นิทาน E-book เร่ือง กฎหมายมายา และ ยยั ตัวร้ายกบั นายต้มตุ๋น ร้ายกบั นายต้มตุ๋น เรกื่อฎงหกมฎาหยมอาาญยมาา2ยา: ภแลาคะคยวยั าตมวั ผรดิ้ายกบั นายต้มตุ๋น ายมาหแาลวะทิ ยยายั ลตยั วั ทร้กัายษกิณบั น(วาทิ ยยตา้มเขตตุ๋นสงขลา)
คำนำ นิทาน E-book ฉบบั น้ีคณะผจู้ ดั ทามีวตั ถุประสงคเ์ พ่ือใหน้ กั ศึกษากฎหมายอาญาทุกท่านที่สนใจใชศ้ ึกษา หาความรู้ โดยคณะผจู้ ดั ทาไดใ้ ชน้ ิทานในการเล่าทาใหผ้ อู้ ่านนึกภาพประกอบทาใหเ้ ขา้ ใจง่าย ผเู้ ขยี นใชภ้ าษาใน การเขียนอธิบายดว้ ยภาษาท่ีเขา้ ใจง่าย และยงั มีตวั บทกฎหมายพร้อมท้งั ยกแนวคาพพิ ากษาประกอบคาอธิบาย เพอื่ เป็นตวั อยา่ งในการทาความเขา้ ใจและพจิ ารณาปัญหากฎหมาย คณะผจู้ ดั ทาหวงั เป็นอยา่ งยงิ่ วา่ ผทู้ ี่สนใจจะไดร้ ับประโยชน์จากคาอธิบายหนงั สือนิทาน E-book น้ี และ คณะผจู้ ดั ทาขอขอบคุณผทู้ ี่มีส่วนร่วมใหน้ ิทาน E-book ฉบบั น้ีสาเร็จลุล่วงไปดว้ ยดี หากเกิดขอ้ ผดิ พลาดประการ ใดกต็ อ้ งขออภยั มา ณ ท่ีน้ีดว้ ย คณะผจู้ ดั ทา 1. 631081005 กมลวรณ ชานาญสิทธ์ิ 2. 631081033 กิสมยั รี มะแซ 3. 631081038 คอตีเยา๊ ะ เจะอุมา 4. 631081064 ซลั วา แบเลาะ 5. 631081073 ณรงคฤ์ ทธ์ิ แกว้ สม 6. 631081103 ทิพยอ์ ญั ฎา หวนั ตนั หยง 7. 631081123 กฤตภาส ขนั เพชร 8.631081155 นูรฟา ยะโกะ 9.631081156 นูรีย์ เหลา๊ ะ 10.631081192 พรกนก สีดา
สารบญั หนา้ 1-3 บทท$ี & กฎหมายมายา 4-9 2 เนือ1 หากฎหมาย คาํ พิพากษาศาลฎีกา และบทสรุปเนือ1 หาประกอบนิทาน 9-10 11-12 \".$ มาตรา$)* ตอ่ สขู้ ดั ขวางเจา้ พนกั งาน :)$;*$;;< \".\" มาตรา$=\" แจง้ ความเทจ็ ความผิดอาญา :)$;*$;:E 12-14 \".) มาตรา$=\" แจง้ ความเทจ็ ความผิดอาญา :)$;*$;=) \".E มาตรา\";: กระทาํ การเหยียดหยามศาสนา :)$;*$$;) 14-15 \".< มาตรา\";= ทาํ ใหเ้ กิดความวนุ่ วายในทNีประชมุ ศาสนา :)$;*$$;) 16-18 \".: มาตรา$EE ใหส้ นิ บนแก่เจา้ พนกั งาน :)$;*$$\") 18-20 \".= มาตรา$ER ใหพ้ นกั งานเรยี ก รบั ยอมจะรบั สนิ บน :)$;*$$\") 20-22 \".* มาตรา)<* ทาํ ใหเ้ สยี ทรพั ย์ :)$;*$$<: 22-23 \".R มาตรา):; ทาํ ใหเ้ สยี ทรพั ยส์ าธารณประโยชน์ :)$;*$$<: 23-25 \".$; มาตรา$)* ตอ่ สขู้ ดั ขวางเจา้ พนกั งาน :)$;*$$R\" สรุปนิทานบทท$ี & 26 28-31 บทท$ี @ ยยั ตวั รา้ ยกบั นายตม้ ตนุ๋ 32-33 @ เนือ1 หากฎหมาย คาํ พิพากษาศาลฎีกา และบทสรุปเนือ1 หาประกอบนิทาน 33-35 35-36 \".$ มาตรา$)R ขม่ ขืนใจพนกั งานใหป้ ฏิบตั หิ นา้ ทNีโดย :)$;*$;;< 36-38 \".\" มาตรา)E$ ฉอ้ โกง :)$;*$;)) 39-42 \".) มาตรา)E) ฉอ้ โกงประชาชน :)$;*$;)) 42-43 \".E มาตรา)ER โกงเจา้ หนีผZ รู้ บั จาํ นาํ :)$;*$;)* 43-45 \".< มาตรา)<\" ยกั ยอก :)$;*$;)* 45-46 \".: มาตรา$)= แจง้ ความเทจ็ :)$;*$;:E 46-47 \".= มาตรา$=) แจง้ ความเทจ็ วา่ มีการกระทาํ ความผิดทางอาญา :)$;*$;=) 47-49 \".* มาตรา$): ดหู มNินเจา้ พนกั งาน :)$;*$$<< \".R มาตรา$)= แจง้ ความเทจ็ :)$;*$$<< 50 \".$; มาตรา$)R ขม่ ขืนใจพนกั งานใหป้ ฏิบตั หิ นา้ ทNีโดย :)$;*$$R\" สรุปนิทานบทท$ี @
1 มาตราทีเ่ กย่ี วข้อง มาตรา 138 ต่อสขู้ ัดขวางเจ้าพนกั งาน มาตรา 144 ให้สินบนแกเ่ จา้ พนกั งาน มาตรา 149 เจ้าพนกั งานเรียก รบั ยอมจะรบั สนิ บน มาตรา172 แจง้ ความเทจ็ ความผดิ อาญา มาตรา 206 กระทำการเหยยี ดหยามศาสนา มาตรา 207 ทำใหเ้ กดิ ความวุน่ วายในทีป่ ระชุมศาสนา มาตรา 358 ทำใหเ้ สียทรัพย์ มาตรา 360 ทำใหเ้ สยี ทรพั ยส์ าธารณประโยชน์ กฎหมายมายา ณ วัด บัวจมมมมมมมม ในขณะท่ชี าวบ้านและพระภกิ ษสุ งฆก์ ำลังประกอบพิธีทางศาสนา ไดม้ วี ยั รุ่น 2คน ชอื่ เดด็ กับดวงเข้ามา ก่อกวน เดด็ พูดว่า: หลวงพี่ผมขอถามหน่อยวัดนม้ี นั ศกั ดส์ิ ทิ ธิ์จริงป่ะ สมชาวบ้าน: ก็ต้องศักดส์ิ เิ วย้ เอง็ น้ีถามแปลกๆ หลวงพ่ี:วัดเป็นแหล่งแห่งความสงบโยมพทุ ธศาสนกิ ชนทีเขาทำความดี คิดดีเขากม็ ากัน ดวงพูดข้นึ มาว่า:โอเคครับง้ันผมไมก่ วนและ และก็พูดทิ้งทา้ ยกบั สมชาวบ้านวา่ ลุงรถสวยนะเนี่ย หลังจากนน้ั เด็ดพูดว่า:เหย้ เอง็ เชือ่ จรงิ เหรอว่ะว่าวัดนนั้ สงบ ศกั ดส์ิ ิทธ์ิ ดวง:ใครบอกข้าเช่ือขา้ กำลงั จะหาทางพสิ ูจน์อย่เู อ็งจะร่วมกับข้าป่ะละ เดด็ :เออขา้ กอ็ ยากรเู้ หมือนกนั แตท่ ำไงว่ะ ดวง:ลองเอาน้ำมันราดแลว้ จุดไฟปะ่ ละ่ ขา้ อยากรูว้ ่ามนั ศักดิส์ ทิ ธ์อิ ย่างทล่ี งุ แกวา่ ม้ัย เดด็ :น่าสนแหะ หลงั จากนั้นท้งั สองคนก็ไปทีวัดในขณะทท่ี ที่ ุกคนกำลังนง่ั สมาธิกันท้งั สองกเ็ ริม่ แผนการโดยราดนำ้ มน้ั แลว้ จุดไฟทีว่ ดั โดยมี ไอ เนอ้ื กบั งอก ดตู ้นทาง ระหว่างกำลังราดน้ำมัน้ ทว่ี ัด เด็ด:เหย้ น้มี นั รถลงุ สมดนี ีห้ วา่ แกเปน็ คนดีนิถา้ ลองเอาค้อนไปทุบสกั ท่สี องทรี ถคงไมเ่ ปน็ ไรหรอก ดวง:เปน็ ความคิดทด่ี ี ราดเรว็ ๆเลยเด๋ียวคนมาเหน็ หลงั จากนั้นเมอ่ื ราดน้ำมันแล้วท้ังสองก็จดุ ไฟ ควนั เร่มิ มาประกายไฟเริม่ มี และรถของนายสมกถ็ กู ทุบด้วย คอ้ น ผคู้ นลืมตาข้ึนเพราะได้กลน่ิ ควนั วงิ่ กันชลมุนจนไม่ไดส้ ังเกตผ้กู อ่ เหตุ
2 นางซันน่ผี ่านมาเหน็ เหตุการณ์ ซันน:่ี ว้ายไฟไหมร้ ึนี้ เอะ๊ นัน้ มันนางทฟิ ฟ่ีท่ีเคยซ้ือกระเป๋าตัดหน้าช้ันน่ี อย่ใู กล้ท่เี กิดเหตสุ ะดว้ ยนึกอะไรดีๆออก แลว้ ละ5555555555 หลังจากน้นั ซนั นี่ก็โทรหาตำรวจ ซันน่ี:คณุ ตำรวจคะแย่แล้วคะ่ มีคนวางเพลิงที่วัดบัวจมค่ะ มนั กำลงั จะหนีแล้วค่ะรีบมานะคะคนวางเพลิง ใส่เส้อื สีขาว คะ่ คุณตำรวจ1:โอเครครบั พวกผมจะรีบไปครับ เมอื่ มาที่เกิดเหตุมีตำรวจมาที่วัด4คนโดยพุง่ ไปหาทฟิ ฟ่ีเพอื่ เขา้ พูดคยุ ตำรวจ2:ผมได้รับแจ้งมาวา่ คณุ เปน็ คนวางเพลงิ วัดนี้ ทฟิ ฟ:่ี ไม่ใช่นะคะฉันแคเ่ ดินผา่ นมาชนั้ ไม่เผาวัดหรอกค่า ฉนั เปน็ แฟนคลับ พส ใครแจง้ มาคะเนีย่ คุณตำรวจ พอจะทราบม้ัยคะ ตำรวจ1:ผมจำได้วา่ เป็นเสียงผญครับ ทฟิ ฟ:่ี ใชเ่ สียงนี้ม้ยั คะ มีแต่นางซนั นี่นีแหละท่เี ปน็ ศัตรูคนเดยี วของดิชั้น นัน้ ไงคะคุณตำรวจนางซนั น่ี ตำรวจ1:ใช่ครับ เสยี งน้ีเลยง้ันผมขอมอบหนา้ ทใี่ หต้ ำรวจ 3 4 เขา้ ทำการจบั กมุ นะครับ ผมกับตำรวจ2 ขอไป จับตวั คนรา้ ยกอ่ น ตัดไปสถานการณใ์ นวัด เน้อื งอก: เห้ยพวกพต่ี ำรวจมา แต2่ คนพวกผมจัดการได้ ไปก่อนนนเลยยยยย หลงั จากน้นั ทั้งสองกก็ อดขาตำรวจไว้ไมใ่ ห้ไปจับ พวกเด็ด ดวง เดด็ กบั ดวงกว็ ง่ิ หนีไป โดยทไ่ี ม่รู้ว่ามตี ำรวจรออยู่ดา้ นหลงั และกโ็ ดนจับ ไปในขอ้ หา กระทำการเหยยี ดหยาม ศาสนาโดยการใชค้ ำพดู ทำใหเ้ กิดความวนุ่ วายในทีป่ ระชมุ ตอนท่ีที่ประชาชนกำลงั ประกอบพิธที างศาสนา การจดุ ไฟเผาวัด เปน็ การทำใหเ้ สยี ทรัพยส์ าธารณะประโยชน์ และ การเผารถของลุงสมถือเปน็ การทำใหเ้ สียทรัพย์ ระหวา่ งนายเนอื้ นายงอกก็รับผิดฐานต่อสขู้ ัดขวางเจา้ พนกั งานไป ต่อจากสถานการณ์ของซนั นี่และตำรวจ3 และ4 ตำรวจ3:คุณซนั นคี่ รบั ตอนน้คี ุณมขี อ้ หา เเจง้ ขอ้ ความเป็นเทจ็ วา่ คณุ ทฟิ ฟ่เี ป็นผรู้ ้ายกอ่ เหตเุ ผาวดั นนะครบั ถึงแมว้ ่าเหตุนน้ั จะเกิดขึน้ จรงิ แตค่ ณุ ทำให้คุณทิฟฟ่ีเป็นผูเ้ สยี หาย คณุ ตอ้ งโดนปรบั 5000บาทกบั จำคุกอีก 6เดอื นนนะครับ ซันน่ี:(คดิ ในใจ โอย้ ช้ันไมอ่ ยากประวัติเสยี กับอกี พวกเร่ืองพันนหี้ รอกนะ แฟนกย็ งั หาไมไ่ ด้โอย้ ) แหมค่ ณุ ตำรวจ กอ็ ิช้นั แคห่ ยอกเลน่ ขำๆกบั เพื่อนทไ่ี ม่เจอกนั นานนะค่าาา ปลอ่ ยดชิ ั้นไปเหอะนะคะ ตำรวจ4: ไมไ่ ดค้ รับกฎหมายคือกฎหมายครับเราไม่สามารถขัดได้ ซนั นี:่ พวกคุณรรู้ ึเปล่าคะดชิ ั้นลกู ใคร ดิชัน้ ลกู สาว สส พัคนะคะ เนีย่ คะ่ รปู Daddyชั้น พวกคณุ ตอนน้ีเปน็ แค่จา่ ดชิ ั้นแคก่ ริ๊งไปหาdadพร่งุ น้อี าจจะเปน็ สารวตั รกไ็ ด้นะคะ ตำรวจ 3 4 (ทำทา่ คดิ หนกั และไปปรึกษากนั )
3 ตำรวจ4:โอเคครบั ตามหลักศีลธรรมเน่ียเราต้องให้อภยั คนผิดเสมอครับ คน้งั นี้ผมแคเ่ ตือนคราวหนา้ อยา่ ทำอีกนะครับ ฝากสวสั ดีคุณพ่อด้วยนะครบั ซันน่:ี เครคา่ พๆ่ี น่ารักที่สุดเลยยยย ไว้จะไปคยุ กับdadใหน้ ะคะ ซันนี่นีส้ ินะทีเ่ ขาบอกว่ากฎหมายมไี ว้จับคนจนก็เพิ่งจะเหน็ นีแ้ หละ555555
4 บทท1ี่ กฎหมายมายา เนือ้ หาและคาพพิ ากษาศาลฎีกา มาตรา138 ตอ่ สูข้ ัดขวางเจ้าพนังงาน 631081005 มาตรา 138 ผใู้ ดต่อสู้ หรือขดั ขวางเจา้ พนกั งานหรือผซู้ ่งึ ตอ้ งชว่ ยเจา้ พนกั งานตามกฎหมายในการ ปฏิบตั กิ ารตามหนา้ ท่ี ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ไม่เกินหนง่ึ ปี หรือปรบั ไมเ่ กินสองหม่นื บาท หรอื ทง้ั จา ทงั้ ปรบั วรรคสอง ถา้ การต่อสหู้ รือขดั ขวางนนั้ ไดก้ ระทาโดยใชก้ าลงั ประทษุ รา้ ยหรือข่เู ข็ญว่าจะใชก้ าลงั ประทษุ รา้ ย ผกู้ ระทาตอ้ งระวางโทษจาคกุ ไมเ่ กินสองปี หรอื ปรบั ไมเ่ กินสหี่ ม่ืนบาท หรือทง้ั จาทงั้ ปรบั องคป์ ระกอบของความผดิ วรรค1 1. ผใู้ ด 2. ตอ่ สหู้ รอื ขดั ขวาง 3. เจา้ พนกั งานหรอื ผซู้ ง่ึ ตอ้ งช่วยเจา้ พนกั งานตามกฎหมายในการปฏิบตั กิ ารตามหนา้ ท่ี 4. ตอ้ งระวางโทษ... วรรค2 เป็ นเหตุใหเ้ พมิ่ โทษหนักขนึ้ 1. ถา้ การกระทาตามวรรคหนึ่ง 2. ไดก้ ระทาโดยใชก้ าลงั ประทษุ รา้ ย 3. หรือขเู่ ข็ญวา่ จะใชก้ าลงั ประทษุ รา้ ย 4. ตอ้ งระวางโทษ...
5 องคป์ ระกอบภายนอก -ผใู้ ด(ผกู้ ระทา) บคุ คลท่มี กี ารกระทาความผดิ -การกระทา ต่อสหู้ รอื ขดั ขวาง -วตั ถแุ ห่งการกระทา เจา้ พนกั งานหรือผซู้ ่งึ ตอ้ งช่วยเจา้ พนกั งานตามกฎหมายในการปฏิบตั กิ าร ตามหนา้ ท่ี องคป์ ระกอบภายใน 1.กระทาโดยเจตนา -การกระทาในมาตรานผี้ กู้ ระทามกี าร คดิ ตกลงใจ และไดก้ ระทาตามท่ตี กลงใจแลว้ ถือไดว้ ่า=ผกู้ ระทากระทาโดยเจตนา 2.เจตนาตามความเป็นจรงิ (เจตนาธรรมดา) 2.1ผกู้ ระทาไดก้ ระทาโดยรูส้ านึกในการท่กี ระทาตอ้ งรูข้ อ้ เท็จจรงิ อนั เป็นองคป์ ระกอบความผดิ และ ในขณะเดียวกนั ผกู้ ระทาประสงคต์ อ่ ผล หรอื ย่อมเลง็ เหน็ ผลของการกระทานนั้ ตามมาตรา59วรรค2 =กระทาโดยเจตนา 3.ผกู้ ระทาตอ้ งรูข้ อ้ เทจ็ จริงอนั เป็นองคป์ ระกอบของความผิด หากไม่รู้ = ไมม่ ีเจตนา หลกั เกณฑพ์ ิจารณา 1.มีการกระทาท่รี ูส้ านึก(รูข้ อ้ เท็จจรงิ อนั เป็นองคป์ ระกอบของความผดิ ) 2.ผกู้ ระทาประสงคต์ ่อผลหรอื ยอ่ มเล็งเห็นผล
6 -ประสงคต์ ่อผล เจตนาโดยตรง ตอ้ งการใหผ้ ลเกิดขนึ้ ตามเจตนา -เลง็ เหน็ ผล เจตนาโดยออ้ ม เป็นเจตนาท่ผี กู้ ระทาคาดหมายไดว้ า่ ผลดงั กลา่ วจะเกิดขนึ้ ได้ วรรค1 1.การต่อสู้ เป็นการใชก้ าลงั ขดั ขนื เจา้ พนกั งานหรือโตแ้ ยง้ การปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ขี องเจา้ พนกั งาน เช่น ใชม้ ือผลกั หรือใชต้ วั ดนั เจา้ พนกั งาน(ฎีกาท่3ี 850/2543) 2.การขดั ขวาง ทาใหเ้ กิดอปุ สรรค ความยากลาบากในการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ขี องเจา้ พนกั งาน 3.การต่อสขู้ ดั ขวาง -ตอ้ งเป็นการกระทาท่แี สดงออกมา -การละเวน้ ไมก่ ระทาไม่ถือเป็นความผดิ -มกี ารใชก้ าลงั ทางกายภาพกระทาตอ่ การปฏิบตั ิหนา้ ท่ขี องเจา้ พนกั งาน (ความคิดเห็นของ อาจารยด์ ศิ รณ์ ลิขติ วทิ ยาวฒุ อาจารยป์ ระจามหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร)์ -การน่งิ เฉย ไมถ่ ือเป็นการต่อสขู้ ดั ขวางเพราะไมม่ ีการกระทาแสดงใหเ้ หน็ 3.1 ขอ้ สงั เกต เขา้ เหตฉุ กรรจต์ ามวรรค2เสมอ 3.2 ความแตกตา่ งการต่อสขู้ ดั ขวางในไทย และ ตา่ งประเทศ ปัจจบุ นั ประมวลกฎหมายอาญาของไทยยงั ไม่มกี ารกาหนดการกระทาเป็นการต่อสขู้ ดั ขวางเจา้ พนกั งานใหเ้ ป็นความผดิ ไวเ้ ป็นการเฉพาะอยา่ งเช่น สหพนั ธส์ าธารณรฐั เยอรมนี ประมวลกฎหมาย
7 อาญามาตรา113 บญั ญตั ิการกระทาต่อสขู้ ดั ขวางการปฏิบตั ิงานของเจา้ หนา้ ท่ไี วอ้ ยา่ งกวา้ งขวาง ซง่ึ บญั ญตั ิใหผ้ ทู้ ่ใี ชก้ าลงั ข่มข่วู า่ จะใชก้ าลงั ชกั จงู ใหม้ ีการตอ่ ตา้ น หรือการกระทา การจ่โู จมอย่าง รุนแรงตอ่ เจา้ พนกั งานของรฐั ซง่ึ รบั ผิดชอบในการบงั คบั ใชก้ ฎหมาย ประเทศออสเตรเลยี ประมวล กฎหมายอาญา (Crimes Act 1914) มาตรา 42 (Conspiracy to defeat justice) บญั ญตั ิให“้ ผทู้ ่สี มรูร้ ว่ มคดิ กบั ผอู้ ่นื ในการขดั ขวางกีดกนั ความ ยตุ ิธรรมท่เี ก่ียวขอ้ งกบั อานาจศาล จะมีความผิดฐานสมรูร้ ว่ มคดิ ดว้ ย 4.เจา้ พนกั งาน -บคุ คลซ่งึ กฎหมายบญั ญตั ิวา่ เป็นเจา้ พนกั งาน -ไดร้ บั การแต่งตงั้ ตามกฎหมายใหป้ ฏิบตั หิ นา้ ท่ตี ามราชการ -ไมว่ ่าจะเป็นครงั้ คราว หรือไม่ว่าจะไดร้ บั คา่ ตอบแทนหรือไม่ (มาตรา1(16) 5.ผซู้ ง่ึ ตอ้ งช่วยเจา้ พนกั งานตามกฎหมายในการปฏิบตั กิ ารตามหนา้ ท่ี 5.1บคุ คลท่กี ฎหมายกาหนดใหช้ ว่ ยเหลือ -เป็นบคุ คลท่กี ฎหมายบญั ญตั ใิ หอ้ านาจเป็นการโดยเฉพาะใหเ้ ขา้ ชว่ ยเหลอื เจา้ พนกั งาน เช่น ผใู้ หญ่บา้ น กานนั การปฏิบตั หิ นา้ ท่ี -ถา้ ผชู้ ่วยพนกั งานเจา้ หนา้ ท่ปี ฏบิ ตั ิมิชอบดว้ ยกฎหมาย มาตรา138 ก็มไิ ดใ้ หค้ วามคมุ้ ครอง เชน่ ทะ เลากนั เร่ืองสว่ นตวั เขา้ คน้ บา้ นเรือนประชาชนโดยไมม่ หี มาย แมป้ ระชาชนจะขดั ขวางแตป่ ระชาน กไ็ มม่ คี วามผดิ ฐานขดั ขวางการทางานของผชู้ ่วยเจา้ พนกั งาน
8 -ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาของ ศาตราจารยจ์ ติ ตฯิ อธิบายว่า ผทู้ ่เี ขา้ ช่วยดงั กลา่ ว อย่ใู นความหมายของผซู้ ่งึ ตอ้ งชว่ ยเจา้ พนกั งานตามท่กี ฎหมายใหเ้ จา้ พนกั งานเรยี กรอ้ งได้ 5.2กรณีราษฎรสมคั รใจเขา้ ชว่ ยเหลือ -มลู นธิ ิ อาสาสมคั รท่วั ไป ประชาชนพบเห็นเหตกุ ารณ์ สมคั รใจเขา้ ชว่ ย -ไม่ถือเป็นผชู้ ว่ ยเจา้ พนกั งานเพราะกฎหมายไม่ไดใ้ หอ้ านาจไว้ แต่ตามมาตรา289(3) ไมจ่ าเป็นตอ้ งมกี ฎหมายบญั ญตั ไิ วผ้ ทู้ ่ชี ว่ ยเหลอื ดว้ ยความสมคั รใจ กถ็ ือเป็น ผชู้ ่วยเหลือเจา้ พนกั งาน วรรค2 เหตฉุ กรรจ์ -เป็นเหตใุ หผ้ กู้ ระทาตอ้ งรบั โทษหนกั ขนึ้ ตามมาตรา63 -ถา้ การกระทาตามวรรคหนง่ึ กระทาโดย 1.ใชก้ าลงั ประทษุ รา้ ย -เป็นการทาอนั ตรายแกก่ ายหรอื จติ ใจของบคุ คลตอ้ งเป็นการกระทาต่อเนือ้ ตวั รา่ งกาย หรือจติ ใจ ของบคุ คลเทา่ นนั้ เชน่ การชกต่อย - ไม่วา่ จะทาดว้ ยแรงกายภาพ หรอื ดว้ ยวธิ ีอ่นื ใด เช่น บีบคอ ใชอ้ าวธุ -การกระทาใดๆ ซง่ึ เป็นเหตใุ ห้ บคุ คลหนึง่ บคุ คลใด อย่ใู นภาวะท่ี ไมส่ ามารถขดั ขนื ได้ เช่น จบั ตวั ไมใ่ หด้ ิน้ 2.ข่เู ขญ็ วา่ จะใชก้ าลงั ประทษุ รา้ ย -เป็นการข่เู ข็ญวา่ จะกระทาอนั ตรายกายหรือจติ ใจ -ไมร่ วมถึงการขเู่ ข็ญว่าจะทาอนั ตรายแกท่ รพั ยส์ ิน หรือเสรภี าพ
9 3.ความรบั ผิดของมาตรานี้ -เป็นความผดิ ท่ไี ม่ตอ้ งการผล -กลา่ วคอื แมต้ อ่ สขู้ ดั ขวางแลว้ แตเ่ จา้ พนกั งานยงั คงปฏบิ ตั ิตามหนา้ ท่ไี ด้ =ความผิดสาเรจ็ คาพพิ ากษาศาลฎกี าท่ี 52/2523 เจา้ พนกั งานตารวจไลจ่ บั ญาตขิ องจาเลยซ่งึ เป็นผตู้ อ้ งหาในขอ้ หาฆ่าคนตายจาเลยท่ี 1 กอดเอวเจา้ พนกั งานตารวจคนหนึง่ จาเลยท่ี 2 ดงึ เสอื้ เจา้ พนกั งานตารวจอกี คนหนงึ่ ไว้ เพ่อื มใิ หเ้ จา้ พนกั งาน จบั กมุ ผตู้ อ้ งหาการท่จี าเลยท่ี 1 กอดเอวและจาเลยท่ี 2 ดงึ เสอื้ นนั้ เป็นการใชแ้ รงกายกระทาต่อกาย ของเจา้ พนกั งานตารวจ ถือไดว้ ่าเป็นการใชก้ าลงั ประทษุ รา้ ยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1(6) เพ่อื ตอ่ สขู้ ดั ขวางเจา้ พนกั งานเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 138 วรรค 2 มาตรา172 แจ้งความเทจ็ ในคดอี าญา 631081064 องคป์ ระกอบภายนอก 1. ผใู้ ด 2. แจง้ ความอนั เป็นเท็จ 3. เก่ียวกบั ความผิดอาญา 4. แก่พนกั งานอยั การ ผวู้ ่าคดี พนกั งานสอบสวน หรอื เจา้ พนกั งานผมู้ ีอานาจสบื สวน คดอี าญา 5. ซ่งึ อาจทาใหผ้ อู้ ่ืนหรอื ประชาชนเสียหาย องคป์ ระกอบภายนอก เจตนา
10 มาตรา172 บคุ คลธรรมดาหรือนติ บิ คุ คลแจง้ ขอ้ ความอนั ใจเก่ียวกบั ความผดิ อาญาแก่พนกั งาน อยั การผวู้ ่าคดีพนกั งานสอบสวนหรอื เจา้ พนกั งานผมู้ อี านาจสืบสวนคดอี าญาผรู้ บั แจง้ ใหท้ ราบ ขอ้ ความท่แี จง้ เป็นความผิดสาเรจ็ สว่ นผรู้ บั แจง้ จะเขอื ขอ้ ความดงั กลา่ วหรอื ไม่ไม่ใช่ผลของการ กระทาความผิดซ่งึ อาจทาใหผ้ อู้ ่นื หรือประชาชนเสียหายเช่นนายคา้ ไม่พอใจนายแดงท่อี ยบู่ า้ นใกล้ ตนจึงไปแจง้ ตอ่ พนกั งานตารวจวา่ นายแดงลกั เงินของตนไปทง้ั ท่คี วามจรงิ แลว้ นายแดงไม่ไดก้ ระทา ความผดิ ดงั กลา่ ว แต่อยา่ งใด แต่นายตอ้ งการแกลง้ นายแดงเทา่ นนั้ คาพพิ ากษาศาลฎกี า ๒๕๖๕/๒๕๕๕ จาเลยแจง้ ขอ้ เทจ็ จรงิ โดยเรยี งลาดบั เหตกุ ารณท์ ่เี กิดขึน้ ตงั้ แต่จาเลยตกลงทาสญั ญาซอื้ ขายรถยนตค์ นั พพิ าทกบั สส. มกี ารชาระเงินและคา้ งชาระจานวน เท่าใดจนกระท่งั ในวนั เกิดเหตจุ าเลยไดน้ ารถยนตไ์ ปพบโจทกแ์ ละส. ไดย้ ดึ รถยนตค์ นั ดงั กลา่ วไว้ ขอ้ เทจ็ จรงิ ดงั กลา่ วเป็นความจรงิ ท่ที ง้ั โจทกแ์ ละจาเลยต่างยอมรบั มิไดม้ ีขอ้ ความใดท่จี าเลยกล่าว อา้ งอนั เป็นเท็จหรอื บิดเบอื นขอ้ เทจ็ จรงิ เป็นอย่างใดขอ้ ความท่จี าเลยแจง้ ความรอ้ งทกุ ขต์ ่อพนกั งาน สอบสวนจึงตรงตามสภาพเหตกุ ารณท์ ่ีเกิดขนึ้ เป็นเร่ืองท่จี าเลยแจง้ ความตามเทจ็ จรงิ ท่ปี รากฏสว่ น การกระทาของโจทกจ์ ะเป็นความผิดตอ่ กฎหมายตามท่จี าเลยแจง้ หรอื ไม่ไมใ่ ชข่ อ้ สาคญั เพราะการ แจง้ ความย่อมหมายถึงเฉพาะขอ้ เท็จจรงิ ไม่เก่ียวกบั ขอ้ กฎหมายแมต้ ่อพนกั งานสอบสวนไม่ได้ ดาเนนิ คดีแก่โจทกต์ ามท่ีจาเลยแจง้ กต็ ามกย็ งั ถือไมไ่ ดว้ า่ ขอ้ ความท่จี าเลยแจง้ นนั้ เป็นความเท็จ และถงึ แมจ้ าเลยจะแจง้ ตอ่ พนกั งานสอบสวนใหด้ าเนนิ คดีต่อโจทกแ์ ละส. ในขอ้ หารว่ มกนั ชิงทรพั ย์ ก็นาเช่อื ว่าเป็นการท่ีจาเลยกลา่ วอา้ งไปตามความเขา้ ใจของตนสว่ นการกระทาท่จี าเลยแจง้ จะเป็น ความผิดดงั กลา่ วหรอื ไมเ่ ป็นเรื่องท่ีพนกั งานสอบสวนจะดาเนนิ การสอบสวนและรวบรวม พยานหลกั ฐานเพ่อื วินิจฉัยว่าการกระทาดงั กลา่ วเป็นความผดิ ฐานใด
11 มาตรา 172 การแจ้งขอ้ ความอันเป็ นเทจ็ เกี่ยวกบั คดีอาญา 631081073 มาตรา172 “ผใู้ ดแจงข้ อค้ วามอนั เป็นเท็จเก่ียวกบั ‘ความผดิ อาญา’แกพ่ นกั งานอยั การผวู้ า่ คดี พนกงั านสอบสวนหรือเจา้ พนกั งานผมู้ อี านาจสืบสวนคดีอาญา ซ่งึ อาจทาใหผ้ อู้ ่นื หรือประชาชน เสียหาย ตอ้ งระวางโทษจ าคกุ ไม่เกิน 2 ปี หรือปรบั ไม่เกิน 40,000 บาท หรือทง้ั จา ทงั้ ปรบั ” โครงสร้างความรับผดิ ทางอาญา องคป์ ระกอบภายนอก ผกู้ ระทา คอื ผใู้ ด การกระทา คือ แจง้ ขอ้ ความอนั เป็นเท็จเก่ียวกบั คดอี าญา วตั ถแุ หง่ การกระทา คือ พนกั งานอยั การ ผวู้ า่ คดี พนกั งานสอบสวนหรือเจา้ พนกั งานผมู้ อี านาจสบื สวนคดอี าญา องคป์ ระกอบภายใน เจตนา ข้อพจิ ารณามาตรา 172 1. ลกั ษณะการแจง้ 1.1 ตอ้ งเป็นการแจง้ ขอ้ เท็จจรงิ ไม่ใชข่ อ้ กฎหมาย 2.1 ตอ้ งเป็นขอ้ เท็จจรงิ ท่ีเป็นเท็จในอดตี หรอื ปัจจุบนั ไม่ใชใ่ นอนาคต 3.1 ตอ้ งไม่ใช่การคาดคะเนหรอื ความเห็น 4.1 ตอ้ งไม่ใช่การแจง้ ในฐานะผตู้ อ้ งหา 5.1การแจงไ้ ปตามเรือ่ งราวท่เี กิดขึน้ ไม่ถือเป็นการแจง้ ความเทจ็
12 6.1การแจงข้ อเ้ ทจ็จรงิ ตามความจรงิ แตใ่ หค้ วามเห็นทางกฎหมายผิด ไม่ผดิ มาตรานี้ 2. ตอ้ งเป็นการแจงเ้ ก่ียวกับความผิดอาญา หากเป็นเรอ่ื งเก่ียวกบกั ารบงั คบั ดแี พง่ ไม่ผดิ มาตรานีแ้ ต่ อาจผดิ มาตรา 137 3. ความเทจ็ จรงิ ตอ้ งเป็นขอ้ สาคญั คอื เป็นขอ้ ความอนั อาจทาใหมผ่ ลแพช้ นะในประเด็น หากเป็น เพียงรายละเอยี ด ปลกี ย่อยเลก็ ๆ ไม่ใชใ่ นองคป์ ระกอบของความผดิ ในเรือ่ งท่ีแจง้ กไ็ ม่ผดิ มาตรา 172 4. ซ่งึ อาจท าใหผ้ อู้ ่นื หรอื ประชาชนเสยี หาย คาพพิ ากษาศาลฎกี าท่ี 1146/2520 โจทกอ์ อกจากท่ดี ินพิพาทตามคาส่งั ศาลแลว้ จา เลยแจง้ ต่อ ศาลและตรวจว่าโจทกย์ งั ไม่ออกตามคาส่งั ศาลศาลจึงออกหมายจบั และตรวจจบั โจทกด์ งั นเี้ ป็น การแจงค้ วามเท็จเก่ียวกบกั ารบงั คบั คดแี พง่ ไมเ่ ป็นความผิดตามป.อ. มาตรา 172, 173 และ 174 มาตรา206 ความผดิ ฐานกะทาการเหยียบหยามศาสนา 631081103 มาตรา206 ผใู้ ดกระทาดว้ ยประการใด ๆ แกว่ ตั ถหุ รอื สถานอนั เป็นท่เี คารพในทางศาสนาของหมู่ ชนใด อนั เป็นการเหยยี ดหยามศาสนานนั้ ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ตงั้ แตห่ นึ่งปีถึงเจด็ ปี หรอื ปรบั ตงั้ แต่ สองหม่นื บาทถึงหน่ึงแสนส่หี ม่นื บาท หรอื ทงั้ จาทง้ั ปรบั องคป์ ระกอบความผดิ มดี ังนี้ องคป์ ระกอบภายนอก 1. กระทาดว้ ยประการใดๆ 2. แก่วตั ถหุ รอื สถานอนั เป็นท่เี คารพในทางศาสนาของหมชู่ นใด 3. อนั เป็นการเหยียดหยามศาสนานนั้
13 องคป์ ระกอบภายใน 1.เจตนา กระทาด้วยประการใดๆ กฎหมายไม่ไดก้ าหนดลกั ษณะของการกระทาไว้ ฉะนนั้ จะเป็นการ กระทาดว้ ยวิธีใดก็ได้ เชน่ กระทบื ถม่ นา้ ลาย เป็นตน้ เพยี งแต่การกระทานนั้ ตอ้ งมีลกั ษณะเป็นการ เหยียดหยามศาสนา แกว่ ตั ถุหรอื สถานอนั เป็ นทเี่ คารพในทางศาสนาของหมชู่ นใด การกระทาดงั กลา่ วฎหมายให้ รวมถึงสงิ่ ท่ถี กู กระทาว่าตอ้ งเป็นสถานหรอื วตั ถอุ นั เป็นท่เี คารพของของศาสนานนั้ ไม่รวมถึงการ กระทาตอ่ ตวั บคุ คล เชน่ ถม่ นา้ ลายใสพ่ ระภกิ ษุสงฆห์ รือบาทหลวง ถา้ ยดึ ตามมาตรานถี้ ือวา่ ย่อม ไมผ่ ดิ เพราะพระภกิ ษุสงฆห์ รือบาทหลวงแมจ้ ะเป็นบคุ คลท่เี คารพนบั ถือในทางศาสนา แตไ่ ม่ใช่ วตั ถหุ รือสถานตามองคป์ ระกอบกอบภายนอกของมาตรานี้ วตั ถหุ รอื สถานอนั เป็นท่เี คารพในทางศาสนานนั้ หรือศาสนาใดก็แลว้ แต่ แมจ้ ะมีคนนบั ถือมากนอ้ ย เพียงใดไมใ่ ชป่ ระเด็นสาคญั วตั ถไุ ดแ้ ก่ พระพทุ ธรูป เทวรูป ไมก้ างเขน เป็นตน้ สว่ นสถานท่ีเช่น โบสถ์ วิหาร เจดีย์ สเุ หรา่ แมจ้ ะเป็นเจดยี ท์ ่อี ยใู่ นวดั รา้ งก็ยงั คงเป็นสถานท่เี คารพทางศาสนาอยู่ แต่ ไม่รวมถงึ ศาลพระภมู หิ รอื ศาลเจา้ อนั เป็ นการเหยียดหยามศาสนานั้น การกระทาตอ่ วตั ถหุ รือสถาท่ีนนั้ ตอ้ งเป็นการกระทาท่ี เหยยี บหยามศาสนานนั้ หมายความถงึ การดหู ม่นิ ศาสนาน่นั เอง ตอ้ งพจิ ารณาตอ้ งความรูส้ กึ ของ คนท่วั ไป หากพฤตกิ ารณก์ ารกระทาไมแ่ สดงใหเ้ ห็นว่าเหยยี ดหยามก็ไม่มคี วามผดิ ตามมาตรานี้ เน่อื งจากขาดองคป์ ระกอบของความผดิ แมจ้ ะอยใู่ นขนั้ พยายามกไ็ ม่มคี วามผดิ เจตนา ผกู้ ระทาจะตอ้ งมีเจตนาตามมาตรา59 คือตอ้ งรูว้ ่าวตั ถหุ รือสถานท่ีนนั้ เป็นสง่ิ ท่ีเคารพใน ศาสนา ถา้ ไม่รูข้ อ้ เท็จจรงิ ถือวา่ ขาดองคป์ ระกอบของความผิดคอื ขาดเจตนาในการกระทาความผดิ แตผ่ กู้ ระทาจาเป็นตอ้ งรูว้ ่าเป็นการเหยยี ดหยามศาสนาหรือไม่ เน่อื งจากไมใ่ ช่ขอ้ เท็จจรงิ ท่มี อี ยู่ ขณะทาความผิด เป็นลกั ษณะการกระทาท่ตี อ้ งพิจารณาตามความรูส้ กึ ของคนท่วั ไป
14 คาพพิ ากษาศาลฎีกาที่ 5199/2533 จาเลยใชไ้ มต้ แี ละทบุ เศยี รพระพทุ ธรูปอนั เป็นท่ีเคาราในทาง พระพทุ ธศาสนาถือวา่ เป็นการเหยยี ดหยามวตั ถอุ นั เป็นท่ีเคารพในทางศาสนาแลว้ จาเลยจึงมี ความผดิ ฐาน 206 มาตรา207 ความผดิ ฐานกอ่ ให้เกดิ ความวุ่นวายขึน้ ในทป่ี ระชุมศาสนิกชน 631081103 มาตรา 207 ผใู้ ดกอ่ ใหเ้ กิดความว่นุ วายขนึ้ ในท่ปี ระชมุ ศาสนกิ ชนเวลาประชมุ กนั นมสั การ หรือ กระทาพธิ ีกรรมตามศาสนาใดๆ โดยชอบดว้ ยยกฎหมาย ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ไม่เกินหน่ึงปี หรือ ปรบั ไม่เกินสองหม่นื บาทหรือทงั้ จาทงั้ ปรบั องคป์ ระกอบความผิดมดี ังนี้ องคป์ ระกอบภายนอก 1.ก่อใหเ้ กิดความวนุ่ วายขนึ้ ในท่ปี ระชมุ ศาสนิกชน 2.เวลาประชมุ กนั นมสั การ หรือกระทาพธิ ีกรรมตามศาสนาใดๆ โดยชอบดว้ ยกฎหมาย องคป์ ระกอบภายใน 1.เจตนา กอ่ ใหเ้ กิดความวนุ่ วายขนึ้ ในท่ปี ระชมุ ศาสนกิ ชน หมายถงึ กอ่ ใหเ้ กิดความไมส่ งบขนึ้ ในท่ปี ระชมุ ศา สนกิ ชน และจะทาดว้ ยวิธีใดกไ็ ด้ แตไ่ ม่ถึงกบั ตอ้ งมกี ารแตกต่นื โกลาหลมีปฏิกิรยิ าว่นุ วายจากผเู้ ขา้ ประชมุ หรอื ถึงกบั ทาใหพ้ ิธีลม้ เลิกไป เพียงแตท่ าใหก้ ารประชมุ ไมม่ คี วามสงบกถ้ ือว่าเกิดความ วนุ่ วายขนึ้ แลว้ เช่นสง่ เสยี งเอะอะออื้ ฉาว และพดู กา้ วรา้ วกบั พระภิกษุ หรอื ดา่ พระภิกษุและเอา ของท่ถี วายไปเตะเลน่ เอาประทดั ไปจดุ เอากลองไปตีสง่ เสียงรบกวน เป็นตน้
15 การก่อความวนุ่ วายนนั้ จะตอ้ งทาในท่ปี ระชมุ ศาสนกิ ชน คือท่ีท่บี คุ คลเคารพเลื่อมใสในศาสนา ประชมุ กนั ท่ปี ระชมุ อาจจะมแี ต่พระภิกษุ หรือบาทหลวงแตไ่ ม่มฆี ราวาสรว่ มดว้ ย หรอื อาจจะมีทง้ั พระภกิ ษุหรือฆราวาสกไ็ ด้ เวลาประชมุ กนั นมสั การ หรอื กระทาพธิ ีกรรมตามศาสนาใดๆ โดยชอบดว้ ยกฎหมาย การก่อความ วนุ่ วายในท่ปี ระชมุ ศาสนิกชนนนั้ จะตอ้ งเกิดในเวลาท่ปี ระชมุ นมสั การหรอื ทาพิธีกรรมทางศาสนา จะเป็นศาสนาใดกไ้ ด้ จะเป็นการประชมุ ท่วี ดั หรือท่ีบา้ นหรอื สถานท่ีทางานกไ้ ด้ (1)การประชมุ นมสั การ เชน่ ศาสนิกชนประชมุ ในเวลาถวายผา้ กฐินหรือผา้ ป่า ถวายปราสาทผงึ้ เป็นตน้ (2)การประชมุ ทาพิธีกรรมทางศาสนา เชน่ ประชมุ สวดมนตใ์ นโบสถห์ รอื ประกอบพธิ ีบวช พธิ ีสวด ศพ ทาบญุ ขึน้ บา้ นใหมซ่ ่งึ กระทาท่บี า้ น ถา้ ไปรบกวนหรือก่อใหเ้ กิดความไม่สงบขณะประกอบพธิ ีก็ ผดิ ตามมาตรานแี้ ลว้ เจตนา ผกู้ ระทาตอ้ งตอ้ งมีเจตนาตามมาตรา59 ในการก่อใหเ้ กิดความวนุ่ วาย และตอ้ งรู้ ขอ้ เทจ็ จรงิ อนั เป็นองคป์ ระกอบของความผิดคือ รูว้ ่าศาสนกิ ชนประชมุ กนั นมสั การ หรือประกอบ พธิ ีทางศาสนากนั อยู่ ถา้ ไมร่ ูก้ ็ถือวา่ ขาดเจตนา คาพพิ ากษาศาลฎีกาที่ 392/2500 ชาวบา้ นประชมุ กนั นมสั การถวายตน้ ดอกไม้ และปราสาทผงึ้ ต่อพระภกิ ษุสงฆเ์ จา้ อาวาส จาเลยเขา้ ไปดา่ พระภิกษุและเอาปราสาทผงึ้ ไปเตะเลน่ จงึ มีความผดิ ตามมาตรา207
16 มาตรา144 ความผิดฐานให้สินเจ้าพนักงาน 631081123 องคป์ ระกอบภายนอก (1)ผใู้ ด (2)ให้ ขอให้ หรอื รบั วา่ จะให้ ทรพั ยส์ ินหรือประโยชนอ์ ่นื ใด (3)แก่เจา้ พนกั งาน สมาชิกสภานิตบิ ญั ญตั แิ ห่งรฐั สมาชกิ สภาจงั หวดั หรือสมาชิกสภาเทศบาล องคป์ ระกอบภายใน (1)เจตนาธรรมดา (2)เจตนาพิเศษ เพ่อื “จงู ใจใหก้ ระทาการ ไมก่ ระทาการ หรือประวิงการกระทาอนั มชิ อบดว้ ย หนา้ ท่”ี ความหมายของการ ให้ ขอให้ รับว่าจะให้ ให้ หมายถึง มกี ารใหท้ รพั ยส์ นิ หรอื ประโยชนอ์ ่นื ใด และเจา้ พนกั งานรบั เอาไวแ้ ลว้ ซง่ึ อาจเกิดขนึ้ โดยผกู้ ระทาไดใ้ หแ้ ก่เจา้ พนกั งานเอง หรอื เจา้ พนกั งานไดเ้ รยี กเอาและผนู้ นั้ ไดใ้ หไ้ ป ขอให้ หมายถงึ เสนอจะใหท้ รพั ยส์ ินหรือประโยชนแ์ ก่เจา้ พนกั งาน แมจ้ ะพนกั งานยงั ไม่รบั ก็ถือ เป็นความผดิ สาเรจ็ แลว้ รับว่าจะให้ หมายถงึ เจา้ พนกั งานเป็นฝ่ายเรยี กก่อน แลว้ ผกู้ ระทาก็รบั ปากกบั เจา้ พนกั งาน ว่าให้ ทรพั ยส์ ินหรอื ประโยชนอ์ ่ืนใด แมจ้ ะยงั ไมใ่ หท้ รพั ย์ กเ็ ป็นความผิดสาเรจ็ แลว้ ทรัพยส์ นิ หรือประโยชนอ์ ่ืนใด สาหรบั สิง่ ท่ี ขอให้ รบั วา่ จะให้ ตอ้ งเป็น “ทรพั ยส์ นิ ” ซง่ึ หมายถึง วตั ถทุ ่รี ูปรา่ งหรอื ไม่มีรูปรา่ ง ซ่งึ อาจมรี าคาและถือเอาได้ เช่น เงนิ แหวน รถยนต์ เป็นตน้ หรือ “ประโยชนอ์ ่ืนใด” ซ่งึ หมายถึง ประโยชนใ์ ดๆ ก็ตามท่ไี ม่ใช่ทรพั ยส์ นิ เช่น จะใหท้ เุ รียนไปกินแทน หรือ ยกลกู สาวใหเ้ ป็นตน้
17 แก่เจ้าพนักงาน สมาชกิ สภานิติบัญญัตแิ หง่ รัฐ สมาชิกสภาจังหวดั หรือ สมาชกิ สภา เทศบาล ผกู้ ระทาจะตอ้ งมมี ลู เหตจุ งู ใจหรอื เจตนาพิเศษในการกระทาดงั กลา่ วคอื เพ่ือจงู ใจใหเ้ จา้ พนกั งาน หรอื สมาชิกสภาฯ กระทาการ ไมก่ ระทาการ หรอื ประวิงการกระทา ซ่งึ เป็นการอนั มชิ อบดว้ ยหนา้ ท่ี แตถ่ า้ ใหก้ ระทาในเรื่องท่ีชอบดว้ ยหนา้ ท่แี ลว้ ก็จะไมเ่ ป็นความผดิ ตามมาตรานี้ เพอื่ “จงู ใจให้กระทาการ ไมก่ ระทาการ หรอื ประวงิ การกระทาอนั มชิ อบด้วยหน้าท”ี่ ผกู้ ระทาจะตอ้ งมีมลู เหตจุ งู ใจหรือเจตนาพิเศษในการกระทาดงั กลา่ วคือเพ่อื จงู ใจใหเ้ จา้ พนกั งาน หรอื สมาชกิ สภาฯ กระทาการ ไมก่ ระทาการ หรอื ประวงิ การกระทา ซ่งึ เป็นการอนั มชิ อบดว้ ยหนา้ ท่ี แต่ถา้ ใหก้ ระทาในเร่อื งท่ีชอบดว้ ยหนา้ ท่แี ลว้ ก็จะไม่เป็นความผิดตามมาตรานี้ ให้กระทาการอนั มิชอบดว้ ยหน้าท่ี เช่น ใหเ้ งนิ เพ่ือใหต้ ารวจจบั กมุ คนท่ไี ม่ไดก้ ระทาความผดิ ไม่กระทาการอนั มิชอบด้วยหน้าที่ เชน่ ตารวจจะจบั กมุ ผกู้ ระทาผิด จึงใหเ้ งินแกต่ ารวจนนั้ เพ่อื ไมใ่ หท้ าการจบั กมุ ตามหนา้ ท่ี ประว่ิงการกระทาอนั มิชอบดว้ ยหน้าท่ี เชน่ ใหท้ รพั ยส์ นิ แก่เจา้ พนกั งานสอบสวนใหร้ ะงบั การ สอบสวนไวก้ อ่ น โดยเจตนา ผกู้ ระทาจะตอ้ งมเี จตนาในการกระทาตามมาตรา 59 วรรคสอง และตอ้ งรูข้ อ้ เท็จจรงิ อนั เป็นองคป์ ระกอบของความผดิ ตามมาตรา 59 วรรคสามดว้ ย คือ ตอ้ งรูว้ ่าผทู้ ่ตี นกระทาตอ่ นนั้ เป็นเจา้ พนกั งานหรือสมาชกิ สภาฯ ความผดิ ตามมาตรานนี้ นั้ จะเป็นความผดิ สาเรจ็ ทนั ทีนบั แตท่ ่มี ี การให้ ขอให้ หรอื รบั ว่าจะใหท้ รพั ยส์ ินหรือประโยชนอ์ ่นื ใดแก่เจา้ พนกั งาน แมจ้ ะยงั มไิ ดม้ กี ารสง่ มอบทรพั ยส์ นิ หรือเจา้ พนกั งานปฏเิ สธก็ตามและแมท้ ง้ั เจา้ พนกั งานจะทาการ ไม่กระทาการหรอื ประวิงการกระทาอนั มิชอบดว้ ยหรอื ไม่ กไ็ ม่ใชข่ อ้ สาคญั คาพพิ ากษาศาลฎีกา 3096/2552 จาเลยไดไ้ ปขอความช่วยเหลอื จาก ร.ต.อขาว เพ่อื ให้ ชว่ ยเหลือ นายแดงกบั พวก โดยเปลยี่ นขอ้ หาวา่ รว่ มกนั มเี มทแอมเฟตามีนไวใ้ นครอบครองเพ่อื
18 จาหนา่ ยและจาหน่าย เป็นขอ้ หามีแอมเฟตามนี ไวใ้ นครอบครองโดยไม่ไดร้ บั อนญุ าต โดยเสนอเงิน 7,0000 บาท ย่อมเป็นการกระทาม่งุ ประสงคข์ อใหท้ รพั ยส์ นิ เพ่อื จูงใจ ร.ต.อขาว ไปดาเนินการให้ ผบู้ งั คบั บญั ชาการกระทาอนั มิชอบดว้ ยหนา้ ท่ี อนั เป็นความผิดฐานเรียกหรือรบั สินบนเจา้ พนกั งาน ตามาตรา144 มาตรา149 ความผิดฐานเจา้ พนักงานเรียกหรือรับสินบน 631081123 องคป์ ระกอบภายนอก (1)เจา้ พนกั งาน สมาชิกสภานิติบญั ญตั ิแห่งรฐั สมาชกิ สภาจงั หวดั หรือสมาชกิ สภาเทศบาล (2)เรียก รบั หรอื ยอมจะรบั สาหรบั ตนเองหรือผอู้ ่ืนโดยมิชอบ (3)ซง่ึ ทรพั ยส์ นิ หรอื ประโยชนอ์ ่นื ใด องคป์ ระกอบภายใน (1)เจตนาธรรมดา (2)เจตนาพเิ ศษ “เพ่อื กระทาการหรือไมก่ ระทาการอยา่ งใดในตาแหนง่ ไม่วา่ การนนั้ จะชอบหรือมิ ชอบดว้ ยหนา้ ท่”ี แกเ่ จ้าพนักงาน สมาชกิ สภานิตบิ ญั ญตั แิ ห่งรัฐ สมาชิกสภาจงั หวดั หรอื สมาชกิ สภา เทศบาล การกระทาตามมาตรานจี้ ะตอ้ งเป็นการกระทาต่อเจา้ พนกั งาน สมาชิกสภานิติบญั ญตั แิ หง่ รฐั สมาชิกสภาจงั หวดั หรอื สมาชกิ สภาเทศบาล เท่านนั้ และบคุ คลดงั กลา่ วจะตอ้ งเป็นผมู้ อี านาจ หนา้ ท่ใี นเรือ่ งนนั้ ๆ ดว้ ย ถา้ หากกระทาตอ่ บคุ คลอ่นื นอกจากนีแ้ ลว้ หรอื บคุ คลดงั กลา่ วไมม่ ีอานาจ หนา้ ท่ี หรือพน้ จากอานาจหนา้ ท่ไี ปแลว้ ยอมไมม่ ีความผิดตามมาตรานี้ ความหมายของ การเรียก รบั ยอมจะรบั
19 การเรยี ก หมายถึง การท่ีเจา้ พนกั งาน แสดงเจนตาใหบ้ คุ คลอ่ืนสง่ ทรพั ยส์ นิ หรือประโยชนอ์ ่ืนใด แมบ้ คุ คลนนั้ ยงั ไม่ไดส้ ง่ ทรพั ยส์ นิ หรือประโยชนอ์ ่ืนใดก็เป็นความผดิ ฐานสาเรจ็ แลว้ รับ หมายถึง การท่บี คุ คลอ่นื ใหท้ รพั ยส์ ินหรือประโยชนอ์ ่นื ใดแก่เจา้ พนกั งาน และเจา้ พนกั งาน ไดร้ บั ทรพั ยส์ นิ หรอื ประโยชนน์ นั้ ไวแ้ ลว้ ยอมจะรับ หมายถงึ การท่บี คุ คลอ่นื เสนอจะใหท้ รพั ยส์ นิ หรือประโยชนอ์ ่ืนใดแกเ่ จา้ พนกั งานและ เจา้ พนกั งาน ตกลงจะรบั ในขณะนนั้ หรอื ในอนาคต แต่ยงั ไมไ่ ดร้ บั ทรัพยส์ ินหรอื ประโยชนอ์ ่นื ใด สาหรบั ส่งิ ท่ี ขอให้ รบั วา่ จะให้ ตอ้ งเป็น “ทรพั ยส์ นิ ” ซ่งึ หมายถึง วตั ถทุ ่รี ูปรา่ งหรือไมม่ ีรูปรา่ ง ซ่งึ อาจมรี าคาและถือเอาได้ เชน่ เงิน แหวน รถยนต์ เป็นตน้ หรือ “ประโยชนอ์ ่ินใด” ซง่ึ หมายถงึ ประโยชนใ์ ดๆ กต็ ามท่ไี ม่ใช่ทรพั ยส์ ิน เช่น ตารวจจบั ผกู้ ระทา ความผิดแลว้ เรยี ก เอาลกู สาว แลกกบั การปลอ่ ยตวั โดยเจตนา เจา้ พนกั งานผกู้ ระทาจะตอ้ งมเี จตนาในการกระทาตามมาตรา 59 วรรคสอง เจตนาพเิ ศษเพอ่ื กระทาการอย่างใดในตาแหน่งไมว่ ่าการนั้นจะชอบหรอื มชิ อบดว้ ยหน้าท่ี เช่น ตารวจเห็นนายแดง กาลงั ฆา่ คนตายแต่ไม่จบั กมุ นายขาวจึงใหเ้ งนิ ตารวจ 10000 บาท เพ่อื ใหจ้ บั กมุ นายแดง ตารวจรบั เงินมาแลว้ จึงจบั กุมนายแดงเละดาเนนิ คดี ตารวจจงึ มคี วามผดิ รบั สินบน ตามาตรา 149 เพอ่ื ไมก่ ระทาการอยา่ งใดในตาแหน่งไม่วา่ การนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ เช่น ร.ต.ต ตงั้ ด่าน พบนายเหลอื งขบั รถไม่สวมหมวกกนั นอ็ ค จึงเรยี กใหจ้ อด แลว้ เรยี กเงนิ จากนาย เหลือง 500 บาทเพ่อื ปลอ่ ยตวั แมน้ ายเหลืองจะยงั ไม่ไดใ้ หต้ ามท่ี ร.ต.ต บอก กผ็ ดิ ฐานเจา้ พนกั งาน รบั สินบนแลว้ ตามาตรา 149
20 คาพพิ ากษาศาลฎีกา 6263/2531 ส.ต.ตดาจบั กมุ นายแดงในขอ้ เลน่ การพนนั สลากกินรวบ ส.ต.ต เขยี วเป็นตารวจสถานเี ดยี วกนั แตไ่ มไ่ ดร้ ว่ มจบั กมุ และไม่ใช่เจา้ พนกั งาน ไดเ้ รียกเงนิ จากนายแดง ใหน้ าไปให้ ส.ต.ตดาเพ่อื ใหป้ ลอ่ ยตวั นายแดง เม่อื ส.ต.ตดารบั เงินจึงปลอ่ ยตวั นายแดง การกระทา ของส.ต.ตมคี วามผิดฐานเรยี กรบั สินบนตามาตรา149 และนายเขยี วเป็นผสู้ นบั สนนุ ตามาตรา86 มาตรา358 ความผดิ ฐานทาให้เสียทรัพย์ 631081156 •องคป์ ระกอบภายนอก 1.ผกู้ ระทา ไดแ้ ก่ ผใู้ ด 2.การกระทา ไดแ้ ก่ ทาใหเ้ สยี หาย ทาลาย ทาใหเ้ สื่อมคา่ หรอื ทาใหไ้ รป้ ระโยชน์ องคป์ ระกอบข้อที่ 2 ทาใหเ้ สยี หาย หมายถึงทาใหช้ ารุด บบุ สลาย หรือทาใหส้ ภาพของทรพั ย์ เปล่ียนแปลงไปในทางท่เี ลวลง การชารุดบบุ สลายนไี้ มจ่ าเป็นตอ้ งมีลกั ษณะเป็นการถาวร เช่น ใช้ เทา้ เตะรถคนอ่นื บบุ กเ็ ป็นการทาใหเ้ สียทรพั ย์ แมต้ ่อมาซ่อมแซมใหก้ ลบั คนื สภาพเดิมความผดิ ฐานทาใหเ้ สียทรพั ยก์ ็ยงั คงอยู่ ทาลาย เป็นการกระทาท่ีมีความรุนแรงกว่าการทาใหเ้ สยี หาย คือการทาใหท้ รพั ยเ์ สียสภาพไปเลย ทเี ดยี ว เช่น เอารถของผอู้ ่ืนไปเผาหรือขวา้ งแกว้ นา้ แตก การทาลายนบี้ างครงั้ ก็ทาใหท้ รพั ยส์ ญู หายอย่ใู นตวั เชน่ ในกรณีเอาทรพั ยข์ องเขามาเผาจนไหม้ หมดกเ็ ป็นการสญู หาย หรือนานา้ ในแกว้ ไปตม้ ระเหยกลายเป็นไอนา้ ไปหมด ทาใหเ้ ส่อื มคา่ เป็นการท่ีทาใหร้ าคาของทรพั ยล์ ดลง เช่น เอาเสอื้ ใหม่ ๆ ของผอู้ ่นื มาใส่ เอาสงิ่ ของ ผอู้ ่นื มาใช้ เป็นท่เี ห็นไดว้ ่าเป็นการทาใหร้ าคาทรพั ยน์ นั้ ตกหรอื เสือ่ มราคา ทาใหไ้ รป้ ระโยชน์ คอื ทาใหป้ ระโยชนข์ องทรพั ยน์ นั้ หมดไป แมจ้ ะเป็นการช่วั คราวก็ตาม เช่น ปลอ่ ย ลมรถยนตท์ าใหย้ างแบน เป็นตน้ ขอเนน้ ว่าเป็นเร่ืองของการม่งุ พจิ ารณาถึงตวั ทรพั ยไ์ ม่ใช่ประโยชน์ ของผใู้ ชส้ อย ยกตวั อย่างเช่น เอาจกั รจานของผอู้ ่นื ไปซอ่ น ในกรณีเช่นนแี้ มเ้ จา้ ของทรพั ยจ์ ะขาด
21 ประโยชนใ์ นการใชจ้ กั รยานกต็ าม แต่รถยนตก์ ็ยงั คงสภาพเดมิ ในกรณีเช่นนจี้ ึงไม่ใช่เป็นการทาใหไ้ ร้ ประโยชน์ 3.วตั ถแุ ห่งการกระทา ไดแ้ ก่ ทรพั ยข์ องผอู้ ่นื หรือผอู้ ่ืนเป็นเจา้ ของรว่ มอยดู่ ว้ ย องคป์ ระกอบขอ้ ที่ 3 คาว่าทรพั ย์ หมายถึงทรพั ยซ์ ่งึ เป็นอสงั หารมิ ทรพั ยแ์ ละสงั หารมิ ทรพั ยแ์ ตไ่ ม่ รวมถงึ สิทธิต่าง ๆ ดงั นนั้ สิทธิบางอยา่ ง เชน่ สทิ ธิเรียกรอ้ งในนามของตนเองแทนลกู หนี้ ทรพั ยส์ ิทธิ เช่น สิทธิเก็บกิน ภาระจายอมเหลา่ นไี้ ม่น่าจะถกู ทาลายได้ แมจ้ ะมีกรณีท่ีทาใหส้ ิทธิเหลา่ นสี้ ญู สนิ้ ไปก็ไม่นา่ จะอยใู่ นความหมายของการทาใหเ้ สยี ทรพั ย์ ทาลาย ทาใหเ้ สื่อมค่า หรือทาใหไ้ ร้ ประโยชนต์ ามมาตรา 358 และทรพั ยน์ นั้ ตอ้ งเป็นของผอู้ ่นื หรอื ผอู้ ่นื เป็นเจา้ ของรว่ มอย่ดู ว้ ย ดงั นนั้ ถา้ ก. เอาทรพั ยไ์ ปจานาให้ ข. ตอ่ มา ก. แอบไปขโมยทรพั ยน์ นั้ มาแลว้ ทาลายเสีย ก. ย่อมไม่มี ความผิดฐานทาใหเ้ สยี ทรพั ย์ จะมคี วามผิดไดก้ ็แต่เพียงความผดิ ฐานโกงเจา้ หนตี้ ามมาตรา 349 เทา่ นนั้ •องคป์ ระกอบภายใน 1.เจตนา องคป์ ระกอบข้อท่ี 1 ผกู้ ระทาตอ้ งกระทาโดยเจตนา คือประสงคต์ อ่ ผลหรือย่อมเลง็ เหน็ ผลตาม มาตรา 59 ดงั นนั้ แมผ้ กู้ ระทาจะไม่มีเจตนาประสงคต์ ่อผล แต่การกระทาย่อมเล็งเหน็ ผลไดว้ ่าจะ กอ่ ใหเ้ กิดความเสยี หายกย็ ่อมมคี วามผดิ ฐานทาใหเ้ สียทรพั ยไ์ ดอ้ ย่างเช่น กรณีถอ่ เรือเขา้ ไปตดั ใบ บวั ในหนองนา้ สาธารณะซ่งึ มขี า้ วปลกู อย่แู ละทาใหต้ น้ ขา้ วเสียหาย ในกรณีเช่นนยี้ ่อมเลง็ เห็นผลอยู่ ว่าการถอ่ เรือเขา้ ไปในป่าอาจทาใหต้ น้ ขา้ วเสยี หายได้ การกระทาของจาเลยจึงมีเจตนาเล็งเห็นผล (ฎกี าท่ี ๑๑๕๕/๒๕๒๐) คาพพิ ากษาฎีกาที่ 331/2527 โจทกจ์ าเลยตา่ งโตเ้ ถียงกรรมสทิ ธิ์ในนาพิพาทกนั อยู่ เม่ือโจทกป์ ลกู ตน้ ขา้ วในนาพิพาท จาเลยเสยี หายอย่างไร ชอบท่จี ะฟอ้ งรอ้ งวา่ กลา่ วกนั การท่จี าเลยกลบั เขา้ ไถนา
22 พพิ าทเป็นเหตใุ หข้ า้ วท่โี จทกป์ ลกู ไวก้ ่อนเสียหาย การกระทาของจาเลยย่อมเป็นความผิดฐานทาให้ เสยี ทรพั ย์ และตอ้ งชดใชค้ ่าเสียหายแก่โจทก์ มาตรา360 ความผดิ ฐานทาให้เสียทรัพย์ 631081156 •องคป์ ระกอบภายนอก 1.ผกู้ ระทา ไดแ้ ก่ ผใู้ ด 2.การกระทา ไดแ้ ก่ ทาใหเ้ สียหาย ทาลาย ทาใหเ้ สื่อมคา่ หรือทาใหไ้ รป้ ระโยชน์ 3.วตั ถแุ หง่ การกระทา ไดแ้ ก่ ทรพั ยท์ ่ใี ชห้ รือมีใวเ้ พ่ือสาธารณะประโยชน์ •องคป์ ระกอบภายใน 1.เจตนา มีขอ้ สงั เกตมาตรา 360 เป็ นบทบญั ญตั ิเอกเทศ แยกไปจากมาตรา 358 ไมใ่ ชเ่ ป็นบทเพ่มิ โทษ ของมาตรา 358 อย่างกรณีมาตรา 360 นี้ ถือตวั ทรพั ยเ์ ป็นสาคญั โดยทรพั ยน์ นั้ ตอ้ งเป็นทรพั ยท์ ่ใี ช้ หรอื มไี วใ้ ชเ้ พ่อื สาธารณประโยชน์ การทาใหเ้ สียหาย ทาลาย ทาใหเ้ สือ่ มคา่ หรือทาใหไ้ รป้ ระโยชน์ มีความหมายเช่นเดยี วกบั มาตรา 358 ทรพั ยท์ ่ใี ชห้ รอื มไี วใ้ ชเ้ พ่อื สาธารณประโยชน์ หมายความวา่ ทรพั ยน์ นั้ เป็นคณุ แกบ่ คุ คลท่วั ไป ทกุ คนมีสทิ ธิท่จี ะไดร้ บั ประโยชนจ์ ากทรพั ยน์ นั้ ใครจะเป็นเจา้ ของไมส่ าคญั เป็นเอกชนหรอื ของ ราชการ เชน่ ศาลาพกั รอ้ นท่มี ีคนสรา้ งอทุ ศิ ไว้ ท่ีเลยี้ งสตั วส์ าธารณะ ถนนสาธารณะ หรอื แมก้ ระท่งั วา่ ทรพั ยท์ ่ไี ม่มีเจา้ ของแต่ไดใ้ ชเ้ พ่อื สาธารณประโยชนก์ อ็ ยใู่ นความหมายของมาตรานดี้ ว้ ย ดงั นนั้ แมจ้ ะเป็นการกระทาตอ่ ทรพั ยท์ ่ไี มม่ ีเจา้ ของก็เป็นความผดิ ฐานทาใหเ้ สียทรพั ยต์ ามมาตรา 360 ได้ ซ่งึ ตา่ งจากมาตรา 358 ซง่ึ ตอ้ งเป็นทรพั ยท์ ่ีมเี จา้ ของ
23 คาพพิ ากษาศาลฎกี าที่ 8140/2541 จาเลยบกุ รุกยดึ ถือครอบครองท่ดี นิ สาธารณประโยชนแ์ ละได้ แผว้ ถางท่ดี ินดงั กลา่ วใชท้ าไร่ ทาใหบ้ คุ คลอ่นื ท่วั ไปไมส่ ามารถใชป้ ระโยชนจ์ ากหนองคาปลาหลา อนั เป็นสาธารณประโยชนใ์ นสว่ นท่จี าเลยบกุ รุกยดึ ถือครอบครอง เป็นการทาใหห้ นองสาธารณะนนั้ ไรป้ ระโยชนแ์ มเ้ ป็นเพยี งบางสว่ น การกระทาของจาเลยก็เป็นความผิดฐานทาใหเ้ สียทรพั ยท์ ่ใี ชห้ รือ มไี วเ้ พ่อื สาธารณประโยชนแ์ ลว้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 360 มาตรา138 ตอ่ สู้ ขดั ขวางเจา้ พนักงาน 631081192 องคป์ ระกอบภายนอก 1.ตอ่ สู้ ขดั ขวาง 2.เจา้ พนกั งาน หรือผซู้ ่งึ ตอ้ งชว่ ยเจา้ พนกั งานตามหนา้ ท่ี ตอ่ สู้ หมายถงึ ถงึ กบั ลงไมล้ งมอื กบั เจา้ พนกั งาน เชน่ ตารวจเขา้ จบั กมุ กส็ ะบดั หรอื ดิน้ ไมย่ อมให้ จบั แตไ่ ม่ชกหรอื ทารา้ ยตารวจ การต่อสจู้ ะตอ้ งไม่ถึงกบั ทารา้ ยหรอื ใชก้ าลงั ประทษุ รา้ ย เพราะถา้ ใช้ กาลงั ประทษุ รา้ ยก็เป็นความผดิ ตามวรรคทา้ ยไป แตต่ อ้ งเป็นการกระทาท่แี สดงออกมา ไม่ใช่น่งิ เฉยๆ เช่น ตารวจจบั กมุ จะพาไปสถานีตารวจ แต่ไม่ยอมไป น่งั เฉยหรือนอนเสีย ตารวจตอ้ งยกใส่ รถพาไป อยา่ งนไี้ มใ่ ช่การต่อสู้ เพราะมไิ ดก้ ระทาการใดๆ อนั เป็นการขดั ขนื อานาจของตารวจ ขดั ขวาง หมายถงึ การกระทาท่กี ่อใหเ้ กิดอปุ สรรคหรือความยากลาบากในการปฏิบตั หิ นา้ ท่ขี องเจา้ พนกั งานแตไ่ มถ่ งึ กบั ขดั ขืนไม่ใหบ้ รรลผุ ลเสียทีเดียวเพียงทาใหก้ ารปฏิบตั หิ นา้ ท่ขี องเจา้ พนกั งาน ลาบากเช่น ตารวจไลจ่ บั พอตนเองวิ่งขา้ มสะพานไปแลว้ กด็ งึ ไมก้ ระดาทอดสะพานออกไม่ใหต้ ารวจ ขา้ ม หรือยิงปืนขนึ้ ฟ้าขมู่ ใิ หไ้ ลจ่ บั กมุ ตอ่ ไป ถือเป็นการขดั ขวางเจา้ หนา้ ท่ี การขดั ขวางนี้ อาจเป็น การกระทาของผอู้ ่นื ท่กี ารกระทาใดๆ อนั เป็นการขดั ขืนหรอื โตแ้ ยง้ อานาจของเจา้ พนกั งาน แตไ่ ม่ สอดแทรกเขา้ มาก็ได้ เชน่ ตารวจไลจ่ บั แดง เขียวกนั้ กลางมิใหต้ ารวจจบั แดงได้ หรือเขยี วดงึ สะพาน ออกไม่ใหต้ ารวจขา้ ม เป็นตน้ เจา้ พนักงานหรอื ผซู้ ึง่ ต้องช่วยเจา้ พนักงานตามกฎหมายในการปฏิบัตกิ ารตามหน้าที่
24 เจา้ พนักงาน หมายความว่า บคุ คลซง่ึ กฎหมายบญั ญตั ิว่าเป็นเจา้ พนกั งานหรือไดร้ บั แตง่ ตงั้ ตาม กฎหมายใหป้ ฏิบตั ิหนา้ ท่ีราชการ ไม่ว่าเป็นประจาหรอื ครงั้ คราว และไมว่ า่ จะไดร้ บั ค่าตอบแทน หรือไม่ สว่ นผ้ตู อ้ งช่วยเจา้ พนักงานตามกฎหมาย หมายถงึ ตอ้ งมีกฎหมายบญั ญตั ใิ หบ้ คุ คลนนั้ ๆ มี หนา้ ท่ตี อ้ งช่วยเจา้ พนกั งาน เช่น สารวตั รกานนั ซ่งึ เป็นผชู้ ่วยกานนั กฎหมายบญั ญตั ิใหม้ ีหนา้ ท่ี ตอ้ งชว่ ยกานนั ฉะนนั้ ถา้ สารวตั รกานนั เขา้ ทาการจบั กมุ หากผถู้ กู จบั กมุ ต่อสขู้ ดั ขวางสารวตั รกานนั กถ็ ือว่าเป็นการต่อสขู้ ดั ขวางผตู้ อ้ งช่วยเจา้ พนกั งานตามกฎหมาย หากไมม่ กี ฎหมายบญั ญตั ิใหม้ ี หนา้ ท่ตี อ้ งชว่ ยเจา้ พนกั งาน แตเ่ ป็นการเขา้ ชว่ ยเจา้ พนกั งานโดยสมคั รใจเอง ก็มิใชผ่ ซู้ ่งึ ตอ้ งช่วยเจา้ พนกั งานตามกฎหมาย เช่น ตารวจขอแรงนายดี ราษฎรใหช้ ว่ ยตดิ ตาม นายขนั คนรา้ ยชงิ ทรพั ย์ เม่อื ตามไปทนั นายดี ลงจากรถว่งิ ไลใ่ นขนั ถือว่านายดี เขา้ ช่วยเจา้ พนกั งานโดยสมคั รใจเอง ถา้ นายขนั ต่อสขู้ ดั ขวางมใิ หน้ ายดี จบั กมุ ตวั นายขนั ไม่ผดิ ฐานต่อสูข้ ดั ขวางผซู้ ง่ึ ตอ้ งชว่ ยเจา้ พนกั งาน ตามกฎหมายเพราะในกรณีนไี้ มม่ กี ฎหมายบญั ญตั ิใหร้ าษฎรมหี นา้ ท่ตี อ้ งช่วยเจา้ พนกั งานแตอ่ ยา่ ง ใด การตอ่ สหู้ รอื ขดั ขวางอนั จะเป็นความผิดตามมาตรานี้ จะตอ้ งเป็นการต่อสขู้ ดั ขวางเจา้ พนกั งานใน การปฏิบตั กิ ารตามหนา้ ท่ีหรือต่อสขู้ ดั ขวางผซู้ ่งึ ตอ้ งชว่ ยเจา้ พนกั งานตามกฎหมายในการ ปฏบิ ตั ิการตามหนา้ ท่แี ละการปฏบิ ตั ิหนา้ ท่นี นั้ ก็ตอ้ งเป็นการปฏิบตั หิ นา้ ท่ีโดยชอบดว้ ยกฎหมาย ดว้ ย แตห่ ากการปฏิบตั ิหนา้ ท่ขี องเจา้ พนกั งานหรือผซู้ ่งึ ตอ้ งชว่ ยเจา้ พนกั งานนนั้ เป็นการปฏบิ ตั ิหนา้ ท่อี นั ไมช่ อบดว้ ยกฎหมาย แมจ้ ะมีการตอ่ สขู้ ดั ขวางกไ็ ม่มคี วามผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138 องคป์ ระกอบภายใน
25 1.เจตนา เจตนาการต่อสขู้ ดั ขวางเจา้ พนกั งานหรือผซู้ ง่ึ ตอ้ งชว่ ยเจา้ พนกั งาน ตามกฎหมาย ผกู้ ระทาจะตอ้ งกระทาโดยเจตนา และจะตอ้ งรูด้ ว้ ยว่าผทู้ ่ตี นตอ่ สขู้ ดั ขวางนนั้ เป็นเจา้ พนกั งานหรือผู้ ซง่ึ ตอ้ งช่วยเจา้ พนกั งานตามกฎหมายหากผกู้ ระทาไมร่ ูข้ อ้ เท็จจรงิ นี้ กไ็ ม่ถือว่ามเี จตนา วรรคทา้ ย เป็นลกั ษณะฉกรรจข์ องการกระทาความผิดในวรรคแรก กลา่ วคอื ถา้ การตอ่ สขู้ ดั ขวาง นนั้ ไดก้ ระทาโดยใชก้ าลงั ประทษุ รา้ ยหรอื ข่เู ข็ญวา่ จะใชก้ าลงั ประทษุ รา้ ยก็ตอ้ งรบั โทษหนกั ขนึ้ การใช้กาลังประทษุ ร้าย ทาการประทษุ รา้ ยแกก่ ายหรือจติ ใจของบคุ คล ไมว่ า่ จะทาดว้ ยใช้ แรงกายภาพหรือดว้ ยวธิ ีอ่นื ใดและใหห้ มายความรวมถงึ การกระทาใดๆ ซ่งึ เป็นเหตใุ หบ้ คุ คลหน่ึง บคุ คลใดอย่ใู นภาวะท่ไี ม่สามารถขดั ขนื ได้ ไมว่ า่ จะโดยใชย้ าทาใหม้ นึ เมาสะกดจิต หรอื ใชว้ ิธีอ่นื ใด อนั คลา้ ยคลงึ กนั คาๆ นีม้ ีความหมายมากกวา่ การทารา้ ย การกระทาอะไรเล็กๆ นอ้ ยๆ ก็อย่ใู น ความหมายของการใชก้ าลงั ประทษุ รา้ ยแลว้ เช่น กอด จบั ผลกั ดงึ ขว่ น หยิก เป็นตน้ ไม่ถึงขนั้ ทา รา้ ยรา่ งกายแต่การทารา้ ยกอ็ ยใู่ นความหมายของ ประทษุ รา้ ยเหมือนกนั และถา้ ตอ่ สขู้ ดั ขวางถึงขนั้ ทารา้ ยกย็ อ่ มผดิ ฐานทารา้ ยรา่ งกายเจา้ พนกั งานอีกสว่ นหน่ึงดว้ ย กฎหมายถือเป็นเหตฉุ กรรจไ์ ม่ เฉพาะการใชก้ าลงั ประทษุ รา้ ยเท่านนั้ แมเ้ พียงข่เู ข็ญจะใชก้ าลงั ประทษุ รา้ ยกเ็ ป็นเหตฉุ กรรจแ์ ลว้ เหมอื นกนั คาพพิ ากษาศาลฎกี าท่ี 1240/2554 สิบตารวจเอกเอกทานตะวนั แจง้ ขอ้ หาจาเลยว่า เลน่ การ พนนั จบั ย่กี ีโดยเป็นคนเดินโพยฝ่ายเจา้ มือ จาเลยปฏเิ สธ สิบตารวจเอกเอกทานตะวนั กบั พวกรวม 5 คน จะเขา้ จบั กมุ จาเลยไม่ยนิ ยอมโดยสิบตารวจเอกเอกทานตะวนั มีรูปรา่ งใหญ่กวา่ จาเลยมาก การท่จี าเลยเดนิ หนีออกนอกรา้ นก๋วยเต๋ยี วจนสิบตารวจเอกเอกทานตะวนั กบั พวกตอ้ งใชก้ าลงั ลอ็ ก แขน กดหนา้ จาเลยกบั พืน้ ระเบียงเพ่อื ใสก่ ญุ แจมอื จาเลยในลกั ษณะไขวห้ ลงั ขณะจาเลยดิน้ รนขดั ขนื เพ่ือใหพ้ น้ จากการถกู ควบคมุ ตวั เพราะเห็นวา่ ตวั เองไม่ไดก้ ระทาผดิ ซง่ึ แมใ้ นการดิน้ รนของ จาเลยจะเป็นเหตใุ หม้ ือของจาเลยไปโดนหนา้ อกของสิบตารวจเอกทานตะวนั เกิดเป็นรอยถลอก ขนาดเลก็ ก็ตาม แต่การกระทาดงั กลา่ ว ก็ยงั ไม่ถึงขนั้ ท่จี ะเป็นการต่อสขู้ ดั ขวางเจา้ พนกั งานซง่ึ กระทาการตามหนา้ ท่ตี าม ป.อ. มาตรา
26 บทสรุป กฎหมายมายา จากการกระทาเรื่องกฎหมายมายา เป็ นเร่ืองความผิดตัวเจ้าพนักงานในการใช้ กฎหมายและความผิดเกี่ยวศาสนาและทรัพย์ ซ่ึงเป็ นความที่มีผลกระทบกระเทือนต่อ สงั คมหรือคนส่วนใหญ่ของประเทศ ทาใหก้ ฎหมายเกิดความน่าเช่ือและลดความศกั ด์ิสิทธ์ิ ลงทาให้ประชาชนหมดความชอบธรรม เราจึงตอ้ งทาให้ประชาชนเคารพกฎหมายและ ผูใ้ ชก้ ฎหมายจะตอ้ งเป็ นแบบแบบอยา่ งในการใชก้ ฎหมายให้เกิดความยตุ ิธรรมมากที่สุด ให้กบั ประชาชน เมื่อบุคคลใดกระทาความผิดทางอาญา จะตอ้ งไดร้ ับโทษตามกฎหมาย มากนอ้ ยเพียงใดน้นั ข้ึนอยกู่ บั ความร้ายแรงของการกระทาความผิด ตามประมวลกฎหมาย อาญามาตรา 18
27 มาตราทเี่ ก่ียวข้อง 136 ดูหมิน่ เจ้าพนักงาน 139 ข่มขนื ใจเจา้ พนักงานให้ปฏิบัติหนา้ ที่โดย 173 แจ้งความเท็จว่ามกี ารกระทำความผดิ ทางอาญา(ไมม่ คี วามผิดแตบ่ อกว่ามคี วามผิด) 137 แจง้ ความเทจ็ 341 ฉอ้ โกง 343 ฉอ้ โกงประชาชน 349โกงเจ้าหนผ้ี รู้ บั จำนำ 352 ยักยอก ยัยตวั รา้ ยกับนายตม้ ตุน๋ ณ บรษิ ัท ทรงพระสเลนเดอร์ จำกดั นางสาวพคั ตันตัน หญิงสาวผ้ยู ากไร้ ครอบครัวแตกแยกได้มาทำงานในหุ้นส่วนเล็กๆบริษัท ทรงพระสเลนเดอร์ จำกดั ผลิตภัณฑ์ของบรษิ ัทนคี้ ือ โกโ้ ก้ลดน้ำหนกั ซง่ึ กำลงั เปน็ ทน่ี ิยมในโลกโซเชยี ล ซึง่ ประธานบรษิ ัทของ บริษัทนีค้ อื ลกี ุ๊กกกุ๊ ประธานสดุ หลอ่ วยั 36เรยี กได้ว่าเป็นหนึง่ ในปัจจยั ที่ทำให้สาวนอ้ ยใหญ่มาซ้ือผลิตภัณฑ์น้ีเลย ทีเดียววันหนึ่งพัคตนั ตันได้ไปแอบไดย้ ินลกี ุ๊กกกุ๊ คยุ กับเลขาเรอ่ื งของตน ประธานลี: คณุ เลขาครบั ชว่ งน่รี ายไดบ้ รษิ ทั กำลงั ไปได้ดเี ลยนะครับแต่สว่ นหน่งึ ก็มาจากคณุ พัคตนั ตันนะ ครับ555 เลขาสาระแหน่: ใช่คะ่ ประธานรายไดข้ นาดนแี้ บ่งเงนิ หนุ้ ส่วนของพคั มานิดๆหน่อยๆเธอคงไมว่ ่าอะไรหรอก นะคะ5555 นางสาวพัคที่แอบฟงั พัคตนั ตัน:เป็นอยา่ งนไ้ี ปได้ยังไงว่าแล้วรายไดต้ ง้ั เยอะแต่เงินหนุ้ สว่ นยังไดเ้ ท่าเดิม ฉนั อดั เสียงไวห้ มดและแตช่ น้ั จะไมแ่ จ้งตำรวจตอนนีห้ รอกชนั้ จะเอาผลิตภณั ฑ์ของนายไปขายใหถ้ กู ๆ โดยท่ีชั้นยงั รบั เงินบริษัทนายอยู่ช้ันจะ เอาทุนของชั้นคนื คอยดสู อิ ติ าประธาน พัคตันตนั นอกจากจะเป็นหนุ้ สว่ นแล้วยังมีหนา้ ที่ตรวจสอบจำนวนสนิ ค้าดว้ ย เมื่อสินค้ามาถึงเธอก็มกั จะบอก ฝ่ายผลดิ ว่า พัคตันตนั :นี่ ของยงั ไมค่ รบเลยดูยงั ไง ไปทำเพมิ่ เดี๋ยวนี้ ฝ่ายผลิต:ดิฉันว่าดฉิ ันก็นบั มาครบแลว้ นะคะไมน่ า่ ผดิ พลาดได้ พคั ตันตัน:เนีย่ มาเถยี งช้ันเหรอ ชัน้ เปน็ ตรวจสอบนะไม่เชือ่ เธอกล็ องนบั ใหมด่ สู ิ ก่อนทพี่ คั ตันตันจะคืนของใหฝ้ ่ายผลติ เธอได้แอบหยบิ สินค้าออกมามาใส่ในถุงดำที่เธอเตรียมเอาไว้ ฝ่ายผลิต: จริงด้วยคะ่ ทางเราตอ้ งขออภัยด้วยนะคะเราจะไปผลติ เพ่มิ
28 และเหตุการณ์นีก้ เ็ กดิ ขน้ึ ไปเรอ่ื ยๆจนฝา่ ยผลิตเริ่มเอะใจและแจง้ ไปยังเลขาสาระแหนแ่ ละเลขาไดร้ ายงานเรือ่ ง ดงั กลา่ วไปยังประธาน หลังจากพคั ตนั ตนั แอบนำผลิตภัณฑไ์ ปสักพักประธานเริ่มสงสัยว่าทำไมช่วงนข้ี องในสต๊อกขาดบ่อยๆ และ ยังมีเพจท่นี ่าสงสยั อยู่1เพจเพราะมีราคาถูกกวา่ ท่ีบรษิ ัทของพนกั งานฝ่ายไอทกี ห็ าาคา่ ไอพีจาก คอมพวิ เตอรบ์ ริษัทและได้เจอพิกัดสถานทเ่ี พจสนิ ค้า และไดเ้ จอตวั คนทำ ประธาน:เธอเปน็ ใครทำไมขายสินคา้ ในราคาถกู กวา่ บรษิ ทั ใครสั่งเธอมาถ้าคุณบอกผมจะไม่เอาเรอื่ งคณุ จิงจิง(คนดแู ลเพจ): เอ่อ………..คือคณุ พะ พะ พะ พัคตนั ตัน สะ สะส่ังมาคะ่ ดิช้ันแค่ดแู ลตามหนา้ ทีน่ ะคะ ไมไ่ ดร้ ูเ้ ร่ืองอะไรเลย ประธาน: พัคตนั ตนั ………คนซือ่ บอ้ื คนน้ันนะเหรอขอบคุณมากผมจะไมเ่ อาเรื่องคุณง้นั คณุ ไปแจ้งเปน็ พยานให้ ผมด้วยนะครบั จงิ จิง(คนดูแลเพจ):เออ่ ….คะ่ แลว้ ประธานกพ็ าตำรวจพรอ้ มหมายจับไปจับทบ่ี า้ นพคั ตนั ตัน ตำรวจ:พอขอจบั กุมขอ้ หายักยอกนะครับ พัคตันตนั :ยักยอกอะไรกนั คะชน้ั ไมร่ เู้ รื่อง ประธาน:ผมรู้หมดแล้วนะเรอื่ งผลิตภณั ฑ์ที่คุณยกั ยอกไปและช่วงนี้ตณุ กไ็ มไ่ ปทำงานเลย พัคตนั ตนั : ไมน่ ะคะใชไ่ ม่ได้ยกั ยอก ช้นั แคแ่ อบจิ๊กมาดม่ื 2 3 ห่อเอง ชว่ งน้ีชน้ั น้ำหนกั ขน้ึ ด้วยอยุ้ ยยยย! แหะๆแล้วกร็ สู้ กึ แปลกๆดว้ ยค่ะท้องเสยี มนึ ๆ แต่ชน้ั ไปได้ยักยอกไปขายเลยนะคะ ถงึ ชน้ั จะรเู้ รื่องทคี่ ณุ โกง หุ้นของชัน้ แตช่ ้ันกค็ ิดได้แค่น้ี ไหนๆกม็ ีตำรวจก็มาและคณุ ตำรวจคะชั้นขอแจ้งความค่ะ ข้อหาฉอ้ โกงคะ่ น้ีค่ะ หลักฐานชน้ั อัดเสียงไวเ้ เล้ว ประธาน:มันหมายความว่ายงั ไงคณุ จงิ จงิ จงิ จิง: จริงๆแลว้ มคี นส่งั ชน้ั มาอีกค่ะว่าถ้าโดนจับไดใ้ ห้มาบอกว่าคุณพัคตันตนั เป็นคนส่ังการ ประธาน: ใครกันครบั จิงจงิ :เอ่อ คณุ สาระแหน่ค่ะ ประธาน: งน้ั ผมแจง้ ขอ้ หาลักทรพั ยพ์ คั ตนั ตันและแจง้ ความเทจ็ คณุ จนิ จนิ นะครบั รบกวนด้วยนะครบั คณุ ตำรวจ ผมจะไปหาคนผิดตวั จริง ตำรวจ:ไม่ได้ครบั คุณก็โดนแจง้ ข้อหาฉอ้ โกง คุณต้องอยู่ให้พวกผมสอบสวนกอ่ นนะครับท้ัง3คนเลย พคั ตันตัน: ปลอ่ ยช้ันนะตำรวจชนั้ ตำ่ พวกแกมนั กแ็ ค่หมารับใช้คนรวยเท่านนั้ แหละ ตำรวจ: โอเคครบั คุณโดนอกี 1ข้อหาไปเลยครับ ฐานดูหมน่ิ เจา้ พนกั งาน พัคตนั ตัน:กรดี๊ ดดดดดดดดด หลงั จากทัง้ 3โดยสอบสวนเสรจ็ เจ้าพนักงานไดพ้ จิ ารณาแล้ว โดนแค่โทษปรับเท่านน้ั โดย ประธานโดนปรับไป60000บาทซงึ่ มคี วามผิดฐานฉอ้ โกง
29 นางจิงๆโดนปรับไป10000บาท ฐานแจง้ ความเทจ็ และนางพัคตนั ตนั โดนปรบั ไป80000บาท ฐานดูหมนิ่ เจา้ พนกั งานและลกั ทรพั ย์ เน่ืองจากพคั ตนั เสียจำนวนเงินไปเยอะเธอเลยนกึ ถึงทองที่เธอเคยจำนำไว้อยู่ เธอเลไปทร่ี ้านทองหลอกเถา้ แกว่ า่ จะมาไถค่ นื และใหเ้ ถ้าแกห่ ยบิ มาให้ดู พคั ตนั ตัน:เถา้ แก่วนั นช้ี น้ั จะมาไถ่ทองชัน้ คือขอดหู นอ่ ยสิวา่ ยงั อยดู่ ีรเึ ปลา่ เถ้าแก่:ไดเ้ ลยอาพคั เอานี่ หลังจากนั้นพคั ตันตนั กห็ ยิบสรอ้ ยแลว้ รีบวิ่งออกจากร้านไป เถา้ แกก่ ็โทรหาตำรวจทนั ที คณุ ตำรวจ:191สวัสดีครับ เถ้าแก่: อาคงุ ตำรวจชว่ ยอัว๊ ด้วยอ๊วั โดนปลน้ ทอง ตำรวจ:จากทีไ่ หนครบั เถา้ แก่:โรงรบั จำนำชายส่ี ตำรวจ: ทองของเถ้าแก่เองรึเปลา่ ครับ เถา้ แก่:ไม่ช่ายมันเป็นของคนทข่ี โมยนีแ้ หละ ตำรวจ:อย่างน้ีไมเ่ รียกลักทรัพย์หรือวิ่งราวทรัพยน์ ะครบั เขาเรยี กว่าโกงจา้ หนี้ผรู้ บั จำนำเพราะเป็น ทรพั ยส์ นิ ของเขาเอง เถา้ แก่:จะอะไรก็ชา่ งเถอะมันหนไี ปไกลแลว้ มั้งป่านี้อว๊ั ตามไม่ทนั ลว้ิ และเม่อื ตำรวจจบั ได้ และเห็นว่าเพง่ิ หลุดจากการกระทำความผดิ มาก็ก่อเรื่องอกี แลว้ ตำรวจเลยพูดวา่ ตำรวจ:ผมดูสำนวนคดแี ล้วคุณเพง่ิ กระทำความผิดมากฎหมายกใ็ หโ้ อกาสแล้วแตค่ ณุ ยังไม่สำนึกคราวนผ้ี มคง ลดโทษใหค้ ณุ ไมไ่ ด้แลว้ นะโทษของคุณคอื มีความผิดฐานฉ้อโกงเจา้ หนรี้ บั จำนำ โทษปรับ 4หม่ืนบาท และ ระวางโทษจำคกุ 2ปคี รบั หรอื พดู ง่ายๆคอื โดนทั้งจำท้ังปรบั ครบั พคั ตันตนั :ไมน่ ่าชีวิตช้นั นนนนนน หลังจากน้นั ประธานก็ไปหาสาระแหนท่ บ่ี ้าน สาระแหน่:อา้ วประธานมาหาฉนั ถงึ ทีบ่ า้ นมีอะไรหรอคะ ประธาน:ผมร้คู วามจรงิ แล้วนะ สาระเเหน่:เร่อื งอะไรเหรอคะ ทำหนา้ งง ประธาน: โกโกไ้ งละ สาระแหน่:ในท่สี ุดคณุ กร็ ้แู ล้วเหรอคะท่านประธาน คณุ รู้ไม่คะวา่ ผลิตภัณฑ์ของคุณสรา้ งความเจบ็ ปวดให้ฉัน ขนาดไหน ประธาน:ผลติ ภณั ฑ์ผมไปทำอะไรให้คุณเหรอครับ ทำไมค่ ณุ ทำแบบนี้คุณเป็นคนท่ีผมไวใ้ จทีส่ ุดนะ ผมผิดหวงั ใน ตัวคุณมาก สาระแหน่: นอ้ งสาวชน้ั …….ฮือตายเพราะผลติ ภัณฑข์ องคณุ ไอสรรพคุณทค่ี ณุ โฆษณาว่าดมื่ แล้วผอมใน7วัน พรอ้ มผวิ ขาวใส ในเฟสบุ๊คน้องชน้ั ท่ีเป็นคนหัวใส ก็หลงเชอ่ื เลยซ้อื มาดม่ื แตภ่ ายในวนั นน้ั ท่ีท่นี อ้ งดืม่ ชัน้ กม็ ี อาการท้องเสีย มนึ ๆเหมอื นกับนางพัคตันตนั แล้วเธอกช็ อ็ คจนเสยี ชวี ติ โดยที่บริษทั นน้ั กไ็ มม่ ขี ่าวเสยี หายอะไร
30 เลยที่ชนั้ มาทำงานทนี ช้ี น้ั จะมาแก้แคใ้ หน้ อ้ งสาวชนั้ ดีละไหนก็มาทบี่ ้านของชนั้ แลว้ ช้ันจะแจ้งความว่าคณุ ทำ ร้ายร่างกายช้ัน หลังจากนน้ั นางสาระแหน่กโ็ ทรหาตำรวจ โดยทป่ี ระธานยงั ไม่ไดท้ ำอะไรนางสาระแหนเ่ ลย สาระแหน่:คุณตำรวจคา่ ชว่ ยชนั้ ด้วยมคี นทำรา้ ยร่างกายช้ันคะ่ รีบมาๆนะคะช้ันกลวั ท่หี มู่บา้ นเกาลัด บ้านเลขที่5นะคะ ตำรวจ:โอเครครบั ผมจะไปเด๋ียวนี้ครบั (เป็นตำรวจเร่ืองนีแ้ ล้วนเี้ หนอื่ ยจริงๆ) ประธาน:แลว้ คณุ รู้ได้ไงครับวา่ คุณพัคตันตันขโมยผลติ ภัณฑ์นำไปดื่ม สาระแน่:ก็วนั นนี้ งั จนิ จิน มาโทรมาชนั้ แลว้ ชัน้ ก็ไดย้ ินทัง้ หมดทค่ี ณุ คยุ กัน ประธาน:ถ้าเป็นเมอ่ื กอ่ น ผมยอมรบั ครบั ผลิตภณั ฑ์เรามคี วามผดิ พลาดจริง แลว้ ผมก็รบั ผดิ ฐานฉอ้ โกง ประชาชน และเสยี ค่าปรบั ไป4แสนบาทแลว้ ดว้ ย แถมยังโดนสัง่ ปดิ ไปกวา่ 4ปีกว่าผมจงึ คดิ สตู รใหมท่ ่ี ปลอดภยั ต่อผู้บริโภคและไมเ่ กนิ จริงแถมให้คำแนะนำทไี่ มก่ ่อใหเ้ กิดอันตรายดว้ ยผมยังใช่คา่ เสียหายแก่ ครอบครัวทส่ี ญู เสยี ผมกป็ ิดขา่ วเพื่อไม่ให้บริษัทเสยี หาย สาระแหน่: ไม่จริง แลว้ ทำไมวนั นั้นนงั ตันตันถึงมอี าการอยา่ งนน้ั ละ ประธาน: ออ่ หลงั จากวนั น้ันคณุ พคั ตนั ตนั ไปโรงพยาบาล แลว้ กต็ รวจเจอว่าลำไส้อักเสบ เธอเลยนกึ ข้ึนได้วา่ เพ่งิ กินสม้ ตำปูปลารา้ พรกิ 10เมด็ เขา้ ไป อาการเลยเป็นอย่างน้ัน สาระแหน่ :คุณโกหกชนั้ ไม่เช่ือหรอก ประธาน:งนั้ คณุ ไป สน กบั ผมแล้วไปดสู ำนวนคดีกับผม อ่อน้ันไงคุณตำรวจมาพอดี ตำรวจ: ไหนครับคนท่ีทำรา้ ยรา่ งกายคณุ ประธาน:ผมเองครบั เด๋ยี วคอ่ ยคยุ รายละเอียดท่ี สน นะครับ พาผมกบั คุณสาระแหนด่ ว้ ยนะครบั ตำรวจ: (คิดในใจน้ีมันเรอ่ื งอะไรกันเนี่ย) โอ โอเคครับ เมอ่ื ถงึ สถานีตำรวจ ประธาน:คุณตำรวจครับขอดสู ำนวนคดขี อง นายลกี ุ๊กกุ๊กหนอ่ ยครับ ตำรวจ:น้คี รับ ย่นื สำนวนให้ดู ประธาน:น้ไี งครบั คณุ สา สาระแหน่: ฮรือออออช้นั ทำอะไรลงไป แตถ่ งึ ยังงช้ันก็ยังแค้นคุณคุณตำรวจคะชัน้ ขอแจ้งความ คุณคนนเ้ี ขา ทำร้ายรา่ งกายอชิ นั้ คะ่ ฮือๆๆ ตำรวจ:แตเ่ ท่าที่ผมตรวจสอบ รา่ งกายคณุ ไมม่ บี าดแผลจากการต่อสขู้ ัดขืนหรือโดนทำรา้ ยเลยนะครับ กรณี น้ีถือว่าคุณแจ้งความเทจ็ ว่ามกี ารกระทำความผดิ นะครับ ผมคงตอ้ งขอสอบสวนคณุ เพ่ิมเติม ประธาน:ง้ันผมขอแจง้ ขอหายกั ยอกผลิตภัณฑ์ของผมแลว้ กันนะครบั คดียงั ไม่หมดอายุความใช่มั้ยครับน่ี ครับบแจง้ ความอนั เกา่ สาระแหน่:ปล่อยช้นั นะ คุณตำรวจรู้ไม่ว่าแมช่ น้ั เป็นใคร ชัน้ ไมใ่ ห้แม่ชน้ั ปล่อยคุณไวแ้ น่ ตำรวจ:ยังครบั คณุ ลี ผมไมส่ นนะครับว่าแม่คุณสาจะเปน็ ใครผมแค่ทำตามหนา้ ที่ เม่อื ผมตรวจสอบหลกั ฐาน พยานครบแลว้ ง้ันคณุ สาระแหนผ่ มขอแจ้งฐานความผดิ คุณนะครับคุณสาระแหน่ ผิดฐานยักยอกทรัพย์ ปรบั จำคุก 2ปี ปรับ40000 บาท แจง้ ความเท็จว่ามคี วามผดิ ทางอาญา จำคุก 1ปี ปรับ 4หมนื่ บาท และเพ่ิม
31 ความผดิ ฐานพยายามข่มขืนใจเจา้ พนกั งานให้ละเวน้ หนา้ ทน่ี ะครบั ว่ามกี ารกระทำความผดิ ทางอาญาขน้ึ โดนปรับ 20000บาท รวมแลว้ คุยตอ้ งจำคุก3ปีแล้วจ่ายค่าปรับ 100000 บาท คุณจะรบั ข้อกล่าวนหี้ รอื ไม่ สาระแหน่:รับคะ่ คณุ ลีชนั้ ขอโทษนะคะทช่ี ั้นทำไม่ดีกบั คณุ จรงิ ๆแลว้ ตง้ั แตอ่ ยู่กบั คุณมาชน้ั มคี วามรู้สกึ ดีๆให้คณุ นะคะ แต่ความแคน้ มนั ทำให้ช้นั มองข้ามจดุ นี้ไปดูแลตวั เองดีนะคะ ขอใหเ้ จอคนดีๆเข้ามา ประธาน:จรงิ ๆแลว้ ผมกม็ ีความรสู้ ึกๆดกี บั คณุ นะครับ ตลอดสามปผี มจะรอคุณกลบั มานะครับ สาระแหน่:จรงิ เหรอคะงั้นคณุ สัญญานะคะวา่ จะรอชน้ั ประธาน:ครบั ผมจะรอ ตำรวจ: อรา้ ยนึกวา่ ซีรีย์ ซง้ึ อะ่ ตำรวจ2: อนี ี้ดซู รี ยี เ์ ยอะไป จับผตู้ อ้ งไปไดแ้ ลว้ ตำรวจ: โอเคครับ จบบบบบบบบ
32 บทท2่ี ยยั ตัวร้ายกับนายต้มตุน๋ เนือ้ หาและคาพพิ ากษาศาลฎีกา มาตรา139 ข่มขนื ใจเจา้ พนักงานใหป้ ฏิบตั หิ น้าทโ่ี ดยมชิ อบ 631081005 มาตรา139 ผใู้ ดข่มขืนใจเจา้ พนกั งานใหป้ ฏิบตั กิ ารอนั มิชอบดว้ ยหนา้ ท่ี หรือใหล้ ะเวน้ การ ปฏิบตั กิ ารตามหนา้ ท่โี ดยใชก้ าลงั ประทษุ รา้ ย หรอื ขเู่ ข็ญวา่ จะใชก้ าลงั ประทษุ รา้ ย ตอ้ งระวาง โทษจาคกุ ไม่เกินสป่ี ี หรอื ปรบั ไม่เกินแปดหม่นื บาท หรอื ทงั้ จาทง้ั ปรบั องคป์ ระกอบของความผิด 1. ผใู้ ด 2. ข่มขืนใจ 3. เจา้ พนกั งาน 4. ใหป้ ฏิบตั กิ ารอนั มชิ อบดว้ ยหนา้ ท่ี หรอื ใหล้ ะเวน้ การปฏิบตั กิ ารตามหนา้ ท่ี 5. โดยใชก้ าลงั ประทษุ รา้ ย หรอื ขเู่ ข็ญวา่ จะใชก้ าลงั ประทษุ รา้ ย 6. ตอ้ งระวางโทษ… องคป์ ระกอบภายนอก -ผใู้ ด(ผกู้ ระทา) บคุ คลท่มี ีการกระทาความผดิ -การกระทา ข่มขนื ใจ -วตั ถแุ หง่ การกระทา .เจา้ พนกั งาน องคป์ ระกอบภายใน 1.กระทาโดยเจตนา -การกระทาในมาตรานผี้ กู้ ระทามกี าร คิด ตกลงใจ และไดก้ ระทาตามท่ตี กลงใจแลว้ ถือไดว้ า่ =ผกู้ ระทากระทาโดยเจตนา 2.เจตนาตามความเป็นจรงิ (เจตนาธรรมดา)
33 2.1ผกู้ ระทาไดก้ ระทาโดยรูส้ านึกในการท่กี ระทาตอ้ งรูข้ อ้ เทจ็ จรงิ อนั เป็นองคป์ ระกอบ ความผิดและในขณะเดยี วกนั ผกู้ ระทาประสงคต์ อ่ ผล หรอื ย่อมเลง็ เห็นผลของการกระทานนั้ ตามมาตรา59วรรค2 =กระทาโดยเจตนา คาพพิ ากษาศาลฎีกาท่ี 920/2508 เม่อื พนกั งานสอบสวนไม่ยอมส่งั อนญุ าตใหจ้ าเลยประกนั ตวั ผตู้ อ้ งหาเพราะผิดระเบียบ จาเลยพดู ขเู่ ข็ญว่าถา้ ไมส่ ่งั ใหป้ ระกนั จาเลยจะจดั การใหพ้ นกั งานสอบสวนถกู ยา้ ยไปท่อี ่นื เช่นท่ี เคยกระทาไดผ้ ลมาแลว้ แกผ่ บู้ งั คบั กองคนหนึง่ แตโ่ ดยท่เี รอื่ งยา้ ยไม่แนถ่ า้ ไมใ่ หป้ ระกนั จะตอ้ ง เอาพนกั งานสอบสวนลงหลมุ ฝังศพเสยี เชน่ นี้ การกระทาของจาเลยเป็นการข่มขืนใจ ข่เู ข็ญ เจา้ พนกั งานใหถ้ ึงแก่ชีวิตดว้ ยการใชก้ าลงั ประทษุ รา้ ยตามความหมายของถอ้ ยคาเพ่อื ใหเ้ จา้ พนกั งานปฏิบตั ิการส่งั ประกนั เสียเอง อนั มิชอบดว้ ยหนา้ ท่กี ารกระทาของจาเลยเป็นผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 139 มาตรา341 ความผิดฐานฉ้อโกง 631081033 มาตรา 341 “ผใู้ ดโดยทจุ รติ หลอกลวงผอู้ ่นื ดว้ ยการแสดงขอ้ ความอนั เป็นเทจ็ จรงิ หรือ ปกปิดขอ้ ความซง่ึ ควรบอกใหแ้ จง้ และโดยการหลอกลวงดงั วา่ นนั้ ไปซง่ึ ทรพั ยส์ นิ จากผถู้ กู หลอกลวงหรือบคุ คลท่สี าม หรือทาใหผ้ ถู้ กู หลอกลวงหรือบคุ คลท่สี าม ทา ถอน หรอื ทาลาย เอกสารสิทธิ ผนู้ นั้ กระทาความผิดฐานฉอ้ โกง ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ไมเ่ กินสามปี หรอื ปรบั ไมเ่ กิน หกหม่นื บาท หรอื ทงั้ จาทง้ั ปรบั ” องคป์ ระกอบความผดิ ฐานฉ้อโกง องคป์ ระกอบภายนอก 1. หลอกลวงผอู้ ่นื ดว้ ยการแสดงขอ้ ความอนั เป็นจรงิ หรอื ปกปิดขอ้ ความจรงิ ซ่งึ ควรบอกให้ แจง้ 2. โดยการหลอกลวงดงั กลา่ ว ไดไ้ ปซ่งึ ทรพั ยส์ ินจากผถู้ กู หลอกลวงหรอื บคุ คลท่สี าม หรอื ทาใหผ้ ถู้ กู หลอกลวงหรือบคุ คลท่สี าม ทา ถอน หรือทาลายเอกสารสิทธิ
34 องคป์ ระกอบภายใน 1. เจตนา 2. โดยทจุ รติ 3. อธิบาย การหลอกลวง คือ การท่ที าใหผ้ อู้ ่ืนนนั้ หลงเช่อื ผดิ ไปจากความเป็นจริงมิใชเ่ พียงแต่ ถือเอาประโยชนจ์ ากความหลงผดิ ของผอู้ ่นื ซง่ึ ตนเองนนั้ มิไดก้ อ่ ใหเ้ กิดขนึ้ แต่การหลอกลวงนนั้ จะตอ้ งเกิดจากการกระทาของผหู้ ลอกลวงโดยอาจเป็นการท่จี ะแสดงขอ้ ความเทจ็ หรือการ ปกปิดความจรงิ ซ่งึ ควรท่จี ะบอกใหแ้ จง้ ชดั ก็ได้ การแสดงขอ้ ความเท็จนนั้ อาจจะทาไดโ้ ดยวาจา ลายลกั ษณอ์ กั ษร การแสดงกรยิ าท่าทาง หรอื รูปแบบอ่นื ๆ การแสดงขอ้ ความอนั เป็นเทจ็ นนั้ ส่งิ ท่ีจะแสดงตอ้ งมีลกั ษณะเป็นขอ้ เท็จจรงิ ซ่งึ ไม่ตรง กบั ความเป็นจรงิ ในขณะท่กี ลา่ วนนั้ ถา้ ขอ้ เท็จจรงิ ท่แี สดงนนั้ เป็นขอ้ ความจรงิ แมว้ ่าผกู้ ลา่ วนนั้ จะเขา้ ใจวา่ เป็นขอ้ เทจ็ และเพ่อื ท่จี ะหลอกลวงผอู้ ่ืน ก็ไมถ่ ือว่าเป็นการแสดงขอ้ เท็จ หรอื แมแ้ ต่ ขณะนนั้ ท่ีแสดงขอ้ ความท่เี ป็นเท็จแตต่ อ่ มาก็ไดก้ ลายเป็นความจรงิ ขนึ้ มาก่อนท่ผี กู้ ลา่ วจะได้ อะไรไป ก็ถือวา่ ยงั ไมเ่ ป็นความผดิ สว่ นการแสดงความคดิ เห็นหรือการคาดคะเนนนั้ ไม่ใชก่ าร ยืนยยั วา่ เป็นขอ้ เท็จจรงิ จึงไม่เป็นการแสดงขอ้ ความเท็จ แมว้ า่ ความคดิ เหน็ หรอื การคาดคะเน นนั้ จะผดิ ก็ตาม แต่ตอ้ งระวงั ว่า ถา้ ความคิดเห็นหรือคาดคะเนนนั้ มีการแสดงขอ้ เทจ็ จรงิ สนบั สนนุ เพ่อื ใหเ้ กิดความนา่ เช่อื และขอ้ เท็จจรงิ นนั้ เป็นเทจ็ ก็อาจจะเป็นการหลอกลวง โดย แสดงขอ้ ความเป็นเท็จกไ็ ด้ ขอ้ ความเท็จ จะตอ้ งเป็นขอ้ เท็จจรงิ หรอื เหตกุ ารณใ์ นอดตี หรือปัจจบุ นั นนั้ จะเป็น เหตกุ ารณใ์ นอนาคตนนั้ ไม่ได้ เพราะว่าถา้ เป็นเหตกุ ารณใ์ นอนาคตนนั้ ย่อมท่จี ะยงั ไมเ่ ป็นจรงิ หรอื เท็จไปได้ และในขณะท่แี สดงนนั้ เพราะเหตกุ ารณย์ งั ไมเ่ กิดขนึ้ โดยทจุ รติ เพ่อื แสวงหาผลประโยชนท์ ่มี คิ วรไดโ้ ดยชอบดว้ ยกฎหมายเพ่อื ตนเองหรอื ผอู้ ่นื
35 คาพพิ ากษาศาลฎกี า 2581/2529 จาเลยทงั้ สองข่รี ถจกั รยานยนตซ์ อ้ นกนั เขา้ ไปเติมนา้ มนั ท่ี บา้ นผเู้ สียหาย เสรจ็ แลว้ ภรยิ าผเู้ สียหายขอเงินค่านา้ มนั จาเลยท่ี 2 กลบั ตอบวา่ ไมม่ ีเงิน มีแต่ไอ้ นเี้ อาไหม ขณะพดู จาเลยท่ี 2 ถือลกู กลมๆ ซ่งึ ภรยิ าผเู้ สยี หายเขา้ ใจวา่ เป็นลกู ระเบดิ แลว้ จาเลยทงั้ สองก็ข่รี ถจกั รยานยนตอ์ อกไป เม่ือลกู กลมๆ ท่จี าเลยท่ี 2 ถือ ฟังไม่ไดว้ ่าเป็นลกู ระเบิดหรอื ไม่ การท่จี าเลยท่ี 2 บอกภรยิ าผเู้ สยี หายเม่อื ถกู ทวงใหช้ าระราคานา้ มนั จงึ เป็น วิธีการท่จี ะใชแ้ สวงหาประโยชนท์ ่มี คิ วรไดโ้ ดยชอบดว้ ยกฎหมายเทา่ นนั้ ดงั นี้ จาเลยทงั้ สองมี เจตนาทจุ รติ หลอกลวงผเู้ สยี หายเพียงเพ่อื จะเติมนา้ มนั รถจกั รยานยนต์ โดยไม่ชาระราคา เท่านนั้ การกระทาของจาเลยทงั้ สองเป็นความผิดฐานฉอ้ โกง หาใชเ่ ป็นความผดิ ฐานลกั ทรพั ย์ ไม่ มาตรา343 ความผิดฉ้อโกงประชาชน 631081033 มาตรา 343 “ถา้ การกระทาความผดิ ตามมาตรา 341 ไดก้ ระทาดว้ ยการแสดงขอ้ ความ อนั เป็นเทจ็ ต่อประชาชน หรอื ดว้ ยการปกปิดความจรงิ ซง่ึ ควรบอกใหแ้ จง้ แกประชาชน ผกู้ ระทา ระวางโทษจาคกุ ไมเ่ กินหา้ ปี หรอื ปรบั ไมเ่ กินหนึ่งแสนบาท หรือทง้ั จาทงั้ ปรบั ถา้ การกระทาความผดิ ดงั กลา่ วในวรรคแรก ตอ้ งดว้ ยลกั ษณะดงั กลา่ วในมาตร 342 อนมุ าตราใดดว้ ย ผกู้ ระทาตอ้ งระวางโทษจาคกุ ตงั้ แตห่ กเดือนถงึ เจ็ดปี และปรบั ตงั้ แต่หนงึ่ หม่ืน บาทถึงหนึง่ แสนส่ีหม่นื บาท” องคป์ ระกอบความผิดฉ้อโกงประชาชน องคป์ ระกอบภายนอก 1. กระทาความผิดฐานฉอ้ โกง 2. กระทาตอ่ ประชาชน องคป์ ระกอบภายใน เจตนา
36 อธบิ าย องคป์ ระกอบความผิดตามมาตรา 343 ถือหลกั ตามมาตรา 341 ซง่ึ มนั เพิ่มบทท่ีหนกั กวา่ ของการลงโทษโดยถือเอาเหตแุ ห่งความเสยี หายซง่ึ อาจเกิดแกบคุ คลผถู้ กู หลอกลวงเป็น หลกั คอื นบั ตงั้ แต่ 10 คนขนึ้ ไป ถือว่าเป็นการหลอกลวงต่อประชาชน หมายถึง บคุ คลท่วั ไป โดยหาไดจ้ านวนผเู้ สยี หายท่ถี กู หลอกลวงวา่ มากหรอื นอ้ ยไม่ แต่ถือเอาเจตนาท่แี สดงขอ้ ความ อนั เป็นเท็จหรือการปกปิดความจรงิ ซ่งึ ควรบอกใหแ้ จง้ ชดั เป็นสาคญั และขอ้ สาคญั ของ ลกั ษณะของการหลอกลวงนนั้ ตอ้ งเปิดกวา้ งใหต้ ่อประชาชนท่วั ไป หรือประชาชนกลมุ่ ใดกลมุ่ หนึง่ ซง่ึ ไมต่ อ้ งเจาะจงตวั ตน เม่อื ไดม้ ีการแสดงความเทจ็ ตอ่ ประชาชนท่เี ป็นการท่วั ไปแลว้ จะมี คนท่ที ราบขอ้ เท็จจรงิ ก่ีคนไม่สาคญั แต่ถา้ มีผใู้ ดผหู้ นง่ึ แมค้ นเดียวท่หี ลงเช่อื จนผกู้ ระทาผิดได้ ทรพั ยส์ ินไป กถ็ ือว่าเป็นการฉอ้ โกงประชาชนแลว้ คาพพิ ากษาศาลฎกี า 557/2502 ล กบั ป สองพ่อลกู รว่ มกนั หลอกลวงวา่ นา้ พขุ นึ้ นนั้ เจา้ แม่ สาโรงบนั ดาลใหม้ ีขนึ้ เป็นนา้ พศุ กั ดสิ์ ิทธิ์ใชเ้ ป็นยารกั ษาโรคได้ ประชาชนคนดหู ลงเช่อื ไดเ้ อา นา้ นนั้ ไปใชก้ ินและทารกั ษาโรคได้ แต่ไมห่ ายเพราะเป็นนา้ ธรรมดาในคลองนนั้ เอง และไดใ้ ห้ เงินแก่ ล กบั ป รวมประมาณหน่ึงหม่ืนบาทเศษ โดยชาวบา้ นหลงเช่ือว่าเป็นนา้ ศกั ดิส์ ิทธิ์รกั ษา โรคไดจ้ รงิ แตค่ วามจรงิ ล เอาเทา้ พยุ้ นา้ ในคลอง ทาใหน้ า้ ผดุ พขุ นึ้ มาได้ ไม่เก่ียวกบั เจา้ แมใ่ ดๆ เลย ป ผเู้ ปิดบิดาไดร้ ว่ มกระทาผิดดว้ ยโดยอา้ งวา่ นา้ พนุ นั้ เจา้ แม่บนั ดาลใหเ้ กิดขนึ้ ซ่งึ เป็นการ ปกปิดความจรงิ และแสดงขอ้ ความเทจ็ ดงั นี้ ล และ ป มคี วามผิดตามมาตรา 343 มาตรา 349 ความผดิ ผดิ ฐานโกงเจา้ หนี้ 631081038 มาตรา 349 มอี งคป์ ระกอบดังตอ่ ไปนี้ 1. ผใู้ ด 2. เอาไปเสีย ทาใหเ้ สยี หาย ทาลาย ทาใหเ้ สื่อมค่า หรือทาใหไ้ รป้ ระโยชน์ 3. ซ่งึ ทรพั ยอ์ นั ตนจานาไวแ้ กผ่ อู้ ่นื 4. เพ่อื ใหเ้ กิดความเสยี หายแก่ผรู้ บั จานา (เจตนาพิเศษ)
37 องคป์ ระกอบขอ้ ท่ี 2 เป็นองคป์ ระกอบในสว่ นของการกระทาคือการเอาไปเสีย หมายความวา่ การพาเอาทรพั ย์ นนั้ เคลอื่ นท่ไี ปโดยมเี จตนาเพ่อื ใหเ้ กิดความเสยี หาย ไม่จาตอ้ งถึงเอาไปในลกั ษณะเป็นการตดั กรรมสิทธิ์ • ทาใหเ้ สียหาย หมายถงึ ทาใหท้ รพั ยน์ นั้ มคี ณุ สมบตั ิหรือสภาพเส่ือมทรามลง เชน่ บบุ สลาย เป็นตน้ • ทาลาย มคี วามรุนแรงกว่าท่ที าใหเ้ สียหาย หมายถึงการทาใหห้ มดสิน้ ไป เช่น เอาทรพั ย์ ไปโยนทงิ้ นา้ นา่ จะเป็นการทาลาย หรือเอานาฬิกาของเขามาเหยยี บใหแ้ ตก กค็ งเป็นการ ทาลายเชน่ กนั หรือกรณีเอาทรพั ยม์ าเผาเป็นตน้ • ทาใหเ้ สื่อมค่า หมายถึงทาใหร้ าคาทรพั ยล์ ดนอ้ ยลง เช่น เอาเสือ้ ผา้ ของผอู้ ่นื ท่ีเพิ่งซอื้ มา ใหม่ไปใส่ เป็นการทาใหเ้ สือ่ มค่าอยใู่ นตวั • ทาใหไ้ รป้ ระโยชน์ หมายความว่าทาใหส้ ภาพของทรพั ยใ์ ชก้ ารไม่ดี โดยสภาพของทรพั ย์ ไมไ่ ดเ้ ปลีย่ นแปลงไป เชน่ ปลอ่ ยลมออกจากยางรถยนต์ สภาพของทรพั ยไ์ ม่ไดเ้ ปล่ียนไปแตท่ า ใหร้ ถยนตไ์ รป้ ระโยชนไ์ ปจากการใชส้ อยตากปกติ ในสว่ นของการกระทาตามมาตรา 349 ควรจะเปรียบเทยี บกบั มาตรา 358 ในความผิดฐาน ทาใหเ้ สียทรพั ยจ์ ะเห็นไดว้ า่ ตามมาตรา 349 นนั้ มกี ารเพม่ิ คาว่าเอาไปเสียซ่งึ นอกเหนือจากท่ี บญั ญตั ิไวใ้ นมาตรา 358 ดงั นนั้ เวลาศกึ ษามาตรา 358 กน็ าแนวคดิ ตามมาตรา 349 นไี้ ปปรบั ใชไ้ ด้ องคป์ ระกอบขอ้ ท่ี 3 ทรพั ยอ์ นั ตนจานาไวแ้ กผ่ อู้ ่นื คาว่าทรพั ยต์ ามมาตรา 349 นี้ แมจ้ ะบญั ญตั ิไวเ้ หมือนกบั ความผิดฐานยกั ยอกแต่กเ็ ป็น ท่เี ขา้ ใจไดว้ ่าทรพั ยใ์ นมาตรานี้ ไมร่ วมถงึ อสงั หารมิ ทรพั ย์ เพราะคาว่าจานามคี วามหมายตาม ประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชยม์ าตรา 747 วา่ มีไดแ้ ต่เฉพาะสงั หารมิ ทรพั ยเ์ ทา่ นนั้
38 จงึ สรุปไดว้ า่ ทรพั ยต์ ามมาตรานหี้ มายถงึ สงั หารมิ ทรพั ยแ์ ละรวมถงึ สิทธิตา่ งๆอนั อาจ จานาไดด้ งั ท่บี ญั ญตั ิไวใ้ นประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชยม์ าตรา 750 ถงึ มาตรา 7 53 ถา้ ไม่ มีการจานาตามกฎหมายกจ็ ะมีการโกงเจา้ หนตี้ ามมาตรา 349 ไมไ่ ด้ การนาท่ดี ินไปเป็นประกนั การชาระหนีโ้ ดยการมอบโฉนดไวใ้ หไ้ มเ่ ป็นทงั้ การจานองและ จานา แมผ้ กู้ จู้ ะมาเอาโฉนดท่ดี นิ ไปในภายหลงั โดยมเี จตนาเพ่อื ใหเ้ กิดความเสียหายแกผ่ ใู้ หก้ กู้ ็ ไมเ่ ป็นความผดิ ตามมาตรานเี้ ทยี บเคียงฎีกาท่ี (1050/2507) ตวั อย่าง คาถาม ก.ยืมสรอ้ ยเพชรของ ข. แลว้ นาไปจานาไวก้ บั ค. ตอ่ มา ก. ไดไ้ ปเอาทรพั ยน์ นั้ กลบั คนื มาเพ่อื ใหผ้ รู้ บั จานาไม่อาจบงั คบั ตามสญั ญาจานาไดเ้ ชน่ นี้ ก. มคี วามผดิ ตามมาตรา 349 หรือไม่ คาตอบ การจานาผจู้ านาไม่จาเป็นตอ้ งเป็นเจา้ ของทรพั ยแ์ ละในกรณีดงั กลา่ วนกี้ .ยงั ไดร้ บั ความ ยินยอมจากข.อกี ดว้ ยการกระทาของก.จงึ เป็นความผิดตามมาตรา 349 องคป์ ระกอบขอ้ ท่ี 4 เป็ นสว่ นจิตใจ คอื มีเจตนาธรรมดาตามมาตรา 59 และยงั จะตอ้ งมเี จตนาพิเศษกลา่ วคือเพ่อื ใหเ้ กิดความ เสียหายแกผ่ รู้ บั จานาท่เี ห็นไดช้ ดั ๆก็คอื การท่ผี ทู้ าใหผ้ รู้ บั จานาไม่อาจบงั คบั ชาระหนเี้ อาจาก ทรพั ยท์ ่ีจานาไดย้ ่อมเป็นการเสยี หายอยใู่ นตวั คาพพิ ากษาศาลฎีกาท่ี 1474/2517 จาเลยท่ี 1 แกลง้ ใหต้ นเป็นหนจี้ าเลยท่ี 2 อนั ไมเ่ ป็นความจรงิ ยอ่ มมคี วามผดิ ฐานโกงเจา้ หนสี้ ว่ น จาเลยท่ี 2 ผรู้ บั สมอา้ งเป็นเจา้ หนถี้ ือว่าไดร้ ว่ มกระทาความผิดกบั จาเลยท่ี 1 ดว้ ยในการ พิจารณาคาขอเฉล่ยี ทรพั ยจ์ าเลยทงั้ สองเบกิ ความวา่ มหี นสี้ นิ ตอ่ กนั อนั เป็นความเทจ็ จึงมี ความผิดฐานเบิกความเท็จและจาเลยท่ี 2 ผอู้ า้ งองิ สญั ญากเู้ ป็นพยานหลกั ฐานมีความผดิ ฐาน นาสบื แสดงพยานหลกั ฐานอนั เป็นเทจ็ อีกดว้ ย
39 มาตรา 352 ความผดิ ฐานยกั ยอก 631081038 มาตรา 352 วรรคแรกมีองคป์ ระกอบดังตอ่ ไปนี้ 1. ผใู้ ด 2. ครอบครองทรพั ยซ์ ง่ึ เป็นของผอู้ ่นื หรอื ซง่ึ ผอู้ ่นื เป็นเจา้ ของรวมอยดู่ ว้ ย 3. เบยี ดบงั เอาทรพั ยน์ นั้ เป็นของตนหรือบคุ คลท่สี าม 4. โดยทจุ รติ (องคป์ ระกอบภายใน) องคป์ ระกอบข้อที่ 2 (1) ผใู้ ดครอบครองซ่งึ ทรพั ยข์ องผอู้ ่นื หรอื ผอู้ ่นื เป็นเจา้ ของรวมอยดู่ ว้ ยความผิดลกั ทรพั ยก์ บั ความผดิ ฐานยกั ยอกขอ้ แตกตา่ งท่สี าคญั กค็ ือจะตอ้ งพจิ ารณาว่าทรพั ยอ์ ย่ใู นความครอบครอง ของผกู้ ระทาความผดิ หรอื ไมเ่ พราะความผิดฐานลกั ทรพั ยเ์ ป็นเรอ่ื งการแยง่ ครอบครองแตถ่ า้ ครอบครองอยทู่ ่ผี กู้ ระทาความผดิ แลว้ เบียดบงั โดยทจุ รติ ก็เป็นเร่อื งยกั ยอกการไดม้ าซ่งึ การ ครอบครองตาม ป.พ.พ. ตอ้ งเป็นการยดึ ทรพั ยน์ นั้ โดยเจตนายดึ ถือเพ่อื ตนถา้ เป็นการยดึ ถือแทน ผอู้ ่นื และมีการเอาทรพั ยน์ นั้ ไปโดยทจุ รติ ยอมผิดฐานลกั ทรพั ยเ์ ชน่ ลกู จา้ งขบั รถลอบสบู นา้ มนั เบนซินไปจากถงั นา้ มนั ของรถถือวา่ เป็นความผดิ ฐานลกั ทรพั ยเ์ พราะลกู จา้ งยงั ไมไ่ ดค้ รอบครอง นา้ มนั การไดม้ าซ่ึงครอบครองอาจจะได้มาโดยกรณีหน่ึงกรณใี ดดงั ตอ่ ไปนี้ 1. มกี ารมอบการครอบครองกนั โดยตรงอาจจะโดยปริยายเชน่ มกี ารมอบของใหไ้ ปขายผรู้ บั ของไปขายเป็นผคู้ รอบครองหรอื มกี ารมอบเงินใหไ้ ปชาระหนแี้ ลว้ มีการเบยี ดบงั เอาเงินนนั้ ไป 2. การสง่ มอบนนั้ อาจจะพิจารณาโดยอาศยั บทบญั ญัตขิ องกฎหมายเชน่ สญั ญาจานาผรู้ บั จานายอ่ มเป็นผคู้ รอบครองทรพั ยถ์ า้ ผรู้ บั จานาเบยี ดบงั เอาทรพั ยน์ นั้ ไปโดยมีเจตนาทจุ รติ ย่อม เป็นความผิดฐานยกั ยอกฎกี าท่ี 8329 ถึง 2561 หรือในกรณีท่มี ีการเช่าซอื้ ผเู้ ชา่ ซอื้ ยงั เป็นผู้ ครอบครองหรือในกรณีท่ีมีการเช่าทรพั ยถ์ า้ ผเู้ ชา่ ทรพั ยเ์ ด็ดตอ้ งเอาทรพั ยน์ นั้ ไปขายย่อมเป็น ความผิดฐานยกั ยอก
40 3. ในกรณีท่เี ดิมผคู้ รอบครองมที ง้ั กรรมสิทธิ์และสิทธิครอบครองแตต่ อ่ มากรรมสทิ ธิ์ได้ เปลยี่ นมอื ไปผคู้ รอบครองทรพั ยอ์ าจมีความผิดฐานยกั ยอกไดเ้ ช่นก.เป็นเจา้ ของรถจกั รยานคนั หนึ่งตอ่ มาก.ไดข้ ายรถจกั รยานคนั ดงั กลา่ วใหก้ บั ข.เม่ือเป็นการซอื้ ขายเสรจ็ เด็ดขาดกรรมสิทธิ์ ยอ่ มโอนไปยงั ข.แต่เน่อื งจากก.ยงั ไม่ไดส้ ง่ มอบการครอบครอง ก.ไดแ้ บบบางเอารถจกั รยานคนั ดงั กลา่ วไปขายโดยทจุ รติ เชน่ นกี้ .ย่อมมีความผิดฐานยกั ยอกได้ 4. ความครอบครองไดม้ าอยทู่ ่ผี คู้ รอบครองโดยไม่มีการสง่ มอบ ถา้ จาเลยไม่มีเจตนาเช่าซือ้ มาตงั้ แตแ่ รกการเช่าซือ้ เป็นเพียงอบุ ายเพ่อื ใหไ้ ดม้ าซง่ึ ทรพั ยเ์ ท่านนั้ น่าจะเป็นความผิดฐานฉอ้ โกงแต่ถา้ หากผเู้ ชา่ ซอื้ ไดค้ รอบครองมาแลว้ จงึ พ่งึ มเี จตนาเบยี ดบงั เชน่ นีเ้ ป็นยกั ยอก ในเร่อื งการยักยอกขอให้สงั เกตทค่ี ่อนขา้ งเป็ นปัญหาไว้ 3 ประการคอื 1. ถา้ มอบทรพั ยส์ ่ิงหนงึ่ สิ่งใดใหไ้ ปขายตอ้ งถือว่าไดม้ อบการครอบครองในทรพั ยน์ นั้ ให้ ผขู้ ายแลว้ ตามแนวคาพิพากษาฎีกาสมยั ก่อนถา้ ขายทรพั ยใ์ นราคาต่ากวา่ ราคาท่กี าหนดถือวา่ เป็นการเบยี ดบงั ยกั ยอกส่งิ ท่ฝี ากไปขาย 2. ถา้ เอาทรพั ยน์ นั้ ไปขายแลว้ และไมน่ าเงินมาสง่ ก็มีคาพิพากษาฎกี าท่วี ินิจฉัยวา่ เป็นการ ยกั ยอกเงินท่ไี มน่ ามาสง่ ใหก้ บั ตวั การ 3. ถา้ การมอบของใหไ้ ปขายไม่ใช่ลกั ษณะเป็นตวั แทนแตม่ ลี กั ษณะใหผ้ ขู้ ายไปดาเนนิ การ อย่างหนงึ่ อย่างใดโดยอานาจของผขู้ ายเพยี งแตจ่ ะตอ้ งนาเงินมาคืนใหจ้ านวนหนงึ่ เชน่ นีแ้ นว ของศาลฎกี าเหน็ วา่ ไมใ่ ช่เป็นเรอื่ งตวั แทนแต่เป็นการมอบกรรมสทิ ธิ์ไปเลยดงั นนั้ ถา้ ไม่คนื เงินก็ ไมม่ คี วามผิดฐานยกั ยอก องคป์ ระกอบที่ 2 (2) ทรพั ยซ์ ง่ึ เป็นของผอู้ ่นื หรอื ซ่งึ ผอู้ ่นื เป็นเจา้ ของรวมอย่ดู ว้ ย คาว่า “ทรพั ย”์ ในเรอื่ งยกั ยอก ดงั กลา่ วไวแ้ ลว้ วา่ แมจ้ ะใชค้ าว่าทรพั ยเ์ ชน่ เดยี วกบั ความผดิ ฐานลกั ทรพั ยแ์ ต่ทรพั ยต์ ามมาตรา 352 นเี้ ป็นอสงั หารมิ ทรพั ยก์ ไ็ ด้
41 องคป์ ระกอบข้อที่ ๓ เบยี ดบงั เอาทรพั ยน์ นั้ เป็นของตนหรือบคุ คลท่สี ามการยกั ยอกเป็นเหตใุ หไ้ ดไ้ ปซ่งึ อสงั หารมิ ทรพั ยค์ งไม่ตอ้ งหมายถึงเบียดบงั แลว้ จดทะเบียนเป็นของตวั เพราะความผดิ ฐาน ยกั ยอกผกู้ ระทาความผิดไมม่ ีทางไดก้ รรมสิทธิ์เน่อื งจากเป็นการไดท้ รพั ยส์ นิ โดยผิดกฎหมาย เวน้ แต่จะครอบครองจนกระท่งั ครบระยะเวลาตาม ป.พ.พ. มาตรา 1383 ซง่ึ เป็นการ เปลี่ยนแปลงโดยเจตนาท่ีจะแสวงหาผลประโยชนโ์ ดยมชิ อบเพ่อื เอาทรพั ยซ์ ง่ึ อย่ใู นความ ครอบครองนนั้ เป็นของตนดงั นนั้ ผใู้ ดครอบครองอสงั หารมิ ทรพั ยแ์ ละมีเจตนาทจุ รติ เบยี ดบงั เอา ทรพั ยน์ นั้ เป็นของตนยอ่ มเป็นความผิดฐานยกั ยอกได้ (ความเห็น) องคป์ ระกอบขอ้ ท่ี 4 ตอ้ งมเี จตนาทจุ รติ คือการแสวงหาผลประโยชนท์ ่ีมิควรไดโ้ ดยชอบดว้ ยกฎหมายกม็ คี วามหมาย เชน่ เดียวในกรณีความผดิ ฐานลกั ทรพั ยต์ ามท่ไี ดก้ ลา่ วมาแลว้ ยักยอกทรัพยท์ ม่ี ผี ู้ส่งมอบใหโ้ ดยสาคญั ผดิ (มาตรา 352 วรรค 2) การสง่ มอบใหโ้ ดยสาคญั ผิดนนั้ คาว่าสาคญั ผดิ มีความหมายอย่างกวา้ งขวางไม่จากดั เฉพาะท่จี ะตอ้ งเป็นการสาคญั ผิดในเร่อื งนิตกิ รรมดงั เช่นในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ความสาคญั ผดิ อาจจะเป็นการสาคญั ผิดในตวั บคุ คลลกั ษณะของนติ กิ รรมคณุ สมบตั ิของบคุ คล หรอื ทรพั ยก์ ็ไดเ้ ช่นตอ้ งการจะสง่ เหรยี ญ 10 บาทใหแ้ ต่ไปสง่ เหรียญทองใหโ้ ดยสาคญั ผิดบคุ คล ท่ยี มื เรยี นไดเ้ หรียญแลว้ เบียดบงั เอาเหรยี ญนนั้ ไปเป็นความผิดตามมาตรา 352 วรรค 2 นไี้ ด้ หรือบรุ ุษไปรษณียน์ าของไปสง่ ใหแ้ กก.แตเ่ ขา้ ใจวา่ ข.คอื ก.จงึ มอบของใหก้ บั ข.ไปการท่ีข.เบียด บงั เอาของไปโดยการท่ผี อู้ ่นื สง่ มอบใหโ้ ดยสาคญั ผิดย่อมเป็นความผดิ ฐานยกั ยอกตามมาตรา 352 วรรค 2 นไี้ ด้ เคยกลา่ วในเรอื่ งฉอ้ โกงเก่ียวกบั การลกั ทรพั ยโ์ ดยใชอ้ บุ ายและการสง่ มอบทรพั ยโ์ ดยสาคญั ผดิ โดยการหลอกลวงมาแลว้ ในเรือ่ งนีแ้ นวคาพพิ ากษายงั ไม่แนน่ อนกลา่ วคือการใชอ้ บุ าย หลอกลวงใหผ้ อู้ ่นื สง่ มอบใหโ้ ดยสาคญั ผดิ นนั้ แนวคาพพิ ากษาฎกี าจะวินิจฉยั ไปในทางวา่ เป็น
42 ความผดิ ฐานฉอ้ โกงแตถ่ า้ ผสู้ ง่ มอบทรพั ยส์ ง่ มอบดว้ ยความสาคญั ผดิ อนั เกิดจากผสู้ ง่ มอบเอง เช่นนยี้ ่อมเป็นความผดิ ตามมาตรา 352 วรรคสอง อย่างแนน่ อน ยกั ยอกทรัพยส์ นิ หาย (มาตรา 352 วรรค 2) อยา่ งไรเป็นทรพั ยส์ นิ หายมคี าพิพากษาฎีกาท่ี 136 3/2 503 (ประชมุ ใหญ่)วินจิ ฉยั ว่าทรพั ยส์ นิ หายเป็นเรือ่ งท่ที รพั ยห์ ลดุ พน้ ไปจากความยดึ ถือของเจา้ ของหรือผคู้ รอบครองโดยไม่ไดต้ งั้ ใจ มิใชเ่ ร่ืองสละการครอบครองผใู้ ดเก็บทรพั ยน์ นั้ ไปจะเป็นลกั ทรพั ยห์ รอื ยกั ยอกทรพั ยส์ นิ หายตอ้ ง พจิ ารณาตามพฤติการณเ์ ป็นเรื่องเรอื่ งไปคอื ธาตเุ ก็บเอาไปโดยรูห้ รือควรรูว้ ่าทรพั ยน์ นั้ เจา้ ของ กาลงั ติดตามเพ่อื เอาคืนก็เป็นลกั ทรพั ยถ์ า้ ไม่รูห้ รอื ไม่มเี หตอุ นั ควรจะรูก้ ็เป็นยกั ยอกทรพั ยส์ ิน หาย คาพพิ ากษาฎกี าท่ี 2282/2521 การท่ผี เู้ สยี หายใหจ้ าเลยเช่าบา้ น และบอกใหช้ ่วยดแู ลทรพั ยส์ ินในบา้ น ถือเป็นการมอบหมาย ใหจ้ าเลยครอบครองทรพั ยท์ ่อี ย่ใู นบา้ นแทนผเู้ สยี หาย แลว้ เม่อื จาเลยเอาทรพั ยใ์ นบา้ น เช่น ผา้ ห่ม เส่อื เตาไฟฟา้ โต๊ะ เกา้ อี้ หลอดไฟฟา้ เป็นยกั ยอกฎกี าท่ี 2282/2521 ดงั กลา่ ว มาตรา 137 ความผดิ ฐานแจ้งความเทจ็ 631081064 ม.137 บคุ คลธรรมดาหรอื นติ บิ คุ คลแจง้ ความอนั เป็นจรงิ บางสว่ นและเท็จบางสว่ นถือวา่ เป็น การแจง้ ความเท็จการแจง้ ขอ้ ความเท็จอาจทาโดยบอกกบั เจา้ พนกั งานตอบคาถามเจา้ พนกั งาน เชน่ ใหก้ ารเท็จในฐานะเป็นพยานการแจง้ โดยมีวธิ ีแสดงหลกั ฐานเชน่ คนต่างดา้ วไม่มีสิทธิท่จี ะ ขอมบี ตั รประจาตวั ประชาชนไดโ้ ดยดว้ ยกฎหมายการท่คี นตา่ งดา้ วอา้ งและนาหลกั ฐานแสดง ต่อนายทะเบยี นเพ่ือขอมีบตั รประจาตวั ประชาชนจึงเป็นการแจง้ เทจ็ ต่อเจา้ พนกั งานเพราะ หลงเช่อื วา่ คนตา่ งดา้ วนนั้ มสี ญั ชาตไิ ทยกต็ ามกห็ าใช่เป็นขอ้ อา้ งท่จี ะนามาใชเ้ พ่อื ขอใหม้ กี ารทา บตั รใหม่แทนบตั รเดิมท่หี มดอายกุ ารแจง้ ความเทจ็ จะถือว่าเป็นความผดิ สาเรจ็ เจา้ พนงั งานผรู้ บั แจง้ ตอ้ งไดร้ บั ทราบขอ้ ความนนั้ ดว้ ยแมว้ ่าจะไม่เช่อื เพราะรูค้ วามจรงิ อย่แู ลว้ ก็ตามซ่งึ อาจทาให้ ผอู้ ่นื หรือประชาชนเสียหาย แตถ่ า้ เจา้ พนกั งานไม่ทราบขอ้ ความนนั้ ถือวา่ ความผดิ ไมส่ าเรจ็ เป็น เพียงความผิดฐานพยายามแจง้ ความเท็จน่นั เอง
43 องคป์ ระกอบภายนอก 1. ผใู้ ด 2. แจง้ ความอนั เป็นเท็จ 3. แกเ่ จา้ พนงั งาน 4. ซง่ึ อาจทาใหผ้ อู้ ่นื หรือประชาชนเสียหาย องคป์ ระกอบภายใน เจตนา คาพพิ ากษาศาลฎีกาที่ ๑๐๕๗๐/๒๕๕๔ โจทกบ์ รรยายฟอ้ งว่าจาเลยทงั้ สองรว่ มกนั แจง้ ใหใ้ น ทะเบยี นหนุ้ สว่ น บรษิ ัท จดขอ้ ความอนั เป็นเท็จโดยย่นื แบบนาสง่ งบการเงนิ รอบปีบญั ชสี นิ้ สดุ จานวน ๑ ฉบบั และสาเนาบญั ชีรายช่อื ผถู้ ือหนุ้ ฉบบั ใหม่ ๑ ฉบบั โดยมีขอ้ ความระบไุ วว้ ่าหนุ้ ท่ไี ด้ จดทะเบียนของจาเลยท่ี ๑ จานวน 500,000,000 บาทจาเลยทง้ั สองไดเ้ รียกชาระเงินไปจากผู้ ถือหนุ้ ทง้ั เจ็ดครบถว้ นเตม็ จานวนซ่งึ เป็นความเท็จความจรงิ แลว้ จาเลยทง้ั สองยงั มไิ ดเ้ รยี กชาระ เงินคา่ หนุ้ ท่ถี ือหนุ้ ทงั้ เจ็ดคนคา้ งชาระอยอู่ ีก ๔๙,๕๐๐,๐๐๐ บาทอาจทาใหโ้ จทกห์ รือประชาชน ไดร้ บั ความเสยี หายโดยเฉพาะโจทกซ์ ่งึ เป็นเจา้ หนตี้ อ้ งพบอปุ สรรคในการท่จี ะใชส้ ิทธิบงั คบั ชาระหนหี้ รือบงั คบั คดีเอาแกส่ ทิ ธิเรยี กรอ้ งในเงินค่าหนุ้ คา้ งชาระของจาเลยท่ี ๑ ตามประมวล กฎหมายแพ่งและพาณิชยม์ าตรา ๑๐.๖ โจทกจ์ ึงเป็นผไู้ ดร้ บั ความเสียหายโดยตรงย่อมเป็น ผเู้ สียหายในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๓๗ และมาตรา ๒๖๗ มาตรา 173 ความผดิ ฐานแจ้งความเทจ็ วา่ ไดม้ กี ารกระทาความผดิ เกิดขนึ้ 631081073 โครงสร้างความรับผดิ ทางอาญา องคป์ ระกอบภายนอก 1.ผกู้ ระทา คือ ผใู้ ด 2.การกระทา คอื รูว้ ่ามิไดม้ กี ารกระทาความผดิ เกิดขนึ้ แจง้ ขอ้ ความเทจ็ วา่ ไดม้ ีการกระทา ความผดิ อาญา
44 3.วตั ถแุ ห่งการกระทา คือ พนกั งานสอบสวน หรอื เจา้ พนกั งานผมู้ ีอานาจสอบสวนคดีอาญา องคป์ ระกอบภายใน เจตนา ขอ้ พจิ ารณา มาตรา 173 1.ผกู้ ระทารูว้ า่ มิไดม้ กี ารกระทาความผดิ แต่ไปแจง้ ว่าไดม้ กี ารกระทาความผดิ เกิดขนึ้ และแม้ ตวั บทไมไ่ ดเ้ ขียนวา่ ตอ้ งเป็นคดอี าญา แตแ่ นวคาพิพากษาฎีกาถือว่าตอ้ งแจง้ ว่าไดม้ กี ารกระทา ความผดิ เก่ียวกบั ความผดิ ทางอาญาเท่านนั้ 2.ตอ้ งเป็นการแจง้ ขอ้ เทจ็ จรงิ ไมใ่ ชข่ อ้ กฎหมาย และขอ้ ความท่แี จง้ ตอ้ งเป็นขอ้ สาคญั ในคดี 3.ตอ้ งเป็นการแจง้ โดยรูว้ ่ามไิ ดม้ กี ารกระทาความผิดทางอาญาเกิดขนึ้ แตถ่ า้ เป็นการเขา้ ใจโดย สจุ รติ วา่ มคี วามผดิ เกิดขนึ้ แลว้ ไปแจง้ แมค้ วามจริงจะไมม่ คี วามผดิ เกิดขนึ้ ก็ไม่เขา้ องคป์ ระกอบ คาพพิ ากษาศาลฎกี าท่ี 7008/2548 การท่เี จา้ พนกั งานตารวจ 191 มีหนา้ ท่ีรบั โทรศพั ทเ์ ป็น หนา้ ท่เี ฉพาะตามท่ที างราชการ แตง่ ตงั้ ใหป้ ฏบิ ตั ิ แตโ่ ดยท่วั ไปแลว้ เจา้ พนกั งานตารวจย่อมมี อานาจทาการสบื สวนคดีอาญาไดต้ ามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 17 การท่จี าเลยโทรศพั ทแ์ จง้ เจา้ พนกั งานตารวจ 191 วา่ มกี ารวางระเบดิ ท่หี า้ งสรรพสนิ คา้ บกิ๊ ซี สาขาสขุ สวสั ดิ์ และสถานท่อี ่นื อีกหลายแห่ง โดยรูอ้ ย่วู ่ามิไดม้ ีการกระทาความผดิ อาญา จงึ เป็น การแจง้ ความแก่เจา้ พนกั งานผมู้ ีอานาจสืบสวนคดอี าญามีความผิดตามประมวลกฎหมาย อาญา มาตรา 173 ตามคาพพิ ากษาฎกี าฉบบั นขี้ อ้ เท็จจรงิ เห็นไดช้ ดั ว่าจาเลยมเี จตนาแจง้ เจา้ พนกั งานตารวจ 191 ทงั้ ๆท่รี ูว้ า่ ไมไ่ ดม้ กี ารวางระเบดิ เกิดขนึ้ จรงิ จาเลยจึงมคี วามผดิ อาญาตามประมวลกฎหมาย อาญา มาตรา173 การกระทาของจาเลยเป็นการกระทาท่คี รบองคป์ ระกอบดงั นี้
45 องคป์ ระกอบภายนอก 1.ผกู้ ระทา คือ จาเลย 2.การกระทา คือ โทรศพั ทแ์ จง้ เจา้ พนกั งานตารวจ 191 วา่ มกี ารวางระเบดิ ท่หี า้ งสรรพสินคา้ บกิ๊ ซี สาขาสขุ สวสั ดิ์ และสถานท่อี ่ืนอีกหลายแห่ง 3.วตั ถแุ หง่ การกระทา คือ เจา้ พนกั งานผมู้ อี านาจสืบสวนคดีอาญา องคป์ ระกอบภายใน 1.เจตนา คือ รูอ้ ย่วู ่าไม่ไดม้ ีการกระทาความผิดอาญาเกิดขนึ้ แต่กย็ งั แจง้ (ไม่ไดม้ ีการวางระเบิด หา้ งสรรพสนิ คา้ บกิ๊ ซสี าขาสขุ สวสั ดิ์ และสถานท่ีอ่นื อีกหลายแหง่ ) มาตรา 136 ความผดิ ฐานแจ้งความเทจ็ 631081155 โครงสร้างความรับผดิ ทางอาญา แบ่งได้ 2 กรณี ดหู ม่นิ ขณะปฏิบตั ิหนา้ ท่ี ดหู ม่นิ เพราะไดก้ ระทาตามหนา้ ท่ี มาตรา136 กรณที ่ี 1 องคป์ ระกอบภายนอก 1. ผใู้ ด 2. ดหู ม่นิ 3. เจา้ พนกั งาน 3.1 ซง่ึ กระทาตามหนา้ ท่ี องคป์ ระกอบภายใน เจตนาธรรมดา
46 มาตรา136 กรณีท2่ี องคป์ ระกอบภายนอก 1. ผใู้ ด 2. ดหู ม่นิ 3. เจา้ พนกั งาน องคป์ ระกอบภายนอก 1. เจตนาธรรมดา 2. เจตนาพิเศษ 2.1เพราะเจา้ พนกั งานไดก้ ระทาตามหนา้ ท่ี คาพพิ ากษาศาลฎกี าท่ี 8422/2558 การท่จี าเลยท่ี 1 พดู จาใหร้ า้ ยผเู้ สียหายขณะปฏิบตั ิหนา้ ท่เี ขา้ ตรวจคน้ รา้ นโดยใชค้ าว่า \"ปลดั สน้ ตีน\" ซง่ึ เป็นคาดหู ม่นิ เหยียดหยาม เป็นการกระทาความผดิ ฐานดหู ม่นิ เจา้ พนกั งานซ่งึ กระทา การตามหนา้ ท่ี ตาม ป.อ. มาตรา 136 สาเรจ็ แลว้ กระทงหน่งึ สว่ นการท่จี าเลยท่ี 1 รว่ มกบั จาเลยท่ี 2 ทาใหผ้ เู้ สยี หายเกิดความกลวั หรอื ความตกใจโดยการข่เู ข็ญขณะท่ผี เู้ สียหายเขา้ ตรวจภายในรา้ น โดยจาเลยท่ี 1 พดู ขนึ้ วา่ ไปเอาปืนมายงิ ใหต้ าย อยา่ ใหอ้ อกไปได้ แลว้ จาเลย ท่ี 2 วิ่งไปหยบิ ไมเ้ บสบอลมาตีผเู้ สยี หาย 1 ที จาเลยท่ี 1 เอาไมก้ วาดไลต่ ผี เู้ สียหาย เป็นการ กระทาตอ่ เน่อื งกนั ไป โดยมีเจตนาเดียวกนั คือทารา้ ยผเู้ สยี หาย จงึ เป็นการกระทากรรมเดยี วกบั การรว่ มกนั ใชก้ าลงั ทารา้ ยผอู้ ่นื โดยไม่ถงึ กบั เป็นเหตใุ หเ้ กิดอนั ตรายแกก่ ายหรือจิตใจ มาตรา 137 ความผดิ ฐานแจง้ ความเทจ็ ในคดอี าญา 631081155 โครงสร้างความรับผดิ ทางอาญา องคป์ ระกอบภายนอก 1. ผใุ้ ด 2. แจง้ ความอนั เป็นเทจ็
47 3. เจา้ พนกั งาน เง่อื นไขการลงโทษทางภาวะวิสยั ซ่งึ อาจทาใหผ้ อู้ ่นื หรือประชาชนเสยี หาย องคป์ ระกอบภายใน เจตนาธรรมดา คาพพิ ากษาศาลฎกี าที่ 981/256 1 การท่จี าเลยรูว้ า่ มไิ ดเ้ กิดเหตลุ กั ทรพั ยร์ ถกระบะ แต่กลบั แจง้ แกพ่ นกั งานสอบสวนว่ามีคนรา้ ย ลกั ทรพั ยร์ ถกระบะท่จี าเลยเชา่ ซอื้ ไป เพ่อื จะนาเงินท่ไี ดร้ บั จากบรษิ ัทผรู้ บั ประกนั ภยั ไปชาระค่า งวดแกธ่ นาคาร ก. ผใู้ หเ้ ช่าซอื้ การกระทาของจาเลยเป็นความผดิ ตาม ป.อ. มาตรา 173 อนั เป็นบทบญั ญตั ิเฉพาะแลว้ ไม่จาตอ้ งปรบั บทตามมาตรา 137 อนั เป็นบทบญั ญตั ิวา่ ดว้ ยการแจง้ ขอ้ ความอนั เป็นเทจ็ แกเ่ จา้ พนกั งานท่วั ๆ ไปอกี และเม่ือไม่เกิดมีความผดิ อาญาฐานลกั ทรพั ย์ เกิดขนึ้ ในคดีนี้ จงึ ไม่เป็นความผดิ ตามมาตรา 172 มาตรา 139 ความผดิ ฐานขม่ ขนื ใจพนังงาน 631081139 องคป์ ระกอบภายนอก 1. ข่มขืนใจโดยใชก้ าลงั ประทษุ รา้ ย หรือขเู่ ขญ็ วา่ จะใชก้ าลงั ประทษุ รา้ ย บงั คบั /ฝืนใจ/ใหท้ าตามโดยไม่ไดส้ มคั รใจจะผิดฐานกรรโชก ผเู้ สียหายตอ้ ง “เกิดความกลวั ” แลว้ ยอมใหแ้ ละรบั ปากว่าจะยอมใหเ้ ป็นความผิดไดต้ อ้ งเกิดความกลวั แลว้ ยอมใหห้ รอื รบั ปาก ว่าจะยอมให้ แมย้ งั ไม่ไดส้ ง่ มอบทรพั ยส์ นิ ใหก้ ็เป็นความผิดแลว้ 2. เจา้ พนกั งาน บคุ คลซง่ึ กฎหมายบญั ญตั วิ ่าเป็นเจา้ พนกั งานหรือไดร้ บั แตง่ ตงั้ ตามกฎหมายใหป้ ฏบิ ตั ิหนา้ ท่ี ราชการ ไม่วา่ เป็นประจาหรือครงั้ คราว และไม่ว่าจะไดร้ บั คา่ ตอบแทนหรอื ไม่ 3. ใหป้ ฏบิ ตั กิ ารอนั มิชอบดว้ ยหนา้ ท่หี รอื ไดล้ ะเวน้ การปฏบิ ตั ิการตามหนา้ ท่ี
Search