ประวตั ิ 3 ผูน้ ำระดบั โลก จดั ทำโดยนำงสำวอลษิ ำ สระเกตุ ปวส.2.5 คอมพิวเตอรธ์ รุ กจิ
ประธานาธิบดขี องบารัก โอบามา Barack Obamaดำรงตำแหน่งประธำนำธิบดีสหรัฐอเมริกำ
ระหว่ำงที่กำลังศึกษำอยู่ระดับไฮสคลู น้ัน เขำยอมรับว่ำเคยเสพกัญชำ,โคเคน และเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ ซึ่งเขำเปิดเผยท่ีเวทีประชุมพลเมืองสำหรับประธำนำธิบดีปี 2008 ถือว่ำเป็นควำมล้มเหลวเกี่ยวกับศีลธรรมควำมดีงำน โอบำมำสำเรจ็ กำรศกึ ษำระดับปรญิ ญำตรีจำกมหำวิทยำลยั เหมอื งแร่ในปี 1983 และได้เข้ำทำงำนในบริษัทธุรกิจระหว่ำงประเทศและกลุ่มวิจัยสำธำรณประโยชน์แห่งนิวยอรก์ หลังจำก 4 ปที อ่ี ยู่ในนวิ ยอร์ก โอบำมำย้ำยไปอยู่ท่ีชิคำโก เขำได้รับกำรจ้ำงเป็นผู้อำนวยกำรโครงกำรพัฒนำชุมชน(DCP) ซ่ึงเป็นองค์กรชุมชนริเร่ิมต้ังจำกศำสนำ ซ่ึงประกอบด้วย 8 โบสถ์คำทอลิก ในโลสแลนด์ พูลแมนตะวันตก และ ริเวอร์เดล ในด้ำนใต้ของเมอื งชิคำโก และเขำไดท้ ำงำนท่ีน่นั เป็นเวลำ 3 ปี ตง้ั แต่เดอื นมถิ ุนำยน ค.ศ.1985 จนถึง เดือนพฤษภำคม ค.ศ. 1988ระหว่ำงที่เขำทำงำนอยู่ 3 ปีในตำแหน่งผู้อำนวยกำรโครงกำรพัฒนำชุมชน (DCP) ผู้ร่วมงำนได้เพ่ิมขึ้นจำก 1 คน เป็น 13 คน และงบประมำณประจำปี เพ่ิมขึ้นจำกปีละ 7 หมื่นดอลลำร์สหรัฐ เป็น 4 แสนดอลลำร์สหรัฐ โดยมีกำรช่วยเหลือเกี่ยวกับโปรแกรมกำรฝึกอบรม, กำรกวดวิชำเพ่ือเตรียมเข้ำมหำวิทยำลัย และองค์กรสิทธิของผู้เช่ำท่ีดินในแอลเจลด์กำร์เดนส์ (Altgeld Gardens)โอบำมำยังได้ทำงำนเป็นท่ีปรึกษำและผู้สอนในมูลนิธิกำมำลีล (GamalielFoundation) ซ่ึงเป็นสถำบันหน่ึงเก่ียวกับองค์กรชุมชนในกลำง ค.ศ.1988 เขำได้เดินทำงไปยุโรปเป็นคร้ังแรกเป็นเวลำ 3 สัปดำห์และไปเคนยำ5 สัปดำห์ ซง่ึ เขำไดพ้ บญำติ ๆ ชำวเคนยำหลำยคนเปน็ ครั้งแรกดว้ ยจำกน้ัน
เขำจึงเรียนต่อด้ำนกฎหมำยที่มหำวิทยำลัยฮำร์เวิร์ดใน ค.ศ. 1988 ส้ินปีแรกเขำได้รับคัดเลือกจำกกำรแข่งขันในกำรเขียนและเกรดของกำรเรียนให้เข้ำมำเป็นบรรณำธิกำรคนหน่ึงของวำรสำร Harvard Law Review[พอขึ้นปีท่ีสอง ในเดือนกุมภำพันธ์ ค.ศ. 1990 เขำได้รับคัดเลือกเป็นประธำนของ Harvard Law Review ในตำแหน่งหัวหนำ้ บรรณำธกิ ำร(อำสำสมคั รเต็มเวลำ) และกำกับควบคุมนักเขียนถึง 80 คนโอบำมำเป็นชำวผิวดำคนแรกท่ีได้รับคัดเลือกเป็นประธำนของ Law Review ข่ำวกำรคัดเลือกได้มีกำรรำยงำนในวงกว้ำง ตำมด้วยประวัติส่วนตัวที่ละเอียดในส่ือระดับประเทศ ระหว่ำงฤดูร้อน เขำได้กลับไปชิคำโก ซึ่งเขำทำงำนเป็นทนำยควำมฝึกงำนช่วงปิดภำคฤดูร้อน ที่สำนักงำนกฎหมำยของ Sidley& Austin ใน ค.ศ. 1989 และ Hopkins & Sutter ใน ค.ศ. 1990หลังจำกจบปริญญำกฎหมำย Juris Doctor จำกมหำวิทยำลัยฮำร์เวิร์ดในปี 1991จำกนั้นเขำก็ย้ำยกลับไปชิคำโกและเร่ิมเขียนหนังสือเล่มแรกช่ือ Dreamsfrom My Father ตีพมิ พ์ครงั้ แรกในปี 1995 ชว่ งปี 1993 และ 2002 โอบำมำเข้ำทำงำนเป็นผู้ช่วยในคณะกรรมกำรบริหำรกองทุนไม้แห่งชิคำโก องค์กรที่ช่วยจัดสรรเงินทุนให้แก่ประชำชนและชุมชนท่ีถูกเอำรัดเอำเปรียบเปรียบในชิคำโก ต่อมำในปี 1999 ก็ได้เข้ำเป็นหน่งึ ในคณะกรรมกำรบรหิ ำรดว้ ยควำมชว่ ยเหลือของบิล อำเยอร์ส ต่อมำเขำก็รับงำนสอนนอกเวลำที่วิทยำลัยกฎหมำย มหำวิทยำลัยชิคำโก โอบำมำสอนวิชำกฎหมำยรัฐธรรมนูญ รวมเวลำ 12 ปี เป็นอำจำรย์มหำวิทยำลัย 4 ปี (1992-1996) และเปน็ อำจำรย์มหำวทิ ยำลยั อำวโุ สถึง 8
ปี (1996-2004)และเขำยังได้ร่วมกับ เดวิด ไมเนอร์ บำร์นฮิลล์ และกัลแลนด์ ที่เป็นบริษัททนำยควำมมีเชี่ยวชำญด้ำนกำรต่อสู้คดีในช้ันศำล และกำรพัฒนำเศรษฐกิจเพ่ือนบ้ำน โอบำมำเป็นสมำชิก 3 ปี (1993-1996) จึงลำออก โอบำมำ เคยเป็นสมำชิกสรรหำของบอร์ดบริหำรแห่งพันธมิตรสำธำรณะใน ค.ศ. 1992 และได้ลำออกไปก่อนที่ มิเชล ภรรยำของเขำจะเข้ำมำเป็นผู้อำนวยกำรใหญ่ของพันธมิตรสำธำรณะแห่งชิคำโกในต้น ค.ศ.1993และยังเป็นสมำชิกของบอร์ดบริหำรหลำยที่ เช่น สภำทนำยควำมเพื่อสทิ ธิ
ประวัตกิ ำรเมอื งสมำชิกสภำนติ ิบัญญัติ, 1997-2004 โอบำมำได้รับเลือกให้เป็นสมำชิกวุฒิสภำแห่งรัฐอิลลินอยส์ใน ค.ศ.1996 แทนท่ตี ำแหน่งของวุฒิสมำชิก อลซิ กรำบเดโช จำกเขตปกครองท่ี 13เมื่อได้รับเลือกตั้งแล้ว โอบำมำก็ได้รับกำรสนับสนุนจำกผู้สนับสนุนพรรคกำรเมืองทั้ง 2 พรรคใหญ่ให้มีกำรปฏิรูปกฎหมำยจริยธรรมและสุขภำพ เขำสนับสนนุ กฎหมำยบรรจุเรือ่ งกำรเพม่ิ เครดติ ภำษใี หแ้ ก่แรงงำนผู้มีรำยได้ตำ่เจรจำเรื่องกำรปฏิรูปสังคมสงเครำะห์ และเพ่ิมเงินสมทบสำหรับกำรดูแลเด็กเล็ก ใน ค.ศ. 2001 เป็นประธำนร่วมในเร่ืองของกฎหมำยว่ำด้วยกำรปกครอง เขำสนบั สนุนกฎระเบียบทเ่ี สนอโดยผวู้ ่ำกำรรัฐ Ryan เพื่อควบคุมเงินกู้ใช้จ่ำยระหว่ำงเงิน และกำรให้จำนองที่เอำเปรียบ เพ่ือลดปัญหำบ้ำนถูกยึด ต่อมำ โอบำมำได้รับเลือกให้เป็นสมำชิกวุฒิสภำแห่งรัฐอิลลินอยส์อีกคร้ังใน ค.ศ. 1998และอีกคร้ังหน่ึงใน ค.ศ. 2002 ส่วนใน ค.ศ. 2000 นั้นเขำแพ้กำรเลือกตั้งแบบไพรแมรีเพื่อชิงตำแหน่งสมำชิกสภำผู้แทนรำษฎรสหรฐั ตอ่ บอบบี รชั เจำ้ ของตำแหน่งคนเก่ำด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 2 ต่อ ในเดือนมกรำคม ค.ศ. 2003 โอบำมำได้เป็นประธำนคณะกรรมกำรบริกำรสุขภำพและมนุษยแ์ ห่งสมำชิกวุฒิสภำแห่งรัฐอิลลินอยส์ ซึ่งตอนนั้นพรรคเดโมแครต ได้ก้ำวขึ้นมำเป็นผู้นำประเทศอีกครั้ง[39] หลังจำกต้อง
ตกเปน็ รองอย่นู ำนนับทศวรรษ ในระหว่ำงกำรเลือกตง้ั ทั่วไปใน ค.ศ. 2004เพ่ือหำวุฒิสมำชิกสหรัฐน้ัน ตัวจำกแทนตำรวจได้ให้เครดิตกับโอบำมำอย่ำงมำก ในกรณีที่เขำเป็นผู้ริเร่ิมให้มีกำรปฏิรูปกฎหมำยกำรประหำรชีวิตโอบำมำจึงลำออกจำกสมำชิกวุฒิสภำแห่งรัฐอิลลินอยส์ในเดือนพฤศจิกำยน ค.ศ. 2004 และได้เร่ิมหำเสียงเพื่อรับกำรเลือกตั้งเป็นสมำชิกวุฒิสภำสหรัฐ จนกระท่ังในปี 2004 เขำก็ได้รับเลือกให้เป็นวุฒิสมำชิกของสหรัฐ
เลือกตัง้ สมำชิกวุฒิสภำ ปี 2004กลำง ค.ศ. 2002 โอบำมำเริ่มคิดถึงเรื่องกำรเป็นสมำชิกวุฒิสภำสหรัฐหลังจำกที่เลือก เดวิด คอปเปอร์ฟีล มำเป็นที่ปรึกษำวำงกลยุทธทำงกำรเมือง โอบำมำจึงได้ประกำศเสนอตัวเข้ำชิงตำแหน่งในเดือนมกรำคมค.ศ. 2003 กเ็ ปน็ กำรเปดิ โอกำสกวำ้ งใหแ้ กผ่ ู้สมัครจำกท้งั พรรคเดโมแครตและพรรคริพับลิกันได้เข้ำมำหำเสียงเพ่ือชิงตำแหน่งน้ีซ่ึงมีผู้สมัครรวม 15คนกำรเสนอตัวเข้ำชิงตำแหน่งของโอบำมำได้รับแรงสนบั สนนุ จำกแอกเซลรอดอย่ำงมำกที่ช่วยหำเสียง ช่วยประชำสัมพันธ์โดยใช้ภำพจำก ฮำโรลด์วอชิงตัน อดีตนำยกเทศมนตรีเมืองชิคำโกที่ล่วงลับไปแล้ว ตลอดจนกำรรับรองจำกลูกสำวของพอล ซิมอน นักกำรเมอื งคนสำคัญของอเมริกำและอดีตวุฒิสมำชิกสหรัฐตัวแทนรัฐอิลลำนอยส์ ทำให้โอบำมำได้รับคะแนนเสียงถึงร้อยละ 52 ในกำรเลือกต้ังครั้งแรกเม่ือเดือนมีนำคม ค.ศ. 2004และยังนำคู่แข่งจำกพรรคเดโมแครตด้วยกันเองถึงร้อยละ 29 เลยทีเดียวจนกระทั่งได้เป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครตเพื่อชิงชัยตำแหน่งอันทรงเกียรติแห่งรัฐอิลลินอยส์แห่งน้ี แต่ต่อมำ คู่แข่งคนสำคัญของโอบำมำคือแจ็ค ไรอัน ผู้ชนะกำรเลือกต้ังแบบครั้งแรกจำกพรรคริพับลิกัน ได้ประกำศถอนตัวจำกกำรแข่งขันเมื่อเดือนมิถุนำยน ปี 2004 เดือนกรกฎำคม ปี2004 โอบำมำได้กล่ำวสุนทรพจน์สำคัญในกำรประชุมพรรคเดโมแครตระดับชำติประจำปี 2004 ท่ีเมืองบอสตัน รัฐแมสซำชูเซตส์ โอบำมำเล่ำถึงประสบกำรณ์ของผู้เป็นตำของเขำได้ผ่ำนประสบกำรณ์ในสงครำมโลกครั้งที่
2มำในฐำนะทหำรผ่ำนศึก และสิทธิประโยชน์ที่ได้รับจำก เคหะแห่งชำติ(New Deal's FHA) โครงกำรสำหรับทหำรผ่ำนศึก (G.I. Bill) จำกน้ันเขำได้กล่ำวถึงเรื่องกำรเปล่ียนแปลงลำดับควำมสำคัญของเศรษฐกิจและสังคมของรัฐบำลสหรัฐ เขำได้ตั้งคำถำมถึงกำรบริหำรงำนในช่วงสงครำมอิรักของประธำนำธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช และเน้นในประเด็นหน้ำที่ของอเมริกำที่พึงมีต่อทหำรของประเทศ โอบำมำได้ยกตัวอย่ำงประวัติศำสตร์อเมริกำ ได้วิพำกษ์วิจำรณ์ผู้มีสิทธ์ิเลือกต้ังท่ีถือพวกอย่ำงหนัก และได้ขอร้องให้อเมริกนั ชนหันมำฝกั ใฝค่ วำมสำมคั คีท่ำมกลำงควำมหลำกหลำยโดยได้กล่ำวสุนทรพจน์ไว้ว่ำ \"ประเทศนี้ไม่มีอเมริกำเสรีนิยมกับอเมริกำอนุรักษนิยม มเี พียงประเทศสหรัฐ\" (\"There is not a liberal Americaand a conservative America; there's the United States ofAmerica.) สนุ ทรพจนส์ ่วนนี้ ได้มกี ำรเผยแพรท่ ำง PBS, CNN, MSNBC,Fox News และ C-SPAN แก่ผู้ชม 9.1 ล้ำนคน ทำให้สถำนะและภำพลักษณ์ทำงกำรเมืองของโอบำมำดีขึ้นมำก ทำให้เขำได้รับควำมนิยมขึ้นอย่ำงล้นหลำม ในกำรเลอื กต้ังสมำชกิ วฒุ ิสภำสหรฐั ครงั้ น้ีในเดือนสิงหำคม ค.ศ. 2004 เหลือเวลำอีกไม่ถึง 3 เดือนจะถึงวันเลอื กตัง้ คนี ู ลฟี ์ ได้เขำ้ มำเป็นตัวแทนจำกพรรคริพับลกิ นั ในกำรชิงตำแหนง่สมำชิกวุฒิสภำแห่งรัฐอิลลินอยส์ แทนที่ ไรอัน ท่ีได้ถอนตัวไปก่อนหน้ำนี้คีส์น้ันแต่เดิมมีบ้ำนอยู่ในรัฐแมริแลนด์ แต่เขำก็ได้ย้ำยทะเบียนบ้ำนมำอยู่ในรัฐอิลลินอยส์เพื่อกำรเลือกต้ังคร้ังนี้แต่สุดท้ำยแล้ว ในกำรเลือกตั้งทั่วไปเม่ือเดือนพฤศจิกำยน ค.ศ. 2004 โอบำมำได้รับคะแนนเสียงถึงร้อย
ละ 70 ขณะท่ีคีส์ได้คะแนนเสียงไปเพียงร้อยละ 27 เท่ำน้ัน ชัยชนะอันท่วมท้นของโอบำมำคร้ังนี้ถือเป็นชัยชนะคร้ังย่ิงใหญ่ ที่มีควำมต่ำงของคะแนนมำกทส่ี ุด ในประวตั ศิ ำสตร์กำรเลือกตั้งของรัฐอิลลนิ อยสเ์ ลยทเี ดยี ว
วันแรกทเ่ี ข้ำรับตำแหนง่โอบำมำเข้ำรับตำแหน่งประธำนำธิบดีเมื่อวันที่ 20 มกรำคม ค.ศ. 2009 โจไบเดิน เป็นรองประธำนำธิบดี หลังจำกท่ีทำงำนได้เพียงไม่ก่ีวัน เขำได้ออกคำสั่ง (Executive Order) และออกเอกสำรบันทึกควำมเข้ำใจประธำนำธิบดี (Presidential Memorandum) บญั ชำกำรกองทพั สหรัฐฯโดยตรงเพ่ือพัฒนำแผนกำรถอนกำลังทหำรออกจำกอิรัก และออกคำส่ังให้ปิดค่ำยกักขังนักโทษกวนตำนำโมทันทีและให้แล้วเสร็จไม่เกินเดือนมกรำคม ค.ศ. 2010 ยิ่งไปกว่ำน้ัน โอบำมำยังได้ปรับปรุงกำรเก็บรักษำข้อมูลลับของประธำนำธิบดีและปรับเปล่ียนวิธีนำเสนอข่ำวสำรที่สำมำรถเปิดเผยได้ ภำยใต้รัฐบัญญัติข้อมูลข่ำวสำรสหรัฐ ( Freedom ofInformation Act).[127] และดำเนินนโยบำยสนับสนุนกำรทำแทง้
นโยบำยในประเทศวันที่ 29 มกรำคม 2009 โอบำมำลงนำมในกฎหมำย “ลิลลี เลดเบทเทอร์แฟร์ เพย์” (The Lilly Ledbetter Fair Pay Act) ซ่ึงยกเลิกคำตัดสินของศำลในคดที ่ี ลลิ ลี เลดเบทเทอร์ ฟอ้ ง บริษัท กู้ดเยียร์ ไทร์ แอนด์ รบั เบอร์โค. (Goodyear Tire & Rubber Co.) และช่วยใหก้ ำรเก็บเอกสำรแยกแยะคดีฟ้องร้องในเรื่องกำรจ้ำงงำนให้สะดวกยิ่งข้ึน 5 วันต่อมำ เขำลงนำมในระเบยี บวำระประกันสุขภำพเดก็ (SCHIP) ทำใหเ้ ดก็ อีกจำนวน 4 ล้ำนคนในปัจจบุ ันได้รับกำรประกนั สขุ ภำพโดยท่วั ถงึ กันในเดือนมีนำคม 2009 โอบำมำยกเลิกนโยบำยสมัยประธำนำธิบดีจอร์จดับเบิลยู. บุช ที่กีดขวำงไม่ให้งบจำกรัฐบำลกลำงมำใช้เป็นทุนสำหรับงำนวิจัยสเต็มเซลล์ แม้ว่ำจะมีผู้วิจัยบำงคนออกมำโต้แย้งในเรื่องน้ี เขำแถลงออกไปวำ่ \"เรอ่ื งวทิ ยำศำสตร์กับเร่ืองศีลธรรมเป็นคนละเร่อื งกนั ...เรำมีมนุษยธรรมและคุณธรรมที่จะติดตำมงำนวิจัยน้ีโดยรับผิดชอบ\" และให้คำมัน่ สัญญำวำ่ จะพฒั นำนโยบำยนีใ้ หส้ มบูรณ์วันท่ี 26 พฤษภำคม 2009 โอบำมำเสนอช่ือ โซเนีย โซโตเมเยอร์ เป็นผู้พิพำกษำศำลสูงสุดสหรัฐแทนท่ี เดวิด ซูเตอร์ ท่ีลำออกไป โซโตเมเยอร์ได้รับกำรรับรองเมื่อวันที่ 6 สิงหำคม 2009 ด้วยจำนวนเสียง 68-31เธอกลำยเป็นชำวสเปนคนแรกท่ีได้เป็นผู้พิพำกษำศำลสงู สุด เธอเข้ำร่วมกับ รุธ
เบเดอร์ จินสเ์ บิร์ก หนึ่งในจำนวนผู้หญิง 2 คนและเป็นผู้หญิงคนที่ 3 ทีเ่ ป็นผพู้ พิ ำกษำตลอดมำวันที่ 30 กนั ยำยน 2009 รัฐบำลโอบำมำประกำศขอ้ บังคบั เร่ืองพลังงำนพืช, โรงงำนและโรงกลั่นน้ำมันให้จำกัดมลภำวะเรือนกระจกเพื่อช่วยลดปรำกฏกำรณ์โลกรอ้ น
กำรจดั กำรเศรษฐกิจวันที่ 17 มกรำคม 2009 โอบำมำลงนำมในแผนกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ787 พันล้ำนดอลลำร์สหรฐั เป็นกฎหมำย เพื่อชว่ ยฟ้ืนฟเู ศรษฐกิจจำกภำวะเศรษฐกิจถดถอยท่ัวโลก กฎหมำยฉบับนี้ครอบคลุมถึงกำรใช่จ่ำยจำกส่วนกลำงสำหรับประกันสุขภำพ, สำธำรณูปโภคข้ันพื้นฐำน, กำรศึกษำ,ภำษีต่ำง ๆ และส่ิงชักจูงอื่น ๆ และช่วยเหลือไปท่ีปัจเจกบุคคลโดยตรงซ่ึงกำลังกระจำยไปตลอดหลำยปีในเดอื นมีนำคม ทโิ มธี ไกธเ์ นอร์ รมว.คลงั สหรัฐฯ ไดก้ ้ำวล้ำไปอีกข้นั หน่ึงในกำรจัดกำรกับวิกฤติกำรณ์กำรเงิน รวมไปถึงกำรนำเสนอกองทุนกำรร่วมลงทุนของภำครัฐและเอกชน หรือ Public-Private InvestmentProgram (PPIP) เพ่ือซื้อคืนหนี้เสีย (Legacy. Assets) จำกสถำบันกำรเงิน วันท่ี 23 มนี ำคม หนังสอื พิมพ์นิวยอร์กไทม์ บันทึกไว้ว่ำ \"ผู้ลงทุนมีปฏิกิริยำท่ีปีติยินดีอย่ำงเหลือล้นกับดัชนีตลำดหลักทรัพย์ขนำดใหญ่ที่ถีบตัวสงู ขนึ้ เชน่ เดยี วกบั ตลำดเปดิ \"โอบำมำเข้ำแทรกแซงวิกฤตกำรณอ์ ุตสำรหกรรมยำนยนต์ ในเดิอนมีนำคมต่อสัญญำเงินกู้ให้แก่บริษัทเจเนรัลมอเตอร์ และ ไครสเลอร์ คอปอเรชันเพื่อให้ดำเนินกิจกำรเป็นไปอย่ำงต่อเนื่องในขณะท่ีมีกำรวำงนโยบำยใหม่ตลอดหลำยเดือนท่ีผ่ำนมำทำเนียบขำวจัดให้ท้ังสองบริษัทอยู่ในสถำนะล้มละลำย รวมไปถึงกำรขำยกิจกำรของไครสเลอร์ให้แก่เฟียท และกำร
ปรับปรงุ ของบริษัทเจเนรัลมอเตอร์เป็นกำรให้ผลประโยชน์ชวั่ ครำวที่ยุตธิ รรมต่อรฐั บำลสหรัฐ 60% รฐั บำลแคนำดำรับภำระ 12%ในเดือนมิถนุ ำยน 2009ควำมก้ำวหน้ำของตัวกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นไปอย่ำงไม่พียงพอ โอบำมำเรียกร้องให้รัฐบำลรีบเร่งลงทุน เขำลงนำมเป็นกฎหมำยใน Cash ForClunkers หรือที่รู้จักกันในชื่อ CARS-Car Allowance RebateSystem มผี ลบังคบั ใช้เปน็ กฎหมำยสมบรู ณ์ เป็นกำรกระตุ้นตลำดรถยนต์สหรัฐ และเพิ่มควำมสนใจให้แกค่ นอเมรกิ ันในกำรหันมำเปลี่ยนรถยนตใ์ หม่ซ่ึงมีอัตรำ ควำมสิ้นเปลืองน้ำมันเช้ือเพลิงลดลง และมีระดับกำรสร้ำงมลพิษในอำกำศน้อยกว่ำรถยนตร์ ุ่นเกำ่ ๆ และแคมเปญน้ีเพิ่งส้ินสุดไปเมื่อวนั ท่ี 25 สงิ หำคม 2009
วลำดมี รี ์ วลำดมี โี รวชิ ปตู นิดำรงตำแหน่ง ประธำนำธิบดีรสั เซยี
ประวตั ิเป็นนกั กำรเมืองชำวรัสเซยี ผู้ดำรงตำแหน่ง ประธำนำธิบดีรสั เซยี คนทีส่ ี่และคนปัจจุบัน เช่นเดียวกับประธำนพรรคยูไนเต็ดรัสเซียและประธำนสภำรฐั มนตรีสหภำพรัสเซยี และเบลำรุส เขำรักษำกำรตำแหน่งประธำนำธิบดีเมื่อวันที่ 31 ธันวำคม ค.ศ. 1999 เมอื่ ประธำนำธิบดีบอริส เยลตซ์ นิ ลำออกจำกตำแหน่งในกำรเคลื่อนไหวอันน่ำประหลำดใจ ปูตินชนะกำรเลือกตั้งประธำนำธิบดีในปี 2000 และในปี 2004 เขำไดร้ ับเลือกต้ังกลับมำเป็นสมัยท่ีสอง ซึ่งเขำดำรงตำแหน่งถึงวันที่ 7 พฤษภำคม 2008เพรำะถูกจำกัดสมัยกำรดำรงตำแหน่งตำมรัฐธรรมนูญ ปูตินจึงไม่มีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธำนำธิบดีสมัยที่สำม หลังชัยชนะของผู้สืบทอดเขำ ดมีตรีเมดเวเดฟ ในกำรเลือกต้ังประธำนำธิบดี ค.ศ. 2008 เมดเวเดฟได้เสนอช่ือปูตินเป็นนำยกรัฐมนตรีของรัสเซีย ปูตินดำรงตำแหน่งเม่ือวันที่ 8พฤษภำคม 2008 ในเดอื นกันยำยน 2011 ปูตนิ และเมดเวเดฟตกลงกันว่ำปูตินจะลงสมัครรับเลือกต้ังเป็นประธำนำธิบดีสมัยที่สำมไม่ติดต่อกันในกำรเลือกต้ังปี 2012 ซ่ึงเขำชนะรอบแรกเม่ือวันท่ี 4 มีนำคม 2012ปูตินได้รับช่ือเสียงว่ำนำพำเสถียรภำพทำงกำรเมืองระหว่ำงกำรดำรงตำแหน่งประธำนำธิบดีของเขำ เศรษฐกิจรัสเซียเติบโตขึ้นเก้ำปีต่อเน่ือง เห็นได้จำกจีดีพีแบบอำนำจซื้อ เพ่ิมข้ึน 72% (หกเท่ำในรำคำตลำด) ควำมยำกจนลดลง
มำกกวำ่ 50%และคำ่ จ้ำงรำยเดอื นเฉลยี่ เพิ่มขน้ึ จำก 80 เป็น 640 ดอลลำร์สหรัฐ ควำมสำเร็จน้ีคำดว่ำมำจำกกำรจัดกำรเศรษฐกิจมหภำค กำรปฏิรูปนโยบำยกำรคลงั อย่ำงสำคญั และประจวบกบั รำคำนำ้ มันท่ีสูง กำรไหลบำ่ เข้ำมำของทุนและกำรเข้ำถึงเงินทุนภำยนอกรำคำถูกเพิ่มขึ้นอย่ำงเฉียบพลันซึ่งนักวิเครำะห์อธิบำยว่ำ น่ำประทับใจ ระหว่ำงดำรงตำแหน่ง ปูตินผ่ำนกฎหมำยปฏริ ูปข้ันพื้นฐำนหลำยฉบับ รวมทั้งภำษีเงินได้อัตรำเดยี ว กำรลดภำษกี ำไร และประมวลที่ดินและกฎหมำยใหม่ เขำทุ่มเทควำมพยำยำมอย่ำงมำกในกำรพัฒนำนโยบำยพลังงำนของรัสเซีย โดยยืนยันตำแหน่งของรัฐเซียเป็นอภิมหำอำนำจด้ำนพลังงำน ซึ่งรวมถึงกำรฟื้นฟูอุตสำหกรรมนิวเคลียร์ในประเทศและกำรริเร่ิมกำรก่อสร้ำงท่อส่งออกหลักหลำยแห่งรวมทั้งเอสโปและนอร์ดสตรีม เช่นเดียวกับเมกะโปรเจกต์อื่น ๆ ในรัสเซียขณะท่ีกำรปฏิรูปและพฤติกำรณ์หลำยอย่ำงระหว่ำงท่ีเขำดำรงตำแหน่งประธำนำธิบดีถูกวิจำรณ์โดยผู้สังเกตกำรณ์ตะวันตกและผู้ต่อต้ำนภ ำ ย ใ น ป ร ะ เ ท ศ ว่ ำ ไ ม่ เ ป็ น ป ร ะ ช ำ ธิ ป ไ ต ย ก ำ ร ดู แ ล ก ำ ร ฟ้ื น ฟู ร ะ เ บี ย บ แ ล ะเสถียรภำพของปูตินทำให้เขำได้รับควำมนิยมในสังคมรัสเซีย ปูตินมักสนับสนุนภำพลักษณ์ชำยทรหดในสื่อ โดยแสดงควำมสำมำรถทำงกำยของเขำและเข้ำร่วมในกิจกรรมวิสำมัญหรืออันตรำย เช่น กีฬำเอกซ์ตรีมและปฏิสัมพันธ์กบั สัตว์ป่ำ ปูตินเป็นนักยูโดและนกั กีฬำแซมโบ เคยเป็นแชมป์เลนินกรำดสมัยวัยเยำว์ ปูตินมีส่วนสำคัญในกำรพัฒนำกีฬำรัสเซีย ท่ีโดดเด่นคือ ช่วยให้นครโซชีชนะกำรประกวดเป็นเจ้ำภำพจัดกำรแข่งขันกีฬำ
โอลิมปิกฤดูหนำว 2014 นอกจำกนี้ นิตยสำรฟอบส์ได้จัดอันดับให้เป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลมำกท่ีสุดในโลกในปี 2013 ถึง 2015 โดยฟอบส์ได้อธิบำยว่ำเขำเป็น \"บรุ ุษเพยี งไม่กค่ี นของโลกทท่ี รงอทิ ธิพลพอจะทำอะไรก็ได้ตำมท่ตี อ้ งกำร\"
นำยกรัฐมนตรีครงั้ แรก (1999)ในวันท่ี 9 สิงหำคม 1999 ปูตินได้รับกำรแต่งต้ังจำกประธำนำธิบดี บอริสเยลต์ซิน ให้เป็นรองนำยกรัฐมนตรีลำดับที่หนึ่งจำกสำมลำดับ และภ ำ ย ห ลั ง ใ น วั น เ ดี ย ว กั น น้ั น ไ ด้ รั บ แ ต่ ง ตั้ ง ใ ห้ รั ก ษ ำ ก ำ ร ใ น ต ำ แ ห น่ งนำยกรัฐมนตรีรสั เซีย ซ่งึ ประธำนำธิบดเี ยลตซ์ นิ ไดป้ ระกำศดว้ ยวำ่ เขำอยำกเห็นปูตินเป็นผู้สืบทอดทำงกำรเมืองต่อจำกเขำ หนึ่งสัปดำห์ให้หลัง สภำล่ำงได้มีเห็นชอบกำรแต่งต้ังปูตินเป็นนำยกรัฐมนตรี ด้วยคะแนนข้ำงมำก233 เสียง (คัดค้ำน 84 เสียง, งดออกเสียง 17 เสยี ง)ซ่งึ ทำให้ปูตินกลำยเป็นผู้ที่ได้ดำรงตำแหน่งนำยกรัฐมนตรีหลังอยู่บนเส้นทำงกำรเมืองระดับชำติได้เพียง 18 เดือน ซึ่งในตอนท่ีเขำได้รับแต่งต้ังนั้น เขำแทบจะไม่เป็นที่รจู้ ักของสำธำรณชนมำก่อน และผ้คู นไมค่ ำดหวังอะไรกับเขำมำกนักท่ีติดภำพลักษณ์เป็นเด็กเส้นของเยลต์ซิน แล้วก็เหมือนกับนำยกฯคนอ่ืนๆของเยลต์ซิน ปูตินไม่ได้เป็นคนเลือกสมำชิกคณะรัฐมนตรีด้วยตัวเองค ณ ะ รั ฐ ม น ต รี ข อ ง เ ข ำ ถู ก เ ลื อ ก ม ำ โ ด ย ป ร ะ ธ ำ น ำ ธิ บ ดี ส ข ภ ำ พ ข อ งประธำนำธิบดีเยลต์ซินย่ำแย่ลงอย่ำงกะทันหัน คู่แข่งทำงกำรเมืองของเยลต์ซินเร่ิมออกปรำศัยถึงบุคคลที่จะมำแทนที่เขำ แต่พวกเขำก็ต้องพบกับควำมยำกลำบำกเมื่อปูตินก้ำวข้ึนมำเป็นรักษำกำรประธำนำธิบดี กำรรักษำกฎหมำยและควำมสงบเรียบร้อย (law-and-order) ตลอดจนกำร
เดินหน้ำปฏิบัติกำรในสงครำมเชชเนียครั้งท่ีสองถือเป็นภำพลักษณ์ทรงศักยภำพของปูติน และนำมำซ่ึงกระแสนิยมในตัวปูตินท่ีเพิ่มขึ้นและพำให้ปูตินสำมำรถยืนอยู่เหนือคู่แข่งทำงกำรเมืองท้ังหมดได้เน่ืองจำกเขำไม่ได้กำลังสังกัดอยู่กับพรรคกำรเมืองใด ปูตินได้ให้สัญญำท่ีจะสนับสนุนพรรคเอกภำพ ซ่ึงเป็นพรรคกำรเมอื งท่ีพึ่งตั้งข้ึนใหม่และครองสัดส่วนเป็นอันดับสองของคะแนนเสียงผู้มีสิทธิเลือกตั้ง (23.3%) ในเดือนธันวำคม 1999และจะตอบแทนปตู นิ ในสภำเป็นกำรตำ่ งตอบแทน
รักษำกำรประธำนำธิบดี (1999–2000)ประธำนำธบิ ดีเยลต์ซิน ส่งมอบอำนำจสูงสุดให้แกน่ ำยกรัฐมนตรปี ูตนิ วนั ท่ี31 ธันวำคม 1999ในวันที่ 31 ธันวำคม 1999 ประธำนำธิบดีเยลต์ซินประกำศลำออกอย่ำงไม่คำดคิด ซึ่งตำมบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญทำให้ปูตินซึ่งเป็นนำยกรัฐมนตรีต้องข้ึนมำเป็นรักษำกำรประธำนำธิบดี ซ่ึงในระหว่ำงท่ีเขำเป็นรักษำกำรนี้เขำได้เดินทำงไปให้กำลังกองทหำรในเชชเนียคำส่ังประธำนำธิบดีฉบับแรกได้รับกำรลงนำมโดยปูตินในวันที่ 31 ธันวำคม 1999 โดยเป็นคำส่ังเรื่อง\" ค ำ รั บ ร อ ง แ ก่ อ ดี ต ป ร ะ ธ ำ น ำ ธิ บ ดี แ ห่ ง ส ห พั น ธ รั ฐ รั ส เ ซี ย แ ล ะ ส ม ำ ชิ กครอบครัว\"เพื่อเป็นท่ีมั่นใจได้ว่ำ \"บรรดำข้อกล่ำวหำกำรทุจริตท่ีมีต่อประธำนำธิบดีท่พี ึง่ พ้นจำกตำแหน่งไปและที่มีตอ่ ญำตขิ องท่ำน\" จะไม่ถูกสืบและดำเนินกำรต่ออีก ซึ่งประเด็นน้ีเคยถูกพุ่งเป้ำไปท่ีบริษัทก่อสร้ำงMabetex ที่มีช่ือเยลต์ซินและครอบครัวเข้ำไปพัวพัน และเม่ือกำรลำออกของเยลตซ์ นิ มีผล กำรเลือกต้ังประธำนำธบิ ดีจงึ มกี ำหนดจัดขน้ึ ใน วันท่ี 26มีนำคม 2000 ซง่ึ ปูตินชนะกำรลงคะแนนรอบแรกด้วยคะแนน 53%
กำรผนวกดนิ แดนไครเมยี และรุกรำนยเู ครนในปี ค.ศ. 2014 ประเทศยูเครนเกิดควำมวุน่ วำยและกอ่ จลำจลข้ึนเพื่อขบั ไล่ประธำนำธิบดีวิคเตอร์ ยำนูคอวิช ซ่ึงช่วงน้ีเองประธำนำธิบดีปูตินได้สั่งให้เคลื่อนกำลังทหำรสู่ไครเมียโดยข้ออ้ำงว่ำเพ่ือปกป้องผลประโยชน์และพลเมืองเชื้อสำยรัสเซียในไครเมีย กองทหำรรัสเซียสำมำรถเข้ำควบคุมไครเมยี ได้ทง้ั หมดในวนั ที่ 2 มีนำคม 2014 กำรกระทำนี้ถกู ประณำมจำกบรรดำชำติสมำชิกนำโตอย่ำงรุนแรงและมีมำตรกำรคว่ำบำตรด้ำนพลังงำนต่อรัสเซีย หลังจำกนั้นสองสัปดำห์ก็มีกำรลงประชำมติว่ำด้วยสถำนภำพของไครเมียข้ึน โดยเสียงข้ำงมำกกว่ำ 93% ของผู้มำใช้สิทธิต้องกำรให้ใครเมียแยกตวั ออกจำกยูเครนและเข้ำเป็นส่วนหน่ึงของประเทศรัสเซีย สนธิสัญญำผนวกดินแดนระหว่ำงไครเมียได้ลงนำมเมื่อวันที่ 18 มีนำคม และรัฐสภำรัสเซียให้กำรรับรองเมอื่ วันที่ 21 มนี ำคมอย่ำงไรก็ตำม สิบสำมชำติสมำชิกในคณะมนตรีควำมมั่นคงแห่งสหประชำชำติได้ลงมติให้ประกำศว่ำกำรลงประชำมตินั้นเป็นโมฆะ แต่รัสเซยี ในฐำนะสมำชิกถำวรไดใ้ ช้อำนำจยบั ยั้งและจีนงดออกเสียงแม้ญัตติจะตกไปแต่ฝ่ำยนำโตก็ไม่ลดควำมพยำยำม ในกำรประชุมสมัชชำใหญ่แห่งสหประชำชำติเม่ือวันท่ี 28 มีนำคม 2014 ได้มีมติเสียงข้ำงมำกให้ประกำศว่ำ กำรลงประชำมติดังกล่ำวเป็นโฆษะและสหประชำชำติมิอำจยอมรับกำรผนวกดินแดนไครเมียเป็นส่วนหนึ่งของ
ประเทศรัสเซีย จำกมติดังกล่ำวนำไปสู่กำรเพ่ิมมำตรกำรลงโทษต่อรัสเซียฝ่ำยนิยมรัสเซียได้แพร่เข้ำไปในภำคใต้และภำคตะวันออกของยูเครนและกลำยเป็นกองกำลังกบฎที่สนับสนุนโดยรัสเซีย จำกมำตรกำรลงโทษต่ำงๆต่อรัสเซียประกอบกับกำรท่ีรำคำน้ำมันโลกลดลงอย่ำงมำกทำให้รัสเซียเผชิญกับกับภำวะเศรษฐกิจถดถอย แต่จำกกำรที่รัสเซียเป็นคู่ค้ำอันดับสำมของสหภำพยุโรปและเป็นแหล่งพลังงำนขนำดใหญ่ของยุโรปกำรลงโทษต่อรัสเซียก็ทำให้เศรษฐกิจในยุโรปถดถอยและเผชิญกับควำมเสย่ี งด้ำนวิกฤตพลังงำน
กำรแทรกแทรงซเี รียในวันที่ 30 กันยำยน 2015 ประธำนำธิบดีปูตินได้อนุมัติให้กองทัพรัสเซียทำกำรเข้ำแทรกแทรงในสงครำมกลำงเมืองซเี รีย ภำยหลังจำกได้รับคำร้องขอสนับสนุนด้ำนกำรทหำรจำกรัฐบำลซีเรียเพื่อกำรปรำบกบฎและกลุ่มญิฮำดในซีเรีย รัสเซียเข้ำแทรกแทรงด้วยกำรทิ้งระเบิดทำงอำกำศ, กำรยิงขีปนำวุธ และใช้กำลังรบพิเศษทะลวงเข้ำจัดกำรกับกองกำลังฝ่ำยต่อต้ำนรัฐบำลซีเรีย ซ่ึงรวมถึงฝ่ำยค้ำนซีเรีย, รัฐอิสลำมอิรักและลิแวนต์ (ไอซิส)และกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงอ่ืนๆต่อมำปูตินได้ประกำศในวันท่ี 14 มีนำคม2016 ว่ำปฏิบัติกำรในประเทศซีเรียนั้น \"ประสบควำมสำเร็จอย่ำงย่ิง\" และสั่งกำรให้ถอนกองกำลังหลักของรัสเซียออกจำกซีเรียแต่ยังคงเหลือกองทหำรรัสเซียบำงส่วนอยู่ในซีเรียเพื่อสู้กับกลุ่มต่อต้ำนฯและสนับสนุนรัฐบำลซีเรียต่อมำในเดือนธันวำคม 2017 ปูตินได้เดินทำงเยือนประเทศซีเรยี เปน็ คร้ังแรกต้งั แต่กำรเข้ำแทรกแทรงของรัสเซยี
จสั ตนิ พีเอร์ เจมส์ ทรูโด Justin Trudeauนำยกรฐั มนตรแี คนำดำ
ประวตัจสั ตนิ พเี อร์ เจมส์ ทรูโด (องั กฤษ: Justin Pierre James Trudeau, เกดิเมื่อวันท่ี 25 ธันวำคม พ.ศ. 2514) เป็นนักกำรเมืองชำวแคนำดำนำยกรัฐมนตรีแคนำดำคนท่ี 23 และคนปัจจุบัน ตลอดจนเป็นหัวหน้ำพรรคเสรีนิยม เขำเป็นนำยกรัฐมนตรีแคนำดำที่อำยุน้อยท่ีสุดเป็นอันดับสองรองจำกโจ คลำร์ก (Joe Clark) และบตุ รคนโตของอดตี นำยกรฐั มนตรีพีเอร์ ทรูโด เป็นบุตรคนแรกของอดีตนำยกรัฐมนตรีท่ีดำรงตำแหน่ง ทรูโดเกิดในออตตำวำและเขำ้ ศึกษำที่ Collège Jean-de-Brébeuf เขำสำเร็จปริญญำตรีในสำขำวรรณคดีภำษำอังกฤษจำกมหำวิทยำลัยแม็กกิลในปีพ.ศ. 2537 และครุศำสตรบัณฑิตจำกมหำวิทยำลัยบริติชโคลัมเบียในปีพ.ศ. 2542 เขำได้รับควำมสนใจจำกสำธำรณะอย่ำงสูงในเดือนตุลำคมพ.ศ. 2543 เมื่อเขำกล่ำวบทยกย่องในรัฐพิธีศพของบิดำเขำ หลังสำเร็จกำรศึกษำ เขำทำงำนเป็นครูในแวนคูเวอร์ รัฐบริติชโคลัมเบีย แล้วศึกษำวิศวกรรมศำสตร์และเริ่มปริญญำโทสำขำภูมิศำสตร์สิ่งแวดล้อม เขำใช้ช่ือเสียงของเขำสนับสนุนอุดมกำรณ์ต่ำง ๆ และแสดงในภำพยนตร์ชุดสั้นทำงโทรทัศน์เร่ือง เดอะเกรตวอร์ ในปี พ.ศ. 2550 หลังเข้ำมีส่วนร่วมทำงกำรเมืองมำกขึ้นหลังบิดำเสียชีวิต ทรูโดได้รับเลือกต้ังในกำรเลือกตั้งสหพันธรัฐปี พ.ศ. 2551 เพ่ือเป็นสมำชิกสภำสำมัญชนของเขตปำปีโน
(Papineau) ในสภำสำมัญชน ในปี พ.ศ. 2552 เขำได้รับแต่งต้ังเป็นรัฐมนตรีเงำ (critic) ในด้ำนเยำวชนและพหุวัฒนธรรมนิยมของพรรคเสรีนิยม และในปีต่อมำเป็นรัฐมนตรีเงำด้ำนควำมเป็นพลเมืองและกำรเข้ำเมือง ในปี พ.ศ. 2554 เขำได้รับแต่งต้ังเป็นรัฐมนตรีเงำด้ำนมัธยมศึกษำและเยำวชนและกีฬำสมัครเล่น ทรูโดเป็นหัวหน้ำพรรคเสรีนิยมในเดือนเมษำยน พ.ศ. 2556 และนำพรรคสู่ชยั ชนะในกำรเลอื กตง้ั สหพันธรฐั ปี พ.ศ.2558 คว้ำที่น่ังสำหรับพรรคเสรีนิยมเพ่ิมข้ึนจำก 36 เป็น 184 ที่นั่ง เป็นกรณีท่ีพรรคได้ที่นั่งเพิ่มมำกท่ีสดุ ในกำรเลือกตง้ั แคนำดำ
นำยกผชู้ อบช่วยเหลือคนอื่น ทรูโดรับผู้อพยพลี้ภัยมำแล้วมำกกว่ำ 25,000 คนในต้นปีท่ีผ่ำนมำ และประกำศว่ำต่อไปจะรับมำกกว่ำน้ีอีก แต่ถึงอย่ำงน้ัน ทรูโดก็พึงระลึกอยู่เสมอนะคะว่ำควำมช่วยเหลือนี้จะไมท่ ำให้คนในประเทศต้องเดือดร้อน โดยรัฐบำลจะออกงบส่วนหน่ึงในกำรช่วยเหลือผู้ลี้ภัย ที่เหลือก็จะมำจำกสปอนเซอร์ และมูลนิธิเอกชนในประเทศ ทรูโดมีนโยบำยที่จะเปลี่ยนแปลงแคนำดำอย่ำงจริงจัง หน่ึงในน้ันก็คือแผนกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศด้วยกำรใช้นโยบำยขำดดุล ทุ่มเงินพัฒนำระบบสำธำรณูปโภค เต็มท่ีกับกำรแก้ปัญหำภำวะโลกร้อน เสนอมำตรกำรลดกำรปล่อยมลพิษให้เป็นวำระแห่งชำติ กระชับควำมสัมพันธ์กับสหรัฐอเมริกำและรับปำกจะให้ควำมช่วยเหลือผู้ล้ีภัยจำกซีเรียมำกข้ึน ร้ือฟ้ืนควำมสัมพันธ์กับอิหร่ำนท่ีตัดขำดไปต้ังแต่สมัยรัฐบำลก่อนๆ สนับสนุนสิทธิสตรี ออกกฏหมำยครอบครองอำวุธให้เข้มงวดมำกขึ้น และจุดเด่นที่พีคท่ีสุดของนโยบำย ก็คือ ทำให้กัญชำเป็นสำรเสพติดท่ีถูกกฎหมำย (เหมือนอย่ำงในรัฐวอชิงตันและโคโลรำโด) เพื่อลดอัตรำกำรเกิดอำชญำกรรม และเพิ่มรำยได้จำกกำรเก็บภำษนี ่นั เองคะ่ นโยบำยของทรูโดสวนทำงกับนโยบำยของรัฐบำลสมัยก่อนหน้ำนั้นหลำยด้ำน นโยบำยบำงข้อฟังดูดีก็จริงแต่ก็ต้องแลกมำด้วยควำมเสี่ยง
หลำยอย่ำง ทั่วโลกก็เฝ้ำจับตำมองอยู่ว่ำจะเป็นอย่ำงไร ซ่ึงทรูโดก็ต้องพสิ ูจนต์ ัวเองต่อไปคะ่ วำ่ จะสำมำรถนำพำแคนำดำไปสู่จุดหมำยท่ีต้ังใจไว้ได้หรอื เปล่ำ
Search
Read the Text Version
- 1 - 31
Pages: