การกาหนดตาแหนง่ ผลิตภัณฑ์ (Market Positioning) 1. ความแตกต่างดา้ นผลติ ภัณฑ์ (Product Differentiation) เปน็ การ พจิ ารณาคุณลักษณะเดน่ ของตัวผลิตภัณฑท์ ่ีเหนอื กวา่ คู่แขง่ ขนั ดังนี้ - รูปแบบ - ราคา - คณุ สมบัติ - ความน่าเช่ือถือ - ความคงทน - คุณภาพ
การกาหนดตาแหนง่ ผลติ ภัณฑ์ (Market Positioning) 2. ความแตกตา่ งดา้ นบริการ (Service Differentiation) เนน้ ท่ีการ ให้บรกิ ารเหนอื กวา่ คูแ่ ขง่ ขนั ดังน้ี - ความรวดเรว็ - การบรกิ ารตดิ ต้งั - การรบั ประกนั - การฝึกอบรมหรอื ใหค้ าปรกึ ษาแกล่ กู ค้า - การบรกิ ารจดั สง่ สินคา้ - การบริการบารงุ รักษาและซ่อมแซม
การกาหนดตาแหนง่ ผลิตภณั ฑ์ (Market Positioning) 3. ความแตกตา่ งดา้ นบุคคล (Personnel Differentiation) โดย พจิ ารณาไดจ้ ากคณุ ลกั ษณะ ดงั น้ี - ความน่าเช่ือถอื - การดูแลเอาใจใสล่ ูกค้า - การตดิ ตอ่ สื่อสารกับลกู ค้า - ความรคู้ วามสามารถของบุคลากร - ประสบการณ์และความชานาญ - ความซอ่ื สัตยส์ ามารถไว้วางใจได้
การกาหนดตาแหน่งผลติ ภัณฑ์ (Market Positioning) 4. ความแตกต่างดา้ นภาพลกั ษณ์ (Image Differentiation) โดยพิจารณาได้จากคณุ ลกั ษณะ ดังนี้ - สญั ลกั ษณ์ - การจัดเหตุการณพ์ ิเศษ - สื่อ - บรรยากาศ - ที่มาของผลติ ภัณฑ์
กลยทุ ธก์ ารตลาดในการแขง่ ขัน (Competitive Marketing Strategies) 1. กลยุทธ์การแข่งขันทางการตลาดของผู้นา (Market Leader Strategies) บริษัทท่ีเป็นผู้นาตลาดจะมีส่วนครองตลาดมากที่สุดในตลาด ผลิตภัณฑ์นั้นๆ วัตถุประสงค์ทางการตลาดของผู้นา คือ รักษาความเป็น ผู้นานนั้ ไว้
กลยทุ ธ์การแข่งขันทางการตลาดของผนู้ า โดยกลยทุ ธ์ท่ีผนู้ าใช้มดี งั น้ี 1.1 การขยายตลาดรวม (Expanding the Total Market) เปน็ วธิ กี ารหาผใู้ ชใ้ หม่ หรือผู้บรโิ ภคกลมุ่ เปา้ หมายให้มีอัตราการใช้เพ่ิมขนึ้
กลยุทธ์การแข่งขนั ทางการตลาดของผนู้ า 1.2 การป้องกันส่วนครองตลาด (Protecting Market Share) พยายามรักษาส่วนครองตลาดของตนเองไว้มิให้คู่แข่งเข้ามาแย่งส่วนครอง ตลาด
กลยทุ ธ์การแข่งขนั ทางการตลาดของผนู้ า โดยกลยทุ ธ์การป้องกันมีดังนี้ - การป้องกันโดยตัง้ ปอ้ มรับ โดยการขยายสายผลติ ภณั ฑ์ ทาใหม้ ี ผลติ ภัณฑท์ ห่ี ลากหลาย
กลยุทธ์การแข่งขันทางการตลาดของผ้นู า - การปอ้ งกนั ด้านข้าง เปน็ วธิ ีที่ ผู้นาตอ้ งขจดั จุดออ่ นในดา้ นตา่ งๆออก เพื่อมใิ หผ้ ลติ ภัณฑอ์ ื่นเข้ามาเป็นคู่แข่งได้ มีการส่งเสริมการขายนอ้ ยกว่าค่แู ขง่ ขนั แต่ บรษิ ัทเน้นคณุ ภาพและการสรา้ งภาพลักษณ์ โดยเป็นผู้นาตลาดชาพร้อมดม่ื ด้วยการรักษา แชมป์อนั ดับ 1 แบรนด์ครองความน่าเช่ือถือ จากผลสารวจ BrandAge Thailand’s Most Admired Brand 2019 ในหมวด ชาพร้อมดม่ื ตดิ ตอ่ กนั เปน็ ปีที่ 8
กลยุทธก์ ารแข่งขนั ทางการตลาดของผูน้ า - การป้องกันด้านหน้า เป็นวิธีการวางแผนไว้ล่วงหน้า โดยสร้าง ความเข้มแข็งหรือจุดแข็งทางการตลาด ไม่ให้คู่แข่งขันเข้ามาแย่งชิงลูกค้า ได้
กลยทุ ธ์การแขง่ ขนั ทางการตลาดของผนู้ า - การป้องกันโดยการโต้ตอบ เป็นวิธีที่ผู้นาใช้กลยุทธ์หรือเคร่ืองมือ ทางการตลาด เพ่อื ต่อสู้กบั ค่แู ขง่ ขนั อย่างเตม็ ที่
กลยทุ ธก์ ารแข่งขนั ทางการตลาดของผู้นา - การป้องกันแบบเคล่ือนท่ี เป็นวิธีที่ผู้นามีการเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ หรอื เปิดธรุ กจิ ใหม่ โดยการขยายตลาดสตู่ ลาดใหม่ด้วย
กลยุทธ์การแข่งขนั ทางการตลาดของผนู้ า - การป้องกันแบบถอยมีเชิง เป็นวิธีท่ีผู้นามีสินค้าหลายชนิด และ สินคา้ บางชนดิ มยี อดขายต่า เมอื่ มคี ู่แข่งขันเข้ามาในตลาด ผู้นาอาจจะต้อง ตัดสนิ คา้ ชนิดน้นั ออกไป
กลยุทธ์การแขง่ ขนั ทางการตลาดของผนู้ า 1.3 การขยายส่วนครองตลาด (Expanding Market Share) ผู้นา ทางการตลาดจะไม่หยุดอยู่ในอัตราส่วนครองตลาดท่ีคงที่ แต่จะต้อง พยายามขยายสว่ นครองตลาดใหเ้ พ่มิ ขน้ึ
กลยทุ ธก์ ารตลาดในการแขง่ ขนั (Competitive Marketing Strategies) 2. กลยุทธ์การแข่งขันทางการตลาดของผู้ท้าชิง (Market Challenger Strategies) เป็นกลยุทธ์ของธุรกจิ ที่นาผลิตภณั ฑเ์ ข้าสู่ตลาด โดยเป็นรองผู้นา และต้องการเพม่ิ ส่วนแบ่งทางการตลาดให้มากขึ้น
กลยุทธ์การแขง่ ขันทางการตลาดของผู้ท้าชิง โดยกลยุทธด์ งั นี้ 2.1 การโจมตีโดยตรง (Frontal Attack) เป็นการใช้เครื่องมอื หรือ สว่ นประสมทางการตลาด เพอ่ื เผชญิ หน้ากับผูน้ าตลาด โดยอาจใช้กจิ กรรม การส่งเสริมการตลาด การทุ่มโฆษณา ใช้กลยทุ ธ์การลดราคา
กลยุทธ์การแขง่ ขันทางการตลาดของผู้ทา้ ชงิ 2.2 การโจมตีทางอ้อม (Flanking Attack) เป็นการใช้จุดเด่นหรือจุด แขง็ นาไปแขง่ ขันหรอื โจมตีจดุ อ่อนของผนู้ า
กลยุทธก์ ารแข่งขนั ทางการตลาดของผทู้ ้าชิง 2.3 การโจมตีโอบล้อม (Encirclement Attack) เป็นการใช้ความ หลากหลายของผลิตภัณฑ์ เพ่ือเข้าสู่ตลาดเป้าหมายท่ีมคี วามต้องการแบบ ทแ่ี ตกตา่ งกัน
กลยทุ ธก์ ารตลาดในการแขง่ ขัน (Competitive Marketing Strategies) 3. กลยุทธ์การแข่งขันทางการตลาดของผู้ตาม (Market Follower Strategies) เป็นกลยุทธ์ของผู้ตามท่ีเข้าสู่ตลาดในฐานะที่เป็นรองทั้งผู้นา และผู้ท้าชิง ซ่ึงผู้ตามต้องพยายามเพิ่มส่วนแบ่งตลาดและรักษาส่วนครอง ตลาดน้นั ไว้
กลยทุ ธ์การแขง่ ขนั ทางการตลาดของผตู้ าม โดยกลยทุ ธ์ดังน้ี 3.1 การตามอย่างใกล้ชิด เป็นการใช้ส่วนประสมทางการตลาดท่ี ใกลเ้ คียงกบั ค่แู ขง่ ทั้งผนู้ าและผ้ทู ้าชงิ
กลยุทธก์ ารแขง่ ขนั ทางการตลาดของผตู้ าม 3.2 การตามอย่างห่าง เป็นการเข้าสู่ตลาดโดยตามผู้นาและผู้ท้าชิง แตย่ ังคงรักษาความแตกตา่ งไว้
กลยทุ ธ์การแขง่ ขันทางการตลาดของผตู้ าม 3.3 การเลือกตาม เป็นการเข้าสู่ตลาดโดยผู้ตามจะเลือกตามผู้นาท่ี เป็นธุรกิจที่ตนเองมีความชานาญ โดยจัดส่วนประสมทางการตลาดตามที่ ตอนเองถนดั และใหม้ คี วามแตกตา่ งจากผูน้ า
กลยุทธก์ ารตลาดในการแขง่ ขนั (Competitive Marketing Strategies) 4. กลยุทธ์การแข่งขันทางการตลาดของผู้เจาะตลาด (Market Nicher Strategies) เป็นกลยทุ ธข์ องธุรกิจรายยอ่ ย คน้ หาตลาดเล็กๆ แล้ว ใช้ความชานาญเฉพาะด้าน เพื่อเข้าถือครองตลาดโดยเลือกใช้กลยุทธ์ให้ เหมาะสมกับสถานการณ์และการวางตาแหน่งผลติ ภัณฑท์ ีเ่ หมาะสม
กลยุทธก์ ารแข่งขันทางการตลาดของผเู้ จาะตลาด จุดเด่นของลปิ ตัน •เป็นชาทเ่ี ป็นทน่ี ยิ มสูงสดุ ย่หี อ้ หน่งึ ขอโลก •เปน็ ผ้นู าทางการตลาดในกลมุ่ สินค้าประเภทชา โดยมีส่วนแบง่ การตลาด ท่วั โลกสงู กว่าค่แู ขง่ รายอื่น ๆ ถงึ 3 เทา่ •มจี าหน่ายในกว่า 110 ประเทศทวั่ โลก โดยเปน็ ตราสนิ คา้ ทเี่ ปน็ ท่นี ิยม อยา่ งมากในทวีปยโุ รป อเมรกิ าเหนอื ตะวนั ออกกลาง และเอเชยี รวมถงึ ประเทศไทย
กลยุทธ์การแข่งขนั ทางการตลาดของผู้เจาะตลาด ชาลปิ ตันเป็นเครอ่ื งด่มื ทใ่ี ห้มากกวา่ ความสดชนื่ -ลปิ ตันเปน็ ตราสินคา้ ตัวแทนของผลติ ภณั ฑช์ าคุณภาพ -ทาให้ร่างกายและจิตใจมคี วามสดชน่ื กระปร้ีกระเปร่า -ชว่ ยป้องกันโรคต่าง เช่น โรคมะเรง็ โรคหัวใจ และความดนั โลหิตสงู -ชว่ ยบรรเทาความเหนอื่ ยลา้ และความเครยี ดต่าง ๆ ในแต่ละวัน -ทาจากใบชาแท้จากธรรมชาติ 100% -ออกแบบถุงชาเป็นรูปแบบเฉพาะพิเศษ ที่ทาให้น้าร้อนผ่านสู่ใบชาได้ สะดวกเต็มที่ จงึ ให้กลน่ิ หอมกรนุ่ จากใบชาแท้ และรสชาตทิ ่เี ข้มขน้ -รับรองมาตรฐานโดยสตู รอินเตอร์แนลชน่ั นัล ทใ่ี หร้ สชาติเดียวกันทัว่ โลก
Search
