1.การสอื่ สารข้อมูล(Data Communication) หมายถึงอะไร กระบวนการถ่ายโอนหรือแลกเปล่ียนข้อมูลกันระหว่างผู้ส่งและผู้รับ โดยผ่านช่องทางส่ือสาร เช่น อุปกรณ์อเิ ล็กทรอนิกส์หรือคอมพิวเตอรเ์ ป็นตวั กลางในการสง่ ข้อมูล เพ่อื ให้ผ้สู ่งและผ้รู ับเกดิ ความเขา้ ใจซ่งึ กนั และกัน2.การสือ่ สารทางไกล (Telecommunication) หมายถึงอะไร การติดต่อสื่อสารด้วยการรับส่งข้อมูลข่าวสารระหว่างตัวประมวลผล โดยผ่านส่ือกลางที่เชื่อมต้นทางและปลายทางท่ีห่างกนั โดยใชอ้ ุปกรณอ์ ิเล็กทรอนิกสห์ ลายรูปแบบ ตามกฎเกณฑ์ หรือระเบียบวิธีการท่ีกาหนดขนึ้ ในแตล่ ะอุปกรณ์3.ระบบเครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์ (Computer Network) หมายถึงอะไร ระบบที่มีคอมพิวเตอร์อย่างน้อยสองเครื่องเช่ือมต่อกันโดยใช้สื่อกลาง และสามารถส่ือสารข้อมูลกันได้อย่างมีประสิทธภิ าพ ซ่งึ ทาใหผ้ ูใ้ ชค้ อมพวิ เตอรแ์ ต่ละเครื่องสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกันได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ทรัพยากรที่มีอย่ใู นเครือขา่ ยรว่ มกันได้ เชน่ เครอ่ื งพมิ พ์ สแกนเนอร์ ฮารด์ ดิสก์ เป็นตน้ การใช้ทรัพยากรเหล่านี้ผ่านเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก เม่ือมีการเช่ือมต่อกับเครือข่ายอื่นๆ ท่ีอยู่ห่างไกล เช่น ระบบอินเตอร์เน็ต ซ่ึงเป็นเครือข่ายท่ีเชื่อม ต่อคอมพิวเตอร์ทัว่ โลก กท็ าให้สามารถแลกเปล่ียนขอ้ มูล ข่าวสาร ได้กับคนทว่ั โลก โดยใชแ้ อพพลเิ คชนั่ เชน่ เวบ็ อีเมลล์ เปน็ ต้น
4.สว่ นประกอบของระบบสื่อสารข้อมลู ประกอบดว้ ยอะไรบ้าง 1. ผู้ส่ง (Sender) 2. ผู้รบั (Receiver) 3. สื่อกลาง (Medium) หรอื ตวั กลาง 4. ขอ้ มลู ข่าวสาร (Message) โดยแบ่งเป็น 5รูปแบบ ดงั นี้ 4.1 ข้อความ (Text) 4.2 ตัวเลข (Number) 4.3 รปู ภาพ (Images) 4.4 เสยี ง (Audio) 4.5 วิดโี อ (Video) 5. โปรโตคอล (Protocol)
5.ประโยชนข์ องระบบเครือขา่ ยมีอะไรบา้ ง 1. สามารถแชร์ข้อมูลใช้ร่วมกันได้ ข้อมูลต่างๆในแต่ละเคร่ืองภายในระบบ หากมีผู้อ่ืนต้องการใช้ คุณสามารถแชร์ให้ผู้อ่ืนนาไปใช้ได้ หรือข้อมูลท่ีเป็นส่วนรวมก็สามารถแชร์ไว้เพื่อให้หลายๆฝ่ายนาไปใช้งานได้ ซ่ึงก็จะช่วยทาให้ประหยัดเน้ือที่ในกา รจดั เก็บและชว่ ยให้การปรบั ปรงุ ขอ้ มลู ในระบบงา่ ยข้ึนและไม่เกดิ ความขัดแย้งของข้อมูลด้วย เพราะขอ้ มูลมอี ยู่ชดุ เดียว 2. สามารถแชร์อุปกรณ์ต่างๆร่วมกันได้ เช่น เคร่ืองพิมพ์ สแกนเนอร์ ซิปไดร์ฟ เป็นต้น โดยท่ีไม่จาเป็นต้องซ้ืออุปกรณ์เหลา่ นัน้ มาติดตั้งกับทุกๆเคร่ือง เช่นในบ้านคุณมีเครื่องคอมพวิ เตอร์ทั้งหมด 4 เคร่ือง อาจจะซื้อเคร่ืองพมิ พม์ าเพยี งตัวเดียวและแชร์เครอ่ื งพมิ พน์ ั้นเพื่อใชร้ ว่ มกนั ได้ 3. สามารถใชโ้ ปรแกรมร่วมกันหลายๆเครื่องได้ เช่น ในห้อง LAB คอมพวิ เตอร์ท่ีมีจานวน คอมพิวเตอร์ท่ีมีจานวนเคร่ืองในระบบจานวน 30 เคร่ือง คุณสามารถซ้ือโปรแกรมเพียงแค่ 1 ชุดและสามารถใช้งานร่วมกันได้ ซ่ึงจะทาให้สะดวกในการดูแลรักษาด้วย 4. การสือ่ สารในระบบเครือขา่ ยผ้ใู ชส้ ามารถเช่อื มกบั เครื่องอ่นื ๆในระบบได้ เช่น อาจจะส่งข้อความจากเครื่องของคุณไปยังเคร่ืองของคนอน่ื ๆได้ นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้ E-Mail ส่งข้อความข่าวสารต่างๆภายในสานักงานได้อีก เช่น แจง้ กาหนดการต่างๆแจ้งขอ้ มลู ต่างๆใหท้ กุ ๆคนทราบ โดยไมต่ ้องพมิ พอ์ อกทางเครือ่ งพมิ พ์เพือ่ แจกจา่ ย ทาใหป้ ระหยดั คา่ ใชจ้ า่ ยได้อกี ทางหน่งึ
5. การแชรอ์ นิ เทอร์เน็ต ภายในระบบเครอื ขา่ ยคุณสามารถแชรอ์ นิ เตอร์เนต็ เพ่ือใช้ร่วมกันได้ โดยทีค่ ุณไมจ่ าเปน็ ต้องซ้อืInternet Account สาหรับทุกๆเคร่อื งและไม่จาเป็นต้องติดต้ังโมเด็มทกุ เครื่อง ซง่ึ ก็จะชว่ ยใหค้ ุณประหยัดคา่ ใช้จา่ ยได้มาก 6. เพื่อการเรียนรู้ การท่ีคุณไดท้ ดลองใช้งานระบบเครอื ข่ายจะทาใหค้ ุณสามารถเรยี นรแู้ ละค้นุ เคยกับระบบเครอื ขา่ ยมากขนึ้ ทาให้คณุ มปี ระสบการณ์ในระบบเครือข่ายมากข้นึ และจะทาใหค้ ุณรู้สกึ ว่ามันไมใ่ ช่เรอื่ งยากเลย6. การสื่อสารข้อมลู มกี ีช่ นดิ อะไรบ้างแตล่ ะชนิดแตกต่างกนั อยา่ งไร? จาแนกทสี่ าคัญ 3 ประการ คอื 1. จาแนกตามกระบวนการหรอื การไหลของขา่ วสาร 2. จาแนกตามภาษาสญั ลักษณ์ท่แี สดงออก 3. จาแนกตามจานวนผสู้ ื่อสาร1.จาแนกตามกระบวนการหรอื การไหลของข่าวสาร แบง่ เป็น 2 ประเภทคอื
1.1 การสื่อสารทางเดยี ว (One-Way Communication) การสื่อสารที่ข่าวสารจะถกู สง่ จากผ้สู ง่ ไปยงั ผู้รบั ในทิศทางเดยี ว โดยไม่มีการตอบโต้กลบั จากฝ่ายผู้รับ เช่น การส่ือสารผ่านส่ือ วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ การออกคาสั่งหรือมอบหมายงานโดย ฝ่ายผู้รับไม่มีโอกาสแสดงความคิดเห็น ซ่ึงผู้รับอาจไม่เข้าใจขา่ วสาร หรือเข้าใจไม่ถูกตอ้ งตามเจตนาของผูส้ ่งและทางฝ่ายผู้ส่งเม่ือไม่ทราบปฏิกิริยาของผู้รับจึงไม่อาจปรับการสื่อสารให้เหมาะสมได้ การสื่อสารแบบนีส้ ามารถทาได้รวดเร็วจงึ เหมาะสาหรับการสือ่ สารในเรอื่ งท่เี ข้าใจงา่ ย1.2 การสอ่ื สารสองทาง (Two-way Communication) การส่ือสารท่ีมีการส่งข่าวสารตอบกลับไปมาระหว่างผู้ส่ือสาร ดังน้ันผู้ส่ือสารแต่ละฝ่ายจึงเป็นทั้งผู้ส่งและผู้รับในขณะเดียวกัน ผู้ส่ือสารมีโอกาสทราบปฏิกิริยาตอบสนองระหว่างกัน ทาให้ทราบผลของการส่ือสารว่าบรรลุจดุ ประสงค์หรือไม่ และช่วยให้สามารถปรบั พฤติกรรมในการสื่อสารให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ตัวอย่างการส่ือสารแบบสองทาง เช่น การพบปะพูดคุยกันการพูดโทรศัพท์ การออกคาสั่งหรือมอบหมายงานโดยฝ่ายรับมีโอกาสแสดงความคิดเห็น การส่ือสารแบบน้ีจึงมีโอกาสประสบผลสาเรจ็ ไดม้ ากกวา่ แต่ถ้าเร่ืองราวทจี่ ะส่อื สารเป็นเร่ืองงา่ ย อาจทาใหเ้ สยี เวลาโดยไมจ่ าเป็น2. จาแนกตามภาษาสญั ลกั ษณ์ท่ีแสดงออก แบง่ เป็น 2.1 การส่ือสารเชิงวัจนะ (Verbal Communication) หมายถึงการส่ือสารด้วยการใช้ภาษาพดู หรือเขียนเป็นคาพูด ในการสือ่ สาร
2.2 การสือ่ สารเชงิ อวัจนะ (Non-VerbalCommunication) หมายถงึ การส่อื สารโดยใช้รหัสสัญญาณอยา่ งอื่น เช่น ภาษาทา่ ทางการแสดงออกทางใบหน้า สายตา ตลอดจนถึงน้าเสยี ง ระดับเสยี ง ความเร็วในการพูด เปน็ ต้น3. จาแนกตามจานวนผูส้ อื่ สารกจิ กรรมต่างๆ ของบุคคลและสงั คม ถือวา่ เป็นผลมาจากการสอ่ื สารทัง้ สิ้น ดังน้นั การส่ือสารจึงมขี อบขา่ ยครอบคลุมลักษณะการสอื่ สารของมนุษย์ 3 ลักษณะคือ 3.1 การสื่อสารสว่ นบคุ คล (Intrapersonal Communication) 3.2 การสอื่ สารระหว่างบคุ คล (Interpersonal Communication) 3.3 การสื่อสารมวลชน (Mass Communication)7. สัญญาณมกี ่ปี ระเภทอะไรบ้าง? ขอ้ มลู อาจจะเปน็ ข้อความ เสยี ง หรอื ภาพเคลื่อนไหว ซงึ่ ไม่สามารถสง่ ไปในระยะทางไกลดว้ ยความเรว็ สงู ดงั นนั้ ขอ้ มลูจะต้องถูกแปลงเปน็ สญั ญาไฟฟ้าทเ่ี รียกวา่ สญั ญาณข้อมูล (data signal) ทาให้สามารถส่งผ่านสอ่ื ไปได้ในระยะทางไกลด้วยความเรว็สงู ขอ้ มูลจะถกู แปลงเป็นสญั ญาณขอ้ มูลได้ 2 ประเภท ดังน้ี
1.สัญญาณแอนะล็อก สัญญาณแอนะล็อก (analog signal) สามารถเขียนแทนได้ด้วยรูปกราฟคลื่อนไซน์ (sine wave) ลักษณะเป็นสัญญาณแบบต่อเนื่อง อธิบายรูปกราฟคลื่นไซต์ด้วยค่าความถ่ี และระดับความเข้มของสัญญาณค่าความถ่ี คือ จานวนรอบของเคลื่อนท่ีเคลื่อนท่ีใน 1 วินาที หรือในเวลา 1 วินาที คลื่นเคล่ือนท่ีได้กี่รอบน่ันเอง เช่น สถานีวิทยุ hotwave กระจายเสียงที่ความถ่ี 91.5เมกะเฮิรตซ์ (MHz) หมายความว่า เสียงดีเจจากคลื่นวิทยุ hotwave จะถูกแปลงเป็นสัญญาณแอนะล็อก โดยใน 1 วินาที สามารถผลิตคลนื่ ใหม้ สี ญั ญาณ 91.5 ลา้ นรอบ ถา้ ผ้รู บั ต้องการรับฟงั เพลงจากสถานวี ิทยุ hatwave ก็ต้องหมุนเคร่ืองรับวิทยุให้ตรงกับความถี่ท่สี ถานสี ่งออกมาน่ันเอง ข้อเสียของสัญญาณแบบแอนะล็อก คือ สัญญาณถูกรบกวนได้ง่าย ทาให้เกิดข้อผิดพลาดในการรับส่งข้อมูลเมอ่ื ต้องสง่ ข้อมลู ออกไปในระยะทางไกลระดบั ของสัญญาณจะอ่อนลง และมีสญั ญาณรบกวน ดังน้ันจงึ ต้องมีเคร่ืองทวนสัญญาณ เพอื่เพมิ่ ระดับสัญญาณแสงต่อไป ตัวอย่างของสัญญาณข้อมูลแบบแอนะล็อก เช่น สัญญาณเสียงในสายโทรศัพท์ สัญญาณเสียงที่ส่งจากสถานวี ทิ ยุ เป็นต้น2.สัญญาณดจิ ทิ ลั สัญญาณดิจทิ ัล (digital signal) ลักษณะเป็นกราฟส่ีเหลี่ยม (square graph) เป็นสัญญาณแบบไม่ต่อเนื่อง รูปแบบของสัญญาณมีการเปลี่ยนแปลงแบบไม่ปะติดปะต่อ กล่าวคือ มีบางช่วงที่ระดับสัญญาณเป็น 0 การแปลงข้อมูลให้อยู่ในรูปของสัญญาณดิจิทัลต้องทาการเเปลงข้อมูลให้ข้อมูลเป็นแบบดิจิทัล นั่นคือต้องแปลงข้อมูลใหอ้ ยู่ในรูปแบบเลขฐานสอง คือ 0 และ 1 แล้วทาการแปลงข้อมลู น้นั ใหเ้ ปน็ สญั ญาณดจิ ิทัล ซงึ่ สามารถแปลงไดห้ ลายรปู แบบ
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: