สารบัญ หน้า ประวตั ิ จงั หวดั แม่ฮ่องสอน 1-7 ภมู ิสาสตร์ 7 ประกรศาสตร์ ภาษาพดู ในจงั หวดั แม่สอด 8 สญั ลกั ษณ์ประจาจงั หวดั 8-9 การเมืองการปกครอง สัญลกั ษณ์ประจาจงั หวดั 9 รายนามเจา้ เมืองและผวู้ า่ ราชการจงั หวดั แม่ฮ่องสอน สถานที่ท่องเท่ียว 10 11 12 13-30
1 จังหวัด แม่ฮ่องสอน ประวตั ิศาสตร์ บริเวณท่ีต้งั เมืองแม่ฮ่องสอนปัจจุบนั น้ี แต่เดิมเป็นเพยี ง สถานท่ีที่มีผคู้ นมาปลูกกระท่อมอาศยั อยู่ บริเวณท่ีราบริมเชิงเขา เป็น ทาเลท่ีเหมาะสาหรับการเพาะปลูกมาก ผคู้ นท่ีอาศยั ตามที่ราบมกั จะเป็น ชาวไทใหญ่ ส่วนผคู้ นที่อาศยั อยบู่ นดอยมกั จะเป็นกะเหรี่ยง ลวั ะ และ มเู ซอ บริเวณน้ีอยหู่ ่างจากแม่น้าคง (แม่น้าสาละวนิ ) ประมาณ 40 กิโลเมตร และมีอาณาเขตติดกบั รัฐฉาน ประเทศพม่า ต่อมาเมื่อประมาณ พ.ศ. 2374 สมยั เจา้ หลวงพทุ ธวงศ์ เป็นพระเจา้ ผคู้ รองนครเชียงใหม่ และ ตอ้ งการชา้ งป่ าไวใ้ ชง้ าน จึงใหเ้ จา้ แกว้ เมืองมา ซ่ึงเป็นญาติพร้อมดว้ ย กาลงั ชา้ งต่อหมอควาญออกเดินทางไปสารวจและไล่จบั ชา้ งป่ ามาฝึกใช้ งาน เจา้ แกว้ เมืองมาจึงยกกระบวนเดินทางรอนแรมจากเชียงใหม่ผา่ นไป ทางเมืองปาย ใชเ้ วลาหลายคืนจนบรรลุถึงป่ าแห่งหน่ึง ทางทิศใตร้ ิมฝ่ัง แม่น้าปาย เป็นป่ าดงวา่ งเปล่าและเป็นดินโป่ งท่ีมีหมปู ่ าลงมากินโป่ งชุก ชุม เจา้ แกว้ เมืองมาพิจารณาเห็นวา่ ที่แถวน้ีเป็นทาเลที่ดี น้าท่าบริบรู ณ์ สมควรที่จะต้งั เป็นหมู่บา้ น จึงหยดุ พกั อยู่ ณ ที่น้ี และเรียกผคู้ นท่ีต้งั บา้ นเรือนอยรู่ ิมหว้ ย ริมเขาซ่ึงเป็นชาวไทใหญ่ และกะเหร่ียง (ยางแดง) มาประชุม ช้ีแจงใหท้ ราบถึงความคิดท่ีจะต้งั บริเวณน้ีข้ึนเป็นหมู่บา้ น
2 และบุกเบิกท่ีดินที่เป็นไร่นาที่ทามาหากินต่อไป และเจา้ แกว้ เมืองมา แต่งต้งั ใหช้ าวไทใหญผ่ หู้ น่ึงซ่ึงเป็นคนเฉลียวฉลาดและมีความรู้ดีกวา่ คนอ่ืนในหมู่บา้ น ชื่อวา่ \"พะกาหม่อง\" ใหเ้ ป็น \"ก๊าง\" (คือตาแหน่งนาย บา้ นหรือผใู้ หญ่บา้ น) มีหนา้ ที่คอยควบคุมดูแล และใหค้ าแนะนาพวก ลูกบา้ นใน การดาเนินการต่อไป พะกาหม่องไดเ้ ป็นผชู้ กั ชวนเกล้ียกล่อม พวกที่อยใู่ กลเ้ คียง ใหย้ า้ ยมาอยรู่ วมกนั แลว้ ต้งั ช่ือหม่บู า้ นน้นั วา่ \"บา้ น โป่ งหม\"ู โดยถือเอาวา่ ท่ีโป่ งน้นั มีหมูป่ าลงมากินโป่ งมากนนั่ เอง ปัจจุบนั หมู่บา้ นน้ี เรียกวา่ \"บา้ นปางหม\"ู อยหู่ ่างจากที่วา่ การอาเภอ ประมาณ 6 กิโลเมตร เม่ือจดั ต้งั หม่บู า้ นแลว้ เจา้ แกว้ เมืองมากย็ กขบวนออกเดินทางตรวจ ชายแดน และคลอ้ งชา้ งป่ าต่อไป จนถึงลาหว้ ยแห่งหน่ึง มีรอยชา้ งป่ าอยู่ มากมาย กห็ ยดุ คลอ้ งชา้ งป่ าไดห้ ลายเชือก แลว้ ใหต้ ้งั คอกสอนชา้ งใน ร่องหว้ ย ริมหว้ ยน้นั เป็นพ้ืนท่ีราบกวา้ งขวางพ้นื ดินดีกวา่ บา้ นโป่ งหมู และมีชาวไทใหญ่ต้งั กระท่อมอยเู่ ป็นอนั มาก เจา้ แกว้ เมืองมาพิจารณา เห็นวา่ เป็นทาเลท่ีเหมาะสมพอท่ีจะต้งั เป็นหมู่บา้ นอีกแห่งหน่ึง จึงเรียก ชาวไทใหญ่อีกคนหน่ึงซ่ึงเป็นบุตรเขยของพะกาหม่อง ชื่อ \"แสนโกม\" มาแนะนาช้ีแจงแต่งต้งั ใหเ้ ป็นก๊าง ใหเ้ ป็นหวั หนา้ เกล้ียกล่อมผคู้ นใหม้ า อยรู่ วมกนั จนกลายเป็นหม่บู า้ นใหญ่ เจา้ แกว้ เมืองมาต้งั ช่ือหม่บู า้ นน้นั
3 วา่ \"บา้ นแม่ฮ่องสอน\" ซ่ึง ฮ่อง ในภาษาลา้ นนา คือ ร่อง โดยอาศยั ที่ร่อง น้าน้นั เป็นคอกที่ฝึกสอนชา้ งป่ า เมื่อเจา้ แกว้ เมืองมาคลอ้ งชา้ งป่ าได้ พอสมควรแลว้ กเ็ ดินทางกลบั เมืองเชียงใหม่ แลว้ กราบทูลใหพ้ ระ เจา้ มโหตรประเทศทราบ เมื่อเจา้ แกว้ เมืองมากลบั นครเชียงใหม่แลว้ พะกาหม่องและแสนโกมบุตร เขยกไ็ ดพ้ ยายามชกั ชวนผคู้ นที่อยใู่ กลเ้ คียง ใหอ้ พยพครอบครัวมาต้งั บา้ นเรือนอยทู่ ามาหากินจนแน่นหนาข้ึนเป็นหม่บู า้ นใหญ่ และต่อมา เห็นวา่ บริเวณน้นั มีไมส้ กั มาก พะกาหม่องและแสนโกม เห็นวา่ หากตดั เอาไมส้ กั น้นั ไปขายประเทศพม่าโดยใชว้ ธิ ีชกั ลากลงลาหว้ ย แลว้ ปล่อย ใหไ้ หลลงแม่น้าคง(แม่น้าสาละวนิ ) กค็ งไดเ้ งินมาช่วยในดา้ นเศรษฐกิจ และการบารุงบา้ นเมือง เมื่อปรึกษาหารือกนั ดีแลว้ พะกาหม่องและแสน โกม จึงเดินทางเขา้ มาเฝ้ าพระเจา้ มโหตรประเทศฯ ท่ีนครเชียงใหม่ กราบทูลขออนุญาตตดั ฟันชกั ลากไมไ้ ปขายแลว้ จะแบ่งเงินค่าตอบแทน ถวายตลอดปี พระเจา้ มโหตรประเทศฯกท็ รงอนุญาต พะกาหม่องและ แสนโกม จึงทูลลากลบั และเริ่มลงมือทาไมข้ อนสกั ส่งไปขายที่เมืองมะ ละแหม่ง ประเทศพม่าไดเ้ งินมากเ็ กบ็ แบ่งถวายพระเจา้ มโหตรประเทศ ทุกปี นอกน้นั กใ็ ชป้ ระโยชนส์ ่วนตวั และบารุงบา้ นเมือง
4 คร้ันถึงพ.ศ. 2397 พระเจา้ มโหตรประเทศฯถึงแก่พลิ าลยั เจา้ กาวโิ ลรสซ่ึง ดารงตาแหน่งเจา้ หวั เมืองแกว้ ไดเ้ ป็นเจา้ ผคู้ รองนครเชียงใหม่แทน ทรง นามวา่ \"พระเจา้ กาวโิ ลรสสุริยวงศ\"์ ใน พ.ศ. 2399 พะกาหม่อง และแสน โกม กย็ งั คงทาป่ าไมแ้ ละส่งเงินไปถวายทุกปี พะกาหม่องกบั แสนโกม จึงมีฐานะดีข้ึน และหม่บู า้ นโป่ งหมูและบา้ นแม่ฮ่องสอนกเ็ จริญข้ึน ตามลาดบั ในคร้ังน้นั หวั เมืองไทใหญต่ ามแถบตะวนั ตกฝ่ังแม่น้าคง (แม่น้าสาละวนิ ) เกิดการจลาจลเกิดรบราฆ่าฟัน จึงมีชาวไทใหญอ่ พยพ ครอบครัวเขา้ มาอาศยั อยทู่ ี่บา้ นปางหมหู รือโป่ งหมู และบา้ น แม่ฮ่องสอนมากข้ึน บางพวกกล็ งไปอาศยั อยทู่ ี่บา้ นขนุ ยวม (หม่บู า้ นไท ใหญบ่ นเขา) บางพวกอพยพเลยข้ึนไปทางเหนือ ไปอยทู่ ่ีเมืองปาย กลุ่ม พวกไทใหญ่ที่อพยพเขา้ มาน้ี มีผหู้ น่ึงชื่อวา่ \"ชานกะเล\" เป็นชาวเมือง จ๋ามกา เป็นคนขยนั ขนั แขง็ ชานกะเลเขา้ มาอาศยั ที่บา้ นปางหมู และช่วย พะกาหม่องทาไมด้ ว้ ยความซื่อสตั ย์ และต้งั ใจทางานโดยไม่เห็นแก่ เหน่ือยยาก พะกาหม่องไวว้ างใจและรักใคร่มาก ถึงกบั ยกลกู สาวช่ือนาง ใส ใหเ้ ป็นภรรยา นางใส มีบุตรกบั ชานกะเลคนหน่ึงช่ือนางคา[กาลเวลา ผา่ นไปหม่บู า้ นปางหมู และบา้ นแม่ฮ่องสอนกม็ ีผคู้ นมาอาศยั หนาแน่น ยงิ่ ข้ึน และในปี พ.ศ. 2409 นนั่ เอง มีเหตุการณ์สาคญั ท่ีชกั นาเอาบุคคล สาคญั ของชาวไทใหญ่ใหม้ าอพยพอยใู่ นแม่ฮ่องสอนอีกคือเจา้ ฟ้ าเมือง
5 นายมีเร่ืองขดั เคืองกบั เจา้ ฟ้ าโกหล่านเจา้ เมืองหมอกใหม่ จึงไดย้ กทพั มาตีเมืองหมอกใหม่แตก เจา้ ฟ้ าโกหล่านเจา้ เมืองหมอกใหม่จึงพา ครอบครัวอพยพเขา้ มาอาศยั อยกู่ บั แสนโกมท่ีบา้ นแม่ฮ่องสอน เจา้ ฟ้ าโก หล่านมีภรรยาชื่อ นาง เกี๋ยง มีบุตรชายช่ือ เจา้ ขนุ หลวง มีหลาน 4 คน เป็นชาย 1 หญิง 3 ชายช่ือ ขนุ แจหญิงชื่อ เจา้ หอม เจา้ นางนุ เจา้ นางเม้ียะ เมื่อเจา้ ฟ้ าโกหล่านมาอาศยั อยดู่ ว้ ย แสนโกมไดม้ ีหนงั สือทูลใหพ้ ระเจา้ กาวโิ ลรสฯ ทราบพระเจา้ กาวโิ ลรสฯ จึงรับสง่ั ใหส้ ่งตวั เขา้ เฝ้ า แต่เจา้ ฟ้ า โกหล่านป่ วย จึงส่งเจา้ ขนุ หลวงบุตรไปแทน พระเจา้ กาวโิ ลรส โปรดเจา้ ขนุ หลวงทรงยกเจา้ อุบลวรรณาผเู้ ป็นหลานใหเ้ ป็นภรรยาอยกู่ ินดว้ ยกนั ที่ เชียงใหม่ จนมีบุตรคนหน่ึงชื่อ เจา้ นอ้ ยสุขเกษมและอนุญาตใหเ้ จา้ ฟ้ าโก หล่านอาศยั อยใู่ นเขตแดนต่อไป ต่อมานางใส ภรรยาของชานกะเลถึงแก่ กรรม เจา้ ฟ้ าโกหล่านจึงทรงยกเจา้ นางเมี๊ยะหลานสาวคนเลก็ ใหเ้ ป็น ภรรยาของชานกะเล ชานกะเลไดไ้ ปต้งั เมืองอยบู่ นภเู ขาอีกแห่งหน่ึงทาง เหนือตน้ แม่น้ายวม เรียกวา่ เมืองขนุ ยวม ต่อมาในปี พ.ศ. 2417 พระเจา้ อินทวชิ ยานนทฯ์ ทรงแต่งต้งั ให้ ชานกะเลเป็น \"พญาสิงหนาทราชา\" เป็นพอ่ เมืองคนแรก และยกฐานะหม่บู า้ นแม่ฮ่องสอนข้ึนเป็นเมือง แม่ฮ่องสอน เป็นเมืองหนา้ ด่านต่อไป และยกเมืองปาย เมืองขนุ ยวมเป็น เมืองรองพญาสิงหนาทราชา ไดป้ กครองเมืองและพฒั นาเมือง
6 แม่ฮ่องสอนใหเ้ จริญข้ึนอยา่ งรวดเร็ว มีการขดุ คูเมืองและสร้างประตู เมืองข้ึนอยา่ งมนั่ คง จนถึง พ.ศ. 2427 พญาสิงหนาทราชาไดถ้ ึงแก่กรรม เจา้ ผคู้ รองนครเชียงใหม่ไดแ้ ต่งต้งั เจา้ นางเมี๊ยะผเู้ ป็นภรรยาของพญาสิง หนาทเป็นเจา้ นางเมวดีข้ึนปกครองแทน ชาวแม่ฮ่องสอนเรียกเจา้ นางเม วดีวา่ “ เจา้ นางเมี๊ยะ ” โดยใหป้ ่ โู ทะ (พญาขนั ธเสมาราชานุรักษ)์ เป็นท่ี ปรึกษาราชการแผน่ ดิน ต่อมา พ.ศ. 2434 เจา้ นางเมี๊ยะถึงแก่กรรม พระเจา้ อินทวชิ ยานนท์ เจา้ ผปู้ กครองนครเชียงใหม่ จึงแต่งต้งั พญาขนั ธเสมารา ชานุรักษ์ เป็นพญาพิทกั ษส์ ยามเขต ใหป้ กครองเมืองแม่ฮ่องสอน จนถึง พ.ศ. 2433 ตรงกบั สมยั รัชกาลท่ี 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระยาศรีสห เทพปลดั ทูลฉลองกระทรวงมหาดไทยไดต้ รวจราชการพ้ืนที่หวั เมือง มณฑลตะวนั ตกเฉียงเหนือจึงจดั ระบบการปกครองใหม่เป็น รวมเมือง แม่ฮ่องสอน เมืองขนุ ยวม เมืองปาย และเมืองยวม (แม่สะเรียง) เป็น หน่วยเดียวกนั เรียกวา่ “ บริเวณเชียงใหม่ตะวนั ตก ” ต้งั ที่วา่ การแขวง (เทียบเท่าเมือง) ท่ีเมืองขนุ ยวม โดยแต่งต้งั นายโหมดเป็นนายแขวง (แจง้ ความเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย ลงวนั ที่ 11 กรกฎาคม ร.ศ. 119 ) และ ในปี เดียวกนั น้ีเมืองเชียงใหม่ไดแ้ ต่งต้งั ขนุ หล่บู ุตรของพญาพิทกั ษส์ ยาม เขต เป็นพญาพิศาลฮ่องสอนบุรี พ.ศ. 2446 ไดย้ า้ ยที่วา่ การแขวงจากเมือง ขนุ ยวม ไปต้งั ที่เมืองยวมแลว้ เปล่ียนชื่อเป็น “ บริเวณพายพั เหนือ ”
7 จนถึง ปี พ.ศ. 2556 พญาพทิ กั ษส์ ยามเขตถึงแก่กรรม เมืองเชียงใหม่จึง แต่งต้งั พญาพิศาลฮ่องสอนบุรีข้ึนปกครองเมืองแทน พ.ศ. 2453 รัชกาลท่ี 5 โปรดเกลา้ ฯ ต้งั เมืองจตั วาข้ึนกบั มณฑลพายพั ยา้ ยที่วา่ การแขวงจาก เมืองยวมมาต้งั ท่ีแมฮ่ ่องสอนใหช้ ่ือวา่ “ จงั หวดั แม่ฮ่องสอน ” แลว้ โปรด เกลา้ ฯใหพ้ ระศรสุรราช (เปล้ือง) มาปกครองเมืองแม่ฮ่องสอน ถือวา่ เป็น ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั แม่ฮ่องสอนคนแรก ภูมศิ าสตร์ จงั หวดั แม่ฮ่องสอนอยหู่ ่างจากกรุงเทพมหานครไปทางทิศเหนือ ประมาณ 924 กิโลเมตร (574 ไมล)์ มีอาณาเขตทางทิศเหนือและทิศ ตะวนั ตกติดต่อกบั สามรัฐของประเทศพม่า ไดแ้ ก่ รัฐฉาน รัฐกะยา และ รัฐกะเหรี่ยง โดยมีแนวก้นั ธรรมชาติเป็นทิวเขาถนนธงชยั ตะวนั ตก แม่น้าสาละวนิ และแม่น้าเมย ทางทิศใตต้ ิดต่อกบั อาเภอท่าสองยาง จงั หวดั ตาก โดยมีแม่น้ายวมและแม่น้างาวเป็นแนวก้นั และทางทิศ ตะวนั ออกติดต่อกบั อาเภอเวยี งแหง อาเภอเชียงดาว อาเภอแม่แตง อาเภอแม่แจ่ม อาเภอฮอด และอาเภออมก๋อย ของจงั หวดั เชียงใหม่ โดยมี แนวก้นั เป็นทิวเขาถนนธงชยั กลางและตะวนั ออก
8 ประชากรศาสตร์ ประชากรในจงั หวดั แม่ฮ่องสอนข้ึนชื่อวา่ มีความ หลากหลาย โดยมากเป็นชาวไทใหญ่ นอกน้นั เป็นชาวไทยวน กะเหรี่ยง มเู ซอ ลีซอ ลวั ะ มง้ ฮ่อ ปะโอ และอ่ืน ๆ[9] โดยต่างรักษาวฒั นธรรมของ ตนเอาไวไ้ ดเ้ ป็นอยา่ งดี ขณะเดียวกนั กอ็ ยรู่ ่วมกบั เพ่อื นบา้ นที่มี วฒั นธรรมท่ีต่างกนั ไดโ้ ดยไม่เคยปรากฏความแตกต่างระหวา่ งภาษา และวฒั นธรรมแต่อยา่ งใด ดว้ ยความหลากหลายของเช้ือชาติดงั กล่าวน้ี ประชากรในแม่ฮ่องสอนจึง มีการใชภ้ าษาที่หลากหลายดว้ ย โดยในชาติพนั ธุ์ต่างๆกจ็ ะพดู ภาษา ต่างกนั โดยแบ่งเป็นใหญ่ ๆ ไดด้ งั น้ี ภาษาพดู ในจงั หวดั แม่ฮ่องสอน ตระกลู ภาษา กลุ่มภาษาแยกยอ่ ย กลุ่มชาติพนั ธุ์ ตระกลู ภาษาขร้า-ไท, กลุ่มตะวนั ตกเฉียงใต้ กลุ่มภาษาเชียงแสนไทย ภาคเหนือ (ลา้ นนา-ไทยวน), ไทล้ือ, ไทเขิน, ไทยภาคกลาง (สยาม)
9 กลุ่มภาษาไตตะวนั ตกเฉียงเหนือ ไทใหญ่ ตระกลู ภาษาจีน-ทิเบต ตระกลู ภาษายอ่ ยทิเบต-พม่า พม่า ภาษาลาฮลู ่าหู่ (ชาวมเู ซอ) ภาษาลีสู่ ลีซู (ลีซอ) ภาษาจีน-จีนกลางจีนฮ่อ (จีนยนู นาน) ภาษากะเหรี่ยงสะกอ กะเหรี่ยง (ปกาเกอะญอ)ตระกลู ภาษามง้ -เม่ียนภาษามง้ เขียว-ภาษามง้ ขาวมง้ (แมว้ ) ตระกลู ภาษาออสโตร-เอเชียติก ภาษากลุ่มมอญ-เขมร ลวั ะ (ละเวอื ะ) ประชากรส่วนใหญข่ องจงั หวดั แม่ฮ่องสอนนบั ถือศาสนาพทุ ธร้อยละ 74.2 ศาสนาคริสตร์ ้อยละ 25.53 ศาสนาอิสลามร้อยละ 0.25 และศาสนา อ่ืน ๆ ร้อยละ 0.02 มีชุมชนมุสลิมในจงั หวดั ประมาณ 1,300 คน มีมสั ยดิ จดทะเบียน 3 แห่ง ในอาเภอเมืองแม่ฮอ่ งสอน อาเภอปาย และอาเภอแม่ สะเรียง
10 สัญลกั ษณ์ประจาจงั หวดั คาขวญั ประจาจงั หวดั : หมอกสามฤดู กองมูเสียดฟ้ า ป่ าเขียวขจี ผคู้ นดี ประเพณีงาม ลือนามถ่ินบวั ตอง ต้นไม้ประจาจังหวดั : ตน้ จน่ั หรือกระพ้ีจน่ั (Millettia brandisiana) ดอกไม้ประจาจงั หวดั : ดอกบวั ตองหรือพอหม่ือนี่ (Tithonia diversifolia) สัตว์นา้ ประจาจังหวดั : กบทดู หรือเขียดแลว (Limnonectes blythii)
11 การเมอื งการปกครอง หน่วยการปกครอง การปกครองส่วนภมู ิภาค การปกครองแบ่งออกเป็น 7 อาเภอ 45 ตาบล 402 หม่บู า้ น 1.อาเภอเมืองแม่ฮ่องสอน 2. อาเภอขนุ ยวม 3. อาเภอปาย 4.อาเภอแม่สะเรียง 5.อาเภอแม่ลานอ้ ย 6.อาเภอสบเมย 7.อาเภอปางมะผา้
12 รายนามเจ้าเมอื งและผู้ว่าราชการจงั หวดั แม่ฮ่องสอน ลาดบั รายนาม เริ่ม สิ้นสุด ตาแหน่ง ตาแหน่ง 1 พญาสิงหนาทราชา (ชานกะเล) 2417 2427 2 เจา้ แม่นางเม้ียะ (เจา้ นางเม้ียะ) 2427 2434 3 พญาพทิ กั ษส์ ยามเขต (ป่ ขู นุ โทะ้ ) 2434 2450 พญาพศิ าลฮ่องสอนกิจ 2484 4 หรือ พญาพิศาลฮ่องสอนบุรี (ขนุ หลู่ 2450 หรือ ขนุ หลู่ชิง)
13 สถานทที่ ่องเทย่ี ว 1.ทุ่งดอกบวั ตองดอยแม่อูคอ เม่ือเขา้ สู่ฤดูหนาวในช่วงเดือน พฤศจิกายน- ตน้ เดือนธนั วาคม คือ ช่วงเวลาที่ ดอกบวั ตองดอยแม่อูคอ อาเภอขนุ ยวม จะบานสะพรั่งดึงดูด นกั ท่องเท่ียวใหเ้ ขา้ มา เยอื น และชมความงดงาม ของทอ้ งทุ่งที่เตม็ ไป ดว้ ยสีเหลือง ปกคลุมเตม็ เทือกเขาบนพ้นื ที่กวา่ 1,000 ไร่ เป็นทุ่งดอกบวั ตองที่ใหญ่ท่ีสุดในประเทศไทย ซ่ึงมีใหช้ มเพียงปี ละคร้ังเท่าน้นั ช่วงเวลาท่องเท่ียว กลางเดือนพฤศจิกายน- ตน้ เดือนธนั วาคม
14 2.ทุ่งดอกบวั ตองดอยแม่อูคอ ต้งั อยใู่ กลก้ บั ทุ่งดอกบวั ตองดอยแม่อูคอ เป็นจุดชมววิ พระ อาทิตยข์ ้ึน ยลแสงยามเชา้ ที่เปล่ียนสีไปตามช่วงเวลาที่เปล่ียนไป พร้อม ชมสายหมอกคลอเคลา้ ไปตามทิวเขาสลบั ซบั ซอ้ น หากมาในช่วงที่ ดอกบวั ตองบาน สามารถมองเห็นววิ ของทุ่งดอกบวั ตองดอยแม่อุคอใน มุมสูงไดใ้ นอีกมุมซ่ึงสวยงามมาก ช่วงเวลาท่องเท่ียวท่ีเหมาะสม พฤศจิกายน- กมุ ภาพนั ธ์
15 3.วดั พระธาตุดอยกองมู วดั ศกั ด์ิสิทธ์ิคู่บา้ นคู่เมืองของชาวจงั หวดั แม่ฮ่องสอนมาชา้ นาน สกั การะ พระธาตุเจดีย์ ซ่ึงมีศิลปะอนั งดงามเป็นเจดียท์ รงเครื่องแบบ มอญ ประดบั ลวดลายปูนป้ัน มีฐานแปดเหล่ียมซอ้ นสามช้นั บริเวณฐาน ดา้ นล่างประดบั ดว้ ยซุม้ พระตาม ทิศท้งั แปด จากวดั พระธาตุดอยกองมู สามารถมองเห็นภูมิประเทศ และสภาพตวั เมืองแม่ฮ่องสอนไดอ้ ยา่ ง ชดั เจนและสวยงาม นอกจากน้ียงั สามารถไปนงั่ ชิลท่ีร้านกาแฟก่อน ตะวนั ลบั แนวเหลี่ยมภูผา มีระเบียงชมววิ ท่ีสามารถชมววิ ทิวทศั นข์ อง ทิวเขาที่เขียวขจีโดยเฉพาะในยามเยน็ ที่แสงอาทิตยจ์ ะตกลงตรงเหลี่ยม เขาพอดีสมกบั ช่ือร้านช่วงเวลาท่องเที่ยว เท่ียวไดต้ ลอดท้งั ปี
16 4.วดั จองคา จองกลาง วดั จองคาและวดั จองกลางเปรียบเสมือนวดั แฝด ดว้ ยต้งั อยใู่ น กาแพงเดียวกนั เมื่อมองจากดา้ นหนา้ วดั จองคา จะอยดู่ า้ นซา้ ยมือ ส่วน วดั จองกลางจะอยทู่ างขวามือ วดั จองคาและวดั จองกลางต้งั อยกู่ ลางเมือง แม่ฮ่องสอน และ เป็นเสมือนสญั ลกั ษณ์ทางวฒั นธรรมของเมืองไทใหญ่ แห่งน้ี เพราะนอกจากความงดงามทางศิลปะแลว้ วดั ท้งั สอง ยงั เป็น ศูนยก์ ลางของกิจกรรมทางวฒั นธรรม และประเพณีของชาวแม่ฮ่องสอน พ้ืนท่ีดา้ นหนา้ ของวดั ซ่ึงเป็น สวนสาธารณะหนองจองคายงั เอ้ือใหใ้ ช้ เป็นสถานที่ประกอบพิธีตามประเพณีต่าง ๆ ในรอบปี อีกดว้ ย ช่วงเวลาท่องเที่ยว เที่ยวไดต้ ลอดท้งั ปี
17 5.โครงการพระราชดาริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง) ภาพอนั สวยงามของไอหมอกท่ีลอยเหนือทะเลสาบ กบั บรรยากาศอนั หนาวเหน็บในยามเชา้ ทาใหป้ างอุ๋งกลายเป็น เป็นสถานที่ ท่องเที่ยวยอดฮิตสุดแสนโรแมนติก ติดอนั ดบั ตน้ ของแม่ฮ่องสอน จน ไดร้ ับขนานนาม วา่ เป็น “สวติ เซอร์แลนดแ์ ห่งเมืองไทย” ยง่ิ ยามพระ อาทิตยข์ ้ึนจะสะทอ้ นผนื น้าผา่ นทิวสน และไอหมอกบาง เป็นภาพที่ สร้างความประทบั ยากจะลืมเลือน แมใ้ นกระทง่ั เวลาที่หมอกเลือนราง หายไปกย็ งั คงความงดงาม ช่วงเวลาท่องเที่ยว เดือนพฤศจิกายน- กมุ ภาพนั ธ์
18 6.บ้านรักไทย หม่บู า้ นที่โอบลอ้ มไปดว้ ยทิวเขา แมกไมท้ ่ีอุดมสมบรู ณ์ ในยาม เชา้ จะไดส้ มั ผสั บรรยากาศโรแมนติก ชมไอหมอกลอยเหนืออ่างเกบ็ น้า พกั ผอ่ นยงั ที่พกั ที่แสนสะดวกสบายกลางไร่ชา อยา่ งเช่น ลีไวนร์ ักไทย รี สอร์ท ชมวถิ ีชีวติ ของชาวจีนยนู นาน ชิมชาหลากสายพนั ธุ์ และทาน อาหารจีนยนู นานรสชาติดี อาหารข้ึนขื่อ เช่น ขาหมหู มนั่ โถว ยาใบชา เห็ดหอมทอด ไก่ดาตุ๋นยาจีน เป็นอีกหน่ึงสถานที่ เหมาะสาหรับหลีกหนี ความวนุ่ วายมาพกั ผอ่ น คน้ หาความเงียบสงบ ช่วงเวลาท่องเที่ยว เดือนพฤศจิกายน- กมุ ภาพนั ธ์
19 7.สะพานซูตองเป้ สะพานไมไ้ ผท่ ่ียาวที่สุดในประเทศไทย ซูตองเป้ สะพานท่ีเกิดจากความ ศรัทธาและการร่วมแรงร่วมใจของพระภิกษุสงฆแ์ ละชาวบา้ นกงุ ไมส้ ัก ที่ต่างก็ ช่วยกนั สร้างข้ึนเพ่ือใหพ้ ระภิกษุสงฆแ์ ละชาวบา้ น ที่อยอู่ ีกฝ่ังไดใ้ ชส้ ัญจรไป มาระหวา่ งหมู่บา้ นไดส้ ะดวกยงิ่ ข้ึน ความสวยงามคลาสสิกเป็นเอกลกั ษณ์ของ สะพานกบั ที่พาดผา่ ทุ่งนา โอบลอ้ มดว้ ยหุบเขาและสายหมอกคลอเคลา้ แสงอาทิตยใ์ นยามเชา้ รวมถึงภาพนกั ท่องเท่ียวท่ีเฝ้ ารอใส่บาตร เป็นภาพ เสน่ห์ในยามเชา้ ท่ีหลายคนต่างหลงใหล อยากจะมาเยอื นสะพานไมแ้ ห่ง ศรัทธาน้ีซกั คร้ังหน่ึง ช่วงเวลาท่องเท่ียว เที่ยวไดต้ ลอดท้งั ปี แต่ช่วงฤดฝู นเดือนก.ย. –ปลายต.ค กจ็ ะ ไดพ้ บกบั ทอ้ งทุ่งนาเขียวขจี และในช่วงตน้ ถึงกลางเดือน พ.ย. ซ่ึงอยใู่ นช่วง ปลายฝนตน้ หนาวกจ็ ะไดพ้ บกบั ขา้ วออกรวงเหลืองทอง
20 8.สะพานข้าว ก้าวเพอ่ื สุข บ้านผาบ่อง บา้ นผาบ่อง ต้งั อยทู่ ่ีตาบลผาบ่อง อาเภอเมือง จงั หวดั แม่ฮ่องสอน เป็น ชุมชนเลก็ ๆ ท่ีเปิ ดใหน้ กั ท่องเท่ียวไดส้ มั ผสั กบั ประเพณีและวฒั นธรรมของชน เผา่ ซ่ึงส่วนใหญ่ ชาวบา้ น คือ ชาวไตหรือไทใหญ่และชาวปกาเกอะญอ ซ่ึง อาศยั อยรู่ ่วมกนั อยา่ งกลมเกลียวมานานนบั ร้อยปี ซ่ึงนกั ท่องเท่ียวจะไดส้ ัมผสั ประเพณีวฒั นธรรมทอ้ งถิ่น การแสดงศิลปะพ้ืนบา้ นของชาวไทยใหญ่ นกั ท่องเท่ียวไดม้ าสัมผสั บรรยากาศของการท่องเที่ยวท่ีอบอุ่น โดยมีจุด ท่องเที่ยวต่างๆ ภายในชุมชนและบริเวณใกลเ้ คียง จุดท่องเท่ียวที่น่าสนใจเม่ือ มาเที่ยวบา้ นผาบ่อง คือ สะพานขา้ ว กา้ วเพือ่ สุข สะพานไมไ้ ผท่ อดยาวกลาง ทุ่งขา้ วโอบลอ้ มไปดว้ ยขนุ เขา สดช่ืนดว้ ยบรรยากาศท่ีแสนบริสุทธ์ิและความ เป็ นธรรมชาติ ช่วงเวลาท่องเที่ยว ฤดูที่เหมาะสมคือ ก.ย. – พ.ย. ซ่ึงเป็นช่วงฤดูทานา
21 9.จุดชมววิ ผาบ่อง ต้งั อยู่ ในตาบลผาบ่อง อาเภอเมือง จงั หวดั แม่ฮ่องสอน อยหู่ ่างจากตวั เมือง แม่ฮ่องสอน ประมาณ 12 กิโลเมตร เป็นจุดววิ ท่ีสามารถมองเห็นทศั นียภาพท่ี สวยงามของป่ าและทิวเขาท่ีเรียงรายอยเู่ บ้ืองหนา้ บริเวณดา้ นล่างจะเห็นสายน้า คลา้ ยน้าตกซ่ึงเป็นเข่ือนผลิตไฟฟ้ าพลงั น้าผาบ่องเป็นเขื่อนก้นั ลาน้าแม่ละมาด และผลิตกระแสไฟฟ้ าใชใ้ นตวั เมืองแม่ฮ่องสอน บริเวณจุดชมวิวมีศาลาพกั ร้อนเหมาะแก่การพกั ผอ่ นหยอ่ นใจ และร้านกาแฟ อากาศเยน็ สบาย เป็นจุด แวะพกั ชมววิ ระหว่างทาง กินกาแฟ ซ้ือของฝาก และเขา้ หอ้ งน้า ช่วงเวลาท่องเท่ียว เที่ยวไดต้ ลอดท้งั ปี
22 10.อาเภอแม่ลาน้อย ศูนยพ์ ฒั นาโครงการหลวงแม่ลานอ้ ยแหล่งท่องเท่ียวเชิงเกษตรท่ี ยงั คงมีความเป็นธรรมชาติท่ีบริสุทธ์ิ อบอุ่นไปดว้ ยวถิ ีชีวติ ท่ีงดงาม มาที่นี่เราจะไดช้ มววิ ความสวยงามของนาขา้ วแบบข้นั บนั ได และ แปลงผกั ปลอดสารพษิ ของโครงการหลวง ไดล้ ิ้มรสเมนูผกั สดและ อาหารพ้นื บา้ น เป็นสถานท่ีที่มองไปทางไหนเหมือนถูกโอบลอ้ ม ดว้ ยความเขียวขจีของตน้ ขา้ วและภูเขาช่วงเวลาท่องเที่ยว ฤดูฝน ในช่วงเดือนก.ย. จะไดพ้ บกบั ทอ้ งทุ่งนาเขียวขจีกลางต.คนาขา้ ว แปรเปลี่ยนเป็ นสีทอง
23 11.บ้านห้วยห้อม หม่บู า้ นเลก็ ๆในอาเภอแมล่ านอ้ ย เป็นหมู่บา้ นที่อยใู่ นเขต รับผดิ ชอบของ ศนู ยพ์ ฒั นาโครงการหลวงแม่ลานอ้ ย บา้ นหว้ ย ฮ่อมเป็นหมู่บา้ นในออ้ มกอดของหุบเขา โดดเด่นในเรื่องของการ ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ชมไร่และชิมกาแฟหว้ ยหอ้ ม กาแฟหว้ ยหอ้ ม เป็นกาแฟพนั ธุอ์ าราบิการที่รสชาติเขม้ ขน้ ไดร้ ับการยอมรับจาก สตาร์บคั ชมฟาร์มแกะและการทอผา้ ขนแกะซึมซบั วถิ ีชีวติ ของ ชาวปะกาเกอะญอ ช่วงเวลาท่องเที่ยว เท่ียวไดต้ ลอดท้งั ปี แต่ฤดูที่น่าเที่ยวท่ีสุดคือ ฤดูฝนและฤดูหนาว
24 12.จุดชมววิ แม่ลาหลวง ต้งั อยทู่ ่ีอาเภอแม่ลานอ้ ย จงั หวดั แม่ฮ่องสอน บริเวณริมถนน สาย 108 เชียงใหม่ ฮอด แม่สะเรียง แม่ลานอ้ ย หากเดินทางมาจาก อาเภอ ฮอด แม่สะเรียงจะอยเู่ ลยจากทางเขา้ ไปยงั โครงการหลวง แม่ลานอ้ ย แต่ถา้ เดินทางมาจากแม่ฮ่องสอนจะอยกู่ ่อนถึงทางข้ึน ไปยงั โครงการหลวง จุดชมววิ แมล่ าหลวงถือไดว้ า่ เป็นจุดชมววิ ระหวา่ งทาง ท่ีสามารถมองเห็นววิ ภูเขาเขียวขจี รวมท้งั มีร้าน กาแฟบรรยากาศดี ท่ีสามารถจิบเครื่องดื่มหอ้ ยขาชมววิ ไดอ้ ีกดว้ ย หากมาในช่วงฤดูฝนหลงั ฝนตกใหม่ จะไดเ้ ห็นสายหมอกลอยคลอ เคลียตามไหล่เขามองแลว้ สดช่ืน ช่วงเวลาท่องเที่ยว เท่ียวไดต้ ลอดท้งั ปี
25 13. อาเภอปางมะผ้า ชุมชนบา้ นจ่าโบน่ ง่ั ถ่ายภาพหอ้ ยขาที่ร้านก๋วยเต๋ียว ชมทะเลหมอก และพระอาทิตยข์ ้ึนในยามเชา้ ” น่าจะเป็นเหตุผลหลกั ท่ีดึงดูดใจให้ นกั ทอ่ งเที่ยวหลายคน นง่ั รถผา่ นโคง้ มาพนั กวา่ โคง้ เพอ่ื เดินทางมา สมั ผสั บรรยากาศ ท่ีการทอ่ งเท่ียวเชิงอนุรักษโ์ ดยชุมชนบา้ นจ่าโบ่ หรือมกั เรียกกนั ส้นั ๆวา่ บา้ นจ่าโบ่ ซ่ึงเป็นชุมชนชาวเขาท่ีต้งั อยใู่ น อ. ปางมะผา้ ท่ีนี่มีธรรมชาติที่สวยงามแลว้ ยงั มีวถิ ีชีวติ ชนเผา่ ท่ี น่าสนใจและน่ามาเรียนรู้ ช่วงเวลาท่องเที่ยวท่ีเหมาะสม เที่ยวไดต้ ลอดท้งั ปี แต่ฤดูที่น่า เท่ียวที่สุดคือ ฤดหู นาว และฤดูฝน
26 14.ถา้ ลอดปางมะผ้า ต้งั อยใู่ นอาเภอปางมะผา้ เป็นถ้าที่มีช่ือเสียง สวยงาม สาหรับ การชมถ้าน้นั ตอ้ งอาศยั การนงั่ แพเขา้ ไปมีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร มีสถานท่ีน่าสนใจ คอื ถ้าลอด ซ่ึงมีลาหว้ ยช่ือ น้าลาง ไหล ลอดภูเขาไปทะลุออกอีกดา้ นหน่ึง ทาใหเ้ กิดเป็นถ้าท่ีมีหิน งอกหินยอ้ ยสวยงาม จากการพบเครื่องมือเคร่ืองใช้ โบราณในถ้า สนั นิษฐานไดว้ า่ มีอายปุ ระมาณ 2,000 ปี มาแลว้ ช่วงเวลาท่องเท่ียว เที่ยวไดต้ ลอดท้งั ปี
27 15.อาเภอแม่สะเรียง แม่สะเรียง ดินแดนแห่งพระธาตุสี่จอม ที่ไมอ่ ยากใหม้ องขา้ ม หากผา่ นมาทางแม่สะเรียงกแ็ วะมาไหวพ้ ระธาตุท้งั ส่ีได้ แต่ละองค์ ไม่ไดต้ ้งั อยไู่ กลกนั มาก ใชเ้ วลาประมาณ 3 ชว่ั โมงกน็ ่าจะครบ แต่ ถา้ คา้ งซกั 1 คืน ลองใชเ้ วลาแบบไม่เร่งรีบป่ันจกั รยานชมเมือง ชม ธรรมชาติ เที่ยววดั ไหวพ้ ระ ดูววิ ริมน้า ลอ่ งแม่น้าสาละวนิ ทาน เมนูปลาแสนอร่อย ท่ีแม่สะเรียงกนั ซกั คร้ัง รับรองวา่ คุณจะช่ืน ชอบความเป็นธรรมชาติและความเป็นกนั เองของท่ีน่ี ช่วงเวลาทอ่ งเท่ียว เท่ียวไดต้ ลอดท้งั ปี แตฤ่ ดทู ่ีน่าเท่ียวที่สุดคือ ฤดฝู นและฤดูหนาว
28 16.สะพานบุญโขก้สู ุ่ย บ้านแพมบก สะพานไมไ้ ผแ่ ห่งศรัทธา ต้งั อยใู่ นหม่บู า้ นแพมบก ตาบลทุ่งยาว อาเภอปาย จงั หวดั แม่ฮ่องสอน ห่างจากตวั เมืองปายประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นสะพานไมไ้ ผท่ ่ีทอดยาวคดเค้ียวไปในทุ่งนาขา้ วโดย มีฉากหลงั เป็นภูเขาสวยงามจนกลายมาเป็นสถานท่ีท่องเท่ียวท่ี น่าสนใจอีกแห่งหน่ึงของเมืองปาย ช่วงเวลาทอ่ งเที่ยว ฤดูที่เหมาะสมคือ ก.ย. – พ.ย. ซ่ึงเป็นช่วงฤดูทา นา
29 17.ทะเลหมอกหยุ่นไหล จุดชมววิ ทะเลหมอกหยนุ ไหล ต้งั อยทู่ ่ี หมู่บา้ นสนั ติชล ตาบลเวยี ง ใต้ อาเภอปาย จงั หวดั แม่ฮ่องสอน ห่างจากหม่บู า้ นสนั ติชล ประมาณ 1.6 กิโลเมตร เป็นจุดชมทะเลหมอกและพระอาทิตยข์ ้ึน ที่สวยงามของอาเภอปาย ซ่ึงเป็นที่นิยมของนกั ทอ่ งเที่ยว สามารถ มองเห็นทะเลหมอกท่ีถูกรายลอ้ มไปดว้ ยทิวเขานอ้ ยใหญ่ และ ทศั นียภาพบา้ นเรือนของเมืองปายท่ีถกู ปกคลุมดว้ ยสายหมอก ช่วงเวลาท่องเท่ียว เที่ยวไดต้ ลอดท้งั ปี แต่ฤดทู ่ีเหมาะสม คือ ฤดู หนาว และฤดฝู น
30 18.โป่ งน้าร้อนไทรงาม ปาย ต้งั อยทู่ ่ีบา้ นไทรงาม อาเภอปาย จงั หวดั แม่ฮ่องสอน ห่างจากตวั เมืองปายประมาณ 15 กิโลเมตร บนเสน้ ทางสายปาย ปางมะผา้ เมืองแม่ฮ่องสอน เป็นบอ่ น้าผดุ ท่ีมีอุณหภมู ิอุ่นซ่ึงเกิดข้ึนเองตาม ธรรมชาติ ในเขตอนุรักษป์ ่ าไทรงาม รายลอ้ มดว้ ยตน้ ไมท้ ี่เขียวขจี ลกั ษณะเป็นแอ่งน้านาดเลก็ ที่ลดหลน่ั เป็นช้นั ๆ คลา้ ยกบั น้าตก ผนื น้ามีสีเขียวใสแจ๋วสามารถมองเห็นหินและทรายเบ้ืองล่าง
Search
Read the Text Version
- 1 - 32
Pages: