น ๆ ประเทศไทยยังต้องมีการส่ังน้ามันเข้าเป็นจานวนมาก ดังน้ันวิกฤตการณ์ของโลกอาจจะทาให้ประเทศไทย ไดร้ บั อิทธพิ ลอยา่ งหลีกเลย่ี งไม่ได้ วิกฤติพลังงานของโลก และภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจเป็นประเด็นใหญ่ที่ท่ัวโลกให้ความสาคัญ ความยากลาบากในการขายสินค้าและการแข่งขันในตลาดทาให้ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมต้องปรับตัว ขนานใหญ่เพ่ือให้สามารถประคับประคองธุรกิจของตนให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด มาตรการหนึ่งที่ ผู้ประกอบการใหค้ วามสาคญั คอื การควบคมุ ต้นทุนผลติ ภณั ฑ์ หรอื สนิ คา้ และบริการของตน ซึ่งเป็นที่ทราบ กันดีว่าต้นทุนของสินค้านั้นข้ึนอยู่กับราคาวัตถุดิบเป็นหลัก แต่เม่ือราคาพลังงานไม่แน่นอน ทาให้องค์กร ต้องดูแลประสิทธิภาพการจัดการพลังงาน การดาเนินการที่ผ่านๆ มาโดยการเปลี่ยนเครื่องจักรให้เกิดผล ประหยัดพลังงานหรือมีประสิทธิภาพมากย่ิงข้ึน จึงเป็นการแก้ปัญหาท่ีปลายเหตุ ต้องมาแก้ไขท่ีต้นเหตุ คือ การบริหารพลังงานในองค์กรท้ังระบบ(บุคลากร ทรัพยากร ขั้นตอนการดาเนินการ การทบทวน การ ตดิ ตาม) โดยอาศัยการจัดการพลังงาน (Energy Management) ท่ีดี 6.3 ทาแล้วได้อะไร? 1. เพ่ิมประสทิ ธิภาพการบริหารพลงั งานขององค์กร 2. ให้องค์กรมีการดาเนินการ ด้านการจัดการพลังงานท่ีเป็นรูปธรรม นาไปปฏิบัติได้จริง ให้เกิด การปรับปรุงอย่างต่อเน่อื ง 3. ให้องค์กรปรับปรุงการใช้ทรัพยากรด้านพลังงานให้คุ้มค่าการลงทุน เพื่อลดค่าใช้จ่ายและเพิ่ม ประสทิ ธภิ าพการผลติ 4. สนับสนุนใหเ้ กดิ การใชเ้ ทคโนโลยีใหมๆ่ ดา้ นประสทิ ธภิ าพพลงั งาน 5. ส่งเสริมและสนับสนุนใหเ้ กดิ พฤตกิ รรมที่ดแี ละการมสี ่วนรว่ มของผู้ปฏิบัติงาน 6. เป็นการแสดงความรับผิดชอบตอ่ สงั คม เนื่องจากช่วยลดการใชพ้ ลังงานและมลพิษ 6-2 กลุม่ วิจยั EnConLab มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบรุ ี

6.4 จากการจดั การพลงั งานสู่…..มาตรฐานสากล ประเทศต่างๆ เหน็ ความสาคญั ของการจัดการพลังงาน และมีความพยายามที่จะกาหนดนิยามและ องคป์ ระกอบของการจัดการพลงั งานข้นึ เพื่อนามาใช้กากบั การอนุรักษพ์ ลงั งานเพ่อื ความยัง่ ยืน ปี พ.ศ. 2543 ประเทศสหรัฐอเมรกิ าได้ประกาศมาตรฐานการจดั การพลังงาน ANSI/ MSE2000:A manage system for energy และประเทศเดนมาร์กได้ ออก มาตรฐาน DS2403:2001 ซ่งึ ทั้งสองมาตรฐานคล้ายคลงึ กัน ปี พ.ศ. 2546-2550 ประเทศสวีเดน ไอร์แลนด์ และประเทศเนเธอรแ์ ลนด์ ต่างประกาศ มาตรฐานหรือขอ้ กาหนดการจัดการพลังงานของตนเองออกมา ขณะท่ี สหภาพยุโรปตัง้ คณะทางานศกึ ษา เพ่ือจัดทามาตรฐานการจดั ปี พ.ศ.2551 ประเทศไทย และเกาหลีได้ประกาศมาตรฐานการจดั การพลังงานของตน โดย ประเทศไทยประกาศเปน็ กฎหมายสาหรบั โรงงานและอาคารควบคุม และประเทศต่างๆ มคี วามพยายามท่ีจะจดั ทามาตรฐานสากลร่วมกัน โดย ISO ได้ต้ังคณะทางานชดุ ท่ี 242 ซง่ึ มี 35 ประเทศเข้าร่วม จัดทามาตรฐาน การจัดการพลังงาน ISO50001 โดยอ้างอิงโครงสร้างของ ISO 9000 และ 14000 เพอื่ ให้สามารถนามาใช้รว่ มกบั ระบบคณุ ภาพและส่งิ แวดล้อมเดิม ได้ และจะแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2554 ค่มู อื การอนุรักษพ์ ลังงาน 6-3 V.2022

6.5 มาตรฐาน ISO 50001 มขี ้อกาหนดอยา่ งไร? แม้ว่าปัจจุบัน มาตรฐาน ISO50001 ยังไม่แล้วเสร็จ แต่มาตรฐานด้านการจัดการพลังงานท่ี ประเทศต่างๆ จัดทาข้ึนไม่แตกต่างกันมากนัก ในที่นี้จึงจะกล่าวถึงมาตรฐานการจัดการพลังงานของสหภาพ ยโุ รปซ่งึ ปจั จุบนั ประกาศใช้แลว้ สาหรับหลักการพ้ืนฐานที่มาตรฐานของสหภาพยุโรปหรือ prEN 16001 นามาใช้คือหลักการ Plan-Do-Check-Act (PDCA) ซึ่งเป็นหลักการพ้ืนฐานของมาตรฐานสากลอื่นๆ เช่น ISO 9001 และ ISO 14001 โดยนามาประยกุ ต์ใช้ดงั นี้ กาหนดวตั ถุประสงค์ แผนงาน ลงมอื ปฏบิ ตั ิตามแผนและ และขัน้ ตอนการปฏบิ ัติที่จาเปน็ ขั้นตอนการปฏบิ ตั งิ าน เพอื่ ให้บรรลุและสอดคลอ้ งกบั นโยบายด้านพลงั งานขององค์กร ปรับปรงุ แก้ไขสมรรถนะของ เฝ้าตดิ ตามและวดั ผลการปฏิบัติ ระบบการจัดการพลงั งานให้ดี โดยนามาเปรยี บเทยี บกบั นโยบาย วตั ถุประสงค์ เป้าหมาย กฎหมาย ข้นึ อย่างตอ่ เนอ่ื ง ข้อกาหนด กฎเกณฑต์ า่ งๆ ทีเ่ ก่ยี ว ข้องกบั องคก์ ร และทาการรายงานผล 6-4 กลุม่ วจิ ยั EnConLab มหาวิทยาลัยเทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ ธนบรุ ี

Continual Energy Policy Improvement Planning Management review Implementation and Operation Internal Audit Checking and Monitor and Corrective action Measure Corrective and Pre- ventive Action รปู แบบของระบบการจัดการพลังงานตาม prEN16001 ในแต่ละข้นั ตอนมขี อ้ กาหนดหลกั ดงั นี้ 1. องคก์ รจะตอ้ งจัดทาระบบเอกสาร และควบคุมการปฏบิ ัตใิ ห้เป็นไปตามท่ีกาหนดไว้ 2. ผูบ้ รหิ ารต้องจดั ทานโยบายที่แสดงความมุ่งมั่นท่ีจะปรับปรุงการใช้พลังงาน และให้การสนับสนุนอย่าง ตอ่ เน่ือง 3. ต้องมีการศึกษาวิเคราะห์การใช้พลังงานท่ีผ่านมา ทั้งในส่วนของอุปกรณ์ใช้พลังงาน และบุคลากร การปฏิบัตติ ามกฎหมายละขอ้ กาหนดเพอ่ื วางแผนจัดทานโยบายและกิจกรรมอนุรักษพ์ ลังงาน 4. องค์กรจะต้องให้การสนับสนุน สื่อสารประชาสัมพันธ์ ตลอดจนฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรในด้าน พลังงาน วางแผนปฏิบัติงานใหเ้ ปน็ ไปตามนโยบายละเปา้ หมาย 5. องค์กรจะต้องมีการบันทึกการปฏิบัติงานเป็นเอกสาร และมีระบบการตรวจสอบ ติดตามว่าการ ปฏบิ ตั ิงานเปน็ ไปตามแผนหรือไม่ 6. ผู้บริหารสูงสุดจะต้องทบทวนการดาเนินทั้งหมดทุกรอบระยะเวลาที่กาหนดไว้ และนาผลมาปรับปรุง การดาเนินการในรอบถัดไป ค่มู ือการอนุรกั ษพ์ ลังงาน 6-5 V.2022

6.6 ประเทศไทยมีขอ้ กาหนดดา้ นการจัดการพลงั งานหรือไม่ และอยา่ งไร ? ประเทศไทย ได้ตราพระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานขึ้นในปี พ.ศ. 2535 โดย ควบคุมเฉพาะโรงงานและอาคารท่ีมีการใช้พลังงานสูงให้ดาเนินการตรวจสอบและวิเคราะห์การใช้พลังงาน เพ่ือกาหนดมาตรการในการปรับปรุงเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆ ให้มีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ มากยิ่งข้ึน ต่อมาปี พ.ศ.2550 ได้มีการแก้ไขเพ่ิมเติมกฎกระทรวง โดยนาวิธีการจัดการพลังงานเข้ามาเป็น หัวใจในการดาเนนิ กิจกรรมดา้ นพลงั งานให้เกิดการมสี ่วนร่วมของพนกั งานทุกคนในองคก์ ร ข้อกาหนดตามกฎกระทรวงกาหนดมาตรฐาน หลักเกณฑ์ และวิธีการจัดการพลังงานกาหนดให้ อาคารควบคุมและโรงงานควบคุมต้องเร่ิมให้มีวิธีการจัดการพลังงานเพื่อให้เกิดการใช้พลังงานอย่าง มีประสิทธิภาพสูงสุด วธิ กี ารจดั การพลงั งานนนั้ ตอ้ งมกี ารปฏบิ ตั อิ ยา่ งเปน็ ขน้ั ตอน รวมทง้ั มกี ารวาง แผนการดาเนินงานที่ดี และเหมาะสมกับองคก์ ร เพ่ือให้บรรลุเป้าหมาย ของการจัดการพลังงาน แบ่งเปน็ 8 ขนั้ ตอนดังนี้ ข้ันตอนการจัดการพลงั งานตามกฎหมาย 1. การจัดตั้งคณะทางานดา้ นการจัดการพลงั งาน องค์กรต้องจัดให้มีคณะทางานด้านการจัดการพลังงาน รวมทั้งกาหนดโครงสร้าง อานาจหน้าท่ี และความรับผดิ ชอบ โดยจดั ทาเอกสารเผยแพรใ่ ห้บุคลากรในโรงงานหรอื อาคารทราบ 2. การประเมินสถานภาพการจัดการพลงั งานเบอ้ื งต้น การนาวิธีการจัดการพลังงานมาใช้เป็นคร้ังแรก องค์กรจะต้องทาการประเมินสถานภาพการจัด การพลังงานเบอื้ งตน้ ทง้ั ด้านองค์กร บุคลากรและเทคนิค เพ่ือใช้เป็นแนวทางในการกาหนดนโยบายอนุรักษ์ พลังงาน เม่ือระบบการจัดการพลังงานดาเนินไปได้ครบถ้วนตามข้อกาหนดแล้ว ผลจากการทบทวนการจัด การพลงั งานจะนาไปใช้ในการทบทวนนโยบายและพิจารณาปรับปรุงระบบการจัดการต่อไป 6-6 กลุ่มวจิ ยั EnConLab มหาวิทยาลัยเทคโนโลยพี ระจอมเกล้าธนบรุ ี

3. การจัดทานโยบายอนุรกั ษ์พลงั งาน การกาหนดนโยบายเพ่ือให้พนักงานทุกระดับในองค์กรทราบถึงเจตจานง ความมุ่งม่ัน วิสัยทัศน์ ทิศทาง การสนับสนุนส่งเสริมของผู้บริหารระดับสูงในด้านการอนุรักษ์พลังงาน การพัฒนาฝึกอบรมให้ พนักงานมีความรู้ความสามารถด้านการอนุรักษ์พลังงาน โดยนโยบายต้องมีข้อกาหนดที่เหมาะสมต่อการ ดาเนินการจัดการพลังงาน อีกทั้งผู้บริหารระดับสูงต้องลงนามรับรองอย่างเป็นทางการและจัดให้มีการ เผยแพร่ประชาสมั พันธ์เพื่อให้บคุ ลากรขององค์กรทราบและปฏิบตั ิตามนโยบายอนรุ กั ษพ์ ลงั งานได้ 4. การประเมนิ ศักยภาพการอนุรักษพ์ ลังงาน เพ่ือค้นหาศักยภาพขององค์กรในการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานและนาไปใช้เป็น แนวทางในการกาหนดแผนอนรุ ักษพ์ ลังงาน โดยการประเมินการใชพ้ ลงั งานแบง่ เปน็ 3 ระดบั ไดแ้ ก่ 4.1 ระดับองค์กร เป็นการประเมนิ การใช้พลังงานของทั้งองค์กร 4.2 ระดบั ผลติ ภณั ฑห์ รอื บรกิ าร เปน็ การประเมนิ หาตน้ ทนุ พลงั งานในการผลติ สนิ คา้ หรอื บรกิ าร 4.3 ระดบั อปุ กรณ์ เปน็ การประเมนิ หาประสทิ ธภิ าพการใชพ้ ลงั งานและการสญู เสยี ในแตล่ ะอปุ กรณ์ 5. การกาหนดเป้าหมายและแผนอนรุ ักษ์พลังงาน แผนฝึกอบรมและกจิ กรรมส่งเสรมิ การอนุรักษ์พลงั งาน การวิเคราะห์การประเมินการใช้พลังงานตามขั้นตอนที่ 4 จะทาให้ทราบลักษณะการใช้พลังงาน ขององค์กรในด้านต่างๆ ทาให้ทราบจุดสูญเสีย จุดที่ควรดาเนินการปรับปรุง เพื่อนามากาหนดเป็น เปา้ หมายและแผนอนรุ ักษ์พลังงาน แผนฝกึ อบรม และแผนประชาสมั พันธ์ 6. การดาเนินการตามแผนอนุรักษ์พลังงาน และการตรวจสอบและวิเคราะห์การปฏิบัติตามเป้าหมายและ แผนอนุรักษ์พลังงาน และแผนฝกึ อบรม คณะทางานฯ ต้องติดตามและตรวจสอบการปฏิบัติตามเป้าหมายและแผนอนุรักษ์พลังงานและ แผนฝึกอบรม โดยนาผลตรวจสอบที่ได้มาวิเคราะห์ถึงปัญหาอุปสรรคและเปรียบเทียบผลดาเนินการ รวมถงึ ผลกระทบที่อาจเกิดได้จากการดาเนินการในทุกมาตรการและทุกแผนท่ีกาหนดไว้ตามข้อ 5 และควร ตรวจสอบอย่างนอ้ ย 3 เดือนต่อคร้งั 7. การตรวจตดิ ตามและประเมนิ การจดั การพลงั งาน องค์กรต้องจัดต้ังคณะตรวจสอบการจัดการพลังงานซ่ึงเป็นบุคคลท่ีมีความรู้ความสามารถใน การตรวจประเมินและมีความเป็นอิสระจากกิจกรรมท่ีทาการตรวจประเมิน ทาหน้าท่ีประเมินวิธีการจัด การพลังงานทุกขั้นตอนว่ามีความเหมาะสมครบถ้วนตามข้อกาหนดหรือไม่ ถ้าไม่ครบถ้วนจะต้องมีวิธีการ แกไ้ ขและปอ้ งกันอย่างไร และรายงานต่อผู้บรหิ ารระดบั สูง 8. การทบทวน วเิ คราะห์และแกไ้ ขขอ้ บกพรอ่ งของการจัดการพลงั งาน เพ่ือให้ทราบว่าระบบการจัดการพลังงานมีความเหมาะสม มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เพียงพอหรือไม่ ผู้บริหารระดับสูงต้องทบทวนระบบการจัดการพลังงานตามระยะเวลาท่ีกาหนดไว้ (อย่าง นอ้ ย 1 ครงั้ ตอ่ ปี) ค่มู ือการอนุรกั ษ์พลังงาน 6-7 V.2022

6.7 จะนาการจดั การพลังงานมาใชใ้ นองคก์ รอยา่ งไร ? การจัดการพลังงาน ถกู นาไปใชใ้ นหลายระดบั ตั้งแตแ่ บบหลวมๆ จะถึงระดบั เป็นมาตรฐานในการ ปฏิบตั ิงาน ท้ังนข้ี ึน้ อยูก่ บั วิธกี ารของแตล่ ะองค์กร อย่างไรก็ตาม ทกุ รูปแบบจะมีองค์ประกอบพ้ืนฐานที่ เหมอื นกัน คอื การกาหนดเป้าหมาย การวางแผน การนาไปปฏิบตั ิ การประเมินติดตามผล เพ่ือให้เกดิ การ พัฒนาอยา่ งต่อเน่อื ง ในหัวข้อนี้จะกล่าวถึงการพัฒนาระบบการจัดการพลังงานขนึ้ ในองคก์ รแบบกวา้ งๆ ซ่งึ จะเป็น จุดเร่มิ ต้นที่ดสี าหรับองค์กรทกุ ขนาด การจัดทาระบบการจดั การพลังงานใหเ้ ปน็ ไปตามมาตรฐาน หรอื ขอ้ กาหนดใดข้อกาหนดหน่ึง จะตอ้ งศึกษารายละเอยี ดของมาตรฐานหรอื ขอ้ กาหนดเหลา่ นั้นเพ่ิมเตมิ ระบบการจัดการพลังงาน 6 ขนั้ ตอน 1. การกาหนดโครงสรา้ งระบบการจดั การพลงั งาน 2. การวางแผน 3. การปฏบิ ตั ิ 4. การประเมนิ การตดิ ตามผล 5. การปรับปรงุ และแกไ้ ขขอ้ บกพร่อง 6. การทบทวนระบบการจดั การพลงั งานทดี่ าเนินการมา การกาหนดโครงสรา้ งระบบการจดั การพลงั งาน การกาหนดนโยบายและ เป้าหมายหลกั การจัดต้งั คณะทางาน การทบทวนการจดั การ การวางแผน การประเมนิ สถานะปจั จุบนั การปรบั ปรุงแกไ้ ขขอ้ บกพรอ่ ง การปฏิบตั งิ าน การจดั ทาแผนปฏบิ ัติ การประเมนิ และตดิ ตามผล การดาเนินมาตรการ การส่อื สารประชาสัมพนั ธ์ การจูงใจ การพฒั นาบคุ ลากร 6-8 กลมุ่ วิจัย EnConLab มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยพี ระจอมเกล้าธนบุรี

1. การกาหนดโครงการสรา้ งการจดั การพลังงาน หน่วยแรกสดุ ท่ีจะผลักดันให้เกดิ การจดั การพลังงานทีด่ ีข้นึ ในองค์กร ก็คือผู้บริหาร ผู้บริหารต้องมี ความเขา้ ใจ และตอ้ งอยากใหเ้ กดิ ขนึ้ ในองคก์ ร เนอ่ื งจากเปน็ สงิ่ ทจี่ ะทาใหก้ ารใชพ้ ลงั งานมปี ระสทิ ธภิ าพและยง่ั ยนื ข้ันตอนแรกสุดท่ีผู้บริหารต้องทาก็คือ กาหนดโครงการสร้างของงานอนุรักษ์พลังงาน เหมือนการ ต้ังเสา คาน ตอม่อของบ้าน ได้แก่ การกาหนดตัวคณะทางาน กาหนดนโยบายและเป้าหมายหลัก และจัด ทรพั ยากรให้ เพ่อื ใหก้ ิจกรรมอนรุ ักษ์พลังงานเดินไดเ้ องไปยงั ทิศทางที่ต้องการ 1.1 กาหนดนโยบายและเป้าหมายหลกั ผู้บริหารองค์กร ต้องแสดงเจตจานงที่จะทาให้องค์กรใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และ สนับสนุนกิจกรรมน้ี ผ่านการประกาศนโยบายที่ชัดเจน และส่ือสารให้ทุกคนในองค์รับทราบ พร้อมท้ัง ดาเนินการตามนั้นอยา่ งจริงจัง ส่ิงทค่ี วบคกู่ บั นโยบายก็คือ เป้าหมายหลัก ผู้บริหารสูงสุดจะต้องวาดภาพผลสาเร็จที่ต้องการให้บัง เกิดขนึ้ ดว้ ย เพื่อใหค้ ณะทางานเห็นเป้าหมาย และระดบั ของทรพั ยากรทตี่ อ้ งใช้ การผลักดันกิจกรรมอนุรักษ์ พลงั งาน แต่ไม่ระบเุ ป้าหมายหลักให้ เหมอื นเดินเรอื โดยขาดเขม็ ทิศยากจะบรรลผุ ล หรือมีประสทิ ธภิ าพ เป้าหมายหลักหมายถึง ส่ิงท่ีต้องการให้เกิดข้ึนในภาพรวม เช่น การใช้พลังงานลดลงเท่าใด คณะทางานจะตอ้ งจดั ทาเป้าหมายรอง และแผนงานแตล่ ะดา้ นใหบ้ รรลเุ ปา้ หมาย คู่มอื การอนุรกั ษพ์ ลงั งาน 6-9 V.2022

1.2 การแตง่ ตง้ั คณะทางาน ผู้บริหารสูงสุด จะต้องแต่งตั้งคณะทางานอนุรักษ์พลังงานอย่างเป็นกิจจะลักษณะ โดยมีผู้บริหาร สูงสุดเป็นประธาน และมีผู้บริหารระดับรองท่ีมีความกระตือรือร้น และประสานงานกับทุกหน่วยได้เป็น ผู้จัดการพลังงาน และมีคณะกรรมการจากทุกหน่วยงาน คณะทางานจะต้องมีวาระประชุมท่ีแน่นอน อย่าง น้อยทุกเดอื น เพอ่ื ตดิ ตามความคบื หนา้ ของแผนงานด้านต่างๆ สาหรบั องค์กรขนาดใหญ่ทีม่ พี นกั งานจานวนมาก ควรจัดตง้ั กลมุ่ อนุรักษ์พลังงานย่อยในทุกพ้ืนที่ จะ ทาให้มีประสิทธิภาพและพบว่า การต้ังกลุ่มโดยสมัครใจมักจะได้ผลดีกว่า ในรูปแบบน้ีบทบาทหน้าที่ของ คณะทางานจะเป็นพี่เล้ียง ประสานงานกับกลุ่มย่อย ผลัดกันให้เกิดกลุ่มย่อยมากข้ันท้ังองค์กร ติดตามและ ประเมนิ ผลแผนงานของกลมุ่ ย่อย รณรงค์ เผยแพร่ขา่ วสาร 2. การวางแผน รปู แบบของกจิ กรรม อนุรกั ษพ์ ลงั งานท่ีดีทสี่ ดุ สาหรับแตล่ ะองค์กรไม่ใช่สูตรสาเรจ็ เนอื่ งจากแต่ละ องค์กรมคี วามแตกตา่ งกนั ดังน้นั จึงต้องวางแผนรูปแบบของกจิ กรรม อนุรกั ษพ์ ลังงานทีด่ ีทส่ี ุดสาหรบั แต่ ละองคก์ รไม่ใชส่ ูตรสาเร็จ เน่ืองจากแตล่ ะองค์กรมคี วามแตกตา่ งกัน ดังนน้ั จึงตอ้ งวางแผน 2.1 การประเมนิ สถานะปจั จบุ ัน การประเมินสถานะ ปัจจบุ ันขององค์กรในด้านการอนรุ ักษพ์ ลังงานก่อนดาเนินงาน จะทาให้กาหนด รูปแบบกจิ กรรมไดถ้ กู ตอ้ ง และตรงเปา้ การประเมินสถานะปัจจุบนั ประกอบด้วย  การประเมินดา้ นประสทิ ธภิ าพพลงั งาน ประสทิ ธิภาพพลังงานขององคก์ ร ประกอบด้วย 3 ปจั จัย ไดแ้ ก่ คน อปุ กรณ์ และระบบคณะทางานตอ้ ง ประเมนิ ว่าองค์กรของตน แตล่ ะปจั จยั มีน้าหนักเท่าใดตอ่ การใช้พลังงาน ในปัจจัยด้านนั้นๆ กลุม่ เป้าหมายหลกั คืออะไร ด้านใดท่ีไม่แขง็ แรงกต็ ้องรับประทานยาเสรมิ คอื มกี ิจกรรมด้านนั้นเพ่มิ ข้นึ ซึ่งจะทาให้กาหนดแผนการอนรุ ักษ์พลงั งานได้มปี ระสิทธิภาพและแก้ไขจุดอ่อนของหนว่ ยงานไดต้ รงจดุ 6-10 กลมุ่ วิจัย EnConLab มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

 การประเมินดา้ นการใชพ้ ลงั งาน คณะทางานต้องรวบรวมการใช้พลังงานท่ีผา่ นมา พรอ้ มกับผลผลิต หรอื ตัวแปรทส่ี ัมพนั ธก์ ับการใช้ พลงั งานขององค์กร เพื่อหาฐานการใช้พลงั งานเดมิ และตัวช้วี ัดกอ่ นดาเนินกจิ กรรม พรอ้ มท้ังประเมิน สัดส่วนการใชพ้ ลงั งานของแตล่ ะหนว่ ยงานย่อยทีม่ ีนัยสาคญั เพ่ือใหท้ ราบว่าส่วนใดในองค์กรเป็นผใู้ ช้ พลังงานหลกั ตามลาดับ  การประเมินศกั ยภาพในการประหยดั พลงั งาน ศกั ยภาพในการประหยัดพลงั งานประกอบดว้ ย ศกั ยภาพในส่วนคน ไดแ้ ก่ การใชแ้ ละบารงุ รกั ษาทดี่ ี ต้องประเมินหรือคน้ หาโดยกล่มุ ย่อยในพื้นท่ี และศกั ยภาพในส่วนของอุปกรณ์ ได้แก่ ปรบั ปรุงเพ่ิม ประสิทธิภาพ ตอ้ งประเมนิ การตรวจวัดการใช้พลังงาน (Energy Audit) หรอื การปรบั ปรงุ กระบวนการ ผลติ (Process Audit) ซงึ่ อาจใชท้ ีมวิศวกรของหนว่ ยงานรว่ มกับผเู้ ช่ยี วชาญเฉพาะทาง ค่มู ือการอนุรักษพ์ ลังงาน 6-11 V.2022

6-12 องคป์ ระกอบ ผลตอ่ การใช้ สถานะปจั จบุ นั การแกไ้ ข กลมุ่ เปา้ หมายในการดาเนนิ กจิ กรรม2 พลงั งาน (%)1 กจิ กรรมสอื่ สาร แผนก ................. ...ผลตอ่ การใช้พลงั งาน...... % กลุ่มวจิ ัย EnConLab 1) พนกั งานตระหนักและใหค้ วามรว่ มมือสงู ประชาสมั พันธ์ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี แผนก ................. ...ผลตอ่ การใชพ้ ลงั งาน...... % คน 2) พนักงานมีความตระหนักปานกลาง กจิ กรรมจูงใจ แผนก ................. ...ผลต่อการใช้พลังงาน...... % อปุ กรณ์ 3) พนกั งานมีความตระหนกั นอ้ ย แผนก ................. ...ผลต่อการใช้พลังงาน...... % 4) ควรปรับปรุง การฝกึ อบรม จดั ตงั้ กล่มุ ยอ่ ย 1)....................... % การใช้พลังงาน....................... 1) เคร่อื งจกั รอปุ กรณป์ ระสิทธภิ าพดี SGA 2)....................... % การใช้พลงั งาน....................... 2) เครื่องจกั รอปุ กรณ์ประสทิ ธภิ าพพอใช้ Energy Patrol 3)........................% การใช้พลงั งาน....................... 3) เครอ่ื งจกั รอปุ กรณป์ ระสิทธิภาพไมด่ ีนกั Energy Audit 4)....................... % การใชพ้ ลังงาน....................... 1) ขาดการตงั้ เป้าหมาย Process Audit 2) ขาดระบบการตดิ ตามประเมนิ ผล 3) ขาดการส่อื สารกับพนักงาน 4) เครอ่ื งจกั รอปุ กรณป์ ระสทิ ธภิ าพตา่ ความสญู เสยี มาก 4) ขาดการปรบั ปรงุ แก้ไข 1) มีระบบแล้ว จดั ทาระบบการ ระบบ 2) มรี ะบบแตย่ ังไมส่ มบรู ณ์ จดั การในองค์กร 3) ไมม่ รี ะบบ หมายเหตุ 1 ประเมนิ ว่า คน และ อุปกรณ์ มผี ลตอ่ การใชพ้ ลังงานในสัดสว่ นเท่าใด เชน่ โรงงานเคมีทางานอตั โนมัติ การใช้พลงั งานขนึ้ กบั เครอื่ งจักร อุปกรณ์เป็น สาคญั คนมผี ลน้อย คน: อปุ กรณ์ อาจประเมนิ ที่ 80:20 เปน็ ตน้ 2 ในรายการนีจ้ ะระบุสดั สว่ นท่มี ผี ลตอ่ การใชพ้ ลงั งาน ของหนว่ ยยอ่ ย เช่น ในหัวข้อ “คน” ในห้างสรรพสนิ คา้ พนกั งานในแผนกขาย มผี ลต่อพลังงาน น้อยเนื่องจากไมไ่ ดเ้ ปน็ ผู้ปิดเปิดอุปกรณ์ ขณะท่ชี ่างคมุ ระบบปรับอากาศอาจมผี ลมาก เปน็ ต้น จะทาใหเ้ ห็นกลุ่มเป้าหมายทคี่ วรให้ความสาคญั

2.2 การจดั ทาแผนปฏิบัติ (Action Plan) แผนปฏิบตั ิ ดา้ นอนุรักษพ์ ลงั งานจดั ทาขึ้นเพ่อื ให้บรรลุตามเปา้ หมายหลกั ของผบู้ ริหารสูงสุด และให้ น้าหนกั กบั กิจกรรมดา้ นต่างๆ ตามผลประเมินประสิทธิภาพพลังงานของหน่วยงาน แผนปฏิบัติด้านอนุรักษ์ พลงั งานจะประกอบด้านแผนดา้ นตา่ งๆ ดังน้ี 1. แผนงานมาตรการดา้ นพฤตกิ รรมการใช้และบารุงรักษาของแตล่ ะพืน้ ที่ 2. แผนงานมาตรการปรบั ปรุงเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพ โดยส่วนงานด้านเทคนิค 3. แผนงานสื่อสารประชาสมั พันธ์ และจูงใจ 4. แผนงานพฒั นาบคุ ลากรในแต่ละส่วนงานตามผลท่มี ีตอ่ การใช้พลงั งาน 5. แผนงานติดตัง้ เครื่องวัด สาหรับตดิ ตามประเมนิ ผล (เม่ือเร่ิมต้นกิจกรรม) 3. การปฏบิ ัติ การนาแผนงาน ทกุ ด้านไปปฏิบตั ิ ซ่งึ จะต้องมกี ารสื่อสารกับผเู้ กย่ี วขอ้ งอย่างดี และดาเนินการไป พรอ้ มๆ กัน ทั้งดา้ นมาตรการอนุรักษพ์ ลงั งานและมาตรการรณรงคป์ ระชาสมั พนั ธ์ คมู่ ือการอนุรกั ษพ์ ลงั งาน 6-13 V.2022

4. การประเมนิ และตดิ ตามผล หากองค์กร มีกิจกรรมอนุรักษพ์ ลงั งานแตไ่ ม่มีวธิ วี ัดผล ก็ยอ่ มให้ประสบผลสาเรจ็ อย่างแน่นอน การประเมนิ และติดตามผล คอื หัวใจของความยงั่ ยืน การประเมนิ ประกอบด้วย 4.1 การประเมินผลในภาพรวม ได้แกก่ ารใช้พลังงานขององคก์ ร หรือของแตล่ ะผลผลติ เทยี บกับการใชพ้ ลังงาน ซึง่ พิจารณากบั ข้อมูลการใชพ้ ลังงานละการผลิต 4.2 การประเมนิ ผลพฤตกิ รรมการใชง้ าน อาจดูจากมิเตอรย์ ่อยของหน่วยงาน หรือสารวจพ้ืนที่ (Internal Audit) โดยทีมงานประเมนิ ตาม วิธกี ารและความถี่ทก่ี าหนดข้นึ 4.3 การประเมนิ และตดิ ตามผล กิจกรรมที่ดาเนนิ การไดแ้ ก่ มาตรการปรับปรงุ การรณรงค์ประชาสัมพันธ์ การฝกึ อบรม ใชว้ ธิ ี ประชุมตดิ ตามความก้าวหน้าของกจิ กรรมตามแผนงาน แสดงผกราลฟแกท่งาผรลคปะแรนนะเฉเมล่ียรนิ วมแทุยกแผกนกตปาระมจาแเดือผนนมกกราคม 2551 Average all score 3.455 100% Inspection 3.000 Office Admin 2.000 Production Engineering 3.750 Cleaning 3.000 CNC : D 4.000 CNC : F 3.400 QA 4.000 CNC : B2 4.000 CNC : B1 3.600 CNC : A 3.400 Maintenance 3.857 ระดับคะแนน 0.0 0.5 1.0 1.5 2.0 2.5 3.0 3.5 4.0 Maintenance CNC : A CNC : B1 CNC : B2 Cleaning 6-14 QA กลมุ่ วจิ ัย EnConLCNaCb: F CNC : D Average all score Producมtioหn Eาnวgiทิ neยeriาnลg ัยเทคโOนffโicลeยAdีพmiรnะจอมเกลา้ ธน1บ00รุ%ี Inspection

5. การปรับปรงุ แกไ้ ข คณะทางานจะต้องมีการประชุมอย่างนอ้ ยเดอื นละครง้ั โดยมวี าระของการตดิ ตามการประเมนิ ผลใน ข้อ 4 ทกุ หัวข้อ 5.1 กรณไี มเ่ ป็นไปตามแผนงาน หากพบว่ามาตรการทดี่ าเนินการไม่เป็นไปตามแผนงาน ต้องหาแกไ้ ขปัญหา 5.2 กรณปี ระสบผลสาเรจ็ หากมาตรการใดประสบผลสาเร็จ องคก์ รต้องแสดงความชน่ื ชมต่อผลสาเร็จนั้นอย่างชัดเจน เพอื่ ใหพ้ นกั งานเกดิ ความภาคภมู ิใจ และดาเนนิ กิจกรรมไปอยา่ งต่อเน่ือง 6. การทบทวนการจดั การ เมอ่ื ดาเนนิ กจิ กรรม มารอบระยะเวลาหน่ึง โดยท่ัวไปมักใช้ 1 ปี จะต้องมกี ารแต่งตง้ั ทีมเขา้ มา ทบทวนขนั้ ตอนทง้ั 5 ท่ีผ่านมา ว่าบรรลุผลสาเรจ็ หรอื ไม่ และควรแกไ้ ขอย่างไร ทมี งานนไี้ มค่ วรเป็น ผรู้ บั ผิดชอบในกิจกรรมที่ประเมินนั้น จากน้นั จดั ทาสรุปและนาเสนอให้ผู้บรหิ ารสงู สุดนาไปปรบั ปรุงในรอบ ต่อไป เพ่ือการพัฒนาอย่างต่อเนอ่ื ง แผนงานพฒั นาการจดั การพลงั งาน การจัดทาระบบการจัดการพลังงานอาจแบ่งเป็น 3 ช่วง ด้วยกัน ดังนี้ ชว่ งท่ี 1 จัดทาระบบ ระยะเวลา 1-2 เดือน ชว่ งที่ 2 นาร่องและปรบั ปรุง ระยะเวลา 4-5 เดือน ช่วงท่ี 3 รกั ษาระบบและปรบั ปรุง อย่างต่อเนอ่ื ง ค่มู อื การอนรุ กั ษ์พลังงาน 6-15 V.2022

แผนการจดั ทาระบบการจดั การพลงั งานในองคก์ ร แผนงาน ชว่ งที่ 1 ชว่ งท่ี 2 ชว่ งที่ 3 (เดอื นท)่ี 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 1. ชว่ งการจดั ทาระบบ 1.1 การประกาศนโยบาย - ผ้บู รหิ ารจดั ทานโยบายและเผยแพร่ 1.2 การแต่งตงั้ คณะทางาน - ผู้บริหารแต่งตั้งคณะทางานและกาหนด ภารกิจ - จดั ตัง้ คณะทางานกลุม่ ย่อยในพน้ื ท่ี 2. ชว่ งนารอ่ งและปรบั ปรงุ 2.1 การประเมนิ สถานะองค์กร - ด้านกิจกรรมอนรุ ักษพ์ ลังงาน - ดา้ นการใชพ้ ลังงาน - ดา้ นศกั ยภาพในการปรบั ปรงุ 2.2 การวางแผนปฏบิ ตั ิ 2.3 การปฏิบัติ - การดาเนินตามมาตรการ - การสอ่ื สารกับพนักงาน - การสร้างจิตสานกึ และแรงจูงใจ - การพฒั นาบคุ ลากร 2.4 การประเมินตดิ ตามผล - การกาหนดวธิ กี าร ความถใี่ นการ ประเมนิ ผล - การชแ้ี จงคณะทางาน - การประเมิน - การสรุปผลและแจง้ ผู้ท่เี ก่ียวข้อง 2.5 การปรบั ปรงุ แกไ้ ขและชน่ื ชมผลสาเรจ็ ทเ่ี กดิ ขน้ึ - การนาผลประเมินมาแกไ้ ข - การประชาสัมพนั ธผ์ ลสาเรจ็ 6-16 กลมุ่ วจิ ัย EnConLab มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบรุ ี

แผนงาน ชว่ งที่ 1 ชว่ งท่ี 2 ชว่ งที่ 3 (เดอื นท)ี่ 3. ช่วงรกั ษาระบบ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 3.1 การทบทวน - การประเมนิ ผลระบบการจดั การพลังงานที่ ผ่านมา - การทบทวนผลการประเมินโดยผู้บรหิ าร - การสรปุ แนวทางการปรับปรุงและกาหนด เป้าหมายสาหรบั ชว่ งเดือนตอ่ ไป เอกสารอา้ งองิ 1. Michael L Brown and Ginny Key, A management system standard for energy 2. British Standards, prEN 16001:2008€ 3. Bill Meffert and Aimee McKane, Development of Energy Management Standard: ISO 5001 4. กระทรวงพลังงาน, กฎกระทรวงกาหนด มาตรฐาน หลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการจัดการพลงั งาน ประกาศเมื่อวนั ท่ี 23 กรกฎาคม 2552 คู่มอื การอนรุ ักษพ์ ลงั งาน 6-17 V.2022

ตวั อย่างการนาระบบการจดั การพลงั งานมาใช้ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ ธนบรุ ี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เป็นหน่วยงานหนึ่งที่นาระบบการจัดการพลังงานมาใช้ โดยเลง็ เห็นวา่ จะทาใหก้ ารใช้พลังงานมปี ระสิทธิภาพและเกิดความยง่ั ยืน 6-18 กลุ่มวิจยั EnConLab นโยบาย มหาวิทยาลยั เทคโนโลยพี ระจอมเกล้าธนบรุ ี มหาวิทยาลัยฯ โดยท่านอธิการบดีได้ประกาศนโยบาย ด้านพลังงานเม่ือวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2552 ในการให้การ ส่งเสริมกิจกรรมอนุรักษ์พลังงาน พลังงานทดแทน และ ประกาศให้ทุกหน่วยงานรับทราบ พร้อมทั้งลงในเว็บไซด์ ของมหาวิทยาลยั คณะทางาน มหาวิทยาลัยได้แต่งต้ังคณะกรรมการนโยบายและ แผนอนรุ ักษ์พลังงานมีวาระ 2 ปี วางแผนและควบคุมดูแล การใช้พลังงานในระดับมหาวิทยาลัย และคณะกรรมการ อนรุ กั ษพ์ ลงั งานในระดับคณะ แผนงาน มหาวิทยาลัยได้จัดระดมความคิดและจัดทาแผนงาน สาหรับปีต่อไป ท้ังในด้านมาตรการประหยัดพลังงาน และ การรณรงคส์ รา้ งจิตสานึก การดาเนนิ การ มหาวิทยาลัยได้ดาเนินการปรับปรุงการใช้พลังงาน และทากิจกรรมรณรงค์เพ่ือการประหยัดพลังงานอย่าง ต่อเนื่อง ท้ังกับบุคลากร และนักศึกษา เช่นการรณรงค์ ประหยัดไฟฟ้า การรณรงค์การใช้จักรยาน การจัด นทิ รรศการ การวดั ผล มหาวิทยาลัยได้ติดต้ังระบบบันทึกข้อมูล เพื่อติดตาม การใช้พลังงานของแต่ละอาคาร และจัดทาตัวชี้วัดเพ่ือ เปรียบเทียบกบั ช่วงที่ผ่านมา

“พลังงานเปน็ พื้นฐานสาคัญของทกุ ชวี ิต การอนรุ ักษ์พลังงานจึงเป็นเรือ่ งที่ “ทกุ คน” ควรจะทา ถึงแมจ้ ะดูเปน็ เรอื่ งเล็กนอ้ ย... แตเ่ ม่อื มหี นึง่ คนทา ... คมู่ ือการอนรุ กั ษ์พลังงาน ขยายไปเป็นระดับองคก์ ร... ”V.2022 ยอ่ มสง่ ผลกระทบเชงิ บวกต่อประเทศอยา่ งแน่นอน. 6-19


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook