Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยการเรียนรู้รายวิชาชีววิทยา 5 (ว30255)

หน่วยการเรียนรู้รายวิชาชีววิทยา 5 (ว30255)

Published by Rawat Yukerd, 2021-08-01 19:06:57

Description: หน่วยการเรียนรู้รายวิชาชีววิทยา 5 (ว30255) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสรรพยาวิทยา จัดทำโดย นายเรวัตร อยู่เกิด

Search

Read the Text Version

ก สารบญั หน้า สารบัญ..............................................................................................................................................................1 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1 เรื่อง ระบบประสาทและอวยั วะรับความร้สู กึ ..................................................................1 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ .................................................................................................................1 2. ผลการเรยี นรู้ ...........................................................................................................................................1 3. สาระสำคญั ..............................................................................................................................................1 4. สมรรถนะของผ้เู รียน................................................................................................................................2 5. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์.......................................................................................................................2 6. ชิ้นงาน/ภาระงาน.....................................................................................................................................2 7. สอ่ื การเรียนรู้/แหลง่ เรยี นร.ู้ ......................................................................................................................3 8. การประเมนิ ผลการเรียนรู้........................................................................................................................3 หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2 เรอื่ ง การเคล่อื นทขี่ องสง่ิ มชี ีวติ ....................................................................................11 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ ..............................................................................................................11 2. ผลการเรียนรู้ ........................................................................................................................................11 3. สาระสำคัญ ...........................................................................................................................................11 4. สมรรถนะของผเู้ รียน.............................................................................................................................12 5. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์....................................................................................................................12 6. ชิ้นงาน/ภาระงาน..................................................................................................................................12 7. สอื่ การเรียนร้/ู แหลง่ เรียนร.ู้ ...................................................................................................................12 8. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้.....................................................................................................................12 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 เรอื่ ง การสบื พันธ์ุและการเจริญเตบิ โตของสัตว์............................................................20 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ ..............................................................................................................20 2. ผลการเรียนรู้ ........................................................................................................................................20 3. สาระสำคญั ...........................................................................................................................................20 4. สมรรถนะของผู้เรยี น.............................................................................................................................21 5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์....................................................................................................................21 6. ช้ินงาน/ภาระงาน..................................................................................................................................21 7. สอ่ื การเรยี นร/ู้ แหล่งเรยี นร.ู้ ...................................................................................................................21 8. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้.....................................................................................................................22

ข หน้า หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 เร่อื ง ระบบตอ่ มไร้ท่อ และพฤตกิ รรม ..........................................................................30 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ ..............................................................................................................30 2. ผลการเรยี นรู้ ........................................................................................................................................30 3. สาระสำคญั ...........................................................................................................................................30 4. สมรรถนะของผเู้ รียน.............................................................................................................................31 5. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์....................................................................................................................31 6. ชน้ิ งาน/ภาระงาน..................................................................................................................................31 7. สือ่ การเรียนรู้/แหล่งเรียนร.ู้ ...................................................................................................................31 8. การประเมินผลการเรียนรู้.....................................................................................................................32

1 หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 1 เรอ่ื ง ระบบประสาทและอวยั วะรับความรู้สกึ รหสั วชิ า ว30255 ชีววิทยา 5 กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี เวลาเรยี น 500 นาที (10 คาบ) ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 6 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระชวี วทิ ยา ข้อที่ 4 เข้าใจการย่อยอาหารของสัตว์ และมนุษย์ การหายใจ และการแลกเปลี่ยนแก๊ส การลำเลียงสาร และการ หมนุ เวียนเลือด ภูมิค้มุ กนั ของรา่ งกาย การขัยถา่ ย การรบั รู้ และการตอบสนอง การเคลื่อนที่ การสืบพนั ธ์ุ และ การเจรญิ เติบโต ฮอรโ์ มน การรักษาดลุ ยภาพ และพฤติกรรมของสัตว์ รวมทัง้ นำความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์ 2. ผลการเรียนรู้ ม. 6/1 สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทียบโครงสร้าง และหน้าที่ของระบบประสาทของไฮดรา พลานาเรยี ไส้เดอื นดิน กุ้ง หอย แมลง และสัตวม์ กี ระดูกสนั หลงั ม. 6/2 อธิบายเก่ยี วกบั โครงสรา้ ง และหน้าทข่ี องเซลลป์ ระสาท ม. 6/3 อธิบายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของศักย์ไฟฟ้าที่เยื่อหุ้มเซลล์ของเซลล์ประสาท และกลไกการ ถา่ ยทอดของกระแสประสาท ม. 6/4 อธิบาย และสรปุ เกย่ี วกับโครงสรา้ งของระบบประสาทส่วนกลางและระบบประสาทรอบนอก ม. 6/5 สบื คน้ ขอ้ มลู อธิบายโครงสรา้ ง และหน้าที่ของสว่ นต่าง ๆ ในสมองสว่ นหนา้ สมองส่วนกลาง สมอง สว่ นหลงั และไขสนั หลัง ม.6/6 สืบค้นข้อมูล อธิบาย เปรียบเทียบ และยกตัวอย่างการทำงานของระบบประสาทโซมาติก และ ระบบประสาทอัตโนวตั ิ ม.6/7 สบื คน้ ขอ้ มูล อธบิ ายโครงสรา้ ง และหน้าทข่ี องตา หู จมูก ล้ิน และผิวหนังของมนษุ ย์ ยกตวั อยา่ งโรค ต่าง ๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง และบอกแนวทางในการดแู ลป้องกนั และรักษา ม.6/8 สงั เกต และอธิบายการหาตำแหนง่ ของจดุ บอดโฟเวยี และความไวของการรับสมั ผสั ของผวิ หนัง 3. สาระสำคัญ สัตว์รับรู้และตอบสนองต่อสิ่งเร้าได้เพราะมีระบบประสาท การตอบสนองต่อสิ่งเร้าของสัตว์แต่ละกลุ่ม ขึ้นอยู่กบั การพัฒนาของระบบประสาท เช่น สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังบางชนิดมีร่างแหประสาท บางชนิดมีปม ประสาทและเส้นประสาทขนาดใหญ่ ขณะที่สัตว์มีกระดูกสันหลังและมนุษย์มีสมอง ไขสันหลัง เส้นประสาท และปมประสาท โครงสรา้ งของระบบประสาทประกอบดว้ ยเนื้อเย่ือประสาท โดยมเี ซลลป์ ระสาทเป็นหนว่ ยการทำงาน และ มีเซลล์เกลียทำหน้าที่ค้ำจุนและสนับสนุนการทำงานของเซลล์ประสาท เซลล์ประสาท ประกอบด้วยตัวเซลล์ และเส้นใยประสาทที่แบ่งได้ 2 ชนิด คือ เดนไดรต์ และแอกซอน โดยแอกซอนอาจมีหรือไม่มีเยื่อไมอีลินหุ้ม เซลลป์ ระสาทยงั จำแนกได้ตามจำนวนเสน้ ใยประสาท หรอื หน้าที่ของเซลลป์ ระสาท

2 ในภาวะปกติทีเ่ ซลล์ประสาทยังไม่ถูกสิ่งเร้ากระตุ้นจะมีศักย์ไฟฟ้าเย่ือเซลล์ในระยะพักซึง่ ค่าศักยไ์ ฟฟ้าเยอ่ื เซลล์ภายในเซลล์จะต่ำกว่าภายนอกเซลล์ โดยการทำงานของโซเดียมโพแทสเซียมปั๊มและช่องไอออนท่ีไม่มี ประตู เมอื่ เซลล์ประสาทถกู กระต้นุ ถงึ ระดบั เทรสโฮลดจ์ ะเกิดกระแสประสาทหรือแอกชันโพเทนเชียลโดยเกิดการ เปลี่ยนแปลงศักย์ไฟฟ้าเยื่อเซลล์บริเวณแอกซอน มีการเคลื่อนที่เข้าและออกของไอออนบางชนิดผ่านช่อง ไอออนที่มีประตูทำให้ศักย์ไฟฟ้าเยอื่ เซลล์ภายในเซลล์สงู กว่าภายนอกเซลล์ และลดตำ่ ลงอย่างรวดเร็วจนเข้าสู่ ระยะพกั กระแสประสาทจะเกดิ ขน้ึ ตอ่ เนอ่ื งไปเรือ่ ย ๆ จนถงึ ปลายแอกซอนแอกซอนที่มเี ยอื่ ไมอลี ินหุม้ จะมกี าร นำกระแสประสาทได้เร็วกว่าที่ไม่มีเยื่อไมอีลินหุ้ม กระแสประสาทสามารถถ่ายทอดไปยังเซลล์ประสาทหรือ เซลลอ์ นื่ ๆ ไดโ้ ดยผา่ นไซแนปส์ ศูนย์ควบคุมระบบประสาทในสัตว์มีกระดูกสันหลังและมนุษย์เกิดจากการทำงานของระบบประสาท ส่วนกลางและระบบประสาทรอบนอก ระบบประสาทส่วนกลาง ได้แก่ สมองและไขสันหลังในมนุษย์สมองมี การพัฒนาโดยแบ่งเป็นส่วน ๆ แต่ละส่วนแม้จะมีหน้าที่ต่างกันแต่ทำงานสัมพันธ์กันส่วนไขสันหลังทำหน้าท่ี ประมวลผลการตอบสนองต่าง ๆ เช่น การเกิดรีเฟล็กซ์ และการถา่ ยทอดกระแสประสาทระหว่างไขสันหลังกับ สมอง ทั้งสมองและไขสันหลังจะมีเส้นประสาทสมองและเส้นประสาทไขสันหลังเชื่อมโยงระหว่างหน่วยรับ ความรู้สึกกับหน่วยปฏิบัติงาน ส่วนระบบประสาทรอบนอกแบ่งได้เป็นระบบประสาทโซมาติกควบคุมหน่วย ปฏบิ ัตงิ านที่บงั คับได้และระบบประสาทอตั โนวตั ิควบคุมหน่วยปฏบิ ตั งิ านท่บี ังคบั ไม่ได้ อวัยวะรับความรู้สึกของมนุษย์ ได้แก่ ตา หู จมูก ลิ้น และผิวหนัง มีหน่วยรับความรู้สึก เมื่อมีสิ่งเร้ามา กระตุน้ จะส่งกระแสประสาทไปยังระบบประสาทส่วนกลางเพอื่ ประมวลผลและแปลความหมายเป็นการรับรู้ต่อ ส่ิงเรา้ ทำให้เกดิ การตอบสนองไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 4. สมรรถนะของผู้เรียน 1) ความสามารถในการในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการคิด 3) ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1) ทกั ษะกระบวนการทำงานเป็นกลมุ่ 2) ทกั ษะความม่งุ มน่ั ในการทำงาน 6. ชนิ้ งาน/ภาระงาน 1) ใบงาน เร่อื ง ระบบประสาท 2) ใบงาน เรอื่ ง ประเภทของเซลล์ประสาท และการเกิดกระแสประสาท 3) ใบงาน เรอ่ื ง การถ่ายทอดกระแสประสาทระหวา่ งเซลลป์ ระสาท และศนู ยค์ วบคุมระบบประสาท 4) ใบงาน เรื่อง การทำงานของระบบประสาท

3 7. สื่อการเรยี นรู้/แหลง่ เรยี นรู้ 1) สอื่ พาวเวอร์พ้อย เรือ่ ง ระบบประสาท 2) สื่อพาวเวอร์พอ้ ย เรอื่ ง เซลล์ประสาท และการเกิดกระแสประสาท 3) ส่ือพาวเวอรพ์ ้อย เรอ่ื ง การถ่ายทอดกระแสประสาทระหวา่ งเซลล์ประสาท และศูนย์ควบคมุ ระบบ ประสาท 4) สื่อพาวเวอรพ์ อ้ ย เร่ือง การทำงานของระบบประสาท 8. การประเมินผลการเรียนรู้ วธิ กี าร เครอ่ื งมอื เกณฑ์การผา่ น 1. ประเมนิ ใบงาน/แบบบนั ทึกกจิ กรรม แบบประเมนิ ใบงาน/แบบบนั ทึก ผา่ นเกณฑร์ ะดบั พอใช้ข้นึ ไป 2. ประเมนิ ทักษะการทำงานเปน็ กลมุ่ กจิ กรรม แบบประเมนิ ทักษะการทำงานเปน็ กล่มุ ผา่ นเกณฑ์ระดบั พอใช้ขึ้นไป 3. ประเมนิ ทกั ษะความมุ่งม่ันในการ แบบประเมนิ ความมุ่งมั่นในการทำงาน ผ่านเกณฑร์ ะดับพอใช้ข้นึ ไป ทำงาน 4. ประเมินการสรุปบทเรียน แบบประเมินการสรปุ บทเรียน ผา่ นเกณฑ์ระดับพอใช้ข้นึ ไป

แบบประเมนิ ใบงาน/แบบบนั ทึกกิจกรรม 4 ชอื่ -สกลุ ความถกู ตอ้ ง ความเรียบร้อย ความตรงต่อเวลา รวม ของเนอื้ หา ของผลงาน 9 คะแนน 332 121321 เกณฑ์การประเมิน ระดับคุณภาพ ดี 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถงึ พอใช้ พอใช้ 1 หมายถงึ ปรบั ปรุง ปรบั ปรงุ เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ ชว่ งคะแนน 9-7 6-4 3-1 ลงช่อื .................................................................ผปู้ ระเมิน (นายเรวัตร อย่เู กดิ ) ........../…......./….......

5 เกณฑ์การประเมนิ ใบงาน/แบบบันทกึ กิจกรรม โดยใชเ้ กณฑก์ ารประเมนิ แบบรูบริคส์ การประเมิน ระดบั คุณภาพ/คะแนน 1. ความถูกตอ้ งของ เนอ้ื หา ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1) ตอบคำถามในใบงานได้ 2. ความเรียบรอ้ ยของ อยา่ งถูกต้อง ครบถว้ น ตอบคำถามในใบงานได้ ตอบคำถามในใบงานได้ ผลงาน สมบูรณ์ อย่างถูกต้องเปน็ ส่วนมาก อย่างถูกต้องบางส่วน แต่ 3. ความตรงต่อเวลา มากกวา่ รอ้ ยละ 80 ไม่ครบถว้ น มากกว่ารอ้ ย ทำงานสะอาดเรียบร้อย มคี วามสวยงาม ละ 50 ทำเสร็จครบถว้ น และส่งภายในเวลาที่ ทำงานสะอาดเรียบร้อย ทำงานไมส่ ะอาด กำหนด เรียบรอ้ ย ทำเสร็จครบถว้ น แต่ส่ง ทำไมค่ รบถว้ น ส่งล่าช้า ลา่ ชา้ กวา่ กำหนด 1 - 2 กวา่ กำหนดมากกว่า 2 วนั วัน

6 แบบประเมนิ ทกั ษะการทำงานเปน็ กลุ่ม ชอ่ื -สกลุ บทบาท การมีส่วน ความ การรบั ฟัง ผลสำเร็จ รวม หนา้ ที่ รว่ ม รบั ผิดชอบ ความ ของงาน 15 คะแนน คดิ เหน็ 321321321321321 เกณฑ์การประเมิน ระดับคณุ ภาพ ดี 3 หมายถึง ดี 2 หมายถงึ พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรับปรุง ปรับปรุง เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน 11 - 15 6 - 10 1-5 ลงชอ่ื .................................................................ผูป้ ระเมนิ (นายเรวตั ร อยเู่ กิด) ........../…......./….......

7 เกณฑป์ ระเมินทกั ษะการทำงานเป็นกลุ่ม โดยใช้เกณฑก์ ารประเมนิ แบบรูบรคิ ส์ รายการประเมิน 3 คะแนน พฤติกรรมบ่งชี้ 1 คะแนน 1. บทบาทหน้าท่ี 2 คะแนน ไม่มีการกำหนดบทบาท 2. การมีส่วนรว่ ม มกี ารกำหนดบทบาท หน้าทีข่ องสมาชกิ หน้าที่สมาชิกไว้ชดั เจน มีการกำหนดบทบาท สมาชกิ กลมุ่ สว่ นใหญไ่ ม่ 3. ความรับผดิ ชอบ หน้าท่สี มาชิกไม่ครบ มีสว่ นรว่ มในการ สมาชกิ กลมุ่ ทุกคนมีส่วน สมาชิกกลมุ่ สว่ นใหญม่ ี ปฏบิ ตั งิ านหรือมีน้อย 4. การรบั ฟังความ ร่วมในการปฏบิ ตั ิงาน สว่ นรว่ มในการ สมาชิกสว่ นใหญไ่ ม่ คิดเหน็ กลุ่ม ปฏิบตั ิงาน ทำงานตามหนา้ ทท่ี ่ไี ด้รับ 5. ผลสำเรจ็ ของงาน สมาชกิ สว่ นใหญ่ทำงาน มอบหมาย หลกี เลยี่ ง สมาชิกทกุ คนทำงาน ตามหนา้ ท่ีทไี่ ดร้ บั งาน และงานเสร็จชา้ ตามหน้าที่ที่ไดร้ ับ มอบหมาย ไม่หลีกเลี่ยง กวา่ กำหนด มอบหมาย ไม่หลกี เล่ยี ง งาน งานเสรจ็ ทันตาม งาน งานเสรจ็ ทันตาม กำหนด สมาชิกส่วนใหญไ่ มร่ บั ฟงั กำหนด ความคดิ เห็นของผูอ้ ่ืน สมาชกิ สว่ นใหญ่รับฟงั สมาชิกทุกคนรบั ฟัง ความคดิ เหน็ ของผูอ้ ืน่ เกิดจากความร่วมมอื ความคิดเห็นของผู้อนื่ อยา่ งมีเหตุผล ของสมาชกิ ส่วนน้อยใน อยา่ งมีเหตุผล เกดิ จากความรว่ มมอื กลุ่ม ของสมาชิกส่วนใหญใ่ น เกดิ จากความรว่ มมือ กลุม่ ของสมาชกิ ทกุ คนใน กลุ่ม

แบบประเมนิ ความมุ่งมั่นในการทำงาน 8 ชอื่ -สกลุ ความตัง้ ใจและ รู้จักแก้ปญั หาใน การปรบั ปรุงและ รวม เอาใจใส่ การทำงาน แก้ไขการทำงาน 9 คะแนน 332 121 321 เกณฑก์ ารประเมนิ ระดบั คุณภาพ ดี 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถงึ พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรบั ปรุง ปรบั ปรงุ เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน 9-7 6-4 3-1 ลงช่ือ.................................................................ผู้ประเมนิ (นายเรวตั ร อยู่เกิด) ........../…......./….......

9 เกณฑก์ ารประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ด้านความมงุ่ ม่นั ในการทำงาน โดยใชเ้ กณฑ์การประเมนิ แบบรูบรคิ ส์ รายการประเมิน พฤติกรรมบง่ ช้ี 1. ความตงั้ ใจและเอา 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน ใจใสต่ อ่ ภาระงานที่ ขณะทำงานที่ไดร้ ับ ได้รับมอบหมาย โดยมี มอบหมาย นกั เรยี นไม่ ขณะทำงานทไ่ี ด้รับ ขณะทำงานท่ีไดร้ บั พฤตกิ รรมบ่งชี้ ดังน้ี แสดงพฤติกรรมบง่ ชที้ งั้ - เลน่ โทรศัพท์มอื ถือ 3 พฤติกรรม หรอื แสดง มอบหมาย นกั เรียนแสดง มอบหมาย นกั เรยี น ระหวา่ งทำงาน พฤตกิ รรมบ่งชี้ 1 ใน 3 - นำงานในรายวิชา พฤตกิ รรม พฤตกิ รรมบง่ ช้ี 2 ใน 3 แสดงพฤติกรรมบง่ ช้ที ั้ง อนื่ ข้ึนมาทำ - ฟบุ หลับ แกป้ ัญหาได้ดว้ ยตัวเอง พฤติกรรม 3 พฤตกิ รรม 2. รจู้ กั แก้ปัญหาใน ทงั้ หมด การทำงานเมอ่ื มี แก้ปญั หาดว้ ยตวั เอง แกป้ ญั หาดว้ ยตัวเองน้อย อปุ สรรค มีความพยายามที่จะ 3. การปรับปรุงและ ปรับปรุงแก้ไขการทำงาน มากกวา่ รอ้ ยละ 80 กวา่ รอ้ ยละ 80 ของ แก้ไขการทำงานของ ของตนให้มผี ลงานทดี่ ี ตนใหด้ ีย่งิ ขน้ึ และคุณภาพอยู่เสมอ ของงานท้งั หมด งานทั้งหมด มีความพยายามท่ีจะ มีความพยายามท่ีจะ ปรับปรงุ แกไ้ ขการทำงาน ปรบั ปรงุ แก้ไขการทำงาน ของตนใหม้ ผี ลงานทด่ี ี ของตนใหม้ ผี ลงานทดี่ ี และคณุ ภาพ และคุณภาพเปน็ บางครงั้

10 แบบประเมนิ การสรุปบทเรียน ชอ่ื -สกุล การสรุป ความถกู ต้อง ความ ความถูกต้อง รวม ประเดน็ ของเน้อื หา ครบถ้วนของ ของการใช้คำ 12 คะแนน สำคญั 321 เนอ้ื หา และการ 321 สะกดคำ 321 321 เกณฑ์การประเมนิ ระดบั คุณภาพ ดี 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถึง พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรบั ปรงุ ปรบั ปรงุ เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน 9 - 12 8-5 4-1 ลงชอื่ .................................................................ผู้ประเมนิ (นายเรวัตร อยเู่ กิด) ........../…......./….......

11 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 2 เร่ือง การเคลอื่ นทีข่ องส่ิงมีชีวิต รหสั วิชา ว30255 ชวี วิทยา 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เวลาเรียน 300 นาที (6 คาบ) ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 6 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระชวี วทิ ยา ขอ้ ที่ 4 เข้าใจการย่อยอาหารของสัตว์ และมนุษย์ การหายใจ และการแลกเปลี่ยนแก๊ส การลำเลียงสาร และการ หมนุ เวียนเลือด ภมู คิ ุ้มกนั ของร่างกาย การขยั ถา่ ย การรบั รู้ และการตอบสนอง การเคลือ่ นท่ี การสบื พนั ธ์ุ และ การเจริญเตบิ โต ฮอรโ์ มน การรกั ษาดุลยภาพ และพฤติกรรมของสัตว์ รวมทง้ั นำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ 2. ผลการเรยี นรู้ ม. 6/9 สบื คน้ ข้อมลู อธิบาย และเปรยี บเทียบโครงสรา้ ง และหน้าท่ขี องอวยั วะท่ีเก่ียวข้องกับการเคลอื่ นที่ ของแมงกะพรนุ หมกึ ดาวทะเล ไส้เดอื นดนิ แมลง ปลา และนก ม. 6/10 สืบค้นข้อมูล และอธิบายโครงสร้างและหน้าที่ของกระดูก และกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการ เคล่อื นไหว และเคล่ือนทีข่ องมนุษย์ ม. 6/11 สังเกต และอธิบายการทำงานของข้อต่อชนิดต่าง ๆ และการทำงานของกล้ามเนื้อโครงร่างท่ี เกีย่ วข้องกบั การเคลือ่ นไหว และการเคลือ่ นทขี่ องมนษุ ย์ 3. สาระสำคญั สิ่งมีชีวิตมีโครงร่างช่วยค้ำจุนร่างกายให้คงรูปและช่วยในการเคลื่อนที่ สิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวบางชนิดมี ไซโทสเกเลตอนช่วยในการเคลื่อนที่ เช่น การไหลของไซโทพลาซึมเป็นเท้าเทียมของอะมีบา การพัดโบก แฟลเจลลัมของยูกลีนา การพัดโบกซิเลียของพารามีเซียม ส่วนสิ่งมีชีวิตหลายเซลล์ที่ไม่มกี ระดูกสันหลังบาง ชนิดมีไฮโดรสเตติกสเกเลตอนช่วยในการเคลื่อนที่ เช่น แมงกะพรุนอาศัยการหดตัวของเนื้อเยื่อขอบกระดิง่ และแรงดันน้ำ หมึกใช้กล้ามเนื้อบริเวณลำตัวและแรงดันน้ำ ดาวทะเลเคลื่อนท่ีโดยอาศัยแรงดันน้ำและระบบ ท่อน้ำภายในร่างกาย ไส้เดือนดินใช้เดือยและการทำงานของกล้ามเนื้อผนังลำตัวสองชุดทำงานในสภาวะ ตรงกันข้าม แมลงเคลื่อนที่โดยอาศัยกล้ามเนื้อยึดติดกับโครงร่างแข็งภายนอก กล้ามเนื้อสองชุดทำงานใน สภาวะตรงกันข้ามทั้งที่ขาและที่ปีก สัตว์มีกระดูกสันหลังทุกชนิดมีโครงร่างแข็งภายในช่วยในการเคลื่อนท่ี ร่วมกับการทำงานของกล้ามเน้ือ 2 ชดุ ทำงานแบบสภาวะตรงกนั ข้าม เชน่ ปลาอาศัยครีบและกล้ามเนื้อท่ียึด ตดิ กระดกู สนั หลงั ท้งั สองขา้ ง นกเคล่ือนที่โดยอาศัยการทำงานของกล้ามเนือ้ 2 ชดุ ทยี่ ดึ ระหว่างกระดกู โคนปกี และกระดกู อก มนุษย์เคลื่อนที่โดยอาศัยการทำงานของโครงกระดูกและกล้ามเนื้อ โดยทำงานร่วมกับระบบประสาท เช่นเดียวกับสตั ว์มีกระดกู สันหลงั ชนิดอื่น กระดูกบริเวณข้อต่อเชอื่ มต่อกนั ดว้ ยเอ็นยึดขอ้ กล้ามเนื้อโครงร่างยึด ติดกับกระดูก การที่กล้ามเนื้อ 2 ชุดทำงานร่วมกันในสภาวะตรงกันข้ามทำให้เกดิ การเคลื่อนไหว การหดตัว ของกล้ามเน้อื โครงรา่ งเกดิ จากการเลื่อนของแอกทินเขา้ หากนั ตรงกลาง ซึ่งตอ้ งอาศัย ATP และแคลเซียม

12 4. สมรรถนะของผเู้ รียน 1) ความสามารถในการในการสอื่ สาร 2) ความสามารถในการคิด 3) ความสามารถในการแก้ปญั หา 4) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1) ทักษะกระบวนการทำงานเปน็ กล่มุ 2) ทักษะความมุ่งมัน่ ในการทำงาน 6. ช้นิ งาน/ภาระงาน 1) ใบงาน เรอ่ื ง การเคล่อื นทข่ี องสัตว์ 2) ใบงาน เรอ่ื ง ระบบโครงกระดูกและข้อตอ่ ของมนษุ ย์ 3) ใบงาน เรือ่ ง ระบบกลา้ มเนื้อ 4) ใบงาน เรอื่ ง การทำงานของระบบกล้ามเน้ือ 7. ส่ือการเรยี นรู้/แหล่งเรียนรู้ 1) บัตรคำระบุชื่อกระดกู และข้อต่อของมนุษย์ 2) รูปภาพขอ้ ต่อของมนษุ ย์ 3) รูปภาพโครงกระดูกของมนุษย์ 4) สือ่ พาวเวอรพ์ อ้ ย เรือ่ ง การเคลอ่ื นทีข่ องส่ิงมีชีวติ 5) ส่ือพาวเวอร์พ้อย เร่ือง ระบบโครงกระดกู และขอ้ ตอ่ 6) บัตรคำระบชุ ่อื ประเภทของกล้ามเน้อื 7) รูปภาพการจดั เรียงตวั ของระบบกล้ามเนอ้ื 8) วีดทิ ัศน์ เร่อื ง Muscular System, Sliding Filament Theory 9) สอื่ พาวเวอรพ์ อ้ ย เรื่อง ระบบกลา้ มเนือ้ 10) วดี ทิ ศั น์ เรอื่ ง Muscle Contraction Part 3 The Cross Bridge Cycle 8. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ วธิ กี าร เครื่องมอื เกณฑก์ ารผา่ น 1. ประเมนิ ใบงาน/แบบบันทึกกจิ กรรม แบบประเมินใบงาน/แบบบนั ทึก ผ่านเกณฑร์ ะดับพอใช้ขน้ึ ไป 2. ประเมนิ ทกั ษะการทำงานเปน็ กล่มุ กิจกรรม แบบประเมนิ ทักษะการทำงานเป็นกลุ่ม ผ่านเกณฑร์ ะดบั พอใช้ขึ้นไป 3. ประเมินทกั ษะความมุ่งมัน่ ในการ แบบประเมนิ ความมุ่งมน่ั ในการทำงาน ผ่านเกณฑ์ระดบั พอใช้ขนึ้ ไป ทำงาน 4. ประเมนิ การสรุปบทเรียน แบบประเมนิ การสรุปบทเรียน ผ่านเกณฑ์ระดับพอใช้ขึ้นไป

แบบประเมนิ ใบงาน/แบบบนั ทกึ กจิ กรรม 13 ช่อื -สกุล ความถูกต้อง ความเรยี บร้อย ความตรงต่อเวลา รวม ของเนื้อหา ของผลงาน 9 คะแนน 332 121321 เกณฑ์การประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ ดี 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถึง พอใช้ พอใช้ 1 หมายถงึ ปรบั ปรงุ ปรบั ปรุง เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน 9-7 6-4 3-1 ลงช่อื .................................................................ผปู้ ระเมิน (นายเรวตั ร อยเู่ กิด) ........../…......./….......

14 เกณฑก์ ารประเมินใบงาน/แบบบันทกึ กิจกรรม โดยใชเ้ กณฑ์การประเมนิ แบบรูบริคส์ การประเมิน ระดบั คุณภาพ/คะแนน 1. ความถกู ต้องของ เน้อื หา ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1) ตอบคำถามในใบงานได้ 2. ความเรียบร้อยของ อยา่ งถูกต้อง ครบถ้วน ตอบคำถามในใบงานได้ ตอบคำถามในใบงานได้ ผลงาน สมบรู ณ์ อยา่ งถูกตอ้ งเป็นสว่ นมาก อย่างถกู ต้องบางสว่ น แต่ 3. ความตรงตอ่ เวลา มากกวา่ รอ้ ยละ 80 ไม่ครบถว้ น มากกว่ารอ้ ย ทำงานสะอาดเรยี บร้อย มคี วามสวยงาม ละ 50 ทำเสร็จครบถ้วน และสง่ ภายในเวลาท่ี ทำงานสะอาดเรยี บรอ้ ย ทำงานไมส่ ะอาด กำหนด เรียบรอ้ ย ทำเสร็จครบถ้วน แต่ส่ง ทำไมค่ รบถ้วน สง่ ลา่ ช้า ล่าชา้ กว่ากำหนด 1 - 2 กวา่ กำหนดมากกว่า 2 วัน วัน

15 แบบประเมินทกั ษะการทำงานเปน็ กล่มุ ชอ่ื -สกุล บทบาท การมสี ่วน ความ การรับฟงั ผลสำเร็จ รวม หนา้ ท่ี รว่ ม รับผดิ ชอบ ความ ของงาน 15 คะแนน คิดเหน็ 321321321321321 เกณฑ์การประเมิน ระดบั คณุ ภาพ ดี 3 หมายถึง ดี 2 หมายถงึ พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรับปรงุ ปรับปรุง เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน 11 - 15 6 - 10 1-5 ลงชื่อ.................................................................ผูป้ ระเมนิ (นายเรวตั ร อย่เู กดิ ) ........../…......./….......

16 เกณฑ์ประเมินทกั ษะการทำงานเปน็ กลุ่ม โดยใช้เกณฑ์การประเมินแบบรบู รคิ ส์ รายการประเมิน 3 คะแนน พฤติกรรมบง่ ชี้ 1 คะแนน 1. บทบาทหนา้ ท่ี 2 คะแนน ไมม่ กี ารกำหนดบทบาท 2. การมีสว่ นรว่ ม มีการกำหนดบทบาท หนา้ ท่ขี องสมาชกิ หนา้ ท่ีสมาชิกไวช้ ัดเจน มกี ารกำหนดบทบาท สมาชิกกลุม่ สว่ นใหญ่ไม่ 3. ความรบั ผิดชอบ หน้าทส่ี มาชิกไมค่ รบ มสี ว่ นรว่ มในการ สมาชิกกลมุ่ ทุกคนมสี ่วน สมาชกิ กลุ่มส่วนใหญ่มี ปฏิบตั งิ านหรือมนี อ้ ย 4. การรบั ฟงั ความ รว่ มในการปฏบิ ัติงาน ส่วนร่วมในการ สมาชกิ สว่ นใหญไ่ ม่ คิดเหน็ กล่มุ ปฏบิ ตั งิ าน ทำงานตามหนา้ ทที่ ีไ่ ดร้ ับ 5. ผลสำเร็จของงาน สมาชกิ ส่วนใหญท่ ำงาน มอบหมาย หลกี เล่ียง สมาชกิ ทกุ คนทำงาน ตามหน้าท่ีท่ไี ดร้ ับ งาน และงานเสรจ็ ชา้ ตามหนา้ ที่ทไ่ี ดร้ ับ มอบหมาย ไม่หลีกเลยี่ ง กวา่ กำหนด มอบหมาย ไมห่ ลีกเล่ยี ง งาน งานเสร็จทนั ตาม งาน งานเสรจ็ ทนั ตาม กำหนด สมาชกิ สว่ นใหญไ่ มร่ บั ฟัง กำหนด ความคิดเหน็ ของผูอ้ ื่น สมาชกิ สว่ นใหญร่ ับฟัง สมาชกิ ทกุ คนรบั ฟัง ความคิดเหน็ ของผอู้ ืน่ เกดิ จากความร่วมมอื ความคดิ เห็นของผู้อ่นื อย่างมีเหตุผล ของสมาชกิ สว่ นนอ้ ยใน อย่างมีเหตุผล เกิดจากความรว่ มมือ กลมุ่ ของสมาชกิ สว่ นใหญ่ใน เกิดจากความร่วมมือ กล่มุ ของสมาชกิ ทุกคนใน กลุ่ม

แบบประเมนิ ความม่งุ ม่นั ในการทำงาน 17 ชอื่ -สกลุ ความตง้ั ใจและ รู้จักแก้ปัญหาใน การปรับปรุงและ รวม เอาใจใส่ การทำงาน แก้ไขการทำงาน 9 คะแนน 332 121 321 เกณฑก์ ารประเมิน ระดบั คณุ ภาพ ดี 3 หมายถึง ดี 2 หมายถึง พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรบั ปรุง ปรับปรงุ เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน 9-7 6-4 3-1 ลงช่อื .................................................................ผปู้ ระเมนิ (นายเรวัตร อยู่เกิด) ........../…......./….......

18 เกณฑก์ ารประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ด้านความมุ่งมน่ั ในการทำงาน โดยใช้เกณฑ์การประเมนิ แบบรบู รคิ ส์ รายการประเมนิ พฤตกิ รรมบ่งช้ี 1. ความตง้ั ใจและเอา 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน ใจใสต่ อ่ ภาระงานที่ ขณะทำงานที่ไดร้ บั ได้รบั มอบหมาย โดยมี มอบหมาย นักเรียนไม่ ขณะทำงานที่ได้รับ ขณะทำงานท่ีได้รบั พฤติกรรมบง่ ชี้ ดงั น้ี แสดงพฤติกรรมบ่งชีท้ ้งั - เลน่ โทรศัพท์มือถือ 3 พฤติกรรม หรอื แสดง มอบหมาย นกั เรียนแสดง มอบหมาย นกั เรียน ระหวา่ งทำงาน พฤติกรรมบ่งชี้ 1 ใน 3 - นำงานในรายวชิ า พฤติกรรม พฤตกิ รรมบง่ ช้ี 2 ใน 3 แสดงพฤติกรรมบง่ ช้ีทั้ง อ่นื ขึ้นมาทำ - ฟบุ หลบั แก้ปญั หาได้ดว้ ยตัวเอง พฤติกรรม 3 พฤตกิ รรม 2. รู้จกั แก้ปญั หาใน ทัง้ หมด การทำงานเม่ือมี แก้ปัญหาดว้ ยตวั เอง แกป้ ญั หาด้วยตัวเองนอ้ ย อปุ สรรค มคี วามพยายามท่ีจะ 3. การปรบั ปรุงและ ปรบั ปรงุ แก้ไขการทำงาน มากกว่าร้อยละ 80 กว่าร้อยละ 80 ของ แก้ไขการทำงานของ ของตนใหม้ ผี ลงานที่ดี ตนใหด้ ีย่งิ ข้นึ และคณุ ภาพอยู่เสมอ ของงานทงั้ หมด งานทัง้ หมด มคี วามพยายามท่ีจะ มคี วามพยายามท่ีจะ ปรบั ปรงุ แกไ้ ขการทำงาน ปรบั ปรงุ แก้ไขการทำงาน ของตนให้มผี ลงานทด่ี ี ของตนใหม้ ผี ลงานที่ดี และคุณภาพ และคณุ ภาพเป็นบางครง้ั

19 แบบประเมนิ การสรุปบทเรียน ชอ่ื -สกุล การสรุป ความถกู ต้อง ความ ความถูกต้อง รวม ประเดน็ ของเน้อื หา ครบถ้วนของ ของการใช้คำ 12 คะแนน สำคญั 321 เนอ้ื หา และการ 321 สะกดคำ 321 321 เกณฑ์การประเมนิ ระดบั คุณภาพ ดี 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถึง พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรบั ปรงุ ปรบั ปรงุ เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน 9 - 12 8-5 4-1 ลงชอื่ .................................................................ผู้ประเมนิ (นายเรวัตร อยเู่ กิด) ........../…......./….......

20 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 3 เรือ่ ง การสืบพนั ธแ์ุ ละการเจรญิ เติบโตของสัตว์ รหัสวิชา ว30255 ชวี วิทยา 5 กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เวลาเรยี น 500 นาที (10 คาบ) ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 6 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระชีววิทยา ข้อที่ 4 เข้าใจการย่อยอาหารของสัตว์ และมนุษย์ การหายใจ และการแลกเปลี่ยนแก๊ส การลำเลียงสาร และการ หมุนเวยี นเลือด ภูมิคุ้มกันของร่างกาย การขัยถ่าย การรับรู้ และการตอบสนอง การเคลอื่ นท่ี การสบื พันธุ์ และ การเจรญิ เติบโต ฮอรโ์ มน การรักษาดลุ ยภาพ และพฤตกิ รรมของสตั ว์ รวมทง้ั นำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ 2. ผลการเรยี นรู้ ม. 6/12 สืบค้นข้อมูล อธิบาย และยกตัวอย่างการสืบพนั ธุ์แบบไม่อาศัยเพศและการสืบพันธุ์แบบอาศัย เพศในสตั ว์ ม. 6/13 สืบคน้ ข้อมลู อธิบายโครงสร้าง และหน้าทข่ี องอวัยวะในระบบสบื พันธุเ์ พศชาย และระบบสบื พนั ธ์ุ เพศหญงิ ม. 6/14 อธบิ ายกระบวนการสรา้ งสเปริ ์ม กระบวนการสรา้ งเซลลไ์ ข่ และการปฎสิ นธขิ องมนษุ ย์ ม. 6/15 อธิบายการเจรญิ เตบิ โตระยะเอ็มบริโอ และระยะหลงั ของเอม็ บรโิ อของกบ ไก่ และมนุษย์ 3. สาระสำคัญ การสืบพันธุ์เป็นลักษณะเฉพาะของส่ิงมีชวี ติ เป็นความสามารถในการให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตใหม่จากสิ่งมีชีวติ เดิมเพ่อื ดำรงพนั ธุไ์ ว้ การสบื พันธ์ุของสตั วม์ แี บบไมอ่ าศัยเพศและแบบอาศัยเพศ การสืบพนั ธแุ์ บบไม่อาศัยเพศ เปน็ การสบื พันธท์ุ ่ีไมม่ ีการรวมของเซลล์สืบพันธ์ุ เช่น การแตกหน่อ การแบ่งแยกตวั และการงอกใหม่ ส่วนการ สืบพันธุแ์ บบอาศยั เพศเปน็ การสบื พนั ธทุ์ ี่มกี ารรวมนิวเคลยี สของเซลล์สบื พนั ธ์ุ ซง่ึ มีทงั้ การปฏิสนธภิ ายนอกและ การปฏิสนธภิ ายใน สัตวบ์ างชนดิ มี 2 เพศในตัวเดยี วกันแตก่ ารผสมพนั ธ์ุสว่ นใหญ่จะผสมข้ามตัว การสืบพันธุ์ของมนุษย์มีกระบวนการสร้างสเปิร์มจากเซลล์สเปอร์มาโทโกเนียมภายในอัณฑะและ กระบวนการสร้างเซลลไ์ ข่จากเซลล์โอโอโกเนียมภายในรังไข่ การปฏิสนธิเกิดขึ้นภายในท่อนำไข่ได้เป็นไซโกต แล้วเจริญเตบิ โตเปน็ เอม็ บรโิ อ ไปฝังตวั ทผี่ นงั มดลกู จนกระท่งั ครบกำหนดคลอด อวยั วะสบื พันธุ์ของเพศชายประกอบดว้ ยอณั ฑะทำหน้าท่ีสรา้ งสเปิรม์ และฮอร์โมนเพศชาย และมโี ครงสร้าง อืน่ ๆ ทที่ ำหน้าทล่ี ำเลยี งสเปิร์ม สรา้ งน้ำเล้ียงอสุจิ และสารหลอ่ ลน่ื ท่อปัสสาวะ โดยอณั ฑะประกอบดว้ ยหลอด สร้างอสุจิที่ภายในมีสเปอรม์ าโทโกเนียมทีเ่ ป็นเซลล์ตั้งต้นของกระบวนการสรา้ งสเปริ ์ม ซึ่งจะมีการแบ่งเซลล์ แบบไมโทซิสได้สเปอร์มาโทโกเนียมจำนวนมาก แล้วมีส่วนหนึ่งพัฒนาเป็นสเปอร์มาโทไซต์ระยะแรก โดยสเปอร์มาโทไซตร์ ะยะแรกจะแบง่ เซลลแ์ บบไมโอซิส I ได้เปน็ สเปอร์มาโทไซตร์ ะยะทส่ี องท่จี ะแบง่ เซลลแ์ บบ ไมโอซสิ II ได้สเปอร์มาทิดตามลำดับ จากนั้นพฒั นาเปน็ สเปิร์ม อวยั วะสบื พันธ์ขุ องเพศหญิงประกอบดว้ ย รังไข่ ทอ่ นำไข่ มดลูก และช่องคลอด รงั ไขท่ ำหน้าท่สี ร้างเซลล์ไข่ และฮอร์โมนเพศหญิง กระบวนการสรา้ งเซลล์ไขเ่ ริม่ จากโอโอโกเนยี มแบง่ เซลลแ์ บบไมโทซสิ และไมโอซสิ I และ จะหยุดอยู่ที่ระยะโพรเฟส I ได้เป็นโอโอไซต์ระยะแรก เมื่อเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์จึงแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส I ต่อ

21 และตามด้วยไมโอซสิ II แลว้ หยดุ ทร่ี ะยะเมทาเฟส II ไดเ้ ป็นโอโอไซตร์ ะยะท่สี อง ซง่ึ จะเกิดการตกไขต่ อ่ ไป เมื่อ ไดร้ บั การกระตนุ้ จากสเปริ ม์ โอโอไซต์ระยะทีส่ องจะแบง่ เซลล์แบบไมโอซิส II ตอ่ จนเสร็จ แลว้ พฒั นาเป็นเซลล์ ไข่ การเจรญิ เติบโตของสตั ว์ เชน่ กบ ไก่ และมนษุ ย์ มีแบบแผนคล้ายกนั เรมิ่ ตน้ ดว้ ยการแบ่งเซลล์ของไซโกต การจัดเรียงตัวของกลุ่มเซลล์ของเอ็มบริโอเป็น 3 ชั้น คือ เอ็กโทเดิร์ม เมโซเดิร์ม และเอนโดเดิร์ม การเกิด อวยั วะ โดยมกี ารเพ่มิ จำนวน ขยายขนาด และการเปล่ยี นสภาพของเซลลพ์ ฒั นาการของอวัยวะตา่ ง ๆ จะทำให้ มีรปู รา่ งและโครงสร้างที่แนน่ อนในสัตว์แต่ละสปีชีส์การเจริญเติบโตของเอม็ บริโอมนุษย์จะมีขั้นตอนคล้ายกับ การเจริญเตบิ โตของสัตว์เล้ยี งลูกด้วยน้ำนมอน่ื ๆ โดยเอม็ บริโอจะฝังตวั ท่ีผนงั มดลูกและมีการแลกเปลี่ยนสาร ระหว่างแม่กับลูกผ่านทางรกและสายสะดือ เมื่อครบกำหนดจะคลอดเป็นทารก โดยสัตว์จะมีการเติบโตของ รา่ งกายจนเป็นตวั เต็มวยั ทีส่ มบรู ณ์และมกี ารเติบโตข้นึ เรื่อย ๆ จนถึงระยะหน่ึงจะชะลอการเติบโต 4. สมรรถนะของผเู้ รยี น 1) ความสามารถในการในการสือ่ สาร 2) ความสามารถในการคิด 3) ความสามารถในการแก้ปญั หา 4) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1) ทักษะกระบวนการทำงานเปน็ กล่มุ 2) ทกั ษะความมงุ่ มัน่ ในการทำงาน 6. ช้ินงาน/ภาระงาน 1) ใบงาน เร่อื ง ระบบสบื พันธ์ขุ องสตั วแ์ ละมนุษย์เพศชาย 2) ใบงาน เรื่อง การสร้างเซลลอ์ สจุ แิ ละระบบสบื พนั ธเุ์ พศหญิง 7. สอื่ การเรยี นร/ู้ แหลง่ เรยี นรู้ 1) สือ่ พาวเวอรพ์ อ้ ย เรอ่ื ง ระบบสืบพนั ธุ์ของสตั ว์และมนุษย์เพศชาย 2) วีดิทศั น์ เรอ่ื ง สัตวส์ ยองยิง่ ฆ่ายิง่ เพิ่มจำนวน 3) สอ่ื พาวเวอรพ์ อ้ ย เรอ่ื ง การสร้างเซลล์อสุจแิ ละระบบสืบพนั ธ์เุ พศหญงิ 4) ส่อื พาวเวอร์พอ้ ย เรอ่ื ง การสร้างเซลล์สบื พนั ธ์ุเพศหญิงและการปฏิสนธิ 5) สอื่ พาวเวอรพ์ อ้ ย เรอ่ื ง การเจริญเติบโตของสัตว์ 6) สือ่ พาวเวอรพ์ อ้ ย เร่อื ง การเจรญิ เตบิ โตของมนษุ ย์

22 8. การประเมินผลการเรียนรู้ วธิ ีการ เครื่องมือ เกณฑ์การผา่ น 1. ประเมนิ ใบงาน/แบบบนั ทึกกิจกรรม แบบประเมนิ ใบงาน/แบบบันทกึ ผา่ นเกณฑ์ระดบั พอใช้ขน้ึ ไป 2. ประเมินทกั ษะการทำงานเปน็ กลุ่ม กจิ กรรม แบบประเมินทกั ษะการทำงานเปน็ กล่มุ ผา่ นเกณฑร์ ะดบั พอใช้ขึ้นไป 3. ประเมนิ ทักษะความมงุ่ ม่นั ในการ แบบประเมินความมุง่ ม่นั ในการทำงาน ผา่ นเกณฑ์ระดับพอใช้ข้ึนไป ทำงาน 4. ประเมนิ การสรุปบทเรียน แบบประเมินการสรปุ บทเรยี น ผ่านเกณฑร์ ะดับพอใช้ข้ึนไป

23 แบบประเมนิ ใบงาน/แบบบนั ทกึ กจิ กรรม ช่อื -สกุล ความถูกต้อง ความเรยี บร้อย ความตรงต่อเวลา รวม ของเนื้อหา ของผลงาน 9 คะแนน 332 121321 เกณฑ์การประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ ดี 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถึง พอใช้ พอใช้ 1 หมายถงึ ปรบั ปรงุ ปรบั ปรุง เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน 9-7 6-4 3-1 ลงช่อื .................................................................ผปู้ ระเมิน (นายเรวตั ร อยเู่ กิด) ........../…......./….......

24 เกณฑก์ ารประเมินใบงาน/แบบบันทกึ กิจกรรม โดยใชเ้ กณฑ์การประเมนิ แบบรูบริคส์ การประเมิน ระดบั คุณภาพ/คะแนน 1. ความถกู ต้องของ เน้อื หา ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1) ตอบคำถามในใบงานได้ 2. ความเรียบร้อยของ อยา่ งถูกต้อง ครบถ้วน ตอบคำถามในใบงานได้ ตอบคำถามในใบงานได้ ผลงาน สมบรู ณ์ อยา่ งถูกตอ้ งเป็นสว่ นมาก อย่างถกู ต้องบางสว่ น แต่ 3. ความตรงตอ่ เวลา มากกวา่ รอ้ ยละ 80 ไม่ครบถว้ น มากกว่ารอ้ ย ทำงานสะอาดเรยี บร้อย มคี วามสวยงาม ละ 50 ทำเสร็จครบถ้วน และสง่ ภายในเวลาท่ี ทำงานสะอาดเรยี บรอ้ ย ทำงานไมส่ ะอาด กำหนด เรียบรอ้ ย ทำเสร็จครบถ้วน แต่ส่ง ทำไมค่ รบถ้วน สง่ ลา่ ช้า ล่าชา้ กว่ากำหนด 1 - 2 กวา่ กำหนดมากกว่า 2 วัน วัน

25 แบบประเมินทกั ษะการทำงานเปน็ กล่มุ ชอ่ื -สกุล บทบาท การมสี ่วน ความ การรับฟงั ผลสำเร็จ รวม หนา้ ท่ี รว่ ม รับผดิ ชอบ ความ ของงาน 15 คะแนน คิดเหน็ 321321321321321 เกณฑ์การประเมิน ระดบั คณุ ภาพ ดี 3 หมายถึง ดี 2 หมายถงึ พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรับปรงุ ปรับปรุง เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน 11 - 15 6 - 10 1-5 ลงชื่อ.................................................................ผูป้ ระเมนิ (นายเรวตั ร อย่เู กดิ ) ........../…......./….......

26 เกณฑ์ประเมินทกั ษะการทำงานเปน็ กลุ่ม โดยใช้เกณฑ์การประเมินแบบรบู รคิ ส์ รายการประเมิน 3 คะแนน พฤติกรรมบง่ ชี้ 1 คะแนน 1. บทบาทหนา้ ท่ี 2 คะแนน ไมม่ กี ารกำหนดบทบาท 2. การมีสว่ นรว่ ม มีการกำหนดบทบาท หนา้ ท่ขี องสมาชกิ หนา้ ท่ีสมาชิกไวช้ ัดเจน มกี ารกำหนดบทบาท สมาชิกกลุม่ สว่ นใหญ่ไม่ 3. ความรบั ผิดชอบ หน้าทส่ี มาชิกไมค่ รบ มสี ว่ นรว่ มในการ สมาชิกกลมุ่ ทุกคนมสี ่วน สมาชกิ กลุ่มส่วนใหญ่มี ปฏิบตั งิ านหรือมนี อ้ ย 4. การรบั ฟงั ความ รว่ มในการปฏบิ ัติงาน ส่วนร่วมในการ สมาชกิ สว่ นใหญไ่ ม่ คิดเหน็ กล่มุ ปฏบิ ตั งิ าน ทำงานตามหนา้ ทที่ ีไ่ ดร้ ับ 5. ผลสำเร็จของงาน สมาชกิ ส่วนใหญท่ ำงาน มอบหมาย หลกี เล่ียง สมาชกิ ทกุ คนทำงาน ตามหน้าท่ีท่ไี ดร้ ับ งาน และงานเสรจ็ ชา้ ตามหนา้ ที่ทไ่ี ดร้ ับ มอบหมาย ไม่หลีกเลยี่ ง กวา่ กำหนด มอบหมาย ไมห่ ลีกเล่ยี ง งาน งานเสร็จทนั ตาม งาน งานเสรจ็ ทนั ตาม กำหนด สมาชกิ สว่ นใหญไ่ มร่ บั ฟัง กำหนด ความคิดเหน็ ของผูอ้ ื่น สมาชกิ สว่ นใหญร่ ับฟัง สมาชกิ ทกุ คนรบั ฟัง ความคิดเหน็ ของผอู้ ืน่ เกดิ จากความร่วมมอื ความคดิ เห็นของผู้อ่นื อย่างมีเหตุผล ของสมาชกิ สว่ นนอ้ ยใน อย่างมีเหตุผล เกิดจากความรว่ มมือ กลมุ่ ของสมาชกิ สว่ นใหญ่ใน เกิดจากความร่วมมือ กล่มุ ของสมาชกิ ทุกคนใน กลุ่ม

แบบประเมนิ ความม่งุ ม่นั ในการทำงาน 27 ชอื่ -สกลุ ความตง้ั ใจและ รู้จักแก้ปัญหาใน การปรับปรุงและ รวม เอาใจใส่ การทำงาน แก้ไขการทำงาน 9 คะแนน 332 121 321 เกณฑก์ ารประเมิน ระดบั คณุ ภาพ ดี 3 หมายถึง ดี 2 หมายถึง พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรบั ปรุง ปรับปรงุ เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน 9-7 6-4 3-1 ลงช่อื .................................................................ผปู้ ระเมนิ (นายเรวัตร อยู่เกิด) ........../…......./….......

28 เกณฑก์ ารประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ด้านความมุ่งมน่ั ในการทำงาน โดยใช้เกณฑ์การประเมนิ แบบรบู รคิ ส์ รายการประเมนิ พฤตกิ รรมบ่งช้ี 1. ความตง้ั ใจและเอา 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน ใจใสต่ อ่ ภาระงานที่ ขณะทำงานที่ไดร้ บั ได้รบั มอบหมาย โดยมี มอบหมาย นักเรียนไม่ ขณะทำงานที่ได้รับ ขณะทำงานท่ีได้รบั พฤติกรรมบง่ ชี้ ดงั น้ี แสดงพฤติกรรมบ่งชีท้ ้งั - เลน่ โทรศัพท์มือถือ 3 พฤติกรรม หรอื แสดง มอบหมาย นกั เรียนแสดง มอบหมาย นกั เรียน ระหวา่ งทำงาน พฤติกรรมบ่งชี้ 1 ใน 3 - นำงานในรายวชิ า พฤติกรรม พฤตกิ รรมบง่ ช้ี 2 ใน 3 แสดงพฤติกรรมบง่ ช้ีทั้ง อ่นื ขึ้นมาทำ - ฟบุ หลบั แก้ปญั หาได้ดว้ ยตัวเอง พฤติกรรม 3 พฤตกิ รรม 2. รู้จกั แก้ปญั หาใน ทัง้ หมด การทำงานเม่ือมี แก้ปัญหาดว้ ยตวั เอง แกป้ ญั หาด้วยตัวเองนอ้ ย อปุ สรรค มคี วามพยายามท่ีจะ 3. การปรบั ปรุงและ ปรบั ปรงุ แก้ไขการทำงาน มากกว่าร้อยละ 80 กว่าร้อยละ 80 ของ แก้ไขการทำงานของ ของตนใหม้ ผี ลงานที่ดี ตนใหด้ ีย่งิ ข้นึ และคณุ ภาพอยู่เสมอ ของงานทงั้ หมด งานทัง้ หมด มคี วามพยายามท่ีจะ มคี วามพยายามท่ีจะ ปรบั ปรงุ แกไ้ ขการทำงาน ปรบั ปรงุ แก้ไขการทำงาน ของตนให้มผี ลงานทด่ี ี ของตนใหม้ ผี ลงานที่ดี และคุณภาพ และคณุ ภาพเป็นบางครง้ั

29 แบบประเมนิ การสรุปบทเรียน ชอ่ื -สกุล การสรุป ความถกู ต้อง ความ ความถูกต้อง รวม ประเดน็ ของเน้อื หา ครบถ้วนของ ของการใช้คำ 12 คะแนน สำคญั 321 เนอ้ื หา และการ 321 สะกดคำ 321 321 เกณฑ์การประเมนิ ระดบั คุณภาพ ดี 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถึง พอใช้ พอใช้ 1 หมายถึง ปรบั ปรงุ ปรบั ปรงุ เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน 9 - 12 8-5 4-1 ลงชอื่ .................................................................ผู้ประเมนิ (นายเรวัตร อยเู่ กิด) ........../…......./….......

30 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 เรอ่ื ง ระบบต่อมไรท้ อ่ และพฤติกรรม รหัสวชิ า ว30255 ชีววทิ ยา 5 กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เวลาเรยี น 400 นาที (8 คาบ) ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 6 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระชีววิทยา ขอ้ ท่ี 4 เข้าใจการย่อยอาหารของสัตว์ และมนุษย์ การหายใจ และการแลกเปลี่ยนแก๊ส การลำเลียงสาร และการ หมนุ เวยี นเลือด ภูมิคุ้มกนั ของร่างกาย การขัยถา่ ย การรับรู้ และการตอบสนอง การเคลอื่ นที่ การสืบพันธุ์ และ การเจรญิ เติบโต ฮอรโ์ มน การรกั ษาดลุ ยภาพ และพฤติกรรมของสตั ว์ รวมทัง้ นำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ 2. ผลการเรยี นรู้ ม. 6/16 สบื คน้ ข้อมลู อธบิ าย และเขยี นแผนผังสรุปหน้าท่ีของฮอร์โมนจากต่อมไร้ท่อและเนื้อเย่ือท่ีสร้าง ฮอร์โมน ม. 6/17 สืบค้นข้อมูล อธิบาย เปรียบเทียบ และยกตัวอย่างพฤติกรรมที่มีมาแต่กำเนิด และพฤติกรรมท่ี เกดิ จากการเรียนร้ขู องสตั ว์ ม. 6/18 สืบค้นข้อมูล อธิบาย และยกตัวอย่างความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมกบั วิวัฒนาการของระบบ ประสาท ม. 6/19 สบื ค้นข้อมูล อธบิ าย และยกตวั อย่างการส่ือสารระหว่างสัตว์ท่ีทำให้สตั ว์แสดงพฤติกรรม 3. สาระสำคัญ ระบบต่อมไร้ทอ่ มีการทำงานร่วมกันกับระบบประสาทเพื่อควบคุมการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ระบบประสาทมีสารสื่อประสาทเป็นตัวกลางในการถ่ายทอดกระแสประสาทไปยังเซลล์เป้าหมายโดยตรง ในขณะท่รี ะบบต่อมไร้ทอ่ จะมฮี อร์โมนซงึ่ ลำเลียงผา่ นระบบหมนุ เวียนเลือดไปยังเซลลเ์ ปา้ หมายซึ่งส่วนใหญ่อยู่ ไกลออกไปและมตี ัวรับทีจ่ ำเพาะต่อฮอรโ์ มน มนุษย์และสตั ว์มกี ระดกู สันหลังมตี ่อมไร้ทอ่ และเนือ้ เยอื่ ทำหนา้ ทผี่ ลิตฮอร์โมน กระจายอย่ใู นตำแหน่งต่าง ๆ ทั่วร่างกาย เช่น ต่อมใต้สมอง ตับอ่อน ต่อมหมวกไต ต่อมไทรอยด์ ต่อมพาราไทรอยด์อวัยวะสืบพันธุ์ ต่อม ไพเนียล เนื้อเยื่อของกระเพาะอาหาร ลำไส้เล็กส่วนดูโอดนิ ัม ไทมัส รก และไตโดยสร้างและหลั่งฮอร์โมนซึ่ง อาจเป็นสารประเภทเพปไทดห์ รือโปรตนี เอมนี หรือสเตอรอยด์ ฮอร์โมนมหี ลายชนิด ทำหน้าที่แตกต่างกันและควบคุมการทำงานของร่างกาย เช่น เมแทบอลิซึมการย่อย อาหาร การควบคุมดุลยภาพของสารในเลือด การสืบพันธุ์ การเจริญเติบโต จึงอาจแบ่งฮอร์โมนออกเป็นกลมุ่ ต่าง ๆ ดังนี้ ฮอร์โมนที่ควบคุมการสร้างและหลั่งฮอร์โมนชนิดอื่น ฮอร์โมนที่ควบคุมและเกี่ยวข้องกับ เมแทบอลิซึม ฮอร์โมนที่ควบคุมการสืบพนั ธแ์ุ ละการเจรญิ เติบโต ฮอร์โมนที่ควบคมุ การรกั ษาดุลยภาพของน้ำ และแรธ่ าตุ และฮอรโ์ มนทท่ี ำหนา้ ท่อี นื่ ๆ นอกจากนี้สัตว์ยังมีฟโี รโมนซึ่งผลติ จากตอ่ มมีท่อของสัตว์ซึ่งส่งผลต่อ สัตวต์ วั อื่นท่ีเปน็ สปีชีสเ์ ดียวกนั การรักษาสมดุลของฮอรโ์ มน เป็นการควบคุมการหล่ังฮอร์โมนของต่อมไร้ท่อ โดยปริมาณของฮอรโ์ มนเอง ระดับสารเคมีอื่น ๆ ในเลือด และระบบประสาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวธิ ีการควบคุมแบบป้อนกลับ ซึ่งมี 2 แบบ คือแบบปอ้ นกลบั ยับยั้ง และแบบป้อนกลบั กระตุ้น

31 พฤติกรรม คือ ปฏกิ ิรยิ าที่สิง่ มชี วี ติ แสดงเพ่อื ตอบสนองต่อสงิ่ เร้าทมี่ ากระต้นุ ทำใหส้ ามารถดำรงชวี ิตอยู่รอด ได้โดยพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมมีผลต่อการแสดงพฤติกรรม การศึกษาพฤติกรรมของสัตว์อาจศึกษาได้ 2 แนวทาง คือ แนวพรอกซิเมตคอส ซึ่งศึกษาในแง่กลไกการแสดงออกของพฤติกรรมและสิ่งเร้าที่ทำให้เกิด พฤติกรรม รวมถึงพัฒนาการของพฤติกรรมที่เกิดขึ้น และการศึกษาพฤติกรรมในแนวอัลทิเมตคอส เป็น การศึกษาผลของพฤติกรรมที่สัตว์แสดงออกต่อการปรับตวั ในสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างกัน ตลอดจนวิวัฒนาการ ของพฤติกรรมนน้ั ๆ เมอ่ื เทยี บกับสตั ว์กลุม่ ท่ีมีความสัมพันธ์ใกลช้ ดิ กัน พฤติกรรมท่ีเปน็ มาแต่กำเนดิ เป็นพฤติกรรมที่แสดงออกมาโดยไม่ต้องได้รับการฝึกฝน สามารถถ่ายทอดได้ ทางพันธุกรรม เช่น ฟิกซ์แอกชันแพทเทิรน์ โอเรียนเทชัน รีเฟล็กซ์และรีเฟล็กซ์ต่อเนื่องพฤติกรรมที่เกดิ จาก การเรยี นรเู้ ปน็ พฤติกรรมที่อาศัยประสบการณ์จงึ จะแสดงพฤตกิ รรมไดอ้ ย่างเหมาะสม แบง่ ได้เปน็ แฮบิชูเอชัน การฝังใจ การเชอ่ื มโยง (การมีเงื่อนไขและการลองผดิ ลองถกู ) และการใช้เหตุผล ระดับการแสดงพฤติกรรมที่สัตว์แต่ละชนิดแสดงออกจะแตกต่างกันซ่ึงมีความสัมพันธ์กับวิวฒั นาการของ ระบบประสาทที่แตกต่างกนั และมนุษย์สามารถแสดงพฤติกรรมการใช้เหตุผลได้ดีที่สุดการส่ือสารในสัตวเ์ ปน็ พฤติกรรมเพื่อสื่อความหมายให้เข้าใจตรงกนั ซึ่งมีหลายวิธี เช่นการสื่อสารด้วยเสียง การสื่อสารด้วยท่าทาง การสอื่ สารดว้ ยการสมั ผสั และการสือ่ สารด้วยสารเคมี(ฟีโรโมน) 4. สมรรถนะของผูเ้ รยี น 1) ความสามารถในการในการส่อื สาร 2) ความสามารถในการคิด 3) ความสามารถในการแก้ปัญหา 4) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1) ทกั ษะกระบวนการทำงานเปน็ กลมุ่ 2) ทกั ษะความมุ่งมน่ั ในการทำงาน 6. ชิน้ งาน/ภาระงาน 1) ใบงาน เรือ่ ง ฮอร์โมน 7. สอื่ การเรยี นรู้/แหลง่ เรียนรู้ 1) สื่อพาวเวอร์พ้อย เรอ่ื ง ฮอร์โมน

32 8. การประเมินผลการเรียนรู้ วธิ ีการ เครื่องมือ เกณฑ์การผา่ น 1. ประเมนิ ใบงาน/แบบบนั ทึกกิจกรรม แบบประเมนิ ใบงาน/แบบบันทกึ ผา่ นเกณฑ์ระดบั พอใช้ขน้ึ ไป 2. ประเมินทกั ษะการทำงานเปน็ กลุ่ม กจิ กรรม แบบประเมินทกั ษะการทำงานเปน็ กล่มุ ผา่ นเกณฑร์ ะดบั พอใช้ขึ้นไป 3. ประเมนิ ทักษะความมงุ่ ม่นั ในการ แบบประเมินความมุง่ ม่นั ในการทำงาน ผา่ นเกณฑ์ระดับพอใช้ข้ึนไป ทำงาน 4. ประเมนิ การสรุปบทเรียน แบบประเมินการสรปุ บทเรยี น ผ่านเกณฑร์ ะดับพอใช้ข้ึนไป


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook