แผนการสอน ศรีมูล ใหม่

แผนการจดั การเรียนรู้รายวิชา สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รหัสวิชา ส 21101 ระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 ปกี ารศึกษา 2561 กลุม่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม จดั ทาโดย นายศรมี ูล สมบตุ ร ตาแหน่ง ครูชานาญการ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 ตาบลชา่ งเคิง่ อาเภอแม่แจม่ จังหวดั เชยี งใหม่ สานกั บริหารงานการศกึ ษาพเิ ศษ สานกั งานการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เครอ่ื งมอื ทางภมู ศิ าสตร์ และการแบง่ เขตเวลาของโลก ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 1เรอื่ ง เครอื่ งมอื ทางภมู ศิ าสตร์ เวลา 4 ชว่ั โมง สาระสาคญั / ความคดิ รวบยอดเครอื่ งมอื ทางภมู ศิ าสตร์ เป็ นเครอ่ื งมอื สาคัญในการสบื คน้ ขอ้ มลู ลกั ษณะทางกายภาพและสงั คมของประเทศไทย ทวปี เอเชยีออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี ตวั ชว้ี ดั / จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ตวั ชวี้ ดั ช้ี ส 5.1 ม.1/1 เลอื กใชเ้ ครอ่ื งมอื ทางภมู ศิ าสตร์ (ลกู โลก แผนที่ กราฟ แผนภมู )ิ ในการสบื คน้ ขอ้ มลู เพอ่ื วเิ คราะหล์ กั ษณะทาง กายภาพและสงั คมของประเทศไทยและทวปี เอเชยี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยีจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้1. บอกความสาคญั และประโยชนข์ องลกู โลก แผนที่ เขม็ ทศิ รูปถา่ ยทางอากาศ ภาพถา่ ยจากดาวเทยี มได ้2. สาธติ การใชล้ กู โลก แผนที่ และเครอื่ งมอื ทางภมู ศิ าสตรอ์ นื่ ๆ ได ้3. วเิ คราะหร์ ปู แบบการนาเสนอขอ้ มลู ทางภมู ศิ าสตรไ์ ด ้4. เลอื กใชเ้ ครอ่ื งมอื ทางภมู ศิ าสตรใ์ นการสบื คน้ ขอ้ มลู ได ้ สาระการเรยี นรู้สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง เครอ่ื งมอื ทางภมู ศิ าสตร์ (ลกู โลก แผนท่ี กราฟ แผนภมู ิ ฯลฯ) ทแี่ สดงลกั ษณะทางกายภาพและสงั คมของประเทศไทย และทวปี เอเชยี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี นความสามารถในการสอื่ สารความสามารถในการคดิ- ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์- ทกั ษะการคดิ สรา้ งสรรค์ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ- กระบวนการปฏบิ ตั ิ- กระบวนการทางานกลมุ่ความสามารถในการแกป้ ัญหาความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี- การใชเ้ ทคโนโลยใี นการสบื คน้ ขอ้ มลู คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์1. ใฝ่ เรยี นรู ้2. มงุ่ มัน่ ในการทางาน กจิ กรรมการเรยี นรู้

(วธิ สี อนโดยการใชเ้ กม วธิ สี อนแบบบรรยาย วธิ สี อนแบบสาธติ วธิ สี อนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการกลมุ่ , กระบวนการสบื คน้ ขอ้ มลู )นักเรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรยี นรทู ้ ่ี 1 เรอ่ื ง เครอื่ งมอื ทางภมู ศิ าสตร์ และการแบง่ เขตเวลาของโลกชว่ั โมงที่ 11. ครนู าลกู โลกมาใหน้ กั เรยี นดู แลว้ ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั บอกวา่ ลกู โลก คอื อะไร มไี วเ้ พอ่ื อะไรลกู โลกบอกอะไรกบั เราบา้ ง โดยใหน้ ักเรยี นทกุ คนมสี ว่ นรว่ มในการแสดงความคดิ เหน็2. ครูสรปุ ความสาคญั ของลกู โลกวา่ เป็ นหนุ่ จาลองของโลก มรี ูปร่าง และสณั ฐานเป็ นทรงกลม แสดงตาแหนง่ และการกระจายของพน้ื ทปี่ ระเทศ ทวปี ทะเล และมหาสมทุ รตา่ งๆ ไดต้ รงตามทปี่ รากฏทผ่ี วิ โลก3. ครสู าธติ การใชล้ กู โลก โดยการอธบิ ายสง่ิ ทป่ี รากฏบนผวิ โลก อนั ไดแ้ ก่ เสน้ ทปี่ รากฏบนพนื้ ลกู โลก พน้ื ทที่ เี่ ป็ นพน้ื น้า เป็ นทวปี และเป็ นประเทศตา่ งๆ และสที แี่ สดงลกั ษณะภมู ปิ ระเทศของแตล่ ะทวปี ลกั ษณะของลกู โลกทเ่ี มอ่ื วางทพ่ี น้ื แลว้ มลี กั ษณะเอยี ง นั่นหมายถงึ แกนโลกเอยี ง ลกู โลกแบง่ เป็ น 2 ขวั้ คอื ขวั้ โลกเหนอื และขวั้ โลกใต ้ ลักษณะการหมนุ ของลกู โลกจะเหมอื นกับการหมนุ ของโลกรอบตัวเองและโคจรรอบดวงอาทติ ย์ ซงึ่ จะหมนุ จากทศิ ตะวนั ตกไปทศิ ตะวนั ออก กรณที เี่ รามองจากเสน้ ศนู ยส์ ตู ร หรอื หมนุ ทวนเขม็ นาฬกิ า การหมนุ ของโลกจะทาใหเ้ กดิ ฤดกู าลตา่ งๆ4. ครอู ธบิ ายเสน้ ทป่ี รากฏบนลกู โลก เชน่ เสน้ ศนู ยส์ ตู รแบง่ โลกเป็ นซกี โลกเหนอื และซกี โลกใต ้ เสน้ เมรเิ ดยี น เป็ นเสน้ ทล่ี ากจากขวั้ โลกเหนอื มาถงึ ขวั้ โลกใต ้ เสน้ เมรเิ ดยี นแรกมคี า่ เทา่ กบั 0 องศา ทเี่ มอื งกรนี ชิ สหราชอาณาจกั ร และเสน้ เมรเิ ดยี น 180องศา เรยี กวา่ เสน้ วันที่ เสน้ ขนานละตจิ ดู เป็ นเสน้ ทขี่ นานกบั เสน้ ศนู ยส์ ตู ร5. นักเรยี นฝึกการใชล้ กู โลก อา่ นและแปลความหมายจากลกู โลก6. ครแู บง่ นักเรยี นเป็ น 2 กลมุ่ กลมุ่ ละเทา่ ๆ กนั เพอื่ เลน่ เกม สโู่ ลกกวา้ ง ทายตาแหนง่ ตา่ งๆ บนลกู โลก โดยครจู ะเป็ นคนทายชอ่ื และใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ผลดั กันตอบคาถาม และสง่ ตวั แทนออกมาชต้ี าแหนง่ คาถามหนงึ่ ขอ้ เทา่ กบั หนงึ่ คะแนน กลมุ่ ทไ่ี ด ้คะแนนมากทส่ี ดุ ถอื เป็ นผชู ้ นะตวั อยา่ งคาถาม เชน่- ตอนนฉี้ ันรอ้ นมาก ฉันน่าจะอยบู่ รเิ วณไหนของโลก (บรเิ วณเสน้ ศนู ยส์ ตู ร)- ฉันเป็ นคนไทย ฉันอยตู่ รงไหนนะ (ประเทศไทย)- ประเทศของอาฉี มกี าแพงยาวทสี่ ดุ ในโลก ผคู ้ นชอบเดนิ ทางไปทอ่ งเทยี่ ว (กาแพงเมอื งจนี ประเทศจนี )- กอ้ ยชอบดซู ร่ี สี ด์ งั จากแดนโสมพระเอกหนา้ ตาหลอ่ ขาวใส ถกู ใจสาวไทยมากๆ นางเอกกน็ า่ รัก ( เกาหลี )- แมน่ ้านานาชาตสิ ายสาคญั เป็ นเสน้ เลอื ดใหญข่ องคนในแถบอนิ โดจนี (แมน่ ้าโขง)- จงิ โจม้ มี ากทนี่ ่ี ( ออสเตรเลยี ) เป็ นตน้7. นักเรยี นแตล่ ะคนทาใบงานท่ี 1.1 เรอ่ื ง ความรเู ้ กยี่ วกบั ลกู โลก จากนัน้ ครูและนักเรยี นร่วมกนั เฉลยคาตอบในใบงาน8. ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรปุ สาระสาคญั เกย่ี วกับ ประโยชน์ ความสาคัญ และวธิ กี ารใชล้ กู โลก เพอ่ื ทน่ี ักเรยี นจะไดน้ าไปใชไ้ ด ้อยา่ งถกู ตอ้ งตอ่ ไปชว่ั โมงที่ 2-31. ครนู านักเรยี นสนทนาเรม่ิ ตน้ ดว้ ยการตงั้ คาถามกระตนุ ้ ความคดิ เชน่ ถา้ นักเรยี นตอ้ งการเดนิ ทางไปทอ่ งเทยี่ ว นักเรยี นตอ้ งเตรยี มอะไรไปบา้ ง ครกู ระตนุ ้ ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั ตอบคาถามใหม้ ากทส่ี ดุ ซงึ่ คาตอบของนักเรยี นจะมหี ลากหลาย ครสู รปุ คาตอบของนักเรยี น แลว้ อธบิ ายใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจวา่ ในการเดนิ ทางทอ่ งเทย่ี วไปในสถานทตี่ า่ งๆ ทเี่ ราไมเ่ คยไป และอยากทจ่ี ะทอ่ งเทย่ี วใหร้ จู ้ กั สถานทนี่ ัน้ ใหม้ ากทส่ี ดุ สง่ิ ทต่ี อ้ งเตรยี มไป คอื แผนท่ี ครูยกตัวอยา่ งนักทอ่ งเทย่ี วจากตา่ งประเทศทเ่ี ดนิ ทางมาทอ่ งเทยี่ วในประเทศไทย จะตอ้ งมแี ผนทต่ี ดิ ตวั อยตู่ ลอดเวลา2. ครูถามนักเรยี นเกย่ี วกับ ความสาคญั ของแผนที่ โดยใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันระดมสมองวา่ แผนทม่ี คี วามสาคัญอยา่ งไรบา้ ง ครูและนักเรยี นสรุปความสาคญั ของแผนที่3. ครูนาแผนทป่ี ระเภทตา่ งๆ มาใหน้ ักเรยี นดู เชน่ แผนทโี่ ลกแสดงชอื่ ประเทศตา่ งๆ ทว่ั โลก แผนทที่ วปี เอเชยี แสดงชอื่ประเทศ แผนทที่ วปี ออสเตรเลยี แผนทแ่ี สดงจงั หวดั ตา่ งๆ แสดงลกั ษณะภมู ปิ ระเทศของประเทศไทย แผนทที่ อ่ งเทย่ี วของจังหวดั ตา่ งๆ แผนทเ่ี ลม่ (atlas) เป็ นตน้ แลว้ อธบิ ายถงึ ความสาคญั ของแผนทแ่ี ตล่ ะประเภท องคป์ ระกอบของแผนท่ี เชน่ สที ่ี

ปรากฏบนแผนที่ สญั ลกั ษณ์ เสน้ ตา่ งๆ แลว้ ใหน้ ักเรยี นศกึ ษารายละเอยี ดเพม่ิ เตมิ จากหนงั สอื เรยี น4. นักเรยี นฝึกการอา่ นและแปลความหมายจากแผนท่ี และออกมาชต้ี าแหนง่ ตา่ งๆ บนแผนท่ี ตามทคี่ รตู ัง้ คาถาม เชน่ ครูใชแ้ ผนทแี่ สดงลกั ษณะภมู ปิ ระเทศของทวปี เอเชยี ในการฝึกอา่ นแผนท่ี ตวั อยา่ งคาถามของครู เชน่ - บรเิ วณใดเหมาะสาหรับการเพาะปลกู - เขตทร่ี าบสงู ของทวปี เอเชยี อยบู่ รเิ วณใดบา้ ง - ทวปี เอเชยี มที ะเลทรายหรอื ไม่ อยบู่ รเิ วณใด5. ครูแบง่ นักเรยี นออกเป็ น 3 กลมุ่ กลมุ่ ละเทา่ ๆ กัน เพอ่ื ศกึ ษาแผนทตี่ า่ งๆ โดยแตล่ ะกลมุ่ ศกึ ษา ดงั นี้ - กลมุ่ ที่ 1 ศกึ ษาแผนทป่ี ระเทศไทย - กลมุ่ ท่ี 2 ศกึ ษาแผนทที่ วปี เอเชยี - กลมุ่ ท่ี 3 ศกึ ษาแผนทที่ วปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ทาการศกึ ษาในประเดน็ ตอ่ ไปน้ี - อา่ นพกิ ดั ภมู ศิ าสตรแ์ สดงทตี่ ัง้ และสถานทสี่ าคัญ เมอื งสาคัญตา่ งๆ - ลักษณะภมู ปิ ระเทศเดน่ ๆ เป็ นตน้6. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ สรปุ สาระสาคัญจากการศกึ ษาแผนท่ี ครสู งั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แลว้ ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ สง่ ตวั แทนออกมานาเสนอผลงานหนา้ ชนั้ เรยี น ครแู ละนกั เรยี นชว่ ยกันสรุปความรเู ้ รอื่ ง ประโยชนแ์ ละความสาคญั ของแผนท่ี วธิ กี ารใชแ้ ผนทที่ ถ่ี กู ตอ้ ง7. นักเรยี นจับคชู่ ว่ ยกันทาใบงานที่ 1.2 เรอ่ื ง ความรเู ้ กย่ี วกับแผนที่ แลว้ แลกเปลยี่ นกันตรวจกบั เพอื่ นโดยครแู ละนกั เรยี นชว่ ยกันเฉลยคาตอบในใบงาน8. ครูแนะนาแหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศตา่ งๆ เพอื่ สบื คน้ ขอ้ มลู สถานทท่ี นี่ กั เรยี นสนใจท่วั โลก แลว้ ครอู ธบิ ายเพมิ่ เตมิ เกยี่ วกบัเครอื่ งมอื ทางภมู ศิ าสตรท์ ส่ี าคัญนอกเหนอื จากแผนท่ี และนามาใหน้ ักเรยี นดแู ละสาธติ การใชง้ าน เชน่ เขม็ ทศิ พรอ้ มบอกประโยชนข์ องเขม็ ทศิ ในการหาทศิ ทาง9. ครบู รรยายความรเู ้ กยี่ วกับ รปู ถา่ ยทางอากาศ ภาพจากดาวเทยี ม ถงึ ประโยชนแ์ ละความสาคัญ10. นักเรยี นทาใบงานที่ 1.3 เรอ่ื ง แผนทพ่ี าเพลนิ จากนัน้ ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั เฉลยคาตอบในใบงานชว่ั โมงท่ี 41. ครูนาเครอื่ งมอื จพี เี อส หรอื โทรศพั ทม์ อื ถอื รนุ่ ทม่ี รี ะบบนาทางจพี เี อส มาใหน้ ักเรยี นดู และใหน้ ักเรยี นทใ่ี ชเ้ ครอื่ งจพี เี อสเป็ นมาสาธติ วธิ กี ารใชง้ านใหเ้ พอื่ นดู พรอ้ มทงั้ ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั บอกวา่ ในปัจจบุ นั จพี เี อสใชท้ าอะไรไดบ้ า้ ง ครสู รปุ ประเด็นสาคญั และอธบิ ายใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจวา่ ในปัจจบุ นั เทคโนโลยภี มู ศิ าสตรเ์ จรญิ กา้ วหนา้ ไปอยา่ งรวดเร็ว มกี ารนาจพี เี อสมาใช ้อยา่ งหลากหลาย2. ครอู ธบิ ายหลกั การทางานของระบบจพี เี อสในการหาตาแหนง่ ตา่ งๆ บนพน้ื โลก ใหน้ กั เรยี นฟังโดยระบบจพี เี อส เป็ นการรับสญั ญาณจากดาวเทยี มผา่ นเครอ่ื งรับสญั ญาณทมี่ ขี นาด รปู ร่าง ตา่ งกัน ในปัจจบุ นั มรี ูปแบบทันสมยั เหมาะในการพกพา ใชใ้ นการหาจดุ ตาแหนง่ ตา่ งๆ บนพน้ื โลก โดยมกี ารบอกพกิ ดั ภมู ศิ าสตรท์ คี่ อ่ นขา้ งแมน่ ยา รวดเร็ว ปัจจบุ นั มกี ารนามาใช ้ เชน่ ใชใ้ นระบบนาทาง โดยตดิ ตงั้ ในรถยนตส์ ว่ นตวั รถแท็กซี่ เพอ่ื ใชใ้ นการนาทางแทนการใชแ้ ผนท่ี และสามารถตรวจสอบไดว้ า่ รถคันนัน้ ใชง้ านอยทู่ ใ่ี ด เพอื่ ประโยชนใ์ นการตดิ ตามรถจากการถกู โจรกรรม นอกจากนโี้ ทรศัพทเ์ คลอ่ื นทบี่ างร่นุ กม็ กี ารตดิ จพี เี อสเพอ่ื ใชใ้ นการนาทางอกี ดว้ ย นอกจากนยี้ งั ใชใ้ นระบบการบนิ รถไฟ เรอื การสารวจรังวดั เป็ นตน้3. ครนู าขา่ วเศรษฐกจิ บทความ ทมี่ กี ารนาเสนอตัวเลขสถติ ิ เชน่ สถติ ปิ ระชากร สถติ ขิ อ้ มลู ทางการเกษตร เป็ นตน้ มาอา่ นให ้นักเรยี นฟัง และใหน้ ักเรยี นสรุปเป็ นประเดน็ สาคญั แลว้ ใหน้ ักเรยี นสรุปผลจากการสรุปขอ้ มลู4. ครูนากราฟ แผนผงั แผนภมู ิ ตาราง ขอ้ มลู แบบความเรยี ง เกย่ี วกบั ขอ้ มลู ทางดา้ นภมู ศิ าสตร์ เชน่ จานวนประชากร พชืเศรษฐกจิ ของไทย การเพาะปลกู ของไทย ทรพั ยากรธรรมชาติ พรอ้ มทงั้ ใหน้ กั เรยี นดตู ัวอยา่ งในหนังสอื เรยี น แลว้ ชว่ ยกนัวเิ คราะหข์ อ้ มลู และแปลความหมาย จากนัน้ เปรยี บเทยี บระหวา่ งขอ้ มลู ความเรยี งทค่ี รนู ามาใหด้ ใู นตอนแรกกับการนาเสนอขอ้ มลู สถติ ติ า่ งๆ ในรูปแบบของตาราง แผนผัง แผนภมู ิ กราฟ5. ครอู ธบิ ายรปู แบบการนาเสนอขอ้ มลู ภมู ศิ าสตร์ และสรปุ สาระสาคญั

6. ครูนาขอ้ มลู ทางภมู ศิ าสตรท์ เ่ี ป็ นความเรยี ง มาใหน้ ักเรยี นฝึกการนาเสนอขอ้ มลู รูปแบบตา่ งๆ เชน่ แผนผงั แผนภมู ิ กราฟ7. นักเรยี นแบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ 4-6 คน ชว่ ยกนั ทาใบงานท่ี 1.4 เรอื่ ง การนาเสนอขอ้ มลู ทางภมู ศิ าสตร์ ครตู รวจผลงานของนักเรยี นและเลอื กผลงานทดี่ ตี ดิ ป้ายนเิ ทศ8. ครูและนักเรยี นชว่ ยกันสรุปรูปแบบการนาเสนอขอ้ มลู ทางภมู ศิ าสตร์ ประโยชน์ และการนาไปใช ้ การวดั ผลและประเมนิ ผลวธิ กี าร เครอ่ื งมอื เกณฑ ์ รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์นักเรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วย แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรยี นรทู ้ ่ี รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์การ 1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์เรยี นรทู ้ ่ี 1 เรอื่ ง เครอ่ื งมอื ทางภมู ศิ าสตร์ เรอื่ ง เครอ่ื งมอื ทางภมู ศิ าสตรแ์ ละการแบง่ รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์และ เขตการแบง่ เขตเวลาของโลก เวลาของโลกนักเรยี นทาใบงานที่ 1.1 ใบงานท่ี 1.1นักเรยี นทาใบงานท่ี 1.2 ใบงานที่ 1.2นักเรยี นทาใบงานท่ี 1.3 ใบงานท่ี 1.3นักเรยี นทาใบงานที่ 1.4 ใบงานท่ี 1.4สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ สอ่ื / แหลง่ การเรยี นรู้สอ่ื การเรยี นรู้1. หนังสอื เรยี น ภมู ศิ าสตร์ ม.12. แผนทท่ี วปี เอเชยี ทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี และแผนทป่ี ระเทศไทย3. ลกู โลก4. เครอ่ื งรับสณั ญาณ จพี เี อส5. เขม็ ทศิ6. ตวั อยา่ งรูปถา่ ยทางอากาศ และภาพจากดาวเทยี ม7. ตัวอยา่ งขา่ ว แผนภมู ิ แผนผงั กราฟ ขอ้ มลู ความเรยี ง เกย่ี วกับภมู ศิ าสตร์8. ใบงานท่ี 1.1 เรอ่ื ง ความรเู ้ กยี่ วกับลกู โลก9. ใบงานที่ 1.2 เรอื่ ง ความรเู ้ กยี่ วกับแผนที่10. ใบงานที่ 1.3 เรอ่ื ง แผนทพ่ี าเพลนิ11. ใบงานที่ 1.4 เรอ่ื ง การนาเสนอขอ้ มลู ทางภมู ศิ าสตร์แหลง่ การเรยี นรู้1. หอ้ งสมดุ2. สานักหอจดหมายเหตแุ หง่ ชาติ3. ขา่ วเหตกุ ารณ์สาคัญทเี่ กดิ ขน้ึ ในภมู ภิ าคตา่ งๆ ของโลก4. แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ - http://earth.google.com/ - http://maps.google.co.th/

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 1หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 ภมู ศิ าสตรป์ ระเทศไทย 1 เวลา 6 ชว่ั โมงเรอ่ื ง สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพของประเทศไทย สาระสาคญั / ความคดิ รวบยอดทาเลทตี่ งั้ ของประเทศไทย ลกั ษณะทางกายภาพทหี่ ลากหลายและแตกตา่ งกนั ในแตล่ ะภมู ภิ าคของไทย มอี ทิ ธพิ ลสาคญั ตอ่การดาเนนิ ชวี ติ ของประชากรไทย ตวั ชวี้ ดั / จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ตวั ชวี้ ดั ส 5.1 ม.1/1 เลอื กใชเ้ ครอ่ื งมอื ทางภมู ศิ าสตร์ (ลกู โลก แผนท่ี กราฟ แผนภมู )ิ ในการสบื คน้ ขอ้ มลู เพอ่ื วเิ คราะหล์ กั ษณะทางกายภาพและสงั คมของประเทศไทยและทวปี เอเชยี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยีจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้1. เลอื กใชเ้ ครอื่ งมอื ทางภมู ศิ าสตรใ์ นการศกึ ษาลักษณะทางกายภาพของประเทศไทยได ้2. บอกทาเลทตี่ งั้ ของประเทศไทยได ้3. อธบิ ายลกั ษณะทางกายภาพของประเทศไทยได ้4. วเิ คราะหป์ ัจจยั ทางกายภาพทมี่ ผี ลตอ่ การเลอื่ นไหลของความคดิ และความเป็ นอยขู่ องประชากร สาระการเรยี นรู้สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง1. เครอื่ งมอื ทางภมู ศิ าสตร์ (ลกู โลก แผนท่ี กราฟ แผนภมู ิ ฯลฯ)2. ลักษณะทางกายภาพของประเทศไทย สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี นความสามารถในการสอื่ สารความสามารถในการคดิ- ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์- ทักษะการคดิ สรา้ งสรรค์ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ- กระบวนการทางานกลมุ่- กระบวนการปฏบิ ตั ิความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี- กระบวนการสบื คน้ ขอ้ มลู คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์1. มวี นิ ัย2. มงุ่ มั่นในการทางาน กจิ กรรมการเรยี นรู้

(วธิ สี อนแบบบรรยาย วธิ สี อนโดยการจดั การเรยี นรแู ้ บบรว่ มมอื : เทคนคิ JigsawⅡ)นักเรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยการเรยี นรทู ้ ี่ 2 เรอ่ื ง ภมู ศิ าสตรป์ ระเทศไทย 1ชว่ั โมงท่ี 11. ครใู หน้ ักเรยี นชว่ ยกันศกึ ษาลกู โลก แลว้ ใหต้ วั แทนนักเรยี นออกมาชว่ ยกนั ชต้ี าแหนง่ ของทวปี ตา่ งๆ และตาแหน่งประเทศไทย ประเทศเพอื่ นบา้ น แลว้ ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั บอกทต่ี งั้ ของประเทศไทย และประเทศเพอื่ นบา้ นจากลกู โลก2. ครอู ธบิ ายถงึ ทาเลทตี่ งั้ ของประเทศไทยโดยใชแ้ ผนทที่ วปี เอเชยี ประกอบการอธบิ ายวา่ ตัง้ อยใู่ นทวปี เอเชยี อยใู่ นภมู ภิ าคเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต ้ อยบู่ นคาบสมทุ รอนิ โดจนี มที ะเลขนาบขา้ ง คอื ทางตะวนั ตกมที ะเลอันดามัน ทางตะวนั ออกมที ะเลจนีใตห้ รอื อา่ วไทย3. ครูนาแผนทป่ี ระเทศไทยมาประกอบการอธบิ ายทต่ี งั้ รูปร่าง และขนาดของประเทศไทย ใหน้ ักเรยี นออกมาชต้ี าแหนง่ ละตจิ ดูลองจจิ ดู จดุ เหนอื สดุ จดุ ใตส้ ดุ จดุ ตะวนั ออกสดุ และจดุ ตะวันตกสดุ4. ครอู ธบิ ายความรเู ้ กย่ี วกับ ทาเลทต่ี งั้ ของประเทศไทย และจากการทป่ี ระเทศไทยมถี งึ 76 จงั หวดั มลี กั ษณะภมู ปิ ระเทศและภมู อิ ากาศแตกตา่ งกัน จงึ ไดม้ กี ารแบง่ ภาคทางภมู ศิ าสตรอ์ อกเป็ น 6 ภาค ไดแ้ ก่ ภาคเหนอื ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื ภาคตะวนั ออก ภาคตะวันตก ภาคใต ้ ประเทศไทย มอี าณาเขต ดงั นี้ - ทศิ เหนอื จด ประเทศลาว - ทศิ ตะวนั ออก จด ประเทศกมั พชู า - ทศิ ตะวนั ตก จด สหภาพพมา่ - ภาคใต ้ จด ประเทศมาเลเซยี - จดุ เหนอื สดุ อยทู่ ่ี ตาบลแมส่ าย อาเภอแมส่ าย จงั หวดั เชยี งราย - จดุ ใตส้ ดุ อยทู่ ี่ ตาบลยะรม อาเภอเบตง จังหวดั ยะลา - จดุ ตะวนั ตกสดุ อยทู่ ผี่ าแตม้ ตาบลแมด่ ง อาเภอแมส่ ะเรยี ง จงั หวดั แมฮ่ อ่ งสอน - จดุ ตะวันออกสดุ อยทู่ ผ่ี าชะนะได อาเภอโขงเจยี ม จงั หวดั อบุ ลราชธานี จากนัน้ ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั วเิ คราะหร์ ูปร่างของประเทศไทย5. ครูนาขา่ วหรอื ภาพการตดิ ตอ่ กบั เพอ่ื นบา้ นทม่ี ดี นิ แดนตดิ ตอ่ กนั เชน่ การเขา้ มาซอ้ื สนิ คา้ อปุ โภคบรโิ ภคของชาวลาว ตลาดโรงเกลอื ลกู เรอื ประมงชาวพมา่ ทจี่ งั หวดั ระนอง ธรุ กจิ บรเิ วณชายแดน เป็ นตน้ และใหน้ ักเรยี นทมี่ ปี ระสบการณ์เคยไปเทยี่ วบริเวณชายแดนไทยกบั ประเทศเพอื่ นบา้ นมาเลา่ ประสบการณใ์ หเ้ พอ่ื นฟัง ครูตงั้ คาถามเพอื่ ใหน้ ักเรยี นไดเ้ ลา่ ประสบการณใ์ หม้ ากทส่ี ดุ แลว้ สรปุ ใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจวา่ การทปี่ ระเทศไทยมพี รมแดนตดิ ตอ่ กบั ประเทศเพอ่ื นบา้ นทาใหบ้ รเิ วณน้ี มกี จิ กรรมทางเศรษฐกจิ ทนี่ ารายไดเ้ ขา้ ประเทศมหาศาลแตใ่ นขณะเดยี วกนั กม็ ขี อ้ เสยี คอื มกี ารลกั ลอบกระทาการทผี่ ดิ กฎหมาย เชน่ ขนสง่ยาเสพตดิ ขนของหนภี าษี เป็ นชอ่ งทางหลบหนขี องผกู ้ ระทาโจรกรรมรถแลว้ สง่ ไปขายตอ่ ยงั ประเทศเพอ่ื นบา้ น เป็ นตน้6. ครตู งั้ คาถามเพอื่ กระตนุ ้ ใหน้ ักเรยี นฝึกการคดิ วเิ คราะห์ ตัวอยา่ งคาถาม เชน่ - จากทาเลทต่ี งั้ ของประเทศไทยทาใหม้ ขี อ้ ไดเ้ ปรยี บเสยี เปรยี บอยา่ งไร แลว้ ครสู รปุ ประเด็นสาคญั และสรปุ ความรใู ้ หน้ กั เรยี นฟัง7. นักเรยี นจบั คกู่ นั และชว่ ยกนั ทาใบงานที่ 1.1 เรอื่ ง ทาเลทต่ี งั้ ของประเทศไทย แลว้ ครูและนักเรยี นชว่ ยกันเฉลยคาตอบของใบงานและสรุปความรเู ้ กย่ี วกับทต่ี งั้ รปู รา่ งของประเทศไทยชว่ั โมงที่ 21. ครสู นทนากับนักเรยี นเกยี่ วกบั ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศของทอ้ งถนิ่ หรอื ชมุ ชนทนี่ ักเรยี นอาศัยอยวู่ า่ มลี ักษณะภมู ปิ ระเทศเป็ นอยา่ งไร เชน่ - เป็ นทรี่ าบลมุ่ มแี มน่ ้าไหลผา่ น - เป็ นพนื้ ทร่ี าบ มที งุ่ นาอยรู่ อบชมุ ชน - เป็ นภเู ขาสงู เป็ นตน้2. ครูนาแผนทป่ี ระเทศไทยแสดงลักษณะภมู ปิ ระเทศใหน้ ักเรยี นดู แลว้ ถามนกั เรยี นเกย่ี วกบั ลกั ษณะทางกายภาพของประเทศ

ไทย ครอู ธบิ ายใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจวา่ ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศไทยแตล่ ะพนื้ ทมี่ คี วามแตกตา่ งกนั เพอ่ื เป็ นการสะดวกในการศกึ ษาลกั ษณะทางกายภาพจงึ ไดม้ กี ารแบง่ ภาคของประเทศไทยตามภาคภมู ศิ าสตร์ ออกเป็ น 6 ภาค โดยแบง่ ตามลกั ษณะพนื้ ทเ่ี ป็ นหลกั ไดแ้ ก่ ภาคเหนอื ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ภาคตะวันตก และภาคใต ้ โดยในแตล่ ะภาคจะมีลักษณะภมู ปิ ระเทศทแี่ ตกตา่ งกนั3. ครูใหน้ ักเรยี นดแู ผนท่ี แลว้ ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกันบอกลกั ษณะภมู ปิ ระเทศเดน่ ในแตล่ ะภาค ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันบอกทลี ะภาค โดยครเู ป็ นคนตงั้ คาถามเป็ นรายภาค และสมุ่ เรยี กใหน้ ักเรยี นตอบ เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นไดม้ สี ว่ นรว่ มมากทส่ี ดุ - ตัวอยา่ งคาถามภาคเหนอื เชน่ ภาคเหนอื มลี กั ษณะภมู ปิ ระเทศเดน่ อยา่ งไร แนวการตอบ เป็ นภเู ขาสลับซบั ซอ้ นตอ่ เนอื่ งเป็นทวิ เขาวางตวั ตามแนวทศิ เหนอื ลงไปทางทศิ ใตม้ หี บุ เขา - ตัวอยา่ งคาถามภาคกลาง เชน่ ภาคกลางมลี กั ษณะภมู ปิ ระเทศเดน่ อยา่ งไร แนวการตอบ มลี ักษณะเป็ นทร่ี าบแอง่ กระทะ ตอนกลางมแี มน่ ้าไหลผา่ น - ตวั อยา่ งคาถามภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื เชน่ ภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื มลี ักษณะภมู ปิ ระเทศเดน่ อยา่ งไร แนวการตอบ เป็ นภเู ขายอดราบจานวนมาก มที รี่ าบลมุ่ ขนาดใหญ่ คอื ทร่ี าบแอง่ โคราช - ตวั อยา่ งคาถามภาคตะวนั ออก เชน่ ภาคตะวันออกมลี กั ษณะภมู ปิ ระเทศเดน่ อยา่ งไร แนวการตอบ มที วิ เขาสนั กาแพงอยทู่ างทศิ เหนอื ของภาค มที ร่ี าบลมุ่ แมน่ ้าขนาดใหญ่ คอื ทรี่ าบลมุ่ แมน่ ้าบางปะกง มปี ่ าชายเลนจานวนมาก - ตัวอยา่ งคาถามภาคตะวันตก เชน่ ภาคตะวนั ตกมลี กั ษณะภมู ปิ ระเทศเดน่ อยา่ งไร แนวการตอบ มที วิ เขาถนนธงชยั ทวิ เขาตะนาวศรี กนั้ พรมแดนไทย-พมา่ มปี ่ าไมอ้ ดุ มสมบรู ณ์ จงึ มนี ้าตกสวยงามหลายแหง่ มชี ายฝ่ังทะเลทส่ี วยงามหลายแหง่ - ตัวอยา่ งคาถามภาคใต ้ เชน่ ภาคใตม้ ลี กั ษณะภมู ปิ ระเทศเดน่ อยา่ งไร แนวการตอบ มที วิ เขาทสี่ าคญั คอื ทวิ เขาภเู กต็ ทวิ เขานครศรธี รรมราช ทวิ เขาสนั กะลาครี ี มที ะเลทส่ี วยงามทงั้ สองฝ่ัง คอื ฝั่งอันดามัน และฝั่งอา่ วไทย มเี กาะสวยงามมากมาย4. ครแู ละนักเรยี นร่วมกันสรุปสาระสาคญั ของลกั ษณะภมู ปิ ระเทศสาคัญของไทยชว่ั โมงท่ี 31. ครูนาภาพสถานทที่ อ่ งเทย่ี วทส่ี าคญั ในเมอื งไทย ทเ่ี กดิ จากลักษณะเดน่ ของภมู ปิ ระเทศ เชน่ เกาะตะรุเตา จงั หวดั สตลู ปายจังหวดั แมฮ่ อ่ งสอน เป็ นตน้ แลว้ ถามนักเรยี นวา่ รูจ้ กั สถานทเี่ หลา่ นหี้ รอื ไม่ สถานทเ่ี หลา่ นอ้ี ยใู่ นภาคใด มลี กั ษณะเดน่ อยา่ งไรครอู ธบิ ายเชอื่ มโยงถงึ ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศของไทย2. ครูแบง่ นักเรยี นเป็ นกลมุ่ กลมุ่ ละ 6 คน คละกันตามความสามารถ มที งั้ เกง่ ปานกลางคอ่ นขา้ งเกง่ ปานกลางคอ่ นขา้ งออ่ นและออ่ น โดยครจู ดั กลมุ่ มาลว่ งหนา้ กลมุ่ ทจี่ ดั ตงั้ นเี้ รยี กวา่ กลมุ่ บา้ น(Home Group) สมาชกิ แตล่ ะกลมุ่ เลอื กหมายเลขประจาตวั1, 2, 3, 4, 5 และ 63. สมาชกิ กลมุ่ บา้ นแตล่ ะกลมุ่ แยกยา้ ยไปหากลมุ่ ใหม่ คนทมี่ หี มายเลขเดยี วกนั อยกู่ ลมุ่ เดยี วกนั เชน่ หมายเลข 1 ของแตล่ ะกลมุ่ มารวมกนั เป็ นกลมุ่ ใหม่ เรยี กวา่ กลมุ่ ผเู ้ ชยี่ วชาญ (Expert Group)4. นักเรยี นกลมุ่ ผเู ้ ชยี่ วชาญรว่ มมอื กันศกึ ษาความรเู ้ กย่ี วกบั ภาคทางภมู ศิ าสตรท์ กี่ ลมุ่ ของตนรับผดิ ชอบ จากหนังสอื เรยี น ดงั นี้ - หมายเลข 1 ศกึ ษาภมู ศิ าสตรภ์ าคเหนอื และทาใบงานท่ี 1.2 เรอื่ ง ภมู ปิ ระเทศของภาคเหนอื - หมายเลข 2 ศกึ ษาภมู ศิ าสตรภ์ าคกลาง และทาใบงานท่ี 1.3 เรอื่ ง ภมู ปิ ระเทศของภาคกลาง - หมายเลข 3 ศกึ ษาภมู ศิ าสตรภ์ าคตะวันออกเฉียงเหนอื และทาใบงานที่ 1.4 เรอื่ ง ภมู ปิ ระเทศของภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื - หมายเลข 4 ศกึ ษาภมู ศิ าสตรภ์ าคตะวันออก และทาใบงานที่ 1.5 เรอื่ ง ภมู ปิ ระเทศของภาคตะวนั ออก - หมายเลข 5 ศกึ ษาภมู ศิ าสตรภ์ าคตะวันตก และทาใบงานที่ 1.6 เรอ่ื ง ภมู ปิ ระเทศของภาคตะวันตก - หมายเลข 6 ศกึ ษาภมู ศิ าสตรภ์ าคใต ้ และทาใบงานท่ี 1.7 เรอ่ื ง ภมู ปิ ระเทศของภาคใต ้5. สมาชกิ แตล่ ะกลมุ่ ศกึ ษาความรูจ้ ากหนงั สอื เรยี น หรอื จากหนงั สอื อา่ นเพมิ่ เตมิ หรอื สบื คน้ ขอ้ มลู เพม่ิ เตมิ จากแหลง่ ขอ้ มลูสารสนเทศ

ชว่ั โมงที่ 4-51. ครูสอบถามนกั เรยี นเกย่ี วกับ ผลการทางานของสมาชกิ กลมุ่ ผเู ้ ชยี่ วชาญทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย2. สมาชกิ กลมุ่ ผเู ้ ชยี่ วชาญกลบั ไปยงั กลมุ่ เดมิ คอื กลมุ่ บา้ น แตล่ ะคนถา่ ยทอดประสบการณ์ความรูท้ ไี่ ดไ้ ปศกึ ษาคน้ ควา้ มาและจากการทาใบงานใหส้ มาชกิ ในกลมุ่ ไดร้ ับความรู ้ มกี ารอภปิ รายแลกเปลยี่ นความรซู ้ ง่ึ กนั และกนั ใหส้ มาชกิ ทกุ คนไดเ้ ขา้ ใจสมาชกิ คนใดไมเ่ ขา้ ใจใหซ้ กั ถามและถา่ ยทอดความรใู ้ หก้ นั และกนั จนทกุ คนเขา้ ใจถกู ตอ้ ง3. ครสู มุ่ ถามนักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ เกยี่ วกบั ความรทู ้ ไี่ ดจ้ ากการศกึ ษาและทาใบงานท่ี 1.2-1.7 เพอื่ ตรวจสอบความรขู ้ องนักเรยี น4. ครแู ละนักเรยี นชว่ ยกนั เฉลยคาตอบของใบงานท่ี 1.2-1.7 และชว่ ยกันสรปุ ลกั ษณะเดน่ ของภมู ปิ ระเทศในแตล่ ะภมู ภิ าค5. ครใู หน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ทาใบงานที่ 1.8 เรอื่ ง ทน่ี ปี่ ระเทศไทย6. ครสู มุ่ เรยี กตัวแทนกลมุ่ อา่ นคาถามและใหต้ วั แทนของแตล่ ะกลมุ่ เป็ นผตู ้ อบ โดยใหย้ กมอื ตอบ ครจู ะใหน้ ักเรยี นทย่ี กมอื กอ่ นเป็ นผตู ้ อบกอ่ น ครูเป็ นผเู ้ ฉลยคาตอบทถ่ี กู ตอ้ ง7. ครูและนักเรยี นชว่ ยกนั สรุป เรอ่ื ง ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศของประเทศไทยชว่ั โมงที่ 61. ครนู าภาพสถานทท่ี อ่ งเทยี่ วทม่ี ชี อื่ เสยี งของประเทศไทยใหน้ กั เรยี นดู แลว้ ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั บอก ชอื่ สถานท่ี อยใู่ นจังหวดั ใด มชี อ่ื เสยี งดา้ นใด มลี กั ษณะภมู ปิ ระเทศเดน่ อยา่ งไร ตัวอยา่ งภาพ เชน่ - ภกู ระดงึ จงั หวดั เลย เป็ นภเู ขาหนิ ทราย มยี อดราบพน้ื ทก่ี วา้ ง ในฤดหู นาว ประมาณเดอื นธันวาคม-มกราคม จะมอี ณุ หภมู ติ ่าลมแรง อากาศหนาว เป็ นสถานทท่ี อ่ งเทย่ี วสาคญั - ดอยอนิ ทนนท์ จังหวัดเชยี งใหม่ เป็ นยอดเขาทสี่ งู ทสี่ ดุ ของประเทศ อยจู่ ดุ สงู สดุ แดนสยาม สภาพท่ัวไปเป็ นภเู ขาหนิ แกรนติ ในชว่ งฤดหู นาวจะมนี ้าคา้ งแขง็ หรอื เหมยขาบ - น้าตกทลี อซู อยใู่ นเขตพนื้ ทเ่ี ขตรักษาพนั ธสุ์ ตั วป์ ่ าอมุ ้ ผาง จังหวดั ตาก มลี กั ษณะเป็ นน้าตก ภเู ขาหนิ ปนู ขนาดใหญ่ เป็ นน้าตกทมี่ ขี นาดใหญอ่ ันดับ 6 ของเอเชยี - แหลมพรหมเทพ จงั หวัดภเู กต็ เป็ นหาดทส่ี วยงาม เป็ นทน่ี ยิ มของนักทอ่ งเทย่ี วตา่ งชาติ และของคนไทย - หมเู่ กาะชา้ ง เกาะกดู จงั หวัดตราด เป็ นเกาะและหมเู่ กาะทมี่ จี านวนมากทสี่ ดุ ของภาคตะวันออก เป็ นแหลง่ ดาน้าทผ่ี คู ้ นนยิ มดาน้าดปู ะการัง - เกาะเกรด็ จงั หวดั นนทบรุ ี เป็ นเกาะกลางน้าทส่ี วยงาม มวี ถิ ชี วี ติ ของผคู ้ นตามแบบชาวมอญ2. ครอู ธบิ ายใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจวา่ ประเทศไทยมสี ถานทท่ี อ่ งเทยี่ วสาคญั ทเี่ กดิ จากสภาพภมู ปิ ระเทศ ทาใหเ้ ป็ นสถานทท่ี อ่ งเทย่ี วทส่ี าคัญ เป็ นทนี่ ยิ มของนกั ทอ่ งเทย่ี วทงั้ ในประเทศและตา่ งประเทศ3. ครูใหน้ ักเรยี นกลมุ่ เดมิ ร่วมมอื กันวเิ คราะหล์ กั ษณะเดน่ ของภมู ปิ ระเทศในภาคตา่ งๆ ของไทยและชว่ ยกนั หาภาพประกอบและสบื คน้ ขอ้ มลู เกยี่ วกบั ลกั ษณะภมู อิ ากาศและทรัพยากรธรรมชาตขิ องประเทศไทยเพอ่ื สะสมไวส้ าหรับทาโมบาย การวดั ผลและประเมนิ ผล วธิ กี าร เครอ่ื งมอื เกณฑ ์นักเรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยการ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรยี นรทู ้ ่ี รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์เรยี นรทู ้ ่ี 2 เรอื่ ง ภมู ศิ าสตรป์ ระเทศไทย 1 2 เรอ่ื ง ภมู ศิ าสตรป์ ระเทศไทย 1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์นักเรยี นทาใบงานท่ี 1.1 ใบงานที่ 1.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์นักเรยี นทาใบงานที่ 1.2 ใบงานท่ี 1.2 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์นักเรยี นทาใบงานท่ี 1.3 ใบงานที่ 1.3 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์นักเรยี นทาใบงานที่ 1.4 ใบงานท่ี 1.4 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์นักเรยี นทาใบงานที่ 1.5 ใบงานที่ 1.5 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์นักเรยี นทาใบงานท่ี 1.6 ใบงานท่ี 1.6

นักเรยี นทาใบงานท่ี 1.7 ใบงานท่ี 1.7 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์นักเรยี นทาใบงานท่ี 1.8 ใบงานท่ี 1.8 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สอ่ื / แหลง่ การเรยี นรู้สอ่ื การเรยี นรู้1. หนังสอื เรยี น ภมู ศิ าสตร์ ม.12. แผนทท่ี วปี เอเชยี แผนทปี่ ระเทศไทย แผนทโี่ ครงรา่ งประเทศไทย3. ลกู โลก4. ขา่ วหรอื ภาพเกยี่ วกับการตดิ ตอ่ บรเิ วณพรมแดนไทยกบั ประเทศเพอื่ นบา้ น5. ภาพสถานทท่ี อ่ งเทย่ี วของไทย เชน่ เกาะตะรุเตา อ. ปาย ดอยอนิ ทนนท์ น้าตกทลี อซู แหลมพรหมเทพ เกาะชา้ ง เกาะกดูเกาะเกรด็6. ใบงานท่ี 1.1 เรอื่ ง ทาเลทตี่ งั้ ของประเทศไทย7. ใบงานที่ 1.2 เรอ่ื ง ภมู ปิ ระเทศของภาคเหนอื8. ใบงานที่ 1.3 เรอ่ื ง ภมู ปิ ระเทศของภาคกลาง9. ใบงานที่ 1.4 เรอื่ ง ภมู ปิ ระเทศของภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื10. ใบงานท่ี 1.5 เรอื่ ง ภมู ปิ ระเทศของภาคตะวันออก11. ใบงานท่ี 1.6 เรอื่ ง ภมู ปิ ระเทศของภาคตะวันตก12. ใบงานที่ 1.7 เรอื่ ง ภมู ปิ ระเทศของภาคใต ้13. ใบงานท่ี 1.8 เรอื่ ง ทน่ี ปี่ ระเทศไทย14. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แหลง่ การเรยี นรู้ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 1 1. หอ้ งสมดุ เวลา 3 ชว่ั โมง 2. หนังสอื ภาพขา่ ว บทความเกย่ี วกบั ลักษณะภมู ปิ ระเทศของไทย 3. แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ - http://www1.mod.go.th/heritage/nation/geography/geo.htm - http://www1.mod.go.th/heritage/nation/geography/geo2.htm แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 ภมู ศิ าสตรป์ ระเทศไทย 2เรอ่ื ง ลกั ษณะทางประชากร สงั คม และวฒั นธรรมของไทย สาระสาคญั / ความคดิ รวบยอดลักษณะประชากรไทย สงั คมและวฒั นธรรมในแตล่ ะภาคของไทยมคี วามคลา้ ยคลงึ กนั และแตกตา่ งกัน อกี ทงั้ ยังมกี ารเปลย่ี นแปลงไปตามกระแสสงั คมยคุ ใหม่ ซง่ึ ทกุ คนควรใหค้ วามสาคญั และร่วมมอื กันอนุรกั ษ์ในสว่ นทด่ี งี าม ตวั ชว้ี ดั / จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ตวั ชวี้ ดั ส 5.1 ม.1/1 เลอื กใชเ้ ครอ่ื งมอื ทางภมู ศิ าสตร์ (ลกู โลก แผนท่ี กราฟ แผนภมู )ิ ในการสบื คน้ ขอ้ มลู เพอ่ื วเิ คราะหล์ กั ษณะทาง

กายภาพและสงั คมของประเทศไทยและทวปี เอเชยี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยีจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้1. เลอื กใชเ้ ครอ่ื งมอื ทางภมู ศิ าสตรใ์ นการสบื คน้ ขอ้ มลู ทางประชากร สงั คม และวฒั นธรรมของไทยได ้2. วเิ คราะหก์ ารเปลยี่ นแปลงประชากร สงั คม และวฒั นธรรมในประเทศไทยได ้ สาระการเรยี นรู้สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง1. เครอ่ื งมอื ทางภมู ศิ าสตร์ (ลกู โลก แผนที่ กราฟ แผนภมู ิ ฯลฯ) ทแ่ี สดงลกั ษณะทางกายภาพของประเทศไทย2. ลักษณะทางสงั คมของประเทศไทย สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี นความสามารถในการสอ่ื สารความสามารถในการคดิ- ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์- ทักษะการคดิ สงั เคราะห์ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ- กระบวนการทางานกลมุ่- กระบวนการปฏบิ ตั ิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์1. มงุ่ มัน่ ในการทางาน2. ภมู ใิ จในความเป็ นไทย กจิ กรรมการเรยี นรู้(วธิ สี อนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการกลมุ่ , กระบวนการคดิ วเิ คราะห)์นักเรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยการเรยี นรทู ้ ่ี 3 เรอื่ ง ภมู ศิ าสตรป์ ระเทศไทย 2ชว่ั โมงที่ 11. ครนู าภาพการแตง่ กายทเ่ี ป็ นเอกลกั ษณ์ของคนในภาคตา่ งๆ มาใหน้ ักเรยี นดู เชน่ ภาพการแตง่ กายของคนไทยมสุ ลมิ ในภาคใต ้ การแตง่ กายชดุ แบบลา้ นนา ภาพคนนงุ่ ผา้ ซนิ่ ของคนภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื และภาพคนใสช่ ดุ ทางานในเมอื ง เป็ นตน้และถามนกั เรยี นวา่ บคุ คลในภาพกาลังทาอะไร แสดงถงึ ความเป็ นเอกลกั ษณข์ องการดาเนนิ ชวี ติ หรอื การแตง่ กายของคนในภาคใด แลว้ ครูสรปุ การกระทาหรอื การแตง่ กายในภาพแสดงความเป็ นเอกลกั ษณ์ของไทยในภาคตา่ งๆ ทแี่ ตกตา่ งกันตามสภาพภมู ศิ าสตร์ ภมู อิ ากาศ และวถิ กี ารดาเนนิ ชวี ติ ของคนในแตล่ ะภาค2. ครูนาภาพแผนทปี่ ระเทศไทยแสดงความหนาแนน่ ของประชากรในจังหวัดตา่ งๆ มาใหน้ กั เรยี นดหู รอื ตารางแสดงจานวนประชากรปีปัจจบุ ันของไทย ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย หรอื ของสถาบันประชากรศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย แลว้ ตงั้ คาถามกบั นักเรยี น ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกันตอบ เชน่ - จังหวดั ใด มปี ระชากรมากทสี่ ดุ - จังหวดั ใด มปี ระชากรนอ้ ยทส่ี ดุ - จงั หวดั ใด มปี ระชากรอาศยั อยหู่ นาแนน่ มากทสี่ ดุ - จงั หวดั ใด ทม่ี ปี ระชากรอาศยั อยเู่ บาบางทส่ี ดุ ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันวเิ คราะหว์ า่ จงั หวดั ทมี่ ปี ระชากรอาศัยมากทสี่ ดุ นา่ จะเป็ น เพราะเหตใุ ด และจงั หวดั ทม่ี ปี ระชากรอาศัยนอ้ ย

ทสี่ ดุ น่าจะเป็ น เพราะเหตใุ ด3. ครอู ธบิ ายใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจวา่ จงั หวดั ทม่ี ปี ระชากรอาศัยอยมู่ าก สว่ นใหญเ่ ป็ นจงั หวดั ทม่ี คี วามเจรญิ มแี หลง่ งาน เชน่กรงุ เทพฯ เชยี งใหม่ สว่ นจงั หวดั ทมี่ ปี ระชากรอาศยั อยเู่ บาบาง เชน่ จงั หวดั แมฮ่ อ่ งสอน เนอื่ งจากลักษณะภมู ปิ ระเทศเป็ นภเู ขาสงู การคมนาคมไมส่ ะดวก ประกอบกบั ในฤดหู นาวอากาศหนาวจดั ทาใหป้ ระชากรอาศัยอยนู่ อ้ ย4. ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั อภปิ รายถงึ การกระจายตวั ของประชากรไทย โดยดแู ผนผังการเปรยี บเทยี บจานวนประชากรในภาคตา่ งๆ จากหนงั สอื เรยี นประกอบ5. ครใู หน้ ักเรยี นจับคกู่ นั และชว่ ยกันทาใบงานท่ี 1.1 เรอื่ ง ลกั ษณะประชากรไทย แลว้ ครแู ละนกั เรยี นชว่ ยกันเฉลยคาตอบของใบงานชว่ั โมงท่ี 21. ครูใหน้ กั เรยี นออกมาเลา่ ถงึ วถิ กี ารดาเนนิ ชวี ติ ของคนในทอ้ งถน่ิ ประเพณวี ฒั นธรรม การประกอบอาชพี ความเชอื่ ตา่ ง ๆ ของคนในจงั หวดั ทน่ี ักเรยี นมภี มู ลิ าเนาอยใู่ หเ้ พอื่ นฟัง2. นักเรยี นศกึ ษาลกั ษณะทางสงั คม และวฒั นธรรมของไทย จากผรู ้ ูห้ รอื จากแหลง่ การเรยี นรตู ้ า่ ง ๆ3. นักเรยี นแบง่ กลมุ่ เป็ น 8 กลมุ่ กลมุ่ ละเทา่ ๆ กนั ตามความสมคั รใจ แลว้ ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ศกึ ษาคน้ ควา้ ลกั ษณะทางสงั คมและวัฒนธรรมของไทยในภาคตา่ ง ๆ ดงั น้ี - กลมุ่ ที่ 1 และกลมุ่ ที่ 5 ศกึ ษาลกั ษณะทางสงั คมและวฒั นธรรมของภาคเหนอื - กลมุ่ ท่ี 2 และกลมุ่ ที่ 6 ศกึ ษาลกั ษณะทางสงั คมและวัฒนธรรมของภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื - กลมุ่ ท่ี 3 และกลมุ่ ท่ี 7 ศกึ ษาลกั ษณะทางสงั คมและวัฒนธรรมของภาคกลาง - กลมุ่ ท่ี 4 และกลมุ่ ที่ 8 ศกึ ษาลกั ษณะทางสงั คมและวฒั นธรรมของภาคใต ้4. ครแู นะนานักเรยี นเกย่ี วกบั แหลง่ ขอ้ มลู ทจ่ี ะศกึ ษาคน้ ควา้ การวางแผนการทางานกลมุ่ การนาเสนอผลงานกลมุ่ จะตอ้ งมกี ารแสดงออกถงึ เอกลกั ษณ์ทางวฒั นธรรมของภาคทก่ี ลมุ่ ศกึ ษา และควรมสี อื่ หรอื ภาพประกอบการนาเสนอผลงานชว่ั โมงท่ี 31. ครูสอบถามถงึ การทางานของแตล่ ะกลมุ่ วา่ ประสบความสาเรจ็ หรอื มอี ปุ สรรคอะไรบา้ ง และชว่ ยกันแกป้ ัญหาอยา่ งไร2. ตวั แทนกลมุ่ ออกมานาเสนอผลงานกลมุ่ ครชู มเชยการทางานของแตล่ ะกลมุ่ และชว่ ยชแี้ นะขอ้ บกพรอ่ งเพอื่ นักเรยี นจะได ้นาไปพฒั นาตอ่ ไป3. ครแู ละนักเรยี นชว่ ยกันสรปุ ความรูท้ ไ่ี ดจ้ ากการนาเสนอผลงาน4. ครูและนักเรยี นชว่ ยกนั วเิ คราะหก์ ารเปลยี่ นแปลงทางสงั คมและวฒั นธรรมในปัจจบุ นั วเิ คราะหถ์ งึ ขอ้ ดี และขอ้ เสยี5. นักเรยี นกลมุ่ เดมิ ชว่ ยกนั ทาใบงานท่ี 1.2 เรอื่ ง ลกั ษณะทางสงั คมและวฒั นธรรมของไทย และชว่ ยกันเฉลยคาตอบในใบงาน การวดั ผลและประเมนิ ผล วธิ กี าร เครอ่ื งมอื เกณฑ ์นักเรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยการเรยี นรทู ้ ่ี 3 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์เรยี นรทู ้ ี่ 3 เรอ่ื ง ภมู ศิ าสตรป์ ระเทศไทย 2 เรอ่ื ง ภมู ศิ าสตรป์ ระเทศไทย 2นักเรยี นทาใบงานที่ 1.1 ใบงานที่ 1.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์นักเรยี นทาใบงานที่ 1.2 ใบงานท่ี 1.2 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์นักเรยี นนาเสนอผลงานกลมุ่ แบบประเมนิ การนาเสนอผลงานกลมุ่ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สอ่ื / แหลง่ การเรยี นรู้

สอื่ การเรยี นรู้1. หนังสอื เรยี น ภมู ศิ าสตร์ ม.12. แผนทป่ี ระเทศไทยแสดงความหนาแน่นของประชากรไทย3. สถติ ปิ ระชากรไทยปีปัจจบุ นั4. ภาพการแตง่ กายของคนภาคตา่ งๆ ในประเทศไทย5. ใบงานท่ี 1.1 เรอ่ื ง ลกั ษณะประชากรไทย6. ใบงานท่ี 1.2 เรอ่ื ง ลกั ษณะทางสงั คมและวฒั นธรรมของไทย แหลง่ การเรยี นรู้ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปี ท่ี 1 1. หอ้ งสมดุ เวลา 2 ชว่ั โมง 2. แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ - th.wikipedia.org/wiki/ประเทศไทย - guru.sanook.com/search/สงั คมและวฒั นธรรมไทย - http://www.isaansmile.com/forum/bbs/viewthread.php?tid=1 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เครอ่ื งมอื ทางภมู ศิ าสตร์ และการแบง่ เขตเวลาของโลกเรอ่ื ง การแบง่ เขตเวลาของโลก สาระสาคญั / ความคดิ รวบยอดการแบง่ เขตเวลาของโลก ทาใหส้ ามารถเทยี บเวลาประเทศตา่ งๆ ไดท้ ่ัวโลก เพอื่ ประโยชนใ์ นการตดิ ตอ่ สมั พนั ธก์ นั ทงั้ ในดา้ นการเดนิ ทาง การคา้ การเดนิ เรอื การบนิ ตวั ชว้ี ดั / จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ตวั ชวี้ ดั ส 5.1 ม.1/2 อธบิ ายเสน้ แบง่ เวลาและเปรยี บเทยี บวัน เวลา ของประเทศไทยกับทวปี ตา่ งๆจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้1. บอกความสาคญั ของการแบง่ เขตเวลาของโลกได ้2. ระบเุ ขตภาคเวลาของโลกได ้3. บอกความแตกตา่ งของเวลามาตรฐานสากลกบั เวลาทอ้ งถนิ่ ได ้4. เปรยี บเทยี บวนั เวลา ของประเทศไทยกบั ทวปี ตา่ ง ๆ ได ้ สาระการเรยี นรู้สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง1. เสน้ แบง่ เวลาของประเทศไทยกบั ทวปี ตา่ งๆ2. ความแตกตา่ งของเวลามาตรฐานกบั เวลาทอ้ งถนิ่ สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี นความสามารถในการสอื่ สารความสามารถในการคดิ

- ทักษะการคดิ วเิ คราะห์ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ- กระบวนการปฏบิ ตั ิ- กระบวนการทางานกลมุ่ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์1. มวี นิ ัย2. มงุ่ มน่ั ในการทางาน กจิ กรรมการเรยี นรู้(วธิ สี อนแบบบรรยาย วธิ สี อนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการคดิ วเิ คราะห)์ชว่ั โมงที่ 11. ครสู นทนากบั นักเรยี นดว้ ยการสนทนาเกยี่ วกบั รายการโทรทศั น์ การถา่ ยทอดการแขง่ ขนั ฟตุ บอลในทวปี ยโุ รป โดยครูช้ีประเด็นใหน้ ักเรยี นเห็นวา่ การถา่ ยทอดสดในตอนกลางคนื ของประเทศเราแตใ่ นสนามฟตุ บอลกลับมแี สงแดด2. ครอู ธบิ ายใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจวา่ เวลาของประเทศไทยกับประเทศในยโุ รปไมต่ รงกนั เนอื่ งจากโลกมสี ณั ฐานเป็ นทรงกลมไดร้ ับแสงสวา่ งจากดวงอาทติ ยไ์ มพ่ รอ้ มกนั ความมดื ความสวา่ งจะหมนุ เวยี นเปลยี่ นกนั ไปตามการหมนุ รอบตัวเองของโลกจากทศิ ตะวันตกไปทศิ ตะวันออก จงึ ทาใหต้ าแหนง่ ทอ่ี ยทู่ างทศิ ตะวนั ออกจะเห็นดวงอาทติ ยก์ อ่ นทางทศิ ตะวันตก3. ครนู าแผนทแ่ี สดงเขตเวลาของโลกมาใหน้ กั เรยี นดู และใหน้ ักเรยี นศกึ ษาจากหนังสอื เรยี นประกอบ แลว้ อธบิ ายถงึ เวลาของประเทศตา่ งๆ ในโลก พรอ้ มทัง้ ชว่ ยกันสรปุ ถงึ ความสาคญั ของการแบง่ เวลาของโลก แลว้ ครสู รปุ สาระสาคัญใหน้ ักเรยี นฟัง4. ครอู ธบิ ายการกาหนดเขตภาคเวลา เวลามาตรฐาน และความแตกตา่ งของเวลามาตรฐานสากลกบั เวลาทอ้ งถนิ่5. ครูนานกั เรยี นฝึกการเทยี บวนั เวลา ของประเทศตา่ งๆ ในโลก โดยใชแ้ ผนทแี่ สดงเขตเวลาของโลกประกอบการฝึกเทยี บวนัเวลาของประเทศตา่ งๆ ในโลก ฝึกการเทยี บเวลากับประเทศเพอื่ นบา้ นของไทยกอ่ น เชน่ ประเทศไทยกับมาเลเซยี ไทยกบัสงิ คโปร์ ไทยกับกัมพชู า ไทยกับลาว จากนัน้ เทยี บเวลากับประเทศในทวปี ยโุ รป ทวปี อเมรกิ า ทวปี ออสเตรเลยีชว่ั โมงที่ 21. ครูใหน้ ักเรยี นดแู ผนทแี่ สดงเขตเวลาของโลก และสมุ่ เรยี กนักเรยี นออกมาเทยี บเวลาของประเทศตา่ งๆ ทกี่ าหนด2. นักเรยี นจับคกู่ นั แลว้ ชว่ ยกันทาใบงานที่ 2.1 เรอื่ ง ฝึกเทยี บเวลารอบโลก จากนัน้ ครแู ละนักเรยี นร่วมกันเฉลยคาตอบทถี่ กู ตอ้ ง3. ครแู ละนักเรยี นชว่ ยกันสรปุ สาระสาคญั ของการแบง่ เขตเวลาของโลก และอภปิ รายความรจู ้ ากการเรยี นในหนว่ ยการเรยี นรนู ้ ี้4. นักเรยี นแบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ 4-6 คน ตามความสมคั รใจ สาธติ การใชเ้ ครอ่ื งมอื ทางภมู ศิ าสตรต์ ามประเด็นตอ่ ไปนี้ - การใชเ้ ครอ่ื งมอื ทางภมู ศิ าสตรใ์ นการศกึ ษาลกั ษณะทางกายภาพของประเทศไทย ทวปี เอเชยี ออสเตรเลยี และโอเชยีเนยี - การวเิ คราะหข์ อ้ มลู จากเครอ่ื งมอื ทางภมู ศิ าสตร์ - การเปรยี บเทยี บวนั เวลา กบั ประเทศตา่ งๆ5. ครแู นะนาใหน้ ักเรยี นนาความรทู ้ ไี่ ดจ้ ากการเรยี นในหนว่ ยนไี้ ปใชใ้ นการดาเนนิ ชวี ติ ประจาวันนักเรยี นทาแบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรยี นรทู ้ ่ี 1 เรอื่ ง เครอ่ื งมอื ทางภมู ศิ าสตร์ และการแบง่ เขตเวลาของโลก

การวดั ผลและประเมนิ ผล วธิ กี าร เครอ่ื งมอื เกณฑ ์นักเรยี นทาใบงานที่ 2.1 ใบงานท่ี 2.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์นักเรยี นสาธติ การใชเ้ ครอื่ งมอื ทาง แบบประเมนิ การสาธติ การใชเ้ ครอ่ื งมอื ทาง ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ภมู ศิ าสตร์ ภมู ศิ าสตร์นักเรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรยี นหน่วย แบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยการเรยี นรทู ้ ่ี รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์การ 1เรยี นรทู ้ ่ี 1 เรอ่ื ง เครอ่ื งมอื ทางภมู ศิ าสตร์ เรอื่ ง เครอื่ งมอื ทางภมู ศิ าสตรแ์ ละการแบง่และ เขตการแบง่ เขตเวลาของโลก เวลาของโลก สอ่ื / แหลง่ การเรยี นรู้สอ่ื การเรยี นรู้1. หนังสอื เรยี น ภมู ศิ าสตร์ ม.12. แผนทแ่ี สดงเขตภาคเวลาของโลก3. ใบงานที่ 2.1 เรอื่ ง ฝึกเทยี บเวลารอบโลก แหลง่ การเรยี นรู้ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 1 1. หอ้ งสมดุ เวลา 2 ชว่ั โมง 2. แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ - http://earth.google.com/ - http://maps.google.co.th/ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 2หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 ภมู ศิ าสตรป์ ระเทศไทย 1เรอื่ ง ลกั ษณะภมู อิ ากาศและทรพั ยากรธรรมชาตขิ องไทย สาระสาคญั / ความคดิ รวบยอดลักษณะภมู อิ ากาศ มอี ทิ ธพิ ลสาคญั ตอ่ การเกดิ พชื พรรณธรรมชาติ สภาพเศรษฐกจิ ของประเทศไทยและการดาเนนิ ชวี ติ ของประชากรไทย ตวั ชวี้ ดั / จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ตวั ชว้ี ดั ส 5.1 ม.1/1 เลอื กใชเ้ ครอ่ื งมอื ทางภมู ศิ าสตร์ (ลกู โลก แผนที่ กราฟ แผนภมู )ิ ในการสบื คน้ ขอ้ มลู เพอื่ วเิ คราะหล์ กั ษณะทางกายภาพและสงั คมของประเทศไทย และทวปี เอเชยี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยีจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้1. วเิ คราะหล์ กั ษณะภมู อิ ากาศของไทยได ้2. ยกตวั อยา่ งทรัพยากรทส่ี าคญั ของไทยและบอกแนวทางการใชท้ รัพยากรของคนในชมุ ชนได ้

สาระการเรยี นรู้สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง1. เครอ่ื งมอื ทางภมู ศิ าสตร์ (ลกู โลก แผนท่ี กราฟ แผนภมู ิ ฯลฯ)2. ลักษณะทางกายภาพของประเทศไทย สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี นความสามารถในการสอ่ื สารความสามารถในการคดิ- ทักษะการคดิ วเิ คราะห์- ทกั ษะการคดิ สงั เคราะห์- ทักษะการคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ- กระบวนการปฏบิ ตั ิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์1. มงุ่ มัน่ ในการทางาน2. มจี ติ สาธารณะ กจิ กรรมการเรยี นรู้(วธิ สี อนแบบบรรยาย วธิ สี อนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการคดิ วเิ คราะห)์ชว่ั โมงที่ 11. ครูสนทนากบั นักเรยี นเกย่ี วกบั ลกั ษณะภมู อิ ากาศในวนั น้ี เชน่ ถา้ เป็ นชว่ งฤดรู อ้ น ครสู นทนาเกย่ี วกบั อากาศทร่ี อ้ น เมอ่ื ทากจิ กรรมใดๆ ก็จะมเี หงอ่ื ออกมาไดง้ ่าย เวลาจะออกนอกอาคารจะตอ้ งเตรยี มรม่ ไปดว้ ย เพอ่ื ป้องกันแสงแดด เสอ้ื ผา้ ทส่ี วมใส่ควรจะเป็ นผา้ ทบี่ างๆ สวมใสไ่ ดส้ บายๆ2. ครูนาภาพตัวอยา่ ง เชน่ ฝนตก หมิ ะตก คนใสก่ างเกงขาสนั้ เสอ้ื กลา้ ม คนใสเ่ สอื้ กันหนาว เป็ นตน้ ใหน้ ักเรยี นดู แลว้ ให ้นักเรยี นชว่ ยกนั บอกวา่ จากภาพดงั กลา่ ว ภาพใดเป็ นภาพทแี่ สดงถงึ ลกั ษณะภมู อิ ากาศของไทย นักเรยี นชว่ ยกันตอบและวเิ คราะหส์ ภาพอากาศของภาพดงั กลา่ ว3. ครอู ธบิ ายใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจวา่ ภาพฝนตก คนใสเ่ สอ้ื กนั ฝน คนใสเ่ สอ้ื กนั หนาว แสดงถงึ ลกั ษณะของอากาศในประเทศไทยสว่ นภาพหมิ ะตก เป็ นลกั ษณะภมู อิ ากาศของประเทศอน่ื4. ครูใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั ยกตัวอยา่ งสภาพอากาศของไทย ทนี่ ักเรยี นไดป้ ระสบมาในชวี ติ ประจาวัน การเตรยี มความพรอ้ มของรา่ งกาย อปุ กรณ์ป้องกนั ตา่ งๆ จากสภาพภมู อิ ากาศ และการแตง่ กายใหเ้ หมาะกับลกั ษณะภมู อิ ากาศ เป็ นตน้ ครอู ธบิ ายลกั ษณะภมู อิ ากาศของไทยวา่ ประเทศไทยมี 3 ฤดกู าล ไดแ้ ก่ ฤดหู นาว ฤดฝู น และฤดรู อ้ น สว่ นในภาคใต ้ มี 2 ฤดู คอื ฤดรู อ้ น กับฤดูฝน5. ครอู ธบิ ายเกย่ี วกบั ภมู อิ ากาศของไทย โดยใชแ้ ผนทป่ี ระเทศไทยแสดงลักษณะภมู อิ ากาศประกอบการอธบิ าย จากนัน้ อธบิ ายเกย่ี วกบั ฤดกู าลของประเทศไทย โดยท่วั ไปมี 3 ฤดกู าล คอื ฤดฝู น เกดิ ขนึ้ ในชว่ งระหวา่ งกลางเดอื นพฤษภาคมถงึ กลางเดอื นตลุ าคม ฤดหู นาว อยใู่ นชว่ งระหวา่ ง กลางเดอื นพฤศจกิ ายนถงึ กลางเดอื นกมุ ภาพันธ์ ฤดรู อ้ น อยใู่ นชว่ งเดอื นกมุ ภาพนั ธถ์ งึ เดอื นพฤษภาคม ครอู ธบิ ายการเกดิ ฤดกู าลตา่ งๆ ในประเทศไทย พรอ้ มทัง้ แนะนาวธิ กี ารเตรยี มพรอ้ มรับกบั การเปลยี่ นแปลงสฤู่ ดกู าลตา่ ง ๆ6. ครนู าขา่ วเกยี่ วกับสภาพภมู อิ ากาศในแตล่ ะภาคของประเทศไทยมาเลา่ ใหน้ กั เรยี นฟัง แลว้ ใหน้ ักเรียนตอบคาถามเกยี่ วกบัสาเหตขุ องความแตกตา่ งของภมู อิ ากาศของแตล่ ะภาค7. ครชู แ้ี จงใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจวา่ การทปี่ ระเทศไทยมลี กั ษณะภมู อิ ากาศทแ่ี ตกตา่ งกันนท้ี าใหม้ ที รัพยากรธรรมชาตติ า่ งๆ มากมาย

และกลายเป็ นสถานทท่ี อ่ งเทย่ี วสาคญั เชน่ ในชว่ งฤดหู นาว ในภาคเหนอื จะมดี อกไมน้ านาชนดิ มคี วามสวยงาม ประกอบกับอากาศทหี่ นาว ทาใหม้ ผี คู ้ นเดนิ ทางไปทอ่ งเทย่ี วภาคเหนอื กนั มากมาย8. ครใู หน้ ักเรยี นแตล่ ะคนทาใบงานท่ี 2.1 เรอื่ ง ลกั ษณะภมู อิ ากาศทฉ่ี ันชอบ โดยใหน้ ักเรยี นเขยี นบรรยายสภาพภมู อิ ากาศท่ีตนเองชน่ื ชอบ พรอ้ มทงั้ บอกเหตผุ ลประกอบ จากนัน้ ใหน้ ักเรยี น 3-4 คน ออกมานาเสนอผลงาน โดยคนทน่ี าเสนอผลงานนัน้จะตอ้ งชอบลกั ษณะภมู อิ ากาศทแ่ี ตกตา่ งกนั9. ครแู ละนักเรยี นชว่ ยกันสรปุ ความรเู ้ กยี่ วกบั ลกั ษณะภมู อิ ากาศของไทย และอทิ ธพิ ลของภมู อิ ากาศตอ่ การดาเนนิ ชวี ติ ของประชากรในแตล่ ะทอ้ งถนิ่10. นักเรยี นจบั คกู่ นั และชว่ ยกนั ทาใบงานที่ 2.2 เรอื่ ง ลักษณะภมู อิ ากาศของไทย จากนัน้ ครแู ละนักเรยี นชว่ ยกนั เฉลยคาตอบของใบงานชว่ั โมงที่ 21. ครูนาภาพป่ าไม ้ เชน่ ป่ าไมใ้ นภาคเหนอื ป่ าไมใ้ นภาคใต ้ เชน่ ป่ าพรุ ป่ าดบิ ภาพแหลง่ น้า มาใหน้ ักเรยี นดแู ลว้ ชว่ ยกันวเิ คราะหล์ กั ษณะป่ าไม ้ แหลง่ น้าของไทย ครูอธบิ ายเชอ่ื มโยงเกย่ี วกบั ความอดุ มสมบรู ณข์ องทรัพยากรของไทย แลว้ ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั ยกตวั อยา่ งทรัพยากรธรรมชาตขิ องไทย2. ครอู ธบิ ายถงึ ลกั ษณะท่วั ไปของทรัพยากรธรรมชาตทิ ส่ี าคญั ไดแ้ ก่ ทรัพยากรดนิ ทรัพยากรป่ าไม ้ ทรัพยากรแร่ ทรัพยากรน้าและใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันวเิ คราะหส์ ถานการณ์ปัจจบุ ันของทรพั ยากรธรรมชาตขิ องไทย3. ครอู ธบิ ายความรเู ้ กย่ี วกับทรัพยากรดนิ ทป่ี รากฏในภมู ภิ าคตา่ งๆ ของไทย ไดแ้ ก่ ดนิ เหนยี ว พบท่วั ไปบรเิ วณทร่ี าบของแมน่ ้าสายตา่ งๆ ทร่ี าบดนิ ดอนสามเหลยี่ มปากแมน่ ้า เหมาะแกก่ ารเพาะปลกู เชน่ ปลกู ขา้ ว สว่ นดนิ ร่วน พบท่วั ไปบรเิ วณทเี่ ป็ นดอนโคก เนนิ เหมาะแกก่ ารปลกู พชื ไร่ ขา้ วโพด ออ้ ย เป็ นตน้ สว่ นดนิ ทรายใชป้ ระโยชนใ์ นการปลกู พชื สวนทม่ี รี ะบบการชลประทานทดี่ เี นอื่ งจากดนิ ทรายไมอ่ มุ ้ น้า นอกจากนยี้ งั มดี นิ ทเ่ี ป็ นพรุ เหมาะในการเป็ นทงุ่ หญา้ เลย้ี งสตั ว์4. ครนู าสถติ เิ กย่ี วกบั พน้ื ทป่ี ่ าไมข้ องประเทศไทย ประมาณ 5-10 ปี มาเลา่ ใหน้ ักเรยี นฟัง แลว้ นักเรยี นชว่ ยกนั วเิ คราะหถ์ งึ การลดลงของป่ าไม ้ เชน่ เกดิ จากการบกุ รกุ พน้ื ทท่ี ากนิ การลกั ลอบตดั ไมท้ าลายป่ า เป็ นตน้ ซงึ่ เกดิ จากการกระทาของมนุษย์5. นักเรยี นชว่ ยกนั ยกตวั อยา่ งประเภทของป่ าไมท้ ม่ี อี ยใู่ นปัจจบุ นั ของไทย และยกตวั อยา่ งชอ่ื ไมส้ าคัญทน่ี ักเรยี นรจู ้ ัก6. ครอู ธบิ ายใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจวา่ ป่ าไมท้ มี่ อี ยใู่ นเมอื งไทย แบง่ ออกเป็ น ป่ าไมผ้ ลดั ใบ และป่ าไมไ้ มผ่ ลดั ใบ ป่ าไมไ้ มผ่ ลดั ใบเป็ นป่ าทม่ี คี วามเขยี วชอมุ่ ตลอดทงั้ ปี เนอ่ื งจากไดร้ ับปรมิ าณน้าฝนตลอดทงั้ ปี พบมากในภาคใต ้ ป่ าประเภทน้ี เชน่ ป่ าดบิ ป่ าสนเขา ป่ าชายเลน พบมากในภาคตะวนั ออก และภาคใต ้ สว่ นป่ าไมผ้ ลดั ใบ ขนึ้ อยใู่ นทท่ี มี่ อี ากาศแหง้ แลง้ กอ่ นเขา้ สหู่ นา้ แลง้ จะผลัดใบ ป่ าทพ่ี บมาก ไดแ้ ก่ ป่ าเบญจพรรณ เป็ นตน้7. ครูนาบตั รคาหรอื บตั รภาพป่ าไมต้ า่ ง ๆ มาใหน้ ักเรยี นดู และชว่ ยกันทายชอื่ ตน้ ไมส้ าคญั หรอื ป่ าไม ้ และบอกวา่ เป็ นป่ าประเภทใด มลี กั ษณะเดน่ อยา่ งไร ตัวอยา่ งเชน่ ครยู กบตั รคาหรอื บตั รภาพป่ าสกั และถามนักเรยี นวา่ - เป็ นป่ าประเภทใด - ตน้ ไมส้ าคญั ของป่ านี้ คอื อะไร - ป่ านมี้ ลี กั ษณะสาคญั อยา่ งไร แนวการตอบ - เป็ นป่ าไมผ้ ลดั ใบ ตน้ ไมท้ สี่ าคญั คอื ไมส้ กั ป่ านม้ี ลี กั ษณะสาคญั คอื พบไมย้ นื ตน้ สงู มคี ณุ คา่ ทางเศรษฐกจิ พบมากในภาคเหนอื เป็ นตน้8. ครใู หน้ กั เรยี นชว่ ยกนั ยกตัวอยา่ งทรัพยากรธรรมชาตอิ นื่ เพมิ่ เตมิ เชน่ ทรัพยากรน้า ทรัพยากรแร่ และชว่ ยกนั วเิ คราะห์สถานการณป์ ัจจบุ นั ของทรัพยากรเหลา่ นัน้ จากนัน้ ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกันบอกแนวทางการใชท้ รพั ยากรธรรมชาตแิ ละการอนรุ ักษ์เพอื่การมใี ชท้ ย่ี าวนาน9. นักเรยี นทาใบงานที่ 2.3 เรอื่ ง ทรพั ยากรธรรมชาตขิ องไทย เป็ นการบา้ น แลว้ นาสง่ ครู ครูตรวจใบงานแลว้ เลอื กผลงานทดี่ ีตดิ ป้ายนเิ ทศ10. นักเรยี นกลมุ่ เดมิ ในแผนการจดั การเรยี นรทู ้ ่ี 1 ชว่ ยกันรวบรวมภาพเกยี่ วกบั ลกั ษณะของภมู อิ ากาศและทรพั ยากรธรรมชาตใิ น

ภาคตา่ งๆ ของประเทศไทย ตอ่ จากทเี่ คยรวบรวมไวใ้ นเรอ่ื ง ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศในภาคตา่ งๆ ของไทย แลว้ ชว่ ยกนั เขยี นบรรยายแสดงถงึ การวเิ คราะหล์ กั ษณะเดน่ ของภมู อิ ากาศ และทรัพยากรธรรมชาตใิ นแตล่ ะภาค แลว้ นาไปตดิ บนกระดาษแขง็หรอื วัสดตุ า่ งๆ เชน่ ขวดพลาสตกิ ทใ่ี ชแ้ ลว้ จัดทาเป็ นโมบาย Unseen Thailandแขวนไวท้ ฝี่ าผนัง ตกแตง่ ใหส้ วยงามโดยใช ้คอมพวิ เตอรช์ ว่ ยในการออกแบบและตกแตง่ ชน้ิ งานนักเรยี นทาแบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรยี นรทู ้ ่ี 2 เรอื่ ง ภมู ศิ าสตรป์ ระเทศไทย 1 การวดั ผลและประเมนิ ผล วธิ กี าร เครอ่ื งมอื เกณฑ ์นักเรยี นทาใบงานท่ี 2.1 ใบงานท่ี 2.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์นักเรยี นทาใบงานท่ี 2.2 ใบงานท่ี 2.2 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์นักเรยี นทาใบงานท่ี 2.3 ใบงานที่ 2.3 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์นักเรยี นทาโมบาย Unseen Thailandเรอื่ ง แบบประเมนิ โมบาย Unseen Thailand ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ภมู ศิ าสตรป์ ระเทศไทย เรอื่ ง ภมู ศิ าสตรป์ ระเทศไทย รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์นักเรยี นทาแบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยการ แบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยการเรยี นรทู ้ ่ีเรยี นรทู ้ ี่ 2 เรอ่ื ง ภมู ศิ าสตรป์ ระเทศไทย 1 2 เรอื่ ง ภมู ศิ าสตรป์ ระเทศไทย 1 สอื่ / แหลง่ การเรยี นรู้สอ่ื การเรยี นรู้1. หนังสอื เรยี น ภมู ศิ าสตร์ ม.12. แผนทแี่ สดงลกั ษณะภมู อิ ากาศของไทย3. ภาพเกย่ี วกับลักษณะภมู อิ ากาศ เชน่ ฝนตก คนแตง่ ตัวแบบสบาย ๆ สวมเสอ้ื กลา้ มกางเกงขาสนั้ คนใสเ่ สอ้ื กนั ฝน คนใสเ่ สอื้กันหนาว4. ภาพป่ าไมใ้ นภาคตา่ ง ๆ5. บัตรคาหรอื บัตรภาพป่ าไม ้6. ขอ้ มลู สถติ ปิ ่ าไมข้ องไทย7. ขา่ วพยากรณอ์ ากาศ8. ใบงานท่ี 2.1เรอื่ ง ลกั ษณะภมู อิ ากาศทฉี่ ันชอบ9. ใบงานที่ 2.2เรอื่ ง ลกั ษณะภมู อิ ากาศของไทย10. ใบงานที่ 2.3เรอื่ ง ทรัพยากรธรรมชาตขิ องไทยแหลง่ การเรยี นรู้1. หอ้ งสมดุ2. แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ - http://www1.mod.go.th/heritage/nation/geography/geo.htm - http://www1.mod.go.th/heritage/nation/geography/geo2.htm แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 2

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 ภมู ศิ าสตรป์ ระเทศไทย 2 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปี ท่ี 1เรอื่ ง ลกั ษณะทางเศรษฐกจิ ของไทย เวลา 4 ชว่ั โมง สาระสาคญั / ความคดิ รวบยอดทาเลทตี่ งั้ ลกั ษณะทางกายภาพ การเปลย่ี นแปลงทางธรรมชาติ สงั คมและวฒั นธรรม มอี ทิ ธพิ ลตอ่ กจิ กรรมทางเศรษฐกจิ ของประชากรไทย และการพฒั นาเศรษฐกจิ ของประเทศ ตวั ชวี้ ดั / จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ตวั ชวี้ ดั ส 5.1 ม.1/1 เลอื กใชเ้ ครอ่ื งมอื ทางภมู ศิ าสตร์ (ลกู โลก แผนที่ กราฟ แผนภมู )ิ ในการสบื คน้ ขอ้ มลู เพอ่ื วเิ คราะหล์ กั ษณะทาง กายภาพและสงั คมของประเทศไทยและทวปี เอเชยี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยีจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้1. อธบิ ายลกั ษณะทว่ั ไปทางเศรษฐกจิ ของไทยได ้2. วเิ คราะหท์ าเลทต่ี งั้ กจิ กรรมทางเศรษฐกจิ ของประเทศไทยตอ่ การพฒั นาเศรษฐกจิ ของประเทศได ้3. วเิ คราะหก์ ารเปลย่ี นแปลงทางเศรษฐกจิ ของไทยในปัจจบุ ันได ้4. วเิ คราะหก์ ารเกดิ สง่ิ แวดลอ้ มใหมท่ างสงั คมได ้ สาระการเรยี นรู้สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง1. เครอื่ งมอื ทางภมู ศิ าสตร์ (ลกู โลก แผนที่ กราฟ แผนภมู ิ ฯลฯ) ทแี่ สดงลกั ษณะทางกายภาพของประเทศไทย2. ลกั ษณะทางสงั คมของประเทศไทย สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี นความสามารถในการสอ่ื สารความสามารถในการคดิ- ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์- ทักษะการคดิ สงั เคราะห์ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ- กระบวนการปฏบิ ตั ิ- กระบวนการทางานกลมุ่ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์1. มงุ่ มั่นในการทางาน2. ภมู ใิ จในความเป็ นไทย กจิ กรรมการเรยี นรู้(วธิ สี อนแบบบรรยาย วธิ สี อนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการคดิ วเิ คราะห)์ชว่ั โมงที่ 1

1. ครนู าขา่ วเศรษฐกจิ ประจาวนั มาเลา่ ใหน้ ักเรยี นฟัง แลว้ ร่วมกันอภปิ รายถงึ เศรษฐกจิ ไทยในปัจจบุ ัน2. ครนู าขอ้ มลู สถติ กิ ารคา้ ของไทยกบั ตา่ งประเทศ มาใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั วเิ คราะหเ์ ปรยี บเทยี บสนิ คา้ สง่ ออกและสนิ คา้ นาเขา้ของไทย และสรปุ ภาพรวมการคา้ ของไทย3. ครูนาแผนทป่ี ระเทศไทยแสดงการเพาะปลกู พชื เศรษฐกจิ ทสี่ าคญั มาใหน้ ักเรยี นดแู ละอธบิ ายถงึ แหลง่ เพาะปลกู ทส่ี าคญั ของไทย ปัจจัยสาคัญทที่ าใหป้ ระเทศไทยเป็ นแหลง่ เพาะปลกู ทส่ี าคญั ของโลก และใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันยกตวั อยา่ งอาชพี ของคนไทยทส่ี ามารถสง่ เป็ นสนิ คา้ ออกไดน้ อกจากอาชพี การเพาะปลกู เชน่ อาชพี การเลย้ี งสตั ว์ การทาประมง และใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันยกตวั อยา่ งสตั วเ์ ลย้ี งสาคัญและแหลง่ เลยี้ งทส่ี าคัญ4. ครอู ธบิ ายเกยี่ วกับ การเลยี้ งสตั วเ์ ศรษฐกจิ ทส่ี าคัญและการแปรรปู ผลผลติ ภณั ฑจ์ ากสตั ว์ เชน่ สตั วน์ ้าแชแ่ ขง็ เป็ นตน้ และให ้นักเรยี นยกตวั อยา่ งสตั วน์ ้าสาคญั ของไทยทเ่ี ป็ นสตั วเ์ ศรษฐกจิ และแหลง่ ประมงทสี่ าคญั ครอู ธบิ ายเพม่ิ เตมิ เกย่ี วกบั การเพาะปลกู และเลย้ี งสตั ว์ แหลง่ เลย้ี งสตั วท์ สี่ าคญั และนอกจากนยี้ งั มอี าชพี อนื่ อกี เชน่ การทาป่ าไม ้5. ครมู อบหมายใหน้ ักเรยี นทกุ คนไปศกึ ษา เรอื่ ง อตุ สาหกรรมในประเทศไทย จากหนังสอื เรยี นชว่ั โมงที่ 21. ครูทบทวนความรูน้ ักเรยี นดว้ ยการถามเกย่ี วกบั พชื เศรษฐกจิ และสตั วเ์ ศรษฐกจิ ของไทย พรอ้ มทงั้ แหลง่ เพาะปลกู และแหลง่เลยี้ งสตั วท์ สี่ าคญั ครอู ธบิ ายเพม่ิ เตมิ วา่ นอกจากอาชพี เกษตรกรรมแลว้ ประเทศไทยยงั มอี ตุ สาหกรรมทส่ี รา้ งรายไดใ้ หก้ ับประเทศ และใหน้ กั เรยี นยกตวั อยา่ งอตุ สาหกรรมทส่ี าคญั ของไทย2. ครอู ธบิ ายความรเู ้ กยี่ วกบั อตุ สาหกรรมสาคญั ของประเทศ และยกตวั อยา่ งยา่ นอตุ สาหกรรมทส่ี าคญั เชน่ บรเิ วณจงั หวดัสมทุ รปราการ แหลมฉบงั จงั หวดั ชลบรุ ี มาบตาพดุ จงั หวดั ระยอง นวนคร จงั หวดั ปทมุ ธานี และใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั วเิ คราะห์แหลง่ ทต่ี งั้ โรงงานอตุ สาหกรรมในประเทศสว่ นใหญอ่ ยทู่ ใ่ี ด ทาเลเหมาะสมมากนอ้ ยแคไ่ หน และจากการมโี รงงานอตุ สาหกรรมในพน้ื ทส่ี ง่ ผลดี และผลกระทบอยา่ งไร3. ครอู ธบิ ายถงึ ยา่ นอตุ สาหกรรมสว่ นใหญต่ งั้ อยใู่ นจงั หวดั ใหญ่ หรอื ใกลเ้ มอื งใหญ่ เชน่ สมทุ รปราการ ปทมุ ธานี ระยอง ชลบรุ ีครูใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันวเิ คราะหท์ งั้ ผลดแี ละผลเสยี ของการมโี รงงานอตุ สาหกรรม ผลดี เชน่ เป็ นแหลง่ งาน สรา้ งรายไดใ้ หก้ ับคนไทย สง่ เป็ นสนิ คา้ สง่ ออก สรา้ งรายไดใ้ หก้ บั ประเทศไทย ทาใหค้ นไทยอยดู่ กี นิ ดี สว่ นผลเสยี เชน่ กากของเสยี จากโรงงาน ถา้ไมม่ รี ะบบการกาจดั ใหด้ จี ะทาลายสงิ่ แวดลอ้ มประชาชนไดร้ ับมลพษิ เป็ นอนั ตรายตอ่ ร่างกาย อยา่ งเชน่ ทเ่ี กดิ ปัญหาในขณะนท้ี ี่มาบตาพดุ และใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันยกตวั อยา่ งกจิ กรรมทางเศรษฐกจิ ของไทยอยา่ งอนื่ เพมิ่ เตมิ เชน่ พาณชิ กรรม การทอ่ งเทย่ี วและบรกิ าร ซงึ่ ในแตล่ ะปีสรา้ งรายไดใ้ หก้ ับประเทศไทยมหาศาล4. นักเรยี นแบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ 5-6 คน ชว่ ยกนั ทาใบงานที่ 2.1 เรอื่ ง พชื เศรษฐกจิ ของไทย แลว้ ครแู ละนักเรยี นชว่ ยกนั เฉลยคาตอบของใบงาน5. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันอภปิ รายถงึ การเปลย่ี นแปลงทางเศรษฐกจิ ของไทยในปัจจบุ นั ทงั้ ในประเทศและการคา้ ตา่ งประเทศ ซงึ่เป็ นยคุ ของการคา้ เสรี ซง่ึ ไทยตอ้ งปรับตวั เขา้ สกู่ ารแขง่ ขนั กบั ตลาดโลกจงึ ตอ้ งมกี ารพัฒนาศกั ยภาพการแขง่ ขนั ใหท้ ัดเทยี มนานาชาติ ถงึ จะสามารถแขง่ ขนั ในเวทโี ลกได ้6. ครเู ลา่ ถงึ การเปลย่ี นแปลงสภาพแวดลอ้ มทางกายภาพและทางสงั คมใหน้ ักเรยี นฟัง โดยตวั อยา่ งพน้ื ทท่ี มี่ กี ารเปลย่ี นแปลงอยา่ งเหน็ ไดช้ ดั เจน เชน่ จังหวดั นนทบรุ ใี นอดตี เคยเป็ นอขู่ า้ วอนู่ ้าของประเทศ ประชาชนมอี าชพี ทานา ทาสวน ปลกู ผกั เป็ นอาชพี หลกั เป็ นแหลง่ ทเุ รยี นทด่ี งั ทส่ี ดุ ในประเทศไทย แตใ่ นปัจจบุ นั เมอื่ เมอื งขยายตัว คนอพยพมาอยใู่ นกรงุ เทพมากขนึ้นนทบรุ เี ป็ นแหลง่ รองรับประชากรจากกรงุ เทพ เป็ นทพี่ กั อาศยั ของคนทางานในกรงุ เทพ จากพนื้ ทน่ี า สวน จงึ กลายเป็ นบา้ นจัดสรรวถิ ชี วี ติ ของคนเปลยี่ นแปลงไป จากเคยเป็ นเจา้ ของทน่ี า ขายทน่ี าใหก้ บั นายทนุ และตอ้ งกลายไปรับจา้ งทางานในโรงงานอตุ สาหกรรม เป็ นตน้7. ครใู หน้ กั เรยี นชว่ ยกนั ยกตวั อยา่ งสง่ิ แวดลอ้ มใหมใ่ นสงั คมไทย พรอ้ มทัง้ วเิ คราะหผ์ ลดแี ละผลกระทบ8. นักเรยี นแตล่ ะคนทาใบงานท่ี 2.2 เรอ่ื ง การเกดิ สงิ่ แวดลอ้ มใหมท่ างสงั คม เสรจ็ แลว้ ครูและนกั เรยี นชว่ ยกันเฉลยคาตอบของใบงานชว่ั โมงที่ 3

1. ครูนาหนงั สอื หรอื นติ ยสารเกยี่ วกบั การทอ่ งเทยี่ วเมอื งไทย มาใหน้ ักเรยี นดแู ละชว่ ยกันอภปิ รายถงึ สถานทท่ี อ่ งเทยี่ วเหลา่ นัน้2. ครจู ดั กจิ กรรมมคั คเุ ทศกน์ อ้ ย โดยใหน้ ักเรยี นแบง่ กลมุ่ ตามความสมคั รใจ จานวน 6 กลมุ่ ตามภาคภมู ศิ าสตร์ และชว่ ยกนั ทาชนิ้ งานเรอื่ ง กจิ กรรมมคั คเุ ทศกน์ อ้ ย โดยสบื คน้ ขอ้ มลู เกยี่ วกับภาคทตี่ นเองรับผดิ ชอบเกย่ี วกับ ลกั ษณะประชากร ลกั ษณะทางสงั คมและวฒั นธรรม ลกั ษณะทางเศรษฐกจิ แลว้ บันทกึ ลงในสมดุ โดยนาเสนอเรอ่ื งราวใหน้ า่ สนใจ พรอ้ มภาพประกอบสวยงามและใหต้ ัวแทนกลมุ่ ทาหนา้ ทเี่ ป็ นมคั คเุ ทศกม์ าถา่ ยทอดเรอ่ื งราวใหเ้ พอื่ นในหอ้ งฟัง3. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ไปวางแผนการทางาน เพอื่ นาเสนอผลงานในชวั่ โมงตอ่ ไปชว่ั โมงที่ 41. ตัวแทนของแตล่ ะกลมุ่ ออกมานาเสนอผลงาน ครูเสนอแนะเพม่ิ เตมิ จากนัน้ ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั เสนอแนวทางการอนรุ กั ษ์ทรัพยากรและสง่ิ แวดลอ้ ม2. ครูและนักเรยี นสรุปความรเู ้ กย่ี วกับ สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพ ภมู อิ ากาศ ประชากร สงั คมและวัฒนธรรม เศรษฐกจิ การอนรุ กั ษ์ทรัพยากรและสงิ่ แวดลอ้ มนักเรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยการเรยี นรทู ้ ่ี 3 เรอื่ ง ภมู ศิ าสตรป์ ระเทศไทย 2 การวดั ผลและประเมนิ ผลวธิ กี าร เครอ่ื งมอื เกณฑ ์ รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์นักเรยี นทาใบงานที่ 2.1 ใบงานท่ี 2.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์นักเรยี นทาใบงานที่ 2.2 ใบงานท่ี 2.2 ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์นักเรยี นทากจิ กรรมมคั คเุ ทศกน์ อ้ ย แบบประเมนิ การนาเสนอผลงานกจิ กรรม ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ มัคคเุ ทศกน์ อ้ ยนักเรยี นนาเสนอผลงานกลมุ่ แบบประเมนิ การนาเสนอผลงานกลมุ่สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่นักเรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยการ แบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยการเรยี นรทู ้ ่ี 3เรยี นรทู ้ ่ี 3 เรอื่ ง ภมู ศิ าสตรป์ ระเทศไทย 2 เรอื่ ง ภมู ศิ าสตรป์ ระเทศไทย 2 สอ่ื / แหลง่ การเรยี นรู้สอ่ื การเรยี นรู้1. หนังสอื เรยี น ภมู ศิ าสตร์ ม.12. แผนทป่ี ระเทศไทยแสดงการเพาะปลกู พชื เศรษฐกจิ3. หนังสอื หรอื นติ ยสารการทอ่ งเทย่ี วของไทย4. ใบงานท่ี 2.1 เรอื่ ง พชื เศรษฐกจิ ของไทย5. ใบงานท่ี 2.2 เรอ่ื ง การเกดิ สงิ่ แวดลอ้ มใหมท่ างสงั คม6. แบบประเมนิ การนาเสนอผลงานกลมุ่7. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่แหลง่ การเรยี นรู้1. หอ้ งสมดุ2. แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ - th.wikipedia.org/wiki/ประเทศไทย

- guru.sanook.com/search/สงั คมและวฒั นธรรมไทย ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปี ท่ี 1 - http://www.isaansmile.com/forum/bbs/viewthread.php?tid=1 เวลา 4 ชว่ั โมง แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 ภมู ศิ าสตรท์ วปี เอเชยีเรอ่ื ง สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพของทวปี เอเชยี สาระสาคญั / ความคดิ รวบยอดทาเลทต่ี งั้ ของประเทศในทวปี เอเชยี และลกั ษณะทางกายภาพทหี่ ลากหลายและแตกตา่ งกันในภมู ภิ าคเอเชยี มอี ทิ ธพิ ลสาคญัตอ่ การดาเนนิ ชวี ติ ของประชากรในทวปี เอเชยี ตวั ชวี้ ดั / จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ตวั ชว้ี ดั ช้ี ส 5.1 ม.1/1 เลอื กใชเ้ ครอ่ื งมอื ทางภมู ศิ าสตร์ (ลกู โลก แผนท่ี กราฟ แผนภมู )ิ ในการสบื คน้ ขอ้ มลู เพอื่ วเิ คราะหล์ กั ษณะทาง กายภาพและสงั คมของประเทศไทยและทวปี เอเชยี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยีจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้1. เลอื กใชเ้ ครอื่ งมอื ทางภมู ศิ าสตรใ์ นการศกึ ษาลกั ษณะทางกายภาพของทวปี เอเชยี ได ้2. บอกทาเลทตี่ งั้ ของทวปี เอเชยี ได ้3. วเิ คราะหล์ กั ษณะทางกายภาพของทวปี เอเชยี ได ้ สาระการเรยี นรู้สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง- เครอื่ งมอื ทางภมู ศิ าสตร์ (ลกู โลก แผนท่ี กราฟ แผนภมู ิ ฯลฯ) ทแี่ สดงลกั ษณะทางกายภาพและสงั คมของทวปี เอเชยี สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี นความสามารถในการสอ่ื สารความสามารถในการคดิ- ทักษะการคดิ วเิ คราะห์- ทักษะการคดิ สงั เคราะห์ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ- กระบวนการปฏบิ ตั ิ- กระบวนการทางานกลมุ่ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี- กระบวนการสบื คน้ ขอ้ มลู คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์1. มวี นิ ัย2. ใฝ่ เรยี นรู ้3. มงุ่ ม่นั ในการทางาน

กจิ กรรมการเรยี นรู้(วธิ สี อนแบบบรรยาย วธิ สี อนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการกลมุ่ , กระบวนการสบื คน้ ขอ้ มลู )นักเรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรยี นรทู ้ ี่ 4 เรอื่ ง ภมู ศิ าสตรท์ วปี เอเชยีชว่ั โมงที่ 11. ครนู าแผนทท่ี วปี เอเชยี มาใหน้ ักเรยี นดู แลว้ ใหน้ ักเรยี นออกมาชชี้ อ่ื ประเทศตา่ งๆ ในทวปี เอเชยี จากนัน้ ครอู ธบิ ายใหน้ ักเรยี นทราบวา่ ทวปี เอเชยี เป็ นทวปี ทม่ี จี ดุ เดน่ ทสี่ ดุ หลายประการ เชน่ เป็ นทวปี ทม่ี ขี นาดใหญท่ สี่ ดุ มยี อดเขาทส่ี งู ทสี่ ดุ คอื ยอดเขาเอเวอรเ์ รสต์ เทอื กเขาหมิ าลัย ประเทศเนปาล เป็ นตน้2. ครสู มุ่ เรยี กนกั เรยี น 4-5 คน ออกมาชตี้ าแหนง่ ทต่ี งั้ อา่ นพกิ ดั ภมู ศิ าสตรข์ องทวปี เอเชยี3. นักเรยี นแบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ 5-6 คน ระดมความคดิ และชว่ ยกนั เขยี นเกย่ี วกบั ทวปี เอเชยี ในประเดน็ ทคี่ รกู าหนดใหไ้ ดม้ ากทส่ี ดุภายในเวลาทก่ี าหนด เชน่ เกย่ี วกบั สถานทที่ อ่ งเทย่ี วทสี่ าคญั ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศ ชอ่ื ประเทศตา่ ง ๆ เป็ นตน้ เพอ่ื เป็ นการตรวจสอบความรพู ้ น้ื ฐานของนักเรยี น4. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ออกมานาเสนอผลงานทหี่ นา้ ชนั้ เรยี น โดยครเู ป็ นผตู ้ รวจสอบความถกู ตอ้ ง5. นักเรยี นสรปุ ผลทไ่ี ดจ้ ากการระดมความคดิ ของนักเรยี นชว่ั โมงที่ 21. ครูนาภาพสถานทส่ี าคญั ของประเทศตา่ งๆ ในทวปี เอเชยี มาใหน้ ักเรยี นดู เชน่ ภเู ขาไฟฟจู ิ ประเทศญป่ี ่ นุ เทอื กเขาหมิ าลัยประเทศเนปาล ทะเลสาบเขมร ประเทศกมั พชู า วถิ ชี วี ติ รมิ แมน่ ้าโขง บอ่ น้ามนั ทซี่ าอดุ อิ าระเบยี ยา่ นธรุ กจิ ในญปี่ ่ นุ อฐู เดนิ อยใู่ นทะเลทราย คนอาบน้าในแมน่ ้าคงคาในประเทศอนิ เดยี เป็ นตน้ แลว้ ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันบอกวา่ เมอ่ื เหน็ ภาพเหลา่ นแ้ี ลว้ นกึ ถงึประเทศอะไร เพราะเหตใุ ด2. ครอู ธบิ ายภาพแตล่ ะภาพใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจวา่ ภาพทงั้ หมด เป็ นลกั ษณะเดน่ ของประเทศในทวปี เอเชยี และความแตกตา่ งในทวปี เอเชยี ซงึ่ มคี วามแตกตา่ งทงั้ ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศ ภมู อิ ากาศ สงั คมและวฒั นธรรม3. ครอู ธบิ ายใหน้ ักเรยี นฟังวา่ ทวปี เอเชยี มคี วามยง่ิ ใหญท่ างประวตั ศิ าสตร์ เมอื่ ครัง้ ทเ่ี คยตกเป็ นอาณานคิ มของชาตติ ะวันตกในยคุ ลา่ อาณานคิ ม ประเทศตา่ งๆ ไดท้ าการตอ่ สเู ้ รยี กรอ้ งเอกราชจากชาตติ ะวนั ตก เชน่ การตอ่ สแู ้ บบอหงิ สาของ มหาตะมะคานธรี ์ แหง่ อนิ เดยี จนองั กฤษตอ้ งคนื เอกราชใหก้ ับอนิ เดยี4. ครใู หน้ กั เรยี นดแู ผนทท่ี วปี เอเชยี ชว่ ยกนั วเิ คราะหส์ ภาพทาเลทต่ี ัง้ ของทวปี เอเชยี5. ครอู ธบิ ายใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจวา่ จากทาเลทต่ี งั้ ดงั กลา่ ว ทาใหท้ วปี เอเชยี เป็ นศนู ยก์ ลางทางดา้ นตา่ งๆ เชน่ ดา้ นการคา้ การคมนาคมขนสง่ เนอ่ื งจากมที งั้ สว่ นทเ่ี ป็ นแผน่ ดนิ ใหญท่ มี่ กี ารคมนาคมทสี่ ะดวกเหมาะในการเป็ นศนู ยก์ ลางทางการคา้ ของโลก6. นักเรยี นแบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ 5-6 คน ทากจิ กรรม “ทวปี เอเชยี ทฉี่ ันรจู ้ กั ” โดยใหน้ ักเรยี นแตล่ ะคนเขยี นบรรยายทวปี เอเชยี ท่ีนักเรยี นรจู ้ กั เป็ นอยา่ งไร เมอื่ นกึ ถงึ ทวปี เอเชยี แลว้ นกึ ถงึ สง่ิ ใด ลงในกระดาษ A4 ทแ่ี บง่ ครงึ่ และใหแ้ ตล่ ะคนอา่ นใหเ้ พอื่ นฟังสมาชกิ ในกลมุ่ ชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง แลว้ นาเสนอตอ่ ชนั้ เรยี นโดยมคี รชู ว่ ยชแี้ นะเพม่ิ เตมิชว่ั โมงท่ี 3-41. นักเรยี นแบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ 6 คน ตามความสมคั รใจ ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ศกึ ษาคน้ ควา้ ขอ้ มลู ในหัวขอ้ ดงั นี้ 1) ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศของทวปี เอเชยี 2) ลกั ษณะภมู อิ ากาศ และพชื พรรณธรรมชาติ 3) ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม2. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ แบง่ ออกเป็ น 3 คู่ แตล่ ะคชู่ ว่ ยกนั ทาใบงาน ดังน้ี - คทู่ ่ี 1 ทาใบงานที่ 1.1 เรอ่ื ง ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศของทวปี เอเชยี - คทู่ ี่ 2 ทาใบงานที่ 1.2 เรอ่ื ง ลกั ษณะภมู อิ ากาศและพชื พรรณธรรมชาตขิ องทวปี เอเชยี - คทู่ ี่ 3 ทาใบงานที่ 1.3 เรอ่ื ง ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มของทวปี เอเชยี

3. นักเรยี นแตล่ ะคชู่ ว่ ยกนั อธบิ ายความรจู ้ ากใบงานทต่ี นรับผดิ ชอบใหส้ มาชกิ คอู่ นื่ ฟัง สมาชกิ แตล่ ะคนผลดั กนั ซกั ถามเพอ่ื ใหม้ ีความเขา้ ใจถกู ตอ้ ง4. ครแู ละนักเรยี นชว่ ยกนั เฉลยคาตอบในใบงานที่ 1.1 – 1.35. ครแู ละนักเรยี นชว่ ยกันสรปุ สาระสาคญั เกยี่ วกับเรอ่ื ง ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศ ลักษณะภมู อิ ากาศและพชื พรรณธรรมชาติทรัพยากรและสง่ิ แวดลอ้ มในทวปี เอเชยี การวดั ผลและประเมนิ ผลวธิ กี าร เครอ่ื งมอื เกณฑ ์ รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์นักเรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วย แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรยี นรทู ้ ่ี รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์การ 4 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์เรยี นรทู ้ ่ี 4 เรอ่ื ง ภมู ศิ าสตรท์ วปี เอเชยี เรอ่ื ง ภมู ศิ าสตรท์ วปี เอเชยี ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์นักเรยี นทาใบงานที่ 1.1 ใบงานท่ี 1.1นักเรยี นทาใบงานที่ 1.2 ใบงานท่ี 1.2นักเรยี นทาใบงานที่ 1.3 ใบงานท่ี 1.3นักเรยี นนาเสนอผลงานกลมุ่ แบบประเมนิ การนาเสนอผลงานกลมุ่สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ สอ่ื / แหลง่ การเรยี นรู้สอื่ การเรยี นรู้1. หนังสอื เรยี น ภมู ศิ าสตร์ ม.12. แผนทที่ วปี เอเชยี3. นติ ยสารการทอ่ งเทย่ี ว4. ภาพสถานทส่ี าคญั ของประเทศตา่ ง ๆ ในทวปี เอเชยี ไดแ้ ก่ ภเู ขาไฟฟจู ิ เทอื กเขาหมิ าลยั ทะเลสาบเขมร แมน่ ้าโขง แมน่ ้าคงคา บอ่ น้ามัน ยา่ นธรุ กจิ ในญปี่ ่ นุ ทะเลทราย5. ใบงานท่ี 1.1 เรอื่ ง ลักษณะภมู ปิ ระเทศของทวปี เอเชยี6. ใบงานที่ 1.2 เรอ่ื ง ลกั ษณะภมู อิ ากาศและพชื พรรณธรรมชาตขิ องทวปี เอเชยี7. ใบงานท่ี 1.3 เรอ่ื ง ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มของทวปี เอเชยีแหลง่ การเรยี นรู้1. หอ้ งสมดุ2. แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ - th.wikipedia.org/wiki/ทวปี เอเชยี - http://learners.in.th/blog/ar-social/177104 - http://www.thaigoodview.com/library/contest2551/social03/28/ecw/asia_topography.html แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 2หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 ภมู ศิ าสตรท์ วปี เอเชยี ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 1เรอื่ ง ลกั ษณะทางประชากร สงั คม วฒั นธรรม และเศรษฐกจิ ของทวปี เอเชยี เวลา 3 ชว่ั โมง สาระสาคญั / ความคดิ รวบยอด

ทาเลทตี่ งั้ ลกั ษณะทางกายภาพของดนิ แดนในทวปี เอเชยี มผี ลตอ่ ลกั ษณะประชากร สงั คมวฒั นธรรม และกจิ กรรมทางเศรษฐกจิ ของประเทศในทวปี เอเชยี ตวั ชวี้ ดั / จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ตวั ชว้ี ดั ส 5.1 ม.1/1 เลอื กใชเ้ ครอ่ื งมอื ทางภมู ศิ าสตร์ (ลกู โลก แผนที่ กราฟ แผนภมู )ิ ในการสบื คน้ ขอ้ มลู เพอ่ื วเิ คราะหล์ กั ษณะทาง กายภาพและสงั คมของประเทศไทย และทวปี เอเชยี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี ส 5.2 ม.1/3 สารวจและอธบิ ายทาเลทต่ี งั้ กจิ กรรมทางเศรษฐกจิ และสงั คมในทวปี เอเชยี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี โดยใช ้ แหลง่ ขอ้ มลู ทห่ี ลากหลาย ม.1/4 วเิ คราะหป์ ัจจยั ทางกายภาพและสงั คมทม่ี ผี ลตอ่ การเลอื่ นไหลของความคดิ เทคโนโลยี สนิ คา้ และประชากรในทวปี เอเชยี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยีจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้1. เลอื กใชเ้ ครอื่ งมอื ทางภมู ศิ าสตรใ์ นการศกึ ษาลักษณะทางสงั คมของทวปี เอเชยี ได ้2. อธบิ ายทาเลทตี่ งั้ กจิ กรรมทางเศรษฐกจิ และสงั คมของทวปี เอเชยี ได ้3. วเิ คราะหก์ ารเปลยี่ นแปลงทางประชากร เศรษฐกจิ และวฒั นธรรมของทวปี เอเชยี ได ้4. วเิ คราะหป์ ัจจยั ทางสงั คมทมี่ ผี ลตอ่ การเลอื่ นไหลทางความคดิ เทคโนโลยี สนิ คา้ และประชากรในทวปี เอเชยี ได ้ สาระการเรยี นรู้สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง1. เครอ่ื งมอื ทางภมู ศิ าสตร์ (ลกู โลก แผนที่ กราฟ แผนภมู ิ ฯลฯ) ทแ่ี สดงลักษณะทางกายภาพ และสงั คมของทวปี เอเชยี2. การเปลยี่ นแปลงของประชากร เศรษฐกจิ สงั คม และวฒั นธรรมในทวปี เอเชยี3. ทาเลทต่ี ัง้ กจิ กรรมทางเศรษฐกจิ และสงั คมในทวปี เอเชยี เชน่ ศนู ยก์ ลางการคมนาคม4. ปัจจยั ทางกายภาพและสงั คมทม่ี ผี ลตอ่ การเลอ่ื นไหลทางความคดิ เทคโนโลยี สนิ คา้ และประชากรในทวปี เอเชยี สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี นความสามารถในการสอื่ สารความสามารถในการคดิ- ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ- กระบวนการปฏบิ ตั ิ- กระบวนการทางานกลมุ่ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์1. มวี นิ ัย2. ใฝ่ เรยี นรู ้3. มงุ่ มัน่ ในการทางาน กจิ กรรมการเรยี นรู้

(วธิ สี อนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการกลมุ่ , กระบวนการคดิ วเิ คราะห)์ชว่ั โมงท่ี 11. ครนู าภาพ กลมุ่ คน 4 กลมุ่ ทมี่ ลี ักษณะแตกตา่ งกัน เชน่ - กลมุ่ ท่ี 1ภาพคนอหิ รา่ น อริ กั - กลมุ่ ท่ี 2ภาพคนจนี เกาหลี ญปี่ ่ นุ - กลมุ่ ท่ี 3ภาพคนไทย คนลาว คนกัมพชู า - กลมุ่ ที่ 4ภาพคนชนเผา่ ในหมเู่ กาะของประเทศอนิ โดนเี ซยี แลว้ ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันวเิ คราะหร์ ูปรา่ งหนา้ ตาของกลมุ่ คนทงั้ 4 กลมุ่ ครชู ว่ ยเสรมิ ความรใู ้ หน้ ักเรยี นและชว่ ยกนั สรปุ วา่ ภาพทงั้ หมดแสดงถงึ ลกั ษณะประชากรของทวปี เอเชยี ซงึ่ แบง่ ออกเป็ น 3 กลมุ่ ใหญ่ คอื คอเคซอยด์ นกิ รอยด์ และกลมุ่มองโกลอยด์2. นักเรยี นชว่ ยกนั สบื คน้ จานวนประชากรของทวปี เอเชยี แลว้ นามาวเิ คราะหถ์ งึ จานวนประชากรในประเทศตา่ งๆ วเิ คราะหถ์ งึ การเพมิ่ จานวนประชากรในประเทศใหญๆ่ เชน่ อนิ เดยี จนี สง่ ผลกระทบตอ่ การพัฒนาประเทศอยา่ งไรบา้ ง3. นักเรยี นชว่ ยกนั ยกตัวอยา่ งปัญหาประชากรในทวปี เอเชยี และปัญหาดงั กลา่ วสง่ ผลตอ่ คณุ ภาพชวี ติ และการพฒั นาประเทศอยา่ งไร เชน่ ปัญหาความยากจนในประเทศกมั พชู าทาใหม้ คี นกลมุ่ หนงึ่ ตอ้ งอพยพไปทางานในประเทศเพอื่ นบา้ นทเ่ี ป็ นแรงงานทถ่ี กู กฎหมาย และหนเี ขา้ เมอื ง เชน่ เขา้ มาขอทานในประเทศ เป็ นตน้4. ครตู งั้ คาถามถามนักเรยี นวา่ นักเรยี นชอบคนประเทศใดมากทสี่ ดุ เพราะเหตใุ ด โดยสมุ่ เรยี กนกั เรยี น 3-4 คน ทชี่ อบประเทศทแี่ ตกตา่ งกัน ใหแ้ สดงเหตผุ ล5. ครใู หน้ กั เรยี นดวู ดี ทิ ศั น์ สารคดวี ถิ กี ารดาเนนิ ชวี ติ ของคนในทวปี เอเชยี หรอื เทปโทรทศั นร์ ายการเกย่ี วกับการทอ่ งเทยี่ ว หรอืรายการสปิรติ ออฟเอเชยี หรอื สารคดเี กยี่ วกบั วถิ ชี วี ติ ประเพณี วฒั นธรรม และความเชอื่ ของคนประเทศตา่ งๆในทวปี เอเชยี เมอื่ดจู บใหน้ ักเรยี นสรปุ ความรจู ้ ากการชมวดี ทิ ศั น์6. นักเรยี นศกึ ษาความรเู ้ พมิ่ เตมิ เรอ่ื ง ลักษณะทางประชากร สงั คม และวฒั นธรรมของทวปี เอเชยี จากหนังสอื เรยี น7. ครแู ละนักเรยี นสรุปความรเู ้ กย่ี วกบั ลกั ษณะทางกายภาพและวฒั นธรรมของแตล่ ะภมู ภิ าคในทวปี เอเชยีชว่ั โมงท่ี 21. ครสู นทนากบั นักเรยี นเกย่ี วกบั ซรี สี เ์ กาหลี ญปี่ ่ นุ เรอื่ งทเี่ ป็ นทสี่ นใจของนักเรยี น ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันเลา่ และวพิ ากษ์วจิ ารณซ์ ีรสี ด์ งั กลา่ ว และครตู งั้ คาถามใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั ตอบ เชน่ - เพราะเหตใุ ดนักเรยี นและวัยร่นุ ไทยถงึ ไดช้ อบซรี สี เ์ กาหลี - นอกจากไดร้ ับความเพลดิ เพลนิ จากการดหู นังเกาหลแี ลว้ นักเรยี นไดป้ ระโยชนอ์ ะไร จากการดหู นงั เหลา่ นบี้ า้ ง - ซรี สี เ์ กาหลมี อี ทิ ธพิ ลตอ่ คนไทยในดา้ นใดบา้ ง2. ครูสรปุ คาตอบของนักเรยี น และอธบิ ายความรเู ้ พม่ิ เตมิ วา่ จากการทเ่ี ราไดด้ ซู รี สี เ์ กาหลที าใหเ้ ราไดเ้ รยี นรวู ้ ฒั นธรรม ความเป็ นอยู่ วธิ คี ดิ การแตง่ กายของคนเกาหลี ซง่ึ มคี วามแตกตา่ งจากคนไทย ทาใหเ้ ราสามารถนาบางอยา่ งมาปรับใชไ้ ด ้3. ครูแจกกระดาษขนาด 5 x8 นว้ิ ใหน้ ักเรยี นทากจิ กรรม “เรยี นรวู ้ ฒั นธรรมตา่ งชาตจิ ากดนตรแี ละภาพยนตร”์ ตามตัวอยา่ ง ให ้นักเรยี นเขยี นลงในกระดาษทแ่ี จกให ้ ในประเดน็ ทกี่ าหนดให ้

เมอื่ นกั เรยี นทกุ คนเขยี นเสร็จ ครูใหแ้ ตล่ ะคนอา่ นของตนเองใหเ้ พอื่ นฟัง4. ครสู รุปจากผลงานของนักเรยี นและสรปุ สงิ่ ทน่ี ักเรยี นสามารถนามาเป็ นแบบอยา่ งในการดาเนนิ ชวี ติ โดยครชู แ้ี นะใหน้ ักเรยี นเลอื กรับในสงิ่ ทด่ี มี ปี ระโยชน์ และเหมาะกับสงั คมไทย5. ครนู าขา่ ว หรอื ภาพ หรอื บทความเกย่ี วกับการเปลย่ี นแปลงทางสงั คมและวฒั นธรรมในทวปี เอเชยี เชน่ การแตง่ กายทเ่ี ป็ นแบบสากลมากขน้ึ การขยายตวั ของเมอื ง การใชโ้ ทรศพั ทม์ อื ถอื คอมพวิ เตอรใ์ นชวี ติ ประจาวนั เป็ นตน้6. นักเรยี นชว่ ยกนั ยกตวั อยา่ งการเปลย่ี นแปลงทางสงั คมและประชากรในทวปี เอเชยี7. ครูสรุปประเด็นสาคญั และสรุปความรเู ้ พม่ิ เตมิ8. นักเรยี นแตล่ ะคนทาใบงานที่ 2.1 เรอ่ื ง ลกั ษณะทางประชากร สงั คม และวัฒนธรรมของทวปี เอเชยี9. ครูและนักเรยี นชว่ ยกนั เฉลยคาตอบในใบงานและร่วมกันสรปุ ความรเู ้ กยี่ วกบั ลกั ษณะทางประชากร สงั คม และวฒั นธรรมในทวปี เอเชยี10. ครูใหน้ กั เรยี นหาขา่ วเศรษฐกจิ ของประเทศในทวปี เอเชยี เพอ่ื เตรยี มไวใ้ นชวั่ โมงถดั ไปชว่ั โมงที่ 31. ครสู มุ่ เรยี กนักเรยี น 3-4 คน ออกมาเลา่ ขา่ วเศรษฐกจิ ของประเทศในทวปี เอเชยี ใหเ้ พอ่ื นฟัง และชว่ ยกนั วเิ คราะหเ์ นอ้ื ขา่ ว2. ครูเลา่ สถานการณท์ างเศรษฐกจิ ของประเทศในเอเชยี ใหน้ กั เรยี นฟัง เชน่ การขยายตัวทางเศรษฐกจิ ของจนี การลดคา่ เงนิดองของเวยี ดนาม การขอพักการชาระหนข้ี องบรษิ ัท ดไู บเวลิ ด์ เป็ นตน้ และรว่ มกนั อภปิ รายถงึ ภาวะเศรษฐกจิ ในปัจจบุ นั ของทวปี เอเชยี3. ครอู ธบิ ายใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจวา่ ประเทศในทวปี เอเชยี จะมคี วามแตกตา่ งทางดา้ นเศรษฐกจิ กันอยา่ งชดั เจน โดยใชแ้ ผนทท่ี วปีเอเชยี ประกอบการอภปิ รายและชต้ี าแหน่งใหน้ ักเรยี นไดเ้ ห็นชดั เจน เชน่ ประเทศในภมู ภิ าคเอเชยี ตะวนั ตกเฉียงใต ้ จะร่ารวยจากการขายน้ามนั สามารถสรา้ งความมงั่ คงั่ ใหก้ บั ประเทศเหลา่ นัน้ - ประเทศจนี ทม่ี กี ารขยายตวั ยา่ งรวดเร็วทางเศรษฐกจิ จนเป็ นมหาอานาจทางเศรษฐกจิ ของโลก - ประเทศอนิ เดยี มคี วามแตกตา่ งทางเศรษฐกจิ ในประเทศ เนอ่ื งจากบางเมอื ง เชน่ มมุ ไบ จะมคี วามเจรญิ ทางดา้ นเศรษฐกจิมี ความกา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยี แตใ่ นขณะเดยี วกันอนิ เดยี ก็มคี นยากจนมาก4. ครูและนักเรยี นร่วมกันอภปิ รายถงึ ผลกระทบจากวกิ ฤตเิ ศรษฐกจิ โลกตอ่ ทวปี เอเชยี5. ครนู าขา่ ว หรอื ภาพ หรอื บทความเกยี่ วกบั การเปลย่ี นแปลงทางสงั คมและวฒั นธรรมในทวปี เอเชยี เชน่ การแตง่ กายทเี่ ป็ นแบบสากลมากขนึ้ การขยายตัวของเมอื ง การใชโ้ ทรศพั ทม์ อื ถอื คอมพวิ เตอรใ์ นชวี ติ ประจาวัน เป็ นตน้6. นักเรยี นแตล่ ะคนทาใบงานที่ 2.2 เรอ่ื ง ลกั ษณะทางเศรษฐกจิ ของทวปี เอเชยี เสรจ็ แลว้ ครูและนักเรยี นชว่ ยกันเฉลยคาตอบ

ในใบงาน7. ครใู หน้ กั เรยี นชว่ ยกนั ยกตวั อยา่ งยา่ นธรุ กจิ สาคญั ทางเศรษฐกจิ ในทวปี เอเชยี เชน่ เมอื งมมุ ไบ ประเทศอนิ เดยี เป็ นตน้ พรอ้ มทัง้ อภปิ รายถงึ ความเป็ นศนู ยก์ ลางทางเศรษฐกจิ ทส่ี าคญั ของทวปี8. นักเรยี นแบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ 5-6 คน ชว่ ยกนั ทาใบงานที่ 2.3 เรอ่ื ง ศนู ยก์ ลางทางเศรษฐกจิ ของทวปี เอเชยี จากนัน้ ใหต้ ัวแทนกลมุ่ ออกมานาเสนอผลงานทห่ี นา้ ชนั้ เรยี น9. ครแู ละนักเรยี นร่วมกันสรปุ ความรูเ้ รอ่ื ง ลกั ษณะทางเศรษฐกจิ ของทวปี เอเชยี การวดั ผลและประเมนิ ผล วธิ กี าร เครอ่ื งมอื เกณฑ ์นักเรยี นทาใบงานท่ี 2.1 ใบงานท่ี 2.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์นักเรยี นทาใบงานท่ี 2.2 ใบงานที่ 2.2 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์นักเรยี นทาใบงานท่ี 2.3 ใบงานท่ี 2.3 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์นักเรยี นนาเสนอผลงานกลมุ่ แบบประเมนิ การนาเสนอผลงานกลมุ่ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สอื่ / แหลง่ การเรยี นรู้สอื่ การเรยี นรู้1. หนังสอื เรยี น ภมู ศิ าสตร์ ม.12. แผนทท่ี วปี เอเชยี3. วดี ทิ ศั นส์ ารคดวี ถิ กี ารดาเนนิ ชวี ติ ของคนในทวปี เอเชยี4. ภาพกลมุ่ คน 4 กลมุ่ ไดแ้ ก่ คนอหิ ร่าน อริ กั , คนจนี เกาหลี ญปี่ ่ นุ , คนไทย ลาว กัมพชู า, คนชนเผา่ ในหมเู่ กาะของประเทศอนิ โดนเี ซยี5. ขา่ ว บทความเกยี่ วกบั การเปลยี่ นแปลงทางประชากร สงั คม ในทวปี เอเชยี6. ใบงานท่ี 2.1 เรอื่ ง ลักษณะทางประชากร สงั คม และวฒั นธรรมของทวปี เอเชยี7. ใบงานท่ี 2.2 เรอ่ื ง ลักษณะทางเศรษฐกจิ ของทวปี เอเชยี8. ใบงานที่ 2.3 เรอ่ื ง ศนู ยก์ ลางทางเศรษฐกจิ ของทวปี เอเชยีแหลง่ การเรยี นรู้1. หอ้ งสมดุ2. รายการโทรทศั นเ์ กยี่ วกับทวปี เอเชยี3. แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ - th.wikipedia.org/wiki/ทวปี เอเชยี - http://learners.in.th/blog/ar-social/177104 - http://www.thaigoodview.com/library/contest2551/social03/28/ecw/asia_topography.htmlแผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 3หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 ภมู ศิ าสตรท์ วปี เอเชยี ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 1เรอื่ ง ปฏสิ มั พนั ธร์ ะหวา่ งมนษุ ยก์ บั สงิ่ แวดลอ้ ม และการอนรุ กั ษท์ รพั ยากรธรรมชาตขิ องทวปี เวลา 2 ชว่ั โมงเอเชยี สาระสาคญั / ความคดิ รวบยอด

ปัจจยั ทางกายภาพและสงั คมมผี ลตอ่ การเลอื่ นไหลของความคดิ เทคโนโลยี สนิ คา้ ประชากร และการกอ่ เกดิ สง่ิ แวดลอ้ มใหม่ทางสงั คม ซงึ่ สง่ ผลกระทบตอ่ ทรพั ยากรธรรมชาติ และสงิ่ แวดลอ้ มของทวปี เอเชยี ซงึ่ ประชากรทกุ คนควรมสี ว่ นรว่ มในการอนุรักษ์ทรัพยากรและสง่ิ แวดลอ้ ม ตวั ชวี้ ดั / จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ตวั ชว้ี ดั ส 5.2 ม.1/1 วเิ คราะหผ์ ลกระทบจากการเปลยี่ นแปลงทางธรรมชาตขิ องทวปี เอเชยี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี ม.1/2 วเิ คราะหค์ วามรว่ มมอื ของประเทศตา่ งๆทมี่ ผี ลตอ่ สง่ิ แวดลอ้ มทางธรรมชาตขิ องทวปี เอเชยี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี ม.1/4 วเิ คราะหป์ ัจจยั ทางกายภาพและสงั คมทม่ี ผี ลตอ่ การเลอ่ื นไหลของความคดิ เทคโนโลยี สนิ คา้ และประชากรใน ทวปี เอเชยี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยีจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้1. ระบปุ ัจจยั ทางกายภาพและสงั คมทม่ี ผี ลตอ่ การเลอ่ื นไหลของความคดิ เทคโนโลยี สนิ คา้ และประชากรในทวปี เอเชยี2. วเิ คราะหก์ ารกอ่ เกดิ สงิ่ แวดลอ้ มใหมท่ างสงั คมของทวปี เอเชยี3. บอกแนวทางการอนรุ กั ษ์ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มของทวปี เอเชยี สาระการเรยี นรู้สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง1. การกอ่ เกดิ สง่ิ แวดลอ้ มใหมท่ างสงั คม2. แนวทางการใชท้ รพั ยากรของคนในชมุ ชนใหใ้ ชไ้ ดน้ านขนึ้ โดยมจี ติ สานกึ รคู ้ ณุ คา่ ของทรัพยากร3. แผนการอนุรักษ์ทรัพยากรในทวปี เอเชยี4. ความรว่ มมอื ระหวา่ งประเทศในทวปี เอเชยี ทม่ี ผี ลตอ่ สง่ิ แวดลอ้ มทางธรรมชาติ5. ปัจจยั ทางกายภาพและสงั คมทม่ี ผี ลตอ่ การเลอื่ นไหลทางความคดิ เทคโนโลยี สนิ คา้ และประชากรในทวปี เอเชยี สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี นความสามารถในการสอื่ สารความสามารถในการคดิ- ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ- กระบวนการปฏบิ ตั ิ- กระบวนการทางานกลมุ่ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี- กระบวนการสบื คน้ ขอ้ มลู คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์1. มวี นิ ัย2. ใฝ่ เรยี นรู ้3. มงุ่ ม่ันในการทางาน กจิ กรรมการเรยี นรู้

(วธิ สี อนแบบบรรยาย วธิ สี อนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการกลมุ่ , กระบวนการสบื คน้ ขอ้ มลู )ชว่ั โมงท่ี 11. ครูใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั ยกตวั อยา่ ง ลกั ษณะเดน่ ของทวปี เอเชยี ในแตล่ ะภมู ภิ าค เชน่ ในภมู ภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต ้ มีสภาพพนื้ ทอ่ี ดุ มสมบรู ณ์ มฝี นตกตลอดทงั้ ปี ทาใหเ้ หมาะกบั การทาอาชพี เพาะปลกู และจากสภาพภมู อิ ากาศทไี่ มร่ ุนแรง เชน่ไมห่ นาวจดั หรอื รอ้ นจดั ทาใหเ้ หมาะกับการตัง้ ถนิ่ ฐาน และจากลกั ษณะดังกลา่ ว ทาใหม้ ผี ลผลติ สาคัญของภมู ภิ าคน้ี เชน่สนิ คา้ ทางการเกษตรทส่ี ามารถสง่ เป็ นสนิ คา้ ออกไปขายไดท้ ่วั โลก2. ครูใหน้ กั เรยี นจับคทู่ าใบงานท่ี 3.1 เรอ่ื ง ลักษณะเดน่ ของทวปี เอเชยี และใหต้ วั แทนของแตล่ ะคอู่ อกมานาเสนอผลงานที่หนา้ ชนั้ เรยี น จากนัน้ ครสู รุปสาระสาคญั และอธบิ ายความรูเ้ พมิ่ เตมิ3. ครูและนักเรยี นร่วมกันวเิ คราะหป์ ัจจยั ทางกายภาพ และสงั คมทม่ี ผี ลตอ่ การเลอ่ื นไหลของความคดิ เทคโนโลยี สนิ คา้ และประชากรในทวปี เอเชยี ในภมู ภิ าคตา่ งๆ แลว้ ครอู ธบิ ายเพมิ่ เตมิ วา่ ในบางภมู ภิ าค เชน่ ภมู ภิ าคตะวนั ตกเฉยี งใต ้ ซง่ึ ประชากรสว่ นใหญน่ ับถอื ศาสนาอสิ ลาม ยงั คงมปี ระเพณแี ละวฒั นธรรมตา่ งๆอยา่ งเครง่ ครัด และยงั มกี ารปิดกนั้ สทิ ธหิ ลายๆอยา่ ง ทาใหก้ ารเลอื่ นไหลทางดา้ นตา่ งๆยงั อยใู่ นขอบเขตจากดั แลว้ ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั วเิ คราะหข์ อ้ ดี ขอ้ เสยี ของการเลอ่ื นไหลดงั กลา่ ว4. ครใู หน้ กั เรยี นดภู าพเกาะปาลม์ จเู มอริ าห์ จากหนังสอื เรยี น แลว้ ชว่ ยกันวเิ คราะหภ์ าพดงั กลา่ ว ครสู รปุ สาระสาคัญใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจวา่ อาณาจกั รปาลม์ ในดไู บ ประเทศสหรฐั อาหรับเอมเิ รสต์ เดมิ ทพ่ี น้ื ทน่ี เี้ ป็ นทะเล และไดถ้ มทะเลบางสว่ นเพอ่ื สรา้ งเป็ นอาคารทพ่ี กั โรงแรม สถานทน่ี ันทนาการ ทอ่ี ลงั การ กลมุ่ ลกู คา้ สาคญั คอื เศรษฐขี องโลก5. ครใู หน้ กั เรยี นชว่ ยกนั ยกตวั อยา่ งการเกดิ สง่ิ แวดลอ้ มใหมท่ ส่ี าคัญในทวปี เอเชยี เชน่ เซย่ี งไฮ ้ มาเก๊า กรงุ โซล โตเกยี ว เป็ นตน้6. ครแู ละนักเรยี นชว่ ยกนั สรุปขอ้ ดแี ละขอ้ เสยี ของการเกดิ สงั คมใหมใ่ นแตล่ ะประเทศ แลว้ ครสู รุปสาระสาคญั การเกดิ สงั คมใหม่ในทวปี เอเชยี ใหน้ ักเรยี นฟังชว่ั โมงท่ี 21. ครนู าขา่ วเกยี่ วกบั กจิ กรรมทางดา้ นสง่ิ แวดลอ้ ม หรอื การเกดิ มลภาวะทางสงิ่ แวดลอ้ ม ในทวปี เอเชยี มาเลา่ ใหน้ ักเรยี นฟัง และใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั วเิ คราะหส์ ถานการณส์ งิ่ แวดลอ้ มในทวปี เอเชยี2. ครยู กตวั อยา่ งการขยายตวั ของเมอื งทท่ี าใหต้ อ้ งทาลายสงิ่ แวดลอ้ มเดมิ และผลกระทบจากการขยายเมอื งตอ่ สง่ิ แวดลอ้ มและยกตัวอยา่ งความรว่ มมอื ระหวา่ งประเทศในการอนรุ กั ษ์สงิ่ แวดลอ้ มทสี่ าคญั3. ใหน้ ักเรยี นศกึ ษารายละเอยี ดเพม่ิ เตมิ เกยี่ วกับเรอื่ ง สถานการณส์ งิ่ แวดลอ้ มในทวปี เอเชยี ในหนังสอื เรยี น จากนัน้ ครแู ละนักเรยี นชว่ ยกนั สรปุ สถานการณส์ งิ่ แวดลอ้ มในทวปี เอเชยี และแนวทางการอนุรกั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มในทวปีเอเชยี4. นักเรยี นแบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ 4 คน ตามความสมคั รใจ แลว้ ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ หาขา่ ว หรอื บทความเกย่ี วกับความรว่ มมอื ระหวา่ งประเทศ ในการร่วมกันอนรุ กั ษ์สงิ่ แวดลอ้ มในทวปี เอเชยี และทาใบงานท่ี 3.2 เรอ่ื ง ความร่วมมอื ทางสง่ิ แวดลอ้ มในทวปี เอเชยีและออกมานาเสนอผลงานทหี่ นา้ ชนั้ เรยี น โดยครูเป็ นผตู ้ รวจสอบ5. ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ จดั ทาบทวเิ คราะหท์ วปี เอเชยี ในประเดน็ ตอ่ ไปน้ี 1) ผลกระทบจากการเปลย่ี นแปลงทางธรรมชาติ 2) การรว่ มมอื ของประเทศตา่ งๆ ทม่ี ผี ลตอ่ สง่ิ แวดลอ้ มทางกายภาพ 3) ปัจจยั ทางกายภาพทม่ี ผี ลสาคญั ตอ่ การดารงชวี ติ ของประชากรนักเรยี นทาแบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยการเรยี นรทู ้ ี่ 4 เรอ่ื ง ภมู ศิ าสตรท์ วปี เอเชยี การวดั ผลและประเมนิ ผลวธิ กี าร เครอ่ื งมอื เกณฑ ์

นักเรยี นทาใบงานที่ 3.1 ใบงานที่ 3.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์นักเรยี นทาใบงานที่ 3.2 ใบงานท่ี 3.2 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์นักเรยี นทาบทความวเิ คราะหท์ วปี เอเชยี แบบประเมนิ บทความวเิ คราะหท์ วปี เอเชยี ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์นักเรยี นนาเสนอผลงานกลมุ่ แบบประเมนิ การนาเสนอผลงานกลมุ่ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์นักเรยี นทาแบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ย แบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู ้ ี่ 4 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์การ เรอ่ื ง ภมู ศิ าสตรท์ วปี เอเชยีเรยี นรทู ้ ่ี 4 เรอื่ ง ภมู ศิ าสตรท์ วปี เอเชยี สอื่ / แหลง่ การเรยี นรู้สอ่ื การเรยี นรู้1. หนังสอื เรยี น ภมู ศิ าสตร์ ม.12. ขา่ วเกยี่ วกับกจิ กรรมทางดา้ นสง่ิ แวดลอ้ ม3. ใบงานท่ี 3.1 เรอ่ื ง ลักษณะเดน่ ของทวปี เอเชยี4. ใบงานท่ี 3.2 เรอ่ื ง ความรว่ มมอื ทางสง่ิ แวดลอ้ มในทวปี เอเชยีแหลง่ การเรยี นรู้1. หอ้ งสมดุ2. รายการโทรทศั นเ์ กยี่ วกบั สารคดที างดา้ นสงิ่ แวดลอ้ มในทวปี เอเชยี3. ขา่ ว/บทความ ทางดา้ นสงิ่ แวดลอ้ มในทวปี เอเชยี4. แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ - th.wikipedia.org/wiki/ทวปี เอเชยี - http://learners.in.th/blog/ar-social/177104 - http://www.thaigoodview.com/library/contest2551/social03/28/ecw/asia_topography.html แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปี ท่ี 1หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 ภมู ศิ าสตรท์ วปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี เวลา 2 ชว่ั โมงเรอื่ ง ลกั ษณะทางกายภาพของทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี สาระสาคญั / ความคดิ รวบยอดทาเลทตี่ งั้ ของประเทศในทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี และลกั ษณะทแ่ี ตกตา่ งกนั ทางกายภาพ มอี ทิ ธพิ ลสาคัญตอ่ การดาเนนิ ชวี ติ ของประชากรในทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี ตวั ชวี้ ดั / จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ตวั ชว้ี ดั ชี้ ส 5.1 ม.1/1 เลอื กใชเ้ ครอ่ื งมอื ทางภมู ศิ าสตร์ (ลกู โลก แผนท่ี กราฟ แผนภมู )ิ ในการสบื คน้ ขอ้ มลู เพอื่ วเิ คราะหล์ กั ษณะทาง กายภาพและสงั คมของประเทศไทยและทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยีจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. เลอื กใชเ้ ครอื่ งมอื ทางภมู ศิ าสตรใ์ นการศกึ ษาลักษณะทางกายภาพของทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี ได ้2. อธบิ ายลกั ษณะทางกายภาพของทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี ได ้ สาระการเรยี นรู้สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง- เครอื่ งมอื ทางภมู ศิ าสตร์ (ลกู โลก แผนที่ กราฟ แผนภมู ิ ฯลฯ) ทแ่ี สดงลกั ษณะทางกายภาพและสงั คมของทวปี ออสเตรเลยีและโอเชยี เนยี สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี นความสามารถในการสอ่ื สารความสามารถในการคดิ- ทักษะการคดิ วเิ คราะห์ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ- กระบวนการปฏบิ ตั ิความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี- กระบวนการสบื คน้ ขอ้ มลู คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์1. มวี นิ ัย2. ใฝ่ เรยี นรู ้3. มงุ่ ม่นั ในการทางาน กจิ กรรมการเรยี นรู้(วธิ สี อนโดยการจัดการเรยี นรแู ้ บบรว่ มมอื : เทคนคิ คคู่ ดิ )นักเรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยการเรยี นรทู ้ ี่ 5 เรอ่ื ง ภมู ศิ าสตรท์ วปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยีชว่ั โมงที่ 11. ครูนาภาพตา่ งๆ ตอ่ ไปนม้ี าใหน้ ักเรยี นดู เชน่ โอเปรา่ เฮา้ ส์ จงิ โจ ้ นกกวี ี ชนเผา่ แอบอรจิ นิ สิ แลว้ ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั บอกวา่เมอื่ เหน็ ภาพเหลา่ นแ้ี ลว้ นกึ ถงึ ประเทศใด เพราะเหตใุ ด ตวั อยา่ งเชน่ ภาพจงิ โจ ้ นกึ ถงึ ประเทศออสเตรเลยี เพราะเป็ นสตั วป์ ระจาถน่ิ ทม่ี มี ากในประเทศออสเตรเลยี เป็ นตน้2. ครนู าแผนทโี่ ลก หรอื ลกู โลกมาใหน้ ักเรยี นดู แลว้ สมุ่ เรยี กนักเรยี นออกมาชต้ี าแหนง่ ของทวปี ออสเตรเลยี พรอ้ มทงั้ ให ้ยกตัวอยา่ งประเทศใหญๆ่ ในทวปี น้ี3. ครอู ธบิ ายใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจวา่ ทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี ตงั้ อยใู่ นมหาสมทุ รแปซฟิ ิกตอนใต ้ ประเทศใหญๆ่ ไดแ้ ก่ออสเตรเลยี และนวิ ซแี ลนด์ นอกจากนัน้ เป็ นเกาะและหมเู่ กาะตา่ งๆ4. ครูใหน้ กั เรยี นดแู ผนทที่ วปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี แสดงอาณาเขตทต่ี งั้ ของประเทศตา่ งๆ โดยสมุ่ เรยี กนักเรยี น 5-6 คนออกมาชต้ี าแหนง่ ของประเทศตา่ งๆ และใหน้ ักเรยี นศกึ ษาทต่ี งั้ อาณาเขต ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศ จากหนังสอื เรยี น5. ครอู ธบิ ายสาระสาคญั เพมิ่ เตมิ เกยี่ วกบั ลกั ษณะทางกายภาพของทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี โดยใชแ้ ผนทแ่ี สดงลกั ษณะภมู ปิ ระเทศของทวปี ออสเตรเลยี ประกอบ และแจกแผนทเี่ ลม่ (Atlas) ใหน้ ักเรยี นจับคเู่ พอ่ื ดปู ระกอบการอธบิ าย6. ครใู หน้ กั เรยี นแตล่ ะคยู่ กตวั อยา่ งลักษณะภมู ปิ ระเทศเดน่ ๆของทวปี ออสเตรเลยี แลว้ ใหน้ กั เรยี นทสี่ ามารถยกตวั อยา่ งได ้ยกตวั อยา่ งใหเ้ พอ่ื นฟัง พรอ้ มทงั้ อธบิ ายลกั ษณะภมู ปิ ระเทศดงั กลา่ ว เชน่ - ทะเลทรายเกรตวกิ ตอเรยี - แนวปะการังทสี่ วยทส่ี ดุ ในโลก เกรตแบรร์ เิ ออรร์ ฟี

- ทะเลสาบแอร์ - ทวิ เขาเกรตดไิ วดงิ - แมน่ ้าเมอรร์ ยี ์ – ดารล์ งิ เป็ นตน้7. นักเรยี นแตล่ ะคชู่ ว่ ยกนั ทาใบงานท่ี 1.1 เรอ่ื ง วเิ คราะหล์ กั ษณะทางกายภาพของทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี เมอ่ื ทาเสร็จแลว้ แลกกันตรวจกับคอู่ น่ื จากนัน้ ครูและนักเรยี นชว่ ยกนั เฉลยคาตอบในใบงาน8. นักเรยี นแตล่ ะคนทาใบงานที่ 1.2 เรอ่ื ง ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศของทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี และชว่ ยกนั เฉลยคาตอบในใบงาน9. ครมู อบหมายใหน้ ักเรยี นศกึ ษาลกั ษณะภมู อิ ากาศและพชื พรรณธรรมชาตขิ องทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี มาลว่ งหนา้ชว่ั โมงที่ 21. ครใู หน้ ักเรยี นดแู ผนทที่ วปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี ทแี่ สดงลกั ษณะภมู อิ ากาศ หรอื ใหน้ ักเรยี นดจู าก (Atlas) พรอ้ มทงั้สนทนาซกั ถามเกย่ี วกับลักษณะภมู อิ ากาศและพชื พรรณธรรมชาติ แลว้ ครอู ธบิ ายสาระสาคัญเกยี่ วกับ ลกั ษณะภมู อิ ากาศและพชืพรรณธรรมชาติ แลว้ ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกันวเิ คราะหว์ า่ ลกั ษณะดังกลา่ วมอี ทิ ธพิ ลตอ่ การดาเนนิ ชวี ติ ของประชากรอยา่ งไร2. นักเรยี นจบั คเู่ พอ่ื ชว่ ยกันวเิ คราะหใ์ นประเดน็ ตอ่ ไปน้ี - ปัจจัยทมี่ อี ทิ ธพิ ลตอ่ ภมู อิ ากาศของทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี - การแบง่ เขตภมู อิ ากาศของทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี - อทิ ธพิ ลของภมู อิ ากาศตอ่ การดาเนนิ ชวี ติ ของประชากรในทวปี - พชื พรรณธรรมชาตแิ ละทรพั ยากรธรรมชาตขิ องทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี3. ตัวแทนนักเรยี นแตล่ ะคอู่ อกมานาเสนอผลงานทหี่ นา้ ชนั้ เรยี น โดยครูเป็ นผตู ้ รวจสอบความถกู ตอ้ งและชว่ ยอธบิ ายเพม่ิ เตมิ4. นักเรยี นแตล่ ะคทู่ าใบงานท่ี 1.3 เรอื่ ง สารวจสภาพภมู อิ ากาศและพชื พรรณธรรมชาตขิ องทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยีแลว้ ครูและนักเรยี นชว่ ยกนั เฉลยคาตอบในใบงาน5. ครูและนักเรยี นร่วมกันสรุปความรเู ้ รอื่ ง ลกั ษณะทางกายภาพและพชื พรรณธรรมชาตขิ องทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี การวดั ผลและประเมนิ ผล วธิ กี าร เครอื่ งมอื เกณฑ ์นักเรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยการ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยการเรยี นรทู ้ ่ี รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์เรยี นรทู ้ ่ี 5 เรอื่ ง ภมู ศิ าสตรท์ วปี ออสเตรเลยี 5และ เรอื่ ง ภมู ศิ าสตรท์ วปี ออสเตรเลยี และโอโอเชยี เนยี เชยี เนยีนักเรยี นทาใบงานที่ 1.1 ใบงานที่ 1.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์นักเรยี นทาใบงานท่ี 1.2 ใบงานที่ 1.2 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์นักเรยี นทาใบงานท่ี 1.3 ใบงานที่ 1.3 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สอื่ / แหลง่ การเรยี นรู้สอื่ การเรยี นรู้1. หนังสอื เรยี น ภมู ศิ าสตร์ ม.12. ลกู โลก3. แผนทท่ี วปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี

4. แผนทเี่ ลม่ (Atlas)5. ภาพโอเปร่าเฮา้ ส์ จงิ โจ ้ นกกวี ี ชนเผา่ แอบอรจิ นิ สี6. ใบงานที่ 1.1 เรอื่ ง วเิ คราะหล์ กั ษณะทางกายภาพของทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี7. ใบงานท่ี 1.2 เรอ่ื ง ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศของทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี8. ใบงานท่ี 1.3 เรอ่ื ง สารวจสภาพภมู อิ ากาศและพชื พรรณธรรมชาตขิ องทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยีแหลง่ การเรยี นรู้1. หอ้ งสมดุ2. แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ - http://www.bbc07geo.ob.tc/20.htm - th.wikipedia.org/wiki/ทวปี ออสเตรเลยี - http://reocities.com/Athens/crete/4710/australia.htmแผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 ภมู ศิ าสตรท์ วปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ท่ี 1เรอ่ื ง ลกั ษณะประชากร สงั คม วฒั นธรรม และเศรษฐกจิ ของทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี เวลา 3 ชว่ั โมง สาระสาคญั / ความคดิ รวบยอดทาเลทตี่ งั้ ลกั ษณะทางกายภาพของดนิ แดนในทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี มผี ลตอ่ ลกั ษณะประชากร สงั คม วฒั นธรรมและกจิ กรรมทางเศรษฐกจิ ของประเทศในทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี ตวั ชว้ี ดั / จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ตวั ชวี้ ดั ช้ี ส 5.1 ม.1/1 เลอื กใชเ้ ครอื่ งมอื ทางภมู ศิ าสตร์ (ลกู โลก แผนที่ กราฟ แผนภมู )ิ ในการสบื คน้ ขอ้ มลู เพอื่ วเิ คราะหล์ กั ษณะทาง กายภาพและสงั คมของประเทศไทยและทวปี เอเชยี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี ส 5.2 ม.1/1 วเิ คราะหผ์ ลกระทบจากการเปลย่ี นแปลงทางธรรมชาตขิ องทวปี เอเชยี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี ม.1/2 วเิ คราะหค์ วามรว่ มมอื ของประเทศตา่ งๆ ทมี่ ผี ลตอ่ สง่ิ แวดลอ้ มทางธรรมชาตขิ องทวปี เอเชยี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี ม.1/3 สารวจและอธบิ ายทาเลทตี่ งั้ กจิ กรรมทางเศรษฐกจิ และสงั คมในทวปี เอเชยี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี โดยใช ้ แหลง่ ขอ้ มลู ทห่ี ลากหลาย ม.1/4 วเิ คราะหป์ ัจจยั ทางกายภาพและสงั คมทม่ี ผี ลตอ่ การเลอื่ นไหลของความคดิ เทคโนโลยี สนิ คา้ และประชากรใน ทวปี เอเชยี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยีจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้1. เลอื กใชเ้ ครอ่ื งมอื ทางภมู ศิ าสตร์ เพอ่ื อธบิ ายลกั ษณะทางสงั คมของทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี ได ้2. วเิ คราะหก์ ารเปลย่ี นแปลงทางประชากร เศรษฐกจิ สงั คม และวฒั นธรรมในทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี ได ้3. วเิ คราะหท์ าเลทต่ี งั้ กจิ กรรมทางเศรษฐกจิ และสงั คมในทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี ได ้4. วเิ คราะหป์ ัจจัยทางกายภาพและสงั คมทม่ี ผี ลตอ่ การเลอื่ นไหลของความคดิ เทคโนโลยี สนิ คา้ และประชากรในทวปี

ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี ได ้5. วเิ คราะหก์ ารกอ่ เกดิ สง่ิ แวดลอ้ มใหมท่ างสงั คมในทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี ได ้6. บอกความร่วมมอื ระหวา่ งประเทศในทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี ทม่ี ผี ลตอ่ สงิ่ แวดลอ้ มทางธรรมชาตไิ ด ้ สาระการเรยี นรู้สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง1. เครอ่ื งมอื ทางภมู ศิ าสตร์ (ลกู โลก แผนท่ี กราฟ แผนภมู ิ ฯลฯ) ทแี่ สดงลักษณะทางกายภาพและสงั คมของทวปี ออสเตรเลยีและโอเชยี เนยี2. การเปลยี่ นแปลงทางประชากร เศรษฐกจิ สงั คม และวฒั นธรรมในทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี3. การกอ่ เกดิ สงิ่ แวดลอ้ มใหมท่ างสงั คมในทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี4. แนวทางการใชท้ รัพยากรของคนในชมุ ชนใหใ้ ชไ้ ดน้ านขน้ึ โดยมจี ติ สานกึ รคู ้ ณุ คา่ ของทรัพยากร5. ความรว่ มมอื ระหวา่ งประเทศในทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี ทมี่ ผี ลตอ่ สงิ่ แวดลอ้ มทางธรรมชาติ6. ทาเลทต่ี งั้ กจิ กรรมทางเศรษฐกจิ และสงั คมในทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี เชน่ ศนู ยก์ ลางการคมนาคม7. ปัจจยั ทางกายภาพและสงั คมทมี่ ผี ลตอ่ การเลอ่ื นไหลทางความคดิ เทคโนโลยี สนิ คา้ และประชากรในทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี นความสามารถในการสอ่ื สารความสามารถในการวเิ คราะห์- ทักษะการคดิ วเิ คราะห์- ทกั ษะการคดิ สงั เคราะห์ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ- กระบวนการปฏบิ ตั ิ- กระบวนการทางานกลมุ่ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี- กระบวนการสบื คน้ ขอ้ มลู คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์1. มวี นิ ัย2. มงุ่ มนั่ ในการทางาน กจิ กรรมการเรยี นรู้(วธิ สี อนแบบบรรยาย วธิ สี อนโดยการจดั การเรยี นรแู ้ บบร่วมมอื : เทคนคิ โตะ๊ กลม, เทคนคิ คตู่ รวจสอบ)ชว่ั โมงท่ี 11. ครูนาภาพคนออสเตรเลยี หรอื คนนวิ ซแี ลนด์ คนเผา่ แอบอรจิ นิ สี คนประเทศฟิจิ หรอื ประเทศหมเู่ กาะตา่ งๆ มาใหน้ ักเรยี นดูแลว้ ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั วเิ คราะหล์ กั ษณะของประชากรจากภาพ และบอกความแตกตา่ งของประชากรดงั กลา่ ว2. ครอู ธบิ ายสาระสาคญั วา่ ประชากรในทวปี ออสเตรเลยี จะมคี วามแตกตา่ งกันอยา่ งเห็นไดช้ ดั ระหวา่ งประเทศออสเตรเลยีนวิ ซแี ลนด์ กบั ประเทศทเี่ ป็ นเกาะและหมเู่ กาะตา่ งๆ เชน่ ในประเทศออสเตรเลยี คนสว่ นใหญจ่ ะมรี ูปรา่ ง หนา้ ตาเหมอื นคนตะวนั ตก ซงึ่ เป็ นคนในสงั คมเมอื งจะแตกตา่ งกบั ชนเผา่ พนื้ เมอื ง ซง่ึ เป็ นพวกผวิ ดา มวี ถิ กี ารดาเนนิ ชวี ติ ทแี่ ตกตา่ งกนั คอื คนผวิขาว อยใู่ นสงั คมเมอื ง มฐี านะ ความเป็ นอยทู่ ด่ี ี ในขณะทชี่ นพนื้ เมอื งมวี ถิ กี ารดาเนนิ ชวี ติ แบบชนเผา่ แตป่ ัจจบุ นั ไดเ้ ขา้ มาอยใู่ นเมอื งมากขนึ้ เชน่ มาทาการแสดงพน้ื เมอื ง แสดงใหน้ ักทอ่ งเทย่ี วไดช้ มสว่ นประเทศหมเู่ กาะตา่ งๆ ประชากรจะมผี วิ ดา ตัวใหญ่

มวี ถิ ชี วี ติ แบบสงั คมชาวเกาะ มคี วามเชอ่ื วัฒนธรรมตา่ งๆ ทแ่ี ตกตา่ งจากคนเมอื งในออสเตรเลยี และในปัจจบุ นั ประชากรในทวปีนม้ี กี ารเปลยี่ นแปลง โดยเฉพาะในประเทศออสเตรเลยี และนวิ ซแี ลนด์ มปี ระชากรอพยพมาจากประเทศตา่ งๆ เชน่ จากทวปีเอเชยี เนอื่ งจากมคี วามเจรญิ กา้ วหนา้ ทงั้ ทางดา้ นเศรษฐกจิ สงั คม การศกึ ษา สว่ นประเทศทเ่ี ป็ นหมเู่ กาะ มกี ารเปลยี่ นแปลงสภาพพนื้ ที่ เนอื่ งจากพน้ื ทถ่ี กู น้าทะเลทว่ ม ทาใหต้ อ้ งอพยพไปอยยู่ งั เกาะทเี่ ป็ นศนู ยก์ ลางของประเทศ ทาใหป้ ระชากรหนาแนน่บางพนื้ ที่3. ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันยกตวั อยา่ งกจิ กรรมทางเศรษฐกจิ ของประเทศออสเตรเลยี นวิ ซแี ลนดแ์ ละประเทศหมเู่ กาะตา่ งๆ และยกตัวอยา่ งสนิ คา้ ทค่ี นไทยนาเขา้ มาจากออสเตรเลยี ทสี่ าคญั เชน่ ผลติ ภณั ฑจ์ ากนม นมผงสาเรจ็ รูป เป็ นตน้ แลว้ ครสู รุปลักษณะเศรษฐกจิ ของทวปี ออสเตรเลยี วา่ กจิ กรรมทางเศรษฐกจิ ทส่ี าคญั ของทวปี น้ี เชน่ การเลย้ี งสตั วแ์ บบปศสุ ตั ว์ หนงั สตั ว์ผลติ ภัณฑน์ มเนย อาหารทะเล เป็ นตน้ ปศสุ ตั วจ์ ะมคี วามสาคญั มาก เนอ่ื งจากพน้ื ทแี่ ละอากาศเหมาะสม สว่ นประเทศทเ่ี ป็ นหมู่เกาะ จะมอี าชพี การประมงเป็ นอาชพี สาคญั4. นักเรยี นชว่ ยกนั ยกตวั อยา่ งทาเลทต่ี งั้ กจิ กรรมทางเศรษฐกจิ และสงั คมทสี่ าคญั ของทวปี โดยใชแ้ ผนทที่ วปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี ประกอบการอธบิ ายและชตี้ าแหนง่ เมอื งสาคัญทางเศรษฐกจิ จากนัน้ ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั วเิ คราะหก์ ารเปลยี่ นแปลงทางเศรษฐกจิ ทส่ี าคญั เชน่ สาเหตจุ ากความแหง้ แลง้ ทาใหฟ้ ารม์ ปศสุ ตั วไ์ ดร้ ับผลกระทบ การเกดิ ไฟป่ าในออสเตรเลยี ทาให ้พนื้ ทที่ างการเกษตรลดลง5. ครเู ลา่ ใหน้ ักเรยี นฟังวา่ ในปัจจบุ ันคนไทย และคนในเอเชยี นยิ มสง่ ลกู หลานไปเรยี นทป่ี ระเทศออสเตรเลยี และนวิ ซแี ลนด์ เนอ่ื งจากมคี วามเจรญิ กา้ วหนา้ ทางการศกึ ษาทจ่ี ดั การศกึ ษาแบบตะวนั ตก แตด่ ว้ ยทงั้ 2 ประเทศนี้ ยังเป็ นสงั คมที่น่าอยู่ ประชากรไมห่ นาแนน่ สภาพสงั คมดี และคา่ ครองชพี ไมส่ งู มากนกั เมอื่ เทยี บกับประเทศตะวันตก จงึ ทาใหม้ คี นจากทวปีตา่ งๆ เดนิ ทางไปเรยี นเป็ นจานวนมาก6. ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั อภปิ รายถงึ การเกดิ สง่ิ แวดลอ้ มใหมท่ างสงั คม เชน่ การเกดิ ชมุ ชนตา่ งๆ เชน่ ชมุ ชนชาวจนี ชมุ ชนชาวไทย มวี ดั ไทย รา้ นอาหารไทย เป็ นตน้ สว่ นประเทศทเี่ ป็ นเกาะ มที รัพยากรอดุ มสมบรู ณ์ เชน่ ป่ าไม ้ ทาใหม้ นี กั ลงทนุ เขา้ ไปลงทนุ ทากจิ การตา่ งๆ ชมุ ชนเผา่ กจ็ ะมคี วามเป็ นเมอื งเขา้ มา สว่ นเกาะตา่ งๆ ถกู น้าทะเลทว่ มเป็ นบางชว่ งเวลา7. ครูใหน้ ักเรยี นทบทวนความรูท้ ไ่ี ดเ้ รยี นมาอกี ครัง้ เรอ่ื ง ลักษณะทางประชากร สงั คมวฒั นธรรมและเศรษฐกจิ ของทวปีออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี จากหนังสอื เรยี นชว่ั โมงที่ 21. ครูแบง่ นักเรยี นเป็ นกลมุ่ กลมุ่ ละ 4 คน คละกนั ตามความสามารถ แลว้ ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ทาใบงานท่ี 2.1 เรอื่ ง ชว่ ยคดิ ชว่ ยทาโดยปฏบิ ัตดิ งั นี้ - สมาชกิ คนท่ี 1 อา่ นคาถามขอ้ ที่ 1 แลว้ เขยี นคาตอบ แลว้ สง่ ใบงานใหส้ มาชกิ คนท่ี 2 ตรวจสอบความถกู ตอ้ งถา้ ไมค่ รบถว้ นให ้ เขยี นเพมิ่ เตมิ จากนัน้ สมาชกิ คนที่ 2 จะตอบคาถามขอ้ ที่ 2 - สมาชกิ คนท่ี 3 อา่ นคาตอบของสมาชกิ คนที่ 2 เขยี นไวแ้ ลว้ ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง ถา้ ไมค่ รบถว้ นสมบรู ณใ์ หเ้ ขยี นตอบเพม่ิ เตมิ สมาชกิ แตล่ ะคนในกลมุ่ จะไดม้ โี อกาสอา่ นและเขยี นคาตอบหมนุ เวยี นกันไปเรอ่ื ยๆ จนเสรจ็ และสามารถตอบปัญหาได ้ชดั เจนครบ ถว้ นทกุ คาถาม2. เมอ่ื นักเรยี นทาใบงานเสร็จแลว้ ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกันเฉลยคาตอบในใบงานแตล่ ะขอ้ โดยครูเป็ นผตู ้ รวจสอบความถกู ตอ้ งและชว่ ยอธบิ ายเพมิ่ เตมิ3. ครูและนักเรยี นชว่ ยกนั สรปุ สาระสาคัญของลกั ษณะประชากร สงั คม วฒั นธรรม ประเพณี เศรษฐกจิ และปฏสิ มั พนั ธร์ ะหวา่ งมนุษยก์ ับสงิ่ แวดลอ้ มในทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี ใหน้ ักเรยี นฟัง4. ครใู หน้ ักเรยี นไปสบื คน้ ขอ้ มลู ความร่วมมอื ระหวา่ งประเทศในการอนรุ กั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มในทวปีออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี

ชว่ั โมงท่ี 31. ครูนาขา่ วหรอื บทความเกย่ี วกับการเกดิ ไฟป่ าในทวปี ออสเตรเลยี มาเลา่ ใหน้ ักเรยี นฟัง แลว้ ชว่ ยกันวเิ คราะหถ์ งึ เหตกุ ารณก์ ารเกดิ ไฟป่ า และผลเสยี หายจากการเกดิ ไฟป่ า2. ครอู ธบิ ายใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจวา่ ประเทศออสเตรเลยี ตอ้ งประสบปัญหาสงิ่ แวดลอ้ มทสี่ าคญั น่ันคอื การเกดิ ไฟป่ า สง่ ผลกระทบตอ่ สงิ่ แวดลอ้ มในแตล่ ะครัง้ ทเ่ี กดิ ไฟป่ าไดค้ รอบคลมุ พน้ื ทกี่ วา้ งใหญ่ ทาใหม้ กี ารใชเ้ ทคโนโลยตี า่ งๆ มากมายเพอ่ืป้องกนั และใชใ้ นการดับไฟ นอกจากปัญหาไฟป่ าในออสเตรเลยี แลว้ ครยู กตวั อยา่ งปัญหาการบกุ รกุ พนื้ ทปี่ ่ าในหมเู่ กาะตา่ งๆใหน้ ักเรยี นฟัง เชน่ ปัญหาขาดแคลนน้าจดื เป็ นตน้3. ครูใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั ยกตัวอยา่ งความรว่ มมอื ระหวา่ งประเทศในการอนรุ ักษ์ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มในทวปีออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี และแนวทางการอนรุ ักษ์ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มในทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี4. ครใู หน้ ักเรยี นกลมุ่ เดมิ ชว่ ยกนั เขยี นบทความวเิ คราะหท์ วปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี ในประเดน็ ตอ่ ไปนี้ 1) การวเิ คราะหผ์ ลกระทบจากการเปลย่ี นแปลงทางธรรมชาติ 2) การวเิ คราะหผ์ ลจากความรว่ มมอื ของประเทศตา่ งๆ ทมี่ ตี อ่ สงิ่ แวดลอ้ มทางธรรมชาติ 3) การวเิ คราะหป์ ัจจยั ทางกายภาพและสงั คมทมี่ ผี ลตอ่ การดารงชวี ติ ของประชากร 4) การอธบิ ายทาเลทต่ี งั้ กจิ กรรมทางเศรษฐกจิ และสงั คม โดยสบื คน้ ขอ้ มลู จากหนังสอื ตา่ งๆ หรอื จากแหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ ครกู าหนดระยะเวลาในการทาตามความเหมาะสมนักเรยี นทาแบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรยี นรทู ้ ี่ 5 เรอ่ื ง ภมู ศิ าสตรท์ วปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี การวดั ผลและประเมนิ ผล วธิ กี าร เครอื่ งมอื เกณฑ ์นักเรยี นทาใบงานที่ 2.1 ใบงานที่ 2.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์นักเรยี นเขยี นบทความวเิ คราะหท์ วปี แบบประเมนิ บทความวเิ คราะหท์ วปี ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์นักเรยี นทาแบบทดสอบหลังเรยี นหน่วย แบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู ้ ่ี 5การ เรอ่ื ง ภมู ศิ าสตรท์ วปี ออสเตรเลยี และโอเชยีเรยี นรทู ้ ่ี 5 เรอื่ ง ภมู ศิ าสตรท์ วปี เนยีออสเตรเลยีและโอเชยี เนยี สอ่ื / แหลง่ การเรยี นรู้สอื่ การเรยี นรู้1. หนังสอื เรยี น ภมู ศิ าสตร์ ม.12. แผนทท่ี วปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี3. ลกู โลก4. ภาพชาวออสเตรเลยี คนเผา่ แอบอรจิ นิ สี คนในหมเู่ กาะตา่ ง ๆ5. ขา่ วหรอื บทความไฟป่ าในประเทศออสเตรเลยี6. ใบงานที่ 2.1 เรอื่ ง ชว่ ยคดิ ชว่ ยทาแหลง่ การเรยี นรู้

1. หอ้ งสมดุ2. แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ - http://www.bbc07geo.ob.tc/20.htm - th.wikipedia.org/wiki/ทวปี ออสเตรเลยี - http://reocities.com/Athens/crete/4710/australia.htm