แหล่งข้อมูลบุรีรัมย์ ท่องเท่ยี วและสถานที่ต่างๆ
สารบัญ หน้า 1 ช่ือเรื่อง 6 ประวตั ศิ าสตร์ 7 ทตี่ ัง้ และอนาเขต 8 ภูมิประเทศ 9 ภูมอิ ากาศ 9 ความหลากหลายทางชีวภาพ 10 ความสัมพนั ธ์ระหว่างประเทศ 10 เศรษฐกจิ 13 การขนส่ง ในเมอื ง รถไฟ และทางอากาศ 15 การท่องเท่ยี ว 19 ศูนย์กฬี าของบุรีรัมย์ ยไู นเตด็ 28 อาเภอคเู มือง 29 ประชากรศาสตร์ 33 วฒั นธรรม กลุ่มชาตพิ นั ธ์
ประวตั ศิ าสตร์ บุรีรัมยเ์ ป็นเมืองแห่งความร่ืนรมยต์ ามความหมายของชื่อเมืองท่ีน่าอยสู่ าหรับคนใน ทอ้ งถิ่นและเป็นเมืองท่ีน่ามาเยอื นสาหรับคนตา่ งถิ่น เมืองปราสาทหินในเขตจงั หวดั บุรีรัมยม์ ากมีไปดว้ ย ปราสาทหินใหญน่ อ้ ย อนั หมายถึงความรุ่งเรืองมาแต่อดีต จาก การศึกษาของนกั โบราณคดีพบหลกั ฐานการอยอู่ าศยั ของมนุษยม์ าต้งั แต่สมยั ก่อน ประวตั ิศาสตร์ สมยั ทราวดีและท่ีสาคญั ท่ีสุดพบกระจายอยทู่ ว่ั ไปในจงั หวดั บุรีรัมยม์ าก คือ หลกั ฐานทางวฒั นธรรมของเขมรโบราณ ซ่ึงมีท้งั ปราสาทอิฐ และปราสาทหินเป็น จานวนมากกวา่ 60 แห่ง รวมท้งั ไดพ้ บแหล่งโบราณคดีที่สาคญั คือเตาเผา ภาชนะดิน เผา และภาชนะดินเผาแบบท่ีเรียกวา่ เครื่องถว้ ยเขมร ซ่ึงกาหนดอายไุ ดป้ ระมาณพทุ ธ ศตวรรษท่ี 15-18 อยทู่ ว่ั ไปและพระพุทธรูปมหาปรัชญาปารมิตตา หลงั จากสมยั ของ วฒั นธรรมขอมหรือเขมรโบราณ แลว้ หลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ของจงั หวดั บุรีรัมย์ เริ่มมีข้ึนอีกคร้ังตอนปลายสมยั กรุงศรีอยธุ ยา โดยปรากฏชื่อวา่ เป็นเมืองเก่าและปรากฏ ช่ือต่อมาในสมยั กรุงธนบุรีถึงสมยั กรุงรัตนโกสินทร์วา่ บุรีรัมยม์ ีฐานะเป็นเมือง ๆ หน่ึง และรู้จกั ในนามเมืองแปะจนถึง พ.ศ. 2476 ไดม้ ีการจดั ระเบียบราชการบริหารส่วน ภมู ิภาคใหม่ จึงไดช้ ่ือเป็นจงั หวดั บุรีรัมยม์ าจนถึงปัจจุบนั น้ีช่ือเมืองบุรีรัมย์ ไม่ปรากฏ ในเอกสารประวตั ิศาสตร์สมยั อยธุ ยาและธนบรุ ีเฉพาะช่ือเมืองอ่ืน ซ่ึงปัจจุบนั เป็น อาเภอในจงั หวดั บุรีรัมย์ ไดแ้ ก่ เมืองนางรอง เมืองพุทไธสง และเมืองประโคนชยั พ.ศ. 2319 รัชสมยั สมเดจ็ พระเจา้ ตากสินมหาราช กรุงธนบุรี กรมการเมืองนครราชสีมา มีใบบอก เขา้ มาวา่ พระยานางรองคบคิดเป็น กบฏร่วมกบั เจา้ โอ เจา้ อิน และอุปฮาดเมืองจาปา ศกั ด์ิ จึงโปรดใหพ้ ระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟ้ าจุฬาโลกมหาราช เมื่อยงั ดารง
คาแหน่ง เจา้ พระยาจกั รีเป็นแม่ทพั ไปปราบจบั ตวั พระยานางรองประหารชีวติ และ สมทบเจา้ พระยาสุรสีห์ (สมเดจ็ พระบวรราชเจา้ มหาสุรสิงหนาท) คุมกองทพั หวั เมือง ฝ่ ายเหนือยกไปตีเมือง จาปาศกั ด์ิ เมืองโขง และเมืองอตั ตะปื อ ไดท้ ้งั 3 เมือง ประหาร ชีวิต เจา้ โอ เจา้ อิน อุปฮาด เมืองจาปาศกั ด์ิ แลว้ เกล้ียกล่อมเมืองต่าง ๆ ใกลเ้ คียงให้ สวามิภกั ด์ิ ไดแ้ ก่ เขมรป่ าดง ตะลุง สุรินทร์ สงั ขะ และเมืองขขุ นั ธ์ รวบรวมผคู้ นต้งั เมืองข้ึนในเขตขอม เรียกวา่ เมืองแปะ แตง่ ต้งั บุรีรัมย์ และใหบ้ ุตรเจา้ เมืองผไทสมนั ต์ แห่งพทุ ธไธสงเป็นเจา้ เมืองคนแรก ต่อมาประมาณ พ.ศ. 2440-2441 เมืองบุรีรัมยไ์ ดก้ ลบั ไปข้ึนกบั มณฑลนครราชสีมา เรียกวา่ \"บริเวณนางรอง\" ประกอบดว้ ย เมืองบุรีรัมย์ นางรอง รัตนบุรี ประโคนชยั และ พุทไธสง พ.ศ. 2442 มีประกาศเปลี่ยนชื่อ ในคราวน้ีเปล่ียนชื่อ บริเวณนางรองเป็น \"เมืองนางรอง\"มีฐานะเป็นเมืองจตั วา ต้งั ท่ีวา่ การอยทู่ ่ีเมืองบุรีรัมย์ แตต่ ราตาแหน่งเป็น ตราผวู้ า่ การนางรอง กระทรวงมหาดไทยจึงไดป้ ระกาศเปล่ียนชื่อเมืองเป็น \"บุรีรัมย\"์ และเปลี่ยนตราตาแหน่งเป็นผวู้ า่ ราชการเมืองบุรีรัมย์ ต้งั แต่วนั ท่ี 3 สิงหาคม พ.ศ. 2444 เป็นตน้ มา พ.ศ. 2450 กระทรวงมหาดไทยปรับปรุงหวั เมืองในภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ ให้ มณฑลนครราชสีมาประกอบดว้ ย 3 เมือง 17 อาเภอ คือเมืองนครราชสีมา 10 อาเภอ, เมืองชยั ภูมิ 3 อาเภอ และเมืองบุรีรัมย์ 4 อาเภอ ซ่ึงไดแ้ ก่ นางรอง, พุทไธสง, ประโคน ชยั (ตะลุง) และรัตนบุรี (ปัจจุบนั ข้ึนกบั จงั หวดั สุรินทร์)
ต่อมาไดม้ ีการตราพระราชบญั ญตั ิระเบียบบริหารแห่งราชอาณาจกั รสยาม พ.ศ. 2476 ข้ึน ยบุ มณฑลนครราชสีมา จดั ระเบียบบริหารราชการส่วนภมู ิภาคออกเป็นจงั หวดั และ อาเภอ เมืองบุรีรัมยจ์ ึงมีฐานะเป็น จงั หวดั บุรีรัมย์ ต้งั แตน่ ้นั เป็นตน้ มา ท่ีตั้งและอาณาเขต จงั หวดั บุรีรัมย์ ต้งั อยใู่ นภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือตอนล่างของประเทศไทย ระหวา่ ง เสน้ รุ้งที่ 14 องศา 15 ลิปดาเหนือกบั 15 องศา 45 ลิปดาเหนือ เสน้ แวงท่ี 102 องศา 30 ลิปดากบั 103 องศา 45 ลิปดาตะวนั ออก ห่างจากกรุงเทพมหานครโดยทางรถยนต์ ประมาณ 412 กิโลเมตร ทางรถไฟประมาณ 376 กิโลเมตร มีอาณาเขตติดต่อกบั จงั หวดั และประเทศใกลเ้ คียงดงั น้ี ทิศเหนือ ติดต่อกบั จงั หวดั ขอนแก่น จงั หวดั มหาสารคาม และจงั หวดั สุรินทร์ ทิศตะวนั ออก ติดต่อกบั จงั หวดั สุรินทร์ ทิศใต้ ติดตอ่ กบั จงั หวดั สระแกว้ และประเทศกมั พชู า ทิศตะวนั ตก ติดตอ่ กบั จงั หวดั นครราชสีมา จงั หวดั บุรีรัมย์ มีเน้ือท่ีรวม 10,322,885 ตารางกิโลเมตร หรือ 6,451,178,125 ไร่ คิด เป็นร้อยละ 6.11 ของพ้ืนที่ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ และร้อยละ 2.01 ของพ้ืนที่ ประเทศ
ภูมปิ ระเทศ สภาพพ้ืนที่โดยทวั่ ไปเป็นที่ราบสูง พ้ืนท่ีลาดจากทิศใตล้ งไปทิศเหนือ พ้นื ท่ีมีลกั ษณะ เป็นลกู คล่ืนนอ้ ยเป็นท่ีราบข้นั บนั ไดช่องเขาเกิดจากภูเขาไฟระเบิดเมื่อประมาณเกา้ แสนถึงหน่ึงลา้ นปี เศษ ทาใหจ้ งั หวดั บุรีรัมยม์ ีลกั ษณะภมู ิประเทศท่ีสาคญั ไดแ้ ก่ พ้ืนท่ี สูงและภูเขาทางตอนใต,้ พ้ืนที่ลกู คล่ืนลอนต้ืนตอนกลางของจงั หวดั และพ้ืนท่ีราบลุ่ม ตอนเหนือริมฝ่ังแม่น้ามลู แหล่งน้าที่สาคญั ในจงั หวดั บุรีรัมย์ มดี งั ต่อไปน้ี ท่ี แหล่งน้า อาเภอ ความจุ (ลา้ นลูกบาศกเ์ มตร) 1 เขื่อนลานางรอง โนนดินแดง 121 2 อ่างเกบ็ น้าลาจงั หนั ละหานทราย 36 3 อ่างเกบ็ น้าหว้ ยตลาด เมืองบุรีรัมย์ 27.8 4 อ่างเกบ็ น้าหว้ ยจระเขม้ าก เมืองบุรีรัมย์ 27.2 5 อ่างเกบ็ น้าลาปะเทีย ละหานทราย 25.4 6 อ่างเกบ็ น้าหว้ ยยาง หนองกี่ 13.8 7 อ่างเกบ็ น้าหว้ ยสวาย กระสงั 13.5 8 อ่างเกบ็ น้าหว้ ยเมฆา บา้ นกรวด 4.6 9 อ่างเกบ็ น้าหว้ ยทะลอก นางรอง 3.5
10 ฝายกดุ ชุมแสง สตึก 3.0 2.6 11 อ่างเกบ็ น้าคลองมะนาว โนนดินแดง 2.2 1.7 12 อ่างเกบ็ น้าหนองตาหมู่ นางรอง 1.5 1.3 13 ฝายบา้ นยางนอ้ ย พทุ ไธสง 1.2 1.2 14 อ่างเกบ็ น้าหว้ ยข้ีหนู ลาปลายมาศ 15 อ่างเกบ็ น้าหว้ ยใหญ่ ลาปลายมาศ 16 อ่างเกบ็ น้าหว้ ยนอ้ ย ลาปลายมาศ 17 ฝายบา้ นไพศาล ประโคนชยั ภูมิอากาศ ภมู ิอากาศในจงั หวดั บุรีรัมย์ มีอยู่ 3 ฤดู คือ ฤดูร้อน ปลายเดือนกมุ ภาพนั ธ์ - พฤษภาคม มีอุณหภมู ิสูงสุด 36 องศาเซลเซียส ใน เดือนเมษายน ฤดูฝน เดือนมิถนุ ายน - กนั ยายน เน่ืองจากมีเทือกเขาพนมดงรักขวางก้นั ลมมรสุม ตะวนั ตกเฉียงใต้ จึงไดร้ ับปริมาณน้าฝนไม่มากนกั ฤดูหนาว เริ่มประมาณเดือนตุลาคม - มกราคม มีอากาศหนาว และแหง้ แลง้ อุณหภมู ิ ต่าสุด 11 องศาเซลเซียส
ความหลากหลายทางชีวภาพ นจงั หวดั บุรีรัมย์ สามารถพบนกที่หายากไดห้ ลายสายพนั ธุ์ แหล่งดูนกท่ีสาคญั มกั อยู่ บริเวณอ่างเกบ็ น้า เป็นพน้ ที่ชุ่มน้าระดบั นานาชาติ อาทิ อ่างเกบ็ น้าหว้ ยจรเขม้ าก, อ่าง เกบ็ น้าหว้ ยตลาด และอ่างเกบ็ น้าสนามบิน[4] โดยเฉพาะที่อ่างเกบ็ น้าสนามบินน้นั สามารถพบนกใกลส้ ูญพนั ธุ์หลายชนิด เช่น นกปากห่าง, นกนกปากห่าง, นกกาน้าเลก็ และนกกระจาบทอง เป็นตน้ นกเหล่าน้ีสามารถพบไดใ้ นช่วงฤดูฝนแมว้ า่ จะไม่ใช่ฤดูท่ี นกอพยพกต็ าม[5] ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2560 ไดค้ น้ พบนกกระเรียนพนั ธไ์ ทยซ่ึงคาดวา่ สูญพนั ธุจ์ าก ธรรมชาติมาแลว้ 50 ปี ที่พ้ืนที่ชุ่มน้าหน่วยพิทกั ษป์ ่ าหว้ ยแสงเหนือ[6] นอกจากน้นั บริเวณตอนใตข้ องจงั หวดั บุรีรัมย์ เป็นพ้ืนท่ีเทือกเขา เป็น [เขตรักษาพนั ธุ์ สตั วป์ ่ าดงใหญ่] และอทุ ยานแห่งชาติตาพระยา อนั เป็นส่วนหน่ึงของผนื ป่ าดงพญา เยน็ -เขาใหญ่มรดกโลกทางธรรมชาติ มีสตั วป์ ่ าหายากหลาชนิดอาศยั เป็นแหล่งกาเนิด แม่น้าลาธารหลายสาย ไหลลงแม่น้ามลู อนั เป็นแม่น้าสาคญั ของภาคอีสาน ที่ไหลผา่ น จงั หวดั บุรีรัมย์ ความสัมพนั ธ์ระหว่างประเทศ จงั หวดั บุรีรัมยม์ ีพรมแดนติดกบั ประเทศกมั พชู าทางทิศใต้ โดยมีพรมแดนท้งั ทาง ธรรมชาติและการคา้ ท้งั หมด 2 แห่ง ไดแ้ ก่
ช่องโอบก ต้งั อยทู่ ่ีบา้ นสายโท 1 ตาบลปราสาท อาเภอบา้ นกรวด ช่องโอบกมีลกั ษณะ เหมือนหนา้ ผา ดา้ นล่างเป็นหม่บู า้ นของประเทศกมั พชู า ในระหวา่ งทางเป็นผนื ป่ าใน เขตอุทยานแห่งชาติตาพระยาซ่ึงเป็นหน่ึงในเขตผนื ป่ ามรดกโลก ช่องสายตะกู ต้งั อยใู่ นอาเภอบา้ นกรวด ตรงขา้ มกบั จุ๊บโจกี อาเภอบนั เตียอาปึ ล จงั หวดั อุดรมีชยั ปัจจุบนั ไดเ้ ปิ ดเป็นจุดผอ่ นปรนเพือ่ ใหช้ าวบา้ นสามารถคา้ ขายและ แลกเปล่ียนสินคา้ ได้ เศรษฐกจิ ในปัจจุบนั ท้งั เกษตรกรรม อุตสาหกรรม และพาณิชยกรรมต่าง ๆ ในจงั หวดั บุรีรัมย์ ไดเ้ จริญเติบโตข้ึนอยา่ งรวดเร็ว ในดา้ นการเกษตร พชื ผลิตผลที่สาคญั ของบุรีรัมย์ ไดแ้ ก่ ขา้ ว (มากกวา่ 500,000 ไร่), ออ้ ย (มากกวา่ 5,000 ไร่), ยางพารา (มากกวา่ 50,000 ไร่) และพืชอ่ืน ๆ ในสดั ส่วนนอ้ ย ส่วนในดา้ นอุตสาหกรรม แหลง่ อตุ สาหกรรมหลกั ของบุรีรัมยอ์ ยทู่ ี่อาเภอเมืองบุรีรัมย์ ส่วนแหล่งอุตสาหกรรมอ่ืน ๆ ไดแ้ ก่ที่อาเภอ นางรอง, ลาปลายมาศ และสตึก การขนส่ง ทางบก ทางหลวงแผน่ ดิน ทล. 24 ผา่ นอาเภอหนองก่ี อาเภอนางรอง อาเภอเฉลิมพระเกียรติ และอาเภอประโคนชยั ทล. 226 ผา่ นอาเภอลาปลายมาศ อาเภอเมืองบุรีรัมย์ และอาเภอกระสัง ทล. 219 ผา่ นอาเภอสตึก อาเภอบา้ นด่าน และอาเภอเมือง
ทล. 218 ผา่ นอาเภอเมอื งบุรีรัมย์ และอาเภอนางรอง ทล. 224 ผา่ นอาเภอปะคา อาเภอละหานทราย และอาเภอบา้ นกรวด ทล. 348 ผา่ นอาเภอนางรอง อาเภอปะคา และอาเภอโนนดินแดง ทล. 202 ผา่ นอาเภอบา้ นใหม่ไชยพจน์ และอาเภอพทุ ไธสง ทล. 207 ผา่ นเฉพาะอาเภอบา้ นใหม่ไชยพจน์ ทล. 2074 ผา่ นอาเภอเมืองบุรีรัมย์ อาเภอคูเมือง และอาเภอพทุ ไธสง ทล. 2445 ผา่ นอาเภอเมืองบุรีรัมย์ อาเภอประโคนชยั และอาเภอบา้ นกรวด ทล. 2208 ผา่ นอาเภอกระสงั อาเภอพลบั พลาชยั และอาเภอประโคนชยั ทล. 2226 ผา่ นอาเภอแคนดง และอาเภอสตึก ทล. 2073 ผา่ นอาเภอลาปลายมาศ อาเภอชานิ และอาเภอนางรอง ทล. 2166 ผา่ นอาเภอลาปลายมาศ อาเภอหนองหงส์ และอาเภอหนองกี่ ทางหลวงชนบท บร.2016 ผา่ นอาเภอนางรอง และอาเภอโนนสุวรรณ ทางหลวงชนบท บร. 3048 ผา่ นอาเภอเมืองบุรีรัมย์ และอาเภอหว้ ยราช ทางหลวงชนบท บร. 4031 ผา่ นอาเภอพทุ ไธสง และอาเภอนาโพธ์ิ
รถโดยสารประจาทาง การเดินทางโดยรถโดยสารประจาทางจากกรุงเทพมหานครมายงั จงั หวดั บุรีรัมย์ สามารถข้ึนรถไดท้ ี่สถานีขนส่งผโู้ ดยสารกรุงเทพ และลงท่ีสถานีขนส่งจงั หวดั บุรีรัมย์ ผใู้ หบ้ ริการ อาทิ กิจการทวั ร์, บริษทั ขนส่ง จากดั , ศิริรัตนพลทวั ร์, นครชยั แอร์ นอกจากน้ียงั มีรถโดยสารจากกรุงเทพฯ มายงั อทุ ยานประวตั ิศาสตร์พนมรุ้งโดยตรง นอกจากเสน้ ทางกรุงเทพฯ – บุรีรัมย์ และกรุงเทพฯ – พรนมรุ้ง แลว้ ยงั มีเส้นทางจาก จงั หวดั บุรีรัมยไ์ ปยงั จงั หวดั อื่น ๆ และภมู ิภาคอื่น ๆ ของประเทศไทย จงั หวดั บุรีรัมยม์ ีสถานีขนส่งผโู้ ดยสารหลกั 3 แห่ง ไดแ้ ก่ 1.สถานีขนส่งผโู้ ดยสารจงั หวดั บุรีรัมย์ ดาเนินการโดย เทศบาลเมืองบุรีรัมย์ 2.สถานีขนส่งผโู้ ดยสารอาเภอนางรอง ดาเนินการโดย บริษทั นางรองอุตสาหกรรม จากดั 3.สถานีขนส่งผโู้ ดยสารอาเภอประโคนชยั ดาเนินการโดย บริษทั แสงสมชยั จากดั ระบบขนส่งในเขตเมอื ง ในเขตอาเภอเมืองบุรีรมั ย์ มีรถสองแถวสีชมพใู หบ้ ริการท้งั หมด 2 สาย ดงั น้ี 1.สายตลาดเทศบาล - เขากระโดง ข้ึนรถไดท้ ี่สถานีรถไฟบุรีรัมย์ โรงพยาบาลบุรีรัมย์ และสถานีขนส่ง 2.สาย บขส.เก่า - บิ๊กซ๊ - แมค็ โค ข้ึนรถไดท้ ี่สถานีขนส่งจงั หวดั บุรีรัมย์
รถไฟ จงั หวดั บุรีรัมยม์ ีสถานีรถไฟตามเสน้ ทางรถไฟสายนครราชสีมา-อุบลราชธานี ผา่ น อาเภอตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ ลาปลายมาศ, เมืองบุรีรัมย,์ หว้ ยราช และกระสงั จงั หวดั บุรีรัมยม์ ี สถานีรถไฟท้งั หมด 9 แห่ง และที่หยดุ รถ 1 แห่ง และมีทางแยกไปลานเกบ็ หินโรงโม่ หินศิลาชยั ระยะทาง 8 กิโลเมตร สถานีรถไฟบุรีรัมยเ์ ป็นสถานีรถไฟประจาจงั หวดั ขบวนรถท่ีใหบ้ ริการอาทิ รถด่วน พิเศษอีสานวตั นา (ขบวนท่ี 23), รถด่วนพิเศษดีเซลรางที่ 21, รถด่วนท่ี 67, รถด่วน ดีเซลรางที่ 71 นอกจากน้ียงั มีขบวนรถเร็วซ่ึงวงิ่ ระหวา่ งกรุงเทพฯ – อบุ ลราชธานี และ ขบวนรถทอ้ งถิ่น วงิ่ ระหวา่ งนครราชสีมา – อบุ ลราชธานี ทางอากาศ ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ ต้งั อยทู่ ่ีอาเภอสตึก สายการบินท่ีใหบ้ ริการจากทา่ อากาศยานดอน เมือง ไดแ้ ก่ ไทยแอร์เอเชีย และนกแอร์ ในอนาคตมีแผนพฒั นาท่าอากาศยานบุรีรัมย์ เป็ นท่าอากาศยานนานาชาติ
การท่องเทีย่ ว อาเภอเมืองบุรีรัมย์ สถานที่สาคญั ทางประวตั ิศาสตร์ 1.ศนู ยว์ ฒั นธรรมอีสานใต้ เป็นสถานท่ีจดั แสดงโบราณวตั ถุ และเป็นแหล่งคน้ ควา้ วจิ ยั เก่ียวกบั ประวตั ิศาสตร์ทอ้ งถิ่น เปิ ดเม่ือวนั ท่ี 16 เมษายน พ.ศ. 2536 2.พระบรมราชานุสาวรียพ์ ระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟ้ าจุฬาโลกมหาราช เป็นพระ บรมราชานุสาวรียท์ ่ีชาวบุรีรัมยไ์ ดร้ ่วมกนั สร้างข้ึน ดว้ ยความสานึกในพระมหา กรุณาธิคุณแห่งผสู้ ถาปนาเมืองบุรีรัมย์ และเพื่อเป็นอนุสรณ์สกั การะ รวมท้งั ศนู ยร์ วม จิตใจที่แสดงถึงความจงรักภกั ดีต่อสถาบนั พระมหากษตั ริยไ์ ทยและราชวงศจ์ กั รี 3.ศาลหลกั เมืองบุรีรัมย์ 4.บา้ นโนนสาราญ หม่บู า้ นท่องเที่ยวของจงั หวดั บุรีรัมย์ มีการทอผา้ ไหมเพ่ือจดั จาหน่าย 5.วนอุทยานเขากระโดง ต้งั อยทู่ ี่บา้ นน้าซบั ตาบลเสมด็ อดีตรู้จกั กนั ในชื่อ \"พนม กระดอง\" มีความหมายวา่ \"ภูเขากระดองเต่า\" เพราะคลา้ ยกระดองเตา่ ซ่ึงต่อไดเ้ รียก เพ้ียนเป็น \"กระโดง\" บนยอดเขามีพระสุภทั รบพิตร ซ่ึงเป็นพระพุทธรูปก่ออิฐฉาบปนู
ขนาดใหญ่ หนา้ ตกั กวา้ ง 12 เมตร ฐานยาว 14 เมตร สร้างข้ึนเมื่อ พ.ศ. 2512 เดิมองค์ พระเป็นสีขาว แต่เมื่อโดนแดดทาใหค้ ลา้ ยสีดา จึงแกเ้ ป็นสีทอง นอกจากน้นั ยงั มีบนั ได นาคราช พระพุทธบาทจาลอง ปราสาทเขากระโดง ปากปล่องภเู ขาไฟ และอา่ งเกบ็ น้า เขากระโดง (อ่างเกบ็ น้าวฒุ ิสวสั ด์ิ) บริเวณหนา้ ท่ีทาการวนอุทยาน 6.อ่างเกบ็ น้าและชลประทาน 7.อ่างเกบ็ น้าหว้ ยตลาด เป็นแหล่งดูนกน้าแห่งหน่ึงของจงั หวดั บุรีรัมย์ มีพ้ืนท่ี 4,434 ไร่ มีนกกระสาปากเหลืองอาศยั อยู่ นอกจากน้ียงั พบนกกระสาดา นกกาบบวั นกอา้ ยงวั่ เป็ดเทา และนกน้าต่าง ๆ อีกมากมาย 8.อ่างเกบ็ น้าหว้ ยจรเขม้ าก เป็นทะเลสาบน้าจืดขนาดใหญ่ สร้างข้ึนเพือ่ การชลประทาน และการประปา มีพ้ืนที่ 3,876 ไร่ อยใู่ นตาบลบา้ นบวั ตาบลเสมด็ และตาบลสะแก โพรง มีไมพ้ ้ืนเมืองยนื ตน้ นกประจาถิ่น และนกอพยพตามฤดูกาลเป็นจานวนมากกวา่ 170 ชนิด ศูนย์กฬี าของบุรีรัมย์ ยไู นเตด็ 1.ชา้ งอารีนา เป็นสนามฟุตบอลที่ไดม้ าตรฐานแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยท่ี ไม่มีลู่วงิ่ คนั่ สนามและผา่ นมาตรฐานสหพนั ธฟ์ ุตบอลนานาชาติ (FIFA) สามารถจดั เกม การแข่งขนั ระดบั ชาติได้ เป็นสนามท่ีสวยงามอีกแห่งหน่ึงของเมืองไทย ปัจจุบนั เป็น สนามเหยา้ ของทีมบุรีรมั ย์ ยไู นเตด็
2. ชา้ ง อินเตอร์เนชนั่ แนล เซอร์กิต เป็นสนามแข่งรถมาตรฐานสมาพนั ธร์ ถยนต์ นานาชาติ และเป็นสนามแขง่ รถที่ใหญ่ท่ีสุดในประเทศไทย 3.บุรีรัมย์ คาสเซ่ิล เป็นแหล่งการคา้ แห่งใหม่ของบุรีรัมย์ ต้งั อยรู่ ะหวา่ งชา้ งอารีนา กบั ชา้ งเซอร์กิต มีปราสาทหินพนมรุ้งจาลอง สวนศิวะ 12 และมีร้านคา้ ร้านอาหารต่าง ๆ อาเภอลาปลายมาศ 1. อุทยานลาน้ามาศ 2. พระธาตุทะเมนชยั 3. สะพานไมห้ นองผะอง 4. บา้ นสวนฟรุ๊ตการ์เดน้ อำเภอหนองหงส์ 1. พิพิธภณั ฑเ์ มืองฝ้ าย 2. สวนไทรงาม 3. พิพิธภณั ฑช์ าวบา้ น บา้ นโคกกลาง อำเภอห้วยรำช
1. หมู่บา้ นท่องเที่ยว บา้ นสนวนนอก อำเภอพุทไธสง 1. วดั ศีรษะแรด (วดั หงส์) มีพระเจา้ ใหญ่วดั หงส์เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ขนาด หนา้ ตกั 1.6 เมตร สูง 2 เมตร สร้างดว้ ยศิลาแลง มีศิลปะพ้ืนเมืองปรากฏอยู่ ทุกปี ในวนั ข้ึน 14 ค่า หรือวนั แรม 1 ค่าเดือน 3 จะจดั งานเฉลิมฉลองทุกปี โดยผคู้ น ไปนมสั การกราบไหวเ้ ป็นจานวนมาก 2. วดั มณีจนั ทร์ มีภาพติดกระจกสีที่งดงาม มีเพียงแห่งเดียวในภาคอีสาน 3. วดั บรมคงคา มีภาพฮูปแตม้ ศิลปะอีสานที่งดงาม 4. หม่บู า้ นท่องเที่ยวไหมหวั สะพาน เป็นหม่บู า้ นท่องเที่ยวท่ีใหก้ ารเรียนรู้เก่ียวกบั การทอผา้ ไหม 5. คเู มืองเมืองพุทไธสงและบึงสระบวั 6. อนุสาวรียพ์ ระยาเสนาสงคราม เจา้ เมืองพุทไธสงท่านแรก ต้งั อยทู่ ่ีวา่ การอาเภอ พทุ ไธสง อำเภอแคนดง 1. หม่บู า้ นท่องเท่ียว บา้ นเมืองทะเล อำเภอนำโพธ์ิ 1. หม่บู า้ นทอผา้ ไหมนาโพธ์ิ โดยมีผา้ ไหมพ้ืนไหมหางกระรอก ผา้ โสร่ง ผา้ ขาวมา้ และผา้ มดั หม่ี ลกั ษณะเด่นของผา้ ไหมนาโพธ์ิ คือ เน้ือแน่น เสน้ ไหมละเอียด 2. วดั ท่าเรียบ มีศิลปะแบบอีสาน และภาพจิตรกรรมฝาผนงั แบบอีสานหรือฮู ปแตม้
3. พระธาตุบา้ นดู่ เป็นพระเจดียศ์ กั ด์ิสิทธ์ิที่มีอายหุ ลายร้อยปี อำเภอบ้ำนใหม่ไชยพจน์ 1. ปรางคก์ ่สู วนแตง เป็นเทวาลยั ในศาสนาฮินดู สร้างข้ึนในราวพทุ ธศตวรรษท่ี 16-17 โดยไดร้ ับอิทธิพลจากศิลปกรรมสมยั นครวดั เป็นโบราณสถานอีกแห่งที่ ถูกวางระเบิดจนองคป์ รางคพ์ งั ทลายลงมาเพ่ือโจรกรรม ชิ้นส่วนปราสาทไปขาย ภายหลงั กรมศิลปากรไดบ้ รู ณะใหม่จนมีความสมบรู ณ์ และประกาศข้ึนทะเบียน เป็นโบราณสถานเมื่อวนั ท่ี 8 มีนาคม 2547ลกั ษณะของก่ปู ระกอบดว้ ย ปรางค์ อิฐ 3 องค์ ต้งั เรียงกนั ในแนวเหนือ-ใต้ บนฐานศิลาแลงเดียวกนั อาคารท้งั หมด หนั หนา้ ไปทางทิศตะวนั ออก มีประตูหนา้ เพียงประตเู ดียว อีก 3 ดา้ น สลกั เป็น ประตูหลอก ปรางคอ์ งคก์ ลางมีขนาดใหญ่และมีสภาพคอ่ นขา้ งสมบรู ณ์เป็นรูป ส่ีเหลี่ยมจตั ุรัส ดา้ นหนา้ ท้งั 3 ดา้ น มีลกั ษณะยนื่ ออกมาและมีแผน่ ศิลาทราย รองรับ ส่วนปรางคอ์ ีกสององคม์ ีขนาดเลก็ กวา่ ฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตั ุรัส มี ประตูเดียวทางดา้ นหนา้ เช่นกนั ส่วนผนงั อีก 3 ดา้ น ก่อเรียบทึบ สาหรับบนพ้ืน หนา้ ปรางคม์ ีส่วนประกอบสถาปัตยกรรมหินทรายอื่น ๆ ตกหล่นอยู่ เช่น ฐาน บวั ยอดปรางค์ กลีบขนุน รูปนาค 6 เศียร อายขุ องก่สู วนแตงสามารถกาหนดได้ จากทบั หลงั ของปรางค์ ซ่ึงปัจจุบนั เกบ็ รักษาอยทู่ ่ี พิพิธภณั ฑส์ ถานแห่งชาติพระ นคร อยใู่ นราวพทุ ธศตวรรษท่ี 17 เนื่องจากภาพสลกั บนทบั หลงั ท้งั หมดมี ลกั ษณะตรงกบั ศิลปะขอมแบบนครวดั ที่มีอายอุ ยใู่ นช่วงเวลาดงั กล่าว อาทิเช่น ทบั หลงั สลกั ภาพพระนารายณ์ตรีวกิ รม (ตอนหน่ึงในวามนาวตารแสดงภาพ พระนารายณ์ยา่ งพระบาท 3 กา้ ว เหยยี บโลกบาดาล โลกมนุษย์ และโลก
สวรรค)์ ทบั หลงั ภาพศิวนาฎราช ทบั หลงั ภาพการกวนเกษียรสมุทร ทบั หลงั ภาพนารายณ์บรรทมสินธุ์ ฯลฯ แต่ละชิ้นมีขนาดใหญ่สวยงามน่าสนใจยง่ิ 2. ก่ฤู ๅษีหนองเยอื ง เป็นอโรคยาศาลหรือโรงพยาบาล สร้างข้ึนในสมยั พระเจา้ ชยั วรมนั ที่7 3. วดั หลกั ศิลา มีพระอุโบสถอายนุ บั ร้อยปี สร้างในแบบศิลปะเชิงช่างกลุ า คือมี การมุงหลงั คาซอ้ นเป็นช้นั ๆ คลา้ ยกบั ศิลปะไทใหญ่ ซ่ึงหาชมไดย้ ากในปัจจุบนั อาเภอคเู มือง 1. อุทยานไมด้ อกเพลาเพลิน แหล่งเรียนรู้ธรรมชาติ ภายในมีโรงเรือนจดั แสดง ดอกไมท้ ว่ั โลก สมบูรณ์ท่ีสุดในภาคอีสาน ภายในประดิษฐานพระเข้ียวแกว้ จาลอง ท่ีไดอ้ ญั เชิญมาจากศรีลงั กา อำเภอสตกึ 1. พระพทุ ธรูปใหญ่ (พระพุทธรูปปฏิมาสนั ตยาภิรมยส์ ตึกอุดมราษฎรนิมิตนมิน) พระพุทธรูปศกั ด์ิสิทธ์ิ ประดิษฐาน ณ บริเวณท่ีวา่ การอาเภอสตึก สามารถชม ทศั นียภาพแมน่ ้ามลู 2. ศาลเจา้ พ่อวงั กรูด ต้งั ณ ริมฝ่ังแม่น้ามลู เป็นท่ีเลื่อมใสแก่ประชาชนชาวอาเภอส ตึก 3. พระเจา้ ใหญด่ งแสนตอ พระพทุ ธรูปศกั ด์ิสิทธ์ิค่บู า้ นคเู่ มือง ณ ตาบลทุ่งวงั อาเภอสตึก 4. หม่บู า้ นพิมานโพนเงิน หม่บู า้ นที่มีการเล้ียงชา้ งมากที่สุดใน จงั หวดั บุรีรัมย์
อำเภอนำงรอง 1. อ่างเกบ็ น้าท่งุ แหลม 2. วดั ภมู ่านฟ้ า เป็นวดั เก่าในเขตเทศบาลเมืองนางรอง ซ่ึงสร้างข้ึนในสมยั กรุง ศรีอยธุ ยา มีประวตั ิศาสตร์ยาวนาน สามารถศึกษาสถาปัตยกรรม ประวตั ิศาสตร์ได้ เพราะเมืองนางรองเป็นเมืองเก่าแก่ที่สุดอีกแห่งในประเทศ อาทิ วดั กลางนางรอง วดั ขนุ กอ้ ง วดั ร่องมนั เทศ 3. หมู่บา้ นท่องเที่ยวไหม หนองตาไก้ อำเภอหนองก่ี 1. หาดปราสาททอง หรืออ่างเกบ็ น้าทุ่งกระเตน็ ต้งั อยหู่ นา้ องคก์ ารบริหารส่วน ตาบลเยย้ ปราสาท ระยะห่างระหวา่ งขอบสระถึงเกาะกลาง 250 เมตร เน้ือท่ี 2450 ไร่ หาด ปราสาททอง ยงั เหมาะแก่การปั่นจกั รยานรอบ ๆ อ่างเกบ็ น้า โดยรวมของระยะทางท้งั หมด เกือบ 10 กิโลเมตร ที่พิเศษกวา่ น้นั ยงั เป็น สถานท่ีฝึกซอ้ มกีฬาทางน้า เช่นเจท็ สกี ระยะทางฝึกซอ้ มและการแขง่ ขนั 9.3 กิโลเมตร โดยสามารถเดินทางผา่ นทางแยกต่างระดบั อาเภอสีคิว้ เล้ียวมาทาง อาเภอโชคชยั ผา่ นอาเภอหนองบุญมาก ถึงสี่แยกอาเภอหนองกี่ จากน้นั เล้ียว ซา้ ยประมาณ 3 กิโลเมตร กจ็ ะถึงหาด
อำเภอปะคำ 1. ปราสาทวดั โคกงิ้ว 2. ปราสาทตาดา อำเภอโนนดนิ แดง 1. เข่ือนลานางรอง เป็นเขื่อนดินฐานคอนกรีตขนาดใหญ่ จุน้าไดป้ ระมาณ 150 ลา้ นลูกบาศกเ์ มตร มีถนนลาดยางบนสนั เข่ือนเช่ือมต่อไปยงั หม่บู า้ นตวั อยา่ ง หม่บู า้ นพฒั นาหนองตาเยาว์ และหนองหวา้ ซ่ึงอยใู่ กลช้ ายแดนเพียง 20 กวา่ กิโลเมตรเท่ากนั ท่ีสนั เขื่อนมีหินลอย (หินภูเขาไฟอีกชนิดหน่ึง) เป็นกอ้ นและ แผน่ สีสนั แบ่งกนั เป็นช้นั สวยงาม ซ่ึงไดน้ าไปกองก้นั น้าเซาะสนั เข่ือน นอกจากน้ี ยงั เป็นที่เที่ยวท่ีมีช่ือเสียงในอาเภอโนนดินแดง บรรยากาศสวยงาม มี ท่ีพกั และสิ่งอานวยความสะดวก ดว้ ยทะเลสาบเหนือเข่ือนอนั กวา้ งใหญ่ หาด ทรายสวยงามบรรยากาศดี ชาวบุรีรัมยจ์ ึงนิยมพาครอบครัวไปพกั ผอ่ น เล่นน้า และรับประทานปลาสดจากเข่ือน 2. ปราสาทหนองหงส์ 3. อนุสาวรียเ์ ราสู้ อยรู่ ิมทางหลวงในเขต ต.โนนดินแดง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ชาวบุรีรัมยร์ ่วมสร้างข้นึ เมื่อ พ.ศ. 2522 เพอื่ ราลึกถึงวรี กรรมของประชาชน ตารวจ และทหาร ที่เสียชีวิตจากการต่อสูก้ บั ผกู้ ่อ การร้ายคอมมิวนิสต์ ซ่ึง ขดั ขวางการก่อสร้าง ถนนสายละหานทราย - ตาพระยา 4. เขตรักษาพนั ธุส์ ตั วป์ ่ าดงใหญ่ ป่ าที่อุดมสมบูรณ์ทางตอนใตข้ องจงั หวดั บุรีรัมย์ ห่างจากอาเภอโนนดินแดง 5 กิโลเมตร เป็นแหล่งตน้ น้าสาคญั ทาใหเ้ กิดพืช พนั ธุ์ สตั วป์ ่ าท่ีหลากหลาย
5. ผาแดง อยใู่ นเขตป่ าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ บา้ นหนองเสมด็ ต.ลานางรอง อ.โน ดินแดง จ.บุรีรัมย์ เป็นเขตติดต่อระหวา่ ง อ.โนนดินแดง กบั อ.ตาพระยา จ. สระแกว้ เป็นแหลง่ ท่องเที่ยวทางธรรมชาติแห่งใหม่ของจงั หวดั บุรีรัมย์ นกั ท่องเที่ยวที่รักธรรมชาติสามารถมาสมั ผสั อากาศบริสุทธ์ิ ชมดวงอาทิตยต์ ก ทศั นียภาพของผนื ป่ าธรรมชาติอนั กวา้ งใหญ่สวยงามของเทือกเขาบรรทดั และ ป่ าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ โดยเฉพาะช่วงที่มีอากาศหนาวเยน็ ในช่วงเดือน พฤศจิกายนถึงกมุ ภาพนั ธ์ นกั ท่องเท่ียวจะไดพ้ บกบั ทะเลหมอกปกคลุมป่ าดง ใหญ่ - เทือกเขาบรรทดั อนั ซบั ซอ้ นสวยงามดว้ ย นอกจากน้ี ยงั เป็นจุดพกั รถของ คนเดินทางผา่ นจงั หวดั บุรีรัมย์ ไปยงั จงั หวดั ตา่ ง ๆ ในภาคตะวนั ออกดว้ ย ซ่ึง ช่วงน้ีในแต่ละวนั ไดม้ ีนกั ท่องเท่ียวและผทู้ ่ีเดินทางแวะมาเท่ียวชมพกั ผอ่ น ถ่ายภาพเป็นท่ีระลึกเป็นจานวนมาก ไม่แพแ้ หล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอ่ืน ๆ แหล่งท่องเท่ียวดงั กล่าว สามารถเชื่อมโยงกบั แหล่งท่องเท่ียวอ่ืน ๆ ในพ้ืนที่ อาเภอโนนดินแดงอีกดว้ ย อำเภอละหำนทรำย 1. วดั โพธ์ิทรายทอง เป็นวดั ของหลวงป่ ูศุข เกจิอาจารยด์ งั แห่งอีสานใต้
2. วดั ป่ าละหานทราย ภายในวดั มีพระอุโบสถศิลปะลา้ นนาผสมลา้ นชา้ ง ประดิษฐานต้งั อยกู่ ลางน้า มีความงดงาม นอกจากน้นั ยงั มีพระพุทธรูปศกั ด์ิสิทธ์ิ ประดิษฐานหลายองค์ 3. หินหลุม เป็นกลุ่มหินหลุมกมุ ภลกั ษ์ เป็นสถานที่เรียนรู้ดา้ นธรณีวทิ ยา 4. อ่างเกบ็ น้าลาจงั หนั 5. อ่างเกบ็ น้าลาปะเทีย อำเภอประโคนชัย 1. ปราสาทเมืองต่า เมืองโบราณร่วมสมยั กบั ปราสาทเขาพนมรุ้ง ปราสาทเมืองต่า เป็นปราสาทหินของโบราณที่มีขนาดใหญ่มาก สร้างข้ึนตามคติความเช่ือของ ศาสนาฮินดูเพื่อใชป้ ระกอบพิธีกรรมทางศาสนาตวั ปราสาทออกแบบไดอ้ ยา่ ง งดงาม มีโครงสร้างที่ไดส้ ดั ส่วนบริเวณโดยรอบปราสาท เป็นชุมชนโบราณ สมยั ขอม ที่มีประวตั ิเกี่ยวเน่ียงกบั ปราสาทเขาพนมรุ้ง ปราสาทเมืองต่าจึงมี ความสาคญั ทางโบราณคดี นอกเหนือจากเป็นมรดกทางศิลปกรรมท่ีงดงาม ปราสาทแห่งน้ีไดร้ ับการบูรณะในปี พ.ศ. 2540 2. กฏุ ิฤๅษีโคกเมือง เป็นปราสาทขอม สร้างข้ึนเพ่อื เป็นอโรคยาศาล หรือโรงพยาบาลประจาเมือง ต้งั อยู่ ใกลก้ บั ปราสาทเมืองต่า อยตู่ ิดกบั ยารายเมืองต่า หรือ ทะเลเมืองต่า ชาวบา้ นโคกเมืองเรียกปราสาทหลงั น้ีวา่ \"ปราสาทนอ้ ย\" เป็นอ โรคยาศาลท่ีสมบูรณ์ที่สุดอีกแห่งในประเทศ 3. กฏุ ิฤๅษีหนองบวั ราย เป็นปราสาทขอม สร้างข้ึนเพื่อเป็นอโรคยาศาล ต้งั อยบู่ า้ น หนองบวั ราย ตาบลจรเขม้ าก ซ่ึงต้งั อยบู่ ริเวณเชิงเขาพนมรุ้ง
4. ปราสาทบา้ นบุ บา้ นบุ ตาบลจรเขม้ าก เป็นปราสาทขอมสร้างข้ึนเพ่ือเป็นธรรม ศาลา ที่พกั ของผแู้ สวงบุญในสมยั ขอมโบราณ 5. หม่บู า้ นโฮมสเตยโ์ คกเมือง ต้งั อยทู่ ่ีบา้ นโคกเมือง ตาบลจรเขม้ าก เป็นหมู่บา้ น โฮมสเตยท์ ี่ไดร้ ับรางวลั ระดบั ประเทศมากมาย มีกิจกรรมใหเ้ รียนรู้ภมู ิปัญญา ทอ้ งถ่ินมากมาย อาทิ เรียนรู้การปลกู ขา้ วหอมมะลิภูเขาไฟ การทอเส่ือกก การ ทอผา้ ไหม การเรียนรู้เกษตรวิถีพอเพียง เป็นตน้ 6. อ่างเกบ็ น้าสนามบิน อดีตเป็นสนามบินเพ่อื ใชใ้ นการส่งเสบียง สมยั สงครามโลกคร้ังท่ี 2 เมื่อสงครามยตุ ิ จึงไดส้ ร้างอ่างเกบ็ น้าก้นั ลาหว้ ยระเวยี เพอื่ กกั เกบ็ น้าใชใ้ นการอปุ โภค บริโภคภายในเขตเทศบาลเมืองประโคนชยั ปัจจุบนั ไดร้ ับการประกาศเป็นเขตหา้ มล่าสตั วป์ ่ าอ่างเกบ็ น้าสนามบิน เป็นสถานที่ พกั ผอ่ น ชมธรรมชาติ โดยมีนกประจาถ่ินและนกอพยพอาศยั มากมาย ปัจจุบนั มี การปล่อย นกกระเรียนพนั ธุไ์ ทย ในบริเวณน้ีอีกดว้ ย 7. ชุมชนโบราณบา้ นแสลงโทน เป็นชุมชนโบราณต้งั อยใู่ นเขตบา้ นแสลงโทน ต. แสลงโทน อ.ประโคนชยั อยหู่ ่างจากตวั จงั หวดั ไปทางทิศใต้ ตามทางสาย บุรีรัมย-์ ประโคนชยั ระยะทาง 25 กิโลเมตร ทางหลวงตดั ผา่ กลางชุมชนโบราณ มองเห็นคนั ดินเป็นแนวสูงประมาณ 5-7 เมตร อยสู่ องขา้ งทาง ชุมชนโบราณ แห่งน้ีมีลกั ษณะเป็นรูปกลมรีวางตามแนวตะวนั ออก ตะวนั ตก ยาวประมาณ 5,756 เมตร กวา้ ง 1,750 เมตร มีคูเมืองโอบอยนู่ อกคนั ดิน 3 ช้นั ปัจจุบนั เหลือ เพียงช้นั เดียว ใกลค้ นั ดินดา้ นท่ีต้งั โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบลแสลงโทน ในปัจจุบนั มีเนินดินซ่ึงมีกอ้ นหินศิลาแลงกระจดั กระจายเขา้ ใจวา่ เคยมีศาสน สถาน แต่ปัจจุบนั เป็นท่ีต้งั ศาลเจา้ พอ่ แสลงโทน เรียกวา่ ศาลป่ ูเจา้ หรือกระท่อม เนียะตา เป็นศาลเจา้ ซ่ึงเป็นที่เคารพนบั ถือของชาวบา้ นแสลงโทนและชาวบา้ น
ใกลเ้ คียง สร้างดว้ ยไมร้ ะแนง หลงั คามุงกระเบ้ืองและพ้ืนเป็นปูนซีเมนต์ ท้งั คู น้าคนั ดิน (ที่เหลืออยรู่ ิมทางหลวง) และเนินดินศาลเจา้ พอ่ แสลงโทน ได้ ประกาศข้ึนทะเบียนโบราณสถานแลว้ นอกจากน้ียงั พบหลกั ฐานอ่ืนท่ีสาคญั คือ สระน้าโบราณรูปส่ีเหลี่ยมในเขตวดั แสลงโทน 2 สระ พบเศษภาชนะดินเผา โครงกระดูกมนุษย์ เคร่ืองประดบั เทวรูปเก่าและใบเสมาเก่า ซ่ึงเขา้ ใจวา่ บริเวณ น้ีเคยเป็นศาสนสถานสาคญั ประจาชุมชนโบราณ 8. เสน้ ทางกงุ้ จ่อม กระยาสารท ต้งั อยใู่ นเขตเทศบาลตาบลประโคนชยั มีการผลิต กงุ้ จ่อม ซ่ึงเป็นภมู ิปัญญาการถนอมอาหารเฉพาะถิ่นของอาเภอประโคนชยั และ กระยาสารท อาหารหวานที่คเู่ มืองประโคนชยั ซ่ึงเป็นขนมสาคญั ในงาน ประเพณีแซนโฎนตา ประเพณีสาคญั ของคนไทยเช้ือสายเขมร ซ่ึงเป็นชนกลุ่ม ใหญ่ของอาเภอประโคนชยั นอกจากน้นั ยงั มีอาหารทอ้ งถ่ินเฉพาะถ่ินประโคน ชยั อาทิ กงุ้ จ่อมผดั แกงฮอ็ ง แกงบวน เป็นตน้ อำเภอเฉลมิ พระเกยี รติ 1. อุทยานประวตั ิศาสตร์พนมรุ้ง ปราสาทเขาพนมรุ้งไดร้ ับการยกยอ่ งวา่ เป็น ปราสาทหินท่ีงดงามมากแห่งหน่ึงของไทย ต้งั อยบู่ นยอดเขาพนมรุ้งซ่ึงเคยเป็น ภูเขาไฟมาก่อน ตวั ปราสาทสร้างดว้ ยหินทรายสีชมพู และศิลาแลงอยา่ งยง่ิ ใหญ่ อลงั การมีการออกแบบผงั ปราสาทตามแนวความเชื่อที่สอดคลอ้ งกบั ภมู ิ ประเทศศาสนสถานแตล่ ะส่วนประดบั ดว้ ยลวดลายวิจิตรงามตาโดยเฉพาะหนา้ บนั ศิวนาฎราชและทบั หลงั นารายณ์บรรทมสินธุท์ ่ีมีความงดงามละเอียดอ่อน ชอ้ ย นบั เป็นโบราณสถานอนั ทรงคุณคา่ ท่ีไม่ควรพลาดชมในวนั ข้ึน 15 ค่า เดือน 5 (ประมาณเดือน เม.ย. - พ.ค.) ของทุกปี จะมีประเพณีเดินข้ึนเขาพนมรุ้ง
เพื่อชมปรากฏการณ์ธรรมชาติอนั น่ามหรรศจรรยค์ ือ พระอาทิตยจ์ ะสาดแสง ตรงเป็นลาทะลชุ ่องประตปู ราสาทท้งั 15 บานราวปาฏิหาริยแ์ ละเกิดข้ึนเพียงคร้ัง เดียวในรอบปี เท่าน้นั 2. น้าตกเขาพนมรุ้ง 3. ปราสาทหนองกง ห่างจากเชิงพนมรุ้งไปทางทิศ ใต้ 2.8 กิโลเมตร 4. วดั เขาพระองั คาร เป็นวดั ที่สร้างข้ึนใหม่ ต้งั อยบู่ นยอดเขาพระองั คารซ่ึงสูง ประมาณ 320 เมตรจากระดบั น้าทะเล มีโบสถท์ ่ีประยกุ ตจ์ ากสถาปัตยกรรม หลายสมยั ดูสวยงามแปลกตา เป็นวดั ท่ีสวยงามใหญ่โตแห่งหน่ึงของบุรีรัมย์ มี โบสถ์ ศาลา และอาคารต่าง ๆ สร้างเลียนแบบสถาปัตยกรรมสมยั ต่าง ๆ หลาย รูปแบบงดงาม แปลกตาและน่าสนใจยงิ่ ภายในโบสถม์ ีภาพจิตรกรรมฝาผนงั และเร่ืองราวพทุ ธชาดกเป็นภาษาองั กฤษดว้ ย บริเวณวดั เป็นปากปลอ่ งภูเขาไฟ คาดวา่ เคยเป็นที่ต้งั ของโบราณสถานสมยั ทวารวดีเพราะเสมาหินแกะสลกั สมยั ดงั กล่าวหลงเหลืออยเู่ ป็นจานวนมาก 5. เขาองั คาร เป็นภเู ขาไฟที่ดบั แลว้ อีกลกู หน่ึงในบุรีรัมย์ อยใู่ นเขตอาเภอเฉลิมพระ เกียรติ ห่างจากปราสาทพนมรุ้ง 20 กิโลเมตร โดยลงมาจากพนมรุ้ง ถึงบา้ นตา เป็กแลว้ เล้ียวซา้ ยมาตามทางที่จะไปละหานทรายประมาณ 13 กิโลเมตรแลว้ เล้ียวขวาเขา้ ทางลกู รังอีกประมาณ 7 กิโลเมตรพบโบราณสถานเก่าแก่ และใบ เสมาหินทรายสมยั ทวารวดีสาคญั หลายชิ้น 6. น้าตกเขาพระองั คาร ปัจจุบนั อยใู่ นระหวา่ งการสารวจเพื่อเปิ ดเป็นแหล่ง ท่องเท่ียวใหม่ของจงั หวดั อำเภอบ้ำนกรวด
1. แหล่งหินตดั แหล่งหินตดั จงั หวดั บุรีรัมยห์ ่างจากตวั อาเภอบา้ นกรวด 7 กม. เป็น ลานหินกวา้ งเกือบ 2,000 ไร่ ใกลช้ ายแดนติดกบั ราชอาณาจกั รกมั พชู า มี ร่องรอยการตดั หิน เพ่ือนาไปสร้างปราสาทหินต่าง ๆ ในเขตอีสานใต้ รวมท้งั ปราสาทพนมรุ้ง และปราสาทเมืองต่า 2. เตานายเจียน เป็นเตาเผาโบราณอายปุ ระมาณ 1,000 ปี และไดพ้ บเคร่ืองเคลือบ โบราณจานวนมาก คนโบราณใชเ้ ผาเคร่ืองป้ันดินเผา หมอ้ ไห ต่าง ๆ 3. เตาสวาย เป็เตาเผาโบราณอายปุ ระมาณ 1,000 ปี เป็นท่ีผลิตเครื่องถว้ ยศิลปะ ขอม ท่ีมีขนาดใหญ่ กรมศิลปากรไดเ้ ขา้ มาบูรณะปฏิสงั ขรณ์ข้ึนและสร้างอาคาร ครอบเตาไว้ ภายในมีนิทรรศการเคร่ืองเคลือบโบราณ และมีเศษเครื่องถว้ ยท่ีขดุ พบบางส่วน ต้งั อยทู่ ่ีบา้ นโคกเมือง เทศบาลตาบลโนนเจริญ อาเภอบา้ นกรวด จงั หวดั บุรีรัมย์ 4. จุดผอ่ นปรนชายแดนช่องสายตะกู ต้งั อยใู่ นเขต เทศบาลตาบลจนั ทบเพชร เป็น ตลาดคา้ ขายติดชายแดนบนเทือกเขาพนมดงรัก ประชาชนสามารถเลือกซ้ือ สินคา้ บริเวณชายแดนได้ 5. สวนป่ าบา้ นกรวด เป็นผนื ป่ าที่มีการปลูกข้ึน เพ่ืออนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติป่ า ไม้ สามารถชมธรรมชาติได้ ปัจจุบนั เป็นส่วนหน่ึงของ อุทยานแห่งชาติตาพระ ยา ส่วนหน่ึงของผนื ป่ ามรดกโลก ป่ าดงพญาเยน็ -เขาใหญ่ 6. เข่ือนหว้ ยเมฆา เป็นการพฒั นาพ้ืนที่แนวชายแดนชายไทย-กมั พชู า บริเวณช่อง เขาเมฆาเพ่ือใชน้ ้าในทางการเกษตรกร โดยไดร้ ับงบประมาณจากการสนบั สนุน ของรัฐบาลญ่ีป่ ุน เมื่อ พ.ศ. 2528 7. พิพิธภณั ฑย์ คุ ก่อนประวตั ิศาสตร์ วดั ป่ าพระสบาย เป็นท่ีเกบ็ รวบรวมวตั ถุ โบราณในสมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์ที่พบในเขตตาบลบึงเจริญ
8. ศนู ยว์ ฒั นธรรมอาเภอบา้ นกรวด ต้งั อยใู่ นโรงเรียนบา้ นกรวดวทิ ยาคาร เป็นท่ี เกบ็ รักษาเครื่องเคลือบท่ีขดุ พบในเขตอาเภอบา้ นกรวด 9. ผ้งึ ร้อยรัง เป็นสถานที่ที่ผ้งึ จะมาทารังบนตน้ ไมข้ นาดใหญ่เป็นร้อยๆรัง 10.ปราสาทถมอ ปราสาทหินเก่าแก่สนั นิษฐานวา่ เป็นธรรมศาลา สร้างข้ึนราวพทุ ธ ศตวรรษท่ี 18 11.ปราสาททอง ต้งั อยบู่ ริเวณดา้ นหลงั ตลาดสดเทศบาลตาบลบา้ นกรวด สนั นิษฐานวา่ สร้างข้ึนในช่วงปลายพุทธศตวรรษที่ 16 มีการขดุ พบทบั หลงั ใน สภาพสมบูรณ์ 12.ปราสาทละลมทม ต้งั อยทู่ ่ีบา้ นศรีสุข ตาบลเขาดินเหนือ สนั นิษฐานวา่ สร้างข้ึน ช่วงพทุ ธศตวรรษท่ี 16 13.ปราสาทบายแบก ต้งั อยทู่ ี่บา้ นสายโท 5 เทศบาลตาบลจนั ทบเพชร เป็นปราสาท ขอมท่ีติดชายแดนที่สุดในจงั หวดั บุรีรัมย์ มีลกั ษณะพิเศษคือ เป็นปราสาทที่หนั หนา้ ทางทิศตะวนั ตก ประชากรศาสตร์ สำธำรณสุข 1. โรงพยาบาลศูนยบ์ ุรีรัมย์ 2. โรงพยาบาลเอกชนบุรีรัมย์ 3. โรงพยาบาลคา่ ยสมเดจ็ เจา้ พระยามหากษตั ริย์ 4. รงพยาบาลหว้ ยราช 5. โรงพยาบาลกระสงั 6. โรงพยาบาลลาปลายมาศ
7. โรงพยาบาลสตึก 8. โรงพยาบาลคูเมือง 9. โรงพยาบาลประโคนชยั 10. โรงพยาบาลนางรอง 11.โรงพยาบาลพลบั พลาชยั 12. โรงพยาบาลชานิ 13. โรงพยาบาลหนองหงส์ 14.โรงพยาบาลพทุ ไธสง 15.โรงพยาบาลบา้ นกรวด 16. โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ 17. โรงพยาบาลโนนสุวรรณ 18. โรงพยาบาลปะคา 19. โรงพยาบาลนาโพธ์ ิ 20.โรงพยาบาลบา้ นใหม่ไชยพจน์ 21. โรงพยาบาลหนองก่ี 22. โรงพยาบาลโนนดินแดง 23. โรงพยาบาลละหานทราย 24. โรงพยาบาลแคนดง 25.โรงพยาบาลบา้ นด่าน
วฒั นธรรม กฬี ำ จงั หวดั บุรีรัมยเ์ ป็นท่ีต้งั ของบุรีรัมย์ ยไู นเตด็ สโมสรฟุตบอลใหญ่ในไทยลีก บุรีรัมย์ ยไู นเตด็ เป็นสโมสรฟตุ บอลที่ชนะเลิศไทยลีกมากท่ีสุด ดว้ ยจานวน 6 สมยั และเคยทา ผลงานระดบั ทวปี ไดด้ ีที่สุดคือการเขา้ ถึงรอบ 8 ทีมสุดทา้ ยในเอเอฟซีแชมเปี ยนส์ลีก 2013 นอกจากฟุตบอลแลว้ ยงั มีสนามแขง่ รถ ชา้ ง อินเตอร์เนชนั่ แนล เซอร์กิต ซ่ึงเคย ใชจ้ ดั แขง่ ขนั โมโตจีพีมาแลว้ นอกจากน้ียงั มีการจดั แข่งขนั มาราธอนในเดือน กมุ ภาพนั ธข์ องทุกปี สถานกีฬาที่สาคญั ในตวั จงั หวดั ไดแ้ ก่ ชา้ งอารีนา ซ่ึงเป็นสนามเหยา้ ของบุรีรัมย์ ยไู นเตด็ มีความจุ 32,600 ท่ีนง่ั และชา้ ง อินเตอร์เนชน่ั แนล เซอร์กิต สถานกีฬาอื่น ๆ อาทิ สระวา่ ยน้า, สนามเทนนิส ต้งั อยใู่ นตวั เทศบาลเมืองบุรีรัมย์ นอกจากน้ียงั มีโรงพล ศึกษาของการกีฬาแห่งประเทศไทย ต้งั อยใู่ นพ้ืนที่ของโรงเรียนบุรีรมั ยพ์ ิทยาคม งำนประเพณแี ละเทศกำลท่องเทย่ี วสำคญั งำนดอกฝ้ ำยคำบำน ช่วงเดือน ม.ค. - ก.พ. ของทุกปี บริเวณปราสาทเขาพนมรุ้ง
มหกรรมว่ำวอสี ำน ช่วงเดือน ม.ค. บริเวณสนามกีฬามหาวทิ ยาลยั รามคาแหง วิทยาเขตบุรีรัมย์ อ.หว้ ยราช ในงานมีการประกวดขบวนวา่ ว ธิดาวา่ ว การนาเสนอสินคา้ วฒั นธรรม ภูมิปัญญา อาเภอหว้ ยราช และไฮไลทอ์ ยทู่ ่ี การแข่งขนั วา่ วอีสานหรือวา่ วแอก ท่ีมีรูปร่าง เอกลกั ษณ์ของบุรีรัมย์ ดา้ นบนติดแอก ซ่ึงแอกเป็นอุปกรณ์ท่ีทาใหเ้ กิดเสียง ซ่ึงมีการวงิ่ วา่ วในช่วงเชา้ ของวนั แรก และเอาวา่ วลงในช่วงเชา้ ของวนั ท่ี2 ในช่วงกลางคืนของคืน แรก จึงมีกิจกรรม \"นอนดูดาว ชมวา่ วกลางคืน\" มหกรรมมวยไทยเทศกำลกนิ ไก่ไหว้เจ้ำพ่อขนุ ศรี ประมาณปลายเดือน กมุ ภาพนั ธ์ ของทุกปี บริเวณสนามท่ีวา่ การอาเภอ อ.หนองกี่ นมัสกำรพระเจ้ำใหญ่วดั ศีรษะแรด (วดั หงส์) วนั ข้ึน 14 ค่า ถึงวนั แรก 1 ค่า เดือน 3 หรือตรงกบั วนั มาฆบชู า ของทุกปี ท่ีวดั ศีรษะ แรด อ.พทุ ไธสง นมัสกำรรอยพระพุทธบำทจำลอง วนั ข้ึน 15 ค่า เดือน 3 หรือ วนั มาฆบชู า งำนประเพณขี นึ้ เขำกระโดง ช่วงเดือน เม.ย. ของทุกปี ณ วนอุทยานแห่งชาติเขากระโดง ตาบลเสมด็ อ.เมืองบุรีรัมย์
งำนประเพณขี นึ้ เขำพนมรุ้ง เดือนเมษายน ของทุกปี (วนั เพญ็ เดือนหา้ ) ณ อุทยานประวตั ิศาสตร์พนมรุ้ง อ.เฉลิม พระเกียรติ งำนเคร่ืองเคลอื บพนั ปี ช่วงเดือน เม.ย. ของทุกปี ที่ หนา้ ที่วา่ การอาเภอ อ.บา้ นกรวด ในงานมีการจดั ขบวน นางรา ขบวนเครื่องเคลือบจาลอง การขายผลิตภณั ฑช์ ุมชนจากทุกๆตาบลในเขตอาเภอ บา้ นกรวด งำนประเพณบี ุญบ้งั ไฟ ประมาณสิ้นเดือน พ.ค. - ตน้ เดือน มิ.ย. ของทกุ ปี ท่ีบา้ นหนองบวั ลี-หนองบวั ลอง ต. ไทยสามคั คี อ.หนองหงส์ งำนสืบสำนประเพณี ของดโี นนสุวรรณ จดั ข้ึนช่วงเดือน พ.ค. - มิ.ย. ของทุกปี ณ บริเวณที่วา่ การ อาเภอโนนสุวรรณ ซ่ึงเป็น งานมีการสืบสานประเพณีบุญบ้งั ไฟ จดั การแขง่ ขบวนเซิ้งบ้งั ไฟ และมีการนาเสนอ ของดีโนนสุวรรณท่ีหลากหลาย อาทิ ผา้ ไหม ผลไม้ เพราะโนนสุวรรณถือวา่ เป็นแหล่ง ผลไมส้ าคญั ของจงั หวดั อาทิ เงาะ ทุเรียน ฝรั่ง ฯลฯ ทาใหผ้ มู้ าเที่ยวงานสามารถเลือก ซ้ือผลไม้ และสินคา้ ผลิตภณั ฑช์ ุมชนไดจ้ ากผผู้ ลิตโดยตรง งำนปรำงค์ก่สู วนแตงและประเพณบี ุญบ้ังไฟ จดั ข้ึนช่วงเดือน พ.ค.ของทุกปี ณ บริเวณ ปรางคก์ ่สู วนแตง อาเภอบา้ นใหม่ไชยพจน์ ภายในงานมีการประกวดขบวนบ้งั ไฟสวยงาม การประกวดขบวนเซิ้ง การนาเสนอ
ผลิตภณั ฑช์ ุมชน และการแสดงแสงสีเสียง เล่าเรื่องราวปรางคก์ ่สู วนแตง โบราณสถาน ที่สาคญั ของบุรีรัมย์ ประเพณแี ข่งเรือยำว วนั เสาร์-อาทิตยแ์ รก ของเดือน พ.ย. ที่ลาน้ามลู ที่ท่ีวา่ การ อ.สตึก งำนวนั หอมแดง แข่งเรือยำว ชำวหนองหงส์ ช่วงประมาณเดือน ธ.ค. ของทุกปี - มี.ค. ของปี ถดั ไป ที่หนอง สระแกว้ อ.หนองหงส์ กล่มุ ชาตพิ นั ธ์ุ ประชากรในจงั หวดั บุรีรัมย์ ประกอบดว้ ยชาวไทยเขมร ไทยลาว ไทยโคราช และไทย ส่วย มีภาษาพดู ท่ียงั ใชอ้ ยใู่ นปัจจุบนั สี่ภาษาดว้ ยกนั ดงั น้ี กลุ่มไทยอีสาน (ลาวร้อยเอด็ หรือลาวตะวนั ตก) [9] มีคนใชอ้ ยปู่ ระมาณร้อยละ ๕๐ มี ใชม้ ากในอาเภอ อาเภอลาปลายมาศ อาเภอพุทไธสง อาเภอบา้ นใหม่ไชยพจน์ อาเภอ นาโพธ์ิ อาเภอหนองหงส์ และบางส่วนของ อาเภอสตึก อาเภอโนนดินแดง อาเภอโนน สุวรรณ อาเภอหนองก่ี อาเภอคเู มือง อาเภอปะคา อาเภอเมืองบุรีรัมย์ กลุ่มไทยเขมร มีคนใชอ้ ยปู่ ระมาณร้อยละ ๑๘ อาเภอพลบั พลาชยั อาเภอหว้ ยราช อาเภอประโคนชยั อาเภอกระสงั อาเภอบา้ นกรวด และบางส่วนของ อาเภอเมือง บุรีรัมยก์ ลุ่มไทยโคราช มีคนใชอ้ ยปู่ ระมาณร้อยละ ๓๐ ใชม้ ากในอาเภอ อาเภอนางรอง อาเภอละหานทราย อาเภอปะคา อาเภอชานิ อาเภอหนองก่ี และบางส่วนของอาเภอ เมืองบุรีรัมย์
กลุ่มไทยส่วยหรือไทยกวย มีคนใชอ้ ยเู่ ลก็ นอ้ ยประมาณร้อยละ ๒ ในพ้ืนท่ีบางส่วน ของ อาเภอสตึก อาเภอบา้ นด่าน อาเภอหว้ ยราช อาเภอประโคนชยั อาเภอหนองก่ี และ อาเภอหนองหงส์
Search
Read the Text Version
- 1 - 33
Pages: