ความมงุ่ หมาย และหลกั การ มาตรา 6 การจัดการศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทย ให้เป็นมนุษย์ที่ สมบูรณ์ ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้ และคุณธรรม มีจริยธรรม และ วัฒนธรรมในการดารงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อน่ื ได้อย่างมคี วามสุข มาตรา 8 หลักการจัดการศึกษา มอี งค์ประกอบ ดังนี้ -เป็นการศกึ ษาตลอดชีวิต สาหรับประชาชน -ให้สงั คมมสี ่วนร่วม ในการจดั การศกึ ษา -การพัฒนาสาระ และกระบวนการเรียนรู้ ใหเ้ ปน็ ไปอย่างต่อเน่อื ง
สิทธิ และหน้าที่ทางการศึกษา มาตรา 10 การจดั การศึกษาต้องจดั ให้บคุ คลมีสิทธิ และโอกาสเสมอกนั ในการรับการศึกษาข้ันพื้นฐาน ไมน่ ้อยกว่า 12 ปี ทีร่ ฐั ต้องจดั ให้ อย่าง ท่ัวถึงมคี ุณภาพและไม่เก็บค่าใช้จ่าย การศึกษาสาหรบั คนพกิ าร รฐั ต้องจัดให้ตั้งแต่แรกเกิด หรือพบความ พิการ โดยไม่เสยี ค่าใช้จ่าย มีสิทธิไดร้ บั ส่งิ อานวยความสะดวก สื่อ บริการ และความช่วยเหลอื บคุ คลทีม่ ีความสามารถพเิ ศษ รฐั ต้องจัดด้วยรูปแบบที่เหมาะสม โดยคานึงถงึ ความสามารถของบุคคล ( ความแตกต่างระหวา่ งบุคคล )
ระบบการศึกษา ระบบการศึกษามี 3 ระบบ 1. การศึกษาในระบบ เปน็ การศึกษาทกี่ าหนดจุดมุ่งหมาย วธิ กี ารศึกษา หลักสตู ร ระยะเวลาของการศึกษา การวัดผล และประเมินผล ซึง่ เป็นเงอ่ื นไขของการสาเรจ็ การศึกษาที่ แน่นอน การศึกษาในระบบ มี 2 ระดบั คือ การศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน จดั ใหไ้ มน่ ้อยกว่า 12 ปี ก่อนอดุ มศึกษา การศึกษาระดบั อดุ มศึกษา ระดบั ตา่ กวา่ ปริญญา และระดับปริญญา 2.การศึกษานอกระบบ เปน็ การศึกษาทีม่ คี วามยืดหยุ่นในการกาหนดจดุ มุ่งหมาย วธิ กี ารศึกษา หลักสตู ร ระยะเวลาของการศึกษา การวัดและประเมินผล ซึง่ เปน็ เงื่อนไขการสาเร็จการศึกษา 3.การศึกษาตามอธั ยาศยั เป็นการศึกษาทใี่ ห้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเอง ตาม ความสนใจ
ระบบการศึกษา การศึกษาข้นั บงั คบั จานวน 9 ปี โดยเดก็ อายยุ ่างเข้าปีที่ 7 เข้าเรียนใน สถานศึกษาข้ันพ้ืนฐาน จนอายุย่างเข้าปีที่ 16 เว้นแตส่ อบได้ช้นั ปที ี่ 9 ของ การศกึ ษาภาคบงั คับ การจัดการศึกษาปฐมวัย และการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน ใหจ้ ัดในสถานศึกษา ดังนี้ สถานพฒั นาเดก็ ปฐมวัย เชน่ ศูนย์เด็กเลก็ ศนู ย์พัฒนาเด็กเล็ก โรงเรียน เชน่ โรงเรียนรฐั / เอกชน ศนู ยก์ ารเรียน
แนวการจดั การศึกษา มาตรา 22 การจดั การศกึ ษายดึ หลกั ว่า ผเู้ รียนทกุ คนมคี วามสามารถเรียนรู้ และพัฒนาตนเองได้ และถือว่า ผเู้ รียนสาคญั ทีส่ ดุ กระบวนการจดั การศกึ ษา ต้องส่งเสริมใหผ้ เู้ รียนสามารถพฒั นาตามธรรมชาติ และเต็มตามศักยภาพ มาตรา 26 ใหส้ ถานศกึ ษาจัดประเมินผู้เรียน ควบคู่กบั กระบวนการเรียนการ สอน ( โดยถือวา่ การประเมนิ ผล เป็นส่วนหนึง่ ของการจดั การศกึ ษา และเปน็ หนา้ ทีข่ องสถานศึกษา ) มี 4 ระดบั คือ ระดับช้ันเรียน ระดบั โรงเรียน ระดับเขต การศกึ ษา และระดับชาติ
การบริหาร และการจดั การศึกษา 1.การบริหาร และการจดั การศกึ ษาของรฐั มาตรา 32 การจัดระเบียบบรหิ ารราชการในกระทรวง ท่เี ปน็ องค์กรหลักที่เปน็ คณะ บุคคลในรปู สภา จานวน 4 องค์กร คือ สภาการศึกษา คณะกรรมการการศึกษาข้ัน พนื้ ฐาน คณะกรรมการการศึกษาอาชวี ศึกษา คณะกรรมการการอุดมศึกษา 2.การบรหิ าร และการจัดการศกึ ษาขององค์กรปกครองส่วน ทอ้ งถิน่ มาตรา 41 องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ มีสิทธิจัดการศึกษาได้ทกุ ระดบั 3.การบรหิ าร และการจัดการศกึ ษาของเอกชน มาตรา 44 สถานศึกษาเอกชน เปน็ นติ ิบุคคล มาตรา 45 สถานศึกษาเอกชน มีสิทธิจดั การศึกษาได้ทกุ ระดับ
มาตรฐาน และการประกนั คุณภาพทางการศกึ ษา ใหม้ รี ะบบประกนั คุณภาพทางการศกึ ษา เพื่อพฒั นาคณุ ภาพ และมาตรฐาน การศกึ ษาทุกระดับ ประกอบดว้ ย ระบบการประกนั คุณภาพภายใน และ ระบบการประกนั คณุ ภาพภายนอก มาตรา 48 ให้หน่วยงานต้นสังกัด และสถานศึกษา จัดให้มีระบบการประกันคุณภาพภายใน โดยให้ถือ ว่า การประกันคุณภาพภายใน มาตรา 49 ให้มสี านักงานรับรองมาตรฐาน และประเมนิ คุณภาพทางการศึกษา มฐี านะเปน็ องค์กรมหาชน มีหน้าท่ีพัฒนาเกณฑ์ วิธีการ และทาการประเมินคุณภาพภายนอก เพื่อตรวจสอบ คณุ ภาพ ของสถานศึกษา อย่างนอ้ ย 1 ครั้ง ในทกุ 5 ปี นบั แต่ประเมินครั้งสุดท้าย และเสนอผลต่อ หนว่ ยงานที่เก่ยี วข้อง และสาธารณชน มาตรา 51 กรณีผลการประเมินภายนอกของสถานศึกษา ไม่ได้มาตรฐานให้ สมศ. จัดทาข้อเสนอแนะ การปรับปรุงแก้ไขต่อหน่วยงานต้นสังกัด เพื่อให้สถานศึกษาปรับปรุงแก้ไขภายในเวลาที่กาหนด หากไม่ ดาเนนิ การให้รายงานตอ่ คณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน
การประกันคุณภาพภายใน หมายความว่า การประเมินผล และ การติดตามตรวจสอบคุณภาพ และมาตรฐานการศึกษาของ สถานศกึ ษาจากภายใน โดยบคุ ลากรในสถานศึกษา / หน่วยงาน ต้นสังกัด การประกันคุณภาพภายนอก หมายความว่า การประเมินผลและการ ติดตามตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาจาก ภายนอก โดยสานักงานรับรองมาตรฐาน และประเมินคุณภาพทาง การศกึ ษา ( สมศ )
ครู คณาจารย์ และบคุ ลากรทางการศึกษา มาตรา 53 ให้มีองค์กรวชิ าชีพครู ผบู้ ริหารสถานศึกษา และผู้บริหารการศกึ ษา มี ฐานะเป็นองค์กรอิสระ ภายใต้การบริหารของสภาวิชาชีพ มีอานาจกาหนด มาตรฐานวิชาชีพ / ออก และเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ กากับดูแลการ ปฏิบัติตามมาตรฐาน และจรรยาบรรณของวชิ าชีพ / พัฒนาวชิ าชีพ เรียกว่า “คุรสุ ภา” ครู ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา และบุคลากรทางการศึกษาอื่น ทั้งของรัฐ และเอกชนต้องมีใบประกอบวิชาชีพ บุคคลทีไ่ ดร้ ับการยกเว้นไมต่ ้องมีใบอนญุ าต บคุ ลากรที่จดั การศึกษา ตามอัธยาศยั ผู้บริหารการศึกษาระดบั เหนือเขตการศึกษา วทิ ยากรพิเศษทางการศึกษา คณาจารย์ ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา ในระดับอดุ มศึกษา ระดับปรญิ ญา
ผ้สู อน หมายความว่า ครู และคณาจารย์ในสถานศึกษาต่าง ๆ ครู หมายความว่า บุคลากรวิชาชพี ซง่ึ ทีม่ ีหนา้ ที่หลกั ทางดา้ นการ เรียนการสอน และการส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียน ในสถานศึกษา ทั้งรัฐ และเอกชน คณาจารย์ หมายความว่า บุคลากร ซ่งึ ทาหนา้ ทีห่ ลักทางดา้ นการ สอน และการวิจยั ในสถานศกึ ษา ระดับอุดมศกึ ษาระดับปริญญา ของรัฐ/เอกชน(ข้อสังเกต ไม่มีคาว่า วิชาชพี /การเรียน/การส่งเสริม)
ผบู้ ริหารสถานศึกษา หมายความว่า บคุ ลากรวิชาชพี ที่รับผดิ ชอบ การบริหารสถานศึกษา ทั้งรฐั และเอกชน ผู้บริหารการศึกษา หมายความว่า บคุ ลากรวิชาชพี ทีร่ บั ผดิ ชอบ การบริหารการศึกษา นอกสถานศกึ ษา ต้ังแต่ระดบั เขตพื้นที่ การศกึ ษาขึ้นไป บุคลากรทางการศึกษา หมายความว่า ผบู้ ริหารสถานศึกษา ผบู้ ริหารการศกึ ษา และผู้สนับสนุนการศึกษาซึง่ ทาหน้าที่ในการ ให้บริการจดั กระบวนการเรียนการสอน การนเิ ทศ
ทรัพยากร และการลงทนุ เพือ่ การศึกษา มาตรา 59 บรรดาอสังหาริมทรัพย์ของสถานศึกษาของรัฐ ที่เป็นนิติ บุคคลได้มา โดยมีผู้อุทิศให้หรือซื้อ แลกเปล่ียนจากรายได้ของ สถานศึกษา ไม่ถือเป็นท่ีราชพัสดุ ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของ สถานศึกษา บรรดารายได้ และผลประโยชน์ต่าง ๆ ไม่เป็นรายได้ที่ ต้องนาส่งกระทรวงการคลัง ให้จัดสรรเป็นค่าใช้จ่ายในการจัด การศึกษาได้
เทคโนโลยี เพือ่ การศึกษา มาตรา 63 รฐั ต้องจัดคล่นื ความถ่ี สือ่ ตัวนา โครงสร้างพืน้ ฐานอ่นื ที่จาเปน็ ต่อการส่งวิทยุกระจายเสียง โทรทัศน์ เพ่อื ใช้ประโยชน์สาหรบั การศึกษา มาตรา 64 รัฐสง่ เสริม และสนับสนุนการผลติ และพัฒนาแบบเรียน โดนเปิดใหม้ ีการแข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรม
Search
Read the Text Version
- 1 - 14
Pages: