Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอนสาระ หน้าที่พลเมืองรวม

แผนการสอนสาระ หน้าที่พลเมืองรวม

Published by srimoun0871859891, 2018-09-20 03:56:30

Description: แผนการสอนสาระ หน้าที่พลเมืองรวม

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า สังคมศกึ ษาระดบั ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สงั คม รหสั ส 21101 สาระที่ 1 เรอื่ ง หนา ทพ่ี ลเมือง โดย ช่อื นายศรมี ูล นามสกุล สมบตุ ร ตาแหนง่ ครู ค.ศ. 2 โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่ สานกั บริหารงานการศึกษาพิเศษ สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ 13 พระพทุ ธศาสนา ม.1

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปี ท่ี 1 เวลา 3 ชว่ั โมงหนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 บทบาทและหนา้ ทขี่ องเยาวชนทมี่ ตี อ่ สงั คมและประเทศชาติเรอ่ื ง การเคารพสทิ ธขิ องตนเองและผอู้ นื่ สาระสาํ คญั / ความคดิ รวบยอดการอยรู่ ว่ มกันอยา่ งปกตสิ ขุ ในสงั คมประชาธปิ ไตยนัน้ สมาชกิ ทกุ คนจะตอ้ งเคารพสทิ ธขิ องตนเองและผอู ้ นื่ มจี ติ สาธารณะ ตวั ชวี้ ดั / จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ตวั ชวี้ ดั ส 2.1 ม.1/4 แสดงออกถงึ การเคารพสทิ ธขิ องตนเองและผอู ้ นื่จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้1. อธบิ ายสทิ ธขิ องบคุ คลตามกฎหมายได ้2. ปฏบิ ตั ติ นในการเคารพสทิ ธเิ สรภี าพของตนเองและผอู ้ นื่3. วเิ คราะหผ์ ลจากการเคารพในสทิ ธเิ สรภี าพของตนเองและผอู ้ น่ื ได ้ สาระการเรยี นรู้สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง1. วธิ ปี ฏบิ ตั ติ นในการเคารพสทิ ธเิ สรภี าพของตนเองและผอู ้ นื่2. ผลทไ่ี ดร้ ับจากการเคารพในสทิ ธเิ สรภี าพของตนเองและผอู ้ นื่ สมรรถนะสาํ คญั ของผเู้ รยี นความสามารถในการสอื่ สารความสามารถในการคดิ- ทักษะการคดิ วเิ คราะห์- ทกั ษะการคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ- กระบวนการปฏบิ ตั ิ- กระบวนการทํางานกลมุ่ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์1. มวี นิ ัย2. ใฝ่ เรยี นรู ้3. มงุ่ มนั่ ในการทํางาน กจิ กรรมการเรยี นรู้(วธิ สี อนโดยใชท้ ักษะกระบวนการเผชญิ สถานการณ)์นักเรยี นทําแบบทดสอบกอ่ นเรยี น ประจําหน่วยการเรยี นรทู ้ ่ี 1

ชว่ั โมงที่ 11. ครนู ําขา่ วตอ่ ไปนใ้ี หน้ ักเรยี นชว่ ยกนั วเิ คราะหว์ า่ เหมาะสมหรอื ไม่ เพราะอะไร 1) ประชาชนรวมกลมุ่ กนั จํานวนมากปิดถนนเพอ่ื ประทว้ งการบรหิ ารงานของรฐั บาล 2) หนังสอื พมิ พล์ งขา่ วดาราสาวคาวโลกยี ์ 3) วยั รนุ่ นยิ มใชโ้ ทรศพั ทม์ อื ถอื ถา่ ยภาพผหู ้ ญงิ กา้ วขน้ึ สะพานลอย 4) ส.ส. คนดงั กลา่ วขอโทษเพอ่ื น ส.ส. ทตี่ นนําเรอื่ งความลบั ภายในครอบครวั ของเพอื่ นมาพดู ในทส่ี าธารณะ 5) นักขา่ วกลมุ่ หนง่ึ ขออนุญาตเจา้ ของรสี อรต์ ตะวนั ฉาย เพอื่ บนั ทกึ ภาพการจัดและตกแตง่ สวน แลว้ นําไปพมิ พเ์ ผยแพรต่ อ่ ประชาชนท่วั ไป2. นักเรยี นแตล่ ะคนจะแสดงความคดิ เห็นพรอ้ มอธบิ ายเหตผุ ลแตกตา่ งกนั ไป ซงึ่ สรปุ ไดว้ า่ การกระทําของบคุ คลในขา่ วที่ 1) –4) เป็ นการกระทําทไี่ มเ่ หมาะสม กลา่ วคอื เป็ นการแสดงถงึ การไมเ่ คารพสทิ ธเิ สรภี าพของผอู ้ นื่ เป็ นการกระทําใหผ้ อู ้ นื่ เสยี หายหรอื ไดร้ บั ความเดอื ดรอ้ น สว่ นการกระทําของบคุ คลในขา่ วท่ี 5) เป็ นการกระทําทเี่ หมาะสม เพราะเป็ นการเคารพสทิ ธเิ สรภี าพของผอู ้ น่ื ในเรอ่ื ง เสรภี าพในเคหสถาน คอื นักขา่ วขออนุญาตเจา้ ของสถานทกี่ อ่ นบนั ทกึ ภาพเพอ่ื นําไปเผยแพร่3. ครอู ธบิ ายความหมายของสทิ ธแิ ละเสรภี าพพรอ้ มทัง้ เชอ่ื มโยงใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจถงึ ผลดขี องการเคารพสทิ ธเิ สรภี าพของผอู ้ นื่และผลเสยี อนั เกดิ จากการกระทําทแี่ สดงถงึ การไมเ่ คารพสทิ ธเิ สรภี าพของผอู ้ น่ื - ผลดขี องการเคารพสทิ ธเิ สรภี าพของผอู ้ น่ื ไดแ้ ก่ ทําใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจอนั ดตี อ่ กนั ลดความขัดแยง้ ขอ้ พพิ าทระหวา่ งกนัสงั คม สงบสขุ - ผลเสยี ของการไมเ่ คารพสทิ ธเิ สรภี าพของผอู ้ น่ื ไดแ้ ก่ ทําใหผ้ อู ้ น่ื ไดร้ ับความเดอื ดรอ้ น ผทู ้ ถ่ี กู ละเมดิ สทิ ธเิ สรภี าพมคี วามไม่พอใจ นําไปสกู่ ารทะเลาะววิ าทกนั4. นักเรยี นแบง่ ออกเป็ นกลมุ่ กลมุ่ ละ 5-6 คน ตามความสมคั รใจ แลว้ ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ศกึ ษาหาความรเู ้ รอื่ ง การเคารพสทิ ธแิ ละเสรภี าพของตนเองและผอู ้ น่ื จากหนังสอื เรยี น5. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั สนทนาแลกเปลย่ี นความรใู ้ นประเด็นสําคญั ของสทิ ธแิ ละเสรภี าพของบคุ คลตามกฎหมาย6. ครแู ละนักเรยี นชว่ ยกนั สรปุ ความรเู ้ กยี่ วกบั สทิ ธแิ ละเสรภี าพของประชาชนชาวไทยตามบทบญั ญัติ ในรฐั ธรรมนญูชว่ั โมงท่ี 21. ครทู บทวนความรเู ้ ดมิ ของนักเรยี นเรอ่ื ง สทิ ธแิ ละเสรภี าพของประชาชนชาวไทย ดว้ ยการถามคําถามนักเรยี น ดงั นี้ - สทิ ธขิ องประชาชนชาวไทยมอี ะไรบา้ ง ยกตวั อยา่ งประกอบ - เสรภี าพของประชาชนชาวไทยมอี ะไรบา้ ง ยกตวั อยา่ งประกอบ2. นักเรยี นแบง่ ออกเป็ นกลมุ่ กลมุ่ ละ 5-6 คน แลว้ นําความรทู ้ ไี่ ดศ้ กึ ษาเรอ่ื ง สทิ ธแิ ละเสรภี าพของประชาชนตามบทบญั ญัตใิ นรัฐธรรมนูญ มาเป็ นพนื้ ฐานในการวเิ คราะหแ์ ละประเมนิ คา่ ความรตู ้ ามหวั ขอ้ ในใบงานท่ี 1.1 เรอ่ื ง วเิ คราะหส์ ทิ ธแิ ละเสรภี าพ3. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกันตรวจสอบความถกู ตอ้ งจากการวเิ คราะหก์ รณีศกึ ษาในใบงานท่ี 1.1 และปรับปรงุ แกไ้ ขตามมตขิ องสมาชกิ ในกลมุ่4. ครสู มุ่ เรยี กตัวแทนของแตล่ ะกลมุ่ ออกมาเฉลยคําตอบในใบงานทหี่ นา้ ชนั้ เรยี น กลมุ่ ละ 1 กรณศี กึ ษา และใหก้ ลมุ่ อน่ื ทมี่ คี วามคดิ เห็นแตกตา่ งกนั เสนอเพม่ิ เตมิ โดยครเู ป็ นผตู ้ รวจสอบความถกู ตอ้ ง5. ครแู ละนักเรยี นชว่ ยกนั สรปุ ขอ้ คดิ สําคัญทไี่ ดจ้ ากการวเิ คราะหก์ ารกระทําของบคุ คลตามหลกั สทิ ธแิ ละเสรภี าพของประชาชนชาวไทยชว่ั โมงที่ 31. ครนู ําภาพตอ่ ไปนมี้ าใหน้ ักเรยี นพจิ ารณา 1) ภาพทหารหญงิ ทหารชาย 2) ภาพผตู ้ อ้ งหาทส่ี ถานตี ํารวจ

3) ภาพคนเดนิ ทางโดยรถยนต์ รถไฟ เครอื่ งบนิ 4) ภาพพอ่ แม่ ลกู ในครอบครัว 5) ภาพคนกําลังคยุ โทรศพั ท์ หรอื กําลังเลน่ อนิ เทอรเ์ น็ต 6) ภาพคนเขา้ รว่ มพธิ กี รรมทางศาสนา เชน่ ชาวพทุ ธน่ังฟังเทศน์ ชาวครสิ ตท์ ําพธิ ใี นโบสถ์ ชาวมสุ ลมิ กําลังทําละหมาด 7) ภาพการพจิ ารณาคดขี องศาล 8) ภาพนักเรยี นกําลงั เรยี นหนังสอื 9) ภาพแพทยก์ ําลังรกั ษาคนไข ้ 10) ภาพคนกําลงั นั่งฟังคําปราศรัยบนเวที 11) ภาพคนประกอบอาชพี หลากหลาย เชน่ ทํานา ทําสวน คา้ ขาย นักธรุ กจิ2. ครใู หน้ ักเรยี นชว่ ยกนั วเิ คราะหภ์ าพดงั กลา่ ววา่ สอดคลอ้ งกบั สทิ ธเิ สรภี าพ และความเสมอภาค ดา้ นใดบา้ ง และมผี ลดตี อ่ตนเองและสงั คมอยา่ งไร เพอื่ เป็ นการทบทวนความรขู ้ องนักเรยี นเรอ่ื ง สทิ ธเิ สรภี าพของประชาชนชาวไทย3. นักเรยี นแบง่ ออกเป็ นกลมุ่ กลมุ่ ละ 5-6 คน แลว้ ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ศกึ ษาความรจู ้ ากหนังสอื เรยี นในหวั ขอ้ ตอ่ ไปนี้ - การปฏบิ ตั ติ นในการเคารพสทิ ธแิ ละเสรภี าพของตนเองและผอู ้ นื่ - ผลทไ่ี ดร้ บั จากการเคารพสทิ ธแิ ละเสรภี าพของตนเองและผูอ้ นื่4. สมาชกิ แตล่ ะกลมุ่ นําความรทู ้ ไ่ี ดศ้ กึ ษามาเป็ นพนื้ ฐานในการเสนอแนวทางการปฏบิ ตั ติ นทแ่ี สดงถงึ การเคารพในสทิ ธแิ ละเสรภี าพของตนเองและผอู ้ น่ื ในใบงานท่ี 1.2 เรอ่ื ง เคารพสทิ ธแิ ละเสรภี าพ5. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยกนั ตัดสนิ ใจเลอื กหวั ขอ้ ทช่ี ว่ ยกนั เสนอในขอ้ 4 เพอื่ นําไปปฏบิ ตั ิ6. นักเรยี นแตล่ ะคนปฏบิ ตั ติ นในการเคารพสทิ ธแิ ละเสรภี าพของตนเองและผอู ้ น่ื แลว้ บนั ทกึ การปฏบิ ตั ติ นตามหวั ขอ้ ทกี่ ําหนดและนําเสนอตอ่ กลมุ่ เพอื่ ใหส้ มาชกิ ในกลมุ่ ชว่ ยกนั เสนอแนะ เพอื่ ปรับปรงุ แกไ้ ขการปฏบิ ตั ติ นของเพอ่ื นสมาชกิ ในกลมุ่ จากนัน้รายงานผลตอ่ ครผู สู ้ อนตอ่ ไป โดยใชเ้ วลาปฏบิ ตั ปิ ระมาณ 1-2 เดอื น หรอื ตามขอ้ ตกลงระหวา่ งครแู ละนักเรยี น การวดั ผลและประเมนิ ผลวธิ กี าร เครอื่ งมอื เกณฑ ์นักเรยี นทําแบบทดสอบกอ่ นเรยี น แบบทดสอบกอ่ นเรยี น รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์นักเรยี นทําใบงานที่ 1.1 ใบงานท่ี 1.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์นักเรยี นทําใบงานท่ี 1.2 ใบงานท่ี 1.2 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ แบบบนั ทกึ การปฏบิ ตั ติ นในการเคารพสทิ ธิ ปฏบิ ตั ไิ ด ้ 2 พฤตกิ รรมผา่ นนักเรยี นบนั ทกึ การปฏบิ ตั ติ นในการเคารพ เกณฑ์ และสทิ ธแิ ละเสรภี าพของผอู ้ น่ื เสรภี าพของผอู ้ น่ืสงั เกตพฤตกิ รรมการทํางานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทํางานกลมุ่ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สอ่ื / แหลง่ การเรยี นรู้สอ่ื การเรยี นรู้1. หนังสอื เรยี น หนา้ ทพ่ี ลเมอื ง วฒั นธรรม และการดําเนนิ ชวี ติ ในสงั คม ม. 12. ขา่ วการกระทําของบคุ คลทแี่ สดงถงึ การเคารพและไมเ่ คารพสทิ ธขิ องผอู ้ นื่3. บตั รภาพ4. ใบงานท่ี 1.1 เรอื่ ง วเิ คราะหส์ ทิ ธแิ ละเสรภี าพ5. ใบงานท่ี 1.2 เรอ่ื ง เคารพสทิ ธแิ ละเสรภี าพแหลง่ การเรยี นรู้

1. หอ้ งสมดุ2. แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ - http://www.aksorn.com - http://www.pub-law.net/article/ac020147a.html - http://www.geocities.com/nrtc3/sitit.html เอกสารแนบไฟลใ์ บงาน:ไฟลแ์ บบทดสอบ:

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 2 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปี ท่ี 1 เวลา 2 ชว่ั โมงหนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 บทบาทและหนา้ ทขี่ องเยาวชนทมี่ ตี อ่ สงั คมและประเทศชาติเรอื่ ง เยาวชนทดี่ ี สาระสาํ คญั / ความคดิ รวบยอดเยาวชนทดี่ ขี องสงั คมและประเทศชาติ จะตอ้ งรจู ้ กั บทบาทหนา้ ทข่ี องตน มสี ว่ นรว่ มและรับผดิ ชอบในการทําประโยชนต์ อ่สว่ นรวม มจี ติ สาธารณะและปฏบิ ตั ติ นตามกฎหมาย ตวั ชว้ี ดั / จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ตวั ชว้ี ดั ส 2.1 ม.1/2 ระบคุ วามสามารถของตนเองในการทําประโยชนต์ อ่ สงั คมและประเทศชาติจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้1. อธบิ ายหนา้ ทข่ี องเยาวชนทม่ี ตี อ่ สงั คมและประเทศชาตไิ ด ้2. เสนอแนวทางการปฏบิ ตั ติ นในการทําประโยชนต์ อ่ สงั คมและประเทศชาติ และนําไปปฏบิ ตั ไิ ด ้ สาระการเรยี นรู้สาระการเรยี นรแู้ กนกลางบทบาทและหนา้ ทขี่ องเยาวชนทม่ี ตี อ่ สงั คมและประเทศชาติ โดยเนน้ จติ สาธารณะ- เคารพกฎกตกิ าของสงั คม - มสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมทางสงั คม- ปฏบิ ตั ติ นตามกฎหมาย - มสี ว่ นรว่ มในการอนรุ ักษ์- ใฝ่ เรยี นรู ้ ทรัพยากรธรรมชาติ- มคี วามซอื่ สตั ยส์ จุ รติ - รกั ษาสาธารณสมบตั ิ- มรี ะเบยี บวนิ ัย - อนรุ ักษ์และสบื สานประเพณี วฒั นธรรม- มคี ณุ ธรรมจรยิ ธรรม และภมู ปิ ัญญาทดี่ งี ามของไทย สมรรถนะสาํ คญั ของผเู้ รยี นความสามารถในการสอื่ สารความสามารถในการคดิ- ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์- ทกั ษะการคดิ สรา้ งสรรค์ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ- กระบวนการปฏบิ ตั ิ- กระบวนการทํางานกลมุ่ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์1. มงุ่ มนั่ ในการทํางาน2. มจี ติ สาธารณะ กจิ กรรมการเรยี นรู้

(วธิ สี อนโดยการจัดการเรยี นรแู ้ บบวฏั จักรการเรยี นรู ้ (4MAT))ชว่ั โมงท่ี 11. ครนู ําขา่ วการกระทําของบคุ คลตา่ งๆ ทไ่ี ดร้ บั การยกยอ่ งจากสังคมหรอื หนว่ ยงาน มาใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั วเิ คราะหว์ า่ บคุ คลดังกลา่ วมกี ารกระทําทแี่ สดงวา่ เป็ นพลเมอื งดอี ยา่ งไร ซงึ่ เป็ นประโยชนต์ อ่ สงั คมและประเทศชาติ2. ครใู หน้ ักเรยี นลองคดิ ถงึ การกระทําของตนในอดตี ทผี่ า่ นมาวา่ เคยมกี ารแสดงออกถงึ การเป็ นสมาชกิ ทด่ี ขี องสงั คมและประเทศชาตอิ ยา่ งไรบา้ ง เชน่- มสี ว่ นรว่ มในการปลกู ป่ า- บําเพ็ญประโยชนเ์ นอ่ื งในวนั สําคญั ตา่ งๆ- รณรงคใ์ หช้ าวบา้ นไปใชส้ ทิ ธเ์ิ ลอื กตัง้ ทงั้ ในระดบั ทอ้ งถน่ิ และระดบั ประเทศ- บรจิ าคสงิ่ ของใหแ้ กผ่ ปู ้ ระสบอทุ กภยัฯลฯ3. นักเรยี นอภปิ รายรว่ มกนั ถงึ เหตผุ ลทแ่ี สดงวา่ การกระทําของนักเรยี นดงั กลา่ วเป็ นสมาชกิ ทด่ี ขี องสงั คมและประเทศชาติ เชน่การมสี ว่ นรว่ มในการปลกู ป่ าทําใหม้ พี นื้ ทปี่ ่ าไมม้ ากขนึ้ สรา้ งความรม่ เย็นใหแ้ กบ่ รเิ วณนัน้ อากาศชมุ่ ชนื้ เหมาะสมกบั การดํารงชวี ติ ของมนุษย์ นอกจากนัน้ ยงั สามารถนําไมส้ ว่ นหนง่ึ มาสรา้ งบา้ น ทอ่ี ยอู่ าศัย และเครอื่ งใชต้ า่ งๆ4. นักเรยี นดภู าพตา่ งๆ ทแ่ี สดงถงึ การมสี ว่ นรว่ มและความรบั ผดิ ชอบในกจิ กรรมของสงั คม เชน่1) ภาพการปฏบิ ตั ติ นตามกฎจราจร2) ภาพการเลอื กตงั้ ระดบั ตา่ งๆ3) ภาพอาสาสมคั รบรรเทาสาธารณภยั กําลังปฏบิ ตั หิ นา้ ที่4) ภาพคนมอบสง่ิ ของแกค่ นชราแลว้ ใหน้ ักเรยี นแสดงความคดิ เห็นถงึ ผลจากการกระทําดังกล่าว จากนัน้ ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั สรปุ การกระทําของบคุ คลทแี่ สดงวา่ เป็ นพลเมอื งดี5. ครอู ธบิ ายใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจถงึ บทบาทหนา้ ทข่ี องเยาวชนทม่ี ตี อ่ สงั คมและประเทศชาติ และใหน้ ักเรยี นแบง่ ออกเป็ นกลมุ่กลมุ่ ละ 5-7 คน ชว่ ยกนั ศกึ ษาคน้ ควา้ หาแนวทางการปฏบิ ตั ติ นของเยาวชนตอ่ สงั คมและประเทศชาตโิ ดยเนน้ จติ สาธารณะกลา่ วคอื การกระทําตา่ งๆ ตอ้ งคํานงึ ถงึ ประโยชนข์ องสว่ นรวม เชน่- เคารพกฎกตกิ าสงั คม - ปฏบิ ตั ติ นตามกฎหมาย- ใฝ่ เรยี นรู ้ - มคี วามซอื่ สตั ยส์ จุ รติ- มรี ะเบยี บวนิ ัย - มคี ณุ ธรรมจรยิ ธรรม- มสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมทางสงั คม - มสี ว่ นรว่ มในการอนุรักษ์ทรพั ยากรธรรมชาติ- รกั ษาสาธารณสมบตั ิ- อนรุ ักษ์และสบื สานประเพณี วฒั นธรรม และภมู ปิ ัญญาทดี่ งี ามของไทยชว่ั โมงท่ี 21. นักเรยี นแบง่ ออกเป็ นกลมุ่ กลุม่ ละ 5-7 คน แลว้ ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยกนั ทําใบงานที่ 2.1 เรอื่ ง เยาวชนทดี่ ี และนําเสนอผลงานกลมุ่ ทห่ี นา้ ชนั้ เรยี น โดยมคี รชู ว่ ยเสนอแนะเพม่ิ เตมิ จากนัน้ นักเรยี นและครชู ว่ ยกนั เสนอแนวทางการปฏบิ ตั ติ นตามบทบาทหนา้ ที่ตอ่ สงั คมและประเทศชาติ และมอบหมายใหน้ ักเรยี นแตล่ ะคนบนั ทกึ การปฏบิ ตั ติ นตามบทบาทหนา้ ทตี่ อ่ สงั คมและประเทศชาติลงในแบบบนั ทกึ2. ครใู หน้ ักเรยี นกลมุ่ เดมิ ชว่ ยกนั วางแผนทํากจิ กรรมรว่ มกนั ทแี่ สดงวา่ ปฏบิ ตั ติ นตามบทบาทหนา้ ทข่ี องเยาวชนทดี่ ใี นขอบขา่ ยดงั นี้ - เคารพสทิ ธแิ ละเสรภี าพของตนเองและผอู ้ นื่ - ทําประโยชนต์ อ่ สงั คมและประเทศชาติ นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ เขยี นแผนดําเนนิ กจิ กรรมลงในแบบบนั ทกึ ปฏบิ ตั ติ นเป็ นเยาวชนทด่ี ี แลว้ สง่ แผนดําเนนิ กจิ กรรมตอ่ ครู

จากนัน้ ครใู หค้ ําแนะนําเพอื่ การนําไปปฏบิ ตั จิ รงิ ตามกําหนดเวลา โดยมคี รคู อยตดิ ตามการดําเนนิ กจิ กรรมทกุ สปั ดาห์3. สมาชกิ ในแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั ทํากจิ กรรมตามทก่ี ําหนดให ้ โดยใชเ้ วลาประมาณ 1-2 เดอื น หรอื ตามความเหมาะสม มกี ารวเิ คราะหป์ รบั ปรงุ และพัฒนากจิ กรรมในระหวา่ งการดําเนนิ กจิ กรรม4. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ นําเสนอผลการดําเนนิ กจิ กรรมการปฏบิ ตั ติ นเป็ นเยาวชนทด่ี ีนักเรยี นทําแบบทดสอบหลังเรยี น ประจําหน่วยการเรยี นรทู ้ ี่ 1 การวดั ผลและประเมนิ ผล วธิ กี าร เครอ่ื งมอื เกณฑ ์นักเรยี นทําใบงานท่ี 2.1 ใบงานท่ี 2.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์นักเรยี นบนั ทกึ การปฏบิ ตั ติ นเป็ นเยาวชนทด่ี ี แบบบนั ทกึ การปฏบิ ตั ติ นเป็ นเยาวชนทดี่ ี ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ (รายบคุ คล)สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรม ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ กลมุ่นักเรยี นทําแบบทดสอบหลงั เรยี น แบบทดสอบหลังเรยี น รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ สอื่ / แหลง่ การเรยี นรู้สอื่ การเรยี นรู้1. หนังสอื เรยี น หนา้ ทพ่ี ลเมอื ง วฒั นธรรม และการดําเนนิ ชวี ติ ในสงั คม ม. 12. ขา่ วจากหนังสอื พมิ พ์ / แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ3. ใบงานท่ี 2.1 เรอ่ื ง เยาวชนทดี่ ีแหลง่ การเรยี นรู้1. หอ้ งสมดุ2. แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ - http://www.aksorn.com/ - http://www.sea12thai.org/sara/sara053.html - http://bsri.swu.ac.th/abstract/abs22.html - http://www.senate.go.th/web-senate/leftmenu/roles-thai.html - www.tsdmag.com/forum/index/php?topic=3469.0

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปี ท่ี 1 เวลา 2 ชว่ั โมงหนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 รฐั ธรรมนญู กบั การเมอื งการปกครองของไทยเรอ่ื ง ความรทู้ ว่ั ไปเกย่ี วกบั รฐั ธรรมนญู สาระสาํ คญั / ความคดิ รวบยอดรัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย เป็ นกฎหมายสงู สดุ ทใ่ี ชใ้ นการปกครองประเทศ มโี ครงสรา้ งและสาระสําคัญในการคมุ ้ ครองสทิ ธแิ ละเสรภี าพของประชาชน ตวั ชว้ี ดั / จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ตวั ชว้ี ดั ส 2.2 ม.1/1 อธบิ ายหลกั การ เจตนารมณ์ โครงสรา้ ง และสาระสําคญั ของรัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทยฉบบั ปัจจบุ นัโดย สงั เขปจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้1. อธบิ ายความเป็ นมา และความสําคญั ของรฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทยฉบบั ปัจจบุ นั ได ้2. อธบิ ายเจตนารมณ์ โครงสรา้ ง และสาระสําคญั ของรัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทยฉบบั ปัจจบุ นั โดยสงั เขปได ้ สาระการเรยี นรู้สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง- หลกั การ เจตนารมณ์ โครงสรา้ ง และสาระสําคัญของรฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทยฉบบั ปัจจบุ นั สมรรถนะสาํ คญั ของผเู้ รยี นความสามารถในการสอื่ สารความสามารถในการคดิ- ทักษะการคดิ วเิ คราะห์- ทกั ษะการคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ- กระบวนการปฏบิ ตั ิ- กระบวนการทํางานกลมุ่ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์1. ใฝ่ เรยี นรู ้2. มงุ่ มนั่ ในการทํางาน กจิ กรรมการเรยี นรู้(วธิ สี อนแบบบรรยาย / วธิ สี อนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการกลมุ่ )นักเรยี นทําแบบทดสอบกอ่ นเรยี น ประจําหน่วยการเรยี นรทู ้ ่ี 2

ชว่ั โมงที่ 11. ครตู ัง้ คําถามใหน้ ักเรยี นตอบเพอื่ เป็ นการนําเขา้ สกู่ จิ กรรมการเรยี นการสอน ดงั น้ี - นักเรยี นมคี วามรเู ้ กยี่ วกบั รฐั ธรรมนญู ฉบบั ปัจจบุ นั อยา่ งไรบา้ ง - รัฐธรรมนญู มคี วามสําคญั อยา่ งไร2. ครอู ธบิ ายใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจวา่ รฐั ธรรมนญู เป็ นกฎหมายสงู สดุ ทว่ี า่ ดว้ ยการจดั ระเบยี บการปกครองราชอาณาจักรไทยรฐั ธรรมนญู ฉบบั ปัจจบุ นั ประกาศใชเ้ มอ่ื วนั ท่ี 24 สงิ หาคม พ.ศ. 2550 แลว้ ครอู ธบิ ายเพม่ิ เตมิ ถงึ ความสําคญั ของรฐั ธรรมนญู แหง่ราชอาณาจักรไทย3. ครใู หน้ ักเรยี นแบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ 5 คน ตามความสมคั รใจใหช้ ว่ ยกนั ศกึ ษาความรจู ้ ากหนังสอื เรยี นและจากหนังสอื รัฐธรรมนญูแหง่ ราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศักราช 2550 และใบความรทู ้ ่ี 1.1 เรอ่ื ง ความรทู ้ ัว่ ไปเกย่ี วกบั รัฐธรรมนญู ในหวั ขอ้ ตอ่ ไปน้ี - ความเป็ นมาของรัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย พทุ ธศักราช 2550 - ความสําคญั ของรฐั ธรรมนญู - หลกั การและเจตนารมณข์ องรฐั ธรรมนูญ - โครงสรา้ งของรฐั ธรรมนญู - สาระสําคญั ของรฐั ธรรมนญู4. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยกันทําใบงานที่ 1.1 รชู ้ ดั รฐั ธรรมนญู โดยแบง่ หนา้ ทก่ี นั ตอบคําถามคนละ 1 ขอ้ชว่ั โมงท่ี 21. ครสู นทนากบั นักเรยี นถงึ ความกา้ วหนา้ ในการศกึ ษาหาความรเู ้ รอ่ื ง รัฐธรรมนญู และการแบง่ หนา้ ทกี่ นั ทําใบงาน2. สมาชกิ แตล่ ะคนในกลมุ่ ผลดั กนั ออกมานําเสนอผลงานการทําใบงานทตี่ นรับผดิ ชอบตอ่ กลมุ่ โดยเรยี งลําดบั ตงั้ แตข่ อ้ ท่ี 1- 5สมาชกิ คนอนื่ ชว่ ยเสนอแนะเพมิ่ เตมิ พรอ้ มทงั้ ชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของการตอบคําถามในใบงาน3. ครสู มุ่ เรยี กตวั แทนของแตล่ ะกลมุ่ ออกมานําเสนอผลงานทห่ี นา้ ชนั้ เรยี น กลมุ่ ละ 1 หวั ขอ้ และใหก้ ลมุ่ อนื่ ทม่ี ผี ลงานแตกตา่ งกนั ออกไปเสนอแนะเพมิ่ เตมิ4. ครแู ละนักเรยี นชว่ ยกนั สรปุ ความรทู ้ ่ัวไปเกยี่ วกบั รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย พทุ ธศกั ราช 2550 ในสว่ นทเ่ี กย่ี วกบัหลกั การ เจตนารมณ์ โครงสรา้ ง และสาระสําคัญ5. ครมู อบหมายใหน้ ักเรยี นเขยี นบทสรปุ เรอื่ ง รัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย เป็ นการบา้ น การวดั ผลและประเมนิ ผล วธิ กี าร เครอ่ื งมอื เกณฑ ์นักเรยี นทําแบบทดสอบกอ่ นเรยี น แบบทดสอบกอ่ นเรยี น รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์นักเรยี นทําใบงานท่ี 1.1 ใบงานท่ี 1.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์นักเรยี นเขยี นบทสรปุ เรอ่ื ง รัฐธรรมนญู แบบประเมนิ การเขยี นบทสรปุ เรอ่ื ง ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์แหง่ รัฐธรรมนูญราชอาณาจักรไทย แหง่ ราชอาณาจักรไทย ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์สงั เกตพฤตกิ รรมการทํางานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทํางานกลมุ่ สอื่ / แหลง่ การเรยี นรู้สอ่ื การเรยี นรู้1. หนังสอื เรยี น หนา้ ทพ่ี ลเมอื ง วฒั นธรรม และการดําเนนิ ชวี ติ ในสงั คม ม. 12. หนังสอื คน้ ควา้ เพมิ่ เตมิ 1) รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย พทุ ธศกั ราช 25503. ใบความรทู ้ ่ี 1.1 เรอ่ื ง ความรทู ้ ว่ั ไปเกยี่ วกบั รฐั ธรรมนญู

4. ใบงานท่ี 1.1 เรอ่ื ง รชู ้ ดั รัฐธรรมนูญแหลง่ การเรยี นรู้1. หอ้ งสมดุ2. แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ - http://www.khonnaruk.com/html/book/ThaiConstitution.html - http://th.wikipedia.org/wiki/ - http://www.kodmhai.com/m1/thailaw1.html - http://www.opdc.go.th/uploads/files/law/constitution2550.pdf

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 รฐั ธรรมนญู กบั การเมอื งการปกครองของไทย ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปี ท่ี 1เรอื่ ง อํานาจอธปิ ไตย เวลา 3 ชว่ั โมง สาระสาํ คญั / ความคดิ รวบยอดอํานาจอธปิ ไตย เป็ นอํานาจสงู สดุ ตามบทบญั ญตั ขิ องรฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย แบง่ ออกเป็ นอํานาจนติ บิ ญั ญัติ อํานาจบรหิ าร และอํานาจตลุ าการ ซง่ึ ตา่ งก็มกี ารถว่ งดลุ อํานาจระหวา่ งกัน ตวั ชว้ี ดั / จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ตวั ชวี้ ดั ส 2.2 ม.1/2 วเิ คราะหบ์ ทบาทการถว่ งดลุ อํานาจอธปิ ไตยในรัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั ร ไทยฉบบั ปัจจบุ นั ม.1/3 ปฏบิ ตั ติ นตามบทบญั ญตั ขิ องรฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทยฉบบั ปัจจบุ นั ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั ตนเองจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้1. อธบิ ายการใชอ้ ํานาจอธปิ ไตยทางดา้ นนติ บิ ญั ญัติ บรหิ าร และตลุ าการได ้2. วเิ คราะหก์ ารถว่ งดลุ อํานาจจากฝ่ ายนติ บิ ญั ญัติ ฝ่ ายบรหิ าร และฝ่ ายตลุ าการได ้3. ปฏบิ ตั ติ นตามบทบญั ญตั ใิ นรฐั ธรรมนูญเกยี่ วกบั สทิ ธิ เสรภี าพ และหนา้ ทไี่ ด ้ สาระการเรยี นรู้สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง1. การแบง่ อํานาจและการถว่ งดลุ อํานาจอธปิ ไตยทัง้ 3 ฝ่ าย คอื นติ บิ ญั ญัติ บรหิ าร และตลุ าการตามทรี่ ะบไุ วใ้ นรัฐธรรมนญู แหง่ราชอาณาจักรไทย ฉบบั ปัจจบุ นั2. การปฏบิ ตั ติ นตามบทบญั ญตั ขิ องรัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย ฉบบั ปัจจบุ นั เกย่ี วกบั สทิ ธิ เสรภี าพ และหนา้ ท่ี สมรรถนะสาํ คญั ของผเู้ รยี นความสามารถในการสอื่ สารความสามารถในการคดิ- ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์- ทักษะการคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ- กระบวนการปฏบิ ตั ิ- กระบวนการทํางานกลมุ่ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์1. รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์2. มวี นิ ัย3. ใฝ่ เรยี นรู ้ กจิ กรรมการเรยี นรู้(วธิ สี อนโดยใชเ้ กม/ วธิ สี อนแบบบรรยาย/ วธิ สี อนโดยการจัดการเรยี นรแู ้ บบรว่ มมอื : เทคนคิ การจัดทมี แขง่ ขนั TGT : TeamGames Tournament)

ชว่ั โมงที่ 11. ครใู หน้ ักเรยี นเลน่ เกม วงกลมอธปิ ไตย โดยใหน้ ักเรยี นอาสาสมคั รจํานวน 8 - 10 คน ออกมาทํากจิ กรรมหนา้ ชนั้ เรยี น ดังนี้ 1) นักเรยี นแตล่ ะคนยนื (แยกเทา้ เล็กนอ้ ย) เป็ นวงกลมหนั หนา้ เขา้ หากนั จากนัน้ ใหท้ กุ คนจับมอื กนั ไวใ้ หแ้ น่นทสี่ ดุ 2) นักเรยี นคนใดคนหนง่ึ เรมิ่ นับ 1 คนตอ่ ไปนับ 2 , 3 , 4 , 5 , 6 , 7 , 8 , 9 , 10 นักเรยี นทนี่ ับเลขใด กถ็ อื วา่ เป็ นหมายเลข ประจําตัว 3) ครสู ง่ั ใหน้ ักเรยี นหมายเลขคค่ี อ่ ยๆ โนม้ ตวั ไปดา้ นหนา้ พรอ้ มๆ กนั และใหน้ ักเรยี นหมายเลขคเู่ อนตัวไปดา้ นหลงั ชา้ ๆ ที่สําคญั คอื นักเรยี นจะตอ้ งทําอย่างสมดลุ กนั เพอื่ ไมใ่ หล้ ม้ และทําใหว้ งกลมเสยี รปู นักเรยี นแตล่ ะคนจะตอ้ งตระหนักถงึ หนา้ ทที่ ่ีตนจะ ตอ้ งปฏบิ ตั ใิ หด้ จี งึ จะเกดิ ความสําเร็จ 4) ครสู ง่ั ใหห้ มายเลขคโู่ นม้ ตวั ไปดา้ นหนา้ และหมายเลขคเี่ อนตวั ไปทางดา้ นหลัง ทกุ คนตอ้ งจับมอื กนั ใหแ้ น่นและระวงั เรอ่ื งความ สมดลุ พรอ้ มทงั้ รกั ษาตําแหน่งใหเ้ ป็ นรปู วงกลม 5) นักเรยี นคอ่ ยๆ เปลยี่ นเป็ นยนื ตรงทกุ คน และใหน้ ักเรยี นลองทําใหมอ่ กี ครัง้ 6) ครใู หน้ ักเรยี นคนใดคนหนงึ่ ปลอ่ ยมอื ออกจากเพอ่ื นซง่ึ จะทําใหว้ งกลมขาดออกจากกัน2. ครซู กั ถามนักเรยี นทเี่ ล่นเกม ดงั น้ี 1) นักเรยี นรสู ้ กึ อยา่ งไรเมอ่ื เรม่ิ ยนื โนม้ ตวั ไปขา้ งหนา้ และเอนตวั ไปขา้ งหลงั - คาํ ตอบทค่ี าดวา่ จะไดร้ บั เช น่ กลัวยนื ไมอ่ ยู่ กลัวลม้ กลวั ดงึ เพอื่ นลม้ ตาม กลัวเจ็บ เป็ นตน้ 2) การยนื โนม้ ตัวไปขา้ งหนา้ หรอื การยนื เอนตัวไปขา้ งหลงั นักเรยี นคดิ วา่ สง่ิ ใดทงี่ า่ ยกวา่ กนั เพราะอะไร - คาํ ตอบทคี่ าดวา่ จะไดร้ บั เช น่ ยนื โนม้ ตวั ไปขา้ งหนา้ ยนื เอนตัวไปขา้ งหลัง เพราะความถนัดของแตล่ ะคนไม่เหมอื นกัน 3) เมอื่ เพอื่ นบางคนปลอ่ ยมอื ออก เหตกุ ารณจ์ ะเป็ นอยา่ งไร - คาํ ตอบทคี่ าดวา่ จะไดร้ บั เช น่ อาจจะลม้ ลงและดงึ คนอนื่ ลม้ ตาม ตอ้ งเจ็บตวั วงกลม จะขาดออกจากกนั 4) ถา้ วงกลมนเ้ี ปรยี บเหมอื นกบั ประเทศไทย และนักเรยี นเปรยี บเหมอื นผมู ้ หี นา้ ทเี่ ขา้ มาใชอ้ ํานาจอธปิ ไตย คอื อํานาจ นติ บิ ญั ญตั ิ อํานาจบรหิ าร อํานาจตลุ าการ นักเรยี นคดิ วา่ จะใชอ้ ํานาจในลักษณะใดจงึ จะทําใหป้ ระเทศมน่ั คง - คาํ ตอบทคี่ าดวา่ จะไดร้ บั เช น่ ตอ้ งทําหนา้ ทข่ี องตนใหด้ ที ส่ี ดุ ถกู ตอ้ ง เพอื่ ประโยชน์ สว่ นรวม รักษาความสมดลุของ อํานาจหนา้ ที่ ครใู หน้ ักเรยี นคนอน่ื ๆ ทเ่ี ป็ นผชู ้ มการเลน่ เกมไดแ้ สดงความคดิ เห็นและขอ้ คดิ ทไ่ี ดจ้ ากการดกู าร เลน่ เกม3. ครเู ชอ่ื มโยงขอ้ คดิ ทไี่ ดจ้ ากการเลน่ เกมกบั การใชอ้ ํานาจอธปิ ไตย และอธบิ ายใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจวา่ อํานาจอธปิ ไตย แบง่ออกเป็ น อํานาจนติ บิ ญั ญตั ิ อํานาจบรหิ าร และอํานาจตลุ าการ ซงึ่ ผใู ้ ชอ้ ํานาจดงั กลา่ วจะตอ้ งทําหนา้ ทขี่ องตนใหส้ มบรู ณแ์ ละมีความสมดลุ เปรยี บเหมอื นกบั การเลน่ เกมวงกลมอธปิ ไตย ถา้ ทกุ ฝ่ ายปฏบิ ตั ติ ามหนา้ ทอี่ ยา่ งถกู ตอ้ ง สมบรู ณ์ และมคี วามสมดลุระหวา่ งอํานาจตา่ งๆ กจ็ ะทําใหก้ ารปกครองระบอบประชาธปิ ไตยของไทยเป็ นไปอยา่ งมน่ั คง4. ครแู บง่ นักเรยี นออกเป็ นกลมุ่ กลมุ่ ละ 4 คน คละกนั ตามความสามารถ คอื เกง่ ปานกลางคอ่ นขา้ งเกง่ ปานกลางคอ่ นขา้ งออ่ นและออ่ น ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ เลอื กหัวหนา้ กลมุ่ และใหส้ มาชกิ แตล่ ะคน มหี มายเลขประจําตวั 1 , 2 , 3 และ 4 สมาชกิ แตล่ ะกลมุ่รว่ มมอื กนั ศกึ ษาความรเู ้ รอ่ื ง อํานาจอธปิ ไตย จากหนังสอื เรยี น ดังน้ี 1) การใชอ้ ํานาจอธปิ ไตย 2) การถว่ งดลุ อํานาจอธปิ ไตย นักเรยี นซง่ึ เป็ นสมาชกิ ของกลมุ่ รว่ มกนั อภปิ รายสรปุ ในประเด็นสําคญั ของเรอื่ งทศ่ี กึ ษา5. ครอู ธบิ ายความรเู ้ กย่ี วกบั อํานาจอธปิ ไตย เพมิ่ เตมิ ใหน้ ักเรยี นมคี วามเขา้ ใจกระจา่ งชดั เจนในประเด็นตอ่ ไปน้ี

1) ความสมั พันธร์ ะหวา่ งอํานาจนติ บิ ญั ญัติ อํานาจบรหิ าร และอํานาจตลุ าการ 2) การถว่ งดลุ อํานาจระหวา่ ง 3 ฝ่ าย คอื - การถว่ งดลุ อํานาจจากฝ่ ายนติ บิ ญั ญัติ - การถว่ งดลุ อํานาจจากฝ่ ายบรหิ าร - การถว่ งดลุ อํานาจจากฝ่ ายตลุ าการชว่ั โมงที่ 21. ครทู บทวนความรเู ้ ดมิ ของนักเรยี นดว้ ยการใหว้ เิ คราะหข์ า่ วตอ่ ไปนี้ - การประชมุ รฐั สภา - การแถลงนโยบายของรัฐบาลตอ่ รฐั สภา - การถอดถอนรฐั มนตรอี อกจากตําแหนง่ โดยวฒุ สิ ภา - การพจิ ารณาตัดสนิ คดี สําหรบั ผดู ้ ํารงตําแหน่งทางการเมอื งของศาลฎกี าแผนกคดอี าญาสําหรับผดู ้ ํารงตําแหนง่ ทางการเมอื งนักเรยี นชว่ ยกนั แสดงความคดิ เห็นวา่ การกระทําของบคุ คลในขา่ วนัน้ เป็ นการดงึ การถว่ งดลุ อํานาจตา่ งๆ อยา่ งไร อธบิ ายเหตผุ ลประกอบ2. ครใู หน้ ักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ซง่ึ แบง่ ไวใ้ นชวั่ โมงท่ี 1 ชว่ ยกนั ทําใบงานที่ 2.1 เรอ่ื ง อํานาจอธปิ ไตย โดยดําเนนิ การ ดงั น้ี คําถามขอ้ ที่ 1 สมาชกิ หมายเลข 1 มหี นา้ ทอี่ า่ นคําถามและแยกแยะสงิ่ ทเ่ี ป็ นประเด็นสําคญั ของคําถาม สมาชกิ หมายเลข 2 มหี นา้ ทวี่ เิ คราะหห์ าแนวทางตอบคําถามหรอื อธบิ ายใหไ้ ดม้ าซงึ่ คําตอบ สมาชกิ หมายเลข 3 มหี นา้ ทรี่ วบรวมขอ้ มลู และเขยี นคําตอบ สมาชกิ หมายเลข 4 มหี นา้ ทสี่ รปุ ขนั้ ตอนทัง้ หมด ตรวจคําตอบ คําถามขอ้ ที่ 2 สมาชกิ หมายเลข 2 จะทําหนา้ ทอ่ี า่ นคําถามและแยกแยะสงิ่ ทเ่ี ป็ นประเด็นสําคัญของคําถาม สมาชกิ หมายเลข 3 จะทําหนา้ ทวี่ เิ คราะหห์ าแนวทางตอบคําถามหรอื อธบิ ายใหไ้ ดม้ าซงึ่ คําตอบ สมาชกิ หมายเลข 4 รวบรวมขอ้ มลู และเขยี นคําตอบ สมาชกิ หมายเลข 1 สรปุ ขนั้ ตอนทงั้ หมด ตรวจคําตอบ คําถามขอ้ ตอ่ ไป สมาชกิ แตล่ ะหมายเลขเลอื่ นขน้ึ มาทําหนา้ ทต่ี อ่ จากคนกอ่ น เป็ นการเวยี นกันทําหนา้ ทใี่ นการตอบคําถามจนครบทกุ ขอ้3. สมาชกิ ทกุ คนในแตล่ ะกลมุ่ จะรว่ มมอื กันตอบคําถามในใบงานจนเสร็จเรยี บรอ้ ย มกี ารพงึ่ พาอาศัยกนั ชว่ ยเหลอื กนั และอธบิ ายความรใู ้ หก้ นั ฟังจนทกุ คนมคี วามเขา้ ใจกระจ่างชดั เจนในเรอ่ื งทศ่ี กึ ษา4. ครมู อบหมายใหส้ มาชกิ ทกุ คนในแตล่ ะกลมุ่ ไปศกึ ษาความรเู ้ พม่ิ เตมิ เกย่ี วกบั เรอื่ ง อํานาจอธปิ ไตย จากแหลง่ การเรยี นรตู ้ า่ งๆเชน่ หอ้ งสมดุ แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ เป็ นตน้ แลว้ เตรยี มตวั แขง่ ขนั ตอบคําถามในชวั่ โมงตอ่ ไปชว่ั โมงที่ 31. ครแู ละนักเรยี นชว่ ยกนั เตรยี มการแขง่ ขัน โดยจดั โตะ๊ แขง่ ขนั ออกเป็ นกลมุ่ ดงั นี้ กลมุ่ โต๊ะหมายเลข 1 เป็ นโต๊ะแขง่ ขนั สําหรบั นักเรยี นทมี่ คี วามสามารถในระดับเกง่ กลมุ่ โตะ๊ หมายเลข 2 เป็ นโตะ๊ แขง่ ขนั สําหรบั นักเรยี นทมี่ คี วามสามารถในระดับปานกลาง (คอ่ นขา้ งเกง่ ) กลมุ่ โต๊ะหมายเลข 3 เป็ นโต๊ะแขง่ ขนั สําหรับนักเรยี นทมี่ คี วามสามารถในระดบั ปานกลาง (คอ่ นขา้ งออ่ น) กลมุ่ โต๊ะหมายเลข 4 เป็ นโต๊ะแขง่ ขันสําหรบั นักเรยี นทมี่ คี วามสามารถในระดับออ่ น ในกรณที นี่ ักเรยี นมจี ํานวนมาก โต๊ะหมายเลข 1 , 2 , 3 , 4 อาจมซี ํ้ากนั หลายโต๊ะ เพอ่ื ใหน้ ักเรยี นทกุ คนมโี อกาสในการ

แขง่ ขนั2. ในการแขง่ ขนั นักเรยี นแตล่ ะคนในกลมุ่ จะแยกยา้ ยไปนั่งในโต๊ะทคี่ รจู ดั ไวต้ ามความสามารถ คอื นักเรยี นทเ่ี รยี นเกง่ ของแตล่ ะกลมุ่ จะไปแขง่ ขนั ในโตะ๊ ทจี่ ัดไวส้ ําหรบั คนเกง่ นักเรยี นทมี่ คี วาม สามารถในระดบั ปานกลางคอ่ นขา้ งเกง่ ของแตล่ ะกล่มุ จะไปแขง่ ขนั ในโตะ๊ ทจ่ี ัดไวส้ ําหรบั นักเรยี นทมี่ คี วามสามารถในระดับปานกลางคอ่ นขา้ งเกง่ นักเรยี นทมี่ คี วามสามารถในระดับปานกลางคอ่ นขา้ งออ่ นจะไปแขง่ ขนั ในโต๊ะทจ่ี ัดไวส้ ําหรับนักเรยี นทม่ี คี วามสามารถในระดบั ปานกลางคอ่ นขา้ งออ่ น นักเรยี นทมี่ ีความสามารถในระดับออ่ นของกลมุ่ จะเขา้ ไปแขง่ ขนั ในโตะ๊ ทจ่ี ดั ไว ้ สําหรับนักเรยี นทเ่ี รยี นออ่ น3. การดําเนนิ การแขง่ ขนั 1) ครแู จกซองคําถามใหน้ ักเรยี นทกุ โตะ๊ มคี ําถามเทา่ กบั จํานวนนักเรยี นซง่ึ ถา้ มเี วลามากอาจจะมคี ําถามเป็ น 2 เทา่ หรอื 3เทา่ ของจํานวนนักเรยี น โดยตอบเป็ น 2 หรอื 3 รอบ สําหรบั คําถามทนี่ ํามาถามนัน้ ครสู ามารถเลอื กมาจากใบงานที่ 2.1 หรอื ครูอาจจะปรับปรงุ เป็ นคําถามแบบเลอื กตอบก็ไดต้ ามความเหมาะสม ขอ้ คํานงึ คอื คําตอบควรเป็ นเนอื้ หาความรทู ้ มี่ คี ําตอบชดั เจน 2) ครชู แี้ จงใหน้ ักเรยี นทราบวา่ ทกุ คนผลดั กนั เป็ นผอู ้ า่ นคําถาม ขอใหอ้ า่ นชา้ ๆ ชดั ๆ คนอา่ นคําถามมหี นา้ ทอ่ี า่ นคําเฉลยและใหค้ ะแนนผตู ้ อบถกู ดว้ ย (ครมู คี ําตอบหรอื คําเฉลยทช่ี ดั เจนใสซ่ องใหน้ ักเรยี นซงึ่ เป็ นคนอา่ นคไู่ ปกบั คําถาม) คําถามอาจจะเรม่ิ จากงา่ ยๆ ไปจนถงึ ยากก็ได ้ คําถามแตล่ ะขอ้ นัน้ ครเู ป็ นผกู ้ ําหนดเวลา 3) เรมิ่ การแขง่ ขนั - นักเรยี นคนท่ี 1 หยบิ ซองคําถาม 1 ซอง เปิดซองอา่ นคําถามแลว้ วางลงกลางโต๊ะ - นักเรยี นอกี 3 คน แขง่ ขนั กนั ตอบคําถาม โดยเขยี นคําตอบลงในกระดาษคําตอบของตน แลว้ สง่ ใหค้ นอา่ นท่ี 1 ตรวจคําตอบ ตามทเี่ ฉลย ใหค้ ะแนนพรอ้ มลงลายมอื ชอื่ - สมาชกิ ในทมี แขง่ ขนั ผลดั กนั ทําหนา้ ทอ่ี า่ นคําถามจนครบทกุ คน และทกุ คนไดต้ อบคําถามจํานวนเทา่ ๆ กนั - นักเรยี นแตล่ ะคนรวมคะแนนของตนเอง โดยมสี มาชกิ ทกุ คนในกลมุ่ ลงลายมอื ชอื่ รับรอง4. นักเรยี นทไ่ี ปแขง่ ขนั นําคะแนนกลบั เขา้ ไปยงั กลมุ่ เดมิ สมาชกิ ในกลมุ่ รว่ มกนั รวมคะแนนเป็ นคะแนนรวมของทมี แขง่ ขนั ทมี ที่ไดค้ ะแนนสงู สดุ ถอื เป็ นผชู ้ นะ จะไดร้ บั รางวลั หรอื การยกยอ่ งชมเชยหรอื การประกาศชมเชยบนป้ ายนเิ ทศ5. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรปุ สาระสําคัญของการใชอ้ ํานาจอธปิ ไตย6. ครอู ธบิ ายใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจถงึ แนวทางการปฏบิ ตั ติ นตามบทบญั ญัตใิ นรัฐธรรมนญู เกยี่ วกบั สทิ ธิ เสรภี าพ และหนา้ ท่ี7. ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั เลา่ การกระทําของตนทแ่ี สดงถงึ การปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธิ เสรภี าพ และหนา้ ทข่ี องเยาวชนตามบทบญั ญตั ิของรฐั ธรรมนูญ ซงึ่ สอดคลอ้ งกบั ภาระงานของนักเรยี นในหน่วยการเรยี นรทู ้ ี่ 1 เรอ่ื ง บทบาทและหนา้ ทขี่ องเยาวชนทมี่ ตี อ่ สงั คมและประเทศชาติ ครอู ธบิ ายเชอ่ื มโยงใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจวา่ การกระทําดังกลา่ วสอดคลอ้ งกบั สทิ ธิ เสรภี าพ และหนา้ ทข่ี องปวงชน

ชาวไทยตามบทบญั ญตั ขิ องรฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย8. ใหน้ ักเรยี นรว่ มกนั คดิ วางแผนในการปฏบิ ตั ติ นตามบทบญั ญัตขิ องรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักร ไทยทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั ตนเองในเรอ่ื ง สทิ ธิ เสรภี าพ และหนา้ ที่ และเขยี นลงบนกระดานหนา้ ชนั้ เรยี น จากนัน้ ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั เลอื กหวั ขอ้ ทน่ี ักเรยี นสามารถปฏบิ ตั ไิ ดจ้ รงิ แลว้ นําไปปฏบิ ตั เิ ป็ นระยะ เวลา 1-2 เดอื น หรอื ตามขอ้ ตกลงระหวา่ งครกู บั นักเรยี น ตัวอยา่ งหวั ขอ้ ทสี่ ามารถนําไปปฏบิ ตั ไิ ด ้ คอื - รณรงคเ์ ผยแพรค่ วามรเู ้ กย่ี วกบั ประชาธปิ ไตยและสทิ ธมิ นุษยชน - รว่ มมอื กบั หน่วยงานภาครัฐและเอกชนเพอื่ การคมุ ้ ครองสทิ ธมิ นษุ ยชน - ใหค้ วามร่วมมอื ในการธํารงรักษาไวซ้ ง่ึ สถาบนั ชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ และการปกครอง ระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหา กษัตรยิ ท์ รงเป็ นประมขุ - รว่ มปกป้ องและสบื สานวฒั นธรรมไทย ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถน่ิ - อนรุ กั ษ์ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม9. นักเรยี นทกุ คนในหอ้ งเรยี นปฏบิ ตั ติ นตามขอ้ ตกลงทร่ี ว่ มกนั คดิ ในขอ้ 8 แลว้ บนั ทกึ การปฏบิ ตั ใิ นแบบรายงานการปฏบิ ตั ติ นตามบทบญั ญัตขิ องรัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทยทเี่ กย่ี วกบั สทิ ธิ เสรภี าพ และหนา้ ท่ี10. ครตู ดิ ตามประเมนิ ผลการปฏบิ ตั ติ น ตามบทบญั ญัตขิ องรัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทยเกย่ี วกบั สทิ ธิ เสรภี าพ และหนา้ ท่ีตามขอ้ ตกลงของสมาชกิ ภายในหอ้ งเรยี นนักเรยี นทําแบบทดสอบหลังเรยี น ประจําหน่วยการเรยี นรทู ้ ่ี 2 การวดั ผลและประเมนิ ผลวธิ กี าร เครอ่ื งมอื เกณฑ ์ รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์นักเรยี นทําใบงานที่ 2.1 ใบงานท่ี 2.1 ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์นักเรยี นรายงานการปฏบิ ตั ติ นตามบท แบบประเมนิ รายงานการปฏบิ ตั ติ นตามบท ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์บญั ญัตขิ องรัฐธรรมนูญทเ่ี กย่ี วกับ สทิ ธิ บญั ญัตขิ องรฐั ธรรมนญู ทเี่ กย่ี วกบั สทิ ธิ รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์เสรภี าพ และหนา้ ที่ เสรภี าพ และหนา้ ท่ีสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วม กจิ กรรม กลมุ่นักเรยี นทําแบบทดสอบหลงั เรยี น แบบทดสอบหลังเรยี น สอ่ื / แหลง่ การเรยี นรู้สอ่ื การเรยี นรู้1. หนังสอื เรยี น หนา้ ทพ่ี ลเมอื ง วฒั นธรรม และการดําเนนิ ชวี ติ ในสงั คม ม. 12. หนังสอื คน้ ควา้ เพมิ่ เตมิ 1) รัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย พทุ ธศักราช 25503. ตวั อยา่ งสอ่ื การสอน4. ใบงานท่ี 2.1 เรอื่ ง อํานาจอธปิ ไตยแหลง่ การเรยี นรู้1. หอ้ งสมดุ2. แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ

- http://www.khonnaruk.com/html/book/ThaiConstitution.html- http://th.wikipedia.org/wiki/- http://www.kodmhai.com/m1/thailaw1.html- http://www.opdc.go.th/uploads/files/law/constitution2550.pdf- http://www.vcharkarn.com/vblog/46643/2


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook