ภาวะตาแหง้ (Dry eyes) แผนกผ้ ปู ่ วยนอกจกั ษุ สถาบนั บาราศนราดรู
ภาวะตาแห้ง คือ อาการแสบตา เคืองตา คนั ตา รู้สึกเหมือนมีเศษฝ่ ุนอยู่ในตาตลอดเวลา ผูป้ ่ วยบาง รายอาจมีอาการน้าตาไหลน้า และมีอาการตาแหง้ ตา แดงร่วมดว้ ย อาการตาแหง้ ส่วนใหญ่มกั จะไม่ไดร้ ้ายแรงถึงข้นั ตาบอดถาวร แต่สามารถทาให้เป็ นแผลท่ีกระจกตา ผิวกระจกตาอกั เสบ กระจกตาไม่เรียบเนียน และทา ใหผ้ ปู้ ่ วยเกิดความราคาญได้ แผนกผ้ ปู ่ วยนอกจกั ษุ สถาบนั บาราศนราดรู
อาการ ระคายเคอื งตา ไม่สบายตา แสบตา ตาล้างา่ ย ตาแดง มขี ตี้ าเมอื ก ๆ ได้ ตามวั มองไม่ชัด ชัดบ้างไม่ชัดบ้าง ตาสู้แสงไม่ได้ นา้ ตาอาจไหลมาก เพราะเคอื งตา รู้สกึ เหมอื นมสี ง่ิ แปลกปลอมในดวงตา ลมื ตายาก รู้สกึ ฝื ด ๆ ในตา (ในตอนเช้า) แผนกผ้ ปู ่ วยนอกจกั ษุ สถาบนั บาราศนราดรู
สาเหตุ โดยสาเหตขุ องอาการตาแหง้ มีหลากหลาย สามารถแบง่ ได้ เป็น 2 สาเหตหุ ลกั ๆ คือ 1. กระบวนการสร้างนา้ ตาทนี่ ้อยกว่าปกติ อาการตาแหง้ สามารถเกิดข้ึนได้ เม่ือกระบวนการผลิตน้าตา ไม่เพียงพอตอ่ การใชง้ าน ทางการแพทยเ์ รียกวา่ Keratoconjunctivitis Sicca โดยสาเหตุท่ีทาใหก้ ระบวนการสร้าง น้าตานอ้ ยกวา่ ปกติ ไดแ้ ก่ วยั สูงอายุ หรือผทู้ ี่มีอายมุ ากกวา่ 50 ปี โรคบางโรคส่งผลใหก้ ระบวนการผลิตน้าตาลดลง เช่น โรคโซเกร็น, โรคภูมิแพข้ ้ึนตา, โรคขอ้ อกั เสบรูมาตอยด,์ โรคท่ีเกี่ยงกบั ความผดิ ปกติของระบบภูมิคุม้ กนั ในร่างกาย, GVHD, โรคซาร์คอยโดซิส,ไทรอยด์ หรือการขาดมินตามินเอ การใชย้ าบางชนิด เช่น ยาแกแ้ พ,้ ยาหดหลอดเลือด, การใช้ ฮอร์โมนทดแทน, ยาตา้ นเศร้า, ยาสาหรับโรคความดนั โลหิตสูง และยาคุมกาเนิด จอประสาทตาเส่ือม สาเหตุของจอประสาทตาเส่ือมมา จากการใส่คอนแทคเลนส์ หรือเสน้ ประสาทเกิดความเสียหาย นอกจากน้ีการผา่ ตดั ดว้ ยแสงเลเซอร์สามารถทาใหเ้ กิดอาการตา แหง้ บ่อย แตเ่ ป็นเพยี งอาการตาแหง้ เพยี งชวั่ คราวเท่าน้นั แผนกผ้ ปู ่ วยนอกจกั ษุ สถาบนั บาราศนราดรู
สาเหตุ 2. การระเหยของนา้ ตาทเ่ี ร็วกว่าปกติ อาการตาแหง้ เคืองตา อาจมาจากการระเหยของน้าตาท่ีเร็ว กวา่ ปกติ ซ่ึงมีสาเหตุจากฟิ ลม์ น้าตา ในช้นั นอกสุดหรือที่เรียกวา่ ช้นั ไขมนั เกิดการอุดตนั การอุดตนั ของช้นั ฟิ ลม์ น้าตามกั พบได้ บ่อยในผปู้ ่ วยโรคผวิ หนงั อกั เสบโรซาเซีย (Rosacea) หรือโรค ทางผวิ หนงั รวมท้งั ยงั สาเหตุอ่ืนๆ ท่ีทาใหก้ ารระเหยของน้าตาเร็ว กวา่ ปกติ ไดแ้ ก่ เปลือกตาอกั เสบ การอกั เสบท่ีเกิดจากตอ่ มไมโบเมียน ทางานผิดปกติ กระพริบตาน้อย เน่ืองมาจากโรคบางโรค เช่น โรคพาร์ กินสัน หรือจากการทากิจกรรมบางอยา่ ง เช่น ขณะขบั รถ อา่ น หนงั สือ หรือการจอ้ งหนา้ จอคอมพวิ เตอร์ในขณะทางาน ความผดิ ปกตขิ องเปลือกตา ภาวะเปลือกตามว้ นออก (Ectropion) หรือ ภาวะเปลือกตามว้ นเขา้ (Entropion) ภูมแิ พ้ตา สารกนั เสียในยาหยอดตาหรือนา้ ตาเทียม สารกนั เสีย ในน้าตาเทียมสามารถทาใหน้ ้าตาระเหยไดเ้ ร็วกวา่ ปกติ และอาจ ทาใหผ้ ใู้ ชบ้ างรายมีอาการระคายเคือง ลม ควนั และบริเวณทม่ี ีอากาศแห้ง การขาดวติ ามนิ เอ และโอเมก้า 3 แผนกผ้ ปู ่ วยนอกจกั ษุ สถาบนั บาราศนราดรู
การรักษา แพทยจ์ ะพจิ ารณาที่สาเหตุเป็นหลกั ซ่ึงบางคร้ังอาจมาจาก หลายปัจจยั ไดแ้ ก่ ถา้ เกิดจากโรคหรือยาหรือปัจจยั ที่ส่งผลใหผ้ ลิตน้าตา นอ้ ย เช่น โรคแพภ้ ูมิตวั เอง โรคขอ้ ตอ้ งรักษาและคุมโรค ตน้ เหตุ เม่ือโรคท่ีเป็นตน้ เหตุดีข้ึนหรือหาย ปรับหรือกาจดั ปัจจยั ที่ทาใหก้ ารผลิตน้าตาลดลงได้ หรือลดการใชย้ าตา่ ง ๆ ที่ ทาใหม้ ีการสร้างน้าตานอ้ ยลง อาการตาแหง้ จะดีข้ึนตามลาดบั ในกรณีท่ีเกิดจากน้าตาระเหยเร็วกต็ อ้ งรักษาเปลือก ตาใหห้ ายอกั เสบ เร่ิมดว้ ยการประคบอุน่ ทาความสะอาด เปลือกตา เพือ่ ลดการอุดตนั ของต่อมไขมนั เปลือกตา ปรับพฤติกรรมในการใชง้ าน ปรับสิ่งแวดลอ้ ม หลีกเล่ียงปัจจยั เส่ียงต่าง ๆ เป่ าผมไม่ใหใ้ กลต้ า หลีกเลี่ยงการ ใชพ้ ดั ลม หรืออยใู่ นหอ้ งแอร์นาน ๆ หากจาเป็นตอ้ งทางาน หนา้ คอมพวิ เตอร์ ควรจดั โตะ๊ และเครื่องคอมพวิ เตอร์ ตลอดจน การใชแ้ วน่ ตาที่เหมาะสม และพกั สายตาเป็นระยะ แผนกผ้ ปู ่ วยนอกจกั ษุ สถาบนั บาราศนราดรู
การรักษา ยาและวธิ ีการต่างๆทใ่ี ช้ในการรักษาตาแห้ง ได้แก่ 1.นา้ ตาเทยี ม แพทยอ์ าจแนะนาใหใ้ ชน้ ้าตาเทียมเพือ่ ช่วยเพม่ิ ความชุ่มชื่นใหก้ บั ดวงตา ซ่ึงมี 2 ประเภทหลกั คือ 1.1 กลุ่มท่ีมีสารกนั เสีย ควรใชไ้ ม่เกินวนั ละ 4 คร้ัง อาจ แบ่งเป็นเชา้ กลางวนั เยน็ ก่อนนอน เหมาะกบั อาการตาแหง้ ไม่ รุนแรง สารกนั เสียที่ใชม้ ีหลายประเภท บางประเภทสลายไปเมื่อ โดนตาหรือโดนแสง แพทยอ์ าจแนะนาใหใ้ ชบ้ ่อย ๆ กวา่ 4 คร้ัง ต่อวนั ไดเ้ ป็นบางช่วง แตถ่ า้ ตาแหง้ มากตอ้ งใชบ้ ่อย ๆ ตลอดทุก วนั แพทยม์ กั แนะนาใชก้ ลุ่มไม่มีสารกนั เสีย แผนกผ้ ปู ่ วยนอกจกั ษุ สถาบนั บาราศนราดรู
การรักษา ยาและวิธีการต่างๆทใ่ี ช้ในการรักษาตาแห้ง 1.2 กลุ่มที่ไม่มีสารกนั เสีย มกั เป็นหลอดเลก็ ๆ เปิ ด แลว้ มีอายุ 24 ชวั่ โมง หรือเป็นขวดที่เป็นลกั ษณะมีระบบวาลว์ พเิ ศษที่ใชไ้ ดน้ าน 6 เดือน กลุ่มน้ีใชบ้ ่อยไดต้ ามตอ้ งการ เช่น ทุก 1 – 2 ชว่ั โมง เหมาะกบั ผทู้ ี่ตาแหง้ รุนแรงมาก แต่คนตาแหง้ ทว่ั ไปกใ็ ชไ้ ดเ้ ช่นกนั อยา่ งไรกต็ ามน้าตาเทียมมีหลายรูปแบบท้งั แบบน้าใส ไม่ทาใหต้ ามวั นกั ใชห้ ยอดกลางวนั ซ่ึงความเขม้ ขน้ มีหลากหลาย ใหเ้ ลือกตามความรุนแรงและแบบเจลที่ใชป้ ้ายก่อนนอนหรือ กลุ่มข้ีผ้งึ ที่มีความเหนียวกรณีตอ้ งการคงความชุ่มช้ืนนานใน ตอนกลางคืน แผนกผ้ ปู ่ วยนอกจกั ษุ สถาบนั บาราศนราดรู
การรกั ษา ยาและวิธีการต่างๆทใ่ี ช้ในการรักษาตาแห้ง 2. ยากระตุน้ ทาใหเ้ กิดน้าตา เช่น Diquafosol เพิม่ การสร้างน้าตาช้นั เมือกและช้นั น้า 3. ยาลดการอกั เสบของเปลือกตา เช่น ยาปฏิชีวนะ Doxycycline ฯลฯ 4. ยาลดการอกั เสบของตากลุ่ม Steroids ช่วยลดการ อกั เสบของผวิ ตา กรณีมีการอกั เสบจากตาแหง้ 5. ยากดภูมิคุม้ กนั (Immunosuppressant) ชนิดหยอด เช่น ยา Cyclosporine ชนิดหยอด เพอื่ ลดการอกั เสบและเพ่มิ ปริมาณน้าตา ลดอาการตาแหง้ 6. การดูแลทาความสะอาดเปลือกตาและประคบ อุน่ (Warm Compression and Lid Hygiene) อาจใชแ้ ชมพเู ดก็ ผสมเจือจาง หรือผลิตภณั ฑท์ าความสะอาดเปลือกตา ลดอาการ ต่อมไขมนั เปลือกตาอุดตนั ทาใหช้ ้นั ไขมนั ของน้าตาดีข้ึน แผนกผ้ ปู ่ วยนอกจกั ษุ สถาบนั บาราศนราดรู
การรักษา ยาและวิธีการต่างๆทใ่ี ช้ในการรักษาตาแห้ง 7. Autologus Serum ช่วยรักษาอาการตาแหง้ ชนิด รุนแรง ลดการอกั เสบของเซลลแ์ ละเน้ือเยอ่ื ต่าง ๆ เพราะมีสาร ช่วยเร่ืองการฟ้ื นตวั กลบั คืนสู่ปกติของเน้ือเยอ่ื ไดด้ ีข้ึน โดยเจาะ เลือดของผปู้ ่ วยไปป่ันและแยกเตรียมเป็น Serum แลว้ นามา หยอดร่วมกบั การใชน้ ้าตาเทียม 8. การอุดท่อระบายน้าตา (Punctual Plug) เป็นการอุด บริเวณช่องทางที่ไหลออกของน้าตา (Punctum) ลงสู่โพรงจมูก ซ่ึงมีท้งั ชนิดอุดชวั่ คราวและชนิดอุดถาวร โดยใส่ Silicone Plug หรือ Punctal Cautery โดยการจ้ีบริเวณช่องทางท่ีน้าตา ระบายออกจากตา ซ่ึงเป็นการอุดบริเวณไหลออกของน้าตาแบบ ถาวรในกลุม่ ที่เป็นรุนแรงมาก แผนกผ้ ปู ่ วยนอกจกั ษุ สถาบนั บาราศนราดรู
ดูแลปอ้ งกนั ตาแหง้ เบ้อื งต้น ส่ิงสาคญั ท่ีสุดในการดูแลป้องกนั ตาแหง้ คือ การปรับ พฤติกรรมการใชส้ ายตาใหถ้ ูกตอ้ ง 1. หยดุ พกั ใชง้ านหนา้ จอคอมพวิ เตอร์หรือมือถือทุก ๆ 20 นาที โดยอาจหลบั ตาสัก 20 วนิ าที หรือมองไกล ๆ สกั 20 ฟุต จะทาใหส้ บายตามากข้ึน 2. งดการใชค้ อนแทคเลนส์ตอ่ เนื่อง ควรมีการหยดุ พกั โดยใส่แวน่ สลบั กนั 3. ใชง้ านคอมพิวเตอร์หรือมือถือในที่ ๆ มีแสงสวา่ ง เพยี งพอ แผนกผ้ ปู ่ วยนอกจกั ษุ สถาบนั บาราศนราดรู
ดแู ลป้องกนั ตาแหง้ เบอ้ื งตน้ 4. เตือนตวั เองใหก้ ะพริบตาใหบ้ ่อย น้าตาจะไดเ้ คลือบ ตาอยเู่ ป็นระยะ ๆ 5. หากอยใู่ นที่ท่ีมีอากาศแหง้ ร้อน ลมแรง แนะนาให้ สวมแวน่ เพ่ือกนั แดดกนั ลม 6. กินอาหารใหค้ รบทุกหมู่และอาหารที่มีโอเมกา 3 (Omega 3 Fatty Acid) ซ่ึงมีคุณสมบตั ิตา้ นอนุมูลอิสระ อาจช่วย ลดการอกั เสบบรรเทาอาการตาแหง้ ได้ แผนกผ้ ปู ่ วยนอกจกั ษุ สถาบนั บาราศนราดรู
แผนกผ้ ปู ่ วยนอกจกั ษุ สถาบนั บาราศนราดรู
Search
Read the Text Version
- 1 - 13
Pages: