หน่วยที่ 10

3. ครแู จกชดุ เรียบเรียงประโยคคําถามใหกับนกั เรยี น กลุมละ 1 แผน โดยใหน ักเรียนแตล ะกลมุ ชวยกนั เรียบเรียงคําใหเปน ประโยค4. นักเรียนแตล ะคนเรียบเรยี งคําใหเ ปน ประโยคจนครบทุก ประโยค เม่ือเรยี บเรียงคาํ เปน ประโยคเสร็จแลว ใหน กั เรยี น จบั คูกบั เพอื่ นชว ยกันตรวจสอบความถูกตอ ง แลว สรุป ประโยคท่เี รียบเรียงเปนผลงานของคูต นเอง (สมาชิกอีกคหู น่ึงซง่ึ อยใู นกลุมเดียวกันกป็ ฏิบตั ใิ นทํานอง เดียวกนั )5. นกั เรยี น 2 คู รวมกลมุ ตามเดมิ แลว แลกเปลีย่ นผลการ เรยี บเรียงประโยค และสรปุ เปน ผลงานของกลุมตนเอง6. ครูสมุ ตวั แทนนกั เรียน 2-3 กลุม นําเสนอผลการเรียบเรียง ประโยคท่หี นา ชน้ั เรียน ครูและเพื่อนนักเรียนรว มกัน ตรวจสอบความถูกตอ ง7. นกั เรยี นแตล ะกลุมรวมกันทาํ ใบงานท่ี 10.6 เรือ่ ง ประโยค คําถาม โดยใหสมาชกิ แตล ะคนในกลุม เรียบเรยี งคาํ ใหเปน ประโยคดวยตนเองจนครบทุกขอ จากน้ันจับคกู บั เพื่อนใน กลุมผลดั กันตรวจสอบการเรยี บเรียงคาํ ใหเ ปน ประโยค (สมาชิกอีกคูหน่งึ ซ่ึงอยูในกลมุ เดยี วกันกป็ ฏิบตั ใิ นทํานอง เดียวกัน)8. นักเรยี น 2 คู รวมกลมุ ตามเดิม จากนั้นผลัดกันอธิบายการ เรียบเรียงคาํ ใหเ ปนประโยคของคูตนเองใหเ พื่อนอีกคหู น่ึงฟง แลวรว มกนั สรปุ การเรียบเรยี งคาํ ใหเ ปน ประโยคทเ่ี ปนมติของ กลุม จากน้ันนําใบงานท่ี 10.6 สงครตู รวจ

ข

ข้นั สรปุ และนาํ เสนอผลการคนหาคาํ ตอบ 1. ครสู ุมเลขทน่ี ักเรยี น 2-3 คน รวมกนั สรปุ ความรูเร่ือง ลักษณะ ของประโยคคาํ ถาม 2. ครูตรวจสอบความถูกตอง จากน้ันสรุปใหนักเรียนฟง เพิ่มเติม เพอ่ื ใหน กั เรยี นมีความรแู ละความเขา ใจในลกั ษณะของ ประโยคคําถาม และเห็นความสาํ คัญของการเรียบเรยี ง ประโยคใหถ ูกตอง ซึ่งนําไปสูการส่ือสารไดเขาใจตรงกัน

เอกสารประกอบการสอน ชดุ เรียบเรียงประโยคคาํ ถาม ใคร ไฟ ใน หอ้ ง เปิด บน อะไร อยู่ โต๊ะ ของ โรงเรยี น อยู่ ทไ่ี หน เธอ ทาํ ไม กลบั บา้ น ไม่ เธอ ดา่ นน้ี อยา่ งไร เกม เล่น

ใบงานที่10.6 ประโยคคาํ ถามคาํ ชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเรยี บเรยี งคาํ ทก่ี ําหนดใหเ้ ป็นประโยคทถ่ี ูกตอ้ ง 1. แม่ ทาํ งาน ของ เธอ อะไร 2. เธอ โรงเรยี น ทาํ ไม มา สาย 3. หอ้ งเรยี น วงิ่ ใน เลน่ ใคร 4. อยา่ งไร เลข ขอ้ ทาํ น้ี 5. กระเป๋ า ใบ น้ี ทไ่ี หน ซอ้ื 6. ใคร ทง้ิ หน้าต่าง เปิด ไว้ 7. หนงั สอื อ่าน เรอ่ื ง เธอ อะไร 8. ทาํ ไม เรว็ กลบั บา้ น เธอ

ใบงานที่10.6 ประโยคคาํ ถามคาํ ชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเรยี บเรยี งคาํ ทก่ี ําหนดใหเ้ ป็นประโยคทถ่ี กู ตอ้ ง1. แม่ ทาํ งาน ของ เธอ อะไร แมข่ องเธอทาํ งานอะไร2. เธอ โรงเรยี น ทาํ ไม มา สาย ทาํ ไมเธอมาโรงเรยี นสาย3. หอ้ งเรยี น วงิ่ ใน เลน่ ใคร ใครวงิ่ เล่นในหอ้ งเรยี น4. อยา่ งไร เลข ขอ้ ทาํ น้ี เลขขอ้ น้ที าํ อย่างไร5. กระเป๋ า ใบ น้ี ทไ่ี หน ซอ้ื กระเป๋ าใบน้ีซ้อื ทไี่ หน6. ใคร ทง้ิ หน้าต่าง เปิด ไว้ ใครเปิดหน้าต่างท้งิ ไว้7. หนงั สอื อ่าน เรอ่ื ง เธอ อะไร เธออ่านหนงั สอื เรอื่ งอะไร8. ทาํ ไม เรว็ กลบั บา้ น เธอ ทาํ ไมเธอกลบั บา้ นเรว็

วช-ร 06 แบบบนั ทึกหลงั การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู ชื่อหนว ยการเรยี นรทู ี่ 10 เรอ่ื ง โลกแหงรกั แผนการเรียนรูที่ ………………… เร่ือง ……………………………………………………………….. รายวิชาภาษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปท ่ี 1 รหัสวิชา ท 11101ครผู สู อน นางสาวกลุ รศิ า สนธิคุณ ตาํ แหนง พนักงานราชการ เวลาทใ่ี ช ……………. ช่ัวโมง ************************* ผลการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู ขอคนพบระหวาง ปญหาท่ีพบ แนวทางแกไ ข ท่มี ีการจดั กจิ กรรมการเรยี นรูเน้อื หากิจกรรมการเรยี นรูสอ่ื ประกอบการเรียนรูพฤติกรรม/การมสี วนรว มของผูเรยี น ลงชื่อ …..........………….......................…….. ครผู ูจัดกจิ กรรมการเรยี นรู (นางสาวกลุ ริศา สนธคิ ณุ ) ตาํ แหนง พนักงานราชการ

แผนกา ชือ่ หนวยการเรียนร แผนการสอนที่ 7 รายวิชา ภาษาไทย ชน้ั ประถม ครูผูสอน นางสาวกุลรศิ า สนธคิ ณุ ตํา ตัวชีว้ ดั / ความรู ภาระงาน/ การวัดและประเมินผล ขผลการเรียนรู การเรียบเรียงคํา ชิน้ งาน 1) ตรวจใบงานท่ี 10.7 ขท 4.1 ใหเปนประโยค 1) ใบงานที่ 10.7 เรอ่ื ง ประโยคปฏเิ สธป.1/3 ปฏิเสธ จะตอ งมี เรื่อง ประโยคเรียบเรียงคาํ ความรูความ ปฏเิ สธเปน ประโยค เขา ใจในเร่ืองงา ยๆ ลกั ษณะของ ประโยค จงึ จะ สามารถสื่อสารได ถูกตอง

วช-ร 05 ารจัดการเรยี นรูรทู ี่ 10 เร่ือง โลกแหง รัก7 เรื่อง ประโยคปฏเิ สธ มศกึ ษาปท ่ี 1 รหสั วิชา ท 11101าแหนง พนกั งานราชการ เวลาท่ใี ช 3 ชว่ั โมง กิจกรรมการเรยี นรู สื่อ/แหลงเรยี นรูขน้ั ตง้ั คําถาม 1) หนังสอื เรียน1. ครูแจกกระดาษปริศนารอยเรียงคาํ ใหก บั นักเรยี น กลมุ ละ ภาษาไทย : หลกั1 แผน ภาษาและการใช2. ครูใหน ักเรยี นเรยี งประโยคจากคาํ ปริศนาในแตละขอให ภาษา ป.1ถูกตอง จากนั้นครแู จงใหน ักเรยี นทราบวา จะใหน ักเรียน 2) ใบงานท่ี 10.7ทกุ คนรว มกันเลนเกมปริศนารอยเรยี งคาํ เรอื่ ง ประโยค3. ครูอธบิ ายกติกาในการเลนเกมปรศิ นารอยเรยี งคํา ใหนักเรียน ปฏิเสธฟง เพื่อใหนักเรียนเขาใจและสามารถปฏิบัตไิ ดอยางถกู ตองขน้ั การดําเนนิ การคนหาคาํ ตอบและตรวจสอบคําถาม 1. นักเรียนรวมกันเลนเกมปรศิ นารอ ยเรียงคาํ ตามกติกา 2. ครูคอยสังเกตพฤติกรรมการเลนเกมของนักเรียนแตละกลุม 3. นักเรยี นตอบคาํ ถามกระตนุ ความคิด เกมปริศนารอยเรียงคํา นกั เรียนคดิ วา มีประโยชน หรอื ไม อยา งไร (พจิ ารณาตามคําตอบของนักเรยี น โดยใหอยใู น ดุลยพินิจของครผู สู อน)

ข

4. ครซู กั ถามนกั เรียนเก่ียวกับความรูท ่ไี ดร บั จากการเลน เกม ปริศนารอ ยเรียงคาํ จากนน้ั กลาวชมเชยและปรบมือ ใหก บั นักเรียนกลุมท่เี ลน เกมชนะเพอื่ เสริมกําลังใจ 5. นกั เรียนศึกษาความรูเร่ือง ประโยคปฏเิ สธ จากหนังสอื เรียน 6. ครูใหนักเรียนแตล ะคนทาํ ใบงานท่ี 10.7 เรอื่ ง ประโยค ปฏเิ สธ 7. นกั เรยี นตอบคําถามกระตนุ ความคิดข้ันสรุปและนําเสนอผลการคน หาคําตอบ 1. ครสู มุ นักเรียน 1 คน นาํ เสนอประโยคขอ 1 ในใบงานท่ี 10.7 หนาชั้นเรยี น จากน้นั ใหน กั เรียนเรียกเพ่ือนคนอ่ืนนาํ เสนอ ประโยคในขอ 2 (ใหน ักเรียนเรยี กเพื่อนคนตอไปเร่ือยๆ จนครบทกุ ขอ ) 2. ครูตรวจสอบและประเมนิ การนาํ เสนอของนักเรียน

เอกสารประกอบการสอน เกมปริศนาร้อยเรยี งคาํวิธีเล่น 1. ครแู จกกระดาษปรศิ นารอ้ ยเรยี งคาํ ใหน้ กั เรยี นกลุ่มละ 1 แผ่น 2. นกั เรยี นอ่านคาํ ปรศิ นาในกระดาษ แลว้ ช่วยกนั เรยี งใหเ้ ป็นประโยคปฏเิ สธ 3. ตวั แทนนกั เรยี นเขยี นประโยคทเ่ี รยี งไดล้ งในสมดุ เมอ่ื เวลาหมด ใหต้ วั แทนนกั เรยี นแต่ละกลมุ่ เขยี นบนกระดาน พรอ้ มกบั อ่านประโยคทเ่ี รยี งไดใ้ หถ้ กู ตอ้ ง 4. กลุม่ ใดทเ่ี รยี งประโยคไดถ้ กู ตอ้ ง และมากทส่ี ดุ จะเป็นผูช้ นะตวั อย่างปรศิ นารอ้ ยเรยี งคําขอ้ 1 ขา้ ว น้อง กนิ ไม่1. นกั เรยี นอ่านคาํ ปรศิ นา แลว้ ชว่ ยกนั เรยี งใหเ้ ป็นประโยคปฏเิ สธ2. ตวั แทนนกั เรยี น 1 คน เขยี นประโยคทเ่ี รยี งไดล้ งในสมุด เมอ่ื เวลาหมด ใหต้ วั แทนแต่ละกลุ เขยี นบนกระดาน ประโยคทเ่ี รยี งได้ คอื น้องไมก่ นิ ขา้ ว3. กลมุ่ ใดเรยี งประโยคไดถ้ ูกต้อง และมากทส่ี ุด จะเป็นผชู้ นะ

เอกสารประกอบการสอน ปริศนาร้อยเรียงคาํ1. ขา้ ว น้อง กนิ ไม่2. อยาก ไม่ หนงั ดู ฉนั ไป3. แม่ ซอ้ื ไม่ ราคา แพง ของ4. ฉนั กนิ ไม่ เยน็ ขา้ ว5. หน่อง ส่ง ไม่ ดงั เสยี ง6. เลย้ี ง นิด ไม่ สตั ว์7. กลบั พอ่ บา้ น ไม่ ได้

ใบงานที่10.7 ประโยคปฏิเสธคาํ ชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเรยี บเรยี งคาํ ทก่ี ําหนดใหเ้ ป็นประโยคทถ่ี ูกตอ้ ง1. อ่าน หนงั สอื ไม่ นกั เรยี น =2. ฉนั ถ่ายรปู ไม่ ชอบ =3. วนั น้ี แม่ ตลาด ไป ไม่ =4. น้อง ลกู อม กนิ ไม่ =5. ฝน การบา้ น ไม่ ทาํ ครู สง่ =6. เธอ กระโปรง ใส่ ไม่ ชอบ =7. กลบั บา้ น พอ่ ไม่ ยงั =8. ยา่ อาบน้ํา ยงั ไม่ ได้ =

ใบงานที่10.7 ประโยคปฏิเสธคาํ ชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเรยี บเรยี งคาํ ทก่ี ําหนดใหเ้ ป็นประโยคทถ่ี กู ตอ้ ง1. อ่าน หนงั สอื ไม่ นกั เรยี น = นกั เรยี นไมอ่ ่านหนงั สอื2. ฉนั ถ่ายรปู ไม่ ชอบ = ฉนั ไมช่ อบถ่ายรปู3. วนั น้ี แม่ ตลาด ไป ไม่ = วนั น้แี มไ่ มไ่ ปตลาด4. น้อง ลกู อม กนิ ไม่ = น้องไมก่ นิ ลกู อม5. ฝน การบา้ น ไม่ ทาํ ครู สง่ = ฝนไมท่ าํ การบา้ นสง่ ครู6. เธอ กระโปรง ใส่ ไม่ ชอบ = เธอไมช่ อบใสก่ ระโปรง7. กลบั บา้ น พ่อ ไม่ ยงั = พอ่ ยงั ไมก่ ลบั บา้ น8. ยา่ อาบน้ํา ยงั ไม่ ได้ = ยา่ ยงั ไมไ่ ดอ้ าบน้ํา

วช-ร 06 แบบบนั ทึกหลงั การจดั กจิ กรรมการเรียนรู ชอื่ หนวยการเรียนรทู ี่ 10 เรื่อง โลกแหง รกั แผนการเรยี นรูที่ ………………… เร่ือง ……………………………………………………………….. รายวิชาภาษาไทย ช้นั ประถมศกึ ษาปท่ี 1 รหสั วิชา ท 11101ครูผูส อน นางสาวกุลรศิ า สนธิคุณ ตําแหนง พนกั งานราชการ เวลาท่ใี ช ……………. ชว่ั โมง ************************* ผลการจดั กิจกรรมการเรยี นรู ขอ คน พบระหวา ง ปญหาท่ีพบ แนวทางแกไข ที่มกี ารจดั กิจกรรมการเรยี นรูเน้ือหากจิ กรรมการเรยี นรูสอื่ ประกอบการเรียนรูพฤติกรรม/การมสี ว นรว มของผูเ รยี น ลงชอ่ื …..........………….......................…….. ครผู ูจัดกิจกรรมการเรียนรู (นางสาวกลุ รศิ า สนธิคณุ ) ตาํ แหนง พนักงานราชการ

แผนกา ช่อื หนวยการเรยี นร แผนการสอนที่ 8 เ รายวิชา ภาษาไทย ช้ันประถม ครผู สู อน นางสาวกุลริศา สนธิคณุ ตํา ตวั ชีว้ ดั / ความรู ภาระงาน/ การวดั และประเมนิ ผล ขผลการเรยี นรู การจําแนกชนิด ชน้ิ งาน 1) ตรวจใบงานที่ 10.8 ขท 4.1 ของประโยคทั้ง 3 1) ใบงานที่ 10.8 เรือ่ ง ชนิดของประโยคป.1/3 ชนิด จะตอ งมี เรอื่ ง ชนดิ ของเรยี บเรียงคํา ความรูความ ประโยคเปนประโยค เขาใจในเรื่องงา ยๆ ลกั ษณะของ ประโยค จงึ จะ สามารถจําแนก ประโยค และ สื่อสารไดถูกตอง

วช-ร 05ารจดั การเรียนรูรูท่ี 10 เรือ่ ง โลกแหง รักเรอื่ ง ชนิดของประโยคมศกึ ษาปท ่ี 1 รหัสวิชา ท 11101าแหนง พนักงานราชการ เวลาที่ใช 3 ชว่ั โมง กิจกรรมการเรยี นรู ส่ือ/แหลงเรยี นรูขน้ั ต้ังคาํ ถาม 1) หนังสอื เรยี น1. ครขู ออาสาสมัครนกั เรยี น 2-3 คน ตอบคาํ ถามบนกระดาน ภาษาไทย : หลกัดังน้ี ภาษาและการใช- ประโยคที่มีเนื้อความยอมรบั เพราะประธานไมไดทํากรยิ า ภาษา ป.1ตามทป่ี รากฏ คอื ประโยคชนดิ ใด และมักจะมีคําใดปรากฏอยู 2) ใบงานที่ 10.8ในประโยค เรื่อง ชนิดของ- ประโยคคําถาม คืออะไร ประโยค- มีนารอยพวงมาลยั คือประโยคชนิดใด2. ครูตรวจสอบความถูกตอง จากนน้ั กลาวคาํ ชมเชยนกั เรยี นที่ตอบคําถามไดถูกตองเพื่อเสริมกําลังใจขั้นการดาํ เนนิ การคนหาคาํ ตอบและตรวจสอบคําถาม1. นกั เรียนตอบคําถามกระตุนความคดิ2. ครูกําหนดหวั ขอเร่อื งเพื่อใหน ักเรยี นแตละกลมุ (กลมุ เดิมจากแผนการจัดการเรยี นรทู ี่ 3) รว มกันศึกษาความรเู รอื่ งชนดิ ของประโยค จากหนงั สือเรยี น ตามทจ่ี ับสลากได ดังนี้ - สลากหมายเลข 1 ศึกษาเร่ือง ประโยคบอกเลา - สลากหมายเลข 2 ศึกษาเร่ือง ประโยคคําถาม

ข

- สลากหมายเลข 3 ศึกษาเรื่อง ประโยคปฏิเสธ 3. ครแู จกแถบประโยคใหก บั นักเรยี นตามสลากหมายเลข หมายเลขละ 1 ชุด (สลากแตละหมายเลขจะไดร ับแถบ ประโยคชดุ เดียวกัน) 4. ครใู หส ลากแตละหมายเลขเลือกแถบประโยคตามชนิดท่ี ศึกษา แลว เขียนลงในสมดุ 5. ครูและนักเรียนรว มกนั กําหนดความมุงหมายของการ ทาํ งาน และวิธีการทาํ งานในแตละกลมุ 6. นกั เรยี นแตล ะกลุม รวมกันวางแผนปฏบิ ตั งิ านตามที่ไดร บั มอบหมาย 7. ตวั แทนนกั เรียนแตละกลุมนาํ เสนอประโยคตามชนิดท่ี รวมกนั ศึกษาหนาชนั้ เรยี น โดยการอานออกเสยี ง ประโยคแลว ให นกั เรยี นแตล ะกลมุ รว มกันแสดงความ คิดเหน็ 8. นักเรยี นแตละคนทาํ ใบงานท่ี 10.8 เรือ่ ง ชนดิ ของ ประโยค เสรจ็ แลว นาํ สง ครูตรวจขนั้ สรปุ และนําเสนอผลการคน หาคําตอบ 1. ครปู ระเมนิ ผลการทาํ งานของนักเรยี น และใหคําแนะนํา ใน การพัฒนาปรบั ปรุงการทํางาน 2. ครูสรปุ ความรเู ร่ือง ประโยคทั้ง 3 ชนิด ใหน กั เรยี นฟง เพ่ือให นกั เรยี นมคี วามรแู ละความเขาใจในประโยคแต ละชนิดได อยา งถูกตอง

เอกสารประกอบการสอน เกมปริศนาร้อยเรยี งคาํวิธีเล่น 1. ครแู จกกระดาษปรศิ นารอ้ ยเรยี งคาํ ใหน้ กั เรยี นกลุ่มละ 1 แผ่น 2. นกั เรยี นอ่านคาํ ปรศิ นาในกระดาษ แลว้ ช่วยกนั เรยี งใหเ้ ป็นประโยคปฏเิ สธ 3. ตวั แทนนกั เรยี นเขยี นประโยคทเ่ี รยี งไดล้ งในสมดุ เมอ่ื เวลาหมด ใหต้ วั แทนนกั เรยี นแต่ละกลมุ่ เขยี นบนกระดาน พรอ้ มกบั อ่านประโยคทเ่ี รยี งไดใ้ หถ้ กู ตอ้ ง 4. กลุม่ ใดทเ่ี รยี งประโยคไดถ้ กู ตอ้ ง และมากทส่ี ดุ จะเป็นผูช้ นะตวั อย่างปรศิ นารอ้ ยเรยี งคําขอ้ 1 ขา้ ว น้อง กนิ ไม่1. นกั เรยี นอ่านคาํ ปรศิ นา แลว้ ชว่ ยกนั เรยี งใหเ้ ป็นประโยคปฏเิ สธ2. ตวั แทนนกั เรยี น 1 คน เขยี นประโยคทเ่ี รยี งไดล้ งในสมุด เมอ่ื เวลาหมด ใหต้ วั แทนแต่ละกลุ เขยี นบนกระดาน ประโยคทเ่ี รยี งได้ คอื น้องไมก่ นิ ขา้ ว3. กลมุ่ ใดเรยี งประโยคไดถ้ ูกต้อง และมากทส่ี ุด จะเป็นผชู้ นะ

แถบประโยค  ใครเปิ ดประตู พี่กินข้าวผดั น้อยไมพ่ ดู เสียงดงั ฉันเลีย้ งกระต่าย วนั นี้เธอไปเท่ียวท่ีไหน ทาํ ไมพ่อไม่ไปทาํ งาน ฉันทาํ การบา้ น แม่ไมก่ ินขนมหวานตอนดึก

นกซื้อปากกาสีแดง  เธอกินอะไรใครมาหาฉันที่หน้าบา้ น น้องไมก่ ินผกั แมไ่ ปซื้อของที่ไหนฉันไม่ฟังเพลงขณะทาํ งาน ทาํ ไมเธอชอบดลู ะคร หน่อยวาดภาพ

ใบงานที่10.8 ชนิดของประโยคคาํ ชี้แจง ใหน้ กั เรยี นจาํ แนกประโยคทก่ี าํ หนดลงในช่องว่างใหถ้ กู ตอ้ งกอ้ ยเลย้ี งนก ป้าทําขนม นดิ ไมพ่ ดู คําหยาบคาย ฉนั อ่านหนงั สอื การต์ ูนใครเปิดพดั ลมทง้ิ ไว้ ทาํ ไมเธอไม่ทาํ การบา้ น พ่อไมก่ นิ เหลา้บา้ นเธออยจู่ งั หวดั อะไร กางเกงตวั น้ซี อ้ื ทไ่ี หน กอ้ งไมค่ ุยกนั ขณะทค่ี รสู อน แมไ่ มต่ ลี กู พส่ี ะสมแสตมป์ ประโยคบอกเล่า1.2.3.4. ประโยคคาํ ถาม 1. 2. 3. 4. ประโยคปฏิเสธ 1. 2. 3. 4.

ใบงานที่10.8 ชนิดของประโยคคาํ ชี้แจง ใหน้ กั เรยี นจาํ แนกประโยคทก่ี ําหนดลงในช่องว่างใหถ้ ูกตอ้ งกอ้ ยเลย้ี งนก ป้าทําขนม นิดไมพ่ ดู คําหยาบคายใครเปิดพดั ลมทง้ิ ไว้ ทาํ ไมเธอไมท่ าํ การบา้ น ฉนั อ่านหนงั สอื การต์ ูนบา้ นเธออยจู่ งั หวดั อะไร กางเกงตวั น้ีซอ้ื ทไ่ี หน พอ่ ไมก่ นิ เหลา้ แมไ่ มต่ ลี กู พส่ี ะสมแสตมป์ กอ้ งไมค่ ุยกนั ขณะทค่ี รสู อน ประโยคบอกเล่า1. กอ้ ยเลย้ี งนก2. ป้าทําขนม3. ฉนั อ่านหนงั สอื การต์ ูน4. พสี่ ะสมแสตมป์ ประโยคคาํ ถาม 1. ใครเปิดพดั ลมท้งิ ไว้ 2. ทาํ ไมเธอไมท่ าํ การบา้ น 3. บา้ นเธออยจู่ งั หวดั อะไร 4. กางเกงตวั น้ีซอ้ื ทไี่ หน ประโยคปฏิเสธ 1. นดิ ไมพ่ ดู คําหยาบคาย 2. พอ่ ไมก่ นิ เหลา้ 3. แมไ่ มต่ ลี กู 4. กอ้ งไมค่ ยุ กนั ขณะทคี่ รสู อน

วช-ร 06 แบบบนั ทึกหลงั การจดั กจิ กรรมการเรียนรู ชอื่ หนวยการเรียนรทู ี่ 10 เรื่อง โลกแหง รกั แผนการเรยี นรูที่ ………………… เร่ือง ……………………………………………………………….. รายวิชาภาษาไทย ช้นั ประถมศกึ ษาปท่ี 1 รหสั วิชา ท 11101ครูผูส อน นางสาวกุลรศิ า สนธิคุณ ตําแหนง พนกั งานราชการ เวลาท่ใี ช ……………. ชว่ั โมง ************************* ผลการจดั กิจกรรมการเรยี นรู ขอ คน พบระหวา ง ปญหาท่ีพบ แนวทางแกไข ที่มกี ารจดั กิจกรรมการเรยี นรูเน้ือหากจิ กรรมการเรยี นรูสอื่ ประกอบการเรียนรูพฤติกรรม/การมสี ว นรว มของผูเ รยี น ลงชอ่ื …..........………….......................…….. ครผู ูจัดกิจกรรมการเรียนรู (นางสาวกลุ รศิ า สนธิคณุ ) ตาํ แหนง พนักงานราชการ

วช-ร 07 แบบบนั ทึกหลงั การจดั กิจกรรมการเรยี นรู ชือ่ หนวยการเรยี นรูที่ 10 เรื่อง โลกแหงรัก รายวิชาภาษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปท่ี 1 รหัสวชิ า ท 11101 ครผู สู อน นางสาวกุลริศา สนธิคุณ ตําแหนง พนักงานราชการ เวลาทใี่ ช 23 ชัว่ โมง *****************************@ เม่ือเสรจ็ สน้ิ กิจกรรมประเมนิ ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู ดงั นี้ (ใหท ําเครอ่ื งหมาย ตามผลการประเมิน)ที่ ประเด็นทปี่ ระเมนิ ผลการประเมนิ1 ความเหมาะสมของระยะเวลา2 ความเหมาะสมของเนอ้ื หา ดมี าก ดี พอใช ตอ งปรับปรงุ3 ความเหมาะสมของกิจกรรมการเรยี นรู4 ความเหมาะสมของสื่อประกอบการเรียนรูทใ่ี ช5 พฤตกิ รรม/การมีสวนรวมของนักเรียนการประเมินดานความรู : Knowledge @ ผลการประเมนิ จากการทดสอบความรูกอนและหลังเรียนการประเมนิ การประเมินผล ประเมนิ ผล โดยใช คะแนนเตม็ / คะแนนเฉลย่ี คิดเปนรอ ยละ ดานตา งๆ กอนเรยี น เกณฑการประเมินดา นความรู :Knowledge หลังเรียนดา นทักษะกระบวนการ: Process การประเมินดานคณุ ลักษณะทพี่ ึงประสงค : Attitude จํานวน ……………… คะแนนเต็ม (ตามที่ระบุในแผน) คุณลักษณะ ประเมนิ ผล โดยใช ดเี ยย่ี ม ผลการประเมนิ ผลการประเมินระดบั ดีขน้ึ ไป อนั พงึ ประสงค ดี ผา น ไมผา น ดานซอ่ื สตั ย สุจรติ จํานวน(คน) คดิ เปน รอยละ ดานมีวนิ ัย ดา นใฝเ รียนรูดา นมุง มั่นในการทํางาน

การประเมินสมรรถนะสําคญั ของผเู รียน จํานวน ……………… คะแนนเตม็ (ตามทร่ี ะบุในแผน)สมรรถนะสาํ คญั ประเมนิ ผล โดยใช ผลการประเมิน ผลการประเมินระดบั ดีขึ้นไป ดเี ยี่ยม ดี ผา น ปรับปรุง จํานวน(คน) คดิ เปน รอยละความสามารถในการสอื่ สารความสามารถในการคดิความสามารถในการแกป ญ หาความสามารถในการใชทกั ษะชีวติความสามารถในการใชเทคโนโลยีปญ หาอุปสรรค ทคี่ นพบระหวา งทมี่ กี ารจดั กจิ กรรมการเรยี นรู ดงั นี้ (สามารถนาํ ไปใชจ ัดทาํ วิจัยในชน้ั เรียน)ดานเนือ้ หา :...………………………………..……………………………………………………………………………………………………..……………...………………......………………………………………………..……………………………………………………………………………………ดานกจิ กรรมการเรยี นรู :...………………………………..……………………………………………………………………………………………………..……………...………………......………………………………………………..…………………………………………………………………………………… ดานสอ่ื ประกอบการเรยี นรู :...………………………………..……………………………………………………………………………………………………..……………...………………......………………………………………………..…………………………………………………………………………………… ดา นพฤติกรรม/การมสี วนรว มของนักเรียน :...………………………………..……………………………………………………………………………………………………..……………...………………......………………………………………………..……………………………………………………………………………………แนวทางแกไ ข จดั กิจกรรมเสรมิ ทกั ษะหรือซอมเสริมรายการ วธิ ีดาํ เนินกจิ กรรม ลงช่อื …..........………….......................…….. ครผู จู ดั กิจกรรมการเรียนรู (นางสาวกลุ รศิ า สนธิคณุ ) ตําแหนง พนกั งานราชการ