Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทที่ 6

บทที่ 6

Published by 6032040026, 2018-08-26 23:58:23

Description: บทที่ 6

Search

Read the Text Version

แบบฝกึ หัด เครือขา่ ย LAN แบบใชส้ าย1.โครงการ IEEE 802 เปน็ โครงการเกีย่ วกับอะไร และจดั ตง้ั ขึน้ เพอ่ื จุประสงคใ์ ด ในปี ค.ศ. 1985 ทางสถาบัน IEEE ได้ริเรม่ิ โครงการสาคัญโครงการหน่งึ โดยตั้งชื่อโครงการนวี้ ่า โครงการหมายเลข 802 หรือ Project 802 โดยโครงการดงั กล่าวจดั ต้ังขน้ึ เพ่อื ต้องการให้ผลิตภัณฑ์อุปกรณ์ส่ือสารที่มาจากแหล่งผู้ผลิตต่าง ๆ สามารถส่ือสารให้เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกัน แต่โครงการน้ีมิได้มีวัตถุประสงค์เพ่ือนามาใช้ทดแทนมาตรฐาน OSI โมเดลท่ีทางหน่วยงาน ISO จัดต้ังข้ึนแต่อย่างใด เนื่องจากโครงการหมายเลข 802 มีวัตถุประสงค์เพ่ือกาหนดหน้าที่และรายละเอียดของช้ันสื่อสารฟิสิคัล ดาต้าลิงก์ และมีส่วนขยายเพ่ิมเติมบางส่วนอีกเล็กน้อย ท่ีนามาใช้งานเพ่ือการเชื่อมต่อเครือข่ายท้องถิ่นเป็นหลักสาคัญ

2.จงสรปุ การทางานของชั้นสือ่ สารย่อย LLC และ MAC มาพอเข้าใจ ลาดบั ช้นั ย่อย LLCเป็นลาดบั ชนั้ ท่ีจัดการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์บนลิงก์ของเครือข่าย โดย LLC น้ีจะถูกกาหนดขึ้นโดย IEEE 802.2 ซึ่งสนับสนุนการเช่ือมต่อในรูปแบบท้ังคอนเน็กชนั เลส และคอนเน็กชันโอเรียนเตด็ เพือ่ บรกิ ารให้กบั โปรโตคอลในลาดับสงู ต่อไปลาดับชั้นย่อย MACเปน็ ลาดับชน้ั ย่อยทจ่ี ัดการเก่ยี วกบั การเขา้ ถงึ ตัวกลางเพื่อการสื่อสารบนเครือขา่ ยโดยรายละเอียดของ LLC และ MAC3.MAC Address กับการด์ เครอื ข่ายมีความสมั พันธ์กนั อยา่ งไร การ์ดเครอื ข่ายมลี กั ษณะเป็นแผงวงจร ทเี่ สียบเข้ากับสล็อตภายในเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ และถอื เป็นส่วนสาคญั ในการส่งแพก็ เก็ตจรงิ ๆ ผ่านสอ่ื กลางซง่ึ เครือข่ายทอ้ งถนิ่ ตา่ งๆ ไม่ว่าจะเป็นอเี ทอร์เน็ต โทเค็นริง หรือ FDDI จาเป็นต้องใช้การ์ดเครือข่ายท้ังสิ้น โดยการ์ดเครือข่ายจะมีหมายเลยแมคแอดเดรสที่ใช้อ้างองิ ตาแหนง่ ท่อี ยเู่ พอ่ื รบั สง่ ข้อมูลบนเครอื ข่าย โดยชดุ หมายเลขแมคแอดเดรสน้จี ะถูกบรรจุไว้ในหน่วยความจารอมบนการเครือข่ายท่ีถูกบรรจุพร้อมเสร็จมาจากโรงงาน และเมือ่ เร่มิ ตน้ ทางาน ชุดหมายเลขแมคแอดเดรสนีก้ ็จะถกู คัดลอกไว้ในหนว่ ยความจาหลัก เพื่อนาไปใช้อ้างองิ ตอ่ ไป4.จงบอกความแตกต่างระหวา่ ง MAC Address กับ IP Address แมว้ ่าทอี่ ยู่ IP และทอี่ ยู่ MAC จะตอบสนองวตั ถปุ ระสงคข์ องการมอบรหัสเฉพาะในเครือข่ายให้กบั โฮสต์ แต่ขน้ึ อยู่กับสถานะและฟังก์ชันทั้งสองมีความแตกต่างกัน เม่ือทางานเลเยอร์ของแอดเดรสถูกเรียกใช้ในขณะที่ฟังก์ชัน MAC Address ใน Data Link Layer, IP แอดเดรสจะทางานใน NetworkLayer ท่ีอยู่ MAC จะระบุเอกลักษณ์เฉพาะของส่วนติดต่อกับฮาร์ดแวร์ของเครือข่ายในขณะที่ IP Address จะระบุเฉพาะส่วนติดต่อซอฟต์แวร์ของเครือข่ายนอกจากนี้หากพิจารณาการกาหนดที่อยู่ท่ีอยู่ MAC จะได้รับการกาหนดให้กับอะแดปเตอร์อย่างถาวรและไม่สามารถเปล่ียนแปลงได้เน่ืองจากเป็นที่อยู่ทางกายภาพ ในทางตรงกนั ขา้ มทอ่ี ยู่ IP ท้งั แบบคงท่ีหรือแบบไดนามกิ สามารถแกไ้ ขไดข้ น้ึ อยกู่ ับข้อกาหนดเนอ่ื งจากเป็นเอนทิตีหรือที่อยู่ทางตรรกะ นอกจากนี้ที่อยู่MAC มีประโยชน์เม่ือพูดถึง Local Area Networksถ้ารูปแบบนี้ถือว่าอยู่ IP จะใช้ที่อยู่ยาว 32 หรือ 128 บิตในขณะที่ที่อยู่ MAC ใช้ท่ีอยู่ยาว 48 บิต ในมุมมองแบบง่ายที่อยู่ IP สามารถได้รับการพิจารณาเพ่ือสนับสนุนการใช้งานซอฟต์แวร์และที่อยู่ MAC ถือได้ว่าเป็นการสนับสนุนการใช้งานฮาร์ดแวร์ของเครือขา่ ยแมจ้ ะมีความแตกต่างกันก็ตามเครือข่ายไอพียังมีการทาแผนที่ระหว่างที่อยู่ MAC และท่ีอยู่ IP ของอุปกรณ์เรียกว่า ARP หรือ Address ResolutionProtocol

5.อีเทอรเ์ น็ต และ IEEE 802.3 มีความสมั พนั ธ์กันอย่างไร จงอธบิ าย ปัจจุบันมาตรฐาน IEEE 802.3 ไดเ้ ขา้ มาแทนทีม่ าตรฐานด้ังเดิมของอเี ทอรเ์ น็ตอยา่ งสมบรู ณแ์ ล้วกล่าวคอื คาวา่ อีเทอร์เน็ตจะอ้างอิงถึงเครือข่ายที่ตัง้ อยู่บนพ้ืนฐานของมาตรฐาน IEEE 802.3 แตใ่ นบางคร้งั อาจกลา่ วไดว้ า่ IEEE 802.3 และอีเทอร์เน็ตมใิ ช่สิ่งเดียวกัน ซ่ึงในเชิงเทคนิคแล้วคาตอบนี้ถือว่าไม่ผิดแต่อย่างใด โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมาอีเทอร์เน็ตเป็นมาตรฐานด้ังเดิมของบริษัทซีร็อก แต่ในช่วงราวปี ค.ศ. 1985 ทาง IEEE ก็ได้เริ่มพัฒนาโครงการ 802ขึ้นมา และได้มีการประกาศนามาตรฐาน 802.3 ออกมาใช้ซ่ึงมาตรฐาน IEEE 802.3 น้ันมีข้องแตกต่างเพียงเล็กน้อยในด้านรายละเอียดเมื่อเทียบกับมาตรฐานอเี ทอรเ์ นต็ เดมิ จากบริษัทซรี อ็ กซ์ ดังนัน้ ปจั จุบันจึงมักมีการใชค้ าว่าอีเทอรเ์ น็ตและ IEEE 802.3 รว่ มกนั ซึ่งหมายถึงเป็นคาที่สามารถใช้แทนความหมายเดียวกันได้ กลา่ วคืออีเทอรเ์ น็ตจะอ้างถงึ มาตรฐานของ IEEE 802.36.จงสรุปมาตรฐานการเช่อื มต่อเครอื ขา่ ยแบบ Fast Ethemet มาพอเข้าใจ ฟาสต์อีเทอร์เนต็ หรืออเี ทอร์เนต็ ความเรว็ สูง จดั เป็นเวอรช์ ่ันหน่งึ ของอเี ทอรเ์ น็ตทีม่ คี วามเร็ว100Mbpsโดยยังคงรูปแบบเฟรมข้อมลู เดิม รวมท้ังวิธีเข้าถงึ ส่ือกลางแบบเดิม ฟาสต์อีเทอร์น็ตจัดอยใู นมาตรฐาน IEEE 802.3u โดยเป็นอีเทอรเ์ นต็ แลนทม่ี ีความเร็วสูงกว่าอีเทอร์เน็ตแบบเดิม 10 Mbps ถึง 10 เท่าฟาสต์อีเทอร์เน็ตสามารถนามาประยุกต์ใช้กับงานด้านกราฟิกดีไซน์ อิมเมจโปรเซสซิง และระบบวิดีโอ เนื่องจากมีความเร็วในการส่งข้อมูลท่ีสูงกว่าเดิมถึง 10เท่า และถือเป็นความโชคดีของอีเทอร์เน็ต ท่ีสามารถออกแบบให้มีความเร็วสูงขึ้นโดยไม่ยาก ด้วยการลดขนาดของ Collision Domain ลง ซ่ึงโดยปกติข้อกาหนด Collision Domain ของอีเทอร์เน็ตแลนแบบด้ังเดิมได้จากัดไว้บนระยะทางท่ี 2500 เมตร และข้อจากัดดังกล่าวได้ตั้งอยู่บนอัตราความเร็วที่ 10Mbps ด้วยวธิ กี ารเขา้ ถึงขอ้ มลู แบบ CSMA/CD

7.จงสรุปมาตรฐานการเชื่อมตอ่ เครอื ขา่ ยแบบ Gigabit Ethemet มาพอเขา้ ใจ Gigabit Ethernet (IEEE802.3z)เป็นมาตรฐานใหม่ของเทคโนโลยีเครอื ขา่ ยทอ้ งถิน่ (LAN-Local Area-Network) ท่ีพัฒนามาจาก เครอื ข่ายแบบEthernet แบบเก่าท่ีมีความเร็ว 10 Mbps ให้สามารถรับส่งข้อมูลได้ที่ระดับความเร็ว 1 Gbps ท้ังน้ีเทคโนโลยีน้ี ยังคงใช้กลไก CSMS/CD ในการร่วมใช้สื่อเหมอื นEthernet แบบเกา่ หากแตม่ กี ารพัฒนาและดดั แปลงให้สามารถรองรับความเร็วในระดบั 1 Gbps ได้ Gigabit Ethernet เป็นส่วนเพิ่มขยายจาก 10 Mbps และ 100 Mbps Ethernet (มาตราฐาน IEEE 802.3 และ IEEE802.3u ตามลาดับ) โดยท่ีมันยังคงความเข้ากันได้กับมาตราฐานแบบเก่าอย่าง100% Gigabit Ethernet ยังสนับสนุนการทางานใน mode full-duplex โดยจะเป็นการทางานในการเช่ือมต่อระหว่าง Switch กับ Switch และระหว่าง Switch กับ End Station ส่วนการเชื่อมต่อผ่าน Repeater, Hub ซึ่งจะเป็นลักษณะของShared-media(ซึง่ ใช้กลไก CSMA/CD) Gigabit Ethernet จะทางานใน mode Half-duplexซึง่ สามารถจะใชส้ ายสญั ญาณไดท้ ง้ั สายทองแดงและเสน้ ใยแกว้ นาแสง8.จงสรปุ มาตรฐานการเชือ่ มตอ่ เครือข่ายแบบ 10Gigabit Ethemet มาพอเข้าใจ กกิ ะบติ อเี ทอร์เน็ต เปน็ ไปตามมาตรฐานเครอื ขา่ ย 802.3ae ทีร่ องรบั ความเร็วสงู สุดท่ี 10 Gbps ได้พัฒนาและประกาศใช้อย่างสมบูรณ์เม่ือเดือนมิถุนายน ปี ค.ศ.2002 โดยส่วนใหญ่ยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงในรายละเอียด แต่จะทางานในลักษณะฟูลดูเพล็กซ์บนเทคโนโลยีสายไฟเบอร์ออฟติกเท่านั้นและไมต่ ้องการใชโ้ ปรโตคอล CSMA/CD อกี ตอ่ ไปนอกจากนี้ 10 กิกะบิตอเี ทอร์เน็ต ไม่ได้ออกแบบเพ่ือใช้งานบนเครือข่ายแลนเท่าน้ัน แต่สามารถขยายเพ่ือใช้งานบนเครอื ข่ายแมน และเครือข่ายแวน ดังน้ันจะพบว่าการเชื่อมต่อเครือข่าย 10 กิกะบิตอีเทอร์เน็ต ทาให้เราสามารถเชื่อมต่อเครือข่ายความเร็วสูงบนระยะทางไกลมากขึ้นได้ และยังคงสามารถเช่ือมต่อเข้ากบั เครือข่ายอีเทอรเ์ น็ตแบบเดิมได้

9. จงสรุปเครอื ขา่ ยแบบโทเคน็ บัสมลี ักษณะทางกายภาพเป็นแบบไหนและการเขา้ ถึงข้อมลู เปน็ แบบใด โทเคนบัสมีการต่อเชื่อมแบบเป็นเส้นตรง สถานีต่างๆ เชื่อมต่อเข้าท่ีจุดใดๆ แต่ในทางตรรกะ สถานีจะถูกจัดกลุ่มในลักษณะวง แต่ละสถานีจะทราบหมายเลขท่อี ยขู่ องสถานที อ่ี ยูท่ างด้ายซ้ายและดา้ นขวา ของตนเองตลอดเวลา เมื่อเริ่มต้นการทางานสถานที ม่ี ีหมายเลขสูงสุดของวงนนั้ ๆ สามารถส่งเฟรมขอ้ มลู ออกมาได้เปน็ ลาดบั แรก หลังจากนัน้ กจ็ ะส่งเฟรม โทเคน ไปยังสถานขี า้ งเคียงของตนเอง Token Bus เป็นระบบเครอื ข่ายที่ เปดิ โอกาสใหส้ ถานตี ่างๆ ผลดั เปลย่ี นหมุนเวียนกันสง่ เฟรมขอ้ มลู ของตนเองโดยสามารถคานวณระยะเวลาการรอคอยสูงสุดได้ล่วงหน้า ถ้าสมมุติให้มีสถานีจานวน A แห่งอยู่ในระบบ แต่ละสถานีใช้เวลาในการส่งเฟรมข้อมูลคร้ังละ S วินาที เวลาสูงสุดท่ีแต่ละสถานีจะต้องรอคอย คือ A x S วินาที ผู้ท่ีอยู่ในวงการคอมพิวเตอร์สาหรับโรงงานจึงชอบแนวความคิดของระบบเครือข่ายแบบวงแหวน แต่ก็ไม่ชอบลักษณะการเชื่อมต่อทางกายภาพเพราะการเสียหายของเคเบิลท่ีจุดใดก็ตามจะทาให้ระบบท้ังระบบใช้การไม่ได้ ย่ิงกว่าน้ันการเดินสายเคเบิลแบบวงแหวน ก็ไม่เหมาะกับลกั ษณะสายการผลิตภายในโรงงาน ผลทีไ่ ด้รบั คือ การพัฒนามาตรฐานใหมเ่ รียกว่า IEEE 802.4 (ไอ อี อี อี 802.4) ท่ีนาจุดเด่นของระบบ IEEE 802.3 (ไอ อี อีอี 802.3)มารวมเขา้ กับความสามารถในการคานวณระยะเวลาการรอคอยสูงสดุ ไดล้ ่วงหนา้ ของระบบวงแหวน

10. จงสรุปเครอื ขา่ ยแบบโทเคน็ ริงลักษณะทางกายภาพเปน็ แบบไหนและการเข้าถงึ ขอ้ มูลเปน็ แบบใด เป็นเครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์ทบ่ี รษิ ทั ไอบีเอ็มได้พฒั นาขน้ึ โดยการเช่ือมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์ท้ังหมดใช้รูปแบบวงแหวน โดยด้านหน่ึงเป็นตัวรับสัญญาณ และอกี ด้านหน่งึ เปน็ ตวั ส่งสัญญาณการเชื่อมต่อแบบนที้ าให้คอมพิวเตอร์ทุกเคร่ืองสามารถส่งข้อมูลถึงกันได้ โดยผ่านไปในเส้นทางวงแหวนน้ัน การส่งผ่านข้อมูลจะเวียนไปในทิศทางเดียวกัน การติดต่อส่ือสารระหว่างกันนี้จะมีการจัดลาดับให้ผลัดกันส่งเพื่อว่าการรับส่งข้อมูลจะได้ไ ม่สับสนและมีรูปแบบที่ชัดเจน เครือข่ายโทเคน็ ริงท่ใี ชก้ นั อยู่ในขณะนี้มีความเร็ว ในการรับส่งสัญญาณ 16 ล้านบิตต่อวินาทีข้อมูลจะไม่ชนกันเพราะการรับส่งมีลาดับแน่นอนข้อมูลที่รับส่งจะมีลักษณะเป็นชุดๆ แต่ละชุดมีการกาหนดตาแหน่งแน่นอนว่ามาจากสถานีใด จะส่งไปยังสถานีปลายทางท่ีใด ดังน้ันถ้าสถานีใดพบข้อมู ลท่ีมีการระบุตาแหนง่ ปลายทางมาเป็นของตวั เอง กส็ ามารถคดั ลอกข้อมูลนนั้ เขา้ ไปได้และตอบรบั ว่าได้รบั ข้อมูลนน้ั แล้ว11. จงสรุปหลกั การทางานของโทเค็น เป็นอยา่ งไร โทเค็น (Token) เป็นข้อมูลชุดหน่ึงที่ถูกส่งอยู่ในระบบเครือข่ายท่ีมี โทโปโลจี (Topology) แบบริง (Ring) ในโทโปโลจีแบบน้ี หากคอมพิวเตอร์เคร่ืองใดในเครือข่ายต้องการส่งข้อมูลจะเก็บเอา โทเคน ไว้แล้วส่งข้อมูลของตนเองออกมา เพราะฉะนั้น โทเคนเป็นเหมือนบัตรสิทธิ์ ใครมี โทเคนก็มีสิทธ์ิส่งข้อมลู ใครไมม่ ีโทเคนก็ไม่มีบตั รสิทธ์สิ ่งขอ้ มลู ไมไ่ ด้ เพราะในเครอื ขา่ ยแบบริง จะมี โทเคน เพยี งชุดเดยี วเท่านั้น ทาใหค้ อมพิวเตอร์ท่ีอย่ใู นเครือขา่ ยลกั ษณะน้ี ส่งข้อมูลได้ไมช่ นกนั

12. จงสรปุ หลักการทางานของเครอื ข่ายแบบ FDDI เป็นอยา่ งไร คือ เครือขา่ ยความเร็วสงู รุ่นใหม่ Fiber Distributed Data Interface การเชื่อมตอ่ จะมีความเร็วประมาณ 100-200 เมกะบิตต่อวินาที เครือข่ายFDDI จะใช้สายใยแก้วนาแสงโดยแปลงจาก โทโปโลยีแบบวงแหวน เพียงแต่มีวงแหวน 2 วง นิยมใช้สาหรับงานด้านท่ีต้องการเทคโนโลยีสูง เช่น วีดิทัศน์แบบดจิ ิทลั , กราฟกิ ความละเอียดสงู ขอ้ ดี ความเร็วสงู มีเสถียรภาพ และความน่าเช่อื ถอื สูง เนอื่ งจากมวี งแหวน 2 วง ถ้าวงใดวงหนึ่งเสียหาย การสื่อสารยังสามารถดาเนินต่อไปได้ในวงแหวนทเี่ หลือข้อจากดั ค่าใช้จา่ ยสงู เน่ืองจากใชใ้ ยแก้วนาแสง

ใบงานรปู แบบการเช่อื มต่อเพมิ่ เติม1. ให้นกั ศึกษาอธิบายเก่ียวกบั รปู แบบเครอื ขา่ ย 2 ประเภท1.1. Client/Server มีลกั ษณะอย่างไร และมีขอ้ ดี-ขอ้ เสยี อย่างไร ขอ้ ดขี องการต่อแบบ Client / Server· ให้ประสิทธิภาพในการแบ่งปนั การใช้งานทรัพยากรแกไ่ คลเอนตไ์ ด้ดีกวา่ เน่อื งจาก คอมพิวเตอรท์ ่ีถกู นามาใช้ เป็นเซริ ์ฟเวอรม์ กั เป็นเครื่องที่มปี ระสทิ ธิภาพสงู· การรักษาความปลอดภัยสามารถทาไดด้ กี ว่า เนอ่ื งจากการดแู ลความปลอดภัยเป็นไปในรูปแบบรวมศูนย์ (Centralized) ผู้ใช้งานท่ีจะเข้ามาสู่เครือข่ายเพ่ือใช้งานเซริ ฟ์ เวอรจ์ ะต้องได้รบั อนญุ าตเสยี ก่อน· ง่ายต่อการบรหิ ารจัดการหากเครอื ข่ายถูกขยายขนาด รวมทัง้ มีผูใ้ ช้งานเพิม่ ขึน้· สามารถติดตง้ั แอพพลิเคชัน (Application) ไวท้ ีเ่ ซิรฟ์ เวอร์เพียงชุดเดียว และแบ่งใช้งานแกผ่ ้ใู ชง้ านเปน็ จานวนมาก ทาใหป้ ระหยดั คา่ ใชจ้ า่ ยในเรือ่ งซอฟต์แวร์ไดด้ ี· สามารถสารองหรอื ทาสาเนาข้อมลู ทีศ่ นู ยก์ ลาง ทาให้สะดวกรวดเรว็ขอ้ ดอ้ ยของการต่อแบบ Client / Server· ค่าใช้จ่ายในการตดิ ต้งั เซิรฟ์ เวอร์ 1 ตวั สูงกวา่ คอมพวิ เตอรท์ ั่วไป อีกทง้ั ผดู้ ูแลจะตอ้ งมคี วามรู้พอสมควร· จะต้องมผี ู้ดูแลและจดั การเซริ ฟ์ เวอร์เป็นการเฉพาะ

1.1.1 Web Server ทาหน้าทอี่ ย่างไร - Web server คือโปรแกรมที่มีหน้าท่ีให้บริการด้านการจัดการเว็บไซต์ โดยส่วนมากโปรแกรมท่ีนิยมใช้ เป็น Web server จะเป็น Apacheweb server1.1.2 Mail server ทาหนา้ ทอี่ ย่างไร คือ เคร่ืองบริการรับ-ส่งจดหมายสาหรับสมาชิก บริการที่มีให้ใช้เช่น รับ-ส่งจดหมาย ทั้งแบบที่เป็น ข้อความและรูปภาพ โดยส่งในรูปแบบAttach file และมีทีเ่ ก็บขอ้ มลู ผตู้ ดิ ต่อ เรียกวา่ Address book เปน็ ตน้ ตวั อยา่ ง mail server ทเี่ ป็นทรี่ จู้ ักท่วั ไป เชน่ hotmail.com หรอื thaimail.com เป็นต้น1.1.3 File Server ทาหน้าทอี่ ย่างไร ทาหน้าท่ีจัดเก็บไฟล์ โดยการจัดเก็บไฟล์จะทาเสมือนเป็นฮาร์ดดิสก์รวมศูนย์ เสมือนว่าผู้ใช้งานทุกคนมีที่ เก็บข้อมูลอยู่ท่ีเดียว เพราะควบคุม-บริหารง่าย การส ารองข้อมูล การ Restore ง่าย ข้อมูลดังกล่าว Shared ให้กับ Client ได้ โดยส่วนมากข้อมูลท่ีอยู่ใน File Server คือ โปรแกรมและข้อมูล(Personal Data File)1.1.4 Print Server ทาหน้าทอี่ ย่างไร Print Server คอื อปุ กรณเ์ สรมิ ท่ีทาให้เคร่อื งพิมพ์ของคณุ สามารถแบง่ ปนั การใช้ งานในระบบเครอื ขา่ ย ได้งา่ ย สะดวก และรวดเร็วยิ่งข้นึ อธบิ ายง่ายๆ ก็คือทาให้เคร่ืองพิมพ์ หรือ Printer ของคุณสามารถใช้งาน ร่วมกันได้ผ่านทางระบบเครือข่าย (ต่อ สายแลนเชื่อมเข้าหากัน) ทาให้เคร่ืองพิมพ์ของคุณกลายมาเปน็ คอมพิวเตอร์เครอ่ื งหน่งึ มี IP Address เชน่ เดีย่ วกบั คอมพวิ เตอร์

1.2. Peer to Peer มีลกั ษณะอยา่ งไร และมีข้อดี-ขอ้ เสียอยา่ งไร ข้อดี (Advantages) ไม่ต้องการระบบปฏิบัติการ (OS) สาหรับเครือข่ายไม่จาเป็นต้องใช้ Server เพราะแต่ละเคร่ืองสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ ไม่ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญเพราะผู้ใช้แต่ละคนสามารถไฟล์ที่ต้องการ แบ่งปันได้ด้วยตนเอง การตั้งค่าได้ง่ายกว่า ระบบเครือข่ายแบบไคลเอน ต์เซิร์ฟเวอร์(Client/Server Networksและ ไม่จาเป็นต้องมีความรู้เฉพาะทาก หากคอมพิวเตอร์เครื่องหน่ึงล้มเหลวจะไม่ส่งผลกระทบต่อ ส่วนอื่นๆของเครือข่ายแต่น่ันก็หมายความวา่ ผู้อื่นจะไมส่ ามารถเข้าถึงไฟลง์ านได้ ข้อเสีย (Disadvantages) คอมพิวเตอร์อาจมีการเข้าถึงโดยบุคคลอ่ืน ซึ่งอาจทาให้ประสิทธิภาพการใช้ งานลดลงไฟล์และโฟลเดอร์ไม่ได้มีการสารองข้อมลู จากส่วนกลาง ไฟล์และทรัพยากรที่ไม่ได้อยู่ใน “พ้ืนที่ แบ่งปัน”อาจจะยากต่อการเข้าถึงหากผู้ใช้มีการ จัดเก็บที่ไม่เป็นระบบเป็นความรับผิดชอบของผู้ใช้แต่ละคนที่ จะไม่ให้ไวรัสติดเข้ามาในระบบเครือข่ายระบบรักษาความปลอดภัยมีน้อยหรือไม่มีเลยซึ่งบ่อยคร้ังท่ีผู้ใช้ไม่มี การระบุตัวตนใน การเข้าระบบ(log on)2. ระบบเครอื ขา่ ยท้องถน่ิ (Local Area Network: LAN) ทีน่ ยิ มสูงสุดมีอยู่ 3 ชนดิ คอื 1. เครือข่ายสว่ นบุคคล หรอื แพน ( Personal Area Network: PAN ) 2. เครือขา่ ยเฉพาะที่ หรือแลน ( Local Area Network: LAN ) 3. เครือข่ายนครหลวง หรอื แมน (Metropolitan Area Network: MAN)

2.1 อเี ทอร์เน็ต (Ethernet) ให้นกั ศกึ ษาสรุป ขอ้ แตกตา่ งรูปแบบการเชอื่ มโยงเครอื ขา่ ยอเี ทอร์เนต็ ตาม มาตรฐานตอ่ ไปน้ี 2.1.1 10Base5 เป็นครั้งแรกที่มีจาหน่ายในท้องตลาดของ อีเทอร์เน็ต 10BASE5 ใช้สายโคแอกเชียล ความหนาและความแข็งสูงถึง 500 เมตร(1,600 ฟุต) สามารถเช่ือมต่อสถานีได้สูงสุด 100 สถานีโดยใช้ ก๊อปป้ี แวมไพร์ และแชร์ โดเมนการชนกัน แบบเดียวกับ 10 Mbit / s แบนด์วิธท่ี ใช้ร่วมกันระบบยากท่ีจะติดตั้งและ บารุงรักษา 10BASE5 ถูกทดแทนโดยทางเลือกที่ถูกกว่าและสะดวกสบายกว่ามาก: แรกโดย 10BASE2 ขึ้นอยู่กับสาย Coaxial ทินเนอร์และเมื่อ Ethernet ผ่านคู่ Twisted ได้รับการพัฒนาโดย 10BASE-T และตัวสืบทอด 100BASE-TX และ 1000BASE-T ณ วันที่ 2003 IEEE 802.3 ได้เลิกใช้ มาตรฐานนสี้ าหรบั การติดตงั้ ใหม่ 2.1.2 10Base2 เป็น Ethernet ท่ีใช้ สายโคแอกเซียล บาง ตัวที่เชื่อมต่อ กับ ข้ัวต่อ BNC ในช่วง กลางถึงปลายยุค 80 นี้เป็นมาตรฐานอีเทอร์เน็ต 10 Mbit / s แต่เน่ืองจากความต้องการที่ย่ิงใหญ่สาหรับ เครือข่ายความเร็วสูงต้นทุนต่ าของ สายเคเบิลประเภท 5 และความนิยมของเครือข่ายไร้สาย802.11 ทั้ง 10BASE2 และ 10BASE5 ได้กลายเป็น ล้าสมัย แม้ว่าอุปกรณ์จะยังอยู่ในบางพื้นท่ีก็ตาม [1] นับจาก 2011 IEEE 802.3 ได้ เลิกใช้ มาตรฐานนี้สาหรบั การตดิ ตง้ั ใหม่ 2.1.3 10BaseT เปน็ เทคโนโลยีอเี ธอร์เน็ตผ่านคู่บิด ใช้ สายเคเบลิ คูบ่ ดิ สาหรับ ชน้ั ทางกายภาพ ของ เครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์ อีเธอร์เน็ต เป็นเซตยอ่ ยของ อีเธอร์เนต็ ทุกชั้นEarly Ethernet ใช้ สายเคเบิลคูร่ ว่ ม หลายสาย แต่ในปี 1984 StarLAN แสดงศักยภาพของ คู่บิดแบบไม่หุ้มฉนวน ส่ิงน้ีนาไปสู่การพัฒนา 10BASET และสืบทอด 100BASE-TX , 1000BASE-T และ 10GBASE-T รองรับความเร็ว 10, 100 Mbit / s และ 1 และ 10 Gbit / s ตามลาดับ[เปน็ ] มาตรฐานเหล่าน้ใี ชข้ วั้ ต่อ 8P8C , [b] และสายเคเบลิ จาก Cat 3 ไป Cat 8

2.2 ไอบเี อม็ โทเคน็ ริง (IBM Token Ring) ใหน้ กั ศกึ ษาสรุปกลไกการสง่ ข้อมลู โปรโตคอล CSMA/CD ที่ใช้งานบนเครือข่ายอีเทอร์เน็ต เป็นกลไกการส่งข้อมูลบนเครือข่ายที่มีโอกาสเกิด การชนกันของกลุ่มข้อมูลสูงเม่ือการจราจรบนเครือข่ายหนาแน่น ในขณะเดียวกันโปรโตคอล Token Passing ที่ใช้งานบนเครือข่ายโทเค็นริงนั้นจะไม่ก่อให้เกิดการชนกันของกลุ่มข้อมูลเลยกลไกการทางานของ Token Passing ก็คือ ในช่วงเลาหน่ึงจะมีเพียงโหมดเดียวท่ีสามารถส่งข้อมูลในขณะนั้นได้ นั่นก็คือโหมดท่ีครอบครอง โทเค็นริง โดยโทเค็นจะไปพร้อมกบั ขอ้ มูลที่สง่ ไปยงั โหมดภายในวงแหวน หากโหมดใดได้รบั ขอ้ มูลพรอ้ มรหสั โทเค็นแลว้ ตรวจสอบพบว่าไม่ใช่ข้อมูลท่ีส่งมายังตน ก็จะส่งทอดไปยังโหมดถัดไปภายในวงแหวนไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงโหมดปลายทางท่ีต้องการ เม่ือครบรอบวงแล้วรหัสโทเค็นก็จะเข้าสู่สภาวะว่างอีกคร้ังห นึ่ง ด้วยการ ส่งทอดรหสั ว่างไปตามวงแหวนผ่านโหมดต่างๆ เป็นวงรอบและพร้อมที่จะให้โหมดอ่ืน ๆ ครอบครองโทเค็นเพ่ือ การส่งข้อมูลในรอบต่อไป สาหรับสายเ คเบิ้ลที่ใช้งานบนเครือข่ายไอบีเอ็มโทเคน็ ริง สามารถใชส้ ายแบบเอสทีพี หรอื ยทู ีพกี ไ็ ด้ พร้อมหัวปล๊ักเชอ่ื มต่อชนดิ IBM-Type12.3 เอฟดีดไี อ (Fiber Data Distributed Interface: FDDI) ให้นกั ศกึ ษาสรปุ หน่วยงานใดเปน็ ผู้กาหนด มาตรฐาน และอธบิ ายลกั ษณะของการสง่ ข้อมูลบนเครือขา่ ย เอฟดีดไี อ รวมท้งั อธบิ ายการทางานของวงแหวน ทั้ง 2 วงด้วย เอฟดีดีไอ หรือเรียกอีกช่ือเต็มว่า Fiber Distributed Data Interface:FDDI คือ หน่วยงาน ANSI ได้ทาการกาหนดโปรโตรคลอท่ีใช้งานบนเครือข่ายท้องถ่ิน โดยมีการควบคุมแบบโทเค็นริง ด้วยการส่งข้อมูลที่มี ความเร็วถึง 100 เมกะบิตต่อวินาทีบนสายเคเบิลใยแก้วนาแสง กลไกการส่งข้อมูลบนเครอื ข่ายเอฟดีดีไอจะใช้ Token Passing เช่นเดียวกับไอบีเอ็มโทเค็นริง แต่เอฟดีดีไอ(FDDI) จะทางานด้วยความเร็วท่ีสูงกว่า ประกอบ กับเครือข่ายเอฟดีดีไอยงั สามารถท่ีจะออกแบบเพ่ือรอบรับในความเสียหาของระบบได้ดี ด้วยการเพ่ิมวงแหวน ในระบบเครือข่ายอีก รวมเป็น 2 วงแหวนด้วยกัน ซ่ึงประกอบด้วยวงแหวนปฐมภมู แิ ละวงแหวนทตุ ยิ ภมู ิ

วงแหวนปฐมภูมิ(Primary Ring) คือ วงแหวนหลักด้านนอกซึ่งใช้เป็นสายส่งข้อมูลหลักภายในระบบเครือข่าย โดยรหัสโทเค็นจะวิ่งวนรอบวงแหวนทิศทางใดกท็ ศิ ทางหน่งึ วงแหวนทุติยภูมิ(Secondary Ring) คือวงแหวนสารองที่อยู่ด้านในสุดโทเค็นที่อยู่ในวงแหวนด้านในจะวิ่งใน ทิศทางตรงกันข้ามกับวงแหวนด้านนอกโดยวงแหวนทุติยภูมิจะถูกใช้งานก็ต่อเมื่อวงแหวนปฐมภูมิเกิดปัญหา เท่าน้ัน เช่น สายเคเบิลท่ีวงแหวนในปฐมภูมิเกิดการขาดและเม่ือเหตุการณ์เช่นน้ีเกิดขน้ึ วงจรภายในวงแหวน ทุติยภูมกิ ็จะเริ่มทางานทันทดี ว้ ยการเช่อื มตอ่ เข้ากับวงแหวนปฐมภูมิ ทาให้สามารถประคับประคองระบบให้ ยังคงสามารถทางานตอ่ ไปได้ โดยเทเค็นเองกย็ งั คงสามารถวิง่ ภายในรอบวงแหวนไดเ้ ช่นเดิม ทาใหเ้ ครอื ขา่ ย สามารถดาเนินการต่อได้ตามปกติ

อุปกรณ์สำหรับเช่ือมต่อเครือข่ำยประเภท LANการ์ด LAN การ์ด (lan) เครื่องพีซีจะเชื่อต่อกันเป็นระบบ LAN ขึ้นมาน้ัน แต่ละเคร่ืองต้องติดตั้งการ์ด LAN เครื่อง รุ่นใหม่ๆอาจจะมีการ์ด LAN ฝังตัวอยู่ในบอร์ดให้แล้ว (Lan Onboard) หรือในโน๊ตบุ๊คใหม่ๆก็มักจะมีพอร์ต LAN มาให้แล้ว โดยส่วนใหญ่จะมีความเร็ว 1000หรือ100 เมกกะบิต (ถ้าเป็นรุ่นเก่าจะมีความเรว็ เพียง 10 เมกกะบติ ตอ่ วินาทีเท่านั้น) เรียกวา่ เป็น Fast Ethernet และบางแบบก็อาจใชไ้ ด้ท้งั 2 ความเร็วโดยสามารถ ปรับแบบอัตโนมัติแล้วแต่จะไปเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Hub หรือ Switch แบบใดการ์ด LAN รุ่นใหมจ่ ะมี คุณสมบัติ Plug&Play หรือ PnP มักเสียบเข้ากับสล๊อตแบบ PCI (การ์ดรุ่นเก่าจะใช้กับสลอ๊ ตแบบ ISA ซ่ึงไม่ คอ่ ยพบแล้ว จึงไม่ขอกลา่ วถงึ ) โดยมชี อ่ งด้านหลงั เครือ่ งใหเ้ สยี บสายได้

ฮับ(hub) ฮับ(hub) เป็นอุปกรณ์ทรี่ วมสัญญาณท่ีมาจากอุปกรณร์ บั ส่งหลายๆ สถานี เข้าด้วยกันฮบั เปรียบเสมือนเป็นบัสท่รี วมอยู่ที่จุดเดียวกัน ฮับที่ใช้งานอยู่ภายใตม้ าตรฐานการรับสง่ แบบอเี ทอร์เน็ต หรอื IEEE802.3 ข้อมูลท่รี บั ส่งผา่ นฮับจากเครื่องหน่งึ จะกระจายไปยังทุกสถานีท่ีต่ออยู่บนฮับน้ัน ดังนั้น ทุกสถานีจะ รับสัญญาณข้อมูลท่ีกระจายมาได้ท้ังหมด แต่จะเลือกคัดลอกเฉพาะข้อมูลท่ีส่งมาถึงตนเท่าน้ัน การตรวจสอบ ข้อมูลจึงต้องดูที่แอดเดรส (address)ท่ีกากับมาในกลุ่มของขอ้ มลู หรือแพ็กเกต็สวติ ซ์(switch) สวิตซ์(switch) เป็นอุปกรณ์รวมสัญญาณที่มาจากอุปกรณ์รับส่งหลายสถานีเช่นเดียวกับฮับ แต่มีข้อ แตกต่างจากฮับ กล่าวคือ การรับส่งข้อมูลจากสถานี (อุปกรณ์) ตัวหนึ่ง จะไม่กระจายไปยังทุกสถานี (อุปกรณ์) เหมือนฮับทั้งน้ีเพราะสวิตช์จะรับกลุ่มข้อมูล(แพ็กเก็ต) มาตรวจสอบก่อน แล้วดูว่ามาแอดเดรสของสถานี ปลายทางไปทใ่ี ด สวติ ช์จะนาแพก็ เก็ตหรือกลุ่มข้อมูลน้ันส่งต่อไปยังสถานี (อุปกรณ์) เป้าหมายให้อย่างอัตโนมัติ สวิตช์จะลดปัญหาการชนกนั ของข้อมลู เพราะไมต่ อ้ งกระจายขอ้ มูลไปทุกสถานี และยงั มขี อ้ ดใี นเร่อื งการ ปอ้ งกนั การดักจบั ข้อมลู ที่กระจายไปในเครือข่าย

เราเตอร์ (router) เราเตอร์ (router) ในการเชือ่ มโยงเครือขา่ ยหลายๆ เครือข่ายเข้าดว้ ยกนั หรอื เชื่อมโยงอปุ กรณห์ ลาย อย่างเข้าด้วยกัน ดังน้ันจึงมีเส้นทางการเข้าออกของข้อมูลได้หลายเส้นทาง และแต่ละเส้นทางอาจใช้เทคโนโลยี เครือข่ายที่ต่างกัน อุปกรณ์จัดเส้นทางจะหาเส้นทางที่เหมาะสมให้การที่ อุปกรณ์จัดหาเสน้ ทางเลอื กเส้นทางได้ ถกู ตอ้ งเพราะแต่ละสถานภี ายในเครือข่ายมีแอดเดรสกากบั อปุ กรณ์จดั เสน้ ทางตอ้ งรับรูต้ าแหน่งและสามารถนาข้อมลู ออกทางเส้นทางไดถ้ กู ต้องตามตาแหนง่ แอดเดรสที่กากบั อยู่ในเสน้ ทางน้ัน รวมทั้งการจดั รปู แบบและ น าเสนอขอ้ มลู โดยกาหนดสาย UTP (Unshield Twisted Pair) สาย UTP (Unshield Twisted Pair) สายทใี่ ชก้ ับ LAN เรยี กว่าสาย UTP (Unshield Twisted Pair) ซ่ึงใช้ หัวต่อแบบ RJ-45 ซึ่งมีท้ังหมด 8 ขาสายแบบน้ีทเ่ี ข้าหัวไว้แลว้ จะหาซือ้ ไดต้ ามรา้ นขายอุปกรณ์คอมพวิ เตอร์ ทว่ั ไป หรือจะซือ้ แบบเปน็ มว้ นมาตดั เข้าหัวเองกไ็ ด้ แตต่ ้องมีเคร่ืองมือหรือคีมเข้าหัว RJ-45 โดยเฉพาะ มี ขอ้ จากดั คอื จะต้องยาวไมเ่ กนิ 100 เมตร จากเครอ่ื งไปยงั Switch และแบ่งได้เป็น 2 ประเภทตามลกั ษณะการ ใชง้ าน คือ• สายตรง (Straight-through Cable) คือสายปกติท่ีใชเ้ ชือ่ มระหว่างการด์ LAN และ Hub / Switch• สายไขว้ (Crossover Cable) ใช้ต่อการ์ด LAN บนคอมพิวเตอร์ 2 เคร่ืองหรือพอร์ตของ Hub หรือ Switch 2 ตัวโดยตรง เพื่อเพิ่มขยายพอร์ต ซ่ึงวิธีการเข้าหวั จะต่างจากปกติ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook