Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยการเรียนรู้รายวิชาชีววิทยา 6 (ว30256)

หน่วยการเรียนรู้รายวิชาชีววิทยา 6 (ว30256)

Published by Rawat Yukerd, 2021-08-01 19:08:48

Description: หน่วยการเรียนรู้รายวิชาชีววิทยา 6 (ว30256) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสรรพยาวิทยา จัดทำโดย นายเรวัตร อยู่เกิด

Search

Read the Text Version

1

ก สารบญั หน้า สารบัญ.............................................................................................................................................................. ก หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 1 เรื่อง ความหลากหลายทางชีวภาพ..................................................................................1 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ .................................................................................................................1 2. ผลการเรียนรู้ ...........................................................................................................................................1 3. สาระสำคัญ ..............................................................................................................................................1 4. สมรรถนะของผู้เรียน................................................................................................................................2 5. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์.......................................................................................................................2 6. ช้นิ งาน/ภาระงาน.....................................................................................................................................2 7. สื่อการเรียนร/ู้ แหล่งเรยี นร.ู้ ......................................................................................................................3 8. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้........................................................................................................................3 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 2 เรอื่ ง ชีวิตกบั สิ่งแวดลอ้ ม ..............................................................................................11 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ ..............................................................................................................11 2. ผลการเรยี นรู้ ........................................................................................................................................11 3. สาระสำคญั ...........................................................................................................................................11 4. สมรรถนะของผู้เรยี น.............................................................................................................................12 5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์....................................................................................................................12 6. ชนิ้ งาน/ภาระงาน..................................................................................................................................12 7. สือ่ การเรียนร้/ู แหล่งเรียนร.ู้ ...................................................................................................................12 8. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้.....................................................................................................................13 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 เรือ่ ง ประชากร.............................................................................................................21 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ ..............................................................................................................21 2. ผลการเรยี นรู้ ........................................................................................................................................21 3. สาระสำคญั ...........................................................................................................................................21 4. สมรรถนะของผเู้ รียน.............................................................................................................................21 5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์....................................................................................................................22 6. ชิน้ งาน/ภาระงาน..................................................................................................................................22 7. สอื่ การเรยี นรู้/แหล่งเรยี นร.ู้ ...................................................................................................................22 8. การประเมินผลการเรียนรู้.....................................................................................................................22

ข หน้า หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 4 เร่ือง มนุษยก์ บั ความยัง่ ยนื ของสงิ่ แวดลอ้ ม ..................................................................30 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ ..............................................................................................................30 2. ผลการเรยี นรู้ ........................................................................................................................................30 3. สาระสำคัญ ...........................................................................................................................................30 4. สมรรถนะของผู้เรียน.............................................................................................................................31 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์....................................................................................................................31 6. ชน้ิ งาน/ภาระงาน..................................................................................................................................31 7. สือ่ การเรยี นร/ู้ แหล่งเรยี นร.ู้ ...................................................................................................................31 8. การประเมินผลการเรียนรู้.....................................................................................................................31

1 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 เรอ่ื ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รหัสวิชา ว30256 ชวี วทิ ยา 6 กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี เวลาเรยี น 700 นาที (14 คาบ) ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 6 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระชวี วทิ ยา ข้อท่ี 2 เข้าใจการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม การถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม สมบัติ และหน้าที่ของสาร พันธุกรรม การเกิดมิวเทชัน เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ หลักฐานข้อมูล และแนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของ ส่ิงมชี วี ิต ภาวะสมดุลของฮารด์ ี-ไวนเ์ บิร์ก การเกดิ สปชี สี ใ์ หม่ ความหลากหลายทางชวี ภาพ กำเนดิ ของสิ่งมชี ีวติ ความหลากหลายของสิง่ มชี ีวิต และอนุกรมวธิ าน รวมท้ังนำความร้ไู ปใช้ประโยชน์ 2. ผลการเรยี นรู้ ม. 6/1 วิเคราะห์ อธบิ าย และยกอย่าง กระบวนการถา่ ยทอดพลงั งานในระบบนเิ วศ ม. 6/2 อธิบาย ยกตัวอย่างการเกดิ ไบโอแมกนฟิ ิเคชัน และบอกแนวทางในการลดการเกิดไบโอแมกนิฟิเค ชนั ม. 6/3 สืบค้นข้อมูล และเขียนแผนภาพ เพื่ออธิบายวัฏจักรไนโตรเจน วัฏจักรกำมะถัน และวัฎจักร ฟอสฟอรสั ม. 6/4 สบื คน้ ขอ้ มูล ยกตวั อยา่ ง และอธิบายลักษณะของไบโอมทกี่ ระจายอยูต่ ามเขตภูมิศาสตร์ต่าง ๆ ม. 6/5 สบื ค้นขอ้ มลู ยกตวั อยา่ ง อธบิ าย และเปรียบเทียบการเปลย่ี นแปลงแทนทแ่ี บบปฐมภูมิ และการ เปลย่ี นแปลงแทนท่ีทุติยภมู ิ 3. สาระสำคัญ ความหลากหลายทางชีวภาพมี 3 ระดับ ได้แก่ ความหลากหลายทางพันธุกรรม ความหลากหลายของ สปีชสี ์ และความหลากหลายของระบบนิเวศ ซึ่งมีความสมั พนั ธ์กนั หากเกดิ การเปลย่ี นแปลงทค่ี วามหลากหลาย ระดับใดระดับหน่ึงจะส่งผลกระทบไปทีค่ วามหลากหลายในระดับอื่นด้วยประเทศไทยมีความหลากหลายทาง ชีวภาพที่อุดมสมบูรณ์แต่เนื่องจากมีการพัฒนาอย่างสืบเนื่องและความต้องการใช้ประโยชน์โด ยไม่คำนึงถึง ขีดจำกัดของการฟ้ืนตวั ของความหลากหลายทางชวี ภาพ จึงควรอนุรกั ษ์เพ่ือใหเ้ กิดการใช้ประโยชนจ์ ากความ หลากหลายทางชวี ภาพในประเทศอย่างย่ังยืน ความหลากหลายของส่ิงมีชีวติ เกิดจากวิวัฒนาการของสงิ่ มชี ีวิตควบคู่ไปกบั การเปล่ยี นแปลงของส่ิงแวดล้อม ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันโดยมีจุดเริ่มต้นจากวิวัฒนาการเกิดเซลล์เริ่มแรก จากนั้นพัฒนาไปเป็นเซลล์ โพรแคริโอต และเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงของระดับออกซิเจนบนโลกที่เกิดจากกระบวนการสังเคราะห์ด้วย แสงของโพรแครโิ อตบางกลุม่ จึงนำไปสู่ววิ ฒั นาการของการเกดิ เซลล์ยูแครโิ อตซ่ึงนับเปน็ จุดเปล่ียนที่ทำให้เกิด วิวัฒนาการทน่ี ำมาซ่ึงความหลากหลายของสง่ิ มีชีวติ ในปัจจบุ ัน ส่งิ มีชีวิตในปจั จบุ นั อาจแบ่งได้เป็น 2 กล่มุ ใหญ่ ไดแ้ ก่ โพรแครโิ อต และยูแคริโอต โดยโพรแคริโอตที่พบใน ปัจจุบันมีแบคทีเรียและอาร์เคีย ส่วนยูแคริโอตที่พบในปัจจุบันมี โพรทิสต์ พืช ฟังไจ และสัตว์ ซึ่งสิ่งมีชีวิต แต่ละกลมุ่ จะมลี ักษณะเฉพาะดงั น้ี

2 แบคทีเรียเปน็ สิ่งมีชีวิตที่ผนังเซลลม์ ีเพปทิโดไกลแคนเปน็ องค์ประกอบสำคัญ แบคทีเรียทั่วไปสร้างอาหาร เองไม่ได้ ดำรงชีวิตแบบผู้สลายสารอินทรีย์ แบบปรสิต แต่แบคทีเรียบางกลุ่มสร้างอาหารเองได้จาก กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ในการจำแนกแบคทีเรียพิจารณาได้หลายเกณฑ์ เช่น รูปร่าง ผนังเซลล์ การดำรงชีวิตไดใ้ นท่มี ีออกซิเจน การสร้างอาหาร อาร์เคียเป็นสิ่งมีชีวิตที่ผนังเซลล์ประกอบด้วยสารพอลิแซ็กคาไรด์และโปรตีน ที่หลากหลายแต่ไม่มีสาร เพปทโิ ดไกลแคน โพรทิสต์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะหลากหลาย มีทั้งเซลล์เดียวและหลายเซลล์ที่ยังไมพ่ ฒั นาไปเป็นเนือ้ เยอื่ อาจมีหรือไม่มีผนังเซลล์เป็นส่วนประกอบของเซลล์ โดยอาจแบ่งเป็นกลุ่มย่อยได้ คือ กลุ่มโพรโทซัว กลุ่ม สาหรา่ ย กลุ่มทีค่ ล้ายรา พืชเปน็ สงิ่ มีชีวิตหลายเซลล์ท่มี ีผนงั เซลลซ์ ่งึ มีเซลลโู ลสเปน็ องคป์ ระกอบ มวี ฏั จักรชีวติ แบบสลับและมีระยะ เอ็มบริโอในการสบื พนั ธ์แุ บบอาศยั เพศ พืชสร้างอาหารเองได้จากกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง โดยอาจแบ่ง ตามการมีทอ่ ลำเลยี งได้เปน็ พชื ไม่มที ่อลำเลียง และพชื มที ่อลำเลยี งซึง่ แบง่ เป็น ไลโคไฟต์ และยูฟิลโลไฟต์ ฟงั ไจเปน็ ส่งิ มชี วี ิตทม่ี เี ซลลเ์ ดยี วและหลายเซลล์ เซลล์ของฟงั ไจยงั ไมพ่ ัฒนาไปเป็นเน้อื เยื่อผนังเซลล์มีไคทิน เป็นองค์ประกอบสำคัญ ฟังไจสร้างอาหารเองไม่ได้และดำรงชีวิตแบบผู้สลายสารอินทรีย์แบบปรสิตโดย ตัวอย่างฟงั ไจท่ีพบไดบ้ ่อย มีดังนี้ ฟงั ไจกลุม่ ไคทรดิ ฟังไจกลุม่ ที่สืบพนั ธ์แุ บบอาศยั เพศด้วยการสร้างไซโกสปอร์ ฟังไจกลุ่มที่สืบพันธุ์แบบอาศัยเพศด้วยการสร้างแอสโคสปอร์ ฟังไจกลุ่มที่สืบพันธุ์แบบอาศัยเพศด้วยการ สร้างเบสิดโิ อสปอร์ สัตว์เป็นยูแคริโอตที่มีหลายเซลล์ ไม่มีผนังเซลล์ ส่วนใหญ่เซลล์จัดเรียงตัวเป็นเนือ้ เยื่อซึ่งทำหน้าทีเ่ ฉพาะ สตั วเ์ ป็นส่ิงมชี วี ิตที่สรา้ งอาหารเองไมไ่ ด้ ดำรงชวี ิตเป็นผบู้ รโิ ภคในระบบนเิ วศ สตั วห์ ลายชนดิ เป็นแหล่งอาหารท่ี สำคัญของมนุษย์ รวมท้ังมีคณุ ค่าทางเศรษฐกจิ สตั วอ์ าจแบ่งเป็นกลุม่ ยอ่ ยโดยพิจารณาลกั ษณะตา่ ง ๆ เช่น การ มีหรือไม่มีเนื้อเยื่อ สมมาตรของร่างกาย การเปลี่ยนแปลงของบลาสโทพอร์ การเจริญในระยะตัวอ่อน ทำให้ อาจแบ่งสัตว์เป็นกลุ่มย่อยเช่น กลุ่มพอริเฟอรัน กลุ่มไนดาเรียน กลุ่มแพลทีเฮลมินท์ กลุ่มมอลลัส กลุ่มแอนเนลดิ กลุ่มนมี าโทดกล่มุ อาร์โทรพอด กล่มุ เอไคโนเดริ ม์ และกลมุ่ คอร์เดต เปน็ ตน้ อนุกรมวิธานเป็นการศึกษาความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต ซึ่งกระบวนการพื้นฐานของศาสตร์ทางด้าน อนกุ รมวธิ านประกอบด้วยการจำแนก การต้งั ช่ือ และการระบุ 4. สมรรถนะของผ้เู รยี น 1) ความสามารถในการในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการคิด 3) ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1) ทกั ษะกระบวนการทำงานเปน็ กลุ่ม 2) ทักษะความมุ่งม่นั ในการทำงาน 6. ชิ้นงาน/ภาระงาน 1) แบบบันทกึ กจิ กรรม เรอ่ื ง ความหลากหลายของอาณาจักรฟังไจ 2) แบบบนั ทกึ กิจกรรม เร่ือง อาณาจักรพืช 3) ใบงาน เรื่อง ความหลากหลายทางชีวภาพ

3 7. สือ่ การเรียนรู้/แหล่งเรยี นรู้ 1) ส่อื พาวเวอรพ์ ้อย เร่ือง ความหลากหลายทางชีวภาพ 2) วีดทิ ัศน์ เรอื่ ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ 3) ส่อื พาวเวอร์พอ้ ย เรือ่ ง อาณาจกั รมอเนอราและอาณาจักรโพรติสตา 4) วีดทิ ศั น์ เรอ่ื ง Paramecium Cilia 5) สอ่ื พาวเวอรพ์ ้อย เรื่อง อาณาจกั รฟังไจ 6) ขอ้ มูลการทำกจิ กรรมปรศิ นาความคิด 7) สื่อพาวเวอร์พ้อย เร่ือง อาณาจักรพืช 8) ชุดข้อมูลความรู้เรอื่ งอาณาจกั รพืช 9) สือ่ พาวเวอร์พอ้ ย เรอ่ื ง อาณาจักรสัตว์ 8. การประเมินผลการเรียนรู้ วธิ กี าร เครื่องมอื เกณฑ์การผ่าน 1. ประเมินใบงาน/แบบบันทึกกจิ กรรม แบบประเมินใบงาน/แบบบันทกึ ผา่ นเกณฑร์ ะดบั พอใช้ขน้ึ ไป 2. ประเมนิ ทักษะการทำงานเปน็ กล่มุ กจิ กรรม แบบประเมนิ ทกั ษะการทำงานเป็นกลมุ่ ผา่ นเกณฑ์ระดับพอใช้ขึน้ ไป 3. ประเมินทักษะความมุ่งม่ันในการ แบบประเมินความมุ่งมัน่ ในการทำงาน ผ่านเกณฑ์ระดบั พอใช้ขึ้นไป ทำงาน 4. ประเมนิ การสรปุ บทเรยี น แบบประเมนิ การสรปุ บทเรียน ผา่ นเกณฑ์ระดับพอใช้ข้นึ ไป

แบบประเมนิ ใบงาน/แบบบนั ทึกกิจกรรม 4 ชอื่ -สกลุ ความถกู ตอ้ ง ความเรียบร้อย ความตรงต่อเวลา รวม ของเนอื้ หา ของผลงาน 9 คะแนน 332 121321 เกณฑ์การประเมิน ระดับคุณภาพ ดี 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถงึ พอใช้ พอใช้ 1 หมายถงึ ปรบั ปรุง ปรบั ปรงุ เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ ชว่ งคะแนน 9-7 6-4 3-1 ลงช่อื .................................................................ผปู้ ระเมิน (นายเรวัตร อย่เู กดิ ) ........../…......./….......

5 เกณฑ์การประเมนิ ใบงาน/แบบบันทกึ กิจกรรม โดยใชเ้ กณฑก์ ารประเมนิ แบบรูบริคส์ การประเมิน ระดบั คุณภาพ/คะแนน 1. ความถูกตอ้ งของ เนอ้ื หา ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1) ตอบคำถามในใบงานได้ 2. ความเรียบรอ้ ยของ อยา่ งถูกต้อง ครบถว้ น ตอบคำถามในใบงานได้ ตอบคำถามในใบงานได้ ผลงาน สมบูรณ์ อย่างถูกต้องเปน็ ส่วนมาก อย่างถูกต้องบางส่วน แต่ 3. ความตรงต่อเวลา มากกวา่ รอ้ ยละ 80 ไม่ครบถว้ น มากกว่ารอ้ ย ทำงานสะอาดเรียบร้อย มคี วามสวยงาม ละ 50 ทำเสร็จครบถว้ น และส่งภายในเวลาที่ ทำงานสะอาดเรียบร้อย ทำงานไมส่ ะอาด กำหนด เรียบรอ้ ย ทำเสร็จครบถว้ น แต่ส่ง ทำไมค่ รบถว้ น ส่งล่าช้า ลา่ ชา้ กวา่ กำหนด 1 - 2 กวา่ กำหนดมากกว่า 2 วนั วัน

6 แบบประเมนิ ทกั ษะการทำงานเปน็ กลุ่ม ชอ่ื -สกลุ บทบาท การมีส่วน ความ การรบั ฟัง ผลสำเร็จ รวม หนา้ ที่ รว่ ม รบั ผิดชอบ ความ ของงาน 15 คะแนน คดิ เหน็ 321321321321321 เกณฑ์การประเมิน ระดับคณุ ภาพ ดี 3 หมายถึง ดี 2 หมายถงึ พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรับปรุง ปรับปรุง เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน 11 - 15 6 - 10 1-5 ลงชอ่ื .................................................................ผูป้ ระเมนิ (นายเรวตั ร อยเู่ กิด) ........../…......./….......

7 เกณฑป์ ระเมินทกั ษะการทำงานเป็นกลุ่ม โดยใช้เกณฑก์ ารประเมนิ แบบรูบรคิ ส์ รายการประเมิน 3 คะแนน พฤติกรรมบ่งชี้ 1 คะแนน 1. บทบาทหน้าท่ี 2 คะแนน ไม่มีการกำหนดบทบาท 2. การมีส่วนรว่ ม มกี ารกำหนดบทบาท หน้าทีข่ องสมาชกิ หน้าที่สมาชิกไว้ชดั เจน มีการกำหนดบทบาท สมาชกิ กลมุ่ สว่ นใหญไ่ ม่ 3. ความรับผดิ ชอบ หน้าท่สี มาชิกไม่ครบ มีสว่ นรว่ มในการ สมาชกิ กลมุ่ ทุกคนมีส่วน สมาชิกกลมุ่ สว่ นใหญม่ ี ปฏบิ ตั งิ านหรือมีน้อย 4. การรบั ฟังความ ร่วมในการปฏบิ ตั ิงาน สว่ นรว่ มในการ สมาชิกสว่ นใหญไ่ ม่ คิดเหน็ กลุ่ม ปฏิบตั ิงาน ทำงานตามหนา้ ทท่ี ่ไี ด้รับ 5. ผลสำเรจ็ ของงาน สมาชกิ สว่ นใหญ่ทำงาน มอบหมาย หลกี เลยี่ ง สมาชิกทกุ คนทำงาน ตามหนา้ ท่ีทไี่ ดร้ บั งาน และงานเสร็จชา้ ตามหน้าที่ที่ไดร้ ับ มอบหมาย ไม่หลีกเลี่ยง กวา่ กำหนด มอบหมาย ไม่หลกี เล่ยี ง งาน งานเสรจ็ ทันตาม งาน งานเสรจ็ ทันตาม กำหนด สมาชิกส่วนใหญไ่ มร่ บั ฟงั กำหนด ความคดิ เห็นของผูอ้ ่ืน สมาชกิ สว่ นใหญ่รับฟงั สมาชิกทุกคนรบั ฟัง ความคดิ เหน็ ของผูอ้ ืน่ เกิดจากความร่วมมอื ความคิดเห็นของผู้อนื่ อยา่ งมีเหตุผล ของสมาชกิ ส่วนน้อยใน อยา่ งมีเหตุผล เกดิ จากความรว่ มมอื กลุ่ม ของสมาชิกส่วนใหญใ่ น เกดิ จากความรว่ มมือ กลุม่ ของสมาชกิ ทกุ คนใน กลุ่ม

แบบประเมนิ ความมุ่งมั่นในการทำงาน 8 ชอื่ -สกลุ ความตัง้ ใจและ รู้จักแก้ปญั หาใน การปรบั ปรุงและ รวม เอาใจใส่ การทำงาน แก้ไขการทำงาน 9 คะแนน 332 121 321 เกณฑก์ ารประเมนิ ระดบั คุณภาพ ดี 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถงึ พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรบั ปรุง ปรบั ปรงุ เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน 9-7 6-4 3-1 ลงช่ือ.................................................................ผู้ประเมนิ (นายเรวตั ร อยู่เกิด) ........../…......./….......

9 เกณฑก์ ารประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ด้านความมงุ่ ม่นั ในการทำงาน โดยใชเ้ กณฑ์การประเมนิ แบบรูบรคิ ส์ รายการประเมิน พฤติกรรมบง่ ช้ี 1. ความตงั้ ใจและเอา 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน ใจใสต่ อ่ ภาระงานที่ ขณะทำงานที่ไดร้ ับ ได้รับมอบหมาย โดยมี มอบหมาย นกั เรยี นไม่ ขณะทำงานทไ่ี ด้รับ ขณะทำงานท่ีไดร้ บั พฤตกิ รรมบ่งชี้ ดังน้ี แสดงพฤติกรรมบง่ ชที้ งั้ - เลน่ โทรศัพท์มอื ถือ 3 พฤติกรรม หรอื แสดง มอบหมาย นกั เรียนแสดง มอบหมาย นกั เรยี น ระหวา่ งทำงาน พฤตกิ รรมบ่งชี้ 1 ใน 3 - นำงานในรายวิชา พฤตกิ รรม พฤตกิ รรมบง่ ช้ี 2 ใน 3 แสดงพฤติกรรมบง่ ช้ที ั้ง อนื่ ข้ึนมาทำ - ฟบุ หลับ แกป้ ัญหาได้ดว้ ยตัวเอง พฤติกรรม 3 พฤตกิ รรม 2. รจู้ กั แก้ปัญหาใน ทงั้ หมด การทำงานเมอ่ื มี แก้ปญั หาดว้ ยตวั เอง แกป้ ญั หาดว้ ยตัวเองน้อย อปุ สรรค มีความพยายามที่จะ 3. การปรับปรุงและ ปรับปรุงแก้ไขการทำงาน มากกวา่ รอ้ ยละ 80 กวา่ รอ้ ยละ 80 ของ แก้ไขการทำงานของ ของตนให้มผี ลงานทดี่ ี ตนใหด้ ีย่งิ ขน้ึ และคุณภาพอยู่เสมอ ของงานท้งั หมด งานทั้งหมด มีความพยายามท่ีจะ มีความพยายามท่ีจะ ปรับปรงุ แกไ้ ขการทำงาน ปรบั ปรงุ แก้ไขการทำงาน ของตนใหม้ ผี ลงานทด่ี ี ของตนใหม้ ผี ลงานทดี่ ี และคณุ ภาพ และคุณภาพเปน็ บางครงั้

10 แบบประเมนิ การสรุปบทเรียน ชอ่ื -สกุล การสรุป ความถกู ต้อง ความ ความถูกต้อง รวม ประเดน็ ของเน้อื หา ครบถ้วนของ ของการใช้คำ 12 คะแนน สำคญั 321 เนอ้ื หา และการ 321 สะกดคำ 321 321 เกณฑ์การประเมนิ ระดบั คุณภาพ ดี 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถึง พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรบั ปรงุ ปรบั ปรงุ เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน 9 - 12 8-5 4-1 ลงชอื่ .................................................................ผู้ประเมนิ (นายเรวัตร อยเู่ กิด) ........../…......./….......

11 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 เรอื่ ง ชวี ิตกับสิ่งแวดลอ้ ม รหัสวชิ า ว30256 ชวี วิทยา 6 กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เวลาเรยี น 450 นาที (9 คาบ) ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระชวี วทิ ยา ข้อท่ี 5 เข้าใจแนวคิดเกี่ยวกับระบบนิเวศ กระบวนการถ่ายทอดพลังงาน และการหมุนเวียนสารในระบบนิเวศ ความหลากหลายของไบโอม การเปลย่ี นแปลงแทนทีข่ องสงิ่ มชี วี ิตในระบบนิเวศ ประชากรและรูปแบบการเพ่ิม ของประชากร ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ปัญหาและผลกระทบที่เกิดจากการใช้ประโยชน์ และ แนวทางการแกไ้ ขปญั หา 2. ผลการเรยี นรู้ ม. 6/1 วเิ คราะห์ อธบิ าย และยกอยา่ ง กระบวนการถ่ายทอดพลังงานในระบบนิเวศ ม. 6/2 อธบิ าย ยกตวั อยา่ งการเกิดไบโอแมกนิฟิเคชัน และบอกแนวทางในการลดการเกิดไบโอแมกนิฟิเค ชัน ม. 6/3 สืบค้นข้อมูล และเขียนแผนภาพ เพื่ออธิบายวัฏจักรไนโตรเจน วัฏจักรกำมะถัน และวัฎจักร ฟอสฟอรสั ม. 6/4 สบื คน้ ข้อมูล ยกตวั อย่าง และอธบิ ายลักษณะของ ไบโอมท่ีกระจายอยู่ตามเขตภมู ศิ าสตร์ต่าง ๆ ม. 6/5 สบื คน้ ขอ้ มลู ยกตวั อย่าง อธบิ าย และเปรียบเทียบการเปลีย่ นแปลงแทนท่ีแบบปฐมภูมิ และการ เปล่ยี นแปลงแทนทท่ี ุตยิ ภมู ิ 3. สาระสำคญั ระบบนเิ วศจะดำรงอยูไ่ ดต้ ้องมีกระบวนการต่าง ๆ เกิดขึ้น โดยมีกระบวนการที่สำคัญ ได้แก่ การถ่ายทอด พลงั งานและการหมุนเวยี นสาร การถ่ายทอดพลงั งานในระบบนเิ วศสามารถแสดงได้ดว้ ยแผนภาพที่เรยี กวา่ โซ่ อาหารและสายใยอาหาร โดยสามารถเขียนความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตแต่ละลำดับขั้นการกินอาหารได้ใน รูปแบบของพีระมิดทางนิเวศวิทยา โดยพลังงานที่ถ่ายทอดไปในแต่ละลำดับขั้นการกินอาหารมีปริมาณที่ไม่ เท่ากัน พลังงานส่วนหนึ่งจะสูญเสียไประหว่างการถ่ายทอดจากสิ่งมีชวี ิตหนึ่งไปยังสิง่ มชี ีวิตอีกชนิดหนึ่ง การ ถ่ายทอดพลังงานในระบบนิเวศบางคร้ังอาจทำใหม้ ีสารพิษสะสมอยู่ในสิ่งมชี ีวติ และมีระดับความเข้มขน้ ของ สารพิษมากขน้ึ ตามลำดับข้ันการกนิ อาหารเรียกว่า การเกดิ ไบโอแมกนฟิ ิเคชัน สารตา่ ง ๆ ในระบบนิเวศมีการ หมุนเวียนเกิดขึ้นผา่ นท้ังในสิ่งมีชวี ติ และสิง่ ไม่มีชีวิตอย่างเป็นวัฏจักร เช่น วัฏจักรไนโตรเจน วัฏจักรกำมะถนั และวฏั จกั รฟอสฟอรัส ไบโอมคือระบบนิเวศขนาดใหญ่ท่ีกระจายอยู่ตามเขตภูมิศาสตร์ต่าง ๆ บนโลก เช่น ไบโอมทุนดรา ไบโอม สะวนั นา ไบโอมทะเลทราย โดยแต่ละไบโอมจะมีลักษณะเฉพาะของปัจจัยทางกายภาพชนิดของพืช และชนิด ของสตั ว์ระบบนเิ วศมีการเปล่ียนแปลงได้ตลอดเวลา การเปล่ียนแปลงของปัจจยั ในระบบนเิ วศอาจทำให้ขนาด ของประชากรและชนิดของส่งิ มีชีวติ เปล่ียนแปลงไปและทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแทนที่ของสิง่ มีชีวิตขึ้น โดย การเปลี่ยนแปลงแทนที่ทางนิเวศวิทยา มีทั้งการเปลี่ยนแปลงแทนที่แบบปฐมภูมิและการเปล่ียนแปลงแทนที่ แบบทุติยภมู ิ

12 4. สมรรถนะของผ้เู รียน 1) ความสามารถในการในการสือ่ สาร 2) ความสามารถในการคิด 3) ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1) ทักษะกระบวนการทำงานเป็นกลมุ่ 2) ทักษะความม่งุ มน่ั ในการทำงาน 6. ช้ินงาน/ภาระงาน 1) ใบงาน เร่อื ง โซอ่ าหารและสายใยอาหาร 2) แบบบันทึกกจิ กรรม เรือ่ ง วฏั จักรสาร 3) ใบงาน เร่ือง ไบโอม 4) แบบบนั ทกึ กจิ กรรม เรื่อง การเปล่ยี นแปลงแทนทข่ี องระบบนิเวศ 7. ส่ือการเรียนรู/้ แหลง่ เรียนรู้ 1) ส่อื พาวเวอร์พอ้ ย เร่ือง ความสัมพันธ์ระหวา่ งสง่ิ มีชวี ติ กับสงิ่ มีชีวิต 2) บัตรคำแสดงโซอ่ าหารและสายใยอาหาร 3) สื่อพาวเวอรพ์ ้อย เรอื่ ง โซอ่ าหารและสายใยอาหาร 4) สอ่ื พาวเวอร์พ้อย เรอ่ื ง พรี ะมิดทางนเิ วศวิทยา 5) ส่อื พาวเวอร์พ้อย เรอื่ ง วัฏจักรคารบ์ อน 6) ใบความรู้ เรอ่ื ง วฏั จักรคาร์บอน 7) วดี ิทศั น์ เร่ือง Carbon cycle 8) สื่อพาวเวอรพ์ อ้ ย เร่อื ง วัฏจกั รไนโตรเจน 9) ใบความรู้ เร่ือง วัฏจกั รไนโตรเจน 10) วดี ทิ ศั น์ เรอื่ ง Nitrogen cycle 11) สื่อพาวเวอรพ์ ้อย เรือ่ ง วฏั จกั รฟอสเฟต 12) ใบความรู้ เร่ือง วัฏจักรฟอสเฟต 13) วีดิทัศน์ เร่ือง The Phosphorus Cycle 14) สื่อพาวเวอรพ์ ้อย เรอ่ื ง ไบโอมบนบก 15) วีดิทัศน์ เรอ่ื ง ไบโอมบนบก 16) สอ่ื พาวเวอร์พอ้ ย เรื่อง ไบโอมในนำ้ 17) วีดทิ ัศน์ เรอ่ื ง ไบโอมในนำ้ 18) สื่อพาวเวอร์พ้อย เรื่อง การเปลี่ยนแปลงแทนทข่ี องระบบนิเวศ 19) วีดทิ ัศน์ เรอ่ื ง ไฟปา่ 20) ใบความรู้ เรื่อง การเปลี่ยนแปลงแทนทขี่ องระบบนเิ วศ

13 8. การประเมินผลการเรียนรู้ วธิ ีการ เครื่องมือ เกณฑ์การผา่ น 1. ประเมนิ ใบงาน/แบบบนั ทึกกิจกรรม แบบประเมนิ ใบงาน/แบบบันทกึ ผา่ นเกณฑ์ระดบั พอใช้ขน้ึ ไป 2. ประเมินทกั ษะการทำงานเปน็ กลุ่ม กจิ กรรม แบบประเมินทกั ษะการทำงานเปน็ กล่มุ ผา่ นเกณฑร์ ะดบั พอใช้ขึ้นไป 3. ประเมนิ ทักษะความมงุ่ ม่นั ในการ แบบประเมินความมุง่ ม่นั ในการทำงาน ผา่ นเกณฑ์ระดับพอใช้ข้ึนไป ทำงาน 4. ประเมนิ การสรุปบทเรียน แบบประเมินการสรปุ บทเรยี น ผ่านเกณฑร์ ะดับพอใช้ข้ึนไป

แบบประเมนิ ใบงาน/แบบบนั ทกึ กจิ กรรม 14 ช่อื -สกุล ความถูกต้อง ความเรยี บร้อย ความตรงต่อเวลา รวม ของเนื้อหา ของผลงาน 9 คะแนน 332 121321 เกณฑ์การประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ ดี 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถึง พอใช้ พอใช้ 1 หมายถงึ ปรบั ปรงุ ปรบั ปรุง เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน 9-7 6-4 3-1 ลงช่อื .................................................................ผปู้ ระเมิน (นายเรวตั ร อยเู่ กิด) ........../…......./….......

15 เกณฑก์ ารประเมินใบงาน/แบบบันทกึ กิจกรรม โดยใชเ้ กณฑ์การประเมนิ แบบรูบริคส์ การประเมิน ระดบั คุณภาพ/คะแนน 1. ความถกู ต้องของ เน้อื หา ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1) ตอบคำถามในใบงานได้ 2. ความเรียบร้อยของ อยา่ งถูกต้อง ครบถ้วน ตอบคำถามในใบงานได้ ตอบคำถามในใบงานได้ ผลงาน สมบรู ณ์ อยา่ งถูกตอ้ งเป็นสว่ นมาก อย่างถกู ต้องบางสว่ น แต่ 3. ความตรงตอ่ เวลา มากกวา่ รอ้ ยละ 80 ไม่ครบถว้ น มากกว่ารอ้ ย ทำงานสะอาดเรยี บร้อย มคี วามสวยงาม ละ 50 ทำเสร็จครบถ้วน และสง่ ภายในเวลาท่ี ทำงานสะอาดเรยี บรอ้ ย ทำงานไมส่ ะอาด กำหนด เรียบรอ้ ย ทำเสร็จครบถ้วน แต่ส่ง ทำไมค่ รบถ้วน สง่ ลา่ ช้า ล่าชา้ กว่ากำหนด 1 - 2 กวา่ กำหนดมากกว่า 2 วัน วัน

16 แบบประเมินทกั ษะการทำงานเปน็ กล่มุ ชอ่ื -สกุล บทบาท การมสี ่วน ความ การรับฟงั ผลสำเร็จ รวม หนา้ ท่ี รว่ ม รับผดิ ชอบ ความ ของงาน 15 คะแนน คิดเหน็ 321321321321321 เกณฑ์การประเมิน ระดบั คณุ ภาพ ดี 3 หมายถึง ดี 2 หมายถงึ พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรับปรงุ ปรับปรุง เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน 11 - 15 6 - 10 1-5 ลงชื่อ.................................................................ผูป้ ระเมนิ (นายเรวตั ร อย่เู กดิ ) ........../…......./….......

17 เกณฑ์ประเมินทกั ษะการทำงานเปน็ กลุ่ม โดยใช้เกณฑ์การประเมินแบบรบู รคิ ส์ รายการประเมิน 3 คะแนน พฤติกรรมบง่ ชี้ 1 คะแนน 1. บทบาทหนา้ ท่ี 2 คะแนน ไมม่ กี ารกำหนดบทบาท 2. การมีสว่ นรว่ ม มีการกำหนดบทบาท หนา้ ท่ขี องสมาชกิ หนา้ ท่ีสมาชิกไวช้ ัดเจน มกี ารกำหนดบทบาท สมาชิกกลุม่ สว่ นใหญ่ไม่ 3. ความรบั ผิดชอบ หน้าทส่ี มาชิกไมค่ รบ มสี ว่ นรว่ มในการ สมาชิกกลมุ่ ทุกคนมสี ่วน สมาชกิ กลุ่มส่วนใหญ่มี ปฏิบตั งิ านหรือมนี อ้ ย 4. การรบั ฟงั ความ รว่ มในการปฏบิ ัติงาน ส่วนร่วมในการ สมาชกิ สว่ นใหญไ่ ม่ คิดเหน็ กล่มุ ปฏบิ ตั งิ าน ทำงานตามหนา้ ทที่ ีไ่ ดร้ ับ 5. ผลสำเร็จของงาน สมาชกิ ส่วนใหญท่ ำงาน มอบหมาย หลกี เล่ียง สมาชกิ ทกุ คนทำงาน ตามหน้าท่ีท่ไี ดร้ ับ งาน และงานเสรจ็ ชา้ ตามหนา้ ที่ทไ่ี ดร้ ับ มอบหมาย ไม่หลีกเลยี่ ง กวา่ กำหนด มอบหมาย ไมห่ ลีกเล่ยี ง งาน งานเสร็จทนั ตาม งาน งานเสรจ็ ทนั ตาม กำหนด สมาชกิ สว่ นใหญไ่ มร่ บั ฟัง กำหนด ความคิดเหน็ ของผูอ้ ื่น สมาชกิ สว่ นใหญร่ ับฟัง สมาชกิ ทกุ คนรบั ฟัง ความคิดเหน็ ของผอู้ ืน่ เกดิ จากความร่วมมอื ความคดิ เห็นของผู้อ่นื อย่างมีเหตุผล ของสมาชกิ สว่ นนอ้ ยใน อย่างมีเหตุผล เกิดจากความรว่ มมือ กลมุ่ ของสมาชกิ สว่ นใหญ่ใน เกิดจากความร่วมมือ กล่มุ ของสมาชกิ ทุกคนใน กลุ่ม

แบบประเมนิ ความม่งุ ม่นั ในการทำงาน 18 ชอื่ -สกลุ ความตง้ั ใจและ รู้จักแก้ปัญหาใน การปรับปรุงและ รวม เอาใจใส่ การทำงาน แก้ไขการทำงาน 9 คะแนน 332 121 321 เกณฑก์ ารประเมิน ระดบั คณุ ภาพ ดี 3 หมายถึง ดี 2 หมายถึง พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรบั ปรุง ปรับปรงุ เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน 9-7 6-4 3-1 ลงช่อื .................................................................ผปู้ ระเมนิ (นายเรวัตร อยู่เกิด) ........../…......./….......

19 เกณฑก์ ารประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ด้านความมุ่งมน่ั ในการทำงาน โดยใช้เกณฑ์การประเมนิ แบบรบู รคิ ส์ รายการประเมนิ พฤตกิ รรมบ่งช้ี 1. ความตง้ั ใจและเอา 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน ใจใสต่ อ่ ภาระงานที่ ขณะทำงานที่ไดร้ บั ได้รบั มอบหมาย โดยมี มอบหมาย นักเรียนไม่ ขณะทำงานที่ได้รับ ขณะทำงานท่ีได้รบั พฤติกรรมบง่ ชี้ ดงั น้ี แสดงพฤติกรรมบ่งชีท้ ้งั - เลน่ โทรศัพท์มือถือ 3 พฤติกรรม หรอื แสดง มอบหมาย นกั เรียนแสดง มอบหมาย นกั เรียน ระหวา่ งทำงาน พฤติกรรมบ่งชี้ 1 ใน 3 - นำงานในรายวชิ า พฤติกรรม พฤตกิ รรมบง่ ช้ี 2 ใน 3 แสดงพฤติกรรมบง่ ช้ีทั้ง อ่นื ขึ้นมาทำ - ฟบุ หลบั แก้ปญั หาได้ดว้ ยตัวเอง พฤติกรรม 3 พฤตกิ รรม 2. รู้จกั แก้ปญั หาใน ทัง้ หมด การทำงานเม่ือมี แก้ปัญหาดว้ ยตวั เอง แกป้ ญั หาด้วยตัวเองนอ้ ย อปุ สรรค มคี วามพยายามท่ีจะ 3. การปรบั ปรุงและ ปรบั ปรงุ แก้ไขการทำงาน มากกว่าร้อยละ 80 กว่าร้อยละ 80 ของ แก้ไขการทำงานของ ของตนใหม้ ผี ลงานที่ดี ตนใหด้ ีย่งิ ข้นึ และคณุ ภาพอยู่เสมอ ของงานทงั้ หมด งานทัง้ หมด มคี วามพยายามท่ีจะ มคี วามพยายามท่ีจะ ปรบั ปรงุ แกไ้ ขการทำงาน ปรบั ปรงุ แก้ไขการทำงาน ของตนให้มผี ลงานทด่ี ี ของตนใหม้ ผี ลงานที่ดี และคุณภาพ และคณุ ภาพเป็นบางครง้ั

20 แบบประเมนิ การสรุปบทเรียน ชอ่ื -สกุล การสรุป ความถกู ต้อง ความ ความถูกต้อง รวม ประเดน็ ของเน้อื หา ครบถ้วนของ ของการใช้คำ 12 คะแนน สำคญั 321 เนอ้ื หา และการ 321 สะกดคำ 321 321 เกณฑ์การประเมนิ ระดบั คุณภาพ ดี 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถึง พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรบั ปรงุ ปรบั ปรงุ เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน 9 - 12 8-5 4-1 ลงชอื่ .................................................................ผู้ประเมนิ (นายเรวัตร อยเู่ กิด) ........../…......./….......

21 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3 เรือ่ ง ประชากร รหสั วชิ า ว30256 ชวี วทิ ยา 6 กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เวลาเรียน 250 นาที (5 คาบ) ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 6 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระชวี วทิ ยา ขอ้ ที่ 5 เข้าใจแนวคิดเกี่ยวกับระบบนิเวศ กระบวนการถ่ายทอดพลังงาน และการหมุนเวียนสารในระบบนิเวศ ความหลากหลายของไบโอม การเปลย่ี นแปลงแทนทข่ี องสิง่ มชี วี ติ ในระบบนิเวศ ประชากรและรปู แบบการเพิ่ม ของประชากร ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ปัญหาและผลกระทบที่เกิดจากการใช้ประโยชน์ และ แนวทางการแกไ้ ขปัญหา 2. ผลการเรยี นรู้ ม. 6/6 สืบคน้ ขอ้ มลู อธิบาย ยกตัวอย่าง และสรุปเก่ียวกบั ลักษณะเฉพาะของประชากรของส่งิ มีชีวติ บาง ชนดิ ม. 6/7 สบื คน้ ขอ้ มูล อธิบาย เปรยี บเทยี บ และยกตวั อยา่ งการเพม่ิ ของประชากรแบบเอก็ โพเนนเชยี ล และ การเพิ่มของประชากรแบบลอจสิ ติก ม. 6/8 อธิบาย และยกตัวอย่างปจั จยั ท่ีควบคมุ การเจรญิ เติบโตของประชากร 3. สาระสำคัญ ประชากรของสง่ิ มีชวี ิตมีลักษณะเฉพาะ เช่น ขนาดของประชากร ความหนาแน่นของประชากรการกระจาย ตัวของสมาชิกในประชากร โครงสร้างอายุของประชากร อัตราส่วนระหว่างเพศ อัตราการเกิดและอัตราการ ตาย การอพยพเข้า การอพยพออก และกราฟการรอดชีวิตของสมาชิกในประชากร ลักษณะเฉพาะของ ประชากรมีอทิ ธิพลต่อการเปล่ยี นแปลงขนาดของประชากรซ่งึ เปน็ กระบวนการที่เกิดขน้ึ อยู่เสมอ โดยการเพ่ิม ประชากรแบบเอ็กโพเนนเชียลเปน็ การเพิ่มจำนวนประชากรอยา่ งรวดเร็วแบบทวีคูณ ส่วนการเพิ่มประชากร แบบลอจิสตกิ เป็นการเพิ่มจำนวนประชากรที่ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมหรือมีตัวต้านทานในสิ่งแวดล้อมมา เกี่ยวข้อง การเติบโตของประชากรขึ้นกับปัจจัยต่าง ๆ ซึ่งแบ่งได้เป็น ปัจจัยที่ขึ้นกับความหนาแน่นของ ประชากรและปจั จัยทีไ่ ม่ข้นึ กบั ความหนาแน่นของประชากร ประชากรมนุษย์มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วแบบเอ็กโพเนนเชียลหลังจากการปฏิวัติทางอุตสาหกรรม เมื่อพิจารณาโครงสร้างอายุและอัตราส่วนระหว่างเพศของประชากรสามารถแสดงได้เป็นพีระมิดอายุ ซ่ึง สามารถใช้คาดคะเนการเติบโตของประชากรและขนาดของประชากรในอนาคตได้ 4. สมรรถนะของผ้เู รียน 1) ความสามารถในการในการสอื่ สาร 2) ความสามารถในการคิด 3) ความสามารถในการแก้ปัญหา 4) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

22 5. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1) ทักษะกระบวนการทำงานเปน็ กลุม่ 2) ทักษะความม่งุ ม่นั ในการทำงาน 6. ช้นิ งาน/ภาระงาน 1) แบบบนั ทกึ กจิ กรรม เรอ่ื ง จำนวนประชากร และความหนาแนน่ ของประชากร 7. สื่อการเรียนร้/ู แหลง่ เรียนรู้ 1) สื่อพาวเวอร์พ้อย เร่ือง จำนวนประชากร และความหนาแนน่ ของประชากร 3) กรอบสุ่มตัวอย่าง 2) ส่อื พาวเวอร์พอ้ ย เรื่อง ปัจจยั ทมี่ ผี ลต่อการเปล่ียนแปลงขนาดประชากร 8. การประเมินผลการเรยี นรู้ วธิ กี าร เคร่ืองมือ เกณฑก์ ารผ่าน 1. ประเมนิ ใบงาน/แบบบนั ทึกกิจกรรม แบบประเมนิ ใบงาน/แบบบนั ทึก ผ่านเกณฑร์ ะดบั พอใช้ขึ้นไป 2. ประเมนิ ทักษะการทำงานเปน็ กล่มุ กิจกรรม แบบประเมนิ ทกั ษะการทำงานเปน็ กล่มุ ผา่ นเกณฑ์ระดบั พอใช้ขึ้นไป 3. ประเมนิ ทักษะความมุ่งม่ันในการ แบบประเมนิ ความมุง่ มน่ั ในการทำงาน ผ่านเกณฑ์ระดับพอใช้ขึ้นไป ทำงาน 4. ประเมนิ การสรุปบทเรยี น แบบประเมินการสรปุ บทเรียน ผา่ นเกณฑ์ระดบั พอใช้ข้ึนไป

แบบประเมนิ ใบงาน/แบบบนั ทกึ กจิ กรรม 23 ช่อื -สกุล ความถูกต้อง ความเรยี บร้อย ความตรงต่อเวลา รวม ของเนื้อหา ของผลงาน 9 คะแนน 332 121321 เกณฑ์การประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ ดี 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถึง พอใช้ พอใช้ 1 หมายถงึ ปรบั ปรงุ ปรบั ปรุง เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน 9-7 6-4 3-1 ลงช่อื .................................................................ผปู้ ระเมิน (นายเรวตั ร อยเู่ กิด) ........../…......./….......

24 เกณฑก์ ารประเมินใบงาน/แบบบันทกึ กิจกรรม โดยใชเ้ กณฑ์การประเมนิ แบบรูบริคส์ การประเมิน ระดบั คุณภาพ/คะแนน 1. ความถกู ต้องของ เน้อื หา ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1) ตอบคำถามในใบงานได้ 2. ความเรียบร้อยของ อยา่ งถูกต้อง ครบถ้วน ตอบคำถามในใบงานได้ ตอบคำถามในใบงานได้ ผลงาน สมบรู ณ์ อยา่ งถูกตอ้ งเป็นสว่ นมาก อย่างถกู ต้องบางสว่ น แต่ 3. ความตรงตอ่ เวลา มากกวา่ รอ้ ยละ 80 ไม่ครบถว้ น มากกว่ารอ้ ย ทำงานสะอาดเรยี บร้อย มคี วามสวยงาม ละ 50 ทำเสร็จครบถ้วน และสง่ ภายในเวลาท่ี ทำงานสะอาดเรยี บรอ้ ย ทำงานไมส่ ะอาด กำหนด เรียบรอ้ ย ทำเสร็จครบถ้วน แต่ส่ง ทำไมค่ รบถ้วน สง่ ลา่ ช้า ล่าชา้ กว่ากำหนด 1 - 2 กวา่ กำหนดมากกว่า 2 วัน วัน

25 แบบประเมินทกั ษะการทำงานเปน็ กล่มุ ชอ่ื -สกุล บทบาท การมสี ่วน ความ การรับฟงั ผลสำเร็จ รวม หนา้ ท่ี รว่ ม รับผดิ ชอบ ความ ของงาน 15 คะแนน คิดเหน็ 321321321321321 เกณฑ์การประเมิน ระดบั คณุ ภาพ ดี 3 หมายถึง ดี 2 หมายถงึ พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรับปรงุ ปรับปรุง เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน 11 - 15 6 - 10 1-5 ลงชื่อ.................................................................ผูป้ ระเมนิ (นายเรวตั ร อย่เู กดิ ) ........../…......./….......

26 เกณฑ์ประเมินทกั ษะการทำงานเปน็ กลุ่ม โดยใช้เกณฑ์การประเมินแบบรบู รคิ ส์ รายการประเมิน 3 คะแนน พฤติกรรมบง่ ชี้ 1 คะแนน 1. บทบาทหนา้ ท่ี 2 คะแนน ไมม่ กี ารกำหนดบทบาท 2. การมีสว่ นรว่ ม มีการกำหนดบทบาท หนา้ ท่ขี องสมาชกิ หนา้ ท่ีสมาชิกไวช้ ัดเจน มกี ารกำหนดบทบาท สมาชิกกลุม่ สว่ นใหญ่ไม่ 3. ความรบั ผิดชอบ หน้าทส่ี มาชิกไมค่ รบ มสี ว่ นรว่ มในการ สมาชิกกลมุ่ ทุกคนมสี ่วน สมาชกิ กลุ่มส่วนใหญ่มี ปฏิบตั งิ านหรือมนี อ้ ย 4. การรบั ฟงั ความ รว่ มในการปฏบิ ัติงาน ส่วนร่วมในการ สมาชกิ สว่ นใหญไ่ ม่ คิดเหน็ กล่มุ ปฏบิ ตั งิ าน ทำงานตามหนา้ ทที่ ีไ่ ดร้ ับ 5. ผลสำเร็จของงาน สมาชกิ ส่วนใหญท่ ำงาน มอบหมาย หลกี เล่ียง สมาชกิ ทกุ คนทำงาน ตามหน้าท่ีท่ไี ดร้ ับ งาน และงานเสรจ็ ชา้ ตามหนา้ ที่ทไ่ี ดร้ ับ มอบหมาย ไม่หลีกเลยี่ ง กวา่ กำหนด มอบหมาย ไมห่ ลีกเล่ยี ง งาน งานเสร็จทนั ตาม งาน งานเสรจ็ ทนั ตาม กำหนด สมาชกิ สว่ นใหญไ่ มร่ บั ฟัง กำหนด ความคิดเหน็ ของผูอ้ ื่น สมาชกิ สว่ นใหญร่ ับฟัง สมาชกิ ทกุ คนรบั ฟัง ความคิดเหน็ ของผอู้ ืน่ เกดิ จากความร่วมมอื ความคดิ เห็นของผู้อ่นื อย่างมีเหตุผล ของสมาชกิ สว่ นนอ้ ยใน อย่างมีเหตุผล เกิดจากความรว่ มมือ กลมุ่ ของสมาชกิ สว่ นใหญ่ใน เกิดจากความร่วมมือ กล่มุ ของสมาชกิ ทุกคนใน กลุ่ม

แบบประเมนิ ความม่งุ ม่นั ในการทำงาน 27 ชอื่ -สกลุ ความตง้ั ใจและ รู้จักแก้ปัญหาใน การปรับปรุงและ รวม เอาใจใส่ การทำงาน แก้ไขการทำงาน 9 คะแนน 332 121 321 เกณฑก์ ารประเมิน ระดบั คณุ ภาพ ดี 3 หมายถึง ดี 2 หมายถึง พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรบั ปรุง ปรับปรงุ เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน 9-7 6-4 3-1 ลงช่อื .................................................................ผปู้ ระเมนิ (นายเรวัตร อยู่เกิด) ........../…......./….......

28 เกณฑก์ ารประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ด้านความมุ่งมน่ั ในการทำงาน โดยใช้เกณฑ์การประเมนิ แบบรบู รคิ ส์ รายการประเมนิ พฤตกิ รรมบ่งช้ี 1. ความตง้ั ใจและเอา 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน ใจใสต่ อ่ ภาระงานที่ ขณะทำงานที่ไดร้ บั ได้รบั มอบหมาย โดยมี มอบหมาย นักเรียนไม่ ขณะทำงานที่ได้รับ ขณะทำงานท่ีได้รบั พฤติกรรมบง่ ชี้ ดงั น้ี แสดงพฤติกรรมบ่งชีท้ ้งั - เลน่ โทรศัพท์มือถือ 3 พฤติกรรม หรอื แสดง มอบหมาย นกั เรียนแสดง มอบหมาย นกั เรียน ระหวา่ งทำงาน พฤติกรรมบ่งชี้ 1 ใน 3 - นำงานในรายวชิ า พฤติกรรม พฤตกิ รรมบง่ ช้ี 2 ใน 3 แสดงพฤติกรรมบง่ ช้ีทั้ง อ่นื ขึ้นมาทำ - ฟบุ หลบั แก้ปญั หาได้ดว้ ยตัวเอง พฤติกรรม 3 พฤตกิ รรม 2. รู้จกั แก้ปญั หาใน ทัง้ หมด การทำงานเม่ือมี แก้ปัญหาดว้ ยตวั เอง แกป้ ญั หาด้วยตัวเองนอ้ ย อปุ สรรค มคี วามพยายามท่ีจะ 3. การปรบั ปรุงและ ปรบั ปรงุ แก้ไขการทำงาน มากกว่าร้อยละ 80 กว่าร้อยละ 80 ของ แก้ไขการทำงานของ ของตนใหม้ ผี ลงานที่ดี ตนใหด้ ีย่งิ ข้นึ และคณุ ภาพอยู่เสมอ ของงานทงั้ หมด งานทัง้ หมด มคี วามพยายามท่ีจะ มคี วามพยายามท่ีจะ ปรบั ปรงุ แกไ้ ขการทำงาน ปรบั ปรงุ แก้ไขการทำงาน ของตนให้มผี ลงานทด่ี ี ของตนใหม้ ผี ลงานที่ดี และคุณภาพ และคณุ ภาพเป็นบางครง้ั

29 แบบประเมนิ การสรุปบทเรียน ชอ่ื -สกุล การสรุป ความถกู ต้อง ความ ความถูกต้อง รวม ประเดน็ ของเน้อื หา ครบถ้วนของ ของการใช้คำ 12 คะแนน สำคญั 321 เนอ้ื หา และการ 321 สะกดคำ 321 321 เกณฑ์การประเมนิ ระดบั คุณภาพ ดี 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถึง พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรบั ปรงุ ปรบั ปรงุ เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน 9 - 12 8-5 4-1 ลงชอื่ .................................................................ผู้ประเมนิ (นายเรวัตร อยเู่ กิด) ........../…......./….......

30 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4 เร่อื ง มนุษย์กับความย่ังยืนของส่ิงแวดล้อม รหัสวิชา ว30256 ชีววทิ ยา 6 กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เวลาเรียน 250 นาที (5 คาบ) ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 6 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระชวี วิทยา ข้อที่ 5 เข้าใจแนวคิดเกี่ยวกับระบบนิเวศ กระบวนการถ่ายทอดพลังงาน และการหมุนเวียนสารในระบบนิเวศ ความหลากหลายของไบโอม การเปลี่ยนแปลงแทนท่ีของสง่ิ มีชวี ิตในระบบนเิ วศ ประชากรและรปู แบบการเพิ่ม ของประชากร ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ปัญหาและผลกระทบที่เกิดจากการใช้ประโยชน์ และ แนวทางการแก้ไขปัญหา 2. ผลการเรียนรู้ ม. 6/9 วเิ คราะห์ อภปิ ราย และสรปุ ปัญหาการขาดแคลนน้ำ การเกิดมลพิษทางน้ำ และผลกระทบท่ีมีต่อ มนุษย์ และส่ิงแวดลอ้ ม รวมทั้งเสนอแนวทางการวางแผนการจดั การนำ้ และการแกไ้ ขปญั หา ม. 6/10 วิเคราะห์ อภปิ ราย และสรปุ ปัญหามลพษิ ทางอากาศ และผลกระทบทีม่ ตี อ่ มนุษย์และสง่ิ แวดล้อม รวมทงั้ เสนอแนวทางการแกไ้ ขปญั หา ม. 6/11 วิเคราะห์ อภิปราย และสรุปปัญหาที่เกิดกับทรัพยากรดิน และผลกระทบที่มีต่อมนุษย์ และ สิง่ แวดล้อม รวมท้งั เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหา ม. 6/12 วิเคราะห์ อภิปราย และสรุปปัญหา ผลกระทบที่เกิดจากการทำลายป่าไม้ รวมทั้งเสนอแนวทาง ในการปอ้ งกันการทำลายป่าไม้ และการอนุรกั ษ์ปา่ ไม้ ม. 6/13 วเิ คราะห์ อภิปราย และสรปุ ปัญหา ผลกระทบท่ที ำให้สัตวป์ ่ามีจำนวนลดลง และแนวทางในการ อนุรักษ์สัตว์ปา่ 3. สาระสำคญั ทรพั ยากรธรรมชาตแิ บง่ ตามลักษณะการนำมาใชป้ ระโยชนไ์ ด้เปน็ 3 ประเภท คือ ทรัพยากรธรรมชาติท่ีใช้ ไม่หมดสนิ้ ทรพั ยากรธรรมชาตทิ ี่ใช้แลว้ เกิดทดแทนได้ และทรพั ยากรธรรมชาติทใี่ ชแ้ ลว้ หมดไป เช่น ทรัพยากร น้ำ ดิน อากาศ ป่าไม้ และสัตว์ป่า เป็นต้น ซึ่งทรัพยากรธรรมชาติเหล่านี้มีความสำคัญและจำเป็นต่อการ ดำรงชีวิตของมนุษย์ เมื่อมนุษย์นำทรัพยากรธรรมชาติมาใช้ ถ้าใช้อย่างไม่เห็นคุณค่าจะส่งผลให้ปริมาณของ ทรัพยากรธรรมชาติลดลงและก่อใหเ้ กดิ มลพิษต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวติ ของมนษุ ย์ นอกจากนก้ี ารแพร่กระจายของชนิดพันธุ์ตา่ งถน่ิ รุกรานก็สง่ ผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้วย ดังนั้นมนุษย์จึงต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ แนวทางการจัดการ ทรัพยากรธรรมชาติโดยใช้หลักการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อมเพื่อกอ่ ใหเ้ กดิ ความยั่งยืนของ ส่ิงแวดลอ้ ม

31 4. สมรรถนะของผ้เู รียน 1) ความสามารถในการในการส่อื สาร 2) ความสามารถในการคิด 3) ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1) ทักษะกระบวนการทำงานเป็นกล่มุ 2) ทักษะความมุง่ ม่นั ในการทำงาน 6. ชิน้ งาน/ภาระงาน 1) แบบบนั ทึกกจิ กรรม เรอื่ ง ปญั หาสิง่ แวดล้อม และทรพั ยากรธรรมชาติ 2) แบบบันทกึ กิจกรรม เรื่อง การใชท้ รัพยากรธรรมชาตอิ ย่างยัง่ ยนื 7. สอ่ื การเรียนร/ู้ แหลง่ เรียนรู้ 1) สอ่ื พาวเวอรพ์ อ้ ย เรอ่ื ง ทรัพยากรธรรมชาติ 2) ชุดภาพ เกีย่ วกบั ทรพั ยากรธรรมชาติ 3) สื่อพาวเวอรพ์ ้อย เรอื่ ง ส่งิ แวดล้อม 4) ชดุ ภาพเก่ียวกับสง่ิ แวดลอ้ ม 5) สอ่ื พาวเวอรพ์ อ้ ย เร่อื ง ความสำคัญของทรพั ยากรธรรมชาติ และสิง่ แวดล้อม 6) วีดทิ ัศน์ เรือ่ ง มนุษยก์ บั สิง่ แวดลอ้ ม 7) สื่อพาวเวอรพ์ อ้ ย เรอ่ื ง ปญั หาสงิ่ แวดลอ้ ม และทรัพยากรธรรมชาติ 8) ข่าวสงิ่ แวดล้อม 9) สือ่ พาวเวอร์พ้อย เรื่อง การใชท้ รพั ยากรธรรมชาตอิ ยา่ งยั่งยืน 8. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ วธิ กี าร เคร่อื งมือ เกณฑก์ ารผ่าน 1. ประเมินใบงาน/แบบบันทกึ กจิ กรรม แบบประเมนิ ใบงาน/แบบบนั ทึก ผ่านเกณฑร์ ะดบั พอใช้ขึน้ ไป 2. ประเมนิ ทักษะการทำงานเป็นกลมุ่ กจิ กรรม แบบประเมินทักษะการทำงานเป็นกลุ่ม ผ่านเกณฑร์ ะดบั พอใช้ขึ้นไป 3. ประเมนิ ทักษะความมงุ่ มั่นในการ แบบประเมนิ ความมุง่ ม่ันในการทำงาน ผา่ นเกณฑ์ระดบั พอใช้ขน้ึ ไป ทำงาน 4. ประเมินการสรปุ บทเรยี น แบบประเมินการสรปุ บทเรียน ผา่ นเกณฑร์ ะดบั พอใช้ขึน้ ไป

32 แบบประเมนิ ใบงาน/แบบบนั ทกึ กจิ กรรม ช่อื -สกุล ความถูกต้อง ความเรยี บร้อย ความตรงต่อเวลา รวม ของเนื้อหา ของผลงาน 9 คะแนน 332 121321 เกณฑ์การประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ ดี 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถึง พอใช้ พอใช้ 1 หมายถงึ ปรบั ปรงุ ปรบั ปรุง เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน 9-7 6-4 3-1 ลงช่อื .................................................................ผปู้ ระเมิน (นายเรวตั ร อยเู่ กิด) ........../…......./….......

33 เกณฑก์ ารประเมินใบงาน/แบบบันทกึ กิจกรรม โดยใชเ้ กณฑ์การประเมนิ แบบรูบริคส์ การประเมิน ระดบั คุณภาพ/คะแนน 1. ความถกู ต้องของ เน้อื หา ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1) ตอบคำถามในใบงานได้ 2. ความเรียบร้อยของ อยา่ งถูกต้อง ครบถ้วน ตอบคำถามในใบงานได้ ตอบคำถามในใบงานได้ ผลงาน สมบรู ณ์ อยา่ งถูกตอ้ งเป็นสว่ นมาก อย่างถกู ต้องบางสว่ น แต่ 3. ความตรงตอ่ เวลา มากกวา่ รอ้ ยละ 80 ไม่ครบถว้ น มากกว่ารอ้ ย ทำงานสะอาดเรยี บร้อย มคี วามสวยงาม ละ 50 ทำเสร็จครบถ้วน และสง่ ภายในเวลาท่ี ทำงานสะอาดเรยี บรอ้ ย ทำงานไมส่ ะอาด กำหนด เรียบรอ้ ย ทำเสร็จครบถ้วน แต่ส่ง ทำไมค่ รบถ้วน สง่ ลา่ ช้า ล่าชา้ กว่ากำหนด 1 - 2 กวา่ กำหนดมากกว่า 2 วัน วัน

34 แบบประเมินทกั ษะการทำงานเปน็ กล่มุ ชอ่ื -สกุล บทบาท การมสี ่วน ความ การรับฟงั ผลสำเร็จ รวม หนา้ ท่ี รว่ ม รับผดิ ชอบ ความ ของงาน 15 คะแนน คิดเหน็ 321321321321321 เกณฑ์การประเมิน ระดบั คณุ ภาพ ดี 3 หมายถึง ดี 2 หมายถงึ พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรับปรงุ ปรับปรุง เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน 11 - 15 6 - 10 1-5 ลงชื่อ.................................................................ผูป้ ระเมนิ (นายเรวตั ร อย่เู กดิ ) ........../…......./….......

35 เกณฑ์ประเมินทกั ษะการทำงานเปน็ กลุ่ม โดยใช้เกณฑ์การประเมินแบบรบู รคิ ส์ รายการประเมิน 3 คะแนน พฤติกรรมบง่ ชี้ 1 คะแนน 1. บทบาทหนา้ ท่ี 2 คะแนน ไมม่ กี ารกำหนดบทบาท 2. การมีสว่ นรว่ ม มีการกำหนดบทบาท หนา้ ท่ขี องสมาชกิ หนา้ ท่ีสมาชิกไวช้ ัดเจน มกี ารกำหนดบทบาท สมาชิกกลุม่ สว่ นใหญ่ไม่ 3. ความรบั ผิดชอบ หน้าทส่ี มาชิกไมค่ รบ มสี ว่ นรว่ มในการ สมาชิกกลมุ่ ทุกคนมสี ่วน สมาชกิ กลุ่มส่วนใหญ่มี ปฏิบตั งิ านหรือมนี อ้ ย 4. การรบั ฟงั ความ รว่ มในการปฏบิ ัติงาน ส่วนร่วมในการ สมาชกิ สว่ นใหญไ่ ม่ คิดเหน็ กล่มุ ปฏบิ ตั งิ าน ทำงานตามหนา้ ทที่ ีไ่ ดร้ ับ 5. ผลสำเร็จของงาน สมาชกิ ส่วนใหญท่ ำงาน มอบหมาย หลกี เล่ียง สมาชกิ ทกุ คนทำงาน ตามหน้าท่ีท่ไี ดร้ ับ งาน และงานเสรจ็ ชา้ ตามหนา้ ที่ทไ่ี ดร้ ับ มอบหมาย ไม่หลีกเลยี่ ง กวา่ กำหนด มอบหมาย ไมห่ ลีกเล่ยี ง งาน งานเสร็จทนั ตาม งาน งานเสรจ็ ทนั ตาม กำหนด สมาชกิ สว่ นใหญไ่ มร่ บั ฟัง กำหนด ความคิดเหน็ ของผูอ้ ื่น สมาชกิ สว่ นใหญร่ ับฟัง สมาชกิ ทกุ คนรบั ฟัง ความคิดเหน็ ของผอู้ ืน่ เกดิ จากความร่วมมอื ความคดิ เห็นของผู้อ่นื อย่างมีเหตุผล ของสมาชกิ สว่ นนอ้ ยใน อย่างมีเหตุผล เกิดจากความรว่ มมือ กลมุ่ ของสมาชกิ สว่ นใหญ่ใน เกิดจากความร่วมมือ กล่มุ ของสมาชกิ ทุกคนใน กลุ่ม

แบบประเมนิ ความม่งุ ม่นั ในการทำงาน 36 ชอื่ -สกลุ ความตง้ั ใจและ รู้จักแก้ปัญหาใน การปรับปรุงและ รวม เอาใจใส่ การทำงาน แก้ไขการทำงาน 9 คะแนน 332 121 321 เกณฑก์ ารประเมิน ระดบั คณุ ภาพ ดี 3 หมายถึง ดี 2 หมายถึง พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรบั ปรุง ปรับปรงุ เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน 9-7 6-4 3-1 ลงช่อื .................................................................ผปู้ ระเมนิ (นายเรวัตร อยู่เกิด) ........../…......./….......

37 เกณฑก์ ารประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ด้านความมุ่งมน่ั ในการทำงาน โดยใช้เกณฑ์การประเมนิ แบบรบู รคิ ส์ รายการประเมนิ พฤตกิ รรมบ่งช้ี 1. ความตง้ั ใจและเอา 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน ใจใสต่ อ่ ภาระงานที่ ขณะทำงานที่ไดร้ บั ได้รบั มอบหมาย โดยมี มอบหมาย นักเรียนไม่ ขณะทำงานที่ได้รับ ขณะทำงานท่ีได้รบั พฤติกรรมบง่ ชี้ ดงั น้ี แสดงพฤติกรรมบ่งชีท้ ้งั - เลน่ โทรศัพท์มือถือ 3 พฤติกรรม หรอื แสดง มอบหมาย นกั เรียนแสดง มอบหมาย นกั เรียน ระหวา่ งทำงาน พฤติกรรมบ่งชี้ 1 ใน 3 - นำงานในรายวชิ า พฤติกรรม พฤตกิ รรมบง่ ช้ี 2 ใน 3 แสดงพฤติกรรมบง่ ช้ีทั้ง อ่นื ขึ้นมาทำ - ฟบุ หลบั แก้ปญั หาได้ดว้ ยตัวเอง พฤติกรรม 3 พฤตกิ รรม 2. รู้จกั แก้ปญั หาใน ทัง้ หมด การทำงานเม่ือมี แก้ปัญหาดว้ ยตวั เอง แกป้ ญั หาด้วยตัวเองนอ้ ย อปุ สรรค มคี วามพยายามท่ีจะ 3. การปรบั ปรุงและ ปรบั ปรงุ แก้ไขการทำงาน มากกว่าร้อยละ 80 กว่าร้อยละ 80 ของ แก้ไขการทำงานของ ของตนใหม้ ผี ลงานที่ดี ตนใหด้ ีย่งิ ข้นึ และคณุ ภาพอยู่เสมอ ของงานทงั้ หมด งานทัง้ หมด มคี วามพยายามท่ีจะ มคี วามพยายามท่ีจะ ปรบั ปรงุ แกไ้ ขการทำงาน ปรบั ปรงุ แก้ไขการทำงาน ของตนให้มผี ลงานทด่ี ี ของตนใหม้ ผี ลงานที่ดี และคุณภาพ และคณุ ภาพเป็นบางครง้ั

38 แบบประเมนิ การสรุปบทเรียน ชอ่ื -สกุล การสรุป ความถกู ต้อง ความ ความถูกต้อง รวม ประเดน็ ของเน้อื หา ครบถ้วนของ ของการใช้คำ 12 คะแนน สำคญั 321 เนอ้ื หา และการ 321 สะกดคำ 321 321 เกณฑ์การประเมนิ ระดบั คุณภาพ ดี 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถึง พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรบั ปรงุ ปรบั ปรงุ เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน 9 - 12 8-5 4-1 ลงชอื่ .................................................................ผู้ประเมนิ (นายเรวัตร อยเู่ กิด) ........../…......./….......


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook