เวลาและการแบ่งยคุ สมยั ก่อนประวัติศาสตร์ – สุโขทยั จดั ทาโดย นาย ธนภัทร โพธ์ิทอง ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 5/1 เลขท่ี 3 เสนอ อาจารย์ ภัคพร เจริญลกั ษณ์ โรงเรียนภัทรญาณวทิ ยา
เวลาและยคุ สมัยทางประวัตศิ าสตร์ ประวตั ิศาสตร์ไทยเป็นการศึกษาเรื่องราวในอดีตของมนุษย์ นกั ประวตั ิศาสตร์ได้ กาหนดเวลาเวลาและยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร์ข้ึนมา เช่น กาหนดเวลาเป็นปี ศกั ราช สหสั วรรษ ศตวรรษ ทศวรรษในการกาหนด ยคุ สมยั นกั ประวตั ิศาสตร์ไดถ้ ือเอาลกั ษณะเดนของเหตุการณเ์ ป็นเกณฑ์เพ่ือให้ สามารถเขา้ ใจและจดจายคุ สมยั น้นั ๆได้ ประวตั ิศาสตร์จงึ มคี วามสาคญั ช่ึงจะชว่ ยให้ ผศู้ กึ ษาเกิดความเขา้ ใจและตรงกนั
ความสาคญั เวลา เวลาและยคุ สมยั ทางประวัตศิ าสตร์ ความสาคัญเวลาและยุคสมัยทางประวัตศิ าสตร์ 1.บอกให้รูว้ า่ เหตุการณ์ต่างๆ เกดิ ข้ึน หรือสิ้นสุดในเวลาใด ชว่ งเวลาใด 2.บอกให้รู้ว่าเหตุการณต์ า่ งๆ เกดิ ข้ึนมานานเทา่ ใดแลว้ เมอ่ื นบั ถึงปัจจุบนั 3.บอกใหร้ ูว้ ่าเหตุการณ์ตา่ งๆ เหตุการณ์ใดเกดิ ข้ึนกอ่ น หรือหลัง เม่อื เปรียบเทียบกบั เหตุการณอ์ ่ืนๆ 4.บอกให้รูถ้ ึงความสมั พันธห์ รือเก่ียวข้องของเหตุการณป์ ระวตั ิศาสตร์ 5.ทาใหเ้ ข้าใจและวิเคราะหเ์ หตุการณ์ต่างๆ ในประวตั ิศาสตรไ์ ด้ดีข้ึน
การนับและการเทียบ การนับศักราช ศกั ราชในประวัตศิ าสตร์ มหาศกั ราช จลุ ศักราช - พระจา้ กนิษกะของอนิ เดียมีพระราชดารขิ นึ้ เป็นศกั ราชของพม่า - - ประเทศไทยรบั มาทางขอม แพร่มาทางอาณาจกั รลา้ นนา - - นยิ มใชม้ ากในสมยั สโุ ขทยั และสมยั อยุธยาตอนตน้ นยิ มใชม้ ากในสมยั อยุธยาตอนตน้ ถึง สมยั รชั กาลท่ี 5 - รัตนโกสินทร์ศก พุทธศกั ราช - รชั กาลท่ี 5 มีดารขิ นึ้ ใหบ้ ญั ญตั ขิ นึ้ เป็นศกั ราชของพระพทุ ธศาสนา - - เริม่ นบั ตงั้ แต่สมยั สถาปนากรุงรตั นโ์ กสนิ ทรเ์ ป็นราชธานี นามาใชเ้ ป็นแบบทางราชการในสมยั รชั กาลที่ 6 - - เลกิ ใชใ้ นรชั กาลท่ี6 และเปลย่ี นมาใชพ้ ทุ ธศกั ราชแทน เรม่ิ ใชต้ ง้ั แตส่ มยั สมเด็จพระนารายณม์ หาราช -
การนับและการเทยี บ ศักราชในประวัตศิ าสตร์ การเทียบศักราชในประวัติศาสตร์ไทย มหาศกั ราช (ม.ศ.) นิยมใชม้ ากในสมัยสโุ ขทยั และสมยั อยธุ ยาตอนตน้ ม.ศ + 621 = พ.ศ พ.ศ - 621 = ม.ศ จลุ ศกั ราช (จ.ศ) นิยมใชม้ ากในสมัยอยุธยาตอนตน้ ถึง สมัยรชั กาลที่ 5 จ.ศ + 1181 = พ.ศ พ.ศ - 1181 = จ.ศ รัตนโกสินทร์ศก (ร.ศ) นยิ มใชส้ มยั รัชกาลที่ 5 ถึง สมยั รชั กาลที่ 6 ร.ศ + 2324 = พ.ศ พ.ศ – 2324 = ร.ศ
การแบ่งยคุ สมยั ในประวัตศิ าสตร์ไทย ยุคหิน ยุคกอ่ นประวัตศิ าสตร์ ราชธานี ยุคประวัติศาสตร์ สุโขทยั ยคุ หินเก่า ยคุ โลหะ อยธุ ยา การปกครอง หลั กสากล ยุคหินกลาง ธนบรุ ี ยคุ หินใหม่ ยคุ สาริด รตั นโกสินทร์ ปิตลุ าธิปไตย สมยั โบราณ ยคุ เหลก็ สมยั ปฏิรูป ราชาธิปไตย สมยั ปัจจบุ ัน ประชาธิปไตย
ยคุ หิน ยคุ หินเก่า อายุ 700,000 -10,000 ปี ผคู้ นยคุ หินเกา่ เป็นยคุ ที่มีการใชเ้ คร่ืองหนิ กะเทาะแบบหยาบ มที ี่อยไู่ ม่เป็นหลกั แหลง่ มีการค้นพบร่องรอยของมนุษยห์ ินเกา่ ในประเทศไทย คอ่ นข้างน้อยชึ่งมีการค้นพบท่ี จ. เชียงราย จ.ราชบุรี และมกี ารค้นพบอีกครงั้ ปรากฏ ว่าเป็นเคร่ืองมือหินกะเทาะหนา้ เดียว และ ขวานหนิ ขัดหินใหม่ 2 กอ้ นบริเวณ สถานีบา้ นท่า จังหวัด กาญจนบรุ ี ผคู้ นยคุ หินกลาง ยคุ หินกลาง เคร่ืองมอื หินกะเทาะหนา้ เดียว อายุ 10,000-7,000 ปี ยคุ หินใหม่ เป็นยคุ ท่ีมกี ารรู้จกั เคร่อื งมอื เคร่อื งใช้ทีท่ าจากหินให้มีความประณตี มากขนึ้ อายุ 7,000-5,000 ปี มลี กั ษณะดา้ นหนง่ึ คม ด้านหน่งึ มน ในประเทศไทยมีสารวจและขุดคน้ และได้ เป็นยคุ ทรี่ ูจ้ ักการเพาะปลกู และ เลยี้ งสตั ว์ อยเู่ ป็นหลกั แหลง่ มากขนึ้ ซ่ึงได้มีการสารวจและขุดคน้ บริเวณ พบหลกั ฐานที่แสดงวา่ บรเิ วณ กาญจนบรุ ี แม่ฮ่องสอน เชยี งราย ลพบุรี และ จงั หวดั กาญจนบุรี ราชบุรี และ ขอนแก่น ได้พบโครงกระดูกมนุษยย์ คุ หินใหม่ และมกี ารพบเครือ่ งมอื เคร่ืองใช้ ราชบรุ ีมีการพบ โครงกระดกู มนุษยและ โครงกระดูกสตั ว์ เคร่ืองมอื ดินเผา และมกี ารสนั นษิ ฐานวา่ มนษุ ยยคุ หินใหมใ่ นประเทศไทยน้นั มีจานวนมากและต้ังหลกั แหลง่ กระจายอยทู่ ่ัวทศิ ทุกาาค เปลอื กหอย และเครื่องมอื หินขัดดา้ นหนึ่งคมดา้ นหนง่ึ มนในบริเวณดงั กลา่ ว ของประเทศไทย เชน่ พบเครอ่ื งมอื หนิ ขัดดา้ นหน่งึ คมและพบาาชนะดนิ เผาแบบต่างๆ ทีบ่ า้ นเกา่ จ.กาญจนบุรี เครื่องมอื หินขดั หน้าเดยี ว โครงกระดกู ยคุ หินกลาง หมอ้ สามขา ผคู้ นยุคหินใหม ่ ขวานหินโบราณ
ยุคโลหะ ผคู้ นยคุ สาริด ผคู้ นยคุ เหลก็ ยุคเหลก็ ยุคสาริด อายุ 5,000-3,000 ปี อายุ 4,000 – 2,500 ปี เป็นยุคท่รี ูจ้ กั การนาเหล็กมาทาเป็นเครื่องมือเคร่ืองใชแ้ ทนเหล็กสารดิ เนื่องจากมี เป็นยุคที่มีการนาทองแดงและดบี กุ มาหลอมผสมเป็นสาริดและ ไดน้ ามาประดษิ ฐเ์ ป็นเคร่อื งมอื เครื่องใชเ้ ชน่ หอกใบหอก ขวานสาริด กาไล ชึง่ มนุษยใ์ นยุคนมี้ ีการพฒั นาเรือ่ งการเพาะปลูก และเลี้ยวสัตวใ์ หด้ ขี นึ้ และมกี ารเปลี่ยนแปลงดา้ นการเมืองและความเป็นของอย่สู ังคมมากขนึ้ ในประเทศไทยเองมกี ารคน้ พบเครื่องมือเครือ่ งใช้ เช่น ขวานสารดิ พบทบี่ า้ นเชียง จ.อดุ รธานี กลองมโหระทึกโบราณ ท่ีชมุ ชนโบราณขาสามแกว้ จ.ชุมพร ความคงทนมากกว่าแต่ตอ้ งใชอ้ ณุ หามู มิ ากมีกรรมวิธีที่ยากในการผลิตชง่ึ ในยุคนี้ นน้ั เร่ิมมีการก่อเกิออารยธรรม เช่น อารยธรรมเมโสโปเตเมียของอาณาจักรฮติ ไทด์ และมาี าวะสังคมเริม่ มีความชบั ชอ้ นมากขนึ้ ช่ึงในประเทศไทยนน้ั มีการคน้ พบ เคร่ืองมือเครื่องใชแ้ ละโครงกระดกู มนุษยในยุคนที้ บี่ รเิ วณบา้ นโนนนกทา จ.ขอนแก่น และ บา้ นเชยี ง จ.อุดรธานี ขวานสาริด กาไลสารดิ กลองมโหระทกึ โบราณ ดาบยุคเหลก็ หนา้ กากนกั รบยุคเหลก็
ยุคสมัยอาณาจักรโบราณ พทุ ธศตวรรษที่ 7-12 อาณาจักรฟนู ัน เป็นอาณาจกั รเก่าแกท่สี ดุ ต้งั อยบู่ รเิ วณ ประเทศกมั พูชา เวียดนามตอนใต้าาคอสี านของไทย และาาคใต้ พทุ ธศตวรรษที่ 11-16 อาณาจักรทวารวดี ตงั้ อยู่าาคเหนอื และาาคกลางของไทย มศี นู ยก์ ลางคอื นครปฐมอทู่ อง สพุ รรณบรุ ี พทุ ธศตวรรษท่ี 13-18 อาณาจักรตามพรลิงค์ ต้ังอยู่บรเิ วณาาคใตข้ องไทย มศี ูนยก์ ลางท่ีจังหวัดนครศรีธรรมราช พทุ ธศตวรรษที่ 12-18 อาณาจกั รละโว้ ตงั้ อยู่าาคกลางของไทย อยู่ท่ีจ.ลพบรุ ี พทุ ธศตวรรษท่ี 13-19 อาณาจักรศรีวชิ ัย ตัง้ อยูา่ าคใตข้ องไทย บริเวณคาบสมทุ รมลายูช่องแคบมะละกา พทุ ธศตวรรษที่ 14-17 อาณาจกั รหรภิ ญุ ชัย ต้งั อยู่าาคเหนือของไทย มีศูนยก์ ลางที่จ.ลาพูน พทุ ธศตวรรษท่ี 15-18 อาณาจักรโยนกเชียงแสน ตง้ั อย่าู าคเหนือของไทยบริเวณอ.เชียงแสนจ.เชยี งราย พทุ ธศตวรรษที่ 19-25 อาณาจกั รล้านนา ตง้ั อยาู่ าคเหนือและพม่า เป็นการวมกันของอาณาจักรหราิ ญุ ชยั อาณาจกั รโยนกเชยี งแสนและหิรัญยางนครเงนิ ยาง
ยุคประวตั ิศาสตร์ สมยั สุโขทยั เริม่ ตงั้ แตส่ ถาปนาอาณาจกั รสโุ ขทัย นครรัฐของไทยคอ่ ย ๆ เป็นอิสระจากจักรวรรดขิ ะแมรโ์ ดยพอ่ ขนุ บางกลางหาว เจา้ เมืองบางยาง กับพระสหายคอื พอ่ ขนุ ผาเมอื ง เจา้ เมืองราด ซง่ึ เป็นโอรสพอ่ ขุนศรีนาวนาถม ไดช้ กั ชวนคนไทย ผูร้ กั ชาตบิ า้ นเมอื งทงั้ หลายใหร้ วมตวั ผนึกกาลงั ชิงเมอื งสโุ ขทัยและเมืองศรสี ัชนาลยั จากขอมสบาดโขลญลาพง ประกาศสถาปนากรุงสโุ ขทัยพระราชพิธอี าเิ ษกพ่อขนุ บางกลางหาวเป็นกษัตริยป์ กครองสุโขทัย ทรงพระนามวา่ “พ่อขุนศรีอนิ ทราทติ ย์” ใน พ.ศ. 1792และสุดทา้ ยถกู ผนวกเขา้ กับอยุธยาในปี 1981 อาณาจกั รสุโขทยั
พ.ศ. 1780 - 1811 พ.ศ. 1811 - 1822 พระมหากษตั ริย์สุโขทัย พ.ศ. 1842 - 1866 พ.ศ. 1866 - 1890 พ.ศ. 1822 - 1842 พอ่ ขนุ ศรอี นิ ทราทิตย์ พอ่ ขุนบาลเมือง พ่อขนุ รามคาแหง พระยาเลอไท พระยาง่ัวนาถมุ พระมหาธรรมราชาที่ 1 พระมหาธรรมราชาท่ี 2 พระมหาธรรมราชาท่ี 3 พระมหาธรรมราชาท่ี 4 (ลไิ ทย) (ลือไทย) (ไสลือไทย) (บรมปาล) พ.ศ. 1890 - 1913 พ.ศ. 1921 - 1931 พ.ศ. 1931 - 1962 พ.ศ. 1962 - 1981
ยคุ ประวัตศิ าสตร์ สมัยสุโขทยั พ.ศ.1792 การสถาปนาอาณาจกั รสโุ ขทยั พ.ศ.1801 พ่อขนุ รามคาแหงชนชา้ งกบั ขนุ สามชน เจา้ เมอื งฉอด จนได้ ชยั ชนะทาใหข้ นุ สามชนแตกพ่ายไป พ.ศ.1820 พ่อขนุ รามคาแหง ขนึ้ ครองราชยส์ มบัตเิ มื่อพระชนมายุได้ 38 พรรษา พ.ศ.1826 พอ่ ขนุ รามคาแหง ทรงประดษิ ฐ์แบบลายสือไทยขนึ้ เป็นครง้ั แรก พ.ศ.1835 พ่อขนุ รามคาแหง ทรงสรา้ งหลกั ศิลาจารึกหลกั ที่1 พ.ศ.1843 พ่อขนุ รามคาแหง เสดจ็ ประพาสเมืองจนี ไดน้ าชา่ งปั้นเคลือบดินเผากลบั มาไทย และโปรดใหส้ รา้ งโรงงานชีนดินเผา พ.ศ.1850 อญั เชญิ พระพทุ ธสิหิงคม์ าประดิษฐาน ณ สโุ ขหยั ต่อมาถกู อญั เชิญประดนั ฐานอยู่ ในพิพิธาณั ฑส์ ถานแหง่ ชาติ พ.ศ.1860 พอ่ ขนุ รามคาแหง เสด็จสวรรคต ครองราชย์อย่นู าน 40 ปี พญาเลอไทขนึ้ ครองราชยส์ มบัติต่อ ไทยเรม่ิ เสื่อมอานาจ ทาใหไ้ ทยตอ้ งเสียเมอื งไปมาก จนผนวกถกู รวมเขา้ เป็นส่วนหนง่ึ ของอาณาจกั รอยธุ ยาอาณาจกั รสโุ ขทยั สิน้ สดุ ลงในปี 1981
จบการนาเสนอเพยี งเท่านคี้ รับ ขอบคณุ ครับ หากผิดพลาดประการใด ขออภยั มา ณ.ทน่ี ดี้ ้วยครับ
Search
Read the Text Version
- 1 - 13
Pages: