วันสําคัญประจาํ เดือน กันยายน... • 1 กนั ยายน วนั สืบ นาคะเสถยี ร • • 8 กนั ยายน วนั ระลกึ ปสากลแหง่ การรูห้ นังสือ • • 8 กนั ยายน วนั การศึกษานอกโรงเรยี น • • 16 กนั ยายน วนั โอโซนสากล • • 19 กนั ยายน วนั พพิ ธิ ภณั ฑไ์ ทย • • 20 กนั ยายน วนั เยาวชนแหง่ ชาติ • • • 20 กนั ยายน วนั รฐั วสิ าหกจิ ไทย • FACEBOOK • 24 กนั ยายน วนั มหดิ ล • • หอ งสมดุ ประชาชนจังหวดั นครสวรรค เปด บรกิ ารทุกวนั 08.30 - 16.30 น. ยกเวนวนั หยดุ นักขตั ฤกษ สมัครสมาชกิ ไดฟ รี หลกั ฐานการสมัคร 1.รูปถายขนาด 1 นว้ิ 2.สาํ เนาบตั รประชาชน
8 กนั ยายน วันระลกึ ปส ากล แหงการรูหนงั สอื จากทีประชุมสมัยสามญั ขององคก์ ารศึกษาวทยาศาสตร์ และวฒั นธรรม แห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ครงั แรกเมือป พ.ศ.2489 ผอู้ ํานวยการใหญ่ยู เนสโกได้เรยกรอ้ งให้ชาวโลกใหค้ วามสําคญั กับการศกึ ษาเพือปวงชน โดยเฉพาะ เดก็ ทตี กหล่นอยู่นอกโรงเรยน และในทปี ระชมุ World Conference of Ministers of Education on the Eradication of literacy ณ กรุงเตหะราน เมือป พ.ศ. 2508 ได้มกี ารเสนอให้ วนั ที 8 กนั ยายน ซงึ เปน วนั เรมตน้ ของการประชุมดงั กล่าว ให้เปน \"วนั ระลกึ ปสากลแห่งการรูห้ นงั สอื \" (International Literacy Day) ดว้ ยวตั ถปุ ระสงค์เพือกระตนุ้ เตือนใหส้ งั คม ตระหนักถึงความสาํ คญั ของการรูห้ นงั สอื อนั เปนหลกั การของยูเนสโก โดยเรม ต้นตงั แต่ปพ.ศ.2509 เปนตน้ มา ทางยเู นสโกไดน้ าํ เสนอประเด็นวา่ การรูห้ นงั สอื เปนการใหอ้ ิสรภาพแกผ่ ้คู นทงั หลาย เปนอิสรภาพจากความไม่รู้ อิสรภาพจาก ความยากจน อสิ รภาพจากความเจบ็ ไข้ไดป้ วย เพยี งเพราะคนเหลา่ นนั มีความรู้ สามารถอ่านออกเขยี นได้ แสดงให้เห็นวา่ เมือรูห้ นงั สือและมีโอกาสนําไปปฏิบตั ิ แลว้ ก็จะช่วยใหส้ ามารถดําเนนิ ชีวตไดอ้ ยา่ งเสร และมชี วี ตทสี มบูรณย์ งิ ขนึ เพราะ ฉะนัน การรณรงคใ์ นวนั ที 8 กนั ยายน จึงเปนความพยายามทจี ะเรยกรอ้ งให้ รฐั บาลของทกุ ๆ ประเทศ และทุก ๆ คนในสงั คมตระหนกั ถึงความจําเปนทจี ะ ต้องระดมสรรพกาํ ลงั แกไ้ ขปญหาความไม่รูห้ นังสอื ของประชากรในประเทศ สาํ หรบั ประเทศไทยไดเ้ ลง็ เหน็ ความสําคัญของการสง่ เสรมการรูห้ นงั สือ โดย กาํ หนดใหว้ นั ที 8 กันยายน ของทกุ ป เปนวนั การศกึ ษานอกโรงเรยน และได้จดั กิจกรรมต่าง ๆ ในโอกาสทีเปนวนั ระลกึ สากลแหง่ การรูห้ นงั สอื มาตังแตป่ พ.ศ. 2510 เปนต้นมาจนถงึ ปจจบุ นั
24 กันยายน 'วนั มหดิ ล' สมเดจ็ พระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรม พระบรมราช ชนก มพี ระนามเดมิ วา สมเดจ็ เจา ฟ ามหิดล อดุลยเดช เป็นพระ ราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา เจาอยูหวั และ สมเด็จพระศรสี วรินทิราบรมราชเทวี พระพันวสั สาอยั ยกิ าเจา พระราชสมภพเม่อื วนั ท่ี ๑ มกราคม ๒๔๓๔ และสวรรคตเม่อื วัน ท่ี ๒๔ กันยายน ๒๔๗๒ การศกึ ษาในเบ้อื งตน ไดท รงศึกษาวิชา ทหารเรอื ณ ประเทศเยอรมัน จากนัน้ เสด็จกลับเขา มารับ ราชการในกองทัพเรือ ตอมาทรงมีอาการประชวรเร้ือรงั ไมท รง สามารถรบั ราชการหนักเชนการทหารเรือได ประกอบกับทรงสน พระทยั ในกิจการทางดานการแพทย จงึ ทรงพระอตุ สาหะเสดจ็ ไปศกึ ษาวชิ าการสาธารณสขุ และวิชาแพทย ณ ประเทศ สหรฐั อเมริกา ทรงสอบไดป ระกาศนียบัตรการสาธารณสุขและ ปรญิ ญาแพทยศาสตรด ุษฎบี ัณฑิต เกยี รตนิ ิยม จากมหาวิทยา ลัยฮารว ารด พระองคไดท รงประกอบพระกรณียกจิ ทางดานการ สมเด็จพระมหติ ลาธเิ บศร อดลุ ยเดชวกิ รม พระบรม แพทยแ ละการสาธารณสขุ ไวอ ยา งมากมาย อาทเิ ชน ราชชนกสวรรคตเม่อื วันที่ ๒๔ กนั ยายน พ.ศ. ๒๔๗๒ ดวยความระลกึ ในพระมหากรุณาธคิ ณุ ผทู ี่ไดรับทนุ ๑. เป็นอาจารยส อนนักศึกษาแพทย ของพระองคไ ปศึกษา ณ ตา งประเทศ ผทู ่ีเคยไดรับ ๒. ทรงชว ยเหลอื ในการขยายกิจการของโรงพยาบาล พระมหากรุณาในประการอ่นื ๆ จึงไดรวบรวมเงนิ จัด ศิริราช สรางพระรปู ประดษิ ฐานไว ณ โรงพยาบาลศิรริ าช ๓. ประทานทรพั ยส ินสว นพระองคจ ดั สรางตกึ คนไข โดยมอบใหกรมศลิ ปากรเป็นผูดาํ เนินการสราง และมี และจดั หาที่พกั สําหรบั พยาบาลไดอยอู าศัย ศาสตราจารยศ ลิ ป พีรพศรี เป็นผคู วบคมุ งาน ซ่งึ ๔. ทรงบรจิ าคทรัพยเป็นทนุ สําหรับสงนักศึกษาแพทย พระบาทสมเดจ็ พระเจา อยหู วั ไดเสดจ็ พระราชดําเนิน และนักเรยี นพยาบาลไปศึกษาตอ ณ ตางประเทศ ทรงกระทําพธิ ีเปิดเม่อื วนั ท่ี ๒๗ เมษายน พ.ศ. ๒๔๙๓ ๕. ประทานเงนิ เพ่ือใชใ นการจดั หาเคร่ืองมือเคร่ืองใช ในวันที่ ๒๔ กนั ยายน ๒๔๙๓ อนั เป็นวนั คลา ยวัน สาํ หรับปฏบิ ตั กิ ารใหแกโรงพยาบาล สิน้ พระชนม นักศึกษาแพทยไดรเิ รมิ่ จดั งานข้ึน ๖. เป็นผูแทนรฐั บาลติดตอ กับมูลนิธริ อคกีเ้ ฟลเอเลอ ร เป็นครงั้ แรก โดยมพี ิธวี างพวงมาลาถวายบังคมพระรูป สาขาเอเซยี บรู พา ในการปรบั ปรุงการศกึ ษา และวาง พรอ มทงั้ อา นคําสดุดีพระเกียรติ เพ่อื น อมราํ ลึกถงึ มาตราฐานจนสามารถรับรองกจิ การแพทยข องประเทศ พระมหากรณุ าธคิ ณุ ของพระองค ได ๗. ทรงอุทิศเวลาสว นใหญใ นการรกั ษาพยาบาลผูปวย ดวยพระองคเอง #วรนชุ อุษณกร. ประวตั ิวนั สาํ คญั ที่ควรรูจ ัก. พมิ พครง้ั ท่ี ๒. กรงุ เทพฯ : โอเดียนสโตร, ๒๕๔๓.
20 กันยายน วันเยาวชนแหงชาติ การพัฒนาทรัพยากรมนุษยนับวาเปนสวนสําคัญสวนหน่ึงในการพัฒนา ประเทศ โดยเฉพาะอยางย่ิงการพัฒนาเยาวชน เนื่องจากเปนกลุมที่อยูในภาวะท่ี สามารถรับรูและเรียนรูส่ิงใหมๆ ไดอยางรวดเร็ว วันเยาวชนแหงชาติไดเริ่มมีข้ึน คร้ังแรก เมื่อวันท่ี ๒๐ กันยายน ๒๕๒๘ หลังจากที่องคการสหประชาชาติไดกําหนด ให ป พ.ศ. ๒๕๒๘ เปนปเยาวชนสากล ดังน้ันเมื่อวันที่ ๑๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๒๘ คณะรัฐมนตรีจึงไดมีมติกําหนดใหในวันท่ี ๒๐ กันยายนของทุกป เปนวันเยาวชน แหงชาติ เน่ืองจากเปนวันคลายวันพระราชสมภพในพระบาทสมเด็จพระ จุลจอมเกลาเจาอยูหัว และพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวอานันทมหิดล โดยท่ีกษัตริยทั้งสองพระองคไดเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติในขณะที่ยัง เปนยุวกษัตริย คือ ดวยพระชนมพรรษาเพียง ๑๖ พรรษา และ ๑๒ พรรษาเศษ เทาน้ัน สาเหตุท่ีรัฐบาลไดกาํ หนดใหวันเยาวชนแหงชาติ เปนคนละวันกับวันเด็กแหงชาติน้ัน ก็เนื่องจากไดพิจารณาเห็นวาบุคคล ทั้ง ๒ กลุมน้ียังมีความแตกตางกันในทางดานรางกาย จิตใจ วุฒิภาวะ ปญหาความตองการ ตลอดจนความคาดหวังที่สังคมมีตอบุคคลทั้ง ๒ กลุม ดงั นัน้ วตั ถปุ ระสงคข องการจัดงานวันเยาวชนแหงชาติ และวนั เดก็ แหง ชาติ จึงมีลักษณะแตกตา งกันออกไป กลา วคอื วันเยาวชนแหง ชาติ มวี ตั ถปุ ระสงคท จ่ี ะมุงเน นใหค นหนมุ สาววัย ๑๕ - ๒๕ ปี ไดตระหนักถึงความ สาํ คัญของตนเองในอนั ท่จี ะเป็นพลังสําคัญในการพัฒนาประเทศชาตแิ ละตนเอง เพ่อื ประโยชนตอสังคม สวนวนั เดก็ แหงชาตินัน้ ไดม ีการเฉลิมฉลองมาตัง้ แต พ.ศ. ๒๔๙๘ โดยกําหนดใหต รงกบั วันเสารท ่ี ๒ ของเดอื นมกราคม ดวย วตั ถปุ ระสงคท ม่ี ุงกระตุน ใหผูมสี วน รับผดิ ชอบทุกฝายไดตระหนักถงึ ความ สําคัญของเด็ก คอื ผูท ีม่ อี ายไุ มเกนิ ๑๔ ปี (ตามความหมายของปีเด็กสากล ๒๕๒๒ ขององคก ารสหประชาชาต)ิ โดยใหม ีการคุมครอง เลีย้ งดู อบรมสัง่ สอน และชวยเหลือสงเคราะหเ ป็นพเิ ศษ คาํ ขวัญของวนั เยาวชนแหงชาติ เป็น คําขวัญเดียวที่ใชมาตลอดตงั้ แตปีเยาวชนสากล ๒๕๒๘ คอื \"รวมแรงแข็งขัน ชว ยกันพฒั นา ใฝหาสนั ต\"ิ ซ่งึ มงุ หมายให เยาวชนไดตระหนักถงึ ความรับผดิ ชอบของตนเองในอนั ทีจ่ ะมีสว นรวมในการพฒั นาและสรางสันตสิ ขุ ของโลก
8 กันยายน วันการศึกษานอกโรงเรียน การศึกษาเป็นกระบวนการตอ เน่ืองตลอดชีวิต นอกจากการเรยี นรหู นังสอื อันเป็นกญุ แจสาํ คัญ ท่ีไขเขาสูสรรพวิทยาการแลว การเรียนรดู ว ยส่ือการเรยี นอยา งอ่นื และกระบวนการอ่นื ๆ ซ่ึงมอี ยู นานัปการนัน้ จะชวยยกระดับคุณภาพชวี ติ ของผเู รียนใหด ีข้นึ ได ดงั นัน้ องคก ารศึกษา วทิ ยาศาสตร และวัฒนธรรมแหงสหประชาชาติ หรอื UNESCO จึงไดกําหนดเอาวนั ท่ี ๘ กนั ยายนของทกุ ปี เป็นวนั International Literacy Day ตามมติของทปี่ ระชุมของรฐั มนตรีวา การ กระทรวงศึกษาธิการจาก ประเทศทวั่ โลก วาดวยการขจดั การไมร หู นังสือ ซ่งึ จัดข้นึ ท่ีกรงุ เตหะราน เม่อื ปี ค.ศ. ๑๙๖๕ เพ่ือเป็น วันท่รี ะลึกการรูหนังสือสากล และไดมหี นังสือเชญิ ชวนประเทศสมาชกิ รว มจัดกิจกรรมเฉลมิ ฉลอง ตัง้ แตปี ค.ศ. ๑๙๖๗ เป็นตนมา สําหรบั ประเทศไทยไดมีการจดั กิจกรรมเน่ืองในโอกาสวนั ทีร่ ะลึกการรหู นังสือสากลนี้ มาตงั้ แต ปี ๒๕๑๐ เป็นตนมา โดยจัดข้นึ ทกี่ องการศกึ ษาผูใหญและตามโรงเรียนผูใหญทวั่ ไป ตอมาในปี พ.ศ. ๒๕๒๐ กองการศึกษาผูใหญไดจัดนิทรรศการ \"วันการศกึ ษาผูใ หญแหง ชาต\"ิ ข้ึน ณ หอสมดุ แหงชาติ และในปี พ.ศ. ๒๕๒๑ ไดจัดนิทรรศการ \"วันการศึกษาผูใหญและการศกึ ษานอกระบบ\" ข้ึน ณ บรเิ วณ โรงละครแหง ชาติ โดยมีหนวยงานจากภายนอกเขา มาสมทบดว ย ในปี พ.ศ. ๒๕๒๒ ไดมกี ารจดั นิทรรศการ \"วันการศึกษานอกโรงเรียน\" ข้ึน ณ บรเิ วณครุ สุ ภา ในปีนี้มหี นวยงานตา ง ๆ ทงั้ ภาครัฐและภาคเอกชนมารว มดวยเป็นจํานวนมาก ดว ยเหตุนี้ International Literacy Day จึงไดกลายมาเป็น \"วนั การศกึ ษานอกโรงเรยี น\" ตงั้ แตปี พ.ศ. ๒๕๒๒ เป็นตน มา โดยเหตทุ ก่ี ารศกึ ษานอกโรงเรยี นเป็นการศกึ ษาตลอดชีวติ และกระบวนการเรียนการสอน ไมจํากดั สถานท่ี เวลา อายุ เพศ หรอื อาชีพของผูเรียน แตเ น นกลมุ เป าหมายทไ่ี มม ีโอกาสศึกษาเลา เรียนในระบบโรงเรยี น >
20 กันยายน วันรัฐวิสาหกิจไทย คณะรฐั มนตรีมมี ติใหว ันที่ ๒๐ กันยายน ของทุกปีเป็น \"วนั รัฐวิสาหกจิ ไทย\" จากการประชุมคณะรัฐมนตรี ไดมีมตลิ งวันที่ ๒๘ สงิ หาคม ๒๕๔๔ กําหนดใหว ันคลายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จ พระจลุ จอมเกลาเจา อยูหัวมหาราช รชั กาลท่ี ๕ คอื วนั ท่ี ๒๐ กันยายนของ ทุกปีเป็นวันรัฐวิสาหกจิ ไทย โดยมีวตั ถปุ ระสงคเ พ่ือเป็นการประสานความ รวมมือรว มใจของพนักงานรฐั วิสาหกิจระหวางรฐั กับองคกร ในวนั รัฐวสิ าหกิจ ไทยครัง้ แรกนี้ ไดรับเกียรติ จาก พณฯ ทานรฐั มนตรวี า การกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพธิ บี วงสรวง สกั การะ ณ อนสุ าวรยี พระบรมรปู ทรงมา ในสวน ภมู ภิ าคโดยทัว่ ไปยังดูไมคอ ยคึกคกั เน่ืองจากเป็นครัง้ แรก และยังทราบไมท ัว่ ถึงก็เป็นได ท่กี ารไฟฟ านครหลวง ๓ ไดข้นึ ป ายผาไวทีต่ ึกอาคาร การไฟฟ า นครหลวง ๓ มขี อ ความวา \"๒๐ กันยายน วันรัฐวสิ าหกิจไทย รวมใจประชา ปกป องรักษาพัฒนารฐั วิสาหกจิ ไทย\" ในวนั ดังกลาวมีหลายจงั หวัดทีพ่ นักงานรฐั วิสาหกิจไดจ ัดพิธีถวายพานพุมเงนิ พานพมุ ทอง เป็นการถวายสกั การะแดพ ระบรมรูปรชั กาลที่ ๕ รวมทัง้ จังหวัดอทุ ัยธานีก็ไดจ ัดพิธีเชนกนั โดยรวมกบั ธนาคารกรงุ ไทย การส่อื สาร แหงประเทศไทย การไฟฟ าสวนภมู ิภาค พนักงานรฐั วิสาหกจิ ทัว่ ประเทศตางบอกเป็นเสียงเดียวกนั วา ดีใจ และภาค ภมู ใิ จ ท่ีไดม ีวันรฐั วิสาหกิจรูสกึ มเี กียรติ และศักดศิ์ รขี องความเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจ แตการทาํ พิธใี นวันรัฐวสิ าหกิจ นัน้ ยังไมค อ ยรูวาจะตองดําเนินการในการจดั พิธอี ยางไร ซ่ึงในปีหน าจะนัดหมายหนวยงานรัฐวสิ าหกจิ ทุกแหง ทุก องคกร มาประกอบพธิ รี ว มกนั โดยพรอ มเพรียงตอ ไป ยกตั วอย่าง หน่วยงานรัฐวิสาหกิจในปจจุ บัน รายช่ือรัฐวสิ าหกจิ สว นราชการทีก่ ํากับดูแล สถาบนั การบินพลเรือน กระทรวงคมนาคม การไฟฟ าฝายผลติ แหง ประเทศไทย กระทรวงพลังงาน การไฟฟ านครหลวง กระทรวงมหาดไทย การไฟฟ าสว นภมู ภิ าค กระทรวงมหาดไทย การรถไฟแหงประเทศไทย กระทรวงคมนาคม สาํ นักงานสลากกินแบง รัฐบาล กระทรวงการคลงั ธนาคารเพ่ือการเกษตรและสหกรณการเกษตร กระทรวงการคลัง การประปานครหลวง กระทรวงมหาดไทย การประปาสว นภมู ิภาค กระทรวงมหาดไทย บริษทั ไปรษณียไทย จํากดั กระทรวงดจิ ทิ ลั เพ่ือเศรษฐกจิ และสังคม ธนาคารกรุงไทย จํากดั (มหาชน) กระทรวงการคลัง
19 กันยายน วันพิพิธภัณฑไทย ประเทศไทยนัน้ ผรู เิ ริม่ ดาํ เนินการรวบรวมวตั ถุสงิ่ ตาง ๆ เป็นคนแรกไดแก พระบาทสมเด็จพระจอมเกลา เจาอยหู ัว โดยทรงพระกรณุ าโปรดเกลาฯ ใหมกี ารจดั พพิ ธิ ภณั ฑสถานสว นพระองค ที่พระท่นี ัง่ ราชฤดีเป็นครงั้ แรก ซ่ึงเป็นทจี่ ัดตัง้ แสดงสงิ่ สะสมในพระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา เจาอยูหวั ที่ทรงรวบรวมไวตัง้ แตครัง้ กอ นเสดจ็ ข้นึ ครองราชย ซ่งึ ตอมาไดยา ยมาจดั แสดงที่พระทนี่ ัง่ ประพาสพิพิธภณั ฑ อันเป็นท่ีมาของคาํ วา \"พิพธิ ภณั ฑ \"ในเวลา ตอ มา เม่ือมาถึงรัชสมัยพระบาทสมเดจ็ พราะจลุ จอมเกลา เจาอยหู ัว ไดม กี ารจัดตัง้ \"มิวเซยี ม\" ซ่ึงเป็น พิพธิ ภณั ฑสถานสาํ หรบั ประชนแหง แรกข้ึน ณ วันท่ี ๑๙ กนั ยายน พ.ศ.๒๔๑๗ ตอ มาในพระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกลา เจา อยูหวั ไดพ ระราชทานหมพู ระทีน่ ัง่ ทัง้ หมด ในพระราชวงั บวร สถานมงคล จดั ตงั้ เป็นพพิ ิธภณั ฑสถานสําหรบั พระนครดูแลดานโบราณคดี วรรณคดี เป็นท่รี วบรวมสงวนรกั ษา โบราณวตั ถุ ศลิ ปะวตั ถุ ซ่งึ เป็นมรดกทางวัฒนธรรมแหงชาติพพิ ธิ ภณั ฑสถานพระนคร ไดมีการเปล่ียนช่อื และหนวย งานท่สี ังกดั อีกหลายครัง้ จนกระทงั่ ไดมีพระรบกฤษฎีกาแบง สว นราชการกรมศลิ ปากร กระทรวงศกึ ษาทกี่ าร พทุ ธศกั ราช ๒๕๑๘ จดั ตงั้ กองพพิ ธิ ภัณฑสถานแหงชาติ เสนทางพิพธิ ภัณฑสถานไทย ท่ีเริม่ ตน จากพพิ ิธภณั ฑสถานสว นพระองค ไดเ ปลยี่ นแปลงมาสู พพิ ธิ ภัณฑสถานประชาชน และพฒั นาตอไปจากพิพธิ ภัณฑสถานทเ่ี ก็บรักษาสรรพสิง่ ทัว่ ไป ไมก ําหนดประเภท แนนอน มาเป็นพิพธิ ภณั ฑสถานมากมายหลายประเภท ตามลกั ษณะของศิลปวทิ ยาการทเี่ กอิดข้ึนในโลก ทงั้ ทาง ศิลปะวทิ ยาศาสตร ประวตั ิศาสตร โบราณคดี ชาติพนั ธุว ทิ ยา สงั คมวิทยา และสาขาวิชาอ่ืนๆ เป็นจํานวนหลายรอ ย แหงทัว่ ประเทศ และยังไดยกระดบั กจิ การพพิ ิธภณั ฑไทยใหเ ทยี บเทามาตรฐานสากล โดยเขา เป็นสมาชิกสภาการ พพิ ิธภัณฑระหวา งชาติ หรือ ICOM ซ่ึงใหคาํ จํากัดความวา \"พพิ ธิ ภัณฑ\" วา มิใชเป็นแหลง เกบ็ รวบรวม สงวนรักษา ศกึ ษาวิจยั และจดั แสดงเฉพาะวัตถุเทานัน้ แตพ พิ ิธภัณฑไดรั วบรวมทุกสงิ่ ทุกอยา งท่เี ป็นหลักฐานสาํ คัญตอ มนษุ ย และสงิ่ แวดลอม ทงั้ ท่ีมชี ีวติ และไมม ชี ีวิตทงั้ ท่ีเก่ียวเน่ืองกับสงั คมวฒั นธรรม และวิทยาศาสตร จากหลักฐานในอดีต สิง่ ที่ปรากฏอยูในปัจจุบนั และแนวโน มท่จี ะเกดิ ข้นึ ในอนาคตโดยนัยนี้พพิ ิธภณั ฑสถานในประเทศไทยไดจัดตัง้ ข้ึน แลว กวา ๒๐๐ แหง และไดมกี ารพัฒนารปู แบบกจิ การใหม ีความเป็นสถาบันการศึกษานอกรูปแบบทีส่ าํ คัญอีกดวย เหตุนี้รัฐบาลจงึ ประกาศใหวันที่ ๑๙ กนั ยายนของทุกปีเป็นวนั พิพิธภัณฑไ ทย นับตงั้ แต พ.ศ ๒๕๓๘ เป็นตน ไป เน่ืองจากเป็นวันทคี่ นไทยทัง้ ชาติ ไดร บั พระราชทานพิพิธภณั ฑสถานสําหรับประชาชนเป็นครัง้ แรก จากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา เจา อยูหวั เม่ือปี พ.ศ ๒๔๑๗ เพ่อื น อมรําลกึ ถงึ พระคุณของพระองคทา น และ เพ่อื ปลูกฝังใหคนไทยรกั และหวงแหนในศิลปวัฒนธรรมอนั เป็นส่งิ ท่ีแสดงถงึ เอกลกั ษณของความเป็นไทยในวนั พิพิธภณั ฑไทย พิพธิ ภัณฑสถานตา งๆ ทวั่ ประเทศไดรวมกนั เปิด พิพธิ ภณั ฑสถานใหประชาชนทวั่ ไป ไดมีโอกาส เขาไปชมศิลปวัฒนธรรมอนั เป็นเอกลกั ษณของชาตเิ พ่อื สรา งความรกั ความเขา ใจ ตลอดจนภูมิใจในความเป็นไทย โดยทัว่ กัน
ÇѹâÍ⫹ÊÒ¡Å 16 ¡Ñ¹ÂÒ¹ โอโซนเปนกา๊ ซสีนําเงินเข้ม พบไดท้ ัวไปในบรรยากาศโลก และเปนอนั ตรายต่อปอด หากเราหายใจเข้าไป มาก ๆ ก๊าซโอโซนทอี ยใู่ นบรรยากาศระดบั สูงเรียกวา่ ชนั สตราโซเฟยร์ จะจับตัวกันเปนกอ้ นโอโซนปกคลุมทัวโลก ในบางแห่งจะหนา และบางในบางแหง่ ชนั โอโซนจะทาํ หน้าทปี กปองโลกจากรงั สีอัลตราไวโอเลตจากดวงอาทติ ย์ ซงึ รงั สีนีจะทําให้โลกรอ้ นขึน และทาํ ให้เกดิ อนั ตรายกับสิงมชี วี ติ เชน่ ทําใหค้ นและสัตวเ์ ปนมะเร็งผิวหนงั ตาเปนตอ้ หรือมวั ลง และทาํ ใหเ้ กดิ การเปลียนแปลงของดเี อ็นเอ ซงึ เปนสารทถี ่ายทอดลกั ษณะทางพันธกุ รรมในสิงมีชวี ิต มี ผลทําให้พืชและสัตวก์ ลายพันธ์ไปจากเดมิ ตลอดจนเกิดการทําลายระบบภูมคิ ้มุ กันของมนุษย์ และทําลายจุลินทรยี ์ ต่างๆ สาร CFCs มชี ือทางการคา้ วา่ ฟรีรอน ซึงครังหนึงถอื ว่าเปนสารมหัศจรรย์ เพราะไม่ติดไฟ ไม่เปนพิษตอ่ ผู้ สูดดมเข้าไป ไมร่ ะคายเคอื งตอ่ ผิวหนงั จงึ มกี ารนาํ มาใชใ้ นอตุ สาหกรรมตา่ ง ๆ มากมาย เช่น ใช้เปนสารทาํ ใหเ้ กิด ความเย็น ในตเู้ ยน็ และเครอื งปรับอากาศ ใชใ้ นอุตสาหกรรมการผลติ โฟม พลาสติก ใชเ้ ปนสารทําลายใน อตุ สาหกรรมอิเลก็ ทรอนกิ ส์ และใชเ้ ปนสารขับดันในสเปรย์กระปอง เชน่ สีพ่น สเปรย์ฆา่ แมลง สเปรย์ฉดี ผม และ อนื ๆ อกี จํานวนมาก ด้วยเหตุแหง่ ความรนุ แรงของสาร CFCs ต่อโอโซนในบรรยากาศของโลก ทาํ ใหป้ ระเทศตา่ ง ๆ จาํ นวน 31 ประเทศ ได้ส่งตัวแทนไปประชมุ กันทเี มอื ง มอนทรีออล ประเทศแคนนาดา ในเดือนกนั ยายน ค.ศ 1987 และได้ รว่ มกันจัดตังอนสุ ัญญาเวียนนาว่าดว้ ยการปองกนั บรรยากาศชนั โอโซน ซึงภายใตอ้ นสุ ัญญานี ได้มกี ารจัดทํา พิธสี ารมอนทรีออลขนึ โดยระบปุ ระเทศทพี ัฒนาแล้วต้องเลกิ ผลติ และการใช้สารทที ําลายชันโอโซน พิธสี ารมอนทรอี อล มผี ลบงั คบั ใช้เมอื วันที 1 มกราคม ค.ศ 1989 โดยประเทศไทยรว่ มลงนามในพิธีสารนี เมอื วันที 15 กันยายน ค.ศ 1988 และให้สัตยาบนั เมือวันที 7 กรกฎาคม ค.ศ 1989 และมีผลบงั คับใหต้ ่อ ประเทศไทย เมอื วนั ที 5 ตลุ าคม ค.ศ 1989โดยประ จากผลของอนสุ ัญญาฯ องสคก์ ารสหประชาชาติ จงึ ไดก้ ําหนด ให้วนั ที 16 กันยายนของทกุ ป เปน \"วนั โอโซนโลก\" พิธีสารมอนทรอี อล ได้มีการแก้ไขฉบบั ตอ่ ๆ มา ซึงส่งผลตอ่ กระบวนการผลติ ในอุตสาหกรรมทใี ชส้ ารพวกนี เปนอย่างมาก สําหรบั ประเทศไทย กรมโรงงานอตุ สาหกรรมได้ วางแผนการลดและเลกิ ใชส้ ารทําลายโอโซน โดยคาดว่า ในป ค.ศ 1998 ประเทศไทยจะสามารถเลิกใช้สารนี ได้ เกือบทกุ ชนิด ยกเว้นการใชส้ าร CFCs ในอปุ กรณห์ อ้ งเยน็ ตเู้ ยน็ และเครืองปรบั อากาศ โดยเฉพาะในส่วนทีเกียว ขอ้ งกบั การใหบ้ ริการเตมิ นาํ ยาแอร์แกอ่ ุปกรณ์เดิม คาดวา่ จะเลิก ใช้ทงั หมดภายในป ค.ศ 2010 ตามพิธีสารฯ กาํ หนด
1 กันยายน วันสืบ นาคะเสถียร สืบ นาคะเสถยี ร หรอื นามเดิมช่ือ \"สบื ยศ\" เกดิ เม่อื วนั เสารท ่ี ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๙๒ ทต่ี ําบลทางาม อาํ เภอเมอื ง จงั หวดั ปราจนี บุรี บิดาช่ือ นายสลบั นาคะเสถยี ร เคยดาํ รงตาํ แหนง ผูวาราชการจังหวดั ปราจีนบรุ ี มารดาช่อื นางบุญเย่ยี ม นาคะเสถียร สืบ นาคะเสถยี รมพี ีน่ องทัง้ หมด ๓ คน บุคลิกประจาํ ตัวของ สบื นาคะเสถียร คอื เม่อื เขาสนใจ หรือตงั้ ใจทํา อะไรแลวก็จะมคี วามมงุ มนั่ ตงั้ ใจทําอยา งจรงิ จังจนประสบความสําเรจ็ และเป็นผทู มี่ ผี ลการเรยี นดีมาโดยตลอด ในปี พ.ศ. ๒๕๒๙ สืบ นาคะเสถยี ร ไดร บั มอบหมาย ปฏิบตั ิงานในหน าที่ หัวหน าโครงการอพยพสตั วป าตกคาง ในพ้นื ทีอ่ างเก็บน้ํา เข่อื นรัชชประภา (เชี่ยวหลาน) จังหวัด สุราษฏรธ านี ใ้หเ ขาไปชวยเหลืออพยพสัตวป าที่ตกคาง ในอา งเกบ็ น้ํา ซ่ึงเกิดจากการสรางเข่อื นเชีย่ วหลาน สืบไดทุมเทเวลาใหกบั การกชู ีวิตสัตวป าท่ีหนีภยั น้ําทว ม โดยไมไ ดนึกถงึ ความปลอดภัยของตนเองเลย จากการทาํ งานชิน้ ดังกลา ว สบื เร่ิมเขา ใจ ปัญหาทงั้ หมดอยา งถอ งแท เขาตระหนักวา ลําพงั งานวชิ าการเพยี งอยางเดียวยอมไมอาจหยดุ ยัง้ กระแสการทําลายปา และสตั วป าอันเป็นปัญหา ระดบั ชาตไิ ด ดังนัน้ เม่อื มี กรณีรฐั บาลจะสรางเข่อื นน้ําโจน ในบรเิ วณทุงใหญน เรศวร สืบจึงโถมตัวเขาคัดคา นเต็มท่ี ในปี พ.ศ. ๒๕๓๑ และตอ มา พ.ศ. ๒๕๓๒ สืบไดเขารบั ตําแหนงหัวหน าเขต รกั ษาพันธสุ ัตวปาหว ยขาแขง สืบได พยายามในการทจี่ ะเสนอใหปาทุงใหญน เรศวร และหว ยขาแขง มีฐานะเป็นมรดกของโลก โดยไดร ับการยกยอ งอยา งเป็น ทางการ จากองคการสหประชาชาติ สบื เล็งเห็นวา ฐานะดงั กลา วจะเป็นหลักประกนั สําคัญท่ีคอยคมุ ครองปาผืนนี้เอาไวอ ยา ง ถาวร ปลายปี พ.ศ. ๒๕๓๒ สบื ไดร บั มอบหมายใหดาํ รงตําแหนง หัวหน าเขตรักษาพันธุสตั วปาหวยขาแขง ซ่ึงเป็นปาอนรุ กั ษ ทีม่ คี วามสําคัญมากไมแ พป าทุง ใหญน เรศวร แตในทส่ี ุด สบื ก็ตัดสินใจเดินทางเขา รับตําแหนง หวั หน าเขตรักษาพันธสุ ัตวป า หวยขาแขง แมจะรูดีวาหนทางขางหน าเตม็ ไปดวย ความยากลําบากนานัปการ เชามืดวันท่ี ๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๓๓ สบื นาคะเสถยี ร ตดั สินใจผา ทางตนั ดวยการสงั่ เสียลกู น อง คนสนิท และ เขียนจดหมายสัง่ ลา ๖ ฉบับ ชําระสะสางภาระรับผิดชอบ และทรพั ยส นิ สวนตัวทีค่ ัง่ คา ง มอบหมาย เคร่ืองใช และอปุ กรณใน การศกึ ษาวิจัยดา นสัตวป า ใหสถานีวจิ ัยสัตวป าเขานางราํ เพ่ือนําไปใชต ามวตั ถกุ ระสงคด งั กลา ว ตงั้ ศาลเพ่ือแสดงความ คารวะตอ ดวงวญิ ญาณของเจาหน าท่ี ซ่ึงพลีชีพรกั ษาปาหว ยขาแขง แลว สวดมนตไหวพ ระจนจติ ใจสงบ ขณะทีฟ่ ามดื กําลงั เปิดมา นรับวันใหม เสียงปีนดงั ข้นึ นัดหน่ึงในราวปาลกึ ทีห่ วยขาแขง สืบ นาคะเสถยี ร ก็ปิดมา นชีวิตของเขาลง และเป็นบท เรมิ่ ตน ตาํ นานนักอนุรักษไ ทย สืบ นาคะเสถยี ร ผทู รี่ กั ปาไม สัตวป าและธรรมชาติ ดว ยกาย วาจา การเสยี ชีวติ ของสบื สรางความสะเทอื นใหส งั คมไทยเป็นอยา งมาก ท่ตี องสูญเสยี ขา ราชการน้ําดที ตี่ งั้ ใจทํางานเพ่ือประโยชนของสวนรวม อยางไมห วนั่ เกรงกบั ภยั คกุ คามใด ๆ และหลงั จากนัน้ 1 ปี เขตรกั ษาพนั ธสุ ตั วปาหว ยขาแขง ก็ไดข ้ึนทะเบียนเป็นมรดกโลก ทางธรรมชาติ โดยองคการยเู นสโก เม่ือวนั ท่ี 9 ธ.ค. 2534 ตามเจตนารมณของ สบื นาคะเสถยี ร ผมคิดว่า ผมได้ช่วยเหลือสั งคมดีแล้ว ผมคิดว่าผมได้ทําตามกาํ ลังของผมดีแล้ว และผมพอใจ ผมภูมิใจสิ งทีผมทาํ
Search
Read the Text Version
- 1 - 9
Pages: