แบบฝกึ หดั หนว่ ยที่ 6นางสาวกรรณกิ าร์ ตันวาตะ เลขท่ี 2 ปวส.2 คอมพิวเตอร์ธรุ กิจหอ้ ง 1
1. โครงการ IEEE 802 เป็นโครงการเกี่ยวกบั อะไร และจดั ตงั้ ขึน้ เพอื่ จปุ ระสงค์ใด ในปี ค.ศ. 1985 ทางสถาบนั IEEE ได้รเิ ริม่ โครงการสาคัญโครงการหนงึ่ โดยตัง้ ช่ือโครงการนี้วา่ โครงการหมายเลข 802 หรอื Project 802 โดยโครงการดงั กลา่ วจัดต้งั ขน้ึ เพื่อต้องการให้ผลิตภณั ฑ์อุปกรณ์สอื่ สารท่ีมาจากแหลง่ ผูผ้ ลติ ต่าง ๆ สามารถสอื่ สารใหเ้ ป็นไปตามมาตรฐานเดยี วกนัแตโ่ ครงการนีม้ ไิ ดม้ วี ัตถุประสงคเ์ พื่อนามาใชท้ ดแทนมาตรฐาน OSI โมเดลทท่ี างหนว่ ยงาน ISO จดั ตง้ัข้ึนแต่อย่างใด เนอื่ งจากโครงการหมายเลข 802 มวี ตั ถปุ ระสงค์เพื่อกาหนดหน้าที่และรายละเอยี ดของชน้ั ส่ือสารฟสิ ิคัล ดาต้าลงิ ก์ และมีสว่ นขยายเพิม่ เติมบางสว่ นอีกเลก็ นอ้ ย ทีน่ ามาใชง้ านเพ่ือการเช่ือมต่อเครือขา่ ยท้องถ่นิ เปน็ หลกั สาคญั2. จงสรุปการทางานของชน้ั สือ่ สารยอ่ ย LLC และ MAC มาพอเข้าใจ ลาดับช้นั ย่อย LLCเป็นลาดับชน้ั ที่จดั การส่ือสารระหว่างอปุ กรณบ์ นลิงกข์ องเครอื ขา่ ย โดยLLC นจ้ี ะถกู กาหนดขนึ้ โดย IEEE 802.2 ซง่ึ สนบั สนุนการเชื่อมตอ่ ในรปู แบบทง้ั คอนเน็กชันเลส และคอนเนก็ ชนั โอเรยี นเตด็ เพือ่ บริการใหก้ ับโปรโตคอลในลาดบั สงู ตอ่ ไป ลาดับช้นั ยอ่ ย MACเป็นลาดบั ชัน้ ยอ่ ยที่จดั การเก่ียวกับการเข้าถึงตัวกลางเพอ่ื การสอ่ื สารบนเครือขา่ ยโดยรายละเอยี ดของ LLC และ MAC
3. MAC Address กับการ์ดเครือข่ายมีความสัมพนั ธ์กันอย่างไร การ์ดเครือข่ายมีลักษณะเป็นแผงวงจร ที่เสียบเข้ากับ สล็อตภายในเคร่ืองคอมพิวเตอร์ และถือเป็นส่วนสาคัญในการส่งแพ็กเก็ตจริงๆ ผ่านส่ือกลาง ซ่ึงเครือข่ายท้องถิ่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอีเทอร์เน็ต โทเค็นริง หรือ FDDI จาเป็นต้องใช้การ์ดเครือข่ายทั้งสิ้น โดยการ์ดเครอื ข่ายจะมหี มายเลยแมคแอดเดรสทีใ่ ช้อ้างองิ ตาแหน่งที่อยู่เพื่อรับสง่ ข้อมลู บนเครือข่ายโดยชุดหมายเลขแมคแอดเดรสน้ีจะถูกบรรจไุ ว้ในหน่วยความจารอมบนการเครือข่ายท่ีถูกบรรจุพรอ้ มเสรจ็ มาจากโรงงาน และเมือ่ เริ่มตน้ ทางาน ชดุ หมายเลขแมคแอดเดรสน้ีก็จะถูกคัดลอกไว้ในหนว่ ยความจาหลัก เพอ่ื นาไปใช้อ้างองิ ต่อไป4. จงบอกความแตกตา่ งระหวา่ ง MAC Address กบั IP Address IP Address ย่อมาจากคาเต็มว่า Internet Protocal Address คอื หมายเลขประจาเคร่ืองคอมพวิ เตอรแ์ ต่ละเครือ่ งในระบบเครือขา่ ยทใี่ ชโ้ ปรโตคอลแบบ TCP/IP MAC Address คือ ชุดเลขฐาน 16 จานวน 12 ตัว ซึ่งเป็นตัวเลขที่จะไม่มีเปล่ียนแปลงจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพก็เหมือนกับเลขบัตรประชาชน คนไทยหน่ึงคนจะมีเลขบัตรประชาชนท่ีเป็นของตัวเองต้ังแต่เกิดมา เหมือนกัน MAC Address ก็จะมีอยู่ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ท่ีเชอื่ มต่ออินเตอร์เน็ตได้ ซึ่งจะไม่ซ้ากันโดยเลข MAC Address นั้นทางโรงงานผู้ผลิตอุปกรณน์ ้นั ๆจะเป็นคนตั้งค่ามาอยูแ่ ล้วและ MAC Address ไมส่ ามารถเปล่ยี นแปลงได้
ที่อยู่ IP และที่อยู่ MAC จะตอบสนองวัตถุประสงค์ของการมอบรหัสเฉพาะในเครือข่ายให้กับโฮสต์ แต่ข้ึนอยู่กับสถานะและฟังก์ชันทั้งสองมีความแตกต่างกัน เม่ือทางานเลเยอร์ของแอดเดรสถูกเรียกใช้ในขณะที่ฟังก์ชัน MAC Address ใน Data Link Layer,IP แอดเดรสจะทางานใน Network Layer ท่ีอยู่ MAC จะระบุเอกลักษณ์เฉพาะของส่วนติดต่อกับฮาร์ดแวร์ของเครือข่ายในขณะท่ี IP Address จะระบุเฉพาะส่วนติดต่อซอฟต์แวร์ของเครือข่าย นอกจากน้ีหากพิจารณาการกาหนดที่อยู่ท่ีอยู่ MAC จะได้รับการกาหนดให้กับอะแดปเตอร์อย่างถาวรและไม่สามารถเปล่ยี นแปลงไดเ้ นือ่ งจากเปน็ ที่อยู่ทางกายภาพ ในทางตรงกนั ข้ามท่ีอยู่ IP ท้งั แบบคงทห่ี รือแบบไ ด นา มิ ก ส า ม า ร ถแ ก้ ไ ข ไ ด้ ข้ึ นอ ยู่ กั บ ข้ อ ก า ห นด เ น่ือ ง จ า ก เป็ น เอ น ทิ ตี ห รื อ ที่ อ ยู่ท า ง ต ร ร ก ะนอกจากนีท้ อ่ี ยู่ MAC มีประโยชน์เมื่อพดู ถงึ Local Area Networks ถา้ รปู แบบน้ถี ือวา่ อยู่ IP จะใช้ทอี่ ยู่ยาว 32 หรือ 128 บติ ในขณะที่ที่อยู่ MAC ใชท้ ่อี ยู่ยาว 48 บิต ในมุมมองแบบง่ายท่ีอยู่ IP สามารถได้รับการพิจารณาเพ่ือสนับสนุนการใช้งานซอฟต์แวร์และทีอ่ ยู่ MAC ถือได้ว่าเป็นการสนับสนุนการใช้งานฮาร์ดแวรข์ องเครอื ขา่ ย แม้จะมีความแตกต่างกันก็ตามเครือข่ายไอพียังมีการทาแผนที่ระหว่างที่อยู่ MACและทอ่ี ยู่ IP ของอุปกรณ์เรยี กวา่ ARP หรอื Address Resolution Protocol
5. อเี ทอรเ์ นต็ และ IEEE 802.3 มคี วามสมั พนั ธก์ นั อยา่ งไร จงอธบิ ายปัจจุบันมาตรฐาน IEEE 802.3 ได้เข้ามาแทนทม่ี าตรฐานดงั้ เดมิ ของอเี ทอร์เนต็ อย่างสมบรู ณแ์ ลว้กล่าวคือ คาว่าอีเทอร์เน็ตจะอ้างอิงถึงเครือข่ายที่ต้ังอยู่บนพื้นฐานของมาตรฐาน IEEE 802.3แต่ในบางคร้ังอาจกล่าวได้ว่า IEEE 802.3 และอีเทอร์เน็ตมิใชส่ ิ่งเดียวกัน ซึ่งในเชิงเทคนิคแล้วคาตอบนีถ้ อื วา่ ไม่ผิดแต่อย่างใด โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมาอีเทอร์เน็ตเป็นมาตรฐานดั้งเดิมของบรษิ ทั ซรี ็อก แตใ่ นช่วงราวปี ค.ศ. 1985 ทาง IEEE กไ็ ด้เริม่ พัฒนาโครงการ 802 ข้นึ มา และได้มีการประกาศนามาตรฐาน 802.3 ออกมาใชซ้ ่ึงมาตรฐาน IEEE 802.3 น้ันมีข้องแตกต่างเพียงเล็กน้อยในด้านรายละเอียดเมื่อเทียบกับมาตรฐาน อีเทอร์เน็ตเดิมจากบริษัทซีร็อกซ์ ดังน้ันปัจจุบันจงึ มักมีการใช้คาว่าอีเทอร์เน็ตและ IEEE 802.3 ร่วมกัน ซึ่งหมายถึงเป็นคาท่ีสามารถใช้แทนความหมายเดยี วกันได้ กล่าวคอื อีเทอร์เน็ตจะอ้างถงึ มาตรฐานของ IEEE 802.36. จงสรปุ มาตรฐานการเชื่อมต่อเครอื ขา่ ยแบบ Fast Ethemet มาพอเขา้ ใจ ฟาสต์อีเทอร์เน็ตหรืออีเทอร์เน็ตความเร็วสูง จัดเป็นเวอร์ชั่นหน่ึงของอีเทอร์เน็ตท่ีมีความเร็ว100Mbpsโดยยังคงรูปแบบเฟรมข้อมูลเดิม รวมทั้งวิธีเข้าถึงส่ือกลางแบบเดิม ฟาสต์อีเทอร์เน็ตจัดอยู่ในมาตรฐาน IEEE 802.3u โดยเป็นอีเทอร์เน็ตแลนที่มีความเร็วสูงกว่าอีเทอร์เน็ตแบบเดิม 10 Mbps ถึง 10 เท่า ฟาสต์อีเทอร์เน็ตสามารถนามาประยุกต์ใชก้ ับงานด้านกราฟิกดีไซน์ อิมเมจโปรเซสซิง และระบบวิดีโอ เนื่องจากมีความเร็วในการส่งข้อมูลท่ีสูงกวา่ เดิมถึง 10เทา่ และถอื เปน็ ความโชคดขี องอเี ทอร์เนต็ ที่สามารถออกแบบให้มคี วามเรว็ สงู ขน้ึโดยไม่ยากด้วยการลดขนาดของ Collision Domain ลงซ่ึงโดยปกติข้อกาหนด CollisionDomain ของอีเทอร์เนต็ แลนแบบด้งั เดมิ ไดจ้ ากดั ไว้บนระยะทางที่ 2500 เมตร
7. จงสรปุ มาตรฐานการเชื่อมตอ่ เครอื ข่ายแบบ Gigabit Ethemet มาพอเข้าใจ Gigabit Ethernet (IEEE802.3z)เป็นมาตรฐานใหม่ของเทคโนโลยเี ครือข่ายท้องถิ่น(LAN-Local Area-Network) ท่ีพัฒนามาจาก เครือข่ายแบบ Ethernet แบบเก่าทมี่ ีความเร็ว10 Mbps ให้สามารถรับส่งข้อมูลได้ที่ระดับความเร็ว 1 Gbps ท้ังน้ีเทคโนโลยนี ี้ ยงั คงใช้กลไกCSMS/CD ในการร่วมใช้ส่ือเหมือนEthernet แบบเก่า หากแต่มีการพัฒนาและดัดแปลงให้สามารถรองรบั ความเร็วในระดบั 1 Gbps ได้ Gigabit Ethernet เป็นส่วนเพ่ิมขยายจาก 10 Mbps และ 100 Mbps Ethernet(มาตราฐาน IEEE 802.3 และ IEEE802.3u ตามลาดับ) โดยที่มันยังคงความเข้ากันได้กับมาตราฐานแบบเก่าอยา่ ง100% Gigabit Ethernet ยงั สนับสนุนการทางานใน mode full-duplex โดยจะเป็นการทางานในการเชื่อมต่อระหว่าง Switch กับ Switch และระหว่างSwitch กับ End Station ส่วนการเชื่อมต่อผ่าน Repeater, Hub ซ่ึงจะเป็นลักษณะของShared-media (ซ่ึงใชก้ ลไก CSMA/CD) Gigabit Ethernet จะทางานใน mode Half-duplex ซง่ึ สามารถจะใช้สายสญั ญาณไดท้ ั้งสายทองแดงและเสน้ ใยแก้วนาแสง
8. จงสรปุ มาตรฐานการเชอื่ มต่อเครอื ข่ายแบบ 10Gigabit Ethemet มาพอเข้าใจ กิกะบิตอีเทอร์เน็ต เป็นไปตามมาตรฐานเครือข่าย 802.3ae ท่ีรองรับความเร็วสูงสุดท่ี 10 Gbps ได้พัฒนาและประกาศใช้อย่างสมบรู ณ์เม่ือเดือนมิถุนายน ปี ค.ศ.2002โดยสว่ นใหญ่ยังคงไม่มีการเปล่ียนแปลงในรายละเอียด แต่จะทางานในลักษณะฟูลดูเพล็กซ์บนเทคโนโลยีสายไฟเบอร์ออฟตกิ เทา่ น้นั และไม่ต้องการใช้โปรโตคอล CSMA/CD อีกต่อไปนอกจากนี้ 10 กิกะบิตอีเทอร์เน็ต ไม่ได้ออกแบบเพ่ือใช้งานบนเครือข่ายแลนเท่าน้ัน แต่สามารถขยายเพ่ือใช้งานบนเครือข่ายแมน และเครือข่ายแวน ดังนั้นจะพบว่าการเชื่อมต่อเครือข่าย 10 กิกะบิตอีเทอร์เน็ต ทาให้เราสามารถเช่ือมต่อเครือข่ายความเร็วสูงบนระยะทางไกลมากขน้ึ ได้ และยงั คงสามารถเชอ่ื มต่อเขา้ กบั เครือข่ายอีเทอร์เน็ตแบบเดิมได้9. จงสรุปเครือข่ายแบบโทเค็นบัสมีลักษณะทางกายภาพเป็นแบบไหนและการเข้าถึงขอ้ มลู เป็นแบบใด โทเคนบัสมีการต่อเช่ือมแบบเป็นเส้นตรง สถานีต่างๆ เช่ือมต่อเข้าที่จุดใดๆแต่ในทางตรรกะ สถานีจะถูกจัดกลุ่มในลักษณะวง แต่ละสถานีจะทราบหมายเลขท่ีอยู่ของสถานีท่ีอย่ทู างด้ายซ้ายและด้านขวา ของตนเองตลอดเวลา เมื่อเร่ิมต้นการทางานสถานีท่ีมีหมายเลขสงู สุดของวงนน้ั ๆ สามารถสง่ เฟรมข้อมูลออกมาได้เป็นลาดับแรก หลังจากนั้นก็จะสง่ เฟรม โทเคน ไปยงั สถานีขา้ งเคียงของตนเอง
Token Bus เป็นระบบเครือข่ายที่ เปิดโอกาสให้สถานีต่างๆ ผลัดเปล่ียนหมุนเวียนกันส่งเฟรมข้อมูลของตนเองโดยสามารถคานวณระยะเวลาการรอคอยสูงสุดได้ล่วงหน้า ถ้าสมมุติให้มีสถานีจานวน A แห่งอยู่ในระบบ แต่ละสถานีใช้เวลาในการส่งเฟรมข้อมูลคร้ังละ Sวินาที เวลาสูงสุดที่แต่ละสถานีจะต้องรอคอย คือ A x S วินาที ผู้ที่อยูใ่ นวงการคอมพิวเตอร์สาหรับโรงงานจึงชอบแนวความคิดของระบบเครือข่ายแบบวงแหวน แต่ก็ไม่ชอบลักษณะการเชื่อมต่อทางกายภาพเพราะการเสียหายของเคเบิลที่จุดใดก็ตามจะทาให้ระบบทั้งระบบใช้การไม่ได้ ยิ่งกว่านั้นการเดินสายเคเบิลแบบวงแหวนก็ไม่เหมาะกับลักษณะสายการผลิตภายในโรงงาน ผลท่ีได้รับคือ การพัฒนามาตรฐานใหม่เรียกว่า IEEE 802.4 (ไอ อี อี อี 802.4) ท่ีนาจุดเด่นของระบบ IEEE 802.3 (ไอ อี อี อี 802.3)มารวมเข้ากับความสามารถในการคานวณระยะเวลาการรอคอยสูงสุดไดล้ ว่ งหน้าของระบบวงแหวน10. จงสรุปเครือข่ายแบบโทเค็นริงลักษณะทางกายภาพเป็นแบบไหนและการเข้าถึงข้อมูลเป็นแบบใด เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่บริษัทไอบีเอ็มได้พัฒนาข้ึนโดยการเชื่อมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์ท้ังหมดใช้รูปแบบวงแหวน โดยด้านหนึ่งเป็นตัวรับสัญญาณ และอีกด้านหน่ึงเป็นตัวสง่ สญั ญาณการเชือ่ มตอ่ แบบน้ที าให้คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องสามารถสง่ ข้อมลู ถึงกันได้ โดยผ่านไปในเส้นทางวงแหวนนั้น การส่งผ่านข้อมูลจะเวียนไปในทิศทางเดียวกัน การติดต่อส่ือสารระหว่างกันนี้จะมกี ารจัดลาดบั ให้ผลดั กนั ส่งเพือ่ ว่าการรับสง่ ข้อมลู จะไดไ้ มส่ ับสนและมีรูปแบบที่ชัดเจน เครือขา่ ยโทเคน็ รงิ ทีใ่ ช้กันอยใู่ นขณะนี้มีความเรว็ ความเร็วในการรับสง่ สญั ญาณ
16 ล้านบติ ตอ่ วินาทีข้อมูลจะไม่ชนกนั เพราะการรับสง่ มลี าดบั แนน่ อนขอ้ มูลที่รบั สง่ จะมลี กั ษณะเปน็ ชดุ ๆ แต่ละชุดมีการกาหนดตาแหน่งแนน่ อนว่ามาจากสถานใี ด จะส่งไปยังสถานีปลายทางท่ีใด ดังนั้นถ้าสถานีใดพบข้อมูลที่มีการระบุตาแหน่งปลายทางมาเป็นของตัวเอง ก็สามารถคัดลอกขอ้ มูลนัน้ เขา้ ไปได้และตอบรบั วา่ ไดร้ ับข้อมูลนั้นแลว้11. จงสรปุ หลกั การทางานของโทเคน็ เปน็ อย่างไร โทเค็น (Token) เป็นข้อมูลชุดหน่ึงที่ถูกส่งอยู่ในระบบเครือข่ายที่มี โทโปโลจี(Topology) แบบริง (Ring) ในโทโปโลจีแบบนี้ หากคอมพิวเตอร์เครื่องใดในเครือข่ายต้องการส่งข้อมูลจะเก็บเอา โทเคน ไว้แล้วส่งข้อมูลของตนเองออกมา เพราะฉะนั้น โทเคนเป็นเหมือนบัตรสิทธิ์ ใครมีโทเคนก็มีสิทธ์ิส่งข้อมูล ใครไม่มีโทเคนก็ไม่มีบัตรสิทธ์ิส่งข้อมูลไม่ได้ เพราะในเครือข่ายแบบรงิ จะมี โทเคน เพียงชุดเดียวเท่านั้น ทาให้คอมพิวเตอร์ท่ีอยใู่ นเครือข่ายลักษณะน้ี ส่งขอ้ มลู ได้ไมช่ นกนั
12. จงสรุปหลกั การทางานของเครอื ข่ายแบบ FDDI เปน็ อย่างไร คือ เครือข่ายความเร็วสูงรุ่นใหม่ Fiber Distributed Data Interface การเชือ่ มต่อจะมคี วามเร็วประมาณ 100-200 เมกะบติ ต่อวนิ าที เครอื ข่าย FDDI จะใชส้ ายใยแกว้ นาแสงโดยแปลงจาก โทโปโลยีแบบวงแหวน เพียงแต่มีวงแหวน 2 วง นิยมใช้สาหรับงานด้านท่ีต้องการเทคโนโลยสี งู เช่น วีดิทศั น์แบบดจิ ิทัล , กราฟกิ ความละเอยี ดสงู ข้อดี ความเร็วสูง มีเสถียรภาพ และความน่าเชอ่ื ถือสูง เนื่องจากมีวงแหวน 2 วง ถ้าวงใดวงหนง่ึ เสยี หาย การสือ่ สารยังสามารถดาเนนิ ต่อไปไดใ้ นวงแหวนที่เหลือข้อจากัด คา่ ใชจ้ ่ายสูง เน่ืองจากใชใ้ ยแก้วนาแสง
อุปกรณ์สาหรับเช่ือมต่อเครือข่ายประเภท LANการ์ด (lan) เครอ่ื งพีซีจะเชื่อตอ่ กันเป็นระบบ LAN ข้ึนมาน้ัน แต่ละเคร่ืองต้องติดตั้งการ์ด LANเคร่ืองรุ่นใหม่ๆอาจจะมีการ์ด LAN ฝังตัวอยู่ในบอร์ดให้แล้ว (Lan Onboard) หรือในโน๊ตบุ๊คใหม่ๆก็มักจะมีพอร์ต LAN มาให้แล้ว โดยส่วนใหญ่จะมีความเร็ว 1000หรือ100 เมกกะบิต(ถ้าเป็นรุ่นเก่าจะมีความเร็วเพียง 10 เมกกะบิตต่อวินาทีเท่านั้น) เรียกว่าเป็น Fast Ethernetและบางแบบก็อาจใช้ได้ทง้ั 2 ความเร็วโดยสามารถปรับแบบอัตโนมัติแล้วแต่จะไปเชอ่ื มต่อกับอุปกรณ์ Hub หรือ Switch แบบใดการ์ด LAN รุ่นใหม่จะมีคุณสมบัติ Plug&Play หรือ PnPมักเสียบเข้ากบั สลอ๊ ตแบบ PCI (การ์ดรนุ่ เกา่ จะใช้กับสลอ๊ ตแบบ ISA ซงึ่ ไมค่ ่อยพบแล้ว จึงไม่ขอกลา่ วถงึ ) โดยมชี ่องดา้ นหลังเครือ่ งให้เสียบสายได้
ฮบั (hub) เปน็ อุปกรณ์ทรี่ วมสญั ญาณทีม่ าจากอปุ กรณ์รับสง่หลายๆ สถานี เข้าดว้ ยกัน ฮบั เปรียบเสมือนเปน็ บัสท่ีรวมอยู่ทจ่ี ดุ เดียวกัน ฮบั ทใ่ี ช้งานอย่ภู ายใต้มาตรฐานการรับส่งแบบอเี ทอร์เนต็ หรือ IEEE802.3 ข้อมลู ทร่ี บั ส่งผ่านฮบั จากเคร่ืองหนึง่จะกระจายไปยงั ทุกสถานีทตี่ อ่ อยู่บนฮบั น้ัน ดงั น้นั ทกุ สถานีจะรับสัญญาณข้อมลู ที่กระจายมาไดท้ ัง้ หมดแตจ่ ะเลอื กคัดลอกเฉพาะขอ้ มูลที่สง่ มาถงึ ตนเทา่ น้ัน การตรวจสอบข้อมลูจงึ ต้องดทู ีแ่ อดเดรส(address) ท่ีกากบั มาในกลุ่มของข้อมลู หรอื แพ็กเกต็ สวติ ซ์ (switch) เปน็ อุปกรณร์ วมสญั ญาณทม่ี าจากอุปกรณ์ รับส่งหลายสถานีเช่นเดียวกับฮับ แต่มีข้อแตกต่างจากฮับ กล่าวคือ การรบั ส่งข้อมูลจากสถานี (อุปกรณ์) ตัวหน่ึง จะไม่กระจายไปยังทุก สถานี (อุปกรณ์) เหมือนฮับ ท้ังน้ีเพราะสวิตช์จะรับกลุ่มข้อมูล (แพ็กเก็ต) มาตรวจสอบก่อน แล้วดูว่ามา แอดเดรสของสถานี ปลายทางไปท่ีใด สวิตช์จะนาแพ็กเก็ตหรอื กลุ่มข้อมูลน้ันส่งต่อไปยังสถานี (อุปกรณ์) เป้าหมายให้อย่างอัตโนมัติ สวิตช์จะลดปัญหาการชนกันของข้อมูลเพราะไม่ต้องกระจายข้อมลู ไปทุกสถานี และยังมีขอ้ ดใี นเรือ่ งการปอ้ งกันการดกั จับข้อมูลทกี่ ระจายไปในเครือข่าย
เราเตอร์ (router) ในการเชื่อมโยงเครือข่ายหลายๆ เครือข่าย เขา้ ด้วยกัน หรอื เชื่อมโยงอปุ กรณ์หลายอยา่ งเข้าด้วยกัน ดังน้ัน จึงมีเส้นทางการเข้าออกของข้อมูลได้หลายเส้นทาง และแต่ละ เส้นทางอาจใช้เทคโนโลยีเครือข่ายท่ีต่างกัน อุปกรณ์จัด เส้นทางจะหาเส้นทางท่ีเหมาะสมให้การที่อุปกรณ์จัดหา เส้นทางเลือกเส้นทางได้ถูกต้องเพราะแต่ละสถานีภายในเครือข่ายมีแอดเดรสกากับ อุปกรณ์จัดเส้นทางต้องรับรู้ตาแหน่งและสามารถนาข้อมูลออกทางเส้นทางได้ถูกต้องตามตาแหน่งแอดเดรสท่ีกากับอยู่ในเส้นทางน้ัน รวมท้ังการจัดรูปแบบและนาเสนอขอ้ มูล โดยกาหนด สาย UTP (Unshield Twisted Pair) สายท่ีใช้กับ LAN เรียกว่าสาย UTP (Unshield Twisted Pair) ซ่ึงใชห้ ัวต่อแบบ RJ-45 ซ่ึงมที ัง้ หมด 8 ขา สายแบบนี้ท่ีเข้าหัวไว้แล้วจะหาซ้ือได้ รา้ นขายอปุ กรณ์คอมพิวเตอร์ท่ัวไป หรือจะซื้อแบบเป็นม้วนมา ตัดเข้าหัวเองก็ได้ แต่ต้องมีเคร่ืองมือหรือคีมเข้าหัว RJ-45 โดยเฉพาะ มีข้อจากัดคือ จะต้องยาวไม่เกิน 100 เมตร จาก เครอื่ งไปยัง Switch
Search
Read the Text Version
- 1 - 13
Pages: