ภาษาอังกฤษในชีวิตจริง 20000-1201

รมู้ ุ่งเนน้ สมรรถนะ ภาษาอังกฤษในชวี ติ จรงิ 1…… . 20001201..... . 2.... 0.... ่ 2. สามัญสัมพนั ธ์............... นางสาวสุปราณี จนั ทรศรี ตาแหนง่ ..... ครูพิเศษสอน…… การอาชพี เกษตรวิสัย

ภาษาอังกฤษในชีวิตจริง 1…… .่ จุดประสงค์รายวิชา 1. สามารถใช้ภาษาอังกฤษฟัง ดู พดู อา่ นและเขียนตามสถานการณต์ ่าง ๆ ในชวี ติ ประจาวัน 2. มคี วามร้คู วามเข้าใจในวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษาและใชภ้ าษาตามมารยาทสงั คม 3. ตระหนักและเหน็ ประโยชน์ของการใชภ้ าษาอังกฤษในชวี ิตประจาวนั และการศึกษาต่อ 1. ฟงั –ดู บทสนทนา เร่ืองราว คาสั่งตา่ ง ๆ ในชีวิตประจาวนั จากสือ่ โสตทัศน์ 2. สนทนาโต้ตอบได้ตรงตามวัตถุประสงคข์ องการส่อื สารตามสถานการณ์ต่างๆในชีวติ ประจาวนั 3. อ่านเรื่องทั่วไปในชีวิตประจาวนั 4. เขยี นให้ข้อมูลเกีย่ วกับตนเองในชวี ติ ประจาวนั 5. ใชภ้ าษาตามมารยาทสงั คมและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษาในสถานการณ์ตา่ ง ๆ 6. ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศสบื ค้นและฝึกฝนการฟงั พูด อ่านและเขยี น พร้อมแสดงหลกั ฐานการเรียนรู้ด้วย ตนเอง ศึกษาและปฏบิ ัตเิ กีย่ วกบั การฟัง–ดู พูด อ่าน เขียน การฟังคาส่ัง เร่ืองราว การสนทนาโต้ตอบใน สถานการณ์ตา่ ง ๆ หรือท่ีกาหนดเกยี่ วกับครอบครวั การศึกษา งานอดิเรก สขุ ภาพ การสนทนาเร่ืองในอดีต ปจั จบุ ันและอนาคต เทศกาลทางวัฒนธรรม การอ่านเร่ืองทั่วไป ข้อความสั้น ๆ ที่พบในชีวิตประจาวันจาก ส่ือสง่ิ พมิ พแ์ ละส่ืออเิ ล็กทรอนกิ ส์ การเขียนข้อความส้นั ๆ การใช้พจนานุกรม และ online dictionary การ ใช้ภาษาตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นแหล่งเรียนรู้ หรือฝึกฝนกับเพ่ือนเพื่อพัฒนาทักษะทางภาษาด้วยตนเอง การสืบค้นข้อมูลจากแหล่งการเรียนรู้ที่ หลากหลาย

หน่วยการเรยี นรู้ หนว่ ยที่ ชื่อหน่วย จานวนชัว่ โมง สปั ดาหท์ ่ี 1 Social Language (1) 6 1-3 2 Social Language (2) 4 4-5 3 Social Language (3) 4 6-7 4 Expressing an Opinion 4 8-9 5 Describing People 4 10-11 6 4 12-13 7 Numbers 4 14-15 8 Signs, Warnings, Notices & Labels 4 16-17 2 18 Holidays & Festivals 36 Final Test Total

ว่ ย ความรู้ 1. ทกั ทาย (Greeting) โดยใ หน่วยที่ 1 Social Language (1) ภาษาตา่ ง ๆ ทง้ั แบบทางการแล 1.1 Greeting ทางการ 1.2 Introduction 2. กลา่ วอาลา (Parting) โด 1.3 Parting ภาษาตา่ ง ๆ ทั้งแบบทางการแล ทางการ หนว่ ยท่ี 2 Social Language (2) 2.1 Thanking 1. กล่าวขอบคณุ (Thankin 2.2 Excuses & Apologies สานวนภาษาต่าง ๆ ได้อย่างถกู 2.3 Special expressions เหมาะสม ตามสถานการณ์ในช 2. กล่าวคาขออภัย (Apolo โดยใชส้ านวนภาษาต่าง ๆ อยา่ กบั สถานการณ์ท่ีเกดิ ขน้ึ ในชีวติ 3. ใชส้ านวนภาษาในโอกาสพ (Special Expressions) ได้

สมรรถนะ ทักษะ คณุ ลักษณะที่พ่งึ ประสงค์ ใชส้ านวน 1. แนะนาตวั เองและแนะนา ตรงต่อเวลา มีวินยั มีความ ละไมเ่ ป็น บุคคลให้รู้จักกนั (Introduction) รับผิดชอบ ละเอียดรอบคอบ ได้ โดยใช้สานวน ภาษาต่าง ๆ ทางานเรียบร้อย สนใจใฝ่รู้ มี ดยใช้สานวน ทั้งแบบทางการและไมเ่ ป็น ความซ่อื สัตย์ ขยันหมน่ั เพียร ละไม่เป็น ทางการ ปฏิบัตติ นในแนวทางท่ีดี ng) โดยใช้ 1. กลา่ วขอบคุณ ขออภัย และ ตรงต่อเวลา มวี ินัย มีความ กต้องและ ใชส้ านวนตามสถานการณ์ต่าง รับผดิ ชอบ ละเอียดรอบคอบ ชีวติ จริง ๆ ในชีวิตประจาวนั ทางานเรยี บรอ้ ย สนใจใฝร่ ู้ มี ogizing) ได้ 2. ใช้ภาษาตามมารยาท ความซ่ือสตั ย์ ขยันหมั่นเพยี ร างเหมาะสม สังคมและวฒั นธรรมของเจ้าของปฏบิ ตั ติ นในแนวทางท่ดี ี จรงิ ภาษาในสถานการณ์ต่าง ๆ พเิ ศษต่าง ๆ

หนว่ ยท่ี 3 Social Language (3) 1. ใช้สานวนการขอร้อง (Req 3.1 Requests และโต้ตอบ ไดอ้ ยา่ งหลากหลาย 3.2 Invitations สถานการณ์ต่าง ๆ ตามความเห 3.3 Suggestions ชีวติ จรงิ หน่วยท่ี 4 Expressing an Opinion 2. ใช้สานวนเพอื่ การเชิญ 4.1 Expressing an opinion (Invitations) และโต้ตอบไดอ้ ย 4.2 Agreement-Disagreements หลากหลายใน สถานการณต์ ่าง ความเหมาะสมในชวี ิตจริง 1.ใช้คาถามความคิดเห็นจาก 2. สนทนาโต้ตอบเกย่ี วกับค ในสถานการณ์ตา่ ง ๆ และกาลเ 3. ประยกุ ตใ์ ช้ความรู้การสน ชีวติ ประจาวัน หน่วยที่ 5 Describing People 1. บอกลักษณะบคุ คลเชน่ ทรง 5.1 Describing Appearance สีผวิ รปู รา่ ง ความสูง น้าหนัก ต 5.2 Describing Character ลกั ษณะนิสัย 2. เขยี นอธบิ ายลกั ษณะขอ ทางกายภาพและลกั ษณะนสิ ัย

quests) 1. ใช้สานวนขอร้อง เชิญ ตรงตอ่ เวลา มวี ินัย มคี วาม ยใน ชกั ชวน ช้ีแนะและแนะนาตาม รับผดิ ชอบ ละเอยี ดรอบคอบ หมาะสมใน สถานการณต์ ่าง ๆ ใน ทางานเรียบร้อย สนใจใฝร่ ู้ มี ชวี ิตประจาวนั ความซอื่ สัตย์ ขยนั หมน่ั เพยี ร 2. ใช้ภาษาตามมารยาม ปฏบิ ัตติ นในแนวทางท่ีดี ย่าง สงั คมและวฒั นธรรมของเจ้าของ ง ๆ ตาม ภาษาในสถานการณต์ ่าง ๆ กบุคคล สนทนาโต้ตอบตามจุดประสงค์ ตรงต่อเวลา มีวนิ ัย มคี วาม ความคิดเห็น ของการส่ือสารตามสถานการณ์ รบั ผิดชอบ ละเอียดรอบคอบ เทศะ ตา่ ง ๆ ในชวี ติ ประจาวนั ทางานเรียบร้อย สนใจใฝ่รู้ มี นทนาใน ความซอ่ื สัตย์ ขยนั หมนั่ เพยี ร ปฏบิ ตั ิตนในแนวทางที่ดี งผม ใบหน้า 1. เขียนใหข้ อ้ มลู เกีย่ วกับบุคคล ตรงตอ่ เวลา มวี นิ ยั มีความ ตลอดจน ในชีวิตประจาวัน รบั ผิดชอบ ละเอียดรอบคอบ 2. ใชภ้ าษาตามมารยาท ทางานเรยี บรอ้ ย สนใจใฝ่รู้ มี องบคุ คลทัง้ สงั คมและวัฒนธรรมของเจ้าของความซือ่ สตั ย์ ขยันหม่ันเพียร ภาษาในสถานการณ์ต่าง ๆ ปฏิบตั ิตนในแนวทางท่ดี ี

หน่วยท่ี 6 Numbers 1. ใชต้ วั เลขเพอ่ื สื่อสารโดยเ เก่ียวกบั เวลาและวนั เดือนปี หน่วย 6.1 Telling the Time การ 6.2 Telling the Date 2. ใชต้ ัวเลขเพอ่ื สอื่ สารโดยฟ 6.3 Ordinal Numbers เกีย่ วกบั เวลา วันเดือนปี และเล เรยี นรู้ 6.4 Cardinal Numbers และ 1. อ่าน เขยี นป้ายประกาศชนิด ความหมาย สมรร หนว่ ยท่ี 7 Signs, Warnings, Notices & ถนะ Labels 2. อา่ นสลากยา หรอื ฉลากอ ประ 7.1 Signs, Warnings and Notices 1. อธิบายเกีย่ วกบั วันหยุดตามน จา 7.2 Labels ประจาปีต่าง ๆ หน่วย 2. อธิบายเกีย่ วกับงานรน่ื เร เทศกาลตา่ ง ๆ หน่วยที่ 8 Holidays & Festivals 3. เปรียบเทยี บการแสดงออ 8.1 Holidays ขนบธรรมเนยี มประเพณีของเจ 8.2 Festivals

เขยี น อา่ น อา่ นและเขยี นตัวเลขเก่ียวกับ ตรงตอ่ เวลา มีวนิ ัย มีความ เวลา วันเดือนปแี ละเลข-ลาดับ รับผิดชอบ ละเอียดรอบคอบ ฟังพดู เพอ่ื การส่ือสาร ทางานเรยี บร้อย สนใจใฝ่รู้ มี ลขลาดับ ความซ่อื สัตย์ ขยันหมน่ั เพยี ร ปฏบิ ตั ติ นในแนวทางทีด่ ี ด และแปล อ่านและเขียนเรอ่ื งท่ัวไปใน ตรงต่อเวลา มีวนิ ัย มีความ ชวี ติ ประจาวัน รบั ผิดชอบ ละเอยี ดรอบคอบ อื่น ๆ ทางานเรยี บรอ้ ย สนใจใฝร่ ู้ มี ความซอ่ื สตั ย์ ขยันหม่นั เพียร ปฏิบตั ิตนในแนวทางทดี่ ี นักขตั ฤกษ์ สนทนาเกีย่ วกับวันหยุดและงาน ตรงตอ่ เวลา มวี ินยั มคี วาม เทศการณ์ รบั ผดิ ชอบ ละเอียดรอบคอบ รงิ ตาม ทางานเรียบรอ้ ย สนใจใฝ่รู้ มี ความซื่อสตั ย์ ขยนั หม่นั เพยี ร อกเกยี่ วกบั ปฏิบตั ติ นในแนวทางทด่ี ี จ้าของภาษา

รู้มงุ่ เน้นสมรรถนะ ว่ 1........ ว่ Social Language (1)............................. 1-3.... 6....... 2..... 1. 1. การทักทาย (Greeting) เปน็ ภาษาสากลที่ใช้ในชวี ติ ประจาวนั ของคนเราทุกชาติทุกภาษา มกี ารใช้ ทั่วไป 2 รูปแบบคอื แบบทางการ Formal greeting และแบบไมเ่ ปน็ ทางการ Informal greeting 2. การแนะนาบคุ คล (Introduction) การทบ่ี คุ คลสงั คมไม่รจู้ ักกนั มากอ่ น จะต้องมีการแนะนาตวั เอง ควรเริ่มดว้ ยการแนะนาตวั เองก่อน บคุ คลที่ได้รับการแนะนา ก็จะต้องแนะนาตัวเองด้วยเช่นกัน เป็นมารยาททางสังคมท่ี ตอ้ งเลอื กใช้สานวนภาษาใหถ้ ูกตอ้ ง แต่ในการแนะนาบุคคลให้รจู้ ักกนั ก็อาจะมขี อ้ มลู อ่นื ประกอบการแนะนาว่าเกี่ยวข้อง สมั พันธ์กนั อย่างไร ภาษาท่ใี ชใ้ นการแนะนา บคุ คลให้รู้จักกนั มีท้ังแบบเป็นทางการและไม่เปน็ ทางการ 3. การอาลา (Parting) เป็นภาษาสากลท่ีใช้ในชีวิตประจาวันของคนเราทุกชาติทุกภาษาเช่นเดียวกัน มีการใช้ ทั่วไป 2 รปู แบบคือทงั้ แบบทางการ Formal parting และแบบไม่เปน็ ทางการ Informal parting 2. ่วย 2.1. ฟงั -ดู เรื่องราวในชวี ติ ประจาวนั 2.2 สนทนาทกั ทาย แนะนาบคุ คลและอาลาตามสถานการณต์ า่ ง ๆ ในชวี ิตประจาวัน 3. สงคก์ ารเรยี นรู้ ดา้ นความร้แู ละทักษะ 3.1. ทกั ทาย (Greeting) โดยใช้สานวนภาษาตา่ ง ๆ ทง้ั แบบทางการและไม่เป็นทางการ 3.2. แนะนาตัวเองและแนะนาบคุ คลใหร้ ูจ้ กั กัน (Introduction) ได้ โดยใช้สานวน ภาษาต่าง ๆ ทั้งแบบทางการและไม่ เป็นทางการ 3.3. กล่าวอาลา (Parting) โดยใช้สานวนภาษาตา่ ง ๆ ท้งั แบบทางการและไมเ่ ป็นทางการ ดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง ตรงต่อเวลา มีวินยั มีความรบั ผดิ ชอบ ละเอียดรอบคอบ ทางานเรียบร้อย สนใจใฝ่รู้ มีความซ่อื สตั ย์ ขยนั หมั่นเพียร ปฏบิ ตั ิตนในแนวทางทีด่ ี

รู้มงุ่ เนน้ สมรรถนะ ว่ 1......... ว่ Social Language (1)............................. 1-3.... 6........ ....2..... 4. เนื้อหาสาระการเรียนรู้ 1.1 Greeting ในการทกั ทาย เราสามารถใช้สานวนภาษาตา่ งกนั ไดด้ ังนี้ Good morning/Good afternoon/Good evening ใช้สาหรับการทักทายในเวลาท่ีต่างกันของวัน นับเป็นการ พดู ทกั ทายทดี่ เู ป็นทางการ ใชใ้ นสถานการณ์ที่เป็นพิธีรีตอง เช่นในการประชุม ในสานักงาน เม่ือมีการติดต่อ พูดจาสื่อสารกัน เป็นคร้งั แรก ผสู้ นทนายังไมค่ ุ้นเคยกันเทา่ ท่คี วร Hello/Hi/Hey there/Hi there เป็นสานวนที่นิยมใช้ในหมู่คนที่ค่อนข้างสนิทสนม มีความเป็นกันเอง ในกลุ่ม เพือ่ น เพ่อื นร่วมงาน ใช้ได้กับทุกเพศทุกวัย นอกจากการทักทายข้างต้นที่มีความหมายว่า สวัสดีครับ/ค่ะ แล้วมักจะตามด้วย ขอ้ ความหรอื สานวนทตี่ ่อเนื่องกบั การทักทายวา่ How are you? How are you today? How are you doing? How are things? How’s business? How is it going? How’s everything? How have you been? What’s up? What’s new with you? 1.2 Introduction Introduction หรือการแนะนาตวั เมอ่ื พบกนั เรามักจะใช้สานวนเพือ่ การแนะนาตัวเอง (Introducing yourself) และการแนะนาตวั บุคคลอ่ืนให้รู้จักกัน (Introducing other people to someone) These are expressions to introduce yourself: ตัวอย่างประโยคทีเ่ ราสามารถใช้แนะนา ตัวเองได้มดี ังนี้ Hello, my name is ………….. /Hi, I’m ................... สวสั ดีครบั /คะ่ ผม/ดิฉนั ช่ือ .......................... ฯลฯ สาหรับการพูดแนะนาตัวเอง อาจมีการให้ข้อมูลเก่ียวกับตัวเองให้มากขึ้น เช่น มาจากไหน เช้ือชาติใด ประกอบ อาชพี อะไร เปน็ ต้น ตวั อย่างเช่น May I introduce myself? ผม/ดิฉนั ขอแนะนาตวั เองครับ/คะ่ My name is …........................(name/surname) ผม/ดฉิ นั ชอ่ื –นามสกุล…..... ครบั /คะ่

I am …..…..(nationality)…….… ผม/ดฉิ นั เปน็ ชาว.…(เชอ้ื ชาติ)… ฯลฯ ในการตอบรับ เมื่อมีคนมาแนะนาตวั กบั เรา โดยปกตเิ ราจะตอบกลบั ดว้ ยการแนะนาตวั เช่นกนั ตวั อยา่ งเช่น Hello, my name is ……………. Hi, I’m ..................... Nice to meet you; I’m ....................... Pleased to meet you; I’m ....................... It’s a pleasure to meet you; I’m .......................... 1.3 Parting เมื่อการสนทนาส้ินสุดลง การกล่าวลาคอื สิ่งที่คู่สนทนาจะตอ้ งพดู สานวนเหล่าน้ีสามารถใชใ้ นการกล่าวลาได้ See you again See you later See you soon See you then หรือใชส้ านวนเกล่าน้ีกล่าวลา พรอ้ มคาอวยพร Have a nice day Have a nice holiday Have a nice weekend Have a good trip Have a good time สานวนทน่ี ิยมในการกล่าวลายงั มอี ีกมากมายเช่น Take care Take care of yourself Sweet dream Sweet well Good luck ฯลฯ

รู้มงุ่ เน้นสมรรถนะ ว่ 1........ 1-3.... ว่ ....... Social Language (1)............................. 6........ 2...... 5.1 การนาเขา้ สู่บทเรียน 1.ครูใหน้ กั เรียนทดสอบก่อนเรียน หน่วยท่ี 1 2. ครูต้งั คาถามเพอื่ นาเขา้ สู่บทเรียนเรื่อง Greeting 5.2 การเรียนรู้ 1. ครูอธิบาย ถาม-ตอบในหวั ขอ้ Greeting 2. ครูใหน้ กั เรียนฝึกปฏบิ ตั กิ ารทกั ทายท้งั รายบุคคลและรายกลุ่ม 3. ครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยแบบฝึกปฏิบตั ิ Practice 5.3 การสรุป ครแู ละนักเรียนรว่ มสรุปเนือ้ หาสาระสาคัญในบทเรยี น กิจกรรมการเรียนรู้ (สัปดาห์ท่ี 2 คาบท่ี 3–4/36) ขนั้ เตรียม 1. ครูขานชอ่ื ผู้เรียน ทักทายนักเรียนและสงั เกตความพรอ้ ม 2. ครทู บทวนเนื้อหา และสุ่มใหน้ กั เรียนออกมาทกั ทายเป็นภาษาอังกฤษ ข้ันนาเข้าสบู่ ทเรยี น 3. ครูตั้งคาถามเพ่ือนาเขา้ สบู่ ทเรียนเรือ่ ง Introduction ข้ันเรยี นรู้ 4. ครูอธบิ าย บรรยาย ถาม-ตอบในหัวข้อ Introduction 5. ครูใหน้ ักเรียนฝกึ ปฏิบตั ิการแนะนาตวั ทง้ั รายบคุ คลและรายกลุม่ 6. ครูและนักเรียนรว่ มกันเฉลยแบบฝกึ ปฏิบัติ Practice ขัน้ สรปุ 7. ครูและนักเรยี นร่วมสรุปเนื้อหาสาระสาคญั ในบทเรยี น กจิ กรรมการเรียนรู้ (สปั ดาหท์ ี่ 3 คาบที่ 5–6/36) ขั้นเตรยี ม 1. ครขู านชื่อผู้เรยี น ทักทายนกั เรยี นและสงั เกตความพรอ้ ม 2. ครทู บทวนเนื้อหา และส่มุ ใหน้ กั เรยี นออกมาแนะนาตัวเองเป็นภาษาอังกฤษ ขั้นนาเขา้ สบู่ ทเรียน

3. ครตู ั้งคาถามเพอ่ื นาเข้าสู่บทเรียนเร่ือง Parting ขั้นเรียนรู้ 4. ครอู ธิบาย บรรยาย ถาม-ตอบในหวั ข้อ Parting 5. ครูให้นักเรยี นฝกึ ปฏิบตั กิ ารกลา่ วลาทัง้ รายบคุ คลและรายกลุ่ม 6. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันเฉลยแบบฝกึ ปฏิบัติ Practice ขน้ั สรปุ 7. ครแู ละนักเรยี นร่วมสรุปเนื้อหาสาระสาคญั ในบทเรยี นและทดสอบหลงั เรียนหนว่ ยที่ 1 5.4 การวดั และประเมินผล ก่อนเรยี น 1) ใช้สมุดบนั ทกึ เวลาเรียนฯ ขานช่ือผเู้ รยี นและตรวจการตรงตอ่ เวลา 2) ทดสอบกอ่ นเรยี น ขณะเรียน 1) ใชแ้ บบสังเกตพฤติกรรม สงั เกตการตอบคาถาม ความสนใจใฝร่ ู้ ความ รบั ผดิ ชอบต่องานท่ี มอบหมาย การร่วมกิจกรรม หลงั เรียน 1) ทกั ทาย แนะนาตัว กล่าวลาเป็นภาษาองั กฤษ 2) ทดสอบหลงั เรียน ใชเ้ กณฑ์ผ่าน 50 %

รู้มงุ่ เนน้ สมรรถนะ ว่ 1....... ่ว ....... Social Language (1).......................... 1-3..... 6......... 2...... 6. สอื่ การเรียนรู้ 6.1 แหลง่ การเรียนรู้ 1. หนังสอื เรยี นวิชาภาษาองั กฤษในชวี ติ จริง 1 รหัส 2000–1201 หนว่ ยที่ 1 2. รูปภาพเกย่ี วกบั การทกั ทาย (Greeting) และการแนะนาตนเองและแนะนาผู้อืน่ 3. บตั รคาศพั ทเ์ ก่ยี วกบั การทกั ทาย (Greeting) และการแนะนาตนเองและแนะนาผูอ้ ื่น 4. ส่อื ของจริง เชน่ บุคคล ส่งิ ของ 5. วีซีดี เวบ็ ไซด์ เพลง ภาพยนตร์ 6.2 สื่อโสตทศั น์ (ถ้ามี) .......................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................... 6.3 ห่นุ จาลองหรอื ของจริง (ถา้ ม)ี .......................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................... 6.4 อ้ืนๆ (ถ้ามี) .......................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................... 7. เอกสารประกอบการจัดการเรียนรู้ (ใบงาน ใบความรู้ ใบมอบหมายงาน 7.1 ฝกึ ทกั ทายเป็นภาษาในภมู ิภาคอาเซยี น 8. การบูรณาการ/ความสัมพันธก์ ับวชิ าอืน่ ........................................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................................... ...........................................................................................................................................................................................

รู้มงุ่ เน้นสมรรถนะ ว่ 1....... ว่ ....... Social Language (1).......................... 1-3..... 6......... 2..... 9. การวดั ผลและประเมนิ ผล 9.1 ก่อนเรียน 1) ใช้สมุดบนั ทกึ เวลาเรยี นฯ ขานช่อื ผู้เรียนและตรวจการตรงต่อเวลา 2) ทดสอบกอ่ นเรยี น 9.2 ขณะเรยี น 1) ใชแ้ บบสงั เกตพฤตกิ รรม สังเกตการตอบคาถาม ความสนใจใฝ่รู้ ความ รับผดิ ชอบต่องานที่มอบหมาย การรว่ มกจิ กรรม 9.3 หลังเรยี น 1) ทกั ทาย แนะนาตวั กลา่ วลาเปน็ ภาษาองั กฤษ 2) ทดสอบหลังเรียน ใชเ้ กณฑ์ผ่าน 50 %

รมู้ งุ่ เน้นสมรรถนะ ่ว 1....... ว่ ....... Social Language (1).......................... 1-3..... 6......... 2...... 10. บนั ทกึ หลงั การสอน 10.1 ผลการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ .......................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................... 10.2 ผลการเรียนรูข้ องนักเรยี น นกั ศึกษา .......................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................... 10.3 แนวทางการพฒั นาคุณภาพการเรียนรู้ .......................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................... ..........................................................................................................................................................................................